อัจฉริยะสมองเพชร 2038-2039

 ตอนที่ 2038 นั่นคือความสามารถของมนุษย์จริงๆหรือ?

มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับหมาจิ้งจอกหูขาวในหนังสือจำนวนหลายล้านเล่มของสำนักดาบเมฆเหิน มันเป็นอสูรอมตะทรงพลังที่เมื่อโตเต็มที่จะมีวรยุทธระดับอมตะขั้นสูง ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าเล่ห์เจ้ากล เชี่ยวชาญด้านการสร้างภาพลวงตา ทำให้ผู้เข้าใกล้สูญเสียความสามารถในการมองเห็น แม้แต่นักรบอมตะขั้นสูงก็ยังถูกล่อลวงด้วยภาพลวงตาของมัน

ในประวัติศาสตร์ มีนักฝึกอสูรมากมายที่พยายามจะทำให้หมาจิ้งจอกหูขาวยอมจำนน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครทำสำเร็จ

แม้แต่อัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานที่สุดของหอนานาอสูรก็ยังพ่ายแพ้

ด้วยเหตุนี้ หมาจิ้งจอกหูขาวจึงขึ้นชื่อว่า ‘ไม่เชื่อง’ ในสายตาของนักฝึกอสูรทั่วไป

ในเมื่อมีอสูรแบบนี้อยู่ในภูเขา จึงไม่น่าแปลกใจที่อาณาบริเวณนี้จะถูกเหล่าอสูรเข้ายึดครอง จนถึงขนาดที่แม้แต่กลุ่มอำนาจใหญ่ก็ไม่อาจขยายอิทธิพลเข้าสู่พื้นที่นั้นได้

“ถ้าคุณอยากทำให้อสูรที่นี่ยอมจำนนสักตัวละก็ จะดีที่สุดถ้าอยู่ให้ห่างจากอาณาเขตของสี่อสูรอมตะไว้ บางทีคุณอาจพอมีโอกาสประสบความสำเร็จ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ มีแต่จะพาตัวเองไปเสี่ยงตาย” ชายชราแนะนำอย่างมีน้ำใจ

“พื้นที่ไหนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสี่อสูรอมตะ?” จางเซวียนตั้งคำถาม

“อาณาบริเวณของภูเขาเมฆเหินมีความยาวหลายร้อยลี้ และอสูรทั้ง 4 ก็กุมอำนาจเหนือทั้ง 4 ยอดเขา…” ขณะที่ชายชราพูด เขาก็นำแผนที่ออกมาและเริ่มอธิบายรายละเอียดเรื่องแหล่งพำนักของทั้งสี่อสูรอมตะ

จางเซวียนจดจำข้อมูลเหล่านั้นไว้ในหัวสมอง

เขาเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในอสูรทรงพลังชนิดต่างๆที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วภูเขาเมฆเหิน และไม่ช้า ภาพของภูเขาที่อยู่ท่ามกลางหมู่เมฆก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้า

ชายชราบังคับอสูรบินได้ให้ร่อนลงที่ใจกลางภูเขาและพูดว่า “ผมส่งคุณได้เพียงเท่านี้นะ ถ้าลึกไปกว่านี้จะเป็นอันตราย…”

เขาอดรู้สึกไม่ได้ว่ามีนัยน์ตาแดงก่ำนับคู่ไม่ถ้วนจับจ้องมาจากหมู่เมฆ และนั่นทำให้เขาพรั่นพรึงอย่างหนัก

ชายชราไม่ใช่นักรบที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว และอสูรที่เขาขี่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการต่อสู้ด้วย ชีวิตของเขามีแต่จะตกอยู่ในความเสี่ยงหากเข้าไปลึกกว่านี้

“ส่งผมตรงนี้ก็ได้ เมื่อกี้ผมให้สัญญากับคุณไว้ว่าผมจะฝึกอสูรตัวหนึ่งให้คุณ ถูกไหม? ถ้าคุณพอมีเวลาล่ะก็ รอผมอยู่ตรงนี้ก็จะดี” จางเซวียนพูดยิ้มๆ

“คุณพูดจริงหรือ?” ชายชราย้อนถาม

เขาคิดว่าจางเซวียนพูดไปอย่างนั้น แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง!

แต่ต่อให้อีกฝ่ายตั้งใจช่วยเขา การฝึกอสูรก็ไม่ใช่สิ่งที่เพียงแค่มีความตั้งใจมุ่งมั่นแล้วจะทำได้

จางเซวียนไม่ตอบคำถามของชายชรา เขายิ้มออกมา จากนั้นก็เก็บหินขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วขว้างเข้าไปในป่าลึก

ฮื่อออออ! แฮ่!

หินก้อนนั้นทำให้เกิดเสียงคำรามของอสูรมากมายนับไม่ถ้วนดังกึกก้องไปทั่ว นัยน์ตาแดงก่ำที่ซุกซ่อนอยู่โผล่พ้นออกมาจากหมู่เมฆ

น่าตกใจมากที่พวกมันล้วนแต่เป็นอสูรขั้นผู้ทำลายล้างมิติ! มีอยู่มากมายหลายชนิด บางชนิดก็เชี่ยวชาญเรื่องการบิน ขณะที่บางชนิดเก่งกาจด้านการโจมตี สีหน้าของพวกมันบ่งบอกความโหดเหี้ยม ได้กลิ่นอายของความกระหายเลือดอย่างชัดเจน

“อะไรกัน?” ชายชราหน้าซีดเผือด อสูรบินได้ที่อยู่ด้านหลังใช้ปีกของมันปิดหน้าไว้ ไม่กล้าจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามัน

อสูรขั้นผู้ทำลายล้างมิติจำนวนมากมายก่ายกองอยู่ใกล้พวกเขาแบบนี้ แค่พริบตาเดียวก็คงถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่มีทางหนีพ้นแน่!

ถ้าเขารู้ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้จะหุนหันพลันแล่นอย่างที่เห็น จะไม่มีวันรับงานนี้เด็ดขาด…

ขณะที่ชายชราคิดว่าคราวนี้ต้องตายแน่ ชายวัยกลางคนก็พูดขึ้นมาอย่างปุบปับ “ที่นี่มีอสูรมากมายให้คุณเอากลับไปได้ คุณชอบตัวไหนล่ะ?”

“ผมชอบตัวไหน?” ชายชราแทบลมจับ

ผมจะชอบตัวไหน แล้วอย่างไรล่ะ? คุณกำลังบอกให้ผมเก็บอสูรกลับไปสักตัวเพื่อที่ผมจะได้กลายเป็นอาหารเย็นของมันหรือ? ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของเราจะเป็นแบบนี้…ต้องเจอจุดจบแบบนี้…

“ถ้าคุณให้ผมเลือกล่ะก็ ผมอยากถูกนกอินทรีไฟที่อยู่ตรงนั้นจับกิน ความใฝ่ฝันสูงสุดของผมคือได้เป็นเจ้าของอสูรตัวนั้น ซึ่งหาพผมทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรถ้าจะได้จบชีวิตใต้กรงเล็บของมัน…” ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะชี้นิ้วไปที่อสูรตัวหนึ่ง

“นกอินทรีไฟ?” จางเซวียนพยักหน้า “รับทราบ เอาตัวนั้นก็แล้วกัน”

ฟึ่บ!

พริบตาต่อมา จางเซวียนก็หายตัวไป ขณะที่ชายชรายังงุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น นกอินทรีไฟตัวมหึมาก็ร่วงลงมากองกับพื้นตรงหน้า ทำให้เขาต้องกระถดหนีด้วยความหวาดกลัว

“รีบยอมรับเขาเป็นเจ้านายของแกเสีย” จางเซวียนพูดขึ้นจากด้านหลังนกอินทรีไฟตัวนั้น

แคว่ก!

นกอินทรีไฟที่แสนหยิ่งผยองก้มศีรษะของมันลงทันทีเพื่อโค้งคำนับให้

ชายชราชราตาโตด้วยความงุนงงสุดขีด

เขาอาจไม่ใช่ศิษย์สายตรงตัวจริงของหอนานาอสูร แต่ก็มีโอกาสได้เห็นนักฝึกอสูรผู้เก่งกาจมากมายทำการฝึกอสูรมาก่อน พฤติกรรมที่นกอินทรีไฟก้มศีรษะของมันนั้นหมายความว่ามันเต็มใจยอมรับใช้เขาโดยสมบูรณ์…หรือพูดอีกอย่างก็คือ มันเต็มใจยอมเป็นอสูรของเขา!

ว่าแต่…เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

แค่โยนนกอินทรีไฟลงมา มันก็ถูกทำให้เชื่องแล้วหรือ?

การฝึกอสูรง่ายดายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแล้วนะ ลาก่อน!”

ชายชรายังคงงุนงงว่าอีกฝ่ายใช้เวทมนตร์แบบไหนเพื่อทำให้นกอินทรีไฟยอมจำนนได้ ก็พอดีกับที่เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้น จากนั้นเขาแปรสภาพเป็นเงาขณะพุ่งเข้าใส่ฝูงอสูรที่อยู่ตรงหน้า

เพียงครู่เดียว อสูรหลายตัวที่เพิ่งแยกเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่เมื่อครู่ก็ลงนอนเขลงอย่างว่าง่ายราวกับสัตว์เลี้ยงที่จงรักภักดี พวกมันแลบลิ้นออกมาเหมือนสุนัขที่พยายามประจบประแจงเจ้าของ

“ฉันเลือกแก ไปกันเถอะ”

จางเซวียนเลือกเสือดาวจุดเขียวตัวหนึ่งและขึ้นขี่หลังของมัน จากนั้นทั้งคู่ก็ตรงเข้าสู่ป่าลึก หายตัวไปท่ามกลางหมู่เมฆในชั่วพริบตา

เห็นร่างของชายวัยกลางคนหายวับไป ชายชราทึ้งผมตัวเองอย่างคลุ้มคลั่ง ใช้เวลานานกว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง

ชายวัยกลางคนผู้นั้นทำให้อสูรขั้นผู้ทำลายล้างมิติจำนวนมากมายยอมจำนนให้เขาอย่างเต็มใจ…นั่นคือความสามารถของมนุษย์จริงๆหรือ?

ดูเหมือนหัวหน้าหอนานาอสูรก็ไม่น่าจะทำอะไรเหลือเชื่อแบบนี้ได้!

“เราได้ยินว่าหอนานาอสูรใช้การทดสอบที่โหดหินอย่างเหลือเชื่อในการคัดเลือกหัวหน้าของพวกเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ขอแค่นักฝึกอสูรคนหนึ่งทำให้หนึ่งในสี่อสูรอมตะยอมจำนนได้ ก็จะได้รับตำแหน่งว่าที่หัวหน้าหอนานาอสูรคนต่อไป หรือว่า…ชายวัยกลางคนผู้นั้นจะเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งจากหอนานาอสูรที่เข้ารับการทดสอบ?” ชายชราหวนนึกถึงข่าวที่เขารู้มาเมื่อสองสามวันก่อน

ก็เหมือนกับวิธีการที่สำนักดาบเมฆเหินเลือกเจ้าสำนักของพวกเขาผ่านความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบ หอนานาอสูรก็ใช้ระบบเดียวกัน

หัวหน้าของพวกเขาจะต้องมีความเชี่ยวชาญเหนือชั้นเรื่องการฝึกอสูร และมีพละกำลังเหนือกว่าอสูรทั้งปวง

แต่ก็แน่นอนว่าสี่อสูรอมตะแห่งขุนเขาสี่อสูรมีพละกำลังแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง และการทำให้พวกมันยอมจำนนก็เป็นภารกิจที่ยากเย็นมาก

การประสบความสำเร็จในภารกิจแบบนี้จะทำให้ความสามารถในการฝึกอสูรของผู้นั้นเพิ่มสูงขึ้น และพละกำลังของ 1 ใน 4 อสูรอมตะก็เพียงพอจะทำให้เขาก้าวขึ้นสู่ความเป็นสุดยอดของหอนานาอสูร

ด้วยสิ่งนี้ จะไม่มีใครตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของหัวหน้าหอนานาอสูรที่ได้รับเลือก

“ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ…” ชายชราพยักหน้า

ไม่น่าแปลกที่อีกฝ่ายจะเก่งกาจเหลือเกินในการฝึกอสูร ในเมื่อเขาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของหอนานาอสูรที่เป็นหนึ่งในว่าที่หัวหน้าหอนานาอสูรคนต่อไป ก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรที่เขาจะมีความสามารถเหนือชั้นกว่าธรรมดา

…..

เสือดาวจุดเขียวเคลื่อนไหวได้ว่องไวมาก ท่วงท่าของมันดูราวกับทะลุผ่านสายลม ในชั่วพริบตา มันก็พุ่งผ่านยอดเขาหนึ่งไป มุ่งหน้าสู่ยอดเขาที่มังกรอสรพิษพำนักอยู่

ในเมื่อเขามาที่นี่เพื่อทำให้อสูรยอมจำนน ก็แน่นอนว่าจะต้องทำให้ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดยอมจำนนก่อน!

จางเซวียนมีความสามารถในการเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ ทักษะนี้ทำให้เขาเอาชนะอสูรที่มีสายเลือดมังกรได้ การทำให้มันยอมจำนนจะง่ายกว่าอสูรอมตะตัวอื่นๆ

เสือดาวจุดเขียวเป็นอสูรท้องถิ่นของภูเขาเมฆเหิน จึงแทบไม่มีอสูรตัวไหนขวางทาง มีบ้างที่อสูรโง่เง่าบางตัวพยายามเข้ามาเกะกะ แต่ก็ถูกกระแสดาบฉีเล่นงานไปหมด

ไม่ช้าเสือดาวจุดเขียวก็มาถึงยอดเขาซึ่งเป็นอาณาเขตของมังกรอสรพิษ

เมื่อถึงตรงนี้ มันก็หยุดกึก

เสือดาวจุดเขียวจ้องมองเส้นทางที่อยู่ตรงหน้าอย่างหวาดระแวง ลังเลว่าควรไปต่อหรือไม่

รู้ดีว่านี่คือความหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณต่ออสูรอมตะ จางเซวียนกระโจนลงจากหลังเสือดาวจุดเขียวและบอกว่า “ไม่เป็นไร แกไม่ต้องพยายามหรอก อยู่ที่นี่ก็แล้วกัน”

จางเซวียนปรับเปลี่ยนพลังปราณให้อยู่ในรูปของดาบคมกริบและเดินลึกเข้าไปในสันเขา

มีบางอย่างผิดปกติแล้ว…

หลังจากเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง จางเซวียนก็หยุดกึก รอยย่นปรากฏบนหน้าผากของเขา

พื้นที่รอบตัวมีแต่ต้นไม้ เหมือนกับดินแดนที่เขาผ่านมาก่อนหน้านี้ แต่ด้วยดวงตาหยั่งรู้ จางเซวียนรู้สึกได้ถึงสัญญาณรบกวนของมนุษย์ มีค่ายกลและกับดักจำนวนหนึ่งอยู่โดยรอบ

เป็นไปได้ว่าค่ายกลและกับดักเหล่านี้มีไว้เพื่อทำให้อสูรอมตะในพื้นที่ยอมจำนน หรือว่ามีใครคนหนึ่งตัดหน้าเขาไปแล้ว?

“ขอเข้าไปดูใกล้ๆหน่อยเถอะ…”

จางเซวียนตรวจสอบข้อบกพร่องของค่ายกลที่ถูกติดตั้งไว้ จากนั้นก็เล็ดลอดผ่านค่ายกลและกับดักเข้าไปขณะเดินลึกสู่ยอดเขา

ไม่ช้า เขาก็เห็นชาย 7 คนซ่อนตัวอยู่หลังหินก้อนใหญ่ หนึ่งในนั้นคือธงค่ายกลไว้จำนวนหนึ่งขณะรีบติดตั้งค่ายกลอย่างเงียบๆ

“ผมทำเสร็จแล้ว ทั้งหมดที่เราต้องทำตอนนี้ก็คือล่อมังกรอสรพิษให้ออกมา แล้วมันก็จะติดกับค่ายกลของเรา ทันทีที่เราทำให้มันติดกับได้สำเร็จ การทำให้มันยอมจำนนก็จะง่ายขึ้นมาก และในเวลาเดียวกัน ค่ายกลนี้จะช่วยคุ้มกันพวกเราด้วยหากเกิดความผิดพลาด” ชายชราผู้ติดตั้งค่ายกลเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก

“คุณได้รับความสำนึกในบุญคุณจากผม ผู้อาวุโสเลี่ยว” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในกลุ่มประสานมือ

“คุณก็เกรงอกเกรงใจเกินไป ในบรรดาผู้เข้ารับการคัดเลือก 2 คนของหอนานาอสูร ผมเชื่อว่าคุณมีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้ามากกว่า ไม่สงสัยเลยว่าหอนานาอสูรจะต้องรุ่งเรืองขึ้นอีกมากภายใต้การนำของคุณ พวกเราไม่ได้แค่ช่วยคุณเท่านั้น แต่เป็นเพราะผลประโยชน์ของทั้งสำนักที่ทำให้พวกเราเลือกคุณ!” ผู้อาวุโสเลี่ยวตอบยิ้มๆ

“ผมคงต้องทำงานหนักเพื่อให้สมกับความคาดหวังของคุณ” ชายวัยกลางคนหัวเราะหึๆก่อนจะมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง “เอาล่ะ ผมจะล่อมันออกมาละนะ”

ตอนที่ 2039 สายเลือดมังกร

ขณะที่พูด เขาก็นำขวดหยกออกมาใบหนึ่งและเปิดจุกขวดออก กลิ่นตลบอบอวลโชยออกไปทั่วบริเวณโดยรอบ

จางเซวียนที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ห่างจากชายทั้ง 7 ถึงกับเลิกคิ้ว “นั่นมัน…เลือดมังกร?”

เขาเห็นไม่ชัดว่าอะไรอยู่ในขวดหยกใบนั้น แต่คุ้นเคยกับกลิ่นและรังสีเฉพาะตัวที่แผ่ซ่านออกไปโดยรอบ

ในครั้งนั้น เพื่อเยียวยาตัวเองให้ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ อำมาตย์เฉินหลิงได้ขัดเกลาเลือดมังกร กลิ่นที่โชยจากขวดหยกใบนี้คือกลิ่นที่จางเซวียนคุ้นเคย

ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนมันจะมีความหอมล้ำลึกกว่าด้วย บ่งบอกว่าเลือดมังกรในขวดนี้มีความบริสุทธิ์มากกว่า

“ผู้อาวุโสหยวน นั่นคือเลือดมังกรบริสุทธิ์หรือ?” ผู้อาวุโสเลี่ยวถามอย่างประหลาดใจ

เขานึกไม่ถึงว่าชายวัยกลางคนผู้นี้จะมีของล้ำค่าขนาดนี้อยู่ในครอบครอง

ใครๆก็รู้ว่าแทบจะหาอสูรที่มีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ไม่ได้สักตัวในทวีปที่ถูกลืม การได้หยดเลือดของมันมาจึงไม่น่าเป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้ แม้จะเป็นกลุ่มอำนาจของทวีปที่ถูกลืมที่มีความเชี่ยวชาญในการฝึกอสูร แต่ก็ไม่มีสมาชิกคนไหนของหอนานาอสูรที่มีโอกาสได้เห็นเลือดมังกรบริสุทธิ์มาก่อน

“มันไม่ใช่เลือดมังกรบริสุทธิ์ แต่เป็นเลือดมังกรอสรพิษที่ได้รับการขัดเกลาแล้ว ผมคัดกรองเลือดมังกรอสรพิษจำนวนหนึ่งถังจนเหลือแค่สิบหยด มันยังเทียบชั้นไม่ได้กับเลือดมังกรบริสุทธิ์ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ห่างไกลกันนัก” ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหยวนตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือความภาคภูมิใจ

การขัดเกลาเลือดมังกรเป็นหนึ่งในเรื่องที่การลงมือทำจริงยากเย็นกว่าการพูดถึงมันมาก

เป็นที่รู้กันว่าเลือดมังกรนั้นระเบิดได้ง่ายและออกฤทธิ์รุนแรง หากคนธรรมดาสามัญซึมซับมันเข้าไปเพียงหยดเดียว ร่างกายของเขาจะระเบิดเป็นจุณทันที ดังนั้น การขัดเกลาเลือดมังกรจึงยากเย็นกว่านั้นมาก ต้องใช้เวลาและการลงทุนลงแรงมากมายกว่าผู้อาวุโสหยวนจะทำได้ขนาดนี้

“น่าทึ่งจริงๆ!” ผู้อาวุโสเลี่ยวพยักหน้า “ด้วยสิ่งนี้ มังกรอสรพิษจะต้องออกมาแน่ ทันทีที่มันพยายามเล่นงานคุณ มันก็จะติดกับของเรา…และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ไม่ช้าคุณก็จะทำให้มันยอมจำนนได้!”

เหตุผลที่ไม่มีใครทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนนได้สำเร็จจนถึงวันนี้ก็เพราะนิสัยหวาดระแวงของมัน มันไม่เคยยอมให้ใครต้อนมันให้จนมุมมาก่อน ดังนั้น ขอแค่พวกเขาต้อนมังกรอสรพิษให้จนมุมได้ ที่เหลือก็ง่าย

ด้วยวิถีทางอันหลากหลายของหอนานาอสูร การทำให้อสูรสักตัวยอมจำนนไม่ใช่เรื่องยากเกินไป

ฮื่ออออ!

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน เสียงคำรามกึกก้องก็ดังขึ้นกลางอากาศ เมื่อเงยหน้ามอง ทุกคนเห็นมังกรอสรพิษตัวมหึมาลอยตัวอยู่เหนือศีรษะ นัยน์ตาใหญ่โตของมันที่เหมือนโคมไฟสว่างเจิดจ้าจับจ้องที่ขวดหยกที่ผู้อาวุโสหยวนถืออยู่

มังกรอสรพิษที่แข็งแกร่งที่สุดในภูเขาเมฆเหินถูกความเย้ายวนของเลือดมังกรที่พวกเขาเตรียมไว้เล่นงานแล้ว!

“มันอยู่นี่เอง…” ผู้อาวุโสหยวนตัวเกร็งด้วยความตื่นเต้นขณะจับจ้องมังกรอสรพิษ

ผู้อาวุโสหยวนกับคนอื่นๆไม่ได้ใส่ใจปกปิดร่องรอยของพวกเขา มังกรอสรพิษจึงรับรู้ถึงการปรากฏตัวของทั้งกลุ่มเช่นกัน มันจ้องมองลงมาด้วยสีหน้าเย็นชาขณะส่งเสียงดังสนั่น “มนุษย์ คิดจริงๆหรือว่าเพียงแค่เลือดมังกรจะสามารถล่อลวงผมได้?”

เมื่อเผชิญหน้ากับมังกรอสรพิษผู้สง่างาม ผู้อาวุโสหยวนก้าวออกมาอย่างสุขุมและตอบว่า “ผมรู้ว่าคุณเห็นพวกเรามานานแล้ว ผู้ที่เก่งกาจระดับคุณจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา และผมก็รู้ว่าเหตุผลที่คุณไม่ยอมปรากฏตัวก็เพราะคุณอยากรู้ว่าพวกเรามีทรัพย์สมบัติชนิดไหนมามอบให้!”

พละกำลังมหาศาลอย่างน่าทึ่งพวยพุ่งออกจากร่างของผู้อาวุโสหยวนขณะที่เขาพูดออกมา ราวกับจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่จะรับมือด้วยได้ง่ายเช่นกัน

“นักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์?” จางเซวียนพึมพำ

ผู้อาวุโสหยวนดูมีอายุราว 40 ต้นๆเท่านั้น ใครจะไปคิดว่าตัวเขาจะเป็นถึงนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์แล้ว? รังสีที่เขาแผ่ออกมาแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสโฉวหั่วเสียอีก

ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมผู้อาวุโสมากมายถึงรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนเขา เขามีความเก่งกาจเหนือชั้นอย่างไม่ธรรมดาแบบนี้นี่เอง

“เรื่องอื่นๆล้วนแต่ไร้สาระ ถ้าคุณอยากทำให้ผมยอมจำนนล่ะก็ จะต้องพิสูจน์ให้เห็นเสียก่อนว่าคุณแข็งแกร่งกว่าผม!” มังกรอสรพิษคำราม

เมื่อพิจารณาจากการที่คนกลุ่มนี้อ้อยอิ่งอยู่แถวนี้มานานแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากทำให้มันยอมจำนน ก็เป็นอย่างที่ผู้อาวุโสหยวนพูด เหตุผลที่มันยังไม่ปรากฏตัวจนกระทั่งถึงตอนนี้ก็เพราะอยากเห็นว่าคนพวกนี้จะใช้ของล้ำค่าชนิดไหนมาล่อใจมัน

ถ้าของล้ำค่าที่พวกเขาเตรียมมาไม่ดีพอจะเอาชนะใจมันได้ มันก็แค่สั่งการให้เหล่าบริวารขับไล่คนเหล่านั้นออกไป แต่ถ้าคนกลุ่มนี้มีความจริงใจในการนำของล้ำค่าบางอย่างที่สามารถดึงดูดความสนใจของมันได้ อย่างน้อยที่สุดมันก็จะยอมเผชิญหน้ากับพวกเขา

ในฐานะอสูรที่มีสายเลือดมังกร มันไม่เคยหวาดกลัวการต่อสู้

“คุณอยากท้าทายพละกำลังของผมหรือ?” ได้ยินคำพูดนั้น ผู้อาวุโสหยวนหัวเราะหึๆ “ผมยอมรับว่าผมเทียบชั้นกับคุณไม่ได้ในแง่ของความแข็งแกร่ง แต่ความสามารถของผมไม่ได้หยุดอยู่แค่การขัดเกลาเลือดมังกรเท่านั้น ผมยังขัดเกลาสายเลือดมังกรในร่างกายของคุณได้ด้วย!”

“ขัดเกลาสายเลือดมังกรของผม?” มังกรอสรพิษชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหรี่ตาอย่างประหลาดใจ

เหตุผลที่เผ่าพันธุ์มังกรทรงพลังมากก็มีสาเหตุหลักมาจากสายเลือดมังกรของพวกมัน ถ้าอีกฝ่ายขัดเกลาสายเลือดมังกรของมันได้จริงๆ ก็มีโอกาสที่มันจะได้ฝ่าด่านคอขวดของมังกรอสรพิษและพัฒนาไปสู่การเป็นมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ตัวจริง

นี่เป็นข้อเสนอที่เย้ายวนเกินต้านสำหรับสมาชิกของเผ่าพันธุ์มังกรทุกตัว!

“คุณจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าคุณมีความสามารถแบบนั้น?” มังกรอสรพิษคำราม

“เลือดมังกรขวดนี้ยังไม่ดีพอจะเป็นหลักฐานหรือ? ด้วยดวงตาหยั่งรู้ของคุณ คุณน่าจะดูออกนะว่าเลือดมังกรขวดนี้มีต้นกำเนิดมาจากมังกรอสรพิษเหมือนคุณ แต่ผมสามารถขัดเกลามันให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับมังกรเลือดบริสุทธิ์ได้ ซึ่งนั่นก็เพียงพอจะพิสูจน์ความสามารถของผมแล้ว นี่เป็นโอกาสหายากที่คุณจะได้พัฒนาตัวเองไปเป็นมังกรสายเลือดบริสุทธิ์…ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าจะคว้ามันไว้หรือไม่!” ผู้อาวุโสหยวนตอบอย่างมั่นใจ

โอกาสที่จะได้เป็นมังกรเลือดบริสุทธิ์นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่สมาชิกตัวไหนในเผ่าพันธุ์มังกรจะนิ่งเฉยได้ เขาไม่เชื่อว่ามังกรอสรพิษตัวนี้จะต้านทานความเย้ายวนใจครั้งนี้ได้เช่นกัน

“ผมต้องยอมรับว่าคุณมีสิ่งที่ดึงดูดใจผมมาก…” มังกรอสรพิษตอบช้าๆ “แต่ต่อให้สิ่งที่คุณพูดมาเป็นเรื่องจริง คุณก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าคู่ควรพอที่จะทำให้ผมยอมจำนน มาสิ แสดงให้ผมดูว่าคุณมีความสามารถแบบไหน ถ้าคุณทำไม่ได้แม้แต่จะรับมือกับผมล่ะก็ อย่าได้ฝันว่าจะกลับไปโดยยังมีชีวิต!”

ควั่บ!

พริบตาเดียว มังกรอสรพิษก็ตวัดกรงเล็บของมันลงมา ทำให้มิติโดยรอบแข็งทื่อ พละกำลังมหาศาลระเบิดออกไปโดยรอบ เกิดเป็นพายุดุเดือด

“น่าทึ่งจริงๆ” ผู้อาวุโสหยวนเปรยพร้อมกับหัวเราะหึๆ “แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องใช้กระบวนท่านี้ ผมจึงเตรียมตัวมาเหมือนกัน”

เขาโบกมือ แล้วลูกทรงกลมลูกหนึ่งก็ปรากฏบนฝ่ามือของเขา มันเรืองแสงเจิดจ้าออกมา

“นั่นคือ…ลูกมังกรทะเลเหนือ?” ผู้อาวุโสเลี่ยวตั้งคำถามอย่างอัศจรรย์ใจ

ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ประหลาดใจกับของล้ำค่าที่ผู้อาวุโสหยวนเพิ่งนำออกมา

ลูกมังกรทะเลเหนือเป็นของล้ำค่าที่มีเฉพาะในทะเลเหนือ มันสามารถก่อให้เกิดภาพลวงตาเสมือนจริงมากมาย และมีอานุภาพสูงส่งมากกับเผ่าพันธุ์มังกร

ว่ากันว่าในครั้งนั้น หัวหน้าหอนิรันดร์เคยใช้ของล้ำค่าชิ้นนี้เป็นเหยื่อล่อเผ่าพันธุ์เสมือนมังกรจากหอเทพเจ้า

มีลำดับอาวุโสอย่างเคร่งครัดในเผ่าพันธุ์มังกร อสูรที่มีสายเลือดมังกรเพียงเศษเสี้ยวไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มังกรด้วยซ้ำ แม้แต่มังกรอสรพิษก็ยังเป็นสมาชิกที่อ่อนแอที่สุดของเผ่าพันธุ์มังกร

ที่อยู่ในระดับขั้นสูงไปกว่ามังกรอสรพิษคือเผ่าพันธุ์เสมือนมังกร และสุดท้ายก็คือมังกรเลือดบริสุทธิ์ แค่เผ่าพันธุ์เสมือนมังกรที่อ่อนแอที่สุดก็มีวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์แล้ว แต่ลูกมังกรทะเลเหนือก็ยังสามารถล่อมันออกจากที่ซ่อนได้ เพียงเท่านี้ก็เห็นชัดแล้วว่ามันมีอานุภาพรุนแรงแค่ไหนต่อเผ่าพันธุ์มังกร

ลูกมังกรทะเลเหนือเป็นของล้ำค่าที่โดยปกติแล้วหายากมาก และทะเลเหนือก็กินระยะทางยาวไกลหลายล้านลี้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหาลูกมังกรพบสักลูก

มีนักฝึกอสูรจำนวนหนึ่งที่เดินทางรอนแรมไปทั่วทะเลเหนือโดยใช้เวลาทั้งชีวิต แต่ก็ไม่เคยได้พบมัน ดังนั้น การปรากฏตัวของลูกมังกรทะเลเหนือจึงแทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ หลายคนมองว่ามันคือของล้ำค่าที่มีอยู่เฉพาะในตำนาน…

ใครจะไปคิดว่าผู้อาวุโสหยวนจะหามาได้ลูกหนึ่งจริงๆ

ดูเหมือนเขาทุ่มสุดตัวที่จะทำให้มังกรอสรพิษตัวนี้ยอมจำนนให้ได้

ด้วยการเตรียมตัวอย่างดีของเขา ตำแหน่งหัวหน้าหอนานาอสูรก็อยู่แค่เอื้อม

เมื่อลูกมังกรทะเลเหนือปรากฏ นัยน์ตาของมังกรอสรพิษที่อยู่กลางอากาศจับจ้องลงมาด้วยความสงสัย ดูเหมือนมันกำลังตกอยู่ในภวังค์

“ฮ่าฮ่า!”

เพราะคาดเดาผลลัพธ์แบบนี้ไว้แล้ว ผู้อาวุโสหยวนหัวเราะหึๆ เขากระโจนขึ้นสู่กลางอากาศ และด้วยการสะบัดข้อมือ เขาก็โยนลูกมังกรทะเลเหนือออกไปด้านข้าง มังกรอสรพิษที่จังงังอย่างสิ้นเชิงกับของล้ำค่าชิ้นนั้นรีบไล่ตะครุบลูกมังกรทันที

เพราะผู้อาวุโสหยวนควบคุมลูกมังกรไว้ มังกรอสรพิษจึงเคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่เขากำหนดด้วย มันจับจ้องลูกมังกร จากนั้นก็บิดตัวแล้วหันกลับไปมา เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นกลางอากาศ จากความหนักหน่วงในการเคลื่อนไหวของมัน

“นั่นคือ…การล่อหลอกมังกร!” ผู้อาวุโสเลี่ยวอุทานด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

“เผ่าพันธุ์มังกรพวกนี้เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุร้าย และทุกตัวก็หยิ่งผยองมาก พวกมันจะไม่ยอมจำนนให้ใคร ต่อให้ตัวเองพ่ายแพ้แล้วก็ตาม เหตุผลที่ผู้อาวุโสหยวนใช้ลูกมังกรทะเลเหนือล่อมังกรอสรพิษก็เพื่อให้มันยอมละทิ้งความหยิ่งผยองและศักดิ์ศรีของตัวเอง และในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้จะทำลายพลังชีวิตของมัน ทำให้มันไร้เรี่ยวแรงตอบโต้”

ฝูงชนพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง

มีหลากหลายวิธีที่รู้กันในการจะทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนน แต่การหลอกล่อมังกรได้ชื่อว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะเมื่อมันตรงเข้าเล่นงานทั้งสภาพร่างกายและสภาวะจิตของมังกรตัวนั้น

ความหยิ่งผยองของมังกรอาจทำให้มันไม่ยอมจำนนแม้จะพ่ายแพ้และชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยงแล้ว ดังนั้นจึงต้องทำลายศักดิ์ศรีและความเย่อหยิ่งของมันเสียก่อน