อัจฉริยะสมองเพชร 2186-2187

 ตอนที่ 2186 ยาเม็ดเพิ่มความงาม

ตระกูลฉีมีอำนาจในเมืองหลวงก็จริง แต่เธอคือผู้แทนพิเศษที่ประจำการ ณ เมืองตะวันรอน รับมอบอำนาจโดยตรงจากจอมราชันย์ปีศาจเฉียนคุ่น ต่อให้ตระกูลฉีจะทรงพลังแค่ไหน ก็คงไม่ฉลาดนักถ้าจะท้าทายอำนาจของเธอ

ไม่มีอะไรเป็นความผิดร้ายแรงไปกว่าการลบหลู่เกียรติยศศักดิ์ศรีของจอมราชันย์

นี่คือสิ่งที่ทุกคนในสรวงสวรรค์ที่พอจะมีสามัญสำนึกต่างรู้ดี

“รับทราบ” ผู้อาวุโสพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป

เพียงครู่เดียวเขาก็กลับมาด้วยสีหน้าที่ออกจะงุนงง บ่งบอกชัดว่าเพิ่งได้ข่าวบางอย่างที่ตัวเขาก็แทบไม่อยากเชื่อ

“ผู้แทนเย่ ตอนนี้ฉีหลิงเอ๋อไม่ได้อยู่ในตลาดมืดใต้ดิน แต่อยู่ที่ตลาดตะวันรอน!”

“ตลาดตะวันรอน?” เย่โชวเยี่ยนแปลกใจกับข่าวที่ได้รับ

มันเกิดอะไรขึ้น ผู้จัดการตลาดมืดใต้ดินถึงลุกขึ้นมาเปิดตัวในตลาดที่ถูกต้องตามกฎหมายของเมืองตะวันรอน?

เธอพยายามจะล้างมือและปลดเกษียณจากโลกใต้ดินหรือ?

“เธอรวบรวมสุภาพสตรีสาวสวยในเมืองตะวันรอนมาได้จำนวนหนึ่ง และดูเหมือนกำลังจะขายของบางอย่าง…ผมคิดว่ามันคือยาเม็ดเพิ่มความงาม!” ผู้อาวุโสพูด

“ยาเม็ดเพิ่มความงาม?” เย่โชวเยี่ยนคำราม “เหลวไหล! ตอนที่อาจารย์ฟู่เจียงเฉิง, นักปรุงยาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของสรวงสวรรค์มาเยือนเมืองหลวง ฉันมีโอกาสได้พูดคุยกับเขา เขาบอกว่ารูปร่างหน้าตาของคนคนหนึ่งคือสิ่งที่สวรรค์กำหนดมา ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ยาเม็ดเพิ่มความงาม’ อยู่ในโลกนี้ ถ้ามีล่ะก็ ฉันคงไม่ปล่อยให้หน้ามีแผลเป็นจนถึงทุกวันนี้หรอก!”

ผู้อาวุโสพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง

ถ้ามีสิ่งที่เรียกว่ายาเม็ดเพิ่มความงามจริงๆ ก็คงขึ้นชื่อลือกระฉ่อนไปทั่วทั้งสรวงสวรรค์แล้ว

ยิ่งนักรบคนหนึ่งมีวรยุทธสูงขึ้นเท่าไหร่ อายุขัยของพวกเขาก็ยืนยาวขึ้น การมีอายุยืนเป็นเรื่องดี แต่คงจะดีกว่ามากหากสามารถรักษารูปลักษณ์หน้าตาที่อ่อนเยาว์ไว้ได้ด้วย

ถ้ามีของแบบนั้นอยู่ในโลกจริงๆ เหล่านักรบคงทุ่มเทเสาะแสวงหากันแล้ว!

“เราจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้ไหม?”

“ไม่ต้องหรอก ท่านเจ้าเมืองคงจัดการเอง…” เย่โชวเยี่ยนส่ายหน้าขณะเดินกลับห้องเพื่อพักผ่อน แต่หลังจากเดินไปได้เพียงสองสามก้าว ก็เปลี่ยนใจและพูดว่า “แต่ไม่เป็นไร ไปดูที่นั่นกัน!”

เมื่อพูดจบ เธอก็รีบออกจากห้อง

…..

ตลาดตะวันรอนคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตะวันรอน มีทรัพย์สมบัติทุกชนิดวางขาย ที่นี่เป็นแหล่งดึงดูดผู้คนที่ใหญ่ที่สุด ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญและมั่งคั่งของเมืองตะวันรอน

เย่โชวเยี่ยนใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า เธอไปถึงซุ้มจัดงานบริเวณที่วางขายยาเม็ดเพิ่มความงาม ด้วยเส้นสายของเธอ ไม่ช้าก็ผ่านมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้าไปได้

ซุ้มจัดงานคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มองแวบเดียวก็ดูออกว่าน่าจะตกราวพันคนเป็นอย่างน้อย

เกือบทั้งหมดเป็นนักรบสตรี โดยแม้ผู้ที่อ่อนด้อยที่สุดก็มีวรยุทธระดับเทพเจ้าขั้นต่ำ

“ดูเหมือนฉีหลิงเอ๋อจะมีเส้นสายในเมืองตะวันรอนไม่น้อยเลย…” เย่โชวเยี่ยนพึมพำ

เพราะเป็นผู้จัดการตลาดมืดใต้ดิน เธอจึงรวบรวมผู้คนได้มากมายภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังมีนักรบที่โดดเด่นบางคนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ซึ่งคงต้องใช้วิธีการพิเศษบางอย่างถึงจะทำให้พวกเขาออกมาได้

“เธอได้ยินไหม? ดูเหมือนวันนี้จะมียาเม็ดเพิ่มความงามมาวางขายนะ!”

“ในสรวงสวรรค์มียาแบบนั้นด้วยหรือ?”

“ฉันก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ดูเหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของนักปรุงยาผู้ไร้เทียมทาน…”

“ยังเร็วไปหน่อยที่จะบอกได้ว่าใช้การได้จริงหรือไม่ ฉันแค่อยากมาร่วมงานเท่านั้น…”

บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังและความสงสัยใคร่รู้ ดูเหมือนผู้คนส่วนใหญ่มาที่นี่ด้วยความอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“คุณสุภาพสตรีทั้งหลาย ขอเวลาสักครู่ได้ไหม?”

เสียงตะโกนดังมาจากด้านหน้า จากนั้น สุภาพสตรีสาวสวยร่างสูงโปร่งก็ก้าวยาวๆขึ้นไปบนเวที

ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉีหลิงเอ๋อ

เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมที่อยู่บนเวที จากนั้นก็ตรงเข้าประเด็น “พวกคุณคงอยากรู้ว่าทำไมฉันถึงเชิญพวกคุณมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้”

ความมั่นอกมั่นใจของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

“ฉันมีชีวิตอยู่กับคติพจน์ที่ว่าเวลาของทุกคนมีค่า จึงไม่อยากรบกวนพวกคุณด้วยการสนทนาสัพเพเหระ อย่างที่พวกคุณคงรู้แล้ว ทีมนักปรุงยาของฉันเพิ่งหลอมยาเม็ดชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมในการเพิ่มความงาม ฉันจึงเชิญพวกคุณทุกคนมาที่นี่ในวันนี้เพื่อสาธิตประสิทธิภาพของยาเม็ดเพิ่มความงามนั้น ถ้าพวกคุณสนใจ จบงานแล้วก็เข้ามาซื้อหาจับจองได้”

เมื่อพูดจบ ฉีหลิงเอ๋อยกมือ แล้วสุภาพสตรีคนหนึ่งที่ถือกล่องหน้าตาหรูหราก็ขึ้นมาบนเวที

กล่องนั้นทำจากหยกสีหมึกล้ำค่าซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการสกัดกั้นพลังจิตวิญญาณ มันเป็นวัสดุที่เหมาะจะใช้เก็บรักษาสมุนไพรหรือยาเม็ดล้ำค่าโดยไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพของยาจะเสื่อมไป แต่ก็หายากและมีราคาแพงเกินกว่าจะหาซื้อได้ง่ายๆ

เพียงแค่กล่องใบที่เห็นอยู่นี้ก็มีราคาอย่างน้อย 10 เหรียญสวรรค์แล้ว

ฉีหลิงเอ๋อลุกขึ้นยืนและเปิดกล่อง มียาเม็ดหนึ่งวางอยู่ภายในอย่างเรียบร้อย พลังจิตวิญญาณแผ่ซ่านออกมา

“มันก็แค่ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าธรรมดาไม่ใช่หรือ?” สุภาพสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งในหมู่ฝูงชนลุกขึ้นยืนและทักท้วง “แถมยังเป็นยาเม็ดขั้นต่ำด้วย…ถ้านั่นคือยาเม็ดเพิ่มความงามที่คุณกำลังพูดถึงล่ะก็ ฉันคงต้องบอกว่าคุณเห็นพวกเราโง่เง่าเต็มทีแล้วล่ะ!”

“ใช่ มันคือยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าจริงๆ!”

“ตระกูลของเราผลิตยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้ามาหลายทศวรรษแล้ว ฉันไม่มีทางเข้าใจผิดแน่!”

“ถึงฉันจะรู้ว่ามันออกจะเป็นการโฆษณาเกินจริง แต่ก็มาด้วยความคาดหวังบางอย่าง แล้วแม่สาวคนนั้นพยายามจะปั่นหัวพวกเราด้วยยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้า? เห็นเราเป็นไอ้บ้านนอกหรือไง?”

ฝูงชนที่เหลือรู้สึกได้ถึงความไม่ถูกต้อง เสียงบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดดังไปทั่ว

เห็นภาพนั้น เย่โชวเยี่ยนขมวดคิ้ว

ในฐานะอดีตเทพเจ้าสวรรค์สร้างจากเมืองหลวง เธอมีสายตาเฉียบคม ซึ่งไม่ว่าจะมองอย่างไร สิ่งที่อยู่ในกล่องใบนั้นก็คือยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำ ไม่มีความพิเศษสักนิด

ฉีหลิงเอ๋อเป็นคนฉลาด เห็นได้จากความสำเร็จที่ผ่านมาของเธอ จึงยากจะเชื่อว่าคนอย่างเธอจะทำผิดพลาดมหันต์แบบนี้

นักรบสตรีคนหนึ่งลุกขึ้นยืนและโพล่งออกมาพร้อมกับเลิกคิ้ว “เท่าที่ฉันรู้ แม้แต่บรรดานักปรุงยาในเมืองหลวงก็ไม่อาจผลิตสิ่งที่ใกล้เคียงกับยาเม็ดเพิ่มความงามได้ คุณฉี, คุณคงไม่ได้เชิญพวกเราทุกคนมาที่นี่เพียงเพื่อให้ดูยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าเม็ดเดียวหรอกนะ ฉันหวังว่าคุณคงมีคำอธิบายที่น่าพอใจสำหรับเรื่องนี้”

นักรบสตรีคนนั้นมีวรยุทธระดับเทพเจ้าขั้นสูง ถึงจะเพิ่งสำเร็จวรยุทธได้ไม่นาน แต่การเป็นเทพเจ้าขั้นสูงก็เกินพอจะทำให้เธอได้ขยับสถานภาพขึ้นเป็นชนชั้นนำของเมืองตะวันรอน

เพราะถึงอย่างไร แม้แต่อาจารย์ใหญ่ของสถาบันตะวันรอนก็เป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้าขั้นสูงเช่นกัน

“อย่างที่คุณพูดเมื่อครู่นี้นั่นแหละ เวลาของพวกเรามีค่า คุณควรมีเหตุผลที่ดีกว่านี้หน่อยนะ!”

ฝูงชนออกความเห็นเซ็งแซ่

“เงียบก่อนเถอะ! พวกคุณคิดว่าตัวฉัน, ฉีหลิงเอ๋อ จะเชิญพวกคุณมาที่นี่เพียงเพื่อให้ดูยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าเม็ดเดียวหรือ?” น้ำเสียงทรงอำนาจของฉีหลิงเอ๋อระงับความวุ่นวายบริเวณนั้นได้อย่างสิ้นเชิง

“วางใจน่ะ ฉันไม่คิดจะทำให้ชื่อเสียงของตัวเองด่างพร้อยหรอก พวกเรา!”

เธอยกมือขึ้นและร้องเรียกเหล่าบริวารที่อยู่ด้านล่างเวที

ฟึ่บ!

บริวารเหล่านั้นรีบนำอสูรสวรรค์ตัวหนึ่งขึ้นมา

เมื่อเห็นอสูรสวรรค์ตัวนั้น ทุกคนถึงกับตกตะลึง

“มันคืออสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าขั้นสูง งูเหลือมลาวา!”

“อสูรสวรรค์ตัวนี้อาศัยอยู่ในลาวา ร่างกายของมันจึงทนทานความร้อนได้สูงอย่างน่าทึ่ง ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือด้วยได้ยากมากเพราะความสามารถในการพ่นไฟของมัน!”

“แล้วเธอนำอสูรแบบนั้นขึ้นมาบนเวทีทำไม? เป็นเรื่องแน่หากมีใครถูกเปลวไฟของมันแผดเผา…”

“เพื่อนสนิทของฉันมีแผลไหม้ที่แขนข้างหนึ่งเพราะเจ้างูนั่น ฉันใช้ยาสมุนไพรทุกชนิดเพื่อพยายามรักษาแผลเป็นของเธอ แต่ผ่านมา 20 ปีแล้ว แผลเป็นของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะหาย”

งูเหลือมลาวาที่ถูกนำเข้ามาเป็นอสูรที่ขึ้นชื่อลือชาในเมืองตะวันรอน เป็นหนึ่งในอสูรที่มีองค์ประกอบของไฟที่รับมือด้วยได้ยากที่สุด

“เท่าที่ดูจากท่าทีของพวกคุณ ฉันคงไม่ต้องอธิบายความสามารถของอสูรสวรรค์ตัวนี้แล้ว มีใครในหมู่พวกคุณอยากสู้กับมันไหม?” ฉีหลิงเอ๋อถามยิ้มๆ

ฝูงชนพากันขมวดคิ้ว

เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าอสูรสวรรค์จะแข็งแกร่งกว่านักรบในวรยุทธระดับเดียวกันมาก ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามคืออสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าขั้นสูง ก็ไม่น่าจะมีใครในซุ้มจัดงานแห่งนี้ที่เก่งกาจพอจะรับมือกับมันตัวต่อตัวได้

“ถ้าไม่มีใครอาสา ฉันก็จะใช้คนของฉัน พวกคุณคงไม่มองว่าเป็นการจัดฉากนะ” ฉีหลิงเอ๋อพูด

นักรบสตรีที่พูดขึ้นก่อนหน้านี้บ่นพึม “ผู้คนมากมายจับจ้องคุณอยู่ ต่อให้คุณอยากเล่นตุกติก มันก็ไม่ง่ายหรอก เร็วเข้าเถอะ จะทำอะไรก็รีบทำ อย่าให้พวกเราต้องเสียเวลา!”

“ในเมื่อคุณเฉินพูดอย่างนั้น ฉันก็จะไม่รีรอแล้วนะ!”

ฉีหลิงเอ๋อยกมือขึ้นและร้องเรียก

สาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้าหางูเหลือมลาวา ร่างของเธอสั่นสะท้าน แต่ก็สูดหายใจลึกและพยายามบังคับตัวเองให้ยืนนิ่ง

“เริ่มได้!” ฉีหลิงเอ๋อสั่งการ

“ฟ่ออออ!”

งูเหลือมลาวาส่งเสียงขู่ฟ่ออย่างดุร้ายและอ้าปากใหญ่โตของมัน เปลวเพลิงแผดเผากองใหญ่พวยพุ่งออกจากปาก เผาร่างของสาวน้อยคนนั้น

ครู่ต่อมา เมื่อเพลิงมอดดับไป ร่างของสาวน้อยก็ไหม้เกรียม เธอทรุดฮวบลงกับพื้นเพราะอาการบาดเจ็บสาหัส ผิวพรรณอ่อนนุ่มของเธอยับเยินเพราะเปลวไฟ ทำให้ดูน่าสะพรึงไม่น้อย

“ฉีหลิงเอ๋อ คุณทำบ้าอะไรอยู่นี่?” เย่โชวเยี่ยนคำรามกร้าว

ผู้หญิงคนนั้นกำลังเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!

ไม่ว่าสาวน้อยคนนั้นจะเป็นบริวารของเธอหรือไม่ หรือทั้งคู่ทำข้อตกลงใดๆกันไว้ก็ตาม ฉีหลิงเอ๋อก็ทำเกินไปที่ใช้อสูรสวรรค์ตัวหนึ่งทำลายชีวิตคนแบบนั้น นั่นถือเป็นการฝ่าฝืนกฎของสรวงสวรรค์และเมืองตะวันรอนอย่างร้ายแรง!

ลำพังแค่พฤติกรรมนี้ก็รุนแรงพอจะทำให้ฉีหลิงเอ๋อถูกจับกุมและถูกพิพากษาให้รับการลงโทษอย่างหนักแล้ว!

เห็นสีหน้าซีดเผือดของทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น ฉีหลิงเอ๋อโบกมือและพูดต่อ “ทุกคนกรุณาสงบสติอารมณ์ก่อน ฉันไม่คิดจะทำร้ายใคร ในเมื่อฉันทำให้เธอถูกเปลวไฟของงูเหลือมลาวาแผดเผา ก็แน่นอนว่าฉันย่อมมีวิธีรักษาเธอให้หาย คุณเฉิน, คุณมาจากตระกูลนักปรุงยา และสามีของคุณ, เฉินอี้ฉง ก็เป็นนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองตะวันรอน ไม่ทราบว่าคุณรู้วิธีรักษาสาวน้อยคนนี้ไหม?”

ตอนที่ 2187 มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

สุภาพสตรีที่ถูกเรียกว่า ‘คุณเฉิน’ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “เปลวเพลิงของงูเหลือมลาวาไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดา ทันทีที่พิษร้ายซึมซาบเข้าสู่ร่างกาย ต่อให้นักรบระดับเทพเจ้าขั้นสูงก็ขับมันออกไปได้ยาก เกรงว่าฉันคงไม่มีวิธีรักษาที่เหมาะสมหรอก”

“แล้วคุณหลิวล่ะ? สามีของคุณ, หลิวหมิงหยาง คือนายแพทย์ที่ดีที่สุดในเมืองตะวันรอน คุณรู้ไหมว่าควรรักษาสาวน้อยคนนี้อย่างไร?” ฉีหลิงเอ๋อถามต่อ

“ไม่มีวิธีหรอก พิษจากเปลวเพลิงน่ะถูกขับออกได้ยาก ฉันคงทำอะไรไม่ได้” คุณหลิวตอบ

“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอถามพวกคุณที่เหลือนะ มีใครรู้วิธีรักษาสาวน้อยคนนี้หรือเปล่า? หรือในกรณีที่มีใครสงสัย ให้ฉันพิสูจน์ดีไหมว่าเพลิงพิษนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม?” ฉีหลิงเอ๋อพูดต่อ

“พวกเราไม่อาจรักษาอาการแบบนี้ได้”

ฝูงชนส่ายหน้า

ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถแก้ไขอาการที่แม้แต่คุณเฉินกับคุณหลิวยังจนปัญญา ส่วนการปลอมแปลงเพลิงพิษนั้นขึ้นมา…ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้

งูเหลือมลาวาอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา และทุกคนก็เห็นกับตาแล้วว่าเปลวเพลิงนั้นรุนแรงเกรี้ยวกราดขนาดไหน เมื่อครู่นี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้สึกถึงความร้อนแผดเผาจากปากของงูเหลือมลาวา

ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ไม่น่าเป็นการจัดฉากหลอกลวง

“ในเมื่อพวกเราเห็นพ้องต้องกันแล้ว ฉันก็ขอทำการรักษาเลยนะ นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงให้เห็นศักยภาพของ ‘ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้า’ ที่พวกคุณพูดถึง!”

เมื่อเห็นว่าสร้างความสงสัยใคร่รู้ได้มากพอแล้ว ฉีหลิงเอ๋อสั่งการสุภาพสตรีที่ถือกล่องหยกเมื่อครู่นี้ให้นำยาเม็ดที่อยู่ภายในออกมาและป้อนเข้าปากสาวน้อยที่ถูกเพลิงไหม้

ฟิ้ววว!

ทันทีที่ยาเม็ดนั้นไหลลงไปตามลำคอ ร่างของหญิงสาวก็สั่นสะท้าน เพียงไม่ถึงสามอึดใจ ชั้นผิวหนังที่ดำเป็นตอตะโกก็หลุดลอกจากแขนของเธอ จากนั้นก็ลามไปทั่วทั้งตัว

ฉีหลิงเอ๋อยกมือขึ้นอีกครั้ง บริวารอีกคนหนึ่งรีบเข้ามาใช้น้ำสะอาดชำระล้างร่างของสาวน้อย เมื่ออีกฝ่ายสะอาดเอี่ยม ผิวหนังอ่อนนุ่มและเรียบเนียนก็เผยตัวออกมาภายใต้ชั้นผิวดำเมี่ยม

ทุกคนถึงกับจังงัง

พวกเขาเห็นกับตาว่าสาวน้อยถูกไฟคลอกจนเกือบตาย

แต่เพียงแค่กินยาเม็ดเพิ่มความงาม ไม่เพียงแต่บาดแผลจากไฟไหม้จะหายดี รอยไหม้บวมแดงต่างๆก็หายวับไปไม่มีเหลือ อันที่จริง ผิวพรรณของเธอดูดีกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ราวกับเล่นกลเลยทีเดียว

มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เป็นเพราะสาวน้อยได้กินยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าเม็ดนั้นหรือ?

อานุภาพของมันวิเศษขนาดนั้นเลย?

ทุกคนเงียบกริบ แม้ผู้ที่เมื่อครู่นี้วิพากษ์วิจารณ์ขนานใหญ่ก็ไม่กล้าพูดอะไร

พวกเขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก

ฉีหลิงเอ๋อพอใจกับสีหน้าอึ้งทึ่งของผู้ชม เธอสาธยาย “นี่คืออานุภาพของยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าที่นักปรุงยาของเราหลอมขึ้นมา ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความงาม ยังรักษาแผลเป็นและคืนความงดงามอ่อนเยาว์ได้ด้วย”

“ยาเม็ดปาฏิหาริย์เม็ดนี้มีสนนราคาอยู่ที่เม็ดละ 1,000 เหรียญสวรรค์ ถ้าคุณยังแคลงใจในประสิทธิภาพของมัน กินยาก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินหลังจากยาออกฤทธิ์ก็ได้ แต่เพราะกระบวนการผลิตมีความยุ่งยากไม่น้อย ล็อตแรกนี้เราจึงมีมาแค่ 20 เม็ด ซึ่งก็ใช้ไป 1 เม็ดแล้ว ดังนั้น ฉันจึงมีให้พวกคุณทั้งหมด 19 เม็ด ถ้าพลาดโอกาสนี้ล่ะก็ ฉันไม่รับประกันนะว่าล็อตใหม่จะมีมาเมื่อไหร่!”

“พระเจ้า!” ยานั่นมีราคาเม็ดละ 1,000 เหรียญสวรรค์? นี่มันปล้นกันกลางวันแสกๆ…”

ทุกคนถึงกับจังงัง

ขนาดสายเทาซึ่งปล้นบรรดาพ่อค้าวานิชมาหลายปีก็ยังทำเงินได้เพียงไม่กี่ร้อยเหรียญสวรรค์

แต่ยาเม็ดเดียวมีราคาถึง 1,000 เหรียญสวรรค์…

เหลวไหลสิ้นดี!

“1,000 เหรียญสวรรค์น่ะเป็นราคาที่สูงเกินไปนะ แต่เธอบอกว่ามีแค่ 19 เม็ดเท่านั้น และถ้าขายหมด ก็ไม่รู้ว่าล็อตต่อไปจะมาเมื่อไหร่…”

“ฉันคิดว่าเธออาจเป็นนักต้มตุ๋น จึงจับตามองทุกขั้นตอน แต่เธอไม่มีทางใช้เล่ห์กลใดๆระหว่างการสาธิตเมื่อครู่นี้ได้หรอก ด้วยอานุภาพอันน่าทึ่งของยา ฉันคิดว่า 1,000 เหรียญสวรรค์ก็ไม่ได้แพงเกินไป!”

“ก็จริง…พวกเราอายุมากกันแล้ว รูปร่างหน้าตาก็ไม่สวยสดเหมือนเดิม ถ้ายังหาวิธีกลับคืนสู่สภาพเดิมไม่ได้ล่ะก็ ไม่ช้าไม่นาน แม่ผู้หญิงจิ้งจอกทั้งหลายจะต้องยั่วยวนสามีของฉันจนสำเร็จแน่ ซึ่งหากถึงตอนนั้น ต่อให้ใช้เงินมากขนาดไหนก็ไร้ประโยชน์…”

“จริงด้วย แม่จิ้งจอกสาวพวกนั้นช่างยั่วยวนเหลือเกิน ใครๆก็อดใจได้ยาก…”

เสียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเข้มข้นดังอื้ออึงไปทั่ว

แม้จะมีบางคนรู้สึกว่าราคาไม่ได้สูงเกินไป แต่นั่นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า 1,000 เหรียญสวรรค์คือจำนวนเงินที่สูงเกินกว่าคนส่วนใหญ่จะเอื้อมถึง

ฉีหลิงเอ๋อเลือกเชื้อเชิญเฉพาะพ่อค้าและนักรบสตรีผู้ร่ำรวยในเมืองตะวันรอนมาร่วมงาน แต่ก็ไม่ง่ายที่จะทำให้พวกเขายอมควักเงินมากขนาดนั้น

เห็นสีหน้าลังเลของผู้ชม สุภาพสตรีวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฉีหลิงเอ๋อกระซิบกระซาบอย่างเป็นห่วง “นายหญิงน้อย ราคาที่คุณตั้งน่ะไม่สูงไปหน่อยหรือ?”

นั่นคือราคาที่ฉีหลิงเอ๋อกำหนดเองโดยไม่ปรึกษาใคร เธอเองก็เพิ่งรู้

“ไม่สูงหรอก ฉันตั้งใจจะผลักดันยาเม็ดเพิ่มความงามให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับชนชั้นสูง ไม่ต้องห่วง ขอแค่รักษาความอ่อนเยาว์ไว้ได้ พวกเขายอมจ่ายเท่าไหร่เท่ากัน” ฉีหลิงเอ๋อตอบยิ้มๆ

เธอเข้าใจจิตใจของผู้หญิงเหล่านั้นดี

ความปรารถนาในความงดงามถูกฝังรากลึกอยู่ในยีนของมนุษย์ทุกคน ยิ่งเหล่านักรบเก่งกาจและมีอายุขัยยาวนานขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็จะเริ่มกังวลใจเรื่องชื่อเสียงและรูปร่างหน้าตา

สิ่งเดียวที่ไม่เคยเป็นไปได้สำหรับนักรบเหล่านี้ก็คือการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ ซึ่งอย่างน้อยที่สุด ในวันนี้ โอกาสของการจะได้เพิ่มความงดงามให้กับตัวเองก็อยู่ต่อหน้าต่อตาแล้ว แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่จะต้องรีบคว้ามันไว้

“ฉันเข้าใจแล้ว!”

สุภาพสตรีวัยกลางคนพยักหน้าเมื่อเห็นความมั่นใจของฉีหลิงเอ๋อ

“ไม่มีใครซื้อหรือไง?”

หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง ก็ยังไม่มีใครยอมเสนอตัวซื้อยาเม็ดเพิ่มความงาม

แต่ถึงอย่างนั้น ฉีหลิงเอ๋อก็ดูไม่กังวลสักนิด เพราะการที่คนพวกนี้ยังรีรออยู่ก็แปลว่าปลาฮุบเหยื่อแล้ว ทั้งหมดที่เธอต้องทำก็คือทำการผลักดันขั้นสุดท้าย

เธอจึงหันไปมองเย่โชวเยี่ยนและยิ้มให้

ฉีหลิงเอ๋อลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินไปประสานมือให้อีกฝ่าย “ยินดีที่ได้พบคุณ ผู้แทนเย่”

เย่โชวเยี่ยนพยักหน้ารับคำทักทาย แต่ไม่พูดอะไร

“ในเมื่อทุกคนยังแคลงใจในยาเม็ดเพิ่มความงาม…หากไม่เป็นการรบกวนเกินไป ฉันก็อยากเชื้อเชิญให้ผู้แทนเย่ทดลองสักเม็ด” ฉีหลิงเอ๋อพูด

“เชื่อเถอะว่าฉันจะไม่คิดเงินสักแดงเดียวถ้าประสิทธิภาพของยาเม็ดนี้ไม่เป็นที่พึงพอใจของคุณ”

เย่โชวเยี่ยนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีความนัยแอบแฝง เธอก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้”

ฉีหลิงเอ๋อยกมือขึ้น แล้วบริวารคนหนึ่งก็รีบนำกล่องหยกอีกใบเข้ามา

เย่โชวเยี่ยนตรวจสอบกล่องหยกสีหมึกอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะหยิบยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าที่อยู่ภายในขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เธอก็ส่งยาเข้าปาก

ฟึ่บ!

ยาเม็ดละลายทันทีที่เข้าไปในปากของเธอ กระแสพลังงานไหลเวียนทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นาน เธอก็รู้สึกถึงอาการชาเหมือนเข็มแทงบริเวณแก้มข้างขวา

เย่โชวเยี่ยนยกมือขึ้นสัมผัสแก้มโดยอัตโนมัติ แต่ในตอนนั้นเอง ฉีหลิงเอ๋อก็ยื่นกระจกเงาทองแดงบานหนึ่งให้

เธอรับกระจกเงาทองแดงมาอย่างลังเลและส่องดูใบหน้า แม้จะมีผ้าคลุมหน้าบดบังอยู่ แต่ก็เห็นทันทีว่าผิวพรรณของเธอเรียบเนียนและนุ่มนวลกว่าเดิม แถมบางอย่างที่เคยโดดเด่นอยู่ตรงนั้นก็หายไป

เย่โชวเยี่ยนมือสั่น เธอดึงผ้าคลุมหน้าออก จากนั้นก็อ้าปากค้าง

แผลเป็นอันใหญ่ที่อยู่กับเธอมาเนิ่นนานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังดูอ่อนวัยกว่าเดิมเป็นสิบปี รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปช่างแตกต่างจนยากจะเชื่อว่าเป็นคนคนเดียวกันกับที่เห็นในกระจกเงาเมื่อชั่วโมงก่อน

“คุณทำได้อย่างไรน่ะ?”

เย่โชวเยี่ยนแทบไม่เชื่อสายตา

“ผู้แทนเย่…” ผู้อาวุโสที่ติดตามเย่โชวเยี่ยนพึมพำด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ

แม้ในสรวงสวรรค์ ผู้คนก็ยังเดียดฉันท์กันเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เย่โชวเยี่ยนต้องเผชิญกับคำติฉินนินทาจากผู้คนรอบข้าง แม้จะพยายามไม่ใส่ใจ แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากคำพูดเหล่านั้น เธอคิดว่าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ใครจะไปรู้ว่ายาเม็ดเดียวจะแก้ปัญหาของเธอได้ง่ายดายขนาดนี้?

นี่คือสิ่งที่แม้แต่ราชันย์เทพเจ้าของเมืองหลวงก็ทำไม่ได้!

ในเวลาเดียวกัน ฝูงชนต่างก็ตาโตด้วยความตกใจ

ในเมืองตะวันรอน มีคนไม่มากนักที่รู้จักผู้แทนเย่ แต่สำหรับชนชั้นนำของเมือง ต่อให้พวกเขาไม่เคยพบเย่โชวเยี่ยนเมื่อสมัยยังงดงาม แต่อย่างน้อยก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเธอมาก่อน

เธอคือผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งจากเมืองหลวง แต่เพราะวรยุทธที่ตกฮวบอันเป็นผลจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับ สุดท้ายเธอก็ถูกส่งมาประจำการที่เมืองตะวันรอน ร่ำลือกันว่าเธอมีแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ใบหน้า ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอปกปิดใบหน้าอยู่เสมอ

แต่ยาเพียงเม็ดเดียวกำจัดแผลเป็นนั้นได้ แถมยังทำให้เธอดูอ่อนวัยขึ้นอีกหลายปี

นี่คือปาฏิหาริย์!

“ว่าอย่างไร? ถ้าพวกคุณคนไหนยังแคลงใจล่ะก็ ทดลองได้เลยนะ อย่างที่ฉันบอกเมื่อครู่นี้ ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่พอใจของคุณล่ะก็ ฉันจะไม่เก็บเงินสักแดงเดียว!” ฉีหลิงเอ๋อพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจ

ในฐานะผู้บริหารและดูแลตลาดมืดใต้ดินขนาดใหญ่ เธอมีความเชี่ยวชาญอย่างน่าทึ่งในการควบคุมสถานการณ์ และรู้ดีว่าตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในกำมือแล้ว

“ฉันจะลอง!”

สุภาพสตรีที่ต่อต้านเธออย่างหนักเมื่อครู่นี้, คุณเฉิน ก้าวออกมาจากฝูงชน

เธอมาจากครอบครัวนักปรุงยา และสามีของเธอ, เฉินอี้ฉง ก็โด่งดังในฐานะนักปรุงยาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองตะวันรอน

เย่โชวเยี่ยนจับตามองอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วนขณะที่เดินเข้ามา

คุณเฉินดูจะมีอายุราว 50 กลางๆ แม้จะดูแลผิวพรรณอย่างดี แต่เรือนร่างของเธอก็มีริ้วรอยของอายุและกาลเวลาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

คุณเฉินหยิบยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าเม็ดหนึ่งเข้าปาก เธอหลับตาขณะพยายามจับความรู้สึกของ ฤทธิ์ยาเพื่อค้นหาว่ายานั้นมีส่วนประกอบใดบ้าง แต่ยังไม่ทันจะรู้อะไร ก็ได้ยินเสียงพึมพำอย่างตื่นเต้นดังขึ้นรอบตัว

เธอรีบลืมตา และเห็นสุภาพสตรีอายุราว 30 ต้นๆคนหนึ่งมองมาจากในกระจกเงา

“นี่คือ…ตัวฉัน?” คุณเฉินตัวสั่นด้วยความไม่อยากเชื่อขณะรีบสัมผัสใบหน้า

สุภาพสตรีที่อยู่ในกระจกคือตัวเธอเมื่อหลายสิบปีก่อนจริงๆ เพียงแค่กินยาเม็ดเดียว ผิวพรรณของเธอก็กลับมาเต่งตึงเหมือนเดิม รูปร่างหน้าตาย้อนวัยกลับไปหลายสิบปี

การหลอมยาเม็ดที่มีอานุภาพขนาดนี้เป็นไปได้จริงๆหรือ?