หมอดูยอดอัจฉริยะ 317-318

 ตอนที่ 317 ประลองฝีมือ (2)

โดย

Ink Stone_Fantasy

ชาญ ทองทวนมีสีหน้าเคร่งเครียด มีเสียง จีจี อย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกแมลงมีพิษขวัญหนีดีฝ่อหนีหัวซุกหัวซุน มารวมตัวกันอยู่ที่ข้างหลังของตัวเอง


หลังจากเจ้างูจงอางหัวแบนตัวนั้นรอจังหวะพิเศษ ไม่เห็นว่าในป่าทึบจะมีอะไรออกมา ก็เลื้อยลงมาจากร่างกาย ของชาญทองทวน กัดเข้าไปที่งูจงอางที่ตายไปเมื่อกี้


กับงูพิษทั่วไปเมื่อได้กินเข้าไปแล้วในท้องจะรู้สึกไม่เหมือนกัน เขี้ยวของงูตัวนี้มีความแหลมคมเป็นพิเศษ ก็ถูกงูจงอางความยาวหนึ่งเมตรตัวนั้นกัดขาดเป็นสองท่อน หลังจากนั้นก็กลืนงูประเภทเดียวกันกับตัวเองเข้าไปในท้อง


เจ้างูยักษ์กลืนงูจงอางลงไป ปากเต็มไปด้วยคราบเลือดของงู หัวของงูจงอางตัวนั้นก็รีบแบน คล้ายกับคนที่ใส่แว่นตา ลักษณะที่ดูดุร้ายขึ้นมา


คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันดี ในประเทศไทยมีของล้ำค่าอยู่สามอย่าง นั้นก็คืออัญมณีทับทิม งูพิษและสาวประเภทสอง


ทับทิมของไทยมีปริมาณในการผลิตค่อนสูงและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทับทิมที่ดีที่สุดคือพลอยทับทิบ สีสันสวยสดงดงามเหมือนดั่งพลอยสีชาด และแวววาว สารเจือปนน้อยมาก มีความบริสุทธิ์เป็นพิเศษ


ในประเทศไทยสีของพลอยไพลิน ที่พวกเราจะพบได้บ่อยคือพลอยอะความารีน แต่ว่าสีอ่อนกว่าพลอยไพลิน มันเป็นสีฟ้าที่บริสุทธิ์และสดใส


สาวประเภทสองของไทยโดยปกติก็ไม่ต้องพูดถึงรายละเอียดอะไรมากมาย ถ้าหากว่าคุณเดินตาม ท้องถนนแล้วเห็นผู้หญิงที่ดูสูงสวยงามเหมือนกับนางแบบ เพียงแต่ว่าถ้าคุณต้องถอดเสื้อผ้าของเธอแล้วสำรวจร่างกาย ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็จะทำได้แค่เดา เพราะว่าถ้าใช้ตาเปล่า ก็จะแยกไม่ออกว่านี้คือสาวสวยที่เป็นผู้หญิงจริงๆ หรือว่าสาวประเภทสองกันแน่


แต่ว่างูพิษคือหนึ่งในสามของสิ่งล้ำค่า ที่ร้ายแรงถึงแก่ความตายทำให้คนพอเห็นก็จะเกิดความหวาดกลัว


งูจงอางเป็นที่ยอมรับโดยทั่วโลกว่าคือราชางูพิษ แต่ว่าในประเทศไทยมีราชางูจงอางชนิดหนึ่ง ที่มีพิษมากมันแค่ตั้งลำตัวตรงความสูงประมาณหนึ่งจุดเจ็ดเมตร เพียงแค่ถูกมันโจมตีภายในหนึ่งหรือสองนาทีก็ถึงแก่ความตายได้


อีกทั้งพิษของราชางูจงอางยังมีราคาสูงมาก มีราคาสูงกว่าทองคำยี่สิบเท่า ผลกำไรที่มากภายใต้ความกล้าหาญ คนไทยจำนวนมากใช้ชีวิตอยู่กับการจับงู


กล่าวกันว่าคนที่จับงูก็จะพกมีดที่แหลมคมติดตัวไว้ ถ้าเกิดโดนงูจงอางกัด ต้องรีบเอามีดออกมาทันที ถ้าถูกกัดที่มือตัดมือ ถ้าถูกกัดที่ขาตัดขา ก็จะสามารถมีชีวิตรอด แน่นอนว่า ถ้าเกิดโดนกัดเข้าที่หัว ก็ไม่สำคัญแล้วว่าคุณจะทำอะไร


ตัวที่อยู่ข้างหน้าชาญ ทองทวนตอนนี้ ก็คืองูจงอางที่ชื่อเสียงของประเทศไทย


แต่ว่าเพชฌฆาตงูจงอางตัวนี้ถูกชาญ ทองทวนเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวมันยังเล็ก ในวันธรรมดาก็จะป้อนมันด้วย ซากกระดูกของคนตายบดให้เป็นผงละเอียดกับพวกแมลงมีพิษกลายเป็นอาหาร เมือกที่เป็นพิษ ความร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ อย่างน้อยสุดต้องเหนือกว่าประเภทเดียวกันสิบเท่า


ชาญ ทองทวนเคยทดลองกับคนมาก่อนแล้ว หลังจากคนที่ถูกงูของเขาตัวนี้กัดนั้น ไม่ทันถึงสามนาทีก็ตายจากไป พิษนี้เรียกได้ว่าเป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก


ในเวลานี้ที่ได้เห็นงูที่ร้ายกาจที่สุดของตัวเอง ต้องใช้เลือดเป็นอาหารเพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ ชาญ ทองทวน ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงว่าอยู่ที่นี้ก็จะสามารถเจอกับงูจงอางที่เป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ


“กุ๊ก กู..กูู่”


เห็นเหยื่อตัวหนึ่งกำลังอยู่ซ่อนอยู่ในป่าทึบ ชาญ ทองทวนใช้มือปิดท้องของตัวเอง ทันใดนั้นช่วงท้อง ก็มีเสียงลมออกมา ในลำคอเปร่งเสียงแปลก ๆ ออกมา


นี้ก็คือเคล็ดลับอย่างหนึ่งของวิชาของเขา เพื่อควบคุมพวกแมลงมีพิษและสัตว์เล็กทั้งหลายเหล่านั้น วิธีการนี้จะทำให้พวกมันงุนงง เมื่อชาญ ทองทวนส่งเสียง กุ๊กกู กู พวกแมลงมีพิษที่อยู่ด้านหลังเขาก็ค่อยๆ สงบเงียบลงมา


ทันใดนั้น งูจงอางที่ตั้งตรงอยู่ก็หมุนตัวหนึ่งรอบ เลื้อยไปอยู่ที่ด้านหลังของชาญ ทองทวน เขารีบหันกลับไป กลับเห็นแค่เงาสีขาว งูจงอางของเขาก็หาไม่เจอ


งูจงอางพ่นพิษเมือกของมันออกมาประมาณหนึ่งเมตร ทำให้พวกแมลงมีพิษที่อยู่บนพื้นนับสิบกว่าตัว ชักดิ้นชักงอตายไป แต่ว่ากับทำร้ายไม่โดนสัตว์ประหลาดตัวนั้น


“นี้ นี้มันคือสัตว์อะไรกันแน่”


ในสายตาของชาญ ทองทวน ไม่สามารถจับสัตว์ตัวนั้นไว้ได้ สูญเสียพวกแมลงนับสิบกว่าตัว ที่ตัวเองเลี้ยงดูมาด้วยความยากลำบาก ทำให้ชาญ ทองทวนรู้สึกปวดใจ หน้าผากมีเม็ดเหงื่อที่ไหลออกมา


“จี…จี” เหมาโถวที่กำลังกลืนเขมือบพวกแมลงมีพิษไว้ในปาก ความรู้สึกตื่นเต้นมองไปที่เพชรฆาตงูจงอาง


สันชาติญาณของมันบอกว่า ถ้าเกิดตัวมันเองกินเจ้างูจงอางตัวนี้เข้าไปแล้วนั้น ร่างกายก็จะได้รับสิ่งที่ไม่ดีเข้าไป แต่ว่าสองคนที่อยู่ใต้ต้นไม้ ทำให้มันรู้สึกถึงอันตรายบางอย่าง ทำให้เหมาโถวไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม


แต่ว่าบนพื้นมีแมลงมีพิษอยู่นับพันตัว แค่กินแมลงพวกนี้เข้าไปเหมือนกับว่าได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดไป สองสามตัวที่กำลังเอาเข้าปากหลังจากที่กลืนแมงป่องตัวหนึ่งเข้าไป เหมาโถวเริ่มโจมตีอีกครั้ง


แม้ว่าพิษของเพชรฆาตงูจงอางอาจจะเหนือกว่า แต่ว่าความเร็วของมันยังต้องแพ้ให้กับเหมาโถว การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายฟ้าแลบของเหมาโถวที่กำลังกินแมลงมีพิษอย่างต่อเนื่อง ชาญ ทองทวนกับงูของเขาก็ไม่เห็นมีวิธีอะไรเลย


พร้อมกับแมลงมีพิษที่ค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ชาญ ทองทวนมองเห็นได้ชัดถึงรูปร่างและลักษณะของเหมาโถว เจ้าตัวเฟอร์เร็ตจะชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่หนาว ชาญ ทองทวนไม่รู้ แต่ว่านี้ก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกโกรธในใจของเขาได้


ครั้งนี้ชาญ ทองทวนพกแมลงมีพิษติดตัวมาด้วย แต่ว่าเป็นแมลงที่เขาลำบากตรากตรำเลี้ยงมาไม่น้อยกว่าห้าปี ทำให้เขาสูญเสียทั้งเลือดและทุนไปจำนวนมาก


มองเหมาโถวที่ค่อย ๆจับแมลงพวกนั้นกินทีละตัว ใจของชาญ ทองทวนเลือดจะไหลออกมาแล้ว ใช้สำนวนนี้มาอธิบายความเจ็บปวดเสียใจจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปของชาญ ทองทวนก็คงไม่พอ


ชาญ ทองทวนทำยังไงก็คิดไม่ถึงว่า อยู่ในฮ่องกงที่นี้ ยังมีแมลงมีพิษอาศัยอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ทันได้ระวัง เจ้าสัตว์พวกนี้ต้องถูกคนเลี้ยงมาเหมือนกัน


การกินจุของเหมาโถวใกล้เคียงกับเยี่ยเทียน ในช่วงเวลาสั้นๆ สิบกว่านาทีหลังจากนี้ แต่เดิมที่บนพื้นที่เต็ม ไปด้วยแมลงมีพิษ ตอนนี้เหลือเพียงแค่สิบกว่าตัว


“จีจี……จีจี”


เหมาโถวที่ยืนอยู่บนต้นไม้ที่ไม่ไกลออกไปจากชาญ ทองทวน ใช้มือลูบไปที่หน้าท้องของตัวเอง ร้องเสียงแหลมยั่วยุใส่ชาญ ทองทวนและเพชรฆาตงูจงอางตัวนั้น


เหมาโถวมีความรู้สึกค่อนข้างกลัวชาญ ทองทวนและผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเขา มันใช้วิธีนี้ดึงเพชรฆาตงูจงอางขึ้นมา พูดคุยกับเจ้างูจงอาง


เมื่อได้เห็นท่าทางของเหมาโถว เพชรฆาตงูจงอางก็ส่งเสียงขู่ “ฟ่อฟ่อ” ออกมา เลื้อยไปทางด้านหลังพร้อมเข้าโจมตี มันคือนักล่าที่เก่งที่สุดในป่าทึบ และยังไม่เคยได้รับความยั่วยุอะไรแบบนี้มาก่อน


อาฮวา กลับมา เมื่อได้เห็นแมลงมีพิษที่เขาสะสมมาหลายปีถูกเหมาโถวเขมือบกินเข้าไป ชาญ ทองทวนอยากร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก


เวลานี้เขาไม่กล้าที่จะให้งูของตัวเองเข้าไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนั้น ถ้าหากว่างูจงอางเกิดบาดเจ็บอะไรขึ้นมา ซ่งเสี่ยวหลงให้เขาสิบล้านดอลลาร์ก็ชดเชยไม่ได้


แต่ว่าชาญ ทองทวนมีความคิดอย่างหนึ่งคือ รอหลังจากที่กำจัดเยี่ยเทียนได้แล้ว เขาก็จะให้ซ่งเสี่ยวหลง เอาออกมาให้เขาอีกห้าล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยความเสียหายของเขาในครั้งนี้อย่างแน่นอน


“ไป”


ชาญทองทวนรู้ว่าถ้าเขาเอาสัตว์ประหลาดนั้นออกมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร แมลงที่ซ่อนอยู่ในเอวของตัวเองกำลังกัดฟัน ความโกรธโมโหอย่างรุนแรงทั้งหมดชี้ไปหมู่บ้านของเยี่ยเทียน


ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามาฆ่าเยี่ยเทียน เขาก็จะไม่เสียหายมากมายเช่นนี้ ชาญ ทองทวนสาบานว่า ตัวเองจะให้เยี่ยเทียนกินยางูก่อน หลังจากนั้นก็จะให้อาฮวากัดเยี่ยเทียน


พิษของเพชรฆาตงูจงอางไม่มียาใดสามารถรักษาได้ แต่ถ้าได้กินยาพิเศษของชาญ ทองทวนแล้ว จุดสำคัญของคนก็จะถูกทำลายได้ ไม่มีอะไรสามารถเทียบได้กับความทรมานที่ได้เห็นร่างกายของตัวเอง กำลังมีบางอย่างเกิดขึ้น


วิธีการนี้อาจจะทำให้คนรู้สึกคันอย่างมาก คันชนิดที่ไม่สามารถหาอะไรมาเทียบได้ ถ้าเกิดเอามือไปเกาผิวหนังแล้วล่ะก็ ผิวหนังก็จะลอกคราบออกมา ชาญ ทองทวนเคยใช้วิธีการนี้กับคนหนึ่งร้องโหยหวนอยู่สามวันถึงจะตายจากไป


“จีจี……จีจี!”


มองดูชาญ ทองทวนที่ไม่แม้แต่จะสนใจการยั่วยุของตัวเอง เหมาโถวรู้สึกไม่เป็นอย่างที่หวัง ทำหน้ามุ่ยแล้วส่ายตูดน้อยๆ ของมันไปที่ชาญ ทองทวนทีสองที


แต่เห็นว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้สนใจแมลงมีพิษที่อยู่บนพื้นแล้วแต่กลับเดินต่อไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เหมาโถวทำได้แค่ลงมาบนพื้นด้วยความแค้นใจ เขมือบแมลงที่เหลืออยู่เข้าท้อง


จนกระทั่งชาญ ทองทวนไปเอากล่องใบหนึ่งที่มีแมลงมีพิษที่ถูกกินไปหมดแล้ว กินอิ่มจนเรอออกมาเหมาโถวก็ยังไม่พอใจ ยังคงเดินตามชาญ ทองทวนและทั้งสองคนอย่างเงียบๆ


ห้าหกนาทีผ่านไป ชาญ ทองทวนก็เดินมาถึงกำแพงรั้วด้านนอกหมู่บ้าน เมื่อครู่หน้าผาที่สูงสิบกว่าเมตร ก็ขวางเขาไว้ไม่อยู่ แต่กำแพงรั้วที่สูงประมาณสามเมตรกว่าก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของชาญ ทองทวน


เสริมการวิ่งเข้าไปหนึ่งที ร่างกายที่อ้วนๆ ของชาญ ทองทวนก็สามารถข้ามผ่านกำแพงรั้วนี้ไปได้ ชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง ยังคงใช้วิธีแปลกๆ ปีนข้ามกำแพงรั้วมา


หลังจากที่หล่นอยู่ตรงพื้น ชาญ ทองทวนก็ถอนหายใจ เพชรฆาตงูจงอางที่อยู่รอบเอวของเขาก็ค่อยๆ เลื้อยลงมา หางค่อยๆยื่นออกไป เลื้อยไปข้างหน้า


มาถึงภายในหมู่บ้าน ชาญ ทองทวนก็เริ่มกำเริบเสิบสานทำตามอำเภอใจอย่างไม่กลัวเกรงใดๆ เขาจะให้พวกคนที่อยู่ที่นี้ไม่ได้ตายดี ดังนั้นเลยปล่อยให้อาฮวาอยู่ที่ทางเดิน กัดทุกคนที่อยู่ตรงหน้าให้ตาย


แต่ว่าที่ทำให้ชาญ ทองทวนแปลกใจก็คือ หมูบ้านที่ใหญ่อย่างนี้ กับไม่มีใครอาศัยอยู่เลย มองไปรอบด้าน ชาญ ทองทวน ถอนหายใจ เพชรฆาตงูจงอางที่อยู่บนพื้นก็เลื้อยไปยังที่แสงสว่างภายในห้องโถงใหญ่ของหมู่บ้าน


ห้องโถงใหญ่ที่ประตูเปิดไว้ ชาญ ทองทวนก็เดินเข้าไป ก็เห็นเยี่ยเทียนและจั่วเจียจวิ้นกำลังนั่งอยู่บนโซฟา


เสียงโห่ร้อง นึกไม่ถึงว่าจะมีผู้ฝึกฝนวิชามวยวูซูอยู่ งั้นดีเลย อาฮวาของฉันชอบกินเนื้อแบบนี้ที่สุด


พวกหัวหน้าอาจารย์ไม่ให้ความสำคัญกับการฝึกฝนด้วยตัวเอง จนถึงเวลานี้ ชาญ ทองทวน เพิ่งจะรับรู้ได้ถึงในร่างกายของจั่วเจียจวิ้น ที่เลือดกำลังสูบฉีด ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา


จนกระทั่งเยี่ยเทียนระงับพลังไว้ภายใน ไม่ให้แพร่งพลายออกไปชาญ ทองทวนมองว่าเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป มุ่งความสนใจไปที่ร่างกายเจ้าผู้เฒ่าสูบผอมคนนั้น


“แก แกมันเป็นคนอย่างไรกันแน่ทำไมถึงมาบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของชาวบ้าน”


เยี่ยเทียนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาลุกขึ้นยืนขึ้นมา น้ำเสียงตำหนิกลับทำให้จั่วเจียจวิ้นยิ้มไม่ออก สถานการณ์แบบนี้แล้ว ศิษย์น้องยังมีอารมณ์ที่แสดงละครกับฝั่งตรงข้ามอีกหรอ


……


ตอนที่ 318 ประลองฝีมือ (3)

โดย

Ink Stone_Fantasy

“แกคือเยี่ยเทียนรึ?”


ชาญ ทองทวนเอียงคอมองไปทางเยี่ยเทียน น้ำเสียงเสียดหูราวกับโลหะกระทบกันนั้นเอ่ยขึ้น แม้สำเนียงจะฟังดูแปร่งๆ แต่ที่พูดออกมาก็ยังคงเป็นภาษาจีนกลาง


สมัยหนุ่มชาญ ทองทวนเคยติดตามอาจารย์ไปอาศัยอยู่ในแถบชายแดนระหว่างจีนและอินเดียเป็นเวลานาน ตอนนั้นจึงได้หัดพูดภาษาจีนกลาง แต่เพราะไม่ได้ใช้มาหลายสิบปีแล้ว ตอนนี้จึงพูดผิดเพี้ยนไปมาก


“ฉันนี่แหละเยี่ยเทียน แก…แกคิดจะทำอะไร?”


เยี่ยเทียนถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าเผยความหวาดหวั่นออกมาซึ่งก็สมกับอายุของเขาแล้ว ทำให้ชาญ ทองทวนพอใจอย่างมาก ยิ่งเห็นเยี่ยเทียนหวาดกลัวเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเบิกบานใจมากขึ้นเท่านั้น


“ฮ่าๆ…”


ชาญ ทองทวนหัวเราะจนไขมันทั่วร่างกระเพื่อม แต่เมื่อนึกถึงหนอนพิษหลังภูเขาที่โดนเจ้าสัตว์ประหลาด นั่นกินไปจนหมด ในใจก็เกิดเพลิงโทสะขึ้นมาทันที ชาญ ทองทวนหยุดหัวเราะ แล้วตอบเสียงเย็นเยียบ


“ฉันก็คิดจะ…เอาชีวิตแกไง!”


แม้ว่าข้างกายเยี่ยเทียนจะยังมียอดฝีมือวิชากำลังภายในผู้มีเลือดลมเปี่ยมพลังยืนอยู่อีกคนหนึ่ง แต่ชาญ ทองทวนก็ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด เขาเชื่อมั่นว่า ‘อาฮวา’ ที่อาจารย์ทุ่มเทพลังทั้งชีวิตหล่อหลอมขึ้นมานั้น คงสามารถฉีกร่างเจ้าคนนั้นเป็นชิ้นๆ ได้อย่างสบายอยู่แล้ว


เยี่ยเทียนมองไปที่งูจงอางที่กำลังยกตัวชูคออยู่บนพื้น แล้วตะโกนเสียงดัง “อย่าฆ่าฉันนะ ให้…ให้งูตัวนี้ไปให้พ้น ฉันมีเงิน ฉันจ่ายเงินให้แกได้เยอะเลยละ!”


“เงิน?”


ชาญ ทองทวนนิ่งอึ้งไป เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว แต่ก่อนที่มันจะตายนั้นถ้าทำให้เงินของมัน กลายมาเป็นของตัวเองได้ละก็ แบบนั้นไม่ยิ่งดีกว่ารึ?


เมื่อคิดได้ดังนั้น รอยยิ้มเปี่ยมเมตตาผิดธรรมดาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชาญ ทองทวน จนดูเหมือนพระสังกัจจายน์ก็ไม่ปาน เขาพูดเสียงแผ่วเบาว่า “เอาเงินของแกออกมาให้หมดซิ แล้วฉันจะดูแลแกอย่างดีเลยละ!”


พอได้ยินเสียงพูดเพี้ยนๆ ของชาญทองทวน จั่วเจียจวิ้นก็ขมวดคิ้ว “เยี่ยเทียน นายไปมัวพูดกับมันทำไมน่ะ ? กำจัดเจ้าสองคนนี้ไปเสียก็สิ้นเรื่องแล้วนี่?”


เมื่อเห็นเยี่ยเทียนมัวแต่เจรจากับชาญทองทวน จั่วเจียจวิ้นก็ชักจะหงุดหงิด เขาไม่ได้รู้สึกว่าชายคนที่อยู่กับชาญ ทองทวนนั้นจะพิสดารตรงไหนเลย เมื่อได้เจอกับลูกศิษย์ของศัตรูในอดีต เขาก็คิดแต่จะจัดการทั้งแค้นเก่าแค้นใหม่ ให้หมดสิ้นไปพร้อมกันเลย


“แกอยากตายเรอะ!” ถึงชาญ ทองทวนจะฟังที่จั่วเจียจวิ้นพูดมาไม่ออกทั้งหมด แต่คำว่า ‘กำจัด’ นั้นเขาได้ยินอย่างชัดเจน ใบหน้าอันยิ้มแย้มนั้นจึงดูเหี้ยมเกรียมขึ้นมาทันที


“แกก็เห็นแล้ว เขา…เขาไม่ยอมให้ฉันให้เงินแกนี่…” เยี่ยเทียนพูดกับชาญทองทวนพลางแบมือทั้งสองข้าง และทำหน้าเหมือนกับจนปัญญาแล้ว


“ถ้ามันตายไป แกก็คงจะให้ได้แล้วละนะ”


ชาญ ทองทวนสีหน้าเย็นชา เปล่งเสียงร้องออกมาเสียงแหลมสูงอย่างประหลาด ชี้นิ้วไปที่จั่วเจียจวิ้น แล้วหันหน้าไปสั่ง ‘อาฮวา’ ว่า “อาฮวา ฆ่ามันซะ!”


“โฮก!”


พอได้ยินคำสั่งของชาญทองทวน ชายวัยกลางคนที่ยืนก้มหน้าตามหลังเขามาตลอดคนนั้น ก็เงยหน้ามองไปที่จั่วเจียจวิ้นทันที ดวงตาที่ตอนแรกปราศจากความรู้สึกใดๆ ยามนี้กลับแดงฉานขึ้นมา ราวกับเป็นนัยน์ตาโลหิตคู่หนึ่งก็ไม่ปาน


ขณะเดียวกัน พลังปราณพิฆาตอันมหาศาลที่แฝงอยู่ในร่างของ ‘อาฮวา’ ก็แผ่ซ่านออกมา แล้วพุ่งไปสกัดร่างของจั่วเจียจวิ้นที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าเมตรไว้ อุณหภูมิทั่วทั้งห้องโถงนั้นลดฮวบลงไปในฉับพลัน


“เจ้า…เจ้านี่มันเป็นใครกัน?”


จั่วเจียจวิ้นเองก็ตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้เช่นกัน เขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า ในร่างของ ‘คนเป็นๆ’ คนหนึ่งจะสามารถเก็บงำปราณพิฆาตรุนแรงไว้ได้ถึงขนาดนี้ ถึงขั้นสูสีกับง้าวที่อยู่ในห้องรับแขกเล่มนั้นเลยทีเดียว


แต่จั่วเจียจวิ้นเพิ่งจะได้เรียนวิชาพลังภายในคุ้มกายมาจากเยี่ยเทียน ปราณพิฆาตระดับนี้จึงส่งผลกระทบต่อเขา ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ใช้วิชาคุณไสย จั่วเจียจวิ้นก็ไม่กลัวเจ้านั่นอยู่แล้ว


“ตึง!ตึง!ตึง!”


อาฮวาก้าวเท้าเดินเข้าไปหาจั่วเจียจวิ้น เขาไม่ได้เคลื่อนไหวรวดเร็วนัก แต่ฝีเท้านั้นหนักหน่วงอย่างยิ่ง จนพื้นหินอ่อนบริเวณที่เขาเดินผ่านไปนั้นถึงกับแตกร้าวไปหมด


เยี่ยเทียนมองดูมนุษย์ประหลาดที่อยู่เบื้องหน้า แล้วกระซิบว่า “ศิษย์พี่ ผมจะเริ่มใช้ค่ายกลละนะ!”


ขณะนั้นเยี่ยเทียนมีสีหน้าเคร่งเครียด ร่างกายของคนผู้นี้อยู่เหนือเกินกว่าขีดจำกัดที่มนุษย์จะจินตนาการได้แล้ว ลำพังแค่พลังของร่างกายก็แกร่งกร้าวได้ถึงขนาดนี้เลย!


จั่วเจียจวิ้นส่ายหน้า “ช้าก่อน ศิษย์น้องเยี่ย ให้พี่ลองเจอกับเจ้านี่ดูก่อน!”


จั่วเจียจวิ้นในช่วงวัยกลางคนเคยท่องเที่ยวไปตามประเทศต่างๆ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์โยคะจากอินเดียหรือยอดนักมวยไทยจากประเทศไทยก็เคยประมือด้วยมาแล้วทั้งนั้น จึงมีประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน แม้จะเห็นว่าคนผู้นี้มีฝีเท้าหนักหน่วงขนาดไหน แต่ก็ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมา


ควรทราบว่า ถ้าจั่วเจียจวิ้นรวบรวมพลังภายในไว้ที่ขาทั้งสองข้างแล้วเดินย่ำพื้นไปบ้าง ก็คงจะทำให้พื้นเสียหายหนักยิ่งกว่าที่ชายคนนี้ทำเสียอีก แค่นี้น่ะขู่เขาไม่ได้หรอก


“ศิษย์พี่ ระวังหน่อยนะครับ ผมกลัวว่ามันจะมีลูกไม้อะไรอีก…”


เยี่ยเทียนพยักหน้าตอบตกลง ‘คน’ ผู้นี้เคลื่อนไหวเชื่องช้า ด้านวิชาท่าร่างคงจะสู้จั่วเจียจวิ้นไม่ได้แน่นอน เขาเองก็อยากเห็นสองคนนี้ประมือกันอยู่เหมือนกัน จะได้เห็นชัดๆ ไปเลยว่า ‘คน’ ที่มีปราณพิฆาตปกคลุมอยู่ทั่วร่างผู้นี้ เป็นตัวอะไรกันแน่?


“วางใจเถอะศิษย์น้องเยี่ย ช่วยหนุนหลังให้ทีนะ คอยจับตาดูมันไว้…” จั่วเจียจวิ้นถอดเสื้อคลุมออก แล้วเดินช้าๆ เข้าไปหาเจ้าคนที่ชาญ ทองทวนเรียกว่าอาฮวา


เช่นเดียวกับการก้าวเดินของอาฮวา ฝ่ายจั่วเจียจวิ้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า สองเท้าย่ำลงไปดัง “ตึงๆ” จนพื้นหินอ่อนแตกแยกเป็นชิ้นๆ


ห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์ของถังเหวินหย่วนนี่นับว่าซวยหนักเลยทีเดียว ตอนแรกก็โดนง้าวของเยี่ยเทียนแทงจนเป็นรู แล้วยังมาโดนสองคนนี้ทำลายอีก จนพื้นห้องดูเหมือนกองเศษหินก็ไม่ปาน


“รับนี่ไปซะ!”


แม้จะเป็นศัตรูคู่อาฆาต แต่จั่วเจียจวิ้นก็ไม่ได้เสียมารยาท สองมือประสานคารวะ แล้วมือขวาก็เปลี่ยนจากกำหมัดเป็นฝ่ามือ ส่งฝ่ามือนั้นออกไปโจมตีใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามทันที


“วิชาฝ่ามือไท่อี่ปาเหมิน? ศิษย์พี่ก็เป็นอยู่หลายวิชาเลยนี่นา!”


เมื่อเห็นกระบวนท่าของจั่วเจียจวิ้น เยี่ยเทียนก็ตะลึงอึ้งไป วิชาฝ่ามือที่จั่วเจียจวิ้นใช้นั้นคือวิชาฝ่ามือประจำสำนัก อู่ตังไท่อี่เถี่ยซง และก็เป็นวิชาฝ่ามือที่ใช้พลังภายในวิชาหนึ่งเช่นกัน


สุภาษิตกล่าวไว้ว่า ‘ยอมรับสิบหมัด แต่ไม่ยอมรับหนึ่งฝ่ามือ หมัดโจมตีเพียงผิวเผิน ฝ่ามือโจมตีถึงภายใน’ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า วิชาฝ่ามือมีพลังโจมตีที่น่าตะลึงเพียงใด ที่จั่วเจียจวิ้นปล่อยฝ่ามือออกไปนั้นดูเหมือนจะเบาแต่แรง แท้จริงแล้วเก็บงำพลังไว้ภายใน จนกระทั่งโจมตีไปถึงฝ่ายตรงข้ามแล้ว พลังถึงจะแผ่พุ่งออกมา


ตอนที่จั่วเจียจวิ้นเปลี่ยนจากหมัดเป็นฝ่ามือนั้น เขาเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นต่อเนื่องกัน คนที่ชื่ออาฮวานั้นเหมือนจะยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกฝ่ามือนั้นโจมตีไปที่ใบหน้าแล้ว


เมื่อรู้สึกว่าฝ่ามือสัมผัสถูกใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามแล้ว จั่วเจียจวิ้นก็ออกแรงต้านที่ใจกลางฝ่ามือ พลังภายในแผ่พุ่งออกมา ฝ่ามือที่ตอนแรกดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงนั้น กลับกลายเป็นแข็งแกร่งดั่งเพชรขึ้นมาทันที


“ฮืออะ…อะไรกันเนี่ย?”


หลังจากที่ฝ่ามือโจมตีถูกคู่ต่อสู้แล้ว ตามที่จั่วเจียจวิ้นคิดไว้ ฝ่ามือนี้น่าจะพอที่จะทำให้กระดูกใบหน้า ของฝ่ายตรงข้ามแตกหัก สมองสาดกระจายได้เลย แต่ความรู้สึกที่ฝ่ามือนั้น กลับเหมือนเขาโจมตีใส่เหล็กกล้าก็ไม่ปาน


“แย่ละ…”


หลังจากการโจมตีไร้ผล ทันใดนั้นจั่วเจียจวิ้นก็รู้สึกว่ามีลมแรงพัดมาหอบหนึ่ง และรู้สึกเจ็บที่หนังศีรษะนิดๆ เขารีบชักมือขวากลับไปประสานกับแขนซ้ายแล้วยันขึ้นไปพร้อมกันโดยที่ไม่ทันได้ไตร่ตรอง


“ครึ่ก…แคร่ก!”


เสียงกระดูกหักดังออกมาจากแขนทั้งสองข้างของจั่วเจียจวิ้น ร่างทั้งร่างของเขาก็ดูราวกับจะเตี้ยลงไปในฉับพลัน ความเจ็บปวดรวดร้าวที่แล่นมาจากปลายแขนทำให้จั่วเจียจวิ้นอดร้องออกมาไม่ได้


“ศิษย์พี่?!”


เยี่ยเทียนเห็นสถานการณ์แล้วใจหายวาบ รีบสาวเท้าเข้าไปหา ยกขาขวาขึ้นมาอย่างว่องไว แล้วถีบไปที่หน้าอกของ ‘อาฮวา’ โดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว


“ทำไมแข็งอย่างนี้เนี่ย?”


พอถีบออกไปแล้ว เยี่ยเทียนก็รู้สึกเหมือนกับจั่วเจียจวิ้นไม่มีผิด ลูกถีบซึ่งแรงพอที่จะทำให้แผ่นหินแตกได้นั้น กลับเหมือนเหยียบลงไปบนกำแพงที่หล่อขึ้นจากเหล็กกล้า แรงสะท้อนกลับนั้นสะทือนจนขาขวาของเขาปวดขึ้นมานิดๆ


แต่ลูกถีบของเยี่ยเทียนนี้ได้แรงส่งจากตอนที่วิ่งมา จึงมีพลังรุนแรงยิ่ง แม้จะไม่สามารถทำร้ายคนผู้นั้นได้ แต่ก็ทำให้ร่างของเขาถอยหลังไปหลายก้าว เยี่ยเทียนไม่กล้ารอช้า รีบพาจั่วเจียจวิ้นล่าถอยไปทันที


จั่วเจียจวิ้นยังสับสนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นอยู่ ส่วนเยี่ยเทียนนั้นมองออกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วเกินไป เร็วจนเขาเองก็หยุดยั้งไว้ไม่ทัน


เมื่อครู่นี้ขณะที่ฝ่ามือของจั่วเจียจวิ้นโจมตีไปที่ใบหน้าของคนผู้นั้น เยี่ยเทียนก็เข้าใจเหมือนกันว่า ฝ่ายนั้นถ้าไม่ตายก็คงต้องเจ็บหนักแน่


ควรทราบว่า นอกจากบริเวณหว่างขาแล้ว กระโหลกศีรษะและใบหน้าเป็นตำแหน่งที่อ่อนแอที่สุดบนร่างกาย อย่าว่าแต่ถูกยอดฝีมืออย่างจั่วเจียจวิ้นโจมตีเลย แค่โดนฝ่ามือของคนธรรมดาฟาดเข้าให้ ก็คงสลบไปครึ่งวันแล้ว


แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับเกินกว่าที่เยี่ยเทียนจินตนาการไว้ หลังจาก ‘คน’ ที่ชื่ออาฮวารับฝ่ามือนั้นไปแล้ว ศีรษะกลับไม่แม้แต่จะเขยื้อนเลยสักนิด แต่กลับชูแขนขวาขึ้นสูง แล้วเหวี่ยงลงมาใส่จั่วเจียจวิ้น


อาฮวาสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบกว่าเซนติเมตร ส่วนจั่วเจียจวิ้นสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร แขนที่ฟันลงมาครั้งนี้จึงหนักมากถึงพันชั่ง ราวกับภูเขาไท่ซานทับลงมาก็ไม่ปาน


จั่วเจียจวิ้นแม้จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วยิ่ง โดยใช้ปลายแขนทั้งสองข้างต้านทานไว้ แต่ก็ยังถูกพลังอันมหาศาลนั้นโจมตีจนพื้นหินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าแตกละเอียด น่องขาทั้งสองข้างก็จมลงไปด้วย จึงดูเหมือนกับว่าร่างของเขาเตี้ยลงไปอย่างกะทันหัน


“ศิษย์พี่ เป็นยังไงบ้างครับ?”


เยี่ยเทียนถอยไปอยู่ข้างหลังโซฟาแล้วถึงจะหยุดฝีเท้าลง เมื่อดูที่ปลายแขนของจั่วเจียจวิ้น ก็เห็นว่าแขนเสื้อบริเวณนั้นฉีกออกจากกันไปแล้ว และปลายแขนของจั่วเจียจวิ้นก็เละเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน


เหงื่อเย็นเยียบผุดออกมาบนหน้าผากของจั่วเจียจวิ้น เขากลั้นใจตอบไปว่า “แขนขวาหักไปแล้ว บาดเจ็บถึงกระดูก!”


การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามเมื่อครู่นั้น ทำให้จั่วเจียจวิ้นรู้สึกราวกับถูกศิลาก้อนยักษ์หล่นลงมาทับจากบนฟ้าก็ไม่ปาน ไม่ใช่แค่แขนหักเท่านั้น อวัยวะภายในของเขายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย เพียงแต่เขาไม่ได้พูดออกไปเท่านั้น


“อาฮวา กลับมา เคี้ยกๆ เจ้าหนุ่ม ที่แท้แกก็มีวิทยายุทธเหมือนกันเรอะ?”


เสียงหัวเราะเพี้ยนๆ แสนจะไม่น่าฟังของชาญ ทองทวนดังขึ้นมา เขาเรียกอาฮวากลับไป แล้วตะโกนขึ้นว่า “อย่างนั้นก็ดี ลูกรักของฉันน่ะชอบหัวใจของคนฝึกวรยุทธที่สุดเลย พวกแกสองคนจะได้ตายพร้อมๆ กันไปเลย!”


พลังโจมตีที่เยี่ยเทียนแสดงให้เห็นเมื่อครู่นี้ทำให้ชาญ ทองทวนอึ้งไปเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ถ้ามีอาฮวาอยู่ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีสักกี่คนก็ฆ่าได้หมดอยู่แล้ว


“จีๆ จีๆ!”


ขณะที่ชาญ ทองทวนกำลังจะสั่งให้คนผู้นั้นออกไปจัดการ เงาสีขาวเงาหนึ่งก็พุ่งวาบมาจากประตู กรงเล็บข้างหนึ่งตะครุบหางของงูจงอางตัวนั้นไว้


โดยไม่รอให้งูจงอางได้ทันตอบโต้ เงาสีขาวนั้นก็กระโจนจากพื้นอย่างรวดเร็วปานสาบฟ้าแลบ และเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยเทียน


เยี่ยเทียนมองดูเหมาโถวที่กำลังใช้ปากดูดเลือดที่ติดอยู่บนอุ้งเท้า แล้วพูดขึ้นอย่างทั้งขำทั้งนึกฉุน “เจ้าโสโครกนี่ รสนิยมการกินของแกนี่ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ”


……

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)