คัมภีร์วิถีเซียน 1705-1706
ตอนที่ 1705 สุราเซียนตาข่ายแดง หญ้าพิ...
ทว่าสวนสมุนไพรเล็กๆ แค่นี้ เขตอาคมที่วางอยู่กลับรับมือยากเช่นนี้ ช่างคู่ควรกับวิถีของแดนเซียนจริงๆ
และยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ออกจากจัตุรัสหน้าวิหาร แม้ว่าพลังของเขตอาคมบนพื้นดินจะยังอยู่ แต่ดูเหมือนว่าอานุภาพจะลดลงไม่น้อย มิเช่นนั้นแม้ว่าเมื่อครู่จะแปลงกายเป็นวานรยักษ์ เกรงว่าภูเขาเทวะดูดปราณก็ยังคงไม่อาจโยนออกไปไกลมากนักได้
หานลี่ขบคิดเช่นนั้นในใจ ก็ตรงไปยังประตูสวนสมุนไพรอย่างไม่ลังเลอีก
หลังจากม่านลำแสงห้าสีสลายหายไป ทุกอย่างในสวนสมุนไพรพลันเอ่ยออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย
สวนสมุนไพรไม่ใหญ่นัก แต่ไอวิญญาณพฤกษาและกลิ่นหอมของยาที่แผ่ออกมากลับโชยมาเข้าจมูก
ดังนั้นเขายังไม่ทันได้เข้าไปข้างใน ก็รู้ว่าครั้งนี้คงไม่ผิดพลาด จะต้องได้ประโยชน์อันใดแน่
สวนทั้งสวนสร้างขึ้นจากเถาวัลย์สีเขียวมรกตนำมาขดวนเป็นพุ่มเตี้ยๆ ประตูสวยก็เป็นแผ่นป้ายเรียบๆ สองแผ่น ทว่าสูงแค่สามจั้งกว่า แม้กระทั่งเปิดอยู่ครึ่งบาน
หานลี่มองทะลุผ่านไป เห็นสถานการณ์ในสวนสมุนไพรคร่าวๆ
ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือสวนสมุนไพรเรียบๆ สองสามสวน ด้านในมีสมุนไพรเตี้ยๆ สูงแค่ครึ่งฉื่อปลูกอยู่เต็มไปหมด
สายตาจ้องเขม็งมองไป หานลี่ก็มองเห็นสมุนไพรในสวนที่อยู่ด้านหน้าสุดได้อย่างชัดเจน
สมุนไพรในสวนผืนนี้เป็นสีเหลืองอ่อน แต่ตรงใจกลางล้วนเป็นผลขนาดเท่าหัวแม่มือ ทั้งบางและแหลม ราวกับพริกแดงที่พบเห็นได้บ่อยในโลกมนุษย์
ผลเหล่านี้แผ่ลำแสงสีแดงเข้มออกมา มองไกลๆ แล้วเหมือนกับโคมไฟขนาดจิ๋วเท่าหัวแม่มือ ช่างน่าเอ็นดูนัก
เพราะพืชที่ปลูกอยู่ในสวนล้วนเป็นสมุนไพรวิญญาณชนิดนี้ ดูแล้วเจ้าของสวนคงจะให้ความสำคัญและต้องการใช้มันมากแน่
หลังจากหานลี่เห็นสมุนไพรเหล่านี้และผลของมันอย่างชัดเจน ความคิดก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รู้สึกเหมือนว่าตนเองเคยได้ยินสมุนไพรชนิดนี้มาก่อน แต่เมื่อขบคิดอย่างละเอียด กลับไม่อาจคิดออกได้
ดังนั้นเขาจึงมีสีหน้าครุ่นคิด แล้วย่างเท้าเข้าไปในสวนสมุนไพร
เมื่อร่างกายแฉลบผ่านประตูไม้ไป ในหัวพลันมีลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบ ในที่สุดก็จำประวัติความเป็นมาของสมุนไพรชนิดนี้ออก
นี่เป็นสมุนไพรวิญญาณและผลที่เคยเอ่ยขึ้นในตำนานโบราณมากของมหาสมุทรดาวคลั่งยามที่เขาอยู่ในโลกมนุษย์
ดูแล้วเหมือนกับในบันทึกทุกระเบียบนิ้ว น่าจะไม่ผิด
ร่างกายของเขาหยุดชะงัก หยุดฝีเท้าอยู่ด้านข้างสวนสมุนไพร มองไปยังสมุนไพรที่เหมือนกันร้อยกว่าต้น ใบหน้าพลันเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา อดที่จะเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมาไม่ได้
“ผลตาข่ายแดง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นผลวิญญาณชนิดนี้ หากให้ผีสุราได้พวกมันไป มีชีวิตยาวนานเช่นนี้ เกรงว่าเซียนเหล่านั้นคงให้ความสำคัญกับมันดุจสมบัติสินะ” หานลี่เอ่ยพึมพำ
ผลวิญญาณประหลาดเหล่านี้ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแค่วัตถุดิบหลักในการหมักสุราวิญญาณบางชนิด
เมื่อเอ่ยถึง ‘สุราเซียนตาข่ายแดง’ เกรงว่าผู้บำเพ็ญเพียรกว่าครึ่งในมหาสมุทรดาวคลั่งคงรู้จัก
เพราะว่าในตำนานสุราชนิดนี้มีเพียงเซียนจากแดนเซียนที่จะมีโอกาสดื่มสุราเซียนชนิดนี้ ดูเหมือนว่าสุราชนิดนี้จะมีชื่อเสียงมาในแดนเซียน และไม่ใช่เซียนธรรมดาที่จะดื่มอย่างส่งเดชได้
แม้กระทั่งคนในแดนวิญญาณจากมหาสมุทรดาวคลั่ง ก็ยังมีตำนานที่น่าเหลือเชื่อของสุราชนิดนี้
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ล้วนคิดว่า ‘สุราเซียนตาข่ายแดน’ เป็นสิ่งที่หายาก
แม้กระทั่งคนธรรมดาๆ ขอแค่ดื่มสุรานี้อึกหนึ่ง ก็มีประโยชน์มาก สามารถทะลวงขึ้นแดนเซียนได้
หานลี่เคยอ่านเหล่านี้ แน่นอนว่าย่อมรู้ว่าไม่มีทางมีเรื่องมหัศจรรย์เช่นนี้ได้
สาเหตุที่สุราชนิดนี้มีชื่อเสียงขนาดนี้ หลักๆ ก็เพราะว่ากันว่าสุราชนิดนี้มีกลิ่นหอมหวน หายากในสามโลก
ขอแค่ดื่มสุราชนิดนี้ไปอึกหนึ่ง ก็ถูกปากน้ำลายสอ กลิ่นหอมของสุรายังติดอยู่ไรฟันสิบกว่าวันไม่สร่างคลาย หากดื่มไหหนึ่ง แม้แต่เซียนก็ต้องเมามายไปสามวันสามคืน ตั้งแต่นั้นมาสุราชนิดนี้ก็เลื่องลือไปทั่ว
แน่นอนว่าเมื่อดื่มสุราชนิดนี้บ่อยๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางร่ายกายได้อย่างช้าๆ ทำให้มีอายุขัยยืนยาวขึ้น แต่แค่จริงๆ แล้วมีประโยชน์เท่าใด มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ กว่าครึ่งก็แค่มุ่งเป้าไปยังผู้บำเพ็ญเพียรระดับต่ำและคนธรรมดาเท่านั้น
แต่เช่นนั้นคนที่รักของสิ่งนี้ย่อมให้ความสำคัญกับสุราชนิดนี้ราวกับสมบัติ ทำให้น้ำลายไหลยืด
ดังนั้นจึงไม่อาจกล่าวได้ว่า ‘ผลตาข่ายแดง’ ไร้ประโยชน์ แต่สำหรับหานลี่ที่ไม่ค่อยดื่มสุรานั้น กลับเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
โชคดีที่ในตำราเคยเอ่ยไว้
ระดับและประสิทธิภาพกลิ่นหอมของสุราเซียนตาข่ายแดงนั้น เกี่ยวข้องกับอายุขัยที่จำกัดของผลตาข่ายแดง
แม้ว่าจะเป็นสุราเซียนตาข่ายแดงเช่นกัน เป็นเพราะผลตาข่ายแดงมีอายุขัยจำกัด ก็แยกระดับชั้นกัน
แต่ผลตาข่ายแดงเป็นดอกไม้ที่ผลิบานพันปี หมื่นปีจึงจะออกผล
ระหว่างที่กำลังปลูกนั้นก็ไม่ง่าย มันตายง่ายเป็นอย่างมาก ต้องให้คนคอยดูแลทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะ พอออกผลแล้วถึงได้ไม่ต้องดูแลได้
ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มสุรานั้น คงไม่มีทางเปลืองแรงปลูกผลวิญญาณชนิดนี้แน่
ต่อให้เป็นเซียนที่ชอบดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจ เสียแรงและเวลามากมายเช่นนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ ก็ต้องคิดให้ดี
สวนสมุนไพรนี้น่าจะมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ดูแล้วตั้งแต่ที่ผลตาข่ายแดงเหล่านี้ออกผล ก็ไม่เคยมีผู้ใดเด็ดมาก่อน ไม่รู้ว่าผ่านไปอีกกี่หมื่นปีแล้ว อายุขัยและประสิทธิภาพของยาจะมากขนาดไหนแค่คิดก็รู้แล้ว
หากใช้หมักสุราเซียนตาข่ายแดง ไม่แน่ว่าอาจจะมีประสิทธิภาพอื่นที่คิดไม่ถึง และต่อให้ไม่มีประโยชน์อันใดกับเขา นำผลนี้มาหมักเป็นสุราวิญญาณออกขายให้กับพวกคลั่งไคล้สุรา ก็คงได้รายรับที่น่าตกตะลึง
หานลี่นึกถึงเนื้อหาละเอียดในคัมภีร์ สีหน้าก็นับว่าดีขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ได้รีบไปเด็ดผลวิญญาณเหล่านั้น แต่หลังจากที่ยืนขึ้น ก็เดินไปยังสวนสมุนไพรอื่นๆ ใกล้เคียง
ในสวนสมุนไพรอื่น มีสมุนไพรวิญญาณที่ปลูกอยู่อีกสองชนิดจำนวนไม่น้อย
ชนิดหนึ่งราวกับต้นหญ้าธรรมดาๆ แต่เส้นไหมสีทองอ่อนในสีเขียวมรกตนั้น กลับแผ่กลิ่นหอมที่เย้ายวนออกมา เมื่อใช้มือลูบไล้ไป ใบหญ้าก็เรียบลื่นราวกับหยกอุ่น
อีกชนิดหนึ่งกลับตรงกันข้าม
สูงประมาณครึ่งฉื่อ ใบตัดสลับกันไปมา ผิวมีลายห้าสี ทุกต้นมีผลสีดำม่วงงอกออกมาสองสามลูก
แต่ผิวของผลเหล่านี้เป็นขรุขระ มีจุดขรุขระหลายสี ดูน่าเกลียด
เป็นเพราะปลูกสมุนไพรเหล่านี้ไม่มาก แน่นอนว่าจึงดูดความสนใจของหานลี่
น่าเสียดายสมุนไพรสองชนิดนี้ หานลี่รู้จักแค่ชนิดเดียว ไม่รู้จักเส้นไหมชนิดแรกเลยสักนิด
แต่เช่นนั้นเขาพลันรู้สึกดีใจขึ้นมา
สมุนไพรวิญญาณที่อัปลักษณ์ชนิดนี้ คือ ‘หญ้าพิษกร่อน’ ที่อยู่ในบันทึกยาของเมืองเทวะสวรรค์
และหายสาบสูญไปจากแดนวิญญาณเป็นล้านปีแล้ว
ชื่อตามความหมาย สมุนไพรชนิดนี้มีพิษผสมอยู่ ว่ากันว่าต่อให้สิ่งมีชีวิตระดับผสานอินทรีย์ขึ้นไปกินมันเข้าไป ก็ต้องเพลี่ยงพล้ำ
พอดีกับที่รากของมันและผลมีพิษแฝงอยู่ ล้วนน้ำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงยาระดับสุดยอดสิบกว่าชนิดได้ หนึ่งในนั้นยังมียาลูกกลอนสองสามชนิดที่สามารถกระตุ้นพลังยุทธ์ระดับผสานอินทรีย์ได้
นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่หญ้าพิษกร่อนหายสาบสูญไปจากแดนวิญญาณ
เพราะสมุนไพรวิญญาณนี้ยากที่จะเคลื่อนย้ายในแดนวิญญาณ ไม่ว่าใช้วิธีการใด หากไปเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของมัน ก็จะกลายเป็นน้ำสีดำภายในเวลาไม่กี่ปี และไม่มีประสิทธิภาพใดๆ อีก
ส่วนการนำเมล็ดของมันมาปลูกเป็นสมุนไพรวิญญาณต้นใหม่ กลับไม่เคยมีใครทำเสร็จในแดนวิญญาณ ล้วนแต่ต้องล้มเหลวในที่สุด
หลังจากที่เพิ่งพบประสิทธิภาพของสมุนไพรชนิดนี้ไปได้แค่สองสามหมื่นปีก็สูญพันธุ์ไป ไม่มีผู้ใดพบเห็นอีก
ในสวนสมุนไพรตรงหน้ามีอยู่ประมาณเจ็ดแปดสิบต้น อายุขัยนั้นไม่ต้องพูดถึง ใช้วัตถุดิบนี้หลอมยาลูกกลอน จะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นสามส่วน
เช่นนั้นเมื่อได้พวกมันมา แน่นอนว่าย่อมทำให้หานลี่ฉีกยิ้มเบิกบาน
เขาไม่ลังเลอีก ทันใดนั้นพลันชูมือขึ้นกลางอากาศ
เสียงอึกทึกดังขึ้น!
กำไลทรงกลมสีดำบินออกมาจากข้อมือ และหมุนวนกลางอากาศรอบด้าน ฉับพลันนั้นหมอกสีเขียวพลันม้วนวนออกมา หลังจากกะพริบวาบๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าหานลี่
หานลี่ใช้มือหนึ่งร่ายอาคมแล้วชี้ไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
ชั่วขณะนั้นหลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น หมอกลำแสงสีเขียวพลันพ่นออกมาจากวงแหวน และม้วนวนไปบนพื้น
หลังจากลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ กล่องหยกยาวสองสามฉื่อที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วสามสี่สิบกล่องพลันปรากฏออกมา พลางเปล่งแสงหลากสีสัน
เขาสะบัดแขนเสื้อ ในเวลาเดียวกันปากก็เอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำออกมา
“ออกมาเถิด ข้ามีเรื่องจะให้เจ้าไปทำ”
“ขอรับ นายท่าน”
เสียงไพเราะนุ่มนวลดังออกมาจากแขนเสื้อ จากนั้นลำแสงสีเขียวก็บินออกมาจากด้านใน แล้วหมุนวนกลางอากาศ คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงอายุหกเจ็ดปี
สวมชุดกระโปรงสีขาวหิมะ บนหัวมีเปียสีดำสนิทอยู่เก้าเปีย เผยความน่ารักเป็นอย่างยิ่งออกมา!
นั่นคือเห็ดเซียนที่แปลงเป็น ‘ฉวี่เอ๋อร์’!
เมื่อเด็กผู้หญิงคนนี้ถูกเรียกออกมา ก็คารวะหานลี่อย่างนอบน้อม จากนั้นก็ทำตาปริบๆ รอให้เจ้านายออกคำสั่ง
“ข้าเห็นว่าเจ้าเด็ดสมุนไพรต่างๆ ในสวนได้ในพริบตา สมุนไพรสามสวนนี้เจ้าช่วยข้าเด็ดเอาไปไว้ในกล่องก็แล้วกัน” หานลี่เองก็ไม่เกรงใจ ชี้ไปที่สวนสมุนไพรทั้งสาม แล้วออกคำสั่งอย่างไม่ต้องขบคิด
“เรื่องนี้ง่ายดาย นายท่านรอประเดี๋ยว” ฉวี่เอ๋อร์ได้ยิน ก็เม้มปากน้อยๆ แล้วเอ่ยตอบรับ
จากนั้นร่างของนางก็พวยพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ หลังจากกะพริบวาบๆ ก็ปรากฏเหนือสวนสมุนไพรสวนหนึ่ง ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น นิ้วทั้งสิบร่ายไปด้านล่าง
เสียงแหวกอากาศดัง “พรึ่บ” เส้นไหมสีเขียวมรกตสิบเส้นดีดออกมาจากปลายนิ้ว ตรงไปหาสมุนไพรวิญญาณด้านล่างสิบต้น
หลังจากเปล่งแสงสว่างวาบ เส้นไหมสีมรกตเหล่านั้นก็ทยอยกันจมหายไปบนก้านของสมุนไพรวิญญาณ
นิ้วทั้งสิบของฉวี่เอ๋อร์ขยับเล็กน้อย
ชั่วขณะนั้นเส้นไหมสีเขียวมรกตสิบเส้นพลันดึงออก สมุนไพรวิญญาณสิบต้นที่ถูกรัดอยู่ ถูกถอนออกมาอย่างเงียบเชียบ
สมุนไพรที่ถูกถอนออกมาไม่เพียงแต่รากยังอยู่ครบ ทั้งยังไม่มีท่าทีได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ไม่มีดินด้านบน ราวกับถูกคนล้างสะอาดไปแล้วรอบหนึ่ง
เส้นไหมสีเขียวมรกตพลันขยับ สมุนไพรวิญญาณถูกดึงไปที่กล่องหยกด้านข้าง และร่อนลงในนั้นอย่างแม่นยำ
ฉวี่เอ๋อร์ร่ายนิ้วไปมาไม่หยุด เส้นไหมสีมรกตพ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง
สมุนไพรวิญญาณในสวนสมุนไพร ถูกถอนออกไปทีละสิบต้นๆ เข้าไปในกล่องหยกอื่นๆ อย่างรวดเร็ว
แค่สองสามชั่วลมหายใจ สมุนไพรร้อยต้นในสวนสมุนไพรก็ถูกถอนไปจนเกลี้ยง
ตอนที่ 1706 อับจนหนทาง
ร่างของฉวี่เอ๋อร์ขยับอีกครั้ง ก็หายวับไปทันที ก่อนปรากฏตัวเหนือสวนสมุนไพรอีกสวน แล้วทยอยถอนสมุนไพรเหล่านั้นออก
ยามนี้หานลี่เดินมาอยู่ใกล้กับสวนสมุนไพรอีกสองสวนที่เหลือ สมุนไพรที่ปลูกอยู่ในสวนเหล่านี้ล้วนมีจำนวนประมาณห้าหกต้นไปจนถึงสิบกว่าต้น
ในบรรดาสมุนไพรเหล่านั้นมีแค่ครึ่งเดียวที่พอจะวิเคราะห์ได้
สมุนไพรที่เหลือกว่าครึ่งนั้น ไม่ว่าตำราของแดนมนุษย์หรือแดนวิญญาณก็ไม่เคยบันทึกเอาไว้
แต่สมุนไพรส่วนน้อยที่รู้จักนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่มีประวัติความเป็นมายิ่งใหญ่อันใด
บ้างก็เหมือนกับผลพิษกร่อน เป็นสิ่งที่สูญพันธุ์ไปจากแดนวิญญาณตั้งนานแล้ว บ้างกลับเป็นสมุนไพรที่หายากเช่นกันในแดนวิญญาณ
หนึ่งในนั้นคาดไม่ถึงว่าจะมีสมุนไพรสำคัญสองสามชนิดที่ชิงหยวนจื่อให้เขาเก็บรวบรวมมาไม่น้อย
เช่นนั้นขอแค่เขาหาสมุนไพรที่เหลือมาก็ง่ายดายกว่าหาสมุนไพรจำนวนมากขึ้นเยอะ คาดไม่ถึงว่าอาจจะรวบรวมสมุนไพรที่ชิงหยวนจื่อต้องการได้ครบ
หานลี่ฝืนระงับความตื่นเต้นดีใจเอาไว้ ทันใดนั้นก็ค้อมตัวลง เริ่มเด็ดสมุนไพรที่มีจำนวนค่อนข้างน้อยด้วยตนเอง และนำมันไปเก็บแยกไว้ในกล่องหยกอย่างระมัดระวัง
เมื่อเขาเด็ดสมุนไพรวิญญาณในสวนสมุนไพรทั้งสองสวนจนว่างเปล่า ฉวี่เอ๋อร์ก็กลับมายืนอย่างน่าเอ็นดูอยู่ด้านข้างตั้งนานแล้ว
สมุนไพรวิญญาณสามชนิดนั้นล้วนถูกเด็กสาวผู้นี้เก็บเสร็จแล้ว และถูกเก็บไว้ในกล่องหยกอย่างครบครัน
มุมปากของหานลี่หยักรอยยิ้มบางๆ ออกมา ชื่นชมเด็กสาวผู้นี้ด้วยสีหน้ายินดีปรีดา
ชั่วขณะนั้นดวงตาทั้งสองข้างของฉวี่เอ๋อร์พลันเปลี่ยนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสองดวง ฉีกยิ้มจนตาหยี
แม้ว่าเด็กสาวผู้นี้เพิ่งจะแปลงกลายเป็นมนุษย์ได้ไม่นาน แต่ก็ติดตามหานลี่อยู่ในร่างของกระต่ายขาวมาตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว ดังนั้นยามนี้ที่อยู่กับหานลี่จึงไม่มีความรู้สึกแปลกหน้าเลยสักนิด กลับเผยท่าทีสนิทชิดเชื้อออกมา
หลังจากจัดการสมุนไพรทั้งหมดที่อยู่ในสวนสมุนไพรแล้ว ในที่สุดหานลี่ถึงได้มองยังอีกด้านของสวนสมุนไพร
ตรงนั้นมีสวนยาที่แตกต่างกันอยู่สิบกว่าสวน ทุกสวนล้วนมีรั้วที่สร้างขึ้นจากต้นไม้สูงสองสามฉื่อล้อมเอาไว้ คาดไม่ถึงว่าจะทำให้กลายเป็นพื้นดินที่เป็นเอกเทศสิบกว่าแห่ง
และสมุนไพรที่ปลูกอยู่ในสวนเหล่านี้ บ้างก็เป็นต้นไม้วิญญาณสูงสองสามจั้ง บ้างก็เป็นดอกไม้วิญญาณสูงสองสามฉื่อ และยังมีอีกที่หนึ่งคาดไม่ถึงว่าจะล้อมน้ำพุวิญญาณขนาดเจ็ดแปดจั้งเอาไว้ ในน้ำพุมีดอกบัวขนาดเล็กสีเงินระยิบระยับ ดูพิเศษมาก
หานลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง สาวเท้าก้าวออกไป เริ่มพิจารณาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้น
แต่ครู่ต่อมา ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มขมขื่นของความจนปัญญา
ทั้งๆ ที่รู้ว่าสมุนไพรเหล่านี้ถูกเจ้าของสวนปลูกเอาไว้เดี่ยวๆ จะต้องมีมูลค่ามากกว่าผลตาข่ายแดงและพืชพิษกร่อนก่อนหน้านี้
แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้จักเลยสักชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลสีเขียวมรกตขนาดเท่ากำปั้นของต้นไม้วิญญาณ หรือดอกวิญญาณที่ออกดอกพร้อมกันสิบสามสี
ดูแล้วสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้คงไม่เคยปรากฏตัวขึ้นในแดนวิญญาณ น่าจะเป็นสมุนไพรที่มีอยู่แค่ในแดนเซียน
เช่นนั้นพวกมันมีประโยชน์ด้านใด ก็ทำได้เพียงค่อยๆ ทดสอบไปอย่างช้าๆ ในภายหลังแล้ว
หากรู้ประโยชน์ของสมุนไพรสักสองสามต้นในนั้น นั่นก็คงได้ประโยชน์มากมายแล้ว
เมื่อขบคิดเช่นนั้น หานลี่กลับไม่ลังเลอีก มือหนึ่งตะปบไปทางพื้นดินที่ไกลออกไป ชั่วขณะนั้นกล่องหยกสีขาวพลันบินขึ้น กลายเป็นลำแสงสีขาวกลุ่มหนึ่งร่อนลงมาในมือของเขา
แต่เมื่อกลอกตาไปมองต้นไม้วิญญาณที่มีผลสีเขียวมรกตเต็มไปหมดแวบหนึ่ง ก็พลิกฝ่ามืออีกข้างหนึ่ง พลั่วเล็กๆ สีเขียวมรกตปรากฏขึ้น
เมื่อชูมือขึ้น พลั่วเล็กๆ กลายเป็นลำแสงสีเขียวสายหนึ่งเปล่งแสงสว่างวาบบนพื้นดินในสวนแล้วพุ่งไป
ลำแสงเสียวเปล่งแสงสว่างวาบ เสียง “เคร๊ง” ดังก้องกังวาน พลั่วเล็กๆ ราวกับสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าอย่างไรอย่างนั้น มันดีดตัวออก คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจตักดินได้เลยสักนิด
หานลี่พลันตกตะลึง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่จึงกระตุ้นพลังปราณอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นพลั่วหยกพลันหมุนวนโคจร ส่งเสียงร้องคร่ำครวญออกมาแล้วโจมตีไปในสวนยาอีกครั้ง
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนเดิม พลั่วหยกยังคงถูกดีดออกมาอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
หางตาของหานลี่อดที่จะกระตุกไม่ได้!
เมื่อครู่เขาสังเกตได้ว่าบนต้นสมุนไพร ไม่ได้สนใจว่าดินใต้ร่างจะมีความผิดปกติอันใดหรือไม่เลย
ทันใดนั้นรูม่านตาพลันเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ กวาดตามองไปยังดินด้านล่าง
ใบหน้าพลันมีสีหน้าประหลาดใจฉายแวบผ่าน
รากของต้นไม้วิญญาณจมอยู่ในดินสองสามจั้ง คาดไม่ถึงว่าจะมีเส้นไหมสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนผสมอยู่ ล้อมใต้ดินของสวนยาเอาไว้อย่างแน่นหนา
และเส้นไหมสีทองเหล่านี้ก็คือไอวิญญาณทองคำบริสุทธิ์ที่มารวมตัวกัน
แต่แค่ไม่รู้ว่าการปลูกต้นไม้วิญญาณชนิดนี้ต้องการไอวิญญาณสีทอง หรือว่าเจ้าของสวนให้ความสำคัญกับต้นไม้เหล่านี้กันแน่ คาดไม่ถึงว่าจะวางเขตอาคมเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง
หานลี่เลิกคิ้วขึ้น ครุ่นคิดเล็กน้อย แต่กลับเปล่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา
ฝ่ามือสีดำสนิทยื่นออกมาจากแขนเสื้อ แล้วตบไปด้านล่างเบาๆ
หมอกลำแสงสีเทากลุ่มหนึ่งพ่นออกมาจากฝ่ามือ หลังจากหมุนวนบนพื้นดินแล้ว ก็จมหายเข้าไปใต้รากในดินของต้นไม้วิญญาณอย่างเงียบเชียบ
ลำแสงเทวะดูดปราณมีพลังควบคุมธาตุทั้งห้า น่าจะต่อกรกับพลังวิญญาณสีทองที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา
แน่นอนว่าหานลี่ย่อมคิดเช่นกัน
แต่ฉากต่อจากนี้กลับอยู่เหนือความคาดหมายของเขา!
หลังจากที่หมอกลำแสงสีเทากวาดลงไป ไอวิญญาณสีทองเหล่านั้นก็รวมตัวกันกลายเป็นเส้นไหมบางๆ และไม่ได้ถูกกวาดไปจนเกลี้ยงเหมือนที่จินตนาการเอาไว้ แต่กลับตัดสลับกันไปมาใต้ดิน คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นตาข่ายเส้นไหมสีทองผืนหนึ่ง เปล่งแสงสีทองออกมาพยายามต้านทานการโจมตีของหมอกลำแสงสีเทาอย่างสุดฤทธิ์
และแม้ว่าลำแสงเทวะดูดปราณจะไม่หยุดหมุนวนไปมา แต่ยามนี้ก็ไม่อาจโจมตีให้พวกมันแหลกสลายไปได้
สีหน้าของหานลี่ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
แต่หลังจากที่ขบคิดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นิ้วทั้งห้าบนฝ่ามือสีดำสนิทก็ค่อยๆ ขยับ เงาลวงตาภูเขาลูกเล็กปรากฏขึ้น ห่อหุ้มฝ่ามือเอาไว้
ชั่วขณะนั้นหมอกลำแสงสีเทาใจกลางฝ่ามือพลันแข็งค้าง พ่นหมอกลำแสงสีเทาที่เปลี่ยนรูปเป็นของเหลวเหนียวหนืดออกมา
คาดไม่ถึงว่าเขาจะอาศัยพลังของภูเขาเทวะดูดปราณ ทำให้ลำแสงเทวะดูดปราณเพิ่มพลานุภาพขึ้นจนถึงขีดสุด
ในที่สุดไอวิญญาณสีทองในดินก็ไม่อาจต้านทานพลังควบคุมที่รุนแรงเช่นนี้ได้ หลังจากที่ไอสีเทาท่าทางดุดันม้วนวนอีกครั้ง ก็ทยอยกันสลายหายไป
หานลี่เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ถึงได้รู้สึกผ่อนคลายลง หลังจากที่ฝ่ามือสีดำสนิทสลายหายไป ชั่วขณะนั้นเงาภูเขาลวงตาก็สลายหายไป ในเวลาเดียวกันผิวบนฝ่ามือก็กลับเป็นดังเดิม
พลันมือนี้ชี้ไปกลางอากาศ พลั่วเล็กสีเขียวมรกตด้ามนั้นก็พุ่งลงไปพร้อมกับเสียงก้องกังวาน วนล้อมรอบพื้นดินใต้ต้นไม้วิญญาณเอาไว้แล้วตวัดออกเป็นวงกลม เปล่งแสงสว่างวาบแล้วบินกลับมา จมหายเข้าไปในแขนเสื้อของหานลี่
ชั่วขณะนั้นจุดที่พลั่วหยกตวัดไป กลับมีหมอกลำแสงสีเขียวทะลักออกมา ห่อหุ้มต้นไม้วิญญาณเอาไว้ข้างใน
หานลี่เห็นเช่นนั้น มือหนึ่งพลันร่ายอาคม โจมตีไปที่ต้นไม้วิญญาณ
เมื่ออาคมเปล่งแสงสว่างวาบแล้วสลายหายไปบนต้นไม้วิญญาณนั้น ชั่วขณะนั้นต้นไม้วิญญาณพลันสั่นคลอน คาดไม่ถึงว่าถูกถอนออกจากใต้ดินอย่างเชื่องช้า!
แววตาของหานลี่เปล่งแสงสว่างวาบ ใบหน้าอดที่จะเผยสีหน้ายินดีออกมาไม่ได้
แต่ชั่วพริบตาที่ต้นไม้วิญญาณเพิ่งจะถอนออกจากดินนั้น ฉับพลันนั้นพลันมีเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น ผิวของต้นไม้วิญญาณทั้งต้นปรากฏเปลวเพลิงสีเขียวขึ้นมาชั้นหนึ่ง
เปลวเพลิงสีเขียวนี้แค่กะพริบวาบๆ ต้นไม้วิญญาณทั้งต้นรวมทั้งผลที่ประดับอยู่เต็มต้น ก็กลายเป็นควันสีเขียวกลุ่มหนึ่งแล้วหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
หานลี่อ้าปากออกเล็กน้อย ตกตะลึงจนตาค้าง
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เขาถึงได้ถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง มองไปยังสวนยาที่ว่างเปล่าตรงหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
ในเมื่อต้นไม้วิญญาณชี้ไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ เขาก็ต้องยอมเสียใจว่ามันไม่มีประโยชน์แล้ว
ทันใดนั้นก็หันกาย เดินตรงไปที่ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกสูงสามฉื่อที่อยู่อีกสวน
ใต้ดินของดอกไม้ดอกนี้ไม่มีเขตอาคมป้องกันใดๆ พลั่วหยกตวัดพื้นดินออกได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อดอกไม้ประหลาดนิรนามนี้ถูกขุดออกจากดิน ผิวของมันก็สั่นเทา กลายเป็นของเหลวสีเขียวราวกับหิมะละลายในวสันตฤดู จมหายเข้าไปใต้ดินอย่างไร้ร่องรอย
ครั้งนี้หานลี่พลันตกตะลึงจนตาค้างไปเสียแล้ว
คาดไม่ถึงว่าจะพบกับสมุนไพรวิญญาณที่ ‘เปราะบาง’ สองต้นติดกัน นี่กล่าวได้ว่าดวงของเขาย่ำแย่มาก
มองไปยังของเหลวที่สลายหายไปบนพื้นอย่างไม่ยินยอม หานลี่แค่นเสียงหึๆ อย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ทำได้เพียงเดินไปที่สวนยาต่อไปอย่างจนปัญญา
ยามที่รากของสมุนไพรวิญญาณที่เหลืออีกสามชนิดออกห่างจากพื้นดินนั้น ต้นหนึ่งก็เหี่ยวเฉา ต้นหนึ่งก็ระเบิดกลายเป็นผุยผง ต้นสุดท้ายผิวพลันมีเส้นไหมสายฟ้าปรากฏขึ้น แล้วทำให้ตัวของมันหายวับไป
สมุนไพรวิญญาณห้าต้นเกิดปลิดชีพตนอย่างต่อเนื่อง ต่อให้หานลี่โง่เขลาเพียงไหน ก็รู้ว่ามีลับลมคมในแล้ว
นี่ไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายได้แน่ เกรงว่าคงถูกเจ้าของสวนทำอันใดไว้ มิเช่นนั้นคงไม่มีทางเกิดเรื่องผิดปกติเช่นนี้
ดังนั้นหานลี่ในยามนี้จึงยืนอยู่ด้านหน้าดอกไม้วิญญาณขนาดเท่ากำปั้นมีสีสันงดงามสิบสามสี แล้วเริ่มตรวจสอบต้นของมันอย่างละเอียดอีกครั้ง
ในเมื่อก่อนหน้านี้ตรวจสอบไม่พบอันใด แน่นอนว่าก็เหลือเพียงต้องอาศัยเนตรวิญญาณวารีกระจ่างตรวจสอบมันแล้ว
สองตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ สายตาของหานลี่กวาดมองยอดของดอกไม้วิญญาณไปจนถึงรากของมันอย่างละเอียด
แต่ตรวจสอบดูเจ็ดแปดรอบ ก็ยังคงไม่มีข้อพิรุธใดๆ
เช่นนั้นเขาจึงอดที่จะรู้สึกหัวเสียไม่ได้
เมื่อแต่เขตอาคมที่เจ้าของสวนวางเอาไว้ก็มองไม่เห็น แน่นอนว่าย่อมไม่อาจทำลายอันใดได้
แต่เขาก็มองสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากที่ไม่มีอยู่ในแดนวิญญาณตาปริบๆ และหากไม่สนใจไยดีมัน เขาย่อมยอมไม่ได้
หานลี่ยืนเอามือกอดอกอยู่ที่เดิม ใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งกาน้ำชา หลังจากที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาก็เอ่ยพึมพำกับตัวเองว่า
“พอรากออกจากดินก็จะสลายหายไป เช่นนั้นเขตอาคมน่าจะอยู่ที่รากของพวกมัน ดูแล้วมีเพียงต้องทำเช่นนี้! ในเมื่อไม่มีวิธีย้ายมัน แต่เก็บเมล็ดและผลของมันไป ก็น่าจะเป็นไปได้”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็มองไปยังต้นไม้วิเศษที่งดงามตรงหน้าทันที
แววตาเคร่งขรึม โยนกล่องหยกออกมา ชั่วขณะนั้นพลันลอยอยู่ด้านล่างดอกไม้ดอกนั้น
จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว ปากแขนเสื้ออีกข้างมีฝ่ามือสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกยื่นออกมา
ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ เส้นไหมกระบี่แหลมคมสายหนึ่งเปล่งแสงสว่างวาบแล้วสับลงมา แฉลบผ่านก้านรากใต้ดอกไม้ไป ในเวลาเดียวกันเปลวเพลิงห้าสีก็หมุนวน
ดอกไม้วิเศษถูกสับจนร่วง ถูกเปลวเพลิงลำแสงม้วนเอาไว้ กลายเป็นก้อนน้ำแข็งโปร่งใสแวววาวก้อนหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะถูกแช่แข็งในพริบตา
หลังจากเสียงดังขึ้นเบาๆ ก้อนน้ำแข็งก็ร่วงลงในกล่องหยกอย่างแม่นยำ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น