ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2125-2136
ตอนที่ 2125 ผิดหวัง
เหยียนหมิงต๋าเองก็ไหวพริบดีไม่น้อยจึงสังเกตถึงสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ทหารหน่วยพิเศษทุกคนมักมีสัญชาตญาณนี้ติดตัวยามเจอเรื่องอันตราย และเขาก็เหมือนกันเพราะสัญชาตญาณบอกเขาว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว
“ไปตอนนี้เลย!”
เหยียนหมิงต๋าให้อู่เยวี่ยเงียบเสียงก่อนจะเก็บกระเป๋าเดินทางลวก ๆ เตรียมปีนหน้าต่างหนี
“ปัง!”
ประตูถูกถีบจากข้างนอก เหยียนหมิงซุ่นปรากฏตัวที่หน้าประตูพลางมองพวกเหยียนหมิงต๋าด้วยสายตาเย็นชา
“คิดจะไปไหน?”
อู่เยวี่ยทำหน้าตกใจแล้วหลบไปอยู่หลังเหยียนหมิงต๋าอัตโนมัติ ในหัวทำงานว่องไวพยายามคิดหาหนทางว่าควรหนีไปจากที่นี่อย่างไรดี
เหยียนหมิงต๋ารู้สึกกลัวเหยียนหมิงซุ่นตามสัญชาตญาณเลยหดคออย่างอดไม่ได้ พอนึกถึงอู่เยวี่ยที่อยู่ข้างหลังก็บังคับให้ตัวเองต้องยืดอกขึ้นมา
“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเยวี่ยเยวี่ย พี่ปล่อยเธอไปเถอะ ผมจะกลับค่ายทหารกับพี่ ไม่ว่าจะลงโทษอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น!”
เหยียนหมิงต๋าคิดว่าคงเป็นคนในค่ายทหารบอกให้เหยียนหมิงซุ่นมาตามจับเขากลับไปรับโทษ
เหยียนหมิงซุ่นมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง ความจริงเขาเป็นห่วงน้องชายเพียงคนเดียวคนนี้มาตลอดถึงให้เขาเข้าไปอยู่ในค่ายทหารแล้ววางแผนเรื่องอนาคตไว้ให้เขา
ขอเพียงเหยียนหมิงต๋าเดินไปในเส้นทางที่เขาเตรียมไว้ให้ ชีวิตในอนาคตไม่มีทางแย่แน่นอน แต่ตอนนี้ความสำเร็จเบื้องหน้ากลับพังทลายเพราะผู้หญิงที่ชื่ออู่เยวี่ย
สัญชาตญาณในตอนนั้นของเขาถูกต้องเพราะอู่เยวี่ยคือตัวกาลกินีของเหยียนหมิงต๋า!
เหยียนหมิงต๋าไม่กล้ามองตาเหยียนหมิงซุ่น ความผิดหวังที่ล้นเปี่ยมในสายตาของเหยียนหมิงซุ่นเหมือนกับเข็มที่ทิ่มแทงลงหัวใจเขา
เขาผิดเองที่ทำให้พี่ใหญ่ต้องผิดหวัง!
“พี่ ผมขอโทษ…”
“ไม่ต้องพูดขอโทษกับฉัน นายเป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นายต้องรับผิดชอบกับทุกทางเลือกที่นายเลือก!”
เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเสียงนิ่ง แม้สีหน้าจะทำเป็นไม่สนใจแต่เขากลับรู้สึกแย่มาก นึกผิดหวังกับความไม่เอาไหนของน้องชายเหลือเกิน
ทำไมถึงไม่เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงที่ชื่ออู่เยวี่ยนี้สักที?
ทำไมถึงต้องถูกผู้หญิงคนนี้ทำลายอนาคตทุกครั้งเลยนะ?
อู่เยวี่ยเปลี่ยนใจถือโอกาสที่สองพี่น้องเหยียนหมิงซุ่นคุยกัน เธอแวบตัวไปอยู่ริมหน้าต่างอย่างว่องไว พร้อมเปิดหน้าต่างกระโดดลงไป
“เยวี่ยเยวี่ยอย่ากระโดด อันตราย!” เหยียนหมิงต๋าตกใจอย่างมากและคิดจะไปห้ามอู่เยวี่ย พวกเขาพักอยู่ชั้นสาม อู่เยวี่ยเป็นเพียงคนธรรมดาหากกระโดดลงไปแบบนี้ต้องเกิดเรื่องแน่
เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะทีหนึ่ง อู่เยวี่ยผ่านการฝึกฝนแบบพิเศษมาเชียวแล้วจะเป็นอะไรไปได้?
เหยียนหมิงต๋าไม่ได้ออกตัวช้ามากแต่ก็เร็วไม่เท่าอู่เยวี่ย พอเขาพุ่งไปริมหน้าต่างอู่เยวี่ยก็กระโดดลงไปแล้ว
เห็นความห่วงใยบนใบหน้าของเหยียนหมิงต๋า เหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกโกรธอย่างไม่ทราบสาเหตุจึงตวาดเสียงดังว่า “ไม่ตายหรอก!”
“นี่อยู่ชั้นสาม เยวี่ยเยวี่ยกระโดดลงไปแล้วจะไม่เป็นอะไรได้ยังไง ผมต้องลงไปดูหน่อยสิ!”
เหยียนหมิงต๋าใจเบาหวิว ข้อสงสัยทุกอย่างที่มีต่ออู่เยวี่ยก่อนหน้ามลายหายไปในชั่วพริบตาเหลือเพียงความห่วงใยเท่านั้น
ความห่วงใยที่มีต่ออู่เยวี่ยฝังลึกมาตั้งแต่เด็กจนสลักติดกระดูกไม่อาจเปลี่ยนไปได้ในเวลาสั้น ๆ ต่อให้เขารู้ดีว่าอู่เยวี่ยอาจจะหลอกเขาแต่เขาก็ทำใจไม่ใส่ใจอู่เยวี่ยไม่ได้
เหยียนหมิงซุ่นโกรธจนยกขาถีบ เขาออกแรงเตะไม่เบา เหยียนหมิงต๋าจึงล้มลงนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดพร้อมเลือดที่ไหลออกจากมุมปาก
“พาผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา!”
เหยียนหมิงซุ่นสั่งลูกน้อง ไม่นานอู่เยวี่ยที่ขากะเผลกก็ถูกกุมตัวขึ้นมา ด้านล่างมีแต่คนของเหยียนหมิงซุ่น อู่เยวี่ยเพิ่งกระโดดลงไปก็ถูกจับตัวเอาไว้แล้ว
“เจ้าโง่ ไม่รู้อะไรก็กล้าไปท้าทายเฮ่อเหลียนเช่อแล้ว นายรู้ไหมว่าทำไมเฮ่อเหลียนเช่อถึงกักบริเวณเธอ?”
เหยียนหมิงซุ่นตบหน้าเหยียนหมิงต๋าแรง ๆสองทีจนหน้าของเขาบวมเป่งราวกับหัวหมูแต่ก็ยังไม่รู้สึกสาสมใจอยู่ดี
……………………….
ตอนที่ 2126 ความจริงที่ยากจะรับได้
เหยียนหมิงซุ่นนึกเสียใจขึ้นมาจริง ๆ หากไม่มีฉิวฉิวเสี่ยวเป่าคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย ไปถึงขั้นนั้นแล้วไม่ว่าอย่างไรเฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่มีทางปล่อยเหยียนหมิงต๋าไป แม้แต่เขายังรับประกันตัวน้องชายเขาไม่ได้เลย
เดิมทีเรื่องนี้เป็นความผิดของเหยียนหมิงต๋า ไม่ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะทำอะไรก็สมเหตุสมผล หากเปลี่ยนเป็นเขาแล้วเหมยเหมยถูกคนทำร้าย เขาก็ต้องทำทุกทางเพื่อจัดการคนที่ทำร้ายเหมยเหมยเช่นกัน
“ทำไมนายถึงได้โง่ขนาดนี้ ถูกผู้หญิงคนนี้หลอกใช้ทำเรื่องโง่ ๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า สามปีก่อนซื้อระเบิดให้เธอจนทำให้เหอปี้อวิ๋นต้องตาย ตอนนี้ก็ผิดใจกับเฮ่อเหลียนเช่อเพราะเธอ แล้วก็เสี่ยวเป่า…”
เหยียนหมิงซุ่นด่าไปซ้อมไปซึ่งเหยียนหมิงต๋าก็ไม่ขัดขืน ใช้เพียงสองแขนป้องศีรษะไว้เงียบ ๆ
การตายของเสี่ยวเป่าเขามีส่วนผิดที่ปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้นเขายอมโดนซ้อม
“ขอโทษ…ผมไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องกับเสี่ยวเป่า ผมผิดเอง!”
เหยียนหมิงต๋าพูดเสียงพึมพำทำหน้าเจ็บปวดอย่างมาก
“เด็กเล็กขนาดนั้นถูกพามาในป่าลึกกลางเขาแบบนี้จะไม่เป็นอะไรได้อย่างไร นายไม่มีสมองเหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นกระทืบอีกทีด้วยความโกรธ เขาใช้เทคนิคอย่างแยบยล ฉะนั้นแม้เหยียนหมิงต๋าจะดูมีบาดแผลเต็มตัวแต่ไม่ได้สะเทือนถึงอวัยวะภายใน
เหยียนหมิงต๋าปิดหน้าด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลตามนิ้วมือ “ผมผิดเอง ผมเองที่ทำให้เสี่ยวเป่าต้องตาย…”
เหยียนหมิงซุ่นชะงัก เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเจ้าโง่เหยียนหมิงต๋าต้องคิดว่าเสี่ยวเป่าตายไปแล้วแน่ ๆ เขาไม่ได้บอกความจริงไป ให้เจ้าโง่นี่เข้าใจผิดต่อไปแล้วกัน
“นายมีความผิดแต่ฆาตกรที่แท้จริงคือเธอ เธอทำร้ายเสี่ยวเป่า!”
เหยียนหมิงซุ่นมองด้วยสายตารังเกียจ เขาไม่เคยพบเคยเจอผู้หญิงคนไหนใจเหี้ยมขนาดนี้มาก่อน มันน่าแค้นใจยิ่งกว่าถานซูฟางเสียอีก
ถานซูฟางทารุณเขานั่นเป็นเพราะเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆของถานซูฟาง แต่สำหรับเหยียนหมิงต๋าแล้วถานซูฟางจะดูแลเป็นอย่างดี ฉะนั้นถึงถานซูฟางจะเป็นคนชั่วร้ายแต่กลับเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่ง
แต่อู่เยวี่ยทำอะไรกับเสี่ยวเป่า?
วางยาพิษให้เด็กที่เพิ่งคลอดเพียงเพราะความโลภส่วนตัว จนถึงขั้นลงมือฆ่าลูกชายแท้ ๆของตัวเอง
หล่อนไม่คู่ควรถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำเพราะเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก!
เหยียนหมิงซุ่นไตร่ตรองอย่างละเอียดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเสี่ยวเป่าถึงเกิดเรื่องได้ ต้องเป็นเพราะอู่เยวี่ยรังเกียจเสี่ยวเป่าที่ทำให้เธอหนีไม่สะดวกเลยลงมือทำร้ายเขา
หากเขาเดาไม่ผิด อู่เยวี่ยคงใช้มือปิดปากและจมูกของเสี่ยวเป่าทำให้เสี่ยวเป่าขาดอากาศหายใจตาย
เหยียนหมิงต๋าส่ายศีรษะรัว “เปล่านะพี่ เสี่ยวเป่าตายเพราะอาการพิษไข้ ไม่เกี่ยวกับเยวี่ยเยวี่ย…”
“เจ้าโง่ ฉันเจอศพของเสี่ยวเป่าแล้ว และให้แพทย์นิติเวชชันสูตรศพดูแล้วเลยพบว่าเสี่ยวเป่าตายเพราะขาดอากาศหายใจ!”
เหยียนหมิงซุ่นจงใจพูดอย่างนั้นแล้วหางตาของเขาก็ลอบสังเกตท่าทีของอู่เยวี่ยตลอด จากนั้นก็พบว่าเธอเผลอทำหน้าตกใจไปชั่วขณะ เขาเลยยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่เขาเดาไว้คงไม่ผิด
สมแล้วที่เป็นคนชาติชั่วยิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน!
เหยียนหมิงต๋ามองเหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะมองไปทางอู่เยวี่ย ตายเพราะขาดอากาศหายใจได้อย่างไร?
เหยียนหมิงซุ่นถามต่อ “ตอนเสี่ยวเป่าเกิดเรื่องนายไม่อยู่ใช่ไหม?”
เหยียนหมิงต๋าพยักหน้ารับด้วยสีหน้าบื้อทึ่ม “ผมไปหายาลดไข้ให้เสี่ยวเป่า”
“ตอนที่นายไม่อยู่อู่เยวี่ยฆ่าเสี่ยวเป่าแล้วหลอกนายว่าเสี่ยวเป่าตายเพราะพิษไข้ มีแค่คนโง่อย่างนายเท่านั้นแหละที่เชื่อ!”
เหยียนหมิงซุ่นกระทืบเท้าอีกทีด้วยความโกรธ นับว่าโชคดีที่เสี่ยวเป่าได้เจอฉิวฉิวถึงรอดชีวิตมาได้ ไม่อย่างนั้นเหยียนหมิงต๋าคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ความแค้นระหว่างเขากับเฮ่อเหลียนเช่อคงต้องมีมากกว่าเดิม นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการเห็น
“เยวี่ยเยวี่ยหลอกผม…เป็นไปไม่ได้…เยวี่ยเยวี่ยไม่มีทางหลอกผม…”
ความจริงเหยียนหมิงต๋าเชื่อไปแล้ว แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่ยอมเชื่อถึงได้เจ็บปวดจับใจเช่นนี้
ตอนที่ 2127 สารภาพทั้งหมด
อู่เยวี่ยก้มหน้าอยู่ตลอดจึงมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกโกรธกับความดื้อด้านของเหยียนหมิงต๋าอย่างมาก หากไม่ใช่น้องชายแท้ ๆ เขาอยากกระทืบเจ้าโง่นี่ให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอดไปเลย!
ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้วกลับไม่ยอมเชื่อ สมองโดนลาถีบเข้าแล้วจริง ๆ!
ไฟโทสะสุมอยู่เต็มอกเหยียนหมิงซุ่นแต่ก็ซ้อมเหยียนหมิงต๋าให้ตายไม่ได้จริง ๆ เขามองอู่เยวี่ยอย่างเย็นชา ทุกอย่างเป็นความผิดของผู้หญิงคนนี้!
“เธอจะสารภาพเองหรือให้ฉันบีบบังคับ!”
เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยต่ออู่เยวี่ยด้วยเสียงเย็นยะเยือกจนอู่เยวี่ยตัวสะท้านอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ปิดปากแน่นไม่ยอมปริเสียง
“คิดว่าไม่พูดก็จะจบงั้นเหรอ? หึ…”
เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะแล้วส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ลูกน้องที่กุมตัวอู่เยวี่ยอยู่ ลูกน้องเข้าใจความหมายก็ลงมือไวปานสายฟ้าตะปบสะกดจุดสำคัญตามตัวอู่เยวี่ยหลายที
นี่เป็นวิธีที่พวกเขาไว้ใช้สอบสวนศัตรู ต่อให้เป็นคณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐเคจีบีที่ผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวดก็ทนวิธีนี้ไม่ได้
อู่เยวี่ยครางฮึมในลำคอทีหนึ่ง สีหน้าซีดเซียวและเหงื่อผุดไหลลงมาเป็นเม็ด ๆ ร่างกระตุกไม่หยุดราวกับมีมดนับพันนับหมื่นกำลังกัดกินร่างกายของเธอ ความเจ็บถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน…
เหยียนหมิงต๋าหมายจะเข้าไปช่วยอู่เยวี่ยแต่ถูกเหยียนหมิงซุ่นยกเท้าถีบไปอยู่ตรงมุมกำแพง กระดูกหักจนขยับตัวไม่ได้
“บอกมา เสี่ยวเป่าตายอย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นถาม
อู่เยวี่ยกัดฟันแน่นเพราะเธอไม่อยากยอมแพ้เหยียนหมิงซุ่นและยิ่งไม่อยากสารภาพว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเสี่ยวเป่า ตอนนี้เธอมาถึงทางตันแล้ว เหลือเพียงเหยียนหมิงต๋าที่จะช่วยชีวิตเธอได้
หากเธอยอมรับว่าเป็นคนฆ่าเสี่ยวเป่า เหยียนหมิงต๋าไม่มีทางภักดีกับเธอเหมือนเคยแน่นอน เธอจะสูญเสียความหวังสุดท้ายไปไม่ได้!
“โอ๊ย…เสี่ยวเป่า…เป็นไข้…”
อู่เยวี่ยกัดฟันไม่ยอมสารภาพง่าย ๆ เหงื่อชุ่มไปทั้งตัวราวกับเพิ่งถูกพาขึ้นมาจากน้ำ
เหยียนหมิงซุ่นส่งสัญญาณให้ลูกน้องแวบหนึ่ง ลูกน้องตะปบร่างอู่เยวี่ยอีกหลายที อู่เยวี่ยร้องโหยหวนเสียงดังแล้วกลิ้งไปมาบนพื้น
“ฉันยอมบอกแล้ว…ขอร้องละ ปล่อยฉันไปเถอะ…เสี่ยวเป่าตายเพราะฉันปิดปากจมูกให้หายใจไม่ออกเอง…”
อู่เยวี่ยจะทนความเจ็บปวดนี้ได้อย่างไรไหวเลยยอมเปิดปากรับสารภาพในทันที ณ เวลานี้เธอแค่อยากให้ความเจ็บปวดนี้รีบจบลงให้เร็วที่สุด ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นยิงเธอตอนนี้ให้เธอตายทีเดียวก็ย่อมได้
“ทำไมถึงต้องทำให้เสี่ยวเป่าขาดอากาศหายใจตายด้วย?” เหยียนหมิงซุ่นซักถามเสียงเย็นต่อไปแล้วมองเหยียนหมิงต๋าที่อยู่ตรงมุมกำแพงแวบหนึ่ง ตอนนี้เจ้าโง่นี่คงได้สติแล้วสินะ!
เหยียนหมิงต๋าไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เสี่ยวเป่าตายเพราะอู่เยวี่ยจริงหรือ?
นั่นลูกชายแท้ ๆของเธอเชียวนะ!
อู่เยวี่ยสติเริ่มพร่ามัวเพราะความเจ็บเลยพูดงึมงำว่า “นั่นมันภาระ…พาเสี่ยวเป่าไปฉันต้องหนีได้ไม่ไกลแน่…”
“ยาพิษในตัวเสี่ยวเป่าก็ฝีมือเธอเหมือนกันใช่ไหม? แล้วทำไมถึงต้องวางยาพิษเสี่ยวเปาด้วย?”
“ฉันเป็นคนทำเอง เพราะเฮ่อเหลียนเช่อคิดจะฆ่าฉัน ขอแค่ทำให้เสี่ยวเป่าอยู่ห่างฉันไม่ได้ฉันถึงจะรอด…ขอร้องละปล่อยฉันไปเถอะ ฉันยอมบอกหมดแล้ว…”
อู่เยวี่ยอ้อนวอน ตอนนี้เธอแค่อยากให้จบทีเดียว ไม่อยากคิดอย่างอื่นอีกแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมปล่อยอู่เยวี่ยไปง่าย ๆ ครั้งนี้เขาจะเป็นคนถลกหนังหัวเปิดเผยธาตุแท้ของอู่เยวี่ยเอง เพื่อให้เจ้าโง่เหยียนหมิงต๋าดูให้ชัดว่าผู้หญิงที่เขาชอบเป็นคนอย่างไร!
“เหอปี้อวิ๋นถูกเธอวางระเบิดตายใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามอีก
“ใช่…แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ…ฉันจำเป็นต้องทำ…”
อู่เยวี่ยยังคิดจะแก้ตัวแต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไร การวางระเบิดแม่แท้ ๆที่รักเธอมากก็คือความผิดที่รุนแรงอย่างไม่น่าให้อภัยแล้ว
“เหอปี้อวิ๋นฆ่าคนเพราะเธอเป็นคนวางแผนใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นเริ่มขุดคุ้ยบัญชีเก่าขึ้นมา เพราะคดีฆาตกรรมของเหอปี้อวิ๋นเขาสงสัยมาโดยตลอด
“ใช่…ฉันจงใจให้แม่คิดว่าพวกเขารังแกฉัน…ขอละฆ่าฉันให้จบ ๆไปเลยเถอะ…” อู่เยวี่ยยอมรับหมดแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากรีบหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้โดยเร็ว!
……………………
ตอนที่ 2128 พิษหยดสุดท้าย
เหยียนหมิงต๋านอนอยู่บนพื้นด้วยท่าทีเหม่อลอย ความเจ็บจากแผลบนตัวยังไม่สู้ความเจ็บในใจเลยสักนิด เจ็บจนเขาแทบขาดใจตาย
ที่แท้ก็โกหกเขาทั้งเพ!
มิน่าพี่ใหญ่ถึงได้ด่าว่าเขาโง่ เขามันโง่จริง ๆ โง่ยิ่งกว่าหมูด้วยซ้ำ!
แล้วยังเป็นคนตาบอดมองไม่เคยเห็นธาตุแท้ของอู่เยวี่ยมาเลยตลอด ถูกเธอหลอกปั่นหัวแล้วยังเสียอนาคตเพราะเธออีกต่างหาก!
เหยียนหมิงต๋าพลันรู้สึกโกรธ เขาฝืนทนความเจ็บจากขาที่หักคลานไปหาอู่เยวี่ย เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ห้ามเขาเพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา
“ทำไมเธอถึงหลอกฉัน…เธอทำแบบนี้กับฉันได้อย่างไร…”
เหยียนหมิงต๋าคำถามด้วยความโกรธแล้วเขย่าตัวอู่เยวี่ยไปมาไม่หยุด อู่เยวี่ยเจ็บเจียนตายแล้วจะมีอารมณ์มาหลอกเขาได้อย่างไรอีก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มาถึงจุดนี้แล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องหลอกเจ้าโง่นี้อีกต่อไป!
“พี่มันโง่เอง พี่ยอมให้ฉันหลอกเอง…” อู่เยวี่ยพูดเสียงขาดห้วง
“อ๊าก…”
เหยียนหมิงต๋าตะโกนด้วยความเจ็บปวด เขาเกลียดเหลือเกิน!
เกลียดที่เขาจริงใจกับความรักแต่กลับถูกผู้หญิงคนนี้ทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี แล้วยังหลอกใช้ให้เขาทำร้ายผู้อื่น!
เสี่ยวเป่าที่น่าสงสาร!
“เธอมันสมควรตาย!” จู่ ๆเหยียนหมิงต๋าก็เข้าไปบีบคออู่เยวี่ย ใบหน้าบิดเบี้ยวดวงตาแดงก่ำ
อู่เยวี่ยดิ้นรนไม่หยุดแต่อากาศกลับน้อยลงไปเรื่อย ๆ ใบหน้าเริ่มเขียวช้ำ กรรมตามสนองแล้ว เธออุดปากจมูกเสี่ยวเป่าจนตายและตอนนี้เธอก็ได้ลิ้มรสชาติแล้วว่าการขาดอากาศหายใจตายมันเป็นอย่างไร
เหยียนหมิงซุ่นได้แต่มอง รออู่เยวี่ยใกล้จะทนไม่ไหวถึงทำท่าให้ลูกน้องแยกตัวเหยียนหมิงต๋าออกมา
ตอนนี้อู่เยวี่ยยังตายไม่ได้ เขาต้องส่งตัวผู้หญิงไปให้เฮ่อเหลียนเช่อจัดการ
“แค่ก ๆ”
อู่เยวี่ยไออย่างหนักแล้วกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ความรู้สึกหลังรอดพ้นจากความตายทำให้เธอไม่อยากตายอีกแล้ว ความชั่วร้ายที่ฝังอยู่ในกมลสันดานทำให้เธอเริ่มคิดแผนชั่วร้ายขึ้น
ครั้งนี้เธอคงหนีไม่พ้นแล้ว แต่เธอจะไม่ให้ใครอยู่สบายเช่นกัน!
“เหยียนหมิงต๋า พี่คิดว่าพี่ชายของพี่ดีกับพี่จริงเหรอ? พี่ไม่ลองคิดดูสิว่าแม่ของพี่ทำร้ายแม่ของเขา แล้วเขาจะไม่แก้แค้นได้อย่างไร…พี่รู้ไหมว่าทำไมแม่ของพี่ถึงตาย…เจ้าโง่…”
ลูกน้องรีบสับคางอู่เยวี่ยแต่อู่เยวี่ยพูดจบแล้ว เธอมองสองพี่น้องเหยียนหมิงซุ่นด้วยสายตาร้ายกาจแต่ก็ได้ปล่อยพิษหยดสุดท้ายไปแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้ว เขาไม่มีอะไรต้องรู้สึกผิดเลยไม่กลัวถูกอู่เยวี่ยใส่ร้าย แต่เจ้าโง่เหยียนหมิงต๋าเขาไม่วางใจเลยจริง ๆ
เหยียนหมิงต๋าสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย การตายของถานซูฟางเป็นเหมือนหนามที่ยอกอกเขามาตลอดเพราะอดีตเขาเคยสงสัยเหยียนหมิงซุ่นเช่นกัน แต่เขาโน้มน้าวตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนว่าพี่ใหญ่ไม่มีทางทำอย่างนั้น!
แต่ถ้อยคำของอู่เยวี่ยเหมือนหนามที่ตำลงในใจของเหยียนหมิงต๋าอีกครั้ง ต่อให้เล็กมากแต่ก็ไม่แน่ว่าวันไหนจะผุดออกมา!
“พาเธอไป!”
เหยียนหมิงซุ่นผิดหวังกับความเงียบของเหยียนหมิงต๋าน้อย ๆ แต่เขาไม่ได้อธิบายอะไรมาก เขาไม่เคยเสียแรงอธิบายอะไร คนที่เข้าใจคุณย่อมเข้าใจดีโดยไม่ต้องพูดอะไร คนที่ไม่เข้าใจต่อให้พูดมากแค่ไหนก็เปลืองน้ำลายเปล่า!
เหยียนหมิงต๋าถูกพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล รอแผลหายดีเขาต้องกลับไปรับโทษที่ค่ายทหาร ส่วนอู่เยวี่ยพอถึงเมืองหลวงเขาก็ส่งไปที่เฮ่อเหลียนเช่อทันที
“มีแค่นังแพศยานี่แล้วน้องชายของแกล่ะ?” เฮ่อเหลียนเช่อไม่พอใจอย่างมาก
แผลบนตัวเสี่ยวเป่าจนถึงตอนนี้ยังไม่หายดีและยังมีอาการคันมาก เสี่ยวเป่ามักใช้มือเกาอย่างอดไม่ได้จนแผลเป็นรอยเหวอะหวะ เขากับเหมยซูหานจำต้องใช้เชือกมัดมือเสี่ยวเป่าไว้ไม่ให้เขากระดิกได้
เจ้าตัวเล็กได้แต่ร้องครางอย่างเจ็บปวดซึ่งสร้างความเจ็บปวดใจแก่เขาอย่างหนัก ยิ่งแค้นอู่เยวี่ยกับเหยียนหมิงต๋าจนนึกอยากเขมือบลงท้องเสียให้รู้แล้วรู้รอด พอตอนนี้ไม่เห็นเหยียนหมิงต๋าเขาย่อมไม่มีทางพอใจอยู่แล้ว!
ตอนที่ 2129 คนของฉันมีแค่ฉันที่จัดการได้
ท่าทีของเฮ่อเหลียนเช่ออยู่ในความคาดหมายของเหยียนหมิงซุ่น เขาจึงไม่คิดจะพูดอ้อมค้อมกับหมอนี่เลยบอกไปตามตรงว่า “หมิงต๋าทำผิดจริง ฉันจะลงโทษเขาเอง ไม่ต้องลำบากแกหรอก”
เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน เขามองอีกฝ่ายอย่างเย็นยะเยือก “เหยียนหมิงซุ่นนี่แกจงใจจะต่อกรกับฉันสินะ?”
“แน่นอนว่าเปล่า แค่…คนของฉัน มีแค่ฉันที่จัดการได้” เหยียนหมิงซุ่นเน้นเสียงหนักแน่น แม้รู้ดีว่าเช่นนี้จะเป็นการสร้างความบาดหมางกับเฮ่อเหลียนเช่อ แต่เขาจะส่งเหยียนหมิงต๋าให้เจ้าโรคจิตนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ไม่ว่าจะเพราะความสัมพันธ์หรือเพราะศักดิ์ศรี เขาจะยอมไม่ได้!
ไม่อย่างนั้นเมื่อไรที่เขามอบตัวน้องชายแท้ ๆให้เขาไปต้องมีข่าวลือแพร่สะพัดทั่วเมืองหลวงทันทีว่าคุณชายหมิงเกรงกลัวคุณชายเช่อเลยมอบตัวน้องชายเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง…
เมืองนี้มีคนรอดูเรื่องตลกเขามากนัก แต่ละคนคอยจับตาดูทุกย่างก้าวของเขาและคอยติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้อยู่ เขาจะพูดผิดไม่ได้แม้แต่ประโยคเดียวและจะทำผิดไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว เขาต้องรอบคอบระมัดระวังเสมอ
เฮ่อเหลียนเช่อมีสีหน้าเรียบนิ่ง ความจริงเขาพอจะคาดเดาวิธีการของเหยียนหมิงซุ่นได้แต่แรกแล้ว เปลี่ยนเป็นเขาก็ไม่มีทางส่งมอบคนของตัวเองให้คู่อริแน่นอน ต่อให้เป็นลูกน้องก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แล้วนี่ยิ่งเป็นน้องชายแท้ ๆอีกต่างหาก!
“เหยียนหมิงซุ่น ทางที่ดีแกอธิษฐานให้พระเจ้าคุ้มครองน้องชายของแกให้ได้ตลอดชีวิตแล้วกัน หึ…อย่าให้ฉันเจอตัวล่ะ!” เฮ่อเหลียนเช่อข่มขู่ออกไปตรง ๆ
“งั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแกแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อ เรามาพนันกัน!” จู่ ๆเหยียนหมิงซุ่นก็ยื่นข้อเสนอขึ้นมา เรียกให้เฮ่อเหลียนเช่อชะงักไม่เข้าใจความหมาย
“พนันอะไร?”
“ถึงหมิงต๋าจะทำผิดไปแต่เขาถูกอู่เยวี่ยหลอกใช้ถึงได้ทำเรื่องโง่ ๆ ตอนนี้เสี่ยวเป่าไม่เป็นไรแล้ว จะว่าไปเหมยเหมยของฉันก็เป็นผู้มีพระคุณของเสี่ยวเป่าเชียวนะ บุญคุณความแค้นหักล้างกันไปนายว่ายังไง?”
เหยียนหมิงซุ่นเบี่ยงประเด็นไม่เอ่ยถึงเรื่องพนัน ผ่อนน้ำเสียงลงใช้เหตุผลและความรู้สึกหว่านล้อมเฮ่อเหลียนเช่อ
เหมยซูหานเอาศอกกระทุ้งหลังเฮ่อเหลียนเช่อเบา ๆให้เขามีขอบเขตอย่าเอาแต่กัดไม่ปล่อย
เขากับเหยียนหมิงต๋ารู้จักกันมาหลายปีจึงรู้ดีว่าเจ้าโง่นี่หลงใหลอู่เยวี่ยเพียงใด เรื่องนี้ถึงเหยียนหมิงต๋าจะมีความผิดแต่ไม่ใช่ความผิดถึงขั้นต้องตาย คนที่ควรตายคืออู่เยวี่ย
สิ่งสำคัญที่สุดคือเสี่ยวเป่าไม่ได้เป็นอะไรถึงชีวิตแต่กลับพลิกวิกฤตเป็นโอกาสที่จะได้รับชีวิตใหม่อีกด้วย ในเมื่อเหยียนหมิงซุ่นตามจับอู่เยวี่ยกลับมาได้ก็ให้เรื่องนี้จบเพียงเท่านี้ เหตุใดต้องต่อกรกับเหยียนหมิงซุ่นต่อล่ะ?
เฮ่อเหลียนเช่อบิดตัวเล็กน้อย แสร้งไม่รับรู้ถึงการเตือนจากเหมยซูหาน เขาเข้าใจเหตุผลดีแต่เขาทนไม่ได้
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเสี่ยวเป่าแต่มันคือเรื่องศักดิ์ศรีของเขาด้วย ตอนนี้ข้างนอกต้องมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังหัวเราะเยาะเขา เย้ยที่ลูกน้องเขาไร้ความสามารถแม้แต่ผู้หญิงกับเด็กทารกยังคุมไม่อยู่ แต่ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นกลับจับตัวได้อย่างง่ายดาย
เหมยซูหานมองปราดเดียวก็รู้ทันว่าเจ้าหมอนี่กำลังคิดอะไรอยู่ เจ้าหมอนี่คิดถึงแต่เรื่องศักดิ์ศรีจนไม่สนใจความรู้สึกของตนเอง เขาจึงบันดาลโทสะในชั่วขณะ ยกเท้าถีบตรงข้อพับขาของเฮ่อเหลียนเช่อ ดูสิว่าเขายังกล้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกไหม
เหยียนหมิงซุ่นปากกระตุก ดูไม่ออกเลยว่าเหมยซูหานที่อ่อนโยนเรียบร้อยมาโดยตลอดจะมีมุมที่โหดแบบนี้ด้วย!
ดูท่าทางเฮ่อเหลียนเช่อที่ดุร้ายยิ่งกว่าเสือจะถูกเหมยซูหานที่ดูไร้พิษสงกำราบเสียอยู่หมัดแล้ว สมแล้วที่บนโลกนี้มีคนปราบพยศได้!
เฮ่อเหลียนเช่อไม่กล้าขัดขืนเหมยซูหานแต่เขายังไม่พอใจอยู่ดีเลยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เมื่อกี้แกบอกว่าพนันหมายความว่าไง?”
เหยียนหมิงซุ่นลอบยิ้มร่าในใจ รู้อยู่แล้วว่าหมอนี่ต้องหลงกล ช่วงนี้สติปัญญาใช้ไม่ได้เลย!
…………………….
ตอนที่ 2130 ค่อยๆ ทรมานอู่เยวี่ยจนตาย
“ง่ายมาก ถึงจะหักล้างบุญคุณความแค้นไปแต่ฉันก็ยังค้างคาใจอยู่ดี หมิงต๋าต้องได้รับโทษจริง ๆ เอางี้แล้วกันฉันให้เวลาแกหนึ่งปี ในหนึ่งปีนี้แกไปคิดบัญชีกับหมิงต๋าได้ แกจะทำอะไรก็ได้ ถ้าหมิงต๋าตายหรือพิการนั่นเป็นเพราะเขาไร้ความสามารถ แต่ถ้า…”
เฮ่อเหลียนเช่อพูดขัดเขาแล้วเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “ไม่มีคำว่าถ้า…เหยียนหมิงซุ่น แกเป็นคนพูดเองนะ ถึงตอนนั้นถ้าฉันทำน้องชายของแกตายแกอย่ามาคิดบัญชีกับฉันเชียว!”
“ไม่หรอก หนึ่งปีนี้ถ้าแกมีความสามารถมากพอ ต่อให้จะหั่นหมิงต๋าเป็นชิ้น ๆ ฉันก็จะไม่ว่าสักคำ!” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงหนักแน่น
เฮ่อเหลียนเช่อตาประกายวาวอย่างกระหายเลือด อย่าว่าแต่หนึ่งปีเลย ต่อให้เพียงครึ่งปีเขาก็สามารถจบชีวิตไอ้สารเลวเหยียนหมิงต๋าได้เช่นกัน!
ได้ยินมานานแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเหยียนหมิงซุ่นกับพ่อแท้ ๆและแม่เลี้ยงไม่ดีมากนัก หรือว่าหมอนี่คิดจะอาศัยมือเขาฆ่าน้องชายแท้ ๆ?
ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้ยื่นข้อเสนอการพนันแสนโง่เขลาแบบนี้ได้ล่ะ?
เหมยซูหานเองก็มองเหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงท้าพนันแบบนี้ นี่กำลังส่งเหยียนหมิงต๋าไปตายชัด ๆ!
“เหยียนหมิงซุ่น นายลองคิดดูดี ๆอีกทีเถอะ เหยียนหมิงต๋าเป็นน้องชายแท้ ๆของนายนะ!” เหมยซูหานเอ่ยเตือนเสียงอ่อน หวังว่าเขาจะไม่เผลอทำอะไรโง่ ๆเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
เฮ่อเหลียนเช่อถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ ทำไมถึงได้เข้าข้างคนนอกนักนะ!
“ดี เรื่องนี้ตกลงตามนี้ เริ่มพนันกันเมื่อไร?” เฮ่อเหลียนเช่อกลัวเหยียนหมิงซุ่นกลับคำเลยตอบตกลงไปโดยไม่คิด
“หนึ่งเดือนหลังจากนี้ รอแผลตรงขาของหมิงต๋าหายดีค่อยเริ่ม!”
เหยียนหมิงซุ่นมองเขาอย่างเรียบนิ่งและไม่มีสีหน้าสื่ออารมณ์ใด ๆจนทำให้คนเดาความคิดของเขาไม่ถูก
“ได้ ตกลง!” เฮ่อเหลียนเช่อแสยะยิ้มกว้างและจับมือถือว่าสร้างสัญญากับเหยียนหมิงซุ่น
เหมยซูหานได้แต่ภาวนาให้เหยียนหมิงต๋าเงียบ ๆ ดูท่าทางเวลาจบชีวิตของเจ้าโง่นี่เริ่มนับถอยหลังแล้ว เฮ้อ!
“งั้นผู้หญิงคนนี้ก็ฝากแกด้วยแล้วกัน!”
เหยียนหมิงซุ่นส่งสัญญาณให้ลูกน้องก่อนที่อู่เยวี่ยในสภาพทรุดโทรมจะถูกพาตัวเข้ามา ไม่ต้องรอคนของเฮ่อเหลียนเช่อรับตัวไปเหยียนหมิงซุ่นก็ลงมือไวปานสายฟ้าตบตามตัวอู่เยวี่ยติดต่อกันหลายครั้ง คางของอู่เยวี่ยถูกสกัดไว้ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดถาโถมเข้ามาจนยากจะรับไหว แต่กลับปริเสียงไม่ออกเลยทำหน้าบิดเบี้ยวดูแล้วน่าเกลียดอย่างมาก
“แกทำอะไร!” เฮ่อเหลียนเช่อไม่พอใจมาก
ต่อให้อู่เยวี่ยสมควรตายอย่างไรก็เป็นคนของเขา เหยียนหมิงซุ่นมีสิทธิ์อะไรมาจัดการคนของเขาต่อหน้าเขากัน?
เรื่องความลำเอียงสองคนนี้คล้ายกันดีนะ!
“ฉันสะกดจุดตรงกระดูกสะบักกับแขนขาหล่อนเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวได้ในหนึ่งเดือน เผื่อถึงตอนนั้นจะได้ไม่ฟื้นคืนชีพปลอมตัวเป็นคนอื่นมาทำร้ายใครอีก!” เหยียนหมิงซุ่นสะบัดมือมองอู่เยวี่ยที่นอนขดตัวบนพื้นอย่างเย็นชา
เฮ่อเหลียนเช่อทำหน้าไม่ถูกเลยแค่นเสียงเอ่ย “มาอยู่ในมือฉันแล้วจะให้หล่อนหนีไปได้ไง นังแพศยานี่ฉันจะค่อย ๆ ทรมานให้ตายอย่างช้า ๆเอง!”
“หวังว่าแกจะทำได้อย่างที่พูด หนึ่งเดือนหลังจากนี้ฉันต้องเห็นศพของอู่เยวี่ยนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะพาลูกน้องไปจากทีนี่
อู่เยวี่ยหมดค่าแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อย่อมไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปแต่เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดไม่คิดขึ้น ช่วงนี้เขาจะส่งคนคอยจับตาดูไว้ เขาจะปล่อยให้อู่เยวี่ยหนีไปอีกครั้งไม่ได้เด็ดขาด!
คราวนี้นังแพศยานี่ต้องตาย!
เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงใส่หลังเหยียนหมิงซุ่นอีกที พลางมองอู่เยวี่ยที่สลบหมดสติไปบนพื้นอย่างรังเกียจแล้วโบกมือให้ลูกน้อง “พาเธอไปแล้วต้อนรับเธอให้ดีหน่อยแล้วกัน!”
หึ ฆ่านังแพศยานี้ตายทีเดียวก็เสียเปรียบแย่ เขาจะใช้เครื่องทรมานทุกชิ้นที่หนิงเฉินเซวียนคิดค้นขึ้นมาจัดการกับอู่เยวี่ยหนึ่งรอบ หลังจากเธอได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดครบแล้วถึงจะให้เธอตายทีเดียว!
ตอนที่ 2131 ถูกหลอกอีกแล้ว
พอเหมยเหมยรู้ว่าอู่เยวี่ยถูกจับกลับมาแล้วก็พลันนึกโล่งใจ แต่เพียงไม่นานก็รู้สึกกังวล
“คราวนี้เฮ่อเหลียนเช่อคงไม่ปล่อยเธอหนีไปอีกใช่ไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นเห็นท่าทีตึงเครียดของเธอ ก็อดขำไม่ได้ “วางใจเถอะ เฮ่อเหลียนเช่อแทบจะกินอู่เยวี่ยทั้งเป็นอยู่แล้ว จะปล่อยเธอไปได้ยังไง ตอนนี้คงจะทรมานอู่เยวี่ยอยู่แน่นอน!”
“งั้นก็ดี ผู้หญิงชั้นต่ำยิ่งกว่าเดรัจฉาน ต่อให้ใช้ทัณฑ์หลิงฉือ[1]บั่นเอวทิ้งก็คงไม่หายโมโห ไม่มีความเป็นคนเลยสักนิด…” เหมยเหมยด่าทออย่างเคียดแค้น แค่เธอนึกถึงเสี่ยวเป่าที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินเพียงลำพัง ไฟโทสะก็ยิ่งปะทุสูงขึ้น ซ้ำยังนึกอยากกินอู่เยวี่ยทั้งเป็น
เจ้าบ้าเฮ่อเหลียนเช่อรักเสี่ยวเป่ามากยิ่งกว่าเดิม ดูท่าคงไม่ปล่อยยัยชั่วนั่นไปแน่ ๆ ครั้งนี้คงถึงคราวตายของอู่เยวี่ยแล้วจริง ๆ!
“แล้วเหยียนหมิงต๋าเป็นอย่างไรบ้าง? เฮ่อเหลียนเช่อยอมปล่อยเขาไปไหม?” เหมยเหมยนึกว่าไอ้คนวิปริตจอมใจแคบนั่นไม่มีทางปล่อยเหยียนหมิงต๋าไปแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวอะไรจึงรู้สึกแปลกใจมาก!
เหยียนหมิงซุ่นเล่าเรื่องเดิมพันระหว่างเขากับเฮ่อเหลียนเช่อพร้อมแกะกุ้งมังกรน้อยให้เธอกินไปพลาง เจ้าพวกนี้แพร่พันธุ์ได้รวดเร็วนัก เมื่อปีก่อนเขาโยนพวกมันลงไปในสระหลังบ้านเพียงแค่ไม่กี่ตัว คิดไม่ถึงว่าปีนี้มันจะกลายเป็นหายนะไปเสียได้
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่กี่วันก่อนฝนตกหนักจนกุ้งมังกรน้อยในบ่อปีนขึ้นมาเกลื่อนกลาดเต็มไปทั่วบริเวณนั้น เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสระน้ำในบ้านของตนเองได้กลายเป็นโลกของกุ้งมังกรน้อยไปแล้ว!
สระบัวในบ้านก็ไม่ใช่เล็ก ๆ ลุงเหลาแค่งมหามาลวก ๆกับข้าวมื้อนั้นก็ตั้งเต็มโต๊ะแล้ว คาดว่าคงเพียงพอที่จะบริการให้ยัยปีศาจน้อยไปได้อีกครึ่งค่อนเดือนเชียวล่ะ
เหยียนหมิงซุ่นปวดขมับแต่เหมยเหมยกลับดีใจยกใหญ่ พูดสวยหรูว่าไม่ควรทำให้เสียของโดยเปล่าประโยชน์จึงให้ป้าฟางทำผัดเผ็ดกุ้งมังกรน้อยแทบทุกวัน เธอกินอย่างชอบใจทั้งยังลากฉิวฉิวมากินด้วยอีกต่างหาก ทั้งคนทั้งกระรอกกินอย่างเอร็ดอร่อย
ช่วงนี้ลุงเหลาป้าฟางคู่สามีภรรยาก็ถูกเหมยเหมยชักจูงไปด้วยจนทานหมดชามใหญ่ทุกวัน แม้แต่เขาที่ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบกินกุ้งมังกรน้อยสักเท่าไรนักยังติดชอบทานไปด้วยจนต้องทานตามกันไป
ส่วนเมื่อก่อนที่เขาเคยตั้งกฎไว้ว่าในหนึ่งเดือนจะทานกุ้งมังกรน้อยได้แค่สามมื้อเท่านั้น โดยหนึ่งมื้อจะต้องไม่เกินหนึ่งกิโล แต่นั่นก็ถูกลืมไปตั้งนานแล้วและไม่มีใครเอ่ยถึงอีก!
เหยียนหมิงซุ่นนำเนื้อกุ้งมังกรน้อยที่แกะเสร็จแล้วแกว่งไปมาข้างมุมปากของเหมยเหมยอย่างยียวน จากนั้นก็ยิ้มแล้วส่งเข้าปากตัวเองไป หลังจากที่กินเจ้าสิ่งนี้มาหลายครั้งก็ถือว่ารสชาติไม่เลวเลย ตอนนี้เขาเริ่มที่จะเชื่อคำพูดของยัยปีศาจน้อยขึ้นมาแล้วว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเจ้ากุ้งมังกรน้อยพวกนี้คงถูกจับกินจนสูญพันธุ์ได้!
“ไอ้บ้า…”
เหมยเหมยโมโหจนต้องฟาดมือลงบนหลังมือของเหยียนหมิงซุ่นอย่างแรง จากนั้นก็หยิบอีกตัวหนึ่งขึ้นมาแกะ ฉิวฉิวที่อยู่ข้าง ๆมีภูเขาขนาดย่อมกองอยู่ตรงหน้านานแล้ว เขี้ยวของคุณชายฉิวแหลมคมมาก แกะได้ว่องไวเสียยิ่งกว่าเหยียนหมิงซุ่น แวบเดียวก็แกะมาได้ตัวหนึ่งแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะร่าพลางแกะอีกหนึ่งตัวและป้อนเหมยเหมยที่กำลังโมโหอยู่ นั่นจึงทำให้เธอยิ้มได้ จากนั้นจึงหันมาสนใจน้องชายหน้าโง่อย่างเหยียนหมิงต๋าต่อ!
“คนอย่างเหยียนหมิงต๋าจะเป็นคู่ปรับของเฮ่อเหลียนเช่อได้เหรอ? เธอลองพนันดูสิว่าครั้งนี้เหยียนหมิงต๋าจะรอดไหม?” เหมยเหมยรู้สึกแปลกใจต่อความคิดของเหยียนหมิงซุ่นมาก ทำไมถึงได้ผลักน้องชายตัวเองเข้าไปในเตาไฟอย่างนั้นล่ะ!
“ปีนี้ทั้งปีให้เหยียนหมิงต๋าไปอยู่ในหุบเขาลึก เขาจำเป็นต้องขังตัวสำนึกผิด คิดได้เมื่อไรค่อยออกมา”
เหยียนหมิงซุ่นวางแผนไว้อยู่แล้ว เหยียนหมิงต๋าอยู่ในกองทัพอีกต่อไปไม่ได้จึงเตรียมที่จะส่งเขาไปอยู่ในป่ารกร้างห่างไกลผู้คน ให้เขาได้อยู่เงียบ ๆและขบคิดสักปี ไม่มีไฟฟ้าไม่มีอินเทอร์เน็ตไม่มีโทรศัพท์ อยากรู้เหมือนกันว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะตามหาเหยียนหมิงต๋าเจอได้อย่างไร!
เหมยเหมยเข้าใจความหมายของเขาในทันทีจึงยกนิ้วโป้งให้เขา ผู้ชายของเธอช่างเยี่ยมจริง ๆ เฮ่อเหียนเช่อหน้าโง่นั่นโดนหลอกอีกแล้ว!
ในท่าทีสงบนิ่งของเหยียนหมิงซุ่นนั้นมีความพึงพอใจซุกซ่อนไว้อยู่ เขาชื่นชอบการได้รับคำชมจากภรรยาเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถ้าเปลี่ยนสถานที่มันคงดีกว่านี้
“รีบกินเถอะ…กินเยอะ ๆล่ะ!”
เหยียนหมิงซุ่นดูขยันขันแข็งขึ้นมา รีบกินจะได้รีบเข้าห้องจัดการธุระไงล่ะ!
เหมยเหมยมองค้อนใส่แล้วบังเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นจึงยื่นเท้าออกไปเหยียบมั่วซั้วเรื่อยเปื่อย และไม่รู้ด้วยว่าเหยียบโดนส่วนไหนเข้า เหยียนหมิงซุ่นตัวแข็งทื่อทันที แววตาก็หม่นลงส่อแววอันตราย
“…เธอกำลังจุดประกายไฟอยู่นะ ที่รัก…อีกเดี๋ยวค่อยกินนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นอุ้มเหมยเหมยขึ้นมอบกุ้งมังกรน้อยชามใหญ่เป็นรางวัลให้กับฉิวฉิว แล้วพุ่งตรงไปที่ห้องนอนอย่างอดใจไม่ไหว…
…………………………………………………………
ตอนที่ 2132 แบบสรีระ(มนุษย์)
อู่เยวี่ยถูกจับตัวได้แล้ว เหยียนหมิงต๋าเองก็ถูกส่งตัวไปเป็นนักพรตในเขตป่าลึก เรื่องน่ารำคาญใจถูกคลี่คลายลงไปเกือบหมดแล้ว เหมยเหมยจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก รวมถึงการที่มีกุ้งมังกรน้อยให้กินทุกวันไม่มีหมดยิ่งทำให้อารมณ์ดีมากขึ้นไปอีก!
แต่ในช่วงเวลานี้เธอรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างที่เธอลืมเลือนไปแต่กลับนึกไม่ออก หลายครั้งที่ลอยแวบเข้ามาในหัวแต่ก็จับไว้ไม่ได้สักที
“เธอเป็นอะไรไป ดูใจลอยจัง คงไม่ใช่เพราะเมื่อคืนถูกผู้ชายของเธอจัดซะอ่วมหรอกนะ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขยิบตาส่งให้เหมยเหมยอย่างมีเลศนัยด้วยเจตนาร้าย
ช่วงนี้เธอปลดปล่อยตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกมื้ออาหารต้องมีเนื้อสัตว์ ไม่มีเนื้อสัตว์ก็จะไม่มีความสุข ร่างกายก็พลันอวบอิ่มขึ้นทุกวัน หน้าตามีราศีราวกับจักรพรรดินีเจิ้งกง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนอ้วนที่มีความสุข
“ปากของหมาคายงาช้างออกมา[2]ไม่ได้จริง ๆ…รีบกินข้าวไปเลย!” เหมยเหมยจ้องเธอเขม็งอย่างโมโห
ระยะนี้แม่สาวอ้วนนี่เริ่มพูดจาเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ คำพูดอะไรก็กล้าพูดออกมาหมดราวกับคนที่ผ่านประสบการณ์ลิ้มลองเรื่องนั้นมาแล้วจึงกล้าพูดโต้ง ๆออกมาอย่างไม่อายปาก แถมยังชอบถามถึงเรื่องบนเตียงเป็นพิเศษด้วย
“ปากของหมาคายได้แค่เขี้ยวหมา ถ้าคายงาช้างออกมาได้ฉันคงเลี้ยงหมาเป็นคอก เก็บงาช้างขายแล้วเปิดร้านหม้อไฟเนื้อหมา จะว่าไปเรื่องการตุ๋นเนื้อหมาของแม่อิงจวี้กังก็นับว่าสุดยอดเหมือนกัน รสชาตินั้น…หอมที่สุดเลย ปีหน้าฉันจะเปิดร้านหม้อไฟเนื้อหมา ธุรกิจจะต้องไปไกลแน่นอน!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดจนน้ำลายสอ แววตาทอประกาย ในหัวคิดคำนวณถึงเงินทุนที่ต้องใช้ในการเปิดร้าน แม้แต่ชื่อร้านก็คิดไว้แล้ว
“ถ้าเธอยังกินไม่หยุด ระวังเอาไว้เถอะตอนแต่งงานเจ้าบ่าวจะอุ้มเธอไม่ไหว!” เหมยเหมยจงใจพูดประชด แต่ที่พูดไปก็คือความจริง
อิงจวี้กังเป็นหนุ่มแบบฉบับของชาวตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนสูงปานกลางและค่อนข้างผอม น้ำหนักของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสามารถทับเขาได้เลย พละกำลังแค่นั้นของอิงจวี้กังจะอุ้มเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนในงานแต่งงานได้อย่างไร? คงโดนทับจนแบนแทนแน่!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก้มมองสำรวจร่างกายขาว ๆอวบอ้วนของตัวเอง แล้วมีท่าทีจริงจังขึ้นมา
“นั่นสิ…ต้องอุ้มท่าเจ้าหญิงด้วย…ไม่ได้การล่ะ ต้องเริ่มลงมือตอนนี้เลย!”
ฉีฉีเก๋อพูดเย้าหยอก “เธอจะเตรียมตัวลดความอ้วนอีกแล้วเหรอ?”
“ฉันเหรอจะลด ต้องให้อิงจวี้กังไปออกกำลังที่ฟิตเนสวันละสองชั่วโมง อย่างน้อยต้องเล่นให้ได้ซิกซ์แพ็คสักแปดชั้น” เหริ่นเชี่ยเชี่ยนส่งสายตาระอาไปให้เธอ และกำหนดชีวิตอันน่าสงสารของอิงจวี้กังในอนาคตเอาไว้
เหมยเหมยกระตุกยิ้มที่มุมปาก…ขอไว้อาลัยให้กับเพื่อนอิงสามวินาที!
“รีบไปกินข้าวกัน ฉันหิวจะแย่แล้ว” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเร่ง ตลอดทั้งเช้าเอาแต่วาดสรีระมนุษย์ เหนื่อยเอาการต้องบำรุงสักหน่อย
“จะว่าไปฉันเองก็หิว เราไปกินข้าวที่ถนนด้านหลังกันเถอะ กับข้าวในโรงอาหารกินไม่ลง” เหมยเหมยเองก็เริ่มหิว จึงเสนอให้ไปกินที่ร้านอาหาร เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและฉีฉีเก๋อต่างก็เห็นด้วย
“เอ๊ะ นั่นพี่จางไม่ใช่เหรอ?” ฉีฉีเก๋อหรี่ตามอง แวบเดียวก็มองเห็นหญิงสาวที่นั่งกินมื้อเที่ยงอยู่ในแปลงพุ่มดอกไม้
หญิงสาวสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าขาว ข้อศอกและรักแร้มีรอยปะอยู่หลายจุด กางเกงเองก็มีรอยปะเช่นกัน ขาลีบเล็กแต่ไม่ได้ดูน่าเกลียดนัก ทว่ากลับทำให้รู้สึกปวดใจอยู่ไม่น้อย
พี่จางเพิ่งมาทำงานในมหาวิทยาลัยหลังจากเปิดภาคเรียน ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลเรื่องความสะอาดของแปลงดอกไม้ในสนามทิศตะวันตกของโรงเรียน งานหนักไม่เบา ว่ากันว่าพี่จางเป็นคนงานหญิงที่ถูกปลดออกจากโรงงานสิ่งทอ ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ญาติห่าง ๆเพียงคนเดียวของเธอคือแม่บ้านจึงได้แนะนำเธอให้เข้ามาทำงานที่นี่ชั่วคราว
พวกเหมยเหมยรู้จักพี่จางเพราะคนที่เป็นแบบสรีระมนุษย์ที่พวกเธอวาดมาตลอดทั้งเช้าก็คือพี่จางนี่แหละ
การวาดสรีระมนุษย์คือหลักสูตรภาคบังคับของที่นี่ แต่ในฮวาเซี่ยค่อนข้างเป็นอนุรักษ์นิยม คนที่จะเต็มใจมาเป็นแบบนู้ดให้มีน้อยมาก ต่อให้ตีราคาสูงแค่ไหนก็ไม่มีใครยินยอมที่จะทำจนหาคนไม่ได้ ฉะนั้นเลยทำได้เพียงแลกเปลี่ยนกันวาด หรือส่องกระจกวาดตัวเองเอา
ทว่าพี่จางกลับเต็มใจมาเป็นแบบสรีระมนุษย์ให้ การวาดหนึ่งครั้งให้เงินหกสิบหยวน ในช่วงเวลานี้นับว่าเป็นรายได้ที่สูงมากแล้วล่ะ
พอเหมยเหมยเห็นว่าพี่จางกินแต่อาหารง่าย ๆแค่น้ำเปล่ากับหมั่นโถพร้อมผักดองทานตราฝูหลิงอีกหนึ่งถุงก็อดมุ่นคิ้วไม่ได้
………………………………………………………
[1] คือ ทัณฑ์ทรมานประเภทหนึ่งของพระนางซูสี เป็นการลงโทษด้วยวิธีแล่เนื้อเถือหนัง ตัดชิ้นส่วนร่างกาย เพื่อการประหารชีวิตนักโทษ
[2] เป็นสำนวนแปลว่า คนไม่ดีก็มีแต่จะพูดเรื่องไม่ดีออกมา
ตอนที่ 2133 พ่อแม่ทำทุกอย่างได้เพื่อลูกจริงๆ
“พี่จางคะ มื้อเที่ยงพี่กินแค่นี้เหรอคะ?”
ฉีฉีเก๋อเป็นคนกระตือรือร้น ตอนที่พี่จางเป็นแบบวาดให้ครั้งแรก เนื่องด้วยความเขินอายจึงไม่กล้าถอดเสื้อผ้าต่อหน้านักศึกษาจนเสียเวลาไปชั่วโมงกว่า ๆ และเป็นฉีฉีเก๋อที่พูดโน้มน้าวใจ ดังนั้นคนพูดน้อยอย่างพี่จางจึงสามารถพูดคุยกับฉีฉีเก๋อได้บ้าง
พี่จางอายุประมาณสามสิบกว่า ๆ เพราะชีวิตทำงานหนักผมจอนสองข้างจึงมีสีขาวขึ้นมาประปราย หางตาก็มีริ้วรอยอยู่ไม่น้อย แต่ยังคงมีเสน่ห์ ตอนเป็นวัยรุ่นคงต้องสวยมากแน่ ๆ
“ฉันขี้เกียจกลับบ้าน เลยเลือกกินอะไรง่าย ๆน่ะ” พี่จางเม้มปากและยิ้มขวยเขิน ผมเผ้าบนหน้าผากที่ยุ่งเหยิงนั้นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจนแนบสนิทไปกับใบหน้า สีหน้าแววตาเผยให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า รอยดำใต้ตาเด่นชัดมาก
“พี่จางกินแบบนี้บ่อย ๆไม่ดีนะคะ ร่างกายจะแย่เอาได้ พี่เอานี่ไปกินเถอะ” ฉีฉีเก๋อทอดถอนหายใจ ล้วงเนื้อตากแห้งออกมาจากกระเป๋าของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแล้วยัดทั้งหมดนั่นให้พี่จาง จากนั้นจึงลากพวกเหมยเหมยจากไป
เหยมยเหมยส่งยิ้มและพยักหน้าให้พี่จางแล้ววิ่งเหยาะ ๆตามหลังไป เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนวิ่งจนเหนื่อยหอบพร้อมกับบ่นอุบอิบ “โธ่เอ้ย…ยัยพวกบ้า เอาของของฉันไปให้เขาแล้วบ่ายนี้ฉันจะกินอะไร?”
“เธอไม่ได้กินสักมื้อคงไม่หิวตายหรอกมั้ง คิดเสียว่าลดน้ำหนัก ดูสิตอนนี้อ้วนจนเป็นหมูแล้ว ระวังจะทับอิงจวี้กังของเธอจนกระดูกหักล่ะ!”
ฉีฉีเก๋อผู้เหนียมอายถูกการชักนำของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำให้ปากคอเราะรายขึ้นจึงนึกอยากเหน็บแนมกลับไปเสียสักที
“เธอนั่นแหละที่เป็นหมู…คนอย่างฉันเรียกอุดมสมบูรณ์ ถ้าหากว่าอยู่ในราชวงศ์ถังก็คงไม่มีหยางอวี้หวนหรอก นางเอกของเรื่องฉางเฮิ่นเกอ[1]ก็คือฉันนี่แหละ เชอะ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสบถด่าฉีฉีเก๋อแต่ก็ยังไม่หายโมโห จึงยืดอกพูดว่า “อิงจวี้กังของฉันชอบที่ฉันเป็นแบบนี้ เขาบอกว่าคนที่ผอมไปก็เป็นแค่โครงกระดูก กัดไม่เข้าหรอก!”
“อย่างเธอนี่กัดเข้าไปก็มันเต็มปาก อร่อยเสียไม่มี แถมยังประหยัดเงินค่าเจลหล่อลื่นด้วย…”
ฉีฉีเก๋อโต้กลับเสียงกร้าว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอึ้งไปนานหลายนาทีกว่าจะได้สติ แล้วก็มีท่าทีเขินอายอย่างที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก…
“ฉีฉีเก๋อเธอนิสัยเสียมากเลยนะ พี่ฉางสอนเธอใช่ไหม สารภาพมาซะดี ๆว่าเธอกับฉางชิงซงไปถึงขั้นไหนกันแล้ว?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดวงตาเป็นประกายสีเขียว เธอชอบฟังเรื่องซุบซิบชาวบ้านที่สุดแล้ว
เนื้อตุมซุปหม่าล่าจานหนึ่งเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ทั้งคู่ถึงได้ยอมสงบและรีบลงมือทาน
เหมยเหมยถามอย่างแปลกใจ “ฉีฉีเก๋อ ทางบ้านของพี่จางมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
พี่จางทำความสะอาดเดือนหนึ่งก็ได้เงินหกร้อย รวมถึงเป็นนางแบบเดือนหนึ่งก็ได้อย่างน้อยหนึ่งพัน รวมกันก็อยู่ที่พันหกถึงพันเจ็ดแล้วซึ่งถือว่ารายได้สูงกว่าคนงานทั่วไปมาก ตามหลักแล้วชีวิตคงจะดีกว่านี้ไม่น้อย แต่เหตุใดถึงได้มัธยัสถ์จนต้องกินแค่หมั่นโถกับผักดองล่ะ?
ฉีฉีเก๋อทอดถอนหายใจและได้เล่าถึงสถานการณ์ในครอบครัวของพี่จางให้ฟัง
“ลูกชายของพี่จางดวงตาไม่ดีจนเกือบจะตาบอดแล้วด้วย หมอบอกว่าทางที่ดีที่สุดคือการปลูกถ่ายเยื้อกระจกตา ค่าผ่าตัดหลายหมื่นแต่ต้องรอกระจกตาที่เหมาะสม พี่จางกลัวว่าถ้าได้กระจกตาแล้วจะหาเงินไม่ได้ถึงได้ยอมมาเป็นแบบสรีระมนุษย์ไง”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่ได้ฟังก็ตกตะลึง คาดไม่ถึงเลยว่าการที่พี่จางมาเป็นนางแบบจะมีเรื่องอื่นแฝงอยู่ ไม่แปลกใจเลยที่เธอเอาแต่หางานทำทุกที่!
“พ่อแม่ทำทุกอย่างได้เพื่อลูกจริง ๆ!” เธอทอดถอนหายใจพลางตะโกนเรียกเถ้าแก่เนี้ย “ขอหมูเส้นผัดเปรี้ยวหวานหนึ่งที่ค่ะ ห่อกลับนะคะ!”
เหริ่นเชี่ยเชี่ยนยิ้มร่า “เดี๋ยวแวะเอาไปให้พี่จางสักหน่อย กินแต่หมั่นโถกับผักดองทุกวัน ขนาดมนุษย์เหล็กยังทนไม่ไหวเลย”
เหมยเหมยทำสีหน้าขบคิดอะไรบางอย่างอยู่ คำพูดของฉีฉีเก๋อทำให้ในหัวของเธอผุดเรื่องที่เธอสงสัยมาหลายวันนี้ขึ้นได้จึงหลับตาลงอย่างใช้ความคิด เพื่อลองดูว่าจะนึกออกไหม
“นึกออกสักที…”
เหมยเหมยตบโต๊ะอย่างแรงและดีใจเอามาก ๆ
……………………………………………………….
ตอนที่ 2134 อู่เยวี่ยยังคงมีประโยชน์
“เธอนึกอะไรออกเหรอ…ตกอกตกใจกันหมด!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตกใจจนแทบจะมุดลงใต้โต๊ะจึงบ่นอุบอิบขึ้น
“กินเนื้อสิ กินเยอะ ๆล่ะ!”
เหมยเหมยคีบเนื้อชิ้นใหญ่ให้เธอหลายชิ้น ดูอารมณ์ดีไม่น้อย เธอเข้าใจเสียทีว่าสิ่งที่ทำให้เธอจิตใจฟุ้งซ่านคืออะไร ดวงตาของเสี่ยวเป่านั่นเอง?
เสี่ยวเป่าตาบอดโดยกำเนิด ไม่แน่ว่าหากได้รับการปลูกถ่ายเยื่อกระจกตาอาจทำให้สายตาใช้การได้ เช่นนั้นจะมีอะไรที่เหมาะสมไปกว่ากระจกตาของผู้เป็นแม่แท้ ๆอย่างอู่เยวี่ยอีกล่ะ!
คิดเสียว่าอู่เยวี่ยได้อุทิศให้กับลูกชายก่อนตายแล้วกัน!
เหมยเหมยยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น แล้วจะมีกะจิตกะใจกินข้าวเสียอีกที่ไหนกัน เธอต้องรีบโทรหาเหมยซูหานให้เขาเตือนเฮ่อเหลียนเช่อว่าอย่าเพิ่งฆ่าอู่เยวี่ยให้ตายในครั้งเดียว เธอเคยได้ยินว่าต้องเอากระจกตาออกก่อนที่จะเสียชีวิตถึงจะทำการปลูกถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากตายแล้วจะใช้การไม่ได้
และเรื่องที่เสี่ยวเป่าตาบอดมาแต่กำเนิดก็มีเพียงเธอและเหยียนหมิงซุ่นที่รับรู้ เฮ่อเหลียนเช่อและคนอื่นๆ จะต้องคิดไม่ถึงแน่ เธอคงต้องเตือนถึงจะเป็นผล
“พวกเธอกินไปก่อนนะ ฉันขอออกไปโทรศัพท์ก่อน!”
เหมยเหมยล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าเป็นโมโตโรล่ารุ่นใหม่ล่าสุด เบากว่าโปรศัพท์อิฐบล็อกมาก แน่นอนว่าราคาไม่ใช่ถูก ๆ ฟังก์ชั่นก็มีแค่ไม่กี่อย่างและทำได้แค่ส่งข้อความและโทร
เธอหาที่เงียบ ๆแล้วโทรหาเหมยซูหาน
“เหมยเหมยมีธุระอะไรเหรอ?”
“อู่เยวี่ยตายหรือยัง? นายอย่าเพิ่งให้เฮ่อเหลียนเช่อรีบฆ่าอู่เยวี่ยล่ะ เธอยังมีปะโยชน์อยู่” เหมยเหมยพูดออกไปตรง ๆ เหมยซูหานนิ่งชะงักไปและรีบเอ่ยขึ้นว่า “รอเดี๋ยวนะ ฉันขอหาที่คุยก่อน!”
เหมยซูหานขอให้เลขาช่วยเป็นประธานในการประชุมแทนเขา ส่วนเขากลับมาที่ห้องทำงานและถามต่อว่า “อู่เยวี่ยทำไมเหรอ?”
“เสี่ยวเป่าตาบอดโดยกำเนิด กระจกตาของอู่เยวี่ยเหมาะสมกับเสี่ยวเป่าที่สุดแล้ว เพราะงั้นตอนนี้เธอยังตายไม่ได้ รอให้เสี่ยวเป่าปลูกถ่ายกระจกตาเสร็จแล้วค่อยจัดการ”
“เคร้ง”
เกิดเสียงดังลอดผ่านปลายสายมา เห็นได้ว่าเหมยซูหานตกใจแค่ไหน เขาไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง ดวงตาของเสี่ยวเป่างดงามขนาดนั้นทำไมถึงบอดมาตั้งแต่กำเนิดได้ล่ะ?
“เป็นไปไม่ได้…เหมยเหมยเธออย่าล้อเล่นสิ!”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น นายให้หมอตรวจเสี่ยวเป่าได้เลย จริง ๆแล้วพวกนายเองน่าจะรู้ดี ด้วยสายเลือดของเสี่ยวเป่าแล้ว จะไม่เกิดปัญหาอะไรเลยสักนิดได้เหรอ?” เหมยเหมยเอ่ยเสียงเย็นชา
เหมยซูหานพลั้งปากพูด “เป็นไปไม่ได้หรอก เสี่ยวเป่าเขาไม่ใช่…”
ฉับพลันที่เขารู้ตัวว่าได้พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปจึงยั้งไว้ได้ทัน เหมยเหมยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ใช่พันธุกรรมของเฮ่อเหลียนเช่อใช่ไหมล่ะ? แต่สายเลือดของเสี่ยวเป่าก็ยังมีสิ่งผิดปกติอยู่ดี นายขอให้เฮ่อเหลียนเช่อไปตรวจสอบตระกูลของหนิงเฉินเซวียนได้เลย มันเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงมาก เสี่ยวเป่ามีชีวิตอยู่ในตระกูลแบบนี้ช่างน่าสงสารเหลือกิน!”
เธอไม่อยากพูดอะไรมาก เรื่องราวน่ารังเกียจของตระกูลหนิงแค่พูดถึงก็รู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว เสี่ยวเป่าน่าสงสารจริง ๆที่ต้องมาเกิดในตระกูลแบบนี้!
เหมยซูหานฟังเสียงเจื้อยแจ้วผ่านปลายสายด้วยท่าทีเคร่งขรึม ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้วางสาย และเรียกผู้ช่วยพิเศษของเขามา ทั้งยังสั่งให้ไปตรวจสอบเรื่องบรรพบุรุษของหนิงเฉินเซวียน ส่วนตัวเขาก็กลับไปหาเฮ่อเหลียนเช่อพร้อมพาหมอไปด้วย
ช่วงทานมื้อค่ำเหยียนหมิงซุ่นถามเหมยเหมย “เธอบอกเหมยซูหานเรื่องดวงตาของเสี่ยวเป่าแล้วเหรอ?”
“อืม ฉันแค่อยากจะย้ายกระจกตาของอู่เยวี่ยมาไว้ในดวงตาของเสี่ยวเป่า แบบนี้เสี่ยวเป่าก็สามารถมองเห็นได้แล้ว” เหมยเหมยรู้สึกว่าเธอมีความคิดที่ค่อนข้างดี ได้ประโยชน์ต่อกันทั้งสองฝ่าย!
“ช่วงบ่ายเฮ่อเหลียนเช่อโทรมาหาพี่ บอกให้พวกเราเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เขาไม่อยากให้หนิงเฉินเซวียนรู้เรื่องนี้” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ย
“ทำไมล่ะ?”
“หนิงเฉินเซวียนโหดเหี้ยมไร้ความรู้สึก ถ้าเขารู้ว่าเสี่ยวเป่าตาบอดมาตั้งแต่เกิดจะต้องทอดทิ้งเขาแน่ ๆ แบบนั้นเสี่ยวเป่ายิ่งเป็นอันตราย” เหยียนหมิงซุ่นส่ายหน้า เมื่อเทียบกับหนิงเฉินเซวียนแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อถือว่ามีความเป็นคนกว่ามาก
“สัตว์ชั้นต่ำ เขากับอู่เยวี่ยต่างหากที่เป็นคู่สร้างคู่สมกัน!” เหมยเหมยด่าทออย่างโกรธแค้น
…………………………………………………..
[1] ละครเรื่อง长恨歌 แปลไทยในชื่อว่า ลำนำโศกนิรันดร์
ตอนที่ 2135 ให้ความสำคัญกับ(ความงาม)ภายในมากกว่า
“ฉันไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูดสักหน่อยที่จะป่าวประกาศไปทั่ว ไอ้คนใจทราม!”
เหมยเหมยรู้สึกไม่ชอบใจกับการที่เฮ่อเหลียนเช่อโทรมานัก ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเตือนเขา เกรงว่าเสี่ยวเป่าโตขึ้นมา เฮ่อเหลียนเช่อก็คงยังไม่เจอสิ่งผิดปกติของเสี่ยวเป่าด้วยซ้ำ
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มแล้วตักต้มฟักซี่โครงหมูให้เธอ “อย่าโมโหเลย ซดน้ำแกงสักหน่อยเถอะ”
เขาเองไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เฮ่อเหลียนเช่อปฏิบัติกับเสี่ยวเป่าด้วยใจจริง การที่โทรมาเตือนเขาก็ถือว่าสมเหตุสมผลมาก แต่น่าเสียดายที่อู่เยวี่ยจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายเดือน
เสียเปรียบยัยชั่วนั่นเข้าแล้ว!
“เสี่ยวเป่าต้องรอครบหนึ่งขวบถึงจะปลูกถ่ายกระจกตาได้? ถ้างั้นอู่เยวี่ยก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือนเลยสินะ?” เหมยเหมยสีหน้าบึ้งตึง แค่จินตนาการว่าอู่เยวี่ยยังคงใช้อาการหายใจบนโลกใบนี้ร่วมกับเธอก็รู้สึกแย่มากแล้ว
ทำไมนังแพศยานั่นตายยากตายเย็นเสียจริงนะ?
“ไม่เป็นไรหรอก เฮ่อเหลียนเช่อตัดแขนขาอู่เยวี่ยทั้งสี่ข้างจนกลายเป็นมนุษย์สุกรแล้ว เธอกระโดดไปไหนไม่ได้อีกแล้ว!” เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจเธอ
เฮ่อเหลียนเช่อเกลียดอู่เยวี่ยเข้ากระดูกดำ แค่วันแรกอู่เยวี่ยก็ถูกตัดแขนตัดขาสด ๆทิ้งแบบนั้นแถมยังไม่ฉีดยาชาให้ จากนั้นก็ใช้ยาแก้อักเสบที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้อู่เยวี่ยตายง่าย ๆ แล้วค่อย ๆทรมานเธอไป!
อู่เยวี่ยในตอนนี้มีชีวิตเหมือนอยู่ในขุมนรก ตอนนี้ความหวังเดียวของเธอก็คงจะเป็นความตายแหละมั้ง!
เหมยเหมยรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่มากกว่านั้นคือความสบายใจ!
“สมน้ำหน้า…มันรนหาที่ตายเอง ต้องให้คนวิปริตอย่างเฮ่อเหลียนเช่อจัดการ!”
เหมยเหมยพูดเสียงขรึม มุมหนึ่งในใจของเธอปล่อยวางได้เสียที เธอรู้สึกสบายใจเหลือเกิน
มาถึงขั้นนี้อู่เยวี่ยคิดอยากขยับไปไหนก็คงไม่มีทางหนีพ้นเพราะห่างจากความตายแค่เพียงอึดใจเดียว
หายนะครั้งนี้ถือว่าได้รับการกำจัดเสียที!
ปมในใจของเธอทั้งสองภพชาติได้คลายลงแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นขยับถ้วยน้ำแกงไปตรงหน้าเหมยเหมย เร่งให้เธอซดและไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
เหมยเหมยมีความสุขจึงซดน้ำแกงอย่างเอร็ดอร่อยหมดเกลี้ยง แถมตักให้ตัวเองเพิ่มอีกถ้วย ยกซี่โครงเนื้อทั้งหมดในถ้วยให้เหยียนหมิงซุ่น ส่วนตัวเธอซดน้ำแกงกับกินฟักไป
“กินเนื้อบ้าง ช่วงนี้เธอผอมไปอีกแล้วนะ”
เหยียนหมิงซุ่นคีบซี่โครงเนื้อให้เธอสองชิ้นด้วยใบหน้าจริงจังจนยากที่จะปฏิเสธได้
“ไม่เอา…มันเลี่ยนเกินไป ผอมสิถึงจะดี ใส่เสื้อผ้าจะได้ดูมีเสน่ห์ สวยจนพี่อยากกลืนกินไงล่ะ!” เหมยเหมยบิดกายออดอ้อน ผู้หญิงล้วนกลัวตัวเองอ้วนอยู่แล้วแม้ว่าจะผอมจนหนังหุ้มกระดูกก็ตาม
แต่เหมยเหมยรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นเล็กน้อย เมื่อวานเธอหยิบชุดกระโปรงยาวสีขาวที่ซื้อก่อนหน้านี้มาใส่ ตอนนั้นใส่แล้วดูสวยพอดีตัว แต่เมื่อวานหลังจากเอามาใส่กลับรู้สึกว่าตรงช่วงเอวมีไขมันอยู่มาก ดูแล้วเห็นพุงได้อย่างชัดเจนและไม่สวยเลยสักนิด
แน่นอนว่านี่เป็นความคิดของเหมยเหมยเพียงฝ่ายเดียว
ความจริงแล้วเธอยังใส่สวยเหมือนเดิม เพียงแค่มาตรฐานที่เธอมีต่อตัวเองนั้นสูงขึ้น สวยไร้ที่ติยังไงล่ะ!
เหยียนหมิงซุ่นคีบซี่โครงกลับไปใส่ถ้วยเหมยเหมยเหมือนเดิมแล้วมองเธอหน้านิ่ง เหมยเหมยเห็นดังนั้นก็ขนลุกซู่ ศีรษะก้มต่ำลงเรื่อย ๆแล้วจำใจแทะซี่โครง ทว่าในใจกลับใช้แส้ฟาดใครบางคนไปแล้วห้าร้อยครั้ง!
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “พี่ไม่ได้รู้สึกว่าสวยจนอยากจะกลืนกิน แค่รู้สึกว่าสัมผัสที่ฝ่ามือนั้นแย่กว่าเดิมมาก!”
เหมยเหมยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ มุมปากยังมีเศษเนื้อติดอยู่…สัมผัสมืออะไรกัน?
เหยียนหมิงซุ่นดึงทิชชูมาเช็ดปากให้เธอ พอเห็นท่าทีซื่อบื้อของเธอจึงผุดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาแล้วก้มหน้ากระซิบข้างหูเธอ “ในทางกลับกันพี่ให้ความสำคัญกับ(ความงาม)ภายในมากกว่า ที่รักเข้าใจหรือยัง?”
เหมยเหมยก้มหน้าตามสายตาของเขาก็เห็นภูเขาสูงชันลูกเล็ก ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจทันทีว่าสัมผัสมือคืออะไรจึงทั้งโกรธทั้งเขินอาย
“พี่รังเกียจที่ของฉันเล็กใช่ไหม? งั้นพี่ก็ไปรีดนมที่ฟาร์มโคนมนู้นเลย มันคงทำให้สัมผัสมือของพี่ดีมากเลยล่ะ!”
เหมยเหมยกัดหลังมือของเหยียนหมิงซุ่นอย่างโมโห กินซี่โครงเนื้ออยู่ดี ๆยังลากมาเรื่องซาลาเปาลูกเล็กของเธอได้ แถมยังกล้ารังเกียจเธออีก?
กัดให้ตายเลย!
………………………………………………………………..
ตอนที่ 2136 ตั้งใจหน่อยสิ
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มมองยัยปีศาจน้อยที่โมโหแล้วซดน้ำแกงอย่างสงบ และไม่คิดจะดึงมือกลับเพราะถึงอย่างไรยัยปีศาจน้อยก็ไม่กล้ากัดแรง อย่างมากก็แค่เกิดรอยเขี้ยวขึ้นเพียงไม่กี่จุดเท่านั้นเอง!
“นมของโคนมไม่ได้สวยจนอยากกลืนกินเหมือนของเธอนี่นา เด็กดี อ้าปาก!”
เหยียนหมิงซุ่นแกะเนื้อบนซี่โครงออกมาป้อนให้เหมยเหมยทาน พอเห็นว่าเธอโมโหจนลืมความมันของเนื้อแล้วกินเข้าไปจึงอดขำไม่ได้
มีภรรยาซื่อบื้อก็สนุกไม่น้อยเหมือนได้เล่นกับแมวน้อยเลยล่ะ
“พี่พูดเองว่าไม่ได้สนใจรูปลักษณ์แต่สนใจ(ความงาม)ภายในไม่ใช่เหรอ? แล้วภายในของโคนมยังไม่เพียงพอสำหรับพี่อีกเหรอ?” เหมยเหมยตอกกลับอย่างโมโห
ไอ้คนหลอกลวง!
เมื่อก่อนเคยพูดว่าไม่ชอบหมั่นโถลูกใหญ่เพราะอุ้งมือเดียวจับได้ไม่หมด แถมบอกว่าชอบซาลาเปาลูกเล็กอย่างเธอมากกว่าเพราะจับในฝ่ามือเดียว คนโง่อย่างเธอก็ดันเชื่อและรู้สึกภาคภูมิใจในซาลาเปาลูกเล็กของตัวเอง
เชอะ ตอนนี้พูดความจริงออกมาแล้วสินะ!
แน่นอนว่าผู้ชายเก้าในสิบคนล้วนชอบหมั่นโถลูกใหญ่ ส่วนที่เหลือนั้นก็คงเป็นพวกที่ตาบอดไม่ก็เกย์!
“หลอกลวง…ไอ้คนหลอกลวง!”
เหมยเหมยจ้องตาเขม็ง เธอยังไม่เคยรังเกียจความต้องการอันไร้ที่สิ้นสุดของไอ้เจ้าบ้านี่เลย!
พออยู่บ้านก็ไม่เคยหยุดหย่อน มีแค่เธอที่อดทนต่อความยากลำบากนั้นได้ ลองเปลี่ยนเป็นคนอื่นดูสิ?
พอเหยียนหมิงซุ่นเห็นเหมยเหมยบ่นอุบอิบก็นึกขำ ถึงจะไม่รู้ว่าบ่นเรื่องอะไรแต่ใช้ส้นเท้าคิดก็ยังเดาได้เลยว่าต้องนินทาเขาอยู่แน่ ๆ!
“ยัยโง่เอ้ย พี่หมายถึง(ความงาม)ภายในและภายนอกของเธอเมื่อเทียบกันแล้วพี่ชอบภายในมากกว่า ส่วนสัตว์ตัวเมียอื่น ๆพี่ไม่แม้แต่จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ”
เหยียนหมิงซุ่นพูดจาหวานออดอ้อนด้วยท่าทีจริงจังและสบจังหวะป้อนเนื้อเข้าปากอีกชิ้นพอดี เขาไม่ชอบหมั่นโถลูกใหญ่เหมือนโคนมจริง ๆ แต่เขากลับคิดว่าถ้าซาลาเปาลูกเล็กของภรรยาตนขยายขึ้นอีกสักนิด สัมผัสมือต้องดีกว่านี้แน่นอน!
เหมยเหมยยกยิ้มอย่างอดไม่ได้ อารมณ์มาคุในใจเลือนหายไปมาก แต่เพียงไม่นานเธอก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลาที่เธอจะมานั่งยิ้มจึงรีบตีหน้านิ่งแล้วส่งสายตาเอือมระอากลับไป
“ใครจะรู้กันล่ะว่าพี่พูดความจริงหรือแค่โกหก…ฉันไม่ใช่พยาธิในกระเพาะของพี่นะ…”
“พี่ก็ต้องพูดความจริงอยู่แล้ว ถ้าที่รักไม่เชื่อก็ลองทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งกว่านี้ดูสิ…” เหยียนหมิงซุ่นพูดอย่างมีเลศนัย แววตาก็หม่นลง
กินข้าวได้มากพอแล้ว ก็ถึงเวลาออกกำลังย่อยอาหารแล้วล่ะ!
“ไม่ต้อง ฉันไม่เชื่อพี่แล้ว และก็ไม่อยากทำความเข้าใจอะไรด้วย”
เคยเสียเปรียบมาหลายครั้ง เหมยเหมยไม่อยากตกปากรับคำอะไรทั้งสิ้น เธอไม่ยอมตกเป็นเบี้ยหรอก!
เธอเหลือบหางตามองเหยียนหมิงซุ่นอย่างชอบใจ เธอจะคอยดูว่าคนอย่างนายจะเล่นละครคนเดียวอย่างไรต่อไป?
แต่นี่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของท่านหัวหน้าเหยียน ไม่ติดเบ็ดไม่เป็นไร เขาจะเป็นฝ่ายทู่ซี้ยัดเบ็ดให้เอง คิดไม่ถึงล่ะสิ!
“งั้นพี่จะทำความเข้าใจที่รักให้ลึกซึ้งเอง…จากนั้นก็เข้าไปดูที่อยู่ของลูกเราล่วงหน้าว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขปรับปรุงบ้างไหม…”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบทิชชูมาเช็ดปากเหมยเหมยจนสะอาดแล้วอุ้มท่าเจ้าหญิงด้วยท่วงท่าจริงจัง แต่ความเร่าร้อนในดวงตากลับเผยให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าอย่างชัดเจน
สำหรับยัยปีศาจน้อยเขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยสักนิด!
มีความต้องการมากเช่นนี้อยู่ตลอดเลย!
เวลาผ่านไปนานกว่าเหมยเหมยจะเข้าใจความหมายในคำพูดของเหยียนหมิงซุ่น แม้แต่ปลายนิ้วก็ยังแดงซ่าน โมโหมากจนต้องกัดเข้าที่ลำคอของเขา
ทำไมถึงได้หื่นกามขนาดนี้นะ?
“ถ้าลูกน้องของพี่รู้ว่าพี่พูดจาหื่นกามแบบนี้ พี่ยังจะเหลือความน่าเชื่อถืออะไรอีก…”
“พวกเขาไม่มีทางรู้ มีแค่เธอรู้พี่รู้…บุคคลที่สามไม่มีทางรู้แน่นอน…”
“พี่ไปเรียนมาจากใครเนี่ย…” เหมยเหมยแปลกใจไม่น้อย ทั้ง ๆที่ชาติก่อนเหยียนหมิงซุ่นเป็นดั่งภูเขาน้ำแข็ง แม้แต่ภรรยาก็ไม่มี เหตุใดชาติภพนี้ถึงได้หื่นกามถึงเพียงนี้นะ?
เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะเป็นคนขุดมันขึ้นมาเอง?
เหยียนหมิงซุ่นปิดปากเล็ก ๆที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “ชู่ว…ที่รัก…ตั้งใจหน่อยสิ!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น