ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2095-2112

 ตอนที่ 2095 ยังโกรธอยู่เหรอ ที่รัก


อู่เยวี่ยมองลี่เมิ่งเฉินอย่างเหลือเชื่อ เขาถอนพิษได้จริง ๆงั้นเหรอ?


ตอนนี้พิษบนร่างกายของเสี่ยวเป่าเป็นเครื่องรางคุ้มกันเธออยู่ ถ้าถอนพิษได้จริงเฮ่อเหลียนเช่อต้องไม่ปล่อยเธอไว้แน่!


อู่เยวี่ยจึงปลอบใจตัวเองว่าชายผู้นี้พูดโกหกแน่นอน พิษที่เธอพัฒนาขึ้นมาเองเธอย่อมรู้ดี แม้แต่ทีมเอฟบีไอก็ยังจัดการกับพิษนี้ไม่ได้ นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครรู้วิธีแก้พิษอีก!


ลี่เมิ่งเฉินเดาความคิดของอู่เยวี่ยออกจึงจงใจพูดติดตลกว่า “เธอคงไม่เชื่อว่าฉันจะถอนพิษได้สินะ? ไม่เป็นไร รออายุครบหนึ่งขวบเธอก็รู้แล้วว่าฉันพูดโกหกหรือเปล่า?”


ผู้หญิงคนนี้จิตใจเหี้ยมโหด แม้แต่ลูกแท้ ๆของตัวเองยังใจดำลงมือวางยาพิษได้ลงคอ มีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์ สู้มาเป็นอุปกรณ์ทดลองของเขาดีกว่า!


ราวกับเสี่ยวเป่าเข้าใจคำพูดของลี่เมิ่งเฉินจึงหัวเราะคิกคัก สองมืออ้วน ๆโบกไปมาไม่หยุด ขาอ้วน ๆก็เตะอยู่ตลอด พละกำลังเยอะมากทีเดียว!


เฮ่อเหลียนเช่อที่เห็นก็ยิ้มหน้าบาน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มใจดีขึ้นมา ช่วงเวลานี้หากเขามีเรื่องกลุ้มใจก็แค่แวะมาอุ้มเสี่ยวเป่าเล่น


พอได้อุ้มเจ้าตัวเล็ก เขาก็รู้สึกว่าเรื่องกลุ้มใจต่าง ๆมลายหายไปจนสิ้น มีความสุขมากและพึงพอใจมากเช่นกัน


“แค่นายช่วยถอนพิษให้น้อง…ลูกชายของฉันได้ ฉันตอบแทนสมน้ำสมเนื้อแน่นอน หากเป็นเรื่องที่ฉันทำได้ขอให้บอกมาเลยฉันยินดีจัดให้เต็มที่เลย!” เฮ่อเหลียนเช่อเกือบหลุดปากพูดแต่ดีที่แก้คำพูดทัน


ลี่เมิ่งเฉินที่ได้ยินก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ เขาชอบคุยกับคนใจกว้าง


“วางใจเถอะ แต่ไหนแต่ไรมาฉันเองก็ไม่ใช่คนเรียกร้องอะไรมาก คำขอล้วนสมเหตุสมผลเสมอ!” ลี่เมิ่งเฉินยิ้มตาหยี ท่าทางเหมือนคนช่างพูดช่างจา


เหยียนหมิงซุ่นแอบหัวเราะเยาะ แต่ไหนแต่ไรเป็นคนที่ไม่เรียกร้องอะไรมากงั้นเหรอ นี่ยังมียางอายอยู่ไหมนะ?


“คุณชายเช่อร่ำรวยมหาศาล นอกจากดวงดาวและพระจันทร์ ขอแค่สิ่งนั้นมีอยู่บนโลกใบนี้คุณชายเช่อต้องหามาได้แน่ ลี่เมิ่งเฉินนายแค่รักษาเสี่ยวเป่าให้หาย ขออะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ!” เหยียนหมิงซุ่นจงใจเอ่ย


“ถูกต้อง ขอแค่นายรักษาเสี่ยวเป่าหาย ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวหรือพระจันทร์ฉันก็จะคิดหาวิธีเอามาให้นายให้ได้เลย!”


ใช่ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะไม่ได้ยินคำพูดประชดประชันของเหยียนหมิงซุ่น แต่เขาดีใจมากไปหน่อย แม้จะรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นเหน็บแหนมเขา เขาก็ไม่คิดจะสนใจเลย”


ที่ผ่านมาเขาเชิญหมอมาจำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งยังเป็นหมออันดับต้น ๆที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ทุกคนกลับไม่อาจจัดการอะไรกับพิษบนตัวของเสี่ยวเป่าได้เลย กลับมีเพียงชายผู้นี้ที่ชื่อลี่เมิ่งเฉินสามารถรับปากช่วยเขาได้


แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเหยียนหมิงซุ่น แต่เขาเชื่อในความสามารถของเหยียนหมิงซุ่น ดังนั้นคนอย่างลี่เมิ่งเฉินที่เหยียนหมิงซุ่นพามาเขาเองก็เชื่อใจ


บางทีลี่เมิ่งเฉินอาจเป็นทางรอดทางเดียวของเสี่ยวเป่า!


ในที่สุดเสี่ยวเป่าของเขาก็จะรอดแล้ว!


เฮ่อเหลียนเช่อมองอู่เยวี่ยด้วยสายตาเย็นชา ขอเพียงแค่พิษในร่างกายของเสี่ยวเป่าถูกกำจัดออกไปได้ เขาจะใช้วิธีการที่โหดร้ายที่สุดบนโลกนี้จัดการกับยัยชั่วคนนี้!


อู่เยวี่ยร่างกายสั่นเทา ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม


ไม่ได้การล่ะ เธอจะนั่งรอความตายไม่ได้ ต้องคิดหาทางหนี!


ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าทางด้านอู่เจิ้งซือเป็นเช่นไรบ้าง ได้ทำตามที่เธอกำชับไว้หรือไม่


ที่นั่นคือความหวังสุดท้ายของเธอแล้ว!


เหมยเหมยรู้ข่าวที่ว่าลี่เมิ่งเฉินช่วยเสี่ยวเป่าถอนพิษได้คงไม่ต้องบอกว่าดีใจแค่ไหน!


“อามิตาพุทธ นับว่าพระเจ้าคุ้มครอง!”


เหมยเหมยพนมมือขึ้นกราบไหว้ไม่หยุด ขอบคุณสวรรค์จากใจจริงที่ได้สรรค์สร้างตัวประหลาดอย่างลี่เมิ่งเฉินขึ้นมา ไม่เพียงแค่ช่วยถอนพิษบนตัวของเธอกับเหยียนหมิงซุ่นได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเสี่ยวเป่าได้อีกหนึ่งชีวิตด้วย!


“ที่รัก…ยังโกรธพี่อยู่เหรอ…พี่เป็นคนหาตัวลี่เมิ่งเฉินเจอนะ…” เหยียนหมิงซุ่นพูดจาหวานหยดย้อย


เหมยเหมยกลอกตามองค้อนใส่โดยไม่พูดอะไร เธอให้ชายผู้นี้คิดเอาเอง


วิธีส่งสายตาให้คิดเอาเอง เธอก็เรียนรู้มาจากผู้ชายคนนี้นี่แหละ…


……………………………………………….


ตอนที่ 2096 เจ้าหญิงอัปลักษณ์ เวอร์ชั่นลอกเลียนแบบ


เดือนสิงหาคมกำลังจะมาถึงในไม่ช้า ใบอนุญาตให้ลงฉายของสำนักงาน GD ล่าช้ามานานกว่าครึ่งเดือน พอเหมยเหมยเตรียมที่จะหาคนมากดดันใบอนุญาตก็ได้มาเลย จ้าวเสวียเอ๋อร์ดีใจมาก เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการออกอากาศของละครเจ้าหญิงอัปลักษณ์


เพียงแต่เรื่องดี ๆล้วนต้องผ่านการเจียระไน ยังไม่ทันที่เจ้าหญิงอัปลักษณ์จะได้ออกอากาศ ละครทีวีเรื่องอื่นที่มีชื่อว่าแผนการโต้กลับของซิลเดอเรลล่ากลับออกอากาศไปทั่วประเทศ


เหมยเหมยยังไม่ทันทราบเรื่อง แต่เป็นโจวซิ่งเอ๋อร์ที่โทรมาบอก ตอนนี้แผนการโต้กลับของซิลเดอเรลล่าออกอากาศมาเป็นเวลาสามคืน คืนละสองตอน


สถานีโทรทัศน์ของจิงตูกำลังออกอากาศละครเรื่องนี้อยู่ แถมยังออกอากาศในช่วงเวลาที่ผู้ชมเยอะอีกต่างหาก ได้ยินมาว่าเรตติ้งสูงมาก เนื่องจากผู้ชมหลักของละครแนวรักใส ๆคือนักเรียน ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนจึงถือเป็นช่วงขาขึ้นของละครแนวรักใส ๆ


ตราบใดที่พล็อตเรื่องไปได้ดี รูปลักษณ์และทักษะการแสดงของนักแสดงพอใช้ได้ เรตติ้งของละครแนวรักใส ๆก็ไม่ได้แย่นัก เงินที่ได้ก็ไม่น้อยเลย


“พี่เหมยคะ พี่ดูละครเรื่องนี้หรือยังคะ? พล็อตเรื่องเหมือนเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเราเลย ต่างกันแค่ชื่อเท่านั้นเอง!” โจวซิ่งเอ๋อร์โกรธมาก


ตอนแรกเธอเองก็ไม่รู้จักละครเรื่องนี้แต่เพื่อนของเธอมาถามว่าเธอไปถ่ายละครแต่ทำไมในเรื่องถึงไม่มีเธอล่ะ?


ที่แท้เพื่อนของโจวซิงเอ๋อร์นึกว่าเธอเล่นละครเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่องหรือตัวละครล้วนมีความคล้ายคลึงกับเจ้าหญิงอัปลักษณ์มาก 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว


“พี่เหมย แผนการโต้กลับของซิลเดอเรลล่านี่ต้องลอกเลียนแบบเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเรามาแน่ ๆเลย เรื่องนี้จะปล่อยไปไม่ได้นะคะ พวกเราต้องฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ให้ได้เลยนะคะ!” โจวซิ่งเอ๋อร์โมโหจนทนไม่ได้


เจ้าหญิงอัปลักษณ์คือลูกของพี่เหมย และในขณะเดียวกันก็เป็นชีวิตใหม่ของเธอ


เธอไม่มีทางยอมปล่อยให้คนชั่วมาทำลายเจ้าหญิงอัปลักษณ์ได้หรอก!


เธอตั้งใจไปดูละครซินเดอเรลล่าเรื่องนี้มาโดยเฉพาะเลย แต่เหมือนเพื่อรีบทำเวลา การถ่ายทำจึงมีความหยาบโลนมาก


ทักษะการแสดงและเครื่องแต่งกายของนักแสดงดูขัดกันมาก รูปลักษณ์พอใช้ได้แต่หลังจากดูภาพรวมของละครทำให้รู้สึกไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์สักเท่าไร เทียบกับความพิถีพิถันของเจ้าหญิงอัปลักษณ์ไม่ได้เลย!


แต่ตอนนี้เจ้าหญิงอัปลักษณ์ยังไม่ได้ลงจอ แต่ซิลเดอเรลล่าเรื่องนี้กลับแซงคิวไปก่อนแล้ว แบบนี้ต้องมีผลกระทบต่อเจ้าหญิงอัปลักษณ์แน่นอน


เหมยเหมยใจดิ่งวูบ ช่วงไม่กี่วันมานี้เธอยุ่งอยู่กับการทำหนังสือเล่มใหม่ วัน ๆเอาแต่อยู่ในห้องวาดภาพ น้อยมากที่จะดูทีวี ไม่รู้เลยจริง ๆว่ามีละครทีวีดังกล่าวออกอากาศอยู่


“ละครทีวีออกอากาศเมื่อไหร่? เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะเปิดดู”


“ออกอากาศมาแล้วหกตอน ฉันเก็บบันทึกเอาไว้หมดแล้ว อีกเดี๋ยวจะเอาไปให้พี่นะ”


ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงโจวซิ่งเอร์ก็มาถึงแล้ว เธอเอาวีดิโอเทปที่เธออัดไว้มาให้


“บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หวนอวี่คือบริษัทบ้าที่ไหนกัน? มีบริษัทแบบนี้อยู่ตั้งแต่เมื่อไร?” โจวซิ่งเอ๋อร์เห็นตัวอักษรโผล่ขึ้นมาก่อนละครเริ่มฉายจึงถามขึ้นอย่างสงสัย


เหมยเหมยเองก็แปลกใจเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศมีเพียงสองแห่ง หนึ่งคือบริษัทหัวหยู่ของเหมยซูหาน อีกแห่งหนึ่งคือบริษัทฉางเฉิงของจ้าวเสวียเอ๋อร์ บริษัทหวนอวี่นี่โผล่มาจากไหนกันนะ?


เธอบอกให้โจวซิ่งเอ๋อร์ใจเย็นอย่าร้อนรน อดทนดูไปก่อน


ดูไปแค่ครึ่งตอนเหมยเหมยก็ไม่อยากดูอีกแล้ว การถ่ายทำละครดูหยาบโลนมากเกินไป


แต่เธอก็ยังฝืนทนเพื่อดูให้จบทั้งหกตอน


เธอมั่นใจได้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเรื่องซิลเดอเรลล่านี้ลอกเลียนแบบเจ้าหญิงอัปลักษณ์มาเต็ม ๆ และเป็นการลอกเลียนแบบง่าย ๆและหยาบโลน เปลี่ยนเพียงแค่ชื่อของพระเอกนางเอก แม้แต่ชื่อตัวประกอบบางคนก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยด้วยซ้ำ เหอะ ๆ…


นี่คิดว่าคนอื่นเขาโง่มากนักหรือไง?


“ลุงเหลาคะ ช่วยหนูหาหน่อยได้ไหมคะว่านิติบุคคลของบริษัทหวนอวี่เป็นใคร?” เหมยเหมยเรียกลุงเหลามาออกคำสั่ง


จากนั้นเธอก็โทรไปหาจ้าวเสวียเอ๋อร์ “จัดงานแถลงข่าวเลย ยิ่งเร็วยิ่งดี!”


ตอนที่ 2097 ถูกแทงข้างหลังยังไม่รู้ตัวอีก


จ้าวเสวียเอ๋อร์ตกใจมาก “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆถึงต้องจัดงานแถลงข่าวล่ะ?”


เหมยเหมยไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อการรับรู้ข่าวสารที่ล่าช้าของจ้าวเสวียเอ๋อร์ ทั้งที่พูดกันแต่แรกแล้วว่าเธอดูแลภายใน จ้าวเสวียเอ๋อร์ดูแลภายนอก ตอนนี้บริษัทหวนอวี่กลับสร้างระเบิดเงียบ ๆจนกระทั่งระเบิดตู้มแล้ว แต่จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย


เขามัวทำอะไรของเขาอยู่?


“พี่รู้จักบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หวนอวี่ไหม?” เหมยเหมยถามเสียงขรึม


จ้าวเสวียเอ๋อร์รับรู้ได้ว่าน้ำเสียงของน้องตนไม่ค่อยดีนักจึงใจเต้นระรัว นี่เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น?


เนื่องจากในระหว่างการถ่ายทำละครเขามีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับเหมยเหมยหลายอย่าง จ้าวเสวียเอ๋อร์จึงมุ่งเน้นและทุ่มทุนไปกับการถ่ายทำภาพยนตร์และละครเรื่องอื่นจนได้เงินมาไม่น้อย เขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเจ้าหญิงอัปลักษณ์มากเหมือนแต่แรก


บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หวนอวี่?


แค่ชื่อบริษัทยังไม่เคยได้ยินเลย เป็นบริษัทกระเป๋าหนังหรือไงกัน?


จ้าวเสวียเอ๋อร์ไม่ได้สนใจอะไรนัก ปัจจุบันบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในประเทศมีอยู่มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเชลล์ใช้สำหรับดำเนินงานที่มีลักษณะคลุมเครืออย่างพวกด้านการเงินนับไม่ถ้วน


บริษัทที่ดำเนินธุรกิจภาพยนตร์และโทรทัศน์อย่างแท้จริง มีเพียงบริษัทของเขาและเหมยซูหานเท่านั้นที่มีชื่อเสียง และด้วยเหตุนี้เขาจึงให้ความสำคัญกับบริษัทหัวหยู่ของเหมยซูหานตลอด บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆเขาไม่สนใจเลย


“บริษัทหวนอวี่ทำอะไรเหรอ?” จ้าวเสวียเอ๋อร์ถามติดตลก


“พี่สาม พี่เป็นถึงประธานบริษัทภาพยนตร์โทรทัศน์แต่ไร้ความสามารถมากเลยนะ ไม่รู้แม้แต่เรื่องที่ถูกบริษัทคู่แข่งแทงข้างหลัง อีกอย่างลูกน้องคนอื่น ๆของพี่ไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลยเหรอ? ละครทีวีออกอากาศไปแล้วหกตอน แต่กลับไม่มีใครเห็นแม้แต่คนเดียว?” เหมยเหมยเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะพนักงานของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ งานประจำก็คือการสอดส่องดูละครไม่ใช่เหรอ?


ต้องคอยสอดส่องว่าช่วงนี้มีรายการฮิตอะไรบ้าง เรียนรู้ข้อดีของผู้อื่น หาข้อเสียของบริษัทตัวเอง


นี่เป็นงานที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน พนักงานไร้ประโยชน์พวกนั้นของจ้าวเสวียเอ๋อร์รับเงินเดือนเยอะขนาดนั้นมัวแต่พักร้อนอยู่ในบริษัทหรืออย่างไร?


“เหมยเหมย…เธอเป็นอะไรเนี่ย…”


จ้าวเสวียเอ๋อร์เพิ่งสังเกตได้ถึงความผิดปกติ อารมณ์โกรธของน้องเขาไม่เบาเลย!


แม่เจ้า มีใครพอจะช่วยบอกเขาได้บ้างไหมว่ามันเกิดเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้น?


“เจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเราถูกลอกเลียนแบบ ซึ่งก็คือบริษัทหวนอวี่ ตอนนี้กำลังออกอากาศในช่วงเวลาทองของเมืองหลวง เรตติ้งไม่เบาเลย…”


เหมยเหมยพูดอย่างหัวเสีย


“เป็นไปได้ไง…โธ่เว้ย บริษัทหวนอวี่ใช่ไหม…เหมยเหมยใจเย็น ๆนะ พี่จะไปตรวจสอบให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย…เลขาหวง…หายหัวไปไหนวะ”


ปอดของจ้าวเสวียเอ๋อร์แทบระเบิดออกมา


เขาเป็นคนที่สงบนิ่งใจเย็นมาตลอด แต่มีเพียงสองเรื่องที่ทำให้เขาระเบิดอารมณ์ได้


หนึ่งคือจุดจบของวันสิ้นโลก


สองคือกระเป๋าเงินถูกขโมยไป


ไม่นึกเลยว่าจะกล้าลอกเลียนแบบเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเขา นี่มันเป็นการแย่งเงินไปจากกระเป๋าของเขาเลยนะ แถมยังเป็นเงินจำนวนมากอีกด้วย


เขากับบริษัทหวนอวี่นี่ได้เห็นดีกันแน่!


“พี่สาม ฉันไม่ได้ว่าพี่นะ แต่บริษัทควรจัดระเบียบใหม่ เรื่องสำคัญขนาดนี้ยังไม่มีใครแจ้งข่าวให้รู้เลย คนพวกนี้มัวแต่ทำอะไรอยู่…” ไฟโทสะของเหมยเหมยยังไม่มอดดับลง


“ครับ ๆ…พี่จะหักโบนัสของพวกนั้นเอง…เรามาจัดการบริษัทหวนอวี่นี่ให้เสร็จก่อนดีกว่า…พรุ่งนี้เปิดงานแถลงข่าวเลย!”


จ้าวเสวียเอ๋อร์ไม่พอใจต่อการทำงานที่ล่าช้าของพนักงาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือช่วยเหลือเงินในกระเป๋าของตนเองก่อน ส่วนปัญหาภายในของบริษัทจะจัดการเมื่อไรก็ได้!


หากมีเงินยังจะกลัวหาพนักงานดี ๆไม่ได้อีกเหรอ?


เหมยเหมยวางสายไป ทางด้านลุงเหลาก็สืบหาข้อมูลของบริษัทหวนอวี่ได้แล้ว


“คุณหนูครับ ตัวแทนนิติบุคคลตามกฎหมายของบริษัทหวนอวี่คืออู่เจิ้งซือครับ จดทะเบียนที่เมืองจินในช่วงฤดูหนาวปีที่แล้วครับ ซิลเดอเรลล่าเป็นละครเรื่องแรกที่บริษัทนี้ถ่ายทำครับ!”


…………………………………………………..


ตอนที่ 2098 คำประกาศในงานแถลงข่าว


เหมยเหมยใจเต้นระส่ำ ทุกอย่างชัดเจนแล้ว


ยัยชั่วอู่เยวี่ย!


แกนี่มันใจกล้าดีจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าติดต่อกับอู่เจิ้งซือ ไม่คิดเกรงกลัวเลยว่าตัวตนที่แท้จริงจะถูกเปิดเผย!


เมื่อรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแผนของอู่เยวี่ย เหมยเหมยก็ไม่รีบร้อนอะไร เธอต่อปากต่อคำกับอู่เยวี่ยมาถึงสองภพสองชาติ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะนับประสาอะไร


หึ!


เธอรู้ถึงเป้าหมายของอู่เยวี่ยดียิ่งกว่าอะไร คงมีอยู่สองอย่าง หนึ่งคืออยากหาเงิน สองคือหมั่นไส้เธอ!


อู่เยวี่ยถูกเฮ่อเหลียนเช่อกักบริเวณจึงไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับคนภายนอกได้ แม้แต่โทรหาอู่เจิ้งซือก็ยังยาก เธอเห็นละครซิลเดอเรลล่าออกอากาศทางทีวีจึงได้ประมาณเรตติ้งของละครเรื่องนี้ไว้โดยประมาณ พลันรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย


เรตติ้งที่สูงเท่ากับรายได้มหาศาล เธอไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเงินอีกต่อไปแล้ว!


แต่เพียงไม่นานอู่เยวี่ยก็รู้สึกกังวล บัดนี้เธอไร้ซึ่งอิสรภาพ ต่อให้ละครเรื่องนี้ได้เงินเป็นกองเท่าภูเขา เธอก็ไม่ได้รับส่วนแบ่งแม้แต่แดงเดียว อู่เจิ้งซือไม่ใช่คนดี หากเธอขาดการติดต่อกับเขาไปนาน ๆ ผู้เป็นพ่อของเธอคนนี้จะต้องยึดเงินส่วนนี้ไปแน่ ๆและคงไม่แบ่งให้เธอแม้แต่แดงเดียว


อย่างไรก็ตามเธอเองก็ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าอู่เจิ้งซือ และต่อให้เธอจะบอกว่าตนคืออู่เยวี่ย แต่คนไร้คุณธรรมอย่างอู่เจิ้งซือจะคาดหวังให้เขาปฏิบัติกับลูกสาวแท้ ๆด้วยความจริงใจได้แค่ไหนกันเชียว?


ไม่ได้การล่ะ เธอต้องคิดหาวิธีนำเงินพวกนี้มาเป็นของตัวเองให้ได้


ไม่มีเงิน ต่อให้เธอหนีออกไปได้ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ในใจของอู่เยวี่ยขบคิดแผนการอยู่ตลอดเวลา เธอลองนึกหาคนที่เธอรู้จักว่าใครพอจะช่วยเธอได้บ้าง


จู่ ๆชื่อของคน ๆหนึ่งก็โผล่ขึ้นมา อู่เยวี่ยพลันนึกดีใจ


ถูกต้อง เขานั่นแหละ!


โชคดีที่เธอเจอช่องทางการติดต่อของเขาคนนั้นก่อนที่จะถูกกักบริเวณ คน ๆนี้จะต้องช่วยเธอได้แน่นอน!


อู่เยวี่ยมั่นใจเต็มเปี่ยม หยิบกระดาษและปากกาจากลิ้นชักออกมาเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ เธอต้องหาวิธีส่งจดหมายออกไปให้ได้ โชคดีที่แม้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะกักบริเวณเธอ แต่ในทุก ๆสองสามวันจะปล่อยเธอออกไปโดยรอบกายจะมีผู้ติดตามจับตาดูเธอเป็นจำนวนมาก แต่ก็พอมีโอกาสที่จะเจอกับคนภายนอกได้อยู่


ขอแค่เจอคนภายนอกได้ก็เพียงพอแล้ว


เธอมีวิธีที่จะส่งจดหมายฉบับนี้!


ช่วงสายของวันถัดมางานแถลงข่าวจัดขึ้นตรงตามเวลา จ้าวเสวียเอ๋อร์ได้ประณามพฤติกรรมไร้ยางอายของบริษัทหวนอวี่ และประกาศต่อสาธารณะชนว่าจะใช้วิธีการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด เขาจะไม่ยอมปล่อยบริษัทหวนอวี่ลอยนวลอย่างแน่นอน


เหมยเหมยเองก็แสดงทัศนคติของตนเองไป และยังได้พูดบทความยาวอีกหนึ่งย่อหน้า แสดงความสัตย์จริง ซึ่งเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริงของเธอ


“หนังสือเรื่องเจ้าหญิงอัปลักษณ์คือประสบการณ์ชีวิตจริงของฉันเอง ดังนั้นฉันจึงให้ความสนใจกับละครเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หวังว่าจะสามารถถ่ายทำเป็นละครทีวีที่จะไม่ทำให้นักอ่านของฉันต้องผิดหวัง แม้อาจจะไม่สามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติขนาดนั้นแต่ฉันก็อยากจะพยายามจนสุดความสามารถ ซึ่งเรื่องนี้ฉันและผู้กำกับฟางชิงผิงได้ลงมติกันว่าพวกเราไม่ต้องการสร้างละครทีวีในรูปแบบอาหารจานด่วน สิ่งที่พวกเราอยากถ่ายทำนั้น ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปีก็ยังเป็นผลงานาชั้นเยี่ยมที่ทุกคนยังคงจดจำมันได้


ดังนั้นความคืบหน้าในการถ่ายทำเจ้าหญิงอัปลักษณ์ถึงล่าช้าเล็กน้อยจนต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะได้ลงจอ แต่ที่ไหนได้กลับถูกคนหน้าด้านเอารัดเอาเปรียบ นึกไม่ถึงว่าจะลอกเลียนแบบเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของฉันไปเหมือนยันต้นฉบับ แต่เปลี่ยนแค่ชื่อเรื่องเป็นซิลเดอเรลล่าเท่านั้น ชื่อของพระเอกกับนางเอกก็เปลี่ยน แต่เนื้อเรื่องและชื่อของตัวละครสมทบกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย… ”


สุดท้ายเหมยเหมยพูดด้วยความโกรธว่า “ฉันไม่สามารถขออะไรจากผู้ชมทุกท่านได้ แต่ฉันก็ยังอยากขอให้ทุกคนอดใจรออีกสามวันเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของฉันก็จะออกอากาศในเมืองหลวงแล้ว ส่วนจะดีหรือไม่นั้นขอให้ผู้ชมเป็นคนตัดสินเองแล้วกันค่ะ


และฉันขอแนะนำบริษัทหวนอวี่สักหน่อยว่าแม้ของที่ขโมยไปจะดีแค่ไหน สุดท้ายมันก็เป็นของคนอื่นอยู่ดี หากมีเวลามากพอที่จะกระทำสิ่งไร้ยางอายเช่นนี้ได้ งั้นสู้เอาเวลาไปทำจิตใจให้สงบแล้วขัดเกลาละครให้มันดีขึ้นจะดีกว่า อย่าได้คิดทำเรื่องสกปรกลักขโมยแบบนี้เลย มันเป็นการทำลายกฎของวิชาชีพนะคะ!”


ตอนที่ 2099 เป้าหมายไม่ใช่เพราะเงิน


งานแถลงข่าวของพวกเหมยเหมยทำให้เกิดคลื่นโกลาหลลูกใหญ่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ทั่วประเทศ


บริษัทหนึ่งเป็นบริษัทชั้นนำยักษ์ใหญ่ อีกแห่งหนึ่งกลับเป็นแค่บริษัทขนาดเล็กที่ไม่เป็นที่รู้จักเท่านั้น บริษัทหวนอวี่นี้โง่โอ้อวดไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หรือเบื้องหลังจะมีคนใหญ่คนโตหนุนหลังอยู่ถึงได้กล้าทำตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใครแบบนี้?


จ้าวเสวียเอ๋อร์จัดงานแถลงข่าว ซึ่งในขณะเดียวกันก็ขอให้ทนายทำการยื่นฟ้องบริษัทหวนอวี่เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมทั้งยื่นเรื่องถอดถอนต่อสำนักงาน GD ให้ระงับการออกอากาศละครที่ทำการลอกเลียนแบบนี้เสีย


แต่อู่เยวี่ยได้พูดคุยกับโอหยางเซี่ยงหมิงไว้แต่แรกแล้ว อย่างไรเสียหาคนที่รับผิดชอบโดยตรงง่ายกว่า มีโอหยางเซี่ยงหมิงอยู่ทั้งคนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะถอดละครทีวีเรื่องนี้ออก


ส่วนสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงไม่มีทางยุ่งด้วยหรอก!


สถานีโทรทัศน์จะให้ความสำคัญกับเรตติ้งและผลประโยชน์เท่านั้น ตราบใดที่ละครนำผลประโยชน์ทางการโฆษณามาสู่สถานีโทรทัศน์ได้ สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณจะลอกเลียนแบบมาหรือไม่ ใครจะกล้ามีปัญหากับเงินล่ะ!


แม้เหมยเหมยจะโกรธ แต่เธอรู้ดีว่าปัจจุบันคนที่เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ภายในประเทศยังไม่แข็งแรงพอ แม้จะผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ไม่มีทางแข็งแรงขึ้นไปมากกว่านี้อยู่แล้ว


เธอยังจำได้ดีว่าเมื่อชาติที่แล้วมีโปรดิวเซอร์คนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก ตลอดเส้นทางของเขาคือการทำละครยอดฮิตโดยอาศัยการลอกเลียนแบบและดัดแปลงจนกลายเป็นโปรดิวเซอร์มือทองตัวจริง ในตอนท้ายนักเขียนชื่อดังท่านหนึ่งที่ถูกลอกเลียนแบบ ทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงลุกขึ้นมาฟ้องร้องโปรดิวเซอร์ไร้ยางอายคนนี้ และแม้ว่านักเขียนจะเป็นฝ่ายชนะ แต่โปรดิวเซอร์คนนี้กลับไม่ได้รับความเสื่อมเสียใด ๆเลย


จนกระทั่งเขาได้คัดลอกผลงานชิ้นใหญ่กว่าเดิมอย่างไร้ยางอายที่สุด และยังมีผู้ชมจำนวนมากที่ยังคงซื้อมัน ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน!


นอกจากนี้ยังมีการลอกเลียนแบบในลักษณะนี้อีกนับไม่ถ้วน บางคนชนะคดี บางคนก็แพ้คดี แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรล้วนไม่มีผลกระทบใด ๆต่อพวกคนไร้ยางอายที่ลอกเลียนแบบผลงานเช่นนี้เลย


เพราะสิ่งที่พวกเขาใฝ่หาคืออำนาจของเงิน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มุมมองทัศนคติ คุณธรรมจริยธรรม…ทุกอย่างสามารถโยนทิ้งไปได้


ยังมีอะไรที่สำคัญกว่าเงินอีกเหรอ?


อีกหลายสิบปีข้างหน้าก็ยังคงเป็นเช่นนี้ คดีความการฟ้องร้องลิขสิทธิ์ในปัจจุบันนับว่าเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเสียอีก


แต่ต่อให้ยากแค่ไหนเหมยเหมยก็จะฟ้อง เหตุใดความยุติธรรมจึงไม่สามารถเอาชนะความชั่วร้ายได้นะ?


ทำไมคนที่ทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งกลับได้รับสิ่งตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ตรงกันข้ามกับคนร้ายที่ขโมยผลงานของผู้อื่นไปกลับสามารถกลายเป็นผู้ชนะในการใช้ชีวิตได้อย่างง่ายดายเล่า?


มีคนเคยพูดว่านี่คือกฎที่ซุกซ่อนอยู่ในยุทธภพแห่งนี้ ในเมื่ออยู่ในยุทธภพนี้ก็ต้องยอมรับมันไป!


นี่มันกฎบ้าบออะไรเนี่ย!


เหมยเหมยทำเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับผู้ที่ไม่มีอำนาจ ทั้ง ๆที่มีความสามารถแต่กลับถูกบังคับให้ต้องยอมรับกฎบ้าบอเหล่านี้ ในเมื่อตอนนี้เธอยังพอมีที่พึ่ง เช่นนั้นเธอก็จะเป็นคนยิงปืนแห่งความยุติธรรมนัดแรกนี้เอง!


เธอจะทำให้ทุกคนรู้ว่าการขโมยเป็นเรื่องไร้ยางอาย ไม่ควรค่าที่จะให้การสนับสนุน!


“เหมยเหมย ต่อให้เราชนะการฟ้องร้องครั้งนี้ได้ เกรงว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรนะ” จ้าวเสวียเอ๋อร์เป็นกังวลมาก


ซินเดอเรลล่าออกอากาศไปแล้วแถมยังได้รับเรตติ้งที่ดีไม่น้อย เช่นนี้บริษัทหวนอวี่ก็จะสามารถขายละครทีวีให้กับสถานีโทรทัศน์อื่นได้มากขึ้น และทำเงินได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน


หากประธานสำนักงาน GD ไม่สั่งระงับการออกอากาศ พวกเขาก็ไม่สามารถยับยั้งการเผยแพร่ของละครทีวีเรื่องนี้ได้


สถานีโทรทัศน์ในประเทศมีมากขนาดนั้น แม้ว่าจะได้ออกอากาศเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ของสถานีก็ตาม บริษัทหวนอวี่ก็ยังทำเงินได้มหาศาลอยู่ดี แต่เงินกลับไม่ตกถึงมือพวกเขาแม้แต่แดงเดียว


เขามีวิธีซ่อนสินทรัพย์เป็นพันวิธี อู่เจิ้งซือก็ต้องมีเช่นเดียวกัน


โธ่เว้ย แค่คิดว่าเงินจำนวนมากถูกปล้นไป จ้าวเสวียเอ๋อร์ก็ไม่อาจห้ามความเสียใจได้อีก


เหมยเหมยกลอกตามองเขาพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ฉันไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ วัตถุประสงค์ในการฟ้องร้องของฉันคือการทำลายบริษัทหวนอวี่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและไม่สามารถอยู่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์อีกต่อไปได้ และเพื่อให้เพื่อนร่วมสายงานเดียวกันได้เห็นว่าคนที่ลอกเลียนแบบงานของผู้อื่นย่อมมีจุดจบที่ย่ำแย่!”


เธอไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลยสักนิด!


เธอแค่ต้องการแก้ไขกฎของวงการนี้ แม้มันจะยากเธอก็ยังอยากจะลองดูสักตั้ง!


จ้าวเสวียเอ๋อร์จุกจนพูดไม่ออก…แต่เขาสนใจเงินนี่นา!


กฎระเบียบมันแก้ไขได้ง่าย ๆที่ไหนล่ะ น้องของเขาช่างไร้เดียงสาเสียจริง ๆ…เฮ้อ!


ปวดใจชะมัดเลย!


………………………………………………….


ตอนที่ 2100 ต้องชนะคดีให้ได้


เหมยเหมยมองออกว่าจ้าวเสวียเอ๋อร์กำลังคิดอะไรอยู่ เขาต้องเสียใจกับเรื่องเงินแน่ ๆ สมกับเป็นนักลงทุนจริง ๆเลย!


“พี่หาเงินเยอะ ๆไปจะมีประโยชน์อะไร? ต่อให้มีอายุจนถึงร้อยปีการกินการดื่มก็มีขีดจำกัด กินดื่มมากเกินไปก็จะทำให้ป่วย พี่เอาเงินนั่นไปทำอะไรที่มันมีความหมายกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ”


เหมยเหมยพูดตำหนิใส่เขาอย่างดุดัน จ้าวเสวียเอ๋อร์เช็ดน้ำลายออกจากใบหน้าตัวเองแล้วบ่นพึมพำเสียงเบาว่า “เธอจะไม่ให้พี่เก็บเงินแต่งงานบ้างหรือไง?”


“พี่คิดจะหาเมียกี่คน? สิบคนหรือแปดคน? เงินที่พี่หามาได้ใช้ทองคำสร้างเมียได้เป็นคนแล้วมั้ง?”


“พี่จะเอาเมียไปทำอะไรเยอะแยะ? แต่งแค่คนเดียวนี่แหละ ถ้าพี่มีภรรยาก็ต้องเลี้ยงดูเขาอย่างดีสิ พี่ยังต้องเลี้ยงดูสั่งสอนลูกอย่างดีอีก ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินทั้งนั้น เงินน้อยนิดที่พี่หามาได้จะไปพออะไร…”


จ้าวเสวียเอ๋อร์ร่ำไห้อย่างน่าสงสาร น้องคนเล็กของเขาเป็นคนที่กินดีอยู่ดีไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่อดยากหรอก[1] เธอมีเหยียนหมิงซุ่นเป็นที่พักพิง แน่นอนว่าไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้หรอก แต่เขาไม่เหมือนกันนี่!


ตอนนี้ตระกูลจ้าวตกอับ กลัวว่าผ่านไปอีกไม่กี่ปีคนในเมืองหลวงคงลืมเลือนตระกูลจ้าวไปแล้ว ตระกูลใหญ่ขนาดนี้มีแค่เขาที่หาเงินได้มากหน่อย มีคนมากมายรอกินรอดื่มอยู่ แล้วจะไม่ให้เขาหาเงินเยอะได้เช่นไร?


จะให้เขากินดีอยู่ดีคนเดียว แล้วมองคนในตระกูลกินโจ๊กกับผักดองคงไม่ได้หรอกมั้ง?


เหมยเหมยขี้เกียจจะเสวนากับเขาต่ออีก คงหลงเงินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว!


“แต่อย่างไรเสียฉันก็จะฟ้องเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ใช้เงินส่วนตัวของฉันไม่ต้องหักจากบัญชีของบริษัทหรอก แบบนี้ได้ใช่ไหม?” เหมยเหมยพูดอย่างเย็นชา


จ้าวเสวียเอ๋อร์ตกใจเป็นอย่างมาก แม้จะนึกเสียดายเงินที่ใช้ในการฟ้องร้องแต่เขาก็ไม่ได้พูดว่าไม่ให้ฟ้องร้องนี่นา ถ้าหากว่าน้องเขาใช้เงินตัวเองออกจริง ๆ ต่อไปนี้ต้องตีตัวออกห่างเขาแน่ จากเดิมความสัมพันธ์ก็ค่อนข้างห่างเหินกันอยู่แล้ว เกรงว่าภายภาคหน้าคงห่างกันยิ่งกว่าเดิมแน่!


นี่ไม่ใช่จุดจบที่เขาอยากจะเห็น!


“พี่สนับสนุนการฟ้องร้อง…เราต้องทำต่อไปให้ถึงที่สุด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหักจากบัญชีของบริษัท พี่สามจะเป็นแรงหนุนที่แข็งแกร่งของเธอเอง!” จ้าวเสวียเอ๋อร์เปลี่ยนคำพูดทันที ตบอกด้วยความภาคภูมิใจทะลุฟ้า!


เหมยเหมยกลอกตาใส่และไม่พูดในทำนองที่ว่าใช้เงินตัวเองอีก แต่เธอก็คิดอีกอย่างขึ้นในใจ


มุมมองและเป้าหมายของเธอแตกต่างไปจากจ้าวเสวียเอ๋อร์อย่างสิ้นเชิง เธอกลัวว่าในอนาคตจะมีความคิดแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆเหมือนกับการถ่ายทำเจ้าหญิงอัปลักษณ์ในครั้งนี้ สิ่งที่เธอต้องการคือผลงานคุณภาพ จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับต้องการความเร็วในการทำงานเท่านั้น


ดังนั้นเธอจึงต้องคำนึงถึงความร่วมมือในภายภาคหน้าแล้วล่ะ!


คดีความลอกเลียนแบบงานของเหมยเหมยในครั้งนี้เป็นกระแสดังทั่วประเทศ มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากออกข่าวเรื่องนี้ และยังคอยติดตามความคืบหน้าทุกอย่างของคดีนี้ด้วย


หากการฟ้องร้องของเหมยเหมยได้รับชัยชนะนับว่าเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการมาก!


ดังนั้นจึงมีผู้คนที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และบรรดาผู้อ่านเจ้าหญิงอัปลักษณ์หลายคนก็ได้เข้าร่วมด้วย โดยเขียนจดหมายถึงเหมยเหมยทีละฉบับแสดงทัศนคติที่ชัดเจนของพวกเขา ผู้อ่านที่น่ารักบางคนได้เขียนจดหมายส่งไปถึงสถานีโทรทัศน์เป็นการส่วนตัว โดยร้องขอให้ระงับการออกอากาศละครซินเดอเรลล่า พวกเขาจะไม่มีวันดูละครทีวีที่ผลิตออกมาได้ห่วยแตกแบบนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผลงานลอกเลียนแบบอีกต่างหาก


“อย่าดูละครทีวีที่ละเมิดลิขสิทธิ์และห่วยแตกเด็ดขาด ใครดูขอให้เป็นหมา!”


ประโยคนี้ดังขึ้นตอนที่มีนักข่าวสัมภาษณ์คนที่เดินสัญจรไปมา มีสาวน้อยขี้เล่นคนหนึ่งเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมาด้วยท่าทีจริงจังและได้รับการสนับสนุนจากคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก เด็ก ๆพวกนี้นอกจากตัวเองจะไม่ดูแล้วยังบังคับไม่ให้คนที่บ้านดูด้วย ผลลัพธ์ออกมาดีมากเพราะเรตติ้งลดฮวบเลย


เหมยเหมยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากพลันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เพราะเธอไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังแต่ยังมีผู้อ่านที่รักอีกมากมายที่คอยสนับสนุนเป็นแรงหนุนที่แข็งแกร่งของเธอ!


ดังนั้นเธอจะต้องเอาชนะการฟ้องร้องในครั้งนี้ให้ได้!


เพื่อผดุงความชอบธรรมให้กับวงการนี้!


………………………………………………………………………..


[1] อุปมาว่าไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นนั่นเอง


ตอนที่ 2101 ป้องกันอย่างไรก็ไม่หมด


อู่เยวี่ยเห็นประกาศของเหมยเหมยทางทีวีก็พลันรู้สึกกังวลว่าอู่เจิ้งซือจะรับมือได้หรือไม่


น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้จึงให้คำแนะนำอู่เจิ้งซือไม่ได้เลย หวังว่าโอหยางเซี่ยงหมิงจะสามารถทนต่อแรงกดดันและถ่วงเวลาไปได้อีกสักพัก และหวังว่าอู่เจิ้งซือจะไม่ยอมแพ้แล้วรีบถ่ายโอนทรัพย์สินของบริษัทโดยเร็วที่สุด


ส่วนจะฟ้องร้องชนะคดีหรือไม่ อู่เยวี่ยไม่สนใจเลยสักนิด


เธอแค่ต้องการเงิน ละครเรื่องซินเดอเรลล่าทำเงินได้มากมายแล้ว ขอเพียงแค่ยืนหยัดต่อได้อีกสักระยะหนึ่งจะต้องทำเงินได้มากขึ้นแน่นอน มีเงินพวกนี้เธอถึงจะมีทางหนีทีไล่เอาตัวรอดได้!


ฟ้องร้องคดีแพ้แล้วอย่างไรล่ะ?


ต่อให้ศาลพิพากษาให้บริษัทต้องชดเชยเงินให้กับจ้าวเหมย ขอเพียงแค่ทรัพย์สินของบริษัทถ่ายโอนเรียบร้อยเหลือเพียงความว่างเปล่า แล้วจะเอาอะไรไปชดเชยให้ได้ล่ะ?


ถึงแม้ว่าอู่เยวี่ยจะมีความคิดมากมายแต่ตอนนี้เธอออกไปไหนไม่ได้จึงหาทางติดต่ออู่เจิ้งซือไม่ได้เลย เธอไม่เชื่อมั่นในความสามารถของอู่เจิ้งซือเลยสักนิด ไม่ได้การล่ะ เธอต้องหาวิธีติดต่อกับโลกภายนอก


ณ เขตกองกำลังทหารทางตอนใต้ เหยียนหมิงต๋าเพิ่งเสร็จจากการฝึกฝนอย่างเข้มงวด ในอีกสองเดือนทีมเสวี่ยอิงจะมีการคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถในกองทหารทั่วประเทศ เหยียนหมิงต๋าใฝ่ฝันที่จะเป็นสมาชิกของทีมเสวี่ยอิง ดังนั้นหลังจากเขากลับไปที่กองทัพ เขาก็เพิ่มจำนวนการฝึกฝนในทุกวันเป็นสองเท่าจนกลายเป็นคนบ้าการฝึกไปเลย


เขาจัดตารางจนแน่นทุกวัน นอกจากการนอนและการกินแล้ว เวลาที่เหลือก็คือการฝึกฝนจนไม่มีเวลาให้คิดเรื่องอื่นเลย


“เหยียนหมิงต๋า มีจดหมายส่งมาหานาย!”


มีทหารคนหนึ่งถือจดหมายซองหนาอยู่ในมือแล้วยื่นส่งให้เหยียนหมิงต๋า มีคนแซวว่า “ตัวหนังสือดูน่ารักดีนะ คงไม่ใช่แฟนนายเขียนมาใช่ไหม?”


เหยียนหมิงซุ่นต๋ายิ้มอย่างเขินอาย “ไร้สาระน่า ฉันจะเอาแฟนมาจากไหน น่าจะเป็นคุณย่าฉันเขียนมามากกว่า”


เขารับจดหมายมา แต่พอเห็นลายมือสวยงามที่คุ้นตาสีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก เขาคว้าจดหมายแล้วรีบวิ่งไปหาที่เงียบ ๆอ่านจดหมายฉบับนี้


ทหารที่ส่งจดหมายเห็นพฤติกรรมแปลก ๆของเขาก็พูดติดตลกว่า “แล้วบอกอีกว่าไม่ใช่แฟน แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงเขียนมา แล้วจะปิดซ่อนสายตาอันเฉียบคมของฉันไปได้อย่างไร?”


คนอื่น ๆก็พูดหยอกล้อติดตลกอยู่อีกหลายประโยค


เหยียนหมิงต๋ากำจดหมายและวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในป่าเล็ก ๆของกองทหาร ที่นี่เงียบสงบมาก เวลาที่เขาอารมณ์ไม่ดีก็จะมานั่งเล่นที่นี่สักพัก


ลายมือบนจดหมายฉบับนี้เป็นของเยวี่ยเยวี่ย!


เขาไม่มีทางจำผิดแน่นอน!


เยวี่ยเยวี่ยไม่ได้ตายไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วเหรอ?


ทำไมถึงยังเขียนจดหมายถึงเขาได้อีกล่ะ?


เหยียนหมิงต๋าดูแสตมป์จ่าหน้าซองจดหมายก็เห็นว่าเป็นของไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง และมันถูกส่งมาจากเมืองหลวง เขาอดใจไม่ไหวรีบเปิดซองจดหมาย ด้านในมีเพียงกระดาษจดหมายแผ่นเดียวและเขียนเพียงประโยคเดียวว่า


“พี่หมิงต๋า ฉันคือเยวี่ยเยวี่ยนะ ฉันถูกกักบริเวณ รีบมาช่วยฉันหน่อยสิ ฉันกลัว…”


หลังประโยคนี้ยังมีการวาดรูปใบหน้าที่ร้องไห้อยู่หลายที่ บนกระดาษยังมีคราบน้ำตาอีกด้วย หัวใจของเหยียนหมิงต๋าบีบแน่นขึ้นมาทันที


หรือว่าสามปีก่อนเยวี่ยเยวี่ยไม่ได้ตายจริง แต่โดนคนจับไปขังไว้?


ลายมือพวกนี้เป็นของเยวี่ยเยวี่ยจริงแท้แน่นอนเพราะเขาคุ้นเคยกับตัวหนังสือของเยวี่ยเยวี่ยมาก ตัวอย่างเช่นตอนเขียนชื่อของเขาจะตั้งใจเขียนคำว่าหมิงต๋าเชื่อมติดกัน และเขียนคำว่าต๋าตวัดลากยาวโค้งสวยงาม


นี่คือลายเซ็นที่เยวี่ยเยวี่ยออกแบบให้เขาเป็นพิเศษ ทั้งยังบอกให้วันหลังเขาเซ็นชื่อแบบนี้ เพียงแต่ที่เขาเขียนมันไม่สวยเท่าของเยวี่ยเยวี่ย


พอเหยียนหมิงต๋านึกถึงอดีตอันแสนหวานก็อดยิ้มไม่ได้ แต่ในไม่ช้าหัวใจของเขาก็รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทงอีกครั้ง สีหน้ากลัดกลุ้ม


ไม่ได้การล่ะ เขาต้องรีบไปเมืองหลวงเพื่อช่วยเยวี่เยวี่ย!


เขาต้องรู้ให้ได้ว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


ทำไมเมื่อสามปีก่อนพี่ใหญ่ถึงต้องโกหกเขาว่าเยวี่ยเยวี่ยตายไปแล้วด้วย


…………………………………………..


ตอนที่ 2102 ความหวาดกลัวของอู่เจิ้งซือ


เหมยเหมยยื่นฟ้องบริษัทหวนอวี่ต่อศาลในช่วงกลางเดือนสิงหาคม อู่เจิ้งซือผู้เป็นนิติบุคคลของบริษัทหวนอวี่มาถึงเมืองหลวงก่อนกำหนด ในสามปีที่ผ่านมาอู่เจิ้งซือไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก


ยังคงสง่างามเหมือนเมื่อสามปีก่อน แต่ว่าที่จอนผมสองข้างมีหงอกขึ้นประปราย


หลังจากที่เขาทะเลาะใหญ่โตกับเหมยซูหานเมื่อสามปีก่อนและออกจากบริษัทหัวหยู่อย่างโกรธแค้น ตอนเดินจากมาอู่เจิ้งซือเต็มไปด้วยความทระนง เขารู้สึกว่าด้วยพรสวรรค์และเส้นสายของเขาต่อให้ต้องเริ่มก่อตั้งบริษัทอย่างหัวหยู่ก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย!


อู่เจิ้งซือเอาเงินทั้งหมดที่เขาหาได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาลงทุนกับบริษัทใหม่ เตรียมตัวตั้งรับด้วยจิตใจอันฮึกเหิม แต่ความเป็นจริงกลับตบหน้าเขาอย่างรุนแรง


เขานึกว่าตนมีเส้นสายที่ดี แต่นั้นคือตอนที่เขาเป็นผู้จัดการของบริษัทหัวหยู่ พอเขาเลิกเป็นผู้จัดการของบริษัทหัวหยู่ ลูกค้าที่มักเรียกเขาว่าเพื่อนรัก อย่างดีที่สุดพวกเขาก็แค่พยักหน้าให้หรือมองผ่านไปแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเลย


อู่เจิ้งซืออยากจะสร้างละครทีวี ในเมื่อมีสคริปต์บทละครแล้ว การหานักแสดงและผู้กำกับก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาไม่เจอนักลงทุนเลย เงินเขาแค่นั้นถ้าใช้แค่กินดื่มก็อยู่ได้สบาย ๆแต่หากใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจอาจจะน้อยไปหน่อย ไม่พอใช้เลยด้วยซ้ำ


ต่อมากว่าจะเจอนักลงทุนก็ยากลำบากพอสมควร ถ่ายทำละครทีวีต้นทุนต่ำอย่างค่อนข้างสะดุดกระท่อนกระแท่น แต่วิสัยทัศน์ของเขาแย่เกินไป ละครที่ผลิตออกมาไม่มีสถานีโทรทัศน์ใดยินดีที่จะซื้อเลย


ไม่มีใครซื้อก็หมายถึงการสูญเงินเปล่า นักลงทุนโกรธมากจนอยากจะฆ่าอู่เจิ้งซือทิ้ง แต่หลังจากนั้นก็ให้เขาไปถ่ายละครรักโรแมนติกสำหรับครอบครัว แต่วิสัยทัศน์ของเขาก็ยังไม่ได้เรื่อง พล็อตเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อไม่มีอะไรใหม่ ๆ ทำให้ไม่สามารถเชิญดาราดังมาร่วมงานได้ ละครทั้งเรื่องไม่มีจุดเด่นอะไรเลยแต่กลับมีสถานีโทรทัศน์ซื้อมัน ทว่าเรตติ้งต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนน่าตกใจ


สถานีโทรทัศน์โกรธมากจนอยากจะด่าบุพการีของเขา ทำให้บริษัทของอู่เจิ้งซืออยู่ในบัญชีดำถาวร!


ยืนหยัดได้แค่สองปีในที่สุดบริษัทของอู่เจิ้งซือก็ไปไม่รอดประกาศล้มละลายอย่างสมศักดิ์ศรี และเขายังขายบ้านพักของเขาเพื่อชำระหนี้ที่บริษัทติดค้างไว้ สุดท้ายเขาก็กลับมายากจนอีกครั้ง


ตอนที่อู่เยวี่ยปรากฏตัวต่อหน้าอู่เจิ้งซือด้วยสถานะของโอหยางซานซาน เขากำลังทำงานอยู่ที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งซึ่งฝืนทำเพื่อเลี้ยงปากท้องไปวัน ๆ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของโอหยางซานซาน แต่สำหรับคนจนตรอกอย่างอู่เจิ้งซือไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จ เขาต้องกอดขาของโอหยางซานซานไว้ให้แน่น ๆก่อนอยู่แล้ว!


เขาต้องการกลับมายิ่งใหญ่เกรียงไกรอีกครั้ง!


อู่เจิ้งซือคิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จในครั้งนี้อย่างแน่นอน เขามองบ้านพักที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในเมืองจินแล้วด้วยซ้ำ ขอแค่เงินส่วนแบ่งมาอยู่ในมือ เขาก็จะทำการซื้อบ้านใหม่ทันทีและลืมตาอ้าปากใหม่ได้อีกครั้ง!


แต่ไม่ทันไรเขาก็โดนจ้าวเหมยฟ้องเสียแล้ว!


เขาไร้ซึ่งความมั่นใจ เขาไม่อยากจะกลับไปทรมานแล้วจริง ๆ!


เหลือเวลาอีกแค่วันเดียวก่อนขึ้นศาลอู่เจิ้งซือรู้สึกกระวนกระวายใจจึงแวะร้านกาแฟใกล้โรงแรม เขาอยากจะดื่มกาแฟเย็น ๆสักแก้วให้ใจสงบลง


พอเขาได้รับหมายเรียกจากศาลก็อยากติดต่อโอหยางซานซานทันที อยากจะถามเธอว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี แต่ส่งเพจหาโอหยางซานซานเท่าไรเธอก็ไม่โทรกลับมาสักที อู่เจิ่งซือจึงตื่นตระหนกมากขึ้นกว่าเดิม


เขากลัวว่าโอหยางซานซานจะหนีและปล่อยให้เขาเป็นแพะรับบาปคนเดียว!


เขาไม่อยากไปอยู่ในห้องขังอีกหรอกนะ!


อู่เจิ้งซือกำลังดื่มชาด้วยท่าทีเหม่อลอย แต่อยู่ดี ๆก็โดนใครบางคนชนเข้า อู่เจิ้งซือเงยหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันได้เห็นใบหน้าของชายคนนั้นเขาก็รีบร้อนจากไปแล้ว ทว่ามองจากเงาแผ่นหลังของเขาน่าจะเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่


บนโต๊ะกลับมีกระดาษโน้ตเพิ่มขึ้นมาหนึ่งแผ่น


“ไปพบทนายสวีที่ล็อบบี้โรงแรม เขาจะสอนคุณว่าต้องทำอย่างไร!”


ชื่อที่เขียนทิ้งไว้คือโอหยางซานซาน


อู่เจิ้งซือมีความมั่นใจขึ้นมาในทันที ดื่มชาในถ้วยจนหมดแล้วไปที่ล็อบบี้ของโรงแรมอย่างดีใจ


ตอนที่ 2103 คิดอย่างรอบคอบ


เหมยเหมยแต่งตัวเป็นทางการเตรียมตัวขึ้นศาล เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาว ผมของเธอถูกมวยเก็บไว้ มองดูเป็นผู้ใหญ่และดูเป็นสาวมั่นมีความสามารถขึ้นไม่น้อยเลย


“อยากให้พี่ไปด้วยไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถาม


“ไม่ต้องหรอกคะ พี่ไปทำธุระของพี่เถอะ คดีนี้ฉันต้องชนะแน่นอน!” เหมยเหมยมั่นใจอย่างเปี่ยมล้น ฝั่งเธอมีหลักฐานเพียงพอ เว้นแต่สมองของผู้พิพากษาจะมีปัญหา ไม่เช่นนั้นเธอต้องชนะคดีแน่


เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิม ใจสั่นเล็กน้อย หลังจากผ่านสงครามเย็นเรื่องพิษกู่มาเขาก็เริ่มคิดทบทวน


เขาเอาแต่ยึดติดว่าชายต้องเป็นใหญ่มากไปจริง ๆ ทั้งยังประเมินความสามารถของเหมยเหมยต่ำเกินไปด้วย ดังนั้นตอนนี้เขาถึงค่อย ๆปรับนิสัย เว้นช่องว่างและให้อิสระเหมยเหมยมากขึ้น


“ไม่อยากให้พี่ไปด้วยจริง ๆนะ?” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มถาม


“ไม่ต้อง…พี่น่ารำคาญจริง ๆเลยนะ…” เหมยเหมยยิ้มอย่างกระเง้ากระงอด เหยียนหมิงซุ่นหยิกแก้มเธอเบา ๆอยู่หลายที กล้าพูดว่าเขาน่ารำคาญงั้นเหรอ ตอนกลางคืนรอรับโทษได้เลย


พูดถึงเขาก็มีเรื่องสำคัญต้องจัดการในตอนเช้าเช่นกัน ไม่มีเวลาไปศาลเป็นเพื่อนเหมยเหมยหรอก


“ตอนเย็นพี่จะรีบกลับมาทำอะไรอร่อย ๆให้เธอกินนะ ปีกไก่อบน้ำผึ้งของโปรดที่เธอชอบที่สุดไง…” เหยียนหมิงซุ่นกระซิบที่ข้างหูของเหมยเหมยและยังขบเบา ๆอีกด้วย จากนั้นก็มองปลายหูสีขาวเนียนนุ่มที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูด้วยความพึงพอใจ ต่างหูมุกขนาดเท่านิ้วก้อยที่หูเข้ากันอย่างลงตัว


“เกลียดที่สุด…อย่ามาทำให้ผมฉันยุ่งนะ…”


เหมยเหมยผลักเขาเบา ๆ เหยียนหมิงซุ่นยืดตัวตรงเพราะเขาและลูกน้องนัดประชุมตอนแปดโมงครึ่งจะไปสายไม่ได้


ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นหยิบกุญแจรถก็ถามลุงเหลาว่า “สถานการณ์ในกองทัพของหมิงต๋าเป็นอย่างไรบ้าง?”


“สองวันก่อนเข้าร่วมภารกิจด้วย ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมาที่เมืองหลวงแต่เป็นการปฏิบัติการอย่างลับ ๆจึงไม่สามารถติดต่อได้” ลุงเหลาตอบ


“รอเขากลับกองทัพเมื่อไรบอกผมด้วย”


เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้สนใจอะไรนัก เหยียนหมิงต๋าอยู่ในหน่วยรบพิเศษ ปฏิบัติภารกิจเป็นเรื่องธรรมดา


เวลาขึ้นศาลคือตอนเช้าเวลาแปดโมงห้าสิบ เหมยเหมยมาถึงศาลก่อนสิบนาที จ้าวเสวียเอ๋อร์และทนายความมาถึงนานแล้ว อู่เจิ้งซือก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธออย่างลำพองใจ


“เหมยเหมย…”


อารมณ์ของอู่เจิ้งซือค่อนข้างซับซ้อน เดิมทีนี่คือลูกสาวของเขา ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะค้นพบพรสวรรค์ของลูกสาวคนนี้ แต่กลับโดนจ้าวอิงหัวคว้าตัวไปเสียแล้ว


ถ้าหากจ้าวเหมยยังเป็นลูกสาวของเขา เจ้าหญิงอัปลักษณ์ก็ต้องเป็นของเขา ไหนเลยจะต้องมาถ่ายซินเดอเรลล่าบ้าบอนี่ด้วย?


เหมยเหมยมองเขาอย่างเย็นชา “กรุณาเรียกฉันว่าคุณหนูจ้าว สำหรับคนที่ขโมยผลงานของฉันไป แค่ต้องคุยด้วยฉันยังรังเกียจเลย!”


สีหน้าของอู่เจิ้งซือเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขายังคิดจะอธิบายอีกหลายประโยคแต่เหมยเหมยกลับเดินหนีไปไกลแล้ว


เขาพ่นลมออกจมูกด้วยความโมโหแล้วมองไปที่ทนายสวีที่อยู่ข้าง ๆเขาด้วยความสงสัย “ทำตามที่คุณพูดจะไม่มีปัญหาจริง ๆเหรอ?”


“วางใจได้ คุณหนูโอหยางจัดการให้แล้ว ขอแค่คุณยอมโอนเงินของบริษัทออก แม้ว่าคุณจะแพ้คดีก็จะไม่มีปัญหาอะไร” ทนายความสวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม


“แต่ว่า…เงินของฉันจะทำอย่างไร?” อู่เจิ้งซือยังไม่วางใจ


โอหยางซานซานสัญญาว่าจะให้ส่วนแบ่งเขาสามส่วน เขาลองคำนวณดูแล้วละครซินเดอเรลล่าเรื่องนี้ทำรายได้เกือบห้าล้าน ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเขาจะได้ส่วนแบ่งหนึ่งล้านห้าแสน!


หนึ่งล้านห้าแสนเพียงพอสำหรับที่จะซื้อบ้านพักสุดหรูในเมืองจิน แถมยังมีเงินเหลือไว้ใช้ตอนบั้นปลายชีวิตได้อย่างสุขสบายเลยล่ะ


แต่เงินนี้ยังไม่ได้มาอยู่ในมือ เขายังไม่ค่อยอุ่นใจนัก


ทนายความสวีจงใจพูดว่า “คุณวางใจเถอะ คุณหนูโอหยางจะโกงเงินแค่นั้นของคุณไปทำไม? คุณคงไม่รู้ว่าตอนนี้คุณหนูโอหยางมีสถานะเป็นใครสินะ เธอคือคุณนายเช่อที่มีชื่อเสียง อย่าว่าแต่หนึ่งล้านห้าแสนเลย แม้แต่เงินสิบห้าล้านก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเธอด้วยซ้ำ”


อู่เจิ้งซือใจเต้น ภรรยาของคุณชายเช่อ?


ภูมิหลังไม่ได้เบาเลยนี่!


เขายิ้มให้ทนายสวีแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก เขามักจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่เรื่อย เขาแอบดีใจที่เขาไม่ได้ปักใจเชื่อตั้งแต่แรกแล้วฝากเงินของบริษัทไว้ในบัญชีที่โอหยางซานซานกำหนด แต่เขาเอามาฝากไว้ในบัญชีของเขาเองต่างหาก


รหัสก็มีแต่เขาที่รู้!


หลังจากฟังคำพูดของทนายสวีเมื่อวานนี้เขาก็แอบโยกย้ายเงินพวกนี้อย่างเงียบ ๆแล้วบอกทนายสวีว่าเขาได้ทำตามคำสั่งแล้วโดยที่ไม่มีใครรู้


…………………………………………..


ตอนที่ 2104 ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


อู่เยวี่ยยังไม่รู้ว่าอู่เจิ่งซือมีแผนตลบหลังตน เธอคิดว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ


เพราะความไม่สะดวกของเธอจึงทำให้ไม่มีโอกาสไปที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบว่ามีเงินในบัญชีของเธอมากกว่าห้าล้านหรือไม่ แต่อู่เยวี่ยไม่ได้คิดว่าอู่เจิ้งซือจะกล้าขัดคำสั่งเธอ เพราะถึงอย่างไรสถานะในปัจจุบันของเธอก็คือโอหยางซานซาน ไม่ใช่อู่เยวี่ย


สถานะของโอหยางซานซาน สำหรับอู่เจิ้งซือแล้วมีอำนาจมากพอที่จะสยบเขาได้


แต่อู่เยวี่ยกลับลืมความเห็นแก่ตัวของอู่เจิ้งซือไปจนสิ้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนขี้ขลาดแต่เพื่อความปรารถนาของตน บางครั้งเขาก็มีความกล้ามากพอ


เช่นเดียวกับที่เขากล้าจะเสี่ยงครั้งใหญ่เปลี่ยนลูกที่ตายไปแล้วของเหอปี้อวิ๋นเป็นเหมยเหมยในตอนนั้น


ผู้พิพากษาเปิดศาลตรงเวลาเหมยเหมยแสดงหลักฐานมากมายทางฝั่งของเธอ นอกจากนี้ทนายความที่ได้รับการว่าจ้างยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงอีกด้วย บดขยี้ฝั่งของอู่เจิ้งซือจนเละ ผลลัพธ์ก็เห็นได้อย่างชัดเจน


แต่ว่าเป้าหมายของอู่เยวี่ยไม่ใช่การชนะคดี ดังนั้นทนายความสวีจึงไม่ได้โต้แย้งอะไรมากไปกว่านี้ ผู้พิพากษาจึงตัดสินคดีความได้อย่างรวดเร็ว


ตัดสินให้ฝั่งของเหมยเหมยชนะคดีและสั่งให้บริษัทหวนอวี่ห้ามขายละครเรื่องซินเดอเรลล่าอีกต่อไป อีกทั้งต้องชดเชยค่าเสียหายแก่เหมยเหมยสามล้าน พร้อมประกาศขอโทษต่อหน้าคนทั่วประเทศผ่านสื่อ


อู่เจิ้งซือปวดใจไม่น้อย ซินเดอเรลล่าเพิ่งได้ออกอากาศ ช่วงเวลาแห่งการทำเงินยังไม่ทันเริ่มขึ้นเลยแต่กลับถูกสั่งห้ามฉายต่อแล้ว นี่ต้องสูญเงินไปเท่าไรกันนะ!


เขาบอกแล้วว่าบทละครควรจะมีการดัดแปลงบ้าง ไม่ควรขโมยความคิดมาง่าย ๆและหยาบโลนเช่นนี้ แต่อู่เยวี่ยก็ไม่ฟังการโน้มน้าวใด ๆ บอกว่านี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างละครทีวี ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ก่อน


อู่เจิ้งซืออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หากฟังคำแนะนำของเขาตั้งแต่แรก แน่นอนว่าจะต้องสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบล้าน


แต่ไม่นานเขาก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรอย่างน้อยเขาก็ทำเงินได้ถึงห้าล้าน ตอนนี้เขาเข้าใจกฎของวงการนี้อย่างคร่าว ๆแล้ว เขามีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งแน่นอน!


อู่เจิ้งซือไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวงนานนัก พอขึ้นศาลเสร็จเขาก็รีบกลับเมืองจินทันที ส่วนเรื่องชดเชยค่าเสียหายศาลประจำท้องถิ่นในเมืองจินจะให้ความร่วมมือในการดำเนินการเอง


อู่เยวี่ยได้รับข่าวว่าอู่เจิ่งซือได้ฝากเงินทั้งหมดเข้าบัญชีที่เธอกำหนดตามวิธีการของเธอ อู่เยวี่ยพึงพอใจมาก ตราบใดที่มีเงินห้าล้านเส้นทางหนีเอาตัวรอดของเธอก็จะราบรื่น


ได้เวลาออกจากกรงนี้แล้ว!


สามวันต่อมาสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็หยุดออกอากาศเรื่องซินเดอเรลล่าภายใต้แรงกดดันจากศาล อันที่จริงต่อให้ศาลไม่สั่ง สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ไม่ต้องการออกอากาศอีกต่อไปแล้ว


หากไม่มีการเปรียบเทียบก็คงไม่เป็นอะไร!


ก่อนที่เจ้าหญิงอัปลักษณ์จะลงฉาย ละครเรื่องซินเดอเรลล่าก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งน่ารักสดใส สร้างแรงบันดาลใจ รักวัยใสและยังน่าดึงดูดอีกด้วย


แต่พอเจ้าหญิงอัปลักษณ์ลงจอ สถานีโทรทัศน์ก็เข้าใจเลยว่าทำไมเหมยเหมยถึงได้มั่นใจในตอนแถลงข่าวขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแสดงของนักแสดง เสื้อผ้า ฉาก รวมไปถึงระดับฝีมือของผู้กำกับ…ต่างก็เหนือชั้นกว่าซินเดอเรลล่าทั้งนั้นเลย!


นี่คือผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


ผู้ชมไม่ได้โง่ หรูฮวาและหวังจู่เสียน[1]ในชุดเดียวกัน จะเลือกดูใครล่ะ?


เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นคนหลังอยู่แล้ว!


เจ้าหญิงอัปลักษณ์ฉายไม่ถึงสัปดาห์สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ได้ปรับเวลาออกอากาศของเจ้าหญิงอัปลักษณ์เป็นช่วงไพรม์ไทม์(ช่วงเวลาทอง)อย่างไม่ลังเล ส่วนซินเดอเรลล่าที่เคยฉายก็โดนเลื่อนเวลาออกไป


พอตอนนี้ปลดออก สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ไม่มีเรื่องให้ทุกข์ใจแล้ว


เพราะว่ารายได้จากโฆษณาที่เจ้าหญิงอัปลักษณ์นำมาให้พวกเขาเพียงพอที่จะทำให้พวกเขายิ้มหน้าบานเลยทีเดียว!


เรตติ้งของเจ้าหญิงอัปลักษณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนนำลิ่วรายการทีวีหลายรายการที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลจะเป็นไปตามที่คาดไว้แต่ก็ทำให้เหมยเหมยดีใจอยู่ดี


เพราะสิ่งที่เธอยืนหยัดว่าจะผลิตแต่ผลงานคุณภาพเป็นเรื่องที่ถูกต้อง!


แต่ว่า——


“เหมยเหมย…บริษัทหวนอวี่ไม่มีเงินสักแดงเดียวจึงไม่สามารถดำเนินการได้!” จ้าวเสวียเอ๋อร์โทรมาด้วยความโมโห


…………………………………………..


[1] เป็นชื่อดาราในสมัยนั้น แต่หรูฮวาจะเป็นตลกชายที่ชอบแต่งตัวลอกเลียนแบบผู้หญิง ส่วนหวังจู่เสียนเป็นดาราสาวสวย


ตอนที่ 2105 ป้อนกุ้งมังกรน้อย


“จะไม่มีเงินได้ไง ขายให้กับสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ต้องได้ราคาอย่างน้อยสองสามล้านมั้งสิ?” เหมยเหมยรู้สึกแปลกใจ


จ้าวเสวียเอ๋อร์ยิ้มอย่างขมขื่น “โยกย้ายเงินออกไปหมดแล้ว ในบริษัทมีแต่หุ้นติดลบ”


อู่เจิ้งซือคนนี้มือเท้าว่องไวจริง ๆ!


เหมยเหมยถึงได้เข้าใจแอบด่าอู่เจิ้งซือว่าเจ้าเล่ห์ “งั้นก็จับเขาเข้าไปอยู่ในคุกตลอดชีวิต!”


โยกย้ายทรัพย์สินใช่ไหม?


จะทำให้ทรัพย์สินที่มันโยกย้ายไปไม่มีวาสนาได้ใช้ให้ไปนอนอยู่ในคุก ดูสิว่าอู่เจิ้งซือจะใช้เงินอย่างไร!


จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับคิดว่าเหมยเหมยจะจัดการบังคับให้อู่เจิ้งซือคายเงินพวกนั้นออกมาตอนอยู่ในคุก เขาจึงมีความสุขขึ้นมาทันที ถามเหมยเหมยว่าจะจัดการกับอู่เจิ้งซืออย่างไร


“แล้วจะจัดการอย่างไรได้อีกล่ะ จับมันเข้าไปดื่มด่ำชีวิตในคุกสิ!”


เหมยเหมยพูดออกมาโดยไม่ต้องคิดและวางสายไป


เธอไม่ได้สนใจเงินพวกนั้นมากนัก เป้าหมายของเธอสำเร็จแล้ว ละครโทรทัศน์เรื่องซินเดอเรลล่ากลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ ทั่วประเทศรายงานข่าวเรื่องการลอกเลียนแบบจนเป็นเรื่องโกลาหลไม่น้อยเลย


บรรดาผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมในวงการนี้ อีกทั้งนักวิชาการบางท่านต่างสนทนากันอย่างออกรสเกี่ยวกับคดีนี้ ในเวลาเดียวกันสถานีโทรทัศน์หลักทั้งหมด หนังสือพิมพ์และสื่ออื่น ๆต่างถกประเด็นเรื่องนี้กันหมด


ความคิดเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนต่างก็ด่าทอบริษัทหวนอวี่อย่างท่วมท้นว่าทำไม่ถูก วิจารณ์ว่าทำน่าเกลียดและทำลายจรรยาบรรณของวงการนี้ด้วย!


กล่าวได้เพียงว่าอู่เจิ้งซือสร้างความโกรธให้แก่ประชาชนไม่น้อย คนอื่นต่อให้จะลอกเลียนแบบก็ยังปรับบทบ้าง ไม่สิ้นคิดและหยาบโลนเหมือนอู่เจิ้งซือที่แค่แย่งพล็อตเรื่องมาแล้วก็ใช้โต้ง ๆแบบนี้เลย


นี่ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นการคัดลอกความคิด แต่มันคือการขโมยดี ๆนี่เอง!


หลังจากเรื่องนี้อู่เจิ้งซือก็มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ ต่อให้เขาจะมีเงินห้าล้านก็ตาม แต่วงการนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับเขาอีกต่อไปอีกต่อไป


อู่เจิ้งซือยังคงฝันถึงชีวิตอันรุ่งโรจน์สวยงามยังไม่ยอมตื่นสักที เขาถูกจับเข้าคุกแล้ว อีกทั้งยังเป็นห้องขังที่มีนักโทษข่มขืนรวมตัวกันด้วย ต่อให้เป็นนักโทษฆ่าคนตายก็ยังไม่เต็มใจจะมาอยู่ที่นี่เลย


เพราะชื่อเสียงของอู่เจิ้งซือไม่ดี เรื่องการโอนทรัพย์สินของเขาเหมยเหมยไม่คิดสงสัยอู่เยวี่ยเลย ตอนนี้อู่เยวี่ยถูกเฮ่อเหลียนเช่อจับตามองอย่างใกล้ชิด เธอจึงไม่สามารถติดต่ออู่เจิ้งซือได้เลย


เหมยเหมยคุยกับเหยียนหมิงซุ่นเรื่องคดีความ “พี่คิดว่าอู่เยวี่ยคิดทำอะไรอยู่? ให้เงินอู่เจิ้งซือมากขนาดนี้แต่เธอกลับไม่ได้แม้แต่แดงเดียว!”


เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเบา ๆ “ตอนแรอู่เยวี่ยจะรู้ได้ไงว่าวันหนึ่งเธอจะถูกเฮ่อเหลียนเช่อกักบริเวณในบ้าน แต่โชคดีที่ครั้งนี้เธอถูกกักบริเวณไว้ ไม่งั้นคดีนี้คงไม่จบง่าย ๆขนาดนี้แน่!”


อู่เยวี่ยเป็นผู้หญิงเล่ห์เหลี่ยมจัด มีเธอคอยกำกับอู่เจิ้งซืออยู่เบื้องหลังคงต้องเจอเรื่องลำบากมากมายแน่ นับว่าเฮ่อเหลียนเช่อก็ทำเรื่องดี ๆเหมือนกันแฮะ!


“สมน้ำหน้า เธอสร้างบาปกรรมเองแท้ ๆ น่าเสียดายที่เสี่ยวเป่ายังอายุไม่ถึงหกเดือนยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะหนึ่งขวบเลยนะ!” เหมยเหมยพูดอย่างขมขื่น เกลียดที่เวลาผ่านไปช้าเกินไปจนต้องปล่อยให้อู่เยวี่ยลอยหน้าลอยตาอยู่อีกตั้งหลายเดือน


“เฮ่อเหลียนเช่อร้อนใจกว่าเธออีก อำ…อ้าปาก!”


เหยียนหมิงซุ่นปอกเปลือกกุ้งมังกรน้อยทำท่าทางบอกให้เหมยเหมยอ้าปาก คีบกุ้งมังกรน้อยขาวนุ่มเข้าปาก


พอเหมยเหมยได้กินเนื้อกุ้งมังกรน้อยแสนอร่อยก็รู้สึกดีขึ้นมาในทันที เธอเร่งให้เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งเร็ว ๆ “พี่แกะเร็ว ๆสิ…ฉันกินหมดแล้วนะ…ช้าจริงๆเลย…”


วิธีการกินกุ้งมังกรน้อยให้มีความสุขที่สุดต้องทำอย่างไรเหรอ?


แน่นอนว่าต้องให้คนอื่นแกะให้กินยังไงล่ะ!


เหมยเหมยนั่งเหมือนยายแก่ออกคำสั่งให้เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งมังกรน้อย กุ้งมังกรน้อยเหล่านี้เธอตั้งใจให้เกษตรกรในเขตชานเมืองจับกลับมาเป็นพิเศษ ในตอนนี้ต่อให้โยนกุ้งมังกรน้อยทิ้งเกลื่อนถนนก็ยังไม่มีใครต้องการเลย แม่น้ำในชนบทมีมากมายจับตรงไหนก็ได้เยอะทั้งนั้น


เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยที่น้ำตาไหลเพราะความเผ็ดแต่ก็ยังกินไม่หยุดอย่างระอาและเอ็นดู ไม่เข้าใจจริง ๆว่าทำไมถึงชอบกินกุ้งที่มีเปลือกแข็งและไม่มีเนื้อแบบนี้นักนะ?


“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นหยิบทิชชู่มาเช็ดพริกที่อยู่ตรงมุมปากของเธอแล้วก็ป้อนกุ้งอีกตัวหนึ่งให้เธอกิน


…………………………………………..


ตอนที่ 2106 อยากให้เธอป้อนให้กิน


“อร่อยสิ…ฉันจะบอกพี่ให้นะ…ผ่านไปอีกสิบปี…ไม่สิ ไม่เกินห้าปี กุ้งมังกรจะถูกกินจนเกือบสูญพันธุ์เลยทีเดียวล่ะ”


เหมยเหมยเคี้ยวเนื้อกุ้งตุ้ย ๆ พูดจาอู้อี้ดูน่ารักเหลือเกิน


เหยียนหมิงซุ่นที่ได้รับการฝึกฝนมาหลายครั้ง ภายในหนึ่งวินาทีก็แกะกุ้งได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ก็ยังไม่ทันความเร็วในการกินของเหมยเหมย


“ของที่ทั้งสกปรกและไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแบบนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?” เห็นได้ชัดว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่เชื่อ มองไปกุ้งมังกรน้อยผัดหมาล่าบนจานอย่างดูถูก


หากไม่ใช่เพราะว่าเอาชนะการออดอ้อนของยัยปีศาจน้อยไม่ได้ละก็ เขาไม่เห็นด้วยกับการที่เหมยเหมจะกินกุ้งมังกรน้อยนี่เลย เพราะอาศัยอยู่ในน้ำที่สกปรกที่สุดและกินซากพืชที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียและไวรัส เป็นสิ่งมีชีวิตที่สกปรกยิ่งกว่าขยะ มองไม่เห็นข้อดีของมันเลยแม้แต่น้อย


กุ้งมังกรน้อยหนึ่งตัวแกะออกมามีเนื้อเพียงน้อยนิด เขามองไปที่กุ้งมังกรน้อยเต็มจานใหญ่แต่อันที่จริงกลับให้พลังงานได้ไม่เท่าไรนัก เขายอมกินจิ้งจกและงูเพื่อเพิ่มพลังงานยังดีกว่าแตะต้องของที่แกะยากเย็นแบบนี้อีก


ขยะประเภทนี้ คาดไม่ถึงว่าจะโดนกินจนสูญพันธุ์ได้?


จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?


ประชาชนทั้งประเทศจะน้ำเข้าสมองจนโง่ไปกันหมดเลยหรือไง?


“เธอกินให้น้อย ๆหน่อย ถ้าวันนี้กินจานนี้หมดก็รออีกครึ่งเดือนถึงจะกินได้อีกนะ” เหยียนหมิงซุ่นดึงหน้าตึงตั้งกฎระเบียบขึ้นมา


“ไม่เอา…ฉันอยากกินกุ้งมังกรน้อย ตอนนี้มีตั้งเยอะ แถมยังถูกด้วย ฉันต้องกินให้หายอยากก่อน…” เหมยเหมยยู่ปากออดอ้อน


เธอให้เกษตรกรจับกุ้งมังกรน้อยมาเต็มตะกร้าใช้เงินไม่กี่หยวนเท่านั้นเอง หากผ่านไปอีกสิบปีใช้เงินหลายร้อยหยวนก็ยังไม่ได้ขนาดนี้เลย และตอนนี้กุ้งมังกรน้อยก็เติบโตอยู่ตามสภาพแวดล้อมธรรมชาติ มีกลิ่นหอมกว่ากุ้งมังกรน้อยที่เลี้ยงในฟาร์มเยอะ ถ้าไม่กินเธอก็โง่เต็มทีแล้ว!


“ไม่ให้กิน…ของพวกนี้สกปรกจะตาย มีแต่แบคทีเรียและปรสิตทั้งนั้น หากกินแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะทำอย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นยืนหยัดอย่างแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งยังเผยท่าทางน่าเกรงขามของผู้นำออกมาด้วย


“ไม่ว่าจะเป็นปรสิตแบคทีเรียอะไรทุกอย่างจะถูกฆ่าภายใต้อุณหภูมิสูง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร ฉันไม่สน ฉันจะกินอยู่ดี ถ้าพี่ไม่ให้ฉันกิน ฉันก็จะกลับไปกินที่บ้าน…”


เหมยเหมยบิดตัวไปมาไม่หยุด แถมยังถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่นเป็นครั้งคราว


กล้าไม่ให้เธอกินกุ้งมังกรน้อยเหรอ งั้นเธอก็จะออกจากบ้าน!


เหยียนหมิงซุ่นมุมปากกระตุก คิดจะใช้กลอุบายแบบนี้กับเขาเหรอ?


“กลับบ้านอะไรกัน พ่อแม่เธอออกไปทำงานต่างถิ่น ใครจะทำให้เธอทานฮะ? นั่งลง…อ้าปาก!” เหยียนหมิงซุ่นดึงหน้าตึง ถึงเขาจะฝีปากร้ายไปบ้างแต่มือก็ป้อนให้ไม่หยุด เนื้อกุ้งที่สมบูรณ์แบบอีกตัวถูกแกะยัดเข้าปากเหมยเหมย


“ที่รัก…พี่ดีที่สุดเลย…รักพี่ที่สุดเลย…”


เหมยเหมยหน้าบานเป็นกระด้งทันที ทำปากจุ๊บประทับรอยน้ำมันพริกแดง ๆไว้บนใบหน้าของเหยียนหมิงซุ่น แต่อันเดียวยังไม่พอจึงประทับให้อีกรอย พอเห็นว่าทั้งสองข้างเท่ากันแล้วถึงพอใจ


เหยียนหมิงซุ่นเช็ดน้ำมันออกจากใบหน้าของเขาด้วยความหงุดหงิด ถ้ามีของให้กินก็เรียกที่รัก แต่พอไม่มีให้กินก็กลับไปบ้านแม่ เลือกอยู่แต่กับคนที่มีผลประโยชน์ต่อตัวเองจริง ๆ!


“ที่รัก ฉันแกะให้พี่กินชิ้นหนึ่งนะ พี่ลองกินดูมันอร่อยจริง ๆนะ…”


เหมยเหมยแกะกุ้งอย่างเชี่ยวชาญเร็วใช้ได้เลย ความเร็วพัฒนาขึ้นหลังจากที่เธอฆ่ากุ้งมังกรน้อยนับพันตัวในชาติที่แล้ว เหยียนหมิงซุ่นจับจ้องไม่วางตา


“เธอบอกว่าแกะไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?”


ความเร็วไม่ช้าไปกว่าเขาเลย แถมยังบอกว่าแกะไม่เป็นอีกต่างหาก พระเจ้ารู้ดีว่าเขารำคาญกุ้งมังกรน้อยพวกนี้แค่ไหน เขายอมปอกเปลือกกุ้งนางยังจะดีกว่า!


เหมยเหมยใจกระตุกวูบ แย่แล้ว ลืมไปชั่วขณะ


“เฮ้ย…ฉันโดนปลายแหลมของมันตำมือเข้าแล้ว…พี่ดูที่มือของฉันสิ…แดงหมดเลย…” แผนแกล้งป่วยต่อหน้าคนรักมักใช้ได้ผลเสมอ


เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองนิ้วสีขาว ๆที่ยื่นออกมาตรงหน้าเขา วงกลมสีแดงบนนั้นมันคือน้ำพริกเผาต่างหาก!


ช่างเป็นยัยปีศาจตัวน้อยจริง ๆ!


แต่เขาก็ยังจะกินชิ้นนี้!


เหยียนหมิงซุ่นเช็ดน้ำพริกเผาบนนิ้วมือของเหมยเหมยอย่างเป็นห่วง อีกเดี๋ยวยัยบื้อนี่ต้องเอามือขยี้ตาแน่นอน ถึงตอนนั้นก็จะร้องไห้อีก!


“นั่งดี ๆ…มาตั้งกฎกันก่อน กุ้งมังกรน้อยกินได้แค่สามมื้อต่อเดือน” เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งไปพูดไป


“ไม่เอา…หกมื้อ…” เพิ่มเป็นสองเท่า


“สองมื้อ!”


“ก็ได้ สามมื้อก็สามมื้อ” เหมยเหมยตกลงอย่างเชื่อฟัง ถึงเวลานั้นก็ให้ป้าฟางเพิ่มให้มากขึ้นอีกหน่อยแล้วกัน


เหยียนหมิงซุ่นมองความคิดในใจของเธอออกจึงกลั้นยิ้มและพูดว่า “หนึ่งมื้อกินได้แค่สองขีด”


เหมยเหมยนิ่งตะลึงงั้น  ‘…หน้าเลือดชะมัดเลย!’


ตอนที่ 2107 โด่งดังไปทั่วประเทศ


เรตติ้งของสถานีโทรทัศน์เรื่องเจ้าหญิงอัปลักษณ์สูงขึ้นทุกวัน หลายคนมาเพื่อดูเทพบุตรหานจื่อจวิน แต่กลับพบว่าละครเรื่องนี้ค่อนข้างดีเลยดูต่อไป


ตอนนี้คือปี1996 ละครรักใส ๆวัยรุ่นในเมืองยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก ชาติก่อนละครเรื่องรักใส ๆอะไรนั่นกวาดรายได้ไปทั่วประเทศ และก็ใช้เวลาถึงสองสามปีกว่าจะเริ่ม ละครเรื่องนั้นถ่ายทำโดยผู้กำกับฟางชิงผิง การปรากฏตัวของเหมยเหมยเท่ากับว่าทำให้ในชาตินี้ละครแนวรักใส ๆวัยรุ่นกำเนิดขึ้นก่อนล่วงหน้าหลายปีเลย


หนุ่มหล่อและสาวสวย ภูมิหลังครอบครัวที่โดดเด่น เสื้อผ้าที่มีความประณีตสวยงาม แถมยังมีชีวิตในครอบครัวร่ำรวยที่คนธรรมดาเอื้อมไม่ถึง…


สิ่งเหล่านี้คือไฮไลต์ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชม ไม่ต้องพูดถึงเด็ก ๆหรอก แม้แต่คนวัยกลางคนก็ยังโหยหาชีวิตแบบนี้เลยจึงอดไม่ได้ที่จะดูไปพร้อมกับพวกเด็ก ๆด้วย!


ซีซั่นแรกจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ เรตติ้งของซีซั่นที่สองก็ไม่ได้ลดลงเลยมีแต่เพิ่มขึ้น สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงได้เรียกร้องเร่งให้พวกเขาถ่ายทำซีซั่นที่สามแล้ว แม้กระทั่งเงินมัดจำก็จ่ายก่อนล่วงหน้าไว้แล้ว


จ้าวเสวียเอ๋อร์ได้ทีก็ขึ้นราคาใหญ่เลย ใครใช้ให้สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงไม่มีมนุษยธรรมก่อนล่ะ ตอนเรื่องซินเดอเรลล่าสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงไม่ให้ความสำคัญ แถมอาศัยซินเดอเรลล่ามาบีบราคาเจ้าหญิงอัปลักษณ์ลง ทำให้จ้าวเสวียเอ๋อร์โกรธมาก


ในเวลานั้นเนื่องจากสถานการณ์บีบบังคับจึงทำได้เพียงประนีประนอม แต่ตอนนี้เขาต้องเล่นตัวบ้างแล้ว


หากสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงอย่างคุณไม่ซื้อก็ยังมีสถานีโทรทัศน์จำนวนมากรออยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องขายไม่ออกเลยสักนิด!


เหมยเหมยไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เพราะเธอยุ่งอยู่กับการถ่ายทำซีซั่นที่สาม และเธอก็กำลังจะเปิดเทอมงานจึงยุ่งรัดตัว จะตายอยู่แล้ว


เหยียนหมิงซุ่นออกไปทำงานต่างเมืองจะกลับมาตอนสิ้นเดือน เขาหอบเครื่องประดับงาช้างกลับมาให้เหมยเหมย ประเทศที่เขาไปเป็นประเทศเขตร้อน ที่นั่นมีเครื่องประดับงาช้างมากมาย


“ขอบคุณนะคะ… สร้อยคอเส้นนี้ใส่หน้าร้อนได้พอดี ส่วนพวกนี้ฉันจะให้คนอื่น”


เหมยเหมยเอามาทาบบนตัวอยู่ครู่หนึ่งชื่นชมอย่างมีความสุข ถึงแม้เธอจะมีเครื่องประดับมากมายจนทั้งชีวิตนี้ก็ใส่ไม่หมดก็ตาม แต่เธอก็ยังชอบที่จะได้รับของขวัญเหล่านี้อยู่ดี


โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่เหยียนหมิงซุ่นให้ด้วย


เพราะเป็นการสื่อว่าเขามีเธออยู่ในใจ!


เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มหยิกแก้มเหมยเหมย หันไปถามลุงเหลาเกี่ยวกับเรื่องเหยียนหมิงต๋า


“ภารกิจครั้งนี้ต้องใช้เวลาอีกหลายวัน คุณชายหมิง คุณชายอยากให้คุณชายรองกลับมารับประทานอาหารที่บ้านไหมครับ?” ลุงเหลาถาม


“ไม่ต้องหรอก หมิงต๋าไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ให้เขาทำตามคำสั่งกองทัพไปเถอะ” เหยียนหมิงซุ่นปฏิเสธ เขาจะทำผิดกฎไม่ได้


เขาพอใจกับท่าทีในตอนนี้ของเหยียนหมิงต๋ามาก เดิมทีเขากังวลว่าเหยียนหมิงต๋าจะซึมเศร้าเพราะการตายของถานซูฟาง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากเกินไป ในที่สุดน้องชายโง่เง่าคนนี้ก็โตขึ้นแล้ว


เหมยเหมยที่กำลังลองเครื่องประดับอยู่ได้ยินชื่อของเหยียนหมิงต๋าหัวใจก็เต้นระส่ำ เหยียนหมิงต๋ามาเมืองหลวงงั้นเหรอ?


“พี่…พี่ว่าหมิงต๋าจะมาเจออู่เยวี่ยไหม?” เหมยเหมยมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี


ไม่มีใครรู้ว่าหมิงต๋าหลงใหลอู่เยวี่ยแค่ไหนมากไปกว่าเธอแล้ว เจ้าบื้อนี่ต่อให้ต้องตายเพื่ออู่เยวี่ยเขาก็ไม่ลังเลด้วยซ้ำ ถ้าอู่เยวี่ยล่อลวงเหยียนหมิงต๋าให้ทำบางอย่างเพื่อเธอ…


เหยียนหมิงซุ่นมุ่นคิ้วแล้วปลอบใจเธอ “ไม่หรอก ตอนนี้อู่เยวี่ยคือโอหยางซานซาน ต่อให้เจอหมิงต๋าเขาก็จำไม่ได้หรอก และคงไม่เชื่อว่าเธอคืออู่เยวี่ยด้วย”


เหมยเหมยเป็นกังวลอยู่บ้าง “พี่ พี่ไม่รู้หรอกว่าหมิงต๋าหลงใหลในตัวอู่เยวี่ยแค่ไหน ต่อให้อู่เยวี่ยจะกลายเป็นคนอื่นแล้วก็ตาม แต่ตราบใดที่เธอต้องการ เธอต้องทำให้หมิงต๋าเชื่อได้แน่นอน”


เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกว่าเหมยเหมยเป็นกังวลมากเกินไป อู่เยวี่ยไหนเลยจะมีความสามารถขนาดนั้น!


อีกทั้งตอนนี้อู่เยวี่ยก็ถูกเฮ่อเหลียนเช่อกักบริเวณอยู่ในบ้าน เธอจะมีโอกาสติดต่อหมิงต๋าได้อย่างไร?


“อย่าคิดมาก ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก อีกเดี๋ยวพี่จะโทรถามให้” เหยียนหมิงซุ่นโทรหาเฮ่อเหลียนเช่อ


…………………………………………..


ตอนที่ 2108 จุ๊บเบื่อแล้ว


“โทรหาฉันมีธุระอะไร?” น้ำเสียงของเฮ่อเหลียนเช่อเย่อหยิ่งเฉกเช่นเคย ครั้นเหมยเหมยได้ยินเช่นนั้นก็อยากกำหมัดซัดหน้าเขาสักรอบเหลือเกิน


“อู่เยวี่ยสงบเสงี่ยมดีไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามออกไปตรง ๆ


“สงบเสงี่ยมดีอยู่แล้ว คนของฉันเฝ้าจับตามองอยู่ตลอด แล้วจะไม่อยู่สงบเสงี่ยมในกรอบได้เช่นไรกัน?” เฮ่อเหลียนเช่อชักไม่ชอบใจขึ้นมาแล้ว นี่สงสัยศักยภาพในการทำงานของลูกน้องเขาเหรอ?


เหยียนหมิงซุ่นกดเปิดลำโพงเพื่อให้เหมยเหมยได้ยินด้วยเช่นกัน เขาจงใจพูดขึ้นว่า “งั้นแกก็ต้องจับตาดูไว้ดี ๆล่ะ ก่อนเสี่ยวเป่าอายุครบหนึ่งขวบอย่าให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นเด็ดขาด มิเช่นนั้นพิษในตัวของเสี่ยวเป่าก็จะแก้ไม่ได้”


“ถุย…เหยียนหมิงซุ่นแกพูดจาไร้สาระอะไรของแก เสี่ยวเป่าของฉันต้องอายุมั่นขวัญยืนอยู่แล้ว แถมเสี่ยวเป่าของฉันต้องมีชีวิตอยู่นานกว่าแกด้วย” เฮ่อเหลียนเช่อก่นด่ายกใหญ่


เหยียนหมิงซุ่นแสยะยิ้มเยือกเย็น “เพ้อเจ้อ ฉันอายุมากกว่าเสี่ยวเป่าตั้งเยอะ ถ้าเขาตายไปก่อนฉัน ถ้าไม่ใช่คนอายุสั้นแล้วคืออะไร?”


“&%¥#¥…” เฮ่อเหลียนเช่อพึมพำสบถด่าดังผ่านมาจากปลายสาย เหยียนหมิงซุ่นคร้านจะฟังจึงวางสายใส่ ถ้าไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้หญิงของเขาสบายใจ เขาเองก็คร้านจะโทรหาเจ้าโง่นี่เหมือนกัน!


“วางใจเถอะ เฮ่อเหลียนเช่อเอาใจใส่เสี่ยวเป่าจะตายไป แล้วจะให้อู่เยวี่ยเข้ามายุ่มย่ามได้อย่างไรเล่า” เหยียนหมิงซุ่นกล่าวกับเหมยเหมย


“อืม…อีกสองวันฉันค่อยแวะไปหาเสี่ยวเป่าแล้วกัน…หลายวันมานี้ไม่เจอเจ้าตัวเล็กแอบคิดถึงจัง” เหมยเหมยยังรู้สึกไม่วางใจอยู่บ้างเลยตัดสินใจจะแวะไปดูกับตาตัวเอง แบบนี้ถึงจะวางใจได้


ระยะนี้เจ้าตัวเล็กกินอิ่มนอนอุ่นอ้วนขึ้นมากราวกับก้อนเนื้อก็มิปาน เห็นแล้วน่าฟัดจริง ๆ


เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกปวดใจขึ้นมา ต่อให้เสี่ยวเป่าจะเป็นแค่เด็กทารกคนหนึ่งแต่ก็เป็นผู้ชาย สำหรับผู้หญิงของเขาในใจคิดถึงได้เพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น เพศชายคนใดก็ห้ามเข้ามาใกล้เด็ดขาด!


“คิดถึงลูกชายของคนอื่นขนาดนั้นเลย?”


เหยียนหมิงซุ่นโอบเอวเหมยเหมยลากเธอมากระซิบเบา ๆข้างหูด้วยท่าทียียวน


เหมยเหมยใช้สองแขนโอบคอของผู้ชายไว้แล้วจงใจพูดด้วยใบหน้าที่แดงซ่านว่า “ฉันก็แค่ชอบเด็กตัวเล็ก ๆเท่านั้นเอง น่ารักจะตายไป จุ๊บได้ทุกวันเลย…”


ใครใช้ให้ไม่มีลูกกับเธอสักทีกันล่ะ!


ก่อนหน้านี้เพราะโดนพิษกู่เลยทำให้มีลูกไม่ได้ยังพอให้อภัยได้ แต่ตอนนี้แก้พิษกู่ได้แล้วยังไม่ให้เธอมีลูกอีก เกลียดเจ้าหมอนี่ชะมัดเลย!


ตอนนี้เธอแค่อยากมีลูกเท่านั้น เธออยากคลอดลูกที่หน้าตาน่ารักเหมือนกับเสี่ยวเป่า กอดแล้วพรมจูบทุกวัน มีความสุขจะตายไป!


“ก็จุ๊บสามีเธอได้นี่นา…”


เหยียนหมิงซุ่นเสียงแหบพร่าเล็กน้อยแฝงไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน เขาพูดพลางเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนอน นี่ยังคิดจะไปจุ๊บผู้ชายคนอื่นอีกเหรอ เดี๋ยวต้องจัดการกำราบเสียหน่อยแล้ว!


“ไม่เอา…จุ๊บเบื่อแล้ว…ฉันอยากจุ๊บแค่เสี่ยวเป่าเท่านั้น…ไม่งั้นเรามีกันเองสักคนดีไหม!” เหมยเหมยยืดตัวขึ้นแล้วเป่าลมข้างหูของเหยียนหมิงซุ่น แถมเลียด้วยท่าทีซุกซนด้วย


เหยียนหมิงซุ่นตัวแข็งทื่อ กระเดือกสั่นขึ้นลงไปมา แววตาหม่นลงแล้วรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น


กล้าจุ๊บเขาจนเบื่องั้นเหรอ?


ท้าทายกันชัด ๆเลย!


………


“เบื่อหรือยัง?” ฝ่ายชายบากบั่นมาทั้งคืน แต่ก็ยังไม่ลืมถามสาวใต้ร่าง


เปลือกตาของเหมยเหมยผู้น่าสงสารเกือบจะลืมไม่ขึ้นเต็มทีแล้ว สมองพร่าเบลอ ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้เธอคงจะไม่พูดคำว่า——จุ๊บเบื่อแล้วแน่นอน!


“ไม่เบื่อเลย…จุ๊บร้อยปีก็ไม่เบื่อ ต่อให้ทานกุ้งมังกรน้อยจนเบื่อ ก็ไม่มีทางเบื่อพี่หมิงซุ่นแน่นอน…” เหมยเหมยคำรามเสียงต่ำแหบพร่าด้วยความโกรธ แต่ผู้ชายที่คร่อมอยู่บนตัวกลับยังใจดำกดเธอลงบนเตียง


ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์จริง ๆ!


เหยียนหมิงซุ่นเหยียดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ฉวยโอกาสในระหว่างที่เธอสติเลอะเลือนถามขึ้นว่า “ตอนนี้ยังอยากจะมีลูกอยู่ไหม?”


เหมยเหมยพยักหน้าตามความรู้สึกจิตใต้สำนึกแต่ก็กลับมามีสติในทันที  พอสมองตื่นตัวก็เป็นฝ่ายหยั่งเชิงถามขึ้นเองว่า “พี่…ตอนนี้พวกเรามีลูกกันดีไหม?”


เหยียนหมิงซุ่น ‘…นี่เลอะเลือนจนสมองเพี้ยนไปหมดแล้วหรือไงกัน?’


ตอนที่ 2109 โดนวางแผนอีกแล้ว


แน่นอนว่าทำลูกด้วยวิธีธรรมชาติไม่สำเร็จเพราะหัวหน้าใหญ่เหยียนปล่อยใส่ถังขยะไปทั้งหมดแล้ว เหมยเหมยกลิ้งไปที่มุมเตียงด้วยความโกรธ คร้านจะสนใจเจ้าหมอนี่เต็มทนแล้ว


ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องมีลูกก็จะมีท่าทางแบบนี้อยู่เรื่อย ไม่เข้าใจเลยจริง ๆว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบเด็ก ในบ้านมีเจ้าตัวน้อยเพิ่มขึ้นมาอีกคนดีจะตาย!


เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะอย่างระอาแล้วอุ้มเหมยเหมยไปห้องอาบน้ำ เหมยเหมยบิดตัวไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังโมโห และโมโหมากด้วย


“ตอนนี้เธอยังเรียนอยู่แล้วจะมีลูกได้อย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆที่คุยกันแล้วว่าเรียนจบค่อยมีลูก ทำไมอยู่ดี ๆถึงอยากมีตอนนี้ขึ้นมาล่ะ ไปถูกใครกระตุ้นมากันนะ?


เหมยเหมยพูดอย่างไม่พอใจว่า “งั้นตอนนี้ฉันเรียนอยู่แล้วทำไมถึงแต่งงานได้ล่ะ?”


ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว ทำไมจะทำใบขออนุญาตให้กำเนิดบุตรไม่ได้ล่ะ?


เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำใบขออนุญาตให้กำเนิดบุตรได้จริงแต่เขาไม่อยากทำ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่เขาโกหกเหมยเหมยว่าตอนนี้ไม่สามารถขอใบอนุญาตให้กำเนิดบุตรได้จึงมีลูกไม่ได้ คาดไม่ถึงว่าตอนนี้เหมยเหมยจะโน้มน้าวใจยากขึ้นเรื่อย ๆ


“เธอยังเป็นนักเรียนอยู่เลย ต่อให้เธอจะได้รับใบอนุญาตเธอก็จะแบกท้องโต ๆไปเรียนหรือไง?” เหยียนหมิงซุ่นพูดจาดี ๆโน้มน้าวเธอ


เหมยเหมยดวงตาเป็นประกาย น้ำเสียงแบบนี้ฟังดูเหมือนจะมีหนทางแล้ว!


“งั้นฉันจะพักการเรียนไปก่อนชั่วคราว รอจนกว่าจะคลอดแล้วค่อยไปเรียนแล้วกัน แบบนี้คงได้ใช่ไหม?” ตราบใดที่สามารถมีลูกได้ ต่อให้เธอจะเรียนจบช้าอีกสองสามปีก็ไม่มีปัญหา


เหยียนหมิงซุ่นปวดศีรษะเหลือเกิน เขารู้ดีว่ายัยปีศาจตัวน้อยดื้อด้านแค่ไหน เมื่อก่อนเพื่อชิงสุกก่อนหามเธอทั้งหลอกล่อทั้งยั่วยวนเขาสารพัด ถึงแม้ว่าเขาจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า แต่สุดท้ายเขาก็ถูกยัยปีศาจตัวน้อยนี้ยั่วจนสำเร็จ!


หากเหมยเหมยกำลังคิดอยากจะมีลูก กลัวว่าเธอจะวางแผนทำทุกวิถีกับเขาน่ะสิ!


เหยียนหมิงซุ่นไม่ค่อยมั่นใจในจิตใจอันแน่วแน่ของเขานัก เขาต้องหาหนทางทำให้เหมยเหมยเลิกคิดถึงจะดี!


“ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถมีลูกในตอนนี้ได้อยู่ดี พวกเราเพิ่งกำจัดพิษออกไปร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ถ้าหากมีลูกตอนนี้มันจะส่งผลกระทบต่อเด็กแน่นอน หรือเธออยากคลอดลูกที่ไม่แข็งแรงออกมาล่ะ?” เหยียนหมิงซุ่นจงใจพูดขึ้น


เหมยเหมยตกใจยกใหญ่ “ลูกจะพิการเหรอ?”


“ใช่… ความน่าจะเป็นของความผิดปกติมีสูงมาก และอาจจะยังมีปัญหาอื่น ๆตามมาด้วย แต่เอาเป็นว่าเด็กจะไม่แข็งแรง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยรอจนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวเต็มที่ก่อนค่อยมีลูกดีไหม?” เหยียนหมิงซุ่นพูดคำโป้ปดออกมา


ลี่เมิ่งเฉินเคยบอกเขาก่อนไปว่าตราบใดที่ตัวกู่ทั้งหมดถูกฆ่าทิ้งหมดแล้วก็จะไม่มีปัญหาใด ๆกับร่างกาย ต่อให้อยากคลอดลูกออกมาเยอะจนตั้งทีมฟุตบอลได้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายสบายมาก


เหมยเหมยหน้าขาวซีดในทันที จู่ ๆก็ทำตัวเหมือนคนบ้าหยิบฝักบัวมาฉีดท่อนล่างสุดแรง ปากก็ส่งเสียงพูดไม่หยุดว่า “แย่แล้ว…จบเห่กัน…”


เหยียนหมิงซุ่นมองอย่างแปลกใจ “เหมยเหมย…เธอเป็นอะไรไป?”


“ฉันต้องล้างออก…ฉันไม่อยากให้ลูกของเราต้องพิการ ฮือ…ทำไมพี่ไม่บอกฉันเร็วกว่านี้…เกลียดพี่ที่สุดเลย…”


เหมยเหมยเปิดน้ำสุดแรง สีหน้าดูหวาดกลัว พูดพึมพำอะไรฟังไม่รู้เรื่อง เหยียนหมิงซุ่นสับสนงงงวย ว่าแต่ลูกพิการอะไรกัน?


เมื่อครู่เขาก็ใส่ถุงแล้วจะมีลูกได้อย่างไร?


หรือว่า…


เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เสียวสันหลังวาบ ถามอย่างกระวนกระวายใจว่า “เหมยเหมย…เธอทำอะไรกับถุงยางอนามัยของพี่?”


เหมยเหมยน้ำตาไหลพรากมองเขาพร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจ…ฉันแค่อยากมีลูก ถึงได้เจาะรู…พี่คะ พวกเราไปโรงพยาบาลกันดีไหม?”


เหยียนหมิงซุ่นหยิบถุงยางอนามัยในห้องน้ำขึ้นมาแล้วแกะออกมาอันหนึ่ง เป่าสุดแรงเป็นลูกโป่ง ทว่าหลังจากนั้น——


ลูกโป่งก็ค่อย ๆเหี่ยวลง…


…………………………………………..


ตอนที่ 2110 อู่เยวี่ยและเสี่ยวเป่าหายสาบสูญ


เหยียนหมิงซุ่นมองผู้หญิงที่หดตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างไม่อยากเชื่อสายตา นี่คือเหมยเหมยที่ไร้เดียงสาในตอนเด็กจริงเหรอ?


เล่นงานเขาเข้าแล้วเหรอ?


หากไม่ใช่ว่าคืนนี้เขาโกหกให้มันจบ ๆไป เกรงว่าคงต้องรอจนยัยปีศาจน้อยท้องป่องขึ้นมา เขาก็ยังงงงันอยู่เลย!


“เธอถึงขนาดเจาะทุกอันเลยเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงต่ำ


เหมยเหมยเงยหน้ามองเขาอย่างหวาดระแวง สีหน้าไร้ซึ่งการแสดงออกใด ๆแต่เธอรู้ว่าคงไม่ชอบใจมากแน่ ๆ เธอกัดฟันพยักหน้ารับ


การโกหกไม่ใช่เด็กดี เธอต้องเป็นเด็กดีสิ


เหยียนหมิงซุ่นไม่โมโหแต่กลับหัวเราะร่าแล้วถามว่า “ใครเป็นคนสอนเธอ?”


“ฉันคิดได้เอง ใครให้พี่ไม่ยอมมีลูกกับฉันกันล่ะ…” ปากเหมยเหมยบ่นงุบงิบ หากยอมตกลงตั้งแต่แรกจะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นเหรอ!


เหยียนหมิงซุ่นหมดคำพูด กลายเป็นเขาผิดซะงั้น พูดเหตุผลกับผู้หญิงไม่ได้เลยจริง ๆ


“งั้นตอนนี้เธอยังอยากมีลูกอยู่ไหม?”


“ไม่อยากแล้ว รอร่างกายฟื้นตัวดีก่อนแล้วค่อยมีก็ได้ พี่…ไม่งั้นไปโรงพยาบาลกันดีไหม วันนี้วันไข่ตกของฉันด้วยสิ…” เหมยเหมยกังวล หากตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง ๆงั้นก็แย่กันพอดี!


เธอไม่อยากคลอดตัวประหลาดออกมานะ!


เหยียนหมิงซุ่นทั้งโมโหทั้งขบขันแต่เขาจะพูดความจริงออกมาไม่ได้ เขาต้องทำให้ยัยปีศาจน้อยที่ใจกล้าบ้าบิ่นตกใจเสียขวัญให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงแสบไม่น้อยเลย!


“เธอเจาะรูไว้ตั้งแต่เมื่อไร?”


“ก็…ก็ตอนที่พี่ไม่อยู่ไง” เหมยเหมยบอกตามความจริง


เดิมทียังวางแผนไว้ว่าจะแอบเจาะรู แล้วรอฉวยโอกาสตอนที่ไม่เจอกันนานแล้วกลับมาหวานชื่นอีกครั้งทำให้สำเร็จ แต่ไหนเลยจะรู้…ที่ยิงออกมากลับเป็นกระสุนปลิดชีพเสียได้…


เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้เล็กแค่นี้และแค่คืนเดียวเอง ไม่น่าจะบังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง แต่ว่าเพื่อความปลอดภัย “พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลตรวจดูหน่อยแล้วกัน นอนกันก่อนเถอะ!”


เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ใส่ใจนัก เขาไปตรวจที่โรงพยาบาลก็เพียงแค่ปลอบขวัญเหมยเหมยเท่านั้น ต่อให้ไม่ตรวจก็ไม่เป็นไร หากบังเอิญขนาดนั้นจริง ๆ งั้นก็คลอดออกมาเถอะ!


ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเด็กก็จริง แต่หากท้องขึ้นมาจริง ๆ แน่นอนว่าเขาคงไม่ปล่อยให้เหมยเหมยทำเรื่องที่เป็นการทำร้ายร่างกายหรอก


สำหรับพวกที่ทำให้ผู้หญิงท้องเพื่อความสุขของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดกลับไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบแล้วขอให้ผู้หญิงทำแท้งเหล่านั้น เหยียนหมิงซุ่นดูถูกเหยียดหยามมาก เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงของเขาเจ็บตัวเช่นนี้แน่!


เดือนสิงหาคมผ่านไปอย่างรวดเร็ว อากาศยังคงร้อนมากเหมือนเดิม


เหมยเหมยยุ่งจนเจียดเวลาไปเยี่ยมเสี่ยวเป่าไม่ได้เลย หลังจากเปิดเทอมถึงได้มีเวลาว่างขึ้นมาบ้าง เหมยเหมยไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของเล่นเตรียมตัวไปเยี่ยมเสี่ยวเป่าวันสุดสัปดาห์


แต่ว่าภายใต้น้ำที่ดูเหมือนสงบ มักจะมีกระแสน้ำวนอันตรายซ่อนอยู่ และไม่รู้เลยว่ามันจะกลืนกินคุณเข้าไปเมื่อไร


เหมยเหมยกำลังเตรียมตัวไปหาเสี่ยวเป่า แต่ดันเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน


“เสี่ยวเป่าและอู่เยวี่ยหายตัวไปด้วยกันงั้นเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”


เหมยเหมยเพิ่งจะถึงหน้าประตูใหญ่ก็เห็นเฮ่อเหลียนเช่อและคนกลุ่มหนึ่งกำลังเตรียมจะออกไป ดูแล้วเหมือนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เธอถามเหมยซูหานที่สีหน้าดูเป็นกังวลมากถึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


อู่เยวี่ยพาเสี่ยวเป่าไปเดินเล่นตามปกติแต่ถูกใครก็ไม่รู้บุกเข้าหา อู่เยวี่ยและเสี่ยวเป่าก็หายตัวไปในเวลาเดียวกัน


“คนของนายทำอะไรกันอยู่? ทำไมแค่แม่ลูกสองคนยังดูแลไม่ได้เลยล่ะ?” เหมยเหมยซักถามเฮ่อเหลียนเช่ออย่างร้อนใจ


ตอนเหยียนหมิงซุ่นโทรหาก็ขี้โม้เหลือเกิน เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันก็หน้าแหกซะแล้ว


สีหน้าของเฮ่อเหลียนคร่ำเครียดจนน่ากลัว เขาไม่ได้สนใจเหมยเหมยแล้วนำทีมพาลูกน้องไปหาเสี่ยวเป่าด้วยสีหน้าดุดัน


เหมยซูหานพูดแทนเขา “เขาร้อนใจกว่าใครเลย สถานการณ์ตอนนั้นกะทันหันมาก และคนที่ชิงตัวเสี่ยวเป่าไปก็เก่งมากด้วย”


ตอนที่ 2111 เธอคือเยวี่ยเยวี่ยจริงหรือ


หากเป็นปกติลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อคงไม่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ แต่เพราะทุกครั้งที่พาอู่เยวี่ยออกไปเดินเล่นเหตุการณ์ล้วนสงบสุขดีไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นานวันเข้าลูกน้องพวกนี้ถึงได้เริ่มชะล่าใจ


แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจู่ ๆจะเกิดเรื่องขึ้นทำเอาพวกเขาตั้งรับไม่ทัน กว่าพวกเขาจะไหวตัวทันอู่เยวี่ยกับเสี่ยวเป่าก็หายตัวไปอย่างไร้ร่อยรอยแล้ว


“ฉันจะกลับไปหาพี่หมิงซุ่น ให้เขาช่วยตามหาด้วย” เหมยเหมยรู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรีบตามหาเสี่ยวเป่าและอู่เยวี่ยให้เจอ


เหมยเหมยมักรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่อู่เยวี่ยจะร่วมมือกับคนนอกแล้วสร้างเหตุการณ์หายตัวไปในครั้งนี้ขึ้นมา


ฉะนั้นต้องรีบตามหาอู่เยวี่ยให้พบรวมถึงเสี่ยวเป่าด้วย คนแพศยานี่หากหนีออกไปได้ไม่รู้จะทำอะไรกับเสี่ยวเป่าบ้าง!


ณ โรงแรมใต้ดินแห่งหนึ่งของเมืองหลวง


อู่เยวี่ยอุ้มเสี่ยวเป่านั่งอยู่บนเตียงที่รกรุงรัง ผ้าปูเตียงเต็มไปด้วยรอยคราบสกปรกเพราะไม่รู้ว่าไม่ได้ทำความสะอาดมากี่วันแล้ว พื้นก็ดำสกปรกดูแล้วน่าขยะแขยงมาก


หากในยามปกติอู่เยวี่ยคงไม่ยอมก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว แต่ตอนนี้เธอกลับต้องอยู่ที่นี่


เหยียนหมิงต๋ามองหญิงสาวตรงหน้าที่คุ้นเคยแต่ก็แปลกหน้าอย่างนึกสงสัยพร้อมทำหน้าสับสน


ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเธอคือเยวี่ยเยวี่ย แต่ทำไมเธอถึงหน้าตาไม่เหมือนเยวี่ยเยวี่ยเลยแม้แต่นิดเดียวล่ะ?


เขาเคยตามสืบมาว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อโอหยางซานซาน เป็นภรรยาของเฮ่อเหลียนเช่อ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆกับเยวี่ยเยวี่ยเลย


แต่เขากลับสัมผัสถึงกลิ่นอายคุ้นเคยจากตัวโอหยางซานซานได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


“เธอเป็นใครกันแน่?”


อู่เยวี่ยมองเหยียนหมิงต๋าด้วยความรู้สึกซับซ้อน ผู้ชายคนนี้ที่ไม่เคยเข้าตาเธอ แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องเธอกลับนึกถึงเขาเป็นคนแรกเสมอ


“พี่หมิงต๋า ฉันคือเยวี่ยเยวี่ยเอง ฉันไม่ได้โกหกพี่นะ ฉันคืออู่เยวี่ยจริง ๆ” อู่เยวี่ยพูดจากใจจริง


“ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้? ทำไมเธอถึงชื่อโอหยางซานซาน? เธอตายไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?”


เหยียนหมิงต๋าพ่นคำถามยาวเป็นพรวน เขามีข้อสงสัยมากเกินไป


คนที่ตายไปแล้วแท้ ๆทำไมจู่ ๆถึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ แล้วยังใช้ชีวิตต่อในสถานะคนอื่น แถมมีลูกกับผู้ชายคนอื่นอีกด้วย


อู่เยวี่ยยิ้มขมขื่นแล้วเล่าประสบการณ์สามปีที่ผ่านมาของเธอให้ฟังช้า ๆ แน่นอนว่าเล่าให้ตัวเองน่าสงสารแล้วผลักให้เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยเป็นฆาตกรสุดโหดเหี้ยม


“พี่หมิงต๋า จ้าวเหมยจงใจทำร้ายฉัน ถ้าไม่ได้คุณชายเช่อช่วยฉันไว้ฉันคงไม่รอดแน่ ตอนนั้นฉันบาดเจ็บสาหัสเพราะบนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลเลยต้องศัลยกรรมเป็นคนอื่น ใช้ชีวิตต่อไปในสถานะคนอื่น…พี่หมิงต๋า ฉันลำบากมากจริง ๆ…”


อู่เยวี่ยร่ำไห้แล้วกระชับกอดเสี่ยวเป่าแน่นอัตโนมัติ เสี่ยวเป่าที่แต่เดิมนอนกินมืออยู่นิ่ง ๆเริ่มขยับตัวส่งเสียงร้อง ใบหน้าเล็กแดงก่ำ


เสี่ยวเป่าที่น่าสงสารมองไม่เห็นสภาพแวดล้อมแต่เขามีไหวพริบ เขารู้สึกได้ว่าตนได้มาอยู่ในที่แปลกใหม่ ไร้กลิ่นคุ้นจมูกจึงทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย


อู่เยวี่ยยังไม่รู้สึกถึงอาการผิดปกติของเสี่ยวเป่า เธอยังคงแสร้งร้องไห้ต่อไปเพื่อเรียกร้องความเห็นใจและความสงสารจากเหยียนหมิงต๋า


แต่กลับเป็นเหยียนหมิงต๋าเองที่ทนดูไม่ได้เลยบอกอู่เยวี่ยว่า “เด็กไม่สบายตัว เธอคลายมือหน่อย”


เขาคิดถึงอู่เยวี่ยจริง ๆแต่พอได้เจอตัวจริงเหยียนหมิงต๋ากลับรู้สึกซับซ้อนเหลือเกิน


เขาไม่รู้ควรเผชิญหน้ากับอู่เยวี่ยในตอนนี้อย่างไรดี


ทั้งใบหน้าที่แปลกตาและยังมีลูกกับผู้ชายคนอื่นอีก…


เหยียนหมิงต๋าเกิดอาการลังเลและก้าวถอยหลังไป…


………………………….


 ตอนที่ 2112 เจอร่อยรอยการหายตัวไปแล้ว


อู่เยวี่ยไม่พอใจกับท่าทีลังเลของเหยียนหมิงต๋าอย่างมาก ควรทักทายเธออย่างอบอุ่นไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้เย็นชานักล่ะ?


“พี่หมิงต๋า พี่รังเกียจฉันใช่ไหม?” อู่เยวี่ยน้ำตานองหน้าแต่กลับเรียกให้คนมองรู้สึกรังเกียจเหลือเกิน


เพราะเธอในตอนนี้อ้วนเหมือนหมู ต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาหมดตัวก็ไม่มีทางทำให้คนรู้สึกสงสารได้ มีแต่จะทำให้รู้สึกรังเกียจ


หากอู่เยวี่ยยังคงใบหน้าเดิม ต่อให้เปลี่ยนแปลงอย่างไรเหยียนหมิงต๋าก็จะไม่ลังเลเลยสักนิด แต่ตอนนี้เธอกลับใช้ใบหน้าคนอื่นทั้งบุคลิกที่ดูเปลี่ยนไปจากเดิมลิบลับ เหยียนหมิงต๋าเองก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มแสนซื่อคนเดิมอีกแล้ว


เขามีความคิดเป็นของตัวเองและเรียนรู้ที่จะตัดสินใจเอง ฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจรอสืบดูให้แน่ชัดก่อน เขาไม่อยากทำผิดซ้ำอีก!


“เด็กหิวแล้ว เธอป้อนนมเด็กก่อนเถอะ ฉันจะไปซื้อของกินข้างนอก”


ท้ายที่สุดเหยียนหมิงต๋าก็ใจอ่อน สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าผู้หญิงคนนี้คืออู่เยวี่ย


เขาใจร้ายกับอู่เยวี่ยไม่ลง ไม่ว่าอู่เยวี่ยจะหน้าตาเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตาม!


ในเมื่อเยวี่ยเยวี่ยถูกคนร้ายกักบริเวณ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะช่วยเยวี่ยเยวี่ยกับลูก จากนั้นค่อยส่งสองแม่ลูกไปในที่ปลอดภัย พอจัดการเรื่องของพวกเขาเรียบร้อยแล้วเขาก็จะได้สบายใจด้วย


อู่เยวี่ยมองโรงแรมสกปรกซอมซ่ออย่างรังเกียจพลางถามด้วยความน่าสงสารว่า “พี่หมิงต๋า ที่นี่สกปรกเกินไป เราย้ายไปที่ที่สะอาดกว่านี้หน่อยได้ไหม?”


ต่อให้เมื่อก่อนตอนอยู่ประเทศอเมริกาเธออยู่ตัวคนเดียวไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียวก็ไม่เคยตกอับถึงขั้นมาอยู่ในที่สกปรกแบบนี้ ไม่ว่าเวลาไหนที่ไหนเมื่อใดหญิงสาวหน้าตาสะสวยย่อมไม่มีทางลำบากมากขนาดนั้น!


เหยียนหมิงต๋าเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดน้อย ๆ “ตอนนี้ในเมืองตรวจเข้มมาก เธอคงลำบากอีกไม่กี่วันหรอก รอสถานการณ์ผ่อนปรนลงหน่อยฉันค่อยพาเธอไปจากที่นี่”


อู่เยวี่ยพยักหน้าแต่ในใจกลับมองเหยียดเหยียนหมิงต๋า ไอ้คนไม่เอาถ่าน!


เหยียนหมิงซุ่นรู้เรื่องการหายตัวไปของเสี่ยวเป่าตั้งแต่ก่อนเหมยเหมยจะกลับบ้านแล้ว เขาเกิดลางสังหรณ์ใจแปลก ๆ


“ตามสืบความเคลื่อนไหวของหมิงต๋า” เหยียนหมิงซุ่นสั่งลูกน้อง


เหยียนหมิงต๋าออกมาปฏิบัติภารกิจที่เมืองหลวง แต่อู่เยวี่ยกับเสี่ยวเป่าดันถูกคนนิรนามจับตัวในช่วงเวลาเดียวกัน หวังว่าคน ๆนี้คงจะไม่ใช่น้องชายผู้โง่เขลาของเขาหรอกนะ


แต่ความจริงมักสวนทางกับความต้องการเสมอ


“คุณชายหมิง คุณชายหมิงต๋าหายตัวไปตั้งแต่สองวันก่อน” ลูกน้องรายงาน


เหยียนหมิงซุ่นใจดิ่งวูบ สมแล้วที่เป็นเจ้าทึ่ม


ขณะเดียวกันเฮ่อเหลียนเช่อเองก็ตามสืบเจอตัวเหยียนหมิงต๋าเลยชิงโทรมาก่อน


“ไอ้สารเลวเหยียนหมิงซุ่น จงใจจะต่อกรกับฉันใช่ไหม? ให้ภรรยาของแกมาเยี่ยมเสี่ยวเป่าแต่ลับหลังกลับให้น้องชายของแกวางกับดักฉัน…ได้เลย…แกรอดูเถอะ!”


เฮ่อเหลียนเช่อเดือดดาล ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นน้องชายของเหยียนหมิงซุ่นที่เอามีดแทงหลังเขา


เขาอุตส่าห์คิดว่าช่วงนี้สนิทสนมกับเหยียนหมิงซุ่นกว่าเดิมแล้วเสียอีก!


ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!


“เรื่องนี้ฉันจะหาคำอธิบายให้แกเอง!” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้แก้ตัวเพราะความจริงก็คือฝีมือน้องชายเขาเอง ต่อให้เขาพูดเป็นต่อยหอยอย่างไรเฮ่อเหลียนเช่อคงไม่เชื่อ


เหมยเหมยเองก็รู้แล้วเช่นกัน ลอบด่าเหยียนหมิงต๋าว่าเจ้างั่งในใจ สักวันต้องตายด้วยน้ำมือนังแพศยาอู่เยวี่ยเป็นแน่แท้!


ตัวเองอยากตายยังจะเดือดร้อนถึงเหยียนหมิงซุ่นอีก!


“ไม่ต้องกังวล พวกมันหนีออกจากเมืองหลวงไม่ได้หรอก!”


เหยียนหมิงซุ่นมั่นใจมาก ต่อให้เหยียนหมิงต๋าจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่สามารถพาอู่เยวี่ยหนีออกไปจากเมืองหลวงภายใต้อิทธิพลของเขากับเฮ่อเหลียนเช่อได้อยู่แล้ว ตอนนี้คงหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง


ไม่ถึงสองวันลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นก็เจอร่องรอยของเหยียนหมิงต๋า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)