ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1886-1893

 ตอนที่ 1886 นายทัพโกรธเกศาชันเพื่อโฉมงาม


พอได้รับการคุ้มกันจากเฮ่อเหลียนชิงหนิงเฉินเซวียนจึงทำอะไรสำนักพิมพ์ไม่ได้ อย่าให้ต้องบอกเลยว่าเขารู้สึกอัดอั้นตันใจแค่ไหน เขาจึงไม่ได้มีท่าทีที่ดีต่ออู่เยวี่ยอีกต่อไป หากไม่ใช่เพราะเธอกำลังท้องอยู่ หนิงเฉินเซวียนอยากฆ่าเธอเสียให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซ้ำ


เดิมทีหนิงเฉินเซวียนก็เป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้อยู่แล้ว ฆ่าใครไม่เคยลังเลใจสักนิด คิดจะไม่ไว้หน้าใครก็ยิ่งไร้ความปรานี  ความจริงนิสัยของเฮ่อเหลียนเช่อคล้ายเขาอยู่เพียงร้อยละแปดถึงเก้าสิบ เหตุที่เคยทำดีกับอู่เยวี่ยล้วนเป็นเพราะเห็นแก่หน้าหลานเท่านั้น อีกอย่างอู่เยวี่ยเองก็ช่างประจบประแจงเอาใจอย่างดีซึ่งทำให้เขารู้สึกดีอย่างมาก


แต่ตอนนี้เกิดข่าวอื้อฉาวมากมายขนาดนี้จนแทบจะขายหน้าตระกูลหนิงจนหมดสิ้นอยู่แล้ว หนิงเฉินเซวียนยังจะชอบในตัวอู่เยวี่ยได้อย่างไรไหว!


“คุณอาคะ รูปพวกนี้จ้าวเหมยตัดต่อทั้งนั้น หนูจะไปถ่ายรูปพวกนี้ได้อย่างไรคะ? คุณอาเชื่อหนูสิ คนในรูปไม่ใช่หนู จ้าวเหมยจงใจทำร้ายหนู…”


อู่เยวี่ยประคองท้องโตคุกเข่าร่ำไห้เสียใจต่อหน้าหนิงเฉินเซวียนและนึกเกลียดเหมยเหมยในใจเหลือเกิน แต่ตอนนี้เธอต้องรีบเอาใจหนิงเฉินเซวียนก่อน ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดก็ต้องสูญเปล่า


อู่เยวี่ยได้ทำการแสดงฝีมือตัดต่อรูปด้วยเทคนิคขั้นสูงให้หนิงเฉินเซวียนได้ดู โดยหยิบยกเอาบุคคลสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาหลวมรวมเป็นคน ๆเดียวกัน หนิงเฉินเซวียนถึงทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง


เทคโนโลยีการตัดต่อรูปภาพในยุคเก้าศูนย์ยังไม่ดีเท่าไร แม้อู่เยวี่ยจะมีทักษะการตัดต่อรูปที่ไม่เลวแต่รูปที่ตัดต่อออกมากลับดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรและดูแปลกอย่างมากซึ่งต่างไปจากรูปที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์อย่างสิ้นเชิง หนิงเฉินเซวียนเป็นคนฉลาดแล้วจะดูไม่ออกได้อย่างไร?


แต่ข้ออ้างการตัดต่อรูปได้กลับกลายเป็นข้ออ้างที่ดีแก่หนิงเฉินเซวียน ในสถานการณ์แบบนี้หนิงเฉินเซวียนกังวลเพียงว่าจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีแก่ตระกูลหนิงเพราะเขายังคงให้ความสำคัญแก่หลานมากที่สุด ส่วนชื่อเสียงของอู่เยวี่ยจะดีหรือเลวร้ายนั้นเขาไม่สนใจเลยสักนิด


เหตุผลที่เขาโมโหก่อนหน้านี้ก็เพราะเหตุผลนี้โดยทั้งสิ้น แต่ตอนนี้เขากลับหาวิธีใหม่ได้แล้ว


เรื่องบางเรื่องต่อให้รู้ความจริงอยู่แก่ใจแต่ก็ยอมรับไม่ได้ รูปถ่ายพวกนี้ก็เช่นกัน


ไม่นานหนิงเฉินเซวียนก็ได้ทำการตอบรับโดยออกแถลงการณ์ว่าจะใช้กฎหมายในการจัดการสำนักพิมพ์นิตยสารนั้นทั้งกล่าวว่ารูปถ่ายทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลวง ล้วนเป็นเพราะมีคนเจตนาตัดต่อรูปสร้างข่าวเสียหาย


อู่เยวี่ยนึกเกลียดชังเหมยเหมยอย่างถึงที่สุดและคิดจะเอาคืนเธอเลยทำการตัดต่อรูปโป๊เปลือยหลายรูปที่ร่างกายเป็นนางเอกดาวยั่วจากประเทศญี่ปุ่น โชว์จุดซ่อนเร้นทั้งหมดที่เทียบเท่าว่าเป็นรูปโป๊อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เปลี่ยนส่วนศีรษะเป็นเหมยเหมยแล้วยังทุ่มแรงตัดต่ออีกหลายใบทีเดียว


เธอเองก็ไปจ้างปาปารัสซีเช่นกันให้พวกเขาแฉข่าวฉาวเหล่านี้ไปทั่วเมือง จ้าวเหมยทำเธอไว้อย่างเจ็บแสบ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเธอเอาคืนมากไปแล้วกัน!


เหมยเหมยมองรูปถ่ายบนนิตยสารพลางคิดไม่ถึงว่าอู่เยวี่ยจะย้อนกลับมาเอาคืน แม้รู้ดีว่าเป็นของปลอมแต่ก็สร้างความสะอิดสะเอียนใจแก่เธออย่างมาก


เหยียนหมิงซุ่นย่อมเห็นด้วยเช่นกันเลยบันดาลโทสะในทันที สั่งปิดสำนักพิมพ์นิตยสารเล่มนั้นอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงก่อนจะสั่งจับขังพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคนและอย่าคิดจะออกจากคุกในเร็ววันเลย


นอกจากนี้ยังถอดถอนตำแหน่งผู้ดูแลเกี่ยวกับหน่วยงานด้านการควบคุมสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ไม่ว่าผู้ดูแลเหล่านี้จะบริสุทธิ์หรือไม่แต่เพราะเกิดเรื่องภายใต้การควบคุมดูแลของพวกคุณย่อมต้องรับผิดชอบ แค่โดนถอดตำแหน่งยังนับว่าเบาไปด้วยซ้ำ


เหยียนหมิงซุ่นสั่งการฉับไวปานสายฟ้า นิตยสารเล่มนี้เพิ่งถูกวางขายไม่ถึงสองชั่วโมงก็ต้องถูกปิดลงอย่างโชคร้าย อีกทั้งนิตยสารที่วางขายทั้งหมดถูกลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นยึดมาไม่ปล่อยให้หลุดรอดไปได้แม้แต่เล่มเดียว แผนการของอู่เยวี่ยจึงล้มเหลว


อู่เยวี่ยไปขอความช่วยเหลือจากเฮ่อเหลียนเช่อหวังอยากให้เขาสั่งปิดสำนักพิมพ์ของเหมยเหมยเช่นกัน แต่เหมยซูหานได้เป่าหูเฮ่อเหลียนเช่อมาก่อนแล้ว บวกกับเฮ่อเหลียนเช่อเองก็เริ่มรู้สึกระแวงอู่เยวี่ยจึงไม่มีทางที่จะช่วยเธอ


พอไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเฮ่อเหลียนเช่อกับหนิงเฉินเซวียน ลำพังตัวอู่เยวี่ยคนเดียวจะสู้เหมยเหมยได้อย่างไรไหวเลยแพ้ยับเยินไม่เป็นท่า


อีกทั้งเพราะรูปที่เธอตัดต่อเหล่านั้นได้ทำให้เหยียนหมิงซุ่นโกรธมาก เขาไม่มีความอดทนมาเล่นตุกติกด้วยจึงเอารูปโป๊เปลือยที่เหมยเหมยมีทั้งหมดไปสั่งทำเป็นอัลบั้มแล้วควักเงินตัวเองตีพิมพ์หลายพันเล่ม ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องแจกจ่ายไปทั่วสารทิศ


…………………………………………..


 ตอนที่ 1887 มีหญ้าเขียวขึ้นเต็มหัว


อัลบั้มโป๊ได้มาฟรีคงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่เอา หนำซ้ำคราวนี้เหยียนหมิงซุ่นยังทุ่มเม็ดเงินจำนวนไม่น้อยสั่งพิมพ์อัลบั้มให้รูปคมชัดสวยไม่ได้ทำออกมาแบบลวก ๆ บวกกับตัวเอกยังเป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงระดับคุณนายเฮ่อเหลียนคนดัง ทำให้อัลบั้มรูปโป๊นี้ถูกแย่งชิงจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง


เหมยเหมยรู้สึกผิดอย่างมาก ทุกอย่างเป็นเพราะเธอถึงถูกอู่เยวี่ยเอาคืนจนทำให้เหยียนหมิงซุ่นต้องขายหน้า แม้รูปเหล่านั้นจะเป็นรูปตัดต่อแต่คนส่วนมากไม่รู้ความจริง อีกทั้งยังมีผู้เจตนาไม่บริสุทธิ์หลายคนคิดเป็นตุเป็นตะว่าเป็นรูปจริงทั้ง ๆที่รู้อยู่แก่ใจ ถึงขั้นเอารูปถ่ายพวกนี้ไปเขียนข่าวเสีย ๆหาย ๆ


เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจเธอ “ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีใครกล้าเอารูปพวกนี้ไปเขียนข่าวหรอก นอกจากว่าพวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”


หากจนถึงตอนนี้เขายังปกป้องผู้หญิงของเขาไม่ได้แล้วเขายังจะทำงานต่อไปทำไมอีก?


ต่อให้รูปพวกนั้นเป็นของจริงก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไรในพื้นที่อาณาเขตเมืองหลวงนี้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นรูปภาพเหล่านั้นยังเป็นเพียงรูปตัดต่ออีกต่างหาก!


หุ่นของคนรักตนเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาแล้ว อู่เยวี่ยทำตัวฉลาดแต่กลับพลาดท่าเพราะความฉลาดตัวเอง หล่อนจงใจหารูปดาราหญิงจากประเทศญี่ปุ่นที่มีรูปร่างสัดส่วนเร่าร้อน แม้จะดึงดูดสายตาคนได้แต่คนที่รู้มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเป็นรูปตัดต่อ


พอได้รับคำปลอบโยนจากเหยียนหมิงซุ่นตลอดคืนเหมยเหมยถึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยิ่งแค้นอู่เยวี่ยมากกว่าเดิม หากไม่กำจัดนางแพศยาคนนี้ทิ้งเธอคงรู้สึกไม่สบายใจไปเรื่อย ๆ


“รอคลอดลูกแล้วพี่ไม่ปล่อยหล่อนไปแน่” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยอย่างแน่วแน่


เดิมทีคิดจะให้อู่เยวี่ยมีชีวิตต่ออีกสักหน่อยแต่ผู้หญิงคนนี้ได้ท้าทายความอดทนเขา เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเขาใจเหี้ยมเลย!


เดิมทีอู่เยวี่ยยังรอดูเรื่องสนุก ๆอย่างใจจดใจจ่อแต่เรื่องสนุกเพิ่งเปิดฉากขึ้นยังไม่ทันอะไรเลยก็จบลงแล้ว


ตามด้วยเรื่องสะเทือนใจราวกับสายฟ้าฟาดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส พออู่เยวี่ยเห็นอัลบั้มรูปโป๊เหล่านั้นก็เป็นลมหมดสติราวกับร่วงเข้าไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง


เจ้าโง่โอหยางซานซานมีจุดอ่อนอยู่ในมือจ้าวเหมยอีกเท่าไรกันเนี่ย?


พออู่เยวี่ยเห็นรูปที่โอหยางซานซานอยู่ในร้านคาราโอเกะนั้นความทรงจำที่ถูกเธอจงใจหลงลืมไปก็ไหลพรั่งพรูเข้ามาเหมือนกระแสน้ำเชี่ยว อู่เยวี่ยกัดปากแรงจนเลือดซึมแต่กลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยสักนิด


คืนนั้นเองที่เธอถูกผู้ชายสิบกว่าคน…แล้วยังเกือบสังเวยชีวิตไป ทุกอย่างเป็นเพราะจ้าวเหมย


“นังแพศยา…ต้องตาย…”


อู่เยวี่ยพึมพำเสียงเบาอย่างเยือกเย็นและสายตาฉายแววเย็นยะเยือก อัลบั้มรูปเล่มหนาถูกเธอขยำจนเปลี่ยนรูปทรงและเส้นเลือดตรงหลังมือปูดโปน


ไฟโทสะของหนิงเฉินเซวียนถูกจุดติดเพราะอัลบั้มรูปเล่มนี้อย่างสิ้นเชิง ต่อให้เขาจะหลอกตัวเองสักแค่ไหนแต่ลืมตาพูดคำใบ้แสร้งว่าอัลบั้มรูปพวกนี้เป็นของปลอมไม่ได้ เขาในยามนี้รู้สึกเหมือนท้องฟ้าเหนือศีรษะของคนตระกูลหนิงมีแต่เมฆสีเขียวลอยเต็มไปหมด เกรงว่าผมของเขาก็จะกลายเป็นสีเขียวไปด้วยแล้ว


แต่ถึงจะโกรธแค่ไหนหนิงเฉินเซวียนก็จำต้องปกป้องอู่เยวี่ยไว้ก่อน ใครให้ในท้องเธอมีหลานของเขากันล่ะ!


หนิงเฉินเซวียนเองก็คิดจะทำตามเหยียนหมิงซุ่นโดยสั่งคนไปปิดสำนักพิมพ์บ้า ๆนั่น แต่ลูกน้องของเขาจะสู้ทหารหน่วยรบพิเศษของเฮ่อเหลียนชิงได้อย่างไร ไม่ใช่คนฝีมือระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง


ด้วยความระอาเขาจำต้องให้เฮ่อเหลียนเช่อออกหน้า ลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อทักษะการต่อสู้ไม่เลวซึ่งไม่แพ้ลูกน้องของเฮ่อเหลียนชิง แต่เฮ่อเหลียนเช่อที่ถูกเหมยซูหานคุมไว้อย่างเข้มงวดย่อมไม่ตกลงง่าย ๆ


“คนพวกนั้นถูกผมส่งไปทำภารกิจข้างนอกหมดแล้ว” เฮ่อเหลียนเช่อตอบกลับหน้าตาย


หนิงเฉินเซวียนโกรธจนกระเด้งตัวลุกขึ้นด่า “ถ้าแกไม่ส่งคนไปสั่งปิดสำนักพิมพ์นั่นอีก บนหัวแกคงมีแต่หญ้าขึ้นเต็มหัวไปหมดแล้ว”


“ไม่เป็นไร ต่อให้ขึ้นเป็นทุ่งหญ้าก็ไม่เป็นไร ขนาดผมยังไม่กระวนกระวายอะไรเลย แล้วคุณอาจะร้อนใจไปทำไมล่ะ!”


เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยเสียงเฉื่อยชาทำหน้าไม่สนใจขณะเดียวกันกลับรู้สึกสะใจอยู่บ้าง


หนิงเฉินเซวียนด่าแรงมากเท่าไรก็บ่งบอกว่าเขาโกรธมากเท่านั้น แบบนี้ก็ถูกแล้ว!


เขาหวังอยากเห็นผลลัพธ์แบบนี้ที่สุด!


ตอนที่ 1888 กินอิ่มท้องแล้วว่างงาน


เฮ่อเหลียนเช่อทำตัวเฉยเมยเหมือนหมูที่ตายแล้วไม่กลัวโดนน้ำร้อนลวกจนทำให้หนิงเฉินเซวียนจนปัญญา ใช้ไม้แข็งสู้เฮ่อเหลียนชิงไม่ได้ใช้ไม้อ่อนเฮ่อเหลียนชิงก็ไม่ยอมสนใจเขา หนิงเฉินเซวียนที่อับจนหนทางจำต้องไปหานายใหญ่เพื่อให้นายใหญ่ออกหน้าไกล่เกลี่ยแทน หากให้รูปอัลบั้มโป๊เหล่านั้นส่งต่อกันไปอีกบนศีรษะเขาคงมีแต่หญ้าขึ้นเต็มไปหมด


คุณหนูผู้มีชื่อเสียงเฉิดฉายที่สุดของเมืองหลวงสองคนสู้กันอย่างดุเดือดขนาดนี้มีหรือนายใหญ่จะไม่รู้?


เพียงแต่เขาคร้านจะสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องเล็กน้อยพวกนี้เท่านั้น


ทว่าตอนนี้กลับลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ลูกน้องคนโปรดของเขาอย่างเหยียนหมิงซุ่นก็เข้าไปพัวพันด้วยทำให้นายใหญ่ปล่อยปะละเลยต่อไปไม่ได้ ยามนี้หนิงเฉินเซวียนมาหาถึงที่นายใหญ่เลยรับปากไปแต่สิ่งที่ควรอบรมสั่งสอนก็ต้องทำ


“ลูกสะใภ้นายท้องแล้วก็อยู่ดูแลครรภ์ที่บ้านดี ๆ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องข้างนอกให้มากนักระวังจะไม่เป็นผลดีต่อเด็กในท้องนะ” นายใหญ่พูดอ้อมค้อมแต่ความหมายชัดเจน


นั่นก็คือให้หนิงเฉินเซวียนคอยสั่งสอนลูกสะใภ้ให้ดีอย่าเที่ยวทำตัวเหิมเกริมแล้วสร้างปัญหามากมายขนาดนี้!


เรื่องคราวนี้นายใหญ่คอยสังเกตการณ์มาตั้งแต่ต้น ถือว่าเป็นการดูเรื่องสนุก ๆ เขาจึงรู้ดีว่าสาเหตุที่อู่เยวี่ยกับเหมยเหมยทะเลาะกันมาจากอะไร ซึ่งจะว่าไปอู่เยวี่ยก็เป็นฝ่ายท้าทายก่อนจนยายหนูตระกูลจ้าวคนนั้นโกรธเข้าเลยทำการตอบโต้


อีกอย่างเขาไม่ชอบยายหนูตระกูลโอหยางคนนี้จริง ๆ สมแล้วที่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น หวงอวี้เหลียนไม่ใช่คนดีอะไรลูกสาวที่คลอดมาก็ทำตัวไม่ดีตาม ดูรูปถ่ายพวกนั้นสิ ผู้หญิงดี ๆที่ไหนจะถ่ายกัน?


เรื่องอื้อฉาวตัวเองยังสะสางไม่ได้แล้วยังไม่รู้จักสงบเสงี่ยมเจียมตัว มิน่ายายหนูตระกูลจ้าวถึงเล่นงานไม่เลิก!


หนิงเฉินเซวียนจะไม่เข้าใจความหมายของนายใหญ่ได้อย่างไรจึงพยายามระงับไฟโทสะไว้ในอก เขารู้สึกเกลียดอู่เยวี่ยถึงขีดสุด แต่ถึงอย่างไรเสียก็เป็นคนตระกูลหนิงที่เขาต้องคอยปกป้องเวลาอยู่ข้างนอก


“ประเด็นคือเหยียนหมิงซุ่นทำเกินไป ท่านดูรูปอัลบั้มนี้สิโดนตัดต่อขนาดนี้แล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอีก?” หนิงเฉินเซวียนชี้ไปที่อัลบั้มรูปแล้วพูดเสียงแน่วแน่ว่าเป็นรูปตัดต่อ


นายใหญ่มองเขาอย่างขบขันแต่ก็ไม่ได้เปิดโปงความจริงเลยตอบกลับไปอย่างคลุมเครือ “ทำเกินไปจริง ๆ เดี๋ยวฉันจะตำหนิเจ้าหมอนั่นให้ ผู้หญิงทะเลาะกันผู้ชายอย่างเขาจะเข้าไปพัวพันด้วยทำไม? จุดนี้อาเช่อของแกทำได้ดี น่าชื่นชม”


หนิงเฉินเซวียนใจหล่นวูบ พูดไปตั้งนานนายใหญ่ไม่ได้ให้คำมั่นอะไรเลย ทั้งหมดล้วนเป็นคำโกหกทั้งเพ


ท่าทีของนายใหญ่ชัดเจนมากว่าเขาร่วมมือกับตาแก่เฮ่อเหลียนชิง เขาจะต้องเร่งมือให้เร็วกว่านี้!


เมื่อนายใหญ่รับปากแล้วหนิงเฉินเซวียนจึงขอตัวกลับก่อน นายใหญ่อมยิ้มน้อย ๆมองอัลบั้มรูปบนโต๊ะแต่เป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นขึ้นเรื่อย ๆ


“ออกมาเถอะ!”


นายใหญ่ตะโกนไปด้านหลังทีหนึ่ง เหยียนหมิงซุ่นก็ก้าวออกมาจากฉากกั้นห้อง


“แกดูสิว่าแกทำอะไรลงไป? ยายจ้าวกับโอหยางซานซานเป็นผู้หญิงที่ใจคับแคบเจ้าคิดเจ้าแค้นจะทะเลาะกันก็เป็นเรื่องธรรมดา แกเป็นผู้ชายจะเข้าไปยุ่งด้วยทำไม? จะโอ้อวดว่าแกเก่งเหรอ?” นายใหญ่ตำหนิอย่างไม่พอใจนัก อัลบั้มรูปนี้เขายังเขินอายเกินกว่าจะดูด้วยซ้ำ เวรกรรมจริง ๆ


เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเรียบนิ่งแต่ถ้อยคำกลับไม่มีท่าทีที่จะยอมสักนิด “ผู้หญิงของผมถูกรังแก ถ้าผมไม่ออกหน้าแล้วจะยังเป็นผู้ชายอยู่อีกเหรอครับ?”


นายใหญ่แค่นเสียงทีหนึ่งแล้วชี้ไปที่รูปอัลบั้มพร้อมด่า “งั้นแกเลยออกหน้าแบบนี้น่ะเหรอ? อย่างน้อยโอหยางซานซานก็เป็นลูกสะใภ้ของหนิงเฉินเซวียน เป็นคุณหนูจากตระกูลที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง แกคิดว่าแกทำแบบนี้แล้วจะทำให้เธอขายหน้าเหรอ? คิดผิดแล้ว แกกำลังทำให้ประเทศขายหน้าต่างหาก ถ้าเรื่องนี้ให้นักข่าวต่างชาติรู้เข้าพวกเขาจะเขียนข่าวอย่างไร? ฉันต้องขายหน้าเพราะแกทั้งนั้น!”


เหยียนหมิงซุ่นรีบโพล่งขึ้น “ท่านสบายใจได้ นักข่าวต่างชาติไม่กล้าเขียนเหลวไหลแน่นอน ผมจัดการไว้หมดแล้ว”


นายใหญ่มองเขาแวบหนึ่งอย่างไม่เชื่อหูเท่าไร แต่เจ้าเหยียนหมิงซุ่นไม่ใช่คนพูดลอย ๆอยู่แล้ว ในเมื่อเขากล้าพูดแบบนี้เห็นทีคงจัดการไว้แล้วจริง ๆ


“ถือว่าแกยังมีสมองคิดอยู่บ้าง รีบสะสางเรื่องนี้ซะ คราวหลังถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกฉันจะส่งแกไปแอฟริกา ฉันว่าแกน่ะว่างเกินไปกินอิ่มท้องเลยไม่มีอะไรทำสินะ!”


นายใหญ่ตำหนิไปไม่กี่ประโยคก็โบกมือไล่ให้เหยียนหมิงซุ่นรีบไสหัวไป เขางานรัดตัวทุกวันจะมีเวลาว่างที่ไหนมาสนใจเรื่องเล็กน้อยพวกนี้กัน


……………………………………………………..


 ตอนที่ 1889 ฉันจะลดความอ้วน


เหยียนหมิงซุ่นพรูลมหายใจยาวแล้วหยิบอัลบั้มรูปโป๊ไปด้วยและยิ่งรู้สึกสบายใจกว่าเดิม


ท่าทีของนายใหญ่บ่งบอกทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาเตรียมจะทำลายความสมดุลในตอนนี้โดยเลือกที่จะจัดการหนิงเฉินเซวียน เขากับเฮ่อเหลียนชิงย่อมเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด ฉะนั้นนายใหญ่ถึงได้มีท่าทีนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้


หากเป็นไปได้เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากทำลายความสมดุลในตอนนี้เลยสักนิด


วิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน กระต่ายม้วยย่างสุนัข[1]


ย่างสุนัขกินคงมีความเป็นไปได้น้อยแต่ถ้าจุดจบคือการสั่งกำจัดทิ้งมีความเป็นไปได้สูงมาก หากหนิงเฉินเซวียนมีอันเป็นไป กลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่คือเฮ่อเหลียนชิงกับเขา การเป็นใหญ่ด้วยตระกูลเดียวไม่ใช่เรื่องดี


แต่เสียดายเฮ่อเหลียนชิงเกลียดชังหนิงเฉินเซวียนเข้ากระดูกที่หากทั้งคู่ไม่คนใดคนหนึ่งตายโลกนี้คงยากจะสงบได้ การจะให้อยู่กันอย่างปรองดองยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้!


เหยียนหมิงซุ่นคร้านจะคิดต่อในเมื่อทุกปัญหาย่อมมีทางออก เรื่องอนาคตไว้ค่อยคุยกันในอนาคตเพราะอย่างไรเสียเขาก็ได้เตรียมทางเผื่อเอาไว้แล้ว ต่อให้ไม่ได้อยู่ใจกลางอำนาจแต่ลำพังเพียงสมบัติที่เขามีก็ช่วยให้เหมยเหมยมีชีวิตที่ดีได้


“เก็บอัลบั้มพวกนี้กลับมาทั้งหมดห้ามให้หลุดออกไปแม้แต่เล่มเดียว” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยสั่งเสียงเย็นชา


“ครับ!” ลูกน้องตอบรับอย่างนอบน้อมแล้วรีบไปทำตามคำสั่ง


ขณะที่แจกจ่ายอัลบั้มรูปเหยียนหมิงซุ่นคาดไว้แล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์เอากลับมาอย่างแน่นอน ฉะนั้นเขาเลยทำการเตรียมพร้อมไว้แต่เนิ่น ๆทำให้ขั้นตอนการยึดคืนไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไร


ในเวลาไม่ถึงครึ่งวันอัลบั้มรูปแสนงดงามเหล่านี้ก็หายไปจากเมืองหลวงไม่เหลือแม้แต่เล่มเดียว เหยียนหมิงซุ่นเองก็คร้านจะเก็บไว้เลยให้ลูกน้องสั่งยกขึ้นหลังรถกระบะคันใหญ่ก่อนจะส่งไปที่บ้านตระกูลหนิง


“คุณหนิง คุณชายหมิงบอกว่าต้องคืนของให้กับเจ้าของ รบกวนช่วยเซ็นรับด้วยครับ” ลูกน้องเหยียนหมิงซุ่นทำท่านอบน้อม ต่อให้หนิงเฉินเซวียนจะโกรธแค่ไหนก็ระบายออกมาไม่ได้


แต่พอเห็นอัลบั้มรูปโป๊ที่กองพะเนินเป็นภูเขาหนิงเฉินเซวียนก็โมโหจนจุกแน่นที่อก อยู่มาหกสิบเกือบเจ็ดสิบปีนี่เป็นครั้งแรกที่โดนตบหน้าแบบนี้ แล้วยังโดนตบหน้าเสียงดังฉาดใหญ่เสียด้วย


เหยียนหมิงซุ่น…เขาจำขึ้นใจแล้ว!


“ช่วยขอบคุณคุณชายหมิงแทนฉันด้วย บุญคุณครั้งนี้ฉันจำขึ้นใจแล้ว วันหน้าจะต้องตอบแทนคืนอย่างสาสม!” เสียงของหนิงเฉินเซวียนเล็ดลอดผ่านไรฟันและมองด้วยสายตาดุร้าย


“คุณเกรงใจกันเกินไปแล้ว ไว้พบกันใหม่นะครับ!” ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นตัวสะท้านเฮือกไม่กล้าอยู่นานกว่านี้เลยขับรถกลับไปรายงานผล


อู่เยวี่ยเองก็อยู่กับหนิงเฉินเซวียนด้วย เธอแทบกระอักเลือดทีเดียวเมื่อเห็นอัลบั้มรูปโป๊กองเป็นภูเขากลางลานบ้าน ฝ่ามือถูกเล็บจิกจนเลือดไหลซึม


เหยียนหมิงซุ่นช่างโหดร้ายเหลือเกิน!


คนแพศยาจ้าวเหมยมีอะไรดีถึงทำให้เหยียนหมิงซุ่นรักทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหินนะ?


แล้วก็เหมยซูหานอีกคน แม้ตัวจะอยู่กับเฮ่อเหลียนเช่อแต่หัวใจกลับอยู่ที่จ้าวเหมยมาตลอด เกิดเรื่องครั้งนี้อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ว่าเหมยซูหานคอยเป่าหูจนเฮ่อเหลียนเช่อเลือกที่จะเฉยเมยนะ


แต่ละคนล้วนเป็นแต่เป็นคนทรยศ!


คนอย่างเธอจะไม่พึ่งพาพวกผู้ชายงี่เง่าพวกนั้น เธอจะพึ่งพาตัวเอง!


ขอเพียงเธอได้ยืนอยู่จุดสูงสุดเหนือกว่าใครอื่น พวกผู้ชายงี่เง่าเหล่านั้นก็จะต้องแหงนมองเธอที่เป็นใหญ่กว่า รวมถึงคนที่เสมือนลูกรักพระเจ้าอย่างเฮ่อเหลียนเช่อกับเหยียนหมิงซุ่น ฮ่า ๆ!


เมื่อนึกถึงสิ่งที่วาดฝันเอาไว้สายตาอู่เยวี่ยก็ฉายแววตื่นเต้นแวบหนึ่ง มือลูบหน้าท้องที่นูนโป่งออกมาน้อย ๆอย่างเบามือ ลูกในท้องเป็นไพ่ลับเพียงหนึ่งเดียวของเธอ อนาคตของเธอขึ้นอยู่กับลูกรักคนนี้แล้วละ!


อู่เยวี่ยถูกหนิงเฉินเซวียนตักเตือนให้ดูแลครรภ์ที่บ้านทุกวันจนไม่กล้าออกมาทำตัวเหิมเกริมอีก แม้แต่งานเลี้ยงการกุศลก็ไม่กล้าโผล่หน้าไปให้เห็นจึงไหว้วานให้คุณหนูจากตระกูลผู้ดีอีกคนไปดำเนินการแทน แต่เธอจะออกงานในฐานะแขกรับเชิญแล้วยังบริจาคของรักสำหรับการประมูลเพื่อเป็นแรงสนับสนุนสำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้


เหมยเหมยเลือกเครื่องประดับชุดหนึ่งที่เธอยังไม่เคยใส่แต่ไม่ใช่ของราคาถูกร่วมประมูล เธอไม่เคยมีชุดเครื่องเพชรพลอยราคาถูกอยู่แล้ว เพราะต่อให้เลือกลวก ๆก็ล้วนแต่เป็นของยี่ห้อดังทั้งนั้น


งานเลี้ยงการกุศลจะถูกจัดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังเหลือเวลาอีกราวหนึ่งสัปดาห์ เหมยเหมยตัดสินใจลดความอ้วนเพื่อให้ตัวเองเฉิดฉายกว่าอู่เยวี่ยในคืนงานเลี้ยง


“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปกลางคืนฉันจะทานแค่ผักต้ม พี่อย่าทำของอร่อย ๆให้ฉันกินนะ ทำไปฉันก็ไม่ทาน!” พูดเสียงหนักแน่นแต่ความน่าเชื่อถือนั้นช่างเป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก


เหยียนหมิงซุ่นไม่แม้แต่จะฟังด้วยซ้ำ


……………………………………………………


[1] สำนวนสุภาษิตที่เปรียบคนคนหนึ่งเมื่อหมดผลประโยชน์ก็จะถูกกำจัดทิ้ง คล้ายคลึงกับสุภาษิตไทยที่ว่าเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล


ตอนที่ 1890 พูดจาหื่นกามหน้าตาย


เหยียนหมิงซุ่นรู้นิสัยที่แท้จริงของภรรยาตัวเองเป็นอย่างดี จะมีความมุ่นมั่นใจการลดความอ้วนมากแค่ไหนเชียว?


อย่างมากแค่ปากพูดไม่กี่คำ แต่พอเขาย่างปีกไก่เสร็จเธอก็จะบอกว่า ‘วันนี้จะทานเป็นมื้อสุดท้าย พรุ่งนี้จะลดความอ้วนแล้วจริง ๆ’


พอถึงวันรุ่งขึ้นเธอก็จะพูดเหมือนเดิม พูดย้ำทุกวันว่าจะเป็นมื้อสุดท้ายตลอด


แต่เขาไม่คิดว่ายัยตัวแสบอ้วนเลยสักนิด หุ่นตอนนี้สิกำลังดีจนยากจะบรรยายออกมาได้ การไม่ลดความอ้วนต่างหากเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็น และแน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้เก็บไว้ในใจดีกว่า เขาจะพูดออกมาไม่ได้เชียว


“ฉันคิดว่าออกกำลังกายหนักกว่านี้ดีกว่า ไม่อย่างนั้นคราวหลังเธออยู่ข้างบน…ภรรยาลูกน้องฉันคนหนึ่งก็ผอมเพราะเหตุนี้แหละ…”


เหยียนหมิงซุ่นวาดแขนยาวโอบเหมยเหมยเข้ามาในอ้อมกอด มือซุกซนที่มาพร้อมกับแผนการชั่วร้าย


ยัยตัวแสบขี้เกียจจึงไม่ยอมเป็นฝ่ายออกแรง แน่นอนว่าการที่เขาเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนรสชาติก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แต่ท่าอื่น ๆก็ต้องกล้าที่จะลิ้มลองบ้าง คิดว่าจะต้องมีความรู้สึกยอดเยี่ยมยิ่งกว่าแน่ ๆ


เหมยเหมยหน้าแดงระเรื่อ ช่วงนี้เหยียนหมิงซุ่นหน้าด้านขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังพูดจาน่าไม่อายด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้านใด ๆอีก


ชาติที่แล้วทำไมถึงดูไม่ออกว่าผู้บัญชาการเหยียนผู้เย็นชาพูดน้อย ความจริงแล้วเป็นคนลามกหื่นกามภายใต้ภาพลักษณ์นายทหารผู้เก่งกาจกันนะ?


แต่เธอก็หวั่นไหวอยู่ดี…


“ผอมลงจริงเหรอ? ผอมไปกี่โลล่ะ?” เหมยเหมยทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ช่วงนี้หมอนี่พูดเหลวไหลบ่อยเลยทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงฮวบ


เหยียนหมิงซุ่นมองเธออย่างจริงใจแต่กลับโกหกหน้าตาย “น่าจะประมาณห้าโลมั้ง ได้ผลดีทีเดียว”


ผีสิถึงจะรู้ว่าผอมลงไปกี่โลเพราะเขาบังเอิญได้ยินลูกน้องสองคนกำลังโอ้อวดกันใหญ่โดยมีคนหนึ่งพูดขึ้นมาลอย ๆ เขาความจำดีถึงจำได้มาจนถึงตอนนี้


เหมยเหมยหวั่นไหวอย่างรุนแรง ห้าโลเชียวเหรอ…นั่นเท่ากับเนื้อส่วนเกินที่อยู่บนตัวเธอพอดีเลยไม่ใช่หรือไง?


แต่ทว่า–


“ทำไมลูกน้องพี่ถึงพูดเรื่องแบบนี้กับพี่ด้วยล่ะ? ปกติพวกพี่คุยกันเรื่องบนเตียงด้วยเหรอ?” เหมยเหมยนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมา ปกติแล้วเหยียนหมิงซุ่นไม่ใช่คนที่จะเข้าหาได้ง่าย ๆ ยามอยู่ต่อหน้าลูกน้องมักมีท่าทีราวกับภูเขาน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือก็ไม่ปาน ลูกน้องกลัวเขาแทบตายแล้วจะยอมคุยเรื่องลับ ๆระหว่างสามีภรรยากับเขาได้หรือ?


เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้ว ยัยตัวแสบหลอกยากขึ้นทุกวันแฮะ


“พี่แอบได้ยินมา” สารภาพไปตามตรง


เหมยเหมยถึงยอมเชื่อพลางมองเขาอย่างยียวน เธอชูนิ้วชี้ขาวเนียนจิ้มหน้าอกเขาเบา ๆ “เป็นถึงคุณชายหมิงก็รู้จักแอบฟังเรื่องคนอื่นด้วยเหรอ?”


“แน่นอน พี่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ไว้…” เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่รู้สึกเขินอายเลยสักนิด กลับเป็นเหมยเหมยที่โดนเขาหยอกเอินจนใบหน้าเล็กแดงก่ำ หัวใจเต้นตึกตัก


เหยียนหมิงซุ่นลอบขำคนเดียว ยัยตัวแสบคิดจะล้อเขาหรือ?


“เหมยเหมยไม่อยากลองบ้างเหรอ…ห้าโลเลยนะ…ไม่ต้องทานผักต้มแล้วยังทานเนื้อได้ด้วย…ขยับไม่กี่ทีก็ได้แล้ว…”


เสียงทุ้มก้องกังวานที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนดังขึ้นข้างหูเหมยเหมย ไอร้อนยิ่งมอมเมาจนเธอแทบจะมึนอยู่แล้ว สมองเริ่มพล่ามัว ไม่ต้องแทะผักเขียวแล้วยังผอมได้อีกห้าโล…เรื่องดี ๆแบบนี้ทำไมเธอจะไม่ยอมทำกันล่ะ?


……


ดังนั้นหนูน้อยหมวกแดงเหมยเหมยจึงถูกหมาป่าเหยียนคาบไปด้วยเหตุฉะนี้ แถมยังเป็นการเอาตัวเองไปถึงปากหมาป่าเองอีกต่างหาก…


ตอนทานมื้อเย็นเหมยเหมยประคองเอวที่แทบหักนั่งพิงเก้าอี้อย่างอ่อนแรงและท้องที่ส่งเสียงร้องด้วยความหิวโซ


จะผอมได้ห้าโลจริงหรือเปล่าตอนนี้เธอยังไม่รู้เลย แต่ขณะนี้เธอสามารถเขมือบไก่ได้ทั้งตัวนั้นเป็นเรื่องจริง หิวจนอกด้านหน้าแทบจะแบนติดกับแผ่นหลังอยู่แล้ว ไหนจะส่วนเอวที่ใกล้จะหักนี่อีก!


เหมยเหมยถลึงตาจ้องใครบางคนที่ร่าเริงอย่างนึกแค้นใจ ทำไมเธอถึงไม่หลาบจำสักที โดนเจ้าหมอนี่หลอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว!


คราวหน้าถ้าเธอยังเชื่อเขาอีก เธอก็จะ…จะแทะผักเขียวทุกวัน!


เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งตัวหนึ่งมาจ่อปากเธอด้วยรอยยิ้มพลางเอ่ยเสียงอ่อนโยนเป็นการปลอบใจ “เด็กดี…ทานกุ้งสักตัวนะ บำรุงไต”


เหมยเหมย ‘…ไอ้บ้าพี่นั่นแหละไตอ่อนแอ!’


……………………………………………………


 ตอนที่ 1891 เจอหน้าก็แทงมีดใส่กัน


หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมยเหมยโดนหมาป่าบางตัวลากไปออกกำลังกายลดน้ำหนักทุกวัน เธอหมดหนทางที่จะประท้วงแล้ว แต่ผลที่ได้นั้นดีมาก ในเช้าวันหนึ่งเหมยเหมยแปลกใจที่พบว่าน้ำหนักของเธอลดลงแล้ว


46 กิโลกรัม!


ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึง 45 กิโลกรัมอย่างที่เธอพอใจ แต่เมื่อเทียบกับ 50 กิโลกรัมเธอก็พอใจมากแล้ว


เหยียนหมิงซุ่นก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ผลจริง ๆจึงหงุดหงิดอย่างถึงที่สุด ลูกน้องที่เขาแอบฟังเป็นคนชอบคุยโว เมื่อก่อนที่ลูกน้องพูดโม้ว่าทำหนึ่งครั้งต่อหนึ่งชั่วโมงก็คนนี้แหละ ทำเอาเขาเชื่ออยู่ตั้งนั้น


ดังนั้นเขาจึงนึกว่าการออกกำลังกายจะต้องเป็นเรื่องไร้สาระของลูกน้องคนนี้ด้วย ไหนเลยจะรู้ว่าคราวนี้มันกลับเป็นจริงล่ะ?


ไม่ง่ายเลยกว่าจะขุนให้มีน้ำมีนวลขึ้นมาได้ห้ากิโล กลับโดนเขาทำให้ลดฮวบหายไปในพริบตา!


อยากจะจัดการเจ้าลูกน้องตัวดีคนนี้จริง ๆเลย!


“ผอมจริง ๆด้วย…พี่ ขอบคุณวิธีดี ๆของพี่มากเลยนะ!” เหมยเหมยดีใจมาก ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยหน่อยแต่วิธีนี้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว!


เหยียนหมิงซุ่นปฏิกิริยาเร็วมาก เลิกคิ้ว กระตุกยิ้มชั่วร้ายที่มุมปากแล้วพูดเสียงเบาว่า “งั้นต่อไปข้างบนให้เป็นหน้าที่เธอแล้วกันนะ?”


“น่าเกลียด…”


เหมยเหมยมองค้อนใส่ เชิดจมูกขึ้นอย่างน่ารัก ยิ้มพลางพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ประจำเดือนฉันมา พี่ต้องใช้ห้านิ้วของตัวเองไปก่อนแล้วล่ะ…”


มองไปทางเหยียนหมิงซุ่นที่ชะงักแน่นิ่งไป จากนั้นใบหน้าก็ปรากฏร่องรอยของความหงุดหงิดใจ เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างชอบใจ ฮ่า ๆ…ตอนนี้เธอผอมแล้ว เธอไม่โง่ถึงขั้นยอมโดนหลอกอีกหรอก!


เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้โมโหแต่กลับส่งยิ้มออกมาแทน ยัยปีศาจน้อยใจกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ รอประจำเดือนหมดก่อนเถอะ ดูสิว่าเขาจะจัดการยัยปีศาจนี่อย่างไร!


งานเลี้ยงการกุศลมาถึงแล้ว เหมยเหมยใส่ชุดสีขาวที่เคยโดนเธอเก็บเข้ากรุใส่กล่องไว้ ดูเหมาะสมกำลังดี เหมยเหมยหมุนตัวด้วยความพึงพอใจแล้วสวมสร้อยไข่มุกแบบตะวันออกหนึ่งเส้น มุกแต่ละเม็ดมีขนาดเท่านิ้วก้อยซึ่งไม่มีร่องรอยตำหนิให้เห็นเลย


เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดที่จะไปร่วมงานเลี้ยงประเภทนี้เลย แต่เพราะมีอู่เยวี่ยอยู่เขาไม่วางใจจึงยกเลิกธุระในคืนนี้ และไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนเหมยเหมย


เขาแต่งตัวสบาย ๆโดยเสื้อคลุมยาวสีดำถูกสวมไว้ด้านนอก ข้างในเป็นชุดสูทสีเดียวกัน ออร่าของเขาสามารถรับกับชุดแบบนี้ได้เป็นอย่างดี ดูเย็นชาแต่น่าหลงใหล แต่ความน่าหลงใหลก็มีให้เฉพาะผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาเท่านั้น


รูปร่างของอู่เยวี่ยอ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้ามีฝ้าขึ้นไม่น้อยแถมยังแต่งหน้าไม่ได้อีกเพราะหนิงเฉินเซวียนไม่อนุญาต เขาห้ามอู่เยวี่ยทำทุกอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ซึ่งรวมถึงรองเท้าส้นสูงและการแต่งหน้า


หน้าที่เปลือยเปล่าของอู่เยวี่ยไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ทั้งซีดเซียวและผิวดูแย่มาก รูขุมขนกว้างสุด ๆ จมูกและปากดูไม่เป็นธรรมชาติจึงทำให้รู้สึกหน้าแปลก ๆอยู่เรื่อย


เหมยเหมยรู้ว่านี่เป็นผลพวงมาจากการทำศัลยกรรม ต่อให้ทักษะทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปแค่ไหน การศัลยกรรมใบหน้าก็มีแต่จะทำให้ใบหน้ายิ่งดูยาวและแปลกพิกลขึ้นเรื่อย ๆ หลังอายุมากขึ้นหน้าก็ยิ่งเหมือนผีจนแทบทนมองไม่ไหว


หน้าสดของอู่เยวี่ยมองแล้วดูแตกต่างจากโอหยางซานซานมาก เพียงแต่ว่าโอหยางซานซานไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว คนที่ไม่คุ้นเคยจะมองไม่เห็นถึงความแตกต่าง ถ้าหากหวงอวี้เหลียนยังมีชีวิตอยู่แค่มองแวบเดียวเธอก็รู้แล้ว


“คุณนายเฮ่อเหลียนท้องแก่แล้วยังจะออกมาอีกนะคะ เธอต้องระวังตัวหน่อยล่ะ หากว่าล้มหรือชนอะไรเข้า ยันต์ที่ใช้คุ้มครองเธอคงหายไปแน่”


เหมยเหมยแยกกับเหยียนหมิงซุ่น เธอจงใจเดินเข้าไปหาอู่เยวี่ยที่กำลังทักทายเล่าคุณหญิงคุณนายคนอื่น ๆอยู่ ดูแล้วอัลบั้มรูปโป๊คงไม่ได้ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเธอมากเท่าไรนัก!


คุณนายคนอื่น ๆต่างก็หุบปากลงเมื่อเห็นเหมยเหมย ศัตรูทั้งสองมาประชันหน้ากันก็เหมือนดาวอังคารปะทะกับโลก พวกเธอต่างก็เป็นคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ควรเงียบไว้จะดีกว่า


พอได้ยินคำพูดของเหมยเหมย ผู้หญิงทั้งหลายต่างก็สูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ คุณหนูจ้าวพูดจาแบบนี้ช่างทิ่มแทงใจเสียจริง!


ตอนที่ 1892 ฉันและเธอเป็นคนรู้จักเก่าแก่กัน


อู่เยวี่ยระงับความโกรธไว้เพราะชื่อเสียงของเธอถูกจ้าวเหมยทำลายจนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว ตอนนี้เธอต้องพยายามกู้มันคืนกลับมาถึงจะได้ อย่าตกหลุมพรางของนังแพศยาจ้าวเหมยเด็ดขาด


“จ้าวเหมยทำไมเธอถึงต้องพุ่งเป้ามาที่ฉันล่ะ? ฉันกับเธอไม่มีความแค้นบาดหมางต่อกัน แม้กระทั่งไปมาหาสู่กันยังไม่เคยเลยแต่เธอกลับให้ร้ายฉันแบบนี้ ต่อให้ฉันจะมีความผิดจริงแต่ลูกในท้องฉันไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เธอกลับด่าทอเขาอย่างร้ายกาจ…”


อู่เยวี่ยลูบท้องเบา ๆ น้ำตาไหลพราก


ผู้หญิงรอบกายส่วนมากมีลูกกันแล้ว เรื่องที่ได้ยินมาทำให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจอู่เยวี่ยอยู่บ้าง ถึงอย่างไรเด็กก็ไร้เดียงสา มีคุณนายคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณหนูจ้าว เกรงว่าคุณและคุณนายเฮ่อเหลียนจะมีอะไรเข้าใจผิดกันนะคะ คุยให้ชัดเจนกันเองจะดีกว่า อย่าเอาเรื่องเด็กมาพูดเลยนะคะ”


คุณนายคุณหญิงคนอื่น ๆต่างก็พยักหน้า พูดคล้อยตามด้วยเสียงเบา


“ฉันและเขาไม่ได้มีเรื่องอะไรเข้าใจผิดกันหรอกค่ะ” เหมยเหมยมองอู่เยวี่ยพลางยิ้มอย่างเย็นชาพูดต่อไปว่า “ฉันและคุณนายเฮ่อเหลียนจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันได้อย่างไร ไม่รู้ว่ามิตรภาพระหว่างเราลึกซึ้งมากขนาดไหนเชียว อาเมย์…เธอว่าไหมล่ะ?”


เธอจงใจเน้นน้ำเสียงภาษาอังกฤษ ดวงตาเย็นชาดุดันขึ้น ท่าทางเช่นนี้แม้แต่คนโง่ก็ยังมองออกว่าจะต้องมีเรื่องบาดหมางใจระหว่างเธอกับอู่เยวี่ยแน่นอน แล้วจะเป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้งได้อย่างไร?


คุณนายหลายคนต่างก็เป็นคนที่ผ่านโลกมาเยอะ แค่มองสถานการณ์ก็รู้แล้วว่าไม่ปกติจึงหาคำแก้ต่างขอตัวกันไปหมดเพราะไม่อยากจะเข้าไปผสมโรงด้วย


เหมยเหมยต้องการแบบนี้พอดี ไม่มีคนอยู่รอบ ๆก็ดี มีคำพูดบางอย่างที่เธอไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน


อู่เยวี่ยใจหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม จ้าวเหมยตั้งใจเรียกชื่อภาษาอังกฤษของเธอแบบนี้หมายความว่าไง?


หรือว่าเธอเจออะไรเข้าแล้ว?


ไม่…เป็นไปไม่ได้ อู่เยวี่ยปฏิเสธเสียงแข็ง เธอมีความมั่นใจในทักษะการแสดงของเธอเป็นอย่างมาก และเมื่อสามปีก่อนจ้าวเหมยก็เห็นเธอตายกับตาของเธอเอง แล้วจะสงสัยเพราะชื่อภาษาอังกฤษได้อย่างไรกัน?


อีกอย่างสาว ๆที่ไปเรียนต่อต่างประเทศชื่ออาเมย์ก็มีมากราวกับขนวัว เพราะเหตุนี้เธอจึงกล้าใช้ชื่อนี้อย่างอาจหาญ และเป็นเพราะเธอต้องการย้ำเตือนตัวเองว่าเธอไม่ใช่โอหยางซานชาน เธอคืออู่เยวี่ย


“จ้าวเหมยเธอกำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย? ฉันและเธอเคยมีมิตรภาพต่อกันตั้งแต่เมื่อไร ช่างตลกเสียจริง” อู่เยวี่ยยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ


เหมยเหมยทำหน้าเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ฉันกับอาเมย์สนิทสนมกันมานานกว่าสิบปี เธอจะไม่ยอมรับได้ไง!”


เดือนห้า…อู่เยวี่ย…


อู่เยวี่ยคนนี้ก็ช่างใจกล้าจริง ๆ ใช้ชื่อจริงเป็นชื่อภาษาอังกฤษอย่างโจ่งแจ้ง นี่คิดว่าทุกคนโง่มากหรือไง?


ก็ใช่ หากไม่ใช่เพราะว่าเหยียนหมิงซุ่นค้นพบมันเข้า จนถึงตอนนี้เธอก็คงจะไม่ตระหนักถึงความลับของชื่อภาษาอังกฤษนี้แน่ โง่จริง ๆนั่นแหละ!


และนี่จึงทำให้เหมยเหมยเดือดดาลมาก นี่อู่เยวี่ยกำลังทำเหมือนเธอเป็นคนโง่!


คำพูดที่เหมือนว่าจะใช่ มันทำลายเกราะป้องกันทางจิตใจของอู่เยวี่ยได้อย่างง่ายดาย เธอมองพิจารณาเหมยเหมยอย่างระแวดระวังเพื่อต้องการตรวจสอบว่าตัวตนของตัวเองถูกเปิดเผยแล้วจริง ๆหรือไม่


เหมยเหมยอมยิ้มพูดว่า “โอหยางซานซานเธอช่างเป็นคนขี้ลืมเสียจริง ฉันกับเธอรู้จักกันมาสิบกว่าปี เมื่อก่อนเธอยังเคยมากินข้าวที่บ้านคุณปู่ของฉันอยู่เลย ไม่รู้ว่าตอนนั้นย่าของฉันชอบเธอมากแค่ไหน รักเธอเหมือนหลานในไส้ด้วยซ้ำ ทำไมเธอถึงจำไม่ได้ล่ะ?”


อู่เยวี่ยถึงได้ถอนหายใจโล่งอก เธอจึงนึกถึงข้อมูลที่เคยอ่านก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าโอหยางซานซานจะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าวจริง ๆ และด้วยเหตุผลนี้ความสัมพันธ์ของจ้าวเหมยกับย่าของเธอจึงแย่ลง


“แน่นอนว่าฉันจำได้ แต่ฉันแค่กลัวว่าจิตใจอันคับแคบของเธอจะกำเริบอีกครั้ง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่กล้าพูดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา พูดถึงก็คิดถึงคุณย่าเหมือนกันนะ ย่าของเธอใจดีกับฉันมากเลย” อู่เยวี่ยยิ้มและจู่โจมกลับ


“พูดได้น่าฟังดีนี่ เธอกลับเมืองหลวงมาตั้งหลายเดือนแล้วก็ไม่เห็นเธอไปเคารพหลุมศพของคุณย่าฉันเลย ฉันว่าย่าของฉันคงรักนังอกตัญญูอย่างเธอเก้อแล้วล่ะ”


เหมยเหมยตอกกลับไปอย่างไม่เกรงใจแล้วหมุนตัวกลับไปหาเหยียนหมิงซุ่น เมื่อครู่เธอเกือบจะทนไม่ไหวเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของอู่เยวี่ยแล้ว หากอยู่ต่อกลัวว่าเธอจะทนต่อไม่ไหวจริง ๆ เธอจะทำลายแผนการของเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้


ต้องอดทนไว้!


………………………………………………………..


 ตอนที่ 1893 อู่เยวี่ยที่เสียดายในภายหลัง


เหยียนหมิงซุ่นทักทายพวกตระกูลเศรษฐีและนักการเมืองที่มีชื่อเสียง คนเหล่านี้ต่างตื่นตะลึงที่ได้รับความเมตตา นึกแอบดีใจที่พวกเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับพวกเมียน้อยแต่ตามภรรยามาด้วย มิฉะนั้นจะมีโอกาสใกล้ชิดกับคุณชายหมิงได้อย่างไร?


ภรรยาหลวงนี่พึ่งพาได้มากจริง ๆ!


เหมยเหมยเดินเข้ามา เหยียนหมิงซุ่นจึงหยุดทักทายแล้วจูงมือเธอไปนั่งที่โต๊ะวีไอพี กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังต่างอาลัยอาวรณ์แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะรั้งคุณชายหมิงไว้ สามารถพูดคุยเล็กน้อยสองสามนาทีอย่างเมื่อครู่ได้ นี่ก็มากพอสำหรับเอาไปคุยโวข้างนอกแล้ว


“อีกเดี๋ยวถูกใจอันไหนก็ซื้อเลยนะ” เหยียนหมิงซุ่นก้มศีรษะพูด ในเมื่อมาร่วมงานการกุศลก็ต้องเสียเงินบ้างไม่อย่างนั้นคนข้างนอกจะเอาไปพูดลับหลังไม่ดีได้


เหมยเหมยอมยิ้มเจ้าเล่ห์  “ฉันไม่ประหยัดเงินพี่อย่างแน่นอน จะซื้อแต่ของแพง ๆเลย”


“ร้ายไม่เบา”


เหยียนหมิงซุ่นบีบหน้าเธอเบา ๆ สายตาที่รักใคร่เอ็นดูทำเอาหัวใจของผู้หญิงนับไม่ถ้วนหลอมละลาย ทั้งอิจฉาและเกลียด…


จ้าวเหมยทำไมถึงได้โชคดีขนาดนี้นะ สามารถหาคุณชายหมิงที่เป็นทั้งสุภาพบุรุษและมีความสามารถมากเจอได้ และยังเป็นผู้ชายที่รักทะนุถนอมเธอมากด้วย?


มีผู้หญิงบางคนอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองสามีที่อยู่ข้าง ๆ จะมองอย่างไรก็รู้สึกรังเกียจ ทั้งหัวล้าน อ้วน พุงพลุ้ย…เทียบไม่ได้แม้แต่ปลายขี้เล็บของคุณชายหมิงด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถที่เทียบคุณชายหมิงไม่ติดเลย!


สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณชายหมิงรักคุณหนูจ้าวคนเดียว นี่เป็นสิ่งที่มีชีวิตอย่างผู้หญิงเราต่างใฝ่หา คุณชายหมิงรักคุณหนูจ้าวมากเป็นสิ่งที่รู้กันทั่วทั้งเมืองหลวง วันนี้ได้เห็นกับตาของตัวเองแล้ว พวกคุณนายที่หน้าตาสดใสสวยสง่าเหล่านี้กลับอิจฉาในใจไม่หยุด


ผู้ชายของพวกเธอหน้าตาไม่ดีเท่าคุณชายหมิง ไม่มีความสามารถเท่าคุณชายหมิง แถมยังไม่รักเดียวใจเดียวอย่างคุณชายหมิง นังจิ้งจอกด้านนอกมีมากหยั่งกับขนวัว ไม่มีลูกนอกสมรสมาเป็นโขยงพวกเธอก็แอบยิ้มแล้ว


แต่ก็ปวดใจไม่น้อยเลย!


อู่เยวี่ยก็แอบอิจฉาเช่นกัน เธอเองก็นั่งอยู่โต๊ะวีไอพีและอยู่ไม่ไกลจากพวกเหมยเหมย เพียงแต่ว่าเธออยู่คนเดียว เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้มากับเธอด้วย


เดิมทีเธอไม่ได้คิดอะไรมาก ตอนแรกอู่เยวี่ยอธิบายไปว่าคุณชายเช่อมีงานที่ต้องจัดการมากมายทุกวัน ไม่มีแม้กระทั่งเวลาก้มเก็บเงินด้วยซ้ำ ไหนเลยจะมีเวลานั่งเครื่องบินมาร่วมงานการกุศลได้ แน่นอนว่าคนอื่น ๆก็คิดเช่นนั้นด้วยเป็นธรรมดา คนอย่างคุณชายเช่อต้องยุ่งมากแน่ ๆ ไหนเลยจะเกียจคร้านเหมือนผู้ชายของพวกเธอกันล่ะ?


แต่ตอนนี้——


คนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับคุณชายเช่ออย่างคุณชายหมิงกลับมาเป็นเพื่อนคู่หมั้น ดูการเอาใจใส่นี้สิช่างทำให้คนพากันอิจฉาตาร้อนเสียจริง!


อู่เยวี่ยรู้สึกแค่ว่าใบหน้าร้อนผ่าว จ้าวเหมยนังแพศยาจะต้องจงใจแน่นอน จงใจทำให้เธอขายขี้หน้า!


พวกคุณหญิงคุณนายตระกูลผู้ดีต่างรู้ดีแก่ใจ ทุกคนส่งสายตากันอย่างรู้ใจรู้ไส้รู้พุงเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม


มองออกแต่ไม่พูด!


แต่ว่าพวกหล่อนกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาก เมื่อก่อนมักได้ยินเสมอว่าตอนอยู่บ้านอู่เยวี่ยจะได้รับความรักความเอาใจใส่จากคุณชายเช่อมากจนทำให้พวกเธออิจฉากันแทบตาย แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว!


ที่แท้คนเราพอขาดสิ่งไหนก็จะโอ้อวดสิ่งนั้น ความรักที่แท้จริงจำเป็นต้องพูดทุกวันหรือไง?


ต้องเหมือนคุณหนูจ้าวเหมย เธอไม่เห็นต้องพูดอะไรเลย แต่ใครจะกล้าพูดว่าคุณชายหมิงไม่รักเธอ?


อู่เยวี่ยรู้สึกถึงสายตาเย้ยหยันของผู้หญิงรอบกายก็ยิ่งกำหมัดแน่นจนเล็บฝังเข้าฝ่ามือ ทั้งแค้นใจและอิจฉา


เมื่อก่อนเธอไม่เห็นเหยียนหมิงซุ่นอยู่ในสายตามากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งเสียดายมากแค่นั้น!


ใครจะไปรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นที่พ่อไม่รักแม่เลี้ยงไม่สนใจในตอนนั้นจะมีตำแหน่งใหญ่โตเหมือนในตอนนี้ได้ล่ะ?


และเหยียนหมิงต๋าที่เธอดู ๆไว้ว่าน่าจะไปได้ดี ตอนนี้กลับไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย เธอได้ยินมาว่าไปอยู่ในกองทัพแล้ว เชอะ หัวสมองหมูอย่างเหยียนหมิงต๋าจะสามารถสร้างชื่อเสียงความสำเร็จอะไรในกองทัพได้?


เมื่อก่อนเธอช่างตาบอดเสียจริง ๆ หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มสานสัมพันธ์กับเหยียนหมิงซุ่นก่อนเลย ตอนนี้ผู้หญิงที่จะได้นั่งข้างเหยียนหมิงซุ่นให้คนอื่น ๆอิจฉาตาร้อนคงเป็นเธอไปแล้ว!


ในตอนนั้นเธอดีเลิศกว่าจ้าวเหมยร้อยเท่า น่าเสียดายที่ตอนนั้นเธอไม่ได้ทำดีต่อเหยียนหมิงซุ่นจนทิ้งโอกาสดี ๆให้นังแพศยาจ้าวเหมยนั่นไป!


ช่างแค้นใจจริง ๆ!


……………………………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)