อัจฉริยะสมองเพชร 1930-1931

 ตอนที่ 1930 ให้อภัยไม่ได้!

ศิลปะเพลงดาบป้องกันตัวที่ทรงพลังขนาดนี้ถูกทำลายด้วยการโยนดาบ…เป็นความจริงหรือ?


“นักรบผู้นั้นเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการโจมตีหรือเปล่า?” เมื่อเห็นอวิ๋นเฟยหยางไม่มีทีท่าว่าจะโกหก ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นซักไซ้


“เอ่อ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น การโจมตีของเขาไร้เทียมทานมาก!” หวงเทาตอบพร้อมกับพยักหน้ายืนยัน


จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังปวดใจที่ตัวเองถูกสังหารอย่างง่ายดาย ถ้าเกิดต้องเจอหมอนั่นในชีวิตจริงล่ะ?


“ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ น่าจะเป็นเพราะคุณรับมือกับเขาด้วยกระบวนท่าที่ผิด แม้กระบวนท่าน้ำไหลไร้ขอบเขตจะเป็นศิลปะเพลงดาบเพื่อป้องกันตัว แต่ความพยายามป้องกันตัวอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือก็ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดนัก สุดท้าย คุณจะลงเอยด้วยการเผยจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้เข้าเล่นงานได้!” เมื่อรู้ว่าพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับการโจมตีอันทรงพลัง ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นค่อยๆเรียกความสุขุมกลับคืนมา


“หากเจอคู่ต่อสู้แบบนั้น คุณจะต้องฉวยโอกาสเปิดการโจมตีก่อนให้ได้เพื่อต้อนอีกฝ่ายให้จนมุม ถ้าคุณใช้ย่างก้าวดาวตกควบคู่ไปกับศิลปะเพลงดาบสลายต้นไผ่ของผม ก็น่าจะพลิกผันสถานการณ์กลับมาเอาชนะเขาได้สบาย”


“เรื่องนั้นน่ะ…ผู้อาวุโสลู่, ผมปะทะกับเขาแล้ว และได้สำแดงย่างก้าวดาวตกพร้อมกับศิลปะเพลงดาบสลายต้นไผ่ตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน…” ไม้ไผ่พูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ


นั่นคือสองกระบวนท่าที่เขาสำแดงออกไปเพื่อเล่นงานเจ้าโลกทันทีที่การดวลเริ่ม ซึ่งก็แน่นอนว่าทั้งสองกระบวนท่าถูกคิดค้นโดยผู้อาวุโสลู่อวิ๋น


“แล้วเป็นอย่างไร? คุณเอาชนะเขาได้ด้วยพละกำลังสูงสุดและทำให้เขาพ่ายแพ้ได้ในทันทีใช่ไหม?” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นซักขณะจิบชาอีกอึกหนึ่ง


ไม้ไผ่เกาหัว “ยังไม่ทันที่ผมจะได้เข้าถึงตัว เขาก็เล่นงานผมแล้ว…”


พรวด!


คราวนี้เสื้อผ้าของหน้าเหลี่ยมเปียกโชกไปด้วย สีหน้าเสียอกเสียใจของเขาทำให้ใบหน้านั้นดูใหญ่กว่าเดิม


“ไม่ว่าพวกคุณจะใช้ยุทธวิธีโจมตีหรือป้องกันตัว ก็พ่ายแพ้ให้เขาในกระบวนท่าเดียว?” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นวางถ้วยชาขณะลุกพรวดด้วยความประหลาดใจ


“ขอผมดูภาพที่บันทึกไว้ในหอนิรันดร์หน่อย”


รู้ดีว่าไม่มีทางที่ศิษย์สายตรงทั้ง 4 จะอาจหาญถึงขนาดรวมหัวกันโกหกเขา ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นสั่งการ


โดยปกติ เขาจะไม่เสียเวลาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหอนิรันดร์ที่อยู่ในดินแดนไกลปืนเที่ยงอย่างที่นี่ แต่ในเมื่อศิษย์สายตรง 3 ใน 4 คนของเขาถูกเล่นงานหมดรูป แถมคนเหล่านั้นยังใช้เทคนิคของเขาด้วย จึงต้องตรวจสอบเสียหน่อย


ถ้าคนผู้นั้นเป็นนักดาบผู้ช่ำชอง เขาก็จะได้ความดีความชอบหากสามารถนำตัวหมอนั่นกลับมาได้ เพราะตัวเขาคือผู้อาวุโสอี้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการเปิดรับศิษย์สายตรงที่นี่


หลังจากได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ซื้อมา ทั้ง 5 ก็เข้าสู่หอนิรันดร์และรีบซื้อวีดีโอที่บันทึกภาพการดวลก่อนหน้านี้ไว้


หอนิรันดร์จะบันทึกภาพการดวลทุกนัดบนสังเวียนประลองเพื่อวางขายและใช้เป็นหลักฐานอ้างอิง


ไม่ช้าทุกคนก็เสร็จสิ้นการตรวจสอบภาพการดวลระหว่างศิษย์สายตรงทั้ง 3 กับเจ้าโลก การดวลแต่ละนัดกินเวลาเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นเข้าใจทันทีถึงเหตุผลที่ทุกคนพ่ายแพ้ เขาส่ายหน้าอย่างผิดหวัง “อีกฝ่ายมองเห็นข้อบกพร่องในกระบวนท่าของพวกคุณอย่างทะลุปรุโปร่ง นั่นคือเหตุผลที่เขาเล่นงานพวกคุณได้สบาย…”


ได้ยินคำนั้น อวิ๋นเฟยหยางกับคนอื่นๆก้มหน้าลงอย่างละอายใจ


พวกเขารู้ดีว่ามันคงเป็นอะไรทำนองนั้นเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะทำวิธีไหน ต่อให้เปิดการโจมตีก่อน หลบเลี่ยง หรือปัดป้อง หากพวกเขายังอยู่ในรัศมีของการโยนดาบนั่น ก็พบว่าไม่มีวิธีตอบโต้ไหนที่จะทำให้สถานการณ์พลิกผันได้เลย


กระบวนท่านั้นดูแสนจะเรียบง่าย เป็นแค่การโยนดาบโดยมีเป้าหมายที่ศีรษะของพวกเขา แต่ใครก็ตามที่ยืนประจันหน้ากับเจ้าโลกในสังเวียนประลองต่างรู้ดีว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น


“อวิ๋นเฟยหยางสำแดงกระบวนท่าน้ำไหลไร้ขอบเขตได้อย่างงดงาม แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ความลื่นไหลของกระบวนท่า ผู้ที่พอจะรู้อะไรสักหน่อยเกี่ยวกับศิลปะเพลงดาบย่อมมองเห็นข้อบกพร่องและเล่นงานมันได้ ส่วนย่างก้าวดาวตกและศิลปะสลายต้นไผ่ของหูปิง แม้ดูเผินๆจะทรงพลัง แต่ข้อบกพร่องก็คือคุณสามารถแสดงพละกำลังออกมาได้เพียง 1 ใน 10 ของประสิทธิภาพที่แท้จริงเท่านั้นหากวรยุทธของคุณถูกลดระดับลงเป็นนักรบระดับเซียนขั้น 1 ในเมื่อเป็นแบบนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คุณทั้งคู่จะถูกสังหารอย่างง่ายดาย!” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นคำราม


“คืนนี้ พวกคุณทุกคนต้องฝึกฝนศิลปะเพลงดาบทั้งสองศิลปะ รวมทั้งศิลปะการเคลื่อนไหวอีก 100 ครั้ง ถ้าพลาดแม้แต่ครั้งเดียวล่ะก็ อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก!”


“ขอรับ ผู้อาวุโสลู่!”


ทั้ง 4 คนพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด


“อีกอย่าง ผมต้องการให้พวกคุณจับตาดูหอนิรันดร์ให้ดี ถ้าเจ้าโลกปรากฏตัวอีกครั้ง รายงานผมทันที!” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นเอาสองมือไพล่หลัง แผ่รังสีของผู้นำที่ไม่อาจมีใครปฏิเสธได้ขณะพูดออกมา “หมอนั่นคิดว่าจะลอยนวลไปได้สบายๆหลังจากที่เล่นงานศิษย์สายตรงของสำนักดาบเมฆเหินอย่างนั้นหรือ? โลกนี้มีอะไรง่ายแบบนั้นด้วยหรือไง? ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ผมจะต้องลิดรอนความหยิ่งผยองของเขาลงเสียก่อน และทำให้เขารู้ว่าศิลปะเพลงดาบของสำนักดาบเมฆเหินล้ำลึกและสูงส่งเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้!”


“ขอรับ ผู้อาวุโสลู่”


ได้ยินคำนั้น อวิ๋นเฟยหยางกับพรรคพวกถอนหายใจอย่างโล่งอก


แน่นอนว่าผู้อาวุโสลู่ตัดสินใจจะเล่นงานหมอนั่น


แม้ผู้อาวุโสลู่จะเป็นแค่หนึ่งในผู้อาวุโสระดับรองที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการฝึกฝนศิษย์สายตรงฝ่ายนอก แต่ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของเขาถือว่าไม่อาจสบประมาทได้ ต่อให้พวกเขาทั้ง 4 คนผนึกกำลังกัน ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้ผู้อาวุโสลู่หากอีกฝ่ายลดระดับวรยุทธลงมาเท่ากันกับพวกเขา


ถ้าผู้อาวุโสลู่อวิ๋นออกโรง โชคร้ายของเจ้าโลกก็เป็นอันเริ่มต้น


และความเป็นจริงก็คือ ไม่ใช่เฉพาะผู้อาวุโสลู่อวิ๋นกับศิษย์สายตรงทั้ง 4 ที่รอคอยให้เจ้าโลกปรากฏตัวด้วยความคาดหวัง ทั้งเมืองแสงดาวและเหล่าผู้เชี่ยวชาญของเมืองชั้น 3 ก็ล้วนแต่รับรู้ข่าวนี้ ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากชายผู้เป็นตำนานปรากฏตัวอีกครั้ง


…..


“เขาเอาชนะศิษย์น้องอวิ๋นเฟยหยางได้ในกระบวนท่าเดียว? น่าสนใจ…”


ที่บ้านพักเจ้าเมืองชวนเจียง ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทากำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง เขาเพิ่งได้ยินข่าวนั้น นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย


ชายผู้นี้คือคนเดียวกันกับชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเทาที่จางเซวียนเคยพบที่ตลาดหงเหยียน เขาคือศิษย์พี่หมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรงสายนอกแห่งสำนักดาบเมฆเหิน, หัวเจียงเหอ!


“ช่วยผมจับตาดูหอนิรันดร์ไว้ให้ดี ทันทีที่เจ้าโลกปรากฏตัว ไม่ว่าผมจะทำอะไรอยู่ รายงานผมได้ทันที…เจ้าบ้านนอกคอกนานั่นคิดจริงๆหรือว่าแค่การโยนดาบแบบสั่วๆอย่างนั้นจะถือเป็นศิลปะเพลงดาบ? ฮึ่มมม! ขอสั่งสอนบทเรียนให้หมอนั่นรู้หน่อยเถอะว่าศิลปะเพลงดาบที่แท้จริงเป็นอย่างไร!” หัวเจียงเหอลุกพรวด


ฟึ่บ!


เจตจำนงเพลงดาบเปล่งประกาย กระแสดาบฉีระเบิดออกจากร่างของหัวเจียงเหอ ตัดโต๊ะตัวหนาที่อยู่ตรงหน้าเขาแยกเป็น 2 ส่วน


“นำโต๊ะตัวใหม่มาด้วย!” หัวเจียงเหอสั่งการอย่างวางอำนาจก่อนจะก้าวยาวๆออกจากห้อง


…..


“นี่ นังคนใช้! เบาๆหน่อย!”


เพียะ!


เกิดเสียงตบดังสนั่น เฉว่ชิงจ้องหน้าสาวใช้ที่เธอเพิ่งตบไปด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว


เธอสั่งแม่นี่ให้นำยามาให้ แต่อีกฝ่ายกล้าทำให้เธอบาดเจ็บ ให้อภัยไม่ได้!


“นายหญิงน้อยที่ 2, โปรดเมตตาฉันด้วย!” คนรับใช้รีบทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและร้องขอความเมตตา


“ออกไป!” เฉว่ชิงเตะเสยที่ยอดอกของคนรับใช้ก่อนจะสั่งองครักษ์ให้โยนอีกฝ่ายออกจากห้อง


จากนั้นเฉว่ชิงก็หันกลับมาส่องกระจก เห็นใบหน้างดงามนั้นบวมฉึ่ง เธอตัวสั่นด้วยแรงโทสะขณะจ้องสารรูปของตัวเองและคำรามลอดไรฟัน “ตั้น!เฉี่ยว!เทียน!”


เพราะเธอหมั้นหมายกับไอ้ขยะนั่น จึงถูกเพื่อนฝูงล้อเลียนเย้ยหยันตั้งแต่อายุยังน้อย


ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะเอาชนะใจศิษย์พี่หัวเจียงเหอและได้การยอมรับให้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างของสำนักดาบเมฆเหิน แต่ทุกอย่างก็พังทลายเพราะการเข้ามาแส่ของไอ้สารเลวตั้นเฉี่ยวเทียน


หมอนั่นไม่คิดจะปล่อยให้เธอมีชีวิตดีๆเลยใช่ไหม?


ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญาผูกมัดการแต่งงาน เขาคงตายไปนานแล้ว ควรจะสำนึกบุญคุณเอาไว้บ้าง!


แต่แทนที่จะชดใช้บุญคุณของเธอ หมอนั่นกลับรวมหัวกับเจ้ามัมมี่แล้วทำให้ศิษย์พี่หัวตบเธอต่อหน้าผู้คนมากมาย…วันนี้เกียรติยศศักดิ์ศรีของเธอป่นปี้ไม่มีเหลือ ไม่มีทางที่เธอจะยกโทษให้


“ตั้นเฉี่ยวเทียนต้องตาย เจ้ามัมมี่นั่นก็ต้องตาย และคนรับใช้ของมัน, ตั้นอี้ ก็ต้องตายตกตามกันไปให้หมด!” เฉว่ชิงสาปแช่งอย่างโหดเหี้ยม


ในตอนนั้น เฉว่เฉินเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นอกมั่นใจ “วางใจเถอะ นายหญิงน้อยที่ 2, ผมควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว ยืนยันกับคุณได้เลยว่าเจ้าพวกนั้นไม่มีวันได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอีกแน่…”


“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี!” เฉว่ชิงตอบ เธอส่องกระจกอีกครั้ง “ท่านอาจารย์ คุณว่าหน้าของฉันจะมีแผลเป็นไหม? ศิษย์พี่หัวจะหมดความสนใจในตัวฉันหรือเปล่าถ้าฉันขี้ริ้วขี้เหร่?”


“นายหญิงน้อยไม่ต้องกังวล ศิษย์พี่หัวเพิ่งส่งคนมามอบครีมเยียวยานี้ให้ อาการบวมของคุณจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากทาครีมนี้ที่ใบหน้า” เฉว่เฉินตอบขณะยื่นขวดหยกใบหนึ่งให้


“มาจากศิษย์พี่หัว?” เฉว่ชิงตาโตด้วยความตื่นเต้น “ดูเหมือนเขายังมีใจให้ฉันอยู่…”


จากน้ำเสียงของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอใส่ใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองและการที่จะได้รับความสนใจจากศิษย์พี่หัวหรือไม่มากกว่าชีวิตของตั้นเฉี่ยวเทียน


…..


…..


เกี้ยวมุ่งหน้าไปตามถนน


เมื่อออกจากตลาดหงเหยียน ผู้อาวุโสอี้รู้สึกถึงความกดดันหนักอึ้งในหัวอกที่ไม่อาจบรรยายได้ ราวกับอันตรายใหญ่หลวงกำลังรอคอยพวกเขาอยู่


เพราะความรู้สึกนี้ที่ทำให้เขาไม่กล้าพักผ่อน เขากระตุ้นม้าให้มุ่งหน้าสู่บ้านพักตระกูลตั้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หวังจะอาศัยที่นั่นเพื่อความปลอดภัย


ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!


ในตอนนั้นเอง เสียงหวีดหวิวเป็นชุดก็ดังขึ้นกลางอากาศ ลูกธนูนับดอกไม่ถ้วนพุ่งออกจากสองฟากถนนราวกับห่าฝน


ลูกธนูโดยทั่วไปไม่อาจทำอันตรายนักรบระดับเซียนได้ แต่ลูกธนูเหล่านี้ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ ทุกดอกมีพละกำลังเทียบเท่ากับนักรบระดับเซียนขั้น 9 เมื่อมันพุ่งมาราวกับห่าฝน ต่อให้นักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจต้านทานไหว


“ท่านอาจารย์…”


ตั้นเฉี่ยวเทียนรู้ดีว่านี่คือสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าศัตรูเริ่มเล่นงานแล้ว เขากำหมัดแน่นและหันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเพื่อขอคำชี้แนะ


“อย่าวอกแวก สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้ก็คือทำความเข้าใจศิลปะเพลงดาบที่ผมเพิ่งถ่ายทอดให้” จางเซวียนสั่งการอย่างสุขุม


“ขอรับ ท่านอาจารย์”


รู้ดีว่าอาจารย์ย่อมมีหนทางแก้ปัญหาอยู่ในใจแล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนหลับตาและเพ่งสมาธิกับคำสอนที่อีกฝ่ายเพิ่งถ่ายทอดให้ จากนั้น ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว


“กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายนายน้อยที่ 3, ข้ามศพผมไปก่อน!”


ผู้อาวุโสอี้ไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ทันทีที่เห็นท้องฟ้าดารดาษไปด้วยลูกธนู ก็ยับยั้งตัวเองไม่ไหว เขาคำรามก้อง จากนั้นก็เงื้อแส้ขึ้นหวดไปมา หวังจะปัดป้องลูกธนูที่มุ่งทำร้ายตั้นเฉี่ยวเทียน


ตอนที่ 1931 บ้าบอแปลกประหลาดอะไรอย่างนี้…

เขารู้ดีว่าแม้ตัวเองจะเป็นนักรบระดับเซียนขั้น 9 แต่ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาเสื่อมถอยลงมากจากความเครียดและความยากลำบากที่ต้องเผชิญระหว่างการปกป้องตั้นเฉี่ยวเทียนมาตลอดระยะเวลาหลายปี อีกอย่าง เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งนั้นด้วย ถือว่าน่าทึ่งแล้วที่ตอนนี้สามารถสำแดงพละกำลังเทียบเท่ากับนักรบระดับเซียนขั้น 8 ออกมาได้


ท้องฟ้ามีลูกธนูอยู่เต็มไปหมดแบบนี้ เขาคงต้านทานมันไว้ได้ราว 2-3 วินาทีเท่านั้น


แต่แล้วอย่างไรล่ะ?


ขอแค่ยื้อเวลาได้บ้าง นายน้อยที่ 3 ก็น่าจะมีโอกาสหนีเอาชีวิตรอด!


ควั่บ! ควั่บ!


ผู้อาวุโสลุกพรวดแล้วใช้แส้หวดซ้ายป่ายขวา แต่พละกำลังมหาศาลของลูกธนูเหล่านั้นก็ทำให้แส้หลุดจากมือของเขา เขากระโจนขึ้นสู่หลังคาเกี้ยว หวังจะใช้ร่างของตัวเองปัดป้องลูกธนูออกไปให้มากที่สุด แต่ในตอนนั้น เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น


ลูกธนูมากมายที่พุ่งเข้าใส่เกี้ยวดูจะถูกเกี้ยวปัดป้องออกไปด้วยเหตุผลพิสดารอะไรสักอย่าง แม้จะเข้ามาใกล้เต็มที แต่ก็ไม่มีดอกไหนเล่นงานเกี้ยวหรือทำร้ายม้าที่กำลังเหยาะย่างอยู่ด้านหน้าได้เลย


“พวกนั้นคือ…ทีมลอบสังหาร…จริงๆหรือ?”


ผู้อาวุโสอี้กระพริบตาอย่างงุนงง


เขาคิดว่าทุกคนคงจบเห่แน่ แต่ใครจะไปเชื่อว่าไม่มีลูกธนูดอกไหนจากทีมลอบสังหารที่พุ่งเข้าใส่เป้าหมายเลย ราวกับพวกนั้นจงใจยิงให้เฉี่ยวเกี้ยวของเขาไป


โลกนี้มีทีมลอบสังหารที่อ่อนหัดขนาดนี้ด้วยหรือ?


ไม่ใช่ผู้อาวุโสอี้คนเดียวที่งงงัน หัวหน้าทีมลอบสังหารก็เริ่มสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นเป็นความจริงหรือไม่


“พวกแกมัวทำบ้าอะไรอยู่? เล็งให้ดีๆหน่อย!” หัวหน้าทีมลอบสังหารตวาดก้อง


“รับทราบ หัวหน้า!”


ทีมลอบสังหารรีบบรรจุลูกธนูอีกครั้งและปล่อยลูกธนูอีกระลอกหนึ่งออกไป


ฟิ้ววววว!


แต่ภาพประหลาดแบบเดิมก็เกิดขึ้นอีก ราวกับพวกเขาตาบอด ลูกธนูเหล่านั้นตีวงเลี้ยวเล็กน้อย และไม่ได้แตะต้องเกี้ยวเลย


ฉึก! ฉึก! ฉึก!


คราวนี้ทีมลอบสังหารไม่ได้โชคดีเหมือนคราวก่อน ลูกธนูกลุ่มใหญ่ที่พุ่งออกไปจากสองฟากถนนตรงเข้าเล่นงานทีมลอบสังหารที่อยู่อีกฟากหนึ่ง พวกเขาถูกลูกธนูมากมายปักเข้าที่ศีรษะ ดูไม่ต่างอะไรกับเม่น


“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเราจะเล่นงานเกี้ยวนั่นไม่ได้ ยิงต่อไป!” หัวหน้าทีมลอบสังหารสั่งการ


คราวนี้ ทีมลอบสังหารกลุ่มใหญ่ทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะถูกลูกธนูมากมายเล่นงานเข้าอย่างจัง


“นรกอะไรวะนี่! ยิงต่อ!”


“หัวหน้า เราทำแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็ พวกเราคงตายกันหมดก่อนจะเล่นงานเกี้ยวนั่นได้!” ลูกน้องคนหนึ่งร้องออกมาอย่างเสียขวัญ


หัวหน้าทีมลอบสังหารดูจะคลุ้มคลั่ง เขาเหลียวมองโดยรอบและเห็นว่าลูกน้องส่วนใหญ่ของเขาตายแล้ว แต่ละคนมีลูกธนูปักที่ศีรษะอย่างเหมาะเหม็ง


ส่วนลูกธนูกองใหญ่ที่พวกเขายิงออกไปก่อนหน้านี้ก็ตกอยู่ที่พื้นอย่างเงียบเชียบ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น…


ฉันสั่งให้พวกแกโจมตีเกี้ยวและสังหารตั้งเฉี่ยวเทียน…มันเรื่องอะไรพวกแกถึงยิงกันเอง?


หัวหน้าตัวสั่นด้วยแรงโทสะ เขาแทบคลุ้มคลั่ง


เมื่อทนไม่ไหว เขาก็ฉวยคันธนูจากมือลูกน้องคนหนึ่งมา แล้วเล็งที่หัวใจของผู้อาวุโสอี้ก่อนจะยิงออกไป


ในฐานะนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 2 ลูกธนูที่เขายิงออกไปมีพละกำลังทำลายล้างสูง มันพุ่งหวือแหวกอากาศราวกับดาวตก


เห็นลูกธนูเข้ามาใกล้ ผู้อาวุโสอี้หรี่ตาขณะตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว แต่แล้วลูกธนูก็เฉียดเขาไป


อ๊ากกกกกก!


มีเสียงร้องโหยหวน แล้วใครสักคนที่ยังเหลือรอดก็เสียชีวิต


“มันเกิดนรกจกเปรตอะไรที่นี่?”


หัวหน้าทีมลอบสังหารยกคันธนูขึ้นประทับบ่าอีกครั้ง แต่คราวนี้ แทนที่จะเล็งผู้อาวุโสอี้ เขากลับยิงธนูขึ้นฟ้า


อ๊ากกกกก!


สองอึดใจต่อมา เสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้นอีก ขณะที่หนึ่งในผู้มีชีวิตรอดตกเป็นเหยื่อลูกธนูของเขา


“…..”


หัวหน้าทีมลอบสังหารทึ้งผมตัวเองอย่างคลุ้มคลั่ง เขาหันหลังกลับและยิงธนูออกไปอีก 2 ดอก และ…


อ๊ากกกกกก!


อ๊ากกกกกก!


มีเสียงร้องครางโหยหวนอีกสองเสียง ทีมล่าสังหารอีก 2 คนจบชีวิตไป


“บ้าบอแปลกประหลาดอะไรอย่างนี้…”


หัวหน้าทีมลอบสังหารแทบครองสติไม่อยู่


เขาไม่ได้นำคันธนูของตัวเองมาเพราะไม่ได้เชี่ยวชาญการยิงธนูมากนัก แต่แล้ว…ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นนักแม่นธนูผู้ยิงแม่นขนาดสังหารคนของตัวเองให้ตายได้ไม่ว่าจะเล็งไปที่ไหน?


ที่สำคัญกว่านั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ด้านหลังตัวเขา แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ลูกธนูตีวงกลับอย่างสวยงามและพุ่งเข้าเสียบศีรษะของลูกน้องของเขาอย่างเหมาะเจาะ…


มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นที่นี่…


“หยุดยิงเดี๋ยวนี้! ตรงเข้าเล่นงานพวกมันเลย!” หัวหน้าทีมลอบสังหารขว้างคันธนูลงกับพื้นและสั่งการ


ถ้าพวกเขายังไม่หยุดยิง ทุกคนคงตายกันหมด ในเมื่อเป็นแบบนั้น ตรงเข้าเล่นงานพวกมันเลยจะดีกว่า


ฟึ่บ!


เมื่อได้ยินคำสั่ง ผู้ที่ยังเหลือรอดต่างชักอาวุธออกมาแล้วกระโจนออกจากที่ซ่อน


เห็นทีมลอบสังหารที่กระโจนออกมา หัวหน้าทีมลอบสังหารรู้สึกเหมือนถูกกริชทิ่มแทงหัวใจ


เพื่อลอบสังหารตั้นเฉี่ยวเทียน เขานำกองกำลังมากว่า 30 คน และคิดว่าการลอบสังหารคนพิการอย่างตั้นเฉี่ยวเทียนคงง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ใครจะไปคิดว่าลูกธนูที่ถูกยิงออกไปราวกับห่าฝนจะทำร้ายคนของเขาเสียเอง?


ตอนนี้เขาเหลือลูกน้องเพียง 8 คนเท่านั้น และ 2 ใน 8 คนก็มีลูกธนูปักอยู่ที่ศีรษะ ทั้งคู่เดินเซไปมา เลือดหยดติ๋งๆลงกับพื้น


ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพช!


ให้นรกกินเถอะ! ถ้าเขารู้ว่าตั้นเฉี่ยวเทียนจะตายยากตายเย็นอย่างที่เห็น จะไม่มีวันรับงานนี้เลย!


พวกเขาคือกองโจรที่พำนักอยู่นอกเมือง เมื่อตอนบ่าย ใครคนหนึ่งมาพบพวกเขาพร้อมกับเหรียญนิรันดร์ถุงใหญ่ เอ่ยปากให้พวกเขากำจัดตั้นเฉี่ยวเทียน ทุกคนเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก แต่กลับกลายเป็นว่ามันคือการตัดสินใจครั้งเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา


สูญเสียกำลังคนไปมากมายขนาดนี้ เขาไม่มีวันล่าถอยแน่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เขาจะต้องปฏิบัติภารกิจนี้จนลุล่วงให้ได้!


“สับไอ้พวกสารเลวที่อยู่ในเกี้ยวให้เละ!” หัวหน้าทีมลอบสังหารตะโกนก้อง


ทีมลอบสังหารที่เหลืออีก 8 คน พุ่งเข้าใส่เกี้ยวทันที


“ถ้าอยากสังหารนายน้อยที่ 3 ล่ะก็ พวกแกข้ามศพของฉันไปก่อน!” ผู้อาวุโสอี้ตวาด


เขากำลังจะกระโจนลงจากเกี้ยว แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอย่างนั้น ร่างหนึ่งก็เปิดการโจมตี…ม้า


ราวกับว่ามันหงุดหงิดกับลูกธนูราวห่าฝนที่ถูกยิงมาก่อนหน้า มันสลัดตัวออกจากเกี้ยวโดยไม่ลังเลแล้วพุ่งเข้าใส่กลุ่มโจรทั้ง 8 คนที่อยู่ห่างออกไปราว 10 เมตร


พลั่ก!


มันเตะโจร 2 คนที่มีลูกธนูปักอยู่ที่หัว ลูกเตะนั้นทำให้ลูกธนูปักลึกลงไปอีก สองคนนั้นตายทันที


“อะไรกันนี่…”


โจรที่เหลืออีก 6 คนแทบคลุ้มคลั่ง


ไม่น่าเชื่อว่าม้าตัวหนึ่งจะสังหารเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาไปถึง 2 คน ถ้าใครรู้ว่าทั้งคู่อยู่ก๊วนเดียวกันกับพวกเขาล่ะก็ คงได้อับอายขายหน้าจนตายไปข้าง!


ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยคนหนึ่งชักกระบี่ออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่ หวังจะเชือดม้าให้เป็นชิ้นๆ แต่ยังไม่ทันจะถึงตัว ม้าก็ปล่อยลูกเตะออกมาอีกครั้ง


พลั่ก!


ลูกเตะนั้นกระแทกหว่างขาของชายวัยกลางคนอย่างจัง เสียงไข่แตกดังไปทั่ว ชายวัยกลางคนทรุดลงไปกองหน้าเขียวหน้าเหลืองอยู่กับพื้น


พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!


ขณะที่ชายวัยกลางคนหมดสภาพไปแล้ว กองโจรที่เหลืออีก 5 คนก็รี่เข้าใส่ม้า ตั้งใจจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่ราวกับม้าคาดการณ์ไว้แล้ว มันถอยหลังไป 2 ก้าวเพื่อสร้างระยะห่างก่อนจะปล่อยลูกเตะออกมาอีก


โจรอีก 2 คนทรุดลงไปกองกับพื้นขณะกุมหว่างขาไว้แน่น


“ไอ้สารเลว!”


โจรที่เหลืออีก 3 คน แทบเสียสติ


การที่ลูกธนูของพวกเขาพลาดเป้าไปอย่างน่าประหลาดก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ไม่น่าเชื่อว่าม้าตัวนี้จะมีความพิสดารด้วย!


ทุกคนขาสั่นด้วยความหวาดกลัวขณะค่อยๆล่าถอย หวังจะหาทางหลบหนี แต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหน ม้าก็พุ่งเข้าใส่


พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!


โจรที่เหลืออีก 3 คนหมดสภาพ


จากนั้น ม้าก็ปล่อยลูกเตะทรงพลังเข้าใส่โจรทุกคนที่กองอยู่กับพื้น ภายในไม่ถึงสองอึดใจ ทั้ง 8 คนก็ตายอย่างน่าสมเพช เหลือเพียงหัวหน้าทีมลอบสังหาร


แส้ในมือผู้อาวุโสอี้ร่วงลงกับพื้น เขาจังงังกับภาพที่เห็น


เมื่อครู่นี้เราใช้แส้หวดเจ้าม้านั่นใช่ไหม?


ผู้อาวุโสอี้รู้สึกเย็นวาบที่หว่างขาขณะจ้องแส้ม้าที่กองอยู่กับพื้นอย่างพรั่นพรึง ไม่กล้าหยิบขึ้นมาใช้


ถ้าม้าเกิดความแค้นฝังหุ่นกับเขาและเตะเขาเข้าให้…เอาเถอะ เขาแก่แล้วและไม่อาจมีลูกได้อีก แต่ก็ยังอยากมีความเป็นชายอยู่ หากต้องสูญเสียมันไป ก็คงไม่อาจนำอะไรมาทดแทนได้!


ผู้อาวุโสอี้มองศพที่กองระเกะระกะอยู่กับพื้น เขาตัวสั่น


ทีมลอบสังหารส่วนใหญ่เป็นนักรบระดับเซียนขั้น 9 บางคนเป็นนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 1 ด้วยซ้ำ แต่กลับถูกม้าเล่นงาน…


เรื่องประหลาดพิสดารแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?


ม้าที่เขาดูแลอยู่ทุกวี่วันเกิดไร้เทียมทานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?


“แก…”


หัวหน้าทีมลอบสังหารแทบเสียสติเมื่อเห็นภาพนั้น


“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าโจรผู้ยิ่งใหญ่อย่างฉันที่กุมบังเหียนเมืองชวนเจียงมากว่า 10 ปี จะพ่ายแพ้ให้ม้าตัวเดียว!” หัวหน้าทีมลอบสังหารตัวสั่นด้วยแรงโทสะ เขาคำรามกร้าวและพุ่งเข้าใส่


ม้าก็พุ่งออกมาเป็นการตอบโต้


ฟึ่บ!


แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะปะทะกัน หัวหน้าทีมลอบสังหารก็หลบฉาก เฉียดตัวม้าไป พริบตาต่อมาเขาก็มาอยู่ตรงหน้าเกี้ยว


สมกับเป็นนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 2, ปฏิกิริยาการตอบโต้ของเขาจัดว่าน่าทึ่ง การโจมตีก่อนหน้านี้เป็นแค่การสับขาหลอก เป้าหมายแท้จริงของเขาคือกำจัดตั้นเฉี่ยวเทียน


ขอแค่ตั้นเฉี่ยวเทียนเสียชีวิต เขาก็จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการปฏิบัติภารกิจ และด้วยเงินนั้น เขาจะสร้างกองกำลังขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง หลังจากต้องเสียลูกน้องไปมากมาย ก็ไม่มีวันที่เขาจะยอมเดินออกจากที่นี่โดยไม่ได้อะไรติดมือ!


“เวรละ ไอ้สารเลวนั่น!”


ทั้งผู้อาวุโสและม้าไม่คิดว่าหัวหน้าทีมลอบสังหารจะยังมุ่งมั่นในการกำจัดตั้นเฉี่ยวเทียนแม้จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นแล้ว กว่าทั้งคู่จะรู้ก็สายไป ทั้งม้าและผู้อาวุโสไม่อาจเข้าช่วยตั้นเฉี่ยวเทียนได้ทันเวลา


ฉึก!


กระบี่เล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าต่างเกี้ยว ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ระวัง การโจมตีครั้งนี้อาจคร่าชีวิตของเขา


ฟึ่บ!


แต่ในช่วงเวลาคับขันนั้น เรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น ราวกับเทพนิยายที่กลายเป็นเรื่องจริง เกี้ยวกระโจนขึ้นสูงและใช้ล้ออัดใบหน้าของหัวหน้าทีมลอบสังหาร


แรงกระแทกอันหนักหน่วงอย่างคาดไม่ถึงทำให้เลือดของหัวหน้าทีมลอบสังหารไหลกระฉูด เขาผงะไปและพยายามถอย แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เกี้ยวก็พุ่งเข้าใส่อีกครั้ง


ฟันกรามของเขาร่วงออกมา 7 ซี่ขณะที่กระบี่หลุดลอยไป


หัวหน้าทีมลอบสังหารถอยกรูดออกจากเกี้ยวอย่างหวาดระแวง แต่อีกฝ่ายดูเหมือนไม่คิดจะปล่อยเขา มันใช้มือจับทั้งสองข้างแทนมือและเตรียมเล่นงานอีกฝ่ายให้พินาศ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)