ลำนำบุปผาพิษ 1710-1713

 บทที่ 1710 เขาไม่เคยสอนให้นาง!


นอกเสียจากว่านางใช้วิชาต้องห้ามอะไร อย่างเช่นวิชามารสวรรค์สลายร่าง…


วิชามารสวรรค์สลายร่างให้ผลลัพธ์ถึงขั้นนี้ได้จริง ทว่ามันก็มีผลตามมาที่อันตรายมาก โดยปกติคนที่ใช้วิชามารสวรรค์สลายร่างแล้ว สถานเบาจะสูญเสียพลังวิญญาณไปมาก กลายเป็นสวะไร้ค่า สถานหนักก็จะสิ้นชีพในทันที…


ไม่ได้! เขาต้องหยุดยั้งนาง!


วิชามารสวรรค์สลายร่างเป็นวิชาที่หยุดยั้งได้ ดูจากลำแสงสีรุ้งนางมีสัญญาณของตะเกียงที่ขาดน้ำมันแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้วิธีที่รวดเร็วที่สุดเพื่อหยุดยั้ง!


เขาพุ่งตัวไปอย่างแรง เมื่อใกล้ถึงละแวกนั้นกลับถูกสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นดีดกลับออกมา


เขตแดน!


ที่แห่งนี้มีเขตแดน!


ตี้ฝูอีเป็นยอดฝีมือในการทำลายเขตแดน ภายใต้ความร้อนใจ เขายังไม่ทันได้ดูให้ชัดเจนว่าเป็นเขตแดนอะไร ก็เริ่มลงมือทำลาย วิชาที่ใช้เป็นวิชาสลายเขตแดนที่ทรงพลังและใช้ร้อยครั้งได้ผลร้อยครั้ง


ลำแสงสีขาวสายหนึ่งสาดส่องอักษรรูนประทับลงบนเขตแดนนั้น!


วิชาสลายชนิดนี้เป็นวิชาสลายเขตแดนสารพัดประโยชน์ เทียบเท่ากับกุญแจผี ไขเปิดทุกเขตแดนได้…


สิ่งที่เขานึกไม่ถึงก็คือ หลังจากที่เขาใช้วิชานี้ เขตแดนนั้นเพียงสั่นสะเทือนเล็กน้อย แทบจะไม่มีทีท่าการทำลาย


เขามองกู้ซีจิ่วที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านในอีกครั้ง จู่ๆ ร่างกายนางก็สั่นสะท้าน เหมือนกับโดนโจมตีเข้าอย่างกะทันหัน แล้วกระอักเลือดออกมา


โม่เจ้าฉวยโอกาสใช้กระบี่ฟันไปตรงที่ศีรษะของเธอ ทว่าเธอหลบหลีกได้


เขตแดนที่กู้ซีจิ่วสร้างขึ้นยิ่งใหญ่นัก ตี้ฝูอีมองทั้งสองคนด้านในจากด้านนอกเขตแดน มองเห็นเพียงสองเงาร่างที่เคลื่อนไหวรวดเร็วปานกระต่ายโดดเหยี่ยวโผประกอบกับลำแสงสีรุ้งและเงากระบี่มากมายนับไม่ถ้วน ทว่ามองเห็นหน้าไม่ชัด เพราะห่างไกลเกินไป


ทว่าเขาเห็นนางกระอักเลือด


หัวใจพลันสั่นสะท้าน!


เขตแดนนี้


เขายกมือขึ้นสัมผัสเขตแดน รับรู้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย ไม่ต้องเอ่ยถาม เขตแดนนี้เป็นเขตแดนที่กู้ซีจิ่วสร้างขึ้น


ทว่า เขตแดนที่นางสร้างขึ้นนี้เขาไม่เคยเห็น ถึงขั้นที่ไม่เคยได้ยิน


ไอพลังวิญญาณของเขตแดนนี้เข้มข้นยิ่งนัก ด้านบนเหมือนมีกลิ่นอายของดวงวิญญาณรางๆ ราวกับใช้ดวงวิญญาณสร้างขึ้นมา


สีหน้าเขาแปรเปลี่ยน!


หากเขตแดนนี้สร้างด้วยดวงวิญญาณ เช่นนั้นตอนที่เขาทำลายเขตแดนก็เท่ากับโจมตีนาง…


การสร้างเขตแดนด้วยดวงวิญญาณเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ใดต้องการทำลายเขตแดน ก็เท่ากับลงมือโจมตีดวงวิญญาณของคนสร้างเขตแดน หากเขตแดนชนิดนี้สร้างในสถานที่ที่มีผู้ฝึกฝนมากมาย นั่นช่างรนหาที่ตายเสียจริง!


นางเรียนรู้การสร้างเขตแดนด้วยดวงวิญญาณตั้งแต่เมื่อใด? เขาไม่เคยสอนให้นาง!


หากต้องการทำลายเขตแดนชนิดนี้มีเพียงสองวิธีเท่านั้น ไม่คนสร้างเขตแดนปลดออก คนสร้างเขตแดนก็ต้องล่วงลับ…


มือของตี้ฝูอีสั่นระรัว เขาลองใช้วิชาดำดินดู ผลก็คือดำลงไปได้ไม่ถึงด้านใน


เห็นได้ชัดว่าเขตแดนชนิดนี้ปิดกั้นทุกคนที่เข้ามาจากทั่วทุกสารทิศในใต้หล้า!


“ซีจิ่ว เปิดเขตแดน! ให้ข้าเข้าไป!” เขาตะโกนเสียงดัง


ยามนี้พลังวิญญาณเขาสูงส่ง มีอานุภาพทะลุทะลวงที่แข็งแกร่ง อย่าว่าแต่ห่างไกลกันไม่กี่ลี้เลย ต่อให้ห่างไกลกันเป็นร้อยกว่าลี้ ก็ได้ยินอย่างแน่นอน


ซุ่มเสียงดุจหุบเขาที่ว่างเปล่าดังไปโดยรอบแล้วสะท้อนกลับมา ทว่าเหมือนคนทั้งสองที่ต่อสู้กันอยู่ในเขตแดนจะไม่ได้ยินเลย


เขาไม่ยอมลดละ ตะโกนเสียงดังกึกก้องติดต่อกันอีกหลายครั้ง ถึงขนาดใช้วิชาแทรกซึมทะลวงหลากหลายชนิดแล้ว คนด้านในเขตแดนกลับไม่ตอบสนองเลย ยังคงต้อสู้กันอย่างดุเดือดเร่าร้อน


หรือว่าเขตแดนนี้เก็บเสียง?


ทว่าเขากลับได้ยินเสียงการต่อสู้ด้านใน!


บางทีอาจจะเก็บแต่เสียงด้านนอก? จะได้ไม่มีผู้ใดรบกวน?


เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกมีความเป็นไปได้เช่นนี้ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนแม้ภูเขาไท่ซานจะถล่มลงต่อหน้ารู้สึกตื่นตระหนกจนแข้งขาสั่นไปหมดแล้วเป็นครั้งแรก


—————————————————————————-


บทที่ 1711 เกรงว่าเจ้าคงช่วยนางไม่ได้แล้ว!


เดินวนเป็นวงอยู่ตรงนั้น


เขาใช้วิชาสลายเขตแดนที่ค่อนข้างนุ่มนวลหลายชนิดต่อเนื่องกัน ทว่าล้วนไม่เป็นผลทั้งสิ้น ในทางกลับกันกลับทำกู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านในส่ายโซเซอยู่สองสามครั้ง มีครั้งหนึ่งที่อันตรายที่สุดเนื่องจากนางส่ายโงนเงนจนถูกโม่เจ้าฟันเข้าที่แขนหนึ่งดาบ!


โลหิตสดๆ ทะลักออกมา ย้อมท่อนแขนซ้ายนางจนแดงฉานไปหมด


ตี้ฝูอีไม่กล้าลงมือแล้ว!


หัวใจระส่ำระส่ายราวกับมิใช่ของตน มือเท้าของเขาเย็นเฉียบไปหมดแล้ว!


รู้สึกหวาดกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต!


สมองของเขาที่ปราดเปรื่องช่างวางแผนเสมอมายามนี้สับสนว้าวุ่น หลังจากเดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิมไม่กี่รอบ ในที่สุดเขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ รีบติดต่อหาหลงซือเย่


ถึงแม้เขาจะถอดถอนฐานะสานุศิษย์สวรรค์ของหลงซือเย่แล้ว แต่ไม่ได้ริบป้ายหยกสื่อสารที่เคยมอบให้เขาไว้คืนมา


ได้แต่หวังว่าหลงซือเย่จะยังพกติดตัวอยู่!


ยังดีที่หลงซือเย่ไม่ได้โยนป้าหยกชิ้นนั้นให้สุนัขไปแล้ว รับสายอย่างรวดเร็วยิ่ง “ทูตสวรรค์ตี้ พบตัวซีจิ่วแล้วหรือ?”


ตี้ฝูอีไม่มีแก่ใจมาทักทายปราศรัยกับเขา รีบเอ่ยถามทันที “ซีจิ่วเคยร่ำเรียนเวทวิชาอันใดมาใช่ไหม? ชนิดที่ใช้พลังจากดวงวิญญาณก่อตั้งเป็นเขตแดน…” เขากล่าวถึงลักษณะเฉพาะของเขตแดนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ได้แต่หวังให้หลังซือเย่จะพอรู้บ้าง…


น้ำเสียงของหลงซือเย่เปลี่ยนไปแล้ว “นางอยู่ที่ไหน? นางไล่ตามโม่เจ้าไปใช่ไหม? สู้สุดชีวิตกับโม่เจ้าอยู่หรือ?!”


เวลาเช่นนี้ตี้ฝูอีย่อมไม่ปิดบังอำพราง รีบบอกสถานที่และสถานการณ์ทันที เอ่ยถามอีกว่า “สรุปแล้วเจ้ารู้จักเขตแดนชนิดนี้หรือไม่? จะทำลายได้อย่างไร?”


น้ำเสียงหลงซือเย่แทบจะแตกพร่าแล้ว “ตี้ฝูอี! เจ้ากำลังจะฆ่านาง! นางคิดจะตายตกไปพร้อมกับโม่เจ้าแล้ว!”


ตี้ฝูอีสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง “ข้ากำลังหาทางช่วยนางอยู่! เจ้าบอกวิธีให้ข้าสิ ข้าจะทำลายเขตแดนนี้แล้วไปช่วยนาง ตอนนี้นางยังคงอยู่ดี…”


น้ำเสียงของหลงซือเย่ฟังราวกับยิ้มอย่างปวดร้าวอยู่ “ช่วยนางรึ? เกรงว่าเจ้าคงช่วยนางไม่ได้แล้ว! นั่นคือเขตแดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์! วิชาประหัตวิญญา ไม่ตายไม่เลิกรา!”


“มะ…หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงตี้ฝูอีก็สั่นพร่าแล้วเช่นกัน


สุ้มเสียงของหลงซือเย่ราวกับทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ “นั่นเป็นเวทวิชาที่นางเรียนมาจากหมอผีผู้ทรงฤทธิ์ท่านหนึ่งในยุคนั้นของพวกเรา หมอผีคนนั้นเป็นเชื้อสายของหนี่ว์วา วิชาปราบมารเลิศล้ำ ซีจิ่วเคยเรียนรู้ทักษะบางส่วนมาจากนาง ในบรรดาทักษะเหล่านั้นมีเขตแดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และวิชาประหัตวิญญาอยู่ด้วย! สองวิชานี้ส่งเสริมขับเน้นกัน และกล่าวได้ว่าเป็นเวทย์วิชาที่เชื่อมโยงกัน วิชานี้ต้องใช้วิญญาณกระตุ้นสำแดงออกมา เมื่อสำแดงออกมาแล้ว พลังยุทธ์จะเพิ่มสูงขึ้นห้าเท่าในชั่วพริบตา! และต้องล้างสังหารมารร้ายอย่างไม่ตายไม่เลิกรา ไม่ว่าจะเป็นนางตายหรือว่าฝ่ายตรงข้ามตาย ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ผู้อื่นไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่งได้! และไม่สามารถเข้าไปได้เลย! เจ้าอย่าได้โจมตีเขตแดนที่นางติดตั้งเด็ดขาด! มิเช่นนั้นจะเท่ากับเป็นการโจมตีใส่นาง! เท่ากับเจ้าร่วมมือกับโม่เจ้าสังหารนาง!”


ตี้ฝูอีหนาวเหน็บไปทั้งร่าง เสมือนผลัดตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง ปีนขึ้นมาไม่ได้อีก ในหูเกิดเสียงดังหึ่งๆ


เขามองกู้ซีจิ่วที่พลิกเหินโจมตีอยู่ด้านในไม่หยุด เขาเชื่อว่านางน่าจะสัมผัสถึงการมาของเขาได้แล้ว


อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้ติดตั้งเขตแดนนี้ เมื่อเขตแดนของนางถูกผู้อื่นโจมตีนางจะไม่รู้ได้อย่างไรเล่า?


เพียงแต่นางไม่คิดจะสนใจเท่านั้น นางถึงขั้นที่ไม่มองมาทางนี้เลยสักแวบด้วยซ้ำ!


ที่แท้ นางก็ตัดสินใจจะเอาชีวิตเข้าแลกจริงๆ นางไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ หรือ?


เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าก้าวข้ามไปได้แล้ว…


มองเขาราวกับมองมองคนแปลกหน้าแล้วชัดๆ ถึงขั้นที่มองเขาเป็นสหายธรรมดาๆ ด้วยซ้ำ ร่วมมือกันนางกระทำเรื่องราวบางอย่าง…


เขานึกว่านางก้าวข้ามเรื่องส่วนใหญ่ไปได้แล้ว นางเริ่มมุมานะเพื่อแข็งแกร่งขึ้นแล้ว…


ที่แท้นางก็แสร้งทำงั้นหรือ?!


ที่แท้นางก็โหยหาความตาย…


ฝ่ายหลงซือเย่ที่อยู่ด้านนั้นก็สิ้นหวังแล้วเช่นกัน น้ำเสียงคล้ายร่ำไห้ “ตี้ฝูอี นางชมชอบเจ้าถึงเพียงนั้น เพื่อเจ้าแล้วสละได้ทุกสิ่ง!…”


บทที่ 1712 จะได้รับผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!


“นางเป็นเด็กกำพร้า ขาดความรักมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นนางจึงไม่เคยเชื่อใจผู้ใดเลย นางปกป้องหัวใจของตนไว้อย่างดี นางไม่อยากถูกทำร้าย แต่นางเชื่อใจเจ้าเพียงผู้เดียว! ตอนที่นางยังไม่ได้ทะลวงสู่ขั้นเก้าข้าเคยพูดคุยกับนาง ยามนั้นนางเอ่ยปฏิญาณอย่างหนักแน่นว่าจะมานะฝึกฝน เพราะนางอยากอยู่เจ้าไปตราบนานเท่านาน ไม่อยากเห็นเจ้าเดียวดายอีก…หลังจากพวกเจ้าออกมาจากเขตหวงห้ามอันใดนั่นได้ นางมาเยี่ยมเยือนข้า เรื่องที่เอ่ยถึงกับข้ามากที่สุดยังคงเป็นเจ้า ยามนั้นนางมีความสุขยิ่งนัก บอกว่าในที่สุดก็ฝึกฝนจนบรรลุขั้นสิบแล้ว สามารถเคียงข้างเจ้าบุกตะลุยไปทั่วหล้าได้แล้ว บอกว่านางอยากแบ่งเบาภาระของเจ้า…ท่าทางของนางในยามนั้นราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์ที่สุขสันต์ที่สุด หัวใจเปี่ยมความวาดหวังต่ออนาคต…รู้หรือยังว่าสุดท้ายแล้วข้ายอมปล่อยมือเพราะอะไร? เพราะเหตุผลข้อนี้ไง! นางตกอยู่ในความอ่อนโยนของเจ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว ในสายตาในหัวใจไม่เหลือที่ไว้ให้ผู้ใดอีกแล้ว! แม้ว่าเจ้าจะตายตกไป นางก็จะติดตามเจ้าไปด้วย! และไม่เหลือบแลข้ามากขึ้นอีกสักแวบเลย!”


มือที่ถือป้ายหยกของตี้ฝูอีกำแน่นแล้ว ฟังเขาก่นด่า “ตี้ฝูอี นางปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้ เหตุใดเจ้ายังหักใจทอดทิ้งนางได้?! เจ้าส่งนางขึ้นสู่สรวงสวรรค์เองกับมือ ทว่าชั่วพริบตาต่อมาก็เตะนางลงสู่ขุมนรก! เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลายวันมานี้นางเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้ารู้ไหมว่านางมีความทุกข์อันใดล้วนฝังกลบไว้ในหัวใจทั้งสิ้น ทว่าตกดึกกลับนอนไม่หลับทั้งคืน? เจ้าทำลายความภาคภูมิในตัวเองของนางไปหมดแล้ว! ถึงแม้นางจะไม่ได้บอกข้าอย่างเฉพาะเจาะจงว่าสรุปแล้วระหว่างเจ้ากับนางเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนที่นางตัดสินย้ายสังขารครานั้น ระหว่างที่สะลึมสะลือเคยพูดเรื่องราวมากมายที่อยู่ในหัวใจออกมา นางรู้สึกว่าตนเป็นคนที่น่าขันผู้หนึ่ง ชาติก่อนเป็นมนุษย์โคลนนิ่ง ไม่มีสังขารเป็นของตัวเอง ชาตินี้แม้แต่ดวงวิญญาณก็ยังมิใช่ของตนทั้งหมดอีก…นางบอกว่านางเหนื่อยมาก นางบอกว่าบางทีนางไม่สมควรจะมาที่โลกนี้เลย…นางบอกว่านางรู้สึกว่าตนด้อยราคายิ่งนัก เจ้าไม่ต้องการนางแล้วชัดๆ แต่กลับลืมเจ้าไม่ลง ยังปวดใจอยู่ตลอด นางบอกว่านางไม่อยากเป็นตัวแทน…นางบอกว่าความจริงแล้วเจ้าปรารถนาให้นางตาย เป็นเพราะนางไม่ตาย นางในดวงใจของเจ้าจึงไม่มีชีวิตไม่ได้…”


แต่ละถ้อยคำแต่ละประโยคของหลงซือเย่ราวกับคมมีด ทำให้ใบหน้าตี้ฝูอีซีดเซียวไร้สีเลือดแล้ว


เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง สองมือทาบลงบนเขตแดน ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอย่างมหาศาลทำให้เขาแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว


เขามองกู้ซีจิ่วที่อยู่ภายในเขตแดน การเคลื่อนไหวของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นเชื่องช้า เห็นได้ชัดว่าใกล้จะเป็นตะเกียงขาดน้ำมันแล้ว


ส่วนโม่เจ้าก็ไม่ได้รับผลดีอันใดเช่นกัน บนร่างมีบาดแผลอยู่นับไม่ถ้วน เพียงแต่เขายังสามารถยืนหยัดได้


เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ดีแน่!


นางจะสิ้นชีพด้วยน้ำมือของโม่เจ้า!


ส่วนโม่เจ้าก็ชิงชังนางไปแล้ว ถ้าเข้าได้ลงมือ เขาจะไม่สังหารเพียงสังขารของกู้ซีจิ่วเท่านั้น เกรงว่าดวงวิญญาณเขาก็ไม่ละเว้นเช่นกัน จะทำให้ดวงวิญญาณของนางแตกสลายกระจัดกระจาย! เช่นนั้นจบเห่ทุกอย่างแล้ว!


เขาวางแผนเพื่อนางมานานหลายปี เสียสละไปมากมายปานนั้น จะได้รับผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!


แสงสีรุ้งค่อยๆ เจิดจ้าขึ้นกลางฝ่ามือของตี้ฝูอี…


เขาจะใช้พลังเทพชนิดหนึ่งเป็นสื่อกลางเพื่อทำลายเขตแดน พลังทำลายล้างกล้าแกร่งยิ่ง ไม่มีเขตแดนใดที่ลำลายล้างไม่ได้ เพียงแต่จะสิ้นเปลืองพลังเทพมหาศาลยิ่งนัก เขาจึงไม่เคยใช้เลย


ทว่ายามนี้ไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว!


เขาทำลายเขตแดนของนางอาจจะทำให้นางสิ้นชีพ แต่สามารถรักษาดวงวิญญาณของนางไว้ได้ ขอเพียงวิญญาณยังอยู่ เขาก็มีวิธีฟื้นคืนชีพให้นาง…


….


ขณะที่ตี้ฝูอีกำลังจะซัดฝ่ามือนี้ลงไป จู่ๆ ภายในเขตแดนก็มีเสียงหัวเราะดังลั่นของโม่เจ้า “เจ้าแพ้แล้ว! เจ้า…”


วาจาภาคภูมิใจของเขายังไม่ทันได้เอ่ยจนจบ ทันใดนั้นก็ราวกับถูกกระบี่ผนึกลำคอไว้ สำลักกะรอึกกระอักทั้งเป็น!


ตี้ฝูอีเงยหน้าขึ้นทันที มองเห็นฉากที่ทำให้ดวงวิญญาณของเขาแทบจะแหลกสลาย


กระบี่ล้ำค่าในมือของโม่เจ้าแทงเข้าสู่ทรวงอกของกู้ซีจิ่ว! เสียบจนทะลุ


ส่วนแส้อ่อนในฝ่ามือของกู้ซีจิ่วก็ทะลวงเข้าไปในปากของโม่เจ้า ทะลุออกท้ายทอยเขา แสงสีรุ้งส่องเจิดจ้า! แฝงอานุภาพชำระล้างที่ชำระล้างทุกสิ่งได้ ห่อหุ้มทั้งร่างของโม่เจ้าไว้…


—————————————————————————-


บทที่ 1713 โศกาอาลัย


กู้ซีจิ่วหอบหายใจเอ่ยอย่างเยียบเย็นประโยคหนึ่ง “เจ้าต่างหากที่แพ้…”


โม่เจ้าถลึงตาอย่างโกรธเกรี้ยว จ้องมองกู้ซีจิ่ว ลำคอมีเสียงดังอึกอัก คล้ายว่าอยากพูดอะไร สุดท้ายก็เอ่ยออกมาไม่ได้เลยสักประโยค


ร่างกายทรุดฮวบลงไปเสมือนไร้กระดูก เพียงแต่ในท้ายที่สุดแล้ว มีความเวทนาและไม่ยินยอมพาดผ่านนัยน์ตาของเขาแวบหนึ่ง…


เขาตายแล้ว!


สิ้นชีพลงภายใต้แส้อ่อนของกู้ซีจิ่ว เห็นได้ชัดว่าแส้อ่อนเส้นนี้ของนางมิของสามัญ แฝงคุณสมบัติในการชำระล้างที่แกร่งกล้ายิ่งนักเอาไว้ ไม่เพียงแต่สังหารกายเนื้อในปัจจุบันของเขาให้ตกตายเท่านั้น ยังสังหารกายจิตของเขาไปด้วย


กู้ซีจิ่วโซเซไปเบื้องหน้าไม่กี่ก้าว ร่างกายก็อ่อนยวบทรุดลงไปเช่นกัน…


และแทบจะในเวลาเดียวกัน ในที่สุดเขตแดนนั้นก็แตกสลายไปอย่างเป็นทางการแล้ว ตี้ฝูอีโผเข้าไปทันที อุ้มนางขึ้นมาจากพื้น “ซีจิ่ว!”


ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว! นางสังหารโม่เจ้าได้แล้ว เพียงถูกแทงอกดาบเดียวเท่านั้น เขาช่วยชีวิตนางได้! นางจะไม่เป็นไร!


นิ้วมือที่สั่นระริกของเขากุมกระบี่ล้ำค่าที่ปักอยู่ในทรวงอกของนาง พลังวิญญาณอาฆาตบนกระบี่ล้ำค่าถูกกู้ซีจิ่วชำระล้างไปหมดแล้ว ดังนั้นยามนี้มันจึงเป็นกระบี่คมกริบเล่มหนึ่งเท่านั้น


ตี้ฝูอีโคจรพลังวิญญาณ กระบี่ล้ำค่าสีแดงฉานเล่มนั้นหายไปทัน!


วิชาแพทย์ของตี้ฝูอีล้ำเลิศ มองเพียงแวบเดียวก็ทราบว่าถึงแม้กระบี่นี้จะอันตราย แต่ก็มิได้แทงถูกหัวใจของนาง เพียงแทงถูกม้ามเท่านั้น ด้วยฝีมือของเขาสามารถเชื่อมต่อเส้นเลือที่ขาดสะบั้นไปให้นางอย่างรวดเร็วได้ ทำให้นางรอดชีวิตได้


“ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะช่วยเจ้า ซีจิ่ว ข้าจะช่วยเจ้า…” เขากอดนางแน่น ฝ่ามือกดลงบนบาดแผลนาง น้ำเสียงทุ้มต่ำผิดปกติ ทว่ามั่นคงอย่างไร้ใดเทียม “ซีจิ่ว เจ้าโคจรตามพลังวิญญาณของข้านะ ข้าจะรักษาบาดแผลให้เจ้า…”


โชคดีที่เขาพุ่งเข้ามาทันที!


เนื่องจากในที่สุดทั้งสองคนที่อยู่ในเขตแดนก็ตัดสินผลกันได้แล้ว โม่เจ้าสิ้นชีพ ส่วนกู้ซีจิ่วรอดชีวิต


ไม่น่าเชื่อว่านางสามารถสังหารโม่เจ้าให้ตกตายได้ด้วยความสามารถของตน!


นางสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้งแล้ว…


ขอเพียงนางยังมีชีวิตอยู่เช่นนั้นสิ่งใดก็ไม่สำคัญแล้ว ดังนั้นเมื่อตี้ฝูอีพุ่งเข้ามาปฏิกิริยาแรกก็คือทำการรักษาให้นาง…


มือเท้าของเขาเยียบเย็นอย่างยิ่ง ดังนั้นวินาทีที่อุ้มนางขึ้นมาจึงไม่รู้สึกว่าอันที่จริงแล้วร่างกายของนางเย็นเฉียบยิ่งนักแล้ว จวบจนมือเขากดลงบนปากแผลนาง สัมผัสถึงอัตตราการเต้นของหัวใจอันทรงพลังที่แสนคุ้นเคยนั้นไม่ได้แล้ว ถึงรับรู้ได้ว่าผิดปกติ!


ร่างกายนางอ่อนยวบยาบนัก เย็นเยียบยิ่ง ยามกอดนางไว้ในอ้อมแขน เหมือนกอดซากศพร่างหนึ่ง…


ส่วนบาดแผลขนาดใหญ่ตรงทรวงอกของนาง ก็มีโลหิตไหลออกมาไม่มากเช่นกัน มีเพียงอาภรณ์ตรงหน้าอกเท่านั้นที่ชุ่มโชก…


เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?!


นิ้วมือที่สั่นสะท้านของตี้ฝูอียื่นไปตรวจสอบชีพจรของนาง


แทบจะสัมผัสถึงชีพจรไม่ได้แล้ว นิ่งสนิทอยู่เนิ่นนาน สัมผัสถึงลมหายใจไม่ได้แล้วเช่นกัน…


ตะเกียงขาดน้ำมัน! เป็นตะเกียงขาดน้ำมันอย่างแท้จริง!


กู้ซีจิ่วนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ในอ้อมแขนเขา ยามที่เขาโอบเธอไว้ในอ้อมแขนเธอแข็งทื่อไปเล็กน้อย คล้ายคิดจะดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่ตี้ฝูอีกอดเธอไว้แน่น เธอดิ้นอยู่ครู่เดียวก็ไม่ได้ดิ้นอีกปล่อยให้เขากอดไว้


แต่สองแขนห้อยลู่ลงข้างกายตลอด ไม่มีทีท่าว่าจะกอดเขากลับเลย


พลิกผันผ่านพ้นมาเนิ่นนาน ในที่สุดเธอก็ได้กลับสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง


ไม่มีผู้ใดทราบ ว่าตอนแรกที่สูญเสียอ้อมกอดนี้ไปเธอเจ็บปวดมากแค่ไหน! อีกทั้งผลิกผันตรากตรำอยู่หลายตลบถึงจะทำให้ตนไม่โหยหาถึงได้อีก…


ตอนนี้เธอหวนสู่อ้อมกอดนี้อีกครั้ง ทว่าหัวใจกลับเจ็บปวดยิ่งนัก ไม่เพียงแต่เจ็บปวดเท่านั้นยังเสียดชาอีกด้วย


แพขนตาของเธอสั่นไหวอยู่สองครา ในที่สุดสายตาก็ตกกระทบลงบนดวงหน้าเขา


บนหน้าเขายังมีหน้ากากอยู่ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง ดวงตาของเขาน่ามองอย่างยิ่ง ในอดีตยามที่เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนเขาชมชอบจ้องมองดวงตาของเขาเป็นที่สุด


————————————————————————–

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)