ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 253-256

 บทที่ 253 ฉินเจ้าพ่อประมง

โดย

Ink Stone_Fantasy

“เมนูนี้ทำง่ายมาก ผมช่วยพวกคุณแล้วกันนะ”อาร์ม็องพูดด้วยรอยยิ้มอย่างตรงไปตรงมา


เนื้อหอยเชลล์ควักออกมาล้างหมดแล้ว แบบนี้ก็สามารถเอามาใช้ได้เลย ในกล่องเครื่องครัวของอาร์ม็องมีเครื่องปรุงแทบทุกอย่าง แล้วยังมีขวดไวน์ทำอาหารทะเลเล็กๆ ด้วย


เขาเอาเนื้อหอยเชลล์มาหมักกับไวน์และเกลือครู่หนึ่ง ใช้เปลือกหอยเป็นกระทะผัด พอน้ำมันมะกอกร้อนแล้วก็ใส่พริกซอย กระเทียมลงไปผัดแล้วใส่ซีอิ๊วกับน้ำส้มสายชูและเอาออกมาพักไว้


อาร์ม็องเอาวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปที่เจอได้ทั่วไปในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตแคนาดาออกมา หลังจากใช้น้ำร้อนแช่จนพองแล้วก็ใส่ลงไปในเปลือกหอย จากนั้นก็ใส่เนื้อหอยเชลล์ที่หมักเรียบร้อยแล้วลงไป ตามด้วยการโรยพริกที่ผัดสุกแล้ว กระเทียมสับ เครื่องปรุงลงบนเนื้อ


สุดท้ายเจ้านี่ก็เอากาน้ำอัดเล็กที่แบนราบแบบที่ใช้ในค่ายทหารออกมา ฉินสือโอวนึกว่าข้างในเป็นเหล้า ปรากฏว่าที่เทออกมาคือซุปไก่สีเหลืองอ่อน…


อาร์ม็องยังยิ้มแล้วพูดกับฉินสือโอวด้วยว่า “นี่เป็นไม้ตายของผม ใช้ซุปไก่ต้ม รสชาติจะดีกว่า”


ฉินสือโอวมองกล่องใบเล็กน่าพิศวงนั้นด้วยสีหน้าตะลึงงัน พักหนึ่งถึงพูดขึ้น “เพื่อน นั่นคือกล่องสารพัดอย่างหรือไง?”


อาร์ม็องหัวเราะออกมาแล้วอธิบาย “ผมพกกล่องสองกล่องติดตัวตลอด กล่องหนึ่งเป็นกล่องยาเล็กๆ ส่วนอีกกล่องเป็นกล่องเครื่องปรุง กล่องหนึ่งรักษาชีวิต อีกกล่องรักษาวิถีชีวิต”


ไม่ต้องใช้หม้อนึ่ง วางไว้บนเตาย่างก็เหมือนกัน ไม่นานกลิ่นหอมของหอยเชลล์ก็โชยออกมา อาร์ม็องชิมนิดหน่อยแล้วพยักหน้าให้ฉินสือโอว หยิบกล่องเล็กนั้นขึ้นมาแล้วก็กลับลงไปที่แพของเขา


ฉินสือโอวชวนเขาให้กินด้วยกัน อาร์ม็องปฏิเสธว่า “ผมไปหาปลามาร์ลินแถวนี้ดีกว่า ถ้าโดนพวกอเมริกันตกได้ไป น่าเสียดายน่าดู”


นั่นทำให้ฉินสือโอวแอบรู้สึกผิด ปลามาร์ลินตัวนั้นในตอนนี้ก็กำลังซ่อนตัวอยู่ก้นทะเลใต้เรือหาปลาเงียบๆ นั่นล่ะ นายหาไม่เจอหรอก


ส่งอาร์ม็องกลับไป ฉินสือโอวก็หันกลับมาเห็นทั้งสี่คนรวมนีลเซ็นที่กำลังก้มหน้าก้มตาเริ่มกินหอยเชลล์คนละตัว เขาเลยโกรธขึ้นมาทันที “ไอ้พวกขี้โกง ไหนว่าจะเริ่มกินพร้อมกันไง?”


พวกเขากินหอยเชลล์รสเลิศ ส่วนเหล่านักตกปลาก็กำลังวุ่น และต้นเหตุของทั้งหมดก็มาจากปลามาร์ลินตัวโตที่กำลังซ่อนอยู่ก้นทะเลพักผ่อนสบายใจเฉิบ


ฝีมืออาร์ม็องดีมาก ปรุงรสได้พอดี วุ้นเส้นที่แช่ซุปไก่ทั้งนุ่มและหอม หอยเชลล์สดมากๆ กินคู่กับพริกและกระเทียมสับ เนื้อหอยไม่มีกลิ่นคาวเลย มีแต่รสสดอร่อยและกลิ่นหอม


พอกินอิ่ม ฉินสือโอวก็ไปตามรวบรวมทูน่าครีบน้ำเงินในบริเวณรอบๆ ต่อ


เหล่านักตกปลาหาปลามาร์ลินไม่เจอเลยพากันคอตกกลับไปตกปลาในเขตทะเลตัวเอง พวกเขากรุ่นในใจ โยนเหยื่อลงทะเลต่ออย่างสุดแรงเพื่อล่อปลาใหญ่ออกมา


แต่ว่าตกปลาได้เสียที่ไหนล่ะ? พอปลาทูน่าพวกนี้โผล่หน้ามา ไม่ว่าเล็กใหญ่ฉินสือโอวก็เอาไปหมด ไม่เหลือแม้แต่เกล็ดปลาให้พวกเขาสักอันเดียว


แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่ทำอะไรสุดโต่งเกินไป นักตกปลาเยอะขนาดนี้อยู่ที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จมาสองวันแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ปลาเลย แบบนี้ก็แปลกเกินไปแล้ว


ตอนบ่ายเขาเห็นฉลามหนามตัวหนึ่ง เลยใช้จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมให้ไปอยู่ใต้เรือตกปลาลำหนึ่งแล้วดึงจิตสำนึกโพไซดอนกลับมา


นี่คือวิธีสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่เขาหาได้ ในสถานการณ์แบบนี้ พลังของหัวใจโพไซดอนไม่ได้ถูกลด เพราะจิตสำนึกโพไซดอนไม่ได้ควบคุมมันให้ไปตาย


คนพวกนั้นบนเรือตกปลาตื่นเต้นกันเสียเป็นส่วนใหญ่ นึกว่าจะเจอทูน่าครีบน้ำเงินจึงโยนเหยื่อลงน้ำเอาเป็นเอาตาย มีคนเอาปลาแฮลิบัตเสียบใส่ตะขอแล้วโยนลงน้ำพลางร้องตะโกน “อย่าปล่อยมันไป! จับปลาทูน่าสมควรตายนั่นให้ได้! ให้ไอ้คนแคนาดานั่นหน้าแตกไปเลย!”


ฉลามหนามก็เป็นปลาที่ค่อนข้างโลภ เห็นเหยื่อล่อเยอะขนาดนี้ก็ดีใจ อ้าปากโตกินอย่างตะกละ กินทุกชิ้นตั้งแต่ต้นยันจบจากนั้นก็กินปลาแฮลิบัตตัวนั้น


พวกชาวประมงเห็นเรือตกปลาวุ่นกันขึ้นมาก็พากันหยิบกล้องโทรทรรศน์มาส่องดู ชาลส์มาหาฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “เพื่อน สถานการณ์ไม่ดีแล้ว พวกนั้นดูเหมือนจะเจอทูน่าครีบน้ำเงินแล้ว”


ฉินสือโอวยิ้มก่อนจะตอบ “เหรอ งั้นก็ถือว่าพวกนั้นโชคดี วันนี้นายได้อะไรมาบ้าง?”


เขาใช้จิตสำนึกโพไซดอนคุมทะเลในเขตชายหาดน้ำตื้นจอร์จมาตลอด ปลาที่เรือทุกลำตกได้ก็รู้ดี ชาลส์โชคดีไม่เบา ตอนกลางวันได้ปลาขนาดกลางประมาณสี่ร้อยปอนด์มาตัวหนึ่ง


เป็นอย่างที่คิด พอได้ยินเขาถามแบบนั้น ชาลส์ก็ตอบกลับมาอย่างภูมิใจ “ฉันได้โชคจากนายมา เพื่อน โชคดีของนายแบ่งมาหาฉันด้วย เมื่อตอนกลางวันเซรีน่าตกได้ตัวหนึ่ง ฮ่ะ ไอ้เจ้านั่นน่ะโง่สุดๆ ตอนนั้นในตะขอเบ็ดเสียบปลาหมึกชิ้นหนึ่งไว้ แต่เจ้านั่นก็ติดเบ็ดจนได้ ฮ่ะๆ ”


ฉินสือโอวพูดว่า “งั้นก็ยินดีด้วย”


ชาลส์กลัวว่าฉินสือโอวจะไม่สบายใจจึงอธิบายว่า “ฉันก็ยังต้องขอบคุณนายมากๆ เหยื่อปลาพวกนี้ฉันทำตามสูตรที่นายให้ไว้ ใช้น้ำมันงาผสมเลือดวัวโรยหน้าไว้ ต้องบอกว่าล่อปลาได้ดีมากจริงๆ ”


ฉินสือโอวใบ้กินยิ้มไม่ออก นี่มันสูตรลับอะไรที่ไหน เขาพูดมั่วๆ ต่างหากล่ะ


ทั้งสองคุยเล่นกันครู่หนึ่ง จู่ๆ ทางเรือตกปลาอาร์บีเอฟเอฟก็สงบลง ฉินสือโอวรู้ว่าพวกเขารู้แล้วว่าที่ตกได้ไม่ใช่ทูน่าครีบน้ำเงินแต่เป็นฉลามหนาม ตะขอก็เก็บแล้ว


ชาลส์ไม่รู้ ฉะนั้นพอมีคนพูดว่าพวกนักตกปลานึกว่าฉลามหนามเป็นทูน่าครีบน้ำเงินในช่องวิทยุสาธารณะ เขาก็หัวเราะเสียงดังออกมาว่า “เจ้าพวกโง่พวกนั้น แค่ทูน่าครีบน้ำเงินกับฉลามหนามก็แยกไม่ออกเหรอ?”


ไม่ได้อะไรกลับมาเลย เหล่านักตกปลาค่อยๆ สูญเสียแรงผลักดันไป การโปรยเหยื่อช้ากว่าเดิมลงเยอะ


ความเร็วที่ทางฉินสือโอวหาปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ช้าลง เพียงแต่พอถึงตอนเย็น นับรวมแล้ววันนี้ก็ยังหาทูน่าครีบน้ำเงินได้ยี่สิบสองตัว ส่วนมากเป็นปลาเล็กที่ความยาวไม่พอ


เพราะคืนนี้ต้องค้างคืนกลางทะเล ฉะนั้นฉินสือโอวเลยไม่ได้เก็บเบ็ดตกปลาขึ้นมา ตอนที่เขานั่งดูพระอาทิตย์ตกบนดาดฟ้านั้นเอง เอ็นเบ็ดก็เริ่มถูกดึงออกไป


ชาร์คกดวงล้อไว้พลางตะโกน “มีปลาติดเบ็ดแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว!”


ฉินสือโอวไม่ได้ใช้จิตสำนึกโพไซดอนไปดู ไม่จำเป็น ออกมาแล้วก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้าง ไม่อย่างนั้นคงไม่สมเหตุสมผล ถ้าปลาตัวนี้เป็นทูน่าครีบน้ำเงินก็ถือว่ามันซวยไปแล้วกัน ตอนแรกอยากจะใช้ปลามาร์ลินเป็นผลงาน แต่ตอนนี้ปลามาร์ลินมีประโยชน์สำคัญอย่างอื่น


ปรากฏว่าหลังจากสู้กัน สุดท้ายที่ดึงขึ้นมาก็เป็นทูน่าครีบเหลือง เป็นแบบเดียวกับต้าหวงที่เขาเลี้ยงไว้ที่ฟาร์มปลา ขนาดก็พอๆ กัน ยาวถึงสองเมตร อวบอ้วนกำยำ น้ำหนักอย่างน้อยสี่ร้อยห้าสิบปอนด์


ชาวประมงคนอื่นๆ เห็นความวุ่นวายบนเรือประมงสโนว์บอล รอจนตกปลาขึ้นมาได้ก็มีคนถามฉินสือโอวว่าเป็นปลาอะไร ฉินสือโอวตอบ “โอ้ โชคของฉันโดนชาลส์เอาไปแล้ว เป็นปลาทูน่าครีบเหลืองไม่ใช่ทูน่าครีบน้ำเงิน”


ในหมู่ปลาทูน่า ที่มีค่าหน่อยก็คือทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ ปลาทูน่าตาโต และทูน่าครีบเหลืองสี่ประเภทนี้ การจัดลำดับมูลค่าก็จัดตามนี้ ทูน่าครีบน้ำเงินแพงที่สุด ส่วนทูน่าครีบเหลืองถูกที่สุด


ปลาทูน่าเหล่านี้สามารถเอามาพวกทำซาชิมิ ปลาดิบได้ คุณภาพเนื้อที่ดีที่สุดก็คือทูน่าครีบน้ำเงิน ที่นิยมที่สุดในตลาดคือทูน่าครีบเหลือง ร้านอาหารหลายที่ใช้เนื้อปลาทูน่าครีบเหลืองแล้วบอกว่าเป็นทูน่าครีบน้ำเงิน


ถ้าน้ำหนักเท่ากัน ราคาของทูน่าครีบเหลืองเทียบไม่ได้ในหนึ่งส่วนสี่ของทูน่าครีบน้ำเงิน หลักๆ ก็เพราะผลผลิตเยอะเกินไป อนุรักษ์ไว้ได้ดี


จับทูน่าครีบเหลืองได้สักตัวก็ยังดี ยังไงก็ได้ปลาแล้ว ดีกว่าพวกนักตกปลาที่ไม่ได้อะไรเลยตั้งเยอะ


น่าสงสารพวกนักตกปลาที่วันนี้ทำงานให้ฉินสือโอวฟรีๆ พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ต้องไปทำงานแล้ว คนพวกนี้ได้แต่กลับท่าเรือในตอนบ่ายอย่างหงุดหงิด เตรียมตัวรับความกดดันจากเจ้านาย


พอเรือตกปลาของนักตกปลาพวกนี้แล่นออกไป เหล่าชาวประมงที่ยังอยู่ในเขตทะเลต่างโห่ร้องดีใจในทันที มีคนไม่น้อยที่เปลี่ยนฉายาให้ฉินสือโอว ไม่เรียก ‘กัปตันโชคช่วย’ แล้ว เรียก ‘กัปตันกระดูกแข็ง’ แทน


ฉินสือโอวคุยเล่นกับพวกเขาผ่านช่องวิทยุสาธารณะครู่หนึ่ง ตอนกลางคืนไม่เหมาะที่จะตกปลาทูน่า เขาเลยเตรียมคุมกองกำลังทหารธงฟ้าไปหาเหรียญทอง


ปรากฏว่าพอจิตสำนึกโพไซดอนของเขาเคลื่อนไปอยู่ที่ร่างปลาในกองกำลัง เขาก็ต้องตกใจสุดขีด!


………………………………….


บทที่ 254 ยินดีให้มาหาเรื่อง

โดย

Ink Stone_Fantasy

ตอนนี้ เหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ชอบแหวกว่ายไปมาตามลำพังกลับว่ายมารวมตัวอยู่ด้วยกันอย่างเชื่องช้า และมองดูอย่างเฝ้าระวัง


ฉินสือโอวที่ย้ายพลังโพไซดอนของเขามาที่นี่ เมื่อได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เขารู้สึกได้ถึงความตื่นกลัวของเหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหล่านี้ เมื่อเขาหันตาไปมอง ก็ทำให้เข้าใจสถานการณ์ทันที ตรงพื้นที่ที่อยู่ห่างจากปลาทูน่าพวกนี้สองร้อยเมตรนั้น มีฉลามที่ดุดันตัวหนึ่งกำลังจ้องมองมาที่พวกมันแล้วน้ำลายไหลอยู่


ฉลามตัวนี้มีความยาวตัวประมาณสี่เมตรครึ่ง แผ่นหลังสีน้ำเงิน หน้าท้องสีขาว จมูกเป็นทรงกรวย ลำตัวทรงกลมมนมองไปแล้วดูกำยำมาก ในปากอันใหญ่โตนั้น ล้วนเต็มไปด้วยฟันทรงสี่หน้าปรกติที่แหลมคม


ฉลามพอบิเกิล!


เมื่อได้เห็นฉลามพอบิเกิลแล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกได้ทันทีว่าโชคร้ายกำลังมาเยือนแล้ว ปลาชนิดนี้มีอารมณ์ร้ายแรง พลังจู่โจมรุนแรง โดยมากจะล่าปลากระดูกแข็งเป็นอาหาร เช่นปลาซาบะ ปลาแฮร์ริ่ง ปลาแลนเซ็ตกับปลาไส้ตัก แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือปลาทูน่า


แรงจู่โจมของฉลามพอบิเกิลนั้นรุนแรงและขึ้นชื่อมาก เพราะมีหลายครั้งที่ตัวมันไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นอันตรายแต่กลับเข้าทำร้ายผู้คนที่กำลังว่ายน้ำ ดำน้ำ และโต้คลื่นอยู่ แม้กระทั่งเรือลำเล็กที่ล่องอยู่บนทะเลล้วนก็ถูกมันทำร้ายจนเสียชีวิตทั้งนั้น นี่ชี้ให้เห็นว่าการฆ่าของพวกมันนั้นไม่ใช่เพียงเพื่อล่าอาหารแต่เพื่อความสนุกอีกด้วย


ในความจริงแล้ว เพื่อนๆ ของบอลหิมะอย่างเจ้าไอซ์สเกตกับฉลามพอบิเกิลนั้นถือเป็นสัตว์วงศ์ตระกูลเดียวกัน ทั้งคู่ต่างก็อยู่ในวงศ์ฉลามเสือทรายทั้งคู่


นี่ก็คือเรื่องตลกในการตั้งชื่อของคน ฉลามพอบิเกิลที่โหดร้ายนั้นกลับมีคำว่า ‘หนู’ อยู่ในชื่อ (ในภาษาจีนเรียกฉลามพอบิเกิลว่าฉลามหนู) แต่ฉลามที่เป็นมิตร แรงจู่โจมน้อยนั้นกลับมีชื่อว่าฉลามเสือทราย


ฉลามพอบิเกิลตัวนี้น่าจะเห็นฝูงปลาพวกนี้ได้สักพักแล้ว ทำให้มันมีพฤติกรรมแปลกๆ อยู่ตลอดแบบนี้ แต่ที่มันยังไม่กล้าบุ่มบ่ามในการจู่โจมฝูงปลาพวกนี้ เพราะตอนนี้มีปลามาร์ลินที่รักในการจู่โจมเหยื่อมากกว่ามันอยู่เบื้องหน้า!


ปลามาร์ลินเป็นหนึ่งในปลาประเภทที่ไม่เกรงกลัวต่อฉลาม พวกมันใช้หัวที่มีรูปร่างแหลมเหมือนหอก ซึ่งทำให้มีพลังมากพอที่จะสู้กับฉลามที่มีฟันแหลมคมได้อย่างสูสี


ปลามาร์ลินแต่ละตัวสามารถมีขนาดตัวยาวได้ถึงสี่เมตร พวกมันทุกตัวต่างก็เคยผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาก่อน จำนวนฉลามที่พวกมันเคยฆ่านั้นมากจนนับไม่ถ้วนเลย


ปลามาร์ลินที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของปลาที่มีนิสัยดุดัน และในตอนนี้ก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับฉลามที่โหดร้าย แต่มันกลับไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีอำมหิต


ฉินสือโอวดีใจสุดขีด ไม่นึกไม่ฝันว่าเรื่องดีๆ ที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้จะทำให้เกิดผลดีขนาดนี้ ถ้าหากว่าไม่มีปลามาร์ลินแล้ว เหล่าปลากองทัพสีน้ำเงินของเขาคงได้รับความเสียหายอย่างหนักเป็นแน่


การประจันหน้ากันของทั้งสองฝ่ายตอนนี้ ก็เหมือนกับหมาป่าที่หิวโหยกำลังจ้องไปที่ฝูงแกะที่สมบูรณ์อยู่ แต่ฝูงแกะกลับมีหมาที่กล้าหาญกำลังปกป้องให้พวกมันปลอดภัยอยู่


ฉลามพอบิเกิลก็เหมือนหมาป่าที่หิวโหย พวกมันเป็นพวกรอโอกาส จู่โจมเร็ว แรง ว่ายไปรอบๆ ฝูงปลา ราวกับกำลังหาโอกาสที่เหมาะแก่การจู่โจมอยู่


เหล่าปลาทูน่านั้นแหวกว่ายมารวมกลุ่มกันเองโดยไม่ต้องมีหัวหน้ากลุ่มมาสั่ง ส่วนปลามาร์ลินนั้นก็กำลังว่ายตามฉลามพอบิเกิลติดๆ ขอเพียงแค่ฉลามพอบิเกิลจู่โจม มันก็พร้อมที่จะเข้าไปจัดการฉลามพอบิเกิลด้วยหอกบนหัวของมัน


ปลาเหล่านี้ต่างก็ถูกพลังโพไซดอนดัดแปลงแล้ว ทั้งความฉลาดและความสามารถนั้นมีมากเกินกว่าปลาทั่วไปมาก ไม่อย่างนั้นคงถูกฉลามพอบิเกิลไล่ไปตั้งนานแล้ว


ตอนนี้ฉลามพอบิเกิลก็เริ่มรวนแล้ว ดูท่านี่คงเป็นครั้งแรกที่มันมาเจอกับปลามาร์ลินที่รับมือยากแบบนี้ ตามปกติแล้ว การสู้กันระหว่างฉลามพอบิเกิลและปลามาร์ลินนั้นชัยชนะเป็นของฉลามพอบิเกิลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปลามาร์ลินที่มันเจอในครั้งนี้กลับเป็นปลามาร์ลินที่เก่งเรื่องการปะทะขนาดนี้ ถึงขั้นทำให้มันตกที่นั่งลำบาก


สิ่งที่แย่กว่านั้นคือหลังจากที่ฉินสือโอวมาถึง เขาได้ถ่ายพลังโพไซดอนจำนวนมากไปสู่ตัวปลามาร์ลิน ปลามาร์ลินตอนนี้ทำตัวเป็นเหมือนปลาประเภทที่ชอบพุ่งชน ‘ฟิ้ว’ เพียงครู่เดียวมันก็พุ่งออกไป!


ฉลามพอบิเกิลหลบการจู่โจมไปได้ แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เมื่อการพุ่งครั้งนี้ล้มเหลมันก็พุ่งเข้าใส่อีก ฉลามพอบิเกิลตามความเร็วมันไม่ทัน ทำให้โดนแทงด้วยหอกของปลามาร์ลินเต็มๆ แทงทีเดียวก็ทะลุตัวมันไป


เลือดสาดกระจาย ฉลามพอบิเกิลที่ได้รับความเจ็บปวดนั้น พยายามออกแรงเพื่อจะหักหอกที่อยู่บนหัวของปลามาร์ลิน แต่หลังจากที่ปลามาร์ลินแทงโดนตัวฉลามแล้วมันก็รีบถอยออกทันที ทำให้แผนของฉลามพอบิเกิลล้มเหลว


ในเวลานี้ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่มีนิสัยระมัดระวังตัวตลอดเวลาก็รีบคว้าโอกาสไว้ หลังจากปลามาร์ลินจู่โจมโดนตัวศัตรูแล้ว พวกมันก็รีบพุ่งตัวออกไปอย่างทันที พวกมันทุกตัวพุ่งชนไปที่ลำตัวส่วนท้องของฉลามพอบิเกิลทันที


ส่วนนี้คือส่วนที่บอบบางทีสุดของฉลามพอบิเกิล ส่วนท้องของพวกมันไม่มีไขมันมาปกป้องการโจมตีนี้ แถมยังเป็นส่วนที่มีอวัยวะภายในเยอะที่สุดอีก เมื่อถูกจู่โจมโดยปลาทูน่าครีบน้ำเงินแบบนี้ จึงทำให้อวัยวะเสียหายได้ง่าย


ฉลามพอบิเกิลหันหลังอยากหนี แต่ตอนนี้หนีไม่ทันแล้ว ปลามาร์ลินถือโอกาสนี้จู่โจมไปอีกที บวกกับการโจมตีของปลาทูน่าที่ไม่หยุดหย่อน ฉลามพอบิเกิลโดนรุมโจมตีทั้งจากซ้ายขวา แต่กลับหนีไม่ได้ ไม่นานมันก็ท้องหงายแล้วตายในทันที


ทั้งปลามาร์ลินและปลาทูน่าต่างก็เป็นสัตว์กินเนื้อ พอฉลามพอบิเกิลตายเท่านั้นพวกมันก็ไม่มีคำว่าเกรงใจ พากันอ้าปากตรงไปที่เนื้อบนตัวของฉลามพอบิเกิลแล้วเริ่มกินอาหารกัน


ฉินสือโอวมองอย่างออกรสออกชาติ ปลาพวกนี้ชักจะมีท่าทีเหมาะที่เป็นทหารสีน้ำเงินเข้าแล้วจริงๆ โดยเฉพาะปลามาร์ลิน ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทัพหน้า เพราะมันช่างกล้าหาญเหลือเกิน


หลังจากอิ่มหนำกันแล้ว ก็ถึงเวลาทำงาน ฉินสือโอวบังคับปลาพวกนี้ทำการขุดค้นบนเกาะกลางทะเล และยังใช้พลังโพไซดอนทำให้เกิดลมพายุเป็นครั้งคราว เขาทำอย่างนี้ไปเรื่อยจนถึงเที่ยงคืน แต่ก็ยังไม่พบสมบัติ


หลังจากปล่อยปลาพวกนี้ไป ฉินสือโอวไปสำรวจดูที่ฟาร์มปลาต้าฉิน สาหร่ายที่เคยปลูกก่อนหน้านี้กำลังเติบโตภายใต้แสงแดดจ้าที่ส่องมา เหล่าปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะและปลาค็อดที่ถูกส่งมาล็อตที่สองก็ไม่มีปัญหาอะไร


ที่สำคัญที่สุดคือปลาทูน่าครีบเหลืองคู่สามีภรรยา ตอนนี้พวกมันหลบอยู่ในพุ่มสาหร่ายแล้ว รอแค่ถึงเวลาฟักไข่เท่านั้น


แล้วยังปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ว่ายมาอาศัยอยู่ในฟาร์มปลาก็อยู่ได้อย่างมีความสุข ที่นี่ไม่มีศัตรูธรรมชาติ อาหารก็สมบูรณ์ พวกมันเพียงแค่ต้องกินอิ่มแล้วอยู่ไปวันๆ ก็พอแล้ว


ฉินสือโอวไม่ให้ปลาพวกนี้เข้าไปในพืดหินปะการัง ไม่อย่างนั้นบอลหิมะและไอซ์สเกตจะมีอันตรายได้ เจ้าสองตัวนี้ตอนนี้ยังไม่โตพอ ไม่มีแรงพอที่จะปกป้องตัวเองได้ หรือก็คือพวกมันจัดการกับพี่น้องฉลามแมวคู่นั้นได้ แต่หากเจอกับปลาตัวใหญ่มากๆ ก็ยังคงมีอันตราย


อีกอย่าง หอยนมสาวทะเลยักษ์ที่เป็นลูกรักของฉินสือโอว ‘เจ้าภูเขาไฟ’ ก็เป็นอาหารของปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหมือนกัน หากในกลุ่มพวกมันเกิดมีปลาตัวไหนเกิดมันเขี้ยวแล้วกินเจ้าภูเขาไฟขึ้นมา ฉินสือโอวคงอยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออกแน่ หอยนมสาวทะเลยักษ์ที่มีชีวิตตัวนี้ มีค่าอย่างน้อยก็ร้อยล้านเลยเชียว!


การนอนบนทะเลนั้นทำให้หลับได้ไม่ดี ทั้งการพัดโชกของลมทะเล การเคลื่อนไหวไม่หยุดของน้ำทะเล การนอนบนเรือนั้นก็เหมือนอยู่บนพื้นที่มีแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น แต่ฉินสือโอวใช้พลังโพไซดอนไปมากทำให้เขาง่วงและหมดแรง จึงทำให้เขาหลับผล็อยไป


นี่ถือเป็นโศกนาฏกรรมของเหล่าชาวประมง เมื่อถึงเทศกาลจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินของทุกปี พวกเขาต่างก็จะเหนื่อยเป็นพิเศษ ในหนึ่งวันจะมีเวลานอนเพียงสี่ถึงห้าชั่วโมงเท่านั้น ส่วนมากจะได้กลับถึงท่าเรือตอนแปดถึงเก้าโมง ยุ่งกับการเปลี่ยนน้ำแข็ง และฟื้นฟูเรือจนถึงเที่ยง พอสามถึงสี่โมงก็ออกเรือกันอีกรอบ


การนอนค้างคืนกันบนเรือกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่พวกเขาจะได้พักผ่อน แม้เรือเล็กจะโยกไปมาอย่างบ้าคลั่ง แต่พวกเขาต่างก็ชินแล้ว


พอวันที่สองเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องมาพวกเขาก็ต้องตื่นนอน เพราะพอสว่างเหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็จะเริ่มออกล่าอาหาร กลางคืนพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในใต้ท้องทะเลลึก


แต่ฉินสือโอวยังคงนอนจนถึงหกโมงเช้าเหมือนเดิม หู่จือกับเป้าจือวิ่งโหวกเหวกไปมารอบตัวฉงต้า ต้าป๋ายที่โดนเจ้าสองตัวนี้ก่อกวนก็เริ่มทนไม่ไหวปีนไปบนตัวฉงต้าบ้าง จากนั้นเหล่ากองเชีย์พวกนี้ก็ไปกัดฉงต้าเบาๆ


ฉงต้าหนังหนาเนื้อแน่น ยังคงปิดตาหลับต่อไป ฉินสือโอวบีบไปที่หูใบเล็กของมัน มันยกอุ้งมือปัดแขนของฉินสือโอวออก แล้วก็ยังคงหลับต่อไป


ฉินสือโอวเดินออกจากห้องโดยสารเรืออยากสุขใจ ห้องโดยสารของเรือยอชต์สำหรับตกปลานั้นแคบเกินไป เมื่อคืนคนทั้งห้าคนต่างก็แยกกันนอน อีวิลสัน ชาร์ค และซีมอนสเตอร์ล้วนกางเต็นท์นอนกันบนกราบเรือและท้ายเรือ


นกที่ตื่นเช้ามักจะมีหนอนกินเสมอ และก็เป็นไปตามนั้น การตกเบ็ดแต่เช้า ไม่นานก็มีปลาทูน่าครีบเหลืองมาติดเบ็ด


ฉินสือโอวเกาหัวเบาๆ ทำไมอยู่ดีๆ ปลาทูน่าครีบเหลืองถึงมีจำนวนมากขึ้นกะทันหันแบบนี้?


เมื่อถึงเวลาเจ็ดแปดโมง ก็เห็นเรือยอชต์ตกปลาสีขาวหลายลำขับเข้ามาแต่ไกล ฉินสือโอวเห็นแล้วก็ดีใจขึ้นมาทันที ว้าว นี่ไม่ใช่เหล่านักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟเหรอ? คนพวกนี้ไม่กลับไปทำงานกันหรือไง?


เมื่อเป็นแบบนี้ ฉินสือโอวก็มั่นใจว่าพวกเขาคงจะมาหาเรื่องแน่นอน หากไม่ใช่ก็คงเท่ากับทำให้พระเจ้าที่ส่งพวกเขามาผิดหวังแล้วล่ะ


………………………………..


บทที่ 255 เอากลับไปให้หมด

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวเปิดคลื่นโทรศัพท์ไร้สายด้วยท่าทีหาเรื่อง จงใจพูดด้วยน้ำเสียงอวดเก่งว่า “เหล่าพี่น้องอาร์บีเอฟเอฟทั้งหลาย พวกนายยังกล้ามาตกปลาอีกเหรอ? ถ้าฉันเป็นพวกนาย ฉันจะเริ่มจากกลับไปตั้งใจทำงาน จากนั้นถ้าอยากจะพัก ก็จะไปตกปลาในแม่น้ำแทน ในทะเลนั้นไม่ใช่ที่ที่พวกนายจะมาเล่นสนุกกันนะ”


เหล่าชาวประมงต่างก็พูดส่งเสียงสนับสนุนเขา ยังมีคนร้องเพลงด้วย ทำเอาคลื่นโทรศัพท์ไร้สายร่วมนี้วุ่นวายอย่างกับการจัดงานประชุมของรายการ YY อย่างไรอย่างนั้น


สุดท้ายก็มีนักตกปลาคนหนึ่งที่ทนไม่ไหว พูดออกมาอย่างโกรธแค้นว่า “อย่าได้ใจไป ไอ้พวกบ้านนอก พวกเรามีมือดีที่กำลังรีบมาที่นี่แล้ว! พวกเรามีเพื่อนที่ตกปลาใหญ่ขนาดหนึ่งพันหนึ่งร้อยปอนด์ได้ที่อ่าวเคปค้อด และทำลายสถิติที่หนึ่งของสมาคมตกปลาของอเมริกามาถึงสิบปี ทำให้ได้เงินรางวัลมาหนึ่งล้านแปดแสนดอลลาร์สหรัฐ! “


ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “นั่นน่ากลัวเสียจริง แต่ที่นี่ไม่ใช่อ่าวเคปค้อด ฉันก็เคยตกได้ปลาขนาดหนึ่งพันห้าร้อยปอนด์มาก่อน นายเคยเห็นฉันพูดอวดบ้างไหม?”


คนพวกนี้อึ้งไปชั่วขณะ สักพักถึงจะมีคนถามขึ้นมาว่า “นายไปตกที่ไหน และเมื่อไร?”


ฉินสือโอวพูดว่า “เพิ่งสองวันมานี้เอง ฉันตกได้ตอนกำลังนอนหลับอยู่ ตอนแรกฉันตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวขนาดหนึ่งพันห้าร้อยปอนด์ได้ จากนั้นก็ตกปลามาร์ลินขนาดหนึ่งพันสองร้อยปอนด์ได้อีก แล้วก็มีวาฬยักษ์บาซิโลซอรัสขนาดสองพันห้าร้อยปอนด์ อ้อ ฉันกล้าพูดเลย เพื่อนนายคนนั้นคงได้หลับเต็มอิ่มที่อ่าวเคปค้อดแน่เลย ไม่อย่างนั้นฉันไม่คิดว่าเขาจะตกปลาขนาดหนึ่งพันหนึ่งร้อยปอนด์ได้อย่างแน่นอน”


เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเขา พวกของชาลส์ก็อดไม่ได้หัวเราะลั่นออกมา จากนั้นก็มีคนโทรหาเขาผ่านคลื่นส่วนตัว


“ฉิน ไอ้สารเลว นายนี่แสบได้ใจ ฉันชอบ”


“กัปตันหัวรั้น ปากของนายนี่เอาเรื่องยิ่งกว่าตัวนายอีกนะ”


“ฉันกล้าพนันเลย พ่อคนดวงดี สีหน้าไอ้พวกโง่ อาร์บีเอฟเอฟพวกนั้นต้องน่าดูชมแน่ๆ เลย”


ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็ยืนกอดอกหัวเราะอยู่ข้างๆ ฉินสือโอวปิดคลื่นสื่อสาร โบกมือแล้วพูดว่า “หยุดหัวเราะได้แล้ว เพื่อนฝูง ทำงานกัน ไม่ได้ยินพวกเขาพูดเหรอ? ตกปลาใหญ่ได้หนึ่งพันหนึ่งร้อยปอนด์แน่ะ! มาจัดการพวกมันกัน!”


หลังจากเปลี่ยนเหยื่อล่ออันใหม่ให้เบ็ดตกปลาอันแล้วอันเล่า ชาร์คและซีมอนสเตอร์รวมตัวหารือกันว่าจะเปลี่ยนจุดตกปลากัน


ฉินสือโอวแกล้งเล่นหยอกล้อกับหู่จือ เป้าจือและฉงต้า บุชน้อยก็อยากเข้ามาเล่นด้วย แต่ฉินสือโอวซ่อนเขาไว้ในห้องโดยสาร เพราะหากมีคนเห็นเข้าก็คงไม่ดี


นี่ทำให้บุชน้อยรู้สึกไม่พอใจ ฉินสือโอวจึงเรียกนิมิตส์ลงมาหา บุชน้อยจึงร่าเริงขึ้นมาทันที แต่กลายเป็นนิมิตส์ที่ตอนนี้มีท่าทางไม่ค่อยพอใจ แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ


เมื่อคืนนี้พวกนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟได้กลับไปท่าเรือเพื่อเติมเหยื่อล่อปลาแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังลงมือกันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาสาดเหยื่อไปทั่วเพียงเพื่ออยากจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาเบ่งฉินสือโอว


แต่ฉินสือโอวก็ไม่ใช่คนยอมใครง่ายๆ จะเปิดโอกาสให้พวกเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร? เขาปล่อยพลังเทพแห่งท้องทะเลตามไปติดๆ ขอแค่มีปลาทูน่าครีบน้ำเงินปรากฏตัว ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างก็ถูกบังคับให้ว่ายเข้ามารวมกลุ่มทหารธงสีฟ้าหมด


พลังเทพแห่งท้องทะเลยังมีข้อดีอีกข้อ พลังนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของตัวปลาและเนื้อของมันเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้พวกมันมีจังหวะการหายใจที่ใกล้เคียงกันด้วย


สำหรับพวกปลาและสัตว์แล้ว จังหวะการหายใจแบบนี้สำคัญมาก เมื่อมีจังหวะที่เหมือนกัน พวกมันก็จะปฏิบัติต่อกันเหมือนเป็นสัตว์ประเภทเดียวกันและเผ่าพันธุ์เดียวกัน ตอนนี้ในกองกำลังทหารธงฟ้านั้นมีปลาทูน่าสีน้ำเงินอยู่ถึงประมาณห้าสิบตัว แต่กลับไม่มีการทำร้ายกันหรือว่ายออกจากกลุ่ม พวกมันกลายเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ว่ายตัวติดกันตลอด


นี่ทำให้ของฉินสือโอวควบคุมพวกมันได้ง่ายขึ้น ไม่อย่างนั้นหากเขาต้องไปหาเจ้าพวกนี้ทีละตัว คงเสียเวลาน่าดู


นักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดคือหาดน้ำตื้นจอร์จ แต่กำลังขยายอาณาเขตไปทั่วสี่ทิศ เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้ฉินสือโอวค่อนข้างจำกัดพื้นที่ได้ยาก


ในระหว่างนี้มีหลายครั้งที่นักตกปลาพวกนี้เจอปลาทูน่าครีบน้ำเงินและเกือบจับได้แล้ว ดีที่ฉินสือโอวลงมือได้ทันเวลา ทำให้พลาดไป มีครั้งหนึ่งมีปลาตัวหนึ่งงับเหยื่อแล้ว ฉินสือโอวถ่ายเทพลังเทพแห่งท้องทะเลเข้าไปสุดฤทธิ์ ทำให้สามารถช่วยให้มันหลุดหนีออกมาได้


ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีข้อดีอย่างหนึ่งคือพวกมันล้วนเป็นปลาตัวใหญ่ เวลาจากที่มันงับเหยื่อแล้วจนถึงลากไปที่เรือ อย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะมีเวลาตรงนี้ช่วยยื้อไว้ ฉินสือโอวจึงสามารถตามไปทัน แล้วปล่อยปลาออกไป


แม้จะมีลำบากบ้างแต่ยังดีที่ไม่ได้รับความเสียหายอะไร เวลาผ่านไปแล้วสองวันสองคืน จำนวนปลาที่ฉินสือโอวจับได้ขยายเพิ่มขึ้นไปเป็นหนึ่งร้อยตัวแล้ว


พูดได้เลยว่าหลังจากนี้จำนวนปลาทูน่าครีบน้ำเงินในหาดน้ำตื้นจอร์จต้องลดลงอย่างแน่นอน แต่ก็ลดลงไม่เยอะ เพราะอย่างไรเสียจำนวนปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ท่าเรือกลอสเตอร์ผลิตได้ต่อปีนั้นมีมากถึงสี่ห้าร้อยตัวเลยทีเดียว


ฉินสือโอวไม่ใช่ทั้งแม่พระหรือพระเจ้า การที่เขาไม่แย่งปลาทูน่าน้ำเงินจากพวกฟาร์มปลานั้นถือว่าเป็นการกระทำที่มีเมตตามากแล้ว ปลาพวกนี้อยู่ในมือเขายังไงก็ดีกว่าอยู่ในท่าเรือกลอสเตอร์


ใช่แล้ว ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ฉินสือโอวจับได้นั้นเขาจะนำกลับไปเลี้ยงแล้วขายต่อ แต่ว่าเขาจะขายก็แต่ปลาตัวใหญ่ที่สุดเท่านั้น เลี้ยงปลาตัวเล็กไว้เรื่อยๆ การทำแบบนี้เป็นประโยชน์ต่อเผ่าของปลาทูน่าครีบน้ำเงินมากกว่า


ตอนนี้ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินกำลังเผชิญวิกฤตเดียวกับปลาค็อดในนิวฟันด์แลนด์


ปี 1864 สถิติการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินของเกาะฟาวีญานาในอิตาลีคือ 14020 ตัวต่อปี น้ำหนักเฉลี่ยต่อตัวคือ 192 กิโลกรัม แต่ในปี 2009 จำนวนปลาที่จับได้ทั้งปีกลับเหลือแค่หนึ่งร้อยกว่าตัว และขนาดเฉลี่ยต่อตัวอยู่ที่ 29 กิโลกรัมเท่านั้น


ก่อนปี 1960 จำนวนปลาจากหาดตื้นบุชและอ่าวเคปค้อดเพียงสองที่นี้ ก็สามารถมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินส่งให้กับตลาดค้าปลาได้ถึงห้าพันตันต่อปี จากนั้น อเมริกาได้ใช้อวนลากจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินจำนวนมากจากมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อไปทำปลากระป๋อง ทำให้จำนวนปลาเล็กปลาน้อยของปลาทูน่าครีบน้ำเงินลดลงไปอย่างมาก


จนถึงปี 1989 ในเขตน่านน้ำของอเมริกาเหนือ กลับมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหลือในมหาสมุทรแอตแลนติกเพียงแค่ 20% ของปี 1970 และตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ 10%


และปัจจุบันในทุกๆ ปี จำนวนปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ได้จากชายหาดตื้นจอร์จและอ่าวเคปค้อดนั้นมีไม่ถึง 400 ตันเลย ปีนี้ทางรัฐบาลอเมริกาประกาศจำนวนปลาทูน่าครีบน้ำเงินจากมหาสมุทรแอตแลนติก ว่ามีเพียง 800 ตันเท่านั้น


นี่ก็หมายความว่า หากชาวประมงของอเมริกาจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือได้มากกว่า 800 ตัน ก็แสดงว่าฤดูจับปลานั้นได้จบลงแล้ว


ออกทะเลมาได้สามวันสองคืน ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้ว น้ำแข็งที่อยู่บนเรือบอลหิมะของฉินสือโอวยังใช้หมดไปแล้วเลย คงไม่ต้องพูดถึงเรือตกปลาลำเล็กอื่นๆ ที่คงหมดเหมือนกัน


กลับถึงท่าเรือกลอสเตอร์เป็นเวลาค่ำแล้วเหมือนเคย ตาแก่เจมส์คุยกับคนกลุ่มหนึ่งรออยู่ที่ท่าเรือ คนพวกนี้แต่ละคนคือนายหน้าให้กับบริษัทค้าปลาทั้งหลาย เมื่อกลุ่มหาปลากำลังหลักของพวกเขาออกหาปลานานแล้วยังไม่กลับเสียที ทำให้ยอดหาปลาของพวกเขาในสามวันที่ผ่านมานี้น้อยจนน่าสงสาร


เมื่อเรือหาปลาของฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ทยอยกันกลับมา ตาแก่เจมส์กับพวกก็กรูกันเข้ามา พวกเขาต่างก็มีลูกค้าประจำ เมื่อเห็นชาวประมงของบริษัทที่ตัวเองใช้กลับมาแล้วจึงรีบเข้าไปกล่าวทักทาย


ตาแก่เจมส์นั้นคาดหวังในตัวฉินสือโอวมาก ฉายากัปตันโชคช่วยนั้นไม่ได้มีดีแค่ชื่อเท่านั้น


แต่ว่า ฉินสือโอวเองก็สมกับที่ได้ชื่อนี้จริงๆ ถึงแม้ว่าครั้งนี้เขาจะจับปลาทูน่าสีน้ำเงินได้เพียงหนึ่งตัว แต่ว่าเป็นซูเปอร์ปลาเนื้อดีที่มีน้ำหนักถึงเก้าร้อยห้าสิบปอนด์เลย หรือก็คือ ‘ปลาทองคำ’ ที่พวกชาวประมงเก่าแก่เรียกกัน แล้วยังมีปลาทูน่าครีบเหลืองอีกเจ็ดตัวด้วย


ความจริงหากเป็นไปได้ ฉินสือโอวไม่คิดที่จะตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินขึ้นมาหรอก แต่ปลาตัวนี้ดันโชคร้ายเอง ฉินสือโอวไม่ได้ใช้พลังเทพแห่งท้องทะเลบังคับมันเลย แต่เจ้านี่ดันตะกละ ว่ายมาหาถึงที่ เขาจึงถือโอกาสน้อมรับเสียเลย


อย่างไรเสีย ออกทะเลทั้งทีแต่กลับจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้เลยสักตัว ถ้าเทียบกับประวัติการตกปลาของเขาก่อนหน้านี้คงจะดูแปลกไปหน่อย


ส่วนเหล่านักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟที่รันทดนั้น อย่าว่าแต่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเลย แม้แต่ปลาทูน่าครีบเหลืองสักตัวก็ตกไม่ได้!


ตาแก่เจมส์ต้องการปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาทูน่าครีบเหลืองก็ต้องการเช่นกัน ขอแค่ตกขึ้นมาได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เขาหัวเราะเหอๆ พร้อมชั่งน้ำหนักปลาที่ฉินสือโอวตกได้แล้วพูดเสียงดังว่า “นายนี่สมกับเป็นกับตันโชคช่วยจริงๆ ฉิน นายน่ะเป็นเด็กที่โชคดีจริงๆ ”


……………………………….


บทที่ 256 การประนีประนอมของสเปน

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ตัวหนึ่งนี่ถือว่าโชคดีเหรอครับ? ชาลส์ตกได้สองตัว ตาแก่เคนต์ก็ตกได้สองตัว ได้ยินว่าเฟล็บส์ตกได้สามตัวแน่ะ”


 “ใช่เลย ฉิน ฉันคงต้องขอแย่งหมวกของกัปตันโชคช่วยของนายไปแล้วล่ะ” เสียงแหบแห้งดังมาจากข้างหลัง เขาหันกลับไปมอง เป็นเฟล็ปส์จากเรือลักกี้นั่นเอง


เรือลักกี้จอดเทียบอยู่กับเรือบอลหิมะ เฟล็ปส์กระโดดขึ้นมา หู่จือและเป้าจือก็วิ่งเข้าไปใกล้พร้อมทำท่าขู่ทันที


 “โว้ๆ เจ้าหนุ่มแข็งแรงทั้งสอง ฉันเป็นเพื่อนของพ่อพวกแกเอง พวกแกจะกัดฉันไม่ได้นะ” เฟล็บส์รีบถอยหลังแล้วพูด


ฉินสือโอวผิวปากทีหนึ่ง หู่จือและเป้าจือจึงวิ่งกลับไปในห้องโดยสาร เบื้องหน้าพวกเขายังมีเงาเล็กๆ เงาหนึ่ง ก็คือบุชน้อย ที่กำลังโยกก้นอ้วนๆ ของมันวิ่งไปมาในห้องโดยสารอยู่


ตอนนี้บุชน้อยรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นลูกเก็บของพ่อตัวเองทำให้ออกสื่อไม่ได้ ฉินสือโอวแค่ผิวปาก มันก็ต้องรีบซ่อนตัวไว้


เฟล็บส์ออกมาดูผลงานตัวเอง แล้วถือโอกาสพูดชมตัวเองไปด้วย “ฉันจับได้ปลาสามตัว พอดีสามวันวันละตัว แต่ว่าฉันก็ยังต้องขอบคุณนายนะ ฉิน นายเป็นคนใจกว้างคนหนึ่ง ไม่นึกเลยว่านายจะแบ่งน้ำแข็งมาให้ฉัน”


ถังเก็บความเย็นของเรือลักกี้ไม่ค่อยดี สามารถเก็บน้ำแข็งได้สองวันเท่านั้น เมื่อฉินสือโอวรู้จึงแบ่งเศษน้ำแข็งที่เขาใช้เหลือให้ไป ทำให้เขาอยู่ต่อได้อีกวัน เท่ากับว่าช่วยเขาจับปลาได้อีกตัว


ลูกชายของเฟล็ปส์เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็รีบไปซื้อไอซ์ไวน์มาสองขวด หลังซื้อมาก็รีบยื่นให้ฉินสือโอวขวดหนึ่งด้วยท่าทีที่นอบน้อม เฟล็บส์ถือขวดไอซ์ไวน์ชนกับฉินสือโอว แล้วพูดว่า “แด่การเก็บเกี่ยวที่ดี ชนกันเถอะ!”


ตาแก่เจมส์ที่กำลังคิดเงินอยู่ทางนั้น พูดขึ้นว่า “เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้วนะ? ฉันบอกว่านายคือกัปตันโชคช่วยใช่ไหม? ใช่จริงๆ นายน่ะคือกัปตันโชคช่วย”


เฟล็บส์พูดว่า “ไม่ใช่ ผมต่างหากคือกัปตันโชคช่วย”


ตาแก่เจมส์เบะปากแล้วพูดว่า “ไม่ นายไม่ใช่ เป็นฉินต่างหาก รู้ไหมว่าเพราะอะไร? เพราะเมื่อเริ่มต้นฤดูล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ก็เท่ากับฤดูล่าปลาทูน่าครีบเหลืองน่ะจบไปแล้ว ดังนั้นเมื่อวานราคาของปลาทูน่าในตลาดจีนจึงขึ้นไปอีก 15% แต่ฉินก็ยังโชคดีจับปลาทูน่าครีบเหลืองได้ตั้งเยอะ”


ฤดูของปลาทูน่าครีบน้ำเงินคือเดือนมีนาคม สิงหาคม กันยายน และตุลาคม หรือที่ชาวประมงอเมริกาเรียกกันติดปากว่าช่วงทองแปดเงินเก้าดำสิบนั่นเอง เหตุผลที่เรียกกันอย่างนี้ เพราะว่าเดือนสิงหาคนั้นเป็นเดือนเริ่มต้นของการล่าปลา จำนวนปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่จับได้จะมากที่สุด เดือนกันยายนจะรองลงมา และพอถึงเดือนตุลาคมนั้นพูดได้ว่าแทบจับปลาไม่ได้เลย


ฤดูจับปลาทูน่าครีบเหลืองนั้นมีเพียงสองเดือน คือกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม หรือก็คือปลาที่มีจำนวนมากนั้นระยะเวลาในการจับก็จะยิ่งสั้นตาม เหตุผลเป็นเพราะเหล่าบริษัทหาปลาทั้งหลาย มักจะใช้อวนล้อมและอวนลากในการจับปลาทูน่าครีบเหลือ หว่านลงไปเพียงครั้งเดียวก็สามารถจับได้หลายตันเลย


ฉินสือโอวรับเช็คเงินสดจำนวนสี่หมื่นเหรียญดอลลาร์สหรัฐมา เขาสะบัดเช็คไปมาหัวเราะแล้วพูดว่า “ผมรู้สึกไม่อยากกลับไปเลี้ยงปลาเลย ดูสิครับ ออกทะเลวันเดียวก็หาเงินได้ถึงหนึ่งหมื่นเหรียญเลย หากออกทะเลไปตลอดฤดูล่าปลางั้นก็คงจะหาได้สักสี่ห้าแสนเหรียญใช่ไหมครับ?”


ชาวประมงหลายคนต่างก็หัวเราะขึ้นมา เฟล็บส์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “หยุดหัวเราะได้แล้ว ฉินได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกัปตันโชคช่วยนะ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะจับปลาได้เยอะก็เป็นได้ ถึงแม้มันจะเป็นไปได้ยากจนฉันเองก็ไม่อยากเชื่อก็เถอะ ฮ่าๆ ”


ในหนึ่งฤดูหาปลานั้น กัปตันที่ดีจะหาปลาได้มูลค่ามากที่สุดก็ประมาณหนึ่งแสนสี่หมื่นถึงห้าหมื่นเหรียญ โดยทั่วไปแล้วก็ไม่เกินหนึ่งแสนเหรียญ อีกอย่าง เงินนี่ก็ไม่ใช่ของกัปตันคนเดียว ส่วนใหญ่เรือแทบจะทุกลำต่างก็จ้างคนงานไม่ก็ทำงานด้วยกันสองสามีภรรยา ทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น


ไม่นานเรือของพวกอาร์บีเอฟเอฟก็เทียบท่า สีหน้าพวกเขาดูไม่ได้เลย มีคนแอบด่าเสียงเบาด้วย


ตาแก่เคนต์ที่ขายปลาเสร็จแล้วเดินผ่านมา เมื่อเห็นทุกคนกำลังหัวเราะกันอยู่จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้รู้ถึงคำพูดของฉินสือโอวที่พูดเมื่อกี้ เขาชี้นิ้วไปที่นักตกปลาพวกนั้น แล้วพูดว่า “ตอนนี้เป็นเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่จับปลาได้ดีที่สุด พอถึงเดือนกันยายนกับเดือนตุลาคมแล้ว คงต้องเหมือนไอ้หน้าโง่พวกนั้น กลับมามือเปล่าทุกวันแน่เลย”


ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย การหาเลี้ยงปากท้องโดยการพึ่งพาทะเลนั้น ไม่ง่ายเลยจริงๆ


ฉินสือโอวถามว่าคืนนี้จะจัดงานสังสรรค์กันหรือเปล่า ชาลส์และคนอื่นๆ ต่างก็พากันส่ายหัว เฟล็บส์ตบท้องตัวเองแล้วพูดอย่างคาดหวังว่า “กินปลาย่างและแฮมเบอร์เกอร์มาสามวันแล้ว ฉันในตอนนี้คิดถึงสลัดผลไม้และข้าวผัดหมูสับฝีมือของเดเลียมากเลย ต้องรีบกลับไปกินชุดใหญ่ๆ แล้วล่ะ”


“กินแต่ข้าวเหรอ กินคนด้วยหรือเปล่า?” มีคนพูดขึ้น


ไม่นาน เหล่าคนเถื่อนพวกนี้ก็พากันหัวเราะร่าขึ้นมา


พูดตามตรง ฉินสือโอวเองก็กินแฮมเบอร์เกอร์ ปลาย่างจนเบื่อแล้ว ยิ่งเบื่อกับการนอนบนเตียงเล็กๆ ที่โยกไปมาด้วย คืนนี้เขาต้องไปบ้านวิสเติลเพื่อกินอิ่ม นอนอุ่นเสียแล้ว


เขาขึ้นเงินแล้วไปบ้านวิสเติล แม่ของวิสเติลเข้าครัวไปทำอาหาร ฉินสือโอวให้เงินเธอไปห้าร้อยเหรียญ บอกเธอว่า ขอแค่ไม่ใช่ปลา จะทำเมนูอะไรก็ได้


เมื่อไม่มีอะไรทำ ฉินสือโอวจึงเปิดโทรศัพท์มือถือเช็กข้อความ บนทะเลนั้นไม่มีสัญญาณ ตอนนี้เขามีทั้งสายไม่ได้รับและข้อความที่สะสมไว้ถึงสามวัน คนที่โทรและข้อความมามากสุดคือวินนี่ ส่วนคนที่รองลงนั้นทำให้เขารู้สึกแปลกใจ เพราะเป็นการโทรและส่งข้อความมาจากบิลลี่ สเต็มเมอร์


เขาโทรศัพท์หาวินนี่ก่อน ทั้งสองคนพูดหยอกล้อกันไปสักพัก หลังจากพูดคำหวานที่สื่อว่า ‘รัก’ และทำท่าทางที่สื่อว่า ‘ส่งจูบ’ แล้ว เขาก็เปลี่ยนไปโทรกลับหาบิลลี่ สเต็มเมอร์


 “มีอะไรเหรอ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเร่งด่วน?” ฉินสือโอวถาม


หลังบิลลี่รับสายของเขาแล้วก็โล่งอกทันที พูดว่า “ให้ตายเถอะ ฉิน ต่อไปอย่าหายตัวไปอีก โอเคไหม? นายทำฉันตกใจเลย ฉันถึงกับโทรไปหาคุณทนายเออร์บัก ถึงได้รู้ว่านายออกทะเลไป”


 “โอเค เพื่อไม่ให้เสียเวลา รัฐบาลสเปนสารเลวพวกนั้นยอมประนีประนอมแล้วนะ ฮ่าๆ ไอ้พวกชั่วพวกนั้น นายไม่ได้มาเห็นสีหน้าพวกมัน หลังจากที่ได้เข้าไปตรวจเช็คประวัติการเดินเรือของเรือดังเคิลออสเตียสแล้ว สะใจสุดไปเลย ทำหน้าอย่างกับไปกินขี้หมามาอย่างนั้นแหละ…”


คำพูดหลังจากนั้นล้วนเป็นคำพูดที่ด่ารัฐบาลสเปนและคำพูดสะใจทั้งหมด แต่ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่า ไอ้หมอนี่ไม่ได้เป็นห่วงที่เขาติดต่อไม่ได้ แต่คงเป็นห่วงตัวเองที่หาคนแบ่งปันความสุขนี้ด้วยไม่ได้มากกว่า


ดั่งคำที่ว่าขัดขวางเส้นทางทำมาหากินก็เหมือนกับไปฆ่าพ่อแม่ของคน โดยรวมแล้วบิลลี่เป็นเด็กที่มารยาทดีคนหนึ่ง อย่างน้อยก็นอกจากเรื่องรัฐบาลสเปนแล้วก็ไม่เคยพูดคำหยาบ แต่พอได้พูดถึงรัฐบาลสเปนเท่านั้น คำด่าที่ออกมานั้นก็พรั่งพรูออกมาราวกับเพลงแร็บของเอ็มมิเน็มอย่างไรอย่างนั้น


หลังฉินสือโอวปล่อยให้เขาระบายเสร็จแล้ว ก็พูดว่า “ก็ไม่เลวนะ รัฐบาลสเปนทำงานได้ถือว่าเด็ดขาดดีเหมือนกันนะ…”


พอพูดจบ ฉินสือโอวก็รู้สึกเสียใจทันที เขาไม่ควรพูดชมรัฐบาลสเปนต่อหน้าบิลลี่นี่นา ให้ตายเถอะทำไมตัวเองถึงได้โง่อย่างนี้ โง่เง่าจริง นี่คงต้องโดนคำด่าระเบิดใส่แน่เลย!


 “เด็ดขาดอะไรกัน ไอ้เลวพวกนั้นสมควรที่จะไปกินยาถ่ายเพื่อเรียนรู้ว่าอะไรคือเด็ดขาดต่างหาก! การไปเจรจาต่อรองกับคนสารเลวพวกนี้ยากพอๆ กับการกินขี้หมาเลย ทุกวันพวกเขาทำตัวเหมือนกับต้องไปทำแท้ง…”


แว้ดๆ แว้ดๆ ฉินสือโอวฟังคำด่าจนหน้าซีดชา คำด่าทอระเบิดอยู่ห้านาที ทำให้เขาได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งว่าตัวเองได้ทำเรื่องโง่เง่าแค่ไหนลงไป


ดีที่ฉินสือโอวแก้เกมทัน เขารีบเปลี่ยนจุดยืนไปร่วมเออออด่ารัฐบาลสเปนกับบิลลี่ต่อ ด่าว่าพวกเขาเป็นพวกเหยียดผิว พวกเขามีรักร่วมเพศเยอะ พวกเขาเน่าเฟะ พวกเขาป่าเถื่อน รวมๆ คือด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสีย


ความจริงเรื่องนี้ก็เข้าใจได้ เขาเป็นลูกชายคนรองของบริษัทโอดีสซีย์ บ้านของบิลลี่นั้นถูกรัฐบาลสเปนริบเงินไปถึงสามร้อยห้าสิบล้านเหรียญสหรัฐเลย สามร้อยห้าสิบล้านเลยเชียว แถมยังเป็นเงินเหรียญสหรัฐอีก หากคิดเป็นเงินหยวน ก็เท่ากับสองพันล้านเลย!


………………………………….

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)