อัจฉริยะสมองเพชร 1760-1761

 ตอนที่ 1760 ผมมีหัวใจเยอะแยะ

จางหงเทียนทดลองดู และรู้สึกได้ว่าปราการที่คล้ายกับผืนผ้าซึ่งอยู่ตรงหน้าเขามีความแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึง เขารู้ทันทีว่านักปราชญ์โบราณเหยียนชิงมีความสามารถเหนือชั้นกว่าเขามาก จางหงเทียนคำรามและหันกลับมาพูดว่า “ในเมื่อนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงพูดแบบนั้น คราวนี้ผมก็จะไว้ชีวิตคุณ!”


เขาสะบัดข้อมือเพื่อเก็บดาบเข้าที่บั้นเอวก่อนจะกลับไปรวมกลุ่มกับสภาปรมาจารย์ และยืนนิ่งราวกับไม่เคยเกิดการปะทะขึ้นมาก่อน


ในเวลาเดียวกัน นายใหญ่สีขาวก็ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าไม่อาจเทียบชั้นกับจางหงเทียนหรือนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงได้ จึงสะบัดหางและเดินกลับเข้ากลุ่มอย่างเงียบๆ ไม่กล้าออกความเห็นอะไร


“ในเมื่อหอลำดับแรกของวิหารแห่งขงจื๊อยังไม่เปิด ก็คงไม่ฉลาดนักหากพวกคุณจะฆ่าฟันกันเอง” เห็นทั้งสองฝ่ายใจเย็นลงแล้ว นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงถอนฝ่ามือกลับและยิ้มให้ จากนั้นก็หันมาพูดกับฝูงชนว่า “กลับมาที่เรื่องของเราก่อน ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าหอลำดับแรกกำลังจะเปิด มาหารือกันเถอะว่าจะจัดสรรโควต้าในการเข้าสู่หอลำดับแรกอย่างไร”


เมื่อได้ยินอีกฝ่ายหยิบยกเรื่องการจัดสรรโควต้าขึ้นมาอีกครั้ง จางหงเทียนขมวดคิ้ว “ผมแน่ใจว่าคุณคงมีความคิดของตัวเองแล้ว เสนอแนะมาได้เลย หากพวกเราเห็นว่าเหมาะสม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยอมรับ!”


“ใช่ ผมคิดไว้แล้ว” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงยิ้มรับ “เพราะได้ผ่านหอบริวารทั้ง 6 มา พวกเราจึงรู้ดีว่าต่อให้หอลำดับแรกจะเปิดออก แต่เราก็ยังต้องผ่านปราการที่ปรมาจารย์ขงทิ้งไว้อยู่ดี หากไม่มีเครื่องรางฟ้าประทานในตำนาน ก็ไม่มีทางที่จะผ่านเข้าไปได้”


ฝูงชนพยักหน้า


พวกเขาได้ทดสอบหอบริวารทั้ง 6 มาแล้ว และรู้ว่าไม่มีทางผ่านปราการเข้าไปได้หากปราศจากเครื่องรางฟ้าประทานหรือสภาวะพิเศษที่เชื่อมโยงถึงกัน โดยเฉพาะกับนักปราชญ์โบราณ หากพวกเขาพยายามใช้พละกำลังฉีกกระชากปราการ ก็จะต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัสกับแรงตีกลับอย่างรุนแรง!


แน่นอนว่านักปราชญ์โบราณนั้นทรงพลังมาก แต่ปรมาจารย์ขงคือผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ของโลก ไม่มีทางที่อาณาจักรโบร่ำโบราณที่เขาทิ้งไว้จะถูกทำลายได้โดยการใช้พละกำลัง ต่อให้ผู้นั้นเป็นนักปราชญ์โบราณก็ตาม


“ในการจะเข้าสู่หอลำดับแรก เราต้องการเครื่องรางลำดับแรก โดยเครื่องรางลำดับแรกจะพาผู้คนเข้าสู่หอลำดับแรกได้ทั้งหมด 15 คน” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงพูด


เกิดการหารือขึ้นทันทีในหมู่ฝูงชน พวกเขากำลังวางแผนการสำหรับการเคลื่อนไหวขั้นต่อไป


นายใหญ่สีขาวคำราม “เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เครื่องรางลำดับแรกอยู่ที่ไหน ถ้ามันยังไม่ได้อยู่ในมือของพวกเราล่ะก็ เรามิต้องนั่งรออย่างสูญเปล่าหรือขณะที่คนอื่นๆกอบโกยทรัพย์สมบัติในหอลำดับแรกไปหมดแล้ว?”


เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไปว่าใครบ้างที่ได้ครอบครองเครื่องรางฟ้าประทานในตำนานทั้ง 6 ชิ้น แต่สำหรับเครื่องรางลำดับแรก ตำแหน่งที่อยู่ของมันยังไม่ปรากฏ


คนส่วนใหญ่คิดว่าเหตุผลที่จางเซวียนเข้าสู่หอบริวารได้โดยปราศจากปัญหาใดๆก็เพราะเขาได้ครอบครองหยดเลือดของลูกศิษย์ อีกอย่าง หอบริวารที่เขาได้เข้าไปนั้นก็เชื่อมโยงกับสภาวะพิเศษของลูกศิษย์ของเขาด้วย


ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความเข้าใจผิดที่แพร่หลายออกไปเกี่ยวกับเครื่องรางลำดับแรก ว่าเครื่องรางลำดับแรกจะพาผู้นั้นเข้าสู่หอลำดับแรกได้เพียงหอเดียว แม้แต่กลุ่มคนจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ก็ยังไม่รู้ว่าเครื่องรางลำดับแรกสามารถนำพาผู้ครอบครองเข้าสู่หอบริวารได้เช่นกัน


“เหตุผลที่ผมพูดแบบนี้ก็เพราะผมรู้ว่าเครื่องรางลำดับแรกอยู่ที่ไหน!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิวหัวเราะหึๆและเลิกคิ้วอย่างภาคภูมิใจ “บอกพวกคุณตามตรงนะ ตอนนี้เครื่องรางลำดับแรกอยู่ในมือของผม!”


ทันทีที่พูดจบ เครื่องรางอันหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้า เขาสะบัดข้อมือเบาๆ แล้วรังสีสง่างามก็แผดกล้าไปทั่ว


“นั่นคือเครื่องรางลำดับแรกหรือ?”


“รังสีของมันช่างน่าทึ่งอะไรอย่างนั้น!”


“แข็งแกร่งกว่าเครื่องรางบริวารมาก”


“เราจะเข้าสู่หอลำดับแรกได้ด้วยสิ่งนี้ใช่ไหม?”


เกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้นทั่วทั้งจัตุรัส ทุกคนหันขวับมามองเครื่องรางลำดับแรกที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยสายตาเร่าร้อน


กุญแจเข้าสู่หอลำดับแรกลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว หากได้มันมา อีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าถึงทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่สุดของทวีปแห่งปรมาจารย์!


“นั่นมัน…”


ขณะที่ฝูงชนกำลังจับจ้องเครื่องรางซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ จางเซวียนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าอย่างจนปัญญา


เขาจำเครื่องรางที่อยู่ในมือของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงได้ มันคือเครื่องรางที่เขาต่อสู้กับเหยียนเฉว่เพื่อแย่งชิงมันที่ภูเขาห้วยขาว หรือพูดอีกอย่างก็คือ เครื่องรางลำดับแรกในมือของอีกฝ่ายเป็นของปลอม!


ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นถึงนักปราชญ์โบราณ เขาไม่รู้จริงๆหรือว่าเครื่องรางลำดับแรกอันนั้นเป็นของปลอม? จางเซวียนตั้งข้อสงสัย


นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงมีพละกำลังเหนือชั้นกว่าแม้แต่จางหงเทียน แต่กลับแยกไม่ออกว่าเครื่องรางที่เขาครอบครองอยู่เป็นของจริงหรือของปลอม


เห็นความสงสัยของจางเซวียน หลัวลั่วชิงส่งโทรจิตอธิบาย “เครื่องรางลำดับแรกเกิดขึ้นด้วยฝีมือการหลอมของปรมาจารย์ขง ซึ่งแม้ 72 นักปราชญ์ก็ไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของมัน แม้แต่ฉันก็ยังบอกไม่ได้เมื่อตอนที่เห็นมันครั้งแรก แล้วเขาจะแยกแยะระหว่างของจริงกับของปลอมได้อย่างไร?”


จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนเหยียนเฉว่กับพรรคพวกยังคงคิดว่าพวกเขาได้เครื่องรางลำดับแรกของจริงมา ซึ่งก็หมายความว่าผู้ที่รู้ว่าเครื่องรางลำดับแรกของพวกนั้นเป็นของปลอมก็มีแต่จางเซวียน หลัวลั่วชิง และหวู่เฉินเท่านั้น


“คุณพูดถูก” จางเซวียนพยักหน้ารับขณะเหยียดริมฝีปากขึ้น “เรื่องนี้น่าสนใจมากทีเดียว แม้เครื่องรางลำดับแรกของพวกเขาจะเป็นของปลอม พวกนั้นก็ยังตั้งเงื่อนไข ดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป…”


ฝูงชนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามข้อเสนอของนักปราชญ์เหยียนชิง เพราะคิดว่าเครื่องรางลำดับแรกอยู่ในมือของเขา แต่ทันทีที่คนเหล่านั้นรู้ว่าเครื่องรางเป็นของปลอม จะต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นแน่ และเมื่อถึงเวลา, 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ก็จะต้องแบกรับรังสีอำมหิตจากทุกคนในจัตุรัสนั้น


จางเซวียนอดสงสัยไม่ได้ว่าต่อไปพวกเขาจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร


และนอกเหนือไปจากนั้น ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้จางเซวียนอยากรู้ นั่นคือถ้าพวก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์คิดว่าตัวเองได้เครื่องรางของแท้มาจริงๆ ทำไมถึงกล้าประกาศความเป็นเจ้าของ และยังถึงกับยื่นข้อเสนอที่จะให้โควต้ากับกลุ่มอำนาจอื่นๆด้วย?


นั่นไม่เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวหรือ?


“เครื่องรางลำดับแรกคือกุญแจเข้าสู่หอลำดับแรก ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่าคงไม่มีใครในหมู่พวกคุณที่จะขัดข้องหากพวกเรานำโควต้าออกไป 1 ใน 3 ในเมื่อเราเป็นผู้ครอบครองมัน ถูกไหม?” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงเก็บเครื่องรางเข้าสู่แหวนเก็บสมบัติก่อนจะหันมามองหน้าคนที่เหลือ


“ผมไม่คัดค้าน” ตาเฒ่าหยูคือคนแรกที่ส่งเสียงตอบรับ


“พวกเราก็ไม่มีปัญหา”


“ฟังดูสมเหตุสมผลดี”


คนที่เหลือลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแสดงอาการตอบรับ


หากปราศจากเครื่องรางลำดับแรก ต่อให้หอลำดับแรกเปิดออกแล้ว พวกเขาก็คงทำได้แค่เฝ้าดูอย่างสิ้นหวังอยู่จากข้างนอก การที่ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์จะยึดโควต้าไปแค่ 1 ใน 3 ถือเป็นข้อเสนอที่ยุติธรรมมาก


เห็นทุกคนตอบตกลง นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะพูดต่อ “ในเมื่อ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ของพวกเราได้โควต้า 5 ที่แล้ว พวกเราก็จะเริ่มกระจายโควต้าที่เหลือให้กับ 4 กลุ่มอำนาจตามลำดับ เพื่อเป็นการแสดงความปรารถนาดีและป้องกันความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น แบบนี้น่าจะดีกว่า จริงไหม?”


“ผมไม่ขัดข้อง” นายใหญ่สีขาวตอบ


ในเมื่อเผ่าพันธุ์อสูรยังไม่ได้อะไรมาเลย พวกมันก็จะยอมรับทุกสิ่งที่มีโอกาสจะหาได้


เหล่าผู้เชีายวชาญจากสภาปรมาจารย์สบตากันอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนในที่สุดจะพยักหน้ารับ


พวกเขาไม่ได้อยู่ในฐานะจะต่อรอง การยอมรับจึงเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้


“9 ใน 15 ที่ของโควต้าเข้าสู่หอลำดับแรกถูกจัดสรรไปแล้ว คุณตั้งใจจะกระจายโควต้าอีก 6 ที่ที่เหลืออย่างไร?” ตาเฒ่าหยูตั้งคำถาม


“ง่ายมาก!” ราวกับคาดเดาไว้แล้วว่าจะมีคำถามแบบนี้ นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงหัวเราะหึๆก่อนจะให้คำตอบ “เราจะต้องเปิดทางเข้าหอลำดับแรกเพื่อเข้าสู่ด้านใน ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ เราก็ต้องใช้หัวใจของ 6 มิติรอบนอก หัวใจแต่ละอันจะเชื่อมโยงกับโควต้า 1 ที่ ผู้ใดก็ตามที่มีหัวใจของ 1 มิติอยู่ในครอบครอง ก็จะได้รับ 1 ที่ไป ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครในหมู่พวกคุณที่ไม่เห็นด้วย ใช่ไหม?”


“คือ…”


“ผมว่าก็ยุติธรรมดี”


“ถ้าเราต้องการเข้าสู่หอลำดับแรก ก็จะต้องเปิดมันก่อน จึงถือว่าเหมาะสมแล้วที่จะมอบโควต้าให้กับผู้ที่มีส่วนช่วยในการเปิดหอลำดับแรก พวกเขาจะได้ 1 ที่ไป…”


เหล่านักปราชญ์โบราณต่างพยักหน้ารับ


ในการเจรจาต่อรองครั้งนี้ มีแต่นักปราชญ์โบราณเท่านั้นที่มีสิทธิ์มีเสียง นักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่อาจออกความเห็นอะไรได้เลย


หัวใจหนึ่งอันเพื่อแลกโควตา 1 ที่หรือ? จางเซวียนชะงัก เขาเกาหัวขณะครุ่นคิด


ดูเหมือนตอนนี้เราจะมีหัวใจอยู่กับตัว 2–3 อันนะ…


ตอนที่ 1761 หัวใจ

ก่อนหน้านี้ จางเซวียนเคยสงสัยว่าทำไมนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงที่แม้จะเป็นนักปราชญ์โบราณที่แข็งแกร่งที่สุดในบริเวณนี้ ทั้งยังมีเครื่องรางลำดับแรกอยู่ในครอบครอง กลับกล้ายื่นข้อเสนอที่จะจัดสรรโควต้า ทั้งยังให้โอกาสกลุ่มอำนาจอื่นๆได้เข้าถึงมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงด้วย


แต่ตอนนี้ก็เข้าใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น


แม้จะมีเครื่องรางลำดับแรกอยู่ในมือ ก็ไร้ประโยชน์หาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ไม่สามารถเปิดทางเข้าหอลำดับแรกได้


และกุญแจสำหรับเปิดหอลำดับแรกก็คือหัวใจของมิติรอบนอกทั้ง 6


เท่าที่จางเซวียนรู้ ดูเหมือนตอนนี้…ตัวเขาจะมีหัวใจอยู่ถึง 4 ใน 6 อัน


“จะว่าไป เครื่องรางน้อยก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว!” จางเซวียนตาโตเมื่อนึกได้


เขายังนึกสงสัยอยู่ตอนที่รู้ว่าท่านพ่อท่านแม่ของเขาถูกส่งทะลุมิติมายังบริเวณรอบนอกของหอลำดับแรกด้วยอำนาจของเครื่องรางฟ้าประทานในตำนานที่พวกเขามี เขาเคยคิดว่าเครื่องรางน้อยไม่ได้ทำงานตามหน้าที่ เพราะไม่น่ามีเหตุผลใดที่ทำให้เขาต้องถูกส่งทะลุมิติออกไปยังมิติรอบนอก แต่เมื่อมองกลับไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนไม่มีข้อผิดพลาด


เขาต้องเข้าสู่มิติรอบนอกเพื่อให้ได้หัวใจของมันมา เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเปิดหอลำดับแรก ถ้าไม่อย่างนั้น ต่อให้มีเครื่องรางลำดับแรกอยู่ในมือ เขาก็ยังต้องยืนจนปัญญาอยู่ด้านนอกหอลำดับแรกอยู่ดีเพราะไม่อาจเปิดทางเข้าของมันได้


“เหล่านักปราชญ์โบราณถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่มิติรอบนอกทั้ง 6 ผมจึงไม่อาจระบุได้ว่าตอนนี้หัวใจของมิติทั้ง 6 อยู่ที่ไหน แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าหอลำดับแรกปรากฏให้เห็นแล้ว ก็แปลว่าหัวใจของมิติทั้ง 6 ถูกนำออกไปแล้วเช่นกัน ผมเชื่อว่าหัวใจเหล่านั้นจะต้องอยู่ในหมู่พวกเราที่อยู่ตรงนี้นี่แหละ ขอแค่พวกคุณเต็มใจจะนำมันออกมา ก็จะได้โควต้าหนึ่งที่สำหรับกลุ่มอำนาจของคุณเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงประกาศ


ด้วยกฎเกณฑ์อันเข้มงวดที่ถูกนำมาใช้กับนักปราชญ์โบราณ เขาไม่อาจเดินทางภายในวิหารแห่งขงจื๊อได้อย่างอิสระเสรี จึงไม่แน่ใจนักว่าใครบ้างที่ได้ครอบครองหัวใจ


ถ้านักปราชญ์โบราณเหยียนชิงรู้ตำแหน่งที่อยู่ของหัวใจเหล่านั้น เขาคงเข้าถึงตัวผู้ครอบครองและ ดวลกันแล้ว แต่เพราะเขาไม่รู้ตำแหน่งที่อยู่ที่แท้จริงของมัน จึงทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรวบรวมฝูงชนในจัตุรัสเข้ามาและยื่นข้อเสนอที่จะจัดสรรปันส่วนโควต้าให้


“ทำไมไม่ให้ผมเริ่มก่อนล่ะ?”


เมื่อเห็นว่าฝูงชนไม่มีการเคลื่อนไหว นักปราชญ์เหยียนชิงยิ้มน้อยๆก่อนจะเคาะนิ้วตรงหน้า แล้วหนังสือเล่มหนึ่งก็ปรากฏ เขาพลิกมันอย่างแผ่วเบา


ฟิ้ววววว!


หนังสือเล่มนั้นพุ่งตรงเข้าสู่หอลำดับแรก มันพอดีกันกับช่องที่อยู่บริเวณด้านข้างของทางเข้า ก่อนจะเรืองแสงนวลออกมา ดูเหมือนจะส่งสัญญาณว่านี่เป็นการจับคู่ที่ถูกต้อง


จางเซวียนจับตามองทางเข้าอย่างถี่ถ้วน เขาเห็นทั้ง 2 ด้านของทางเข้ามีช่องอยู่ด้านละ 3 ช่อง ซึ่งก็หมายถึงหัวใจทั้ง 6 ของมิติรอบนอก


“นั่นคือหัวใจของมิติมหาสมุทรตำรา ซึ่งเชื่อมโยงกับหอวรรณคดีของนักปราชญ์ขุย, 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ของพวกเราได้มันมา เราจึงได้โควต้าอีกที่หนึ่ง” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงพูด


100 สำนักแห่งนักปราชญ์ได้โควต้า 5 ที่เนื่องจากพวกเขามีเครื่องรางลำดับแรกอยู่ในครอบครองและเพิ่งจะได้เพิ่มมาอีกหนึ่งที่ ด้วยสิ่งนี้ พวกเขาจึงคว้าโควต้าไปเกือบครึ่งของโควต้าที่มีอยู่ทั้งหมด 15 ที่ พูดอีกอย่างก็คือ ไม่ว่าโควต้าที่เหลือจะถูกกระจายออกไปอย่างไร พวกเขาก็จะยังคงเป็นผู้ชนะ จึงไม่มีเหตุใดให้ต้องกังวล


หลังจากได้โควต้าจากการนำหนังสือใส่เข้าไปในช่องแล้ว นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงก็หันมาพูดกับคนที่เหลือ “ผู้ที่มีหัวใจอันอื่นๆ ผมขอให้พวกคุณนำมันออกมา อย่าได้กังวล เหล่านักปราชญ์โบราณจาก 4 กลุ่มอำนาจก็อยู่ที่นี่ ไม่มีใครกล้าฉกฉวยทรัพย์สมบัติและโควต้าของคุณหรอก แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าระดับวรยุทธของคุณยังอ่อนด้อยเกินไปและอยากขอสละสิทธิ์โควต้า ก็สามารถแลกเปลี่ยนมันเป็นทรัพยากรล้ำค่าอื่นๆได้ ตราบใดที่อยู่ในขอบเขตที่พวกเราทำได้, 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ก็เต็มใจจะตอบสนองความต้องการของพวกคุณ”


“เอ่อ…”


“แล้วหัวใจที่เหลืออยู่ที่ไหน?”


“ถ้าผมรู้เสียก่อนนะ จะทุ่มสุดตัวเพื่อหาหัวใจมาให้ได้ อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้สัก 1 ที่ให้กลุ่มอำนาจของผม…”


“ใครจะไปรู้ล่ะว่า 6 มิติรอบนอกจะมีบทบาทสำคัญขนาดนี้?”


…..


เกิดการหารืออย่างเข้มข้นในหมู่ฝูงชน นักรบที่อยู่บริเวณนั้นต่างมองหน้ากัน หวังจะได้รู้ว่าหัวใจอยู่ที่ไหนและใครเป็นคนนำมันไป


เมื่อเห็นว่าไม่มีใครก้าวออกมา รอยย่นปรากฏขึ้นบนหน้าผากของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิง เขาหว่านล้อมต่อไป “พวกคุณกังวลว่าเราจะไม่รักษาสัญญาหรือ? มีนักปราชญ์โบราณตั้งมากมายอยู่ที่นี่ พวกเราเอาเกียรติเป็นประกันเลยว่า ไม่ว่าหัวใจชิ้นนั้นจะเป็นของล้ำค่ารูปแบบไหน เราก็จะใช้มันเพียงเพื่อเปิดหอลำดับแรกเท่านั้น ทันทีที่ทางเข้าหอลำดับแรกถูกเปิดออก เราจะคืนมันให้คุณทันที!”


ถ้าเขามีหัวใจอยู่ในครอบครอง ก็คงจะเปิดหอลำดับแรกไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดจาหว่านล้อมอยู่แบบนี้


ในตอนนั้น เสียงน่าขยะแขยงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากกลุ่มเผ่าพันธุ์ปีศาจ


“ผมรู้ว่าหัวใจของมิติผืนป่าและมิติผืนทรายอยู่ที่ไหน”


ผู้พูดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตาเฒ่าหยู


นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงหันขวับอย่างร้อนรนและถามว่า “มันอยู่ที่ไหน?”


หากหัวใจหายไปเพียงอันเดียว พวกเขาก็จะไม่มีทางเปิดหอลำดับแรกและเข้าไปด้านในได้ หรือพูดอีกอย่างก็คือ การเดินทางครั้งนี้จะต้องหยุดชะงัก


“มันอยู่ในมือของเจ้าหนุ่มที่ทำให้เหล่าทายาทของนายใหญ่สีขาวยอมจำนนได้นั่นแหละ!” ตาเฒ่าหยูอยู่คำราม


“เขาหรือ?”


นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงกับนักปราชญ์โบราณคนอื่นๆหันขวับมามองจางเซวียน


เห็นทุกสายตาจับจ้องที่เขา จางเซวียนได้แต่เกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน เขากำลังพยายามประเมินสถานการณ์ ก็พอดีกับที่ตาเฒ่าหยูฉุดเขาออกมา


“สหายน้อยของผม ไม่ทราบว่าผมจะขอถามได้ไหมว่าหัวใจของมิติผืนป่าและมิติผืนทรายอยู่กับคุณหรือเปล่า?” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตั้งคำถาม


รู้ดีว่าไม่มีทางปิดบังได้อีกต่อไป จางเซวียนตอบตามตรง “ผมเชื่อว่าอย่างนั้น แต่หัวใจของทั้งสองมิติที่ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต ผมจึงออกจะสงสัยเล็กน้อยว่ามันจะพอดีกับช่องที่อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า”


หัวใจของมิติผืนป่าคือ 5 อสูรผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนหัวใจของมิติผืนทรายคือรากไม้ ในเมื่อพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิต แล้วจะเข้าไปอยู่ในช่องข้างประตูได้หรือ?


“ไม่สำคัญหรอกว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ แค่คุณนำมันออกมา พวกมันก็จะสวมได้พอดีกับช่องที่อยู่ด้านข้างหอลำดับแรก” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตอบ


“ผมเข้าใจแล้ว…” จางเซวียนพยักหน้า


เขาสะบัดข้อมือ จากนั้นก็นำ 5 อสูรผู้ยิ่งใหญ่ออกมา


ฟึ่บ!


ราวกับถูกดึงดูดจากพละกำลังลึกลับบางอย่าง ร่างของ 5 อสูรผู้ยิ่งใหญ่ถูกดูดให้ลอยเข้าสู่ทางเข้าหอลำดับแรก พร้อมกันนั้น ร่างของพวกมันก็หดเล็กลงจนดูเหมือนเข็มทิศหยินหยางที่มีรูปกลม


แผ่นกลมนั้นใส่ลงไปได้พอดีกับช่องว่างที่มีอยู่ จากนั้นก็เรืองแสงนวลออกมา


“เอ่อ…”


จางเซวียนอัศจรรย์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง


เมื่อเห็นว่าได้ผล นักปราชญ์เหยียนชิงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ในเมื่อคุณคือผู้ครอบครองหัวใจของมิติผืนป่า คุณก็จะได้โควต้าหนึ่งที่สำหรับสภาปรมาจารย์ ซึ่งถ้าหัวใจของมิติผืนทรายยังอยู่กับคุณด้วยล่ะก็ คุณควรรีบนำออกมันออกมานะ”


จางเซวียนพยักหน้ารับ


เขาสะบัดข้อมือ แล้วรากไม้ก็มาอยู่ในมือของเขา


เหมือนกันกับ 5 อสูรผู้ยิ่งใหญ่ รากไม้ถูกดึงดูดอย่างรวดเร็วสู่ทางเข้าหอลำดับแรก ก่อนจะแทรกตัวเข้าสู่ช่องว่างช่องหนึ่ง แสงที่เรืองออกจากทางเข้านั้นเข้มข้นขึ้นทันที ราวกับจะเฉลิมฉลองการเปิดออกของหอลำดับแรก


“เยี่ยมเลย!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “เรายังขาดหัวใจของมิติยาพิษ มิติพงไพรโขดหิน และมิติแห่งฤดูกาลทั้ง 4…ผมขอเชิญใครก็ตามที่มีหัวใจเหล่านี้อยู่ในครอบครอง กรุณาก้าวออกมาและช่วยพวกเราเปิดหอลำดับแรกด้วย”


เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งจัตุรัส แต่ก็ไม่มีใครในหมู่ฝูงชนที่ก้าวออกมา ราวกับว่าหัวใจของอีก 3 มิติรอบนอกได้หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย


“หรือว่านักรบที่ได้หัวใจของทั้ง 3 มิตินั้นไปจะไม่ได้เข้าสู่จัตุรัสแห่งนี้ หรือบางที หัวใจทั้ง 3 อันอาจยังไม่ถูกค้นพบหรือเปล่า?”


“เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะถ้าหัวใจยังไม่ถูกนำออกไป ประตูของทั้ง 6 มิติรอบนอกจะไม่มีทางเชื่อมโยงถึงกันได้!”


…..


เมื่อเห็นว่าไม่มีใครก้าวออกมา เหล่านักปราชญ์โบราณที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ขมวดคิ้ว


นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงสูดหายใจลึกและประกาศอีกครั้ง “ขอให้ผมได้สร้างความมั่นใจให้กับพวกคุณนะ ว่าใครก็ตามที่มีหัวใจอยู่ในครอบครองจะไม่มีวันถูกทำร้ายเด็ดขาด ผม, เหยียนชิง ขอให้คำสัญญาด้วยเกียรติของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ว่าจะรับประกันความปลอดภัยให้คุณ และผู้ใดก็ตามที่กล้าโจมตีคุณจะต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของผม!”


จากนั้น ความกังวลก็หยั่งรากลึกลงในหัวใจของเขา เพราะทุกอย่างดูจะไม่เป็นไปตามแผน ตราบใดที่ผู้ได้ครอบครองหัวใจยังคงไม่ยอมก้าวออกมา หอลำดับแรกก็จะไม่มีทางเปิดออกได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ พวกเขาคงต้องหาวิธีอื่น


นักปราชญ์เหยียนชิงกำลังจะกล่าวยืนยันเพื่อให้ความมั่นใจอีกครั้ง ก็พอดีกับที่จางเซวียนยกมือขึ้นอย่างเหนียมๆและพูดว่า “ผมคิดว่าหัวใจของมิติยาพิษและและมิติแห่งฤดูกาลทั้ง 4 อยู่กับผมนะ”


“พวกมันอยู่กับคุณ? แปลว่าคุณคนเดียวได้หัวใจของทั้ง 4 มิติรอบนอกมาเลยหรือ?”


ความเงียบงันครอบคลุมไปทั่วบริเวณนั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)