ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 325-328
บทที่ 325 แขกที่ไม่รู้จัก
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม สำหรับประเทศแคนาดาเป็นช่วงฤดูหนาวเหน็บแล้ว
จากนี้เป็นต้นไป กระแสไอเย็นอาร์กติกจะพัดมาจากทางขั้วโลกเหนือ ผ่านบริเวณนูนาวุต บริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เข้าสู่รัฐแลบราดอร์และรัฐควิเบก สุดท้ายจะมาถึงที่รัฐนิวฟันด์แลนด์ พอถึงตอนนั้นจะเป็นเวลาที่หนาวเหน็บทั่วทั้งประเทศแคนาดา
ฤดูใบไม้ร่วงของรัฐนิวฟันด์แลนด์มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างออกไป ตอนเช้าฉินสือโอวตื่นขึ้นมาพร้อมกับวินนี่ เอนกายอยู่ตรงหน้าต่างแล้วมองออกไปด้านนอก ท้องฟ้าไร้ก้อนเมฆ เปล่งประกายสีฟ้าอ่อนระยิบระยับราวกับถูกล้างมาจนสะอาดหมดจด
ลมในฤดูใบไม้ร่วงที่พัดมาค่อนข้างหนาวเย็น ฉินสือโอวตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย เปลี่ยนเสื้อกล้ามเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ออกกำลังกายเพื่อที่จะต้านรับลมหนาวที่พัดมาจากขั้วโลกเหนือ
บนต้นชูการ์เมเปิลสองต้นใหญ่ที่อยู่หน้าทางเข้าวิลล่า ใบไม้ที่เคยเขียวชอุ่มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเล็กน้อย รออีกสักระยะ ใบของต้นเมเปิลก็จะเป็นสีแดงเพลิงจนหมด ตอนนั้นถึงจะเรียกได้ว่าความงดงาม
ฉินสือโอววิ่งแต่เช้าตรู่ ส่วนวินนี่ดูแลหอยทากสีทองสัตว์เลี้ยงของเธอ และทากทะเลสีฟ้าตัวนั้น
หอยทากสีทองและทากทะเลสีฟ้าทั้งสองตัวเข้ากันได้ดีมาก พวกมันต่างเป็นสัตว์ขี้เกียจที่ไม่ชอบขยับ วินนี่เอาฟองน้ำทะเลและแมงกะพรุนสดๆ วางไว้ข้างในเป็นอาหารต่อวันของพวกมัน
ฉินสือโอวให้วิลมาสร้างอาคารเล็กๆ อยู่ด้านข้างวิลล่า เพื่อเป็นที่พักให้กับชาร์ค ซีมอนสเตอร์ เบิร์ดและวินนี่
ฤดูหนาวของเกาะแฟร์เวลเต็มไปด้วยหิมะ ในบางครั้งชาวประมงจึงต้องออกหากินแต่เช้าและกลับตอนดึก ถ้าระหว่างทางเจอหิมะปกคลุมไปหมดจะอันตรายมาก แม้กระทั่งโดนหิมะกั้นทางเอาไว้ทำให้กลับบ้านไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาก็ต้องอาศัยอยู่ที่ฟาร์มปลา
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เชอร์ลี่ย์และคนอื่นๆ ขึ้นรถโรงเรียนไป วินนี่ไปทำงานดูแลนักท่องเที่ยว ส่วนฉินสือโอวดูแลวิล
วิลให้ฉินสือโอวดูแบบดีไซน์ “นี่เป็นอพาร์ทเม้นท์สำหรับพนักงานที่ผมออกแบบไว้ โดยยึดตามมาตรฐานของดาวแต่ละระดับ ทั้งหมดมีสองชั้นสิบหกห้อง สองห้องรับแขก ห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กอย่างละแปดห้อง…”
“วัสดุเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กผสมกับไม้ สไตล์โดยรวมเป็นแบบทันสมัยตามที่คุณต้องการ องค์ประกอบการออกแบบ สี แสง วัสดุมีการลดความซับซ้อนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้สัมผัสของความเรียบง่าย โดยโทนสีหลักคือสีขาวและสีเหลือง”
ตอนที่วิลแนะนำ ฉินสือโอวดูๆ แล้ว พื้นที่ในห้องของอพาร์ทเม้นท์ใหม่กว้างขวาง ชั้นหนึ่งจะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่มีช่องเปิดจนถึงพื้นอยู่มาก ทำให้ดูโปร่งทั้งภายในและภายนอก การออกแบบของผนังรับน้ำหนักโดดเด่นสวยงาม
รายละเอียดมีถึงการใช้สอยภายในห้อง ดีไซน์ไม่ได้เป็นการออกแบบที่ซับซ้อน เน้นฟังก์ชันในการใช้สอยมากขึ้น แบบนี้พอมองแล้วจะรู้สึกได้ถึงความเรียบง่ายสะอาด ง่ายต่อการจัดเก็บ เผื่อวันหลังพวกผู้ชายขี้เกียจเก็บกวาดห้องและทำห้องรกไปหมด
หลังจากที่เจรจาเรื่องราคาแล้ว ฉินสือโอวก็ได้อพาร์ทเม้นท์เล็กๆ อาคารนี้ด้วยราคาสี่แสน ค่อนข้างคุ้มราคา
สถานที่มีขนาดเล็กก็มีข้อได้เปรียบของสถานที่ขนาดเล็ก ราคาของอาคารถึงแม้ว่าจะพูดไม่ได้ว่าถูกมาก แต่ก็ถือว่าค่อนข้างถูกแล้ว คอนโดอย่างนี้ที่มีเนื้อที่แปดร้อยกว่าตารางใช้แค่สี่แสนดอลลาร์แคนาดา ถ้าอยู่ในพื้นที่เจริญกว่านี้ราคาแบบนี้ไม่น่าเชื่อเลย
เมื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อยและจ่ายเงินก้อนแรกไป ทีมงานของวิลก็เริ่มงาน การถมที่ก็ใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงที่ใช้กับท่าเรือเสาเข็มสูงทั้งหมด
เมื่อเทียบกับการก่อสร้างแบบดั้งเดิม ของพวกนี้ใช้ง่ายและสะดวกกว่ามาก เครื่องตอกเสาเข็มถูกขับเข้ามา เสียงดัง ‘หึ่ง หึ่ง หึ่ง’ ใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการตอกเสาปูนลงไป หลังจากนั้นพื้นที่ตรงนั้นก็พร้อมสำหรับเตรียมงานต่อ
อาศัยจังหวะที่ท้องฟ้าแจ่มใส ฉินสือโอวขับเรือหัวกว้างวนในทะเลไปหนึ่งรอบ เพราะหลังจากนี้ถ้าอากาศหนาวเย็นแล้ว ก็จะไม่สามารถออกมาเที่ยวทะเลที่แสนสบายแบบนี้ได้อีก
เมื่อจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่ในทะเล ฉินสือโอวตกใจนึกขึ้นได้ว่าเกือบลืมเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งไปสนิท ปลาทูน่าครีบเหลืองตัวเมียตัวนั้นที่ถูกต้าหวงจับมาได้เริ่มวางไข่แล้ว!
ที่รู้เรื่องนี้เพราะปลากินเนื้อจำนวนหนึ่งอยู่ดีๆ ก็รวมตัวอย่างหนาแน่นในดงสาหร่ายสีน้ำตาลสักจุดหนึ่ง ฉินสือโอวมองดูอย่างสงสัย เห็นว่าต้าหวงคอยปกป้องอยู่ข้างๆ ปลาตัวเมียอย่างกระวนกระวาย และบริเวณท้องที่บวมของปลาตัวเมียก็ขยับเล็กน้อย เป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่จะวางไข่
ความสามารถในการสืบพันธุ์ของปลาทูน่าครีบเหลืองมีสูงมาก ทุกปีช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน เป็นจุดสูงสุดของฤดูวางไข่ของพวกมัน แต่เป็นแค่การวางไข่ของกลุ่มปลาทูน่าครีบเหลือง ส่วนปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวเมียเวลาในการวางไข่จะไม่แน่นอน สามารถเกิดขึ้นในช่วงใดก็ได้ในปีหนึ่งหนึ่ง ซึ่งส่วนมากจะพบในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง
ทุกครั้งที่วางไข่ ปลาทูน่าครีบเหลืองตัวเมียจะปล่อยไข่ออกมานับล้านให้ลอยอยู่รอบๆ ในน้ำทะเล ส่วนปลาตัวผู้จะปล่อยสเปิร์มออกมาเพื่อผสมพันธุ์ และต้องเข้ากันได้ทั้งสองฝ่ายถึงจะเป็นไข่ที่ผสมพันธุ์ได้สำเร็จ
ฉินสือโอวนำพลังของโพไซดอนแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของปลาทูน่าครีบเหลืองสองตัวตลอดเวลา ตัวหนึ่งวางไข่ ตัวหนึ่งปล่อยสเปิร์ม ให้งูเหลือมทะเลกวาดเรียบรอบน่านน้ำให้สะอาด เพื่อปกป้องพวกปลาเล็กให้ปลอดภัยอย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่าปลาทูน่าครีบเหลืองครั้งหนึ่งจะสามารถปล่อยไข่นับล้านและยังสามารถวางไข่ได้ตลอด แต่ปริมาณของไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์สำเร็จกลับไม่ได้มีมาก แล้วสุดท้ายจำนวนที่เติบโตกลายไปเป็นปลาตัวน้อยก็ยิ่งลดน้อยลงไปอีก
สิ่งที่ฉินสือโอวต้องทำก็คือรับประกันอัตราในการอยู่รอดของไข่ที่ผสมพันธุ์สำเร็จพวกนี้ให้ได้มากที่สุด ตราบใดที่การเลี้ยงดูนี้สำเร็จ ฟาร์มปลาของเขาก็สามารถกลายเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงของปลาทูน่าครีบเหลืองได้
การค้นพบปลาทูน่าในฟาร์มปลาในรัฐนิวฟันด์แลนด์ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าพื้นที่ด้านข้างคืออ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ที่มีชื่อเสียงเรื่องอุดมไปด้วยปลาทูน่ามากมาย ฝูงปลาทูน่าแค่ว่ายข้ามผ่านช่องแคบคาบ็อต ก็จะเข้าสู่ฟาร์มปลารัฐนิวฟันด์แลนด์แล้ว
นี่คือสาเหตุที่ฉินสือโอวนำปลาทูน่าครีบน้ำเงินจำนวนมากเข้ามาในฟาร์มปลา ไม่มีใครสงสัยว่าฟาร์มปลารัฐนิวฟันด์แลนด์จะเป็นแหล่งกำเนิดปลาทูน่า เพราะว่าในประวัติศาสตร์ ที่นี่เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยปลาทูน่าอยู่แล้ว
ด้วยพลังโพไซดอนที่คอยช่วยเหลือ ปลาตัวเมียนี้วางไข่สองครั้งในหนึ่งวัน ฉินสือโอวไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ดูแลโดยการนำไข่ไปไว้ในบริเวณที่จัดเอาไว้เพื่อให้เจริญเติบโตโดยเฉพาะ และยังจัดเตรียมผู้คุ้มกันเป็นพิเศษสำหรับบริเวณนี้ ฝูงงูเหลือมทะเลที่แข็งแกร่ง
ตอนดึกฉินสือโอวรอให้เด็กๆ เข้านอนเรียบร้อย กะพริบตาให้วินนี่ กอดเธอแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน
หลังจากจูบอย่างร้อนแรง ฉินสือโอวเอนกายลงบนเตียงเลื่อนมือของเขาไต่ไปตามร่างกายผอมเพรียวของวินนี่ วินนี่เสียงหอบ อูว “พวกเราจะเพิ่มความหนาของผนังห้องนอนขึ้นมาอีกใช่ไหมคะ? ฉันคิดว่าคุณภาพในการเก็บเสียงค่อนข้างแย่นะ”
ฉินสือโอวร้อนรนจะจัดอาวุธของเขาเข้าไป บอกว่า “เป็นไปไม่ได้ มันเป็นผนังที่ทำจากไม้หมด กันเสียงได้ดีมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราทำอะไรในนี้ คนข้างนอกไม่ได้ยินแน่นอน”
วินนี่เถียงกับเขาบอกว่าไม่ได้ ฉินสือโอวจึงยิ้มเจ้าเล่ห์ บอกว่าเดี๋ยวให้เธอร้องเบาๆ หน่อย
ตั้งแต่เข้านอนยันเที่ยงคืน ท้ายสุดวินนี่ก็หมดแรงและไม่สนใจฉินสือโอวอีก เธอเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน กอดเขาหลับตาแล้วก็หลับไป
ฉินสือโอวแหย่วินนี่สักพักเห็นว่าเธอไม่อยากเล่นต่ออีกเลยรู้สึกไม่สนุกขึ้นมา จึงนำจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปไว้ในฟาร์มปลา คิดจะไปดูการสืบพันธุ์ของปลาทูน่าครีบน้ำเงินสักหน่อย
พอนำจิตสำนึกโพไซดอนไปที่น้ำทะเล เขาก็รับรู้ได้ถึงความกังวลของบอลหิมะและไอซ์สเกตเป็นสิ่งแรก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงอยากจะเข้าไปปลอบสักหน่อย แต่หลังจากที่บอลหิมะและไอซ์สเกตรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน กลับรีบว่ายไปตรงหาดฟาร์มปลาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากำลังไล่จับอะไรอยู่
ฉินสือโอวรีบตามไปอย่างงงๆ ไม่นานเขาก็รู้ว่าบอลหิมะและไอซ์สเกตกำลังไล่ตามอะไรอยู่ มีเรือลำเล็กลำหนึ่งอยู่ในทะเล
มาขโมยปลาเหรอ? ฉินสือโอวงงงวย มิน่าอารมณ์ของบอลหิมะและไอซ์สเกตถึงได้ผิดปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเรือขับเข้ามาในบริเวณฟาร์มปลาที่น่านน้ำนอกชายฝั่งของเขาตอนกลางคืน ปรากฏตัวในยามค่ำคืนที่ฟาร์มปลาก็คงเป็นเรือที่ขโมยปลาสินะ?
แต่จากที่ดูเงาของเรือลำนี้ ความยาวของเรือประมาณเจ็ดถึงแปดเมตร คล้ายกับเรือตกปลาทูน่า ไม่เหมือนกับเรือประมงใหญ่พวกนั้นที่มีความยาว 20-30 เมตรอย่างที่เขาเคยรู้จัก
แต่ถ้าจะบอกว่าคนพวกนี้มาขโมยตกปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินก็พูดได้ยาก เพราะข่าวที่ฟาร์มปลาของเขามีปลาทูน่าครีบน้ำเงินยังไม่ได้แพร่ออกไป อีกอย่างเรือลำนี้ก็ขับใกล้ฝั่งมาก มองจากสายตาแล้วเหมือนกับจะชนชายหาดอยู่แล้ว ดังนั้นสถานที่ที่ตื้นขนาดนี้โดยธรรมชาติก็ไม่มีปลาทูน่าครีบน้ำเงินอยู่แล้ว
นอกจากนี้แล้ว ถึงตอนนี้เสียงมอเตอร์ของเรือลำนี้ยังคงเบามาก ฉินสือโอวไปส่องมาแล้ว เครื่องยนต์ติดท้ายเรือสองอันก็ไม่ได้สตาร์ทติดอยู่ เรือลำนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ในตัวที่ใช้พลังต่ำ
เมื่อเห็นเครื่องยนต์ติดท้ายเรือจำนวนสองเครื่องชัดเจน ฉินสือโอวก็รู้ได้ว่าเรือลำนี้เป็นเรือเร็ว แล้วการที่เรือเร็วเข้ามาแบบเงียบๆ ในฟาร์มปลาเขาตอนเที่ยงคืน ท่าทางระแวดระวัง คงไม่ได้มาดีแน่นอน
ฉินสือโอวระมัดระวังตัวขึ้นมา ตอนแรกเขานึกว่าจะวนรอบดูว่ามีใครบนเรือบ้าง แต่สุดท้ายเขามองไม่เห็นว่าเรืออยู่ตรงไหนจากมุมในน้ำทะเล อีกอย่างเรือเร็วขับเข้าใกล้ชายฝั่งมากขึ้น จิตสำนึกแห่งโพไซดอนจึงไม่สามารถตรวจสอบได้
ถอนจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับคืน ฉินสือโอวผลักวินนี่ วินนี่จึงพึมพำเบาๆ ว่า “ที่รัก อย่าเล่นได้ไหม นอนเถอะนะ?”
ฉินสือโอวคิดดูแล้วก็ไม่อยากรบกวนวินนี่
ด้วยเหตุนี้เขาจึงสวมใส่เสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง ล้วงมือถือออกมาโทรหาเบิร์ด นีลเซ็น ชาร์คและซีมอนสเตอร์ทีละคน และยังโทรหาสถานีตำรวจในเมืองด้วย หลังจากนั้นก็หยิบปืน AR-15 ที่แขวนอยู่บนผนังแล้วเดินลงจากตึกไป
หู่จือ เป้าจือและฉงต้ากำลังนอนหลับอยู่หน้าประตู ถึงแม้ว่าอากาศจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ภายในห้องยังนับว่าร้อน พวกมันทุกตัวจึงชอบนอนอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้านมากกว่า
ได้ยินเสียงฝีเท้าของฉินสือโอว หู่จือตื่นตัวเงยหัวขึ้นมามอง พอเห็นว่าเป็นเจ้านาย จึงเลียปากมันแล้วตามไปด้วยกัน
หาดที่เรือเร็วไปถึงห่างจากวิลล่าไประยะหนึ่ง ฉินสือโอวยังมีเวลาที่จะตอบโต้
ฉินสือโอวเรียกฉงต้าให้ตื่นรวมถึงพาหู่จือและเป้าจือไปด้วย เขาส่งสัญญาณบอกพวกมันให้เงียบและขึ้นไปบนตึกเพื่อลากอีวิลสันลงมา
อีวิลสันกำลังหลับเคลิ้ม แต่พอฉินสือโอวส่งปืนเรมิงตันให้ เขาก็ตื่นทันทีก่อนจะเดินตามหลังฉินสือโอวไปเงียบๆ แต่ดวงตาของเขาเปล่งประกายคมกริบ
หลังจากรอให้ฉินสือโอวเรียกอีวิลสันมา เบิร์ดที่รับสายก็รีบตามมา คืนนี้พอดีว่าเขาอยู่กะกลางคืนเพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาขโมยปลาหรือล่าสัตว์ เขา นีลเซ็น ชาร์คและซีมอนสเตอร์จึงสลับเวรกันเฝ้า
“บอสครับ มีเรื่องอะไรเหรอ?” เบิร์ดถามขึ้น เห็นในมือของฉินสือโอวและอีวิลสันต่างถือปืนอยู่จึงเป็นกังวล
ฉินสือโอวกระซิบบอก “อย่างนี้นะ หู่จือและเป้าจือพบว่ามีเรือเร็วลำหนึ่งอยู่ใกล้กับหาดฝั่งตะวันตก พวกมันกลับมารายงานฉัน ฉันคิดว่าคนที่มาไม่ได้มีเจตนาดี ดังนั้นจึงเรียกพวกนายมา ระวังตัวด้วย”
เบิร์ดรับปืน AR-15 มาจากฉินสือโอวแล้วพูดเสียงต่ำ “พวกคุณรออยู่ตรงนี้ก่อน ผมจะพาหู่จือไปดูสถานการณ์”
พอจะออกไป ทันใดนั้นหูของหู่จือและเป้าจือก็ตั้งขึ้นมา แล้วรีบวิ่งตามเสียงที่ได้ยินไป ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง ส่งเสียงร้องครวญคราง วงล้อมฉินสือโอวไว้ ดูแล้วเจ็บปวดไม่น้อย
พอเห็นฉากนี้ เบิร์ดก็ดึงไกปืน AR-15 พูดเสียงเคร่งขรึม “เครื่องไล่สุนัขแบบอัลตร้าโซนิค พวกมันจะต้องใช้อุปกรณ์นี้แน่นอน! บอส คนที่มาไม่ใช่ขโมยธรรมดาแล้ว ไปหลบในห้องก่อน เรียกตำรวจ เร็วเข้า!”
……………………………………….
บทที่ 326 ต่อสู้ในถิ่นตัวเอง
โดย
Ink Stone_Fantasy
แคนาดาเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยแหล่งพลังงาน ไฟฟ้าพลังน้ำมักจะอยู่ในภาวะล้นตลาด ดังนั้นการใช้พลังงานฟุ่มเฟือยในประเทศนี้จึงเป็นเรื่องที่หนักหน่วงมาก สถานที่ส่วนมากจึงเปิดไฟค้างไว้ตลอด
ฟาร์มปลาของฉินสือโอวในยามค่ำคืนก็มีหลอดไฟที่เปิดไว้ตลอดเช่นกัน ส่วนบนสุดของวิลล่ามีหลอดทังสเตนที่มีกำลังสูงอยู่สองดวงโดยหันไปคนละทางตามท่าเรือทั้งสองที่ นอกจากนี้ รอบด้านวิลล่าก็มีแขวนไฟดวงเล็กๆ ไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งไฟเหล่านี้พอตกเย็นจะสว่างจ้าทุกดวง
เดิมทีฉินสือโอวคิดจะปิดไฟพวกนี้ให้หมด แต่เบิร์ดไม่ให้เขายุ่ง ให้เขาพาหู่จือและเป้าจือขึ้นตึกไป หลังจากเขาเช็กกระสุนแล้วก็ล็อกประตู พิงอยู่ข้างหน้าต่างบานหนึ่ง
“สถานการณ์ย่ำแย่มากเหรอ?” ฉินสือโอวใจเต้นแรง
เบิร์ดอธิบาย “ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ฝ่ายตรงข้ามเราไม่ธรรมดา เครื่องไล่สุนัขแบบอัลตร้าโซนิคปกติจัดการได้ไม่ยากหรอก แต่พวกนั้นเป็นแบบพลังงานต่ำทั้งนั้น สามารถทำให้พวกสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขตกใจกลัวได้ ตามความเห็นผมหู่จือและเป้าจือยังดูเก่งกาจกว่าสุนัขทหารที่ดีที่สุดด้วยซ้ำ แต่พวกมันกลับทนคลื่นอัลตร้าโซนิคชนิดนี้ไม่ได้ เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องใช้เครื่องไล่สุนัขแบบอัลตร้าโซนิคแบบพลังงานสูงซึ่งห้ามขายกันในท้องตลาด”
อีกฝ่ายไม่ได้ใช้เครื่องไล่สุนัขด้วยอัลตร้าโซนิคตลอดเวลา หรือไม่หู่จือกับเป้าจือก็มีความสามารถในการต้านรับมาก พอผ่านไปสักพัก ทั้งสองตัวสะบัดหน้าไปมาแล้วก็กลับมาเป็นอย่างเดิม ต่างแยกเขี้ยวทั้งคู่เพราะเหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำให้พวกมันโกรธจัด
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที กลุ่มคนสองกลุ่มรวมเป็นห้าหกคนเดินออกมาจากความมืด มุมที่เขาเลือกเดินแถวก็เหมาะเจาะ เป็นบริเวณที่ไฟทังสเตนทั้งสองดวงส่องไม่ถึงพอดี มีแค่ตอนที่ใกล้เข้ามาที่วิลล่า ที่แสงของหลอดไฟทังสเตนส่องถึง อย่างไรก็ต้องส่องเห็นพวกเขา
ฉินสือโอวประเมินคนที่เดินผ่าน เห็นเสื้อผ้าของคนพวกนี้ได้ชัดเจน ทุกคนใส่ชุดต่อสู้สีดำและรองเท้าหนังแบบสูง มีหน้ากากสีดำคลุมหน้า ใส่ถุงมือสีดำ ราวกับเป็นวิญญาณแต่ละดวงที่ลอยล่องออกมาในยามค่ำคืน
คนพวกนี้แบ่งเป็นสองกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสามคน หัวหน้าทั้งสองคนมีปืนไรเฟิลอยู่ในมือ ส่วนคนอื่นมือเปล่า มีร่องรอยของซองปืนและฝักดาบอยู่ตรงเอว
ตอนเดินขบวน ท่าขบวนฉับไวและสอดคล้องกันเป็นอย่างดี เพียงแค่เห็นยุทธวิถีตำแหน่งการเดินของพวกเขาก็รู้ได้ว่าเคยอยู่ในสนามต่อสู้มาก่อน
พอเห็นชัดว่าคนที่มาคือใคร ฉินสือโอวก็พยายามคิดหาทางสุดวิธีว่าจะรับมือกับพวกเขาอย่างไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนพวกนี้ไม่ได้มาในฐานะแขกที่เป็นมิตร ทั้งคลุมหน้าทั้งถือปืน ถ้าไม่ได้มาขโมยของในบ้านก็ต้องมาลักพาตัวเขา ไม่มีความเป็นไปได้อื่นแล้ว!
เบิร์ดให้เขาขึ้นตึกไปโทรเรียกตำรวจ และเตรียมจะยิงปืนขู่ไปพลางเพื่อถ่วงเวลา พยายามจนกว่าการช่วยเหลือจากตำรวจจะมาถึง
เบิร์ดพูดสิ่งที่คิดออกมา “คนพวกนี้ไม่รู้ว่าเรามีแผนการ ดังนั้นพวกเราสามารถล่อศัตรูให้มาติดกับก่อน พอพวกมันติดกับ ทางตำรวจเทศบาลเมืองใช้เวลามากสุดห้านาทีก็มาถึง ถัดมาห้านาทีหลังจากนั้นพวกเราก็ร่วมมือกันแล้วจับพวกมันไว้!”
“ไม่ ไล่พวกมันออกไป”
ฉินสือโอวกลับมีความคิดที่แตกต่าง คนพวกนี้ดูก็รู้ว่ารับมือด้วยยาก เขาไม่ได้กลัว แต่ที่วิลล่านี้มีแต่คนคอยรั้งเขาทำให้เขาแสดงความสามารถไม่ได้เต็มที่ ถ้าไปอยู่ในถิ่นของเขา อย่าว่าแต่หกคนเลย ต่อให้หกร้อยคนเขาก็จัดการได้อย่างง่ายดาย!
แล้วถิ่นของเขาคือที่ไหนกันล่ะ?
ทะเลไง!
ต้องไล่คนพวกนี้ลงทะเล ขอแค่พวกมันลงไปในทะเล จะฆ่าจะหั่นยังไงก็ขึ้นอยู่กับเขา!
เบิร์ดรู้สึกประหลาดใจก่อนอธิบายเพิ่มอีก “ผมแนะนำว่าทางที่ดีคือจับพวกมันไว้ เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้ความสามารถและแผนการของพวกมัน ถ้าแค่ทำให้พวกมันตกใจแล้วหนีไป รอบหน้าพวกมันมาใหม่ พวกเราจะเสียเปรียบมากนะครับ”
กล่าวโดยสรุปคือในมุมมองของเบิร์ด พละกำลังคนของเรามีขีดจำกัด ถ้ายิ่งเป็นฝ่ายถูกต้อนคงรับมือไม่ไหว ถ้าไม่เอาคนพวกนี้มาจับมัดรวมกัน เห็นทีภายหลังฟาร์มปลาจะวุ่นวายไม่สิ้นสุด
ฉินสือโอวมั่นใจว่าพวกมันหนีไม่รอดจึงส่ายหน้า “ทำให้พวกมันตกใจและหนีไป ตอนนี้พวกเราคนไม่พอ ความปลอดภัยต้องมาก่อน”
ในเมื่อเจ้านายยืนยัน เบิร์ดในฐานะลูกน้องก็ได้แต่ทำตามแผน
ยื่นมือออกไปดึงสายเปิดไฟที่ห้องรับแขก ทันใดนั้นวิลล่าทั้งหลังก็สว่างโร่
จากนั้นเบิร์ดก็เล็งไปยังคนชุดดำที่ถือปืนไรเฟิลที่อยู่หน้าสุดแล้วยิงออกไปสามช็อตอย่างแม่นยำที่ขาของอีกฝ่าย ทำให้เขาล้มลงพร้อมเลือดพุ่งกระจาย! หลังจากยิงได้รับบาดเจ็บไปหนึ่งคน เบิร์ดรีบหันกระบอกปืนไปอีกทางทันที แล้วเล็งไปหนุ่มร่างใหญ่อีกคนที่ถือปืนอยู่
ส่วนอีกฝั่งภายใต้คำสั่งของฉินสือโอว อีวิลสันเปิดหน้าต่างยื่นเรมิงตันออกไป ‘ปังปังปัง’ ดึงไกปืนอย่างต่อเนื่อง สาดกระสุนออกไปไม่หยุด ปากกระบอกปืนเกิดประกายไฟ ทรงอำนาจน่าเกรงกลัว!
หู่จือและเป้าจือส่งเสียงคำรามแล้วพุ่งออกจากหน้าต่างสองบานอื่น แต่ไม่ได้พุ่งเข้าไปกัดคนอย่างโง่เง่า พวกมันกลับหลบซ่อนอยู่ในเงามืดของวิลล่าแผดเสียงคำราม
ฉงต้าถูกฉินสือโอวเตะก้นไปหนึ่งที จึงยืดคอขึ้นส่งเสียงคำรามขึ้นมา
ในพริบตา วิลล่าก็วุ่นวายไปหมด ทั้งบนตึกข้างล่างตึก ไฟทุกดวงสว่างในทันที ด้านนอกสุนัขเห่าหอนหมีก็คำราม ประกอบกับเสียงปืนไรเฟิลและปืนลูกซองสั่นสนั่น เหมือนกำลังทำสงคราม
ฉินสือโอวรีบรุดไปชั้นสอง พาเด็กสี่คนไปหลบที่ห้องนอนใหญ่ วินนี่ที่ยังคงสวมชุดนอนสายเดี่ยวมึนงง “เกิดอะไรขึ้น พระเจ้า?!”
“ไม่ต้องห่วง ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร พาเด็กๆ หลบซ่อนตรงนี้ให้ดีนะ” ฉินสือโอวผลักเชอร์ลี่ย์ให้วินนี่แล้วรีบวิ่งลงตึกไป
พอเขาไป วินนี่รีบปิดไฟในห้องนอน เธอรู้แน่ชัดว่าถ้าด้านนอกมีสงครามปืนกันอยู่ ห้องที่เปิดไฟก็เท่ากับตกเป็นเป้า
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มผู้บุกรุกไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ขึ้น พวกนั้นมีการเตรียมพร้อมเผื่อถูกพบเข้าและเตรียมพร้อมที่จะโจมตี แต่ไม่ได้เตรียมว่าเป้าหมายจะมีสุนัขและหมี นอกจากนี้แล้วยังคาดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีมือปืนที่แม่นยำขนาดนี้ด้วย แค่เผชิญหน้าก็ล้มมือปืนที่เก่งกาจไปสองคนแล้ว
แสงไฟส่องสว่าง ฉินสือโอวถือปืนลูกซองเบเนลลี่เอ็ม1วิ่งลงมา ปืนสามกระบอกยิงพร้อมกันในวิลล่านี้ เพียงครู่เดียวพลังยิงอันทรงพลังก็ทำให้คนเหล่านั้นหลาดกลัว
นอกจากนี้บนถนนที่ห่างไกลจากฟาร์มปลา รถปิคอัพหลายคันวิ่งมาด้วยความเร็วสูง สามารถมองเห็นไฟหน้ารถได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องสงสัยเลย กำลังเสริมมาแล้ว
พอเจอการซุ่มโจมตีแบบนี้ กลุ่มผู้บุกรุกไม่สามารถดำเนินตามแผนเดิมได้ จึงทำได้เพียงพาคนที่ได้รับบาดเจ็บสองคนหนีไป
เบิร์ดทำตามคำสั่งของฉินสือโอว แค่ขับไล่ไม่ไล่ฆ่า เขาเปลี่ยนกระสุนไปสองแม็กกาซีนต่อเนื่อง เสียงปืนที่ดังชัดของ AR-15 ยังแผดเสียงไม่หยุด ลูกกระสุนถูกยิงออกไปบนพื้นทรายที่ห่างไกล ทรายสาดกระเซ็นราวกับเป็นทุ่งดอกไม้
นิมิตส์ที่มุดอยู่ในบ้านต้นไม้ของมันเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง มันเอียงคอคิดสักพัก ก็กระพือปีกแรงโบยบินขึ้นไป
ไกลออกไป กลุ่มหกคนที่หลบหนีอย่างสุดชีวิตมีคนร้องเสียงโหยหวนออกมาอย่างทรมาน
ครึ่งนาทีผ่านไป นิมิตส์บินกลับมาอย่างภาคภูมิใจ กรงเล็บของมันมีโม่งดำอยู่หนึ่งใบ บนนั้นมีเลือดสดไหลย้อย เห็นได้ชัดว่าเจ้าของโม่งดำคงรู้สึกไม่ดีเท่าไร
ฉินสือโอวไม่ได้สั่งให้ไล่ตาม หลังจากที่ขู่จนหกคนนั้นวิ่งหนีไป เขาให้วินนี่สวมชุดให้เด็กๆ เรียบร้อยและพาลงตึกมา
คนในวิลล่าไม่มีใครไล่ตามออกมา ผู้บุกรุกทั้งหกจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก คนที่ซวยโดนเบิร์ดยิงใส่ที่ขาตั้งแต่ตอนแรกสบถด่า “บ้าเอ๊ยๆ ใครบอกว่าไอ้สัตว์นี่มันเป็นพวกผิวเหลืองขี้ขลาดกัน? พวกมันมีปืน พวกมันทำไมถึงยิงได้แม่นขนาดนี้!”
มีคนหัวเสียบ่น “หุบปาก อังเดร ตอนนี้ที่สำคัญเลยคือสลายตัวก่อน! แม่ง พวกเราถูกจับได้ยังไง?”
“ต้องเป็นเพราะหมาของพวกมันแน่!”
“เป็นไปไม่ได้ เครื่องขับไล่สุนัขของพวกเราเป็นของที่ใช้ในกลุ่มทหารรัสเซีย ต่อให้เป็นหมาทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี พอเจอคลื่นอัลตร้าโซนิคโจมตีแบบนี้ก็ต้องรีบหนีอย่างเจ็บปวด!”
“ไอ้เลว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเพราะเครื่องไล่สุนัขนี่มีปัญหา! ปวดมาก ใครก็ได้ช่วยดูที่หน้าฉันที ไอ้นกสมควรตายนั่นขยุ้มหูของฉันจนเป็นแผล!”
“อ๊าก!!!”
เสียงร้องคราง อีกห้าคนที่เหลือรีบหันไปมองเพื่อนที่อยู่ด้านซ้ายมือสุด คนนั้นทำหน้าเจื่อน “บ้าเอ๊ย ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ที่นี่มีกวางอูฐอยู่หนึ่งตัว ฉันตกใจหมด…”
ปอหลัวชินกับการนอนบนพื้นทรายในตอนค่ำคืน ตอนนี้มันมองไปด้วยตากลมโตใสไปที่กลุ่มคนลึกลับเหล่านี้ แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ไม่เสียเวลากับกวางอูฐที่ดูงี่เง่าตัวหนึ่ง หลังจากถุยน้ำลายก็ปีนขึ้นเรือเร็วไปทีละคน
“แม่ง เจอผีชัดๆ เดี๋ยวก็หมา เดี๋ยวก็หมี เดี๋ยวก็นก เดี๋ยวก็กวางอูฐ แม่งนี่มันฟาร์มปลาหรือสวนสัตว์เนี่ย?” ผู้โชคร้ายที่โดนกรงเล็บขยุ้มที่หูเอามือป้องหูที่เลือดไหลไม่หยุดพร้อมสบถด่าขึ้นมา
“ไม่ต้องพูดมากละโครินธ์ รีบขึ้นเรือแล้วเผ่นเถอะ…”
“อ๊าก!!” เสียงร้องครางดังขึ้นอีก
คนห้าคนที่ปีนขึ้นเรือเร็วไปแล้วหันกลับมาด้วยความโมโห เมื่อเห็นว่าสหายคนที่อยู่ปลายแถวทรุดลงไปกองอยู่บนพื้น กวางอูฐตัวน้อยสะบัดหน้าไปมาอย่างมีความสุข แยกกีบเท้าออกจากกันแล้วมุดลงไปในน้ำทะเลด้านข้าง ทำให้มือปืนคิดจะเล็งแต่กลับหาเป้าไม่เจอ
แม้แต่หน้าคนที่เป็นเป้าหมายยังไม่ได้เห็นด้วยซ้ำ คนทั้งกลุ่มก็จบด้วยการบาดเจ็บไปกว่าครึ่ง ทั้งหกคนพอขึ้นเรือเร็วก็ถอดโม่งดำทิ้ง นั่งหน้าแข็งกระด้างด้วยความโกรธในมุมมุมหนึ่ง จะระบายความโกรธยังไม่รู้จะไปลงที่ไหน
บนเรือเร็วยังมีอีกสองคน เดิมทีพวกเขารับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นดูแลรักษาทางด้านการแพทย์
พวกเขาเริ่มจากห้ามเลือดคนที่โดนยิงสองคนก่อนโดยด่วน ต่อด้วยพันแผลผู้โชคร้ายที่โดน เชสเตอร์ วิลเลี่ยม นิมิตส์ขยุ้มที่หูและแก้ม ที่จัดการยากหน่อยก็คือหนุ่มที่ถูกปอหลัวตัดเท้า
ปอหลัวเป็นพวกอารมณ์ร้าย สำหรับคนแปลกหน้าที่มาแหย็มกับมัน มันจะกลายเป็นจอบบ้าอำนาจที่ดุร้าย คนสุดท้ายที่ขึ้นเรือไป เท้าของเขาถูกตัดขาดแล้ว!
“เกิดอะไรขึ้น?” คนที่เป็นฝ่ายสนับสนุนสุดท้ายทนไม่ไหวจึงถามขึ้นมา “แค่ลักพาตัวคนผิวเหลืองไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกนายถึงโดนทำร้ายมากันขนาดนี้?”
หนึ่งในหกที่ยังคงอยู่ดีนั้นเป็นชายร่างใหญ่เขาขว้างหมัดไปที่ด้านข้างของเรือเร็วอย่างเกลียดชังและพูดด้วยความโกรธ “ไม่รู้ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน ไอ้สารเลวพวกนั้นมันเห็นเราก่อน พวกเราเลยได้แต่ถอยหนี”
“อะไรกัน? พวกนายทำภารกิจครั้งแรกหรือยังไง? ต่อให้พวกมันรู้ตัวก่อน ถ้าอย่างนั้นก็บุกเข้าไปจับมัดพวกมันก็ได้นี่ พวกนายไม่รู้เหรอว่าไอ้หนุ่มนั่นเป็นเศรษฐีที่มีราคาค่าตัวหลายสิบล้าน! แค่ทำภารกิจนี้สำเร็จ พวกเราก็กลับไปกินอยู่สุขสบายไปทั้งชาติแล้ว!”
“หุบปากเน่าๆ ของแกไปเลย! คิดว่าพวกฉันไม่รู้เหรอ ในวิลล่านั้นไม่ได้มีแค่คนผิวเหลืองกับพวกผู้หญิงและเด็กนะ ยังมีมือปืนที่แม่นมากและชายร่างมหึมาด้วย!”
“พอเถอะ ไม่ต้องทะเลาะกัน ครั้งนี้พวกเราประเมินศัตรูต่ำเกินไป แต่พวกเราก็โชคดีไม่น้อยที่เจอกับไอ้ขี้ขลาดกลัวตาย ถ้าเมื่อกี้พวกมันไม่ได้ยิงปืนไล่พวกเราไปก่อนแต่ล้อมเราไว้ในล็อบบี้ของวิลล่าแทน พวกเราทุกคนก็คงโดนจับอยู่ที่นั่น” คนหนึ่งพูดออกมาเพื่อปรับบรรยากาศ
พอฟังคำเหล่านี้ พวกชายร่างใหญ่ก็ไม่พูดอะไรต่อแล้ว
จริงๆ อาจจะดูน่าสมเพช แต่ในความเป็นจริงพวกเขาไม่ได้เสียหายอะไรมาก สหายสองคนที่โดนยิงก็เพียงแค่กระสุนถากที่ผิว กลับไปทายารักษาหน่อยเดี๋ยวก็หาย ส่วนอีกสองคนบอกได้แค่ว่าดวงซวย คนหนึ่งก็โดนกรงเล็บนกขยุ้ม ส่วนอีกคนก็เจอกวางอูฐหักข้อเท้า…
“กลับไปทำแผนการให้ละเอียดกว่านี้ คราวหน้าพวกเราหาโอกาสที่ให้คนผิวเหลืองนั่นอยู่ข้างนอกแล้วจับมัน ฉันไม่เชื่อหรอกว่าวันๆ มันจะอยู่แต่ในวิลล่าผุพังบ้านั่น!”
“ใช่ คอยจับตา ขอแค่มันไปผับ ไปร้านโต้รุ่ง ไม่ว่าจะไปที่ไหน พวกเราก็จัดการซะ….”
“ซ่า…” ทันใดนั้นคลื่นขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนหัวเรือ คลื่นหมุนวน ซัดเข้ามาทำให้คนบนเรือเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ
……………………………………….
บทที่ 327 โกรธาแห่งโพไซดอน
โดย
Ink Stone_Fantasy
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ และนีลเซ็นไม่ได้ถือว่ามาช้า พวกเขาต่างรักฉินสือโอว จะไปหาบอสที่ใจกว้างและใจดีแบบนี้ได้ที่ไหน? ตอนนี้รายได้ของพวกเขาถือว่าเท่ากับระดับของคนเงินเดือนสูงในเมืองแล้ว
ดังนั้นพอรู้ว่าฉินสือโอวอาจจะตกอยู่ในอันตราย ทั้งสามก็รีบลุกจากเตียงและรีบขับรถมา
ด้วยความที่นีลเซ็นเป็นทหารปฏิบัติการพิเศษ เขาจึงมาเร็วที่สุด รถปิคอัพเปิดไฟสว่างที่ฝ่ายบุกรุกมองเห็นบนถนนตั้งแต่แรกก็คือรถของเขา
พอจอดรถ นีลเซ็นกระโดดลงจากรถพร้อมปืน SIG-556 ตอนนี้เขาไม่ได้สวมเสื้อ ส่วนล่างใส่แค่กางเกงขี่ม้า และรองเท้าบูต มองดูก็รู้ว่าเพิ่งลุกมาจากเตียง
ชาร์คและซีมอนสเตอร์ที่รีบตามมาก็แต่งตัวไม่ต่างกัน สองคนพอมาถึงพูดกับฉินสือโอวว่า “บอส เป็นยังไงบ้าง? พวกผมแจ้งกลุ่มเพื่อนบ้านไป สักพักจะมีคนมามากกว่านี้”
รอบนี้ฉินสือโอวไม่มีแรงไปสนใจพวกเขาและให้เบิร์ดรับเรื่องต่อ ส่วนเขาควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปจัดการกับกลุ่มคนที่หนีลงทะเลไป
ความเร็วของเรือเร็วลำนี้ไวมาก เรือนี้เป็นเรือดัดแปลงส่วนตัว เครื่องยนต์ติดท้ายเรือทั้งสองเป็นเครื่องยนต์ยามาฮ่าพลังสูง ถ้าติดเครื่องยนต์ทั้งคู่พร้อมด้วยเครื่องยนต์ที่อยู่ภายในก็สามารถทะลุจุดเช็กพอยท์ความเร็วเรือ 80 นอตได้อย่างสบาย
80 นอตคือความเร็วเท่าไร? คิดสลับกันหน่อย 1 นอตเท่ากับ 1 ไมล์ทะเล 1 ไมล์ทะเลเท่ากับ 1.8 กิโลเมตร ซึ่งก็คือความเร็ว 150 กิโลเมตร ซึ่งถ้าพูดถึงเรือถือว่าเป็นความเร็วที่เหลือเชื่อแล้ว
ตอนแรกฉินสือโอวตัวติดอยู่ด้านบนบอลหิมะแต่ตามไปไม่ทัน ตามองไปเห็นมันเคลื่อนไปในความมืด สามารถรอดพ้นจากสายตาไปได้ตลอดเวลา
โชคดีว่านี่คือที่ของเขา เป็นถิ่นของเขา เส้นทางเดินเรือเร็วด้านหน้ามีฝูงฉลามขาวรออยู่ ฉินสือโอวจึงเปลี่ยนไปอยู่บนตัวเฮยป้าหวังพร้อมฝูงฉลามขาวที่รอเรือเร็วให้มาถึง
เรือลำนี้แล่นได้ไวขนาดนี้เพราะอยู่ในสภาวะที่คลื่นลมสงบ รอให้มันเข้าสู่บริเวณที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมได้ก่อนเถอะ เพียงชั่วครู่ฉินสือโอวโกรธขึ้นมา น้ำทะเลที่นิ่งเรียบปรากฏเป็นลูกคลื่นในทันที คลื่นใหญ่ซัดเข้าไปที่เรือก่อน ทำให้คนทั้งแปดรู้สึกหนาวเหน็บ
“บ้าเอ๊ย ทำไมอยู่ดีๆ ถึงมีคลื่นได้?” มีคนตะโกนอย่างกระวนกระวาย
ความมืดปกคลุมหนาแน่น คนกลุ่มนี้เห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไปเลือนราง แต่พวกเขารับรู้ได้ว่าน้ำทะเลรอบเรือเร็วเป็นระลอกคลื่น คลื่นยักษ์ถล่ม!
ความเร็วของเรือเร็วคือไว แต่ก็มีข้อด้อยคือน้ำหนักเบา ดังนั้นถ้าอยู่ในช่วงมีคลื่นลมแรงจะไม่เหมาะในการออกทะเล
พอเจอคลื่นยักษ์ซัดมาแบบนี้ คนขับเรือเร็วรีบลดความเร็วเรือ ช่วยไม่ได้ เรือเร็วน้ำหนักเบาความเร็วสูง แต่พอเจอเหตุการณ์ที่โดนถาโถมแบบนี้แบบนี้มักจะเจอจุดจบที่เรือโดนทำลายและคนตาย
พอความเร็วเรือลดลงมา ถึงแม้น้ำทะเลจะยังเป็นระลอกแบบนี้ แต่ก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เรือพลิกคว่ำได้ ทั้งกลุ่มพลันรู้สึกโล่งอก
แต่ยังไม่ทันจะหายใจได้ทั่วท้อง ไม่นานพวกเขาก็มองเห็นหูของฉลามหลายตัวบนผิวน้ำทะเล…
“พระเจ้า ชีวิตพวกเราจบกัน!” มีคนร้องครวญครางออกมาอย่างทนไม่ไหว “ทำไมที่นี่ถึงมีฉลามเยอะขนาดนี้?”
ฉินสือโอวไม่ได้ให้เฮยป้าหวังนำฝูงฉลามขาวบุกโจมตี ถึงแม้ว่ามันจะง่ายมากแค่ชนให้เรือพลิกคว่ำแล้วแบ่งแต่ละคนให้เป็นอาหารปลาไป แต่เขาจะจับเป็นและสอบปากคำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้นหลังจากล้อมเรือเร็วไม่ให้ไปไหนได้ เบิร์ดพาสารวัตรโรเบิร์ต แคริแลนด์ที่เพิ่งมาถึงฟาร์มปลาขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินไปทางทะเล
ฉินสือโอวคุมให้เฮยป้าหวังว่ายไปอยู่ด้านข้างเรือเร็ว หางสะบัดอย่างแรงชนเข้าไปที่เครื่องยนต์ที่อยู่ท้ายเรือ
เครื่องยนต์ติดท้ายเรือก็เหมือนเครื่องยนต์ทั่วไป นี่เป็นเครื่องยนต์ที่มีความละเอียดและแม่นยำ กลัวที่สุดคือสภาวะที่โดนกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมันแตกต่างจากเครื่องจักรรถยนต์ที่มีเกราะหุ้มพวกนั้น เครื่องยนต์ติดท้ายเรือเร็วแค่ฟังชื่อก็เห็นภาพ ซึ่งก็คือติดตั้งอยู่นอกเรือ ด้วยเหตุนี้พอหางของเฮยป้าหวังสะบัดไปโดน เครื่องยนต์สองเครื่องนั้นก็ไร้ประโยชน์
คนบนเรือยังนั่งอยู่บนเรือด้วยความงุนงง มองฉลามขาวตัวหนึ่งผลุบๆ โผล่ๆ ตลอดเวลา ไม่มีใครกล้าขยับ สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือจับราวให้แน่นและนั่งให้ดี หลังจากนั้นก็อธิษฐานกับพระเจ้าว่าอย่าให้ฉลามขาวตัวนี้ชนเรือจนพลิกคว่ำเลย
ฉินสือโอวทำอะไรค่อนข้างระแวดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้คนพวกนี้รู้ความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับฉลามขาว เขาควบคุมเฮยป้าหวังหลายรอบให้โผล่หัวขึ้นมาพ้นน้ำทะเล ซึ่งนี่เป็นการกระทำที่พบเห็นได้ทั่วไปของฉลามขาว โผล่หัวเพื่อหาอาหารอย่างพวกฝูงปลา
เช่นนี้ถ้าภายหลังต่อให้พบว่าเครื่องยนต์ติดท้ายเรือถูกชนจนเสีย ก็จะคิดไปว่าฉลามขาวโผล่หัวขึ้นมาพ้นน้ำแล้วไปชนถูกจนใช้งานไม่ได้ ไม่ใช่เพราะหางไปสะบัดโดน
เฮลิคอปเตอร์มาพร้อมกับเสียงดังที่ใกล้เข้ามา ตอนนี้ทะเลนิ่งสงบ คนบนเรือลองสตาร์ทเรือเร็วให้ติด แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะบิดกุญแจยังไงเครื่องก็สตาร์ทไม่ติด
มีคนคิดจะไปซ่อมเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ แต่ผลที่ได้คือพอโผล่หัวออกไป ปากใหญ่ของฉลามขาวก็กระโดดงับขึ้นมา
ถึงแม้ว่าจะหลบได้ทันไม่โดนกินหัว แต่คนนั้นก็ถูกทำให้ตกใจจนหัวหด ถ้ามีฉลามขาวรออยู่แบบนี้ ใครจะกล้าไปซ่อมเครื่องยนต์ติดท้ายเรือกัน?
เบิร์ดขับเฮลิคอปเตอร์วนรอบอยู่บนเรือเร็ว เพียงแค่ฉายแสงไฟส่องลงมาก็ส่องโดนบริเวณเรือเร็วทั้งหมด สารวัตรโรเบิร์ต แคริแลนด์มือข้างหนึ่งจับประตู อีกข้างถือโทรโข่งตะโกนออกไปเสียงดัง “คุณผู้ชาย คุณผู้ชายทั้งหลาย ผมคือสารวัตรโรเบิร์ต แคริแลนด์แห่งเมืองแฟร์เวล ตอนนี้ในฐานะสารวัตร ผมขอแจ้งว่าคุณถูกจับกุมเนื่องจากถูกสงสัยในข้อหาว่าพยายามบุกรุกและพยายามฆ่า…”
คนบนเรือแสนฉลาด พวกเขาถอดจนแต่ละคนเปลือยเปล่า เอาปืน มีด เสื้อผ้าและรองเท้า ของที่บอกตัวตนของพวกเขาทั้งหลายโยนทิ้งลงทะเลหมด
พวกเขาไม่รู้จะต่อกรกับฉลามขาวอย่างไร แต่มีวิธีจัดการกับตำรวจ
นี่คงเป็นคืนที่ไม่ได้หลับนอนอีกคืนหนึ่ง
ส่วนด้านวิลล่าของฉินสือโอว คนในเมืองไม่น้อยรีบตามมา ชาร์คและซีมอนสเตอร์บอกเพื่อนบ้านของพวกเขาว่าที่ฉินสือโอวด้านนี้ถูกคนร้ายบุกรุก ดังนั้นเพื่อนบ้านก็เรียกเพื่อนบ้านของแต่ละคนอีก จึงเกิดเป็นภาพรถสิบกว่าคันขับตามๆ กันมาที่ฟาร์มปลา
เนื่องจากเกิดกรณีร้ายแรงที่แก๊งมือปืนบุกรุกบ้านพักอาศัย ตำรวจแปดนายในเมืองจึงถูกเรียกตัวออกมาด้วย สองคนเฝ้าสถานีตำรวจไว้ ที่เหลืออยู่ที่วิลล่าตรวจสอบพื้นที่หน้างาน
ฉินสือโอวถูกตำรวจนายหนึ่งสอบปากคำ เขาถือกาแฟมาหนึ่งแก้วแล้วพูดในสิ่งที่ได้เตรียมมา “ลูกน้อยที่ผมเลี้ยงสองตัวพบคนเลวพวกนั้นก่อน พวกมันกลับมาบอกผม ผมเลยโทรหาพวกลูกน้อง…”
“ก่อนหน้านั้นประมาณสิบห้านาที คนเลวพวกนั้นมาถึงข้างๆ วิลล่า ผมกับลูกน้องอย่างอีวิลสันและเบิร์ดเลยจำเป็นต้องยิงก่อน แต่จุดประสงค์ของพวกเราแค่ขู่พวกมันให้หนีไป ไม่ได้ตามไปทำร้ายหรือฆ่าพวกมัน…”
“คุณควรจัดการตั้งแต่แรกให้จบ คุณฉิน ไม่ต้องใจดีเกินไปหรอก สารเลว!” ตำรวจหนุ่มที่ช่วยบันทึกปากคำอยู่ดีๆ ก็เงยหน้าและพูดประโยคเหล่านี้ออกมา
ฉินสือโอวยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาจะถืออำนาจเหนือกว่าในสถานการณ์นี้แล้ว เรื่องที่เหลือก็คงไม่ต้องให้เขาจัดการ
จากนั้นคนแปดคนถูกลากขึ้นฝั่งโดยเรือตำรวจและถูกขังอยู่ที่สถานีตำรวจ พวกคนในเมืองขับรถล้อมสถานีตำรวจด้านนอกไว้ รอผลสอบปากคำ
ในเมืองเล็กที่เรียบง่ายอย่างเมืองแฟร์เวล ขโมยเข้าบ้านก็ถือเป็นข่าวใหญ่แล้ว แล้วนี่เป็นแก๊งที่มีอาวุธก่ออาชญากรรม เป็นไปได้ว่าจุดประสงค์ไม่ใช่แค่ลักขโมยง่ายๆ แบบนี้ ดังนั้นพวกชาวบ้านจึงสนใจความคืบหน้าของคดีนี้ไปโดยปริยาย
ฉินสือโอวพาวินนี่มาที่สถานีตำรวจ หู่จือและเป้าจือก็ถูกพามาด้วย นั่งอยู่ข้างเก้าอี้ฉินสือโอวอย่างสง่า ทุกคนที่เห็นพวกมันก็จะชมพวกมันว่าเป็น ‘สุนัขที่ดี’
หู่จือกับเป้าจือคงโดนชมจนรู้สึกไม่ดี ถึงจะนั่งที่พื้นแต่ก็ก้มหัวลง วินนี่ลูบหัวหู่จือพูดขึ้น “ช่างเป็นเด็กที่ถ่อมตนจริงๆ”
ฉินสือโอวก้มหัวแล้วพูดว่า “ถ่อมตัวอะไร พวกมันสองตัวแอบหลับ! หลับอะไรกัน ตื่นขึ้นมาเลย!”
ครึ่งชั่วโมงถัดมา โรเบิร์ต แคริแลนด์เดินมาพร้อมกระดาษหนึ่งปึกบนมือพูดว่า “พวกมันดื้อดึงมาก และมีประสบการณ์โต้ตอบในการสอบปากคำ ถ้าไม่พูดเลยก็พูดแต่เรื่องไร้สาระอยู่ในห้องสอบปากคำ นี่เป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ที่ทางผมพอจะหาได้ คุณลองดูว่านึกอะไรออกไหม”
กองกระดาษนี้แบ่งเป็นรูปพิมพ์ของคนแปดคนนี้และเอกสารที่พบบนเรือเร็วก่อนที่จะถูกทำลาย ฉินสือโอวเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร จึงส่ายหน้า
โรเบิร์ตพูดขึ้น “ตอนนี้ที่พอมั่นใจได้ก็คือ คนแปดคนนี้เป็นทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศสที่อาศัยในต่างแดนและต้องยืนยันตัวตนของพวกเขาโดยการติดต่อกับฐานข้อมูลสถานีตำรวจแห่งชาติหลังรุ่งสาง”
พอได้ยินโรเบิร์ตพูดถึงทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศส ทันใดนั้นนีลเซ็นที่ยืนอยู่ด้านหลังฉินสือก็พูดขึ้น “บอส ยังจำคนฝรั่งเศสคนนั้นที่เจอที่เมืองกลอสเตอร์ได้ไหม? เขาก็เป็นคนฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ต่างแดน และตอนนั้นผมก็รู้สึกว่า เขามีจุดประสงค์แอบแฝง เขามีแรงจูงใจอื่นในการเข้าหาเรา”
พอได้ยินแบบนี้ โรเบิร์ตตื่นเต้นขึ้นมา ถามขึ้น “คนฝรั่งเศสที่เมืองกลอสเตอร์เหรอ?”
ฉินสือโอวนึกย้อนไป คิ้วขมวดแล้วพูดขึ้น “นั่นเป็นคนฝรั่งเศสคนหนึ่งที่เท่มาก เทียบกับหน้าตาของคนทั้งแปดแล้วไม่เกี่ยวกันเลย เขาชื่อว่าอาร์ม็อง ชื่อเต็มเหมือนจะ อาร์ม็อง ฮันท์หรืออะไรฮะสักอย่าง…”
“อาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียง?” วินนี่ถามออกมาตรงๆ
ฉินสือโอวนึกแล้วก็รู้สึกว่าเป็นชื่อนี้จริงๆ จึงรีบพยักหน้า พูดว่า “ใช่ ใช่ ชื่อนี้แหละ คุณ…”
ทุกคนต่างมองไปที่วินนี่ด้วยความตกใจ โรเบิร์ตตื่นเต้นกว่าเดิม สัญชาตญาณนักสืบของเขาบอกว่าจะได้ดูละครอารมณ์น้ำเน่าฉากหนึ่งที่เกี่ยวกับจริยธรรมแล้ว
วินนี้ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าอาร์ม็องจะเกี่ยวอะไรกับพวกเขา ฉันรู้จักอาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียงดี เขาเป็นพี่เขยของฉัน เรื่องที่เมืองกลอสเตอร์ของพวกคุณฉันก็รู้ ตอนนั้นฉันกับครอบครัวคุยกันเรื่องฉันกับฉิน พี่สาวฉันเลยให้เขาช่วยดูว่าฉินเป็นคนยังไง เรื่องก็เท่านี้แหละ”
“พี่เขยเหรอ? ทำไมไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงมาก่อนล่ะ?” ฉินสือโอวตะลึง วินนี่ไม่ค่อยพูดถึงครอบครัวของเธอ เขาก็ไม่ได้ถามอะไร
วินนี่ยักไหล่พูดว่า “พวกเราไม่ได้เข้ากันได้มาก เดี๋ยววันหลังคุณก็รู้อยู่ดี”
“เท่านี้เองเหรอ?” โรเบิร์ตแสดงความผิดหวัง
“ก็เท่านี้แหละค่ะ” วินนี่แสดงท่าทีว่าตัวเองพูดในสิ่งที่รู้ไปหมดแล้ว
หลังจากฟ้าสว่าง ทางสถานีตำรวจเมืองเซนต์จอห์นก็มาเอาคนแปดคนนี้ไป
ในวันเดียวกันมีข่าวบางอย่างแพร่มาซึ่งตรงกับการคาดเดาของโรเบิร์ตพอดี คนแปดคนนี้เป็นสมาชิกของกองทหารรับจ้างฝรั่งเศส ครั้งนี้เข้ามาในแคนาดาก็เป็นการเข้ามาแบบผิดกฎหมาย
ผลสุดท้ายทำให้ฉินสือโอวพูดไม่ออก คนแปดคนนี้เหนื่อยกับชีวิตที่เหนื่อยล้าของทหารรับจ้าง จึงต้องการลักพาตัวเศรษฐีหาเงินสักก้อนหนึ่งแล้วหลังจากนั้นจะปลดระวาง
ดังนั้นที่เลือกเขา ก็เพราะว่าเกาะแฟร์เวลไม่ห่างจากทะเลสาธารณะ และเมืองเซนต์จอห์นก็พยายามทุกวิถีทางในการประกาศว่าเขาเป็นเศรษฐีคนใหม่ บวกกับทุกประเทศต่างลือกันว่าคนรวยชาวจีนกลัวตาย อ่อนแอ ทุกเหตุผลเหล่านี้มารวมกัน เขาจึงกลายเป็นเหยื่อชิ้นอวบในสายตาของพวกลี้ภัยเหล่านี้ไปโดยปริยาย
……………………………………….
บทที่ 328 กำลังในการดูแลเกาะแฟร์เวล
โดย
Ink Stone_Fantasy
พอเกิดเรื่องแบบนี้ อยู่ดีๆ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าชีวิตของเขาไม่ดีแล้ว
ทหารรับจ้างชาวต่างชาติเข้ามาในแคนาดาเพื่อลักพาตัวคนหนุ่มสาวชาวจีนผู้มั่งคั่ง ข่าวแบบนี้มีมูลค่าและดึงดูดสายตาคนมากมาย สื่อรายใหญ่ในเมืองเซนต์จอห์นรีบตามกระแส ตามไปเกาะแฟร์เวลเพื่อไปขุดคุ้ยสืบหาข่าว
ฉินสือโอวรำคาญเรื่องนี้มาก ถ้าไม่มีรายงานข่าว ทหารฝรั่งเศสเหล่านี้จะรู้คุณค่าของพวกเขาไหม? ตัวเขาเองแค่คิดว่าอยากใช้ชีวิตผ่านไปอย่างสงบในแต่ละวัน ทำไมข่าวพวกนี้ถึงไม่ยอมปล่อยเขาไป?
ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่ปิดฟาร์มปลา ช่วงนี้ฉินสือโอวมุ่งมั่นสนใจแต่ดูแลจัดการฟาร์มปลา เรื่องภายนอกเขาไม่แตะเลย
พวกนักข่าวคิดหาทุกวิถีทางที่จะได้ข่าวจากเขาที่นี่ ที่ทนไม่ได้คือแค่คนยังไม่เจอตัวเลย นับประสาอะไรกับสัมภาษณ์ หมดหนทาง พวกเขาทำได้แค่ไปสอบถามจากชาวบ้านในเมืองแฟร์เวลแล้วเอากลับไปหลอกเจ้านายต่อ
สิ่งนี้กลับกระตุ้นระดับการบริโภคของเมืองในระดับหนึ่ง รวมกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศต่อเนื่อง ช่วงนี้แฮมเล็ตหัวเราะบ่อยขึ้น จีดีพีของเมืองแฟร์เวลไตรมาสที่สามและไตรมาสที่สี่คาดว่าจะสามารถทำลายสถิติของช่วงหลายปีนี้ได้
ฉินสือโอวไปรับแฮมเล็ตที่ท่าเรือ เขานั่งยองตกปลาอยู่ที่นั่น ฉงต้าตามอยู่ด้านหลังเขารอกินปลา
“ฉิน ยินดีกับนายด้วย นายกลายเป็นเศรษฐีจริงๆ แล้ว โจรมาหานายถึงที่ก็เท่ากับว่ายอมรับในมูลค่าของตัวนายแล้วน” แฮมเล็ตหัวเราะออกมาใหญ่
ฉินสือโอวจับเบ็ดตกปลาอย่างเฉยเมยและพูดว่า “คุณมาที่นี่เพื่อพูดเรื่องนี้เหรอครับ? ถ้าใช่ ผมคงต้องขอตัวก่อน ผมต้องไปตกปลา”
แฮมเล็ตยักไหล่พูดขึ้น “แน่นอน ถ้ามีแค่เรื่องนี้ ฉันจะอุตส่าห์วิ่งมาหานายเพื่ออะไรกัน? ตอนนี้มีเรื่องแปลกที่ดูไม่เลวอยู่เรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่านายน่าจะสนใจ”
“อะไร?”
“ปืนไง!”
“น่าสนใจจริงๆ แต่ที่ชั้นวางปืนของผมมีปืนดีอยู่หลายกระบอกแล้ว คงไม่อยากซื้อใหม่ไปสักพัก”
“แล้วถ้าครั้งนี้ไม่ใช่แค่กระบอกสองกระบอก แต่เป็นร้อยหรือสองร้อยกระบอก กระทั่งพันสองพันกระบอกล่ะ?”
ฉินสือโอวโยนเบ็ดตกปลาทิ้งมองไปที่แฮมเล็ตอย่างตะลึงงัน อีกฝ่ายยิ้มและพยักหน้า เขาตกใจพูดว่า “คุณคงไม่ได้จะบอกผมว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณเป็นผู้ค้าอาวุธหรอกนะ ตอนนี้คุณต้องการปรับให้ผมเป็นคนขายเข้าสู่ท้องตลาดเหรอ?”
รอยยิ้มบนในหน้าของแฮมเล็ตหุบไปในทันตา เขาพูดแบบเหลืออดว่า “เห็นแก่พระเจ้าเถอะ ฉิน นายต้องมีเหตุผลหน่อย โอเคฉันยอมรับว่ามันเป็นเรื่องแปลกมากที่นายถูกลักพาตัวไปเมื่อสองสามวันก่อน…”
“แปลก? แปลกบ้าอะไร ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้คงเกิดขึ้นอีกมากในชีวิตผมหลังจากนี้” ฉินสือโอวพูดอย่างหนักใจ
เมื่อก่อนเขามักนึกว่าจะไม่มีใครทอดทิ้งเขาเพราะมีเงินเยอะ เงินยิ่งเยอะ ยิ่งได้สิทธิพิเศษมาก ชีวิตก็จะยิ่งราบรื่น
ตอนนี้เขาไม่ได้คิดแบบนี้แล้ว ทุกอย่างล้วนมีเพดานของมัน เช่น ความถี่ในการซื้อฟาร์มปลาของเขามันมากไปจริงๆ จำนวนที่ลงทุนก็มากไป ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นลูกหลานมหาเศรษฐีจีนออกมาลงทุนเล่น เป็นเรื่องปกติ
แบบนี้การที่มีคนจำได้มากขึ้นก็ยิ่งปกติ
ความรวยมากขึ้นของเศรษฐีแต่ละคน ก็ไม่ใช่แค่การสะสมเงินอย่างง่ายๆ แต่เป็นการขยายไปตามประสบการณ์และความสัมพันธ์กับคนในสังคมต่างๆ
หลังจากที่ประสบเรื่องลักพาตัว เขาคิดทบทวนแล้วว่าตัวเองเปิดตัวให้คนพบปะมากเกินไป เศรษฐีจริงๆ ควรจะปิดบังฐานะอยู่ภายใต้เสื้อยืด เช่นครั้งก่อนที่เจอคุณวอลตัน ซีอีโอวอลมาร์ตที่บอสตัน คุยกับเขาแล้วยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นนายใหญ่ร้านค้าเฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นี่สิถึงจะเป็นความสามารถที่แท้จริง
หลังจากคิดทบทวนแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือถ่อมตัว ดังนั้นช่วงนี้ฉินสือโอวจึงไม่ออกไปไหน เขาอยากให้นักข่าวที่อยากได้รูปเขาแม้แต่ถ่ายรูปก็ถ่ายไม่ได้
แฮมเล็ตเข้าใจแล้วตบบ่าเขาเบาๆ บอกข่าวดีเขาว่า “อย่าคิดมากเลย ตอนนี้นักข่าวที่ตามข่าวมาพวกนั้น ได้กลับไปทำงานหมดแล้ว”
“จริงเหรอ?” ฉินสือโอวถาม
แฮมเล็ตยักไหล่ พูดขึ้น “นายคิดว่านายเป็นใคร? โอบามาเหรอ? หรือนักบาสเกตบอลชื่อดังเอ็นบีเอ? ดาราฮอลลีวูด? ไม่ สหาย ขอร้องล่ะ นายไม่ใช่ ถ้านายไม่ใช่เศรษฐีจีน นักข่าวพวกนั้นก็คงไม่ได้มาสนใจข่าวนี้ แต่ละวันมีเศรษฐีมากมายเท่าไรที่เจอเหตุการณ์รุนแรง? นายเห็นเขารายงานกี่ข่าวกัน?”
“นี่ถือว่าเป็นข่าวดี โอเค ข่าวดีอีกเรื่องที่คุณบอกล่ะ?”
“ร้านขายปืน ในเมืองของเราคิดจะเปิดร้านขายปืนอีกครั้ง นายอยากลงทุนไหม?”
พอได้ยินข่าวนี้ ฉินสือโอวเอนเอียงเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายของแฮมเล็ต ร้านขายปืนบนเกาะแฟร์เวลเมื่อก่อนคือร้านค้าที่เปิดกลางแจ้งของนีลเซ็น ตอนนี้นีลเซ็นติดตามเขาเป็นชาวประมง ในเมืองจึงไม่มีร้านขายปืนอีก
และตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากต่างแสดงออกมาว่าสนใจในปืน ถ้าเมืองแฟร์เวลมีร้านขายปืนอีกครั้ง ถ้าเช่นนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน
จริงๆ แล้วฉินสือโอวไม่ได้ชื่นชอบอะไรมากนักในอาวุธอย่างปืน ดูได้จากการที่เขามาถึงแคนาดาได้ครึ่งปีกว่าเพิ่งเคยซื้อปืนไปแค่กระบอกเดียว โดยปกติตอนที่ไปเมืองเซนต์จอห์นซื้อกระสุนเพิ่ม เขาเพียงซื้อกระสุนแล้วจากไปแทบทุกครั้งไม่ได้อยู่ต่อเพื่อมองหาปืนดีอะไรเลย
แต่ถ้าสำหรับการลงทุนในร้านปืน เขากลับคิดต่าง หลักๆ มีเหตุผลสองประการ ประการแรก คดีลักพาตัวเมื่อไม่กี่วันก่อนทำให้เขาขาดความรู้สึกปลอดภัย ประการที่สอง ในธนาคารยังมีเงินฝากอีกมาก เก็บก็คือเก็บ แต่ก็สามารถเอาออกมาลงทุนได้
แฮมเล็ตบอกเขาว่าเดิมทีเมืองแฟร์เวลคิดจะดำเนินกิจการร้านขายปืนและสนามฝึกยิงเอง แต่ว่าสถานะทางการเงินของเมืองค่อนข้างขัดสน จะลงทุนในร้านขายปืนอีกรอบอย่างน้อยต้องลงประมาณสองล้านดอลลาร์แคนาดา การเงินของตัวเมืองกับส่วนบุคคล นอกจากฉินสือโอวก็ไม่มีใครมีความสามารถนี้แล้ว
“ใช่แล้ว สรุปเลยก็คือ ฉันมาที่นี่เพื่อหาสปอนเซอร์” แฮมเล็ตหัวเราะแล้วพูด
ฉินสือโอวถามขึ้น “แต่ผมทำเรื่องใบอนุญาตโอนปืนและใบอนุญาตครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมายไม่ได้ คุณช่วยผมได้ไหมล่ะ?”
ใบอนุญาตสองใบนี้เป็นสิ่งที่ต้องมีถ้าจะเปิดร้านขายปืนในประเทศแคนาดา ใบอนุญาตโอนปืนเป็นหลักฐานที่บอกว่าคุณขายปืนได้ ส่วนใบอนุญาตครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมายเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าคุณสามารถซื้อปืนจากบริษัทค้าอาวุธมาเป็นของตัวเองได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเอกสารใด ตอนนี้ทำเรื่องติดขัดมาก ถ้าไม่ได้เคยถือปืนมาก่อนหกปีจะทำเรื่องไม่ได้
แฮมเล็ตยักไหล่ พูดอย่างกังวลหน่อยว่า “ใบอนุญาตโอนปืนยังพอได้ ฉันมีเพื่อนเก่าอยู่คนหนึ่ง เขามีใบอนุญาตคิดที่จะโอนต่อ ส่วนใบอนุญาตครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมาย นายต้องหาวิธีเอง”
ฉินสือโอวถูกคำพูดเหล่านี้บีบจนหายใจไม่คล่อง เขาจะคิดหาวิธีไหนได้?
อย่าเพิ่งพูดไป แค่เขาคิดก็มีวิธีจริงๆ มีครั้งหนึ่งที่ตอนนั้นขึ้นเขาไปยิงปืนเล่นด้วยกัน เขาจำได้ว่าประธานสมาคมการดำรงชีวิตในทุ่งกว้างเอแอนด์เอ็ม พอล ซาโกรเคยพูดว่าบ้านเขามีใบอนุญาตครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมายอยู่หนึ่งใบ
คิดได้ก็ลงมือทำ ฉินสือโอวโทรหาซาโกร ถามก่อนว่าช่วงนี้มีกิจกรรมอะไรไหม ซาโกรบอกว่าถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว สัตว์ป่าที่อยู่บนเขาอวบอ้วนอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นเวลาที่จะจัดกิจกรรมออกล่าสัตว์สักครั้ง บอกให้ฉินสือโอวรอโทรศัพท์
หลังจากนั้น ฉินสือโอวก็พูดเข้าประเด็น ถามขึ้น “พอล ฉันจำได้ว่านายเคยบอกว่านายมีใบอนุญาตครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมายอยู่ที่นั่นใช่ไหม?”
ต่างก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ทั้งคู่จึงไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อม ซาโกรถามตรงๆ “เป็นนายหรือเพื่อนของนายที่อยากซื้อเหรอ? ขอโทษด้วยเพื่อน ฉันไม่คิดจะขาย นายอาจจะไม่รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ปู่ทิ้งไว้ให้ ซึ่งมีความหมายกับบ้านของพวกเรามาก”
เมื่อรุกตรงๆ ไม่ได้ ฉินสือโอวจึงหว่านล้อม “ตอนนี้ในเมืองพวกเรามีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ฉันเลยอยากจะเปิดร้านขายปืน เงินที่จะลงทุนมีคนสนับสนุนแล้ว นายสนใจจะทำด้วยกันไหม?”
ฉินสือโอวคิดดีแล้ว หลังจากนี้นอกจากฟาร์มปลา ธุรกิจอื่นๆ เขาจะพยายามเป็นแค่หุ้นส่วนไม่เปิดเผยตัวตน หาเงินแบบเงียบๆ ก็พอแล้ว เรื่องได้หน้าปล่อยให้เป็นหน้าที่คนอื่นดีกว่า
งานของซาโกรตอนนี้คือเทรนเนอร์ฟิตเนสคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาต้องการทำจริงๆ คือเป็นผู้ฝึกอาวุธปืนหรือหาเลี้ยงชีพในร้านขายปืน แต่เขาไม่เคยมีโอกาสเลย เขาต่างจากฉินสือโอวที่เล่นปืนนานๆ ครั้ง เขาเป็นผู้คลั่งไคล้ในปืนจริงๆ ตลอดทั้งวันต้องมีได้จับปืนถึงจะรู้สึกดี
พอฉินสือโอวพูดถึงตัวโครงการ ซาโกรแสดงความสนใจออกมาทันที รีบออกจากฟิตเนสในเมืองเซนต์จอห์นนั่งเรือรอบบ่ายมาที่นี่เพื่อมาคุยเรื่องนี้
เรื่องนี้คุยง่ายมาก แฮมเล็ตให้ซาโกรดูจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งเดือนนี้และสัดส่วนเปรียบเทียบนักท่องเที่ยวเพศชายของพวกเขา ซาโกรจึงตัดสินใจลาออกแล้วมาทำร้านขายปืนด้วย
ฉินสือโอวลงทุน 1.8 ล้านและใบอนุญาตโอนปืนหนึ่งใบ ซาโกรลงเงินไป 2 แสนและใบอนุญาตให้ครอบครองปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งสองฝั่งลงทุนไปรวมเป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์แคนาดา ซาโกรดูแลรับผิดชอบในการดำเนินกิจการ ฉินสือโอวเท่ากับลงเงินเพียวๆ ถือหุ้น 80% ส่วนซาโกรถือหุ้น 20%
ที่เหลือก็คือเซ็นสัญญาและยื่นขออนุญาตประกอบกิจการร้านขายปืนอย่างเป็นทางการ เรื่องพวกนี้เออร์บักช่วยฉินสือโอวได้ ส่วนซาโกรลองดำเนินธุรกิจก่อนเปิดจริง รอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเรียบร้อย เขาก็จะสั่งเอาปืนล็อตแรกนำเข้าเข้ามา
ฉินสือโอวไม่ได้สนใจเรื่องนี้ต่อ เรื่องที่เขาสนใจก็คือการสร้างอพาร์ทเม้นท์ชาวประมง เมื่ออพาร์ทเม้นท์ชาวประมงสร้างเสร็จ นีลเซ็นและเบิร์ดทั้งสองคนจะได้ประจำการที่ฟาร์มปลาได้เลย มีทหารที่แข็งแกร่งทั้งสองคอยรักษาการแบบนี้ ภายหลังความปลอดภัยจะเพิ่มขึ้นมาก
เหตุที่คดีพยายามลักพาตัวก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวงได้ขนาดนี้ที่เมืองเซนต์จอห์น ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าคนในพื้นที่ถูกครอบงำด้วยคนผิวขาวที่มีการศึกษาสูง ประเพณีเรียบง่าย ส่วนใหญ่นานๆ ทีจะมีคดีลักทรัพย์เกิดขึ้น บุกรุกปล้นบ้านก็มีน้อยมาก
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เมืองเซนต์จอห์นได้ออกประกาศเตือนให้กับชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลจากย่านพักอาศัยออกไป ให้พวกเขาเตรียมปืนดีไว้ที่บ้าน หากมีคนแปลกหน้าบุกรุกเข้ามา และมั่นใจว่าไม่ได้มีเจตนาดี ให้ใช้ปืนยิงได้เลย
โดยรวมแล้วประเทศแคนาดามีการควบคุมอาวุธปืนมากกว่าสหรัฐอเมริกา และต้องการให้ผู้อยู่อาศัยใช้กลยุทธ์การป้องกันคล้ายกับกลยุทธ์การป้องกันเชิงรับในแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก แต่รัฐนิวฟันด์แลนด์อยู่ห่างไกลจากแคนาดาพื้นที่หลักและผู้อยู่อาศัยขาดความปลอดภัย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้พวกเขาใช้กลยุทธ์การป้องกันเชิงรุก
ความแตกต่างของทั้งสองอยู่ที่ กลยุทธ์การป้องกันเชิงรุกคือคุณอยู่ในถิ่นของคุณแล้วคุณคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของคุณ คุณสามารถที่จะโจมตีก่อนได้ ส่วนกลยุทธ์การป้องกันเชิงรับ คุณต้องเจรจากับฝ่ายตรงข้ามก่อน ต้องมีบุคคลที่สามเป็นพยาน หลังจากนั้นเมื่อมั่นใจแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของคุณ คุณถึงจะสามารถโต้กลับได้
คดีลักพาตัวหลังจากผ่านการสอบสวนไปหนึ่งสัปดาห์ก็มีผลสรุปออกมา ทางแคนาดาส่งมอบอาชญากรทั้งแปดคนต่อ ทางฝรั่งเศสได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลประจำรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ในข้อหาพยายามลักพาตัว พยายามปล้น และพยายามบุกรุกเข้าบ้านโดยใช้กำลัง ในจำนวนคนร้ายทั้งหมดแปดคน หัวโจกสองคนถูกตัดสินจำคุก 16 ปี อีกหกคนที่เหลือที่ทำตามคำสั่งถูกตัดสินจำคุก 12 ปี
เมื่อผู้ลักพาตัวแปดคนถูกส่งมอบต่อออกจากประเทศแคนาดาไป ความสนใจของสื่อในเรื่องนี้ก็ลดลง ซึ่งตรงกับที่แฮมเล็ตบอกไว้ คนที่สนใจคดีนี้ไม่ได้สนใจในตัวฉินสือโอว พวกเขาสนใจในฐานะของเศรษฐีจีนกับทหารรับจ้างชาวต่างชาติเท่านั้น
ไม่กี่วันถัดมา งานกลุ่มสถาปัตยกรรมของวิลก็เข้าสู่ช่วงเก็บงาน อาคารสองชั้นที่สวยงามอาคารหนึ่งปรากฏขึ้นบนพื้นที่ฟาร์มปลา ตำแหน่งอยู่ที่ทางทิศตะวันตกของวิลล่า ระยะห่างอยู่ที่ 600 เมตร
…………………………………….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น