ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1670-1677

 ตอนที่ 1670 คุณย่าหึง


คุณย่าหยางไม่พอใจอย่างมาก เมืองหลวงไกลขนาดนี้ยังพาผู้หญิงที่ดูเย้ายวนอย่างหยูเหม่ยเจินไปด้วย หรือว่าตาแก่อายุปูนนี้แล้วยังคิดจะผิดศีลเชิงชู้สาวอีก?


“เสี่ยวหยู เธอช่วยออกไปซื้อเกลือให้ฉันสองถุงที”


คุณย่าหยางล้วงเงินห้าสิบสตางค์ออกมาหลอกล่อให้หยูเหม่ยเจินออกไป รอหยูเหม่ยเจินเดินออกไปจากบริเวณลานบ้านคุณย่าหยางก็ตีหน้านิ่งขรึม


“คุณกับเสี่ยวหยูสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อร? ถึงได้ปกป้องเธอเหมือนของสำคัญขนาดนี้ พอฉันพูดทุกครั้งคุณก็ต้องออกหน้ารับแทนตลอด ตอนนี้จะไปเมืองหลวงยังจะพายัยเด็กนี่ไปด้วย คุณพูดมาสิว่าคุณถูกใจยัยนี่เข้าแล้วใช่ไหม?”


คุณย่าหยางยกสองมือเท้าสะเอวพลางลดเสียงให้เบาลงแต่ท่าทีความน่าเกรงขามกลับไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด พ่นน้ำลายใส่คุณปู่เหยียนเต็มหน้า


เหมยเหมยมุมปากกระตุก ดูไม่ออกเลยว่าคุณย่าหยางจะหึงแรงเหมือนกันนี่นา!


แต่ท่าทีที่คุณปู่เหยียนมีต่อเสี่ยวหยูมันอดชวนให้คิดไปในแง่ลบไม่ได้จริง ๆ!


คุณปู่เหยียนหน้าแดงเป็นสีตับหมูและหนังหน้ากระตุกไม่หยุดเพราะอารมณ์ที่เดือดพล่าน


“เหลวไหล เหลวไหล คุณมันไร้เหตุผลที่สุด เสี่ยวหยูจะเป็นหลานสาวของฉันได้อยู่แล้วทำไมคุณถึงพูดจาแบบนี้ออกมาได้? คุณ…คุณ…คุณ…ความคิดสกปรก!”


คุณปู่เหยียนชี้นิ้วใส่คุณย่าหยางด้วยร่างที่สั่นเทิ้ม สีหน้ากลับแย่ลงเรื่อย ๆ และดูท่าทางอาการไม่ดีสักเท่าไร เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นวูบรีบวิ่งกลับไปเอายาทันที


คุณย่าหยางเองก็ตกใจแทบแย่ เธอไม่คิดว่าตาแก่จะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้เลยนึกเสียใจอย่างมาก รู้สึกว่าตัวเองความคิดสกปรกเกินไปจริง ๆ ไม่ควรสงสัยศีลธรรมความคิดของตาแก่เลย


หลังทานยาลดความดันคุณปู่เหยียนถึงมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อยแต่กลับดูอ่อนแรงมากอยู่ดี ไม่ได้ดูแข็งแรงสุขภาพดีอย่างเช่นเคย


เหมยเหมยชงน้ำวิเศษให้เขาดื่มไปสักนิดถึงจะมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง


“เสี่ยวหยูออกมารับจ้างเป็นแม่บ้านเพราะหาเงินค่าเทอมให้ลูกสาวที่บ้าน ถ้าเราเลิกจ้างเธอถ้างั้นยายหนูนั่นก็ต้องอดเรียน ตอนนี้เรามีความสามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ทำไมถึงไม่ยอมช่วยสักหน่อยล่ะ?”


คุณปู่เหยียนเล่าเหตุผลที่เขาเลือกให้เสี่ยวหยูอยู่ต่อ เขาไม่เคยคิดเลยจริง ๆว่ายายแก่จะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ถึงได้หลงคิดว่าเขา…


เหลวไหลสิ้นดี!


คุณย่าหยางพรูลมหายใจเฮือกหนึ่ง ที่แท้ก็เหตุผลนี้นี่เอง!


“แล้วทำไมเสี่ยวหยูไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้?” เธอยังไม่พอใจอยู่ดี


“คุณทำหน้าบึ้งตึงทุกวี่วันเสี่ยวหยูจะกล้าพูดกับคุณได้อย่างไรล่ะ!” คุณปู่เหยียนตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก คุณย่าหยางแค่นเสียงทีและความประทับใจที่มีต่อหยูเหม่ยเจินยิ่งติดลบมากกว่าเดิม


“ถึงอย่างไรก็พาไปเมืองหลวงด้วยไม่ได้เด็ดขาด คุณก็บอกอยู่ว่าหล่อนมีลูกสาว หรือว่าคุณจะให้เสี่ยวหยูต้องพรากจากลูกสาวแท้ ๆ?”


คุณปู่เหยียนสะอึกและเริ่มครุ่นคิด นั่นสิ ยายหนูอายุน้อยขนาดนั้นต้องอยู่ห่างจากแม่ไม่ได้แน่ ๆ เป็นแม่บ้านที่เมืองจินอาจจะพอมีเวลากลับไปหาลูกสาวได้บ่อย ๆ แต่ถ้าไปเมืองหลวงก็คงไม่ได้เจอกัน


เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะอย่างระอาหน่อย ๆ ก่อนกล่าว “ไม่ต้องพาไปเมืองหลวงหรอก ในเมื่อหยูเหม่ยเจินคนนี้มาเป็นแม่บ้านเพื่อค่าเล่าเรียนของลูกสาวงั้นเราก็ให้เงินเดือนเธอเพิ่มอีกหนึ่งเดือนค่อยหางานใหม่ให้เธอ แบบนี้คุณปู่คงจะวางใจแล้วสินะ?”


คุณปู่เหยียนยิ้มอย่างพึงพอใจ “ได้ งั้นทำตามที่หมิงซุ่นบอกเลย”


อ่านนิยาย


ขอแค่ยายหนูได้เรียนหนังสือก็เป็นพอ


คุณย่าหยางเองก็พึงพอใจอย่างมาก ขอเพียงไม่มีแม่บ้านราวกับนางปีศาจคนนี้วนเวียนอยู่ในสายตาเธอ ต่อให้จ่ายเงินเดือนเพิ่มอีกเดือนเธอก็ไม่ถือสาอะไร


หยูเหม่ยเจินที่อยู่ตรงลานบ้านกลับไม่พอใจเสียได้ เธอกัดฟันเลือกวิ่งออกจากลานบ้านไปแทนที่จะเข้าไปในบ้าน


เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองไปทางลานบ้านแวบหนึ่งด้วยแววตาดุดัน มุมปากเผยความเย็นชาออกมาเล็กน้อย


หยูเหม่ยเจินวิ่งไปยังตู้โทรศัพท์สาธารณะละแวกนี้ก่อนกดโทรออกแล้วเล่าข้อสรุปที่ตระกูลเหยียนเพิ่งตกลงกันไป “คุณอา อาว่าควรทำอย่างไรดีคะ?”


เสียงปลายสายเงียบไปหลายวินาทีก่อนจะดึงขึ้นอีกหน “เลื่อนแผนให้เร็วขึ้น พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอ”


“ได้ ฉันจะทำตามที่อาบอกค่ะ”


“สบายใจได้ หลังเรื่องนี้จบลงด้วยดีเธอได้เงินแน่!”


…………………….


ตอนที่ 1671 ใจคิดไม่ซื่อ


วันถัดมาเหยียนหมิงซุ่นออกไปข้างนอก เขาไปทำความเข้าใจกับเรื่องถานซูฟาง ได้ความว่าครั้งนี้เธอลาหยุดไว้ครึ่งเดือน เขาไม่ได้ไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเพียงแค่กำชับลูกน้องไปจัดการ


เชื่อว่าถานซูฟางจะได้รับแจ้งการสิ้นสุดวันหยุดก่อนกำหนดในเร็ว ๆนี้


ต่อไปนี้จะไม่มีใครกล้าให้สิทธิประโยชน์เธออีก เพียงปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ในเขตพื้นที่ภูเขาห่างไกล จะอยู่ได้นานแค่ไหนก็คงต้องดูความสามารถส่วนบุคคลของเธอแล้วล่ะ!


ถานซูฟางได้รับแจ้งข่าวจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หนำซ้ำยังเป็นท่านผู้อำนวยการโทรเข้ามาเองสั่งให้เธอรีบเก็บข้าวของ อีกสามวันต้องกลับถึงเขตภูเขา แม้แต่พื้นที่ในการหารือโต้กลับก็ไม่มีด้วยซ้ำ


ถึงแม้ว่าเธอจะให้ของกำนัลที่มีค่าแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้ารับ ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเธอราวงูพิษ ไหนเล่าที่ถานซูฟางจะไม่เข้าใจ ความชิงชังเครียดแค้นพลันท่วมท้น


ไอ้คนป่าเถื่อนอย่างเหยียนหมิงซุ่น ในเมื่อไม่เหลือทางรอดให้เธอ งั้นก็อย่ามาโทษถ้าเธอจะทำสิบห้า[1]!


ผ่านไปอีกหนึ่งวัน เหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รีบร้อนที่จะไปภาคใต้ แต่กลับไปเยี่ยมอาจารย์ไต้ผิ่นเหลียนที่วัดนิกายเซนเพื่อสวัสดีปีใหม่ หล่อนมีแผนที่จะออกบวชมานานแล้ว เนื่องด้วยความวุ่นวายในหลายปีที่นั้น หล่อนถูกข่มเหงมามากทั้งกายและจิตใจ


หลายปีมานี้อาศัยการศึกษาพระไตรปิฎกถึงทำให้จิตใจสงบได้ เหมยเหมยเตรียมคำพูดปลอบใจเขาไปด้วยมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทำให้เขาปล่อยวางได้อย่างหมดสิ้น


ดังนั้นหลังจากที่เหมยเหมยสอบติดมหาวิทยาลัย คุณไต้จึงโกนผมและปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดนิกายเซน มีนามว่าอาจารย์ฮุ้ยจิ้ง


การที่เหมยเหมยได้เห็นอาจารย์มีท่าทีดูดีไม่น้อย เธอจึงค่อยวางใจทิ้งยาวิเศษไว้จำนวนหนึ่ง เธออยู่ไม่นานก็ขอกลับ


บุคคลที่ออกบวชล้วนไกลห่างจากโลกมนุษย์ อาจารย์ได้เห็นหน้าเธอสักครั้ง เธอก็พึงพอใจมากแล้ว


“เฮ้อ!” เหมยเหมยถอนหายใจพลันเกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นมา


อ่านนิยาย


คุณยายและอาจารย์ของเธอ ชะตากรรมคล้ายคลึงกันเหลือเกิน เพียงแค่คนหนึ่งตายไปแล้ว ส่วนอีกคนยังคงดิ้นรนอยู่บนโลกใบนี้


เหยียนหมิงซุ่นจับไหล่เธอแน่น พลางพูดปลอบใจ “พวกคนในตอนนั้นที่ยังไม่ตาย พี่สั่งให้คนไปลงโทษเพื่อเป็นการตักเตือน ตอนนี้ก็เหมือนกับตายทั้งเป็น”


“คนพวกนั้นต่อให้ตายไปร้อยครั้งก็ไม่พอ สัตว์เดรัจฉานยังเทียบไม่ได้!” เหมยเหมยด่าสาปแช่ง


เหยียนหมิงซุ่นลูบหลังเธอ เหมยเหมยถอนหายใจทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แต่โบราณมาหญิงงามมักอาภัพ ประโยคนี้พูดถูก คุณยายและอาจารย์ของฉันเป็นหนึ่งในตัวอย่าง”


“ไร้สาระ เหมยเหมยจะต้องเป็นผู้มีบุญพาวาสนาส่งสิ” เหยียนหมิงซุ่นพูเสียงเบา ๆ


เพราะมีเขาอยู่นี่ไง!


เหมยเหมยเงยหน้ามองเขา พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย พลางเอ่ยถามขึ้นอีก “เราจะไปทะเลเมื่อไรเหรอ?”


“พรุ่งนี้ วันนี้พักอีกสักคืน” เหยียนหมิงซุ่นตอบ เขาอยากรู้ว่าอวี๋เหม่ยเจินจะทำอะไรกันแน่


ผู้หญิงคนนี้ทำตัวลับ ๆล่อ ๆ ต้องมีใจคิดไม่ซื่อแน่


มื้อค่ำเหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางมาร่วมกินข้าวด้วย คุณย่าหยางและอวี๋เหม่ยเจินยุ่งกับงานในครัว ถานซูฟางก็ตามไปช่วย พร้อมแอบยื่นซองกระดาษเล็ก ๆให้อวี๋เหม่ยเจินโดยไม่มีใครเห็น


“พ่อครับ เหล้าเหมาไถนี่ซูฟางตั้งใจซื้อมาเลยนะ เราสองคนดื่มด่ำกันให้สนุกเถอะ”


เหยียนโฮ่วเต๋อคึกคักเอามาก เทเหล้าให้ตัวเองกับคุณปู่เหยียนเต็มจอก พลัดกันดื่มคนละจิบสองจิบ


ภายใต้คำแนะนำของถานซูฟาง เหยียนโฮ่วเต๋อกับคุณปู่เหยียนก็ดื่มไปมากจนเมามาย เขากับถานซูฟางจึงต้องนอนค้างอ้างแรมที่นี่


จังหวะที่เก็บตะเกียบถ้วยชาม ถานซูฟางได้ส่งสายตาให้อวี๋เหม่ยเจิน  อวี๋เหม่ยเจินก็พยักหน้าเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นเห็นเข้าพลันยกยิ้มที่มุมปาก แววตาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา


เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้เลย อวี๋เหม่ยเจินกับถานซูฟางมีความเกี่ยวข้องกัน


จนถึงป่านนี้แล้วผู้หญิงคนนี้ยังคงคิดไม่ซื่อ เหอะ ๆดูท่าคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกแล้วสินะ!


เหยียนหมิงซุ่นไม่แสดงท่าทคใด ๆออกมา ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าถานซูฟางคิดจะทำอะไร คิดดูแล้วคงจะเริ่มลงมือในคืนนี้


เพราะมีอวี๋เหม่ยเจินมาเพิ่ม ห้องในบ้านตระกูลเหยียนจึงมีไม่เพียงพอ อวี๋เหม่ยเจินกลับรีบออกตัว ‘ฉันนอนที่โซฟาก็ได้ค่ะ’


……………………………………………………………….


[1] มาจากสำนวนโบราณที่ว่า 你做初一我做十五 ที่หมายถึง ‘ในเมื่อคุณทำแบบนั้นได้ ฉันก็จะทำเช่นเดียวกัน’


ตอนที่ 1672 ซุปบำรุงร่างกาย


ก่อนเข้านอน คุณย่าหยางยกซุปชามใหญ่เข้ามาที่ห้องเหยียนหมิงซุ่น เผยรอยยิ้มอบอุ่น


“หมิงซุ่นดื่มซุปกระดูกวัวถ้วยนี้ด้วยนะ”


เหยียนหมิงซุ่นรับถ้วยซุปมา เพิ่งทันได้แตะขอบปากกลิ่นคาวอ่อน ๆก็ปะทะเข้ากับจมูก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เงยหน้าถามว่า “นี่คือซุปกระดูกวัวเหรอ?”


เห็นได้ชัดว่าเหมือนกับซุปอัณฑะวัวที่คุณย่าหยางตุ๋นให้เขาเมื่อไม่กี่วันก่อนทุกประการ เห็นจมูกเขาเป็นเพียงของประดับหน้าหรือไง?


“ใช่จ๊ะ นี่คือซุปกระดูกวัว ย่าใส่สมุนไพรเพิ่มเล็กน้อย” ให้ตายคุณย่าหยางก็ไม่ยอมรับ รักษาท่าทีไม่หลุดเลยไม่แต่นิด


เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างจนใจ ร่างกายของเขาอยู่ภายใต้บำรุงซ่อมแซมจากยาวิเศษ ต่อให้วันวันเอาแต่หมกมุ่นกับเรื่องนั้นก็ไม่มีทางเป็นอะไร แต่คุณย่าหยางมักจะกังวลเสมอว่าร่ากายเขาจะรับไม่ไหว


“ร้อนไปหน่อย อีกสักพักค่อยกิน คุณย่าไปนอนก่อนเถอะครับ” เหยียนหมิงซุ่นบ่ายเบี่ยงหญิงชราแล้วผลักเธอออกจากห้อง


“งั้นหลานอย่าลืมกินล่ะ ย่าตุ๋นมาตั้งครึ่งค่อนวันเลยนะ” คุณย่าหยางรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เห็นหลานคนโตดื่มซุปบำรุงร่างกายกับตา เธอไม่วางใจจึงได้เอ่ยกำชับอยู่หลายครั้งกว่าจะยอมกลับห้องได้


คุณปู่เหยียนเมามายเลอะเทอะ นอนกรนเสียงดังสนั่นฟ้าอยู่บนเตียง คุณย่าหยางผลักเขาเข้าไปด้านในสุดอย่างนึกรังเกียจ หยิบผ้าห่มมาให้แค่ตัวเอง กลิ่นเหล้าจากตาแก่คละคลุ้งจนทำให้เธอปวดหัว ผ่านไปสักพักใหญ่กว่าจะเข้าสู่ห้วงนิทราได้


เหยียนหมิงซุ่นวางถ้วยซุปบำรุงร่างกายไว้บนโต๊ะที่ห้องรับแขก เหลือบมองอวี๋เหม่ยเจินที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟาพลันหมุนตัวกลับห้อง


อวี๋เหม่ยเจินลูบอกตัวเอง ใจเต้นไม่เป็นระส่ำ เหงื่อท่วมกายในคืนหนาวเหน็บ แววตาลูกเลี้ยงของอาหญิงช่างน่ากลัวนักเหมือนกับจะฆ่าคนได้ ทำไมอาหญิงถึงคิดไม่ได้แล้วเป็นศัตรูกับคนแบบนี้ด้วยนะ?


เธอเกิดลังเลใจ แต่ก็นึกถึงเงินที่ถานถูฟางสัญญาไว้ ความกล้าก็พลันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง


ถึงอย่างไรเธอก็แค่ทำงานแลกเงิน ถ้าเหยียนหมิงซุ่นจะโทษก็โทษถานซูฟางสิจะสาวโทษมาถึงตัวเธอไม่ได้ อวี๋เหม่ยเจินจึงยิ้มขึ้นมาทันที ใบหน้าที่แต่เดิมดูใสซื่อ ในตอนกลางคืนกลับดูน่าหลงใหลด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน


หากพูดถึงความเป็นจริงของเรื่องนี้ เธอนั่นแหละที่เป็นคนเสียเปรียบที่สุด!


แต่เหยียนหมิงซุ่นหน้าตาดีขนาดนี้ ครั้งนี้เธอจึงยินยอมพร้อมใจที่จะเสียเปรียบ แถมยังได้เงินด้วย!


อวี๋เหม่ยเจินหลงคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นดื่มซุปเข้าไปแล้วก็พลันใจเต้นระรัวแต่กลับเต็มไปด้วยความคาดหวัง และความรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย


ถ้าในห้องนั้นมีแค่เธอกับเหยียนหมิงซุ่นสองคนก็คงจะดีกว่านี้ เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางรอดเงื้อมมือเธอไปแน่ ตอนนี้มีสาวเมืองกรุงอยู่ด้วย อวี๋เหม่ยเจินจึงไม่ค่อยมีความมั่นใจนัก


ไม่รู้เลยจริง ๆว่าอาหญิงคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำเรื่องฉุกละหุกแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าผงยาที่อาหญิงให้มาจะได้ผลหรือเปล่า?


ตกดึกเหยียนหมิงซุ่นไม่ก่อกวนเหมยเหมยเหมือนเมื่อก่อนอย่างน่าเหลือเชื่อ แค่ปล่อยให้เธอหลับไปก่อน เหมยเหมยเองก็ไม่ได้ถาม ความจริงก็คือง่วงมากจึงผล็อยหลับสนิท


ทางด้านถานซูฟางก็นอนไม่หลับ เธอรู้ดีว่าเรื่องคืนนี้มันฉุกละหุกมาก เดิมทีเธอมีแผนที่สมบูรณ์แบบกว่านี้แต่เธอไม่มีเวลาเหลือแล้ว อีกแค่สองวันเธอก็จะต้องกลับไปยังเขตภูเขาซึ่งไม่รู้เลยว่าครั้งหน้าจะได้กลับมาเมื่อไร!


เธอรอต่อไปไม่ไหวแล้ว!


ถึงแม้เธอจะไม่อาจทำลายเกียรติยศชื่อเสียงของเหยียนหมิงซุ่นให้ป่นปี้ได้ แต่เธอก็สามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้


ซุปถ้วยนั้นเหยียนหมิงซุ่นคงดื่มไปแล้วสินะ?


นั่นเป็นถึงยาที่แม้แต่ช้างยังต้านไม่อยู่ แล้วเพิ่มอัณฑะวัวเข้าไปอีก ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นดื่มแค่ไม่กี่อึกก็คลั่งได้แล้ว ร่างบางอย่างจ้าวเหมยไม่อาจช่วยคลายความปรารถนาได้หรอก


อวี๋เหม่ยเจินที่อยู่ในห้องนั่งเล่นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!


ถานซูฟางกระตุกที่มุมปากอย่างได้ใจ หยิบกล้องถ่ายรูปที่เตรียมไว้ออกมา แค่รอให้เกิดเรื่องขึ้นเธอก็พร้อมจะถ่ายรูป


ถ้าเหยียนหมิงซุ่นยังอยากจะอยู่ในกองทัพต่อไปจะต้องเชื่อฟังคำพูดของเธออย่างว่าง่าย มิฉะนั้นเธอจะส่งภาพถ่ายพวกนี้ไปที่กองทัพทหาร เหอะ!


………………………………………


ตอนที่ 1673 ผิดพลาดด้วยเหตุบางประการ


เหยียนหมิงซุ่นหลับไม่สนิท คอยระแวดระวังความเคลื่อนไหวในห้องรับแขกเป็นพัก ๆ ถึงเขาจะไม่รู้แผนการของถานซูฟางแต่ก็รู้ดีว่าต้องเป็นแผนที่จะจัดการเขาแน่ หากไม่ใช่เพราะคุณปู่เหยียน เขาคงขับไล่ไสส่งไม่มีทางทำให้เรื่องมันยุ่งยากวุ่นวายแบบนี้หรอก


เหมยเหมยหลับสนิทมากส่งเสียงกรนออกมาเบา ๆ เม้มริมฝีปากเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นก้มหน้ามองเธออย่างรักใคร่ ช่างงดงามเหลือเกิน


ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดคงจะเป็นตอนนี้สินะ?


เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะประทับจูบบนริมฝีปากของเธอ หลับตางีบหลับให้สมองได้พักผ่อน ขอแค่ในห้องนั่งเล่นเกิดความเคลื่อนไหว เขากลับสามารถตอบสนองได้อย่างเร็วพลัน


ช่วงกลางคืนเริ่มดึกสงัด นอกเสียจากพวกหนูใจกล้าแล้ว ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆเลย


เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วมุ่นอย่างเสียอารมณ์ เมื่อสองปีก่อนอาฮวาตายด้วยโรคชรา ทั้งสองเฒ่าเสียใจอยู่สองนาน หลักจากนั้นก็ไม่เลี้ยงแมวอีกเลย โดยบอกว่าทำใจไม่ได้กับการจากลา


แต่พอไม่มีแมวหนูในบ้านก็ออกมาวิ่งพล่านเต็มไปหมด เหยียนหมิงซุ่นแอบคิด อีกสักสองวันค่อยหาลูกแมวมาให้สองเฒ่าเลี้ยงไว้ แล้วก็ป้อนยาวิเศษให้สักหน่อย ลูกแมวก็สามารถอยู่เป็นเพื่อนกับสองเฒ่าไปได้นานช่วงหนึ่ง


ถานซูฟางและอวี๋เหม่ยเจินรอจนค่อนคืนก็ไม่เห็นแววว่าเหยียนหมิงซุ่นจะคลุ้มคลั่ง หนังตาของอวี๋เหม่ยเจินพลันกระตุก พลางขบคิดว่ายาของถานซูฟางไม่ได้ผลแน่ แม้จะรู้สึกเสียดายแต่เธอก็แอบโล่งใจจึงได้ผล็อยหลับไป


ถานซูฟางเองก็ทนไม่ไหว เธอฝืนต่อความง่วงเดินไปที่ห้องรับแขก แต่กลับเห็นซุปเต็มถ้วยวางอยู่บนโต๊ะที่เย็นชืดไปหมดแล้ว


ยายแก่ตายยาก เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ!


ถานซูฟางโมโหจนแทบบ้า ถ้าเธอรู้แต่แรกว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้กินซุปก็คงหาวิธีอื่นไปแล้ว ตอนนี้คนเขานอนหลับไปแล้ว เธอยังจะทำอะไรได้อีก?


ดูท่าคงต้องเป็นคืนพรุ่งนี้แล้วล่ะ โชคดีที่เธอยังเหลือเวลาอีกสองวัน คืนพรุ่งนี้เธอจะลงมือด้วยตัวเอง หึ…


จะคอยดูว่าไอ้บ้านั่นจะหนีรอดไปได้อย่างไร!


ถานซูฟางจ้องมองอวี๋เหม่ยเจินที่นอนน้ำลายยืดอยู่บนโซฟาด้วยสายตาเหยียดหยาม ของไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่เพราะน่าตาใช้ได้ ไม่งั้นคนอย่างเธอจะยอมลดศักดิ์ศรีไปคบค้าสมาคมกับญาติห่าง ๆที่ชื่อเสียงเสีย ๆหาย ๆพรรค์นี้ได้อย่างไรกัน?


หาวไปฟอดใหญ่ ถานซูฟางก็ไม่สนใจซุปบนโต๊ะนั่นอีก ได้แต่กลับห้องไปนอน


เหยียนหมิงซุ่นลืมตาขึ้นมาในคืนมืดมิด เขารับรู้ว่าถานซูฟางออกมาเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรแล้ว


ถึงแม้ถานซูฟางจะมีท่าทีประหลาดแต่เขาก็ไม่ค่อยอยากสนใจนัก พรุ่งนี้ต้องขับเครื่องบินไปเที่ยวที่ไหหลำ เขาต้องเก็บแรงไว้เพียงพอ นอนดีกว่า!


เหยียนโฮ่วเต๋อนอนหลับสนิทและรู้สึกกระหายเอามาก ด้านล่างก็อยากปลดปล่อยน้ำออก จึงรีบห่มเสื้อคลุมแล้วลงเตียงไป รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว


จัดการเรื่องใหญ่เสร็จ เหยียนโฮ่วเต๋อก็สลึมสลือง่วงค้างเตรียมกลับห้อง เหล้าเหมาไถที่ถานซูฟางซื้อมามีฤทธิ์แรงมาก จนถึงตอนนี้เขายังมึนหัวอยู่  เลย


สิ่งที่เหยียนโฮ่วเต๋อไม่รู้คือถานซูฟางต้องการทำให้อวี๋เหม่ยเจินจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วง จึงได้เพิ่มประมาณแอลกอฮอล์จำนวนมากเข้าไปในเหล้าเหมาไถ เขาไม่มึนสิแปลก


จังหวะที่เดินผ่านโต๊ะกับข้าว เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นซุปที่วางบนโต๊ะด้วยท่าทีสะลึมสะลือ จึงดีอกดีใจพลางยกขึ้นดื่มเสียเลย!


เขายกถ้วยขึ้นดื่มไปครึ่งค่อนถ้วย พอซุปเคลื่อนเข้าสู่ท้องเขาถึงได้เกิดอาการสะอิดสะเอียนจนกลอกตา ซุปอีกครึ่งที่เหลืออยู่ดื่มไม่ลงแล้ว!


ของบ้าบออะไรเนี่ย?


ดื่มเข้าไปแล้วรู้สึกคลื่นไส้ชะมัด!


เหยียนโฮ่วเต๋อวางถ้วยลง อยากเทน้ำเปล่ามาดื่มตามหน่อยแต่กลับรู้สึกร้อนรุ่มมาก ราวกับร่างเป็นไฟก็ไม่ปาน ดวงตาพลันแดงก่ำ


ตอนนี้เขาไม่อยากดื่มน้ำเสียแล้ว เขาอยากจะ…


ด้วยสัญชาติญาณของผู้ชายทำให้มุ่งตรงไปที่โซฟา เพราะตรงนั้นมีกลิ่นหอมหวนและเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้


อวี๋เหม่ยเจินที่มีอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นก็รู้สึกถึงกลิ่นที่คุ้นเคย และความสุขที่เธอห่างหายมานานจึงทำให้ยิ่งดีใจยกใหญ่ ขณะเดียวกันก็แอบบ่นในใจ


อาหญิงเอายาอะไรมากันเนี่ย?


กว่ายาจะออกฤทธิ์ ผักจำฉ่ายก็เย็นชืดไปหมด[1] โชคดีที่ตอนนี้ยังทัน!


…………………………………………………..


[1] เป็นคำโบราณ ที่ใช้ตำหนิคนที่มาสาย หรือทำเรื่องได้เชื่องช้าจนไม่ทันการเอาได้


ตอนที่ 1674 ความมักใหญ่ใฝ่สูง


ยาที่ถานซูฟางวางต้องรุนแรงมากอยู่แล้ว ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเหยียนโฮ่วเต๋อก็สติพร่าเบลอ ทั้งยังมีพละกำลังมหาศาลราวกับวัว อึดถึกเสียยิ่งกว่าตอนเขาอายุยี่สิบปีเสียอีก


อวี๋เหม่ยเจินที่ขาดผู้ชายตั้งแต่เข้าเมืองมาดีอกดีใจจนเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าก่อนเองและตั้งรับการบุกเข้ามาของแรงมหาศาล กดเสียงร้องครวญครางที่อยากเปล่งออกมาเป็นครั้งคราวไว้ สบายตัวจนต้องส่งเสียงฮึมฮัมออกมา


พี่ทหารหน้าตาก็ดี ทำเรื่องพรรค์นี้ช่ำชองเสียอีก!


ดีกว่าพวกผู้ชายแถบชนบทพวกนั้นเยอะเลย!


แสงไฟที่มืดมนทำให้อวี๋เหม่ยเจินมองไม่ชัดนักว่าผู้ชายที่กำลังเคลื่อนตัวไปมาอย่างขันแข็งบนร่างตนนั้นเป็นใคร เธอยังนึกว่าเป็นเหยียนหมิงซุ่น พอคิดถึงเงินที่ถานซูฟางสัญญาว่าจะให้ เธอก็ยิ่งออกแรงบิดตัวจนทำให้เหยียนโฮ่วเต๋อสมอารมณ์หมายเข้าไปอีก     ……


เสียงเคลื่อนไหวในห้องรับแขกดังอยู่บ้าง เหยียนหมิงซุ่นสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ฟังแค่ครู่เดียวก็รู้แล้วว่าในห้องรับแขกเกิดเรื่องอะไรขึ้น


เขากระตุกยิ้มอย่างเย้ยหยัน แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปขัดขวางแต่อย่างใด แต่ในใจกลับรู้สึกเหยียดหยามเหยียนโฮ่วเต๋อยิ่งกว่าเดิม


มิน่าถึงได้คิดหาสารพัดวิธีเอาผู้หญิงอย่างอวี๋เหม่ยเจินมาทำงานกับคุณปู่ที่นี่ ที่แท้ก็เพื่อความสะดวกในการสนองตัณหาของตนเองนี่เอง!


เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงหัวเราะเสียงเย็นชา ถานซูฟางกับอวี๋เหม่ยเจินรู้จักกัน แต่หล่อนกลับไม่รู้ว่าเหยียนโฮ่วเต๋อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอวี๋เหม่ยเจิน


รสชาติของการถูกสามีหักหลัง ในที่สุดถานซูฟางก็ได้ลิ้มรสมันสักที!


เหยียนหมิงซุ่นกลอกตาไปมาแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้หลายใบ ผ่านไปอีกสักพักค่อยไปล้างแล้วส่งไปให้ถานซูฟางที่อยู่เขตภูเขาแดนไกลได้ชื่นชมดีกว่า


ต่อให้เธอคิดอยากจะมาสั่งสอนเหยียนโฮ่วเต๋อก็ปลีกตัวออกมาไม่ได้ คงทำได้แค่ทุกข์ทรมานใจอยู่ในเขตหมู่บ้านภูเขาที่แสนลำเค็ญนั่น


จะดูสิว่าเธอจะทนได้สักกี่ปี?


เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรไป


สองคนนี้กอดรัดฟัดนัวเนียกันอย่างเร่าร้อนอยู่บนโซฟาจนลืมทุกอย่างรอบกายจนหมดสิ้น พวกเขาทั้งสองไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังแอบดูอยู่


เหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่ได้สนใจสองคนนี้อีก เขาหมุนตัวกลับเข้าห้องไปแล้วผล็อยหลับไปในที่สุด


ถึงแม้เหยียนโฮ่วเต๋อจะมียามาเป็นตัวช่วยแต่อายุก็ไม่น้อยแล้ว แถมยังไม่ได้ออกกำลังกายมานานด้วย ภายใต้ประสิทธิภาพของตัวยาทำให้ยืนหยัดได้นานอยู่หลายยกจนเหนื่อยหอบเหมือนสุนัข แม้กระทั่งยืนตรงยังยืนไม่ไหวจึงหมอบนอนลงกับพื้นแล้วหลับไปเลย


อวี๋เหม่ยเจินเองก็เหนื่อยไม่ต่างกัน หล่อนขี้เกียจใส่เสื้อผ้าจึงนอนห่มผ้าหลับด้วยความอิ่มเอมใจ


เธอทำภารกิจที่ได้สำเร็จแล้ว เหยียนหมิงซุ่นนอนเปลือยกายหมอบหลับอยู่ตรงปลายเท้าเธอ พรุ่งนี้เช้าคนตระกูลเหยียนต้องเห็นแน่นอน ไม่แน่เธออาจจะได้แต่งงานกับเหยียนหมิงซุ่นก็ได้!


อวี๋เหม่ยเจินวาดฝันไว้อย่างสวยงาม เธอรู้สึกว่าตนเองก็มีคุณสมบัติที่ไม่เลว ทั้งอ่อนวัยหน้าตาสะสวย ถึงแม้จะเคยผ่านการแต่งงานและมีลูกมาก่อน แต่ขอแค่เหยียนหมิงซุ่นเต็มใจที่จะขอเธอแต่งงาน เธอก็จะถือว่าไม่เคยคลอดเจ้าเด็กบ้านั่นมาก่อน ถึงอย่างไรเสียตอนนี้เจ้าเด็กบ้านั่นก็มีคุณปู่คุณย่าคอยเลี้ยงดูอยู่


ภารกิจสำเร็จอย่างเหนือคาด เดิมทีอวี๋เหม่ยเจินแค่อยากได้เงิน แต่เพราะความหล่อเหลาของเหยียนหมิงซุ่นและคุณสมบัติที่ดีของตระกูลเหยียน จึงทำให้อวี๋เหม่ยเจินมีใจมักใหญ่ใฝ่สูงมากกว่าเดิม


ถ้าเหยียนหมิงซุ่นไม่ขอเธอแต่งงาน เธอก็จะไปร้องโวยวายที่ค่ายทหารบอกว่าเหยียนหมิงซุ่นได้เสียกับเธอแล้วไม่รับผิดชอบ


เหอะ ถ้าเหยียนหมิงซุ่นยังคิดจะอยู่ในค่ายทหารต่อก็จำเป็นต้องขอเธอแต่งงานแล้วล่ะ!


อวี๋เหม่ยเจินยิ้มอย่างลำพองใจแล้วก็หลับไป


ท้องฟ้าใกล้ถึงยามรุ่งสางทุกคนต่างหลับเป็นตาย คุณปู่เหยียนกลับตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่จึงรีบพุ่งตัวเข้าห้องน้ำด้วยความรีบร้อน หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็เกิดอาการหนักศีรษะขึ้นมา


เขาอายุมากแล้วจึงคออ่อน แรงตอบสนองหนักกว่าเหยียนโฮ่วเต๋อเสียอีก ขนาดทิศออกตกเหนือใต้เขายังแยกแยะไม่ออกเลย


คุณปู่เหยียนทำเหมือนเหยียนโฮ่วเต๋อทุกอย่าง คุณปู่วิ่งไปที่โต๊ะแล้วยกแกงที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งซดจนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว


และเหม็นคาวจนคุณปู่เหยียนเกิดอาการคลื่นไส้ แล้วก็อยากหาน้ำดื่มเหมือนกับเหยียนโฮ่วเต๋อก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่ยาดันออกฤทธิ์เสียก่อน


แต่คุณปู่เหยียนกับมีท่าทีสงบกว่าเหยียนโฮ่วเต๋อ เพราะเขาคิดว่าเป็นผลจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เลยคิดจะไปอาบน้ำให้ตนเองสดชื่นสักหน่อย คุณปู่จึงเดินไปทางโซฟาด้วยสายตาพร่าเบลอ


……………………………………………..


ตอนที่ 1675 เข้าใจผิดอย่างหนักหน่วง


คุณปู่เหยียนอยากดูให้แน่ชัดว่าคนที่นอนอยู่บนพื้นเป็นใครแต่ยากลับออกฤทธิ์รุนแรงเสียแล้ว ต่อให้เป็นชายชราที่ไม่หลงเหลือความใคร่อย่างเขาก็ถูกกระตุ้นจนดวงตาแดงก่ำ เขาจึงได้แต่เดินมุ่งหน้าไปยังโซฟาที่มีกลิ่นหอมของผู้หญิงอยู่ตามสัญชาตญาณ


อวี๋เหม่ยเจินไม่ได้หลับสนิท เธอตื่นเต้นมาก เพราะฝันหวานกำลังจะกลายเป็นจริง เธอพบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างโซฟาซึ่งรูปร่างค่อนข้างคล้ายคลึงกับเหยียนโฮ่วเต๋อก่อนหน้านี้ พลางขบคิดว่าเขายังไม่หนำใจจึงดีใจจนเนื้อเต้น ยื่นมือออกไป พร้อมกับลากคุณปู่เหยียนให้ล้มลงมาทับบนตัวเธอ



เหยียนหมิงซุ่นได้ยินถึงความเคลื่อนไหวมาจากห้องรับแขกอีกครั้งจึงลืมตาขึ้นมาอย่างหัวเสีย แล้วแผ่ซ่านไออันเยือกเย็นออกมา


ไม่จบไม่สิ้นจริง ๆเลย!


เขาแต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องดึงเปิดหลอดไฟนีออนด้วยความโมโห แสงไฟที่สว่างจ้าได้เรียกสติอวี๋เหม่ยเจินที่อยู่บนโซฟา เธอตกลงใจจนถีบคนบนร่างตกพื้น จ้องมองเหยียนหมิงซุ่นภายใต้แสงไฟด้วยความหวาดกลัว


ทำไมพี่ทหารถึงไปยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ?


แล้วคนที่ทำกิจกับเธอเมื่อกี้คือใคร?


เสียงสบถพลันดังขึ้น เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วมุ่น ทำไมถึงเป็นคุณปู่ไปได้?


เขาไม่ได้คิดลึก คิดเพียงว่าคุณปู่คงจะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวข้างนอกเหมือนกัน จึงออกมาห้ามเหยียนโฮ่วเต๋อ แล้วล้มลงไปอย่างไม่ระวัง


เขาอยากเข้าไปช่วยพยุงคุณปู่เหยียน แต่ด้วยสภาพของอวี๋เหม่ยเจินในตอนนี้เขาคงไม่เหมาะที่จะเข้าไป ช่วงดึกดื่นแบบนี้หากเขาอยู่กับหญิงสาวที่ไม่สวมใส่เสื้อผ้า กระโดดลงแม่น้ำหวงเหอก็คงล้างมลทินไม่หมด


เหยียนหมิงซุ่นขบคิดครู่หนึ่งจึงตัดสินใจไปเคาะประตูเรียกคุณย่าหยาง “คุณย่าครับ เกิดเรื่องนิดหน่อย คุณปู่น่าจะหกล้มครับ”


“หกล้มเหรอ?”


คุณย่าหยางตกใจจนได้สติ รีบแต่งตัวออกมาพลันจ้องเหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่พอใจ “ทำไมหลานไม่ไปช่วยพยุงคุณปู่ก่อน?”


เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเจื่อน ๆ “คุณย่าไปดูก็จะรู้เองครับ แม่บ้านคนนั้นกับลูกชายของย่าก่อเรื่องบัดสี ผมไม่กล้าเข้าไปใกล้หรอกครับ”


คุณย่าหยางเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ สบถด่าแล้ววิ่งเข้าไปด้วยความโกรธ ขนาดอยู่บ้านเธอยังกล้าสร้างเรื่องบัดสีอีก เธอจะต้องตีนังสารเลวนั่นให้ตาย!


หมาไม่อาจเปลี่ยนสิ่งที่มันกินได้[1]!


ไม่แปลกเลยที่พยายามจะเอาอวี๋เหม่ยเจินเข้ามาเป็นแม่บ้านให้ได้ ที่แท้ก็เตรียมไว้เพื่อตัวมันเองสินะ!


พอเหลือบไปเห็นอวี๋เหม่ยเจินบนโซฟา ผมเผ้ากระเซิง เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย และเหยียนนโฮ่วเต๋อที่นอนหลับอยู่บนพื้นด้วยสภาพเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบเช่นเดียวกัน ความโกรธของคุณย่าหยางจึงได้ก้าวมาถึงจุดเดือด


“พวกสารเลวหน้าไม่อาย!”


คุณย่าหยางยกไม้ขนไก่ขึ้นฟาดตัวอวี๋เหม่ยเจินอย่างไร้สติ แม้เธอจะโกรธที่ลูกชายไม่รู้จักเก็บอารมณ์ แต่ก็โกรธมากกว่าที่อวี๋เหม่ยเจินยั่วยวนลูกชายตน ฟาดลงไปโดยไม่มีความนุ่นนวล


จนถึงตอนนี้อวี๋เหม่ยเจินยังคงช็อกไม่เลิก คว้าผ้าห่มมาพันตัวไว้พร้อมหลบไม้ขนไก่ คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก


ทำไมถึงไม่ใช่เหยียนหมิงซุ่นล่ะ?


เหยียนหมิงซุ่นจ้องเหยียนโฮ่วเต๋อที่นอนหลับบนพื้นด้วยสายตารังเกียจ อยากเข้าไปพยุงคุณปู่เหยียนที่นอนบนพื้น แต่พอเดินเข้าไปใกล้ ๆกลับพบว่า คุณปู่เหยียนมีท่าทีที่ผิดปกติไป


ตัวร้อนไปทั้งร่างราวกับกุ้งที่ต้มสุกแล้วก็ไม่ปาน ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือ เสื้อผ้าบนร่างของคุณปู่เหยียนก็ยับยู่ยี่ไปด้วย


เหยียนหมิงซุ่นนิ่งเงียบ หรือคนที่อยู่กับอวี๋เหม่ยเจินเมื่อกี้จะเป็นคุณปู่?


คุณย่าหยางก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคุณปู่เหยียน เธอเป็นหมอ มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตาแก่ ครั้นหน้านิ่งไปทันที


“ใครวางยาคุณปู่ของหลาน?”


คุณย่าหยางไม่สนใจที่จะสั่งสอนอวี๋เหม่ยเจินอีก เพียงตักน้ำเย็นขึ้นมาแล้วราดลงบนใบหน้าคุณปู่เล็กน้อย คุณปู่ถึงค่อย ๆได้สติและร้องครวญครางไม่หยุด


“ใครถีบเอวข้า? หักแล้วเนี่ย!”


อวี๋เหม่ยเจินไม่ทันสังเกตเห็นเหยียนโฮ่วเต๋อ เข้าใจผิดคิดว่าคนที่ร่วมกิจกับเธอในยามค่ำคืนก็คือคุณปู่เหยียน อดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่งในใจ เธอคงแต่งงานกับพี่ทหารไม่ได้แล้วแน่นอน แต่เธอจะยอมให้ไอ้แก่นี่นอนด้วยฟรี ๆไม่ได้แน่


ความคิดบังเกิดหญิงสาวผู้นี้กลับมีแผนการในใจ เธอปลดผ้าห่มออกฉับพลันแล้วร้องเสียงดัง “ฉันไม่อยากอยู่แล้ว …ถูกตาแก่ย่ำยี ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร…ฉันมาเพื่อทำงานที่บ้านคุณ…ไม่ได้มาให้ตาแก่นี่ลักหลับนะ…”


………………………………………………………..


[1] สันดานคนแก้ยาก


ตอนที่ 1676 เกิดเรื่องกับคุณปู่


เหยียนหมิงซุ่นจัดการรวดเร็วปานสายฟ้า ซัดกรามของอวี๋เหม่ยเจินจนค้างจึงเงียบไปกะทันหัน แต่กลับอลหม่านจนทำให้ถานซูฟางและเหมยเหมยตื่น


คุณปู่เหยียนพลันนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แม้จะขาด ๆหาย ๆไม่ปะติดปะต่อกันแต่เขากลับจำได้ว่าเหมือนตัวเขากำลังอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง…


รวมทั้งเสื้อผ้าบนตัวที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงคำพูดของอวี๋เหม่ยเจิน และยังมียาที่ออกฤทธิ์รุนแรงนั่นด้วย คุณปู่เหยียนเกิดความรู้สึกโกรธและอับอายผสมปนเปตีกัน เส้นเอ็นพลันปูดโปนราวกับจะกระอักเลือดเสียให้ได้


“ตาแก่อย่าโมโหไป ใจเย็น ๆก่อน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น…หมิงซุ่นรีบไปหยิบยามาเร็ว…เร็วเข้า!”


คุณย่าหยางเร่งเร้าอย่างร้อนรน เธอรู้ว่าอาการของคุณปู่ในตอนนี้อันตรายมาก หากพลาดไปนิดเดียวก็อาจคร่าชีวิตได้เลย


คู่แท้วัยเยาว์อยู่เคียงกันจนแก่เฒ่า เธอไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพียงตัวคนเดียวอย่างโดดเดี่ยวนะ!


“ใคร…ทำลาย…เกียรติอันบริสุทธิ์ของฉัน…ฉันคงตาย…ตาไม่หลับ”


คุณปู่กระอักเลือดออกมา สีหน้าของคุณปู่เหยียนก็พลันซีดเซียว หัวทิ่มคะมำลงพื้นแล้วหมดสติไป


“ตาแก่…หมิงซุ่น รีบเรียกรถพยาบาล…”


คุณย่าหยางตะโกนร้องอย่างร้อนรน พร้อมทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับคุณปู่เหยียน แต่ภายใต้ความโกรธและความอับอายของชายชรา เขาจึงเอาแต่ร้องขอความตาย สีหน้าดูย่ำแย่กว่าเดิม


อวี๋เหม่ยเจินตกใจจนหน้าซีด เธอแค่ต้องการหาเงิน ไม่เคยคิดทำร้ายใคร!


ตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ?


เธอจะได้กินลูกปืนหรือเปล่า?


เหยียนหมิงซุ่นต่างก็ตกใจรีบวิ่งแจ้นไปข้างหน้า แค่ดูก็รู้ว่าอาการของคุณปู่เหยียนอันตรายมาก หากไม่รีบช่วยเกรงว่าจะไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้


“คุณย่าอย่าพึ่งร้อนใจไป คุณปู่จะไม่เป็นอะไร!”


เหยียนหมิงซุ่นยังแลดูสุขุม สยบความกังวลของคุณย่าหยางได้ ยอมปล่อยให้หลายชายเป็นคนช่วยเหลือชายชรา ส่วนตัวเธอนั้นนั่งก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น แขนขาอ่อนระทวย


ในจังหวะที่ไม่มีใครสังเกต เหยียนหมิงซุ่นหยิบยาวิเศษออกมาแล้วหยดใส่ปากของคุณปู่เหยียน หวังว่าจะช่วยบรรเทาอาการป่วยของชายชราไว้ได้


เขาไม่สนใจต่อความเป็นความตายของเหยียนโฮ่วเต๋อเลยสักนิด แต่คุณปู่คุณย่าเป็นคนที่เขาใส่ใจ เขาจำต้องช่วยชีวิตคุณปู่


เหมยเหมยก็ตกใจมาก เดินเข้ามาช่วยเหยียนหมิงซุ่นดูอาการคุณปู่ แม้จะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็เอ่ยปลอบใจเสียงเบา “อย่ากังวลเลย คุณปู่จะไม่เป็นอะไร จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”


ใบหน้าของคุณปู่เหยียนมีเลือดฝาดเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นจึงวางใจลงบ้าง รื้อบานประตูออกแล้วยกชายชราขึ้น กระชับสั่งให้เหมยเหมยและคุณย่ารออยู่ที่บ้าน เขาจะพาคุณปู่ไปส่งโรงพยาบาล


“คุณย่าไม่ต้องกังวล อยู่บ้านคอยจับตาดูผู้หญิงคนนี้กับถานซูฟางไว้ รอผมกลับมาสืบหาอีกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”


เหยียนหมิงซุ่นหน้านิ่งราวกับน้ำ เขาเดาว่ายาในร่างของชายชราเป็นไปได้สูงมากว่าถานซูฟางจะเป็นคนวางยา แต่เป้าหมายของผู้หญิงคนนี้คืออะไร?


รอให้ทางฝั่งชายชราปลอดภัยก่อน เขาจะค่อย ๆสืบหาทีละนิดจนกระจ่าง ไม่มีทางปล่อยถานซูฟางไว้แน่นอน


เหมยเหมยช่วยแต่งตัวให้คุณย่าหยาง จังหวะนั้นถึงได้สังเกตเห็นเหยียนโฮ่วเต๋อที่นอนบนพื้นด้วยเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ เสียงเอะอะโวยวายขนาดนี้ยังไม่ตื่น นอนหลับเป็นตายเสียจริง ๆ


“คุณย่าดูสิ…”


เหมยเหมยหันหน้าหนีพลางชี้ให้คุณย่าหยางดูด้วยใบหน้าแดงก่ำ


ตอนนี้เธอพอจะเดาบางอย่างได้ ชายหญิงต่างก็เสื้อผ้ายับยู่ยี่ หนำซ้ำยังเป็นช่วงกลางดึก ใช้นิ้วเท้าคิดยังเดาได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่เหยียนกันนะ?


หรือว่าเป็น?


เหมยเหมยเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ไม่กล้าที่จะคิดต่อ ใจเต้นตุ้ม ๆต่อม ๆไม่เป็นระส่ำ


หากเป็นอย่างที่เธอคิดจริง ๆ ไม่แปลกเลยที่คุณปู่เหยียนจะโมโหจนกระอักเลือด เรื่องอื้อฉาวแบบนี้สำหรับคนที่รักเกียรติและศักดิ์ศรียิ่งกว่าชีวิตอย่างคุณปู่เหยียนถือเป็นสิ่งกระทบกระเทือนที่รุนแรงมากเกินไปจริง ๆ


คุณย่าหยางหยิบไม้ขนไก่ใช้แรงฟาดเหยียนโฮ่วเต๋อไม่ยั้งเพราะความไม่ได้เรื่องของเขาด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง แต่เหยียนโฮ่วเต๋อกลับไม่มีการตอบสนองใด ๆ


เหมยเหมยเห็นท่าไม่ดี “คุณย่า ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น? ตีไปตั้งนานยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย หรือว่าจะเกิดเรื่องเข้าแล้ว?”


…………………………………………….


ตอนที่ 1677 ขโมยไก่มาไม่ได้ เสียข้าวอีกหนึ่งกำมือ


คุณย่าหยางตกใจมากพลันโยนไม้ขนไก่ทิ้งไป อยากจะพลิกตัวเหยียนโฮ่วเต๋อกลับมาเพื่อดูอาการ แต่เธออายุมากร่างกายอ่อนแอ เหยียนโฮ่วเต๋อก็อ้วนเหมือนหมูทำอย่างไรก็พลิกไม่ได้


“เธอมัวยืนนิ่งทำอะไรอยู่? ยังไม่รีบเข้ามาช่วยอีก?” คุณย่าหยางด่าทอถานซูฟางอย่างขุ่นเคือง ไม่พอใจเธอมาก


ถานซูฟางยังไม่ทันได้สติ เธออยากจะถามอวี๋เหม่ยเจินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สั่งให้เธอไปนอนกับเหยียนหมิงซุ่นแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไปนอนกับไอ้แก่ตายยากนั่นได้ล่ะ?


เธอจัดการกับตาแก่นั่นแล้วจะมีประโยชน์อะไร?


ตอนนี้ตาแก่จะเป็นตายอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ถ้าหากว่าตายขึ้นมาจริง ๆเหยียนหมิงซุ่นจะยอมปล่อยเธอไปเหรอ?


ถานซูฟางจ้องอวี๋เหม่ยเจินที่ยังไม่ได้สติด้วยแววตาอาฆาต พลางเดินเข้าไปช่วยคุณย่าหยางพลิกตัวเหยียนโฮ่วเต๋อ แต่กลับเห็นใบหน้าเขาซีดเขียว ตัวร้อนระอุ สภาพไม่ค่อยดีนัก


“โฮ่วเต๋อตื่นสิ แกรีบฟื้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”


คุณย่าหยางตบหน้าเบา ๆหวังให้เหยียนโฮ่วเต๋อได้สติแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว ยังคงนอนแน่นิ่งดังเดิม


เหมยเหมยเห็นถึงความผิดปกติ พูดขึ้นว่า “คุณย่าคะ ต้องเรียกรถพยาบาลแล้วล่ะ”


สภาพของเหยียนโฮ่วเต๋อในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อาการหลับสนิท แต่เป็นเพราะเหนื่อยเกินแรงจนทำให้สลบไป


เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องของเขากับอวี๋เหม่ยเจิน เหมยเหมยจึงนึกดูแคลน ภรรยาและพ่อแม่ต่างก็หลับอยู่ในห้อง แต่เขากลับออกมาเล่นจ้ำจี้กับแม่บ้านอยู่ในห้องรับแขก ซ้ำยังก่อเรื่องจนตัวเองเหนื่อยหมดแรงอีก เทียบไม่ได้กับสัตว์เดรัจฉานจริง ๆ เลย


คุณย่าหยางทั้งสงสารทั้งโกรธเคือง ถึงอย่างไรเหยียนโฮ่วเต๋อก็เป็นลูกชายของเธอ โกรธนักที่เธอทำอะไรไม่ได้เลย!


ในขณะนั้นถานซูฟางก็ได้สติขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคนที่อวี๋เหม่ยเจินหลับนอนด้วยคือผู้ชายของเธอ ฉับพลันความโกรธก็พุ่งทะลุอก เธอจึงเหวี่ยงมือตบหน้าไปฉาดหนึ่งอย่างแรง แต่เหยียนโฮ่วก็ยังคงแน่นิ่งไม่มีการตอบสนอง


“เธอฟาดเขาทำไม? ไม่เห็นหรือว่าเหยียนโฮ่วเต๋อมีสภาพเป็นแบบนี้แล้ว? ยังไม่รีบเข้ามาช่วยยกอีก!”


คุณย่าหยางโมโหจนก่นด่า แม้ว่าเขาจะโกรธที่ลูกชายไม่รู้จักระงับอารมณ์ แต่ถานซูฟางตบตีเหยียนโฮ่วเต๋อต่อหน้าเธอ หญิงชราก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี


ถามซูฟางกลับไม่ได้ฟังคำเธอแต่มุ่งหน้าไปหาอวี๋เหม่ยเจิน จิกผมอวี๋เหม่ยเจินไว้แน่น ข่วนใบหน้าของเธอราวกับคนคนบ้าก็ไม่ปาน


“นางชั่วช้าหน้าไม่อาย…ฉันจะฆ่าแกนางปีศาจจิ้งจอก…คิดจะขุดตีนกำแพง[1]แต่กลับขุดขึ้นมาจนถึงหัวฉัน นั่นมันอาเขยของแกเลยนะ!”


ถานซูฟางตบตีพลางด่าทอ อวี๋เหม่ยเจินยังนึกถึงเงินที่ยังไม่ได้รับจึงไม่กล้าตอบโต้ เพียงแค่ใช้สองมือป้องหัวไว้ เพียงครู่เดียวใบหน้าเธอก็ปรากฏรอยแผลลิ่มเลือดมากมาย


เหมยเหมยใจเต้นตึกตัก อาเขย?


อวี๋เหม่ยเจินเป็นหลานสาวของเธอ?


เรื่องที่เกิดในค่ำคืนนี้จะเกี่ยวข้องกับถานซูฟางหรือเปล่า?


คุณย่าหยางก็ได้ยินอย่างชัดเจนจึงตะโกนเสียงดัง “เธอพูดออกมาให้ชัดเจนเลยนะ อาเขยอะไร? นางชั่วนี่เกี่ยวข้องกับแกอย่างไร?”


ถานซูฟางใจหล่นวูบพลางนึกโทษที่ตัวเองหลุดปากไป เธอฝืนยิ้มและพูด “เป็นญาติห่าง ๆของฝั่งแม่ค่ะ เพราะที่บ้านยากจนจึงได้ขอให้ฉันช่วยหางานในเมืองให้เธอทำ ไม่นับว่าเป็นญาติจริง ๆจัง ๆอะไรหรอก ไม่ได้อยู่ในชุดไว้ทุกข์ทั้งห้า[2]ด้วยซ้ำ”


คุณย่าหยางทำหน้าดุดัน ถ้าเธอรู้แต่แรกว่าอวี๋เหม่ยเจินเป็นญาติกับถานซูฟาง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่มีทางยอมให้นางชั่วช้าอยู่ที่นี่แน่


ในตอนนี้คุณย่าหยางไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าภาพลักษณ์ของอวี๋เหม่ยเจินนั้นย่ำแย่ ไม่ได้คิดไปถึงทางฝั่งถานซูฟางเลย


ถานซูฟางเห็นว่าคุณย่าหยางไม่ได้ถามอะไรเพิ่มจึงนึกแอบโล่งใจ ไม่กล้าด่าอวี๋เหม่ยเจินอีก ได้แต่ช่วยคุณย่าหยางยกตัวเหยียนโฮ่วเต๋อขึ้นไปบนเตียง


คุณย่าหยางสำรวจร่างกายของเหยียนโฮ่วเต๋อก็พบว่ามีไข้เล็กน้อย แต่อัตราการเต้นของหัวใจยังปกติ จึงไม่นึกกังวลอะไร ทิ้งเหยียนโฮ่วเต๋อไว้บนเตียงแล้วก็ไม่สนใจอีก


ในช่วงใกล้รุ่งสาง เหยียนหมิงซุ่นก็กลับมาถึง “การผ่าตัดของคุณปู่ลุล่วงด้วยดี คุณย่าอย่าได้กังวล!”


เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจหญิงชรา แต่กลับมีท่าทีเคร่งขรึมเอามาก


…………………………………………………………………


[1] เปรียบการโค่นล้มอีกฝ่าย


[2] หมายถึง ลำดับญาติสนิทใน 5 ชั่วคนที่ถือเป็นคนครอบครัวเดียวกันตามระบบครอบครัวใหญ่ของจีน โดยจะได้สวมใส่ชุดไว้ทุกข์ในช่วงที่มีผู้สูงอายุในบ้านเสียชีวิต

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)