อัจฉริยะสมองเพชร 1708-1709

 ตอนที่ 1708 คำเดียวก็พอ

“บ้าแล้ว!”


ภาพที่เห็นทำให้ดวงตาของงูเขียวไม้สวรรค์แทบร่วงลงกับพื้น ส่วนอสูรสวรรค์อีก 3 ตัวก็มองหน้ากันอย่างพรั่นพรึง


พวกมันคืออสูรผู้สืบทอดสายเลือดของอสูรสวรรค์โบราณ มีทั้งเกียรติ ศักดิ์ศรี อำนาจและความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเหนือดินแดน…แต่แค่ในช่วงระยะเวลาอันสั้น เสือเมฆวิญญาณทองก็เลือกที่จะยอมจำนนให้กับมนุษย์คนหนึ่ง


เรื่องนี้จะต้องมีอะไรผิดปกติแน่!


“เธอทำให้ชื่อเสียงของพวกเราด่างพร้อย” งูเขียวไม้สวรรค์ขู่ฟ่ออย่างโกรธเกรี้ยว


มันคือหัวหน้าของห้าผู้ยิ่งใหญ่ในป่านี้


มันเคยคิดว่าเพียงเท่านี้ก็น่าอับอายพอแล้วที่เหล่าบริวารของเสือเมฆวิญญาณทองยอมให้มนุษย์คนหนึ่งเล่นงานจนยอมจำนน แต่หลังจากที่มันคิดได้เพียงครู่เดียว ‘ผู้นำ’ ของอสูรเหล่านั้นก็กลับยอมจำนนเสียเอง!


แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้ามันเลย!


เป็นความจริงที่ว่าเสือเมฆวิญญาณทองต้องแบกรับความกดดันหนักหน่วง เพราะต้องรับมือกับของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 ชิ้นและอสูรถึง 5 ตัวพร้อมกัน มันเคยคิดที่จะเข้าช่วยเสือเมฆวิญญาณทอง แต่นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้รวดเร็วแบบนี้!


ศักดิ์ศรีและความเย่อหยิ่งในตัวหายไปไหนหมด?


“ลุกขึ้นเถอะ แล้วกลืนยาเม็ดนี้ลงไป” จางเซวียนกระดิกนิ้วและป้อนยาเม็ดเกรด 9 ให้เสือเมฆวิญญาณทองก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก


อันที่จริง เหตุผลที่เขายื่นข้อเสนอขอดวลตัวต่อตัวกับเสือเมฆวิญญาณทองก็เพื่อจะถือโอกาสใช้ช่วงเวลานี้ทำให้มันยอมจำนน


และก็เป็นอย่างที่เขาวางแผนไว้ ด้วยกลยุทธการทำให้หวาดกลัวและคำชี้แนะอีกเล็กน้อยผ่านทางโทรจิต จางเซวียนก็สามารถหว่านล้อมเสือเมฆวิญญาณทองให้ยอมจำนนได้


เมื่อมีเสือเมฆวิญญาณทองเป็นพวก ต่อให้อสูรสวรรค์อีก 4 ตัวที่เหลือต่อต้านเขา แต่เขาก็จะยังมีอำนาจเพียงพอที่จะปกป้องตัวเอง


“ด้วยสิ่งนี้ ก็ถือว่าเป็นชัยชนะของผมแล้วใช่ไหม?”


จางเซวียนสะบัดข้อมือและเก็บอสูรกับของล้ำค่าทั้งหมดของเขาเข้าสู่แหวนเก็บสมบัติ ก่อนจะหันไปมองงูเขียวไม้สวรรค์


“เจ้าหนุ่ม คุณใช้เวทมนต์แบบไหน…เสือเมฆวิญญาณทองถึงยอมก้มหัวให้และยอมรับคุณเป็นเจ้านายของเธอ?” งูเขียวไม้สวรรค์มีสีหน้าไม่สู้ดี มันตั้งคำถามกับจางเซวียนพร้อมกับแผ่เจตนาสังหารดุเดือดออกจากดวงตาคู่นั้น


“คุณอยากรู้ความจริงหรือ?” จางเซวียนถามกลับ


“แน่นอน!” งูเขียวไม้สวรรค์กัดฟันตอบ


“ความจริงก็คือ…ผมเป็นเจ้านายของพวกคุณตั้งแต่ชาติก่อน และระหว่างที่เธอกำลังต่อสู้กับผม เสือเมฆวิญญาณทองรับรู้ได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของผม นั่นคือเหตุผลที่เธอยอมจำนนโดยไม่ลังเล” จางเซวียนพูดขณะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของงูเขียวไม้สวรรค์ แสดงทีท่าของผู้เชี่ยวชาญตัวจริง


“คุณคือเจ้านายของพวกเราตั้งแต่ชาติก่อน? จะบ้าหรือไง!” งูเขียวไม้สวรรค์แทบลมจับกับคำพูดเหลวไหลที่ชายหนุ่มพูดออกมา


คุณจะหาเหตุผลที่ดีกว่านี้สักหน่อยได้ไหม?


เจ้านายเมื่อชาติก่อน? ทำไมไม่บอกว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์ขงกลับชาติมาเกิดเสียเลยล่ะ?


บ้าที่สุด! ถ้างั้นผมก็พูดได้สิว่าชาติก่อนผมเป็นปู่ของคุณ!


“คุณไม่เชื่อผมหรือ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว


“เชื่อก็บ้าแล้ว!” งูเขียวไม้สวรรค์คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ต่อให้คุณอยากปั่นหัวพวกเราก็เถอะ คิดว่าพวกเราจะยอมรับข้ออ้างแบบนี้หรือ?


จางเซวียนเบนสายตาไปจากงูเขียวไม้สวรรค์ที่กำลังโมโห เขาจ้องหน้าอสูรสวรรค์ 3 ตัวที่เหลือและถามว่า “พวกคุณล่ะ? ไม่เชื่อผมเหมือนกันใช่ไหม?”


“อย่ามัวเสียเวลาเลย พวกเราจะไม่ปล่อยให้คุณทำอะไรตามใจอีกแล้ว!” เต่าดำนรกตอบช้าๆ


นกฟีนิกซ์ไฟสวรรค์คำราม “อย่าเสียเวลากับเขาอีกเลย มีบางอย่างที่ออกจะประหลาดในตัวหมอนี่ ฆ่าเขาเสียก่อนเถอะ แล้วค่อยหารือเรื่องอื่นกัน”


“ถ้าอย่างนั้นก็จัดการเลย ผมจะเริ่มก่อน…” อสูรนรกลวงตาพูดและก้าวออกไป


อันที่จริง พวกมันรู้สึกกดดันเล็กน้อยกับความพิลึกพิลั่นที่ชายหนุ่มได้แสดงออกมาก่อนหน้านี้ มีบางอย่างผิดปกติจริงๆที่ทำให้เสือเมฆวิญญาณทองยอมจำนนต่อเขาอย่างรวดเร็ว


ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของป่านี้ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่หยิ่งในศักดิ์ศรีมาก ใครเล่าจะเต็มใจละทิ้งตำแหน่งอันสูงส่งเพียงเพื่อมาเป็นบริวารของมนุษย์คนหนึ่ง?


“ดูเหมือนพวกคุณจะไม่เชื่อผมเลย…” จางเซวียนส่ายหน้าอย่างผิดหวังก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอสูรสวรรค์ทั้ง 4 “พวกคุณกล้าเดิมพันกับผมไหม?”


“เดิมพัน?”


“ใช่! ผมขอเดิมพันว่าผมจะพูดเพียงแค่คำเดียวเพื่อทำให้งูเขียวไม้สวรรค์ยอมก้มศีรษะให้ผม และยอมรับผมเป็นเจ้านายให้ได้!” จางเซวียนพูดอย่างสุขุมขณะเอาสองมือไพล่หลังไว้


“คุณคิดว่าผมจะยอมจำนนให้คุณเพียงเพราะคำพูดคำเดียวหรือ?” งูเขียวไม้สวรรค์แทบสำลักความโกรธตาย “แน่ใจนะว่าหัวสมองของคุณยังปกติดีอยู่?”


ในฐานะอสูรผู้สืบทอดสายเลือดมังกรอันสูงส่ง งูเขียวไม้สวรรค์มีทั้งอำนาจและสถานภาพระดับสูงในเผ่าพันธุ์อสูร ต่อให้มันถูกย่างทั้งเป็น ก็ไม่มีทางที่มันจะยอมจำนนให้มนุษย์!


อย่าว่าแต่หนึ่งคำเลย ต่อให้อีกฝ่ายใช้เวลาชั่วชีวิตพล่ามอะไรออกมา ก็ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น


“แค่พูดออกมาคำเดียวก็พอว่าคุณเต็มใจเดิมพันกับผม” จางเซวียนยักไหล่อย่างไม่รู้สึกรู้สา “เดิมพันนั้นง่ายมาก ถ้าผมทำให้คุณยอมจำนนได้ คุณจะต้องยอมรับตัวตนของผมและทำให้อสูรสวรรค์อีก 3 ตัวยอมจำนนให้ผมด้วย แต่ถ้าผมทำไม่สำเร็จ ผมจะปลดปล่อยเสือเมฆวิญญาณทองและฆ่าตัวตายทันที!”


“คุณอยากให้ผมทำให้พวกนั้นยอมจำนนด้วยหรือ?” งูเขียวไม้สวรรค์ชะงักไปเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะยื่นข้อเสนอแบบนี้


“ใช่แล้ว ในฐานะหัวหน้าของ 5 ผู้ยิ่งใหญ่ พวกคุณย่อมมั่นใจในตัวเอง ถูกไหม?” จางเซวียนพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์


“ฮึ่มมม! ถ้าเจ้านายของพวกเราเต็มใจยอมจำนนให้คุณ พวกเราก็ไม่มีข้อขัดข้องที่จะยอมจำนนให้คุณเช่นกัน แต่เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณจะทำตามข้อตกลงหากคุณพ่ายแพ้?” อสูรนรกลวงตาท้าทาย


เพราะรู้จักงูเขียวไม้สวรรค์มาเนิ่นนานหลายปี พวกมันจึงคุ้นเคยกับนิสัยและอารมณ์ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี


มันทั้งดื้อดึงและไม่ยอมก้มหัวให้ใคร โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเกียรติยศศักดิ์ศรี


ผู้เดียวที่ทำให้งูเขียวไม้สวรรค์ยอมจำนนได้ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาคือปรมาจารย์ขง แต่ชายหนุ่มกลับต้องการให้มันยอมจำนนให้เขา


น่าหัวเราะสิ้นดี!


“ใช่ ถ้าคุณทำให้เจ้านายของพวกเรายอมจำนนได้ พวกเราก็จะยอมรับคุณเป็นเจ้านายของเราเช่นกัน!”


“มีอะไรให้ต้องกลัวล่ะ? ไม่มีทางที่เจ้านายของเราจะก้มหัวให้มนุษย์อ่อนแออย่างคุณ!”


นกฟีนิกซ์ไฟสวรรค์กับเต่าดำนรกพูดเป็นเสียงเดียวกันด้วยความภาคภูมิใจ


“ผมจะถือเป็นคำสัญญาของพวกคุณนะ” จางเซวียนตอบ


“เฮอะ! ผมก็แค่หวังว่าคุณจะไม่คืนคำเท่านั้นเองเมื่อเวลามาถึง!” อสูรนรกลวงตาคำราม


“เอ่อ…”


ในตอนนั้นเอง รอยย่นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของงูเขียวไม้สวรรค์ สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็วจนมันคาดไม่ถึง และดูเหมือนจะไม่อาจหยุดยั้งได้


ชายหนุ่มผู้ไร้ความหวาดกลัวและมีความสามารถในการทำให้เสือเมฆวิญญาณทองยอมจำนนให้เขาอย่างรวดเร็วนั้นทำให้มันออกจะกังวลเล็กน้อย


ระหว่างการสนทนา อสูรนรกลวงตาส่งโทรจิตหางูเขียวไม้สวรรค์ “เจ้านาย คุณรังเกียจพวกมนุษย์ที่ชอบหลอกลวงเสมอมา พวกเราเชื่อมั่นในตัวคุณ! ทำไมคุณไม่ตอบตกลงรับข้อเสนอของหมอนั่นและช่วยเสือเมฆก่อนล่ะ?”


ด้วยนิสัยและอารมณ์ของงูเขียวไม้สวรรค์ นี่เป็นเดิมพันที่พวกมันมีโอกาสชนะ ไม่มีอะไรจะต้องหวาดกลัวเลย!


“เอ่อ…” นัยน์ตาของงูเขียวไม้สวรรค์บ่งบอกความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายมันจะตัดสินใจได้และพยักหน้า “ตามนั้น ผมตอบรับเดิมพันของคุณ!”


มันไม่กล้ายืนยันกับอสูรตัวอื่นๆ แต่อย่างน้อยมันก็มั่นใจในตัวเอง


ต่อให้มันต้องตาย ก็ไม่มีวันยอมก้มศีรษะให้มนุษย์หน้าไหนเป็นอันขาด


“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มเลย!” เมื่อเห็นว่างูเขียวไม้สวรรค์ไม่ยอมรับเดิมพัน จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “พร้อมหรือยังล่ะ? ผมไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายไปหาคนอื่น เพราะฉะนั้นจะส่งโทรจิตหาคุณนะ ตั้งใจฟังผมให้ดีล่ะ!”


“อยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ไม่มีทางทำให้ผมยอมจำนนได้ ผมขอแนะนำให้คุณล้มเลิกความตั้งใจอันเปล่าประโยชน์นี้จะดีกว่า” งูเขียวไม้สวรรค์คำราม


บางอย่างก็เป็นไปไม่ได้จริงๆ!


ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร ก็ไม่มีทางส่งผลกระทบต่อจิตใจของมัน


ต่อให้คุณคือปรมาจารย์ขงกลับชาติมาเกิด หากผมปฏิเสธที่จะยอมรับคุณ คุณจะทำอะไรได้?


เมื่อตัดสินใจแล้ว มันก็หูผึ่ง ตั้งใจฟังว่าชายหนุ่มจะพูดอะไร


“วางใจเถอะ ผมรู้จักเจ้านายของพวกเราดี ไม่มีใครทำให้ความเด็ดเดี่ยวของเขาคลอนแคลนได้”


“ผมคิดว่าเจ้าหนุ่มนั่นตั้งใจยื้อเวลา เป็นไปได้ว่าเขาอาจมีกำลังเสริมที่อยู่ระหว่างการเดินทาง พวกเราต้องจับตาพื้นที่โดยรอบไว้ให้ดี!”


ขณะที่เหล่าอสูรกำลังหารือกันอย่างเคร่งเครียด ก็เห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึกก่อนจะตะโกนคำหนึ่งผ่านทางโทรจิต


ฟึ่บ!


ทันใดนั้น งูเขียวไม้สวรรค์ก็ทรุดฮวบลงกับพื้น ร่างของมันสั่นสะท้านไม่หยุด มันจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความพรั่นพรึงก่อนจะค้อมตัวลง


งูเขียวไม้สวรรค์อุทานออกมาด้วยความร้อนรน “งูเขียวไม้สวรรค์คารวะนายท่าน!”



ตอนที่ 1709 อารักขาทางออก

“หัวหน้าของพวกเรา…ยอมรับเขาเป็นเจ้านายแล้วหรือ?”


ความเงียบครอบงำไปทั่วบริเวณ


ทั้งนกฟีนิกซ์ไฟสวรรค์ อสูรนรกลวงตาและเต่าดำนรกต่างอึ้งตะลึงงัน พวกมันยืนรากงอกอยู่ตรงนั้น หัวสมองว่างเปล่าไปหมด


มันรู้ดีว่างูเขียวไม้สวรรค์มีนิสัยดื้อดึงมากแค่ไหน แต่เพียงแค่คำคำเดียวที่อีกฝ่ายส่งออกไป งูเขียวไม้สวรรค์ก็ทรุดฮวบลงกับพื้นและยอมจำนนโดยไม่แยแสศักดิ์ศรีของตัวเองเลย แถมทุกอย่างยังเลวร้ายลงไปอีก เพราะนัยน์ตาของงูเขียวเปล่งประกายของความปรารถนาด้วย


สวรรค์ช่วยบอกทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?


ในเวลาเดียวกัน หวูชางผิงก็แทบเสียสติ


เพื่อจะทำให้เสือเมฆวิญญาณทองยอมจำนน เขาต้องเตรียมการมากมาย ต้องมอบของล้ำค่าจำนวนมากให้สมาชิกทั้ง 7 คนในกลุ่มเพื่อให้คนเหล่านั้นยินยอมช่วยเขาปฏิบัติภารกิจ และยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องใช้ของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เพื่อการนี้ด้วย แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จสักอย่าง แถมยังถูกจับเสียอีก


ส่วนชายหนุ่มกลับทำให้เสือเมฆวิญญาณทองยอมจำนนได้ภายในเวลาเพียง 2-3 นาที ด้วยคำเพียงคำเดียว เขาทำให้งูเขียวไม้สวรรค์ยอมศิโรราบ ไม่กล้าแสดงความกระด้างกระเดื่องแม้แต่น้อย


เรื่องนี้เหลวไหลสิ้นดี!


“ทำสัญญา!” จางเซวียนสั่งการ


สำหรับอสูรที่มีสายเลือดมังกร ไม่มีอาวุธใดทรงพลังไปกว่าแปดโน้ตมังกรสวรรค์


ไม่ว่างูเขียวไม้สวรรค์จะเป็นอสูรที่ระดับขั้นสูงสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจต้านทานข้อจำกัดของสายเลือดได้ เป็นเพราะจางเซวียนรู้ความจริงข้อนี้ เขาจึงจงใจวางเดิมพันกับมัน และก็เป็นไปตามคาด อีกฝ่ายยอมตกลงอย่างง่ายดาย


ไม่ใช่เพราะพวกมันโง่ แต่เป็นเพราะมันนึกไม่ถึงว่ามนุษย์อย่างเขาจะสามารถพูดภาษาของสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ได้


ไม่มีใครคาดคิดว่านักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติอย่างเขาจะมีกลยุทธซ่อนไว้มากมาย จนแม้แต่อสูรขั้นชั่วกัลปาวสานอย่างพวกมันก็ยังไม่ทันระมัดระวังตัว และเพลี่ยงพล้ำครั้งแล้วครั้งเล่า


แม้งูเขียวไม้สวรรค์ออกจะไม่เต็มใจยอมสละอิสรภาพของมัน แต่ด้วยแรงกดดันจากแปดโน้ตมังกรสวรรค์ มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมอบหยดเลือดให้


หลังจากทำสัญญากันแล้ว จางเซวียนหันไปพูดกับอสูรอีก 3 ตัว “คราวนี้ถึงตาพวกคุณแล้วนะ ในเมื่อผมทำให้งูเขียวมังกรสวรรค์ยอมจำนนได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ก็ถือว่าผมชนะ แต่แน่นอนว่านั่นเป็นแค่เดิมพัน ยังไม่มีการปฏิญาณใดๆ และไม่มีอะไรผูกมัดคุณไว้กับคำพูดเหล่านั้นด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่เต็มใจจะทำตามเดิมพัน…”


“เหลวไหล! อสูรสวรรค์อย่างพวกเรามีสายเลือดโบราณไหลพล่านอยู่ทั่วร่าง จะผิดคำสัญญาได้อย่างไร?”


“แพ้ก็คือแพ้ ในเมื่อหัวหน้าของพวกเราเลือกที่จะยอมจำนนให้คุณแล้ว ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะยอมรับคุณเป็นเจ้านายของผมเช่นกัน…”


“ผมแค่หวังว่าคุณจะไม่บังคับเราให้ทำอะไรที่ขัดแย้งกับหลักการที่เรายึดถืออยู่…”


…..


ทั้งอสูรนรกลวงตา นกฟีนิกซ์ไฟสวรรค์ และเต่าดำนรกต่างก็รู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกมันเย่อหยิ่งและภาคภูมิใจในตัวเองเกินกว่าจะผิดคำสัญญา ทั้งสามตัวพยักหน้าและมอบหยดเลือดให้จางเซวียน


ถึงอย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายทำให้หัวหน้าของพวกมันยอมจำนนได้ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายเกินไปที่พวกมันจะยอมรับเขา เป็นสิ่งเดียวที่พวกมันทำได้ในตอนนี้


“นั่นทำให้ผมทุ่นเวลาและปัญหาไปได้มากทีเดียว…” เห็นอสูรอีก 3 ตัวยอมทำตามสัญญา จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก


เหตุผลที่จางเซวียนเสนอเดิมพันก็เพื่อจะทำให้อสูรสวรรค์ทั้ง 3 ตัวยอมจำนน และแน่นอนว่าเมื่องูเขียวไม้สวรรค์กับเสือเมฆวิญญาณทองอยู่ข้างเดียวกับเขาแล้ว สุดท้าย เขาก็ย่อมทำให้อสูรที่เหลือยอมจำนนได้ และน่าจะทำให้เขาลดความยุ่งยากไปได้มาก


“ในเมื่อพวกคุณยอมจำนนให้ผมแล้ว ในฐานะเจ้านาย อย่างน้อยผมก็ควรตอบแทนความจงรักภักดีของคุณสักหน่อย”


หลังจากที่อสูรสวรรค์ทั้ง 5 ตัวยอมจำนน จางเซวียนก็มองหน้าพวกมันก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง


“เสือเมฆวิญญาณทอง ในฐานะอสูรที่มีองค์ประกอบของโลหะ คุณมีความสามารถเหนือชั้นในการโจมตี แต่การป้องกันตัวของคุณนั้นยังออกจะอ่อนด้อยอยู่สักหน่อย ที่สำคัญกว่านั้น แม้คุณจะมีพละกำลังมาก แต่ก็ไม่อาจควบคุมมันได้อย่างแม่นยำ ทำให้คุณเปิดจุดอ่อนมากมายที่ผมสามารถเล่นงานได้ ผมจะชี้ข้อบกพร่องใหญ่ๆ 2-3 ข้อให้คุณรับรู้นะ และหากคุณแก้ไขมันตามที่ผมบอก ก็จะยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ขึ้นได้อีกมาก!”


จางเซวียนร่ายยาวถึงข้อบกพร่อง 2-3 ข้อของเสือเมฆวิญญาณทอง รวมทั้งวิธีแก้ไข


ตอนที่เขาต่อสู้กับอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้ หอสมุดเทียบฟ้าได้เปิดเผยข้อบกพร่องของเสือเมฆวิญญาณทอง ประกอบกับความรู้ของเขาในฐานะนักฝึกอสูร จางเซวียนจึงสามารถหาวิธีแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย


เมื่อฝึกฝนวรยุทธตามคำชี้แนะที่จางเซวียนถ่ายทอดให้ เสือเมฆวิญญาณทองยินดีปรีดาอย่างมากกับประสิทธิภาพการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น นัยน์ตาของมันเป็นประกายขณะทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นอีกครั้ง คราวนี้มันแสดงความเคารพจางเซวียนด้วยความจริงใจ


หากก่อนหน้านี้มันยอมจำนนให้ชายหนุ่มเพราะความหวาดกลัวและความคาดหวังในผลประโยชน์ที่จะได้ แต่คราวนี้มันคารวะเขาด้วยความเคารพจริงๆ


จากนั้น จางเซวียนก็ให้คำชี้แนะในการฝึกวรยุทธกับเหล่าอสูรสวรรค์ที่เหลือ ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกมันเพิ่มขึ้นอีกมาก ด้วยความตื่นเต้นกับพละกำลังที่ได้มาใหม่ พวกมันรีบโค้งคำนับให้จางเซวียนด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณ


เพราะสำเร็จวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสาน โลกจารึกแล้ว พวกมันจึงคิดว่าการจะยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ให้เพิ่มสูงขึ้นอีกคงเป็นเรื่องยากมาก เว้นเสียแต่จะเกิดวิวัฒนาการครั้งใหญ่ในสายเลือดของพวกมัน ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ายังมีโอกาสพัฒนาประสิทธิภาพการต่อสู้ขึ้นได้อีก


ถ้าพวกมันฝึกฝนตามวิธีที่จางเซวียนแนะนำ ในอนาคตก็อาจฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์โบราณได้


สำหรับพวกมัน เรื่องนี้ดึงดูดใจเสียยิ่งกว่าการได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของป่าแห่งนี้และมีอำนาจเหนืออสูรทั้งปวง


“นายท่าน เราจะทำอย่างไรกับเจ้าพวกนี้?” งูเขียวไม้สวรรค์ชี้นิ้วไปที่หวูชางผิงกับคนอื่นๆ


“พวกเขาทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ทั้งยังทำร้ายเสือเมฆวิญญาณทอง แต่การกระทำของพวกเขาก็ไม่ได้มุ่งหมายจะให้พวกเราถึงแก่ชีวิต ก็ควรให้พวกเขาชดใช้ และปล่อยตัวเขาไปเสีย” จางเซวียนพูดพร้อมกับโบกมือ


อันที่จริง เขานึกดีใจที่ทั้ง 8 คนมาก่อนหน้า เพราะหากเขาพรวดพราดเข้าไปในถ้ำ ก็คงจะถูกอสูรทั้ง 5 ตีวงล้อมเอาไว้ บางทีเขาอาจไม่มีโอกาสได้สู้กับพวกมันตัวต่อตัว และทุกอย่างก็คงไม่จบลงอย่างราบรื่นเหมือนตอนนี้


แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าคนทั้ง 8 มีเจตนาร้ายต่อเขา แถมยังโจมตีเสือเมฆวิญญาณทองด้วย และในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายเป็นอสูรของเขาแล้ว เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนทั้ง 8 จากไปโดยไม่ชดเชยด้วยอะไรบางอย่างที่มีมูลค่าสูงเสียก่อน


“ได้เลยนายท่าน!”


เมื่อเห็นว่านายท่านของมันไม่ใช่คนที่จะปรานีต่อมนุษย์ที่ทำความผิด เหล่าอสูรต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก


ดูเหมือนพวกมันไม่ได้ถูกเอาเปรียบ


ด้วยความดุร้ายของอสูรสวรรค์ทั้ง 5 หวูชางผิงกับพรรคพวกจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมจำนน พวกเขายอมมอบทรัพย์สมบัติมากมายที่สะสมมาเป็นเวลานาน รวมทั้งยาเม็ดเกรด 9 ของล้ำค่า และข้าวของอื่นอีกมากมาย ก่อนที่สุดท้ายจะได้รับการปล่อยตัว


“เก็บทรัพย์สมบัติพวกนี้ไว้ ผมมอบให้พวกคุณไปตัดสินใจกันเองว่าจะแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร และพวกคุณก็แน่ใจได้เลยว่าความจงรักภักดีของพวกคุณจะไม่สูญเปล่า หากตั้งใจทำงานให้ผม ผมก็ไม่ขัดข้องที่จะมอบของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของผมให้พวกคุณ!” จางเซวียนพูด


ของล้ำค่าที่หวูชางผิงกับพรรคพวกมอบให้เหล่าอสูรนั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของจางเซวียนแม้แต่น้อย เขาจึงมอบให้อสูรสวรรค์ทั้ง 5 จัดการกันเอง และให้ความหวังกับพวกมันไปด้วยพร้อมๆกัน


การทำให้อสูร 1 ตัวยอมจำนนก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการดูแลบริวาร นอกจากต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือสร้างความคาดหวังในแง่ดีให้กับพวกมัน เพื่อให้มองเห็นอนาคต


ด้วยการแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องวรยุทธและคำสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สมบัติอันล้ำค่า เมื่อมีผลประโยชน์อันล่อตาล่อใจแบบนี้ อสูรสวรรค์ทั้ง 5 ก็พร้อมยอมจำนนให้เขาทั้งกายและใจ


เป็นไปตามคาด หลังจากได้ยินคำพูดของจางเซวียน อสูรสวรรค์ทั้ง 5 มีสีหน้าท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาทันที เท่าที่เห็น ดูเหมือนจางเซวียนจะได้รับความจงรักภักดีจากพวกมันแล้ว อย่างน้อยก็ในเวลานี้


หลังจากหวูชางผิงกับพรรคพวกจากไป สุดท้ายจางเซวียนก็ได้โอกาสเปิดเผยข้อสงสัยที่ค้างคาในใจของเขา “พวกคุณควรจะกระจายตัวกันอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงไปรวมตัวกันอยู่ในถ้ำเสือเมฆวิญญาณทอง?”


ตามข้อมูลที่เขาได้รับจากเสือขาวหน้าผากแดง ผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 ต่างมีอาณาเขตของตัวเองในผืนป่าแห่งนี้ และแทบไม่เคยยุ่งเกี่ยวกัน แล้วทำไมพวกมันถึงมารวมตัวกันอยู่ในถ้ำ?


“วันที่พวกเรารู้ว่ามิติถูกเปิดออกและมวลมนุษย์ต่างกรูกันเข้ามา พวกเราก็มารวมตัวกันที่นี่ทันที ตอนแรก พวกเราตั้งใจจะหามาตรการตอบโต้เพื่อยับยั้งการคุกคามของมวลมนุษย์ และหลังจากนั้น พวกเราก็จะอารักขาทางออกไว้และป้องกันไม่ให้ใครผ่านเข้าไปได้” งูเขียวไม้สวรรค์อธิบาย


“ทางออก?” จางเซวียนตาโตเมื่อได้ยิน “หรือว่า…ทางออกที่นำไปสู่วิหารแห่งขงจื้ออยู่ในถ้ำ?”


ในเมื่ออสูรสวรรค์ทั้ง 5 ออกมาจากถ้ำ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ‘ทางออก’ จะอยู่ที่นั่น?


“ใช่แล้ว!” งูเขียวไม้สวรรค์พยักหน้า “ก่อนหน้านี้ ปรมาจารย์ขงนำตัวพวกเรามาที่นี่ มอบหมายความรับผิดชอบให้พวกเราอารักขาทางออกไว้และป้องกันไม่ให้ใครหามันเจอ ผมคิดว่านั่นคือบททดสอบที่เขาตั้งใจฝากมันไว้กับพวกเรา!”


เมื่อได้ยินคำนั้น จางเซวียนขมวดคิ้วด้วยความสับสน “คุณพูดว่าปรมาจารย์ขงจับตัวพวกคุณไว้ แปลว่าพวกคุณเคยพบปรมาจารย์ขงหรือ?”


ปรมาจารย์ขงจากทวีปแห่งปรมาจารย์ไปหลายหมื่นปีแล้ว แม้อสูรสวรรค์เหล่านี้จะมีอายุขัยยืนยาวกว่ามนุษย์ แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่อยู่ได้นานขนาดนั้น ไม่อย่างนั้น ด้วยจำนวนของพวกมันที่สะสมกันมาหลายรุ่น ป่านนี้พวกมันคงยึดครองทวีปแห่งปรมาจารย์และมีอำนาจยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ไปแล้ว


ไม่มีทางที่อสูรสวรรค์ทั้ง 5 จะมีอายุยืนยาวได้หลายหมื่นปี แล้วการที่พวกมันพูดว่าถูกปรมาจารย์ขงจับตัวไว้นั้น หมายความว่าอย่างไร?

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)