ข้ามกาลบันดาลรัก 181.2-182.1

ตอนที่ 181-2 แอบเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้น

 

วันนี้ซุนเหลียงไฉกำลังจะตามเมิ่งเสียนไปดูแปลงมันฝรั่ง บ่าวรับใช้สกุลซุนกลับบังคับรถม้าเข้ามาบ้านเมิ่งเอ้ออิ๋น พูดกับเขาว่า “นายน้อย เกิดเรื่องขึ้นที่บ้าน นายท่านให้ข้ามารับท่านกลับไปขอรับ” 


 


 


เรื่องในบ้านมีผู้ใหญ่จัดการดูแล ตัวเองหามีความจำเป็นใด นอกเสียจากว่าเกิดปัญหากับสุขภาพของซุนซ่านเหรินและภรรยา ตอนนี้ได้ยินบ่าวรับใช้พูดเช่นนี้ ซุนเหลียงไฉถามด้วยความสั่นกลัว “เกิดเรื่องอันใดขึ้น เกิดความผิดปกติกับสุขภาพของท่านปู่ท่านย่าหรือ?” 


 


 


บ่าวรับใช้ร้อนรนโบกมือ “นายน้อยอย่าคาดเดาไปเองเลยขอรับ สุขภาพของนายท่านและฮูหยินปกติดี” 


 


 


“เช่นนั้นมีเรื่องอะไร?” ซุนเหลียงไฉซักไซ้ 


 


 


บ่าวรับใช้ตอบอย่างนบนอบ “เกิดเรื่องกับคุณหนูซุนเล็กน้อย นายท่านให้ท่านรีบกลับไปขอรับ” 


 


 


ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับซุนเชี่ยน เมิ่งเสียนเกิดอาการเป็นห่วงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ซุนเหลียงไฉยิ่งร้อนรนกระวนกระวาย ถามขึ้น “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านพี่ข้า?” 


 


 


บ่าวรับใช้มองเมิ่งเสียนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “นายน้อย รีบกลับบ้านไปกับข้าเถอะ เมื่อกลับไปแล้วท่านก็จะทราบเอง” 


 


 


ซุนเหลียงไฉพยักหน้า หันไปพูดกับเมิ่งเสียน “พี่ใหญ่ ท่านบอกท่านลุงท่านป้าด้วยเถิด ข้าต้องกลับบ้านแล้ว” 


 


 


เมิ่งเสียนรีบร้อนพูด “รีบไปเถอะ เดินทางระวังด้วย หากมีเรื่องอะไรแก้ไขไม่ได้ก็ให้รีบส่งข่าวมา” 


 


 


ซุนเหลียงไฉรับคำ ไม่แม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบเข้าไปนั่งในรถม้า สั่งบ่าวรับใช้ “รีบไปเถอะ” 


 


 


บ่าวรับใช้ตวัดแส้ บังคับรถม้าจากไปโดยไว 


 


 


เมิ่งเสียนมองพวกเขาจนละสายตา กลับเข้ามาในบ้าน บอกเมิ่งเชี่ยนโยวว่าบ่าวรับใช้บ้านซุนมาบอกว่าเกิดเรื่องกับซุนเชี่ยน มารับตัวซุนเหลียงไฉกลับไปแล้ว 


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวได้ฟังขมวดคิ้วมุ่น ทว่าพอเห็นท่าทีเป็นกังวลของเมิ่งเสียนก็แสร้งพูดขึ้นว่า “เกิดเรื่องกับคุณหนูซุน ซุนซ่านเหรินย่อมต้องเป็นแก้ปัญหาให้ พวกเราช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้ อย่าได้เป็นกังวลไปเปล่าเลย” 


 


 


เมิ่งเสียนรีบพูด “พวกเรากังวลไปเปล่าได้อย่างไร? นางเป็นพี่สาวเหลียงไฉนะ? อีกทั้งเจ้าและนางก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตามมารยาท เจ้าควรไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่” 


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวแบๆ มือ “พวกเราไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย จะไปอย่างไร? หากเป็นเรื่องดีว่าคุณหนูซุนหมั้นหมายเล่า พวกเราไม่กังวลไปเปล่าหรือ” 


 


 


เมิ่งเสียนยิ่งให้ร้อนรน “นางจะหมั้นหมายได้อย่างไร? นาง…?” คำพูดต่อจากนั้นไม่ได้พูดออกมา 


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะในใจ พูดว่า “นางจะหมั้นหมายไม่ได้อย่างไร นางก็อายุไม่น้อยแล้ว จะหมั้นหมายก็ไม่เห็นจะแปลกอันใด” พูดจบยังพยักหน้าแสดงว่าเห็นด้วย แล้วพูดราวกับว่าจะเป็นเช่นนั้น “อืม ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้จริงๆ ดูท่าพวกเราต้องรีบเตรียมของกำนัลชุดใหญ่แล้ว ไม่แน่ว่าพอปีใหม่ แม่นางซุนก็จะแต่งงานแล้ว” พูดจบแอบเหล่มองเมิ่งเสียนแวบหนึ่ง 


 


 


เมิ่งเสียนได้ฟังคำพูดนาง ราวกับได้รับการโจมตีอย่างหนักหน่วง ยืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรสักคำ 


 


 


เดิมเมิ่งเชี่ยนโยวคิดจะพูดหยอกเย้า ไม่คิดว่าจะพูดได้ถูกจุดจริงๆ ซุนเชี่ยนหมั้นหมายกับคนอื่นแล้วจริงๆ ทว่าการหมั้นหมายนี้นอกจากซุนวั่งแล้ว คนในสกุลซุนต่างก็ไม่มีใครรับรู้ 


 


 


เดิมทีวันนี้หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ซุนเชี่ยนก็ไปตรวจดูร้านค้า ซุนซ่านเหรินกำลังนั่งจัดแจงบัญชีอยู่ในห้องหนังสือ ด้านนอกจู่ๆ ก็มีเสียงตีฆ้องร้องป่าวดังแว่วมา อึกทึกเสียงดัง ซุนซ่านเหรินสั่งบ่าวรับใช้ข้างกาย “ออกไปดูสิ เกิดอะไรขึ้นด้านนอก?” 


 


 


บ่าวรับใช้รับคำ ยังไม่ทันได้ออกไป บ่าวเฝ้าประตูก็กระวีกระวาดวิ่งเข้ามาพูดว่า “นายท่าน ด้านนอกมีคนตีฆ้องร้องป่าวเข้ามากลุ่มหนึ่ง หาบห่อของขวัญ บอกว่านำของหมั้นหมายมาให้คุณหนูซุนขอรับ” 


 


 


ซุนซ่านเหรินลุกขึ้นยืนอย่างไม่เชื่อ ถามขึ้น “นำของหมั้นหมายมาให้เชี่ยนเอ๋อร์?” 


 


 


บ่าวรับใช้พยักหน้า 


 


 


“ไป ออกไปดู” พูดจบเร่งรุดเดินออกไป 


 


 


บ่าวรับใช้ทั้งสองคนตามไปติดๆ 


 


 


ซุนซ่านเหรินลนลานเดินมาถึงนอกประตู เห็นคนกลุ่มคนหาบห่อของขวัญ ตีฆ้องร้องป่าวยืนอยู่ด้านนอกประตูบ้านตัวเอง ร้องตะโกนถามอย่างฉุนเฉียว “พวกเจ้าเป็นใครกัน?” 


 


 


ชายวัยสามสิบกว่าปีเดินออกมาจากกลุ่มคน คนผู้นั้นแสดงความเคารพต่อซุนซ่านเหริน “ผู้น้อยแซ่หูนามหูไหล เป็นสหายของซุนวั่งบุตรชายท่าน ได้ตกลงพูดจาหมั้นหมายหลานสาวท่านและบุตรชายข้าไว้นานแล้ว วันนี้ข้าพาบุตรชายนำของหมั้นหมายมามอบให้” 


 


 


เพียงแวบเดียวซุนซ่านเหรินก็จำได้ว่าชายตรงหน้าคือหนึ่งเพื่อนเสเพลเกเรพวกนั้นของซุนวั่ง ได้ยินดังนั้นก็ร้องตะวาด “เหลวไหลทั้งเพ เชี่ยนเอ๋อร์ไปตกลงหมั้นหมายกับครอบครัวพวกเจ้าเมื่อใด?” 


 


 


คนผู้นั้นตกตะลึงเล็กน้อย พูดว่า “เรื่องนี้ข้าและซุนวั่งตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าหลานสาวท่านอายุไม่น้อยแล้ว ไม่ต้องเข้ามาสู่ขอแล้ว ให้นำของหมั้นหมายมาได้เลย” 


 


 


ซุนซ่านเหรินโมโหร้องตวาด “หากเจ้ายังพูดเหลวไหล ข้าจะให้คนตีพวกเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้” 


 


 


หูไหลรีบร้อนพูด “ท่านลุง นี่เป็นความจริง พวกเราแม้แต่ใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้นก็แลกเปลี่ยนกันแล้ว” พูดจบหยิบใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้นออกมายื่นไปตรงหน้าซุนซ่านเหริน “ไม่เชื่อ ท่านก็ดูเถิด” 


 


 


ซุนซ่านเหรินเปิดออกดู เป็นใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของซุนเชี่ยนจริงๆ โมโหเดือดดาล แผดเสียงสั่งบ่าวรับใช้ “ไปเรียกเจ้าเศษสวะนั่นออกมาเดี๋ยวนี้” 


 


 


บ่าวรับใช้ลนลานวิ่งเข้าไป ไม่นานก็วิ่งกระหืดกระหอบออกมา “นายท่าน คุณชายไม่อยู่บ้านขอรับ” 


 


 


“รีบส่งคนไปตามตัวมาให้ข้า ภายในหนึ่งเค่อหากหาตัวไม่พบ ข้าจะเอาพวกเจ้าไปขายทิ้งทั้งหมด!” ซุนซ่านเหรินร้องคำรามอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ 


 


 


ปกติซุนซ่านเหรินเป็นคนหน้าตายิ้มแย้ม แม้นว่ามีบ่าวกระทำผิด เขาก็ไม่เคยแผดเสียงตวาดมาก่อน ตอนนี้ระเบิดอารมณ์รุนแรงเช่นนี้ บ่าวรับใช้ต่างตกใจหัวหด รีบวิ่งแจ้นไปเรียกคนอีกจำนวนหนึ่งออกไป ตามหาซุนวั่งทั่วเมือง 


 


 


ซุนวั่งก็มิได้ไปที่ใด แต่มานั่งดื่มชาอยู่ในหอน้ำชาของตนเองอย่างสบายอกสบายใจ 


 


 


ขาข้างหนึ่งของซุนวั่งพาดอยู่บนโต๊ะน้ำชา ขาอีกข้างพาดอยู่บนขาข้างนั้น ด้านหนึ่งดื่มด่ำรสชาที่เสี่ยวเอ้อส่งมาให้ ด้านหนึ่งเพ้อฝันคิดว่าในที่สุดก็ได้กู้หน้าคืนกลับมาให้ตัวเองแล้ว วันนี้หูไหลไปตีฆ้องร้องป่าว หาบของหมั้นหมายไปบ้านตนเอง ครานี้คนทั้งถนนร้านตลาดต่างก็ได้เห็นแล้ว นังตัวดีนั่นอยากแต่งก็ต้องแต่ง ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง 


 


 


พอคิดถึงอากัปกิริยาของซุนเชี่ยนที่ได้รู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้นหมายแล้ว อย่างไรก็ต้องแต่งออกไป หัวใจของซุนวั่งก็ให้รู้สึกสะใจขึ้นมาอย่างประหลาด “นังตัวดี อยากเป็นปรปักษ์กับข้าดีนัก ข้าก็คือข้า ต่อให้เจ้าดิ้นรนอย่างไรก็หนีไม่พ้นหุบเขาห้านิ้วของข้าไปได้” 


 


 


สุดท้ายคิดถึงท่าทีโกรธเกรี้ยวหลังจากรู้เรื่องของซุนซ่านเหริน ก็ให้สั่นกลัวหวาดผวา ทว่าพอคิดว่าอย่างไรตนเองก็เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเขา ต่อให้เขาจะโมโหขุ่นเคืองอย่างไร อย่างมากก็แค่ลงโทษตัวเองไม่ให้ออกจากบ้านชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น 


 


 


ซุนวั่งคิดได้ไม่เลว คิดว่าตนเองกำจุดอ่อนของซุนซ่านเหรินไว้ ไม่คิดว่าตอนนี้แม้แต่ความคิดอยากจะฆ่าเขาของซุนซ่านเหรินก็มีแล้ว 


 


 


บ่าวรับใช้บ้านซุนตามหาที่ๆ ซุนวั่งมักจะไปบ่อยๆ จนทั่ว แต่ก็หาคนไม่เจอ สุดท้ายไม่มีทางเลือก มาลองเสี่ยงดวงที่หอน้ำชาบ้านตัวเองดู ไม่คิดว่าพอเอ่ยปากถาม ซุนวั่งจะอยู่ที่นี่จริงๆ บ่าวรับใช้ปิติยินดี รีบเร่งเดินเข้าไปในห้องรับรองพูดอย่างอ่อนน้อม “คุณชาย นายท่านให้ท่านรีบกลับไปขอรับ” 


 


 


ซุนวั่งไม่โง่ เดาได้ว่าโมงยามนี้สกุลหูน่าจะนำของหมั้นหมายไปถึงแล้ว ซุนซ่านเหรินในตอนนี้จะต้องโมโหราวฟ้าพิโรธ ตนเองกลับไปตอนนี้จะต้องไม่เป็นผลดี จึงพูดว่า “เจ้ากลับไปบอกนายท่าน บอกว่าข้ามีธุระ ยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้” 


 


 


หากเป็นยามปกติทั่วไป บ่าวรับใช้จะต้องไม่รีรอรีบกลับไปช่วยพูดโป้ปดให้เขา แต่วันนี้ไม่ได้ วันนี้ซุนซ่านเหรินโมโหเดือดดาลจริงๆ แล้ว หากไม่นำตัวซุนวั่งกลับไป เกรงว่าตนเองจะต้องถูกส่งไปขายเป็นแน่แท้ ดังนั้นบ่าวรับใช้จึงไม่ขยับ แต่กลับพูดวิงวอน “นายท่านออกคำสั่งเด็ดขาด จะต้องนำตัวท่านกลับไป นายท่านกลับไปกับพวกเราเถิด” 


 


 


ซุนวั่งเห็นเขาไม่ยอมกลับไปรายงานตามคำพูดตนเอง กลับยังจะโน้มน้าวให้ตัวเองกลับไป เกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน ก่นด่า “พวกสุนัขรับใช้ วาจาข้าไม่เป็นผลแล้วใช่หรือไม่ คอยดูว่ากลับไปข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร” 


 


 


พวกบ่าวรับใช้ไม่กล้าปริปาก 


 


 


ซุนวั่งพูดอย่างแหนงหน่าย “รีบไสหัวไป อย่าให้ข้าเห็นพวกเจ้าอีก” 


 


 


พวกบ่าวรับใช้ไม่ขยับ 


 


 


ซุนวั่งยิ่งทวีความเดือดดาล ลุกขึ้นถีบพวกเขาคนละที “ข้าจะบอกพวกเจ้า อย่าเอาบิดาข้ามาข่มขู่ข้า วันนี้หากข้าไม่กลับไป พวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้?” 


 


 


พวกบ่าวรับใช้ไม่หลบหลีก ถูกถีบไปคนละหนึ่งที ยังคงพูดอย่างอ่อนน้อม “คุณชายกลับไปกับพวกเราเถิดขอรับ” 


 


 


เห็นท่าทีของพวกเขา ซุนวั่งหาได้ร้อนรนไม่ กลับไปนั่งบนเก้าอี้ถามขึ้น “หากข้าไม่ไปเล่า พวกเจ้าจะกล้าทำอะไรข้า?” 


 


 


ไม่กลับไป? ท่านไม่กลับไป พวกเราก็ต้องถูกลงโทษ ทรมานเสียยิ่งกว่าตาย 


 


 


พวกบ่าวรับใช้หันหน้ามองกัน ใช้แววตาแลกเปลี่ยนความคิด แล้วตัดสินใจ 


 


 


บ่าวหนึ่งในนั้นพลันพูดขึ้น “คุณชาย ล่วงเกินแล้ว” 


 


 


พูดจบ คนทั้งหมดก็เดินขึ้นหน้ารวมพลังกันยกตัวซุนวั่งเดินออกไป  

 

 


ตอนที่ 182-1 ตัดขาดความสัมพันธ์

 

ซุนวั่งพยายามดิ้นรนขัดขืน ปากร้องก่นด่า “เจ้าพวกสุนัขรับใช้ กล้าปฏิบัติเช่นนี้ต่อข้า กลับไปข้าจะให้คนจับพวกเจ้าโบยให้เข็ด” 


 


 


ระหว่างถูกโบยกับถูกส่งไปขาย พวกบ่าวรับใช้ย่อมต้องเลือกอย่างแรก ดังนั้นไม่ว่าซุนวั่งจะร้องด่าอย่างไร พวกบ่าวรับใช้ก็ยังคงฉุดกระชากลากถูเขาออกมาอย่างเหนื่อยแรงและระมัดระวัง  


 


 


เสี่ยวเอ้อหอน้ำชาเห็นบ่าวรับใช้สกุลซุนกล้าลากซุนวั่งออกมา ต่างก็ให้ตกอกตกใจ คาดเดากันว่าซุนวั่งจะต้องกระทำเรื่องเลวร้ายอะไรไว้ บ่าวรับใช้ถึงต้องปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ 


 


 


ซุนวั่งร้องก่นด่าบ่าวรับใช้ที่ลากเขากลับไปตลอดทาง พอใกล้จะถึงเรือนซุน และคิดได้ว่าจะต้องเจอกับซุนซ่านเหริน หมากที่ตัวเองคำนวณไว้แต่แรกเริ่มจะไม่สัมฤทธิ์ผลแล้ว ก็ให้หวาดผวา ยิ่งกระเสือกกระสนดิ้นรน “พวกเจ้าปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้…” 


 


 


พวกบ่าวรับใช้ลากเขากลับมาอย่างเหนื่อยแรงมาตลอดทาง ใกล้จะถึงประตูบ้านแล้ว ในตอนนี้ไม่มีทางยอมปล่อยเขาหลุดมือเด็ดขาด เมื่อลากเขาไปวางต่อหน้าซุนซ่านเหรินแล้วถึงได้ยอมปล่อยมือ พูดอย่างพินอบพิเทาพร้อมกัน “นายท่าน ตามคุณชายกลับมาได้แล้ว” 


 


 


พวกบ่าวรับใช้เพิ่งจะปล่อยมือ ซุนวั่งก็หมุนตัวเตรียมจะวิ่งหนี เสียงเ**้ยมเกรียมของซุนซ่านเหรินดังขึ้น “หากเจ้ากล้าวิ่งหนีไป ข้าจะให้คนตีขาเจ้าหักเดี๋ยวนี้” 


 


 


ซุนวั่งได้ฟังพลันหยุดชะงักฝีเท้า ไม่กล้าแม้แต่จะเคลื่อนไหว 


 


 


ผ่านไปครู่ใหญ่ ซุนซ่านเหรินสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว ถามซุนวั่งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “พูดมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” 


 


 


ซุนวั่งกะพริบตาปริบอย่างร้อนตัว มองซ้ายมองขวาแล้วพูดว่า “จะยังมีเรื่องอันใดได้ ข้าก็แค่พูดตกลงเรื่องคู่ครองให้เชี่ยนเอ๋อร์ ทั้งแลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้น แล้วให้พี่หูนำสินสอดเข้ามาให้” 


 


 


ซุนซ่านเหรินเห็นเขายังแสดงท่าทีไม่แยแสต่อสิ่งใด เพลิงโทสะถูกจุดขึ้นอีกครั้ง แต่เพราะอยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก กลัวจะเสียอากัปกิริยา พยายามฝืนข่มกลั้นเพลิงโทสะไว้ พูดว่า “ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ เจ้าไม่ต้องยุ่งเรื่องการแต่งงานของเชี่ยนเอ๋อร์” 


 


 


ซุนวั่งโก่งคอตะเบ็งพูด “ข้าเป็นบิดาแท้ๆ ของนังตัวดีนั่น เรื่องการแต่งงานของนางข้าจะไม่ยุ่งได้อย่างไร?” 


 


 


ในที่สุดซุนซ่านเหรินก็สะกดเพลิงโทสะไว้ไม่อยู่แล้ว ร้องก่นด่า “เจ้าเศษสวะ นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของชีวิตเชี่ยนเอ๋อร์ เจ้าตัดสินใจลวกๆ มักง่ายเช่นนี้ได้อย่างไร?” 


 


 


ซุนวั่งไม่ยอมแพ้ “แต่ไหนแต่ไรการแต่งงานของบุตรพ่อแม่เป็นคนจัดการ แม่สื่อเป็นคนดำเนินการ ข้าหาคู่ครองที่ดีขนาดนี้ให้นาง ไฉนถึงเรียกว่ามักง่ายได้?” 


 


 


ซุนซ่านเหรินไม่สนใจหน้าตาแล้ว ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “กระทำเรื่องผิดยังไม่รู้สำนึก เจ้าคุกเข่าให้ข้าเดี๋ยวนี้!” 


 


 


ซุนวั่งเบ้ปาก คุกเข่ากับพื้นอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ 


 


 


หูไหลตกใจสะดุ้ง รีบพูดห้ามปราบ “ท่านลุง มีคนมากมายมองอยู่ ท่านให้เขาคุกเข่าเช่นนี้ ภายหน้าออกไปข้างนอกจะถูกคนหัวเราะขบขันเอาได้ เห็นแก่หน้าข้า ให้พี่ซุนลุกขึ้นมาก่อนเถิด” 


 


 


เขาไม่พูดยังดี พอเขาพูดซุนซ่านเหรินยิ่งบันดาลโทสะ “หุบปาก นี่เป็นเรื่องในครอบครัวข้า เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดสอดแทรก” 


 


 


หูไหลไม่คิดว่าซุนซ่านเหรินก็จะตวาดเขาต่อหน้าผู้คน โมโหขุ่นเคือง น้ำเสียงเจือความฉุนเฉียว “ท่านลุง ต่อให้นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวท่าน ในฐานะเพื่อน ข้าขอร้องแทนเขาก็สมควรแล้ว อีกทั้งตอนนี้เราสองครอบครัวก็เกี่ยวดองกันแล้ว” 


 


 


ซุนซ่านเหรินโมโหเกรี้ยวกราด “ใครไปเกี่ยวดองกับพวกเจ้า เจ้าให้แม่สื่อมาพูดทาบทามสู่ขอแล้วหรือไม่? พวกเราตกลงหมั้นหมายกับเจ้าแล้วหรือไม่? ธรรมเนียมสามหนังสือหกพิธีการ[1]นี้ แค่สามหนังสือพวกเจ้าล้วนไม่มีสักข้อ ยังกล้ามีหน้ามาพูดว่าพวกเราเกี่ยวดองกันแล้ว” 


 


 


หูไหลถูกพูดขัดจนสะอึก อึดใจใหญ่ถึงเถียงข้างๆ คูๆ ออกมา “ต่อให้ไม่มีสามหนังสือ แต่พวกเรามีหกพิธีการเล่า อีกทั้งพวกเราก็แลกใบบันทึกวันเดือนปีเกิดแล้ว การแต่งงานนี้ถือว่าแน่นอนดั่งตอกตะปูลงบนแผ่นไม้แล้ว” 


 


 


ซุนซ่านเหรินยื่นมือออกไป “ในเมื่อเจ้าพูดว่ามีหกพิธีการ เช่นนั้นเจ้าจงเอาหนังสือเทียบหมั้นออกมาให้ข้าดู” 


 


 


หูไหลและซุนวั่งเพียงแค่แลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของเด็กทั้งสองคนโดยพลการกันเองเท่านั้น คิดว่าเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว จึงตั้งขบวนดาหน้ามาทำการสู่ขอ ไฉนเลยจะมีหนังสือเทียบหมั้น พลันตะลึงค้าง ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร 


 


 


ซุนซ่านเหรินมองเขาแวบหนึ่ง “พวกเจ้าหนึ่งไม่มีสามหนังสือ สองไม่มีหนังสือเทียบหมั้น การแต่งงานนี้ถือเป็นโมฆะ ใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของเชี่ยนเอ๋อร์ข้าจะริบกลับคืน สำหรับพวกเจ้า รีบหาบสิ่งของของพวกเจ้าแล้วไสหัวกลับไปได้” 


 


 


หูไหลร้องโวยวาย “ท่านลุง ทำเช่นนี้ได้อย่างไร พวกเราตีฆ้องร้องป่าวมาตลอดทาง ทุกคนต่างรู้ว่าข้ามาหมั้นหมายเรือนซุน ตอนนี้ท่านยกเลิกการหมั้นหมายต่อหน้าทุกคน ไม่กลัวจะถูกคนหัวเราะเยาะหรือไร?” 


 


 


ซุนซ่านเหรินแค่นเสียงหึ “หาได้เคยมีการหมั้นหมายใดๆ ทั้งนั้น เอาที่ไหนมายกเลิกการหมั้นหมาย หากเจ้ายังพูดจาเหลวไหลตอแยไม่เลิกเช่นนี้ ข้าจะให้คนตีเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้” 


 


 


หูไหลอุตส่าห์พูดกล่อมจนซุนวั่งยอมยกซุนเชี่ยนให้บุตรชายตนเอง ไฉนเลยจะยอมรามือง่ายๆ พูดคุกคาม “ต่อให้ท่านลุงไม่สนใจหน้าตาของพวกเรา ก็ควรจะสนใจหน้าตาของหลานสาวท่านบ้าง ตอนนี้คนทั้งร้านตลาดต่างก็รู้กันหมดแล้วว่านางเป็นคู่หมายของบุตรชายข้าแล้ว หากการแต่งงานนี้ไม่สำเร็จ เกรงว่าภายหน้าก็คงไม่มีใครกล้ามาทาบทามสู่ขอแล้ว” 


 


 


น้ำเสียงกังวานสว่างใสของซุนเชี่ยนดังขึ้นด้านหลังเขา “ไม่มีคนมาสู่ขอก็แล้วอย่างไร?” 


 


 


หูไหลหันหลังกลับ ซุนเชี่ยนค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังกลุ่มคน มาพูดตรงหน้าเขา “ต่อให้ไม่ได้แต่งงานไปทั้งชีวิต ข้าก็ไม่มีวันรับการแต่งงานนี้ของพวกเจ้า” 


 


 


หูไหลตะลึงจังงัง 


 


 


หูหมิงบุตรชายหูไหลเห็นซุนเชี่ยนแววตาเปล่งประกาย ดวงตาลุ่มหลงคู่นั้นมองประเมินไปทั่วทั้งร่างนางหนึ่งรอบ ถึงวางมาดที่คิดว่างามสง่าผึ่งผายเดินมาตรงหน้าซุนเชี่ยน ร้องเรียกอย่างนุ่มนวล “น้องซุน” 


 


 


ซุนเชี่ยนเหลือบเปลือกตาขึ้น มองเขาแวบหนึ่ง ถามอย่างไม่ไว้หน้า “เจ้าเป็นใคร? ข้ารู้จักเจ้าหรือ? ทำไมเจ้าถึงใช้สายตาน่าขยะแขยงเช่นนี้มองข้า?” 


 


 


ต่อให้เป็นเรื่องที่พ่อแม่จัดการ แม่สื่อดำเนินการ แต่ชายหญิงจะหมั้นหมายกันก็ยังอนุญาตให้พบหน้ากันได้ ตอนนี้ซุนเชี่ยนกลับถามด้วยวาจาไม่ไว้หน้าเขาต่อหน้าผู้คน กลุ่มคนที่มาดูเรื่องสนุกต่างส่งเสียงหัวเราะครื้นเครง 


 


 


หูหมิงนึกว่าตนเองรูปงามสง่า ใช้ไม้ตายนี้ล่อหลอกดวงใจของแม่นางมาไม่น้อย ไม่คิดว่าซุนเชี่ยนกลับไม่เล่นด้วย พูดวาจาเช่นนี้กับเขาต่อหน้าคนมากมาย พลันยืนกระอักกระอ่วนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าอมเขียวอมแดงพูดไม่ออก 


 


 


ซุนวั่งเห็นหูหมิงถูกกำราบ ร้องก่นด่า “นังตัวดีไม่รู้จักธรรมเนียมมารยาท มีใครปฏิบัติต่อสามีในอนาคตเช่นเจ้ากันบ้าง?” 


 


 


ซุนเชี่ยนมองเขา พูดอย่างราบเรียบ “ข้ามีมารดาให้กำเนิด ไม่มีบิดาเลี้ยง ย่อมไม่รู้กฎระเบียบพวกนี้ ไม่เช่นนั้นท่านสอนข้าตอนนี้ ว่าข้าควรทำอย่างไร?” 


 


 


ได้ฟังคำพูดถากถางของนาง ซุนวั่งโมโหเดือดดาลแล้ว ลุกขึ้นฉับพลัน ร้องถามซุนเชี่ยน “นังตัวดี กล้าพูดจาเหลวไหลต่อหน้าคนมากมาย หากข้าไม่เลี้ยงเจ้า เจ้าจะโตมาได้เช่นนี้เรอะ?” 


 


 


ซุนเชี่ยนเบ้ปาก พูดเสียดแทง “เมื่อท่านเลี้ยงดูข้ามาจนโต ท่านพูดต่อหน้าคนมากมายนี้หน่อยกระไร เวลาตกฟากของข้าคือเวลาใด? ปีนี้ข้าอายุเท่าใดแล้ว?” 


 


 


ซุนวั่งหลบสายตาพูดว่า “เจ้ามันแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ข้าจำสิ่งเหล่านั้นมีประโยชน์อะไร?” 


 


 


ซุนเชี่ยนหัวเราะเยาะหยัน “แม้แต่วันเดือนปีเกิดของข้าก็จำไม่ได้ ยังกล้ามาพูดว่าเลี้ยงข้ามาจนเติบใหญ่ ทั้งยังมายุ่งเกี่ยวการแต่งงานของข้า ท่านไม่คู่ควร” 


 


 


ซุนวั่งคลุ้มคลั่ง “เจ้าจะเล่นลิ้นสำบัดสำนวนอย่างไร ข้าก็คือพ่อแท้ๆ ของเจ้า นี่เป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้” 


 


 


ซุนเชี่ยนหัวเราะเบาๆ “ไม่นานก็จะไม่ใช่แล้ว” 


 


 


ซุนวั่งโมโหก่นด่า “นังตัวดี เจ้าฝันไปเถอะ ชาตินี้ไปจนเจ้าตาย ข้าก็คือพ่อแท้ๆ ของเจ้า” 


 


 


ซุนเชี่ยนไม่ได้สนใจเขา 


 


 


หูไหลฟังอยู่อีกด้านด้วยใจประหวั่น ตระหนักรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รีบร้อนพูดขึ้น “แม่นางซุน อย่างไรพวกเจ้าก็เป็นพ่อลูกกัน มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันเถิด” 


 


 


ซุนเชี่ยนหันไปมองเขา ตวาดเสียงเขียว “ไสหัวไปพร้อมกับสิ่งของของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้!” 


 


 


หูไหลไม่เคยถูกใครปฏิบัติต่อเช่นนี้มาก่อน โมโหชี้หน้าซุนเชี่ยนพูดไม่ออก 


 


 


หูหมิงหมายจะเข้ามาพูดยับยั้ง “น้องซุน…” 


 


 


ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกซุนเชี่ยนแวดใส่เสียงเขียว “ไสหัวไป!” 


 


 


หูหมิงตกใจสะดุ้ง ไม่กล้าปริปากอีก 


 


 


หูไหลโมโหจนโพล่งปากพูดออกไปว่า “ถึงว่าบิดาเจ้าคอยพูดยกยอเจ้าไม่ขาดปาก หมายจะยกเจ้าให้หมิงเอ๋อร์ของพวกเราให้ได้ ที่แท้เพราะเจ้าไร้กาลเทศะมารยาทเช่นนี้เอง โชคดีวันนี้ได้มาเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า ไม่เช่นนั้นภายหน้าแต่งเข้ามาครอบครัวพวกเรา สกุลของพวกเราไม่รู้จะซวยเพียงใด” 


 


 


หูหมิงดึงรั้งเสื้อเขา ให้เขาพูดให้น้อยๆ 


 


 


อย่างไรเสียการแต่งงานก็หมดหวังแล้ว หูไหลยอมถลกหนังหน้าไม่เหลือพูดว่า “จะยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ก็ได้ แต่เพื่อซื้อของหมั้นพวกนี้พวกเราใช้จ่ายเงินไปไม่น้อย เมื่อพวกท่านไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้ ก็คืนเงินค่าของหมั้นหมายมาให้พวกเราด้วย” 


 


 


กลุ่มคนที่มามุงดูเรื่องสนุกไม่เคยได้ยินว่าเมื่อหมั้นหมายไม่สำเร็จฝ่ายหญิงกลับต้องจ่ายเงินค่าของหมั้นแทน ต่างชี้มือชี้ไม้ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ 


 


 


ซุนเชี่ยนหัวเราะเยาะหยัน “ได้ ข้าให้เจ้า” 


 


 


พอได้ยินนางรับคำ หูไหลก็ดีอกดีใจยกใหญ่ 


 


 


ไม่คิดว่าซุนเชี่ยนจะเดินมาตรงหน้าของหมั้นหมาย ดึงไม้คานหาบของหมั้นหมายออก แล้วกวัดแกว่งตรงมาที่เขา  


 


 


สองพ่อลูกหูไหลและหูหมิงตกใจขวัญผวา ลนลานหลบแทบไม่ทัน คนที่หาบของหมั้นหมายมากลัวตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ ก็รีบหลบไปอีกด้านเช่นกัน 


 


 


ซุนเชี่ยนไม่ยอมอ่อนข้อให้ ไล่กวดตามทั้งสองคนไปอย่างไม่ลดละ 


 


 


สองพ่อลูกแม้แต่ของหมั้นหมายก็ไม่สนแล้ว ตกใจวิ่งเผ่นแนบ 


 


 


กลุ่มคนที่มามุงดูยิ่งส่งเสียงวิพากษ์ดังเซ็งแซ่ 


 


 


 


 


 


 


 


 


[1] ธรรมเนียมสามหนังสือหกพิธีการนี้ คู่บ่าวสาวต้องปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน โดยสามหนังสือได้แก่ เทียบหมั้น เทียบสินสอด เทียบเชิญเจ้าสาว ส่วนหกพิธีการก็คือ ทาบทาม ถามชื่อ ดูดวงสมพงศ์ หมั้น ดูฤกษ์ รับตัวเจ้าสาว  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)