ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 249-252
บทที่ 249 แผนการของฉิน
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากคุยอย่างเย็นชาและไร้มารยาทกับอาร์ม็องเล็กน้อย ฉินสือโอวก็เดินออกมา รอจนห่างออกมาหน่อยนีลเซ็นถึงกระซิบถามเขา “บอส คุณคิดว่าคนฝรั่งเศสคนนั้นมีจุดประสงค์แอบแฝงสินะ”
ฉินสือโอวแค่นเสียงอย่างเย็นชา “คงจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับฉันที่ท่าเรือแล้วอยากจะหาข้อมูลหาปลาจากฉันสักหน่อย”
ที่เขาไม่ตกปลาขึ้นมาอีกก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้ จะมีปลากลับมาด้วยทุกครั้งที่ออกทะเลไม่ได้
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ใช่ปลาหิมะ ต่อให้เป็นชาวประมงฝีมือดีที่สุดในกลอสเตอร์ อาทิตย์หนึ่งตกได้สองตัวก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ถ้าเขาจับปลาได้ทุกวันแถมไม่ได้แค่ตัวเดียว นานวันเข้าจะต้องมีคนสงสัยแน่ๆ
แน่นอนว่าคนทายกันไม่ถูกหรอกว่าฉินสือโอวจะมีของแปลกอย่างหัวใจโพไซดอน แต่พวกเขาคิดว่าฉินสือโอวมีเคล็ดลับในการตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเลยมาเซ้าซี้ถามกับเขา แบบนั้นน่ะน่ารำคาญมาก
มาถึงอเมริกา การใช้ชีวิตก็เหมือนจะติดนิสัยจากคนอเมริกันมาด้วย หลังจากขึ้นฝั่ง ฉินสือโอวไม่ได้กลับบ้านวิสเติลในทันที แต่ไปดื่มที่บาร์ ‘สโมสรชายชาตรี’ ก่อนสักหน่อย
แต่เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น พอฉินสือโอวนั่งลงไม่นานก็เจอกับคนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่ง ดูจากสายตาเกลียดชังของเหล่าชาวประมงที่ส่งมากับการแต่งตัวที่ดีก็วิเคราะห์ได้ไม่ยากว่าคนพวกนี้ก็คือพวกนักสู้สุดสัปดาห์จากสมาคมตกปลา
พอเห็นคนพวกนั้น จู่ๆ ฉินสือโอวก็นึกอะไรออกจึงเริ่มออกปากท้าทาย “เฮ้ พวกมนุษย์ชนชั้นสูง วันนี้ได้อะไรกลับมาเยอะใช่ไหม อ่าฮะ? ถ้าฉันเป็นพวกนายนะ ฉันจะไสหัวไปจากท่ากลอสเตอร์คืนนี้เลย ไม่อย่างนั้นก็เปลืองน้ำมันเปลืองแรงเสียเปล่า”
เหล่าชาวประมงหัวเราะชอบใจใหญ่ ชาลส์กับชายฉกรรจ์สองสามคนยังผิวปากอีกด้วยก่อนจะตะโกนผสมโรง “ไสหัวไป ไสหัวไป ไสหัวไป!”
อาจจะเพราะเห็นว่าฝั่งตัวเองคนเยอะ พวกนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟเลยเข้ามาล้อมด้วยสีหน้าเย็นชา และมีคนถามขึ้นว่า “คนผิวเหลือง อยากจะลองดีเหรอ?”
ไอ้เจ้านี้ช่างเก่งเหลือเกิน แค่คำเดียวก็เตะฉินสือโอวไปฝั่งตรงข้ามกับคนผิวขาวได้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ความขัดแย้งระหว่างชนชาติก็เป็นปัญหาร้ายแรง การที่คนผิวขาวดูถูกคนผิวเหลืองดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องที่ถูกที่ควร
แต่ว่าเงื่อนไขนี้คือสถานภาพทางการเงินและชนชั้นของทั้งสองฝ่ายพอๆ กัน
พวกนักตกปลาล้อมเข้ามา อีวิลสันลุกพรวดขึ้น ตาทั้งสองจ้องเขม็ง ตาโตฉายแววดุดัน รูจมูกกว้างพ่นลมหายใจเข้าออกราววัวกระทิงที่ถูกแหย่ให้โกรธ เขาอ้าปากตะโกน “อีวิลสันจะอัดพวกแกให้แบน!”
โดนชายร่างสูงเกือบสองเมตรมองลงมาจากมุมที่สูงกว่า นักตกปลาที่ปกติเป็นพนักงานออฟฟิศก็หัวหดทันที
นีลเซ็นบีบกำปั้นพลางมองกลุ่มคนนั้นด้วยความเย็นชา ชาร์คกับซีมอนสเตอร์เข้าไปดึงอีวิลสันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อคนบื้อมุทะลุลงมืออัดเจ้าพวกดวงซวยพวกนี้จนพิการขึ้นมาจริงๆ
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์มาห้ามอีวิลสัน แต่พวกนักตกปลาไม่รู้ พวกเขาเห็นแค่ชายร่างบึกบึนอีกสองคนที่ล้อมเข้ามาอีกเลยยิ่งหดเข้าไปใหญ่
ที่แย่กว่านั้นคือ ทางหนีของพวกเขาก็โดนขวางไว้แล้ว เหล่าชาวประมงลุกขึ้นมาเงียบๆ ในมือถือของจำพวกขวดเหล้า เก้าอี้แล้วล้อมเข้ามา ยังมีคนหนึ่งที่หยิบฉมวกสั้นออกมาด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเอาเข้ามาได้อย่างไร
พอบาร์เทนเดอร์เห็นว่าสถานการณ์ดูไม่ดีก็รีบสั่งกระดิ่ง พวกยามที่เฝ้าอยู่นอกประตูพากันกรูเข้ามาอย่างโมโห ยังไม่ทันพูดขู่ก็เจอเข้ากับเงาร่างน่าเกรงขามของอีวิลสันที่ดูเหมือนเสือในฝูงแกะ
ต้องขอบอกว่า อีวิลสันเวลาไม่พูดดูน่าเกรงขามมากๆ พวกอันธพาลร่างยักษ์ที่สักเต็มตัวต่างอึ้งไม่กล้าเข้ามา แค่ยืนตะโกนขู่แบบไร้พลังไม่กี่คำอยู่ข้างหลัง
คนเดียวที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงก็มีแต่ฉินสือโอว ทีนี้ละฉินสือโอวละได้ใจ บนหน้าเขามีรอยยิ้มบาง แต่ในใจกลับลิงโลดไม่มีอะไรเทียบ นี่เขาวางท่าได้ไร้ขีดจำกัดจริงๆ วางท่าได้สุดยอดมาก
แต่ก่อนเวลาดูหนังแอ็คชั่นฮอลลีวูด เขาอิจฉาพวกฉากที่พอหัวหน้าให้สัญญาณก็จะมีลูกน้องกรูกันออกมารับหน้าเป็นกลุ่มมากๆ ปรากฏว่าตอนนี้ความฝันกลายเป็นจริง เขาเองก็ได้ดื่มด่ำกับการถูกปฏิบัติเยี่ยงหัวหน้า
เพียงแต่ฉินสือโอวฉุกคิดได้ทีหลังว่า รู้สึกว่าพวกหัวหน้าขี้เก๊กในหนังมักจะกลายเป็นเป้าหมายที่ต้องกำจัด ฉะนั้นเขาเลยตัดสินใจอ่อนข้อหน่อย
เขายื่นมือออกมาตบโต๊ะแล้วล้วงบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสออกมาวางไว้หน้าบาร์เทนเดอร์แล้วพูดอย่างขี้เกียจ “เพื่อน อย่าอ่อนไหวง่ายไปเลย ให้ยามของพวกนายออกไปก่อน พวกเรามันก็แค่คนรู้จักเจอหน้ากันเท่านั้น มา คาลเบิร์กริบบิ้นฟ้าคนละขวด ฉันเลี้ยงเอง”
ชื่อเสียงที่ดังที่สุดของบริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรสก็ยังคงอยู่ในเขตแดนอเมริกา และบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสก็เป็นบัตรที่มีชื่อที่สุดในอเมริกา
พอเห็นบัตรสีดำใบนั้น บาร์เทนเดอร์ก็กลืนน้ำลาย ‘เอื๊อก’ แล้วดันบัตรคืนให้ฉินสือโอวอย่างนอบน้อม รินบรั่นดีให้เขาแก้วหนึ่งก่อนจะร้องตะโกนไปทางสาวๆ เซ็กซี่ในบาร์ “มัวนิ่งอึ้งกันอยู่ทำไม บื้อจริง ยังไม่รีบมารินเหล้าให้แขกอีก? คาลเบิร์กริบบิ้นฟ้าคนละขวด เร็วๆ ๆ!”
ในขณะเดียวกันเหล่านักตกปลาก็สงบแล้ว คราวนี้ไม่ใช่หด แต่หงอเลยทีเดียว
นักตกปลาส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ มีผู้บริหารบริษัทหลายคน ฉะนั้นพวกเขาไม่กลัวที่จะมีเรื่องกับชาวประมง อย่างมากก็ต่อยกันยกหนึ่งแล้วหาทนาย ในหมู่พวกเขาก็มี จะฟ้องพวกชาวประมงยังไม่ง่ายอีกเหรอ?
สถานการณ์ตอนนี้พลิกไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ อีกฝ่ายคือคนผิวเหลืองก็จริง แต่กลับเป็นคนผิวเหลืองที่ใช้บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสและมีบอดี้การ์ดอีกสี่ห้าคน คนประเภทนี้ในอเมริกายิ่งห้ามแหย่ ขึ้นโรงขึ้นศาลกับพวกเขาไม่มีทางชนะแน่ๆ
ทำไมน่ะเหรอ? เพราะการที่คนผิวเหลืองคุมคนผิวขาวในอเมริกาเลี่ยงการเหยียดเชื้อชาติไม่ได้ เพราะต่อให้ประเด็นนี้จะเป็นความขัดแย้งที่มีอยู่ทุกชนชั้นในอเมริกา แต่ในเชิงที่รู้ๆ กันแล้ว อเมริกาสนับสนุนประชาธิปไตยและความเท่าเทียม ถ้าขึ้นศาล ขอแค่มีข้อนี้ก็สามารถทำให้คนอเมริกันไม่รู้กี่คนต้องกราบ!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนอเมริกันเชื้อชาติต่างๆ เมื่อเจอกับคดีซึ่งก็คือในการฟ้องกันระหว่างคนผิวขาว ผิวเหลือง ผิวดำ ความเป็นไปได้ที่คนผิวขาวจะชนะนั้นเยอะที่สุด แต่นั่นก็ต้องดูความต่างของฐานะด้วย ถ้าพวกพนักงานออฟฟิศเล็กๆ มีเรื่องฟ้องร้องกับคนผิวเหลืองที่ถือบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสละก็ สามารถแพ้จนขายลูกขายหลานกันเลยทีเดียว!
นักตกปลาพากันออกไปอย่างไม่พอใจ ฉินสือโอวยิ้มออกมา บาร์เทนเดอร์ถามเขาว่าเบียร์จะทำอย่างไร ฉินสือโอวโบกมือแล้วพูดว่า “เลี้ยงทุกคนที่อยู่ในร้าน ดื่ม!”
เหล่าชาวประมงโห่ร้องทันที เงินทองเป็นวิธีซื้อใจคนที่ดีที่สุดเสมอ โดยเฉพาะในประเทศระบบทุนนิยมแสนโหด
ฉินสือโอวไม่ใช่คนชอบหาเรื่อง ที่เขาท้าทายนักตกปลาพวกนั้นเพราะเขามีจุดประสงค์
เขาจะแหย่ให้คนพวกนั้นโกรธจนสุด พรุ่งนี้พวกนั้นถึงจะโยนเหยื่อกันเป็นบ้าเป็นหลังล่อปลาทูน่าครีบน้ำเงินเพื่อที่จะชนะการพนัน ฉินสือโอวถึงจะสามารถรวบรวมกองกำลังทหารธงฟ้าของเขาได้ไวขึ้น
ให้ตายนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟที่เรียกตัวเองว่า ‘ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ’ ก็นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาถูกคนผิวเหลืองที่ตัวเองดูถูกหลอกใช้อยู่
พอบรรลุเป้าหมาย ฉินสือโอวก็ดื่มเหล้าอีกสักพัก เช็กบิลเสร็จก็กลับไปห้องที่บ้านวิสเติล
พอนอนลง เขาก็หากลุ่มปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่รวบรวมไว้เป็นกลุ่ม มุ่งหน้าไปที่เขตทะเลซึ่งจำไว้เมื่อตอนกลางวัน นั่นก็คือจุดที่พวกชาลส์บอกเขาว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีสมบัติเรืออับปางจมอยู่มากที่สุด
ตรงจุดนั้นไม่ได้หายาก ก้นทะเลส่วนมากของชายหาดน้ำตื้นจอร์จเป็นทรายละเอียดและสาหร่ายที่อุดมสมบูรณ์ มีช่องทางใต้ทะเลที่ทั้งกว้างและยาว แต่กลับมีทรายเยอะและสาหร่ายที่น้อยมาก
สำหรับมนุษย์แล้ว ที่นี่หายากมาก แต่สำหรับฉินสือโอวที่มีหัวใจโพไซดอนและสามารถควบคุมโลกใต้ทะเลได้แล้ว การจะหาที่นี่ไม่ยากเลยสักนิดเดียว
นอกจากนั้น คนที่มาหาสมบัตินั้น ต่อให้หาที่นั่นเจอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะทะเลแถบนี้ค่อนข้างลึก ความลึกแถวนี้ส่วนมากเกินสี่ร้อยเมตร แทบจะเป็นจุดที่ลึกที่สุดของชายหาดน้ำตื้นจอร์จ
แถบทะเลลึกขนาดนี้ ไม่มีทางจัดการกับทรายที่ก้นทะเลได้เลย แน่นอนว่าก็ไม่มีทางหาสมบัติที่อาจจะฝังอยู่ในทรายได้เช่นกัน
…………………………………………………
บทที่ 250 การกวาดล้างใต้ทะเล
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ลุย นักสู้ทั้งหลาย!”
ฉินสือโอวสั่งการในใจ พลังโพไซดอนเกิดการต้านก่อนจะสร้างพายุหมุนลูกเล็กใต้ทะเล
เส้นทางเดินเรือนี้ไม่มีพวกสาหร่ายหรือเศษหินเพราะคลื่นใต้น้ำกับทรายดูด ฉะนั้นพายุหมุนที่พลังโพไซดอนสร้างขึ้นจึงพัดจนทรายในทะเลปลิวว่อน โคลนตมฟุ้งขึ้น
หลังจากนั้นฉินสือโอวก็ให้ฝูงปลาว่ายติดแนวก้นทะเล ร่างกายกำยำแข็งแกร่งจมลงไปในทรายแทบเกินครึ่งตัว พลังโพไซดอนแทรกซึมเข้าร่างพาพวกมันพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับพายุหมุนราวกับติดมอเตอร์ไฟฟ้า
ร่องรอยเหมือนร่องไถสิบกว่ารอยปรากฏขึ้นบนเส้นทางเดินเรือในทันที พอกะพริบตาก็ยาวไปอีกยี่สิบกว่าเมตร
ทรายตรงเส้นทางเดินเรือนิ่มร่วนมากเพราะการซัดของคลื่นใต้น้ำ เมื่อตอนบ่ายที่ฉินสือโอวมาสำรวจเส้นทางก็เจอกับปลาเล็กๆ ไม่น้อยที่กำลังลงหลักปักฐานอยู่ ต่างมุดไปใต้ทรายเพื่อหลบการล่าของปลาใหญ่
เพราะฉะนั้นเขานึกถึงการใช้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาพลิกทรายหาเหรียญทอง ขอแค่ใช้พลังโพไซดอนปกป้องผิวของพวกมันก็โอเคแล้ว ผิวของปลาชนิดนี้บาดเจ็บได้ง่ายมาก
พอเป็นแบบนี้ แรงทะยานของพายุหมุนลูกเล็กบวกกับฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงินทำให้เส้นทางเดินเรือดูราวกับมีกองกำลังรถม้าทำศึกวิ่งผ่านอย่างรวดเร็ว ด้านหลังมีทรายฟุ้งกระจายเต็มไปหมด
ก่อเป็นกำลังเคลื่อนไหวที่น่าสะพรึงอย่างยิ่ง แต่ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็พูดยากแล้ว เพราะเหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่มีทางมุดลงชั้นทรายลึกๆ ได้ ทำได้แค่กวนแถวหน้าทรายเท่านั้น ถ้าเหรียญทองถูกคลื่นใต้น้ำพัดลงไปอยู่ในชั้นทรายลึกก็หมดหนทางแล้ว
อีกอย่างแบบนี้ก็เหนื่อยเกินไป พลังโพไซดอนไม่ใช่พลังไร้ขีดจำกัด จนถึงตอนนี้ฉินสือโอวเสริมความแกร่งให้หัวใจโพไซดอนไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พลังโพไซดอนแค่พอให้ฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงินว่ายทะยานไปได้สี่ห้ากิโลเมตรเทียบไม่ได้เลยกับเส้นทางเดินเรืออันยาวไกล
เหนื่อยจนแทบตาย ฉินสือโอวก็ยังหาเหรียญทองตามเส้นทางเดินเรือไม่เจอเลยสักนิด แต่กลับเจอพวกหอยเชลล์แทน นั่นคงน่าจะเป็นของดีอีกอย่างของชายหาดน้ำตื้นจอร์จ หอยเชลล์ทรายยักษ์
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลากิน ฉินสือโอวต้องคิดวิธีหาสมบัติ เขาเก็บพลังโพไซดอนกลับมา เริ่มคิดหาว่ามีวิธีอื่นอีกไหม
พอคิดแบบนี้เขาก็นึกอีกอย่างได้ขึ้นมา เขาต่างกับนักล่าสมบัติคนอื่น จริงๆ แล้วเขารู้พิกัดของเหรียญทองที่จมทะเลคร่าวๆ จากพวกชาลส์ นั่นก็คือแนวหินโสโครกแฮช!
วิเคราะห์ตามสภาพอากาศในตอนนั้น เรือสำปั้นแล่นไปไม่ได้ไกลแน่ๆ เพราะจุดที่เจอร่างไร้วิญญาณของเจ้าหน้าที่ทหารเรือห่างกับแนวหินโสโครกเพียงสองกิโลเมตรกว่าเท่านั้น
ต่อให้คลื่นใต้น้ำพัดหีบเหรียญทองกลิ้งไประยะหนึ่ง แต่อย่างมากก็ไปได้แค่ไม่กี่กิโลเมตร
ตอนนี้ขอบเขตเริ่มแคบลง เอาแนวหินโสโครกแฮชเป็นจุดศูนย์กลาง ภายในรัศมีสิบกิโลเมตรก็คือจุดที่หีบเหรียญทองหล่นอยู่
ส่วนรัศมีสิบกิโลเมตรนี้ อย่าพูดถึงสิบกิโลเมตรเลย ต่อให้เป็นรัศมีห้าสิบกิโลเมตรก็ถูกนักล่าสมบัติกับบริษัทกู้ซากหามาจนรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเจอสมบัติ งั้นก็แปลว่าหีบเหรียญทองคงจะโดนฝังอยู่ใต้ทรายทะเลจริงๆ
แบบนี้ของเขตก็ยิ่งแคบลง เหลือเพียงเส้นทางเดินเรือภายในรัศมีสิบกิโลเมตร
นอกจากนั้น แม้จะจริงที่ว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินจะแรงเยอะและเคลื่อนไหวเร็ว แต่ก็ไม่ถนัดเรื่องขุดทราย จริงๆ แล้วเขามีผู้ช่วยอื่นที่ใช้ได้
แต่ก่อน เขาคิดเสมอว่าจะใช้จิตสำนึกโพไซดอนมาจัดการเรื่องต่างๆ เองได้อย่างไร แต่ที่จริงมีหลายเรื่องที่เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเอง อย่างเรื่องขุดทราย ทีมหมึกกล้วยจอมขยัน กองทัพงูเหลือมทะเล เจ้าพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเต็งในด้านการมุดทราย ขอแค่พวกมันมาที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ จะมีสมบัติอะไรที่หาไม่เจอบ้าง?
เขาตั้งใจจะเรียงกองทัพทะเลสองกองมาที่นี่ จากนั้นก็ขุดพื้นทรายตามเส้นทางเดินเรือสักรอบหนึ่ง น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีแรง ได้แต่นอนไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาทำงานนี้ต่อ
ตอนตีสี่ท่าเรือก็เริ่มคึกคักขึ้นมา นักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟกับเหล่าชาวประมงต่างเตรียมออกทะเลจับปลา
เรี่ยวแรงของฉินสือโอวกลับมาแล้ว เรื่องแรกที่ทำหลังจากตื่นก็คือกลับไปฟาร์มปลาต้าฉินรวบรวมกองทัพงูเหลือมทะเลกับทีมหมึกกล้วยจอมขยัน พอทำพิกัดให้พวกมัน พวกมันก็เริ่มเดินทางมาที่นี่
ตาแก่เจมส์เห็นฉินสือโอวก็พูดขึ้น “กัปตันโชคช่วย วันนี้ต้องเอาปลากลับมาให้ได้นะ”
ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ “แล้วแต่ความประสงค์ของพระเจ้า”
ชาลส์เดินผ่านไปข้างๆ พลางพูดอย่างอารมณ์ดี “ฉิน วันนี้พวกเขาต้องเอามากลับมาให้ได้ กรมอุตุยกเลิกการแจ้งเตือนพายุ ถ้าวันนี้ไม่ได้ปลา กลางคืนเราก็ค้างที่หาด ไม่กลับมาเด็ดขาด!”
ตาแก่เจมส์หัวเราะพลางปรบมือแล้วพูดว่า “ชาลส์ พูดได้ดี นี่เป็นคำพูดที่ได้เรื่องที่สุดที่ได้ยินนายพูดตั้งแต่รู้จักนายมาเลย ไปเถอะ พระเจ้าคุ้มครองอเมริกา โอ้ คุ้มครองแคนาดาด้วย!”
ฉินสือโอวยิ้มและแปะมือกับอีกสองสามคน ตอนที่เขากำลังจะเดินจากไป เรือประมงสีขาวก็แล่นเข้ามา บนนั้นเขียนว่า ‘ชาร์ลส์เดอเกล’ คนผิวขาวคนหนึ่งเกยอยู่บนเรือแล้วโบกมือทักทายฉินสือโอว “เฮ้ อรุณสวัสดิ์ เพื่อนนิวฟันด์แลนด์ของฉัน”
ฉินสือโอวเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ พอเห็นชื่อเรือประมงชัดๆ เขาก็รู้แล้วว่าคนผิวขาวคนนี้ก็คือคนฝรั่งเศสชื่ออาร์ม็องที่มาหาเขาเมื่อวาน
คืนวานนี้ค่อนข้างมืด เขาไม่ได้มองดูหน้าตาอาร์ม็องให้ชัด ตอนนี้พระอาทิตย์เพิ่งขึ้น เขาถึงเห็นว่าอาร์ม็องสูงโปร่งหล่อเหลามาก สันจมูกโด่ง เบ้าตาลึก เค้าโครงหน้าอ่อนโยน เหมือนกับดาราหนังฝรั่งเศสเบอนัวต์ มาจิเมลในสมัยหนุ่ม
ฉินสือโอวโบกมือทัก เขามีท่าทีกระตือรือร้นตลอด เขาก็ไม่ควรไม่ไว้หน้าใช่ไหมล่ะ
เรือสองลำออกจากท่าไปตามๆ กัน อาร์ม็องพูดยิ้มๆ “ฉิน เราก็อยากไปตกปลาที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ ขอเดินทางไปกับคุณด้วยได้ไหม? เราไม่รบกวนคุณหรอก หลักๆ ก็แค่จะได้คอยดูแลกันได้ คุณก็รู้นี่เพื่อน คนแคนาดาอยู่ที่นี่ไม่ค่อยจะง่าย”
นั่นก็จริง ชาวประมงอเมริกันกับชาวประมงแคนาดาไม่ลงรอยกันมาตลอด ตอนที่ฉินสือโอวช่วยชาลส์รักษาเรือประมงที่เอาไว้ทำมาหากินได้และแสดงความตรงไปตรงมาออกมาถึงได้รับมิตรภาพจากกลุ่มคนที่ท่ากลอสเตอร์
ปกติแล้ว ชาวประมงแคนาดาอยากจะเข้าท่ากลอสเตอร์เติมของยังยากเลย
เป็นคนแคนาดาด้วยกัน ในเมื่อทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน ความรู้สึกก็ต่างจากตอนคุยกับคนอเมริกัน ฉินสือโอวจึงพยักหน้าแล้วบอกว่าไม่มีปัญหา หลังจากนั้นเรือประมงอีกสี่ลำที่แขวนธงใบเมเปิลก็ตามมาด้วย
ฉินสือโอวประหลาดใจเล็กน้อย ไม่ได้สังเกตมาตลอดเลยว่าจะมีเรือประมงจากแคนาดามาที่กลอสเตอร์เยอะขนาดนี้
พาฉินโซ่วทั้งกลุ่มไป เรือประมงบอลหิมะแล่นฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังชายหาดน้ำตื้นจอร์จ ช่องวิทยุสาธารณะยังคงคึกคัก เหล่าชาวประมงล้วนแซวพวกนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟที่โพล่งคำด่าออกมาเป็นพักๆ ประมาณว่า ‘วันนี้ฉันจับปลาใหญ่ได้แน่นอน’ ‘ปีนี้เราจะตกปลาใหญ่ไปให้หมด’
พอมาถึงชายหาดน้ำตื้นจอร์จ จิตสำนึกโพไซดอนของฉินสือโอวก็จู่โจมพากองกำลังทูน่าครีบน้ำเงินของเขาว่ายวนเรือตกปลาของเหล่านักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟไม่หยุดด้วยความรวดเร็ว
แผนของเขาเมื่อคืนวานที่บาร์ได้ผลแล้ว วันนี้พวกนักตกปลาต่างเรียกได้ว่าทุ่มสุดตัว คนพวกนั้นแชร์ข้อมูลหาปลา และหารือกันเรื่องจุดหาอาหารที่เป็นไปได้ของทูน่าครีบน้ำเงิน โยนเหยื่อล่อลงน้ำเรื่อยๆ เพื่อหาร่องรอยของปลา
เป็นอย่างที่คิดไว้ การมีศัตรูร่วมกันสามารถทำให้พวกเขาสามัคคีกันมากขึ้น นักตกเหล่านี้ถึงขนาดแบ่งน่านน้ำเขตตกปลากัน บางคนที่เจอเงาร่างทูน่าครีบน้ำเงินในเขตทะเลบางแห่งก็บอกกับนักตกรอบข้างให้มาตกด้วยกัน
แบบนั้น ฉินสือโอวก็ยิ่งสบายกว่าเดิม เรือตกปลาอาร์บีเอฟเอฟยิ่งเกาะกลุ่มกันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งประหยัดแรงมากเท่านั้น
เหยื่อปลาจำนวนมากถูกโยนลงทะเล แน่นอนว่ามีปลาทูน่าที่ถูกล่อมา ฉินสือโอวเลยซุ่มรอ
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวหนึ่งยาวหนึ่งเมตรกว่าๆ ส่ายหัวส่ายหางว่ายมา พอมันเห็นเหยื่อล่อปลาที่อยู่ด้านบนก็พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจิตสำนึกโพไซดอนก็ครอบงำมัน แล้วพาไปเลย…..
มีบางคนที่ลงทุนหนักเพื่อตกปลา ขับเรือไปช้าๆ ระหว่างทางก็โยนเหยื่อไปเรื่อยๆ แบบนี้โอกาสเจอปลามากขึ้นก็จริงแต่ก็เปลืองเหยื่อล่อมากกว่า แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ทูน่าครีบน้ำเงินอวบอ้วนตัวหนึ่งก็ถูกล่อมา ปรากฏว่ากินเหยื่อไปสองชิ้น จิตสำนึกโพไซดอนก็เอามันไป…..
เรือลำหนึ่งเข้าเขตน้ำลึกของชายหาดน้ำตื้นจอร์จ เครื่องโซนาร์สำหรับหาปลาดัง ‘ติ๊ดๆ ’ ขึ้นมา คนบนเรือตื่นเต้นกันใหญ่ เจอปลาใหญ่แล้ว! อย่างที่คิด พอพวกเขาไปดู บนหน้าจอก็ปรากฏเงาร่างปลาสี่ตัว ปลาใหญ่ยาวอย่างน้อยสองเมตรตัวหนึ่ง แล้วก็ยังมีปลาเล็กอีกสามตัว
“รีบเปลี่ยนเหยื่อเป็นเร็วเข้า!” กัปตันร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น จากนั้นเครื่องหาปลาก็เงียบไป กัปตันหันหน้ามาอย่างตะลึง ปลาทั้งสี่ตัวหายไปแล้ว…..
ฉินสือโอวนอนแผ่หัวเราะอยู่บนเรือ โชคดีจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอแม่ปลาที่พาลูกปลาสามตัวมาด้วย!
………………………………………………..
บทที่ 251 ปลามาร์ลินตัวใหญ่
โดย
Ink Stone_Fantasy
ตอนกินข้าวกลางวัน ฉินสือโอวก็แย่งทูน่าครีบน้ำเงินมาจากใต้เรือของนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟถึงสิบสองตัว แบบนี้ฝูงปลาของเขาก็ขยายเป็นจำนวนถึง 36 ตัวแล้ว และจำนวนนี้ยังขยายต่ออีก
มิน่าล่ะทุกคนถึงได้อยากเป็นเถ้าแก่ ความรู้สึกที่มีคนช่วยทำงานให้นี่มันดีจริงๆ เจ้าพ่อปลาคิดอย่างไม่อาย
ฉินสือโอวไร้ความกดดันในการรับมือกับพวกอเมริกันหยิ่งผยอง เขานอนแผ่อยู่ในห้องคนขับ ในมือถือวิทยุไร้สาย คอยท้าทายนักตกทั้งหลายสุมไฟความโกรธเข้าไปอีก
นีลเซ็นจำเป็นต้องให้อีวิลสันยืนเปลือยแขนอยู่ที่หัวเรือ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อข่มเจ้าพวกนักตกปลาที่โกรธเคือง ไม่อย่างนั้นเขากลัวว่าพวกนักตกปลาจะอับอายจนโกรธแล้วเข้ามาวางมวย
ที่จริงเขาคิดมากไปเองอย่างแรกพวกนักตกปลาเป็นพนักงานออฟฟิศ จากนั้นถึงจะเป็นคนที่ตกปลาเป็นงานอดิเรก พวกเขาจะกล้ามีเรื่องกับคนมีอิทธิพลที่มีบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสได้อย่างไร?
“กลางวันกินอะไร สหายทั้งหลาย?” ฉินสือโอวถาม
พอได้ยินคำว่า ‘กิน’ หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า ต้าป๋ายต่างพากันกระโดดโลดเต้น บุชไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเองก็ลุกขึ้นมาส่ายก้นอ้วนๆ เช่นกัน ตาคู่ดำกะพริบปริบๆ พลางอ้าปากร้อง “ก๊าบๆ…”
ฉินสือโอวยิ้มร้ายพลางหยิกไปที่ก้นของบุชแล้วพูดขึ้น “แกเป็นอินทรีหัวขาวหรือเป็ดน้ำกันแน่? บอกมาสิว่าทำไมเสียงร้องอย่างกับเป็ดข้างบ้านแบบนี้?”
“ก๊าบๆ! ก๊าบๆ!”บุชส่ายหางใหญ่ มันไม่ชอบโดนคนหยิกก้น พวกนกอินทรีหัวขาวนั้นหยิ่งยโสมากทีเดียว
“ปลาหมึกย่างกับแฮมเบอร์เกอร์?” ชาร์คถามด้วยรอยยิ้ม
จู่ๆ เครื่องโซน่าร์สำหรับหาปลาของเรือประมงบอลหิมะก็ร้องติ๊ดๆ ขึ้นมา ฉินสือโอวพลิกตัวขึ้นยืนจากเก้าอี้ผ้าใบ พอดูก็ต้องตกใจใหญ่ก่อนเอ่ยปาก “โห ปลานี่ตัวใหญ่ชะมัดเลย!”
ตามสัดส่วนแล้ว ปลาที่โผล่ขึ้นบนเครื่องโซน่าร์มีความยาวเกินสี่เมตร ถ้าเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินละก็สามารถทุบสถิติได้เลย!
เพียงแต่ฉินสือโอวเห็นว่าปลาตัวนี้เหมือนฉลามหรือลูกวาฬมากกว่า อาจมีทูน่าครีบน้ำเงินที่มีความยาวเกินสี่เมตรอาศัยอยู่ในทะเลลึก แต่ฉินสือโอวไม่คิดว่าตัวเขาจะโชคดีขนาดเจอสักตัว
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็พากันอุทานออกมา แต่พอยื่นหน้าเข้าไปดูอย่างละเอียดแล้วทั้งสองก็ส่ายหน้าบอกว่าไม่ใช่ทูน่าครีบน้ำเงิน เพราะปลาตัวนี้ว่ายอย่างไม่กลัวเกรงมากเกินไป ทูน่าครีบน้ำเงินจะไม่โอหังแบบนี้
“น่าจะเป็นพวกฉลามขาวหรือฉลามหางยาว ดูท่าทางแล้วโอหังอย่างกับอะไรดี! มีแต่ปลาที่ไม่ค่อยมีศัตรูธรรมชาติถึงกล้าโอหังในทะเลแบบนี้”
เป็นปลาอะไรลงไปดูก็รู้แล้ว จิตสำนึกโพไซดอนฉินสือโอวลงไปสำรวจด้านล่าง ไม่นานก็เจอกับปลาใหญ่แสนโอหังตัวนี้
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์เดาผิดทั้งคู่ นี่ไม่ใช่ฉลาม เพราะรูปร่างของปลาตัวนี้ยาว ด้านบนเป็นสีน้ำเงินโคบอลต์ ที่ท้องเป็นสีขาวเงิน มีครีบหลังที่ชัดเจน ดูภายนอกแล้วคือปลากระโทงสีน้ำเงิน
อีกอย่างบนปากของปลาตัวนี้ยังมีปากบนเป็นทรงหอกยาว นั่นคือสัญลักษณ์ของมัน ปลาบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติก ปลามาร์ลิน!
ปลาตัวนี้ยาวสี่เมตรกว่า รูปร่างกลมและกำยำ แข็งแกร่งราวกับเครื่องกระทุ้ง ท่าทียโส แววตาผยอง ดูเป็นราชาแห่งท้องทะเลจริงๆ
แน่นอนว่าปลามาร์ลินแอตแลนติกก็เป็นราชาแห่งท้องทะเลจริงๆ ในทะเลพวกมันเจอศัตรูน้อย ต่อให้เป็นฉลามที่โหดและดุร้ายก็ยังไม่ค่อยกล้าแหย่พวกมันง่ายๆ เพราะปากบนทรงหอกแหลมที่หัวนั้นพอให้แทงฉลามตายได้เลย!
ปกติแล้วปลาชนิดนี้จะกินปลาซาบะกับทูน่าเป็นอาหาร บางครั้งก็ดำน้ำลงไปกินปลาหมึก พวกมันเป็นปลาที่เร็วที่สุดในทะเล จะใช้หอกของพวกมัน จับกลุ่มกันไปกินเหยื่อที่ตกใจและบาดเจ็บ
สำหรับคนชอบตกปลาแล้ว ปลามาร์ลินแอตแลนติกก็เหมือนรางวัลตกปลา เพราะปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร นิสัยดุร้าย แรงเยอะไม่มีอะไรเทียบ ตัวโต ปกติหลังติดเบ็ดจะต้องใช้เวลาจัดการหลายชั่วโมงถึงจะตกได้สำเร็จ ฉะนั้นความภาคภูมิใจกับความสำเร็จจึงสูงมาก
การตกปลามาร์ลินแอตแลนติกได้ตัวหนึ่งสามารถให้ความรู้สึกประสบความสำเร็จกับนักตกได้ไม่แพ้กับนักปีนเขาที่ท้าทายเขาเอเวอเรสต์!
อีกอย่าง เนื้อของปลามาร์ลินยังเป็นอาหารอันโอชะด้วย โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น พวกมันมักถูกนำมาเป็นวัตถุดิบปลาดิบชั้นเลิศ ราคาต่อชิ้นเทียบไม่ได้กับทูน่าครีบน้ำเงิน แต่เพราะปลาชนิดนี้มักจะตัวโตน้ำหนักเยอะ ราคาปลาทั้งตัวจึงมักจะสูงกว่าทูน่าครีบน้ำเงิน
ตอนแรกฉินสือโอวอยากจะตกปลาตัวนี้ เพราะหลายวันมานี้ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเลย ถ้ายังตกไม่ได้สักสองสามตัวก็หมดสนุกแล้ว
แต่ปรากฏว่าปลามาร์ลินตัวนั้นว่ายกร่างโจมตีใต้ทะเล หัวโหม่งลงพื้นทะเลอย่างแรง ปากบนทรงหอกแหลมคมมุ่งไปทางปลาใหญ่ใต้ทะเลตัวหนึ่งแล้วแทงเข้าไป!
บ้าจริง! ฉินสือโอวแอบก่นด่าในใจ
เมื่อกี้เขายังแปลกใจอยู่ ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีปลาทะเลลึกตัวโตโผล่มาได้? ที่แท้ เจ้านี่ถูกดึงมาด้วยปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่โดนเขาบงการอยู่!
กองกำลังทหารธงฟ้าไม่ได้กระจายตัว เพื่อที่ไม่ให้พวกมันโดนตกไป ฉินสือโอวจึงคุมให้พวกมันดำน้ำอยู่ก้นทะเล
ขอแค่ใกล้กับก้นทะเลมากพอ เครื่องโซน่าร์ก็จะตรวจจับทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้ อย่างไรเสียเครื่องโซน่าร์ก็แสดงผลได้แค่ภาพรวม คลื่นสะท้อนของเครื่องโซน่าร์สามารถแสดงเงาทูน่าครีบน้ำเงินที่อยู่ก้นทะเลได้เหมือนกับหินก้อนเล็กก้อนหนึ่งเท่านั้น
ปลามาร์ลินชอบกินทูน่าครีบน้ำเงิน พอเจอว่าที่นี่มีปลาตัวใหญ่ๆ มาซ่อนอยู่เต็มไปหมดเจ้านี่ก็ดีใจใหญ่ มุดหัวลงไป ปากบนที่เหมือนหอกคมก็พุ่งไปทางทูน่าครีบน้ำเงินยาวหนึ่งเมตรแล้วเสียบเข้าไป
ดีที่ตอนนี้ทูน่าครีบน้ำเงินพวกนี้ถูกพลังโพไซดอนปรับมา แรงเยอะกว่าเดิมมาก
เจอศัตรูธรรมชาติ ฝูงทูน่าก็วงแตกทันที ปลามาร์ลินหยุดไม่ทันจนหัวกระแทกเข้ากับพื้นทะเล ปากแหลมแทงเข้าไปในทราย หัวกว่าครึ่งจมเข้าไปแล้ว
จากเรื่องนี้ก็ได้เห็นความแกร่งของเจ้านี่ ดึงเอาหัวออกมาได้ ปากแหลมทรงหอกของปลามาร์ลินไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด มันสอดส่ายหาฝูงปลาทูน่าด้วยท่าทีราวเสือจะตะครุบเหยื่อ ส่ายหางและพุ่งไปอีกครั้ง
ไอ้เจ้านี่นี่ เกรงใจแล้วยังไม่หยุดอีก ฉินสือโอวแอบด่าในใจ จิตสำนึกโพไซดอนพุ่งเข้าไป ปลามาร์ลินจอมพยศตัวนี้โดนควบคุมจนสงบลงทันที
ในเมื่อจิตสำนึกโพไซดอนควบคุมปลาตัวนี้ได้แล้ว ฉินสือโอวก็ไม่คิดจะตกมันขึ้นมาอีก อีกอย่างเมื่อกี้ดูท่ามันจะใช้ปากบนทรงหอกแหลมแทงทรายได้สบายๆ ใช้มันมาเป็นทีมค้นหาเหรียญทองใต้ทรายจะเหมาะกว่า
โอเค ไว้ชีวิตแกก็ได้ ฉินสือโอวตัดสินใจอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่ชาร์คกับซีมอนสเตอร์วิเคราะห์ว่าปลาตัวนี้คือฉลามก็ไม่ได้สนใจ ฉะนั้นแม้ว่าหลังจากนั้นปลาตัวนั้นไม่ได้โผล่มาอีก พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
แต่ปฏิกิริยาของพวกอาร์บีเอฟเอฟไม่เหมือนกัน พวกเขาคุ้นเคยกับปลามาร์ลินดี คุ้นเคยยิ่งกว่าชาวประมงเสียอีก เพราะเหล่านักตกทุ่มศึกษาปลามาร์ลินมามากกว่าที่ศึกษาทูน่าครีบน้ำเงิน
นักตกปลาที่เข้าวงการล้วนมีฝันอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสักวันหนึ่งจะตกปลามาร์ลินตัวใหญ่ได้
ขอแค่ตกปลามาร์ลินได้ ต่อให้นักตกคนนั้นเป็นไก่อ่อน ก็จะกลายเป็นตำนานในหมู่นักตกปลา
ฉะนั้นพอปลามาร์ลินว่ายมาปรากฏในเครื่องโซน่าร์ของเหล่านักตก เจ้าพวกนี้ก็บ้ากันขึ้นมา
ไม่นานช่องวิทยุของพวกเขาก็มีเสียงโห่ร้องตื่นเต้นดังลอดออกมาไม่ขาดสาย เรือทุกลำต่างถอนสมอแล้วเริ่มเคลื่อนไหวหาปลาตัวโตนี้
……………………………………………………..
บทที่ 252 หอยเชลล์แสนอร่อย
โดย
Ink Stone_Fantasy
ควบคุมปลามาร์ลินได้ ฉินสือโอวก็ว่าง เขาโบกมือแล้วเอ่ยขึ้น “สหาย กินข้าว!”
หู่จือ เป้าจือที่รอมานานพากันแลบลิ้นเลียปาก ฉงต้าตบพุงกลมที่ยื่นออกมา แววตาคู่เล็กฉายแววคาดหวังต่างๆ นานา
ใกล้เขาก็กินของป่า ใกล้ทะเลกินของทะเล ตอนเช้าแม้ว่าจะตกทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้ แต่ก็ตกปลาอินทรีบั้งทองกับปลาหมึกตัวโตได้หลายตัว
ชาร์คเอาปลาหมึกมาล้างให้สะอาด พอทาซอสแล้วก็ตั้งเตาย่างเล็กๆ บนเรือก่อนจะวางลงไป ทาน้ำมันไปและพลิกย่างไปด้วย
นีลเซ็นใช้ไมโครเวฟอุ่นแฮมเบอร์เกอร์ อันนี้เอาให้อีวิลสันกินก่อน เพราะเจ้านี่กระเพาะใหญ่เกินไป ถ้าไม่ให้กินแฮมเบอร์เกอร์รองท้องก่อน อีกสักพักฉินสือโอวกับคนอื่นคงต้องหิวท้องกิ่ว
เจ้าพวกหู่จือ เป้าจือ ฉงต้าล้วนรู้เรื่องนี้ นั่นก็คือห้ามแย่งของของอีวิลสัน ไม่อย่างนั้นถ้าเจ้ายักษ์หิวขึ้นมาก็แย่งได้หมดแม้กระทั่งขนมเคี้ยวเล่นของพวกมัน ฉะนั้นพวกมันไม่ขัดข้องที่อีวิลสันกินก่อน
อีวิลสันยิ้มหน้าบานพลางกอดแฮมเบอร์เกอร์เป็นกอง เขาเอาอันที่ใหญ่ที่สุดให้ฉินสือโอวก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “บอส คุณกินก่อน แฮมเบอร์เกอร์อร่อยมากเลย”
ฉินสือโอวแอบด่าในใจ ให้เขากินอาหารพวกนี้คงได้เลี่ยนเสียก่อน เขาให้อีวิลสันไปกินก่อน ส่วนตัวเขาก็แบ่งแฮมเบอร์เกอร์ให้กับพวกหู่จือ เป้าจือและฉงต้า เจ้าพวกนี้รอตาเป็นประกายพลางเลียหน้าเลียตา
แค่กินแฮมเบอร์เกอร์กับปลาหมึกย่างยังไม่เท่าไร ฉินสือโอวนึกไปถึงหอยเชลล์ยักษ์ที่ก้นทะเล อย่างไรก็ต้องงมมาชิมสักหน่อย
หอยเชลล์ยักษ์ของชายหาดน้ำตื้นจอร์จนั้นมีชื่อมาก ในตลาดจะเรียกกันว่าหอยเชลล์ยักษ์แมสซาชูเซตส์ เพราะเนื้อของมันนุ่มและมัน เนื้อเยอะรสสดอร่อย ราคาเลยไม่ธรรมดา
สาเหตุนี้ทำให้เหล่าชาวประมงจับกันตามอำเภอใจ ทำให้หอยเชลล์ยักษ์ตามแนวเขตทะเลตื้นแมสซาชูเซตส์โดนจับจนหมด ตอนนี้ได้แต่ไปถึงเขตน้ำลึกที่ห่างจากฝั่งถึงจะสามารถจับหอยเชลล์แสนอร่อยนี้ได้
หอยเชลล์จับยาก มันไม่ลอยขึ้นมาเอง ฉะนั้นฉินสือโอวจึงได้แต่พูดว่า “ก้นทะเลที่นี่ต้องมีหอยเชลล์แน่ๆ เพื่อน หาที่ตื้นๆ หน่อย เราจะงมหอยขึ้นมากินกัน”
“ฮ่ะ บอสนี่ช่างตะกละจริง แต่นี่เป็นไอเดียที่สุดยอด”ซีมอนสเตอร์พูดยิ้มๆ
คนพวกนี้ฉลาดจริงๆ รู้ว่าฉินสือโอวเป็นไฉ่สิ่งเอี้ย ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่ฟาร์มปลาต้าฉินก็ต่างลำบากเรียนภาษาจีนกัน ตอนนี้ทุกคนสามารถพูดภาษาจีนประโยคง่ายๆ แล้ว แถมออกเสียงค่อนข้างถูกต้องด้วย ไม่แย่ไปกว่าเอฟเฟนดิของเราเลย
หอยเชลล์ยักษ์ของชายหาดน้ำตื้นจอร์จก็ไม่เยอะ พอดีกับที่การมาของปลามาร์ลินจอมพลังเป็นประโยชน์ ฉินสือโอวควบคุมให้มันอ้าปากแล้วคาบเอาหอยเชลล์ไปไว้ในจุดที่น้ำตื้นหน่อยแล้วให้ซีมอนสเตอร์ที่สะพายถังออกซิเจนขนาดเล็กลงน้ำ
จุดที่พวกเขาเลือกนั้นน้ำลึกประมาณยี่สิบห้าเมตร ซีมอนสเตอร์สวมชุดดำน้ำสะพายถังออกซิเจนเล็กลงน้ำไป ไม่นานก็พบหอยเชลล์พวกนั้น
คำว่า ‘ยักษ์’ ของหอยเชลล์ยักษ์นั้นเทียบกับหอยเชลล์ทั่วไป จริงๆ แล้วความกว้างอย่างมากของพวกมันก็แค่ครึ่งเมตรเท่านั้น ส่วนมากไม่ถึงยี่สิบเซนติเมตร หนักแค่ประมาณห้าหกกิโลกรัม
ซีมอนสเตอร์เอาหอยเชลล์ใส่ไว้ในกระเป๋าตาข่ายที่แขวนไว้ข้างเอว เพียงครู่เดียวก็เก็บได้สิบกว่าอัน พอรู้สึกว่าพอกินแล้วก็ว่ายกลับขึ้นไป
ในน้ำมีแรงพยุง ต่อให้หิ้วของห้าสิบกว่ากรัม คนกำยำอย่างซีมอนสเตอร์ก็สบายมาก ตอนที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำก็ไม่ไหวแล้ว อีวิลสันเข้าไปช่วย มือหนึ่งคว้ากระเป๋าตาข่ายแล้วดึงขึ้นมาสบายๆ
หอยเชลล์ชนิดนี้มีสีขาวเทาทั้งตัว ข้างบนมีลายเป็นเส้นๆ แรงเยอะ ตอนที่พวกมันปิดปากฝา คนปกติจะเปิดไม่ออก
แน่นอนว่าตอนที่ชาวประมงมือเก๋าอย่างซีมอนสเตอร์กับชาร์คจัดการมันก็ต้องระวัง พอวางย่างเหนือไฟพวกมันก็อ้าปากเผยให้เห็นเนื้อเนียนนุ่มละเอียดอวบอ้วนที่ขาวราวหิมะ
พวกเขาแบ่งงานกัน ชาร์คพาอีวิลสันตัดกล้ามเนื้อปิดเปลือกของหอยเชลล์ที่อ้าปาก แบบนี้พวกมันก็ปิดไม่ได้แล้ว ส่วนซีมอนสเตอร์รับผิดชอบเรื่องล้างหินและทรายในท้องและเครื่องในของหอยเชลล์ พอล้างเสร็จหนึ่งตัวนีลเซ็นก็เอามาย่างตัวหนึ่ง
ส่วนฉินสือโอวก็รับผิดชอบเรื่องกิน ใครให้เขาเป็นบอสล่ะ?
ซีมอนสเตอร์ล้างอีกสักพัก เขาก็เอาไข่มุกเทากำเล็กๆ ยื่นให้กับฉินสือโอวแล้วพูดยิ้มๆ “บอส นี่คือของส่วนรวมใช่ไหม?”
หอยเชลล์เกือบจะทุกตัวจะมีไข่มุกเทา เยอะหรือน้อยเท่านั้นเอง ไข่มุกชนิดนี้ไม่มีราคาตามชายฝั่งทะเล หอยเชลล์ยักษ์เห็นตัวใหญ่แบบนั้น แต่พวกมันไม่ใช่พันธุ์เพาะไข่มุก ที่ซีมอนสเตอร์ล้างออกมามีแต่ไข่มุกเทาเม็ดเล็กๆ
ฉินสือโอวเข้าใจว่าเจ้านี่ตั้งใจหยอกเขาเล่น ของพวกนี้ไม่มีราคา ปกติก็โยนทิ้งทั้งนั้น
แต่ฉินสือโอวกลับรับผงไข่มุกเหล่านั้นมาก่อนเอ่ยปาก “ใช่ ของส่วนรวม เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการมันด้วยกัน กินไปเลยดีไหม?”
ไข่มุกเทาไม่มีราคา ไข่มุกดำที่หอยนางรมลอยที่บ้านฉินสือโอวสร้างออกมาถึงจะเรียกว่าเป็นอัญมณีท้องทะเลที่แท้จริง แต่เฮเกลก็พูดไว้ สิ่งที่จริงมีเหตุผล ไข่มุกเทาก็มีประโยชน์ นั่นก็คือทำเป็นผงไข่มุกที่กินได้
ส่วนประกอบหลักของไข่มุกเทาคือแคลเซียมคาร์บอเนต แต่ยังมีโปรตีนสูงด้วย หลังจากละลายน้ำสามารถได้กรดอะมิโนออกมาสิบแปดชนิด เจ็ดชนิดในนั้นเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น หมอก็รู้จักที่จะใช้ผงไข่มุกเป็นยารักษาโรคและบำรุงร่างกาย
ฉินสือโอวให้นีลเซ็นเอานมออกมาแล้วใช้ด้ามดาบบดไข่มุกเป็นผงแล้วเทใส่นมชงกิน อืม ติดคอนิดหน่อย แต่รสชาติก็ใช้ได้
เรือตกปลาลำหนึ่งแล่นมาจากด้านหลัง เงาร่างหล่อเหลาของอาร์ม็องปรากฏตัวแล้วถามขึ้น “เพื่อน ได้ยินว่าแถวนี้มีปลามาร์ลินโผล่มา ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ จริงไหม? คุณเห็นหรือยัง?”
ฉินสือโอวจงใจทำท่าแปลกใจ “ปลามาร์ลิน? ไม่มีนี่…”
ชาร์คเข้าใจในทันทีแล้วพูดขึ้น “ก็คือปลาตัวใหญ่ที่เคยโผล่มาตัวนั้น ที่เรานึกว่าเป็นฉลาม บอส ที่แท้นั่นคือปลามาร์ลิน? เราพลาดโอกาสดีที่จะพิสูจน์ตัวเองเสียแล้ว”
อาร์ม็องพูดยิ้มๆ “ใช่ ผมได้ยินมาว่าพวกคุณพนันกับอาร์บีเอฟเอฟ ถ้าพวกคุณตกปลามาร์ลินได้ในขณะที่พวกนั้นตกไม่ได้ งั้นรอบนี้พวกคุณก็ชนะใสๆ โอเค พวกคุณยุ่งไปก่อน ผมจะไปวนดูหน่อยว่าจะโชคดีเจอเจ้านั่นไหม”
ฉินสือโอวเชิญตามมารยาทว่า “บนเรือเรามีหอยเชลล์ยักษ์ คุณอยากจะมาชิมด้วยกันไหม?”
อาร์ม็องดูๆ แล้วเอ่ยปาก “ขอบคุณน้ำใจของคุณ เพียงแต่เมื่อวานนี้เราเพิ่งจะชิมของอร่อยนั้นไป อร่อยจริงๆ ใช่แล้ว พวกคุณกะว่าจะย่างกินแบบนี้เหรอ? ฉิน หอยเชลล์นึ่งกระเทียมกับวุ้นเส้นน่ะ นั่นคืออาหารเลิศรสอย่างหนึ่งของจีนเลยนะ”
ฉินสือโอวแอบอุทานว่าเจ้าหนุ่มนี่ก็น่าสนเหมือนกัน รู้ว่ามีวิธีทำอย่างหอยเชลล์นึ่งกระเทียมกับวุ้นเส้นด้วย
จริงๆ แล้วต้นกำเนิดของอาหารจานนี้อยู่ที่อิตาลี ถ้าคนต่างชาติจะรู้จักก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ประเทศจีนปรับเปลี่ยนวิธีปรุง ใช้พวกพริกซอยเพื่อปรับให้เข้ากับนิสัยกินรสจัดของคนจีน
ฉินสือโอวบอกว่าพวกเราไม่มีวัตถุดิบ อาร์ม็องยิ้มแล้วพูดขึ้นว่าดูฉัน เขาปล่อยแพเล็กแล้วล่องมา พอขึ้นเรือได้เขาก็โบกกล่องเครื่องครัวในมือ พอฉินสือโอวเข้าไปดูก็เห็นว่าในนั้นมีเครื่องปรุงมากมาย…
“ที่แท้คุณก็เป็นนักกินนี่เอง” ฉินสือโอวยิ้มออกมา
อาร์ม็องยักไหล่แล้วพูดว่า “ผมไม่ถือว่าเป็นนักกิน แต่ผมคิดว่าคนเราต้องสนุกกับชีวิต และแน่นอนว่าการกินอาหารรสเลิศเป็นการดื่มด่ำชีวิตขั้นสูงสุด”
ฉินสือโอวดูออกแล้ว อาร์ม็องไม่ใช่ชาวประมง แม้ว่าผิวของเขาจะโดนแดดเผาจนเป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่ก็ละเอียดมาก ต่างกับผิวของพวกชาวประมงอย่างชาร์คที่ถูกแดดถูกลมจนดำและหยาบ
ถ้าเป็นแบบนี้ เขาเดาว่าอาร์ม็องคงจะเหมือนกันกับกลุ่มอาร์บีเอฟเอฟที่เป็นคนชื่นชอบการตกปลา นึกไปถึงเมื่อกี้ตอนที่เขาวิ่งมาถามเรื่องปลามาร์ลินโดยเฉพาะก็ปะติดปะต่อกันแล้ว
……………………………………………….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น