ลำนำบุปผาพิษ 1682-1685

 บทที่ 1682 น้ำตานางเงือก 3


ยามนั้นเป็นสถานการณ์ที่จักรพรรดิถูกรายล้อมด้วยองครักษ์นางกำนัลกลุ่มหนึ่ง สวมฉลองพระองค์สีเหลืองทรงอำนาจ สุขุมเยือกเย็นน่าเกรงขามนัก ไม่คล้ายกับบุคลิกของคุณชายในยามนี้เลยสักนิด ดังนั้นนางจึงไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่…


คุณชายชุดครามผู้นั้นถอนหายใจเบาๆ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใด?” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยอ่อนโยนยิ่ง ให้ความรู้สึกดั่งคุณชายผู้งดงามราวกับหยก


“เจ้า…เจ้าเป็นคนของราชวงศ์ใช่ไหม?! องค์ชายคนใดกัน?” หลานจิ้งอี๋คาดเดา ในเมื่อรูปโฉมคล้ายคลึงกับจักรพรรดิถึงเพียงนี้ จะต้องเป็นองค์ชายในราชวงศ์แน่นอน


คุณชายชุดครามเชิดหน้าหัวเราะคราหนึ่ง ถือขลุ่ยเคาะฝ่ามือเบาๆ “เหตุใดเจ้าถึงไม่เดาว่าเราเป็นจักรพรรดิบ้างเล่า?”


หลานจิ้งอี๋ตะลึงงัน


คุณชายชุดครามผู้นั้นมองดวงหน้าพริ้มเพราที่แปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวของนาง แววตารื่นเริง “ประหลาดใจมากใช่ไหม?”


หลานจิ้งอี๋สูดหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง “เจ้า…ในเมื่อท่านเป็นจักรรพรรดิ เช่นนั้น…มาเพื่อช่วยพวกเราใช่หรือไม่? ผู้ใดไหว้วานมา?”


คุณชายชุดครามถอนหายใจ “ช่างเป็นเด็กน้อยที่ใสซื่อจริงๆ เราจับพวกเจ้ามาอย่างลำบากบน ไหนเลยจะรับคำไหว้วานจากผู้อื่นมาช่วยพวกเจ้าออกไปได้เล่า? เจ้านึกว่าเราว่างมากหรือไง?”


ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องทุกอย่างจะเป็นจักรพรรดิของอาณาจักรเฟยซิง!


หลานจิ้งอี๋หน้าเปลี่ยนสีแล้ว “เจ้า…เจ้าจับพวกเรามาทำไม? เจ้ารีบปล่อยข้าโดยเร็วเสียดีกว่า! มิเช่นนั้นพี่หวงของข้าจะไม่ผ่อนปรนต่อเจ้าเด็ดขาด! ไม่ใช่เพียงตำแหน่งจักรพรรดิเท่านั้นที่เจ้าจะรักษาไว้ไม่ได้ แม้แต่ชีวิตก็รักษาไว้ไม่ได้เช่นกัน!”


คุณชายชุดครามผู้นั้นหัวเราะแล้ว “ที่แท้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นพี่หวงของเจ้า นี่กลับน่าสนใจอยู่บ้าง”


เขาค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปริมลูกโลหิต มองดูหลานจิ้งอี๋ที่อยู่ด้านใน ใช้ขลุ่ยเคาะเล็กน้อย “ได้ยินว่าถ้าใช้หนังชาวเงือกมาขึงเป็นกลอง เสียงที่ตีออกมาจะแว่วกังวานไปพันลี้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”


หลานจิ้งอี๋ตัวแข็งทื่อ


คุณชายชุดครามผู้นั้นเพ่งพิศนางขึ้นๆ ลงๆ แวบหนึ่ง “หนังของนางเงือกที่งดงามเช่นเจ้าไม่เลวเลย ถ้าถลกหนังเจ้ามาขึงเป็นกลองออกจะเสียของอยู่บ้าง บางทีถลกออกมาตัดเย็บเป็นอาภรณ์ก็คงไม่เลวเช่นกัน สามารถปักลวดลายเมฆาที่งดงามได้ ทั้งงดงามและป้องกันร่างกายได้”


หลานจิ้งอี๋หน้าซีดเผือดแล้ว “เจ้า…กล่าวล้อเล่นเช่นนี้…ล้อเล่นเช่นนี้ไม่น่าขันเลย พี่หวงของข้า…”


“คิดจะเอาพี่หวงของเจ้ามาขู่คนอีกหรือ? อันที่จริงถ้าเจ้าไม่เอ่ยถึงเขาบางทีข้าอาจจะมอบช่วงเวลาดีๆ ให้เจ้าบ้าง แต่ในเมื่อเจ้าเอ่ยถึงเขา ทำให้ข้าค่อนข้างอึดอัด คงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสั่งสอนเจ้าเสียหน่อย”


คุณชายชุดครามผู้นั้นสะบัดขลุ่ยในมือเบาๆ คราหนึ่ง เกิดเสียงดังฟึ่บมีดสั้นที่บางราวกับปีกจักจั่นเล่มหนึ่งดีดตัวออกมาจากขลุ่ย กรีดเฉือนเข้าที่ลูกโลหิตลูกนั้น


หลานจิ้งอี๋หวีดร้องคราหนึ่ง กลิ้งออกมาจากในลูกโลหิต เมื่อเห็นว่ากำลังจะร่วงลงสู่น้ำโลหิตของสระโลหิต เส้นใยสีเงินก็พุ่งวาบออกมาจากฝ่ามือของคุณชายชุดคราม รัดพันเอวบางของหลานจิ้งอี๋ไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงนางไปไว้ริมฝั่ง…


หลานจิ้งอี๋อกสั่นขวัญหาย ถึงแม้เมื่อครู่นางจะไม่ได้ร่วงสู่น้ำโลหิตจริงๆ แต่ชายชุดก็ยังจุ่มโดนโลหิตในนั้น โลหิตนั้นประหนึ่งน้ำกรด กัดกร่อนชายชุดของนางขาดรุ่งริ่งในชั่วพริบตา…


เหล่าโครงกระดูกในสระโลหิตเริ่มกรีดร้อง กระโดดอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม


หลังจากหลานจิ้งอี๋ร่วงลงบนพื้นก็คิดจะคลานลุกขึ้นมา แต่เท้าข้างหนึ่งของคุณชายชุดครามผู้นั้นกลับเหยียบลงมาบนทรวงอกของนางอย่างประจวบเหมาะพอดี ทำให้นางลุกขึ้นไม่ได้อีก


คุณชายชุดครามผู้นี้เรียกความเกลียดชังจากผู้คนยิ่งนัก เขาไม่เพียงแต่เหยียบไว้เท่านั้น ยังใช้ปลายเท้าขยี้ลงไปด้วย


หลานจิ้งอี๋ทั้งเจ็บทั้งอาย ร้องเสียงแหลม “เจ้า…ต่ำช้า! เจ้าปล่อยข้านะ…”


“เช่นนี้ก็ต่ำช้าแล้วหรือ?” แม้ว่าการกระทำของคุณชายชุดครามผู้นั้นจะกักขฬะยิ่งนัก ทว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับผ่องใสผ่าเผย “ข้ายังมีทักษะที่ต่ำช้ายิ่งกว่านี้อีกนะ เจ้าเดาสิว่าคืออะไร?”


กล่าวพลางใช้ปลายมีดบนขลุ่ยค่อยๆ เลิกอาภรณ์ของนางขึ้นด้วย


——————————————————————-


บทที่ 1683 น้ำตานางเงือก 4


ปลายมีดของเขาแหลมคมยิ่งนัก เดิมทีอาภรณ์ของหลานจิ้งอี๋ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ตัดด้วยมีดธรรมดาไม่ขาด นับได้ว่าเป็นอาภรณ์พิทักษ์ ยามนี้สาบเสื้อของอาภรณ์พิทักษ์นี้กลับถูกอีกฝ่ายตัดเป็นรอยบากจนเปิดออกแล้ว…


รูปร่างของหลานจิ้งอี๋น่าดึงดูดยิ่งนัก ทรวดทรงองค์เอวโค้งเว้า หน้าอกขาวนวลอวบอิ่ม


บัดนี้เสื้อคลุมด้านนอกฉีกขาดแล้ว เผยให้เห็นเอี๊ยมชั้นในสีเงิน ลายปักบนเอี๊ยมชั้นในไม่ใช่จำพวกลายยวนยางในสระปทุมทั่วไป แต่เป็นคนผู้หนึ่ง คนผู้นั้นเกศาดำ อาภรณ์ขาว สวมใส่หน้ากาก นั่นก็คือรูปลักษณ์ของเทพศักดิ์สิทธิ์


คุณชายชุดครามมองภาพคนบนเอี๊ยมของนางแล้วเย้ยยิ้ม “นี่เจ้าปักลายพี่หวงของเจ้าหรอกรึ? ปักรูปพี่เขยของตัวเองไว้บนเอี๊ยม เงือกน้อย จุดประสงค์ของเจ้ามิใสซื่อบริสุทธิ์เลยนะ! ดูเหมือนเจ้าจะชอบเขาจริง…ไม่รู้ว่าเขารู้จิตใจนี้ของเจ้าหรือไม่? ทว่านั่นก็ไม่ได้สลักสำคัญอันใด ในเมื่อเจ้าชอบเขามากขนาดนั้น รอให้ข้าถลกหนังเจ้าออกมาเมื่อใด ข้าจะทำหุ่นหนังขึ้นมาตัวหนึ่ง สวมเอี๊ยมนี้ของเจ้าส่งไปให้เขาก็แล้วกัน”


รอยยิ้มอันอบอุ่น ซุ่มเสียงอันนุ่มนวลของเขา ทว่าวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาช่างเย็นชาและน่ากลัวยิ่งนัก


หลานจิ้งอี๋สั่นสะท้านไปทั้งตัว นางอยากขยับตัวก็ขยับไม่ได้ อยากร้องไห้ก็ยังกริ่งเกรง ใบหน้าพริ้มเพราเดี๋ยวเขียวคล้ำเดี๋ยวขาว “เจ้า…ท่านทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้ ข้าเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรเงือก หากเจ้าสังหารข้า ไม่เพียงแต่พี่หวงจะไม่ให้อภัยท่าน เผ่าเงือกของพวกเราก็จะไม่ให้อภัยเจ้า จะยกทัพทหารทั้งอาณาจักรมาล้างแค้นอย่างแน่นอน…เจ้าทำไปเพียงเพื่อหนังเงือกชิ้นหนึ่ง เช่นนี้ได้ไม่คุ้มเสีย ท่าน…ท่านปล่อยข้าไปเสีย ภายภาคหน้าข้าจะตอบแทนท่าน…”


“ตอบแทนข้า? ตอบแทนอย่างไร?” คุณชายชุดครามคนนั้นเหมือนจะชอบเล่นแมวจับหนูอยู่บ้าง เขามีแผนการอยู่ในใจแล้วชัดๆ ยังชอบล้อผู้อื่นเล่น ชอบเห็นคนทรุดตัวลงต่อหน้าร้องขอความเมตตา…


เขาใช้มีดบางกระตุกสายคาดเอี๊ยมของนาง “หรือว่า…เจ้าอยากเอาตัวเข้าแลก?”


ปลายมีดอันเย็นวาบสัมผัสโดนผิวหนังของหลานจิ้งอี๋ ทำให้นางขนลุกขนพองไปทั้งตัว นางตกใจกลัวจนเบื้องหน้ามืดมัว “ข้า…ข้า…ท่านเห็นแก่ที่ข้าเคยทำงานให้ท่าน ปล่อย…ปล่อยข้าไป…”


“เอ๊ะ? เจ้าทำสิ่งใดให้ข้า?”


“ข้าพาหลานไว่หูกลับมาให้ท่าน…”


“นั่นก็เป็นความดีความชอบเล็กน้อยของเจ้าจริง ทว่าหากเจ้าไม่ได้ถูกกู่ของข้าควบคุมไว้ เจ้าจะเชื่อฟังเช่นนั้นได้อย่างไร?”


เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น เอี๊ยมชั้นในของหลานจิ้งอี๋ฉีกขาดโดยสมบูรณ์ ร่วงหลุดจากหน้าอกนาง เผยให้เห็นร่างกายนวลเนียนของนางทั้งหมดต่อหน้าคุณชายชุดคราม


หลานจิ้งอี๋ตื่นตระหนกแล้ว!


นางอยากขดตัวโดยสัญชาตญาณ ทว่าลำแสงสามสายอันหนาวเหน็บในแขนเสื้อของคุณชายชุดครามพลันส่องสว่าง เสียงก๊องแก๊งดังขึ้นหลายครั้งหลายครา หลานจิ้งอี๋ส่งเสียงหวีดร้องบาดหูออกมา!


ลำแสงสามสายอันหนาวเหน็บนั้นไม่ใช่สิ่งอื่นใด คือเหล็กแหลมเย็นเยียบสามแท่ง แทงลงไปที่ข้อมือทั้งสองกับหางเงือกของหลานจิ้งอี๋พอดิบพอดี! ตอกชีวิตนางเข้ากับพื้น!


นี่เป็นท่าทางที่น่าอัปยศอดสูยิ่งนัก


โลหิตไหลหลั่งดั่งธารน้ำ ไหลไปตามเหล็กแหลมที่ตอกเข้าไป เป็นความงดงามที่คละคลุ้งคาวเลือดอย่างหนึ่ง


ใบหน้าหลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนซีดขาว!


นางไม่เคยต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้ในชีวิต เหล็กแหลมทิ่มแทงร่างกาย รวดร้าวไปถึงกระดูก ทำให้นางอยากเกลือกกลิ้งดิ้นรน ทว่าร่างกายกลับถูกตอกยึดไว้ นางขยับเพียงเล็กน้อย ความเจ็บปวดนั้นก็ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นสิบเท่า ทำให้หยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดพรายในพริบตา


อาภรณ์นางขาดวิ่น ร่างขาวผ่องดุจหิมะนอนกลางกองอาภรณ์ที่ฉีกขาด โลหิตจากข้อมือนางไหลคดเคี้ยวเป็นทาง


ในตอนนี้นางอยู่ในสภาพครึ่งเงือกครึ่งมนุษย์ ครึ่งท่อนบนขาวนวลดุจหิมะประหนึ่งหญิงสาววัยแรกแย้ม ครึ่งท่อนล่างเป็นหางเงือกสีเขียวอ่อน มีเกล็ดแวววับปกคลุมทั่ว


บทที่ 1684 แทบจะอยากตัดนางเป็นสองเสี่ยง


เหงื่อเป็นเม็ดๆ ไหลรินออกจากผิวหนังและช่องว่างระหว่างเกล็ดลงบนพื้น


เสียงหยดติ๋งๆ ดังขึ้นเป็นระยะ หยาดเหงื่อกลั่นตัวออกมาเป็นไข่มุก แต่ละเม็ดเป็นประกายและโปร่งแสง กลิ้งไปมาบนพื้น


“หยาดเหงื่อของชาวเงือกออกมาเป็นไข่มุก ที่แท้ประโยคนี้มิเป็นเท็จ” คุณชายชุดครามแย้มยิ้ม จ้องมองหลานจิ้งอี๋ที่เจ็บปวดจนริมฝีปากทั้งสองสั่นเครือ “เพียงแต่เหตุใดเจ้ายังไม่หลั่งน้ำตา น้ำตานางเงือกถึงจะเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ”


หลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนรู้สึกอยากตาย เพียงแต่สิ่งที่ไหลหลั่งออกมายากที่สุดของชาวเงือกก็คือน้ำตา นางย่อมไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน


นางเจ็บปวดยิ่งนัก และอยากร้องไห้มากเช่นกัน เพียงแต่ร้องไม่ออก


คุณชายชุดครามมองนางครู่หนึ่งแล้วทอดถอนใจ “ดูเหมือนจะยังไม่พอ…”


นิ้วมือเขาพลันเคลื่อนไหว มีดบางพลันตวัด หลานจิ้งอี๋กรีดร้องโหยหวนอีกครา เกล็ดชิ้นใหญ่ถูกคุณชายชุดครามขอดออกมา!


ความเจ็บปวดจากการขอดเกล็ดเลวร้ายยิ่งกว่าการเลาะกระดูกเสียอีก หลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง ไม่เพียงแต่หยาดเหงื่อที่ไหลออกมาก ในที่สุดก็เจ็บปวดจนน้ำตาไหล…


แน่นอนว่าละอองน้ำตานี้เป็นเพียงแค่ชั้นบางๆ นางเพียงกะพริบตาเบาๆ หยาดน้ำตาขนาดเท่าเมล็ดถั่วเม็ดนั้น ส่องแสงสว่างเพียงเล็กน้อยแล้วร่วงหล่นลงพื้น กลายเป็นน้ำตานางเงือกรูปทรงกลมแบน คล้ายไข่มุก ทว่ากลับส่องประกายกว่าไข่มุกมาก


คุณชายชุดครามยกนิ้วมือขึ้น น้ำตานางเงือกพลันตกลงเป็นฝ่ามือเขา เขามองดูพลางส่ายหน้า “เล็กเกินไป”


สายตาของเขาพลันหันกลับไปมองร่างหลานจิ้งอี๋ ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “เจ้านี่ขี้เหนียวจริงๆ หลั่งน้ำตาทั้งทีก็ไม่ยอมหลั่งออกมาให้เม็ดใหญ่หน่อย ข้าทำได้เพียงทำลายบุปผางามแล้วละ” มีดบางในมือส่องแสงติดต่อกันอยู่หลายครั้ง เกล็ดจำนวนมากถูกขอดอีกครั้งหนึ่ง…


หลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนร้องไม่ออกแล้ว!


นางเหมือนดังปลาขึ้นจากน้ำที่ทนทุกข์ทรมาน หยาดน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลหลั่งลงมาในที่สุด


น้ำตาแฝงโลหิต กลายเป็นน้ำตานางเงือกที่แดงกึ่งหนึ่งโปร่งใสกึ่งหนึ่ง คล้ายตาแมวที่สวยงาม เกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้น


หลานไว่หูมองจากด้านบนจนหนาวเหน็บไปทั่วร่างกาย!


ถึงนางจะรังเกียจหลานจิ้งอี๋ผู้นี้ แทบจะอยากตัดนางเป็นสองเสี่ยง ทว่าเมื่อเห็นภาพฉากนี้ หัวใจก็พลันหดเกร็งเข้าด้วยกัน!


เห็นๆ กันอยู่ว่าคุณชายชุดครามผู้นี้งามสง่าดุจหยก ทว่าวิธีการกลับช่างโหดเหี้ยมดุจมารร้าย ปรับเปลี่ยนขีดจำกัดล่างของความโหดร้ายต่อมนุษย์ที่หลานไว่หูรู้จักไปเลย


หญิงชาวเงือกผู้นี้ทำคุณงามความดีช่วยเหลือคุณชายชุดครามมากมายถึงเพียงนี้ ยังถูกเขาปฏิบัติด้วยความโหดเหี้ยม เช่นนั้นอีกประเดี๋ยวเขาจะจัดการกับนางอย่างไร?


หลานไว่หูทั้งโกรธเคืองและหวาดกลัว เบิกตาจ้องมองคุณชายชุดครามผู้นั้น หากสายตาสังหารผู้คนได้ คุณชายชุดครามผู้นั้นคงถูกหลานไว่หูแล่เนื้อเถือหนังไปแล้ว!


คุณชายชุดครามเก็บน้ำตานางเงือกเหล่านั้นขึ้นมา ชั่งน้ำหนักในฝ่ามือ แล้วทอดถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง “ยังน้อยไปหน่อย” เขาก้มมองหลานจิ้งอี๋ที่แทบจะสลบไปแล้ว “ข้าขอดเกล็ดเจ้าอีกสักสองเกล็ดแล้วกัน? เจ้าร้องไห้ให้หนักกว่านี้สักหน่อย”


เมื่อปลายมีดสัมผัสถูกเกล็ดของนาง หลานจิ้งอี๋ตกใจจนอกสั่นขวัญหาย กรีดร้องอย่างโหยหวน “ข้าร้องแล้ว ไม่ต้องขอดอีกแล้ว! ข้าร้องไห้ก็ได้…”


น้ำตานางหลั่งออกมามากขึ้น รวดเร็วขึ้น ร้องไห้หลั่งน้ำตาทั้งหมดในชีวิตนางออกมา


คุณชายชุดครามเก็บน้ำตานางเงือกเต็มกำมือ ถึงได้หยุดมืออย่างยังไม่หนำใจเท่าใด ดวงตาที่วาบไหวเป็นระลอกคลื่นหันกลับมาร่อนลงบนร่างหลานไว่หูที่ห้อยอยู่ตรงนั้น


ขนทั้งร่างกายของหลานไว่หูลุกซู่ขึ้นมา!


นางตะโกนด้วยความโกรธเคือง “คนอย่างข้า ฆ่าได้หยามไม่ได้! เจ้าจะฆ่าก็ฆ่าเลย! แต่เจ้าไม่อาจทรมานข้า หรือทำให้ข้าร้องไห้ได้หรอก!”


คุณชายชุดครามทอดถอนใจ “แม่นางน้อยทรงเสน่ห์อย่างเจ้า ข้าจะทนเห็นเจ้าร้องไห้ได้อย่างไร? น้ำตานางเงือกล้ำค่ายิ่งนัก น้ำตาจิ้งจอกน้อยของเจ้าไม่มีค่าขนาดนั้นหรอก”


หลานไว่หูมองเขาอย่างระแวดระวัง “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำสิ่งใด?


————————————————————


บทที่ 1685 ยามนี้กลับถึงคราวของนางแล้ว…


หลานไว่หูมองเขาอย่างระแวดระวัง “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำสิ่งใด? เจ้าจับข้ามา ไม่มีทางอยากให้ข้ามาดูเจ้าทรมานคนกระมัง?”


คุณชายชุดครามพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “ได้อย่างไรกัน? ข้าไม่น่าเบื่อขนาดนั้นหรอก ทว่าเมื่อครู่เงือกผู้นี้เอาแต่ดูถูกเหยียดหยามเจ้า ข้าทรมานนางต่อหน้าเจ้าไม่ใช่ว่าแก้แค้นให้เจ้าหรอกหรือ? เจ้าควรรู้สึกพึงพอใจถึงจะถูก”


“ภูตผีน่ะสิถึงจะพอใจ!”


“ช่างเป็นเด็กที่ไม่รู้จักดีชั่วเอาเสียเลย” คุณชายชุดครามส่ายหน้า “ข้าเห็นแก่หน้าซีจิ่ว แก้แค้นให้เจ้า อยากให้เจ้าดีใจสักหน่อย นึกไม่ถึงว่าเจ้ากลับไม่ซาบซึ้งในน้ำใจ น่าเสียดายความเพียรพยายามนี้ของข้าจริงๆ”


“หากเจ้าดีต่อข้าจริง เช่นนั้นก็ปล่อยข้าไป!”


“จะเป็นไปได้อย่างไร? ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะหลอกล่อเจ้ามาได้…”


“เจ้าจับตัวข้ามาทำไม?”


“อ้อ ข้าต้องการยืมบางสิ่งจากเจ้า เกรงว่าเจ้าจะไม่ยอมให้ข้ายืม ทำได้เพียงจับตัวเจ้ามาก่อนแล้วค่อยหารือกัน”


หลานไว่หูพูด “…สิ่งใด?”


“โลหิตขั้วหัวใจ”


ดวงหน้าน้อยๆ ของหลานไว่หูซีดขาวในทันที!


ที่แท้ไอ้คนชั่วช้านี้ก็อยากได้ชีวิตของนาง! โหดเหี้ยมยิ่งกว่าการปฏิบัติต่อหลานจิ้งอี๋เสียอีก!


คุณชายชุดครามมองดวงหน้าซีดเผือดของนาง “กลัวมากงั้นรึ? วางใจเถอะ ข้าทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรียิ่งนัก อีกทั้งเจ้ายังเป็นสหายของสตรีที่ข้าชมชอบ ข้าไม่มีทางเอาชีวิตเจ้าจริงๆ หรอก”


หลานไว่หูจ้องมองเขาด้วยความโกรธเคือง


เอาโลหิตขั้วหัวใจจะไม่ต้องการชีวิตนางได้อย่างไร? เขาหลอกเด็กนี่!


คุณชายชุดครามพลันพลิกฝ่ามือ เข็มปลายแหลมขนาดปานกลางเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น หนาเท่ากับเข็มถักไหมพรม ความยาวประมาณหนึ่งฉื่อ ส่องแสงเป็นประกายแวววับ ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว


“เห็นสิ่งนี้หรือไม่? อีกประเดี๋ยวข้าจะใช้สิ่งนี้ทิ่มแทงเข้าไปบริเวณเส้นเลือดหัวใจของเจ้า โลหิตขั้วหัวใจของเจ้าจะไหลออกมาจากสิ่งนี้ วางใจเถอะ ข้าไม่เอาออกมาเยอะนักหรอก เต็มถ้วยนี้ก็พอแล้ว”


เขาให้นางดูถ้วยชาในมืออีกครั้ง


วิธีการนี้ของเขาค่อนข้างคล้ายคนเลี้ยงหมีที่เก็บดีหมีในยุคปัจจุบัน


เมื่อก่อนตอนที่หลานไว่หูฟังกู้ซีจิ่วเล่าเรื่องราวแปลกประหลาดน่าอัศจรรย์ ยังเคยได้ยินนางพูดถึงวิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้


แน่นอนว่านางยังคงรู้สึกขุ่นเคืองกับความอยุติธรรม รู้สึกว่ามันโหดร้ายเกินไป เจ็บปวดจนหวาดผวาแทนหมีเหล่านั้น


ยามนี้กลับถึงคราวของนางแล้ว…


ใบหน้าหลานไว่หูซีดขาว เดิมทีนางยังไม่อยากตายหากว่ายังไม่ได้พบเจอเยี่ยนเฉิน ทว่าตอนนี้นางยอมตายเสียยังดีกว่า!


นางตัดสินใจแน่วแน่ ขณะที่กำลังจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย คุณชายชุดครามคนนั้นกลับเตรียมการป้องกันไว้แล้ว แขนเสื้อพลันสะบัด จุดของหลานไว่หูก็ถูกสกัด ทำให้ไม่อาจเคลื่อนไหวได้


คุณชายชุดครามเอื้อมมือออกไปอีกครา โซ่เล็กทั้งสี่เส้นบนร่างหลานไว่หูไถลเลื่อนขึ้นมา ฉุดกระชากนางไปริมบ่อโลหิต


หลานไว่หูเบิกตามองดูตัวเองไถลไปริมบ่อ ระยะห่างระหว่างคุณชายชุดครามผู้นั้นสั้นลงทุกที ใกล้เข้ามาทุกที…


ช่วยด้วย! ซีจิ่ว เยี่ยนเฉิน ช่วยด้วย…



เช่นเดียวกับท่อเล็กๆ ของเส้นเลือดมนุษย์ที่กระจัดกระจายไปทั้งบริเวณ ท่อเล็กๆ นี้ก็เป็นสีแดงสด ด้านในมีน้ำโลหิตแดงสดกำลังไหลเวียน ส่งเสียงโครกครากออกมา


พูดได้ว่านี่คือสิ่งก่อสร้างใต้ดินแห่งหนึ่ง ทว่าก็มิสู้บอกว่าคล้ายอยู่ภายในร่างกายของสัตว์ประหลาดอะไรบางอย่าง


‘เส้นเลือด’ มากมายและหนาแน่นดุจใยแมงมุม เส้นทางก็หลากหลายดังใยแมงมุม เชื่อมต่อถึงกัน ระหว่างทางมีสิ่งก่อสร้างรูปร่างประหลาดไม่น้อย คล้ายกับรวงผึ้ง ขนาดไม่เท่ากันแต่มีสีแดงสดเหมือนกัน ดูประหนึ่งอวัยวะภายในของสัตว์


เส้นทางสลับซับซ้อนเกินไป หากไม่มีคนคุ้นเคยคอยนำทาง ถึงแม้มีคนบุกเข้ามาที่นี่โดยไม่ตั้งใจก็หลงทางได้โดยง่าย


กู้ซีจิ่วก็นึกไม่ถึงว่าด้านล่างป่าเหมยที่ใหญ่โตโอฬารผืนนั้นจะมี ‘สัตว์ประหลาด’ เช่นนี้หลบซ่อนอยู่ ต่อให้เธอมีประสบการณ์และความรู้มากมาย ยามนี้ก็รู้สึกค่อนข้างหนาวสั่นไปทั้งตัว


เส้นทางเบื้องล่างก็ไม่ใช่พื้นหินพื้นดินธรรมดา แต่เป็นโครงกระดูกเรียงราย สมกับชื่อเส้นทางกระดูกขาว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)