ลำนำบุปผาพิษ 1720-1723

 บทที่ 1720 อดีตนั้นสุดจะไขว่คว้า 4


“ข้าชอบเจ้า สามารถอยู่เป็นเพื่อนเจ้าไปจวบจนเฒ่าชราได้ รอจนเจ้าจากไปด้วยความชราข้าก็จะล่วงลับไปเช่นกัน พวกเรามีวาสนาได้อยู่ร่วมกันชั่วชีวิต…เฉกเช่นสามีภรรยาทั่วไป…”


“แต่ว่า ซีจิ่ว ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าก็คือดาวราชันดวงใหม่ ยามที่ข้าจำแลงเป็นซือเฉินอยู่เป็นเพื่อนเจ้าฝ่าออกมาจากป่าทมิฬ เจ้าสามารถมองเห็นสีสันอันแตกต่างกันไปของยอดเขาที่แปด อยู่ในป่าทมิฬทว่าสามารถมองเห็นท้องนภาที่แท้จริงได้…นี่เป็นเรื่องที่มีเพียงดาวราชันองค์ใหม่เท่านั้นถึงจะทำได้…ครั้งแรกที่ข้าได้ทราบฐานะของเจ้า ทั้งตกตะลึงและผิดหวังยิ่งนัก…แน่นอนว่าข้าก็ยินดีกับเจ้ามากยิ่งนักเช่นกัน…แต่ข้ารู้ว่าแผนการของข้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว เจ้าคือดาวราชันดวงใหม่ มิอาจเป็นเช่นมนุษย์ธรรมดา อายุขัยของเจ้ายืนยาวเช่นเดียวกับข้า…หากว่าข้าวิวาห์กับเจ้า ข้าอยู่ร่วมกับเจ้าได้หนึ่งร้อยปีสำหรับเจ้าแล้วช่างเป็นช่วงเวลาที่น้อยนิดจนไม่ควรค่าให้เก็บมาใส่ใจเลย ถ้าเจ้าต้องเห็นการจากไปของข้าด้วยตาตน เจ้าคงจะเสียใจมาก…และด้วยช่วงชีวิตอันยืนยาวของเจ้าภายภาคหน้าไม่แน่ว่าอาจมีบุรุษที่ต้องตาคนใหม่ปรากฏตัวขึ้น ครองคู่โบยบินกับเจ้า…”


ตี้ฝูอีกุมมือนางไว้ ทอดถอนใจ “ซีจิ่ว ยามนั้นข้าเห็นแก่ตัว เนื่องจากเจ้าเป็นสตรีเพียงคนเดียวที่ข้าชอบในชีวิตนี้ และข้าก็อยากเป็นบุรุษเพียงคนเดียวในชีวิตของเจ้าเช่นกัน…ข้าไม่ต้องการให้มีบุรุษคนอื่นก้าวเข้ามาในชีวิตของเจ้า หลังจากที่ข้าจากไปแล้ว แทนที่จะเป็นเช่นนั้น มิสู้ปล่อยมือไปเสีย…”


“ดังนั้น ซีจิ่ว ยามนั้นข้าต้องการจะปล่อยมือจากเจ้า และทำเช่นนั้นไปแล้วด้วย ข้าเพียงอยากใช้ฐานะของเทพศักดิ์สิทธิ์ปกปักษ์คุ้มครองเจ้า ให้เจ้าเติบใหญ่…แต่ว่า ซีจิ่ว ข้าพ่ายแพ้ ข้าคิดจะเก็บความรู้สึกนี้กลับมาทว่าเก็บเอาไว้ไม่อยู่เลย ข้าข่มความปรารถนาที่อยากพบหน้าเจ้าไว้ไม่ได้ เมื่อเห็นเจ้ากับหลงซือเย่อยู่ด้วยกันข้าหึงหวงริษยา…และหลงซือเย่ก็เป็นสานุศิษย์สวรรค์ ตามกฎของโลกใบนี้แล้ว สานุศิษย์สวรรค์ทั้งสี่ที่บรรลุขั้นเก้าแล้วจะต้องล่วงลับไปตามการร่วงหล่นของดาวราชันดวงเก่า หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ พวกหลงซือเย่จะต้องล่วงลับไปพร้อมกับข้าด้วย…ด้วยเหตุนี้ยามนั้นข้าถึงขัดขวางไม่ให้หลงซือเย่ชอบพอกับเจ้า ถึงขั้นที่คิดว่าถ้าเจ้าจะชมชอบหลงซือเย่มิสู้ให้มาชมชอบข้าดีกว่า…”


“ซีจิ่ว ยามนั้นข้าขัดแย้งในตัวเองยิ่งนัก สติบอกให้ข้าปล่อยมือจากเจ้า ทว่าความรู้สึกกลับหาเหตุผลมาสารพัดเพื่อต้องการอยู่กับเจ้า ยามนั้นเจ้าต้องรู้สึกว่าข้าประสาทยิ่งนักเป็นแน่ น่าเบื่อหน่ายนัก…” ตี้ฝูอีนิ่งไปเล็กน้อย เพ่งพิศดวงหน้าของกู้ซีจิ่วที่อยู่ในอ้อมแขน ถอนหายใจแผ่วๆ “ซีจิ่ว ข้ายอมรับว่าข้าเห็นแก่ตัว…ยากนักกว่าข้าจะหลงรักคนผู้หนึ่ง จึงไม่อยากปล่อยมือไปเช่นนี้…ประจวบกับยามนั้นเจ้าได้กล่าวว่า ‘ไม่สนใจนิจนิรันดร์ ใส่ใจเพียงว่าเคยได้ครอบครอง’ ข้ายอมรับว่าประโยคนี้ของเจ้าทำให้ข้าละวางความกังวลลง”


“ข้าเคยเห็นคู่รักมากมายที่เคยรักกันจะเป็นจะตายยิ่งนักหลังจากแต่งงานกันได้ไม่กี่ปี ความรักก็แปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน ราบเรียบเฉื่อยชาไปชั่วชีวิต บางคู่ถึงขั้นที่แปรเปลี่ยนไปเป็นศัตรูคู่แค้น ไม่รักใคร่กันอีกต่อไป อยู่กันยังไม่ทันแก่ก็แยกทางกันเสียแล้ว ยามนั้นข้าจึงคิดว่า บางทีหลังจากเจ้าแต่งกับข้าแล้ว ผ่านพ้นไปสักไม่กี่ปีก็คงหาความรักไม่พบอีกแล้ว ไม่ต้องรอจนข้าล่วงลับไปพวกเราก็คงเลิกรากันแล้ว…ดังนั้นข้าจึงไขว่คว้าเอาไว้ด้วยความต้องการที่เห็นแก่ตัว ข้าเริ่มปล่อยวางแล้วไล่ตามเจ้า…”


“ส่วนเจ้าในที่สุดก็รู้ตัวแล้วว่าชอบข้า ต้องการอยู่กับข้า…ข้าจึงฉวยโอกาสให้เจ้าตอบรับการหมั้นหมายกับข้าอีกครั้ง ให้เจ้ากลายเป็นคู่หมั้นของข้า ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อเจ้ากับข้าตกลงหมั้นหมายกัน กำไลคู่บุพเพจะปรากฏขึ้นมา บ่งบอกว่าวาสนาของข้ากับเจ้าเป็นสวรรค์ลิขิตให้ ยามนั้นข้ามีความสุขยิ่งนัก รู้สึกว่าการที่ข้าชอบเจ้านั่นเป็นการชอบถูกคนแล้ว แม้แต่สวรรค์ก็อยากให้ข้ากับเจ้าอยู่ด้วยกัน เดิมทีข้าไม่เก็บเรื่องความเป็นความตายมาใส่ใจเลย แต่พออยู่กับเจ้าไปนานเข้า ข้าก็ยิ่งอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปยิ่งนัก อยากอยู่กับเจ้าทุกเมื่อเชื่อวัน…”


————————————————————————————-


บทที่ 1721 อดีตนั้นสุดจะไขว่คว้า 5


“ข้าคิดแม้กระทั่งว่า ภายหน้าข้าไม่มีฐานะเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์นี่แล้วก็ไม่เป็นไร ให้เจ้าเป็นก็พอ ขอแค่ได้อยู่ข้างกายเจ้าด้วยฐานะสามีก็พอแล้ว ข้านึกว่าการปรากฏตัวขึ้นของกำไลคู่บุพเพสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตที่ต้องร่วงหล่นของข้าได้ ข้าก็ทุ่มเททำสารพัดวิธีมาโดยตลอด…แต่ว่า ไม่สำเร็จ! ข้าไม่พบหนทางใดเลย…”


น้ำเสียงตี้ฝูอีแผ่วทุ้มลง ยามนั้นไยเขาจะไม่เสาะหาวิธียืดอายุขัยเล่า?


บางทีเขากับนางอาจไม่สมควรรักกันตั้งแต่แรกแล้ว และบางทีดาวราชันดวงใหม่อย่างนางอาจต้องประสบความลำบากยากเข็ญมากมาย รอบกายมีเรื่องวุ่นวายอยู่ไม่ขาด ส่วนเขาก็เนื่องจากห่วงกังวลจนว้าวุ่น ไม่อาจนิ่งดูดายเฉกเช่นปกติได้


เพื่อช่วยเหลือนางเขาใช้วิชาต้องห้ามต่อเนื่องกันหลายต่อหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้อายุขัยของเขาจึงสั้นลงเรื่อยๆ…เดิมทีเขายังมีชีวิตอยู่ได้อีกร้อยปี แต่หลังจากใช้วิชาต้องห้ามไปมากมายพลังชีวิตก็ได้รับความเสียอย่างใหญ่หลวง เมื่อกู้ซีจิ่วถูกโม่เจ้าจับกุมไปถูกบังคับให้ย้ายร่าง ยามที่เขาเสี่ยงภัยตายเก้ารอดหนึ่งเพื่อพานางหนีออกจากตำหนักโลกันต์ของโม่เจ้า อายุขัยของเขาก็เหลือไม่ถึงสามสิบปีแล้ว…


ยามนั้นเขาและนางรักใคร่กันอย่างยิ่งแล้ว เขาหักใจปล่อยมือไม่ลง และไม่อยากปล่อยมือด้วย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มจัดแจงเรื่องราวหลังจากที่ล่วงลับไป


เขารู้ว่าอีกสามสิบปีให้หลังถ้าตนสิ้นชีพไปนางจะต้องเสียใจอย่างยิ่งยวด เศร้าหมองตรอมตรมไปอีกนานแสนนานนัก และวิธีเดียวที่จะทำให้นางไม่ต้องเสียใจก็คือเมื่อถึงเวลานั้นก็ทำให้นางลืมเลือนตนไปเสีย เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง


ประจวบเหมาะกับยามนั้นกู้ซีจิ่วสลับไปอยู่ในร่างโคลนนิ่งพอดี และคุณสมบัติของร่างโคลนนิ่งนี้ก็ยอดเยี่ยมยิ่ง ไม่เพียงแต่สามารถฝึกฝนได้เท่านั้นยังใช้การได้กว่าสามสิบปีด้วย…


ดังนั้นตี้ฝูอีจึงยอมทุ่มเทสิ้นเปลืองพลังวิญญาณไปบางส่วนเพื่อร่ายอาคมอย่างหนึ่งลงบนร่างเดิมของนาง ด้วยอาคมนี้หลังจากที่กู้ซีจิ่วหวนกลับสู่สังขารนี้ จะลืมเลือนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตี้ฝูอี นางจะได้เป็นนางคนใหม่อย่างสมบูรณ์…


ส่วนเรื่องของหลานจิ้งเคอก็เป็นเฉกเช่นที่ตี้ฝูอีเคยเล่ามาทั้งหมด หลานจิ้งเคอเคยเป็นเพียงสหายของเขาเท่านั้น เขากับนางไม่เคยรักกันเลย เมื่อสิ้นชีพดวงวิญญาณก็แตกสลาย ตามหากลับมาไม่ได้อีกแล้ว


ตี้ฝูอีปลูกถ่ายความทรงจำของหลานจิ้งเคอลงไปในร่างเดิมของกู้ซีจิ่ว ประการแรกคือเนื่องจากมีเพียงที่เผ่าเงือกเท่านั้นถึงจะทำให้ร่างเดิมของนางยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ฝ่าทะลวงขั้นได้ด้วยตัวเอง เขาจำต้องหาเหตุผลที่เข้าท่ามาสักอย่างเพื่อให้สองพี่สกุลหลานทุ่มเทกายใจดูแลเอาใจใส่ร่างเดิมนี้ ประการที่สองก็เป็นเพราะซีจิ่วคือเทพศักดิ์สิทธิ์องค์ใหม่ ในไม่ช้าก็เร็วจะต้องสยบเผ่าเงือกไว้ใต้อาณัติ หากว่านางมีความทรงจำบางส่วนของหลานจิ้งเคออยู่ ด้วยฐานะของหลานจิ้งเคอนางจะได้รับตำแหน่งประมุขเผ่าเงือกต่อไป เท่ากับสยบเผ่าเงือกได้ด้วยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และมีกองหนุนที่แข็งแกร่งด้วย!


แผนที่ตี้ฝูอีวางไว้คือ จะหาทางร่ายอาคมให้นางออกจากร่างโคลนนิ่งก่อนที่เขาจะล่วงลับไป ให้กลับสู่ร่างเดิม


ยามนั้นร่างเดิมของนางกับดวงวิญญาณของนางมีระดับเสมอกันแล้ว สามารถเป็นคนใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ นางจะไม่สูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป นางจะยังจำได้ว่านางคือกู้ซีจิ่ว เพียงแต่ในความทรงจำของนางจะไม่มีเขาอยู่อีกต่อไป นางจะลืมเลือนเขาไปอย่างสมบูรณ์ ในใจของนางเขาจะเป็นเพียงคนที่ผ่านทางมา…


ถ้านางยินดีเป็นประมุขเผ่าเงือกก็จะได้เป็นประมุขเผ่าเงือก ถ้าไม่ยินดีเป็นประมุขเผ่าเงือกก็ขึ้นบกเพื่อบากบั่นต่อสู้ต่อไป จวบจนได้ขึ้นสู่ตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกใบนี้


ตี้ฝูอีวางแผนอย่างรอบคอบไร้ช่องโหว่ เขาคำนวณทุกอย่างไว้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ มนุษย์กำหนดมิอาจสู้สวรรค์ลิขิตได้…


กู้ซีจิ่วหนีงานวิวาห์เข้าสู่เขตหวงห้าม ส่วนเขาก็ไล่ตามนางไปเสี่ยงภัยเก้าตายหนึ่งรอดเพื่อเข้าสู่เขตหวงห้าม…


ในเขตหวงห้ามเขาและนางอาศัยอยู่ร่วมกันด้วยฐานะสามีภรรยาเป็นเวลาแปดปี ยามที่ออกมาได้อีกครั้งโลกภายนอกก็เกิดความโกลาหลไปทั่วหล้าแล้ว!


เนื่องจากเขาหุนหันพลันแล่นไปชั่วขณะ คิดแต่จะติดตามไปอยู่ข้างกายนาง ถูกกักอยู่ในเขตหวงห้ามแปดปี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมผู้นั้นก่อกรรมทำชั่วได้ ทำให้มีผู้คนสิ้นชีพไปมากมาย


เรื่องสำหรับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว เป็นความประมาทเลินเล่นอย่างร้ายแรงยิ่ง…


ประกอบกับนางและเขาร่วมมือกันปราบปรามกบฏ สังหารตระกูลเซียนจากดินแดนเบื้องบน ได้รับทัณฑ์สวรรค์…นี่ยิ่งทำให้ถดถอยลงไปอีก หลังจากออกมาอายุขัยของตี้ฝูอีเหลืออยู่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น….


บทที่ 1722 ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง


เดิมทีเขาคิดว่าหนึ่งปีนี้จะอยู่ร่วมกับนางอย่างดี รอจนเขาใกล้จะถึงเวลาจากไป ค่อยทำให้ร่างกลับสู่ร่างเดิม


สิ่งที่ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยก็คือร่างโคลนนิ่งของนางก็ได้รับทัณฑ์สวรรค์ด้วย กลายเป็นตัวประหลาดที่สันทัดการดูดพลังวิญญาณของผู้อื่น แถมสถานการณ์ยังเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ถ้าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปเช่นนี้ ไม่เพียงแต่นางจะถูกผู้อื่นไล่ล่าบีบคั้น มองนางเป็นตัวประหลาดเท่านั้น ดวงวิญญาณของนางที่อยู่ในร่างโคลนนิ่งนั้นก็จะได้รับความเสียหายเช่นกัน ไม่แน่ว่าอาจประสบอันตรายธาตุไฟเข้าแทรกได้…


มีวิธีการเดียวก็คือให้นางกลับสู่ร่างเดิม ดังนั้นหลังจากตี้ฝูอีอยู่ร่วมกับนางในตำหนักแก้วผลึกหนึ่งวัน ก็ส่งนางกลับสู่ร่างเดิม


เขากับนางจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว อย่างมากเขาก็จะคอยปกป้องนางอย่างลับๆ ขจัดอุปสรรคทุกอย่างให้นาง กำจัดโม่เจ้าให้สิ้นซากไป


ดังนั้นที่ตำหนักแก้วผลึกหลังจากเขาส่งนางกลับไปแล้ว เขาก็จากไปเลย จากไปจัดการสะสางเพื่อคืนชีวิตที่ผาสุกรุ่งโรจน์ให้นาง…


เขานึกว่ายามที่นางได้พบหน้าเขาอีกครั้ง นางจะเห็นเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้า กลับคาดไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วได้ตราผนึกพิเศษบนไว้ดวงวิญญาณของนางเอง ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่เสียความทรงจำไป นางกลับคืนร่างเดิมได้สำเร็จจริงๆ แต่นางไม่เสียความทรงจำไปเลย! ยังจดจำเขาได้! ทำให้แผนการทุกอย่างของเขายุ่งเหยิงวุ่นวาย!


บนข้อมือนางมีกำไลคู่บุพเพอยู่ เมื่อเขาล่วงลับไป กำไลนั้นจะแตกสลายไปด้วย แล้วนางก็จะทราบเรื่อง


หากไม่ถอดกำไลคู่บุพเพบนข้อมือของนางออก ไม่ว่าเขาจะทำเช่นไรก็ปิดบังนางไว้ไม่ได้


ดังนั้นเขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการกะทันหัน ถึงได้ลากหลานจิ้งเคอมาเป็นข้ออ้างทำให้นางเสียใจ…


เขารู้ว่านางเป็นแม่นางผู้ทระนงในเกียรติของตน หมิ่นแคลนการเป็นตัวแทนของผู้อื่น เมื่อนางนึกว่าเขารักคนอื่น จะต้องถอนหมั้นกับเขาเป็นแน่


เขาบรรลุเป้าหมายแล้ว กู้ซีจิ่วถอนหมั้นกับเขาจริงๆ ในที่สุดก็ทำให้กำไลคู่บุพเพวงนั้นสลายหายไปจากข้อมือของนางก่อนถึงเวลาได้ นางเจ็บช้ำ เขาก็ทรมานไม่ต่างกัน…


คนหนึ่งเจ็บปวดจากการถูกทรยศ คนหนึ่งเจ็บปวดจากการต้องพลัดพรากด้วยความตาย


ความเจ็บปวดสองชนิดนี้กล่าวได้ยากยิ่งนักว่าอย่างไหนเบาบางกว่ากัน


นางรักเขาดั่งชีวิต หากเขาล่วงลับไป มีความเป็นไปได้เกือบสิบส่วนว่าจะติดตามเขาไป


แต่นางเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์องค์ใหม่ในอนาคต ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ไม่อาจตายได้ ต่อให้นางเสาะแสวงหาความตายก็ไม่แน่ว่าจะได้สมปรารถนา


นางจะมีชีวิตอยู่ มีชีวิตเหมือนซากศพที่เดินได้ ชีวิตอันยืนยาวของนางจะทุกข์ตรมขมขื่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นางจะปวดร้าวไปนานแสนนาน


และด้วยนิสัยหยิ่งทะนงของนาง หากว่าประสบการทรยศหักหลัง ปฏิกิริยาแรกก็คือจะเปลี่ยนแปลงให้แข็งแกร่งขึ้น มิใช่แสวงหาความตาย


เฉกเช่นที่นางพบพานการหักหลังจากหลงซือเย่ในครานั้น ก็ต้องการจะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ใช้ชีวิตในรูปแบบของตน


(โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงที่เก่งกล้าสามารถเมื่อถูกทรยศหักหลัง จะหาทางทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น เปลี่ยนแปลงให้ทรงเสน่ห์มากขึ้น เพื่อที่วันหนึ่งจะได้เหยียบ ‘ผู้ชายเส็งเคร็ง’ ไว้ใต้ฝ่าเท้า ทำให้ผู้ชายเส็งเคร็งคนนั้นสำนึกเสียใจที่ในอดีตเคยทอดทิ้งไป ดีที่สุดคือต้องได้รับความรักครั้งใหม่ที่งดงามยิ่งขึ้น สลัดผู้ชายเส็งเคร็งทิ้งไปหนึ่งแสนแปดพันลี้)


ด้วยนิสัยของกู้ซีจิ่ว เมื่อนางถูกหักหลังถึงแม้จะเจ็บปวดเสียใจ แต่นางก็น่าจะก้าวข้ามไปได้อย่างรวดเร็ว ผ่านไปสักสองสามปีนางคงจะเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม ไม่แน่ว่าอาจจะพบรักกับบุรุษเลิศล้ำคนอื่นอีกครั้งก็ได้ โยนช่วงเวลาของนางกับตี้ฝูอีลงไปในธารความทรงจำอันยืดยาวเสีย ไม่นึกถึงอีกต่อไป…


แผนการของตี้ฝูอีไม่ต่างจากที่โม่เจ้าคาดการณ์ไว้เลย เขาใช้กลยุทธ์ทรยศหักหลังมาแตกหักกับนาง ทำให้นางเกลียดชังเขา ไม่สนใจเขาอีกต่อไป ถึงขั้นที่ไม่อยากได้ยินข่าวคราวของเขาอีก


เช่นนั้นยามที่เขาล่วงลับไป นางก็จะไม่ทราบเรื่อง


เขาจะจัดแจงหน้าที่หลังจากที่เขาล่วงลับไปแล้วให้แก่สี่ทูต นานทีปีหนก็ให้ปลอมเป็นเขาไปเดินวางมาดต่อหน้าสาธารณะชนสักครา สร้างภาพลวงว่าเค้ายังมีชีวิตอยู่ ส่วนกู้ซีจิ่วเนื่องจากเกลียดชังเขาแล้ว จะต้องไม่สนใจมากมายนักเป็นแน่


————————————————————————————-


บทที่ 1723 ซีจิ่ว ข้าผิดไปแล้ว…


เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็จะไม่ทราบไปตลอดกาลว่าเขาจากโลกนี้ไปแล้ว ต่อให้ภายหน้าวรยุทธ์ของนางบรรลุขั้นสูงสุด สามารถคำนวณการสิ้นชีพของเขาได้ อย่างน้อยก็ต้องรออีกเกือบพันปี…


….


นภาเหนือตำหนักแก้วผลึกเป็นสีน้ำเงินเข้มเสมอมา


ตี้ฝูอีอุ้มกู้ซีจิ่วก้าวย่างผ่านตำหนักแต่ละหลังในพระราชวังแก้วผลึก บนทางสายยาวที่ปูด้วยแก้วผลึก


ที่นี่เป็นสถานที่ของเขาและนางเท่านั้น ทุกแห่งมีร่องรอยของการจับจูงเกาะกุมกันหลงเหลืออยู่


บนหินแก้วผลึกสลักไว้ว่า ‘ฟ้ายั่งดินยืน’ บนป้ายจารเหนือตำหนักบางแห่งมีอักษรที่เป็นลายมือของนางสลักไว้ และมีลายมือของเขาสลักไว้ด้วยเช่นกัน


ตี้ฝูอี กู้ซีจิ่ว ระหว่างสองนามมีหัวใจดวงโตอยู่ดวงหนึ่ง บนหัวใจยังมีลูกศรสีเงินดอกหนึ่งสลักอยู่ด้วย เสียบทะลุลงบนหัวใจดวงนั้น


ยามนั้นเขามองแล้วกล่าวว่าไม่เป็นมงคล หนึ่งศรทะลุหัวใจ


นางบอกว่านี่คือศรรักของกามเทพ สื่อว่าทั้งสองคนจะรักกันไปชั่วนิรันดร์…


“ซีจิ่ว ข้าคิดว่าการจัดการของข้าดีที่สุดสำหรับเจ้าแล้ว แต่ว่า…”


“ซีจิ่ว เจ้าเสียใจภายหลังแล้วใช่ไหมที่ได้พบกับข้า? ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าก็สำนึกเสียใจแล้วเช่นกัน…ในตอนแรกที่พวกเรารู้จักกัน หากว่าข้าไม่ยั่วยุเย้าแหย่เจ้า บางทีจุดจบของข้าและเจ้าอาจเป็นแบบอื่นก็ได้ เจ้าก็ไม่ต้องเสียใจถึงเพียงนี้…”


“ซีจิ่ว เจ้ายังไม่รู้เลยว่าข้าไม่เคยหักหลังเจ้า…”


“ซีจิ่ว ข้าผิดไปแล้ว…”


“ซีจิ่ว เดิมทีข้าไม่เคยชอบที่นี่เลย แต่เป็นเพราะหลังจากพาเจ้ามาแล้ว ข้าจึงชอบที่นี่ ถึงขั้นที่ข้าคิดจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ดับขันธ์ของข้า…อยู่ที่นี่แล้วดับสูญไปอย่างเงียบๆ”


เขาอุ้มนางก้าวเดินไปตลอดทาง สุดท้ายก็พานางมาถึงภายในเรือนที่ตกแต่งไว้อย่างเป็นมงคล


เรือนหอที่งดงามที่สุด สถานที่ที่นางเคยชอบที่สุด เขาและนางเคยมีช่วงเวลาที่สุดแสนสุขสันต์อยู่ที่นี่หนึ่งวัน และเป็นวันสุดท้ายที่เขาและนางได้แนบชิดกันอย่างไร้ช่องว่าง


“ซีจิ่ว…” ตี้ฝูอีวางนางลงบนเตียงเบาๆ นอนเคียงข้างนาง “ซีจิ่ว เจ้าเคยบอกเป็นนัยๆ นับครั้งไม่ถ้วนว่าข้าควรไปสู่ขอเจ้าได้แล้ว อยากออกเรือนกับข้าอย่างเปิดเผยมีหน้ามีตา ส่วนข้าก็สมควรตายจริงๆ แสร้งทำเป็นเลอะเลือนเสมอมา ช่วงเวลานั้นเจ้าคงผิดหวังยิ่งนักเป็นแน่กระมัง? ข้าติดค้างงานวิวาห์ที่ยิ่งใหญ่ของเจ้า…เพียงแต่ไม่รู้ว่าข้ายังมีคุณสมบัติที่จะขอเจ้าแต่งงานอีกครั้งอยู่หรือไม่?”


เขากุมมือของนาง ส่วนนางยังคงนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาปิดพริ้มราวกับหลับสนิทอยู่ แต่เขารู้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่หวนกลับมาแล้ว…


เขาหยิบแหวนวงหนึ่งออกมา แหวนวงนั้นส่องประกายพร่างพราว ดุจแสงดาวพราวระยับ “ซีจิ่ว ยังจำแหวนวงนี้ได้ไหม? ตอนนั้นที่เจ้าหนีงานแต่งไปได้ทิ้งแหวนวงนี้ไว้ให้ข้า ข้าเก็บรักษาไว้เสมอมา หลังจากเลิกรากับเจ้าแล้ว เวลาที่ข้าคิดถึงเจ้าก็จะหยิบแหวนวงนี้ออกมาดูอยู่บ่อยครั้ง…”


เมื่อเขากล่าวมาถึงตรงนี้น้ำเสียงก็ตีบตัน ชะงักไปครู่หนึ่ง ถึงฝืนยกมุมปากยิ้มแวบหนึ่ง ค่อยๆ สวมแหวนวงนั้นลงบนนิ้วมือของนางอีกครั้ง พิศซ้ายพิศขวาอยู่ครู่หนึ่ง “ซีจิ่ว เจ้าสวมแหวนวงนี้แล้วน่ามองจริงๆ…”


น้ำเสียงเขาตีบตันอีกครั้ง จับมือข้างนั้นของนางขึ้นมาช้าๆ จุมพิตลงบนหลังมือนางคราหนึ่ง จากนั้นก็สวมแหวนให้ตนบ้าง มือทั้งสองข้างที่สวมแหวนเอาไว้ประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน


เปลวเทียนแดงวูบไหว สาดส่องเงาร่างคนทั้งสองลงบนผ้าม่าน ราวกับวันนี้เพิ่งเป็นคืนวิวาห์ของพวกเขา เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความรักหวานซึ้ง


เขาโอบนางไว้ในอ้อมแขน หลับตาลงเล็กน้อย


‘ในเมื่อทราบว่าจะมีวันนี้ เหตุใดยามนั้นยังกระทำอยู่เล่า?’ อักษรสีทองแถวหนึ่งวาบขึ้นในสมองของตี้ฝูอี


เป็นหยกนภา


มันยังคงอยู่บนข้อมือของกู้ซีจิ่วเสมอมา ก่อนหน้านี้มันหลับลึกราวกับฝึกฝนวรยุทธ์อยู่มาโดยตลอด เพิ่งตื่นขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้


ตี้ฝูอีสามารถสื่อสารกับมันได้มาโดยตลอด


——————————————————————

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)