อัจฉริยะสมองเพชร 1954-1955

 ตอนที่ 1954 ยังอีกไกลนักกว่าจะถึงเป้าหมาย!

“ไม่ทราบว่าเจตจำนงเพลงดาบของคุณกินอาณาบริเวณแค่ไหน, ผู้อาวุโสลู่อวิ๋น?” จางเซวียนถามด้วยความอยากรู้


“ผม?” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นออกจะแปลกใจเล็กน้อยกับคำถาม เขามีสีหน้าเจื่อนๆขณะส่ายหัว “ผมไม่ได้เชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบมากนัก ตอนที่ยังหนุ่มจึงไม่ผ่านเกณฑ์ของศิษย์สายตรงฝ่ายในด้วยซ้ำ แต่เพราะผมเพียรพยายามฝึกฝนอย่างไม่ลดละ ในที่สุดจึงสำเร็จวรยุทธในระดับที่เป็นอยู่และได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสฝ่ายนอก แม้ผมจะฝึกฝนวิถีแห่งเพลงดาบมาเนิ่นนานหลายปี แต่ก็ยังทำสถิติได้ไม่ถึง 100 เมตร…ตอนนี้ผมทำได้ 97 เมตรเท่านั้น”


“97 เมตร? แค่นั้นก็น่าทึ่งมากแล้ว” จางเซวียนตั้งข้อสังเกตขณะหันกลับไปมองห้องที่ปิดสนิทอยู่ตรงหน้า


ศิษย์สายตรงของเขาคนนี้เพิ่งร่ำเรียนศิลปะเพลงดาบจากเขาได้เพียงคืนเดียว ซ้ำมีความเข้าใจในเทคนิคการใช้ดาบเพียงเทคนิคเดียวเท่านั้น ในเมื่ออีกฝ่ายยังปราศจากความเข้าใจอันล้ำลึกในวิถีของเพลงดาบ จางเซวียนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าศิษย์ของเขาคนนี้จะทำได้ดีแค่ไหน


…..


สิ่งแรกที่ตั้นเฉี่ยวเทียนเห็นเมื่อเข้าไปในห้องคือแท่นรูปกลมที่มีดาบปักแน่นอยู่ตรงกลาง


นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่าแท่นเทพดาบที่ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นพูดถึง


พื้นที่ตรงหน้าเขาโล่งกว้างจนน่าประหลาดใจ ไม่มีผนังทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านบน เพื่อเปิดทางให้เจตจำนงเพลงดาบของผู้เข้ารับการทดสอบพุ่งออกไปได้หลายเมตร เพราะหากมีผนัง ก็คงต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงลิ่วในการสร้างห้องที่สามารถแบกรับแรงกดดันจากการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบได้


ตั้นเฉี่ยวเทียนก้าวขึ้นไปบนแท่น เขาชักดาบออกมาแล้วสูดหายใจลึก เพ่งสมาธิทั้งหมดให้กับการขับเคลื่อนพลังงาน


เจตจำนงเพลงดาบมีรากฐานอยู่บนความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของนักรบผู้นั้น


เขาฝึกฝนศิลปะเพลงดาบมากว่า 10 ปีแล้วตั้งแต่ยังเด็ก จึงรู้ซึ้งและมีจิตใจที่ฝังลึกอยู่กับศิลปะเพลงดาบ


เพียงแค่ถือดาบในมือ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็รู้สึกเหมือนมือของเขาจะหลอมละลายเข้ากับดาบ แทนที่จะเป็นอาวุธ กลับให้ความรู้สึกเหมือนแขนของเขายืดยาวออกไปอีก


หึ่งงงง!


ดูเหมือนดาบนั้นจะรับรู้ความคิดของเขาได้ มันส่งเสียงหึ่งดังลั่นขณะที่แท่นเทพดาบเรืองแสงสีขาวราวกับน้ำนมออกมา


นัยน์ตาของตั้นเฉี่ยวเทียนบ่งบอกความมุ่งมั่น เขาขับเคลื่อนพลังงานจนเต็มพิกัด


ฟิ้วววว!


เจตจำนงเพลงดาบระเบิดออกไป


ตั้นเฉี่ยวเทียนรีบลืมตาดูเพื่อกะระยะทาง สิ่งที่เห็นทำให้ถึงกับหน้าชา


“1 สือ? 1 ใน 3 ส่วนของ 1 เมตร?”


เขาขับเคลื่อนพละกำลังจนเต็มพิกัด แต่กลับกลายเป็นว่าการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเขากินอาณาบริเวณเพียง 1 ใน 3 ของ 1 เมตรเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็หมายความว่าความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของเขาเทียบชั้นไม่ได้แม้แต่กับศิษย์สายตรงระดับล่างหรือ?


“มะ-ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้…ขนาดหัวเจียงเหอยังสู้เราไม่ได้เลย!” หัวสมองของตั้นเฉี่ยวเทียนแทบระเบิด


ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นย้ำแล้วย้ำอีกว่าหอเทพดาบมีความเที่ยงธรรมขนาดไหน แต่ในการต่อสู้ของจริง ศิลปะเพลงดาบของเขาเหนือชั้นกว่าแม้แต่หัวเจียงเหอ แล้วความสามารถของเขาจะถูกจำกัดอยู่ที่ 0.33 เมตรได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!


“เดี๋ยวก่อน เราเอาชนะหัวเจียงเหอได้ด้วยศิลปะการโยนดาบ บางทีเราควรจะทดลองด้วยกระบวนท่านั้น…”


หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตั้นเฉี่ยวเทียนนึกได้ว่ายังมีไม้ตายอยู่ จึงสูดหายใจลึกก่อนกระดิกนิ้ว


วิ้งงงง!


ดาบในมือของเขาลอยขึ้นสู่กลางอากาศ


ทันทีที่ดาบหลุดมือไป เจตจำนงเพลงดาบอันหนักหน่วงก็ระเบิดออกจากร่างของเขา ดาบนั้นแผ่เจตจำนงเพลงดาบของมันออกมา ทั้งห้องปกคลุมไปด้วยหมอกขาว คลื่นพลังงานอันทรงพลังโอบรอบดาบไว้ราวกับพายุเฮอริเคน


“เฮ้ย…” ตั้นเฉี่ยวเทียนจังงังไปอีกครั้ง


ตอนที่เขาผลักดันเจตจำนงเพลงดาบจนสุดกำลัง ก็ปลดปล่อยออกมาได้เพียง 0.33 เมตร แต่ทันทีที่ใช้เทคนิคการโยนดาบที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอดให้ ยังไม่ทันจะได้ปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบออกไป ก็เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว หากเขาสำแดงเทคนิคนี้จนสำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร?


หรือว่ามีความแตกต่างใหญ่หลวงระหว่างศิลปะเพลงดาบที่เขาเพียรพยายามทำความเข้าใจมา 10 ปีกับสิ่งที่ท่านอาจารย์เพิ่งถ่ายทอดให้?


“ไปเลย!”


ตั้นเฉี่ยวเทียนมีสีหน้ากระอักกระอ่วน เขาสะบัดดาบ มันพุ่งออกไปทันที


ฟิ้วววว!


เจตจำนงเพลงดาบสีขาวพวยพุ่งออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของดาบ จากนั้นก็หายวับไปในชั่วพริบตา


ตั้นเฉี่ยวเทียนกะพริบตาปริบๆด้วยความงงงัน


เจตจำนงเพลงดาบของเขากินอาณาบริเวณแค่ 0.33 เมตรเท่านั้น แต่เมื่อใช้ศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์ เจตจำนงเพลงดาบก็พุ่งออกไปแสนไกลจนไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา…


เท่าที่ดู น่าจะมากกว่า 30, 50 หรือแม้แต่ 100 เมตร!


“มันยังพุ่งอยู่หรือ?”


หลังจากรีรออยู่ครู่หนึ่ง เจตจำนงเพลงดาบก็ดูจะยังไปไม่สุดทาง ทำเอาตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับจังงัง


นี่มันพุ่งไปไกลจนไม่อาจวัดผลได้หรือเปล่า?


วิ้งงง!


แต่ขณะที่กำลังกังวล ผนังที่อยู่ด้านข้างเขาก็สั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนจะปรากฏผลลัพธ์


“499 เมตร!”


อีกเพียง 1 เมตร ตั้นเฉี่ยวเทียนก็จะได้เป็นเทพดาบ!


เมื่อรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้นเฉี่ยวเทียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเสียดาย


ดูเหมือนเราจะได้ร่ำเรียนศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์ แต่ไม่อาจเข้าถึงเจตจำนงเพลงดาบขั้นพื้นฐานและอื่นๆได้เลย…


ตั้นเฉี่ยวเทียนเคยคิดว่าด้วยการฝึกฝนอย่างหนักตลอดระยะเวลา 10 ปี การจะได้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างของสำนักดาบเมฆเหินก็คงไม่ยากเกินไป แต่ดูเหมือนเขาจะประเมินความสามารถของตัวเองสูงกว่าความเป็นจริง


ยังอีกไกลนักกว่าจะถึงเป้าหมาย!


ไม่น่าแปลกใจแล้วที่เฉว่ชิงซึ่งไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากร อีกทั้งได้คำชี้แนะจากเฉว่เฉิน ก็ยังเป็นได้แค่ศิษย์สายตรงระดับล่าง ในเมื่อตอนนั้นตัวเขาฝึกฝนศิลปะเพลงดาบตามลำพัง แถมยังไม่อาจใช้พลังปราณได้…


เป็นไปได้ว่า 0.33 เมตรคือผลลัพธ์จากการฝึกฝนของเขาตั้งแต่ก่อนได้พบท่านอาจารย์ ถ้าไม่ได้พบท่านอาจารย์ เขาก็คงทำอะไรไม่ได้เลย


เราได้ร่ำเรียนกระบวนท่าจากศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์เท่านั้น ไม่ใช่ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลัง แต่ก็ยังแผ่เจตจำนงเพลงดาบออกไปได้ไกลขนาดนี้ ถ้าเราเข้าใจแนวคิดของมันอย่างสมบูรณ์แบบล่ะก็ น่าคิดเหลือเกินว่าตัวเราจะทรงพลังขนาดไหน ตั้นเฉี่ยวเทียนคิด


ตัวเขาในเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กคนหนึ่งที่เรียนรู้วิธีแก้โจทย์เลขผ่านการเลียนแบบ เขาได้คำตอบที่ถูกต้อง แต่หากถูกตั้งคำถามว่าทำไมถึงใช้วิธีนั้น หรือต้องขยายความรายละเอียดที่อยู่เบื้องหลังวิธีการแก้โจทย์ของเขาว่าคืออะไร ก็แน่นอนว่าตอบไม่ได้


คนๆหนึ่งอาจแสดงออกถึงความกล้าหาญได้อย่างลึกซึ้งจากจิตวิญญาณจนสามารถปลุกเร้าอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่นได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายเป็นกวีอย่างหลี่ไป๋ที่มาพร้อมกับบทกวีที่อยู่เหนือกาลเวลา


แม้จะอยู่ในฐานะดังกล่าว แต่เจตจำนงของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยังแผ่ออกไปได้ไกลถึง 499 เมตร ซึ่งหากเขามีความเชี่ยวชาญในภูมิปัญญาที่แท้จริงของท่านอาจารย์ล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องประสบความสำเร็จมากกว่านี้


จะว่าไป นี่จะไม่หมายความว่าท่านอาจารย์ของเขาสามารถแผ่เจตจำนงเพลงดาบออกไปได้ไกลกว่า 500 เมตรหรือ? น่าจะเหนือชั้นกว่าบรรดาผู้ปราดเปรื่องของสำนักดาบเมฆเหินด้วยซ้ำ!


เราควรรีบออกไปพบท่านอาจารย์เพื่อให้เขาได้มีโอกาสทดลอง ตั้นเฉี่ยวเทียนครุ่นคิดอย่างตื่นเต้นขณะรีบออกจากห้อง


ขนาดศิลปะเพลงดาบที่เขาร่ำเรียนเพียงวันเดียวยังไร้เทียมทานขนาดนี้ เขาเชื่อมั่นว่าท่านอาจารย์จะต้องทำลายสถิติได้แน่!


เมื่อเห็นตั้นเฉี่ยวเทียน ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นรีบไถ่ถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? คุณทำได้เกินกว่า 30 เมตรหรือเปล่า?”


ถึงเขาจะมั่นใจว่าตั้นเฉี่ยวเทียนน่าจะทำได้ตามเงื่อนไข แต่ก็อดใจเต้นตึกตักไม่ได้จนกว่าจะได้รู้คำตอบ


“ผมทำได้…” ตั้นเฉี่ยวเทียนหน้าแดงก่ำ


อันที่จริง ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของตัวเขาทำให้สามารถปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบออกไปได้เพียง 0.33 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าเขายอมรับออกไป คงถูกขับออกจากสำนักทันที ด้วยเหตุนี้ หลังจากใคร่ครวญอย่างดีแล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนจึงตัดสินใจตามน้ำไปก่อน


ต่อไป เขาก็แค่ต้องฝึกฝนให้หนักกว่าเดิมเพื่อกำจัดจุดอ่อนข้อนี้ให้ได้!


ผู้อาวุโสลู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากได้ยินว่าตั้นเฉี่ยวเทียนผ่านการทดสอบ เขาซักไซ้รายละเอียด “การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของคุณกินอาณาบริเวณเท่าไหร่?”


เขาเคยเห็นศิลปะเพลงดาบของตั้นเฉี่ยวเทียนแล้ว มันเป็นการสำแดงศิลปะการต่อสู้อันน่าทึ่ง ถึงขนาดที่หัวเจียงเหอ, ศิษย์พี่หมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ายนอกก็ยังเทียบชั้นไม่ได้


เพียงเท่านั้นก็มากพอจะทำให้ตั้นเฉี่ยวเทียนขึ้นเป็นผู้นำในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ายในแล้ว


“เอ่อ…นี่คือผลการทดสอบของผม” ตั้นเฉี่ยวเทียนตอบพร้อมกับยื่นตราหยกอันหนึ่งให้


เขาบันทึกผลลัพธ์ที่ปรากฏบนผนังเมื่อครู่นี้เอาไว้


เห็นตั้นเฉี่ยวเทียนอับอายขายหน้าจนต้องยื่นตราหยกให้เขาแทนการพูดตัวเลขออกมา ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นเข้าใจทันทีว่าผลการทดสอบของอีกฝ่ายคงไม่ดีนัก “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องผลการทดสอบในเวลานี้หรอก คุณอายุยังน้อย ขอแค่ได้เข้าเป็นหนึ่งในศิษย์สายตรงฝ่ายใน ต่อไปก็จะพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วอย่างแน่นอน…”


แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นก็เห็นตัวเลขที่ปรากฏบนตราหยก นัยน์ตาของเขาแทบทะลุออกจากเบ้า “4-499 เมตร?”


“ใช่” ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำ น่าอับอายเหลือเกินที่ต้องโกหกดื้อๆแบบนี้


“….”


ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นมองตราหยกในมือสลับกับสีหน้าอับอายเกินขนาดของตั้นเฉี่ยวเทียน เขาทึ้งผมตัวเองอย่างหงุดหงิด


คุณเป็นบ้าอะไร?


ไอ้สีหน้าอับอายเหลือหลายของคุณทำให้ผมคิดว่าคุณคงทำได้ราวๆ 30 เมตรเท่านั้น…แต่ให้นรกกินเถอะ ผลลัพธ์ของคุณคือ 499 เมตร!


รู้หรือเปล่าว่ามีศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดมากมายแค่ไหนที่อยากจะทำผลงานให้ได้แบบคุณ แต่ไม่มีปัญญา?


คุณเกือบจะได้เป็นเทพดาบแล้ว รู้บ้างไหม?


แทนที่จะภูมิใจ กลับหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายกับสถิติของตัวเอง…แล้วผมล่ะ? ถ้างั้นผมเป็นตัวอะไร? ตัวตลกเดินได้ให้ใครๆดูถูกเหยียดหยามใช่ไหม?


ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นรู้สึกเหมือนถูกปล้นศักดิ์ศรีทั้งหมดไปและทำลายมันจนแหลกสลายเป็นชิ้นๆ


เขาเคยเห็นศิษย์สายตรงมากมายที่หงุดหงิดและท้อใจกับผลลัพธ์อันน้อยนิดของตัวเอง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นใครคนหนึ่งทำสีหน้าแบบนั้นทั้งที่ได้ผลลัพธ์ดีเลิศ


เรื่องแบบนี้เหมือนกับสถานการณ์ในวันหนึ่งที่เป็นวันประกาศผลสอบ คุณเห็นนักเรียนคนหนึ่งกำลังพึมพำพร่ำบ่นไม่หยุด จึงเข้าไปปลอบใจเขา หลังจากปลอบกันอยู่นาน ในที่สุดหมอนั่นก็ยอมบอกว่าเขาเสียอกเสียใจเพราะเหตุใด


ในการทดสอบที่มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน เขาทำคะแนนได้ 99


ส่วนตัวคุณที่เข้าไปปลอบใจเขา…ได้เพียง 9 คะแนนเท่านั้น!


ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นไม่เคยรู้สึกอยากหายตัวมากเท่านั้นมาก่อน


ตอนที่ 1955 เป็นไปไม่ได้!

เขาสูดลมหายใจสองเฮือกใหญ่ก่อนจะตั้งคำถาม “คุณรู้สึก…อับอายขายหน้ากับผลลัพธ์ของคุณอย่างนั้นหรือ?”


“ใช่…มันออกจะไม่ค่อยปกติ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนก้มหน้าก้มตา


ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นใจเต้นแรงด้วยความโมโหเดือด เขาต้องยกมือขึ้นกดหน้าอกครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อระงับอารมณ์ เมื่อรู้สึกว่าไม่อยากพูดกับหมอนี่อีกต่อไป เขาสูดหายใจลึกอีกครั้งก่อนจะหันไปถามจางเซวียน “คุณอยากเข้าไปลองดูไหม?”


เขาเกรงว่าตัวเองจะทำอะไรเกินเลยหรือแสดงความเกรี้ยวกราดออกมาหากยังพูดกับตั้นเฉี่ยวเทียนอยู่


“เอ่อ…ได้สิ” จางเซวียนพยักหน้าขณะเดินเข้าไปในห้อง


ตลอดทาง เขาอดคิดไม่ได้ ลูกศิษย์ของเราคนนี้ยังไม่ได้ร่ำเรียนศิลปะเพลงดาบของเราสักกี่มากน้อย แต่ก็เรียนรู้ที่จะรู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัวแบบเราแล้ว ไม่เลวเลย


ดูเหมือนอีกฝ่ายจะปราดเปรื่องพอให้เขาปั้นได้


จางเซวียนปิดประตู จากนั้นก็เดินตรงไปยังแท่นเทพดาบ


“ฮึ? ทำไมไม่มีดาบล่ะ?”


เขาเหลียวมองโดยรอบ แต่ห้องนั้นว่างเปล่า ไม่มีดาบสักเล่มให้เห็น ตามที่ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นบอกไว้ ควรจะมีดาบเล่มหนึ่งอยู่ตรงนี้


หรือว่าการประเมินศิลปะเพลงดาบไม่จำเป็นต้องใช้ดาบ? แต่ก็ดูไม่น่าจะใช่ แต่ก็นั่นแหละ เมื่อครู่นี้ตั้นเฉี่ยวเทียนก็อยู่ที่นี่ ซึ่งนั่นอาจหมายความว่าไม่ต้องใช้ดาบก็ได้


“แต่ว่า…ปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบที่กินอาณาบริเวณถึง 499 เมตรได้โดยไม่ต้องใช้ดาบ เราอาจประเมินความสามารถของตั้นเฉี่ยวเทียนผิดไปจริงๆ…”


บางทีแท่นเทพดาบอาจไม่ได้เตรียมดาบไว้ให้ เมื่อลองนึกดู บรรดาศิษย์สายตรงส่วนใหญ่ที่เขาได้พบด้านนอกก็ล้วนแต่เหน็บดาบไว้ที่หลังทั้งนั้น แน่นอนว่ามันคงเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หากไม่มีดาบในมือ…


ได้ผลลัพธ์ขนาดนั้นทั้งที่ไม่มีดาบ ลูกศิษย์ของเขาไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ


ในเมื่อลูกศิษย์ทำได้โดยไม่ต้องใช้ดาบ อย่างน้อยที่สุด ตัวเขาในฐานะอาจารย์ก็ควรจะทำได้แบบเดียวกัน


จางเซวียนสูดหายใจลึกก่อนจะปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบทั้งหมดของเขาออกไปในคราวเดียว


แก่นสารเพลงดาบที่เขาได้ศึกษาเมื่อครั้งอยู่ในทวีปแห่งปรมาจารย์สะท้อนเข้ามาในหัวสมองขณะที่ยกนิ้วขึ้น


กระแสดาบฉีที่มีความเข้มข้นอย่างน่าทึ่งรวมตัวกันอยู่ที่ปลายนิ้วของจางเซวียน


ด้วยการสั่งสมกันของกระแสดาบฉี หมอกขาวระเบิดออกจากแท่นเทพดาบและเข้าโอบล้อมร่างของจางเซวียนไว้อย่างรวดเร็ว แต่แทนที่จะพุ่งออกไป มันกลับหลอมรวมเข้ากับกระแสดาบฉีของจางเซวียน


ดูราวกับหมอกขาวเหล่านี้ยอมจำนนให้กับเจตจำนงเพลงดาบของจางเซวียนและไม่กล้าทำอะไรลงไปหากปราศจากคำสั่งของเขา


เห็นภาพนั้น จางเซวียนอ้าปากค้าง


นี่มันบ้าบออะไร?


ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็หมายความว่าเขาปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบได้เพียงไม่ถึง 1 เมตรหรือ?


เขาคงไม่อ่อนด้อยกว่าศิษย์สายตรงของตัวเองหรอก ใช่ไหม?


ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คงได้อับอายขายหน้าครั้งใหญ่


“แบบนี้ไม่ได้การ ต้องรวบรวมเจตจำนงเพลงดาบให้มีปริมาณมากกว่านี้ และก้าวข้ามขีดจำกัดของเราให้ได้!”


จางเซวียนหวนนึกถึงศิลปะเพลงดาบที่เขาได้ร่ำเรียนเมื่อครั้งอยู่ที่สระดาบ ตระกูลจาง รวมทั้งภูมิปัญญาที่เขาได้รู้มาก่อนหน้านี้…


แก่นสารเพลงดาบหมุนติ้วอยู่ในหัวสมองของเขา รังสีแผดกล้าระเบิดออกจากร่าง ในชั่วพริบตานั้น จางเซวียนรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นดาบเล่มใหญ่ที่สามารถผ่าโลกให้แยกออกเป็น 2 ซีก


ฟิ้วววว!


ขณะที่เจตจำนงเพลงดาบของเขาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด ปริมาณหมอกขาวที่รวมตัวกันอยู่ในห้องก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าสะพรึง ในชั่วพริบตา ก็ดูเหมือนห้องนั้นจะถูกเปลวไฟเผาไหม้ทุกอย่างจนราบคาบ ด้วยความเข้มข้นของเจตจำนงเพลงดาบ หมอกขาวที่ก่อตัวเป็นชั้นหนาเริ่มจะกลั่นตัวกลายเป็นของเหลว


“ยังน้อยกว่า 1 เมตรอีกหรือ? เป็นไปไม่ได้!”


จางเซวียนทุ่มทุนขนาดนี้แล้ว แต่เมื่อมองไป การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเขาก็ยังไปได้ไกลไม่ถึง 1 เมตร!


เป็นไปได้อย่างไร?


เขาอ้าปากค้าง แทบลมจับเดี๋ยวนั้น


เป็นไปไม่ได้ที่ศิลปะเพลงดาบอันไร้เทียมทานของเขาจะทำให้เขาไม่อาจเทียบชั้นได้แม้แต่กับศิษย์สายตรงระดับล่าง จริงไหม?


เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ตั้นเฉี่ยวเทียนจะทำผลงานได้ถึง 499 เมตรได้อย่างไรทั้งที่เพิ่งเรียนรู้แค่ศิลปะเพลงดาบชั้นสาม?


“เราไม่เชื่อเด็ดขาด! บรรดาเจตจำนงเพลงดาบของโลกใบนี้ จงฟังคำสั่งของผม!” จางเซวียนคำรามก้องขณะที่พลังปราณกับจิตวิญญาณของเขาหลอมรวมกันและก่อตัวเป็นรูปดาบ เขาซึมซับเจตจำนงเพลงดาบที่อบอวลอยู่ในอากาศและเพ่งสมาธิให้กับการสั่งสมกระแสดาบฉีที่ปลายนิ้ว


ถ้าศิษย์สายตรงของเขาทำได้ขนาดนี้โดยไม่ต้องใช้ดาบ เขาคงต้องอับอายขายหน้าจนตายหากทำแบบเดียวกันไม่ได้!


ไม่ว่าอย่างไร ก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!


ทั้งหมดนี้ก็เพื่อชื่อเสียงและศักดิ์ศรีในฐานะท่านอาจารย์ของตั้นเฉี่ยวเทียน!


…..


ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีดาบเหน็บหลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนคลาคล่ำในหอเทพดาบ


ทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่ห้องโถง ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ราวกับเขามีอำนาจโดยธรรมชาติบางอย่างที่ผลักดันใครๆให้ถอยห่าง


เกิดเสียงหัวเราะคิกคัก กลุ่มชนพากันเปิดทางให้ชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามา


“ศิษย์น้องเย่เหลียน มารับการประเมินศิลปะเพลงดาบอีกแล้วหรือ? สนใจจะแข่งกับผมไหม?”


ชายหนุ่มคนนี้มีรูปร่างหน้าตาที่ดูมีอำนาจ ด้วยความสูงที่ตระหง่านเหนือคนอื่นๆในห้อง เขายืนเด่นราวกับนกกระเรียนที่อยู่ท่ามกลางฝูงไก่


“ศิษย์พี่เหอเหยียน ถ้าอยากแข่งกับผมล่ะก็ ผมยิ่งกว่ายินดี” ชายหนุ่มที่ชื่อเย่เหลียนตอบอย่างใจเย็น


“กรุณาด้วย!” เหอเหยียนชี้นิ้วไปที่ห้องซึ่งเรียงรายกันอยู่ เขายิ้มกว้างก่อนจะก้าวเข้าไป


เย่เหลียนตามไปติดๆ และเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องของเหอเหยียน


มีผนังกั้นระหว่างแต่ละห้อง แต่เพราะด้านหน้าไม่มีผนัง ทุกคนจึงมองเห็นการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของห้องใกล้เคียง ทำให้สามารถเปรียบเทียบกันได้


เห็นทีท่าของทั้งคู่ ศิษย์สายตรงฝ่ายในคนหนึ่งที่เพิ่งมาถึงตั้งคำถามกับคนแถวนั้น “พวกเขาคือศิษย์พี่เย่กับศิษย์พี่เหอผู้โด่งดังในหมู่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดใช่ไหม?”


“ใช่ พวกเขานั่นแหละ ผมรู้มาว่าทั้งคู่เพียรพยายามจะเป็นเทพดาบและแข่งขันกันตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเพื่อดูว่าใครจะทำสำเร็จก่อนกัน!” ศิษย์สายตรงคนหนึ่งในบริเวณนั้นที่ดูจะรู้ดีให้คำตอบพร้อมกับพยักหน้า


เย่เหลียนกับเหอเหยียนเป็นศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดไม่กี่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะบุคลิกอันโดดเด่นและศิลปะเพลงดาบที่ไร้เทียมทานของพวกเขา ทั้งคู่เชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบเหมือนกัน จึงแข่งขันกันมาตลอดหลายปี โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่พวกเขาอยู่ห่างจากการได้เป็นเทพดาบเพียงไม่กี่ก้าว


สิ่งนั้นทำให้ทั้งคู่เป็นเป้าสายตาของบรรดาศิษย์สายตรงในสำนักดาบเมฆเหิน ทุกคนอยากรู้ว่าใครจะขึ้นสู่จุดสูงสุดระดับนั้นได้ก่อน


“ศิษย์พี่เหอ ทำไมคุณไม่เริ่มก่อนล่ะ?” เย่เหลียนพูดขณะก้าวขึ้นไปบนแท่นเทพดาบและชักดาบออกมา


ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องใช้ดาบที่อยู่บนแท่นเทพดาบเพื่อเข้ารับการทดสอบและรอคอยผลลัพธ์ ซึ่งเหตุผลที่ศิษย์สายตรงส่วนใหญ่เหน็บดาบไว้ที่หลังก็เพราะหวังว่าจะสามารถปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบได้ดีกว่าหากใช้อาวุธที่ตัวเองคุ้นเคย อีกทั้งยังมีความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างดาบกับมนุษย์ในระดับที่สูงกว่าด้วย


“เริ่มกันเถอะ!”


เหอเหยียนหัวเราะลั่นจากห้องข้างๆ ขณะคว้าดาบที่ปักอยู่บนแท่นเทพดาบและถ่ายทอดเจตจำนงเพลงดาบเข้าไป


ฟิ้ววววว!


กระแสเจตจำนงเพลงดาบที่ไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกจากจุดชีพจรของเขา ไหลเข้าสู่ดาบในมือ


ในชั่วพริบตา เจตจำนงเพลงดาบก็ถูกปลดปล่อยออกจากห้องนั้น กินอาณาบริเวณหลายสิบเมตร


เห็นการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเหอเหยียน เย่เหลียนเริ่มการทดสอบ เจตจำนงเพลงดาบของเขาถูกปลดปล่อยออกไปและตีคู่กับเหอเหยียน เมื่อมองจากระยะไกล ก็ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตจากสรวงสวรรค์ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เคียงข้างกัน


เห็นเย่เหลียนใกล้จะตามเขาทัน เหอเหยียนหัวเราะหึๆ “ระดับความเร็วของคุณถือว่าไม่เลวนะศิษย์น้อง! 6 เดือนที่ผ่านมานี่คุณคงฝึกฝนหนักมาก!”


“ศิษย์พี่ คุณเองก็ใช่ย่อย ความเร็วในการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของคุณเร็วกว่าแต่ก่อนมาก” เย่เหลียนตั้งข้อสังเกตอย่างสุขุม


“ผมว่าเราคงเสมอกัน แต่ก็เอาเถอะ มาดูกันดีกว่าว่าใครจะแตะระดับ 500 เมตรและกลายเป็นเทพดาบได้ก่อน!”


เหอเหยียนคำรามและปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบออกมารวดเดียว ทำให้การปลดปล่อยพลังนั้นพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง แต่ยังไม่ทันจะไปได้ไกล การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเขาก็พลันหยุดชะงัก มันสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผู้สูงส่ง เหมือนงูตัวหนึ่งที่ตัวสั่นงันงกต่อหน้ามังกรสวรรค์


ไม่ว่าเหอเหยียนจะสำแดงพละกำลังรุนแรงแค่ไหน การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเขาก็ไปไม่ได้ไกลกว่านั้น


เหอเหยียนหรี่ตา เขาชำเลืองมองเย่เหลียนและเห็นว่าอีกฝ่ายตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเขาสั่นสะท้านไม่หยุด เดินหน้าต่อไม่ได้แม้แต่คืบเดียว


“มันเกิดอะไรขึ้น?” เหอเหยียนถึงกับผงะ


ในตอนนั้น การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของทั้งคู่แหลกสลายไปพร้อมกับเกิดเสียงดังสนั่น


พลั่ก!


เหอเหยียนกับเย่เหลียนกระอักเลือดออกจากปากขณะทรุดฮวบลงกับพื้น


เหอเหยียนกุมบาดแผลของเขาไว้แน่น จากนั้นก็ค่อยๆกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน


“นี่มัน…การทำลายล้างของเจตจำนงเพลงดาบ?”


ในฐานะอัจฉริยะผู้ฝึกฝนเพลงดาบ, ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดคนหนึ่งของสำนักดาบเมฆเหิน เขารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เจตจำนงเพลงดาบที่เขาเพียรฝึกฝนด้วยความเหนื่อยยากถูกเจตจำนงเพลงดาบของชายอีกคนหนึ่งทำลายจนราบคาบ!


แต่นี่เป็นเรื่องประหลาดมาก เพราะศิลปะเพลงดาบที่เขาฝึกฝนคือเจตจำนงเพลงดาบที่ไม่มีใครในสำนักเทียบชั้นได้ เขาจะถูกปราบจนราบคาบแบบนั้นได้อย่างไร? ไม่มีทาง!


“เย่เหลียน ฝีมือคุณหรือ?” เหอเหยียนถามอย่างประหลาดใจ


ศิษย์สายตรงที่มาที่นี่เพื่อเข้ารับการประเมินศิลปะเพลงดาบมีแต่ตัวเขากับเย่เหลียนเท่านั้น หรือว่า อีกฝ่ายได้ฝึกฝนศิลปะเพลงดาบอันน่าทึ่งบางอย่างตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้มีเจตจำนงเพลงดาบที่เหนือชั้นกว่า?


เหอเหยียนหันไปมอง และเห็นว่าการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบในห้องที่อยู่ติดกันถูกทำลายล้างไปด้วย ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหน่วง มันนิ่งงัน ไม่ไหวติงราวกับงูที่ขดอยู่กับพื้น


“ไม่ใช่ผมนะ…ผมยังควบคุมเจตจำนงเพลงดาบของผมไม่ได้เลย…พลั่ก!”


ยังไม่ทันจะพูดจบ การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเย่เหลียนก็สลายตัวไปอย่างฉับพลัน ทำให้เขากระอักเลือดออกมากองใหญ่


เหอเหยียนตาโตด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นภาพนั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)