ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1738-1745
ตอนที่ 1738 ไม่ใช่ว่าคุณไม่ดี
จินป๋อเหวินมองเซี่ยทิงเทาอย่างหงุดหงิด ลูบจมูกด้วยความโมโห คิดถึงตอนนั้นว่าเขารู้จักลี่ลี่อันก่อน อีกทั้งทำไมเซี่ยถิงเทาเจ้าหมอนี่ถึงรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ยังโชคดีที่เขาชวนลิลี่ลี่อันมาเที่ยวฮ่องกง
เดิมทีคิดอยากออกทะเลดื่มด่ำความโรแมนติกกับสาวงามเพื่อเอาชนะใจให้ได้อีกครั้ง แต่ไหนเลยจะรู้ว่ากลับเอาศัตรูหัวใจมาด้วย
เชอะ ก็แค่หน้าตาดูดีกว่าเขานิดหน่อยเท่านั้นแหละ!
อ๋อ แล้วยังมีภาพวาศิลปะที่พอจะเข้าตาอยู่บ้าง!
สายตาที่สามารถแยกแยะของโบราณก็ไม่เลว วิชาความรู้แน่นอนว่าก็ไม่ได้แย่จนเกินไป!
แต่เจ้าหมอนี่ก็ยังสู้เขาไม่ได้ ตอนนั้นลี่ลี่อันไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา นับว่าเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ!
ถึงแม้ว่าตอนนี้จินป๋อเหวินจะมีครอบครัวที่มีความสุข สามีภรรยารักใคร่กันดีแต่รักแรกมักดีที่สุดเสมอ มันเป็นจุดเล็ก ๆที่ฝังอยู่ในใจของเขาเสมอ ยากที่จะลืมเลือน ดังนั้นถ้าเจอเซี่ยทิงเทาแล้วเขายังทำหน้าดี ๆใส่ได้สิแปลก
“จ้าวเหมยตอบตกลงแล้ว แต่ว่าต้องพาคุณกู้ไปรับเธอด้วยกัน” จินป๋อเหวินบอก
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจะไปเรียกคุณอา” เซี่ยทิงเทาดีใจมาก รีบวิ่งไปหาหมอกู้ที่กำลังตกปลาด้วยท่าทีสบาย ๆ
ลี่ลี่อันก็มีความสุขมากเช่นกัน ในที่สุดความปรารถนาของสามีก็สมหวังเสียที
จินป๋อเหวินกลับมองเธออย่างไม่พอใจ “ลี่ลี่อันเธอจะเอาแต่ใจเกินไปแล้ว หรือเธอไม่รู้ว่ากลับมาฮ่องกงตอนนี้จะอันตรายมากแค่ไหน? ถ้าหากว่าโดนคนพบว่าเธออยู่ที่นี่ เธอคงจะ…”
เขาไม่ได้พูดต่อ สีหน้าท่าทางดูกังวลเป็นอย่างมาก สถานะของลี่ลี่อันนั้นเป็นความลับ เขาเป็นคนเดียวในฮ่องกงที่รู้ แต่นี่เป็นเรื่องเมื่อสองปีก่อน
ตอนนี้สถานะของลี่ลี่อันไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว ฮ่องกงและกองกำลังญี่ปุ่นต่างก็รู้ดีว่าเธอเป็นลูกสาวที่มีค่าของนายพลแห่งสามเหลี่ยมทองคำ บวกกับระยะนี้มีสงครางกลางเมืองในสามเหลี่ยมทองคำจนวุ่นวายไปหมด ลี่ลี่อันปรากฏตัวในฮ่องกงในตอนนี้ก็เหมือนแกะเข้าปากเสือ
“ขอแค่ได้เจอเหมยเหมย พวกเราก็จะรีบขับเรือจากไป ไม่ให้เกิดปัญหาหรอก” ลี่ลี่อันไม่ได้กังวลมากนัก ยิ้มและพูดปลอบใจเพื่อน
ครั้งต่อไปที่จ้าวเหมยจะมาฮ่องกงอีกก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร วัน ๆเห็นแต่สามีวิตกกังวล ในใจของเธอก็พลอยทุกข์ไปด้วย ทั้งหมดก็เป็นเพราะเธอทำร้ายสามีจนไม่สามารถกลับไปรวมตัวกับญาติพี่น้องได้ ไม่สามารถกลับบ้านเกิดเมืองนอนได้
เธอจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยสามี!
อันตรายเล็กน้อยแค่นี้จะนับประสาอะไร ขอเพียงแค่เธอระวังตัวหน่อย น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
จินป๋อเหวินส่งเสียงฮึ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ผู้ชายคนนั้นรู้ไหมว่าเธอต้องเสี่ยงแค่ไหน?”
“ไม่พูดเขาก็ไม่รู้ ป๋อเหวินคุณอย่าไปบอกเขานะ” ลี่ลี่อันขอร้อง
จินป๋อเหวินส่งเสียงฮึอีกครั้ง คร้านจะพูดต่ออีก ในใจกลับรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าเซี่ยทิงเทาทำคุณงามความดีสะสมบุญบารมีอะไรไว้ในชาติก่อน ชาตินี้ถึงได้เจอกับคนที่เขารออย่างสุดจิตสุดใจอย่างลี่ลี่อัน มันน่าโมโหจริง ๆเลย
ลี่ลี่อันรู้จักเขามานานหลายปี พอรู้ว่าเขาเป็นห่วง ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาจึงอดพูดความในใจที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้มานานหลายสิบปีไม่ได้
“ป๋อเหวิน ขอโทษนะที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ชอบคุณ แต่ฉันไม่สามารถเป็นตัวถ่วงของคุณได้ ภรรยาของคุณในตอนนี้ถึงจะเหมาะสมกับคุณที่สุด”
จินป๋อเหวินสีหน้าเปลี่ยนไปมองลี่ลี่อันที่อมยิ้มอย่างตกใจ วันเวลาที่เลยผ่านทิ้งริ้วรอยไว้มากมาย ต่างคนต่างก็ไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว แต่ในใจของเขากลับยังสวยงามเหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน
ในที่สุดหัวใจของเขาก็ปล่อยวางได้สักที
ที่แท้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีสินะ!
เขายิ้ม อ้าแขนทั้งสองข้างโอบกอดลี่ลี่อันไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ต้องพูดอะไรอีก
เป็นคนรักไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้เป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิตก็พอ!
วันรุ่งขึ้นตอนบ่ายสอง หมอกู้และจินป๋อเหวินก็มาถึงบ้าน เหมยเหมยยิ้มและพูดว่า “คุณปู่กู้ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ!”
…………………………………………..
ตอนที่ 1739 อาจารย์ลุงของเธอต่างหากที่อยากเจอ
หมอกู้ยังคงเหมือนเดิม ผมขาวโพลนแต่ดูมีชีวิตชีวากระฉับกระเฉง หน้าแดงเปล่งปลั่งมีเลือดฝาดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
“เด็กน้อยสวยขึ้นเรื่อย ๆเลยนะ แม่ของเธอเป็นไงบ้าง?” อารมณ์ของหมอกู้ดีไม่เลว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มักจะทำหน้าเย็นชา บัดนี้กลับมีรอยยิ้มขึ้นเยอะเลย
“แม่ของหนูสบายดีค่ะ มักจะพูดถึงคุณปู่อยู่บ่อย ๆ ไม่รู้ว่าคุณปู่ไปอยู่ที่ไหน” เหมยเหมยพูดพลางเชิญหมอกู้ขึ้นรถของเธอไปด้วย จินป๋อเหวินอยากรู้เป็นอย่างมากจึงถือโอกาสขึ้นรถตามไปด้วย อยากฟังว่าท้ายที่สุดแล้วเซี่ยทิงเทาเกี่ยวข้องอะไรกับจ้าวเหมย
ในใจของเขาคับยิบ ๆจะตายอยู่แล้ว!
“คุณปู่กู้ แล้วใครกันแน่ที่อยากเจอหนูค่ะ? ทนายจินคนนี้บอกว่าเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของแม่ฉัน แต่แม่ของฉันไม่เคยพูดมาก่อนเลยว่ามีเพื่อนผู้หญิงที่รู้จักกันอยู่ฮ่องกงด้วย!” เหมยเหมยอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
จินป๋อเหวินก็หูผึ่ง ตั้งอกตั้งใจฟังเป็นที่สุด
หมอกู้ถอนหายใจกำลังคิดจะบอกแต่รถก็หยุดลงเสียก่อน เสี่ยวอวิ๋นลงจากรถคว้าชายหนุ่มที่สวมแว่นตาจากกระโปรงรถด้านหลังออกมา กระชากกล้องของเขาแล้วดึงฟิล์มออกมา
“อย่าตามมาอีก ไม่อย่างนั้นจะระเบิดหัวนายทิ้ง!” เสี่ยวอวิ๋นกระแทกประตูรถด้วยหมัด พูดขู่เสียงต่ำ มีรอยบุบปรากฏขึ้นที่ประตูรถขนาดใหญ่เท่าหม้อดินเผา
ปาปารัสซี่สองคนนั้นวิ่งหนีจนห่างจุกตูด
เสี่ยวอวิ๋นยกมุมปากอย่างพอใจแล้วหันไปสำรวจรอบ ๆ พอไม่พบอะไรน่าสงสัยอีกถึงขึ้นรถ
แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าตรงริมกระจกมุมสูงมีกล้องติดตามรถของพวกเขาอยู่ ไม่นานก็มีรถอีกคันก็ขับตามมาอย่างเงียบ ๆซ่อนตัวอยู่ในรถที่สัญจรไปมา พวกเสี่ยวอวิ๋นไม่ทันสังเกตเห็น
หมอกู้พูดต่อประโยคที่ไม่ได้พูดจบก่อนหน้า “เซี่ยทิงเทาเธอรู้จักไหม?”
เหมยเหมยทั้งแปลกใจทั้งดีใจ “แน่นอนสิคะ เขาเป็นอาจารย์ลุงของหนู คุณปู่กู้รู้ว่าเขาอยู่ไหน?”
“ทิงเทาเป็นเป็นหลานชายแท้ๆของฉัน หลายปีที่ผ่านมาฉันก็ตามหาเขาเช่นกัน สวรรค์ไม่รังแกคนที่มีความพยายาม ในที่สุดฉันก็ได้เจอเขา” หมอกู้ถอนหายใจยาว นัยน์ตามีความปลื้มปิติ
ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องละอายใจต่อพี่สาวและพี่เขยแล้ว!
เหมยเหมยยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ อย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าหมอกู้จะเป็นลุงแท้ๆของเซี่ยทิงเทา ถ้าอย่างนั้นเขาคงไม่ใช่…
“ถ้าอย่างนั้นคุณปู่กู้รู้จักคุณตาคุณยายของหนูไหมคะ?”
สีหน้าของหมอกู้เปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดอย่างไม่พอใจ “รู้จักแค่เพียงยายของเธอ เหยียนตานชิงฉันไม่รู้จัก”
พูดถึงเหยียนตานชิงสามคำนี้ หมอกู้ก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเหมือนกับเคี้ยวกระดูกก็ไม่ปาน เหมยเหมยมองเขาอย่างฉงน หรือว่าคุณหมอคนนี้จะมีความแค้นกับคุณตา?
เธอนึกถึงชื่อเล่นของหมอกู้ที่ชื่อว่า ‘คฤหัสถ์อ้ายเหลียน’ เมื่อก่อนนึกว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคงมีนัยยะแอบแฝง!
สถานการณ์ตรงหน้าเธอไม่มีอารมณ์จะให้ขบคิดอย่างละเอียด การหาตัวเซี่ยทิงเทายังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แบบนี้เหยียนซินหยาก็ไม่ต้องเหนื่อยมากแล้ว
“คนที่อยากเจอฉันคืออาจารย์ลุงหรอกเหรอคะ?” เหมยเหมยงงงวย ทำไมจินป๋อเหวินถึงได้บอกว่าเป็นผู้หญิงล่ะ
“เป็นภรรยาของไห่เทียนชื่อ ไห่เทียนชื่อก็คือเซี่ยทิงเทาที่คุณหนูเรียกนั่นแหละ เขากับผมไม่ได้เป็นเพื่อนกัน” จินป๋อเหวินอธิบาย ท่าทางการพูดเหมือนหมอกู้เมื่อก่อนไม่มีผิด
หมอกู้ชำเลืองมองจินป๋อเหวิน มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย รูปร่างหน้าตาของเขาแย่กว่าหลานชายเป็นพันเท่า ตอนนั้นลี่ลี่อันดันมองเขาเข้าตา สายตาย่ำแย่จริง ๆ
สิ่งที่ลี่ลี่อันและจินป๋อเหวินพูดก่อนหน้านี้ อันที่จริงเขาและเซี่ยทิงเทานั้นได้ยินทุกอย่าง ส่วนที่ว่าทำไมลี่ลี่อันถึงเลือกเซี่ยทิงเทาแทนที่จะเป็นจินป๋อเหวิน กลัวว่านอกเหนือจากพรสวรรค์และรูปลักษณ์ของเซี่ยทิงเทาแล้ว เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเซี่ยถิงเทานั้นตัวคนเดียวไม่มีภาระ
ไม่มีพ่อแม่ให้ต้องเป็นกังวลแถมยังเป็นหนุ่มหล่อและมีความรู้ และยังเป็นสามีที่สมบูรณ์แบบที่พระเจ้าส่งมาให้ลี่ลี่อัน ลี่ลี่อันเพิ่งจะอายุเพียงยี่สิบต้น ๆจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?
ตอนที่ 1740 โชคดีจริงๆ
หมอกู้อธิบายที่มาของชื่อไห่เทียนชื่อให้เหมยเหมยฟัง ความรู้สึกเดียวที่เหมยเหมยก็คือชีวิตที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านิยาย อีกทั้งความโชคดีของอาจารย์ลุงของเธอคนนี้
ลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลานานแต่ไม่โดนฉลามกินและยังได้พบสาวงามช่วยชีวิตไว้อีก แถมยังได้แต่งงานกับสาวงามอีกด้วย!
ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้!
“อันที่จริงผมเป็นคนกระโดดลงไปช่วยไห่เทียนชื่อขึ้นมาเองแหละ” จินป๋อเหวินรู้สึกว่าเขาต้องบอกความจริงให้กระจ่างเสียที
เหมยเหมยมุ่นคิ้ว กลิ่นไม่ชอบมาพากลในอากาศชัดเจนเกินไป แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นด้วยตัวเองแต่ก็พอจะเดาได้บ้างว่า
มันไม่น่ามีอะไรมากไปกว่ารักสามเส้า
“ขอบคุณคุณจินสำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิตอาจารย์ลุงของฉันไว้ พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเพื่อขอบคุณอีกครั้ง!” เหมยเหมยลุกขึ้นและโค้งคำนับ ทำเอาจินป๋อเหวินตระหนกเลยทีเดียว รู้สึกกระดากใจขึ้นมา
“อันที่จริงก็ไม่นับว่าเป็นฉันคนเดียวที่ช่วยหรอก ตอนนั้นยังมีคนอื่น ๆช่วยด้วย”
“ก็ยังต้องขอบคุณคุณจินอยู่ดี” เหมยเหมยยิ้มบางด้วยท่าทีจริงใจเป็นอย่างมาก ในใจของจินป๋อเหวินก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปใหญ่ เขารู้สึกเพียงแค่ว่าศิษย์หลานของเซี่ยทิงเทาน่ารักกว่าเขาตั้งหลายร้อยเท่า
ริมชายหาดดูคึกคัก มีเรือสปีดโบ๊ทและเรือสำราญเรียงรายเต็มไปหมด จินป๋อเหวินเช่าเรือสปีดโบ๊ทแล้วเรียกให้พวกเหมยเหมยขึ้นไป ขับมุ่งหน้าไปทางทะเลหลวงอย่างชำนาญ
รถคันหนึ่งจอด หลังจากยืนยันทิศทางเรือของพวกเหมยเหมยแล้ว พวกเขาก็ขึ้นรถและเคลื่อนตัวออกไป
หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆผ่านไปพวกเหมยเหมยก็มาถึง เซี่ยทิงเทาและลี่ลี่อันรอพวกเขาอยู่ที่ดาดฟ้า เซี่ยทิงเทาจำเหมยเหมยได้ทันทีที่เห็นเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆคนนี้เหมือนกับศิษย์น้องในตอนนั้นหยั่งกับแกะ โดยเฉพาะไฝสีแดงชาดตรงหว่างคิ้ว
“ฉัน…ฉันเป็น…อาจารย์ลุงของเธอ” เสียงของเซี่ยทิงเทาสั่นเทา น้ำตาคลอเบ้า
“สวัสดีค่ะอาจารย์ลุง หนูคือจ้าวเหมย เรียกหนูว่าเหมยเหมยก็พอแล้วค่ะ” เหมยเหมยก้มคำนับอย่างจริงจัง เธอเคยเห็นรูปถ่ายของเซี่ยทิงเทาเมื่อเธอยังเด็ก หน้าตาหล่อเหลาเป็นอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในวัยกลางคน ผมที่เคยดกดำกลับมีผมขาวบ้างประปราย แต่มันก็เป็นเสน่ห์ของชายวัยกลางคน
แน่นอนว่าลี่ลี่อันก็ไม่เลว บุคลิกดูสง่างาม หน้าตาสะสวย แต่งตัวดูดีมาก พอยืนอยู่กับเซี่ยทิงเทาก็สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เหมือนสวรรค์สร้างพวกเขาสองคนขึ้นมา
“เหมยเหมย นี่คือภรรยาของลุงเองชื่อลี่ลี่อัน” เซี่ยทิงเทาแนะนำภรรยา
“สวัสดีค่ะป้าสะใภ้” เหมยเหมยก้มลงคำนับอีกครั้ง ลี่ลี่รีบตรงปรี่เข้าไปประคองแล้วยื่นกล่องเหล็กสีแดงให้เธอ พูดอมยิ้มว่า “ของขวัญเล็ก ๆน้อย ๆ เหมยเหมวเอาไว้พกติดตัวนะ”
เหมยเหมยเปิดกล่องดูก็เห็นแสงสีขาวเปล่งประกายเจิดจ้า นี่เป็นสร้อยข้อมือหยกมรกตที่สวยงามจนแทบจะทำให้คนหายใจไม่ออก อีกทั้งยังเป็นหยกมรกตที่ดีที่สุด——มรกตจักรพรรดิเขียว
ต่อให้จะมีเงินก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะหาซื้อหยกมรกตสีเขียวที่ดูดีเช่นนี้ได้ มูลค่าไม่สามารถประเมินค่าได้เลย
“มันล้ำค่าเกินไป!” เหมยเหมยรู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง คิดจะคืนสร้อยข้อมือให้กับลี่ลี่อันแต่กลับโดนมือของเธอปรามไว้
“พ่อแม่ของฉันมีเหมืองแร่มากมาย สำหรับที่อื่นอาจเป็นของหายาก แต่สำหรับบ้านฉันก็เหมือนก้อนหิน เธอแค่พกไว้เล่น ๆก็พอ” ลี่ลี่อันพูดอย่างสบาย ๆ สมบัติหายากในสายตาของผู้อื่น ในสายตาของเธอมันกลับกลายเป็นแค่หินเท่านั้น
เหมยเหมยมุมปากกระตุก นี่สิถึงจะเรียกว่ารวยของจริง!
พวกผู้หญิงที่เที่ยวโอ้อวดกระเป๋าน้ำหอมและเครื่องประดับพวกนั้น ต่อหน้าป้าสะใภ้ของเธอคนนี้คงถือว่าไร้ระดับทั้งนั้น!
“ขอบคุณค่ะป้าสะใภ้!”
ในเมื่อลี่ลี่อันพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอยังปฏิเสธอีกก็คงไม่ดีเลยรับไว้แล้วกัน
มีคนมาเสริฟน้ำชาและของหวาน ลี่ลี่อันเรียกให้เหมยเหมยมากิน เซี่ยทิงเทาถามอย่างร้อนใจว่า “เหมยเหมย แม่ของเธอสบายดีไหม?”
“แม่สบายดีค่ะ เพียงแต่มีแค่เธอคนเดียวมันยุ่งเกินไปจริง ๆ แม่ของหนูอยากตามตัวอาจารย์ลุงให้กลับไปช่วยพัฒนาฟื้นฟูสำนักตานชิงให้รุ่งโรจน์ เพราะแม่บอกว่าอาจารย์ลุงสิถึงจะเป็นทายาทของคุณตา เธอได้เรียนแค่ผิวเผินเท่านั้นเอง” เหมยเหมยพูดอย่างจริงใจ
เซี่ยทิงเทากลับหน้าถอดสี ความเศร้าปรากฎขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วก็หายไป
…………………………………………..
ตอนที่ 1741 เรือที่ไม่น่าไว้ใจ
เหมยเหมยเกิดความสงสัยในใจ หรือเซี่ยทิงเทาไม่อยากกลับประเทศ?
แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ ดูก็รู้ว่าลี่ลี่อันเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก และเป็นไปได้ว่าช่วงหลายปีมานี้เซี่ยทิงเทาเองก็อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ไม่แปลกเลยที่เหยียนหมิงซุ่นและจ้าวอิงหัวตามตัวเขาในฮ่องกงมาตั้งนานแต่ก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย
อาศัยอยู่ต่างประเทศมานานหลายปี ลูกชายลูกสาวก็อยู่ที่นั่น แล้วจะให้เซี่ยทิงเทาละทิ้งทุกอย่างกลับประเทศก็ดูจะเป็นเรื่องที่ฝืนใจเกินไปจริง ๆ
“อาจารย์ลุงไม่กลับประเทศก็ไม่เป็นไรค่ะ ในประเทศยังมีหนูกับแม่หนูอยู่ อาจารย์ลุงมาเข้าร่วมกิจกรรมบางส่วนบ้างก็พอค่ะ แม่หนูจะได้ไม่ต้องไปทุกครั้ง คนพวกนั้นชอบเยาะเย้ยแม่ว่าเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆประจำเลยค่ะ” เหมยเหมยเอ่ยขึ้น
เซี่ยทิงเทาพูดด้วยโทสะ “แม่เธอมีความสามารถสูงส่ง อาจารย์มักจะยกยอแม่ของเธอว่าเป็นผู้มีจิตวิญญาณ คนพวกนั้นต่างหากที่มีตาหามีแววไม่”
แต่เขาก็ยิ่งกังวลมากกว่าเดิม หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะกลับประเทศโดยเร็ว ไปยืนยันต่อหน้าคนทั้งโลกว่าเขาเซี่ยทิงเทาคือศิษย์ของอาจารย์ แต่เขาทำไม่ได้ไงล่ะ!
ลี่ลี่อันมองสามีด้วยความละอายใจ รู้สึกลำบากใจเหลือเกิน
ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ทำให้สามีต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยจนเขาทำตามปณิธานของตัวเองไม่ได้!
“ไม่งั้นคุณกลับไปเถอะ…” ลี่ลี่อันพูดด้วยความลังเล
จินป๋อเหวินหลุดปากคัดค้านเธอ “ถ้าเขากลับไปแล้วเธอกับลูก ๆจะทำอย่างไร? จะต้องโดดเดี่ยวอยู่อเมริกาเหรอ?”
เซี่ยทิงเทาลูบมือภรรยาพร้อมพูดปลอบใจเธอว่า “ผมไม่ทิ้งคุณกับลูก ๆไปหรอก ครอบครัวเราจะไม่แยกจากกัน”
ลี่ลี่อันแอบนึกโล่งใจถือว่าเธอเห็นแก่ตัวก็แล้วกัน เธอไม่อยากให้ครอบครัวต้องแยกจากกันเลยจริง ๆ!
เซี่ยทิงเทามองเหมยเหมยด้วยแววตาขอโทษ “เซี่ยทิงเทาตายไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ไห่เทียนชื่อ เป็นฉันที่ทำผิดต่ออาจารย์เอง”
เหมยเหมยกระพริบตาปริบ ๆอย่างฉงน หมายความว่ายังไง?
แล้วตรงหน้าเธอนี่คือซอมบี้งั้นเหรอ?
“อาจารย์ลุงหมายความว่าไงคะ? หนูไม่เข้าใจ คุณลุงก็มีชีวิตปกติสุขดีไม่ใช่เหรอคะ?” เหมยเหมยไม่เข้าใจเอามาก ๆเธอรู้สึกว่าสองสามีภรรยาดูแปลก ๆแต่เธอก็พลันนึกถึงคำพูดของจินป๋อเหวินเมื่อวานขึ้นมาได้ ลี่ลี่อันมีสถานะพิเศษจึงไม่อาจปรากฏตัวในเมืองได้
หรือว่าอาจารย์ป้าคนนี้จะเป็นบุคคลที่เก่งกาจอย่างนั้นเหรอ?
หมอกู้หน่ายเต็มทีที่จะฟังคนพวกนี้ทะเลาะกัน ในจังหวะที่จะเปิดปากอธิบายให้ชัดเจน ฉับพลันก็มีชายหนุ่มร่างสูงกำยำผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาพูดกระซิบข้างหูลี่ลี่อันไม่กี่ประโยค เขาไม่ได้พูดภาษาฮวาเซี่ยแล้วก็ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ พูดพึมพำเสียงเบา เหมยเหมยฟังไม่ออกเลยสักประโยค
แต่เธอรู้สึกได้ สายตาของชายหนุ่มที่มองมาทางเธอนั้นไม่ประสงค์ดีนัก
ลี่ลี่อันมีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็พลันส่ายหน้า เธอพึมพำพูดไม่กี่ประโยคชายหนุ่มก็มีท่าทีไม่พอใจ แต่ไม่นานก็ออกไป ผ่านไปสักพักเรือสำราญก็เริ่มเคลื่อนตัวห่างจากฮ่องกงออกไปไกลเรื่อย ๆ
“มีเรือที่ไม่น่าไว้ใจมุ่งหน้ามาทางนี้ ฉันให้คนสลัดพวกมันทิ้งก่อน!” ลี่ลี่อันฝืนยิ้มออกมา เห็นได้ชัดว่าเรือที่ไม่น่าไว้ใจลำนั้นก็คือผู้มาเยือนที่ไม่ประสงค์ดี
จินป๋อเหวินตำหนิตนเองไม่หยุดจึงพูดแนะนำว่า “ต้องเป็นเพราะความไม่ระวังของฉันถึงได้ตกเป็นเป้าสายตาพวกมัน ฉันว่าเอาแบบนี้ดีไหม พวกเธอแยกกัน ฉันกับคุณหนูจ้าวและคนอื่น ๆจะนั่งสปีดโบ๊ตกลับฮ่องกง”
“ไม่ได้หรอก ที่นี่เป็นทะเลหลวง คนพวกนั้นต้องจัดการพวกนายแน่ ๆ สลัดพวกมันทิ้งก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ลี่ลี่อันปฏิเสธทันที เธอจะให้เพื่อนและศิษย์หลานของสามีตายไม่ได้ บนเรือสำราญมีลูกน้องฝีมือดีที่พ่อเธอส่งมาอยู่ด้วยคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก
เสียวหลี่หยิบกล้องส่องทางไกลออกมา เขาดูท่าทีเคร่งขรึม พลันพูดกับเสี่ยวอวิ๋นว่า “เป็นคนของเฉินกั๋วเปียว รีบจุดพลุส่งสัญญาณ!”
เสี่ยวอวิ๋นก็มีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นมาทันทีเช่นกัน หยิบพลุส่งสัญญาณออกมาเตรียมที่จะจุดปล่อย แต่ชายหนุ่มเมื่อครู่กลับปรากฏตัวขึ้นและพยายามจะหยุดไม่ให้เสี่ยวอวิ๋นจุดพลุส่งสัญญาณ
“คุณจะทำอะไร?” ภาษาฮวาเซี่ยของชายหนุ่มแข็งกระด้างมากและเขามีท่าทีโมโหสุด ๆ
ตอนที่ 1742 ผู้มาเยือนที่ไม่ประสงค์ดี
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำ หน้าตาหล่อเหลาแต่ความดุร้ายในแววตาของเขาดูเหมือนจะไม่ใช่คนดีอะไร เขาบีบคอเสี่ยวอวิ๋นจนแน่น จ้องเธออย่างโหดเหี้ยมราวกับจะกินคนก็ไม่ปาน
“เม่าฉู่หยุดนะ!” ลี่ลี่อันห้ามชายหนุ่มนั่นไว้ พร้อมเอ่ยขอโทษต่อเหมยเหมย “ขออภัยด้วย เม่าฉู่แค่เป็นห่วงฉัน ไม่ได้มีเจตนาร้าย”
ชายหนุ่มที่ชื่อเม่าฉู่ดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก พูดค้านขึ้นว่า “พวกเขาต้องจงใจล่อคนพวกนั้นมาแน่ ตอนนี้พวกมันคงกำลังจะแอบส่งข่าว”
“ไม่หรอก เม่าฉู่นายกลับห้องเครื่องไปก่อนเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง” ลี่ลี่อันพูดเกลี้ยกล่อมไม่กี่คำ เม่าฉู่ที่แม้จะดูโหดเหี้ยมแต่ก็ถือว่าเชื่อฟังเธอมาก เขาหันไปจ้องเหมยเหมยครั้งหนึ่งก่อนจะกลับไปที่ห้องเครื่อง
“คุณหนู คนที่มาเป็นลูกน้องของหัวหน้ามาเฟียเฉินกั๋วเปียว คนพวกนี้ฆ่าคนอย่างไม่ปรานี ทำอะไรไม่สนเรื่องทำนองคลองธรรม ฉันต้องแจ้งข่าวพวกพ้องคนอื่น ๆ ฉันกับเสียวหลี่ปกป้องคุณหนูไม่ไหว”
เสี่ยวอวิ๋นร้อนใจมาก ในตอนนี้ฮ่องกงคานอำนาจกันสามคน เฉินกั๋วเปียวคือหนึ่งในนั้น แม้เขาจะไม่ได้มีอำนาจสูงสุด แต่ก็เป็นคนที่น่าปวดหัวที่สุด
แม้ว่าอีกสองคนที่เหลือก็ฆ่าคนโหดเหี้ยมเช่นกันแต่ก็ยังยึดหลักทำนองคลองธรรมอยู่บ้าง เฉินกั๋วเปียวเหมือนพวกจิตวิปริตที่ทำทุกอย่างตามใจตนเอง ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ สิ่งที่น่าเกลียดที่สุดคือเฉินกั๋วเปียวผู้นี้เป็นเจ้าแห่งยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของพ่อลี่ลี่อัน
ถึงลี่ลี่อันจะไม่สนใจเรื่องของผู้เป็นพ่อแต่เธอก็พอจะรู้จักบุคคลสำคัญเหล่านี้ และเป็นธรรมดาที่จะต้องรู้จักเฉินกั๋วเปียว เธอจึงนิ่งจมอยู่กับความคิด
เหตุที่เธอแอบหลบ ๆซ่อน ๆมาพบเหมยเหมยในทะเลหลวง ความจริงก็เพื่อหลีกเลี่ยงเฉินกั๋วเปียว เพราะพ่อของเธอกับเฉินกั๋วเปียวทะเลาะกันจนแตกคอกัน นั่นเป็นเพราะเฉินกั๋วเปียวไม่สนหลักทำนองคลองธรรม เขาฆ่าพี่ใหญ่ที่เป็นพี่น้องร่วมสาบานของเขา หนำซ้ำพี่ใหญ่ยังเป็นเพื่อนสนิทของพ่อลี่ลี่อันด้วย
หนำซ้ำเฉินกั๋วเปียวยังได้ขายภรรยาและลูกสาวของเขาไปย่านโคมแดงในตะวันออกกลาง ในเวลาไม่นานก็ต้องใช้ชีวิตทรมานจนตายจากการลงมืออันเหี้ยมโหด ถือเป็นการทำลายกฎหมายสถาบันครอบครัวอย่างสิ้นเชิง
เมื่อก่อนพ่อของลี่ลี่อันคิดมาเสมอว่าเขาตายด้วยเงื้อมมือของเหล่าศัตรู ไม่คิดมาก่อนว่าจะเป็นเฉินกั๋วเปียว และด้วยการที่เห็นแก่หน้าของเพื่อนสนิทจึงดูแลเอาใจใส่เฉินกั๋วเปียวเป็นอย่างดี
จนกระทั่งชายหนุ่มที่อ้างตนว่าเป็นลูกชายของพี่ใหญ่มาหาที่สามเหลี่มทองคำ พ่อของลี่ลี่อันถึงได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วพี่ใหญ่ผู้นี้มีเมียน้อยลับ ๆอยู่หนึ่งคน นอกจากนี้ยังมีลูกนอกสมรสที่อายุเพียงสิบขวบ สองแม่ลูกหลบหนีไปได้แต่ยังคงปกปิดตัวตนเอาไว้ ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอยู่บนความหวาดระแวง
แต่หญิงชู้ผู้นี้กลับเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อความรักและมีเหตุผล เธอจึงต้องการจะแก้แค้นให้พี่ใหญ่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงพาลูกชายหกระเหินเดินทางไกลไปยังสามเหลี่ยมทองคำ แต่ระหว่างทางกลับเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นจนเมื่อสองปีก่อนถึงเพิ่งได้เจอพ่อของลี่ลี่อัน
พ่อของลี่ลี่อันโกรธมาก ในใจคิดแค่จะแก้แค้นให้กับเพื่อนสนิทจึงถือโอกาสตอนที่เฉินกั๋วเปี่ยวมาเหมาของที่สามเหลี่ยมทองคำ วางแผนซุ่มดักโจมตีเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราอะไรข่าวถึงได้แพร่งพรายออกไปได้ เฉินกั๋วเปียวจึงสูญเสียลูกน้องไปเพียงไม่กี่คนแล้วก็หลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เฉินกั๋วเปียวก็กลายเป็นศัตรูของพ่อลี่ลี่อัน เขาร่วมมือกับเจ้าพ่อยาเสพติดคนอื่น ๆในสามเหลี่ยมทองคำ โดยต้องการจะทำลายพ่อของลี่ลี่อันแล้วเข้ามาแทนที่
ลี่ลี่อันกัดฟันกรอดพลางพูดขึ้นว่า “พวกเธอไม่ต้องห่วง เป้าหมายของเฉินกั๋วเปียวคือฉัน เดี๋ยวฉันจะไปหลอกล่อพวกมันเอง”
“ไม่ได้นะ ลี่ลี่อันเธออยู่บนเรือนี่แหละ ฉันไปเอง” เซี่ยทิงเทาแสดงท่าทีเด็ดเดี่ยว ยากที่จะคัดค้านได้
ผู้ชายแท้ ๆจะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองไปเผชิญหน้ากับปัญหาได้อย่างไร?
เหมยเหมยได้ฟังดังนั้นกลับสับสนมึนงง จึงถามไปว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แล้วทำไมเฉินกั๋วเปียวต้องตามจับอาจารย์ป้าด้วย?”
ในเวลานี้เรือของเฉินกั๋วเปียวเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ มีเรือถึงสามลำ ดูท่าพวกมันจะเอาตัวลี่ลี่อันไปให้ได้!
ลี่ลี่อันถอนหายใจ พลางเอ่ยว่า “ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นเพราะฉันที่ทำให้พวกเธอเดือดร้อน ฉันคือลูกสาวของหมิ่นเติง”
…………………………………………………………..
ตอนที่ 1743 ลูกสาวของหมิ่นเติง
เหมยเหมยไม่รู้จักหมิ่นเติงเลยด้วยซ้ำแต่สีหน้าของเสียวหลี่กับเสี่ยวอวิ๋นกลับเปลี่ยนไปมาก มองหน้าลี่ลี่อันด้วยความตื่นตระหนกร่างแทบทรุดลงกลับพื้น
หมิ่นเติงพวกเขาคุ้นเคยเสียยิ่งกว่าอะไร
เจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในสามเหลี่ยมทองคำ และยังมีกองกำลังอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด เคยเปิดฉากยิงต่อสู้กับกองทัพฮวาเซี่ยด้วย เป็นบุคคลที่ติดอันดับหนึ่งในคำสั่งฆ่าระดับ SSS ของรัฐบาล
ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะอยู่บนเรือลำเดียวกับลูกสาวของหมิ่นเติง ซ้ำผู้หญิงคนนี้ยังเป็นภรรยาอาจารย์ลุงของคุณหนูเสียด้วย
โลกใบนี้มันเล็กเกินไปแล้ว!
เสี่ยวอวิ๋นกระซิบบอกตัวตนของพ่อลี่ลี่อันข้างหูเหมยเหมย ทำเอาลูกตาของเหมยเหมยแทบกระเด็นออกมา แย่แล้ว ยังมีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกเหรอ?
ลูกสาวของเจ้าพ่อค้ายาเสพติดได้ช่วยชีวิตคนตกอับอย่างเซี่ยทิงเทาไว้ ทั้งสองตกหลุมรักกัน…
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์ลุงถึงได้ทำทีลับ ๆล่อ ๆ ซ้ำยังบอกอีกว่าเซี่ยทิงเทาตายไปแล้ว ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะ ลูกเขยของเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่…
หากรัฐบาลฮวาเซี่ยรู้ตัวตนของเขาเข้า เกรงว่าชื่อเสียงของคุณตาก็คงจบสิ้นกันพอดี
เหมยเหมยแอบก่นด่าในใจไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือจะหนีออกไปอย่างไร?
เธอไม่อยากกลายเป็นอาหารเย็นของพวกปลาฉลามนะ!
“อาจารย์ป้าคะ บนเรือมีคนของคุณป้าอยู่กี่คน?” เหมยเหมยถามอย่างจริงจัง
ลี่ลี่อันชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะรีบตอบว่า “ยี่สิบกว่าคน เป็นลูกน้องฝีมือดีของพ่อฉัน เหมยเหมยไม่ต้องกังวลนะ พวกเราจะไม่เป็นไร”
เหมยเหมยกลอกตาไปที ถ้าหากว่าริมฝีปากของลี่ลี่อันไม่ซีดขาว คำพูดเหล่านี้ก็คงจะเป็นตัวช่วยได้มาก
“มังกรที่แข็งแกร่งก็ยากที่จะสยบคนพาลได้ ต่อให้คนของอาจารย์ป้าจะเก่งแค่ไหนก็คงไม่คุ้นเคยกับน่านน้ำทะเลที่นี่ กลัวว่าจะสู้คนพวกนั้นไม่ได้ เพราะงั้นเราจะต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก”
เหมยเหมยไม่รอให้ลี่ลี่อันตอบตกลง พูดกับเสี่ยวอวิ๋นว่า “จุดพลุส่งสัญญาณ!”
หากเทียบกับลี่ลี่อัน เธอไว้ใจลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นมากกว่า!
สัญญาณพลุได้คำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า ลี่ลี่อันมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูจะสับสนเอามาก ลอบถอนหายใจไปพลางแต่ก็ไม่พูดอะไรแค่เดินไปทางห้องใต้ท้องเรือ เธอต้องบอกเม่าฉู่สักหน่อย
เหมยเหมยหยิบปืนพกบราวนิงทรงพลังออกมาจากกระเป๋า เหยียนหมิงซุ่นสั่งทำขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ ยิงได้ในระดับที่ไกลกว่าปืนธรรมดาแต่ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถเก็บซ่อนไว้ในกระเป๋าโดยไม่เป็นที่สะดุดตาใคร
เสียวอวิ๋นกับเสียวหลี่เตรียมอาวุธพร้อมและบอกให้เหมยเหมยเข้าไปหลบห้องใต้ท้องเรือ เธอจะคอยระวังภัยอยู่ด้านนอก
จินป๋อเหวินมีท่าทีสงบนิ่งราวกับไม่เกรงกลัวเลยสักนิด แต่นัยน์ตาของเขากลับฉายแววตื่นตระหนก แม้ว่าในฮ่องกงจะอนุญาตให้ใช้ปืนส่วนบุคคลได้แต่ใบอนุญาตปืนส่วนบุคคลไม่ได้จัดการได้ง่าย ๆ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องยากที่คนในประเทศจะทำได้
แต่จ้าวเหมยมาถึงฮ่องกงยังไม่ถึงครึ่งเดือนกลับหยิบปืนออกมาโต้ง ๆ เห็นได้ชัดว่าปืนกระบอกนี้ทำไว้นานแล้ว หนำซ้ำเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของจ้าวเหมย เห็นได้เลยว่าตัวตนในประเทศของจ้าวเหมยนั้นไม่ธรรมดาแน่
หากไม่ใช่ลูกสาวของผู้มีอิทธิพล ก็ต้องเป็นผู้หญิงของผู้มีอิทธิพล!
ถ้าหากไม่ใช่ล่ะก็ เขายอมกัดแปรงขัดโถส้วมเลย!
เรือสามลำนั้นเข้ามาใกล้เรือสำราญของพวกเขาขึ้นเรื่อย ๆในระยะไม่เกินหนึ่งเมตร เสี่ยวอวิ๋นเปิดยิงปืนก่อน คนที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าล่วงลงไปในทะเลแต่ลูกน้องของเฉินกั๋วเปียวยังไม่ทันรู้ตัว ราวกับไม่คิดว่าคนของลี่ลี่อันจะเป็นฝ่ายยิงก่อนจึงตกใจไปพักหนึ่ง
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นอีกนัดเป็นเสียวหลี่ที่ยิง มีคนตกลงไปจากเรืออีกลำหนึ่ง
กลองสงครามยังไม่ทันเริ่มตีฝ่ายตรงข้ามก็สูญเสียไปถึงสองคน และแน่นอนว่าเรือสามลำนั้นไม่ใช่คนใจบุญจึงโจมตีกลับอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วขณะเสียงระเบิดก็ดังขึ้นติดต่อกันราวกับเคี้ยวถั่วทอดก็มิปาน
ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องของเฉินกั๋วเปียวหรือคนที่ลี่ลี่อันพามาด้วย ในความเป็นจริงก็ล้วนเป็นพวกหัวมังกุฏท้ายมังกร[1] ไม่ทำตามกฎเกณฑ์ใด ๆเลย ไม่มีอะไรเทียบได้กับหน่วยรบพิเศษอย่างเสี่ยวอวิ๋นและเสียวหลี่สักนิด
ตอนที่ 1744 หาวิธีการรับมือ
เสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่แทบจะผลัดกันยิงคนละนัดและทุกนัดก็เล็งยิงไปที่หัว ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีฝ่ายตรงข้ามก็ล้มตายไปหลายคน แต่เสี่ยวอวิ๋นและคนอื่น ๆกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จินป๋อเหวินได้เห็นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
ในฐานะทนายชื่อดังชั้นนำ จินป๋อเหวินไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา เมื่อก่อนเขาเคยติดต่อกับคนในฮวาเซี่ยจึงค่อนข้างเข้าใจถึงสถานการณ์ภายในฮวาเซี่ยพอสมคร ฝีมือของเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดธรรมดา หากไม่ใช่พวกทหารรับจ้างก็คงต้องเป็นทหารประจำการ
การควบคุมในฮวาเซี่ยเข้มงวดมากจึงไม่สามารถใช้ทหารรับจ้างได้ งั้นก็เหลือความเป็นไปได้อยู่แค่อย่างเดียว เสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่คือทหารประจำการและเป็นถึงหน่วยรบพิเศษลึกลับในตำนาน
จินป๋อเหวินหันมามองเหมยเหมยที่นั่งอยู่ข้าง ๆด้วยท่าทีสงบ ในใจราวกับถูกคลื่นโหมซัดอย่างบ้าคลั่ง ผู้หญิงที่มีหน่วยรบพิเศษปกป้องอยู่ใกล้ตัว นี่เป็นจุดบ่งชี้อย่างชัดเจนเลยว่าฐานะในประเทศของคุณหนูผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ไม่แปลกใจเลยที่คุณหนูจ้าวผู้นี้จะกล้าหยิ่งผยองในฮ่องกง หนำซ้ำยังลงมือได้อย่างเปิดเผย!
“คุณหนูจ้าว อีกฝ่ายคนมากกำลังเยอะ ถึงบอดี้การ์ดทั้งสองคนของคุณหนูจะเก่งกาจแต่เกรงว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เราคิดหาวิธีอื่นไว้จะดีกว่านะ” จินป๋อเหวินพูดกระซิบ
เหมยเหมยเข้าใจเหตุผลของเขา ทีมช่วยเหลือภายนอกก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ บาดแผลของเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่ยังไม่หายสนิท ลูกน้องของลี่ลี่อันคงไม่สนต่อความเป็นความตายของเธอ ต้องคิดหาวิธีอื่นแล้วล่ะ
“เป้าหมายของเฉินกั๋วเปียวมีแค่อาจารย์ป้าลี่ลี่อันใช่ไหมคะ?” เหมยเหมยถาม
“ใช่ครับ”
จินป๋อเหวินพยักหน้าเหงื่อซึมออกกลางหน้าผาก ตอนนี้เขานึกเสียใจที่ออกทะเลมา เดือนหน้าก็จะเป็นวันบรรลุนิติภาวะของลูกสาวคนโตแล้ว เขาต้องปกป้องลูกสาวของเขาเพื่อไม่ให้พวกหมาป่าคาบไปได้ และเขาก็รับปากกับลูกสาวไว้ว่าจะไปดิสนีย์แลนด์ด้วยกัน ซึ่งไม่เคยเป็นจริงเลยสักที
ยังมีลูกในท้องของภรรยาอีก ไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิง อีกแค่สามเดือนก็จะคลอดแล้ว…
ถ้าเขาตายไป แล้วภรรยากับลูกสาวจะทำอย่างไร?
ในห้วงเวลาสั้น ๆแค่ไม่กี่วินาที ในหัวสมองของจินป๋อเหวินเหมือนกับฉายภาพยนตร์อยู่ ปรากฏภาพเหตุการณ์จนนับครั้งไม่ถ้วน เขานึกเสียใจจะแย่อยู่แล้ว
“คุณหนูจ้าว ทีมช่วยเหลือภายนอกของคุณหนูจะมาเมื่อไหร่?” จินป๋อเหวินถามเสียงสั่นจนฟันกระทบกัน
เหมยเหมยเหลือบมองเขาแวบเดียว “ไม่รู้ ฉันไม่ใช่จูกัดเหลียง[1]นะคะ”
เธอคร้านที่จะมองหน้าจินป๋อเหวินจอมซื่อบื่อนี่เหลือเกิน เสียดายชื่อเสียงทนายชื่อดังระดับแถวหน้าจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าสถานะของลี่ลี่อันมีปัญหาแล้วยังกล้าพาเธอมาทะเลหลวงโดยไม่สนความเป็นความตายอีกเหรอ?
คงพูดได้แค่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหากได้ตกหลุมรักใครสักคน ไอคิวก็จะติดลบทันที!
เห็นได้ชัดว่าคนโง่อย่างจินป๋อเหวินมีสายใยรักต่อลี่ลี่อัน ต้องไว้อาลัยแทนภรรยาของเขาแล้วล่ะ!
เหมยเหมยไม่สนใจจินป๋อเหวินอีก เดินไปหลังห้องเครื่อง ลูกน้องของลี่ลี่อันทุกคนอยู่ที่นั่นและมีคนได้รับบาดเจ็บแต่ดีที่อาการไม่หนัก ซึ่งนี่นับว่าไม่ใช่ข่าวดีนักเพราะเป็นการบ่งบอกว่าคนของลี่ลี่อันรับมือกับลูกน้องของเฉินกั๋วเปียวไม่ได้
และอาจพูดได้ว่าเฉินกั๋วเปียวคงไม่มีทางปล่อยลี่ลี่อันไปแน่ ไม่แม้แต่จะเมตตาเห็นใจเด็ดขาด
ส่วนคนที่เป็นแค่ทางผ่านอย่างเธอ เกรงว่าเฉินกั๋วเปียวอาจจะฆ่าแล้วป้อนให้ปลาฉลามกิน ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
“อาจารย์ป้าคะ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ฉันมีอยู่วิธีหนึ่งที่จะทำให้เรารอดออกไปได้ แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากคนของอาจารย์ป้า” เหมยเหมยพูด
ลี่ลี่อันกัดฟัน “ได้สิ เหมยเหมยพูดมาเลย”
“คุณและคุณลุงไปหาที่ลับเพื่อซ่อนตัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามปรากฏตัวออกมาและคุณป้าต้องบอกให้ลูกน้องของคุณป้าแสร้งทำเหมือนเป็นคนของหนู แต่ห้ามพูดเด็ดขาด เลี่ยงไม่ให้เฉินกั๋วเปียวเกิดความสงสัย…”
เหมยเหมยพูดความคิดของเธอออกมา เฉินกั๋วเปียวแค่สงสัยความเคลื่อนไหวของจินป๋อเหวินจนคิดว่าลี่ลี่อันอาจอยู่บนเรือลำนี้แต่ก็ยังไม่แน่ชัด ดังนั้นขอแค่ลี่ลี่อันไม่ปรากฏตัว เธอก็ยังพอจะหาวิธีรับมือกับเฉินกั๋วเปียวได้บ้าง
[1] หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนามขงเบ้ง เขาเป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้วิชาอย่างแตกฉาน
…………………………………………………………….
ตอนที่ 1745 ความต้องการที่แน่วแน่
ลี่ลี่อันลังเลเป็นอย่างมาก จริง ๆแล้วเม่าฉู่เป็นเด็กที่เธอรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มีสถานะเป็นเจ้านายและผู้รับใช้ มีความสัมพันธ์ที่ดีจึงคู่ควรที่จะไว้วางใจ แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะไว้วางใจเหมยเหมยดีไหม
เม่าฉู่ไม่ไว้ใจเลยสักนิด เขาพูดพึมพำขึ้นว่า “คุณหนูอย่าไปเชื่อพวกมัน ต่อให้ผมต้องพาพวกพ้องไปตายก็จะปกป้องคุณหนูให้รอดพ้นออกไปให้ได้”
สั่งไม่ให้พวกเขาคัดค้าน ก็เห็นได้ชัดว่าสมรู้ร่วมคิดกับเฉินกั๋วเปียวทำร้ายคุณหนู เหอะ!
นายพลพูดถูกทุกอย่าง คนฮวาเซี่ยเชื้อสายฮั่นเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวที่สุด มีนัยยะอย่างอื่นแอบแฝงมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ถ้าเขาเชื่อก็บ้าแล้ว!
เสียงปืนด้านนอกเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆจนไม่อาจล่าช้าได้ เหมยเหมยไม่อยากเสียเวลารอ จึงพูดกับลี่ลี่อันว่า “ในเมื่ออาจารย์ป้าไม่ไว้ใจ งั้นหนูก็ไม่มีอะไรจะพูดคงต้องรอให้คนของหนูมาถึงแล้วล่ะ”
เซี่ยทิงเทารู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก ปัญหาทั้งหมดเกิดจากเขาและภรรยา แต่กลับเป็นการทำร้ายศิษย์หลานเสียอย่างนั้น หากว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับเหมยเหมยเขาจะรับผิดต่ออาจารย์และศิษย์น้องหญิงอย่างไรล่ะ?
“ลี่ลี่อัน เหมยเหมยไม่มีทางทำร้ายพวกเราหรอก พวกเราควรไว้ใจเธอ!”
เม่าฉู่จ้องเซี่ยทิงเทาอย่างดุดัน ดวงตาฉายแววดุร้าย ชายคนนี้ไม่เหมาะสมกับคุณหนูเลย ตอนนี้ยังคิดจะทำร้ายคุณหนูอีก คนใจดำ!
ลี่ลี่อันกัดริมฝีปากล่างแน่น มีท่าทีลังเลเป็นอย่างมาก จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจ
“ได้ ฉันจะพูดกับเม่าฉู่และคนอื่น ๆทุกอย่างตามที่เหมยเหมยต้องการ”
“คุณหนู!” เม่าฉู่จ้องลี่ลี่อันอย่างไม่พอใจด้วยท่าทีโกรธเคือง
เหมยเหมยพลันโล่งอก “เวลากระชั้นชิด คุณป้าช่วยเกลี้ยกล่อมลูกน้องของคุณป้าให้เร็วที่สุด อย่าคิดกลับลำกลางคัน ไม่งั้นพวกเราทั้งหมดบนเรือนี้ไม่มีทางรอดแน่ค่ะ”
“วางใจเถอะ พวกเขาเชื่อฟังมาก” ลี่ลี่อันมั่นใจมาก ลูกน้องที่เธอพามาด้วยล้วนเป็นคนที่พ่อเลือกให้อย่างดี ซื่อสัตย์ภักดีต่อเธอมาก
ลี่ลี่อันเกลี้ยกล่อมลูกน้องได้อย่างรวดเร็ว แม้คนพวกนี้จะมีท่าทีไม่พอใจแต่ก็ถือว่าเชื่อฟังมาก เหมยเหมยจึงค่อยเบาใจลงมาบ้าง เธอให้ลี่ลี่อันกับเซี่ยทิงเทาไปหาที่ซ่อน เมื่อเห็นว่าไม่มีช่องโหว่อะไรแล้วถึงได้ออกมาจากห้องเครื่อง
ขณะนี้บนดาดฟ้าเรือเหมือนอยู่ท่ามกลางสงคราม เรือของเฉินกั๋วเปียวก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ต่อให้เสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่จะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจรับมือกับอีกฝ่ายที่คนมากอาวุธพร้อมได้หรอก
“ตู้ตาน ฉันรู้ว่าเธออยู่บนเรือ ฉันเป็นเพื่อนเก่าของพ่อเธอมานานหลายปี ทำไมมาถึงฮ่อองกงแล้วไม่แวะไปนั่งเล่นที่บ้านลุงเลยล่ะ?” น้ำเสียงหยาบกระด้างทรงพลังและยังติดสำเนียงกวนตง[1]ด้วย เหมยเหมยแอบคิดในใจว่าแย่แล้ว
นึกไม่ถึงเลยว่าเฉินกั๋วเปียวจะอยู่บนเรือด้วย เฉินกั๋วเปียวไม่ใช่คนฮ่องกงโดยกำเนิด เขาเป็นชาวตงกวนที่อพยพเข้ามารุ่นแรก ๆ แล้วตัวเขาก็ไม่เต็มใจที่จะเรียนภาษากวางตุ้งด้วยเอาแต่พูดภาษาบ้านเกิด กี่สิบปีก็พูดติดสำเนียงท้องถิ่นแบบนี้
เหมยเหมยส่งซิกให้เสี่ยวอวิ๋นหยิบโทรโข่งมา เธอตะโกนขึ้นเสียงดัง “ตู้ตานอะไรกัน? พวกแกเป็นลูกน้องของใคร? เฉินกั๋วเปียวหรือพันเย่าซิง? ถ้าเป็นอาหัวคงไม่ใช่แน่ เมื่อวานฉันยังนั่งดื่มชากับอาหัวอยู่เลย!”
เธอจงใจเอ่ยชื่อของสองคนนี้ขึ้นมาเพราะผู้มีอิทธิพลอีกคนชื่อว่าโจวจื่อหัว เป็นผู้มีอิทธิพลคนเดียวกับที่เหยียนหมิงซุ่นรู้จัก เขาเป็นมาเฟียด้านโลกมืดที่มีอิทธิพลมากที่สุด แม้แต่เฉินกั๋วเปียวและพันเหย้าซิงก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเธอโกหกเรื่องที่ไปดื่มน้ำชาด้วย โจวจื่อหัวกับเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันถึงขั้นนั้น เธอแค่ข่มขู่เฉินกั๋วเปียวเป็นการถ่วงเวลาเท่านั้นเอง
ไม่นึกเลยว่าจะข่มขู่เฉินกั๋วเปียวจนได้ผล เขาถามลูกน้องอย่างสงสัย “แม่ตู้ตานนั่นไปญาติดีกับพี่หัวตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
ลูกน้องรีบอธิบาย “ลูกพี่ คนนี้ไม่ใช่ตู้ตาน เป็นนักเขียนที่มาจากฮวาเซี่ยชื่อว่าจ้าวเหมยที่พึ่งออกทีวีไป ลูกพี่ยังชมว่าเธอสวยอยู่เลย!”
เฉินกั๋วเปียวดวงตาเป็นประกาย เสียวเหม่ยเหมยในทีวีนั่นยังสวยกว่าดาราหญิงบางคนอีก ถึงวันนี้จะจับตัวตู้ตานไม่ได้แต่ได้ตัวคนสวยไปก็ไม่เลวนี่นา
ว่าแต่คนสวยรู้จักกับโจวจื่อหัวจริงหรือ?
……………………………………………………………………
[1] บริเวณด้านตะวันออกของซานไห่กวน ภาคเหนือ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น