ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2251-2262
ตอนที่ 2251 รังสีคืออะไร
ป้าฟางหยิบเอาถ้วยประจำของฉิวฉิวมา เหมยเหมยคีบน่องเป็ดสองชิ้น กุ้งอีกหลายตัว และคีบเอาหมูนึ่งข้าวคั่วอีกจำนวนหนึ่งใส่ให้วางลงตรงหน้ามัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของโปรดฉิวฉิวทั้งนั้น จากนั้นก็ปล่อยฉาฉาออกมา ปล่อยให้สองพี่น้องทานไปด้วยกัน
“ทานหมดแล้วพี่ค่อยหยิบให้ใหม่ แกจะหยิบเองไม่ได้นะ”
ฉิวฉิวกรอกตามองบนแล้วกัดน่องเป็ดเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนอีกน่องหนึ่งยกให้ฉาฉาไป
“สรุปแล้วเจ้าซื่อบื้อนั่นเป็นอะไรกันแน่?” ฉิวฉิวถามขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค ความอยากรู้อยากเห็นของมันมีมากพอสมควร
“ติดเชื้อจากรังสี อาการหนักมาก พึ่งพายาวิเศษอยู่จึงทำให้ยื้อชีวิตมาได้” เหมยเหมยอธิบายสั้น ๆกระชับ
ฉาฉาที่ตั้งอกตั้งใจแทะน่องเป็ดอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาถามว่า “พี่ฉิว ติดเชื้อจากรังสีคืออะไรเหรอ?”
ฉิวฉิวรู้เสียที่ไหนล่ะ มันใช้อุ้งมือบีบลงไป “เวลาทานอาหารห้ามพูด เสียมารยาท!”
มันอัดอั้นอยู่นาน จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวจึงโพล่งถามเหมยเหมยว่า “รังสีคือพิษอะไรหรือ?”
เหมยเหมยไม่รู้เลยว่าควรจะอธิบายเช่นไรดี เวลาเจอปัญหาต้องเรียกสามีสิ เธอผลักเหยียนหมิงซุ่นเอ่ยขึ้นว่า “ฉิวฉิวถามว่ารังสีคืออะไร? พี่บอกมันไปสิ”
เหยียนหมิงซุ่นผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา ฉิวฉิวไม่ธรรมดา เหมยเหมยบอกว่ายาวิเศษมันก็เป็นคนให้มา บางทีมันอาจจะหาของดี ๆ อย่างอื่นได้อีกก็ได้!
“ฉันไม่รู้จะบอกแกอย่างไร พรุ่งนี้ฉันจะพาแกไปหาหมิงต๋า แกลองไปดูเองแล้วกัน…” เหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายให้กระรอกตัวหนึ่งฟังอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องรังสี
ใบหน้าของฉิวฉิวจริงจังขึ้นมา พอผ่านไปสักพักจึงพยักหน้า “ก็ดี มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเธอเจอโลกมาน้อยเกินไป ของที่ไม่รู้จักมีอยู่มาก ต้องสืบหาสาเหตุได้แน่นอน”
เหมยเหมยได้ยินเช่นนั้นก็พลันรู้สึกขบขำเลยเอาตะเกียบเคาะไปทีหนึ่ง “กินเนื้อของแกไปเลย!”
ฉิวฉิวกลอกตาใส่ด้วยความระอา คร้านจะสนใจนายผู้หญิงที่นับวันก็ยิ่งไม่น่ารักเอาเสียเลย แถมยังลอบมองหน้าท้องของเหมยเหมยอยู่บ่อย ๆ วัฏจักรการตั้งครรภ์ของมนุษย์คือสิบเดือน ตอนนี้สามเดือน ยังเหลือเวลาอีกไม่ถึงเจ็ดเดือน…
ฤดูใบไม้ผลิในปีหน้าก็จะมีเจ้าตัวเล็กมาเล่นด้วยแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นเองก็มองไปยังท้องของเหมยเหมยที่นูนขึ้นเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง ในนั้นคือลูกของเขา หลั่งจากสายเลือดของเขา…
เป็นความรู้สึกที่แสนมหัศจรรย์เหลือเกิน!
เหมยเหมยก้มหน้ามองตามสายตาของเขา ลูบท้องเบา ๆ พูดพลางหัวเราะว่า “ป้าฟางบอกว่าอีกเดือนเดียวเจ้าตัวเล็กก็ดิ้นได้แล้ว แถมยังอัลตร้าซาวด์ดูเพศได้ด้วย พี่คะ พี่อยากได้ลูกชายหรือลูกสาวเหรอ?”
“ได้หมดเลย”
ในความคิดเห็นส่วนตัวของเหยียนหมิงซุ่นนั้นรู้สึกว่าลูกชายดีกว่า ไม่ใช่ว่าเห็นผู้ชายเป็นใหญ่กว่าผู้หญิง แต่หวังว่าจะมีอีกสักคนมาคอยช่วยปกป้องดูแลเหมยเหมยต่างหาก
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ฉันชอบหมดเลย แล้วฉันก็จะคอยปกป้องดูแลพวกเขาไปจนโต ใครหน้าไหนก็อย่าได้คิดที่จะมารังแกพวกเขาเด็ดขาด” สีหน้าแววตาของเหมยเหมยเปี่ยมล้นด้วยความเป็นแม่
ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอแต่พอเป็นแม่คนกลับเข้มแข็ง นี่คือความสามารถที่วิเศษที่สุดที่พระเจ้าประทานให้กับสตรีผู้อ่อนแอ
เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือคลึงหว่างคิ้วของเหมยเหมยเพื่อผ่อนคลาย “มีพี่อยู่ จะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเธอกับลูกได้หรอก”
เช้าวันต่อมาเหยียนหมิงซุ่นพาฉิวฉิวไปโรงพยาบาลด้วย ฉาฉาเองก็อยากไปเปิดหูเปิดตากับรังสีในตำนาน เหยียนหมิงซุ่นจึงต้องยัดพวกมันไว้ในถุงกระเป๋าแล้วพาไปด้วย
เหยียนหมิงต๋ายังคงนอนอยู่ในตู้กักตัว ดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้เยอะมาก ไม่เจ็บปวดแล้วเพียงแต่ยังคงสลบอยู่
เหยียนหมิงซุ่นหยิบกาเทยาวิเศษเข้าไป ท่าทีของเหยียนหมิงต๋าดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่สิ่งที่ทำให้เหยียนหมิงซุ่นกังวลก็คือประสิทธิภาพของยาวิเศษที่ใช้รักษาเหยียนหมิงต๋านั้นลดน้อยลง ไม่ได้ผลเหมือนกับช่วงแรกเริ่มอีกต่อไปแล้ว
นี่คือสิ่งที่เหยียนหมิงซุ่นกังวลใจมากที่สุด
หากว่ายาวิเศษใช้ไม่ได้ผลแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องชายด้วยวิธีการใดได้อีก!
ฉิวฉิวทนอยู่ในหน้ากากมองอะไรไม่เห็นสักอย่างอยู่นานจึงปีนขึ้นไปยืนบนหัวของเหยียนหมิงซุ่นอย่างโมโห มองทะลุผ่านแผ่นกระจกครอบแต่กลับไม่รับรู้ถึงสิ่งใดเลย
“ปล่อยฉันออกไป!”
ฉิวฉิวเอะอะโวยวายอยู่ในหน้ากาก มือไม้ปัดป่ายไม่หยุด
…………………………………………………………………..
ตอนที่ 2252 พลังงานพิเศษ
เหยียนหมิงซุ่นถูกฉิวฉิวดึงทึ้งผมจนหนังศีรษะตึงเจ็บไปหมด เขาสวมใส่ชุดป้องกันอย่างหนาแน่นจึงขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ อีกอย่างทำได้แค่ปิดตู้กักตัวแล้วจึงจะสามารถถอดหน้ากากได้
“แกคิดจะทำอะไร?” เหยียนหมิงซุ่นมองฉิวฉิวที่กำลังมุดเข้าไปอยู่ด้านบนตู้กักตัวอย่างจนปัญญา
ฉิวฉิวไม่สนใจเขา มันยื่นมือคิดที่จะผลักประตูเข้าไป ทำเอาเหยียนหมิงซุ่นตกใจจนรีบคว้าหางของมันไว้ “ผลักเปิดไม่ได้นะ ไม่งั้นพวกเราก็ต้องติดเชื้อไปด้วย!”
“คนธรรมดาอย่างพวกนายสิที่กลัว ฉันเป็นถึงสัตว์เทวะ กลัวก็บ้าแล้ว!”
ฉิวฉิวส่งเสียงร้องไม่หยุด กระโดดโลดเต้นขึ้นลงไปมา
แต่เหยียนหมิงซุ่นมีหรือที่จะเข้าใจภาษาของกระรอก สีหน้างวยงง ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกคงพาเหมยเหมยมาช่วยแปลให้แล้ว
“พี่ฉิว นายผู้ชายฟังไม่ออก…” ฉาฉาโผล่หัวอันแสนน่ารักของมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเหยียนหมิงซุ่น แลบลิ้นฟ่อ ๆ
“แย่ล่ะ ฉันก็ลืมไปเลย…ไม่พูดละ…”
ฉิวฉิวใช้อุ้งเท้าตบท้ายทอยตัวเอง มันคร้านจะพูดจาไร้สาระต่อแล้วพุ่งตัวหมายจะเข้าไปข้างใน เหยียนหมิงซุ่นถึงได้เข้าใจความหมายของมัน เขาจึงทำได้แค่ลากฉิวฉิวเอาไว้
“มันอันตรายจริง ๆ แกอยากจะติดเชื้อไปด้วยหรือไง?” เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกเอือมระอาเหลือเกิน
ไม่ใช่แค่ว่าฉิวฉิวเป็นสิ่งล้ำค่าของเหมยเหมย แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกผูกพันกับเจ้าตัวแสบนี่เลย เขาจะทนมองดูฉิวฉิวเป็นอะไรไปเฉย ๆได้เหรอ?
ฉิวฉิวยกอุ้งเท้าขึ้นอย่างรีบร้อน ส่งเสียงร้องจี๊ด ๆ เนิ่นนานกว่าที่เหยียนหมิงซุ่นจะเข้าใจความหมายของมัน จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “แกไม่กลัวรังสี?”
เจ้าตัวแสบพยักหน้ารับ
เหยียนหมิงซุ่นไม่ค่อยจะเชื่อนัก ขอแค่เป็นสิ่งมีชีวิตก็จะสามารถติดเชื้อจากรังสีได้หมด ฉิวฉิวไม่รู้จักแม้กระทั่งว่ารังสีคืออะไร มันจะต้องเข้าใจว่ารังสีเป็นเพียงยาพิษที่ไม่มีอะไรแน่ ๆ
“แกไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ารังสีคืออะไร ไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้ว่ามันไม่อันตราย ฉันจะให้แกไปเผชิญอันตรายไม่ได้ กลับบ้านกันเถอะ!”
เหยียนหมิงซุ่นดึงฉิวฉิวเอาไว้ พร้อมกับจับตัวฉาฉาที่เตรียมจะปีนเข้าไปในตู้กักตัวมายัดกลับเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม สัตว์เลี้ยงที่เหมยเหมยเลี้ยงไม่เชื่อฟังขึ้นทุกวัน ต้องรีบพากลับบ้านแล้ว หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาไม่รู้เลยว่าจะสารภาพต่อเหมยเหมยว่าอย่างไร!
ฉิวฉิวดิ้นพล่านไปมาบนฝ่ามือของเหยียนหมิงซุ่นด้วยความโกรธ มันก็บอกอยู่ว่าไม่เป็นไร ทำไมนายผู้ชายถึงไม่เข้าใจอะไรเสียเลย!
พอสัมผัสไม่ได้ว่ารังสีบ้านั่นคืออะไร ความอยากรู้อยากเห็นของฉิวฉิวก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นดั่งเปลวไฟที่ร้อนระอุจนแผดเผา
หากว่ายังไม่เข้าใจ ต่อให้มีแม่กระรอกสาวสวยยอมพลีกายอยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่สนใจหรอก
ฉิวฉิวผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา มันพลิกตัวปีนขึ้นมาด้านบนแล้วกัดเข้าตรงบริเวณจุดอ่อนของเหยียนหมิงซุ่น เหยียนหมิงซุ่นเจ็บจนต้องรีบผละมือออก ฉิวฉิวจึงรีบมุดเข้าไปในห้อง เปิดประตูเองและเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
“ฉิวฉิวแกกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดจะสนใจบาดแผลบนมือแล้วรีบตามไปติด ๆ
ฉิวฉิวไม่สนใจเขา เอี้ยวตัวพุ่งไปยังตู้กักตัว ฝีเท้าอันแผ่วเบามุดตัวเข้าไปตรงประตูตู้กักตัว แม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นจะตามมาทัน แต่เพราะจำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันจึงช้าไปนิดเดียว เขาทำได้แค่มองฉิวฉิวเปิดประตูตู้กักตัวเต็มสองตาอย่างสิ้นหวัง เขาจะสารภาพกับเหมยเหมยอย่างไรดี?
ฉิวฉิวจ้องมองเหยียนหมิงต๋าด้วยสีหน้าจริงจัง ท่าทางเคร่งขรึมอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก
มันสัมผัสได้ถึงพลังงานพิเศษบนร่างของเหยียนหมิงต๋า ไม่แปลกเลยที่คนธรรมดาจะทนไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะยาวิเศษของมัน เหยียนหมิงต๋าคงได้กลายเป็นเศษเนื้อไปนานแล้ว
พลังงานเหล่านี้มันใช้ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ชาวพื้นเมืองของที่นี่
เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นคิดจะไปจับตัวฉิวฉิวกลับมา แต่พอเห็นว่ามันไม่เป็นอะไรจึงเบาใจลงเปราะหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยืนอยู่เงียบ ๆรอให้ฉิวฉิวออกมาเอง
ไม่นานฉิวฉิวก็เดินออกมาแล้วปิดประตูตู้กักตัวลงพร้อมกับชี้ออกไปนอกประตู เหยียนหมิงซุ่นคล้ายจะเข้าใจจึงพามันออกไป
พอเดินมาถึงด้านนอก ฉิวฉิวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆกับเหยียนหมิงซุ่น มันดึงตัวฉาฉาออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วกลับเขาไปในห้องอีกครั้ง
ตอนที่ 2253 ของบำรุงที่แสนวิเศษ
เหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่เข้าใจว่าฉิวฉิวคิดจะทำอะไร ตัวเองเข้าไปไม่พอยังลากฉาฉาเข้าไปด้วยอีก
แต่พอเขาเห็นว่าฉิวฉิวอยู่ในตู้กักตัวเป็นเวลานานแต่ยังคงปลอดภัยดีจึงไม่ค่อยเป็นกังวลอะไรมากนัก บางทีฉิวฉิวอาจจะไม่กลัวรังสีจริง ๆสินะ!
งั้นมันพาฉาฉาเข้าไปก็ต้องมีความมั่นใจแน่นอน!
ฉิวฉิวเปิดประตูตู้กักตัวออกมา ฉาฉายืดตัวตรง ชูหัวกลม ๆขึ้นแล้วเอ่ยพูดด้วยความปีติ “พี่ฉิว มีของอร่อยด้วย!”
“ไม่งั้นฉันจะพาแกเข้ามาทำไมเล่า รีบกินสิ อย่ากินทีเดียวให้มันมากนักล่ะ!” ฉิวฉิวย้ำมันไปหลายประโยค กลัวว่าถ้าเจ้าน้องโง่นี่กินเข้าไปเยอะแล้วจะทำให้ย่อยยาก
“ได้เลย…ผมจะค่อย ๆกินนะ!”
ฉาฉาเลื้อยเข้าไปในตู้กักตัว จากนั้นก็ขดตัวเป็นวงกลมนอนอยู่บนร่างของเหยียนหมิงต๋าราวกับว่าปิดตาสงบจิตใจ
เหยียนหมิงซุ่นเห็นดังนั้นก็เกิดอาการงุนงง นี่กำลังจะทำอะไรกัน?
ฉิวฉิวปิดประตูตู้กักตัวแล้วชี้ออกไปด้านนอกอีกครั้ง เหยียนหมิงซุ่นจึงพามันออกไป และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นกับฉาฉาไหม?”
“ไม่เป็นอะไรแน่นอน!”
ฉิวฉิวกลอกตามองเขาอย่างระอา มันหรือจะกล้าทำร้ายสหาย?
ฉาฉาเป็นชาวเมืองดั้งเดิมของโลกใบนี้ ดังนั้นพลังงานประเภทนี้เป็นอันตรายต่อมนุษย์ธรรมดา แต่สำหรับตัวฉาฉาแล้วกลับเป็นของบำรุงกำลังชั้นดี ขอแค่มันได้ดูดซับพลังงานเหล่านี้เข้าไปจะต้องเก่งกาจขึ้นแน่นอน
แม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นจะฟังไม่เข้าใจแต่พอเห็นท่าทีปกติเรียบนิ่งของฉิวฉิวแล้วเขาจึงไม่รู้สึกกังวลใด ๆ และคอยยืนคุมอยู่หน้าประตูกับฉิวฉิว
ไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมงฉิวฉิวก็ชี้ไปทางห้อง เหยียนหมิงซุ่นรีบสวมหน้ากากป้องกันแล้วก็เข้าไปเปิดประตู ฉาฉายังคงฟลุบหลับอยู่และเหมือนว่าจะหลับสนิทไปแล้ว ฉิวฉิวมุดตัวเข้าไปจับตัวของฉาฉาที่กำลังสลบแน่นิ่งขึ้นมา
เหยียนหมิงซุ่นสำรวจเหยียนหมิงต๋าอย่างละเอียด จากนั้นก็พบว่ามุมปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย ถือเป็นเรื่องดีไม่น้อยเลย
หรือว่าฉาฉากำลังช่วยรักษาเหยียนหมิงต๋า?
เหยียนหมิงซุ่นที่อยากจะรู้คำตอบจึงรีบพาตัวฉิวฉิวและฉาฉาที่สลบแน่นิ่งกลับบ้านเพื่อให้เหมยเหมยถามความเป็นมาเป็นไปอย่างชัดเจน
แต่ก่อนอื่นเขาต้องพาตัวฉิวฉิวและฉาฉาไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันก่อนว่าไม่ได้ติดเชื้อมา
ผลเป็นไปตามคาดแต่ก็เหนือคาดอยู่บ้าง เพราะบนตัวของเจ้าสองแสบนี้ไม่มีรังสี ร่างกายแข็งแรงมาก
เหยียนหมิงซุ่นถึงได้วางใจ และรู้สึกแปลกใจในตัวฉิวฉิวและฉาฉามากกว่าเดิม
พอเหมยเหมยได้รู้เรื่องที่ฉิวฉิวบุกเข้าไปในตู้กักตัว แม้ว่าจะรู้ผลตรวจแล้วแต่ก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดีเลยสั่งสอนฉิวฉิวไปยกใหญ่
ฉิวฉิวสะบัดหางฟูฟ่องไปมา เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา กินช็อกโกแลตอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใจแต่อย่างใด
ตั้งแต่นายผู้หญิงท้องก็ขี้บ่นขึ้นเรื่อย ๆ!
“ฉาฉาเป็นอะไรไป?” เหมยเหมยถาม
“ไม่มีอะไร แค่กินจนอิ่มแปร้ รอย่อยเสร็จก็ตื่นเองแหละ ไม่เป็นไรหรอกน่า!” ฉิวฉิวค้าน
“ฉาฉากินอะไร?” เหมยเหมยแปลกใจมาก ไม่เห็นเหยียนหมิงซุ่นจะบอกว่าป้อนอะไรให้ฉาฉากินเลยนี่
“ก็รังสีที่พวกเธอพูดถึงกันไง เจ้านั่นเป็นของบำรุงชั้นดีเชียวนะ น้องฉากินแล้วตัวจะได้ยืดสูง”
ฉิวฉิวพูดหน้าตายโดยไม่รู้สึกตื่นตกใจอะไร แต่เหมยเหมยกลับตกใจจนหน้าถอดสีเปล่งเสียงพูดแทบไม่ออก “รังสีจะกินได้อย่างไร? ฉาฉาจะตายเอานะ!”
เหยียนหมิงซุ่นเองก็ตกใจ หรือว่าที่ฉาฉาอยู่ในตู้กักตัวนานขนาดนั้นเป็นเพราะกำลังกินรังสีเข้าไป?
แต่เจ้าสิ่งนั้นมองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ ว่างเปล่ายิ่งกว่าอากาศเสียอีก แล้วจะกินเข้าไปได้เช่นไร?
สีหน้าของฉิวฉิวบอกว่า ‘เธอนี่ชอบตื่นตูมเสียจริง’ แล้วยื่นอุ้งมือออกมาตวัดไปมา เหมยเหมยจึงดึงหางของมันอย่างโมโหพร้อมกับหยิบช็อกโกแลตออกมาหลายชิ้น
“รีบพูดมา!”
ฉิวฉิวเก็บช็อกโกแลตด้วยความพึงพอใจแล้วอธิบายว่า “รังสีในคำพูดของพวกเธอ จริง ๆแล้วมันคือพลังงานชนิดหนึ่งที่แข็งแกร่งมาก ๆ มนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้ถึงรู้สึกว่ามันน่ากลัว แต่ไม่เหมือนกับน้องฉา สำหรับมันแล้วพลังงานเหล่านี้เป็นของบำรุงที่แสนวิเศษ กินเข้าไปแล้วจะทำให้สูงขึ้น”
เหมยเหมย ‘…มีงี้ด้วยเหรอ?’
………………………………………………….
ตอนที่ 2254 ยังตามหาหนิงเฉินเซวียนไม่เจอ
เหมยเหมยถ่ายทอดคำอธิบายของฉิวฉิวให้เหยียนหมิงซุ่นฟัง และยังคงสงสัยเล็กน้อย
“พี่คะ พี่คิดว่าฉาฉาจะเป็นอะไรไหม?”
“วางใจเถอะ ฉิวฉิวบอกว่าไม่เป็นไรก็จะต้องไม่เป็นไรสิ พวกเราต้องเชื่อใจฉิวฉิว”
เหยียนหมิงซุ่นวางใจมาก เขาเข้าใจความหมายของฉิวฉิว ปฏิกิริยานิวเคลียร์เกิดจากการกระตุ้นที่รุนแรง ฟิชชันของนิวตรอนและอะตอมก่อให้เกิดคลื่นพลังที่แข็งแกร่ง
คลื่นพลังงานประเภทนี้เป็นอาวุธอันตรายที่สุดที่ใช้ในสงครามและสามารถสร้างความเสียหายได้มาก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่องค์กรสหประชาชาติออกอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์
แต่ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ปัจจุบันปฏิกิริยานิวเคลียร์ถูกนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
ดังนั้นการที่ฉิวฉิวบอกว่ารังสีคือพลังงานบางอย่างถือว่าไม่ผิด คนทั่วไปไม่สามารถดูดซับพลังงานประเภทนี้ได้ แต่สำหรับฉาฉาที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดาจึงสามารถดูดซับได้ หรือจะพูดได้ว่า…
“ฉิวฉิว ถ้าฉาฉากินรังสีบนตัวของหมิงต๋าไปจนหมด หมิงต๋าก็จะดีขึ้นใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามอย่างดีใจ
“ไร้สาระ…กินหมดก็ต้องหายสิ…”
ฉิวฉิวกลอกตามองเขาด้วยสายตาดูถูก ที่แท้สิ่งไม่ดีก็ถ่ยทอดให้กันได้ พออยู่กับนายผู้หญิงนานวันเข้า สมองก็ดันทึบตามซะงั้น!
เหมยเหมยแปลคำพูดของฉิวฉิว เหยียนหมิงซุ่นกลับมีสีหน้าระรื่น ราวกับไม่สนใจท่าทีไม่เคารพนอบน้อมของเจ้าตัวแสบเลยสักนิด ทั้งยังหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
“เยี่ยมมากจริง ๆ เหยียนหมิงต๋าจะรอดแล้ว!” เหมยเหมยเองก็ยิ้ม เธอค่อย ๆยกตัวฉาฉาที่หลับปุ๋ยขึ้นมาแล้วลูบสัมผัสอย่างแผ่วเบา โชคดีจริง ๆที่มีฉาฉาอยู่ พระเจ้าช่างเมตตาเธอมากนัก!
“ฉิวฉิว ขอบใจแกด้วยนะ นี่ให้แกหมดเลย!”
เหมยเหมยเปิดลิ้นชักออกมาเอาช็อกโกแลตยัดให้ฉิวฉิวไปทั้งหมด มากจนทำเอาคุณชายฉิวดวงตาเป็นประกายลุกวาว
“ให้ฉันหมดเลยจริงเหรอ?” ฉิวฉิวไม่ค่อยกล้าเชื่อนัก เจ้านายหญิงของมันไม่ได้ใจปล้ำแบบนี้มานานแล้ว
“จริงสิ ไม่พอฉันจะไปซื้อมาให้อีก!”
เหมยเหมยยิ้มตาหยีแล้วมองหน้ามันด้วยสายตาเอ็นดู แผ่รังสีของความเป็นแม่ออกมา ฉิวฉิวตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็กอบโกยช็อกโกแลตไว้
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ถ้าเข้ากระเป๋ามันแล้ว ยังไงก็เป็นของมัน!
อีกสามวันต่อมาเหยียนหมิงซุ่นก็พาตัวฉาฉาที่เพิ่งตื่นขึ้นมาไปที่โรงงพยาบาลอีกครั้ง ค่อย ๆให้มันกินจนอิ่ม จากนั้นฉาฉาก็สลบไปอีกครั้ง แต่สีหน้าของเหยียนหมิงต๋าดูดีขึ้นบ้างแล้ว หากเป็นไปตามความเร็วนี้ไม่ถึงครึ่งปีต้องฟื้นตัวแน่นอน
เหยียนหมิงซุ่นไม่กังวลกลัวว่าผู้เชี่ยวชาญจะสงสัยเลยสักนิด เหยียนหมิงต๋าสามารถรอดชีวิตมาได้จากความตายก็นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากพอแล้ว เช่นนั้นการที่เขาจะสามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
หากว่าไม่ได้ผลก็คงต้องสร้างเรื่องว่าโครงสร้างร่างกายของเหยียนหมิงต๋าแข็งแรงกว่าคนธรรมดาทั่วไป โดยอธิบายว่าร่างกายต้านทานรังสีได้นั่นเอง
เหยียนหมิงซุ่นส่งฉาฉากลับบ้าน จากนั้นก็ได้รับสายโทรศัพท์จากลูกน้องบอกว่าเฮ่อเหลียนเช่อยังตามหาหนิงเฉินเซวียนไม่เจอ
“ตามต่อไป อย่าให้คลาดสายตา!”
เหยียนหมิงซุ่นผิดหวังมาก เขาไม่นึกเลยว่าเฮ่อเหลียนเช่อเองก็ตามหาไม่เจอ นี่เป็นการบ่งบอกว่าหนิงเฉินเซวียนซ่อนตัวอย่างมิดชิด ไอ้บ้านั่นคิดที่จะให้คนจำนวนมากต้องตายไปกับเขาจริง ๆเหรอ!
ตามหาอีกสามวัน หากว่ายังไม่ได้ข่าวคราวจริง ๆก็คงต้องใช้แผนการสุดท้ายแล้วล่ะ!
เหยียนหมิงซุ่นกัดฟันกรอด ขมวดคิ้วเป็นปม เป็นเพราะเหยียนหมิงต๋าฟื้นตัวดีจนมีหวังเขาจึงอารมณ์ดีขึ้นมา แต่ชั่วพริบตาความรู้สึกก็กลับมาจมดิ่งอีกครั้ง
แผนสุดท้ายก็คือการทำลายฐานลับชนวนระเบิดปรมาณูทิ้ง แต่เขาก็รู้ดีว่าคนอย่างหนิงเฉินเซวียนไม่มีทางติดตั้งอุปกรณ์ที่สำคัญขนาดนี้ไว้ในที่ที่ตามเจอง่ายอย่างแน่นอน
มันต้องมีความเสี่ยงมากแน่ ๆ ซึ่งเขาไม่ไปจัดการก็ไม่ได้!
ภารกิจในครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง เหยียนหมิงซุ่นไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย และเขาก็ไม่กล้าบอกเหมยเหมยด้วย
ตอนที่ 2255 ความสงสัยของเสี่ยวเป่า
คนที่ร้อนใจไม่ต่างกันก็คือเฮ่อเหลียนเช่อ เขาตามหาทั่วทุกสารทิศที่คิดว่าจะเจอมาสามวันแล้ว แต่หนิงเฉินเซวียนเหมือนระเหยหายไปจากโลกนี้ก็ไม่ปาน แม้แต่เงาก็ตามหาไม่เจอ
“หรือคุณอาจะหนีไปจากเมืองหลวงแล้วงั้นเหรอ?”
เฮ่อเหลียนเช่อขมวดคิ้วมุ่น บ่นพึมพำกับตัวเอง
เหมยซูหานส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “เป็นไปไม่ได้ เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางพูดซี้ซั้วหรอก เขาบอกว่าอาของนายยังอยู่ในเมืองหลวงก็แสดงว่ายังอยู่ แค่พวกเราตามหาไม่เจอเท่านั้นเอง!”
“บ้าเอ้ย ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนนะ?” เฮ่อเหลียนเช่อทึ้งผมอย่างหงุดหงิด
เหมยซูหานเองก็โมโหไม่น้อย หาตัวหนิงเฉิยเซวียนไม่เจอก็เท่ากับว่าอาจจะเกิดอันตรายกับเสี่ยวเป่าได้ทุกเมื่อ นี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากเห็นที่สุด
เสี่ยวเป่ากินเกี๊ยวในจานหมดแล้วดูดปากอย่างร่าเริง จากนั้นเขาก็เดินถือจานเปล่าไปตรงหน้าเหมยซูหาน ชูจานขึ้นสูง แต่เหมยซูหานยังตกอยู่ในห้วงความคิดจึงไม่ทันสังเกตเห็นการกระทำของเจ้าตัวเล็ก
ปวดมือจัง…
เสี่ยวเป่ายกค้างอยู่นานมากแต่ก็ยังไม่ได้การตอบรับใด ๆ เขาจึงเบะปากอย่างน้อยใจ คุณอาไม่ชอบเขาแล้วใช่ไหม?
“แอะ…”
เสี่ยวเป่าแค่นเสียงแล้วชูจานขึ้นสูงกว่าเดิม เหมยซูหานถึงได้มองเห็นเขาจึงอดยิ้มอย่างรู้สึกผิดไม่ได้ “ขอโทษนะ อาไม่เห็นเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าเก่งมากเลย เกี๊ยวเยอะขนาดนี้ยังกินหมดเกลี้ยง เก่งที่สุดเลย…”
เสี่ยวเป่าเชิดคางมน ๆขึ้นอย่างภาคภูมิใจ มืออวบ ๆชี้ไปที่จานเปล่า น้ำลายหยดไหลเต็มปลายคาง
“อาตักเพิ่มให้อีกสักสองสามชิ้นนะ เสี่ยวเป่ากินเยอะ ๆจะได้ตัวสูง ๆ!”
แม้จะมีเรื่องทุกข์ใจแต่เหมยซูหานก็ยังชื่นชม ถือจานเปล่าเข้าไปตักเกี๊ยวในห้องครัว เขาตั้งใจทำเกี๊ยวอันเล็ก ๆขึ้นมาโดยเฉพาะ เสี่ยวเป่าสามารถกินหมดในสองคำ แถมเป็นไส้ผักช่วยเสริมวิตามินอีกด้วย
“เสี่ยวเป่านั่งกินที่นี่แหละ!”
เหมยซูหานวางจานไว้บนเก้าอี้ข้างกายให้เสี่ยวเป่านั่งทานอยู่ข้างเขา
เสี่ยวเป่าเห็นของอร่อยก็ยิ้มตาหยีนั่งลงบนเก้าอี้และทานอย่างว่าง่าย เขาไม่ได้ใช้ช้อนแต่ใช้มืออวบ ๆหยิบขึ้นมาทาน ยัดชิ้นหนึ่งเข้าปากไปก็หายไปครึ่งค่อนชิ้น กัดอีกคำที่เหลือก็หมดเกลี้ยงแล้ว
เฮ่อเหลียนเช่ออดไม่ได้ที่จะลูบท้ายทอยของเสี่ยวเป่า “กินเก่งจริง ๆ!”
เหมยซูหานถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “ถ้าไม่ได้จริง ๆ เราก็ส่งเสี่ยวเป่าไปต่างประเทศกันเถอะ เสี่ยวเป่ายังเล็กส่งตัวไปง่าย”
เฮ่อเหลียนเช่อลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับ “ได้ ฉันจัดการเอง”
เขาไปไม่ได้แล้ว แต่เขาต้องคิดหาวิธีส่งตัวเหมยซูหานและเสี่ยวเป่าออกนอกประเทศไป
เหมยซูหานอ่านความคิดของเขาออกจึงเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “นายอย่าคิดที่จะแอบส่งฉันออกไปเลยนะ เพราะฉันไม่มีทางไปจากเมืองหลวงเด็ดขาด!”
ในความฝันเฮ่อเหลียนเช่อก็ทำเช่นนี้ ใช้ยาทำให้เขาสลบแล้วส่งเขาไปต่างประเทศ พอเขากลับมาเฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่อยู่แล้ว..
ในชาตินี้เขาไม่มีทางให้เฮ่อเหลียนเช่อทำแบบนั้นเด็ดขาด ต่อให้ต้องตายจริง ๆเขาก็จะตายตามไปด้วย!
เฮ่อเหลียนเช่อมองเขาอย่างจนใจ “เสี่ยวเป่าต้องการคนดูแล!”
“เรื่องพวกนี้ฉันจัดการไว้แล้ว อย่างไรเสียนายก็ห้ามส่งฉันไป ถ้านายส่งฉันไปฉันจะตายให้นายดูเลย!” เหมยซูหานมีท่าทีเด็ดเดี่ยว แม้จะไม่อยากห่างจากเสี่ยวเป่าแต่เขาก็ไม่มีทางทิ้งเฮ่อเหลียนเช่อไว้คนเดียวแน่
ทางฝั่งเสี่ยวเป่าเขาหาคนจัดการไว้หมดแล้ว จากความน่ารักและฉลาดหลักแหลมของเจ้าตัวเล็กจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน
เสี่ยวเป่าที่ตั้งใจกินเกี๊ยวอยู่ก็พลันหูผึ่ง ทำไมคุณพ่อกับคุณอาต้องตายด้วยล่ะ?
ไม่ได้นะ!
แม้ว่าเสี่ยวเป่าจะอายุยังน้อยแต่ก็เข้าใจแล้วว่าความตายหมายถึงอะไร หากว่าคุณพ่อกับคุณอาตาย ต่อจากนี้ไปเขาก็จะไม่ได้เจอพวกเขาอีกสิ
………………………………………………………………….
ตอนที่ 2256 เสี่ยวเป่าพูดแล้ว
“แอะแอะ…”
เสี่ยวเป่าพุ่งตัวเข้าไปคั่นระหว่างกลางของทั้งคู่ ส่ายหน้าอย่างแรง น้ำตาเอ่อล้นดวงตากลมโต
“เสี่ยวเป่าเป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนเหรอ?” เหมยซูหานรีบอุ้มตัวเสี่ยวเป่าขึ้นมาแล้วลูบหน้าท้องของเสี่ยวเป่าเบา ๆ เข้าใจไปว่าเจ้าตัวเล็กกินเกี๊ยวเข้าไปเยอะเกินจนท้องป่อง
เฮ่อเหลียนเช่อก็เดินเข้ามาหา พอเห็นเสี่ยวเป่าน้ำตาไหลจึงเตรียมที่จะไปเรียกหมอ
“อย่า…ตาย…”
จู่ ๆเสี่ยวเป่าก็เปิดปากพูดด้วยเสียงขาด ๆหาย ๆไม่ได้พูดชัดเจนนัก เหมยซูหานและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็ไม่เข้าใจ แต่พวกเขากับตื่นเต้นเป็นที่สุด
“เสี่ยวเป่าพูดได้แล้ว…เสี่ยวเป่าของเราไม่ได้เป็นใบ้…ดีจัง!”
เฮ่อเหลียนเช่อลืมเรื่องรำคาญใจพวกนั้นไปชั่วขณะ หอมแก้มเสี่ยวเป่าไปหลายฟอดด้วยความดีใจ แอบนึกโล่งใจที่เสี่ยวเป่าพูดได้ หากว่าต้องส่งตัวไปต่างประเทศจริง ๆ ถ้าไม่มีเขาและเหมยซูหานคอยดูแลปกป้อง ด้วยความฉลาดหลักแหลมของเสี่ยวเป่าแล้วไม่มีทางเสียเปรียบแน่นอน
ในเมื่อเหมยซูหานพูดออกมาแบบนั้นแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อจึงล้มเลิกความคิดที่จะส่งเขาไปต่างประเทศ
ก็ดี ในเมื่อเกิดปีเดียวกันเดือนเดียวกันวันเดียวกัน ก็ตายปีเดียวกันเดือนเดียวกันวันเดียวกันนี่แหละ!
เหมยซูหานเองก็ดีใจ หอมแก้มอีกข้างของเสี่ยวเป่าฟอดใหญ่แล้วเอ่ยด้วยความดีใจ “เสี่ยวเป่า อาได้ยินไม่ชัดเลย หนูพูดอีกครั้งจะได้ไหม?”
“ใช่ ๆ พ่อเองก็ได้ยินไม่ชัด เสี่ยวเป่าพูดอีกครั้งสิ…”
แววตาทั้งสี่จับจ้องเสี่ยวเป่าอย่างมีหวัง ราวกับกำลังรอคอยเสียงที่แสนไพเราะก็ไม่ปาน
“พาพา(พ่อ)…ยิวยิว(อา)…อย่า…ตาย…” เสี่ยวเป่าพูดขึ้นมาอีกหลายคำด้วยท่าทีจริงจังมาก
“เสี่ยวเป่าพูดอะไรนะ? อะไรคืออย่าตาย?” เฮ่อเหลียนเช่อยังคงไม่เข้าใจ ภาษาต่างดาวของเด็กทารกช่างซับซ้อนนัก
เหมยซูหานคิดว่าตัวเองเข้าใจแล้วจึงถามว่า “เสี่ยวเป่าบอกว่าพ่อกับอาอย่าตายใช่ไหม?”
“อือ…”
เสี่ยวเป่าพยักหน้ารับ น้ำตาไหลพรากอย่างน่าสงสาร
เหมยซูหานรู้สึกคัดจมูก โอบกอดร่างกายนุ่มนิ่มของเจ้าตัวเล็กไว้ หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะคอยอยู่ดูแลเสี่ยวเป่าไปจนโต…
แต่เขาคงไม่อาจทิ้งเฮ่อเหลียนเช่อได้ คงต้องขอโทษเสี่ยวเป่าแล้วล่ะ!
เฮ่อเหลียนเช่อสูดจมูก ขอบตาแดงเล็กน้อย กัดฟันพูดว่า “ฉันจะไปตามหาคุณอาอีกครั้ง ฉันจะขุดเมืองหลวงหาตัวมาให้ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะหาไม่เจอ”
เสี่ยวเป่าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อ เขาและเหมยซูหานก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อเช่นกัน หากยกเสี่ยวเป่าให้คนอื่นดูแลมีหรือจะเป็นอย่างใจคิด!
“อืม…ตามหาต่อเถอะ พวกเราจะต้องมีชีวิตรอด!” เหมยซูหานเองก็เรียกความมั่นใจขึ้นมาได้อีกครั้ง
นอกเสียจากว่าหนิงเฉินเซวียนจะระเหยหายจากโลกนี้ไปแล้วจริง ๆ ถึงอย่างไรเขาก็จะต้องหาให้เจอ!
เสี่ยวเป่าที่อยู่ในอ้อมอกของเขาพลันหูผึ่ง พ่ออยากตามหาตาแก่คนนั้นเหรอ? ทำไมพ่อไม่ถามเขาล่ะ?
“แอะแอะ…”
เสี่ยวเป่าบิดตัวไปมาสื่อว่าให้เหมยซูหานปล่อยมือ เขาหมุนตัวไปดึงกางเกงของเฮ่อเหลียนเช่อไว้ ออกแรงอย่างหนักเพื่อฉุดดึงเฮ่อเหลียนเช่อออกไปด้านนอก
“เสี่ยวเป่าจะออกไปไหน?” เฮ่อเหลียนเช่อไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความคิดของเจ้าตัวเล็กเปลี่ยนไวเกิน เขาตามไม่ทัน
เหมยซูหานอยู่กับเสี่ยวเป่ามานานจึงพอจะเดาออกบ้าง “เสี่ยวเป่า หนูรู้ใช่ไหมว่าคุณปู่อยู่ที่ไหน?”
“อือ…”
เสี่ยวเป่ากลับเข้าสู่ท่าทีเย็นชาไม่ชอบพูดอีกครั้ง พร้อมพยักหน้ารับ
“เสี่ยวเป่ารู้ได้อย่างไร?” เฮ่อเหลียนเช่อดีใจเป็นอย่างมากและไม่ค่อยกล้าเชื่อนัก
เขาพาลูกน้องกลุ่มหนึ่งไปตามหาจนทั่วเมืองหลวงแต่กลับไม่พบร่องรอยใด ๆเลย เสี่ยวเป่าอยู่บ้านทุกวี่วัน งั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าหนิงเฉินเซวียนซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?
หรือว่าน้องชายของเขาจะมีตาทิพย์?
เสี่ยวเป่าคร้านจะอธิบาย จริง ๆแล้วเขาไม่รู้หรอกว่าหนิงเฉินเซวียนอยู่ที่ไหนแต่เขาถามเพื่อนได้ ทว่าเขาไม่อยากพูด เพราะการพูดมันเหนื่อยเกินไป แถมยังเสียเวลาด้วย
เหมยซูหานไม่ค่อยวางใจเสี่ยวเป่าเลยตามไปด้วย เสี่ยวเป่าเป็นคนบอกทาง เฮ่อเหลีนเช่อเป็นคนขับรถ ไม่นานก็มาถึงบ้านพักที่หนิงเฉินเซวียนพักอยู่ประจำ
ตอนที่ 2257 คุณปู่อยู่บนเขา
“ที่นี่ไม่มีคุณปู่หรอก ฉันมาตามหาสิบกว่ารอบแล้ว”
เฮ่อเหลียนเช่อผิดหวังเล็กน้อย เขาไม่ควรตั้งความหวังไว้กับเด็กเล็ก ๆขนาดนี้เลย บางทีเสี่ยวเป่าอาจเคยอยู่ที่นี่มาก่อน นั่นเลยเป็นเหตุผลที่คิดว่าหนิงเฉินเซวียนจะอยู่ที่นี่
เสี่ยวเป่ายังคงไม่สนใจเขา ทั้งยังร้องอ้อแอ้จะลงจากรถ เหมยซูหานจำต้องอุ้มเขาลงไป ต่อให้หนิงเฉินเซวียนไม่อยู่ก็อุ้มเสี่ยวเป่าไปเดินดูสักรอบหน่อยแล้วกัน เจ้าเด็กนี่จะได้ล้มเลิกความคิดไปสักที
ภายในบ้านยังมีคนรับใช้ทำงานอยู่ ทุกอย่างยังเหมือนเคยเพียงแต่ไม่มีเจ้านายอยู่
พวกเขาเห็นเฮ่อเหลียนเช่อก็เข้ามาทักทาย เฮ่อเหลียนเช่อโบกมือให้พวกเขาแยกย้ายไป
เสี่ยวเป่าพาพวกเขาเดินไปยังท้ายสวน สวนด้านหลังเป็นสนามม้าที่หนิงเฉินเซวียนรักที่สุด เฮ่อเหลียนเช่อใจชาวาบ สนามม้าเขาก็ตามหาหมดแล้ว ทั้งยังถึงขั้นขุดหลุมไปหลายจุดเพราะอยากรู้ว่าด้านล่างจะมีห้องใต้ดินอยู่ไหม แต่แล้ว…ก็ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง
ในสนามม้ายังมีม้าขังไว้อีกหลายตัว เว้นเสียแต่ม้าเซ็กเธาว์ที่ถูกโฉ่วโฉ่วม้าของเฮ่อเหลียนชิงเอาไปทำเมียแล้ว เสี่ยวเป่ารู้สึกผิดหวังเมื่อไม่เจอหั่วหั่ว เพราะหั่วหั่วเป็นม้าที่ฉลาดที่สุดในนี้เลยนะ!
แต่ไม่เป็นไรม้าตัวอื่นก็ฉลาดเหมือนกัน
เสี่ยวเป่ามุดตัวเข้าไปในคอกม้าก้าวขาอวบ ๆวิ่งไปตรงหน้าม้าอาหรับสุดหล่อ เหมยซูหานและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็ไม่รู้สึกตกใจอะไร เพราะพวกเขารู้มานานแล้วว่าระหว่างเสี่ยวเป่ากับสัตว์มีความเข้ากันได้บางอย่างที่ยากจะอธิบาย
แม้แต่งูเห่า ยามที่อยู่ต่อหน้าของเสี่ยวเป่าก็จะอ่อนโยนดั่งงูไร้พิษ
ดังนั้นพวกเขาไม่กังวลเลยสักนิดว่าม้าจะทำร้ายเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่ายืนอยู่ใต้ท้องม้าอาหรับได้สักพัก ก่อนจะปีนออกมา จากนั้นก็วิ่งไปหาม้าอีกตัวที่ดูแก่กว่า
เพราะม้าอาหรับบอกเขาว่า มันมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานจึงรู้เรื่องราวต่าง ๆค่อนข้างน้อย มันให้เขาไปถามม้ามองโกเลียที่แก่ที่สุด บางทีตาแก่นั่นอาจจะรู้อะไรบ้างก็ได้
เสี่ยวเป่าไม่ผิดหวังกับม้ามองโกเลียตัวนั้นเลยเพราะได้ข่าวดีตามคาด
ม้ามองโกเลียทำเสียงฮึดฮัดแล้วกินหญ้าสดอย่างช้า ๆ อายุมากแล้วฟันไม่ค่อยดี ต้องเคี้ยวให้ละเอียดหน่อยไม่งั้นย่อยยาก
“เห็นภูเขาลูกนั้นไหม? เจ้านายอยู่ในนั้นแหละ ตอนกลางคืนฉันเห็นเขามุดเข้าไปที่นั่นกับตาตัวเองเลย อายุมากแล้ว นอนหลับยากเหลือเกิน…”
ม้ามองโกเลียแก่บ่นพึมพำมากมาย เสี่ยวเป่าฟังมันพูดจนจบอย่างตั้งใจโดยไม่มีแม้แต่จะรำคาญเลยสักนิด
จนม้ามองโกเลียแก่บ่นจบเสี่ยวเป่าถึงได้ปีนออกมา วิ่งไปตรงหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อ แล้วชี้ไปยังภูเขาลูกที่อยู่ใกล้กับสนามม้าด้วยท่าทีจริงจัง
บ้านพักอาศัยของหนิงเฉินเซวียนไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงแต่อยู่ในเขตชานเมือง ฐานะเดิมคือองค์ชายแห่งราชวงศ์องศ์ก่อน เนื่องจากชอบขึ้นเขาล่าสัตว์ ดังนั้นองค์ชายท่านนี้จึงได้สร้างตำหนักไว้ด้านล่างภูเขา
สนามม้าจึงถูกสร้างขึ้นตามแนวภูเขา พอเสี่ยวเป่าชี้ไปเฮ่อเหลียนเช่อก็เข้าใจในทันที จึงถามหยั่งเชิง “คุณปู่อยู่ในภูเขาเหรอ?”
“อือ…” เสี่ยวเป่าพยักหน้า
เฮ่อเหลียนเช่อและเหมยซูหานสบตากัน หนิงเฉินเซวียนหลบอยู่ในภูเขา?
“นายพาเสี่ยวเป่ากลับไปก่อน ฉันจะลองไปตามหาดู” เฮ่อเหลียนเช่อกล่าว
“นายระวังตัวหน่อยนะ!” เหมยซูหานอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา เขาอยู่ด้วยก็ช่วยอะไรไม่ได้ กลับกันอาจจะสร้างปัญหาให้อีกก็ได้ อีกอย่างหนิงเฉินเซวียนคงไม่ถึงขั้นทำร้ายเฮ่อเหลียนเช่อหรอก
…
หนึ่งวันผ่านไป
เหยียนหมิงซุ่นเตรียมตัวออกเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ งานทำลายฐานลับระเบิดปรมาณูเป็นภารกิจที่อันตรายมาก คนอื่นที่ไปก็มีแต่ตายกลับมา เขามีสมรรถภาพทางร่างกายที่ดีและมีฝีมือที่เก่งกาจอยู่บ้าง บางทีอาจจะเอาตัวรอดกลับมาได้ก็ได้
เฮ่อเหลียนเช่อมาหาถึงบ้านยื่นข้อเสนอว่าจะขอร่วมด้วย “ฉันรู้ว่านายจะไปฐานลับ ฉันจะไปกับนายด้วย!”
…………………………………………………………………………
ตอนที่ 2258 ชักจูงล้มเหลว
“นายยังตามหาตัวหนิงเฉินเซวียนไม่เจอเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามกลับ
“ใช่ ยังไม่เจอ”
เฮ่อเหลียนเช่อพูดโกหก เมื่อวานเขาเจอตัวหนิงเฉินเซวียนแล้ว อยู่บนภูเขาจริง ๆ และบนนั้นก็มีทั้งอาหารการกิน หนังสือ โรงหนัง ตู้เหล้า เครื่องผลิตไฟฟ้าทุกอย่างครบครัน
มีแม้กระทั่งโรงเรือนผัก ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ขนาดเล็กทำให้ผักสดขึ้นได้ดีกว่าบนพื้นที่ราบเสียอีก
หนิงเฉินเซวียนสามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้สองสามปีเต็ม ๆ แถมยังอุดมสมบูรณ์มากด้วย
สำหรับการมาเยือนของเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้ทำให้หนิงเฉินเซวียนตกใจมากนัก ราวกับว่าเขาเดาออกว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะต้องตามหาที่นี่เจออยู่แล้ว ครั้งนี้เฮ่อเหลียนเช่อรู้จักที่จะเรียนรู้จึงไม่เอ่ยถามถึงเรื่องฐานลับแต่อย่างใด และยังแสร้งทำเป็นว่าห่วงความปลอดภัยของเขาจึงได้มาตามหาถึงที่นี่
เขาอยู่บนภูเขามาหนึ่งคืน แถมยังคุยเป็นเพื่อนหนิงเฉินเซวียนมากมาย บางทีอาจเพราะอยู่บนภูเขาคนเดียวจนเหงาเกินไป หรือบางทีอาจเพราะไม่อยากจะปิดบังลูกชายเพียงหนึ่งเดียวของเขาอีกหนิงเฉินเซวียนจึงพูดความจริงออกมา
เขาพูดถึงความรุ่งเรืองของตระกูลหนิงเมื่อหนึ่งพันปีก่อน และเขายังได้บอกถึงความทะเยอทะยานที่อยากจะเป็นฮ่องเต้เพื่อครอบครองโลกใบนี้ออกมา…พูดหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่พูดถึงเลยคือเรื่องฐานลับนั่น
“พ่อครับ…เราไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศกันเถอะ พาเสี่ยวเป่าไปด้วย ไปอยู่ในประเทศที่ไม่มีใครรู้จักเราและใช้ชีวิตอย่างเสรี ผมกับซูหานจะกตัญญูให้มาก…ดีไหมครับ?”
จู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็เอ่ยปากเรียกเขาว่าพ่อขึ้นมา และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกว่าพ่อ
หนิงเฉินเซวียนชะงักไปชั่วขณะ จับจ้องลูกชายเพียงคนเดียวของเขาอย่างลึกซึ้ง นี่คือการตกผลึกความรักของเขากับเสี่ยวซี หน้าตาดูละม้ายคล้ายคลึงกับเสี่ยวซีมากเหลือเกิน!
หนิงเฉินเซวียนที่เกือบเหมือนคนบ้า จิตใจที่แข็งกร้าวและไร้ซึ่งความปรานีดูอ่อนลงมากแต่มันก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากความปรารถนาของเขาที่ต้องการจะเป็นฮ่องเต้…ดังนั้น
“เมื่อก่อนฉันสอนแกว่าอย่างไร สิ่งที่ตระกูลหนิงของเราต้องทำคือโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ใช่การหลบ ๆซ่อน ๆใช้ชีวิตอยู่ในประเทศนี้ การที่ไม่มีคนรู้จักตระกูลหนิงของเรา ต่อให้ต้องกินเนื้อมังกรในทุกวันฉันก็ไม่มีความสุขหรอก…”
หนิงเฉินเซวียนสั่งสอนเฮ่อเหลียนเช่อไปยกหนึ่ง โมโหเขาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
ทั้งหมดเป็นเพราะเหมยซูหานนั่น ทำร้ายลูกชายที่ใจโหดเหี้ยมอำมหิตของเขาจนกลายเป็นแค่คนขี้ขลาดที่ต้องการแค่ซ่อนตัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปวัน ๆ …
หึ เป็นถึงผู้ชายตระกูลหนิงจะขี้ขลาดได้อย่างไร?
การฟื้นฟูตระกูลหนิงถือเป็นภาระหน้าที่ของคนในตระกูลหนิงทุกคน ลูกชายของหนิงเฉินเซวียนอย่างเขาจะเป็นเหมือนชายอื่นในตระกูลที่ลืมเลือนบรรพบุรุษต้นตระกูลไม่ได้!
“พ่อครับ…เรื่องฮ่องเต้มันไม่มีวันเป็นจริงหรอก…พ่อดูสิว่ามีประเทศไหนที่ใช้ฮ่องเต้ปกครองบ้าง? แม้แต่ราชวงศ์กษัตริย์ของยุโรปยังมีแค่ประดับไว้เอง ไม่ได้มีอำนาจจริง ๆเลยสักนิด พ่อคิดว่าทำแบบนั้นไปจะมีความหมายอะไร?”
เฮ่อเหลียนเช่อพูดเกลี้ยกล่อมอย่างยากลำบาก เขารู้สึกว่าความคิดของหนิงเฉินเซวียนนั้นตลกเกินไป
กาลเวลานั้นเดินต่อไปข้างหน้า อารยะธรรมไม่สามารถย้อนกลับมาได้ นี่คือกฎแห่งธรรมชาติ มนุษย์ไม่สามารถขัดต่อกฎนี้ได้เลย
นึกไม่ถึงเลยว่าหนิงเฉินเซวียนจะคิดต่อกรกับพลังธรรมชาติ ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกมาก และเป็นเรื่องน่าตลกที่สุดในโลกด้วย!
“แกจะไปเข้าใจอะไรล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันตัดสินใจไปแล้ว” หนิงเฉินเซวียนด่ากลับอย่างโมโห ทั้งยังไม่พอใจกับความไม่เอาไหนของเฮ่อเหลียนเช่ออย่างมาก และตั้งใจไว้ว่าหลังจากภารกิจจบจะจัดการเหมยซูหานเสีย ลูกชายดี ๆของเขาถูกไอ้เด็กนั่นพาเสียคนหมด
…
เฮ่อเหลียนเช่อพูดหว่านล้อมหนิงเฉินเซวียนที่บ้าคลั่งไม่สำเร็จ เดิมทีเขาอยากจะอยู่ต่ออีกหลายคืนแต่เช้าของวันถัดมา หนิงเฉินเซวียนก็ไล่เขากลับ บอกเพียงว่าให้เขาดูแลเสี่ยวเป่าให้ดี ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องไปสนใจ
เฮ่อเหลียนเช่อกลับมานอนขบคิดอยู่ที่บ้านหนึ่งวันหนึ่งคืน จนในที่สุดก็ตัดสินใจได้
ดังนั้นเขาจึงมาพบเหยียนหมิงซุ่น!
“พวกเรามีเวลาเหลือมากสุดแค่สามวัน ดังนั้นต้องเร่งมือหน่อย!” เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยเสียงขรึม
เรื่องเวลาเขาเป็นคนประมาณการณ์ไว้เอง เพราะหนิงเฉินเซวียนบอกเขาว่าช่วงสามวันนี้ห้ามออกจากบ้านไปไหน แต่จะเห็นได้ว่าความอดทนของหนิงเฉินเซวียนใกล้จะหมดลงแล้ว สามวันคือขีดจำกัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแล้ว
ตอนที่ 2259 ลางร้าย
เหยียนหมิงซุ่นมองเขาด้วยสายตาแฝงนัยยะบางอย่างแวบหนึ่ง แล้วจงใจถามว่า “ทำไมนายถึงรู้ว่าเหลือเวลาอีกแค่สามวันล่ะ?”
เฮ่อเหลียนเช่ออึกอักอยู่สักพักก็ตวาดใส่ว่า “ฉันคิดคำนวณเอาเอง คุณอาฉันใจร้อนจะตายไป เขาซ่อนตัวมาตั้งหลายวันตอนนี้ต้องหงุดหงิดใจแล้วแน่นอน สามวันฉันยังถือว่ามากไปด้วยซ้ำ บางทีอาจสั้นกว่านั้นด้วย!”
เหยียนหมิงซุ่นมุมปากกระตุกยิ้ม ยังจะปากแข็งอีก?
เห็นได้ชัดว่าเฮ่อเหลียนเช่อตามหาหนิงเฉินเซวียนเจอแล้วแต่คงเพราะพูดจาหว่านล้อมไม่สำเร็จ ไม่เช่นนั้นเฮ่อเหลียนเช่อไม่มีทางมาร่วมมือกับเขาได้หรอก!
หนิงเฉินเซวียนบ้าไปแล้วจริง ๆ!
จะเสียเวลาต่อไปอีกไม่ได้แล้ว!
“งั้นออกเดินทางตอนบ่ายรวมตัวกันที่สนามบิน นายรู้ไหมว่ากลไกชนวนระเบิดอยู่ที่ไหน?” เหยียนหมิงซุ่นถาม
“รู้บ้าอะไรล่ะ ฉันไม่ใช่คนสร้างฐานลับนั่นนะ แต่ฉันต้องหามันเจอได้เร็วกว่านายแน่นอน” เฮ่อเหลียนเช่อมองเขาด้วยสายตาดูแคลน
หนิงเฉินเซวียนไม่ใช่แค่คนบ้าคนหนึ่งแต่ยังเป็นคนที่มีอาการหวาดระแวงรุนแรงอีกด้วย เรื่องราวทุกเรื่องเขามักจะทำซ้ำ ๆกันอย่างนั้นปีแล้วปีเล่า ยกตัวอย่างเช่นเรื่องอาหารการกินของเขามักจะเป็นอาหารสามอย่างและแกงอีกหนึ่งอย่างมาโดยตลอด
อาหารสามอย่างคือเนื้อสัตว์หนึ่งอย่าง ปลาหนึ่งตัวและผักหนึ่งอย่าง ส่วนแกงก็ต้องเป็นแกงเต้าหู้ผักโขม แต่หนิงเฉินเซวียนเรียกมันว่าแกงเฝ่ยซุ่ยไป๋อวี้ ความเคยชินในลักษณะนี้คงอยู่มานานราวยี่สิบปีไม่เคยเปลี่ยนแปลง
และยังมีความเคยชินในชีวิตประจำอื่น ๆอีกที่ตลอดเวลาสิบปีมานี้เหมือนเป็นเพียงหนึ่งวันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
ฉะนั้นในเมื่อหนิงเฉินเซวียนเป็นคนสร้างฐานลับแห่งนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง แน่นอนว่าจะต้องคงอุปนิสัยของเขาเอาไว้แน่นอน เฮ่อเหลียนเช่อคือคนที่รู้จักหนิงเฉินเซวียนดีที่สุดในโลก สำหรับเขาการหากลไกให้เจอนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าเหยียนหมิงซุ่น
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ถกเถียงเขา เพราะความจริงก็เป็นเช่นนั้น
หลายวันมานี้เหมยเหมยรู้สึกเป็นกังวล กลางคืนก็นอนไม่หลับเพราะเอาแต่ฝันร้าย ในความฝันเหยียนหมิงซุ่นกำลังตกอยู่ในท่ามกลางแสงขนาดมหึมาซึ่งสว่างเจิดจ้าจนเธอลืมตาไม่ขึ้น…
แต่ที่ทำให้เธอหวาดกลัวก็คือเธอได้แต่ยืนดูเหยียนหมิงซุ่นถูกแสงขนาดมหึมาที่มีรูปลักษณ์คล้ายไข่บดบังกลืนกินเข้าไปจนในที่สุดร่างกายก็กลายเป็นเถ้าถ่านไม่เหลือแม้แต่เศษซากสักนิดเดียว
หลายคืนมานี้เหมยเหมยเอาแต่ฝันในลักษณะเดียวกัน แม้ว่ากระบวนการจะแตกต่างกันไปบ้างแต่จุดจบในตอนสุดท้ายกลับเหมือนกัน
เหยียนหมิงซุ่นถูกแสงไฟนั้นกลืนกิน!
เหมยเหมยผอมลงอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คิดมากจนเก็บเอาไปฝัน แต่อาจเป็นเพราะพระเจ้ากำลังเตือนเธออยู่ว่า
นี่คือลางร้าย!
เหยียนหมิงซุ่นกำลังจะเจอกับหายนะ!
เหมยเหมยจิตใจว้าวุ่น หลายวันมานี้เหยียนหมิงซุ่นยุ่งกว่าเดิม เมื่อก่อนยังออกเช้ากลับค่ำแต่ตอนนี้ไม่แม้แต่จะกลับมานอนบ้านติด ๆกันหลายคืน เธอรู้ดีว่าต้องเป็นเพราะทางฝั่งหนิงเฉินเซวียนไม่ราบรื่นแน่นอน
เธอนึกถึงตอนกินข้าวเมื่อหลายวันก่อน เธอเคยถามเหยียนหมิงซุ่นว่าถ้าตามหาหนิงเฉินเซวียนไม่พบแล้วจะทำอย่างไรต่อไป?
เหยียนหมิงซุ่นบอกว่าจะส่งคนไปทำลายกลไกระเบิดที่ฐานลับ…
เหมยเหมยก็พลันตกใจวาบ เธอรู้แล้วว่าเหตุใดพระเจ้าถึงได้เตือนเธอ!
คนที่ไปทำลายเครื่องชนวนระเบิดจะต้องเป็นเหยียนหมิงซุ่น…
แบบนี้แน่นอน!
เหมยเหมยเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ ทำอย่างไรดี…เธอควรทำอย่างไรดี?
การห้ามเหยียนหมิงซุ่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพราะนี่คือภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะทหาร เขาจะต้องยินยอมพร้อมใจที่จะทำมันอย่างแน่นอนแม้จะรู้ดีว่าเต็มไปด้วยอันตรายก็ตาม!
ขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาค่อย ๆไหลอาบแก้ม เหมยเหมยปิดหน้าตัวเองและพยายามกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้
เจ้าตัวเล็กยังไม่ทันเกิด หากว่าเหยียนหมิงซุ่นต้อง…แล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นไร?
เหมยเหมยเรียกสติกลับมา เธอต้องคิดหาวิธีลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ส่วนความคิดที่จะส่งคนอื่นไปปฏิบัติหน้าที่แทนนั้นไม่ใช่ว่าเหมยเหมยไม่เคยคิด แต่ฉับพลันเธอก็รู้สึกละอายใจเหลือเกิน
คนอื่น ๆก็มีชีวิตเช่นกันแถมยังเป็นถึงเสาหลักของครอบครัวอีก หากว่าต้องสละชีพผู้หญิงคนอื่น ๆก็คงเสียใจและทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เธอเห็นแก่ตัวขนาดนั้นไม่ได้ แต่เธอก็เกลียดความใจกว้างของตัวเองเหมือนกัน…
ช่างย้อนแย้งกันจริง ๆ!
“เธอร้องไห้ทำไม? คิดถึงผู้ชายเหรอ?” ฉิวฉิวมุดออกมาถามเหมยเหมยอย่างนึกสงสัย
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับนายผู้ชายเธอก็ไม่ใช่พวกขี้แยอีกต่อไป จำนวนครั้งที่ร้องไห้น้อยมาก แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ร้องไห้ขึ้นมาล่ะ?
……………………………………………………………
ตอนที่ 2260 คนเราทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ
เหมยเหมยอุ้มฉิวฉิวเข้ามาอยู่ในอ้อมอกแล้วเล่าความฝันไม่กี่วันมานี้ด้วยเสียงสะอึกสะอื้น พอคิดว่าเหยีนหมิงซุ่นอาจจะต้องตายน้ำตาของเธอก็รินไหลราวกับฝนตกก็ไม่ปาน ทำเอาขนอันงดงามของฉิวฉิวเปียกชุ่มไปหมด
“ฉิวฉิว…ฉันต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยพี่หมิงซุ่นได้…ฉันกลัวเขาตายเหลือเกิน” เหมยเหมยร้องไห้ร้องห่มพึมพำกับตัวเองน้ำตาไหลไม่หยุด ฉิวฉิวมองหางอันสวยงามที่น่ารังเกียจอย่างขยะแขยง มันทนอยู่นานแต่พอเห็นว่านายผู้หญิงไม่ยอมหยุดเสียทีจึงพลันนึกโมโหขึ้นมา…
“เธออย่ากอดฉันร้องไห้ได้ไหม…อีกเดี๋ยวฉันยังมีนัดต่ออีก กว่าจะแปรงขนให้สวยได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ…”
ฉิวฉิวเบี่ยงตัวออกจากอ้อมอกของเหมยเหมย ขนนุ่มที่สลวยสวยงามบัดนี้ได้แนบสนิทไปกับร่างเล็ก ๆของมันแล้ว ดูตลกไม่น้อยเลย
เหมยเหมยจุกอยู่ในอก เธอโกรธมากจนฟาดฉิวฉิวที่กำลังแปรงขนอยู่
“ฉันเสียใจขนาดนี้ แกยังมีกะจิตกะใจไปเดตอีกเหรอ?”
ฉิวฉิวกลอกตามองบน กระโดดขึ้นไปบนพนักโซฟาแล้วทำทีง้างขาขึ้นมา
“เธอพูดให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อย…”
เหมยเหมยเล่าเรื่องฐานลับให้ฟังด้วยสีหน้าเป็นกังวล “ที่ฐานลับนั่นอันตรายมากเลยนะ พี่หมิงซุ่นไปที่นั่นต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่เลย”
“ฐานลับคือแหล่งผลิตพลังงานพิเศษนั่น?” ใบหน้าของฉิวฉิวดูจริงจังขึ้น
“ใช่ ที่นั่นแหละ!”
เหมยเหมยพยักหน้ายืนยันและตามมาด้วยความดีใจ จากท่าทางของฉิวฉิวแล้วเหมือนจะมีทางออกแฮะ!
“ฉิวฉิว แกมีวิธีใช่ไหม?” เหมยเหมยรีบถาม
“ฉันคิดก่อน…อย่าเพิ่งรบกวน!” ฉิวฉิวก้มหน้าขบคิด ฟังจากความหมายของนายผู้หญิง ในฐานนั่นจะต้องมีพลังงานมหาศาล ดังนั้นคงพึ่งแค่น้องฉาฉาคงไม่ได้
ส่วนตัวมันเองก็ไม่ได้เพราะมันไม่สามารถดูดซับพลังงานนั้นได้ เพราะฉะนั้นต้องหาชาวเมืองดั้งเดิมเพิ่มอีก
และจะต้องไม่ใช่ชาวเมืองดั้งเดิมที่มีคุณสมบัติอ่อนแอ อย่างน้อยก็ไม่ควรแย่ไปกว่าเจ้าน้องฉาฉา แต่ชาวเมืองดั้งเดิมลักษณะนี้ค่อนข้างหายาก
“ผู้ชายของเธอเดินทางเมื่อไร ถึงเวลานั้นก็ให้พาฉันกับน้องฉาไปด้วย” ฉิวฉิวเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
การเดินทางไปฐานลับในครั้งนี้อันตรายกว่าทุกครั้งแต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสอันดี ไม่ใช่แค่สำหรับเจ้าน้องฉาแต่สำหรับเหยียนหมิงซุ่นเองก็เช่นกัน
เหมยเหมยดีใจมาก แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา “ฉิวฉิว แกกับฉาฉาจะเป็นอันตรายไปด้วยไหม?”
“ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก ไม่ตายแน่นอน!” ฉิวฉิวสะบัดหาง ท้องไส้แอบปั่นป่วน คุณชายฉิวอย่างมันไม่มีทางเป็นอะไรไปได้หรอกเพราะมันเป็นถึงสัตว์เทวะ แต่น้องฉากับนายผู้ชายก็ไม่แน่
โทษแห่งความตายอาจเลี่ยงได้แต่ก็ต้องโดนอะไรบ้างแหละ!
คำพูดนี้จะให้นายผู้หญิงได้ยินไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นคงร้องไห้โฮแน่ สัตว์ตัวเมียช่างเป็นเพศที่น่ารำคาญจริง ๆ!
เหมยเหมยเห็นสีหน้าของฉิวฉิวแน่นิ่งจนคาดเดาไม่ถูกเลยพลันคิดไปว่ามันมีความมั่นใจมาก ฉับพลันจึงรู้สึกโล่งใจ กลับมาสดใสอีกครั้ง แถมยังเข้าครัวทำอาหารชุดใหญ่ด้วยตัวเอง ก่อนออกเดินทางจะต้องกลับมาทานข้าวกับเธอสักมื้อแน่นอน มื้อเลี้ยงส่งจะต้องทำให้เต็มโต๊ะไปเลย
และเป็นไปตามคาดเหยียนหมิงซุ่นกลับมาบ้านในช่วงบ่าย บนโต๊ะก็เรียงรายไปด้วยกับข้าวประมาณสิบกว่าเมนูได้ซึ่งล้วนเป็นของโปรดเขาทั้งนั้น เหมยเหมยยิ้มร่ามองเขา
“กลับมาแล้ว รีบไปล้างมือทานข้าวนะคะ”
เหยียนหมิงซุ่นกินไปแค่คำเดียวก็จ้องหน้าเหมยเหมยอย่างไม่พอใจ “ทำไมเธอถึงทำกับข้าวเอง?”
“ฉันไม่ใช่คนพิการสักหน่อย พี่รีบ ๆกินเถอะ กินเยอะ ๆล่ะ” เหมยเหมยคีบอาหารให้เขาไม่หยุด แม้ว่าจะสบายใจแล้ว แต่สีหน้าแววตาก็ยังคงเป็นกังวลอยู่เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น
“บ่ายนี้พี่จะออกไปปฏิบัติภารกิจ อาจจะต้องไปนานเลย เธออยู่บ้านดี ๆล่ะไม่ต้องห่วงพี่ พี่จะพยายามกลับมาให้ทันก่อนวันที่ลูกคลอด…”
เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยอย่างนึกละอายใจ ตั้งแต่ตั้งครรภ์มาเขาก็แทบไม่ได้อยู่บ้านเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องดูแลเหมยเหมยหรอก แม้แต่ทานข้าวกับเหมยเหมยยังน้อยนับครั้งได้ ตอนนี้เขากำลังจะไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงถึงชีวิตที่ยากจะคาดเดาได้ จะกลับมาได้ไหมยังไม่รู้เลย
แล้วถ้าหากเขาไม่ได้กลับมาล่ะ…
ตอนที่ 2261 คำขอร้องของเฮ่อเหลียนเช่อ
เหยียนหมิงซุ่นยิ่งคิดก็รู้สึกละอายใจมากขึ้นจึงหันหน้าหนีไม่กล้ามองเหมยเหมย แกล้งทำเป็นพูดท่าทีผ่อนคลายว่า “ชื่อของลูกก็เอาตามที่พ่อบุญธรรมตั้งก็แล้วกัน ผู้ชายชื่อเฮ่อเหลียนซู่ ส่วนผู้หญิงก็ให้ชื่อเหยียนเล่อเล่อ…”
เหมยเหมยรีบตัดบท “ฉันเพิ่งท้องได้ยังไม่ถึงสี่เดือนเลย อีกตั้งครึ่งปีกว่าจะคลอด จะรีบร้อนตั้งชื่อไปทำไม?”
เธอไม่ชอบที่เหยียนหมิงซุ่นพูดจาเหมือนสั่งเสียอะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย ฉิวฉิวก็บอกแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร เหยียนหมิงซุ่นจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ก่อนออกเดินทางพูดจาแบบนี้ไม่เป็นมงคลเลย!
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้ม “ก็ได้ ๆ ไม่รีบร้อน ช่วงนี้เธอก็ออกจากบ้านให้น้อยลงหน่อย ต่อให้ไปบ้านคุณปู่คุณย่าก็ต้องมีคนติดตามไปด้วย เข้าใจไหม?”
“อืม…พี่วางใจเถอะ…ฉันจะไม่อยู่ห่างจากลุงเหลากับป้าฟางเลยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง พี่ไม่ต้องมากังวลแทนฉันหรอก!” ขอบตาเหมยเหมยร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง เธอพยายามฝืนยิ้มเพราะเธอไม่ชอบการจากลาแบบนี้เลยจริง ๆ มันเหมือนกับว่าจากลากันแล้วยากที่จะได้พบเจออีก
ถึงแม้ว่าบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำจะเต็มไปด้วยกับข้าวมากมาย แต่ทั้งสองคนไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด แต่ไม่นานเหยียนหมิงซุ่นก็กลับสู่ความสงบได้อย่างรวดเร็ว แล้วค่อย ๆทานมันอย่างช้า ๆ เปิดปากชมบ้างเป็นครั้งคราว แถมทานไปไม่น้อยเหมือนกัน
……
พักผ่อนหย่อนใจมาหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆก็ถึงเวลาที่นัดกับเฮ่อเหลียนเช่อไว้แล้ว เหยียนหมิงซุ่นลุกขึ้นอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็เขาไปกอดและประทับจูบเหมยเหมย…
ริมฝีปากประทับจูบกันอย่างดูดดื่มราวกับฉันอยู่ในตัวคุณและคุณก็อยู่ในตัวฉัน ทั้งสองจูบกันอย่างมีความสุข ลืมเรื่องกวนใจทั้งหมดจนสิ้น บนโลกนี้เหลือแค่เพียงพวกเขาสองคน…
แต่สุดท้ายก็ต้องกลับสู่ความเป็นจริง พวกเขาผละออกจากกัน เหยียนหมิงซุ่นกระชับกอดเหมยเหมยที่เหนื่อยหอบเล็กน้อยไว้แน่นแล้วกระซิบข้างหูว่า “พี่รักเธอนะ…”
“ฉันก็รักพี่เหมือนกัน ฉันจะรอพี่กลับมานะ!”
เหมยเหมยพยายามเก็บความเศร้าเอาไว้แล้วฉีกยิ้ม
เหยียนหมิงซุ่นประทับจูบหน้าผากของเธออีกครั้ง ตัดความอาลัยอาวรณ์ทิ้งไป “พี่ไปแล้วนะ…”
เขาหันหลังและเดินจากไป หากยังช้ากว่านี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะยังใจแข็งต่อไปได้ไหม เรื่องที่ควรทำเขาจำเป็นต้องทำ!
“…พาฉิวฉิวและฉาฉาไปด้วย!”
เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งขึ้นรถ เหมยเหมยก็วิ่งตามมาเอาฉิวฉิวและฉาฉาห่อแล้วโยนเข้าไปในรถของเหยียนหมิงซุ่น เธอหันไปส่งยิ้มหวานให้เขา เธอจงใจเลือกที่จะส่งเจ้าหนูน้อยสองตัวออกไปในนาทีสุดท้าย แบบนี้เหยียนหมิงซุ่นก็จะได้ไม่มีเวลาปฏิเสธ
ถ้าไม่อย่างนั้นเหยียนหมิงซุ่นคงไม่ยอมเอาไปด้วยแน่นอน เพราะเขารู้สึกว่าฉิวฉิวและฉาฉาอยู่ข้างกายเธอจะดีกว่า เพราะพวกมันสามารถปกป้องเธอได้!
“เหมยเหมย…เอากลับไป!”
เป็นไปตามคาดเหยียนหมิงซุ่นคิดจะคว้าฉิวฉิวโยนกลับไปให้เหมยเหมย แต่ฉิวฉิวเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก มันพาฉาฉากระโดดขึ้นไปบนหลังคารถ ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นมือไม้ว่องไวแค่ไหนก็จนปัญญาจะจับมันลงมาได้ในช่วงเวลาอันสั้น
“คุณชายหมิง เหลืออีกห้านาที!” คนขับรถรีบเตือน
เหมยเหมยยิ้มหวานหันไปโบกมือให้เหยียนหมิงซุ่น ตะโกนเสียงดังว่า “ฉันกับลูกจะรอพี่กลับบ้านนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นมองฉิวฉิวที่เกาะอยู่บนหลังรถอย่างจนใจ และทำได้แค่ให้คนขับรถออกรถไป “ขับให้เร็วที่สุด!”
ความตรงต่อเวลาเป็นพื้นฐานของทหาร
เหลืออีกสามวินาทีจะครบห้านาทีเหยียนหมิงซุ่นก็มาถึงสนามบิน เฮ่อเหลียนเช่อก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน เขาดูรีบร้อนมาก เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ผ่านการบอกลาแสนอาลัยอาวรณ์ก่อนจะมาที่นี่เช่นกัน!
“ไปกันเถอะ…”
เหยียนหมิงซุ่นโบกมือ ตรวจสอบเครื่องบินรบด้วยตัวเองก่อนจะให้เฮ่อเหลียนเช่อขึ้นไปก่อน ส่วนเขาเป็นคนขับ
เฮ่อเหลียนเช่อนั่งอยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ ห้องโดยสารเงียบไร้ซึ่งเสียงใด ๆ มีเพียงเสียงลมหายใจหนัก ๆของพวกเขาสองคนเท่านั้น
เพราะเหยียนหมิงซุ่นขับขึ้นไปถึงขีดจำกัดสูงสุดของเครื่องบินรบที่มีระดับความสูงเกือบหนึ่งหมื่นแปดพันซึ่งใกล้กับชั้นบรรยากาศ ออกซิเจนในชั้นบรรยากาศด้านบนเบาบางมาก แม้แต่เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อที่มีคุณสมบัติทางร่างกายที่แข็งแกร่งยังต้องสวมหน้ากากออกซิเจนเลย
“ถ้าหาก…ฉันทำลายชนวนระเบิดได้ นายปล่อยพ่อของฉันไปเถอะ ให้เขาพาเป่าเป่าไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนะ” จู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็พูดขึ้นมากะทันหัน เสียงนั้นส่งผ่านเครื่องรับสัญญาณวิทยุไปถึงหูของเหยียนหมิงซุ่นอย่างชัดเจน
…………………………………………..
ตอนที่ 2262 นายจะต้องรอดชีวิตกลับมาได้แน่นอน
เหยียนหมิงซุ่นตั้งใจขับเครื่องบินรบอยู่ ถึงแม้ว่าจะได้ยินคำพูดของเฮ่อเหลียนเช่ออย่างชัดเจนแต่เขาไม่อยากตอบ ในเมื่อบินอยู่บนชั้นบรรยากาศสูงเกือบหนึ่งหมื่นแปดพันฟุต เขาไม่อยากคุยกับเฮ่อเหลียนเช่อเลยสักนิด
“ลงไปค่อยว่ากัน!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเย็นชา เฮ่อเหลียนเช่อถึงตระหนักได้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไม่ถูกกาลเทศะเอาเสียเลย เขาจึงรีบหุบปากทันที ไม่กล้ารบกวนเหยียนหมิงซุ่นอีกต่อไป
เครื่องบินรบที่พวกเขาขับเป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ความเร็วอยู่ในระดับที่ดีมาก ทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ไกลแสนไกลยังใช้เวลาขับไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เหยียนหมิงซุ่นควบคุมเครื่องลงจอดอย่างชำนาญ ลงได้นิ่งและสวยงามภายในครั้งเดียว
“ฝีมือไม่เลวนี่แต่แย่กว่าฉันนิดหน่อย!”
เฮ้อเหลียนเช่อพูดด้วยเสียงหงุดหงิด เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง อันที่จริงเขาไม่อยากคุยกับเจ้าหมอนี่มากนัก ระยะนี้สติปัญญาไม่ค่อยดีเลย
“นายคิดว่าหนิงเฉินเซวียนจะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศอย่างสงบเสงี่ยมเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดถึงประเด็นก่อนหน้านั้น
พอได้ฟังคำพูดที่เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยบนเครื่องบิน เหยียนหมิงซุ่นก็รู้ทันทีว่าเขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดกลับมาถึงได้สั่งเสียไว้
สีหน้าท่าทางของเฮ่อเหลียนเช่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็กลับมาสงบเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นพูดถูก เพราะความจริงพ่อของเขาคงไม่มีทางยอมไปจากฮวาเซี่ยง่าย ๆ เขาบ้าและหมกมุ่นมาก ตอนนี้ในใจคิดเพียงแต่จะเป็นฮ่องเต้
อันที่จริงสิ่งที่เฮ่อเหลียนเช่อไม่รู้ก็คือหนิงเฉินเซวียนต้องการทำให้แม่ของเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา——หนิงเสี่ยวซี
หนิงเฉินเซวียนก็ไม่รู้ว่าได้ยินวิธีบ้า ๆแบบนี้มาจากไหน ว่ากันว่าให้เก็บรักษาศพไว้ดี ๆไม่ให้มีร่องรอยความเสียหายใด ๆ จากนั้นก็วางไว้ตรงกลางหลงม่าย[1]เป็นเวลาสี่สิบเก้าวัน สูดกลิ่นอายมังกรเข้าไปจะช่วยทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้
นี่คือเหตุผลหลักที่หนิงเฉินเซวียนอยากจะยึดครองโลก แน่นอนว่าเขาย่อมมีความทะเยอทะยานที่ปรารถนาจะเป็นฮ่องเต้ด้วยอยู่แล้ว
เฮ่อเหลียนเช่อยิ่งไม่รู้เลยว่าศพของแม่ตนอยู่ในถ้ำด้วย ศพอยู่ในโลงที่ทำจากหยกเย็นพันปีซึ่งได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ศพนั้นราวกับยังมีชีวิตอยู่ หนิงเฉินเซวียนมักจะเข้าไปในถ้ำเพื่อพูดคุยความในใจกับหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขาเสมอ
นี่เป็นแรงจูงใจที่ผลักดันให้เขายืนหยัดต่อไป!
ช่างน่ารังเกียจสะอิดสะเอียนเสียจริง!
“ถ้าเขาไม่ยอมไปก็ช่างเถอะ ฉันแค่หวังว่าพอถึงตอนนั้นนายจะยอมปล่อยเขาไปก็แค่นั้น!” เฮ่อเหลียนเช่อถอนหายใจ แล้วมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นด้วยความเว้าวอน
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะตัดสินใจได้เพราะต้องให้นายใหญ่เป็นคนตัดสิน มาขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์หรอก!” เหยียนหมิงซุ่นพูดความจริงด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เหมยซูหานและเสี่ยวเป่าเขาปล่อยไปได้ การลงโทษไม่รวมถึงคนในครอบครัว นายใหญ่คงไม่ถึงขนาดฆ่าแกงกันหมดหรอก และเขาก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นเช่นกัน แต่หนิงเฉินเซวียน…ต่อให้นายใหญ่จะยอมปล่อยเขาไป แต่เกรงว่าเฮ่อเหลียนชิงจะไม่เห็นด้วยเนี่ยสิ!
เรื่องที่เฮ่อเหลียนชิงถูกวางยาพิษในปีนั้นก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาหลายต่อหลายครั้ง สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็คือการแก้แค้น
การฆ่าหนิงเฉินเซวียนกลายเป็นความยึดติดในชั่วชีวิตนี้ของเฮ่อเหลียนชิงไปแล้ว เขาไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆแน่!
เฮ่อเหลียนเช่อก็คิดถึงจุดนี้เหมือนกัน สีหน้าก็ยิ่งเศร้าสร้อย ไร้ซึ่งชีวิตชีวาและจิตใจอันฮึกเหิมเหมือนที่เห็นในทุก ๆวันความโหดเหี้ยมอำมหิตในอดีตบนใบหน้าเวลานี้หายมลายไปแทบไม่เหลือ ถือว่าดูไม่ขัดตาขึ้นเยอะเลย
เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยว่า “เหมยซูหานและเสี่ยวเป่าฉันรับปากนายได้ว่าจะปกป้องพวกเขาให้อยู่ดีมีสุข คนอื่นฉันจนปัญญาที่จะรับปากได้จริง ๆ แน่นอนว่าเงื่อนไขข้อแรกคือฉันต้องมีชีวิตรอดให้ได้เสียก่อนนะ”
ดวงตาของเฮ่อเหลียนเช่อไหววูบ พูดเสียงแผ่วเบาว่า ’ขอบคุณนะ’ แต่ก็ลอยพัดหายไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เหยียนหมิงซุ่นหูดีไม่อย่างนั้นคงจะไม่ได้ยินแน่ เขาหัวเราะในใจ เจ้าหมอนี่คงไม่เคยเอ่ยขอบคุณใครมาก่อนเลยสินะ?
แม้กระทั่งพูดขอบคุณยังพูดได้ไม่เป็นธรรมชาติเสียขนาดนี้!
ทั้งสองขึ้นรถแล้วไม่พูดอะไรกันอีก และยังคงเป็นเหยียนหมิงซุ่นขับอีกเช่นเคย เขาเหยียบคันเร่งจนสุดขับไปตามเส้นทางบนท้องถนน
“นายจะต้องมีชีวิตรอดกลับไปได้แน่!” อยู่ดี ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ไม่ปริปากพูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าสงบเรียบนิ่งแต่สายตากลับเจ็บปวดจับใจ
[1] เป็นสถานที่ที่มีพลังอันศักดิ์สิทธิ์ ฮวงจุ้ยดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น