ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2173-2196

 ตอนที่ 2173 พ่อแม่ที่ปวดใจ


จ้าวอิงหัวถึงเพิ่งนึกถึงความจริงที่เขามองข้ามมาตลอดขึ้นได้–


ลูกสาวสุดที่รักของเขาถูกเจ้าเหยียนหมิงซุ่นล่อลวงเข้าตระกูลเหยียนไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่ลูกสาวของเขาอีกต่อไปแล้ว มันน่าปวดใจจัง!


“ก็ยังไม่จัดงานแต่งงานไม่ใช่หรือไง?” จ้าวอิงหัวหาข้ออ้างได้


“แต่ทางกฎหมายผมกับเหมยเหมยเป็นสามีภรรยากันแล้วนะครับ” เหยียนหมิงซุ่นเตือนอีกครั้ง


จ้าวอิงหัวไม่ได้ทำหน้าดี ๆใส่เขา แค่เห็นก็รำคาญแล้ว


“งั้นงานแต่งงานของพวกแกจะทำอย่างไรต่อ? ให้เหมยเหมยออกงานทั้งที่ท้องโตอย่างนั้นจริงเหรอ?” จ้าวอิงหัวยังค้างคาใจกับเรื่องนี้อยู่ คนยุคนี้ยังค่อนข้างเคร่งขนบธรรมเนียมกันมาก อย่างน้อยเขาก็เป็นคนมีหน้ามีตาในเมืองหลวงพอสมควร ส่วนเหยียนหมิงซุ่นยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง


คุณชายหมิงผู้โด่งดังใครเล่าจะไม่รู้จักบ้าง?


งานแต่งงานของเหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นจะต้องเป็นเป้าสายตาของคนนับหมื่น สื่อทั้งประเทศต้องแย่งชิงกันทำข่าว ถึงตอนนั้นหากปล่อยท้องป่องแล้วพวกสื่อจะเขียนข่าวมั่ว ๆอย่างไรบ้างก็ไม่รู้!


“ผมกับเหมยเหมยปรึกษากันแล้วว่าจะเลื่อนงานแต่งงาน” เหยียนหมิงซุ่นตอบเสียงนิ่ง


จ้าวอิงหัวเด้งตัวขึ้นอีกรอบ “เลื่อนงานแต่งงาน? แกบอกเลื่อนก็เลื่อนงั้นเหรอ?”


เขาป่าวประกาศบรรดากลุ่มเพื่อนของเขาไปตั้งนานแล้วว่าพอถึงตอนนั้นต้องให้เกียรติมาดื่มเหล้ามงคลด้วยกัน แต่ตอนนี้จู่ ๆมาบอกเขาว่าจะเลื่อนงานแต่งงานจนทำให้เขาต้องผิดคำพูดต่อเพื่อน ๆ แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ไหนล่ะ?


“แน่นอนว่าผมเป็นคนตัดสินใจ อย่างไรเสียข่าวนี้ผมก็ยังไม่ได้ป่าวประกาศให้คนนอกรู้ บัตรเชิญก็ยังไม่ได้แจก เลื่อนไปคงไม่เป็นไรหรอก” เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าปฏิกิริยาของจ้าวอิงหัวช่างน่าแปลกนัก ทำไมถึงต้องอารมณ์เสียขนาดนี้ด้วย?


เหยียนซินหย่าจับผิดสังเกตได้เลยตะคอกถาม “คุณคงไม่ได้ปากสว่างหลุดพูดเรื่องงานแต่งงานออกไปหรอกนะ?”


“เปล่า…แค่มีครั้งหนึ่งผมดื่มเยอะไปหน่อยเลยเผลอหลุดปากไป…”


เดิมทีจ้าวอิงหัวยังไม่อยากยอมรับหรอก แต่ภายใต้สายตาที่ดุดันขึ้นเรื่อย ๆของเหยียนซินหย่าเขาก็เลยเผลอพูดความจริงออกไปโดยไม่รู้ตัว ไฟโทสะก็ดับมอดไปอย่างสิ้นเชิง


“ปัญหานี้คุณก่อ งั้นคุณก็ไปสะสางเอาเอง” เหยียนซินหย่าโมโหแทบตาย


เธอไม่ได้โกรธที่จ้าวอิงหัวหลุดปากเรื่องงานแต่งงานไปแต่เธอโกรธที่จ้าวอิงหัวไม่ยอมเชื่อฟัง เธอบอกไปแล้วว่าไม่ให้เขาดื่มเหล้านอกบ้าน ดื่มเหล้าไม่เพียงแต่จะทำลายสุขภาพแต่ยังเสียการเสียงานอีกด้วย อย่างไรเสียเธอก็ไม่เห็นด้วยกับการดื่มเหล้าสังสรรค์ ฉะนั้นจึงไม่อนุญาตให้จ้าวอิงหัวดื่มเหล้า


แต่หมอนี่กลับขัดคำสั่งแอบดื่มลับหลังเธอแล้วยังปากสว่างอีกต่างหาก!


จ้าวอิงหัวถูกเหยียนซินหย่าด่าจนไม่กล้าแม้แต่ปริเสียง และยิ่งไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเรื่องงานแต่งงานของลูกสาวด้วย


เหยียนซินหย่าไม่มีความเห็นใดกับการเลื่อนงานแต่งงาน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือหลานในท้องของเหมยเหมย สามเดือนแรกสำคัญที่สุดจะเกิดข้อผิดพลาดใดไม่ได้เด็ดขาด


“หนึ่งเดือนนี้ลูกอย่าคิดไปไหน นอนอยู่บนเตียงนี่แหละ ห้ามวาดรูปด้วย เข้าใจหรือยัง?” เหยียนซินหย่าเข้าไปในห้องของเหมยเหมยเพื่อกำชับเธอโดยเฉพาะ


“หนูรู้แล้วค่ะ พี่หมิงซุ่นบอกหนูหมดแล้ว แล้วยังลาหยุดให้หนูด้วย” เหมยเหมยสวมกอดเหยียนซินหย่าแล้วออดอ้อน


เหยียนซินหย่าลูบผมยาวสลวยของเธอเบา ๆและเกิดความรู้สึกในใจที่พูดไม่ถูก ทั้งดีใจทั้งปวดใจ อย่าเห็นว่าเธอมักขัดคำพูดจ้าวอิงหัวตลอดเลย แต่ความจริงนั่นเป็นแค่การแสดงละครต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นเท่านั้นเอง


หากในครอบครัวมีคนหนึ่งตีหน้าถมึงทึงแล้ว เธอก็ต้องทำหน้าดี ๆ ไม่อย่างนั้นหากตีหน้าขรึมทั้งบ้านเหยียนหมิงซุ่นต้องรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน สุดท้ายก็จะเป็นการทำร้ายเหมยเหมยเอง!


เหยียนซินหย่ารู้สึกว่าเหมยเหมยคือเด็กสาวที่เต้นรำบนเวทีเสมือนนางฟ้าตัวน้อยในวันวานและเป็นเช่นนั้นตลอดมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวจะแต่งงานรวดเร็วขนาดนี้ อีกทั้งใกล้จะเป็นแม่คนแล้วด้วย


นั่นบ่งบอกว่าลูกสาวของเธอจะเป็นลูกสะใภ้ของบ้านอื่นอย่างแท้จริงแล้ว!


หัวใจของเธอเจ็บปวดยิ่งกว่าจ้าวอิงหัวด้วยซ้ำ!


……………………….


ตอนที่ 2174 หรือว่าคลอดเพิ่มอีกคนเถอะ


“เวลาผ่านไปเร็วจังนะ พริบตาเดียวลูกก็จะเป็นแม่คนแล้ว ส่วนแม่ก็แก่แล้ว” เหยียนซินหย่าถอนหายใจด้วยความเศร้าสร้อย


“แม่ยังสาวยังสวยเหมือนเมื่อก่อน ไม่แก่เลยสักนิดเดียว ถ้าเรายืนด้วยกันคงเหมือนพี่น้องมากกว่าแม่ลูกแน่ ๆ” เหมยเหมยหัวเราะคิกคัก


เธอไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิดเดียว เหยียนซินหย่าเป็นต้นแบบสาวงามแห่งเจียงหนานดั้งเดิมของจริง ทั้งขนาดตัวเล็ก ผิวเนียนละเอียด โครงกระดูกก็เล็กมากเช่นกัน ต่อให้อายุสี่สิบกว่าแล้วแต่ผิวพรรณของเธอยังคงขาวเนียนนุ่มเช่นเดิม บวกกับการใช้ยาวิเศษเป็นเวลายาวนานทำให้เธอดูมีชีวิตชีวา ผิวเปล่งประกายดูเหมือนคนอายุสามสิบกว่า แผ่กลิ่นอายความงามฉบับสาวรุ่นใหญ่ออกมาจากตัว


สวยแบบผู้ใหญ่ แถมยังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นถึงศิลปินชื่อดังระดับโลก แล้วยังเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเหยียนตานชิง…


จุดเด่นประทับไว้บนตัวตั้งมากมาย เหยียนซินหย่าจึงกลายเป็นเป้าหมายในการทำข่าวของสื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศเหมือนเหมยเหมย ถึงขั้นมีนิตยสารแฟชั่นหลายสำนักเสนอเงื่อนไขอยากเชิญเหยียนซินหย่าไปถ่ายแบบลงปกนิตยสาร ซึ่งรวมถึงนิตยสารชื่อดังระดับโลกที่ดาราดังจำนวนมากทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา


แต่เหยียนซินหย่ากลับปฏิเสธอย่างไม่ลังเลใจ


เธอไม่ได้อาศัยหน้าตาในการทำมาหากินสักหน่อยเลยไม่จำเป็นต้องไปสร้างชื่อเสียงด้านนี้เพื่อแย่งงานของดาราพวกนั้น


อีกอย่างจ้าวอิงหัวเป็นคนขี้หึง ปกติเสื้อผ้าที่เธอใส่ออกบ้านยังต้องผ่านการวิพากษ์วิจารณ์ก่อนเลย หากต้องถ่ายปกนิตยสารให้คนทั้งโลกเห็นหน้าตาตัวเอง เกรงว่าจ้าวอิงหัวจะกระอักอาการหึงหวงตายเสียก่อน


เหยียนซินหย่าดีดปลายจมูกเหมยเหมยเบา ๆ แล้วพูดตำหนิ “ลูกน่ะปากหวาน แม่อายุใกล้จะเข้าเลขห้าแล้วนะ ยังจะสาวได้เท่าไรกัน”


เหมยเหมยซบอกเธอราวกับแมวตัวน้อย ครางงึมงำออดอ้อนอย่างเกียจคร้าน ความรักคนเป็นแม่ของเหยียนซินหย่าพลั่งพรูออกมาจนเธอแทบละลายเลยทีเดียว


“ลูกจะเลื่อนงานแต่งงานจริงเหรอ?”


“ใช่ค่ะ ถึงตอนนั้นหนูท้องเจ็ดเดือนแล้ว ชุดแต่งงานคงยัดไม่เข้า หนูไม่อยากเป็นเจ้าสาวขี้เหร่หรอกนะคะ”


เหมยเหมยเบะปากแล้วเงยหน้าส่งยิ้มให้เหยียนซินหย่า “หนูคุยกับพี่หมิงซุ่นแล้ว ตัดสินใจรอลูกโตค่อยจัดงานแต่งงาน ถึงตอนนั้นให้ลูกของหนูเป็นเด็กถือดอกไม้ให้หนูกับพ่อของเขา ดีจะตาย!”


เหมยเหมยยิ้มร่าอย่างได้ใจ


ใครเล่าจะมีความคิดจัดงานแต่งงานล้ำเลิศได้เท่าเธอ?


มีเพียงงานเดียวเท่านั้นไม่มีที่ใดอีกแล้ว!


เหยียนซินหย่าเบิกตาโตอย่างตกใจแล้วพูดตำหนิด้วยใบหน้าขบขัน “เหลวไหล รอลูกของพวกลูกโตเป็นเด็กถือดอกไม้อย่างน้อยก็ต้องสี่ปีข้างหน้า ล่าช้าขนาดนี้ไม่เข้าท่าเลยนะ”


“เหลวไหลอย่างไรกันคะ ถึงอย่างไรหนูกับพี่หมิงซุ่นก็จดทะเบียนกันแล้วนี่นา งานแต่งงานจะจัดเร็วจัดช้าก็ไม่เห็นเป็นไร ไม่สนแหละ หนูจะให้ลูกมาเป็นเด็กถือดอกไม้ให้หนู หนูไม่สน…”


เหมยเหมยพูดเสียงอ้อนจนเหยียนซินหย่าขัดใจเธอไม่ได้ “ก็ได้ ๆ ตามใจลูกแล้วกัน มีแค่หมิงซุ่นเท่านั้นแหละที่จะตามใจให้ลูกเอาแต่ใจแบบนี้”


เหยียนซินหย่าปลื้มใจอย่างมาก เธอนึกโชคดีที่ตัวเองไม่ได้มองคนผิดและเลือกลูกเขยดี ๆรู้กำพืดให้ลูกสาวตัวเอง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาความดีที่เหยียนหมิงซุ่นมีต่อเหมยเหมยบางทีแม้แต่เธอกับจ้าวอิงหัวยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!


“เด็กถือดอกไม้ต้องมีชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลานของแม่เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง อีกอย่างบ้านเราไม่มียีนแฝด ในท้องของลูกน่าจะมีแค่คนเดียว แม่ว่าถือโอกาสคลอดลูกคนที่สองไปด้วยเลยจะได้ครบคู่ ไม่ต้องหาเด็กถือดอกไม้จากที่อื่นมาเพิ่มแล้ว ผลิตเองไปเลยดีจะตาย!”


เหยียนซินหย่าจงใจพูดแซว อย่างไรเสียก็ล่าช้าไปตั้งสี่ปีแล้ว สู้มีอีกสักคนไปเลยจะดีกว่า!


“ตอนนี้มีได้แค่คนเดียว พี่หมิงซุ่นทำงานรัฐบาล มีเกินผิดกฎหมายนะคะ” เหมยเหมยเสียดายอย่างมาก เธออยากมีลูกหลายคนจริง ๆนะ!


เหยียนซินหย่ายิ้มด้วยท่าทีลึกลับ “แม่มีวิธี ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน!”


ตอนที่ 2175 แม่เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าเซอ


เหมยเหมยสดใสขึ้นมาทันที ลุกขึ้นนั่งมองหน้าเหยียนซินหย่าแล้วถามด้วยความร้อนใจ “แม่มีวิธีอะไรเหรอ? ถ้าเรื่องผิดกฎหมายทำไม่ได้นะ!”


เหยียนซินหย่าถลึงตาใส่เธออย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “แม่จะทำเรื่องผิดกฎหมายได้เหรอ?”


อย่างมากก็แค่หาช่องโหว่ทางกฎหมายเท่านั้นเอง!


เธอเอ่ยอย่างดีใจ “หลายวันก่อนแม่คุยกับเพื่อน เขาพูดถึงนโยบายรัฐลูกคนที่สองว่าคู่สามีภรรยาต้องมีคนใดคนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยถึงจะมีลูกคนที่สองได้ แม่ตั้งใจไปถามมาให้แล้วสรุปว่าได้จริง ๆด้วย!”


พอเหมยเหมยได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้ก็อารมณ์ห่อเหี่ยวในฉับพลัน “หนูรู้ตั้งนานแล้ว ต่อให้ได้แล้วอย่างไรล่ะคะ หนูกับพี่หมิงซุ่นไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยสักหน่อย”


“ใครว่าลูกไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยกันล่ะ?” เหยียนซินหย่ากลอกตาใส่เธออีกที เหมยเหมยก็เกิดตื่นเต้นอารมณ์ฮึกเหิมขึ้นมาทันที เบิกตาโตจับจ้องใบหน้าแม่ของตนเอง


“แม่ แม่ไม่ได้เข้าใจผิดหรอกใช่ไหม? ในทะเบียนบ้านของหนูเขียนว่าชาวฮั่นนะ แล้วจะเป็นชนกลุ่มน้อยได้อย่างไร?”


ตอนนั้นเธอเคยคิดถึงเรื่องนโยบายนี้เลยไปตามย้อนดูประวัติบรรพบุรุษตระกูลเหยียนและตระกูลจ้าว แต่เสียดายที่รากฐานล้วนแต่เป็นชาวฮั่นอย่างแท้จริง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อยเลยสักนิด


เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่อยากทำสิ่งผิดกฎหมายเหมยเหมยเลยต้องตัดใจเรื่องนี้ไป ทว่าตอนนี้เหยียนซินหย่าได้เอ่ยขึ้นอีกครั้งเลยทำให้ความคิดที่ดับสลายไปแล้วถูกจุดประกายขึ้นใหม่ในฉับพลัน หรือว่าแม่ของเธอมีวิธีดี ๆจริงหรือ?


เหยียนซินหย่ามองค้อนใส่ทีหนึ่ง ทำท่าได้ใจอย่างมาก “คนไร้หัวใจ แม่ของลูกก็คือชนกลุ่มน้อยไง ลูกนี่ไม่สนใจแม่เลยจริง ๆ”


ปากเล็กของเหมยเหมยอ้าหวอเป็นรูปตัวโอ ดวงตาเบิกโตเท่าขนาดปาก แม่ของตนเป็นชนกลุ่มน้อย ทำไมเธอไม่เคยรู้เลยล่ะ?


“แม่ แม่เป็นชนกลุ่มน้อยไหนเหรอ? เผ่าม้งหรือเผ่าไต หรือว่าเผ่าต้ง เผ่าเย้า เผ่าป๋าย…”


เหมยเหมยพ่นชื่อชนกลุ่มน้อยแถบทางตอนใต้ออกมายาวเหยียดแต่ก็ยังไม่น่าเชื่ออยู่ดี เพราะคุณตาของตนเป็นคนมณฑลเจ้อเจียงโดยกำเนิด แล้วเจ้อเจียงมีชนกลุ่มน้อยด้วยหรือ?


เหมยเหมยไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะเธอไม่ถนัดวิชาภูมิศาสตร์เลยจริง ๆ คำถามที่มีชั้นเชิงแบบนี้เธอมักให้เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนคิดเสมอ แต่ในความทรงจำของเธอคล้ายว่าแถบหูหนานต่างหากที่มีชนกลุ่มน้อยมากที่สุด ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเจ้อเจียงมีอำเภอปกครองตัวเองด้วย!


หรือว่าบรรพบุรุษคุณตาเธออพยพมาอยู่ที่เจ้อเจียงกันนะ?


“ไม่ใช่ทั้งนั้น แม่เป็นเผ่าเซอ เคยได้ยินไหม?” เหยียนซินหย่ามองลูกสาวด้วยความคาดหวัง


เหมยเหมยกะพริบตาปริบ ๆ เผ่าเซอหรือ?


เซอตัวไหน?


“เซอที่แปลว่าค้างจ่ายเหรอ?” เหมยเหมยถามหยั่งเชิงก่อนจะถูกดีดหน้าผากแรง ๆทีหนึ่ง


“ตัวนั้นไง…เฮ้อ แม่เขียนให้ดู!”


เหยียนซินหย่านึกอยู่พักใหญ่ก็ไม่รู้ควรใช้คำไหนอธิบายเลยไปค้นเอากระดาษปากกาจากลิ้นชักมาด้วยความโมโห “นี่ไง เซอตัวนี้”


เหมยเหมยมองอยู่นาน บอกตามตรงหากเหยียนซินหย่าไม่ได้เขียนออกมาเธอคงไม่เคยเห็นตัวอักษรตัวนี้เลยจริง ๆ และไม่รู้ว่ามันอ่านว่าอย่างไรด้วย?


คำถามคือชนกลุ่มน้อยทั้งห้าสิบหกเผ่าในฮวาเซี่ยมีเผ่าเซอนี้ด้วยหรือ?


ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะ?


“แม่ คุณตาเป็นคนเผ่าเซอเหรอ? ท่านไม่ใช่คนอู่เจิ้นเหรอ? อู่เจิ้นมีชนกลุ่มน้อยด้วยเหรอ?” เหมยเหมยคิดไม่ตก อู่เจิ้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณยายเหยียนหมิงซุ่นเท่าไร เธอเคยไปมาหลายครั้ง แต่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าที่นั่นมีชนกลุ่มน้อยด้วย!


“ไม่ใช่คุณตาของลูกแต่เป็นคุณยายของลูก คุณยายเป็นคนเผ่าเซอ ตอนที่แจ้งทะเบียนบ้าน คุณตาของลูกเปลี่ยนชนเผ่าของแม่ตามคุณยาย ฉะนั้นแม่เป็นคนเผ่าเซอ” เหยียนซินหย่าลอบยิ้มดีใจ


โชคดีที่คุณพ่อตัดสินใจเรื่องนี้อย่างชาญฉลาด ตอนนี้เธอถึงมีหลานเพิ่มมาอีกคน!


เหมยเหมยได้ยินก็เริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมา เรื่องนี้พอจะมีหวังแล้วสินะ!


“แม่ คุณยายก็เป็นคนอู่เจิ้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเป็นคนเผ่าเซอไปได้ล่ะ? งั้นครอบครัวเหอปี้อวิ๋นก็เป็นคนเผ่าเซอทั้งหมดน่ะสิ? ทำไมหนูไม่เคยได้ยินชื่อเผ่านี้มาก่อนเลย” เหมยเหมยมีคำถามเต็มไปหมด


………………………..


ตอนที่ 2176 เด็กมาได้อย่างไร?


เหยียนซินหย่าอธิบายอย่างใจเย็น “ใช่ ตระกูลเหอเป็นคนเผ่าเซอทั้งหมด พวกเขาอพยพมาจากเขตปกครองตัวเองจิ่งหนิงเมืองลี่สุ่ยแล้วมาอยู่ที่อู่เจิ้น ทางเมืองจิ่งหนิงมีเขตปกครองตัวเองเผ่าเซออยู่ วันหลังไปไหนอย่าบอกเชียวนะว่าไม่เคยได้ยินชื่อเผ่าเซอมาก่อน น่าอาย!”


เหมยเหมยยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดี เธอคิดอยู่นานแต่ก็หาทางแก้ปัญหาไม่ได้ ทว่าตอนนี้กลับถูกแม่ของตนจัดการได้อย่างง่ายดาย


“แม่…แม่เก่งจัง!”


เหมยเหมยกอดเหยียนซินหย่าแล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่


การที่จะมีลูกชายลูกสาวครบคู่ไม่ใช่เรื่องฝันหวานอีกต่อไปแล้ว!


แค่คิดว่าเธอจะมีลูกน้อยแสนน่ารักสองคนตามเรียกคุณแม่อยู่ด้านหลัง เหมยเหมยก็ยิ้มจนแทบลืมตาไม่ขึ้นแล้ว


แต่ไม่นานเธอก็นึกถึงปัญหาอีกข้อได้–


“แม่ แต่ทะเบียนบ้านของหนูยังอยู่ที่คุณปู่อยู่เลย!”


เมื่อครั้นที่กลับตระกูลจ้าว จ้าวหวายซานเอ็นดูหลานสาวมากเลยยืนกรานจะให้จ้าวอิงหัวย้ายทะเบียนบ้านมาที่ตระกูลจ้าวในเมืองหลวง กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ย้ายกลับมา


เหยียนซินหย่าไม่ใส่ใจ “ง่ายมาก แม่ให้พ่อของลูกไปย้ายกลับมาแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นชนเผ่าเดียวกับแม่ เรื่องเล็กแค่นี้ถ้าพ่อของลูกจัดการไม่ได้ก็ให้เขาไปนอนกลางถนนเถอะ!”


เหมยเหมยหลุดขำแล้วพูดคล้อยตาม “ใช่ ถ้าทำไม่ได้ก็ให้พ่อหนูไปนอนใต้สะพานเลย!”


สองแม่ลูกหัวเราะเสียงร่วน บรรยากาศงดงามดั่งภาพวาด


จ้าวอิงหัวกับเหยียนหมิงซุ่นกำลังนั่งจ้องตากันอยู่ในห้องนั่งเล่น บรรยากาศน่าอึดอัดจนฉิวฉิวแทบทนดูไม่ได้เลยหยิบเอาช็อกโกแลตจากลิ้นชักมาหลายแท่ง ก่อนจะปีนขึ้นบนเครื่องปรับอากาศที่ช่วงนี้เขารักเป็นพิเศษ


ผึ่งลมเย็นชื่นใจ แทะช็อกโกแลตที่ทานเท่าไรก็ไม่เบื่อ คุณชายฉิวรู้สึกว่าต่อให้อยู่บนโลกสวรรค์ก็เท่านั้นแหละ!


“ตอนนี้เหมยเหมยสุขภาพไม่ดี ฉันรับเธอกลับไปพักฟื้นที่บ้านดีกว่า แกทำงานยุ่งทุกวัน ออกเช้ากลับค่ำ อยู่ดูแลเหมยเหมยไม่ได้ด้วยซ้ำ” จ้าวอิงหัวเอ่ยปากทำลายความเงียบโดยเสนอว่าจะรับตัวลูกสาวกลับบ้าน


เมื่อครู่เขาลองขบคิดอย่างใจเย็นดูแล้วและรู้สึกดีใจขึ้นมาในฉับพลัน ลูกสาวสุดที่รักตั้งครรภ์ก็รับกลับบ้านไปสิ นี่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผลยิ่งเสียกว่าอะไร ทีนี้เหยียนหมิงซุ่นคงไม่มีข้ออ้างคัดค้านแล้วล่ะ!


แต่เขาไม่ลองคิดดูเลยว่าถ้าเหยียนหมิงซุ่นคุยง่ายขนาดนี้ เขาคงไม่พ่ายแพ้ทุกรอบตลอดหลายปีที่ผ่านมาหรอก!


“ผมจะพยายามลดปริมาณงานลงเพื่ออยู่ดูแลเหมยเหมยที่บ้าน อีกอย่างมีป้าฟางกับลุงเหลาอยู่ด้วย เหมยเหมยจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด คุณคิดมากไปแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นปฏิเสธเสียงกร้าวและไม่เปิดโอกาสให้ต่อรองเลยสักนิด


“คนอื่นดูแลจะใส่ใจเท่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้อย่างไร แกไว้ใจแต่ฉันไม่ไว้ใจ” จ้าวอิงหัวเถียงคอเป็นเอ็นด้วยท่าทีแข็งกร้าวและยืนกรานจะพาเหมยเหมยกลับบ้านให้ได้


“คุณจะดูแลอย่างไร? คุณทำกับข้าวหรือต้มซุปเป็นเหรอ? อีกอย่างหนึ่งเดือนคุณต้องไปสัมมนาข้างนอกเกือบครึ่งเดือน แม่ของเธอก็เหมือนกัน สรุปก็ต้องจ้างคนมาดูแลเหมยเหมยอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”


เหยียนหมิงซุ่นคัดค้านเสียงเย็นชาไม่ไว้หน้าจ้าวอิงหัวเลยสักนิด


กล้ามาแย่งภรรยากับเขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคุณพ่อตาหรือเง็กเซียนฮ่องเต้ก็จะตอกกลับอยู่ดี!


“เรื่องนี้ไม่ให้ต่อรอง เหมยเหมยอยู่บ้านนี่แหละไม่ไปไหน คุณสามารถมาเยี่ยมได้เสมอ แถมข้าวก็มีให้ทานด้วย”


เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยากจะปฏิเสธได้


จ้าวอิงหัวทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างละเหี่ยใจ อันที่จริงเขาไม่พอใจเลย ทั้ง ๆที่เขาเป็นผู้อาวุโสกว่าแท้ ๆ เจ้าเหยียนหมิงซุ่นไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เอาซะเลย มันน่าโมโหจริง ๆ!


“นี่ เมื่อก่อนแกเคยบอกว่ารออีกหน่อยค่อยมีลูกไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆถึงมีได้ล่ะ? แกอย่าบอกเชียวนะว่าซื้อสินค้าไร้ประสิทธิภาพมา?” จ้าวอิงหัวมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างเย้ยหยันและได้ใจ ในที่สุดก็ถูกเขาจับจุดอ่อนได้สักที


ตอนที่ 2177 คดีปริศนาตลอดไป


เหยียนหมิงซุ่นมุ่นคิ้ว เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้ซื้อสินค้าไร้ประสิทธิภาพมาเขาจึงแกะกล่องถุงยางอนามัยที่เพิ่งซื้อมาครั้งล่าสุดแล้วเป่าให้ดู ซึ่งผลลัพธ์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ได้ไร้คุณภาพอย่างที่ว่า


ถ้าอย่างนั้นก็น่าแปลกจริง ๆ!


เป็นไปไม่ได้หรอกมั้งว่าคืนนั้นเขาบังเอิญใช้อันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐานเข้าพอดีน่ะ?


ความเป็นไปได้ที่แทบเป็นศูนย์ดันเกิดขึ้นกับเขา โชคชะตาแบบนี้ก็ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ!


จ้าวอิงหัวเห็นสีหน้าท่าทางเขาก็เข้าใจได้ในทันทีเลยอดขำอย่างนึกสมน้ำหน้าไม่ได้


อารมณ์ของเหยียนหมิงซุ่นในขณะนี้เหมือนคราวที่เขารู้ว่าเหยียนซินหย่าท้องจ้าวเสวียหลินไม่มีผิด สายตามึนงงแบบนี้เลย โลกที่มีแค่เราสองคนมันดีจะตายไป ทำไมต้องมีก้างขวางคอเพิ่มเข้าอีกคนมาด้วยนะ


และด้วยเหตุผลนี้ช่วงปีแรก ๆที่จ้าวเสวียหลินเพิ่งคลอด จ้าวอิงหัวจึงไม่ชอบใจเลยสักนิด ภายหลังพอเหมยเหมยคลอดออกมากลับรู้สึกคาดหวังชนิดที่ผิดไปจากเดิมอย่างเทียบไม่ติด เขารู้สึกว่าจ้าวเสวียหลินเป็นก้างขวางคอมากเกินไป และน่ารำคาญทีเชียว


คิดว่าอารมณ์ของเหยียนหมิงซุ่นในตอนนี้คงเหมือนกับเขาในตอนนั้น!


จ้าวอิงหัวรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ้มตาหยีมองเหยียนหมิงซุ่นที่ยังย่นคิ้วเข้าหากันเพราะยังคิดไม่ตกว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในขั้นตอนใด สีหน้าก็อ่อนลงเล็กน้อย


“ไม่แน่แกอาจจะโชคดีเลยหลุดรอดมาได้ตัวหนึ่งไง มีลูกก็ไม่แย่ อนาคตแกได้เหนื่อยแน่ ๆ ซักผ้าอ้อม เก็บฉี่กลางดึก…กลางคืนก็อย่าหวังว่าจะได้นอนดี ๆเลย ถ้าโชคดีอาจจะตบรางวัลให้แกได้ลิ้มรสฉี่เด็กสักหน โชคไม่ดีก็อาจจะเป็นทองคำกองหนึ่ง…”


พอเห็นสีหน้าที่ยิ่งบึ้งตึงขึ้นเรื่อย ๆของเหยียนหมิงซุ่น อารมณ์ขุ่นมัวของจ้าวอิงหัวก็มลายหายไป ยิ่งพูดก็ยิ่งได้อารมณ์ ในฐานะคนเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาจึงเล่าประสบการณ์การเลี้ยงลูกในชีวิตประจำวันที่เสมือนผ่านการฝึกในนรกให้อีกคนฟัง


ฉิวฉิวที่นอนแทะช็อกโกแลตบนเครื่องปรับอากาศอย่างสบายใจได้ยินเสียงบทสนทนาของสองคนด้านล่างอย่างชัดเจน พอได้ยินจ้าวอิงหัวพูดถึงสินค้าไร้ประสิทธิภาพฉิวฉิวก็ชะงักกรงเล็บอ้วนแน่นิ่ง หยุดท่วงท่ากินช็อกโกแลตก่อนที่พวงแก้มบนใบหน้าของเจ้ากระรอกจะฉายอารมณ์จริงจังขึ้นมา


ถุงที่พ่อของนายผู้หญิงพูดถึงใช่ถุงที่นายผู้หญิงกับนายผู้ชายใช้ทุกครั้งยามทำอะไรกันหรือเปล่านะ?


มันอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นและมีกลิ่นหอมน่าดม แค่ได้กลิ่นก็อยากทานแล้ว ฉะนั้นจึงมีคราวหนึ่งที่เขาอดใจไม่ไหวเลยแอบทานไปชิ้นหนึ่ง…


เพียงแต่ปลายฟันอันแหลมคมเพิ่งกัดลงไปยังไม่ทันแกะซองด้วยซ้ำนายผู้ชายก็กลับมาเสียก่อน เขาสะดุ้งตกใจรีบซ่อนตัวจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทและไม่เคยคิดจะไปทานอีกแลย เพราะสัมผัสแรกที่เขากัดลงไปไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่อร่อยเท่าช็อกโกแลต


หรือว่านายผู้ชายใช้ถุงที่มีรูจากการกัดของเขาพอดี?


ฉิวฉิวคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คร้านจะคิดต่อ เปลืองพื้นที่สมอง อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับเขา


อีกอย่างนายผู้หญิงท้องก็ดีจะตายไป คลอดหลาย ๆคนมาเล่นเป็นเพื่อนเขา มนุษย์สองขาวัยเด็กน่าสนุกออก!


ท่านผู้บัญชาการใหญ่เหยียนให้ตายคงคาดไม่ถึงว่าเหตุผลที่เหมยเหมยตั้งครรภ์เป็นเพราะความหิวชั่ววูบของคุณชายฉิว ปริศนาข้อนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องกลายเป็นคดีที่คลี่คลายไม่ได้ตลอดไป!


เขาตัดสินใจว่าหลังจากนี้จะไม่ซื้อถุงยางกลิ่นผลไม้ยี่ห้อใหม่นั่นอีกแล้ว สินค้าตัวใหม่ไม่รับประกันผลเช่นนี้แหละ แม้ตอนใช้จะรู้สึกไม่เลวแต่ถ้าไม่ปลอดภัยขนาดนี้ทางที่ดีเขาอย่าใช้เลยดีกว่า!


เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองจ้าวอิงหัวที่ยิ่งพูดก็ยิ่งได้ใจด้วยความรู้สึกหงุดหงิด พาลนึกถึงอีกเก้าเดือนข้างหน้าว่าจะมีเด็กที่น่ารำคาญอย่างเสี่ยวเป่าออกมาแย่งภรรยาของเขาไป


เขาก็อยากสั่งปิดบริษัทถุงยางเจ้านี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด!


เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่บริษัทถุงยางนี้อยู่อเมริกา เขายังไม่มีอำนาจข้ามน้ำข้ามทะเลขนาดนั้นได้


ร่างกายของเหมยเหมยฟื้นตัวได้ไม่เลว ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็กลับมามีชีวิตชีวาดังเดิม แต่เหยียนหมิงซุ่นยังคงให้เธอพักอยู่บ้านต่อไปไม่ให้เธอออกไปไหน วันนี้เหมยซูหานพาเสี่ยวเป่ามาเยี่ยมเยียนอีกด้วย


……………………….


ตอนที่ 2178 ขอแค่ลูกมีความสุขก็พอ


นับตั้งแต่อู่เยวี่ยตายจากไป ส่วนใหญ่เหมยซูหานจะเป็นคนดูแลเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าเรียกเขาว่าคุณอาและสนิทสนมกันมากจนมักทำให้เฮ่อเหลียนชิงหึงอยู่บ่อยครั้ง


เพราะมีตัวเชื่อมความสัมพันธ์อย่างเสี่ยวเป่าจึงทำให้สองปีมานี้เหมยเหมยกับเหมยซูหานสนิทกันพอสมควร เธอไปเยี่ยมเสี่ยวเป่าบ่อย ๆและมักจะแอบป้อนยาวิเศษให้เสี่ยวเป่าโดยที่เหมยซูหานกับเฮ่อเหลียนเช่อต่างไม่รู้เรื่องด้วย พวกเขาหลงคิดเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่ดีจึงทำให้เสี่ยวเป่าสุขภาพกายแข็งแรงกว่าเด็กรุ่นเดียวกันและพวกเขาต่างก็ได้ใจกันมาโดยตลอด


เหมยซูหานรู้เรื่องเหมยเหมยตั้งครรภ์มาจากเฮ่อเหลียนเช่อเลยเอาของขวัญมาเยี่ยมเยียน เสี่ยวเป่าจูงสุนัขตัวใหญ่ที่สูงกว่าเขาหรือต้าโฉ่วที่อยู่เป็นเพื่อนเขามาตั้งแต่เด็ก มันเป็นสุนัขที่หน้าตาน่าเกลียดเกินจะบรรยายและเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์จริงใจกับเสี่ยวเป่ามากที่สุด


ไม่ว่าเสี่ยวเป่าไปที่ใดก็ต้องพาต้าโฉ่วไปด้วย บางครั้งก็จะพาอีกสองตัวติดสอยห้อยตามไปด้วยดั่งเงาตามติดตัว


“ยินดีด้วยเหมยเหมย”


เหมยซูหานอมยิ้ม เขารู้สึกดีใจจากใจจริงแต่ก็รู้สึกใจเศร้าเล็กน้อย มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก


“ขอบคุณนะ” เหมยเหมยยิ้มพลางให้ป้าฟางเอาแตงโมและคุกกี้มาให้


“เสี่ยวเป่า ของอร่อยนะ ถ้าเรียกคุณน้า คุณน้าถึงจะให้ทานดีไหมล่ะ?”


เหมยเหมยยื่นมือหยิบคุกกี้หอมกรุ่นหนึ่งชิ้นแสร้งทำท่าน้ำลายไหลเพื่อหลอกล่อให้เสี่ยวเป่าอ้าปากพูด จนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังพูดไม่เป็น เคยพาไปเช็กที่โรงพยาบาลมาแล้วว่าไม่มีปัญหาตรงกล่องเสียง เพียงแต่เป็นเพราะเสี่ยวเป่าเองที่ไม่ยอมอ้าปากพูด


เธอรู้ว่าส่วนมากเด็กโรคออทิสติกจะไม่ชอบพูด ต้องมีคนคอยหยอกเล่นกับเขาประจำแล้วสอนให้เขาอ้าปากพูดทีละนิด ๆ บางทีเด็กอาจจะกลับมาเป็นปกติได้


เหมยเหมยจำได้ว่าชาติที่แล้วเคยอ่านตำราที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งว่าไม่ใช่เด็กโรคออทิสติกทุกคนที่รักษาไม่ได้ เด็กที่ได้รับการรักษาสำเร็จก็มีมากเช่นกันแต่ระหว่างทางนั้นมักเต็มไปด้วยอุปสรรค ต้องการผู้ใหญ่ที่มีความอดทนและมุ่งมั่นมาก ๆ


เสี่ยวเป่าเบิกตากลมโตใสวาวราวกับเพชรจ้องเธอ ปากเล็กอ้าออกน้อย ๆแล้วมองคุกกี้ในมือเหมยเหมยนิ่ง มุมปากมีของเหลวสีใสติดอยู่ แถมยังกลืนน้ำลายลงคอเป็นระยะๆ


เขาอยากทานคุกกี้จัง!


แต่ไม่อยากพูดสักนิดเดียว!


“เสี่ยวเป่า เรียกคุณน้าก่อนสิ ไม่อย่างนั้นน้าจะเอาของอร่อยพวกนี้ให้ต้าโฉ่วทานละนะ!”


รออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงเรียกจากปากของเสี่ยวเป่า เหมยเหมยก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรพลางวางคุกกี้ไว้ข้างมุมปากของต้าโฉ่ว แสร้งทำท่าจะเอาคุกกี้ให้มันกิน เป็นไปตามคาดพอเสี่ยวเป่าร้อนใจก็ยื่นฝ่ามืออ้วนนุ่มนิ่มออกมาหมายจะแย่งคุกกี้ไป


เหมยเหมยชูคุกกี้ขึ้นสูงกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เสี่ยวเป่าแย่งได้สำเร็จ พร้อมคอยหลอกล่อให้เสี่ยวเป่าอ้าปากพูดอย่างไม่ย่อท้อ เพียงแต่–


เสี่ยวเป่ามองคุกกี้ในมือเธอด้วยท่าทีเรียบนิ่งแล้วยู่จมูก ไม่แย่งแล้ว ร่างเล็กหันหลังก้าวขาสั้นไปยืนข้างโต๊ะเตี้ย ยกจานคุกกี้มาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเดินเท้าตึงตังกลับไปตรงโซฟา


“อืม…”


เสี่ยวเป่าหยิบคุกกี้ใส่ปากตัวเองแล้วเคี้ยวทานอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะหยิบอีกชิ้นใส่ปากต้าโฉ่วที่น้ำลายไหลเป็นสายตั้งนานแล้ว แบ่งกันทานทีละชิ้น ๆอย่างมีความสุข


เหมยเหมยมองตาค้าง แบบนี้ก็ได้หรือ?


ไม่ควรให้ความร่วมมือเธอสักหน่อยหรืออย่างไร?


เหมยซูหานอดขำไม่ได้ “เสี่ยวเป่าพูดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่เขามีความสุขก็พอ ความจริงเสี่ยวเป่ารู้ทุกอย่างแค่ไม่ยอมพูดเท่านั้นเอง”


เขารู้แต่แรกแล้วว่าเสี่ยวเป่าเป็นโรคออทิสติก ตอนแรกก็กระวนกระวายเช่นกันแต่ก็ค่อย ๆคิดได้


โรคออทิสติกแล้วอย่างไร คนอื่น ๆมักคิดว่าเด็กออทิสติกน่าสงสารแต่บางทีเด็กพวกนี้มีความสุขดีจะตาย พวกเขาจมอยู่ในโลกจินตนาการตัวเอง มีชีวิตต่อไปด้วยความคิดของตัวเอง ไม่เห็นแย่ตรงไหน


อย่างน้อยเสี่ยวเป่าในตอนนี้ก็มีความสุขดี ในเมื่อเงินของเขากับเฮ่อเหลียนเช่อต่อให้ใช้หลายสิบชาติก็ใช้ไม่หมดอยู่แล้ว เสี่ยวเป่าอยากใช้ชีวิตอย่างไรก็แล้วแต่เลย ขอแค่เขามีความสุขก็พอ!


ตอนที่ 2179 เจ้าบ้านั่นอยากเป็นฮ่องเต้


เหมยเหมยกลับไม่เห็นด้วยกับความคิดของเหมยซูหาน “นายกับเฮ่อเหลียนชิงคงอยู่ปกป้องเสี่ยวเป่าไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ ถ้าพวกนายตายไปใครจะดูแลเสี่ยวเป่าล่ะ? ต้องมีคนรังแกเขาแน่ ๆเลย”


เหมยซูหานฉีกยิ้ม “เรื่องนี้ฉันไม่กังวลเลยจริง ๆ ถึงเสี่ยวเป่าจะไม่ชอบพูดแต่เขาฉลาดมาก ใครจะรังแกเขาได้ แม้แต่หนิงเฉินเซวียนยังจนปัญญากับเขาเลย!”


ตอนที่เสี่ยวเป่าถล่มบ้านหนิงเฉินเซวียนก่อนหน้านี้ทำเอาทุกวันนี้หนิงเฉินเซวียนยังนึกกลัวอยู่เลย เขามักลังเลอยู่ตลอดว่าควรรับเสี่ยวเป่าไปหรือเปล่า!


เหมยเหมยตาลุกวาวถามด้วยความสงสัย “ตอนนี้หนิงเฉินเซวียนยังคิดจะฝึกฝนเสี่ยวเป่าอีกเหรอ? นายอย่าส่งตัวเสี่ยวเป่าไปให้เขาเชียวนะ ตาแก่โรคจิตนั่นจะสอนคนออกมาเป็นปกติได้ซะที่ไหน เฮ่อเหลียนเช่อก็เป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ นายคงไม่อยากให้เสี่ยวเป่ากลายเป็นเฮ่อเหลียนเช่อคนที่สองหรอกใช่ไหม?”


เหมยซูหานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาไม่อยากเห็นผลลัพธ์เช่นนั้นแต่บางสิ่งบางอย่างเขาควบคุมมันไม่ได้


“ความจริงอาเช่อเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว แต่ตอนนี้มีอยู่หลายครั้งที่เขาจำเป็นต้องทำอย่างนั้น…”


เหมยซูหานแก้ตัวแทนเฮ่อเหลียนเช่อ ตลอดหลายปีมานี้ภายใต้เสียงเกลี้ยกล่อมของเขาความทะเยอทะยานของเฮ่อเหลียนเช่อก็ลดน้อยลงมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดเป็นเพราะการเกิดมาของเสี่ยวเป่าทำให้สภาวะทางจิตใจของเฮ่อเหลียนเช่อเปลี่ยนไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคิดจะลาออกไปใช้ชีวิตส่วนตัว


เพียงแต่เขาก็ปล่อยหนิงเฉินเซวียนไม่ได้อยู่ดีถึงได้หลุดพ้นจากบ่อโคลนนั้นไม่ได้สักที


“นายลองคิดดูดี ๆเถอะ จะให้เสี่ยวเป่าไปอยู่กับหนิงเฉินเซวียนไม่ได้เด็ดขาด คน ๆนี้บ้าคลุ้มคลั่งไปแล้ว ใช่แล้ว นายลองไปสืบเรื่องบ้านเกิดของหนิงเฉินเซวียนมาบ้างหรือยัง?”


เหมยเหมยเปลี่ยนเรื่องถามถึงตระกูลโรคจิตของหนิงเฉินเซวียนทันที


เหมยซูหานสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน หลังจากที่เหมยเหมยเคยเอ่ยให้เขาฟังเมื่อหนึ่งปีก่อน เขาจึงส่งคนไปสืบเรื่องหนิงเฉินเซวียนที่บ้านเกิด ตระกูลหนิงแตกแยกออกกระจัดกระจายซึ่งไม่ได้ต่างไปจากชาวบ้านทั่วไปเท่าไรนัก แต่เขาก็สืบได้เรื่องลับ ๆมาบ้าง ยามลูกน้องกลับมารายงานทำเอาเขาเกือบสะอิดสะเอียนใจแทบตาย


แต่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกโล่งใจ


โล่งใจที่เสี่ยวเป่ามีปัญหาแค่เรื่องสายตากับเป็นโรคออทิสติกเท่านั้น ตอนนี้ดวงตาหายแล้วเหลือเพียงโรคออทิสติก โชคดีมากจริง ๆ!


เหมยเหมยแค่เห็นสีหน้าของเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเขาสืบเจอเรื่องบางอย่างเข้าแล้วเลยอดแค่นเสียงหัวเราะไม่ได้


“นายรู้ไหมว่าทำไมหนิงเฉินเซวียนถึงรีบให้เฮ่อเหลียนเช่อมีลูกชาย?”


“สงสัยน่าจะเพราะอยากอุ้มหลานละมั้ง?”


เหมยซูหานคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ ต่อให้ความจริงเสี่ยวเป่าไม่ใช่หลานชายของหนิงเฉินเซวียนจริง ๆก็ตาม แต่ก็ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้เขากับเฮ่อเหลียนเช่อมักรู้สึกว่าติดหนี้บุญคุณหนิงเฉินเซวียนอยู่เสมอ


“อยากอุ้มหลานเหรอ? หึ…นายมองหนิงเฉินเซวียนดีเกินไปแล้ว!” เหมยเหมยเย้ย เห็นว่าเหมยซูหานยังคิดไม่ได้จึงรู้ว่าเขาตามสืบเจอเพียงเรื่องการแต่งงานภายในตระกูลกันเองของตระกูลหนิงเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นคงยังตามสืบไม่เจอ


“บรรพบุรุษตระกูลหนิงมีเชื้อสายราชวงศ์ ฉะนั้นหนิงเฉินเซวียนถึงมีความคิดที่จะฟื้นฟูความรุ่งเรืองของตระกูล เขาอยากเป็นฮ่องเต้ เสี่ยวเป่าเป็นผู้สืบทอดที่เขาตั้งใจจะฝึกฝนขึ้นมา”


เหมยเหมยไม่ได้ปิดบังเหมยซูหาน เรื่องที่คิดจะเป็นฮ่องเต้ขอเพียงเป็นคนปกติก็ต้องรู้สึกขบขัน เหมยซูหานก็ต้องมีความคิดเช่นเดียวกัน ส่วนเฮ่อเหลียนเช่อเพราะอยู่ใต้เงาของเหมยซูหานคาดว่าคงไม่เห็นด้วยกับหนิงเฉินเซวียน


หากให้เหมยซูหานตัดความสัมพันธ์พ่อลูกของเฮ่อเหลียนเช่อกับหนิงเฉินเซวียนได้ หนิงเฉินเซวียนต้องสูญเสียแรงหนุนสำคัญไปเพราะเฮ่อเหลียนเช่อเป็นถึงแรงผลักดันหลักของตาแก่โรคจิตนี้เชียว!


“เพล้ง”


เหมยซูหานแทบทำแก้วน้ำชาในมือคว่ำ เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เป็นฮ่องเต้งั้นเหรอ?


เป็นไปได้อย่างไร?


“เหมยเหมย เรื่องแบบนี้จะล้อเล่นไม่ได้นะ” เหมยซูหานยังไม่เชื่อ นี่ใกล้จะศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดแล้วกลับยังมีคนคิดจะฟื้นฟูให้กลับไปอยู่ในยุคสมัยเดิมอีกเหรอ มันไร้สาระมากจริง ๆ


“นายให้เฮ่อเหลียนเช่อไปสืบค้นบ้านหนิงเฉินเซวียนดูก็ได้ ดูว่าเขาได้เตรียมพวกของสำหรับขึ้นครองราชย์อย่างชุดมังกรฮ่องเต้ไว้แล้วหรือยัง แล้วนายก็จะรู้เองว่าฉันโกหกหรือเปล่า” เหมยเหมยแค่นหัวเราะ


………………………


ตอนที่ 2180 การตัดสินใจที่แน่วแน่


พอเหมยซูหานเห็นเหมยเหมยพูดอย่างมั่นใจนักหนาก็อดเชื่อไม่ได้ หัวใจเริ่มเต้นระรัวก่อนจะตกภวังค์อยู่ในความคิด


หากหนิงเฉินเซวียนมีความคิดทะเยอทะยานจะเป็นฮ่องเต้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นเฮ่อเหลียนเช่อจะคอยทำงานให้ตาแก่เสียสติคนนี้ต่อไม่ได้แล้ว เขาทนมองเฮ่อเหลียนเช่อเดินสู่ทางตันตามหนิงเฉินเซวียนไม่ได้จริง ๆ


ใช้เท้าคิดยังคิดได้ว่านายใหญ่ไม่มีวันปล่อยให้คนที่คิดจะยึดครองตำแหน่งเขามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แน่นอน เหมยซูหานใจเต้นรัว หลายปีมานี้เฮ่อเหลียนเช่อมีเรื่องกับเหยียนหมิงซุ่นทีไรก็แพ้เสียส่วนมาก เฮ่อเหลียนเช่อเคยบ่นเรื่องนี้กับเขามาหลายต่อหลายครั้งว่านายใหญ่ลำเอียงไปทางเหยียนหมิงซุ่น นั่นจึงทำให้เขาไม่พอใจมาก


อีกอย่างเมื่อครั้งที่เขาเพิ่งรู้จักกับเฮ่อเหลียนเช่อ หมอนี่ไม่เคยสนใจนายใหญ่และไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ


ท่าทีเช่นนั้นของเฮ่อเหลียนเช่อมาจากการอบรมสั่งสอนของหนิงเฉินเซวียนตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งบ่งบอกว่าภายในใจของหนิงเฉินเซวียนไม่ได้มีความภักดีอย่างที่แสดงออก


ไหนจะนายใหญ่ก็ไม่ได้เชื่อหนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนเช่อมากเท่าที่แสดงออก เมื่อก่อนอาจจะเพราะยังไม่ถึงเวลาถึงได้คอยยกยอพวกเขาตลอดมา แต่ตอนนี้มีผู้ช่วยสำคัญอย่างเหยียนหมิงซุ่นอยู่นายใหญ่ก็ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว!


ไม่แน่อีกไม่นานอาจจะลงมือก็เป็นได้!


เหมยซูหานไม่กล้าคิดต่อไปและใบหน้าไม่อาจคงรอยยิ้มได้ดังเดิมอีก เขาต้องหาทางเกลี้ยกล่อมให้เฮ่อเหลียนเช่อรีบลาออก อย่าไปยุ่งกับเรื่องไร้สาระพวกนี้ของหนิงเฉินเซวียนจะดีกว่า


ตาแก่เสียสตินี่อยากตายไม่เป็นไร ขอแค่อย่าลากเฮ่อเหลียนเช่อกับเสี่ยวเป่าไปตายด้วยก็พอ!


เสี่ยวเป่ารู้สึกได้ถึงความเงียบสงัดเลยเงยหน้ามองคุณอากับคุณน้า ทำไมถึงไม่พูดกันต่อล่ะ?


ถึงแม้เขาจะไม่ชอบพูดแต่เขาชอบฟังคนอื่นพูด คุณอากับคุณน้าต้องหิวแล้วแน่ ๆ เขาไม่ควรทานหมดคนเดียว เสี่ยวเป่ารู้สึกผิดอย่างมากเลยยื่นแขนอวบอ้วนหยิบคุกกี้แล้วคลานไปหาเหมยเหมย พยายามเขย่งปลายเท้ายัดคุกกี้ใส่ปากเธอ


“อืม…”


เสี่ยวเป่าทำได้เพียงส่งเสียงอืออาง่าย ๆ ดวงหน้าอ้วนกลมทั้งขาวทั้งนุ่ม มุมปากเล็กมีน้ำสีใสไหลเป็นทาง น้ำลายเปื้อนเต็มไปหมด


เหมยเหมยยิ้มตาหยีหยิกแก้มนุ่มของเสี่ยวเป่าเบา ๆทีหนึ่งและทานคุกกี้ในมือเจ้าตัวเล็กอย่างไม่นึกรังเกียจ “ขอบคุณเสี่ยวเป่ามากนะ อร่อยจัง!”


เสี่ยวเป่าฉีกยิ้มก่อนที่น้ำลายจะไหลหยดลงมาอีกหนึ่งหยด…แปะ…ลงบนโซฟา


เขาปีนกลับไปหยิบคุกกี้ชิ้นใหม่ใส่ปากตัวเองก่อนค่อยหยิบอีกชิ้นมา แล้วยกก้นกลมขึ้นปีนไปหาเหมยซูหานที่อยู่อีกฝั่ง พลางป้อนคุกกี้ให้เหมยซูหานด้วยวิธีเดิม


“เสี่ยวเป่าเด็กดีจัง ขอบคุณนะ!”


เหมยซูหานเองก็ทานคุกกี้จนหมด มองดวงตาดำขลับใสแป๋วของเสี่ยวเป่ารวมถึงใบหน้ายิ้มน่ารักใสซื่อนั่นก็ใจแทบละลาย จึงตัดสินใจแน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม


เขาไม่มีวันปล่อยให้ตาแก่เสียสติหนิงเฉินเซวียนทำลายชีวิตเสี่ยวเป่าเด็ดขาด!


เสี่ยวเป่าป้อนผู้ใหญ่สองคนเสร็จอารมณ์ก็ดีไม่หยอก ปัดมือหน่อย ๆแล้วกลับไปข้างจานคุกกี้เช่นเดิมแล้วทานกับต้าโฉ่วต่อ พอมีความสุขก็ส่งเสียงครางฮึมทีสองที คุกกี้ที่ร่วงตกพื้นเขาจะเก็บขึ้นมาทานใหม่ น่ารักเสียจนไม่มีใครไม่เอ็นดูเด็กน้อยคนนี้เลย!


เมื่อจัดการคุกกี้จานเล็กกับน้ำแตงโมหนึ่งแก้วจนหมดหน้าท้องของเสี่ยวเป่าก็กลมกลึงพร้อมเรอติดต่อกันออกมาหลายที ใบหน้าเล็กมีแต่ความอิ่มเอมใจ


ขนมของคุณน้าอร่อยกว่าที่บ้านอีก วันหลังถ้าอยากทานจะขี่ต้าโฉ่วมา…อืม ตกลงตามนี้!


เสี่ยวเป่าเงี่ยหูฟัง ใบหน้าเล็กสงสัยคล้ายเพิ่งค้นพบอะไรบางอย่างก่อนที่ขาสั้นป้อมจะเดินมาทางเหมยเหมย ดวงตากลมโตจดจ้องท้องน้อยของเหมยเหมยพร้อมทำท่าครุ่นคิด


ตอนที่ 2181 ไอคิว 220


 เสี่ยวเป่าเขย่งปลาเท้ายื่นอุ้งมืออ้วน ๆไปยังท้องน้อยของเหมยเหมย ลูบแผ่วเบาพร้อมแย้มยิ้มด้วยความดีใจ ดวงตาลุกวาวสุกใส


ในท้องน้อย ๆของคุณน้ามีเด็กตัวน้อย ๆอยู่ วันข้างหน้าจะมาเล่นเป็นเพื่อนเขาได้แล้ว


เหมยเหมยเห็นท่าทางของเสี่ยวเป่าคล้ายกับรับรู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่อีกมุมก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก หรือเสี่ยวเป่าจะมีตาทิพย์มองทะลุได้กันนะ?


“เสี่ยวเป่า หนูกำลังลูบอะไรอยู่เหรอ?” เหมยเหมยถามเสียงอ่อนโยน


“แอ๊ะแอ่…” เสี่ยวเป่ายังพูดไม่ได้ ได้แต่ตบหน้าท้องของเหมยเหมยอย่างแผ่วเบา น้ำลายใส ๆหยดลงมาอีกหนึ่งหยด เขาฉีกยิ้มกว้างจนเผยให้เห็นฟันน้ำนมขาว ๆซี่เล็ก


“หนูอยากให้เด็กน้อยในท้องออกมาเล่นด้วยกันใช่ใหม?” เหมยเหมยหยั่งเชิงถาม


“อือ!”


เสี่ยวเป่าพยักหน้ารับ แต่ทันใดนั้นกลับส่ายหน้าแล้วล้วงหยิบคุกกี้ที่ก่อนหน้านี้ซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงออกมาวางลงบนท้องน้อยของเหมยเหมย เหมยเหมยเห็นดังนั้นก็เข้าใจความหมายของเขาในทันที


เจ้าตัวเล็กอยากจะให้เด็กน้อยในท้องกินคุกกี้ จะได้รีบ ๆโตแล้วออกมาเล่นเป็นเพื่อนเขาไง!


ความอบอุ่นไหลวาบเข้ามาในหัวใจ เธอจึงอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาหอมฟอดใหญ่ ทำไมถึงเรียกให้คนเอ็นดูได้ขนาดนี้นะ!


“เสี่ยวเป่าไม่ต้องใจร้อนนะ อีกแค่เก้าเดือน น้องชายหรือไม่ก็น้องสาวก็จะออกมาเล่นกับหนูได้แล้ว ต่อไปนี้หนูจะเป็นพี่ใหญ่แล้วนะ!” เหมยเหมยกระซิบข้างหูเสี่ยวเป่า แต่เธอไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวเล็กจะเข้าใจหรือเปล่า


แต่เธอรู้สึกว่าเสี่ยวเป่าต้องเข้าใจแน่ ๆ และเป็นอย่างที่คิดเพราะหลังจากที่เสี่ยวเป่าฟังคำพูดของเธอจบก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม ดวงหน้าน้อย ๆเต็มไปด้วยความจริงจัง


เขาจะเป็นพี่ใหญ่แล้วนะ!


ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะต้องกินข้าวกับเนื้อให้เยอะขึ้น เขาจะปกป้องเด็กน้อยในท้องของคุณน้าและไม่ยอมให้คนอื่นมารังแกเขา(เธอ)!


“เสี่ยวเป่าฉลาดจัง ทำไมหนูถึงได้ฉลาดขนาดนี้นะ…รักหนูที่สุดเลย!”


เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มอ้วน ๆของเจ้าตัวเล็ก


ระดับไอคิวของเสี่ยวเป่าต้องทะลุปรอทแน่ ๆ เป็นแค่เด็กวัยสองขวบแต่กลับเข้าใจคำพูดมากมายขนาดนี้ นับว่าน่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ!


“พวกนายได้พาเสี่ยวเป่าไปทดสอบไอคิวบ้างหรือยัง? ฉันรู้สึกว่าไอคิวของเสี่ยวเป่าต้องสูงมากแน่ ๆ แถมเขายังมีพรสวรรค์ด้านศิลปะด้วย อย่าให้เสียของเชียวล่ะ!” เหมยเหมยเอ่ยเตือน


รอยยิ้มบนใบหน้าของเหมยซูหานเลือนหายไปในทันที ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดปิดบังเธอจึงพูดขึ้นว่า “หนิงเฉินเซวียนเคยหาคนมาทดสอบเสี่ยวเป่าแล้ว ไอคิวสูงจริง ๆนั่นแหละ”


“เท่าไรเหรอ?”


“220” สีหน้าของเหมยซูหานดูระอาเล็กน้อย


เหมยเหมยตกใจเป็นอย่างมาก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเหมือนกับถูกบีบคอไว้ เธอร้องเสียงหลง “220 ? ผิดพลาดไปหรือเปล่า?”


จะมีคนที่ไอคิวสูงขนาดนี้ได้อย่างไร?


ขนาดเธอยังมีไอคิวแค่ 90 เอง เพิ่งจะพ้นระดับเด็กพิการทางสมองมาหน่อยหนึ่ง แทบจะไม่ถึงระดับสติปัญญาของคนทั่วไปเลยด้วยซ้ำแต่เธอรู้สึกว่าใช้ได้แล้ว ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโง่ไปกว่าคนอื่นเลย ฉลาดจะตายไป


เหยียนหมิงซุ่นระดับไอคิว 140 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อัจฉริยะ


เหมยเหมยคิดว่าการทดสอบนี้ค่อนข้างแม่นยำ ระดับไอคิวของเหยียนหมิงซุ่นทะลุปรอทจริง ๆ ตอนนั้นเขาแค่เรียนพอผ่าน ๆยังสามารถรักษาผลการเรียนให้อยู่ในสามอันดับแรกของระดับชั้นได้เลย!


แม้แต่เทคโนโลยีขั้นสูงในตอนนี้ เช่นภาษาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่อย่างเช่นการแฮ็ก เหยียนหมิงซุ่นไม่มีพื้นฐานเลยแม้แต่น้อย แต่ภายใต้คำชี้แนะของผู้อื่นเพียงเล็กน้อยบวกกับการอ่านและศึกษาด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาแทบจะเป็นแฮ็กเกอร์ที่เก่งกาจคนหนึ่งได้อยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่เก่งเท่ากับแฮ็กเกอร์ชั้นนำอย่างลี่เมิ่งเฉิน แต่ก็ถือว่าเขาติดอันดับในระดับสากลได้แล้ว


ไอคิว 140 ยังเก่งขนาดนี้ ไอคิว 220 นี่ไม่ใช่บุตรของพระเจ้าเลยหรือ?


นี่ยังเป็นสมองของคนอยู่อีกหรือเปล่านะ?


เหมยเหมยเหลือบมองเสี่ยวเป่าที่กำลังจดจ่อเล่นอยู่กับต้าโฉ่ว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าตัวเล็กจะมีไอคิวที่ทำลายกฎธรรมชาติถึง 220 ขนาดนี้!


เท่าที่เธอรู้มาแม้แต่ไอน์สไตน์ยังมีไอคิวสูงแค่ 160 เอง!


………………………………………….


ตอนที่ 2182 ไอคิวสูงไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป


 เหมยซูหานยิ้มเจื่อนพลางส่ายหน้า “ไม่ผิดหรอก หนิงเฉินเซวียนหาผู้เชี่ยวชาญมาทดสอบเสี่ยวเป่าตั้งสามทีมแต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยต่างกันเท่าไรเลย ไอคิวของเสี่ยวเป่าสูงมากจริงๆ ”


หลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องนี้จากเฮ่อเหลียนเช่อ เขาเองก็เหมือนเหมยเหมย ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยสักนิด


ถ้าหากเลือกได้เขาอยากให้เสี่ยวเป่ามีไอคิวเหมือนคนธรรมดาทั่วไปก็พอ มีชีวิตที่เรียบง่ายไร้กังวลไปตลอดชีวิตและอยู่รอดปลอดภัย!


“เสี่ยวเป่าไอคิวสูงไม่ใช่เรื่องดีเหรอ? ทำไมนายไม่ดีใจเลยล่ะ?” เหมยยเหมยรู้สึกแปลกใจ


ไอคิวสูงขนาดนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะกลายเป็นคนเก่งของสายงานนั้น ๆได้ เช่นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างดาวินชีที่มีไอคิวสูงถึง 230 ดังนั้นปรมาจารย์ผู้นี้จึงรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องและไม่มีอะไรที่เขาไม่ชำนาญเลย


วาดภาพจนกลายเป็นเป็นจิตรกรชื่อดังในยุคสมัยหนึ่ง วาดรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนแบบง่าย ๆยังกลายเป็นหนึ่งในภาพวาดที่แพงที่สุดในโลกเลย และปรมาจารย์ท่านนี้ก็ยังเป็นนักดนตรี สถาปนิก นักคณิตศาสตร์ นักเขียน นักดาราศาสตร์ นักประดิษฐ์ ประติมากร นักธรณีวิทยา นักฟิสิกส์…


เกรงว่าสิ่งที่ปรมาจารย์ท่านนี้ทำได้แม้แต่ตัวเขาเองก็คงนับไม่หมด และเขายังเป็นผู้โดดเด่นในทุก ๆสายงาน คนธรรมดายากจนมาทั้งชีวิตยังยากที่จะกลายเป็นคนฉลาดรอบรู้ในสายงานหนึ่งได้ แต่สำหรับดาวินชีคงไม่ใช่ เรียนอะไรก็เก่งไปเสียหมด ยกเว้นก็แต่สิ่งที่เขาไม่อยากเรียนรู้ นอกนั้นไม่มีอะไรที่เขาเรียนรู้แล้วไม่ชำนาญเลยสักอย่าง


พระเจ้าสร้างเขาขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่ามนุษย์เรานั้นโง่เขลามากเพียงใด!


นี่คือชีวิตเหนือกฎธรรมชาติของยอดมนุษย์ที่มีไอคิว 230


เสี่ยวเป่าแม้จะไอคิวต่ำกว่ามนุษย์คนนี้ไปแค่สิบ แต่นี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว เกรงว่าบนโลกนี้จะมียอดมนุษย์ที่ไอคิวเกิน 200 อยู่เพียงแค่ไม่กี่คนละมั้ง?


ลี่เมิ่งเฉินก็อาจจะนับเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ชายคนนี้อาจปะทะกับดาวินชีได้สักตั้ง เรียนรู้ตั้งหลายอย่างแต่กลับชำนาญไปเสียหมด เพียงแค่ขี้เกียจไปหน่อยเท่านั้น


ยอดอัจฉริยะไอคิวสูงที่ไม่มีใครเทียมได้แถมยังใช้ชีวิตได้มีสีสันกว่าคนทั่วไปตั้งมาก ทำไมเหมยซูหานถึงไม่ดีใจเลยล่ะ?


“พอหนิงเฉินเซวียนรู้ว่าเสี่ยวเป่าไอคิวสูง เขาก็ดีใจมากจึงบอกว่าจะมุ่งปลูกฝังเลี้ยงดูเสี่ยวเป่าเอง” เหมยซูหานอธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ดีใจออกมา


ต่อให้เมื่อก่อนเขาจะไม่รู้ว่าหนิงเฉินเซวียนมีความทะเยอทะยานอยากเป็นฮ่องเต้ เขาก็ไม่อยากให้เสี่ยวเป่าไปอยู่ร่วมกับคนพรรค์นั้นอยู่ดี เขาไม่อยากแยกห่างจากเสี่ยวเป่าแม้แต่วันเดียว ครั้งก่อนที่เสี่ยวเป่าถูกหนิงเฉินเซวียนเอาตัวไป สัปดาห์นั้นทั้งสัปดาห์เขาเหมือนคนถูกสูบวิญญาณ ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับ แค่รู้สึกว่าชีวิตขาดพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่และรู้สึกเบื่อหน่ายไร้สีสัน ดังนั้นเขาจึงอยากให้เสี่ยวเป่ามีคุณสมบัติปานกลาง แบบนี้หนิงเฉินเซวียนถึงจะให้ความสนใจต่อเสี่ยวเป่าน้อยลง ไม่แน่เขาอาจจะไม่คิดเอาตัวเสี่ยวเป่าไปเลี้ยงเองก็ได้


เหมยเหมยเองก็นึกถึงเรื่องนี้ได้เช่นกัน ยิ่งเสี่ยวเป่ามีคุณสมบัติดีมากเท่าไรความทะเยอทะยานของหนิงเฉินเซวียนก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ตาแก่บ้านี่มีแต่จะนำพาหายนะมาสู่เสี่ยวเป่า ทางที่ดีควรอยู่ให้ห่างจากเสี่ยวเป่าจะดีกว่า


“ครั้งก่อนเสี่ยวเป่าไม่ได้อาละวาดหนิงเฉินเซวียนจนฟ้าถล่มดินทลายเหรอ? หนิงเฉินเซวียนยังกล้าเอาตัวไปอีกเหรอ?”


“เขาให้คนมารับตั้งหลายครั้งแต่ก็ล้วนถูกอาเช่อไล่ตะเพิดกลับไป ฉันกลัวว่าอีกไม่กี่วันตาแก่บ้านั่นจะมาที่นี่ด้วยตัวเองน่ะสิ” เหมยซูหานมุ่นคิ้ว แสดงสีหน้าเป็นกังวล


หากเป็นไปได้เขาอยากจะพาเสี่ยวเป่าไปจากที่นี่ ไปให้พ้นจากความวุ่นวายในเมืองหลวง ใช้ชีวิตที่มีความสุขแบบสามัญชนคนธรรมดา


เหมยเหมยเองก็เป็นกังวล ทำไมตาแก่บ้านี่ไม่ตาย ๆไปเสียทีนะ?


ตายไปแผ่นดินคงจะสงบสุขขึ้นเยอะเลย!


เธออุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นแล้วกำชับว่า “เสี่ยวเป่า ถ้าตาแก่ชั่วนั่นมารับหนูกลับไปอีก หนูต้องทำเหมือนครั้งก่อนนะ ปล่อยม้าพวกนั้นออกมาให้หมด ก่อเรื่องให้เขารำคาญตายไป หนูก็จะได้กลับบ้านแล้ว!”


เสี่ยวเป่าเบิกตากว้างคล้ายกับฟังเข้าใจและไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจหรือเปล่า แต่ว่า…


มือนุ่มนิ่มลูบใบหน้าเหมยเหมยแผ่วเบา จู่ ๆเสี่ยวเป่าก็ส่งยิ้มให้เธอราวกับกำลังบอกให้เธอวางใจได้


เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอนี่โง่จริง ๆ ต่อให้เสี่ยวเป่าไอคิว 220 แต่ก็ยังเป็นทารกวัยสองขวบ เขาจะเข้าใจอะไรได้เล่า?


เสี่ยวเป่า ‘…ที่คุณน้าพูดมาผมเข้าใจหมดแหละ คุณน้าโง่จัง เขาไม่ได้กลัวตาแก่บ้านั่นเลยสักนิด!’


ตอนที่ 2183 ลูกของเราในอนาคตจะต้องฉลาด


เหยียนหมิงซุ่นกลับมาในช่วงค่ำ พอได้ฟังเรื่องไอคิวของเสี่ยวเป่าก็ตกใจไม่ต่างกัน เขารู้สึกปวดใจอยู่บ้างเพราะเสียเปรียบเฮ่อเหลียนเช่อเข้าแล้ว จู่ ๆก็ได้น้องชายยอดอัจฉริยะมาเสียอย่างนั้น


“ลูกของเราในอนาคตก็ต้องเป็นอัจฉริยะแน่นอน” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ ต้องเป็นอัจฉริยะเท่านั้น เขาจะแพ้ไม่ได้


ไอคิวของเขาก็ไม่ได้ด้อยสักหน่อย ตามทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินที่กล่าวไว้ว่าเด็กรุ่นใหม่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าอย่างไรลูกของเขาคงไม่มีทางเป็นคนโง่เขลาแน่นอน


แต่มันก็ใช่ว่าจะได้ใช่เสมอไป…


เหมยเหมยเบะปากและเบรกเขาไว้ก่อน “มันก็ไม่แน่หรอกนะ”


“ต้องใช่สิ เหมือนพี่ไง!” เหยียนหมิงซุ่นยืนยันอีกครั้ง


พอเหมยเหมยได้ยินประโยคนี้ก็ไม่พอใจจึงจ้องเขาเขม็ง วางตะเกียบลงแล้วคำรามว่า “ความหมายของพี่ก็คือถ้าเหมือนฉันจะโง่ใช่ไหม?”


เหยียนหมิงซุ่นใจเต้นระส่ำ แย่แล้ว เขาดันเผลอหลุดพูดความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าพูดจากใจจริงก็ใช่ว่าเขาจะรังเกียจไอคิวของยัยปีศาจน้อยสักหน่อย ปัญหาน้ำเข้าน้ำออกในตอนนั้นเหยียนหมิงซุ่นยังคงจำได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้เลย!


เก่งกว่าพวกโง่เขลามาแค่หน่อยเดียวเท่านั้น!


แต่เขาก็ชอบความโง่ของยัยปีศาจน้อยนะเพราะเอาใจง่ายดี!


“เปล่าเลย ตอนนี้ที่รักเป็นถึงนักเขียน แถมด้านดนตรีและการเต้นก็โดดเด่นมาก คนโง่ที่ไหนจะเก่งได้เหมือนเธอล่ะ” เหยียนหมิงซุ่นพูดจาหวานหยดย้อยอย่างรู้งาน พร้อมแกะกุ้งป้อนเหมยเหมย ทำสองอย่างไปพร้อมกันต้องง้อได้แน่


เหมยเหมยแค่นเสียง อยากจะแอบหลุดยิ้มแต่เธอก็ฝืนเอาไว้


“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าในใจพี่คิดอะไรอยู่ อยากพูดว่าฉันไอคิวต่ำไม่ใช่เหรอ ฉันจะบอกอะไรให้นะการทดสอบไอคิวแบบนี้ยังไม่ครอบคลุมรอบด้าน มีคนตั้งมากมายที่มีไอคิวปกติแต่ก็ยังเป็นคนเก่งได้เหมือนกัน”


เหมยเหมยเชิดคางขึ้นอย่างทะนงตน เธอรู้สึกว่าไอคิวไม่ครอบคลุมรอบด้านจริง ๆ อย่างเช่นตัวเธอเอง ไอคิวการเรียนไม่ได้สูงนักแต่พรสวรรค์และความสามารถทางด้านดนตรีและการเต้นรำของเธอกลับไม่ได้แย่เลย


พระเจ้าปิดหน้าต่างของคุณบานหนึ่งก็ย่อมต้องเปิดหน้าต่างอีกบานให้คุณบ้างอยู่แล้ว ไม่มีทางทิ้งให้คุณไร้หนทางที่จะก้าวเดินต่อไปได้หรอก!


ประโยคนี้ถูกต้องเสมอ


เหมยเหมยคิดว่าทุกคนล้วนมีพรสวรรค์เป็นของตัวเอง เหตุที่ทำให้โลกนี้มีคนไร้ความสามารถเป็นจำนวนมากเพราะความสามารถของคนเหล่านี้ไม่ได้ถูกขุดออกมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงค่อย ๆเลือนหายไปตามอายุขัยและค่อย ๆกลายเป็นแค่คนธรรมดาไป


ดังนั้นการที่จะวัดคน ๆหนึ่งด้วยไอคิวว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง


เหยียนหมิงซุ่นไม่เห็นด้วยกับมุมมองความคิดของเหมยเหมย แต่ตอนนี้คนท้องสำคัญที่สุด เขาพยักหน้ารับและเอ่ย “เธอพูดถูก ไอคิวไม่สามารถตัดสินทุกอย่างได้ เธอกินกุ้งอีกตัวนะ”


เขาไม่ให้เหมยเหมยกินกุ้งมังกรน้อยอีกแต่เปลี่ยนมากินกุ้งธรรมดาแทน มีสารอาหารมากกว่า นอกเสียจากว่าอยากกินมากจริง ๆถึงจะยอมให้กินสักครั้งหนึ่ง


“สิ่งที่ฉันพูดมันถูกต้องอยู่แล้ว ในอนาคตต่อให้ไอคิวของลูกฉันไม่ถือว่าสูงแต่อนาคตต้องไกลแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับการถ่ายทอดพรสวรรค์ด้านศิลปะจากฉันไปก็ได้!”


เหมยเหมยรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ส่วนใหญ่พูดกันว่ารูปลักษณ์ภายนอกของลูกมักได้รับอิทธิพลมาจากพ่อ แต่ไอคิวส่วนใหญ่มาจากแม่ไม่ใช่เหรอ และไอคิวของเธอนั้น…


เธอจึงไม่ควรตั้งความหวังไว้สูงเกินไป!


“พี่คิดว่าถ้าเป็นลูกชายจะต้องเหมือนพี่ ส่วนลูกสาวก็ต้องสวยเหมือนเธอ แถมยังถนัดศิลปะดนตรีและการเต้นด้วย” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยความหมายของตนอ้อม ๆ


เด็กผู้ชายไม่ควรโง่เกินไปเพราะในอนาคตยังต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวอีก ส่วนเด็กผู้หญิงจะโง่นิดโง่หน่อยย่อมได้ ขอแค่หาลูกเขยที่เก่งกาจให้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้ว ไม่ต้องกลัวด้วยว่าจะถูกใครรังแก


แต่ถ้าหากเลือกได้เหยียนหมิงซุ่นก็หวังว่าไม่ว่าจะลูกชายหรือลูกสาวต่างก็ต้องแข็งแกร่งให้ได้เหมือนเขา ด้วยเหตุนี้เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกชายลูกสาวมากเกินและดูแลภรรยาจอมบื้อได้อย่างเต็มที่


…………………………………………………………


ตอนที่ 2184 แกอยากได้เมียไหม


 อีกสองวันการแข่งม้าของหนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนเช่อก็จะเริ่มขึ้นแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่พวกเขาแค่สองคนที่เข้าร่วมการแข่งขันแต่ยังมีคนอื่นอีก การแข่งม้าในครั้งนี้เป็นการแข่งขันส่วนตัวในแวดวงของพวกเขาอย่างไม่เป็นทางการ ผู้ที่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ต้องเป็นพวกคนรวยและข้าราชการระดับสูงเท่านั้น


สามัญชนทั่วไปอย่าได้หวังเลย!


หนิงเฉินเซวียนเป็นคนจัดการแข่งขันในครั้งนี้ขึ้น ความชื่นชอบม้าของเขาเป็นที่เลื่องลือมากในเมืองหลวง ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นกระแสให้คนจำนวนมากทำตาม ในเมืองหลวงจึงค่อย ๆมีคนเลี้ยงม้ามากขึ้น หนึ่งในนั้นมีบางส่วนที่รักม้าจริง ๆแต่ส่วนมากกลับต้องการที่จะเลียแข้งเลียขาหนิงเฉินเซวียนเท่านั้น


หนิงเฉินเซวียนพึงพอใจคนเหล่านี้มาก และมีคนเสนอว่าพวกเขาจัดการแข่งม้าขึ้นปีละครั้งเหมือนฮ่องกงก็ได้ โดยทุก ๆปีจะเลือกม้าที่เป็นแชมป์ขึ้นมา


แน่นอนว่าคนที่เสนอความคิดเห็นนี้ขึ้นมาตั้งใจที่จะประจบหนิงเฉินเซวียนอยู่แล้ว เพราะทั่วทั้งเมืองหลวงมีเพียงหนิงเฉินเซวียนเท่านั้นที่เลี้ยงม้าหลากสายพันธุ์ที่สุด แถมยังเป็นสายพันธุ์ชั้นสูงอีกด้วย แชมป์ม้าต้องเป็นของหนิงเฉินเซวียนอย่างแน่นอน


หนิงเฉินเซวียนเองก็คิดเช่นเดียวกัน


แต่ว่า…


เฮ่อเหลียนชิงกลับโผล่มากะทันหัน รั้นที่จะเข้าร่วมให้ได้ และจากนั้น…


แชมป์ม้าของทุก ๆปีจึงตกเป็นของม้าสีดำโฉ่วโฉ่วตัวนั้นที่เป็นของเฮ่อเหลียนชิง หนิงเฉินเซวียนจึงเป็นที่สองมาโดยตลอด


จะว่าไปแล้วการแข่งม้าเพิ่งจัดไปได้แค่สองครั้งเอง และปีนี้เป็นครั้งที่สาม


หนิงเฉินเซวียนให้ความสำคัญกับการแข่งม้าในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้เขารู้สึกว่าหากเขาสามารถเอาชนะเฮ่อเหลียนชิงได้ นั่นหมายความว่าการริเริ่มดำเนินการของเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน มันเป็นสัญญาณที่ดี


ในทางกลับกันมันไม่ใช่ลางที่ดีเลย


ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้เขาจะต้องชนะให้ได้!


หนิงเฉินเซวียนอารมณ์ไม่ค่อยดีนักเพราะส่งคนไปจัดการม้าของเฮ่อเหลียนชิงอย่างลับ ๆแต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า แบบนี้จะให้เขาอารมณ์ดีได้อย่างไร?


แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ พนักงานในสนามม้าล้วนเป็นคนของเขาทั้งนั้น เห็นทีว่าเขาคงต้องลงมือในสนามแข่งแล้วล่ะ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดเขาจะต้องได้รับชัยชนะของปีนี้ให้ได้


ในขณะเดียวกันเฮ่อเหลียนชิงผู้มีความมุ่งมั่น ในเวลานี้เขากำลังสั่งสอนโฉ่วโฉ่วตรงหน้าอยู่


“สหายโฉ่วโฉ่ว ปีนี้นายต้องสู้เพื่อฉันนะ อย่าปล่อยให้ตาแก่บ้าหนิงเฉินเซวียนสมดั่งใจหวังเด็ดขาด ขอแค่นายชนะกลับมาฉันจะตอบแทนเต็มที่เลย ลูกอมพวกนี้ฉันให้นายกิน ของนำเข้าเลยนะ!”


เฮ่อเหลียนชิงเอาลูกอมในมือป้อนโฉ่วโฉ่วที่ไม่แม้แต่จะชายตามองเขา ใบหน้าแสดงความเอาอกเอาใจ


โฉ่วโฉ่วส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ ชำเลืองมองชายอ้วนตรงหน้าด้วยสายตาเหยียดหยาม ท้ายที่สุดก็กินน้ำตาลก้อนที่มันไม่ชอบนั้นเข้าไป รสชาติแย่กว่านายหญิงตั้งเยอะ


เฮ่อเหลียนชิงหยิบแปรงขนม้าขึ้นมาแล้วแปรงที่แผงคอให้โฉ่วโฉ่วอย่างตั้งใจ ไม่หนักไม่เบา แรงกำลังพอดี โฉ่วโฉ่วสะบัดหางไปมาอย่างสบายตัว


“คุณชายโฉ่ว ปีนี้แกอายุสี่ปีแล้ว ในสังคมของพวกแกคงถึงช่วงอายุที่ต้องหาเมียแล้วสินะ นายอยากหาเมียสวย ๆ ไหม” เฮ่อเหลียนชิงยิ้มตาหยีพร้อมเปิดประเด็น จากนั้นก็ได้รับเสียงฮึดฮัดจากโฉ่วโฉ่วกลับมา


เฮ่อเหลียนชิงยื่นมือไปเช็ดน้ำลายกลิ่นหญ้าที่ถูกพ่นใส่หน้า จู่ ๆความคิดพลันแล่นขึ้นมานึกวิธีการดี ๆขึ้นได้


“คุณชายโฉ่ว ฉันช่วยหาเมียให้นายสักตัวดีไหม? ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ ตาแก่หนิงมีม้าสีแดงตัวเมียที่งดงามมากตัวหนึ่ง เป็นสายพันธุ์แชมป์ม้าถึงสามรุ่น ฐานันดรสูงส่งคู่ควรกับนายมาก ไม่งั้นพรุ่งนี้นายลองเกี้ยวม้าตัวเมียนั้นมาเป็นเมียดีไหมล่ะ?”


แบบนี้ทั้งได้เมียม้ามาฟรี ๆแถมยังยั่วโมโหตาแก่หนิงเฉินเซวียนได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัว


โฉ่วโฉ่วฮึดฮัดอีกครั้ง ชายอ้วนคนนี้พูดจริงหรือโกหกกันนะ?


จะว่าไปก็ถึงวัยที่มันควรหาเมียแล้วจริง ๆ พรุ่งนี้ค่อยดูอีกทีแล้วกัน ถ้าหากดีเหมือนที่ชายคนนี้พูดจริง ๆเขาก็จะเกี้ยวพากลับมาเล่นด้วยก็ไม่เลวเลย!


ตอนที่ 2185 เธอต้องการคืนของ


วันต่อมาการแข่งขันก็จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และยังคงเป็นสถานที่เดิมซึ่งเป็นสนามแข่งม้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง นอกจากนี้ยังเป็นโรงงานอุตสาหกรรมของหนิงเฉินเซวียนด้วย เขาเป็นคนจัดการดูแลด้วยตัวเองมาโดยตลอด


“วันนี้ทำตัวให้มีสติหน่อยล่ะ ทำตามที่ฉันกำชับด้วยได้ยินไหม?” หนิงเฉินเซวียนกล่าวสอนด้วยใบหน้านิ่งขรึม ตรงข้ามมีลูกน้องยืนเรียงแถวอยู่


“ได้ยินแล้วครับ นายท่านโปรดวางใจ!”


เหล่าลูกน้องตอบรับเสียงดังกึกก้องมั่นอกมั่นใจต่องานที่หนิงเฉินเซวียนมอบหมายให้เป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นถิ่นของพวกเขา จัดการกับสัตว์แค่ตัวเดียวมันง่ายเสียยิ่งกว่าอะไร


หนิงเฉินเซวียนเองก็มั่นใจเอย่างต็มเปี่ยม เขาแค่สั่งให้ลูกน้องเอาเข็มไปใส่ไว้ในเกือกม้าของโฉ่วโฉ่วแค่สองสามเล่มเอง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้หากยังทำไม่ได้ คนพวกนี้ก็สมควรไปตายซะ!


เขาไม่ได้ต้องการฆ่าโฉ่วโฉ่ว แค่ทำให้มันไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ก็เท่านั้น พอดึงเข็มออกก็ไม่เป็นอะไรแล้ว สำหรับม้าโดยเฉพาะม้าพันธุ์ดีหนิงเฉินเซวียนใจดีด้วยเสมอ และยิ่งกว่านั้นคือความอดทน!


เหมยเหมยตั้งใจตื่นแต่เช้า ช่วงนี้ป้าฟางตุ๋นซุป(ยา)บำรุงให้เธอทุกวัน ซุปไก่ดำ ซุปปลาดำ กระเพาะปลา รังนก ซุปเป็ด…ทุกวันไม่ซ้ำกันเลยจนเธอผิวเนียนนุ่ม ใบหน้าเปล่งปลั่งเชียวล่ะ


หมอบอกว่าจะต้องนอนพักหนึ่งเดือนเต็ม ความเป็นจริงยังไม่ทันถึงครึ่งเดือนเธอก็ลุกกระโดดโลดเต้นได้แล้ว ต่อให้วิ่งแปดร้อยเมตรก็ไม่มีปัญหา พอร่างกายแข็งแรงเหมยเหมยก็ไม่ยอมนอนพักบนเตียงอีกเพราะนอนจนปวดกระดูกไปหมดแล้ว อึดอัดแทบบ้า


พอดีกับที่หมอกู้กลับมาเมืองหลวง เหยียนหมิงซุ่นจึงได้เชิญให้เขามาตรวจดูอาการของเหมยหมย หมอกู้วัดแค่ชีพจร ก็บอกว่าไม่ต้องกินยาบำรุงอะไรแล้ว อะไรที่ควรทำก็ทำ อะไรที่ควรกินก็กิน ทำเหมือนปกติก็พอแล้ว


แต่เรื่องเซ็กส์ควรลดให้น้อยที่สุด!


เป็นเรื่องดีสำหรับเหมยเหมย แต่ดันเป็นเรื่องน่าเศร้าของท่านหัวหน้าเหยียน!


“โธ่…เอวฉันหนาไปหมด ใส่เดรสสีขาวไม่ได้แล้ว”


เหมยเหมยลองสวมเดรสสีขาวยาวตัวโปรดก็พบว่าช่วงเอวแน่นเล็กน้อย เธอเศร้าเหลือเกิน ตอนนี้เพิ่งจะครึ่งเดือนกว่า ๆเอง ทำไมถึงท้องโตจังนะ?


อีกหน่อยถ้าเจ็ดแปดเดือน เธอไม่ต้องใส่ถุงกระสอบเลยเหรอ?


เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้ามาหยิกเอวของเธอทีหนึ่ง พูดอย่างมั่นใจว่า “ไม่อ้วนเลย เหมือนเมื่อก่อนแหละ เธอคิดมากเกินไปแล้ว”


ก็ยังเอวบางเหมือนเดิมไม่ใช่หรือไง!


“พี่นี่ไม่ได้เรื่องเลย ต้องเปลี่ยนไปบางแหละ” เหมยเหมยไม่พอใจต่อท่าทีสบาย ๆของเหยียนหมิงซุ่นเป็นอย่างมาก ใช้มือหยิกจะวัดอะไรได้?


“พอ ๆกันนั่นแหละ คาดเคลื่อนไม่เกินสองเซนติเมตรหรอก” ท่านหัวหน้าเหยียนมั่นอกมั่นใจมาก แต่ว่า…


เหมยเหมยโมโหขึ้นมาในทันที สองมือเท้าสะเอวคำรามลั่น “สองเซนติเมตรนี่ต่างกันไม่มากอย่างไร? พี่รู้หรือเปล่าว่าสองเซนติเมตรนี่มันขนาดไหน ยาวขนาดนี้เห็นหรือยัง ยาวขนาดนี้เชียวนะ…เอวของฉันเพิ่มมาสองเซนติเมตรแล้ว…”


เธอคำรามพร้อมใช้มือเปรียบเทียบขนาดสองเซนติเมตร เหยียนหมิงซุ่นยังไม่ทันคิดอะไร พอเหมยเหมยเห็นขนาดที่ตัวเองเปรียบเทียบให้ดูก็รู้สึกท้อแท้ใจ


สองเซนทำไมถึงยาวขนาดนี้นะ!


นี่เพิ่งจะครึ่งเดือนรอบเอวก็ขยายขึ้นสองเซนติเมตรแล้ว เธอยังเหลืออีกแปดเดือนที่จะคลอด หนึ่งเดือนสี่เซนติเมตร แปดเดือนก็สามสิบสองเซนติเมตร นั่นก็ประมาณ…


เธอยกนิ้วขึ้นมาทาบแล้วพึมพำคำนวณแปลงหน่วยเป็นนิ้ว แต่สมองที่เดิมทีก็ไม่เพียงพอให้ใช้การอยู่แล้ว พอท้องขึ้นมาก็ยิ่งโง่ขึ้นไปอีก ผ่านไปนานก็ยังคำนวณไม่ได้สักที


“ประมาณ 9.6 นิ้ว ซึ่งขาดอีกแค่ 0.4 นิ้วก็จะเท่ากับอี้ฉื่อ[1]” เหยียนหมิงซุ่นทนดูต่อไปไม่ไหวจึงคำนวณออกมาให้เธอ


เขาเพิ่งค้นพบว่าตอนนี้ไอคิวของภรรยาเขานั้น เมื่อเทียบกับการคิดคำนวณน้ำเข้าน้ำออกตอนปีนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าจะแย่ลงแล้วล่ะ


เฮ้อ!


อนาคตช่วงน่าเป็นห่วงเหลือเกิน!


เหมยเหมยเงยใบหน้าเขียวปั๊ดขึ้นมอง คำตอบนี้ก็ไม่ต่างจากสายฟ้าฟาดในวันที่อากาศสดใสเลย ก่อนตั้งท้องเอวของเธอคือ 17 นิ้ว บวกเพิ่มอีก 9.6 นิ้ว นั่นก็เท่ากับ 26.9 นิ้ว เอวที่มีขนาดเกือบสามไม้บรรทัด…


สุราลัย…พสุธา…พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย!


เธอต้องการคืนของ!


[1] 尺 คือหน่วยวัดของจีน โดยขนาด 1 ฉื่อมีค่าเท่ากับ 10 นิ้ว


………………………………………………..


ตอนที่ 2186 จีบสักหน่อย


เหมยเหมยมีสีหน้าท่าทีหมดอาลัยตายอยาก จนทำให้เหยียนหมิงซุ่นอดที่จะขำออกมาไม่ได้ ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะ?


“พี่แค่บอกว่าประมาณสองเซนติเมตรไม่ได้แปลว่าจะต้องสองเซนจริง ๆสักหน่อย อีกอย่างเธอนับแบบนี้ก็ไม่ถูก การเจริญเติบโตในช่วงตั้งครรภ์ตอนต้นและตอนปลายแตกต่างกัน การเจริญเติบโตในตอนต้นค่อนข้างช้าแต่ตอนกลางถึงตอนปลายจะเร็วมาก”


เหยียนหมิงซุ่นจงใจโอ้อวดกฎสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ตนเพิ่งหามาใส่สมองเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่รู้ว่าเหมยเหมยกำลังตั้งครรภ์ เขาก็สั่งให้ลูกน้องของตนไปกว้านซื้อหนังสือที่เกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์ไว้มากมาย ทุกวันหลังเลิกงานจะกลับมาเปิดอ่าน จนตอนนี้ได้กลายร่างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารีไปครึ่งหนึ่งแล้ว


สีหน้าของเหมยเหมยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาว สีหน้าแห่งความหวาดกลัวมีมากกว่าเดิม ช่วงปลายจะขยายใหญ่กว่าช่วงแรกอีกเหรอ?


เช่นนั้นคงไม่ใช่แค่หนึ่งไม้บรรทัดแล้วล่ะ?


“อีกหน่อยเอวของฉันจะกลายเป็นถังน้ำ หรือไม่ก็ถังไม้ใบใหญ่…”


เหมยเหมยกุมหน้าด้วยความเสียใจ การมีลูกสักคนต้องเสียสละมากจริง ๆ เอวคอดเล็กที่เธอภาคภูมิใจ เกรงว่าอีกหน่อยคงไม่มีอีกแล้ว!


“เธอคิดมากไปแล้ว ไม่มีทางเป็นเอวถังน้ำหรอก…” เหยียนหมิงซุ่นพูดจาดี ๆปลอบใจเธอ แค่ปัญหาเล็ก ๆน้อย ๆของเอวเองไม่ใช่เหรอ เขาก็ไม่ได้รังเกียจสักหน่อย


“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจะทำอย่างไร?” เหมยเหมยกะพริบตาปริบ ๆ ดวงตาแดงก่ำมองเขาอย่างน่าสงสาร


“พี่ไม่รังเกียจหรอก!” เหยียนหมิงซุ่นขบคิดแล้วพูดขึ้น เขาคิดว่านี่คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ยัยปีศาจน้อยจะต้องดีใจอย่างแน่นอน


แต่กลับไร้ประโยชน์…


“ใครสนว่าพี่จะรังเกียจไหมกันล่ะ? ฉันไม่มีทางยอมกลายเป็นเอวถังน้ำ รอคลอดลูกแล้วฉันจะไประบำหน้าท้อง หลังจากนั้นจะต้องกลับเข้าสู่สถานะก่อนหน้านี้ได้แน่ พี่คอยดูเถอะ!”


เหมยเหมยจ้องเขาตาเขม็ง กล้าดูถูกเธองั้นเหรอ?


จะได้เห็นดีกัน!


เหยียนหมิงซุ่นสีหน้างุนงง เขาพูดไปแล้วว่าไม่รังเกียจ ทำไมถึงยังโกรธอีกล่ะ?


จิตใจของผู้หญิงยากแท้หยั่งถึงจริง ๆ เขาคิดว่าตัวเขาเองอยู่ในระดับกลางแล้ว แต่ตอนนี้กลับพบว่าความจริงแล้วเขาสอบตก!


ในที่สุดเหมยเหมยก็เลือกใส่เสื้อยืดสีขาวเข้าคู่กับกระโปรงลายดอก สวมใส่แล้วดูสบายเอามาก


การแข่งม้าจัดขึ้นในช่วงเก้าโมงเช้า พวกเขามาถึงสนามม้าตอนแปดโมง เหมยเหมยอยากแวะหาโฉ่วโฉ่วเพื่อให้กำลังใจมันก่อน เหยียนหมิงซุ่นก็ไปคอกม้าพร้อมกับเธอด้วย


โฉ่วโฉ่วถูกขังแยกไว้ตัวเดียวเพราะอารมณ์ของมันรุนแรงเกินไป ม้าตัวอื่นล้วนไม่อยู่ในสายตาของมัน ไม่พอใจขึ้นมาก็โมโห เมื่อปีก่อนคุณชายโฉ่วก็ได้เตะม้าแข่งตัวอื่นจนขาหัก เฮ่อเหลียนชิงได้ชดใช้เงินก้อนใหญ่ให้กับเจ้าของม้าไปอย่างชอบใจ


จากนั้นเป็นต้นมา คุณชายโฉ่วก็ได้มีห้องวีไอพีเป็นของตัวเองและไม่อยู่ร่วมกับม้าตัวอื่นอีก


ในขณะเดียวกันคุณหนูเซ็กเธาว์ผู้สูงส่งก็ขี้หงุดหงิดไม่เบาเช่นกัน พอบวกกับที่มันเป็นแก้วตาดวงใจของหนิงเฉินเซวียน คนในสนามม้าก็ยิ่งไม่กล้าละเลย พร้อมกับยกคอกม้าที่ดีที่สุดในสนามนี้ให้แก่คุณหนูผู้นี้ด้วย


ห้องของแขกวีไอพีทั้งสองอยู่ตรงข้ามกัน ระยะห่างกันไม่มาก เงยหน้าขึ้นก็สามารถมองสบตาอีกฝ่ายได้แล้ว


บัดนี้คุณชายโฉ่วกำลังจ้องคุณหนูเซ็กเธาว์ด้วยใจจดจ่อ ทำเสียงฮึดฮัดทางจมูกอยู่บ่อยครั้งพร้อมสะบัดหางไปมา


ชายอ้วนนั่นไม่ได้หลอกมัน ม้าตัวเมียตัวนี้ไม่เลวเลย ตรงสเปกของมันมาก แบบนี้ต้องจีบเสียหน่อยแล้ว


โฉ่วโฉ่วเกิดความสนใจในตัวคุณหนูเซ็กเธาว์ขึ้นมา มันเป็นม้าแสนดีที่พอถูกใจปุ๊บก็ลงมือปั๊บ ในเมื่อเป็นที่ถูกตาต้องใจ งั้นก็ลุยเลย!


“ฮี่…ฮี่ ฮี่…”


โฉ่วโฉ่วส่งเสียงร้องอยู่บ่อยครั้งแถมยังสะบัดหัวไปมา ขนแผงคอยาวเป็นแนวโค้งสยายกลายเป็นเส้นขนที่สวยงามกลางอากาศ ม้าเซ็กเธาว์เองก็สังเกตเห็นม้าสุดหล่อที่อยู่ตรงข้ามเช่นกัน มันเองก็ใจเต้นตึกตักนานแล้ว


ตัวหนึ่งเสน่หา ส่วนอีกตัวหนึ่งมีใจปรารถนา…


ไม่นานม้าสองตัวนี้ก็แอบส่งสายตาให้กัน เธอส่งเสียงร้อง ฉันก็ส่งเสียงร้อง ต่อเนื่องเช่นนี้ไม่มีหยุด…


เพื่อใช้ภาษาม้าของพวกมันถ่ายทอดคำบอกรักกันไปมา


ตอนที่ 2187 หาเมียด้วยตัวเอง


จังหวะที่เหมยเหมยเข้ามาก็เห็นบรรยากาศที่แสนคึกคักนี้แล้ว โฉ่วโฉ่วกระโดดโลดเต้นอยู่ในคอกม้าอย่างอารมณ์ดี ซ้ำยังใช้ร่างชนประตูอยู่หลายหน แล้วตัวที่ดูกระปรี้กระเปร่าเช่นกันก็คือม้าเซ็กเธาว์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มันชนประตูพลางส่งเสียงร้องไปพร้อมกับโฉ่วโฉ่ว


นี่มันเกิดอะไรขึ้น?


เหมยเหมยตกตะลึง


“โฉ่วโฉ่ว ไม่เอาสิ เป็นเด็กดีนะ ถ้าแข่งเสร็จแล้วฉันจะเอาของอร่อย ๆมาให้กินนะ!” เหมยเหมยเข้าใจว่าโฉ่วโฉ่วไม่อยากถูกขังจึงลูบขนมันอย่างแผ่วเบาเพื่อหวังให้มันสงบลง


แต่โฉ่วโฉ่วกลับยิ่งฮึกเหิม ใช้หัวดันมือเหมยเหมยอยู่บ่อยครั้ง “นายหญิงรีบเปิดประตูที ผมหาเมียเจอแล้ว…”


เหมยเหมยมีหรือที่จะเข้าใจคำพูดของมัน คิดไปว่าโฉ่วโฉ่วอยากกินยาอมจึงหยิบออกมาหลายเม็ดแล้วป้อนมัน แต่ครั้งนี้โฉ่วโฉ่วไม่ได้กลืนลงไปทีเดียวหมดเหมือนแต่ก่อน มันกินไปแค่ครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือทิ้งไว้ในอุ้งมือของเหมยเหมย


“นายหญิงเอาพวกนี้ให้เมียผมกินสิ!”


โฉ่วโฉ่วแลบลิ้นเลียอุ้งมือเหมยเหมย ส่งเสียงร้องอยู่หลายหนแต่ก็จนปัญญา…เพราะเหมยเหมยก็ยังคงฟังไม่เข้าใจ


ฉิวฉิวทนดูอีกต่อไปไม่ไหว มันจึงมุดขึ้นไปอยู่บนหัวของโฉ่วโฉ่วที่กำลังโวยวายแล้วใช้อุ้งเท้าตบมันไปหลายที จากนั้นโฉ่วโฉ่วจึงสงบลงไม่กล้าโวยวายอีกต่อไป และมองคุณชายฉิวด้วยท่าทีน่าสงสาร


“โวยวายอะไรนักหนา แค่หาเมียสักตัวไม่ใช่เหรอ มีอะไรให้น่าโอ้อวดนักล่ะ ฉันเป็นเจ้าบ่าวทุกวันเคยโอ้อวดให้เห็นหรือไง?”


ฉิวฉิวรู้สึกดูแคลนเจ้าม้าโง่ตัวน้อยนี้จริง ๆจึงสวมคาบความเป็นพี่ใหญ่พร่ำสั่งสอนอย่างทะนงตน


ฉาฉาที่นอนขดอยู่บนข้อมือของเหมยเหมยได้ยินคำพูดที่ไร้ยางอายของฉิวฉิวจึงมุดออกมาอย่างอดไม่ได้ มันมองฉิวฉิวอย่างนึกดูแคลน ทุกครั้งหลังจากที่ได้กระรอกตัวเมียสวย ๆกลับมาก็มักจะโอ้อวดใส่เขา ตอนนี้ยังมีหน้ามาว่าน้องโฉ่วอีกเหรอ!


โฉ่วโฉ่วโดนฉิวฉิวสั่งสอนไปยกใหญ่จึงเงียบกริบ แต่ก็ยังทำใจเรื่องเมียไม่ได้จึงลอบมองม้าเซ็กเธาว์อยู่หลายครั้งหลายหน


มันรู้สึกว่าความปั่นป่วนในตัวที่มันระงับไว้มาโดยตลอด เวลานี้เหมือนถูกจุดประกายลุกโชนจนลุกลามเป็นไฟลูกใหญ่ และม้าเซ็กเธาว์ตัวนี้ก็คือเครื่องดับไฟในตัวมันนั่นเอง


ฉิวฉิวอ่านความคิดของมันออกจึงหัวเราะเยาะนึกรังเกียจแล้วคว้าลูกอมที่เหลือในมือเหมยเหมยมา จากนั้นเพียงครู่เดียวก็มุดไปถึงฝั่งของม้าเซ็กเธาว์พร้อมพูดกับม้าเซ็กเธาว์หน้ามึนว่า “เจ้างั่งนั่นให้เอานี่มาเป็นของแทนใจ นี่เป็นของดีเชียวนะ ถ้าเธอกินแล้วต้องยอมเป็นเด็กดีกลับบ้านไปพร้อมเจ้างั่งนั่นเข้าใจไหม?”


ม้าเซ็กเธาว์จ้องฉิวฉิวอย่างตกตะลึงที่เหยียบย่ำบุกมาหามันอย่างง่ายดาย ทั้ง ๆที่เป็นแค่กระรอกตัวหนึ่งแต่กลับรู้สึกน่าหวาดกลัวแผ่มาจากก้นบึ้งของจิตวิญญาณ มันไม่แม้แต่จะกล้าขยับทั้งยังยอมกลืนยาอมพวกนั้นลงไปทีเดียวจนหมด


พอยาอมเข้าปากก็ละลายไหลลงท้อง ม้าเซ็กเธาว์รู้สึกได้ว่ายาพวกนี้เป็นของชั้นดีจึงส่งเสียงร้องดีใจส่งให้โฉ่วโฉ่วอยู่หลายครั้งพลันเกิดความรู้สึกที่ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม


มันจะยอมกลับบ้านไปพร้อมกับโฉ่วโฉ่วอย่างว่าง่ายเลยล่ะ!


เหมยเหมยเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกมึนงง ถามเหยียนหมิงซุ่นอย่างคลางแคลงใจ “นี่พวกมันกำลังทำอะไรกันเหรอ?”


เหยียนหมิงซุ่นพอจะเดาสถานการณ์ได้ ในจังหวะที่กำลังจะอธิบายฉิวฉิวก็มุดกลับมาและหมอบอยู่บนไหล่ของเหมยเหมยพร้อมพูดอย่างไม่ใส่ใจขึ้นว่า “ไม่มีอะไร เจ้าม้าโง่ตัวนี้หาเมียเจอแล้ว เดี๋ยวพากลับไปเข้าห้องหอด้วยแล้วกัน”


“อึก…”


เหมยเหมยตกใจจนสะอึกออกมา ครั้งก่อนเธอพูดเองว่าจะหาเมียให้โฉ่วโฉ่วแต่เธอยังไม่ทันได้ลงมือเลย โฉ่วโฉ่วกลับหาเจอเองแล้วเหรอเนี่ย?


“ใช่ม้าสีแดงตัวนั้นไหม? สวยดีนะ โฉ่วโฉ่วของเรานี่ก็ตาถึงเหมือนกันนะ” เหมยเหมยชูนิ้วโป้งให้โฉ่วโฉ่ว โฉ่วโฉ่วส่งเสียงฮึดฮัดทางจมูกอย่างได้ใจ


หากเป็นม้าธรรมดาตัวอื่นจะเข้าตามันได้อย่างไรเล่า?


เรื่องความสวยมันแน่นอนอยู่แล้ว!


เหมยเหมยถามเหยียนหมิงซุ่น “ม้าสีแดงตัวนั้นเป็นของใครเหรอคะ? โฉ่วโฉ่วเกี้ยวมาได้แล้ว”


แม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นจะพอเดาสถานการณ์ได้ แต่เมื่อได้ยินคำตอบยืนยันที่ชัดเจนก็รู้สึกตกใจไม่น้อย และไม่นานก็กลับมายิ้มแฝงความยียวนปรากฏบนใบหน้า


…………………………………………………….


ตอนที่ 2188 พนันกันหน่อยไหม


“เป็นม้าที่หนิงเฉินเซวียนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อมาจากอังกฤษ ได้ยินมาว่าบรรพบุรุษทั้งสามรุ่นล้วนเป็นแชมป์ทั้งหมด สายเลือดชั้นสูงมากด้วย โฉ่วโฉ่วนี่ตาถึงจริง ๆเลย” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มขำพลางอธิบาย โฉ่วโฉ่วจึงส่งเสียงฮึดฮัดทางจมูกอีกครั้ง สะบัดหางอย่างอารมณ์ดีมากกว่าเดิม


เหมยเหมยนิ่งตกตะลึงก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะ ลูบหัวโฉ่วโฉ่วหลายที “ช่างเด็กดีจริง ๆ โฉ่วโฉ่วแกนี่เป็นลูกรักของฉันเลยนะ…”


โฉ่วโฉ่วแลบลิ้นเลียมือเหมยเหมยซ้ำ ๆหลายทีด้วยความสนิทสนมเป็นอย่างมาก นายหญิงมีลูกน้อยแล้วจะให้ลำบากเกินไปไม่ได้ เรื่องหาเมียมันคงไม่รบกวนนายหญิงแล้วล่ะ!


เหมยเหมยกลอกตาไปมาแล้วกระซิบข้างหูโฉ่วโฉ่วว่า “เดี๋ยวตอนแข่งขันแกก็ให้เมียเดินตามหลังนะ ห้ามไปไหน หลังจากแข่งเสร็จค่อยพากลับบ้าน ฉันจะให้ของรางวัลเป็นของกินอร่อย ๆแล้วกันนะ…”


โฉ่วโฉ่วดีใจจนส่งเสียงฮึดฮัดอยู่หลายที นี่นับว่าเป็นเรื่องเล็กสำหรับมันมากและจัดการง่ายนิดเดียว!


เหมยเหมยป้องปากกระซิบเสียงเบา เหยียนหมิงซุ่นเงียหูตั้งใจฟังแต่ก็ยังไม่ได้ยินอยู่ดีจึงถามขึ้นว่า “พวกเธอกระซิบกระซาบอะไรกัน แถมไม่ให้พี่ฟังอีกต่างหาก”


“ไม่บอกหรอก…”


เหมยเหมยเชิดคางอย่างได้ใจ ช่างเป็นท่าทางที่น่าเอ็นดูเหลือเกิน เหยียนหมิงซุ่นบีบจมูกเธอไปทีหนึ่ง “ไม่พูดก็ไม่พูด ต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ ใกล้จะได้เวลาแล้วเราเข้าไปในงานกันดีกว่า”


เหยียนหมิงซุ่นก็คร้านที่จะถามต่อ เดี๋ยวถึงตอนแข่งก็รู้แล้วว่ายัยปีศาจน้อยพูดอะไรกับโฉ่วโฉ่ว พรสวรรค์ที่เหมยเหมยสามารถพูดคุยกับสัตว์ได้เขารู้มานานแล้ว และไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าประหลาดตรงไหน คิดไปคิดมาคงเป็นเพราะพระเจ้าประทานไอคิวมาให้น้อยเกินคงรู้สึกผิดเลยให้พรเรื่องอื่นแทนสินะ?


“โฉ่วโฉ่วห้ามกินของที่คนแปลกหน้าให้นะ ตั้งใจแข่งล่ะ แล้วคว้าแชมป์มาอีกนะ!”


เหมยเหมยกำชับโฉ่วโฉ่ว จากนั้นก็เดินไปประจำที่นั่งแขกพร้อมกับเหยียนหมิงซุ่น เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงการแข่งขันถึงจะเริ่มขึ้น


ที่นั่งของพวกเขาคือตำแหน่งวีไอพีติดกับเฮ่อเหลียนเช่อ อีกด้านหนึ่งคือคู่แข่งอย่างหนิงเฉินเซวียนและเฮ่อเหลียนชิง คนที่จัดตำแหน่งที่นั่งก็ไม่เบาเลย คนทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้ดีว่าสองคนนี้เจอหน้ากันทีไรมีแต่อยากจะฆ่ากันทุกที แต่นี่ยังจัดตำแหน่งที่นั่งของพวกเขาให้อยู่ใกล้กันอีก


ซ้ำยังทะเลาะกันอีกแล้ว!


“นี่เหล่าหนิง ได้ยินว่านายได้ม้าตัวหนึ่งมาจากต่างประเทศงั้นเหรอ?” เฮ่อเหลียนชิงคิดหาประเด็นมาพูดคุยกัน


หนิงเฉินเซวียนแค่นเสียงฮึด้วยใบหน้าเย็นชา และไม่สนใจตาแก่บ้านี่


“ฉันว่าม้าจากต่างประเทศไม่เห็นได้เรื่องเลย ในประเทศของเราก็มีม้าดี ๆเหมือนกันอย่างเช่นโฉ่วโฉ่วของฉัน เป็นแชมป์มาสองปีซ้อนแล้ว เก่งจะตาย!” เฮ่อเหลียนชิงคุยโวโอ้อวดโดยไม่ให้ใครตอกกลับได้ แถมยังคุยโวอย่างชอบใจด้วย


ใบหน้าของหนิงเฉินเซวียนดุดันขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงอดทนไม่ส่งเสียงพูดอะไร เขาจะไม่ต่อปากต่อคำกับเฮ่อเหลียนชิง อีกเดี๋ยวเริ่มการแข่งขันค่อยดูที่ผลลัพธ์แล้วกัน


การแข่งขันครั้งนี้เขาจะต้องทำให้เฮ่อเหลียนชิงแพ้ราบคาบไม่หลงเหลือศักดิ์ศรีอะไรให้ได้เลย และอย่างน้อยอีกครึ่งปีเขาจะเหยียบทุกคนให้จมอยู่ใต้ฝ่าเท้าแล้วยึดครองแผ่นดินนี้!


เห็นแก่ที่เคยร่ำเรียนทำงานมาด้วยกันรวมถึงความเป็นพี่เขย เขาจะไว้ชีวิตที่น่าอนาถของเจ้าบ้านี่แล้วกันแล้วปล่อยให้ทุกข์ทรมานในช่วงบั้นปลายชีวิต!


เฮ่อเหลียนชิงเห็นว่าหนิงเฉินเซวียนไม่พูดด้วยก็ไม่ได้นึกโกรธอะไร แถมยังคงพล่ามไม่หยุด และก็เป็นเรื่องโอ้อวดโฉ่วโฉ่วตามคาด ประชดหนิงเฉินเซวียนว่าปีนี้จะต้องกลับไปมือเปล่าอีกเช่นเคย


“แกกล้าที่จะพนันกับฉันไหมล่ะ?” หนิงเฉินเซวียนเอ่ยเสียงเย็นชา


“มีอะไรที่ฉันไม่กล้า แล้วจะพนันอย่างไรล่ะ?” เฮ่อเหลียนชิงเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นกัน


หนิงเฉินเซวียนยกยิ้มมุมปากมองเขาอย่างเย้ยหยัน พูดขึ้นทีละคำทีละประโยค “ง่ายมาก ถ้าม้าของฉันแพ้ ม้าของฉันก็จะตกเป็นของแก แต่ถ้าแกแพ้ม้าตัวนั้นของแกจะตกเป็นของฉัน กล้าเดิมพันไหมล่ะ?”


ม้าสีดำตัวนั้นของเฮ่อเหลียนชิงเขาอยากได้มันมาตลอดสามปี ครั้งนี้เขาจะต้องเอามันมาให้ได้!


โลกใบนี้ควรจะเป็นของเขา ฉะนั้นของดี ๆทุกอย่างบนโลกนี้ก็ต้องเป็นของเขา เฮ่อเหลียนชิงมีสิทธิ์อะไรมาครอบครอง?


ไม่คู่ควรเลยสักนิด!


ตอนที่ 2189 ของดีต้องแบ่งปัน


เฮ่อเหลียนชิงเห็นว่าหนิงเฉินเซวียนทำทีราวกับชัยชนะอยู่ในกำมือใจก็พลันเต้นรัว หรือว่าเซ็กเธาว์ของตาแก่บ้านี่จะเก่งจริง ๆ?


เขาเริ่มไม่มั่นใจเสียแล้วว่าโฉ่วโฉ่วจะเอาชนะได้หรือไม่?


“ทำไมล่ะ แกไม่กล้างั้นสิ?” หนิงเฉินเซวียนพูดประชด


เฮ่อเหลียนชิงเก็บสีหน้าไม่อยู่ แต่เขาก็ตะโกนอย่างไม่ลังเลขึ้นว่า “ฉันมีอะไรที่ไม่กล้าบ้าง? พนันก็พนันสิ กลัวก็แต่แกจะแพ้ราบคาบมากกว่า!”


“ในเมื่อแกกล้าพนัน ฉันก็กล้าที่จะแพ้!” หนิงเฉินเซวียนเห็นว่าเขาติดกับแล้วก็แอบดีใจ จึงหันไปตะโกนกับคนรอบข้างว่า “แขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้โปรดช่วยเป็นพยานให้ด้วยล่ะ!”


“ได้เลย!”


คนที่มาดูการแข่งขันล้วนเป็นคนในแวดวงเดียวกัน เจอกันบ่อยพอสมควร พอเห็นว่าสองคนนี้ทะเลาะกันขึ้นมาจึงต่างพากันให้ความสนใจและพร้อมที่จะมีส่วนร่วม


เหยียนหมิงซุ่นเองก็ได้ยินอย่างชัดเจนเหมือนกัน เขาจึงขมวดคิ้วมุ่น จากท่าทีของหนิงเฉินเซวียนแล้วดูเหมือนจะมั่นใจมากว่าจะต้องชนะอย่างแน่นอน หรือเขาคิดที่จะทำอะไรเลว ๆหลับหลังอีกแล้ว?


เขาเรียกลูกน้องมาหาแล้วสั่งการไปไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นลูกน้องก็รับคำสั่งแล้วออกไป


เฮ่อเหลียนเช่อเห็นดังนั้นก็หัวเราะเยาะ “คนขี้ระแวง!”


แม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูแลสนามม้า แต่หนิงเฉินเซวียนเอาใจใส่กับสนามแห่งนี้มาก ปกติจะจัดการแข่งม้าขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังกระทำการโปร่งใสยุติธรรมทุกรอบไม่เคยลอบกัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่จึงนับเป็นเรื่องเดียวที่หนิงเฉินเซวียทำอย่างเปิดเผย


เหยียนหมิงซุ่นถึงขนาดสงสัยว่ามีคนคิดลอบกัดในสนามม้า หากไม่เรียกว่าขี้ระแวงแล้วจะเรียกว่าอะไร?


“ระวังไว้ก่อนจะได้ไม่มีข้อผิดพลาด” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยโต้กลับอย่างเย็นชา เขาไม่มีทางไว้ใจหนิงเฉินเซวียนแน่นอน ตาแก่นั่นบ้าไปแล้ว ฉะนั้นจะเอาการกระทำของคนปกติมาเป็นตัววัดกับคนบ้าได้อย่างไร


เหมยเหมยคร้านจะสนใจการปะทะฝีปากของสองคนนี้จึงล้วงคุกกี้ชิ้นเล็กออกมาจากกระเป๋ายื่นส่งให้เสี่ยวเป่าที่นั่งเงียบอย่างว่าง่าย พร้อมแลบลิ้นปลิ้นตาให้เขาด้วย


วันนี้เสี่ยวเป่าสวมเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าลายทางจับคู่กับสูทกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน ดูหล่อเหลาเหมือนเด็กวัยรุ่นเลย เหมยเหมยหยิกพวงแก้มอ้วน ๆของเขาไปหลายทีอย่างห้ามไม่อยู่


ทั้งนิ่มทั้งลื่น สัมผัสมือดีมากจนเธออดใจไม่อยู่จริง ๆ


เสี่ยวเป่ายอมให้เธอหยิกแก้มอย่างว่าง่ายโดยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และยังยื่นมือไปให้เหมยเหมยเองด้วย เพราะเขารู้ว่าคุณน้าชอบกัดมือเขาเล่น ทุกครั้งหลังจากที่ได้กัด คุณน้ามักจะให้ของอร่อย ๆเขาทาน


เฮ่อเหลียนเช่อเห็นเช่นนั้นก็นึกอิจฉาตาร้อนแย่งมือเสี่ยวเป่าออกมาจากปากของเหมยเหมย แล้วจ้องเธอตาเขม็ง


มีสิทธิ์อะไรมากัดมือน้องชายเขา?


หมั่นเขี้ยวนักก็ไปกัดผู้ชายของเธอนู้น!


เสี่ยวเป่าไม่ชอบใจนักจึงสลัดมือของเฮ่อเหลียนเช่อออก จากนั้นก็ยื่นมือเข้าปากเหมยเหมยอีกครั้ง ส่วนมืออีกข้างก็ยัดคุกกี้ชิ้นเล็กใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นไม่นานกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างก็ตุงใหญ่ขึ้น


เหมยเหมยได้ใจทำเสียงเชอะใส่เฮ่อเหลียนเช่อพร้อมกับล้วงคุกกี้ชิ้นเล็กให้เสี่ยวเป่าอีกหนึ่งชิ้น แถมยังจงใจหยิกแก้มเจ้าตัวอ้วนอีกครั้งเชิงเย้าแหย่อย่างเบามือ แต่คนที่ดูอยู่ช่างปวดใจนักอย่างเช่นเฮ่อเหลียนเช่อ


เขาปวดใจเหลือเกิน!


หากไม่มีเหยียนหมิงซุ่นนั่งอยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงอย่างจ้าวเหมยต้องได้เห็นดีกันแน่นอน!


เหยียนหมิงซุ่นยิ้มขำที่ภรรยาของตนแหย่เฮ่อเหลียนเช่อเล่น ในใจลึก ๆกลับรู้สึกว่าเมื่อก่อนที่เขาเห็นเฮ่อเหลียนเช่อเป็นศัตรูนั้นช่างเป็นเรื่องที่โง่เขลาสิ้นดี


เสี่ยวเป่ายู่จมูกฟึดฟัด ก้นเริ่มอยู่ไม่สุขจึงวาดขาเล็ก ๆก้าวลงจากที่นั่ง พวกเขานั่งแถวแรก เสี่ยวเป่าลงจากที่นั่งได้ก็วิ่งปรู๊ดออกไป


เฮ่อเหลียนเช่อลุกขึ้นเตรียมตามไปแต่หนิงเฉินเซวียนกลับเรียกเขาไว้ “ในสนามม้าไม่น่าห่วงหรอก เดี๋ยวฉันให้คนตามเสี่ยวเป่าไปสักคนก็พอแล้ว”


ไม่นานก็มีคนตามเสี่ยวเป่าไปโดยไม่ให้คลาดสายตา เฮ่อเหลียนเช่อส่งคนของตัวเองตามไปสบทบถึงค่อยเบาใจ


เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีก็จะเริ่มการแข่งขันแล้ว เพียงไม่นานม้าที่แข่งรอบแรกก็เข้าประจำตำแหน่งในสนาม โฉ่วโฉ่วและเซ็กเธาว์ต่างแข่งรอบแรก เฮ่อเหลียนชิงนั่งหลังตรงและมีท่าทีไม่ค่อยวางใจนัก


หนิงเฉินเซวียนกลับยกยิ้ม ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ


ไม่นานเสี่ยวเป่าก็วิ่งไปยังคอกม้า เขาได้กลิ่นของเซ็กเธาว์เลยตั้งใจเอาคุกกี้มาให้มันกิน หากมีของดี ๆต้องแบ่งปันให้เพื่อน นี่คือสิ่งที่คุณน้าสอนเขาไว้!


……………………………………………………


ตอนที่ 2190 เสี่ยวเป่าทุบตีคนร้าย


เซ็กเธาว์ยังคงส่งสายตาหวานเยิ้มให้โฉ่วโฉ่วและส่งเสียงตอบรับกันไปมาไม่หยุด เสี่ยวเป่าไม่เข้าใจว่าม้าสองตัวนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ เขาเข้าใจว่าเป็นเพื่อนใหม่ของเซ็กเธาว์จึงตัดสินใจแบ่งคุกกี้ชิ้นเล็กนี้ให้โฉ่วโฉ่วด้วย


ชายท่าทางลับ ๆล่อ ๆเดินเข้ามา เขาคือคนที่ได้รับคำสั่งมาจากหนิงเฉินเซวียนเตรียมที่จะลอบทำร้ายโฉ่วโฉ่ว


หนิงเฉินเซวียนสั่งให้เขาทำร้ายขาทั้งสี่ข้างของโฉ่วโฉ่วก่อนการแข่งขันจะเริ่มห้านาที แต่ห้ามทำรุนแรง แค่ทำให้โฉ่วโฉ่วบาดเจ็บตอนแข่งขันก็พอ แบบนี้ก็เอาชนะได้โดยไม่มีใครรู้แล้ว


ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นแอบหลบอยู่ในที่ลับตาคนจับตาดูทางนี้อยู่ พอเห็นคนทำทีลับ ๆล่อ ๆ อารมณ์ก็พลันดุดันขึ้น คุณชายหมิงเดาไม่ผิดเลย หนิงเฉินเซวียนนี่หน้าไม่อายจริง ๆ


เสี่ยวเป่าป้อนคุกกี้ให้เซ็กเธาว์ นี่เป็นคุกกี้ที่เหมยเหมยทำขึ้นเป็นพิเศษ ในนั้นใส่ยาวิเศษเขาไปด้วยแต่ไม่ได้เยอะนัก เพื่อจะได้ค่อย ๆปรับสมดุลในร่างกายของเสี่ยวเป่า


แต่เจ้าเซ็กเธาว์สัมผัสได้ถึงยาวิเศษภายในคุกกี้จึงกินอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นมันก็นึกถึงยาอมที่โฉ่วโฉ่วเคยให้มันก่อนหน้านี้จึงเลียมือของเสี่ยวเป่าพร้อมกับสะบัดหน้าไปทางโฉ่วโฉ่ว


เสี่ยวเป่าเฉลียวฉลาด ไม่นานก็เข้าใจความหมายของเซ็กเธาว์ทันที


เขาย่ำเท้าเดินไปทางโฉ่วโฉ่ว เวลานี้ลูกน้องที่ทำตัวลับ ๆล่อ ๆได้ขยับเข้ามาใกล้ตัวโฉ่วโฉ่วแถมพร้อมที่จะลงมือแล้วด้วย


โฉ่วโฉ่วรับรู้ได้ถึงเจตนาอันร้ายกาจของชายผู้นี้จึงเกิดอาการร้อนรนกระทืบเท้าไม่หยุด สายตาจับจ้องชายผู้นั้นไม่วางตาแล้วรอให้เขาขยับเข้ามาใกล้ ๆ เตรียมพร้อมที่จะถีบคนชั่วนี่ให้กระเด็นขึ้นฟ้าไปเลย!


ในมือของชายผู้นี้มีตะปูอยู่สองสามอันเตรียมพร้อมที่จะใช้ปักกีบเท้าของโฉ่วโฉ่ว หากไม่วิ่งก็จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ถ้าวิ่งไปนาน ๆก็จะยิ่งเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ!


เสี่ยวเป่าวิ่งเข้ามา ด้านหลังมีชายสองคนตามหลังมาด้วย ซ้ายคนขวาคน ทั้งยังจ้องเขาอย่างระมัดระวังราวกับแม่ไก่


“หึ…”


เสี่ยวเป่าอยู่ห่างจากชายผู้นั้นในระยะที่ไกลพอสมควรแต่กลับได้กลิ่นเหม็นจากตัวเขา เขาเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดี เขาคิดจะทำร้ายเพื่อนของหั่วหั่ว คนชั่ว!


หั่วหั่วเป็นชื่อที่เขาตั้งให้ม้าเซ็กเธาว์นั่นเอง


เสี่ยวเป่าจ้องเขาตาเขม็ง พวงแก้มอวบอ้วนนูนขึ้น ร่างกายน้อย ๆขวางอยู่ด้านหน้าโฉ่วโฉ่วแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่คิดจะทำเรื่องชั่ว ๆ


“คุณชายเสี่ยวเป่ารีบถอยไปครับ ผมได้รับคำสั่งมาจากคุณปู่ของคุณ!” ชายผู้นั้นร้อนใจมาก หากทำภารกิจไม่สำเร็จ จะต้องไม่เป็นผลดีแน่


เพื่อนสองคนที่ลอบเข้าไปโจมตีสวนฟาร์มครั้งก่อน ตอนนี้ขึ้นไปรวมตัวกันอยู่บนสวรรค์กับเพื่อนเก่าแล้ว เขาไม่อยากตามไปนะ!


พอเสี่ยวเป่าได้ยินว่าเป็นคนที่ตาแก่นั่นส่งมาดวงตาก็เบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม กระทั่งเขายื่นมือออกไปผลักชายคนนั้น หมายจะไล่เขาออกไป


“คุณชายเสี่ยวเป่า…”


ลูกน้องทั้งสามคนขานชื่อเขาพร้อมกัน แต่เสี่ยวเป่าก็ไม่คิดฟัง แถมยังยืนขวางหน้าโฉ่วโฉ่วอย่างดื้อรั้น ไม่ยอมให้พวกเขาทำร้ายเพื่อนของม้าเซ็กเธาว์


ชายที่ถือตะปูเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า ถ้าหากไม่ลงมือตอนนี้คงไม่ทันการแล้ว เขาจะไม่ยอมตายเพราะคุณชายตัวน้อยที่ไม่รู้ความเด็ดขาด!


เขาหันไปส่งสายตาให้ชายสองคนนั้น เอ่ยเสียงขรึม “พวกนายพาคุณชายน้อยออกไป ฉันจัดการครู่เดียวก็เสร็จ!”


“ได้ นายรีบลงมือหน่อยนะ”


ลูกน้องทั้งสองลงมือรวดเร็วปานสายฟ้าหมายจะวิ่งไปอุ้มตัวเสี่ยวเป่ามา เดิมทีคิดว่าคงจัดการได้อย่างง่ายดายแต่ไหนเล่าจะเป็นอย่างที่คิด เสี่ยวเป่าวิ่งเร็วมาก กลิ้งตัวไปมาบนพื้นก็สามารถหลบพ้นเงื้อมมือของพวกเขาได้แล้ว


กระทั่งกลิ้งไปใต้กางเกงของชายที่เตรียมจะลงมือพร้อมกัดเข้าที่น่องของเขาไปหลายครั้ง


แต่น่าเสียดายที่เด็กชายเสี่ยวเป่ามีฟันน้ำนมขึ้นแค่ไม่กี่ซี่ กัดทีก็ไม่รู้สึกอะไร ชายคนนั้นไม่สนใจแถมสะบัดมือเตรียมพร้อมที่จะปักตะปูลงไปแล้วด้วย


ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นตกตะลึง และเตรียมที่จะลงมือ


เสี่ยวเป่าเห็นว่าการต่อสู้ของตัวเองใช้การไม่ได้ก็ร้อนรนเป็นอย่างมาก เกลียดที่ตัวเองพละกำลังน้อยเกินไป ทันใดนั้นก็พลันปรากฏกระบวนท่าต่อสู้ที่เฮ่อเหลียนเช่อเคยสอนแวบเข้ามาในหัว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ชายตัวเตี้ยอย่างเขาเป็นที่สุด ดวงตาจังเป็นประกาย เขาเขย่งปลายเท้าขึ้นยื่นอุ้งมือที่มีไขมันออกไป!


ตอนที่ 2191 ลิงขโมยลูกท้อ


 “ตรงนี้เป็นจุดอ่อนไหวที่สุดสำหรับผู้ชาย ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือแต่หากหนูเอามือบีบตรงนี้เต็มแรง บีบไข่ของเขาให้แหลก รับรองว่าซัดเขาล้มได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงเลยด้วย”


ในขณะที่เฮ่อเหลียนเช่อกำลังสอนวิธีการเอาตัวรอดให้กับเสี่ยวเป่า เขาก็ได้จำลองคนขึ้นมา จับเป้ากางเกงของหุ่นจำลองนั้นไว้แน่นแล้วยิ้มออกมาราวกับคนโรคจิต


เสี่ยวเป่าเป็นเด็กความจำดีจึงนึกภาพออกในทันที อีกทั้งยังแสดงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ


เขารวบรวมกำลังทั้งหมดเล็งไปที่จุดอ่อนไหวของคนร้าย ใช้แรงจากมือทั้งสองข้างคว้ามับ หน้าของคนร้ายแดงเพราะอาการจุกจนพูดไม่ออก แรงของเด็กคนนี้ไม่เบาเลยจริง ๆ


“เอื๊อก……”


เสียงทรมานร้องดังทะลุฟ้า ชายผู้นั้นพูดอะไรไม่ออกเผลอปักตะปูเข้าที่ประตู


พอลูกน้องสองคนที่เหลือเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บตาม หนีบขาตัวเองไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัวแล้วมองไปที่เพื่อนของตัวเองที่เอามือกุมเป้าอยู่ด้วยความเจ็บปวดอย่างสงสาร คนที่ลงมือคือคุณชาย ความแค้นที่บีบไข่ในครั้งนี้ ไม่สามารถเอาคืนได้ตลอดชีวิต


เสี่ยวเป่าเห็นว่ากระบวนท่าเดียวของตัวเองสามารถทำให้คนร้ายสยบลงได้ก็มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม เขาผละมือออกจากเป้าชายผู้นั้นอย่างได้ใจ อีกทั้งยังส่งเสียงเยาะเย้ยใส่ วิธีที่พ่อสอนมาใช้ได้ดีจริง ๆ ต่อไปเขาจะต้องตั้งใจเรียนรู้มากกว่านี้เพื่อไว้จัดการคนร้ายทุกคนให้สิ้นซาก


พอลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นเห็นว่าเสี่ยวเป่าปล่อยท่าเด็ดออกมาเช่นนี้ก็แอบสงสารฝ่ายตรงข้ามอยู่ 3 วินาที แล้วก็หัวเราะกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้เหยียนหมิงซุ่นรับรู้


ถึงเวลาลงสนามแล้วจึงไม่มีโอกาสลงมือได้อีก ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องคอยจับตามองอีกต่อไป


เสียงฝีเท้าดังแว่วมาไม่ไกลนัก ครูฝึกม้าประจำสนามเดินมาจูงม้าพาลงสนาม ครูฝึกม้าพวกนี้ไม่ใช่คนของหนิงเฉินเซวียนทั้งหมด พวกเขาต่างก็เป็นครูฝึกม้าแข่งมืออาชีพซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหนิงเฉินเซวียนเลย


ชายที่เจ็บปวดจนเหงื่อไหลท่วมตัวสีหน้าไม่สู้ดีนัก ภารกิจล้มเหลวไม่พอ ยังเกือบเอาชีวิตตัวเองไม่รอดอีกต่างหาก!


ชายผู้นั้นมองไปที่เสี่ยวเป่าด้วยความโกรธแค้น เป็นเพราะเจ้าเด็กเวรนี่คนเดียวเลย


ลูกน้องสองคนที่เหลือเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงตัวเสี่ยวเป่าไปไว้ข้างหลัง พูดสั่งสอนเขาไม่กี่ประโยคแล้วก็พาเสี่ยวเป่ากลับไป เสี่ยวเป่าเป็นแก้วตาดวงใจของหนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนเช่อ หากเป็นอะไรไป ชีวิตของพวกเขาอีกสิบชีวิตก็ชดใช้ไม่ไหวหรอก


หลังจากเหยียนหมิงซุ่นฟังรายงานจากลูกน้อง เขาก็มองไปที่หนิงเฉินเซวียนที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยสายตาดูถูก หมาจนตรอกมันทำได้ทุกอย่างจริง ๆสินะ!


เสี่ยวเป่าตามกลับมาทีหลัง ลูกน้องของหนิงเฉินเซวียนกลับไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปตามตรง อย่างไรก็เป็นพวกพ้องเดียวกัน หวังว่าหนิงเฉินเซวียนจะไม่ถือโทษชายผู้นั้น


เฮ่อเหลียนเช่อก็รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วด้วยเช่นกัน ใบหน้าเกือบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่


เมื่อครู่เขายังเพิ่งพูดจาเหน็บแนมเหยียนหมิงซุ่นว่าเป็นคนขี้ระแวงอยู่เลย ตอนนี้หนิงเฉินเซวียนรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า แต่เขากลับรู้สึกภูมิใจในพฤติกรรมของเสี่ยวเป่า โดยเฉพาะท่าต่อสู้ลิงเด็ดลูกท้อ ช่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ


“เยี่ยมมาก กลับไปจะให้อาของหนูทำอะไรอร่อย ๆให้ทานนะ”


เฮ่อเหลียนเช่อยกนิ้วโป้งให้แล้วปัดเศษหญ้าบนตัวของเจ้าหนูออก คิดว่าเดี๋ยวจะสอนท่าต่อสู้เด็ด ๆมากกว่านี้ให้กับเสี่ยวเป่าในภายหลัง น้องของเขาฉลาดจริง ๆ แค่สอนไม่นานก็ทำเป็นแล้ว!


“เสี่ยวเป่าไม่เลวเลย เก่งกว่าแกตั้งเยอะ” เหยียนหมิงซุ่นพูดด้วยความเบิกบานใจ


เฮ่อเหลียนเช่อพ่นลมออกมาทางจมูกอย่างแรง “ลูกชายของฉันก็ต้องเก่งที่สุดอยู่แล้ว ได้ยินมาว่าคนของแกก็กำลังท้องนี่ อย่าคลอดเด็กโง่ ๆออกมาล่ะ”


“ไม่ว่าลูกเราจะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็เป็นลูกของเราเอง มีอะไรให้ต้องรังเกียจเหรอ นายว่าไหมล่ะ” เหยียนหมิงซุ่นมองเขาอย่างมีเลศนัย น้ำเสียงเหมือนกำลังพูดสื่ออะไรบางอย่าง


เฮ่อเหลียนเช่อใจเต้นเร็วกว่าเดิม เหลือบมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นด้วยความสงสัย หรือว่าหมอนี่จะรู้อะไรมา


เขารู้สึกใจฝ่อขึ้นมาและไม่กล้าพูดตอกกลับไปเหมือนแต่ก่อน จึงทำเสียงฟึดฟัดแล้วก็หันหน้ากลับไปที่สนามแข่ง


เหยียนหมิงซุ่นยิ้มออกมาน้อย ๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ


ในสนามโฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ได้ยืนเรียงกันเป็นแถว โฉ่วโฉ่วเบอร์หก ม้าเซ็กเธาว์เบอร์หนึ่ง มีม้าสี่ตัวขั้นกลางและอยู่ห่างไกลกันไม่น้อย แต่ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา


…………………………………………..


ตอนที่ 2192 แสดงความรักราวกับข้างๆ ไม่มีใคร


ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นโฉ่วโฉ่วหรือม้าเซ็กเธาว์ก็ไม่มีทางปล่อยโอกาสที่หาได้ยากในครั้งนี้ไปแน่นอน โฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ลงมือพร้อมกันโดยใช้กีบเท้าดีดม้าตัวข้าง ๆให้หลบไป ม้า 4 ตัวที่เหลือตกใจจนตัวสั่น และเป็นฝ่ายหลีกทางให้ลู่ในสนามแข่งเป็นของคู่นี้


ดังนั้น——


โฉ่วโฉ่วยืนอยู่ลู่ที่ 4 ม้าเซ็กเธาว์ยืนอยู่ลู่ที่ 3  ม้าทั้งสองตัวแสดงความรักกันอยู่ในแถว ดำตัวหนึ่งแดงตัวหนึ่งจึงดูสะดุดตาไม่น้อย


“ฉันชื่อว่าโฉ่วโฉ่ว เมียจ๋า ชื่อว่าอะไรเหรอ?” โฉ่วโฉ่วเป็นฝ่ายโผล่หัวออกไปก่อน แลบลิ้นออกมาราวกับเว้าวอนขอจูบ


ม้าเซ็กเธาว์หลบด้วยความเขินอาย แต่ยังไม่ทันได้หลบไปไหนก็ถูกโฉ่วโฉ่วขโมยจูบเข้าไปเต็ม ๆ ม้าสองตัวคลอเคลียกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความรัก ไม่เห็นคนและม้าที่อยู่รอบข้างในสายตาเลย


“เจ้านายเรียกฉันว่าหัวหั่ว ว่าแต่ใครเป็นเมียจ๋าของนายกัน ฉันยังไม่ทันได้ตอบตกลงสักหน่อย” ม้าเซ็กเธาว์ตอบกลับด้วยความเขินอาย


“เธอให้ฉันจูบแล้วก็ต้องถือว่าเป็นเมียของฉันสิ เดี๋ยวกลับบ้านเข้าห้องหอด้วยกันเลยนะ ฉันจะให้เจ้านายเตรียมของกินอร่อยให้เธอเยอะ ๆเลย…”


โฉ่วโฉ่วจูบอย่างมีความสุขยิ่งกว่าเดิม จะตอบตกลงหรือไม่อย่างไรเสียก็ต้องเป็นเมียของเขา หนีไม่พ้นหรอก!


พอม้าเซ็กเธาว์ได้ยินคำว่าของกินอร่อย ๆก็ตาลุกวาว หลังจากกินขนมพวกนั้นขาทั้งสี่ข้างของมันจะมีแรงมากกว่าปกติ เวลาวิ่งก็จะวิ่งได้เร็วกว่าเดิม ช่างเป็นของดีจริง ๆ


“ได้สิ….”


เมื่อมีขนมมาล่อ ม้าเซ็กเธาว์ที่เขินอายก็ตอบตกลงในทันที โฉ่วโฉ่วเป็นม้าที่ดูดีขนาดนี้ นับว่าคู่ควรกับชาติตระกูลของมันแล้ว


โฉ่วโฉ่วพ่นลมออกทางจมูกด้วยความลำพองใจ จากนั้นก็เข้าไปหอมฟอดใหญ่ อีกทั้งยังแลบลิ้นออกมาเพื่อจัดแผงขนที่คอให้เมียตน ดูเร่าร้อนเหลือเกิน โดยไม่ได้นึกถึงเรื่องการแข่งขันเลยแม้แต่น้อย


ทุกคนที่อยู่รอบข้างมองด้วยความมึนงง นี่กำลังทำอะไรกันอยู่หรือ?


ครูฝึกม้าต้องการให้ม้าทุกตัวประจำที่ของตัวเองและกลับไปอยู่ที่ลู่แข่งของตัวเอง แต่ไม่มีม้าตัวไหนเชื่อฟังเลย โฉ่วโฉ่วเลือดร้อนใช้กีบเท้าดีดใส่คนพวกนี้ ม้าเซ็กเธาว์ก็เอาด้วย เริ่มระเบิดอารมณ์ออกมา


พอเฮ่อเหลียนชิงเห็นเช่นนั้นก็รู้ทันทีเลยว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา เขาแค่พูดผ่าน ๆไปอย่างนั้น นึกไม่ถึงว่าโฉ่วโฉ่วจะทำได้ดีขนาดนี้ ถึงขนาดเกี้ยวม้าเซ็กเธาว์ของตาแก่หนิงมาเป็นเมียได้!


“โฉ่วโฉ่วทำดีมาก กลับไปฉันจะจัดการทุกอย่างให้แกเอง!”


เฮ่อเหลียนชิงตะโกนไปในสนาม ผู้ชมที่มองด้วยความมึนงงในตอนแรกเพิ่งจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น


ที่แท้ม้าสองตัวนี้ก็รักกันตั้งแต่แรกพบ ถูกใจกันนี่เอง!


วันนี้มาไม่เสียเวลาเปล่าจริง ๆ ว่าแล้วว่าหากสองตัวนี้ได้เจอกันจะต้องสปาร์คกันแน่นอน มีเรื่องสนุก ๆให้ดูแล้วล่ะ!


หนิงเฉินเซวียนก็มองออกแล้วเช่นกัน สีหน้าบึ้งตึง จุกอกจนตัวเองเกือบจะเป็นลมล้มลงไปอยู่แล้ว


แผนที่วางไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้แม้แต่ม้าของตัวเองก็จะถูกคนอื่นพากลับไปด้วย หนิงเฉินเซวียนแอบก่นด่าเรื่องความใจง่ายของม้าเซ็กเธาว์อยู่ในใจ ทำไมถึงได้ถูกใจม้าดำสกปรกแบบนั้นได้นะ?


 “ทำไมถึงยังไม่เริ่มการแข่งขันอีกล่ะ?”


หนิงเฉินเซวียนตะโกนออกมาด้วยความโมโห ทีมงานกระวนวายรีบพาม้ากลับเข้าสู่ลู่แข่งของตัวเอง โฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ก็เชื่อฟังและไม่ได้ขัดขืนอะไรอีก


“เมียจ๋า เดี๋ยวเธอตามฉันมานะ พอวิ่งเสร็จแล้วฉันจะพาเธอกลับบ้าน ตรงนั้นไม่ต้องถูกขังในคอกด้วย เธออยากจะวิ่งไปไหนก็ได้” โฉ่วโฉ่วพูดกำชับ ม้าเซ็กเธาว์พยักหน้า


มันเพิ่งรู้จักกับหนิงเฉินเซวียนแค่สองเดือนจึงไม่ได้ผูกพันลึกซึ้งอะไรมากมาย พร้อมจากไปทุกเมื่อและไม่ได้อาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่นิดเดียว


“ปัง”


เสียงปืนดังขึ้นม้าทั้งหกตัวพุ่งตัวออกไปราวกับลูกธนู ตัวที่วิ่งอยู่หน้าสุดคือโฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ ตัวดำวิ่งเร็วดั่งลม ส่วนตัวแดงวิ่งเร็วดั่งสายฟ้า ดูสูสีกันมากและทิ้งห่างม้าตัวอื่นไปได้ไกล


ตอนที่ 2193 ได้แชมป์อีกแล้ว


หนิงเฉินเซวียนอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย สมแล้วที่เป็นรุ่นที่สามของแชมป์สามสมัย ไม่ธรรมดาจริง ๆด้วย


ดูท่าแล้วม้าเซ็กเธาว์มีโอกาสได้แชมป์สูงมาก หนิงเฉินเซวียนรู้สึกหงุดหงิดเพราะแผนที่วางไว้สองครั้งล้มไม่เป็นท่า แต่เพราะเรื่องนี้ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมา สีหน้าก็ดูดีขึ้นไม่น้อย


เฮ่อเหลียนชิงตะโกนออกมาด้วยความร้อนใจ “โฉ่วโฉ่ว ใส่ให้สุด เพิ่มแรงเข้าไปอีก”


เขากลัวว่าตัวเองจะเสียงดังไม่พอจึงนำโทรโข่งที่เตรียมไว้ออกมา จากนั้นก็ตะโกนจนคนทั้งสนามได้ยินไปทั่วทั้ง 360 องศาเลยทีเดียว


หนิงเฉินเซวียนเอามืออุดหูด้วยท่าทีรำคาญ พูดจาเหน็บแนมออกมาว่า “ ไม่ว่าแกจะตะโกนเสียงดังแค่ไหนก็เปลี่ยนผลลัพธ์อะไรไม่ได้หรอก เฮ่อเหลียนชิง เรื่องที่เราพนันกันไว้อย่าลืมก็แล้วกัน!”


“ฉันเรียกของฉัน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกด้วย ไม่อยากฟังก็ไสหัวไปไกล ๆโน้นเลย!”


เฮ่อเหลียนชิงหันโทรโข่งไปตะโกนใส่หูของหนิงเฉินเซวียน อีกทั้งยังกลอกตามองบนหันหน้ากลับมาดูการแข่งขันต่อ เขานึกอยากจะมีขางอกออกมาอีกสักสองข้างแล้วลงไปวิ่งเองเลย!


หนิงเฉินเซวียนถึงกับหูอื้อไปชั่วขณะ แล้วก็เริ่มรู้สึกปวดศีรษะ แม้แต่เสียงโทรโข่งของเฮ่อเหลียนชิงก็แทบจะไม่ได้ยินแล้ว


ตาแก่บ้านี่ วันข้างหน้าจะต้องให้มันมาคุกเข่าก้มหัวร้องขอชีวิตจากเขาให้ได้!


สถานการณ์น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ผู้ชมที่รับชมอยู่ต่างก็กำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว เพราะถึงพวกเขาจะไม่ใช่เจ้าของม้าแต่พวกเขาก็เป็นคนที่ลงพนันเอาไว้ แน่นอนว่าจะต้องให้ความสนใจกับผลการแข่งขันมากกว่าใคร ๆ


เหมยเหมยพนันว่าโฉ่วโฉ่วจะชนะ อีกทั้งยังทุ่มเงินไปไม่น้อย หล่อนเชื่อมั่นในตัวของโฉ่วโฉ่วว่าต้องเอาชนะได้อย่างแน่นอน!


เจ้าภาพคือหนิงเฉินเซวียน คนส่วนใหญ่พนันว่าโฉ่วโฉ่วจะชนะ หากว่าโฉ่วโฉ่วแพ้ก็จะมีเงินจำนวนมากไหลเข้ามาในบัญชี แต่ถ้าหากว่าโฉ่วโฉ่วชนะเขาก็จะต้องเสียเงินจำนวนมากไปเช่นกัน


ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศักดิ์ศรีหรือเรื่องเงินทอง การแข่งขันในครั้งนี้เขาจะแพ้ไม่ได้!


หนิงเฉินเซวียนมองการแข่งขันอย่างไม่ละสายตา ตอนนี้โฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ยังคงวิ่งเคียงคู่กัน ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซนเท่านั้น ส่วนม้าสี่ตัวที่เหลือก็แค่มาเป็นตัวประกอบ ไม่ได้มีใครให้ความสนใจมากเท่าไรนัก


หนิงเฉินเซวียนกำมือแน่น ทำไมม้าเซ็กเธาว์ถึงยังไม่เพิ่มความเร็วอีกนะ?


เหลืออีกแค่เพียงครึ่งทางเท่านั้น หากยังไม่เร่งฝีเท้าก็จะตามไม่ทันแล้ว เขาไม่อยากได้แชมป์ร่วมกับตาแก่เฮ่อเหลียนชิงหรอกนะ!


จริง ๆแล้วเป็นเพราะหนิงเฉินเซวียนคิดมากเกินไป เหตุที่ตอนนี้ภาพออกมาเป็นแบบนี้นั้นก็เพราะโฉ่วโฉ่วออมมือให้ มันอยากจะวิ่งอยู่เคียงข้างเมียของมันจึงไม่ได้ปล่อยแรงทั้งหมดออกมา


ถึงแม้ม้าเซ็กเธาว์จะเป็นแชมป์ม้าที่มีสายเลือดจากตระกูลสูงส่ง แต่ก็ไม่อาจสู้โฉ่วโฉ่วที่กินยาวิเศษมาตั้งแต่เล็กได้ ในใจของมันรู้อยู่แล้วจึงยิ่งรู้สึกหลงใหลในตัวของโฉ่วโฉ่ว


สัตว์ตัวเมียทุกชนิดจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือจะรู้สึกหวั่นไหวในตัวผู้ที่มีความแข็งแกร่งได้ง่าย


“เมียจ๋า ฉันจะต้องออกแรงแล้ว อย่าวิ่งไปไหนไกลล่ะ พวกเรารอกลับบ้านด้วยกัน” พอโฉ่วโฉ่วสังเกตเห็นว่าใกล้จะถึงเส้นชัยแล้วจึงหันกลับมาหอมม้าเซ็กเธาว์ฟอดใหญ่


“ได้ ฉันจะรอนายนะ!”


ม้าเซ็กเธาว์ตอบออกมาอย่างว่าง่าย


“ฮี่…”


โฉ่วโฉ่วเงยหน้าส่งเสียงร้องออกมา ขาหน้าทั้งสองข้างตั้งตรง ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทุกคนเห็นแค่เงาสีดำผ่านไปเท่านั้น จากนั้นก็เห็นโฉ่วโฉ่วปรากฏตัวอยู่ที่เส้นชัย


หลังจากนั้นม้าเซ็กเธาว์ก็เข้าตามมาติด ๆ เดินตามโฉ่วโฉ่วอยู่ด้านหลังไม่แยกออกห่างจากกันไปไหน


หนิงเฉินเซวียนรีบวิ่งเข้ามา เหมือนเห็นดวงดาวล้านดวงปรากฏอยู่ตรงหน้า ในศีรษะมีเสียงร้องอื้ออึง ทั้งหมดเป็นเพราะเฮ่อเหลียนชิงตะโกนใส่แท้ ๆเลย


“ทำดีมาก แชมป์ปีนี้เป็นของโฉ่วโฉ่วอีกแล้ว…ขอบคุณที่อ่อนข้อให้ พรุ่งนี้ผมจะจัดงานเลี้ยงที่สวน ทุกคนจะต้องให้เกียรติมาร่วมงานกันด้วยนะ…”


เฮ่อเหลียนชิงภูมิใจเป็นอย่างมาก คนรอบข้างต่างพากันเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับเขา ทุกคนต่างก็ยินดีด้วยเช่นกันเพราะพวกเขาพนันว่าโฉ่วโฉ่วจะชนะจึงได้เงินมาไม่น้อย!


หนิงเฉินเซวียนกัดฟันกรอด ๆ ใบหน้าบึ้งตึง หน้าผากมีเส้นเลือดเขียวปูดขึ้น ราวกับกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมา


“ตาแก่หนิง ขอบคุณที่อ่อนข้อให้ เรื่องที่เราพนันกันไว้ แกยังไม่ลืมใช่ไหม” เสียงน่ารังเกียจของเฮ่อเหลียนชิงดังขึ้นที่ข้างหูอีกครั้ง


……………………………………………..


ตอนที่ 2194 พูดจากลับกลอก


เฮ่อเหลียนชิงหุบยิ้มไม่ลงเลย ถึงแม้ม้าเซ็กเธาว์จะสู้โฉ่วโฉ่วไม่ได้แต่ก็ยังถือว่าเป็นม้าชั้นดี ได้ม้าชั้นดีมาฟรี ๆจะไม่ดีใจได้อย่างไร?


อีกอย่างม้าเซ็กเธาว์เป็นม้าที่โฉ่วโฉ่วชอบพอด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องพนันครั้งนี้มาเกี่ยวข้อง เขาก็ต้องหาวิธีพามันกลับมาด้วยให้ได้อยู่แล้ว!


จะให้โฉ่วโฉ่วอยู่เป็นโสดตลอดไปคงจะไม่ได้หรอกมั้ง!


หนิงเฉินเซวียนทำหน้าบึ้งตึง เขาหันหน้ามามองเฮ่อเหลียนชิงแล้วแสยะยิ้มถามกลับไปว่า  “พนันเรื่องอะไรเหรอ?”


ม้าเซ็กเธาว์เป็นม้าชั้นดีที่เขาต้องเสียแรงไปมากกว่าจะได้มันมา เขาจะยอมยกให้กับเฮ่อเหลียนชิงได้อย่างไร?


สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือศักดิ์ศรีของเขา หากเขาต้องยกม้าเซ็กเธาว์ให้เขาต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขากล้ำกลืนทำไม่ลงจริง ๆ เขาคงอัดอั้นตันใจตายแน่ ๆ!


ถึงอย่างไรเสียอย่างมากภายในครึ่งปีนี้เขาก็จะได้ครอบครองตำแหน่งนายใหญ่ เรื่องทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วเหลือก็แต่เวลาเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์และชื่อเสียงอีกต่อไป หากเขาคิดจะกลับคำแล้วจะทำไมเหรอ?


ใครจะทำอะไรเขาได้?


เฮ่อเหลียนชิงก็นึกไม่ถึงเลยว่าหนิงเฉินเซวียนจะหน้าหนาขนาดนี้ เรื่องพนันที่ตัวเองเพิ่งจะตกลงไว้ดันปลิ้นปล้อนเปลี่ยนคำเสียแล้ว!


“พระเจ้า แกนี่เป็นคนที่หน้าหนาจริง ๆ หนิงเฉินเซวียน แกเพิ่งจะพูดออกมาเมื่อกี้ ยังไม่ทันไรแกก็คิดจะกลับคำแล้วเหรอ?” เฮ่อเหลียนชิงโมโหจนทนไม่ไหว


แต่ก่อนทำไมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตาแก่คนนี้หน้าหนาไร้ยางอายขนาดนี้


หนิงเฉินเซวียนหัวเราะเบา ๆ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา


เฮ่อเหลียนชิงตาลุกเป็นไฟ เขาหันมาถามคนอื่น ๆว่า “เมื่อครู่ทุกคนได้ยินที่ตาแก่หนิงเฉินเซวียนพูดไหม?”


“…โธ่…ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ ใครโทรมาตอนนี้เนี่ย ประสาทจริง ๆ!”


 “โอ๊ย…ปวดฉี่…”


“แย่แล้ว กลางวันมีนัดกินข้าว…”


“…ผมเองก็ต้องไปรับโทรศัพท์เหมือนกัน…”


บรรยากาศที่เงียบสงัดเมื่อครู่เกิดเสียงดังขึ้นมาในพริบตา คนที่ไปรับโทรศัพท์ก็ไปรับโทรศัพท์ คนที่ไปเข้าห้องน้ำก็ไปเข้าห้องน้ำ คนที่จะไปกินข้าวก็ไปกินข้าว เสียงดังเซ็งแซ่ทุกคนดูยุ่งกันไม่น้อยและไม่มีใครสนใจเฮ่อเหลียนชิงเลยแม้แต่คนเดียว


คนพวกนี้ร้ายกาจไม่เบา ลื่นไหลยิ่งกว่าปลาไหลเสียอีก ชอบดูเรื่องสนุก ๆมันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วแต่ถ้าจะให้เข้าไปยุ่งด้วยไม่เอาหรอก ใครจะกล้าไปมีเรื่องกับตาแก่สองคนนี้เล่า


หนิงเฉินเซวียนยิ้มอย่างได้ใจมองเฮ่อเหลียนชิงที่กำลังโมโหด้วยสายตาท้าทาย ไม่สนใจหรอก


เฮ่อเหลียนเช่อขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนดีอะไรแต่เขาก็เป็นคนรักษาคำพูด เขาเกลียดคนที่พูดจากลับกลอกเชื่อถือไม่ได้ที่สุด


การกระทำของหนิงเฉินเซวียนทำให้เขารู้สึกขายหน้า คิดว่าทุกคนโง่หรืออย่างไร


แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถมีปัญหากับหนิงเฉินเซวียนต่อหน้าทุกคนได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงรู้สึกไม่พอใจและสีหน้าบูดบึ้ง แม้แต่เสี่ยวเป่าก็ยังสัมผัสได้ เสี่ยวเป้าหยิบคุกกี้ออกมาจากกระเป๋าปีนขึ้นไปบนตักแล้วป้อนใส่ปากเขา


เฮ่อเหลียนเช่อไม่ชอบกินขนมแต่ถ้าเสี่ยวเป่าป้อนให้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว พอเขาเห็นรอยยิ้มที่สดใสของเด็กคนนี้ก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อยและทานคุกกี้เข้าไป


เหนือคาดเพราะคุกกี้รสชาติไม่เลวเลย มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ว่าในคุกกี้เหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนที่ฝึกวิทยายุทธ์ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นประโยชน์กับเขาสักเท่าไร


ตั้งแต่เล็กจนโตเขากินยาบำรุงที่เป็นของหายากมาไม่น้อย พลังแค่นี้เขาไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ


แต่ถ้าสำหรับคนธรรมดาทั่วไปพลังขนาดนี้ถือว่าไม่ใช่พลังธรรมดาเล็ก ๆแล้ว นี่เป็นของดีที่แม้แต่มีเงินก็ยังหาซื้อไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าจ้าวเหมยจะทุ่มใช้ของดีขนาดนี้ทำคุกกี้ให้เสี่ยวเป่าทาน!


เฮ่อเหลียนเช่อสับสน เขาหันไปมองเหยียนหมิงซุ่นแวบหนึ่งด้วยแววตาที่ซับซ้อน


ตอนที่เขาทานคุกกี้เหยียนหมิงซุ่นก็รู้แล้วว่าเขาจะต้องสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของคุกกี้แน่นอน เขาคิดเตรียมคำพูดไว้แล้ว จากนั้นจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบ ๆว่า “เหมยเหมยชอบเสี่ยวเป่าก็เลยยินดีจะมอบของดีให้เขาทาน แกไม่ต้องรู้สึกซาบซึ้งใจหรอก หรือถ้าแกอยากตอบแทนจะส่งโสมร้อยปีมาให้แทนก็ได้นะ”


เฮ่อเหลียนเช่อทำเสียงฟึดฟัดแล้ววางเสี่ยวเป่าลงบนเก้าอี้ พูดออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ว่า “ขนมแค่นี้มีอะไรดีกัน แม่ครัวบ้านฉันก็ทำเป็นหรอกน่า พอถึงตอนนั้นฉันจะส่งไปให้ลูกแกทั้งตะกร้าเลย!”


ตอนที่ 2195 ตกหลุมพรางสำเร็จ


เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มเล็กน้อยพูดตอบกลับไปอย่างสบาย ๆว่า “ฉันจะรอตะกร้าของแกแล้วกัน หวังว่าพอถึงเวลานั้นคุณชายเช่อจะไม่กลับคำแล้วกันนะ”


สีหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อเปลี่ยนไปในทันที ราวกับจะมีพายุเข้า เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ใครจะกลับคำกัน เหยียนหมิงซุ่นแกอยากตายหรือไง?”


“ก็ดูจากที่บ้านของคุณชายเช่อแล้ว ฉันรู้สึกกังวลใจจริง ๆ”


เหยียนหมิงซุ่นไม่กลัวเขาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังจงใจมองไปที่หนิงเฉินเซวียนราวกับกำลังพูดว่าพ่อของแกก็กำลังพูดจากลับกลอกอยู่นี่ไง


เฮ่อเหลียนเช่อโมโหเป็นอย่างมาก เรื่องเป็นแบบนั้นจริง ๆซึ่งเขาจะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ เขาทำเสียงฟึดฟัดไม่พอใจ “แกคลอดลูกออกมาก่อนเถอะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งเก้าเดือน ใครจะไปรู้ว่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า…”


บรรยากาศมาคุในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเหยียนหมิงซุ่นหายไปแล้วมองเขาด้วยแววตาเยือกเย็นพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ใครกล้ามาแตะต้องลูกและภรรยาของฉัน ฉันก็จะส่งพวกมันไปตายพร้อมกันทั้งตระกูล และจะขุดเอาบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรออกมารับกรรมพร้อมกันด้วยเลย!”


เหมยเหมยที่เดิมกำลังเล่นอยู่กับเสี่ยวเป่า จู่ ๆก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศรอบข้างที่เปลี่ยนไป พอได้ยินคำพูดของเหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกอบอุ่นใจแล้วลูบหลังมือของเหยียนหมิงซุ่นอย่างเบามือ


เฮ่อเหลียนเช่อก็รู้สึกตกใจกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเหยียนหมิงซุ่นเช่นกัน แต่ก็รีบทำตัวเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แค่รู้สึกว่าเกือบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เขาจะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นได้อย่างไร


“ผีที่ไหนจะไปรู้ว่าใครจะมาทำร้ายลูกเมียของแก แกก็เป็นศัตรูกับคนตั้งมากมาย ให้นับยังนับไม่หมดเลยด้วยซ้ำ” เฮ่อเหลียนเช่อตั้งใจพูดจาแดกดัน


“ศัตรูเบอร์หนึ่งของฉันก็มีแต่แกไม่ใช่หรือไง? คุณชายเช่อ” เหยียนหมิงซุ่นตอกกลับอย่างจงใจ


เฮ่อเหลียนเช่อเลิกคิ้ว อยู่ดี ๆก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นวัวสันหลังหวะ พูดตามตรงตอนที่เขาเพิ่งรู้ว่าจ้าวเหมยท้อง เขาก็ยังมีความคิดที่จะลงมือกับจ้าวเหมยเพื่อตัดรากถอนโคน!


ไม่ว่าเหยียนหมิงซุ่นจะเก่งกาจมาจากไหน หากกำจัดลูกหลานของเขาจนสิ้น หัวเดียวกระเทียมลีบจะทำอะไรไปก็เท่านั้น เฮ่อเหลียนเช่อกับหนิงเฉินเซวียนต่างก็คิดเช่นนี้ แต่เขาแค่เพิ่งจะเริ่มคิดเท่านั้นก็ถูกเหมยซูหานพูดดักคอไว้แล้ว


เหมยซูหานขู่ว่าหากเขากล้าทำอะไรจ้าวเหมยกับลูก เขาก็จะรีบพาเสี่ยวเป่าหนีไปอยู่ที่อื่นทันที ไปอยู่ที่ ๆเขาไม่สามารถหาเจอและจะไม่กลับมาที่เมืองหลวงอีกตลอดชีวิต


เขารู้ว่าเหมยซูหานไม่ได้พูดเล่น เขาสามารถทำเรื่องที่โหดร้ายแบบนี้เพื่อจ้าวเหมยได้จริง ๆ ในขณะที่เฮ่อเหลียนเช่อรู้สึกปวดใจเขาก็ต้องพยายามกำจัดความคิดที่จะเล่นงานจ้าวเหมยออกไปจากหัวด้วย


“หึ อย่าเอาความคิดของคนชั้นต่ำมาใส่สมองปัญญาชนจะดีกว่า คนอย่างฉันจะลงมือทำร้ายผู้หญิงท้องงั้นเหรอ” เฮ่อเหลียนเช่อไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด เพราะอย่างไรเขาก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรสักหน่อยจะกลัวอะไร


“ฉันจะจำเอาไว้ ถ้าวันหน้าเกิดอะไรขึ้นกับเหมยเหมยก็เท่ากับว่าแกกลับคำพูดแล้วกัน” เหยียนหมิงซุ่นพูดแบบมัดมือชก


เฮ่อเหลียนเช่อชะงักไปแล้วก็นึกโมโหขึ้นมา “เหยียนหมิงซุ่น แกหมายความว่าไง จ้าวเหมยเป็นภรรยาของแก ไม่ใช่ภรรยาของฉันนะ หากเธอเป็นอะไรไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ ศัตรูของแกเยอะขนาดนั้น ทำไมฉันต้องมารับผิดชอบด้วย?”


“ในเมืองหลวงคนที่สามารถคานอำนาจของฉันได้ นอกจากแกก็ไม่มีใครแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นจงใจพูดขึ้น


เฮ่อเหลียนเช่อที่อารมณ์ขึ้นเมื่อครู่ก็สงบลงในทันที เขาภูมิใจเล็กน้อยแต่ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ พวกเศษผักเศษปลาในเมืองหลวงเขาใช้แค่นิ้วเดียวก็สามารถจัดการได้หมดแล้ว ถึงแม้เหยียนหมิงซุ่นจะเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องแต่ถือว่ามีสายตาเฉียบใช้ได้เลย


“ถือว่าแกสายตาใช้ได้นี่…”


เฮ่อเหลียนเช่อส่งเสียง ‘หึ’ อย่างได้ใจ จากนั้น…ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น…


ตกหลุมพรางไปโดยสมบูรณ์แต่เขากลับไม่รู้สึกตัวเลยไม้แต่น้อย มัวแต่ภาคภูมิใจอยู่ อีกทั้งยังหยิบคุกกี้ในมือของเสี่ยวเป่าเข้าปากตัวเองอีกด้วย รสชาติไม่เลวจริง ๆ


เหยียนหมิงซุ่นค่อย ๆฉีกยิ้มออกมา แค่พูดแบบนี้ออกไปเขาคิดว่าเฮ่อเหลียนเช่อคงไม่คิดจะลงมือกับเหมยเหมยอีก สิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่คือเรื่องจริง ในเมืองหลวงมีคนมากมายแต่คนที่เขากลัวที่สุดมีเพียงเฮ่อเหลียนเช่อคนเดียวเท่านั้น


คนอื่นเขาไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาหรอก!


………………………………………………………..


ตอนที่ 2196 ม้าดีด


อีกด้านหนึ่งเฮ่อเหลียนชิงยังคงโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะว่าหนิงเฉินเซวียนไม่ว่าจะตีให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับ ไม่ว่าเขาจะด่าด้วยคำหยาบคายเพียงใดปากของชายแก่ผู้นี้ก็ยังปิดสนิทอยู่เช่นเดิมราวกับเปลือกหอย จนสุดท้ายก็หลับตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์ต่อหน้าทุกคนและไม่สนใจเขาอีก


“ตาแก่หนิง แกนี่มันจริง ๆเลย อย่าคิดว่าแกไม่ยอมรับแล้วฉันจะทำอะไรไม่ได้นะ ม้าเซ็กเธาว์ตัวนั้นอย่างไรเสียฉันก็จะเอากลับไปด้วย!”


เฮ่อเหลียนชิงด่าออกมาเป็นชุดจนคอเริ่มแห้ง อารมณ์ปะทุมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ขี้เกียจจะด่าต่อจึงคิดไว้ว่าหากการแข่งขันจบลงก็จะส่งคนไปเอาม้าเซ็กเธาว์กลับฟาร์มไปให้ได้


หนิงเฉินเซวียนเบิกตาโพลงปล่อยรังสีอำมหิตออกมา “เฮ่อเหลียนชิงแกคิดที่จะแย่งกันไปโต้ง ๆเลยเหรอ คิดว่าคนของฉันเป็นแค่ของวางประดับไว้หรือไง?”


เฮ่อเหลียนชิงโมโหถึงขีดสุด “นี่เป็นสิ่งที่แกแพ้พนันฉันต่างหาก แกอย่าคิดว่าไม่ยอมรับแล้วจะตีเนียนผ่านไปได้นะ ไม่มีทางหรอก!”


“หากพวกเราพนันกันจริง ๆ ฉันต้องยอมรับอยู่แล้วสิ ไหนแกลองเอาสัญญาออกมาดูหน่อยสิ ม้าเซ็กเธาว์ตัวนั้นฉันเสียเงินไปห้าแสนถึงจะได้มันมา เงินจำนวนมากขนาดนี้ฉันจะรับปากไปพนันกับใครง่าย ๆโดยที่ไม่มีหลักฐานได้อย่างไรกัน?”


หนิงเฉินเซวียนพูดออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ ทำท่าทางเหน็บแนม พร้อมมองด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม


ยังเป็นคนที่ตลบหลังได้ง่ายเหมือนเดิมเลย!


โง่จริง ๆ!


เฮ่อเหลียนชิงโมโหจนแทบกระอักเลือดแต่เขาก็ไม่ได้โง่พลันสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ช่างเป็นคนที่หน้าด้านไร้ยางอายจริง ๆ ผ่านไปตั้งหลายสิบปีความสามารถแกไม่พัฒนาขึ้นเลย แต่ความหน้าด้านกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน”


“เฮ่อเหลียนชิงหลายสิบปีมานี้ ไขมันแกเพิ่มขึ้นไม่น้อยแต่สมองกลับลดลงเรื่อยๆเลยนะ” หนิงเฉินเซวียนพูดแซะกลับ ในใจยังรู้สึกไม่พอใจ ทั้ง ๆที่ควรตายไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วแต่อยู่ดี ๆกลับอาการดีขึ้นมา สุขภาพร่างกายแข็งแรงกว่าแต่ก่อนอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?


หรือว่ายาพิษก็มีเวลาจำกัดงั้นเหรอ


หนิงเฉินเซวียนคิดไม่ตกจริง ๆ ตอนนั้นเขาแค้นที่เฮ่อเหลียนชิงแต่งงานกับเสี่ยวซี ถึงแม้ต่อหน้าจะทำเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแต่ลับหลังกลับวางยาเฮ่อเหลียนชิง ซึ่งเป็นยาที่ค่อย ๆออกฤทธิ์ ไร้สีไร้รสชาติ ฤทธิ์ยาไม่ได้แรงมากนัก เพราะมันจะค่อย ๆทำให้คนไม่อยากอาหาร แล้วก็จะค่อย ๆกัดกินเส้นประสาททำให้ตกอยู่ในสภาพราวกับคนใกล้ตาย


หลังจากนั้นเฮ่อเหลียนชิงก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง เริ่มจากขาทั้งสองข้างเริ่มใช้การไม่ได้ จากนั้นก็ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เหลืออีกแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น หนิงเฉินเซวียนคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก ยาพิษนั้นกว่าเขาจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แถมได้ยินมาว่าเป็นยาพิษที่ไม่มีใครสามารถรักษาได้ แต่ตอนนี้เขาเหมือนถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง ตอนนี้หนิงเฉินเซวียนอยากจะระบายความแค้นกับคนที่ให้ยานี้กับเขาในตอนนั้นเสียจริง


เฮ่อเหลียนชิงพยายามระงับอารมณ์โมโหไว้ ความโกรธในครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็กล้ำกลืนไม่ได้จริง ๆ แต่ว่าในสนามม้ามีแต่คนของหนิงเฉินเซวียนจะแย่งไปดื้อ ๆคงจะไม่สำเร็จแน่


หึ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องวางแผน!


ในเมื่อเขาไม่ได้ม้าเซ็กเธาว์มาครอง ตาแก่หนิงก็อย่าคิดว่าจะได้เลย เขายินดีที่จะทำให้ม้าตัวนี้ถึงแก่ความตาย แต่จะไม่ยอมให้ตาแก่หนิงได้ผลประโยชน์นี้ไปอย่างเด็ดขาด!


การแข่งขันยังคงดำเนินอยู่ เพียงแต่บรรยากาศภายในสนามกลับเงียบสงบ นายใหญ่ทั้งสองทำสีหน้าบึ้งตึง แล้วคนอื่น ๆจะกล้าโห่ร้องได้อย่างไรเล่า?


……


หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงในที่สุดการแข่งขันก็สิ้นสุดลง


ในสนามเกิดความวุ่นวายเล็กน้อยแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระเบียบ ครูฝึกม้าจูงม้าของตัวเองกลับไปที่คอก ม้าพวกนี้ปกติอาศัยอยู่ที่สนามม้าและมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความร่ำรวยเหมือนอย่างเฮ่อเหลียนชิงกับหนิงเฉินเซวียนที่จะสามารถสร้างคอกม้าไว้อยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเองได้


โฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ยังคงตัวติดกันไม่ห่าง คุณชายโฉ่วจะหันไปหอมภรรยาคนใหม่ของมันเป็นพัก ๆ ไม่ต้องพูดถึงความเร่าร้อนที่มีให้กันว่ามากแค่ไหนเลย


“เมียจ๋า พวกเรากลับบ้านกันเถอะ!”


“อืม ได้สิ…”


ครูฝึกม้าของหนิงเฉินเซวียนเตรียมจะไปจูงม้าเซ็กเธาว์มาเพื่อนำม้าแสนล้ำค่าตัวนี้กลับไปที่บ้านตระกูลหนิง แต่ทว่า——


ม้าเซ็กเธาว์กลับไม่สนใจเขา หลบตั้งหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถสลัดมนุษย์พวกนี้ให้หลุดออกไปได้ มันจึงโมโหและดีดขาใส่เต็มแรง


โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้นกับชายผู้นี้ เขาลอยขึ้นฟ้าแล้วร่วงลงสู่พื้นหญ้า ผ่านไปพักใหญ่เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาแต่ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมาก


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)