คัมภีร์วิถีเซียน 1733-1734

ตอนที่ 1733 เผ่าหรงในถ้ำลับ

 

ในเทือกเขากลางอากาศเหนือหุบเขานิรนามแห่งหนึ่ง เมฆสีขาวที่ดูธรรมดาๆ ก้อนหนึ่งกำลังลอยตัวอยู่


ท่ามกลางเมฆหมอก ชาวเผ่าหรงที่มีขนปุกปุยรอบตัวสองคนกำลังซ่อนตัวอยู่ลับๆ และพูดคุยอันใดกันด้วยเสียงแผ่วเบา


“พี่ซวน ชนเผ่าโหดร้ายสองสามคนจากไปหนึ่งวันแล้ว จนถึงตอนนี้เหตุใดถึงยังไม่กลับมา คงไม่ได้เกิดอุบัติเหตุหรอกกระมัง!” ชนเผ่าหรงที่มีไฝสีเขียวตรงหน้าผาก กำลังเอ่ยถามสหายร่วมวิถีด้วยความกังวลใจ


“อุบัติเหตุ? จะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร! เผ่าเมฆาสวรรค์สองคนหนีไป ล้วนสูญเสียปราณแท้ไปจำนวนมาก และเผ่าโหดร้ายที่ไล่ตามไปก็มีตั้งสี่คน จะเกิดปัญหาอันใดได้ กว่าครึ่งเผ่าเมฆาสวรรค์สองคนนั้นคงสำแดงเคล็ดวิชาลับกระตุ้นพลังอันใดสักอย่าง ดังนั้นถึงได้เสียเวลาไปนานขนาดนี้” ชนเผ่าหรงอีกคนหนึ่ง สวมเกราะสงครามสีแดงสด เอ่ยอย่างไม่คิดเช่นนั้น


“อืม ชาวเผ่าเมฆาสวรรค์สองคนนั้นเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาหลีกหนีจริงๆ มิเช่นนั้นวันนั้นคงไม่มีทางปล่อยพวกเขาหนีไป” ชาวเผ่าหรงที่เอ่ยปากก่อน ดูเหมือนจะถูกชักจูงแล้ว จึงพยักหน้า


“ทว่าอาคมส่วนสุดท้ายของอักขระจ้วนทองในถ้ำลับ คาดไม่ถึงว่าจะต้องมีแผ่นกว้างเย็นมากกว่านี้ถึงจะทำลายเขตอาคมได้ เหลือเชื่อจริงๆ เช่นนี้ พวกเราก็คงต้องรอคนอื่นๆ แล้ว และไม่รู้ว่าแผ่นกว้างเย็นสองชิ้นจะพอหรือไม่ ไม่แน่ว่าต้องมีมากกว่าสามหรือสี่แผ่น หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกเราก็อาจจะได้เคล็ดวิชาส่วนที่ชำรุดเพียงส่วนเดียวเท่านั้น” ชาวเผ่าหรงที่สวมชุดเกราะสงครามถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง


“เขตอาคมของอักขระจ้วนทองส่วนสุดท้ายไม่เหมือนกับสองสามส่วนหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด หากขาดคาถาส่วนสุดท้ายไป แม้ว่าอาคมแดนเซียนจะมหัศจรรย์ขนาดไหน เกรงว่าก็ฝึกฝนให้สำเร็จได้ยาก สิ่งที่น่าเสียดายก็คือพวกเราไม่รู้จักอักขระจ้วนทองที่เป็นอักขระของแดนเซียน มิเช่นนั้นหากเรียนรู้เนื้อหาส่วนแรกไปได้ก่อน ก็พอจะมั่นใจได้แล้ว” ชาวเผ่าหรงไฝสีเขียวเองก็มีท่าทีกลัดกลุ้มเล็กน้อย


“ในเมื่อเป็นบันทึกของเคล็ดวิชาอักขระจ้วนทอง พวกเราจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือกลุ่มที่ใกล้พวกเรามากที่สุด ก็ต้องใช้เวลาสี่ห้าวัน หากต้องใช้แผ่นกว้างเย็นมากขึ้นล่ะก็ พวกเราอาจจะต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่สองสามเดือน หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็ แผนการกักตนพัฒนาระดับของพวกเรา ก็อาจจะถูกรบกวน” ชาวเผ่าหรงสวมชุดเกราะสงครามมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน


“มีปัญหาจริงๆ แต่หากคาถาอักขระจ้วนทองมีประโยชน์ล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้เผ่าของพวกเราแข็งแกร่งขึ้นหลายส่วน หากเทียบกันแล้ว อย่างอื่นก็ไม่นับว่ามีค่าอันใดแล้ว” ชาวเผ่าหรงไฝสีเขียวขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยอย่างแช่มช้า


“แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่แดนกว้างเย็นก็เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่จะทำให้พวกเราพัฒนาขึ้นไประดับศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่อยากพลาดโอกาสงามๆ นี้” ชาวเผ่าหรงสวมชุดเกราะสงคราม เอ่ยอย่างกลัดกลุ้มเล็กน้อย


“ยามนี้พูดอย่างอื่นไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้เพียงต้องรอคอยกลุ่มอื่นแล้ว พอได้รับข่าวจากพวกเรา ก็รีบส่งแผ่นกว้างเย็นมา คิดดูแล้วก็น่าเหลือเชื่อมาก แต่ไหนแต่ไรมาเผ่าต่างๆ ของพวกเราก็เป็นแค่กุญแจในการเข้าไปในแดนกว้างเย็น ผู้ใดจะคิดได้ คาดไม่ถึงว่าแผ่นป้ายนี้จะมีประโยชน์ต่อเขตอาคมในแดนนี้ หลังจากนี้จะต้องรายงานท่านอาวุโส วันหลังยามที่แดนกว้างเย็นเปิด จะต้องระวังเรื่องนี้…”


เช่นนั้นชาวเผ่าหรงสองคนที่หลบอยู่ในเมฆาสีขาว ก็พูดคุยสลับกันไปมา


แต่หากได้ยินด้านนอกเมฆาสีขาว กลับไม่ได้เผยคำพูดใดๆ ออกมา


พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในเมฆาสีขาว คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นจากเขตอาคมมหัศจรรย์ สองคนนี้ย่อมเป็นผู้ตรวจตราคอยเตือนของเผ่าหรง


ชาวเผ่าหรงสองคนนี้ไม่รู้ว่ายามที่พวกเขาพูดคุยกัน จิตสัมผัสสายหนึ่งก็ไม่อาจพบเงาลวงตาได้ กำลังลอยอยู่เหนือเมฆาสีขาวขึ้นไปร้อยจั้งเศษ และกำลังพิจารณาทั้งสองคนอย่างไร้ซึ่งการหวาดกลัว


เขตอาคมรูปเมฆาสีขาวดูเหมือนว่าจะไม่อาจขวางกั้นสายตาของคนผู้นี้ได้


เงาร่างคนสายนี้ก็คือหานลี่ที่เสียเวลาไปครึ่งวันจนมาถึงที่นี่


แม้ว่าเขตอาคมเมฆาสีขาวจะมหัศจรรย์มาก แต่อาศัยอิทธิฤทธิ์เนตรวิญญาณของหานลี่ ก็ยังพบการดำรงอยู่ของชนต่างเผ่าทั้งสองก่อน


ทันใดนั้นก็ใช้ยันต์ชำระพิสุทธิ์ หลังจากที่ร่างกายรางเลือนไป ถึงได้บินมาถึงที่นี่อย่างแช่มช้า


เขาอาศัยจิตสัมผัสที่แข็งแกร่งกว่าคนด้านล่างทั้งสอง จึงได้ยินคำพูดของชาวเผ่าหรงทั้งสองอย่างชัดเจน


หลังจากรู้ว่าชนเผ่าหรงยังไม่ได้ของไป เขาก็ผ่อนคลายลง แต่เมื่อได้ยินว่ามีเขตอาคมในถ้ำลับ หลังจากที่ทลายป้ายกว้างเย็นแล้ว สีหน้ากลับเปลี่ยนแปลงไป


แต่ทันใดนั้นหานลี่พลันนึกอันใดขึ้นมาได้ แล้วกลับมามีสีหน้าดังเดิมอย่างรวดเร็ว


แววตาของเขาฉายแววเย็นเยียบ มองลึกไปในแววตาของผู้ที่อยู่ด้านล่างแวบหนึ่ง ร่างกายเคลื่อนไหว ลอยไปยังหุบเขาด้านล่าง


ชนต่างเผ่าสองคนที่อยู่ด้านล่างอยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่รู้สึก หากคิดจะลงมือล่ะก็ แน่นอนว่าย่อมสังหารทิ้งได้อย่างง่ายดาย


ทว่าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสองคนนี้อาจจะมีสิ่งที่เป็นแผ่นป้ายประจำกายอยู่ หากสังหารไปจริงๆ เกรงว่าคงทำให้เผ่าหรงที่เหลือในถ้ำลับตกใจ จึงต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป


ถึงอย่างไรเสียการเดินทางครั้งนี้ของเขาก็ไม่ได้มาเพื่อสังหาร


ขณะที่ยังไม่พบอักขระจ้วนทอง เขาไม่มีเจตนาจะทำให้ชนเผ่าหรงตกใจ


หานลี่ขบคิดเช่นนั้น พลันร่อนลงไปยังส่วนลึกของหุบเขายี่สิบสามสิบจั้ง ในเวลาเดียวกันแววตาก็ฉายแสงสีฟ้าสว่างวาบ กวาดมองไปทั้งสองฝั่งของหุบเขา


เขาพลันหน้าเปลี่ยนสี สายตาจ้องเขม็งไปยังกำแพงหิน


กำแพงหินมีสีเหลืองอ่อน ผิวมีลวดลายหินแตกๆ สองสามสาย ดูธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง


แต่ในสายตาของหานลี่ จากมุมมองแปลกประหลาดแล้ว ลวดลายศิลาสองสามสายนี้กลับกลายเป็นรูปภาพดาวเหนือ


ใบหน้าฉายแววดีใจออกมา เขากระตุ้นร่างกายอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด กระโจนไปที่กำแพงหิน


เสียง “สวบ” ดังขึ้น!


ผิวของกำแพงหินเปล่งแสงสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าร่างกายจะจมหายเข้าไปอย่างไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด


ผลคือครู่ต่อมาหานลี่รู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้ามีแสงเจิดจ้า คาดไม่ถึงว่าจะเผยทางเดินกว้างๆ ออกมา


บนกำแพงหินทั้งสี่ด้าน มีผลึกศิลาขนาดเท่าศีรษะฝังอยู่ แผ่ลำแสงสีขาวจางๆ ออกมา


ด้านหน้าห่างออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง มีประตูไม้สีเขียวเปิดอยู่ครึ่งบานตั้งตระหง่านอยู่


สูงยี่สิบจั้งเศษ ผิวเป็นขรุขระ และยิ่งไปกว่านั้นมุมยังขาดไปส่วนหนึ่ง ท่าทางเหมือนถูกคนใช้พลังมหาศาลเปิดออก


หานลี่มองกำแพงนี้ สองตาอดที่จะหรี่ลงไม่ได้


ตรงขอบของประตูยักษ์สีเขียว มีลำแสงสีทองสว่างวาบ อักขระสีทองอ่อนสลักอยู่


แม้ว่ากว่าครึ่งจะชำรุดไม่สมบูรณ์ เขาก็ยังรู้ได้ในปราดเดียวว่านี่คืออักขระจ้วนทอง


ส่วนทั้งสองด้านของประตูยักษ์ ด้านหนึ่งเป็นสีดำ ด้านหนึ่งเป็นสีขาว ชนเผ่าหรงสวมชุดคลุมยาวเปิดไหล่สองคนกำลังนั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่ตรงนั้น


แม้ว่าชาวเผ่าหรงสองคนนี้จะมีขนปุกปุยเช่นกัน แต่คนหนึ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะ อีกคนกลับมีสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก มองไปช่างแปลกประหลาดนัก!


คาดไม่ถึงว่าชาวเผ่าหรงจะระมัดระวังตัวเช่นนี้ ถึงกับจัดกำลังคนไว้ที่นี่


หานลี่มองชาวเผ่าหรงสีดำขาวจากรอยแยกขนาดสามสี่จั้ง อดที่จะขมวดคิ้วอีกครั้งไม่ได้


แม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นในยันต์ชำระพิสุทธิ์ และยิ่งไปกว่านั้นพลังยุทธ์ยังเพิ่มขึ้น หลังจากที่อำพรางกายแล้วก็เหนือกว่าที่อยู่ในระดับหลอมสุญตาขั้นต้น แต่หากจะต้องแทรกผ่านทั้งสองคนที่อยู่ติดกันเช่นนี้ ก็เสี่ยงไปหน่อยจริงๆ แต่ไม่ได้มั่นใจสิบส่วน ว่าจะไม่ทำให้ทั้งสองคนและผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับตนเองตกใจได้


ทว่าหานลี่ก็ไม่ได้ลังเลนานนัก หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง ก็ตัดสินใจ บินไปที่ประตูยักษ์สีเขียวอย่างเงียบเชียบ


ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เขาก็ไม่อาจหันกลับไป มากสุดก็แค่หากทำให้สองคนนี้ตกใจ ก็จะลงมือสังหารทันที แล้วบุกเข้าไป


แน่นอนว่านี้ไม่ใช่แผนการที่ดีอันใด แต่สถานการณ์เช่นนี้ก็มีเพียงต้องทำเช่นนี้


แม้ว่าที่นี่จะมีชาวเผ่าหรงอยู่ไม่น้อย แต่หากต่อสู้กันจริงๆ เขากลับไม่หวาดกลัวเท่าใดนัก


สิ่งเดียวที่หวาดกลัวก็คือกลัวว่าชาวเผ่าหรงจะเป็นสุนัขจนตรอก ทำลายอักขระจ้วนทองในถ้ำทิ้ง


เช่นนั้นความเสียหายของเขา ก็ไม่มีอันใดมาชดเชยได้แล้ว


ถึงอย่างไรเสียที่เหมือนกับเคล็ดวิชาลับแดนเซียน ต่อให้ไม่มีอักขระจ้วนทอง ก็สามารถทำให้ฝึกฝนเคล็ดวิชาหลอมจิตวิญญาณได้อย่างราบรื่น


แน่นอนว่าความเป็นไปได้นี้ก็ค่อนข้างต่ำ


หากเขาลงมือไว้ แม้กระทั่งใช้ใบมีดชำรุดสวรรค์ทมิฬและแมลงกลืนทองอย่างไม่เสียหาย ก็มั่นใจว่ามีอัตราความสำเร็จที่จะไม่ทำให้ชาวเผ่าหรงในถ้ำสังหารพวกเขาทิ้งสูงมาก


หานลี่ขบคิดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบอยู่ในใจ ชั่วพริบตาก็นั้นก็ตัดสินใจ แล้วถึงได้บินไปทางเผ่าหรงสีดำและขาวสองคนนั้น


สามสิบจั้ง ยี่สิบจั้ง สิบจั้ง…


ร่างล่องหนของหานลี่มาอยู่ตรงกลางระหว่างชาวเผ่าหรงสีดำขาวทั้งสองในพริบตา


และในยามนั้นเองชาวเผ่าหรงที่มีเรือนกายสีดำ ก็ขยับเปลือกตา คาดไม่ถึงว่าจะลืมตาขึ้น แววตาเปล่งประกายวาวโรจน์


หานลี่ใจหายวาบ แต่ร่างกายพลันหยุดชะงักอยู่ที่เดิม ไม่กระทำการใดๆ อีก


“อันใด สหายพบอันใด?” ชาวเผ่าหรงขนสีขาวที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้าม สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของฝั่งตรงข้าม ก็ลืมตาขึ้นมาเช่นกัน หลังจากกวาดมองไปรอบๆ ก็เอ่ยถามอย่างฉงน


ชาวเผ่าหรงสีดำสนิทไม่ได้ตอบกลับอันใด แต่แผ่จิตสัมผัสออกมา แฉลบผ่านร่างแปลงของหานลี่ไป กวาดมองทางเดินด้านหน้าแวบหนึ่ง แล้วชักสายตากลับมา


“ไม่มีอันใด เมื่อครู่ระดับจิตใจเกิดผิดปกติ ดูแล้วข้าคงรู้สึกไปเอง จะว่าไปแล้ว ยามที่เข้าสู่สมาธิในช่วงนี้ มักจะอารมณ์ไม่มั่นคง และไม่รู้เพราะเหตุใด” ชาวเผ่าหรงสีดำสนิท ถึงได้เอ่ยอย่างแช่มช้าออกมา


“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ทว่านั้นก็ไม่แปลก หลังจากที่ตาเฒ่าเข้ามาในแดนกว้างเย็นก็มักจะเป็นเช่นนี้ สองสามวันที่ผ่านมาเจ้ากับข้าก็มักจะตึงเครียด ถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้” หลังจากนั้นชาวเผ่าหรงสีขาวบริสุทธิ์กลับหัวเราะออกมา แล้วเอ่ยเช่นนี้


“บางทีอาจจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ กระมัง” ชาวเผ่าหรงสีดำสนิทครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วเอ่ยพร้อมกับขมวดคิ้ว


ทว่าครู่ต่อมาฉับพลันนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ เส้นไหมสีเงินพุ่งออกมา ลำแสงสีเงินเปล่งแสงสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าจะห่อหุ้มตรงหน้าเอาไว้


หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น รูม่านตาพลันหดเล็กลง กลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน คาดไม่ถึงว่าเส้นไหมสีเงินเหล่านั้นจะพุ่งมาที่ร่าง


ฉากแปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น!


หลังจากเสียง “ตูม” ดังขึ้น เส้นไหมสีเงินเปล่งแสงสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าจะทะลวงผ่านร่างอำพรางกายของหานลี่ ทยอยกันล้มลงกับพื้น และเผยร่างเดิมออกมา


ลำแสงเย็นเยียบเปล่งแสงสว่างวาบ จมหายไปในพื้นดินครึ่งหนึ่ง กลับเป็นเข็มสีเงินยาวสองสามชุ่นเล่มหนึ่ง


ชาวเผ่าหรงทั้งสองคนมองไปยังทางเดินที่ว่างเปล่า แววตาเปล่งประกาย สีหน้าไร้ความรู้สึก!

 

 

 


ตอนที่ 1734 อักษรบนกำแพงหิน

 

“ดูแล้วข้าคงคิดมากไป” ชาวเผ่าหรงสีดำสนิทมุมปากกระตุกขณะเอ่ย


“หึๆ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ากับข้าก็วางใจได้แล้ว” ชาวเผ่าหรงสีขาวหิมะกลับหัวเราะน้อยๆ ออกมา ดูเหมือนว่าจะไม่แปลกใจกับการลงมืออย่างฉับพลันของสหายร่วมวิถีเลยสักนิด


ชาวเผ่าหรงสีดำสนิทพยักหน้า แล้วค่อยๆ หลับตาทั้งสองข้างลง


ชนต่างเผ่าสีขาวหิมะกวาดตาไปยังทางเดินตรงหน้าอีกครั้ง หลังจากมั่นใจว่าไม่พบอันใด ก็หลับตาลงด้วยรอยยิ้มเบิกบานเช่นกัน


ร่างของหานลี่ขยับ แฉลบผ่านชนเผ่าหรงทั้งสองไปอย่างเงียบเชียบ


ชนต่างเผ่าสีดำขาวสองคนนี้ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเลยสักนิด ทำให้เขาเปล่งแสงสว่างวาบแล้วเข้าไปในประตูยักษ์สีเขียว


หานลี่ถึงได้ผ่อนคลายลงจริงๆ


โชคดีที่เมื่อครู่ชาวเผ่าหรงผู้นั้นใช้การโจมตีของจริง จึงไม่อาจทำอันใดร่างล่องหนของเขาได้ หากเปลี่ยนเป็นการใช้เคล็ดวิชาโจมตี แม้ว่าจะเป็นดวงเพลิงที่ง่ายดายที่สุด เขาก็จะถูกโจมตีแล้วปรากฏกายขึ้นมาทันที


ความคิดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หานลี่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังด้านหลังประตูราวกับภูตผี แล้วหักเลี้ยวหายวับไปไม่เห็นร่องรอย


ถ้ำลับแห่งนี้เรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่อจริงๆ!


ในส่วนลึกของทางเดิน ขนาดของทางเดินถอดตัวไปด้านล่างราวกับตาข่ายแมงมุม ส่วนใหญ่ล้วนเกิดขึ้นตามธรรมชาติ


เช่นนั้นยิ่งทำให้ผู้คนที่เข้ามา เหมือนตกอยู่ในเขาวงกตอย่างไรอย่างนั้น


โชคดีที่หานลี่มีแผนที่ถ้ำลับที่ชายชราแซ่ซวี่มอบให้ จึงไม่ต้องอ้อมวกวนอันใด หลังจากบินไปได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดก็มาถึงด้านหน้าถ้ำหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติแห่งหนึ่ง


ภายในถ้ำความกว้างสามสิบจั้งเศษ มีกำแพงหินสีขาวอ่อนตั้งตระหง่านอยู่


ผิวของกำแพงหินมีอักขระสีทองสลักเรียงรายอยู่ เปล่งแสงลึกลับออกมา


หานลี่ใจเต้นระรัว แต่เมื่อกวาดสายตาไป เห็นเพียงด้านหน้ากำแพงหินกลับมีชาวเผ่าหรงสวมงอบคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกำแพงหิน


สีหน้าครุ่นคิด ราวกับว่ากำลังศึกษาตัวอักษรบนกำแพงหิน


หานลี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สัมผัสได้ว่าจัดการยากแล้ว


ของที่อยู่บนกำแพงหิน แน่นอนว่าคือเป้าหมายของเขา


แต่ถ้าอยากใช้เคล็ดวิชาลับคัดลอกเนื้อหาด้านบน กลับไม่อาจไม่ทำให้ชาวเผ่าหรงผู้นี้รู้ตัวได้


หานลี่ยืนนิ่งอยู่ที่ทางเข้าถ้ำ สีหน้าบัดเดี๋ยวเคร่งขรึมบัดเดี๋ยวสดใส และครุ่นคิดไม่พูดไม่จา


ส่วนชาวเผ่าหรงที่สวมงอบ บางครั้งก็ยกมือขึ้นวาดไปทางกำแพงหินสองสามครา ท่าทางราวกับด้านข้างไม่มีอันใดอยู่


หานลี่เห็นท่าทางของชาวเผ่าหรง ความคิดก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ตัดสินใจ


เขาพลิ้วกาย ลอยไปหาชาวเผ่าหรงผู้นั้นอย่างเงียบเชียบ ชั่วพริบตาก็อยู่ห่างไปไม่ถึงสี่ห้าจั้ง และยิ่งไปกว่านั้นยังคงค่อยๆ เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ


ส่วนชาวเผ่าหรงผู้นั้นก็ยังคงจ้องเขม็งไปที่กำแพงหิน เห็นได้ชัดว่าสมาธิจดจ่ออยู่กับกำแพงหิน


หานลี่พลันรู้สึกดีใจ ยามที่อยู่ห่างไม่ถึงสองจั้ง ก็ตัดสินใจลงมือ


เห็นเพียงผิวของเขาเปล่งแสงสีทองสว่างวาบ ชั่วพริบตาก็ปรากฏกายขึ้น ชูมือข้างหนึ่งขึ้น ภูเขาลูกเล็กสีดำสนิทพาหมอกลำแสงสีเทาบินออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้อง ในเวลาเดียวกันร่างทองสามเศียรหกกรที่แผ่นหลังก็เปล่งแสงสว่างวาบ กรทั้งหกรางเลือน ฝ่ามือสีทองทั้งหกเข้ามาประชิดชาวเผ่าหรงแล้วกดลงมากลางอากาศในเวลาเดียวกัน


ชาวเผ่าหรงสวมงอบพลันได้สติขึ้น ผิวเปล่งแสงสีเขียวสว่างวาบ หมายจะสำแดงเคล็ดวิชาลับอันใดเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหลีกหนีไป


แต่แทบจะในพริบตานั้น ฝ่ามือสีทองทั้งหกที่อยู่ด้านหลังก็เปล่งแสงสว่างวาบ พลังมหาศาลไร้รูปร่างห่อหุ้มลงมา


ชาวเผ่าหรงรู้สึกเพียงว่าหัวไหล่หนักอึ้ง บรรยากาศรอบด้านตึงเครียด แม้แต่นิ้วก็ไม่อาจกระดิกกระเดี้ยได้ แม้กระทั่งพลังปราณในร่างก็แข็งตัว ยามนั้นไม่อาจโคจรได้สมประสงค์


ภูเขาสีดำกลับขยายใหญ่ขึ้นเหนือศีรษะของเขา หมุนคว้างกลางอากาศ หมอกลำแสงสีเทาผืนใหญ่ม้วนวนออกมา ตรงตีนภูเขายังมีอักขระสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมา


ชาวเผ่าหรงสวมงอบเผยสีหน้าตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวออกมา ทว่าถึงอย่างไรเสียก็ไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากที่ความคิดเปล่งประกายดุจสายฟ้า ฉับพลันนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง เสียงกรีดร้องยาวๆ ดังออกมาจากปาก


คาดไม่ถึงว่าเขาจะตัดสินใจไม่สนใจผลลัพธ์ ส่งเสียงเตือนคนในเผ่าคนอื่นๆ ที่อยู่ภายในถ้ำ


ทว่าเสียงกรีดร้องกลับกลายเป็นคลื่นเสียงปะทะเข้ากับหมอกลำแสงสีเทารอบด้าน แล้วจมหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่อาจดังเกินรัศมีสองสามจั้งได้


ชาวเผ่าหรงจิตใจหนักอึ้ง ยังไม่ทันได้คิดวิธีการอันใด ฝ่ามือสีทองทั้งหกก็พ่นเส้นไหมสีทองสายหนึ่งออกมา


อันหนึ่งหมุนวน รัดชาวเผ่าหรงผู้นั้นเอาไว้แน่น


แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น อักขระสีเงินที่พ่นออกมาจากภูเขาเทวะดูดปราณก็กลายเป็นเขตอาคมลำแสงสีเงินระยิบระยับร่อนลงมาด้านล่าง


เสียง “ปัง” ดังขึ้น เขตอาคมลำแสงสลายหายไป ส่วนชาวเผ่าหรงกลับสลายหายไปจากจุดที่ไกลออกไป ราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอย่างไรอย่างนั้น


แต่ความจริงแล้วหากมีคนใช้อิทธิฤทธิ์มองภูเขาเทวะดูดปราณ ก็ต้องมองเห็นชาวเผ่าหรงหมดสติหลับใหลอยู่ตรงสันเขา ร่างกายไม่เพียงถูกเส้นไหมสีทองรัดเอาไว้แน่น ทารกวิญญาณภายในร่างก็ถูกอักขระสีเงินแปะเอาไว้ทั่วเรือนร่าง และถูกบีบให้ตกอยู่ในสภาพหลับใหลไม่ได้สติ


จากการที่หานลี่ปรากฏตัวแล้วลงมือ จนถึงยามที่ภูเขาเทวะดูดปราณดูดชนนอกเผ่าไปในภูเขา เกิดขึ้นแค่สองสามชั่วอึดใจเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่ร่างทองลงมือหรือว่าสำแดงภูเขาเทวะดูดปราณออกมา ล้วนเงียบเชียบ และกดระลอกคลื่นวิญญาณให้ลดลงมาอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด


ดังนั้นขอแค่ไม่มีคนที่สามในถ้ำ ก็ไม่อาจพบสิ่งมีชีวิตระดับหลอมสุญตาขั้นสุดยอดคนหนึ่งได้ คาดไม่ถึงว่าจะถูกคนจับเป็นในชั่วพริบตา


เมื่อเห็นตนเองทำสำเร็จ หานลี่ก็ผ่อนคลายลง


โชคดีที่ที่นี่มีชาวเผ่าหรงสวมงอบแค่คนเดียว และยิ่งไปกว่านั้นยังตั้งสมาธิไปที่อักขระจ้วนทองบนกำแพงหิน มิเช่นนั้นคงไม่อาจทำสำเร็จได้อย่างง่ายดายเช่นนี้แน่


หากเปลี่ยนเป็นชนต่างเผ่าสองคนที่อยู่ด้านนอก เขาสังหารได้อย่างง่ายดาย แต่การจับเป็นกลับไม่มีโอกาสนั้น


ขอแค่อีกฝ่ายไม่ตาย ชนนอกเผ่าที่เหลือก็ไม่มีทางสัมผัสถึงความผิดปกติที่นี่ได้


และที่ภูเขาลูกนั้นดูดผู้ที่มีอิทธิฤทธิ์เข้าไปได้ ก็เพราะภูเขาเทวะดูดปราณถูกหลอมจนเป็นภูเขาระดับสุดยอด และมีความสามารถด้านห้วงเวลา


หากภูเขาทั้งห้าหลอมเสร็จ อิทธิฤทธิ์นี้ก็น่าจะแม้กระทั่งสามารถดูดแม่น้ำทะเลได้ คนธรรมดาจินตนาการถึงความสามารถของมันได้ยาก


แม้ว่ายามนี้จะเป็นแค่ภูเขาระดับสุดยอด อานุภาพของมันก็ยังไม่ธรรมดา ขอแค่ดูดคู่ต่อสู้เข้าไปข้างใน อีกฝ่ายก็ยากจะหลีกหนีแล้ว


หานลี่ไม่ได้ลังเลใดๆ อีก เก็บร่างทองและยอดเขาสีดำ ทันใดนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ


วงแหวนทรงกลมสีดำสนิทบินออกมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็ปล่อยหมอกลำแสงสีเขียวออกมา ม้วนวนไปด้านล่าง


ลำแสงวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบ กำแพงหินกลับเปล่งแสงสีทองออกมา มันนิ่งงันคาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจถูกกำไลเก็บของเก็บเข้าไปได้


หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ใบหน้าไม่ได้เผยสีหน้าตกตะลึงออกมา


หากสิ่งนี้เก็บไปได้ง่ายจริงๆ คงไม่เอาแต่วางอยู่ที่นี่ การเคลื่อนไหวของเขาเมื่อครู่ เป็นแค่การลองทดสอบดูเท่านั้น


ลำแสงสีขาวเปล่งแสงสว่างวาบ คัมภีร์ขนาดเท่าฝ่ามือ บินออกมาจากวงแหวนสีดำ หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็ลอยอยู่หน้ากำแพงหิน


เขาใช้มือหนึ่งร่ายอาคม นิ้วชี้นิ้วหนึ่งชี้ไปที่กำไลเก็บของอย่างรวดเร็ว


ชั่วขณะนั้นคัมภีร์พลันเปล่งแสงสว่างวาบ ลำแสงสีเงินพุ่งออกมา ห่อหุ้มกำแพงหินทั้งหมดเอาไว้


ครู่ต่อมาอักขระสีทองบนกำแพงหินพลันบิดเบี้ยว ลำแสงสีเงินเปล่งแสงสว่างวาบราวกับฟื้นคืนชีพอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นลำแสงสีทองเป็นกลุ่มๆ ก็เปล่งแสงสว่างวาบบินออกมาจากกำแพงหิน ทยอยกันจมหายเข้าไปในคัมภีร์


หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ลำแสงสีทองทั้งหมดก็จมหายเข้าไปในคัมภีร์ หานลี่หรี่ตาทั้งสองข้างลง เก็บอาคมในมือ


ชั่วขณะนั้นคัมภีร์พลันหม่นแสงสีเงินลง กลายเป็นลำแสงสีขาวจมหายเข้าไปในมือของเขา


หานลี่ใช้มือหนึ่งคีบคัมภีร์เอาไว้ กวาดจิตสัมผัสเข้าไปข้างใน สีหน้าอดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้


ในคัมภีร์มีอักขระสีทองที่เหมือนกับบนกำแพงหินปรากฏขึ้น


ทันใดนั้นเขาก็เก็บคัมภีร์เข้าไปในกำไลเก็บของอย่างระมัดระวังอีกครั้ง พลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง ยันต์สีม่วงแผ่นหนึ่งปรากฏขึ้น และแปะไปบนเรือนร่างเบาๆ


ลำแสงสีม่วงเปล่งแสงสว่างวาบ ร่างของหานลี่หายวับไป…


เช่นนั้น หานลี่พลันค้นหาในถ้ำรอบหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะทำให้เขาพบถ้ำที่เหลืออีกสามแห่งอย่างต่อเนื่อง ด้านในกลับมีกำแพงหินอักขระจ้วนทองเช่นกัน


และนอกจากหนึ่งในนั้นที่มีคนเฝ้ายามอยู่แล้ว ที่เหลืออีกสองแห่งกลับว่างเปล่า


นี่จึงทำให้หานลี่รู้สึกดีอกดีใจ หลังจากใช้วิธีการลอบโจมตีด้วยการเก็บเข้าไปในภูเขาเทวะดูดปราณกับชาวเผ่าหรงอีกคนหนึ่งแล้ว ก็คัดลอกอักขระจ้วนทองทั้งสามแห่งลงไปในคัมภีร์ม้วนเดียวกัน


ตามที่ชายชราแซ่ซวี่ทำสัญลักษณ์เอาไว้บนแผนที่ ยามนี้เหลือเพียงอักขระจ้วนทองส่วนสุดท้าย ก็จะสามารถรวบรวมเคล็ดวิชาทั้งหมดได้ครบแล้ว


ทว่าจนถึงยามนี้ หานลี่กลับยิ่งระมัดระวังมากขึ้น


ในเมื่อด้านหน้าไม่มีชาวเผ่าหรงเหลืออีก คิดดูแล้วน่าจะรวบตัวอยู่ในถ้ำๆ สุดท้าย


จากข่าวคราวที่แอบฟังก่อนหน้า เขตอาคมของอักขระจ้วนทองขั้นสุดท้ายยังไม่ถูกทำลาย มิน่าล่ะคนจำนวนมากถึงได้ไปคุ้มกันอยู่ที่สุดท้าย


เมื่อขบคิดเช่นนั้น หานลี่ก็มาถึงทางเดินที่ตัดสลับกันเป็นรูปตัวอักษรสือ (十) ที่นี่เป็นที่ที่เชื่อมไปยังถ้ำๆ สุดท้าย


แววตาของหานลี่กวาดไปรอบด้าน ลูบใต้คาง ฉับพลันนั้นก็ยกมือขึ้น ชั่วขณะนั้นธงอาคมจำนวนมากพลันทะลักออกมาจากแขนเสื้อ มีประมาณร้อยกว่าด้าม


นี่คืออาวุธการวางเขตอาคมชุดหนึ่งที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ที่สุดในมือของเขา อานุภาพที่สร้างขึ้นจากเขตอาคมนับได้ว่าไม่อ่อนแอ เพียงพอจะกักสิ่งมีชีวิตระดับหลอมสุญตาได้ระยะหนึ่ง


นอกจากนี้เขาก็ปล่อยยันต์เก้าวิมานสวรรค์ออกมา เงาลวงตาของวิหารยักษ์เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป มาปรากฏขึ้นด้านบนเขตอาคมอย่างเงียบเชียบ


แม้ว่ายันต์วิเศษชนิดนี้จะสร้างขึ้นจากวัตถุดิบที่หายาก แต่ในยามที่อยู่ในเมืองเมฆา ในที่สุดเขาก็รวบรวมได้จนครบ ทำให้เขาหลอมมันขึ้นได้สองชุด


เช่นนี้ต่อให้ชาวเผ่าหรงด้านนอกรู้ว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในถ้ำ และคิดจะกลับมารวมตัวกับคนที่เหลือ ก็ต้องถูกเขตอาคมทั้งสองขวางเอาไว้ชั่วคราว ยื้อเวลาให้เขาได้เพียงพอ


หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น หานลี่ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ มือหนึ่งตบไปที่กลางหน้าผาก ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ ร่างทองสามเศียรหกกรปรากฏขึ้นด้านหลัง


อ้าปากออกอีกครั้ง พ่นไอสีดำออกมา แล้วจมหายเข้าไปในร่างทอง


“ไป”


หานลี่ออกคำสั่งอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด


ใบหน้าของร่างทองเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา ฉับพลันนั้นร่างกายก็พลิ้วไหว จมหายวับไปในอากาศรอบด้าน ราวกับภูตผีอย่างไรอย่างนั้น


จากนั้นนิ้วพลันร่ายอาคมอีกครั้งในแขนเสื้อ เปลวเพลิงสีเงินและยันต์สีเงินสองแผ่นพลันพุ่งออกมา


เสียง “สวบๆ” ดังขึ้น กลายเป็นวิหคเพลิงสีเงินและเงาสีเงินสองสาย เปล่งแสงสว่างวาบจมหายเข้าไปในพื้นดินตรงหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)