เทพปีศาจหวนคืน 1576-1579
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1576 สนามรบราชันภูต
ท่าไม้ตายอมตะมังกรดาบบรรพกาล!
ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!
ท่าไม้ตายอมตะกําปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!
ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!
ฟางหยวนใช้วิธีการเกือบทั้งหมดของเขากับเทพธิดาจื่อเว่ย
เทพธิดาจื่อเว่ยหัวเราะ “ฟางหยวน เจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้นั้นหรือ?”
ท่าไม้ตายอมตะของนางสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดของฟางหยวนได้อย่างง่ายดาย บางท่าถึงกลับสามารถตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะของเขา
ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้ของฟางหยวนถูกเปิดเผยมานานแล้ว หลังจากเทพธิดาจื่อเว่ยได้รับข้อมูล นางก็สามารถอนุมานวิธีต่อต้านพวกมันได้ทั้งหมด
นี่คือพลังอํานาจที่น่าเหลือเชื่อของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา
อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายของฟางหยวนยังมีประโยชน์อยู่บ้าง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะของตนเพื่อรับมือกับเทพธิดาจื่อเว่ยโดยเฉพาะ
“แต่ในแง่มุมของความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา ข้ายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับเทพธิดาจื่อเว่ย สุดท้ายนางจะสามารถอนุมานวิธีมือท่าไม้ตายอมตะทั้งหมดของข้าและข้าจะไม่สามารถต่อสู้กับนางได้อีก
คิดได้เช่นนี้ เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของฟางหยวนก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่จิตใจของเขายังสงบนิ่งและเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้มขณะที่นางส่งปราณสีม่วงออกไป
ปราณสีม่วงมีขนาดเท่ากับกําปั้นของเด็กทารกแต่มันพุ่งเข้าสู่จิตใจของอสูรปีวอกแรกกําเนิดและส่งผลกระทบต่อมันทันที
“เจี๊ยก!”
อสูรปีวอกแรกกําเนิดกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันยกมือขึ้นกุมศีรษะของตนเองด้วยความโกรธจัด
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะตกตะลึงกับฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พลังการต่อสู้ของเทพธิดาจื่อเว่ยกระทั่งสูงกว่าเฉินอี้: ก่อนหน้านี้นางยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมา แต่ตอนนี้ทุกท่าไม้ตายอมตะที่นางปลดปล่อยออกมากลับทรงพลังจนทําให้ทุกคนตกใจ
ฟางหยวนรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย
เขายังมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดที่จับมาจากทะเลทรายผีเขียวอีกสองตัว แต่เขาไม่ต้อ งการใช้งานพวกมันในเวลานี้
โดยทั่วไปสัตว์อสูรแรกกําเนิดมักเป็นฝ่ายเสียเปรียบผู้อมตะระดับแปด เว้นเพียงพวกมันจะมีวิญญาณอมตะระดับแปดในการครอบครอง
อย่างไรก็ตามต่อหน้าผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ แม้สัตว์อสูรแรกกําเนิดจะมีวิญญาณอมตะระดับแปด แต่พวกมันก็ยังไม่สามารถจัดการพวกเขา
ตั้งแต่ฟางหยวนสามารถจับอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสอง พวกมันก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเทพธิดาจื่อเว่ยเช่นกัน
“เพื่อต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ ในอดีตวังสวรรค์ทําการรวบรวมวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเอาไว้มากมาย นี่คือเหตุผลที่ข้าปล่อยอสูรปีแรกกําเนิดออกมา หากข้านําอสูรวิญญาณแรกกําเนิดออกมา เทพธิดาจื่อเว่ยจะจัดการพวกมันได้ง่ายขึ้น”
ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงกดดัน
ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ฟางหยวนไม่มีความมั่นใจแม้แต่จะฆ่าฟงจิวเก้อที่อ่อนแอที่สุด เทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆเป็นตัวตนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะระดับแปด ไม่ว่าจะเป็นคนใดฟางหยวนก็ไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะ
ในความเป็นจริงแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถือว่าแข็งแกร่งมาก มันครอบครองสามพลังการต่อสู้ระดับแปด กล่าวได้ว่ามันเหนือกว่ามาตรฐานของกองกําลังใหญ่ของทั้งห้าภูมิภาคไปแล้ว
ในห้าภูมิภาค มีเพียงกองกําลังระดับสูงสุดเท่านั้นที่มีผู้อมตะระดับแปด พิจารณาจากภาคใต้ เหตุใดกองกําลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งเช่นตระกูลวถึงสามารถครองบังลังก์อันดับหนึ่งอยู่เป็นเวลานาน? มันเป็นเพราะพวกเขามีผู้อมตะระดับแปดสองคนอยู่ในยุคสมัยเดียวกันและมีอย่างน้อ ยหนึ่งคนที่จะอยู่ปกป้องฐานทัพของพวกเขาตลอดเวลา
แน่นอนว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้าม คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังมีพลังการต่อสู้ระดับแปดเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของนิกายหลางหยาเทียบเท่ากับกองกําลังใหญ่ของห้าภูมิภาคหรือกระทั่งเหนือกว่า
แต่เปรียบเทียบกับวังสวรรค์ นิกายหลางหยายังอ่อนแอเกินไป
มังกรหินแรกกําเนิดถูกเฉินอี้ปราบปรามอย่างสมบูรณ์ ยักษ์สวรรค์กําลังดิ้นรนแต่ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ฟงจิวเก้อจัดการค่ายกลวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนดัดแปลง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับฟางหยวนขณะที่ท่าไม้ตายอมตะเพลงแยกของฟงจิวเก้อรุนแรงถึงขั้นไร้สาระ แม้มันจะถูกตอบโต้โดยค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่ทั้งสองฝ่ายยังถือว่าเท่าเทียม
การต่อสู้ของฟางหยวนกับเทพธิดาจื่อเว่ยติดอยู่ในสภาวะชะงักงันโดยไม่มีพัฒนาการใดๆ
เขาปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้
เมื่อจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าล้มเหลวในการค้นหาวิญญาณสติปัญญาและกลับเข้าสู่สนามรบ สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง เว้นเพียงจิตวิญญาณจะเผยไพ่ตายใบใหม่ออกมา มิฉะนั้นพวกเขาจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีต้นกําเนิดมาจากบรรพชนผมยาว มันต้องมีไพ่ตายใบขึ้น!
“แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถพึ่งพาความเป็นไปได้นั้น”
“ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต!”
ฟางหยวนบินเข้าไปหาเทพธิดาจื่อเว่ยก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่เขาพึ่งสร้างขึ้น
เนื่องจากท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณก่อนหน้านี้ทําให้พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตได้เร็วกว่าปกติ
แต่ถึงกระนั้นความเร็วของฟางหยวนก็ยังไม่สามารถดักจับเทพธิดาจื่อเว่ย
ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติขณะที่ฟางหยวนเข้าใกล้นาง ดังนั้นนางจึงเร่งล่าถอยออกไป
สนามรบราชันภูตของฟางหยวนถูกสร้างขึ้นรวดมาก มันเร็วกว่าท่าไม้ตายเขตแดนอมตะส่วนใหญ่ที่มีอยู่บนโลกใบนี้
แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะจับกุมเทพธิดาจื่อเว่ย!
ข้าล้มเหลว!” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
เขาไม่สามารถจับกุมเทพธิดาจื่อเว่ยและยังสูญเสียพลังงานอมตะจํานวนมาก
“อย่างไรก็ตามความพยายามของข้าไม่ได้สูญเปล่าทั้งหมด ฟางหยวนมองฟงจิวเก้อที่ถูกกักขังไว้ในเขตแดนอมตะราชันภูตขณะที่เจตนาสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้น “เช่นนั้นข้าจะฆ่าเขาก่อน!”
หากเทพธิดาจื่อเว่ยไม่ล่าถอยออกไป ฟางหยวนจะสามารถจับกุมคนทั้งสอง
สนามรบราชันภูตเป็นทักษะใหม่ของฟางหยวน แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะต้องการคลี่คลายมัน นางก็ต้องใช้เวลาพอสมควร
หากฟางหยวนสามารถกักขังฟงจิวเก้อและเทพธิดาจื่อเว่ย ในสนามรบจะเหลือเพียงยักษ์สวรรค์ มังกรหินแรกกําเนิด เฉินอี้ และค่ายกลวิญญาณอมตะเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อฟงจิวเก้อถูกกักขัง ค่ายกลวิญญาณอมตะจึงได้รับอิสรภาพและมีโอกาสที่จะ ทําลายเรือนจําต้นไม้บรรพกาลเพื่อปลดปล่อยมังกรหินแรกกําเนิด
เฉินอี้สามารถจัดการยักษ์สวรรค์และมังกรหินแรกกําเนิดแต่ค่ายกลวิญญาณอมตะเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป เขาไม่สามารถจัดการมัน
หากฝ่ายของนิกายหลางหยาสามารถจัดการเฉินอี้ในช่วงเวลานี้ แม้จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจะกลับมา พวกเขาก็ยังสามารถรับมือกับนาง
แต่ตอนนี้ฟางหยวนสามารถดักจับเพียงฟงจิวเก้อ นั่นหมายความว่าค่ายกลวิญญาณอมตะต้องต่อสู้กับเทพธิดาจื่อเว่ย
อย่างไรก็ตามด้วยรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาจะไม่พ่ายแพ้โดยง่าย
ดังนั้นเป้าหมายของฟางหยวนในเวลานี้ก็คือฆ่าฟงจิวเก้อ!
และเขาต้องทําอย่างรวดเร็วที่สุด! ยิ่งเร็วยิ่งดี!
หลังจากสังหารฟงจิวเก้อ ฟางหยวนจะเก็บเขตแดนอมตะราชันภูตและปลดปล่อยมังกรหินแรกกําเนิดกับยักษ์สวรรค์ เมื่อเวลานั้นมาถึง แรงกดดันของพวกเขาจะลดน้อยลง
ด้วยเหตุนี้ฟงจิวเก้อจึงกลายเป็นจุดสําคัญในการฝ่าฟันวิกฤต
“ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ? ดูเหมือนมันจะมีส่วนผสมของเส้นทางแห่งการโจรกรรมรวมอยู่ด้วย!” เทพธิดาจื่อเว่ยมองไปข้างหน้าและเป็นครั้งแรกในการต่อสู้ ครั้งนี้ที่นางขมวดคิ้ว
เขตแดนอมตะเป็นมิติที่แยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ แต่เนื่องจากฟางหยวนใช้งานมันต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย นางจึงตระหนักถึงการคงอยู่ของมัน หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ นางจะไม่สามารถค้นพบการดํารงอยู่ของสนามรบราขันภูตที่เป็นเพียงจุดเล็กๆจุดหนึ่งเท่านั้น
แต่กระทั่งนางจะรู้ นางก็ยังไม่สามารถอนุมานมั่นได้อย่างง่ายดาย
นี่เป็นเพราะสนามรบราชันภูตไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แต่มันยังหยิบยืมพลังอํานาจมาจากท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี หลังจากทั้งหมดมันเป็นหนึ่งในท่าไม้ตายอมตะราชันภูตของฟางหยวน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1577 ฟางหยวนเผชิญหน้ากับฟงจิวเก้ออีกครั้ง
“เปรี้ยง!”
ค่ายกลวิญญาณอมตะส่งสายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาอเว่ยและเฉินอี้
ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ถูกปราบปรามโดยฟงจิวเก้อและเทพธิดาจื่อเว่ยมาตลอด ตอนนี้ฟงจิวเก้อถูกแยกออกไป มันจึงสามารถแสดงพลังอํานาจที่แท้จริงออกมาได้ในที่สุด
เฉินอี้รีบปกป้องตนเองอย่างยากลําบาก
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นโอกาส เขารีบบังคับยักษ์สวรรค์โจมตีมนุษย์พฤกษาและปลดปล่อยตนเองออกจากเรือนจําต้นไม้บรรพกาลทันที
เทพธิดาอเว่ยวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็วและเลือกที่จะโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะ ขณะเดียวกันนางก็อนุมานเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตไปด้วยโดยไม่สนใจสถานการณ์ของเฉินอี้
เทพธิดาจื่อเว่ยเลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
แม้สนามรบราชันภูตจะถูกแยกออกจากโลกภายนอก ฟงจิวเก้อกําลังเผชิญหน้ากับฟางหยวน แต่เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่ช่วยฟงจิวเก้อในเวลานี้ นางจะรอกระทั่งเขาตกอยู่ในสถานการณ์คับขันจริงๆ นางจึงจะเคลื่อนไหว
ฟงจิวเก้อมีความสําคัญสําหรับวังสวรรค์มากกว่าเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเพราะเขาเป็นผู้พิทักษ์เต่าของเทพอมตะแห่งความฝันฟงจินฮวง!
เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ต้องการให้มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้นกับเขา
อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องการสังหารฟงจิวเก้อทันที
ท่าไม้ตายอมตะราชันภูต!
ท่าไม้ตายอมตะบุตรแห่งภูต!
ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!
ฟางหยวนในร่างราชันภูตโจมตีอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับกองทัพบุตรแห่งภูตและระเบิด วิญญาณ สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับฟงจิวเก้อ ในช่วงเวลาสั้นๆ เลือดก็ไหลออกมาจากปากของเขาแล้ว
“ยอดเยี่ยม!” ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ท่าไม้ตายเฉพาะตัวที่มีประสิทธิภาพ
ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสง!
ในสถานการณ์คับขันเขาถูกบังคับให้ใช้ท่าไม้ตายทางผ่านแสงเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม แต่ในสนามรบราชันภูต วิธีการของเขาถูกจํากัดมามันแทบไม่มีประโยชน์
ในทางตรงข้าม พลังและความเร็วของบุตรแห่งภูตเพิ่มสูงขึ้นในสนามรบราชันภูตขณะที่พวกมันต่อสู้โดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย
ฟงจิวเก้อพยายามหลบอย่างเต็มที่แต่เขาไม่สามารถหลบหนีจากกองทัพบุตรแห่งภูต
ท่าไม้ตายอมตะนักรบเพลง!
ท่าไม้ตายอมตะเพลงหยกเขียว!
ท่าไม้ตายอมตะเพลงสวรรค์พิภพ!
ท่าไม้ตายอมตะเพลงยอมจํานน!
ท่าไม้ตายอมตะเพลงแยก!
นักรบเพลงสี่ตนปกป้องฟงจิวเก้อขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆและพยายามโจมตีฟางหยวน
การจับตัวกษัตริย์เป็นสิ่งสําคัญ นี่เป็นกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาและฉลาดที่สุด
ฟางหยวนในร่างราชันภูตบินไปรอบๆสนามรบราชันภูตอย่างคล่องแคล่วและว่องไว แม้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งทาสของเขาจะไม่สูงมากนัก แต่เขายังสามารถสั่งกองทัพบุตรแห่งภูตโจมตีฟงจิวเก้อได้อย่างเหมาะสม
หลังจากไม่นานการแสดงออกของฟงจิวเก้อก็กลายเป็นมืดครึ้ม
นักรบเพลงหยกเขียวทําให้บุตรแห่งภูตกลายเป็นรูปปั้นหยกเขียวแต่พวกมันไม่เกรงกลัวต่อความตาย นี่ทําให้พวกมันรับมือได้ยากกว่าสัตว์อสูรบรรพกาลทั่วไป
เพลงสวรรค์พิภพมีผลต่อสนามรบราชันภูตเพียงเล็กน้อย
เพลงแยกสามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่วิญญาณอมตะที่สนับสนุนเขตแดนอมตะราชันภูตอยู่ในมิติของว่างของฟางหยวนซึ่งแตกต่างจากค่ายกลวิญญาณอมตะหรือคฤหาสน์ วิญญาณอมตะที่วิญญาณอมตะอยู่ภายนอก เนื่องจากมิติช่องว่างของผู้อมตะตัดขาดกับโลกภาย นอกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเพลงแยกของฟงจิวเก้อจึงไม่ส่งผลกระทบวิญญาณอมตะที่อยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน นั่นทําให้มันกลายเป็นไร้ประโยชน์
เพลงยอมจํานนที่ฟงจิวเก้อคาดหวังมากที่สุดในการต่อสู้กับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งทาสและเคยต่อต้านฟางหยวนในอดีตกลับน่าผิดหวัง เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรแห่งภูต พวกมันไม่ได้รับผลกระทบจากการกดขี่ของเพลงนี้แม้แต่น้อย
“บุตรแห่งภูตเกิดจากวิธีดัดแปลงอสูรวิญญาณ เรียกอสูรวิญญาณและอื่นๆจากมรดก ที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ นอกจากนั้นมันยังมีท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีเป็นแกนกลาง แล้วเพลงยอมจํานนของเจ้าจะส่งผลกระทบต่อพวกมันได้อย่างไร?” ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ
ข้าต้องใช้เพลงลมมรณะหรือไม่?” ฟงจิวเก้อกัดฟันแน่น
พลังการต่อสู้ของฟางหยวนในปัจจุบันน่าตกใจมาก
แม้ฟงจิวเก้อจะเตรียมใจมาแล้ว แต่เมื่อเขาถูกกําหราบโดยฟางหยวนจริงๆ เขายังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
นานเท่าใดแล้วตั้งแต่การต่อสู้ครั้งก่อนหน้า?
ไม่นานมานี้ฟงจิวเก้อยังไล่ล่าฟางหยวนจากภาคใต้ไปยังทะเลทรายตะวันตกและทําให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก
“ความเร็วในการเติบโตของฟางหยวนน่ากลัวเกินไป คราวนี้แม้วังสวรรค์จะไม่ได้รับวิญญาณ สติปัญญา แต่พวกเราก็ต้องฆ่าเขา!” ฟงจิวเก้อลอบถอนหายใจก่อนจะปัดเป่าความคิดที่จะใช้เพลงลมมรณะทิ้งไป
หลังจากทั้งหมดเพลงลมมรณะอันตรายเกินไป
หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด คนแรกที่จะตายก็คือฟงจิวเก้อ
เว้นเพียงฟงจิวเก้อจะไม่มีทางเลือก เขาจึงจะใช้เพลงลมมรณะ แต่ในการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ มันเสี่ยงเกินไปที่จะใช้ท่าไม้ตายดังกล่าว
“นอกจากนั้นเพลงลมมรณะของข้าก็ถูกเปิดเผยไปแล้ว คนเจ้าเล่ห์เช่นฟางหยวนจะไม่เตรียมวิธีรับมือมันได้อย่างไร?
ฟงจิวเก้อค่อนข้างระวังเกี่ยวกับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน
“เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้ติดอยู่ในเขตแดนอมตะ เรายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ข้าต้องรอให้นางอนุมานและทําลายเขตแดนอมตะนี้จากภายนอก นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด
หลังจากทั้งหมดเขตแดนอมตะนี้มีกลิ่นอายของเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและเส้นทางแห่งการโจรกรรมแต่ไม่มีกลิ่นอายของเส้นทางแห่งกาลเวลา มันไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความเร็วของเวลา
ฟงจิวเก้อพยายามหลบเลี้ยงขณะต่อสู้ เขาไม่อนุญาตให้บุตรแห่งภูตล้อมกรอบเขาและตัดสินใจรอกําลังเสริมจากเทพธิดาจื่อเว่ย
ฟางหยวนต้องการยุติการต่อสู้อย่างรวดเร็วที่สุด หากฟงจิวเก้อต่อสู้กับเขาโดยตรง เขาจะมีความสุขมาก
แต่ฟงจิวเก้อจะทําเรื่องโง่เขลาเช่นนั้นได้อย่างไร?
เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจนและสามารถเลือกกลยุทธ์ที่ดีที่สุด นั่นทําให้ฟางหยวนต้องถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
“น่าเสียดายแม้ข้าจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำระดับแปด แต่ข้ายังไม่สามารถผสานมันเข้ากับท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต”
สนามรบราชันภูตไม่ใช่ท่าไม้ตายที่ใช้ออกมาจากร่างทารกอมตะโดยตรง นั่นทําให้มันมีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋า
ฟางหยวนต้องควบคุมความสมดุลระหว่างเส้นทางแห่งการโจรกรรมและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ หากเพิ่มเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไป มันจะยากเกินไปสําหรับเขาในปัจจุบัน
ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสามารถกําหนดความเร็วของเวลาในเขตแดน อย่างไรก็ตามสนามรบราชันภูตไม่สามารถทําสิ่งนี้
ในความเป็นจริงกระทั่งฟางหยวนจะพยายามใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือเส้นทางสายอื่นที่ไม่ใช่เส้นทางแห่งการโจรกรรมและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ พวกมันก็จะพบปัญหาความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋าจากการคงอยู่ของเขตแดนอมตะเช่นกัน
ท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า!
ฟังจิวเก้อมีท่าไม้ตายมากมาย นั่นทําให้บุตรแห่งภูตไม่สามารถเข้าประชิดตัวเขา เมื่อนักรบเพลงถูกทําลาย เขาจะสร้างนักรบเพลงขึ้นใหม่ทันที
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสําหรับฟางหยวนคือท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงที่ทําให้ฟงจิวเก้อสามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ได้ในพริบตา แม้ท่าไม้ตายนี้จะถูกจํากัดประสิทธิภาพในสนามรบราชันภูต แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนก็ยังช้าเกินกว่าที่จะโจมตีฟงจิวเก้อ
แม้เพลงทางผ่านแสงจะมีเวลาจํากัด แต่ฟางหยวนก็ไม่สามารถรอคอย เขาจําเป็นต้องจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็วที่สุด เขาต้องฆ่าฟงจิวเก้อโดยเร็วที่สุดเพื่อออกไปช่วยการต่อสู้ด้านนอก
ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย!
ฟางหยวนเปลี่ยนร่างจากราชันภูตเป็นบุตรแห่งภูตและแฝงตัวเข้าไปในกองทัพ
หัวใจของฟงจิวเก้อเต้นแรง เขาต้องเคลื่อนย้ายสถานที่บ่อยขึ้น
ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในเงามืดขณะที่ฟงจิวเก้ออยู่ในที่แจ้ง หลังจากไม่นานฟางหยวนก็พบโอกาส
ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!
มือปีศาจปล้นวิญญาณเคลื่อนที่ผ่านนักรบเพลงและพุ่งเข้าไปหาฟงจิวเก้อโดยตรง
ฟงจิวเก้อยังใช้ท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามือปีศาจปล้นวิญญาณพุ่ง เข้าไปในมิติช่องว่างของเขาและคว้าวิญญาณอมตะของเขาจากไปแล้ว
“โอ้ไม่ วิญญาณท่องแดนอมตะ!” ดวงตาของฟงจิวเก้อเบิกกว้างด้วยความตกใจกับการจู่โจมที่ไม่คาดคิด
เขารีบหันหลังกลับและระเบิดคลื่นเสียงออกไปเพื่อบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัวออกมา
ฟงจิวเก้อกําลังจะโจมตีมือปีศาจปล้นวิญญาณ แต่ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี บุตรแห่งภูตจํานวนมากเสียสละตนเองเพื่อปกป้องมือปีศาจปล้นวิญญาณและเปิดทางให้มันบินเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน
“ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าจะได้วิญญาณท่องแดนอมตะกลับมา!” ฟางหยวนถอนหายใจขณะที่เขามองวิญญาณอมตะที่มือปีศาจปล้นวิญญาณปล้นชิงมา
“โอ้ มันถูกเลื่อนเป็นระดับเจ็ดแล้วจริงๆ นี่คือสิ่งที่ข้าเคยอนุมานมาก่อนหน้านี้” ฟางหยวนลอบมีความสุข
แม้เขาจะมีค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศซึ่งสามารถใช้แทนวิญญาณท่องแดนอมตะได้ในระดับหนึ่ง แต่มันยังมีข้อบกพร่องมากมาย มันต้องใช้ผู้อมตะสี่คนในการกระตุ้นใช้งาน นอกจากนี้ระยะทางที่มันสามารถขนส่งยังสั้นกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก
วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดยังอยู่ในรูปลักษณ์เดียวกับระดับหก
ตอนนี้มันกําลังดิ้นรนอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณแต่มันก็ไม่สามารถขยับเขยื้อน
มือปีศาจปล้นวิญญาณบินลงไปยังยอดเขาผนึกสวรรค์ในภาคใต้น้อยที่มีค่ายกลวิญญาณอมตะจัดตั้งอยู่
เมื่อมือปีศาจปล้นวิญญาณมาถึง มันก็ปล่อยวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ
ค่ายกลวิญญาณนี้ใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลางได้แก่วิญญาณรักตัวเองและวิญญาณความใคร่ พลังอํานาจของมันคือการช่วยมือปีศาจปล้นวิญญาณปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาอย่างรวดเร็ว
แม้ฟางหยวนจะสามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนได้เช่นกัน แต่เขาต้องการเก็บมันไว้ใช้สร้างเกราะหวนคืนในการต่อสู้
ฟางหยวนเคยประสบความสําเร็จในการใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะของคนอื่นๆมาแล้ว
แผนเดิมของเขาคือการผสานวิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่ไว้ในมือปีศาจปล้นวิญญาณเพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาทันที
สิ่งนี้อาจดูเหมือนไม่จําเป็น แต่นั่นไม่เป็นความจริง
หากฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณที่ขโมยมาได้ทันที มือปีศาจปล้นวิญญาณก็ไม่จําเป็นต้องผนึกวิญญาณอมตะและนํามันกลับมาหาฟางหยวน มันจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากนําวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ภูเขาผนึกสวรรค์ มันก็ถูกผนึกและปรับแต่งทันที
ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้ออีกครั้ง
ตอนนี้ฟงจิวเก้อตื่นตัวมาก เขาแสดงออกด้วยความเคร่งขรึม ความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อถูกซ่อนไว้ในดวงตาของเขา
“ฟางหยวนมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่นจริงๆ แม้มันจะอยู่ในมิติช่องว่างก็ยังไม่รอด เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”
สิ่งนี้ทําให้ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง
คลื่นเสียงที่เขาเคยใช้บังคับมือปีศาจปล้นวิญญาณให้เผยตัวถูกใช้งานอีกครั้งเพื่อเฝ้าระวัง
ท่านี้น่ากลัวเกินไป หากวิญญาณอมตะที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้เป็นวิญญาณอมตะหลักของท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าของข้า ท่าไม้ตายของข้าจะล้มเหลว มันจะทําให้ข้าได้รับผลกระทบย้อนกลับและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที!”
ฟงจิวเก้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยแต่ยังมีความกลัวซ่อนอยู่
ฟางหยวนรู้สึกเสียดายแต่มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเลือกเป้าหมาย หากเขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของฟงจิวเก้อเช่นเมื่อครั้งที่เขาต่อสู้กับเมิ้งตู๋ ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและสามารถถูกสังหารได้อย่างรวดเร็ว
แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะครั้งแรกแต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อระวังตัวมากขึ้นแล้ว เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงเพื่อย้ายตําแหน่งอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมาตลอดเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย สําหรับท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า ฟงจิวเก้อหยุดใช้มันแล้ว เขามุ่งเน้นไปที่การหลบหนีเท่านั้น
หลังจากร่างจริงของฟางหยวนถูกเปิดเผย เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยอีกครั้งเพื่อลอบเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฟงจิวเก้อ
สิ่งนี้สร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อฟังจิวเก้อเป็นอย่างมาก
แต่ฟางหยวนก็ไม่รู้สึกดีเช่นกัน
ฟงจิวเก้อไหลลื่นเกินไป เขายังเคลื่อนที่ไปรอบๆ และไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนสามารถโจมตี
“ดูเหมือนข้าต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการปกปิดมือปีศาจปล้นวิญญาณ” ฟงจิวเก้อมีวิธีบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัว สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน แต่มันก็ทําให้เขานึกไปถึงมือปีศาจไร้ลักษณ์
เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีท่าไม้ตายสองท่าในการปล้นวิญญาณ เขาสามารถสลับระหว่างท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณกับท่าไม้ตายมือปีศาจไร้ลักษณ์ เขาสามารถเปลี่ยนมือปีศาจปล้นวิญญาณให้กลายเป็นมือภูตผีที่ไร้ตัวตน ด้วยวิธีนี้คลื่นเสียงของฟงจิวเก้อจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจไร้ลักาณ์ที่ปราศจากกายหยาบยังมีความรวดเร็วเหนือกว่า เมื่อเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใช้สิ่งนี้ คู่ต่อสู้ของเขาสามารถทําได้เพียงมองวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมยไปทีละดวงเท่านั้น พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึกช่วยไม่ได้
แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนเป็นเพียงร่องรอยแห่งความรุ่งโรจน์เล็กๆของเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมันก็ยังทําให้ฟงจิวเก้อผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกกระวนกระวายใจและหลบหนีด้วยความวิตกกังวล
ฟางหยวนบังคับฟงจิวเก้อให้เคลื่อนย้ายสถานที่ไปรอบๆ แต่เขาไม่รู้สึกเย่อหยิ่งกับความสําเร็จ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า เพื่อคว้าความหวังที่จะได้รับชัยชนะ มีเพียงต้องสังหารฟงจิวเก้อและออกไปช่วยแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างเร่งด่วนที่สุดเท่านั้น
แต่ฟังจิวเก้อไม่ให้โอกาสฟางหยวน เขาเคยเป็นปีศาจอมตะที่สร้างความปั่นป่วนให้กับสิบนิกายโบราณของภาคกลาง เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปขีดจํากัดด้านเวลาของท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงก็มาถึง
“โอกาสมาแล้ว!” ฟางหยวนรู้สึกทั้งกังวลและมีความสุข เขากังวลเพราะเขาเสียเวลาไปมากแต่ฟงจิวเก้อยังมีชีวิตอยู่ เขามีความสุขเพราะข้อบกพร่องของฟงจิวเก้อปรากฏขึ้นในที่สุด
หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง
ในอดีตการโจมตีที่รุนแรงของเขาทําให้ศัตรูหมดหนทาง หลังจากที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ผู้อมตะระดับเจ็ดไล่ล่าชีวิตเขา
ตอนนี้เมื่อเขาได้สัมผัสประสบการณ์นี้จากฟางหยวน ในที่สุดเขาก็จดจําจุดอ่อนของตนเองได้ นั่นคือวิธีการเคลื่อนไหว
เมื่อท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงไม่สามารถใช้งาน ความเร็วของฟงจิวเก้อจะลดลงอย่างมาก ในไม่ช้าเขาจะถูกกองทัพบุตรแห่งภูตปิดล้อมและไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป
ฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ปกป้องตัวเอง แม้ท่าไม้ตายอมตะของเขาจะทรงพลังแต่กองทัพบุตรแห่งภูตมีมากเกินไปและยังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง
ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบ มือปีศาจปล้นวิญญาณพร้อมโจมตีทุกเมื่อที่ฟงจิวเก้อเผยช่องโหว่
แต่ในเวลานี้สนามรบราชันภูตกลับเกิดการสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน
“โอ้ ไม่!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป
“ท่านหญิงจื่อเว่ยต้องเป็นคนทําสิ่งนี้” ฟงจิวเก้อมีความสุขมาก
สนามรบราชันภูตสั่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของเทพธิดาจื่อเว่ยมีประสิทธิภาพสูงมาก
“เวลาสั้นๆแต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตของข้า ด้วยความเร็วนี้ สนามรบราชันภูตไม่สามารถอยู่ได้นานเกินสามสิบลมหายใจ ข้าต้องได้รับชัยชนะเดี๋ยวนี้!”
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความโหดเหี้ยม
ข้าเก็บสิ่งนี้ไว้สําหรับเทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ข้าจะใช้มันกับเจ้าเป็นคนแรก!” ฟางหยวนไม่มีเวลาแล้ว หากสนามรบราชันภูตถูกทําลาย เขาจะเสียโอกาสสังหารฟงจิวเก้อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ไพ่ตายใบนี้
ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!
มันยังเป็นการระเบิดวิญญาณ อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้จุดชนวนบุตรแห่งภูตบรรพกาลแต่เป็นบุตรแห่งภูตแรกกําเนิด!
ฟางหยวนมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสองตัว ก่อนหน้านี้เขาเปลี่ยนอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสองตัวให้เป็นบุตรแห่งภูตเช่นกัน
นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนเก็บเอาไว้เป็นไพ่ตาย
การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตบรรพกาลมีพลังทําลายล้างระดับเจ็ดขณะที่การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดมีพลังทําลายล้างระดับแปด
แม้ฟางหยวนจะยังไม่ประสบความสําเร็จในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป แต่เขายังมีวิธีการโจมตีระดับแปดซ่อนอยู่!
“บึม!”
บุตรแห่งภูตแรกกําเนิดระเบิดวิญญาณ!
ฟงจิวเก้อถูกโจมตีโดยตรง
กระเด็น!
ในบางพื้นที่ของภาคกลาง ฟงจินฮวงตกอยู่ในความงุนงง ถ้วยชาในมือของนางตกลงบนพื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ
“หือ?” ราชันมังกรส่งสายตาถาม
ฟงจินฮวงจับหน้าอกของนางด้วยความไม่แน่ใจ เมื่อครู่นางรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหายไปอย่างกะทันหัน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1579 เกราะโชคชะตา
“เขายังไม่ตายงั้นหรือ? มันคือวิญญาณอมตะชนิดใด?” ฟางหยวนมองฟงจิวเก้อที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย
เลือดไหลออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ดของฟงจิวเก้อ แต่เกราะแสงบางๆที่ปกคลุมอยู่ร่างกายของเขาช่วยชีวิตเขาเอาไว้
“วิญญาณเกราะโชคชะตาระดับแปด” ฟงจิวเก้อกระอักเลือดขณะกล่าว
การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นมืดมน
นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเคยเห็นเกราะโชคชะตา แม้ฟงจิวเก้อจะเคยใช้มันในสายธารแห่งกาลเวลาก่อนหน้านี้ แต่ฟางหยวนไม่ได้อยู่กับเขาในเวลานั้น
ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงไม่ทราบถึงการมีอยู่ของวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาระดับแปด
นี่ทําให้เขาคํานวณผิด
รากฐานของวังสวรรค์….” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น แต่ในวินาทีต่อมา ความมุ่งมั่นของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น เขามองฟงจิวเก้อด้วยสายตาคุกคาม “เกราะโชคชะตาสามารถปกป้องเจ้าได้หนึ่งครั้ง แต่มันจะช่วยเจ้าได้อีกครั้งหรือไม่?”
ฟางหยวนยังมีบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดอยู่อีกหนึ่งตน
ฟงจิวเก้อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสผ่นเลือดออกมา “แค่ก แค่ก เจ้าสามารถทดลอง ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่าจุดเด่นของเกราะโชคชะตาคือการป้องกัน พลังของมันจะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง แต่ผลลัพธ์ของมันถูกกําหนดโดยชะตากรรม หากข้ายังไม่ถึงที่ตาย เกราะโชคชะตาก็สามารถปกป้องข้าจากการโจมตีทุกชนิด หากข้าถูกลิขิตให้ตาย การป้องกันของเกราะโชคชะตาจะอ่อนแอราวกับกระดาษ”
“วิญญาณชะตากรรม!” ฟางหยวนขมวดคิ้วแน่น
“ถูกต้อง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณชะตากรรม” ฟงจิวเก้อพยักหน้าและถอนหายใจ
หากวิญญาณชะตากรรมถูกทําลาย โชคชะตาจะไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอีกต่อไป พลังอํานาจของเกราะโชคชะตาจะลดลงอย่างมาก แต่ตอนนี้วิญญาณชะตากรรมยังไม่ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ โชคชะตายังผูกมัดผู้คนบนโลกใบนี้เอาไว้ นั่นทําให้เกราะโชคชะตาสามารถปลดปล่อยพลังอํานาจที่เกินกว่าระดับแปดออกมา
“เกราะหวนคืนของข้าเหมือนกระดองเต่าที่แข็งแกร่ง แต่เกราะโชคชะตายิ่งทรงพลังกว่า” ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้ขณะที่การโจมตีของเขายิ่งรุนแรงมากขึ้น
ฟงจิวเก้อใช้เกราะโชคชะตาโดยไม่สนค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามในการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาครั้งนี้ เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้สนับสนุนด้านพลังงานอมตะของฟงจิวเก้อ
“บึม!”
ทันใดนั้นการระเบิดที่รุนแรงก็ปะทุขึ้นขณะที่ละอองดาวสีม่วงแทรกซึมเข้ามาในสนามรบราชันภูตและทําให้เกิดรอยแตกร้าวกระทั่งเผยให้เห็นภูมิทัศน์ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
“รวดเร็วนัก!” ความเร็วในการอนุมานสนามรบราชันภูตของเทพธิดาจื่อเว่ยเหนือกว่าความคาดหมายของฟางหยวน
เลือดไหลออกมาจากจมูกและปากของเขาขณะที่สนามรบราชันภูตเริ่มพังทลายลง
ในความเป็นจริงเทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้มอบวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาให้กับฟงจิวเก้อเพื่อให้มันปกป้องเขาเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อมันถูกกระตุ้นใช้งาน วังสวรรค์จะสามารถสัมผัสถึงมัน ย้อนกลับไปในสายธารแห่งกาลเวลา หงซื้อสามารถค้นพบฟงจิวเก้อเพราะเบาะแสจากเกราะโชคชะตา
เพื่อคลี่คลายสนามรบราชันภูต เกราะโชคชะตาเป็นสิ่งสําคัญที่ทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตได้ในระยะเวลาสั้นๆ
โดยปกติแล้วการอนุมานทางปัญญาจะยากลําบากที่สุดในช่วงเริ่มต้น ผู้อมตะทุกคนบนเส้นทางแห่งปัญญาไม่สามารถอนุมานเกี่ยวกับฟางหยวนตราบเท่าที่วิธีป้องกันของเขาไม่เกิดความเสียหาย กระทั่งหนึ่งในสามผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ของทะเลตะวันออกฮัวอันก็ไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเกี่ยวกับฟางหยวน
เมื่อเทพธิดาจื่อเว่ยสามารถเปิดช่องโหว่ เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย
ละอองดาวสีม่วงแทรกซึมเข้าไปในสนามรบราชันภูตมากขึ้นเรื่อยๆ
“บึม!”
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่น สนามรบราชันภูตแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฟางหยวนพ่นเลือดคําโตออกมาขณะที่วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากที่อยู่ในมิติช่องว่างของเขาเสียชีวิต กระทั่งวิญญาณอมตะยังได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง
ฟางหยวนกลับสู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาในร่างราชันภูต
“ระวัง เขามีวิธีขโมยวิญญาณอมตะจากมิติช่องว่าง!” ฟงจิวเกือบินกลับไปหาเทพธิดาจื่อเว่ย ขณะเดียวกันเขาก็แจ้งเตือนสหายร่วมรบของเขา
“เป็นเจ้า!” เฉินอี้เป็นคนแรกที่เปิดปากกล่าว เขาตะโกนด้วยความโกรธและดวงตาที่เบิกกว้าง
เขาอนุมานและสามารถเชื่อมโยงฟางหยวนกับซวนปู้จินที่ขโมยวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณจากชิงโจวที่ทะเลทรายผีเขียว
หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
เขาไม่สามารถสังหารฟงจิวเก้อเพราะเกราะโชคชะตา สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็คือข้อมูลเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะราชันภูตและวิธีขโมยวิญญาณอมตะของเขาถูกเปิดเผย
นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนพยายามหลีกเลี่ยงตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น เขาซ่อนไพ่ใบนี้เอาไว้โดยหวังว่าจะสามารถใช้มันสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งด้วยการพึ่งพาสนามรบราชันภูตเพื่อเก็บความลับ แต่ความปรารถนาของเขาไม่ได้รับการตอบสนอง ฟางหยวนไม่สามารถสังหารผู้ใดขณะที่ไพ่ตายของเขาถูกเปิดเผย
“ฟางหยวน เจ้าเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายอย่างแท้จริง หลิวกวนซื่อคือเจ้า ซวนปู้จินก็คือเจ้าเช่นกัน!” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายเย็นเยียบ นางเข้าใจแผนการของฟางหยวนทันที “เจ้าต้องการควบคุมทะเลทรายผีเขียวเพื่อรวบรวมแก่นแท้อสูรวิญญาณและใช้ภูเขาตงฮันกับหุบเขาเหล่าโปบ่มเพาะจิตวิญญาณ น่าเสียดายที่ภูเขาตงฮันถูกทําลาย คือ ไม่ เจ้ามีวิธีฟื้นฟูภูเขาตงฮัน!”
ฟางหยวนไม่ได้กล่าวสิ่งใด แต่เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ นางสามารถเปิดเผยความลับมากมายของฟางหยวนได้ทันที
ในความเป็นจริงเทพธิดาจื่อเว่ยก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
“ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวนจะมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่น!”
“โชคดีที่มือปีศาจปล้นวิญญาณอ่อนแอกว่ามือปีศาจไร้ลักษณ์ มันไม่สามารถเลือกวิญญาณที่จะขโมย มิฉะนั้นหากมันขโมยวิญญาณที่สําคัญของผู้อมตะ การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะเผชิญหน้ากับฟันเฟือนและอาจถือแก่ชีวิต มันอาจเป็นปัญหาหากเขาไม่สามารถยื่อเวลาจนกว่าข้าจะสามารถถอดรหัสและทําลายท่าไม้ตายเขตแดนอมตะของฟางหยวน”
“อย่างไรก็ตาม เทพธิดาจื่อเว่ยมองฟางหยวนด้วยสายตาน่ากลัว แม้เขาจะล้มเหลวในการสังหารฟงจิวเก้อ แต่ปีศาจตนนี้สามารถขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะ นั่นหมายความว่าโชคของเขาแข็งแกร่งมาก!”
วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหายจากการโจมตีของเทพปีศาจบัวแดง แม้มันจะไม่ถูกทําลาย แต่มันก็อ่อนแอลงมาก ต่อมาเทพอมตะตะวันเดือดก็ลุกขึ้นและสร้างเส้นทางแห่งโชค
ตราบเท่าที่วิญญาณชะตากรรมไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ เส้นทางแห่งโชคจะยังแข็งแกร่งต่อไป ระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของฟางหยวนไม่สูงนัก เขาไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังบนเส้นทางแห่งโชค แต่โชคก็ช่วยเหลือเขามาตลอด
“บึม บึม บึม…”
เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอีกครั้ง
ฟงจิวเก้อสูญเสียพลังการต่อสู้ไปมาก ตอนนี้เขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเทพธิดาจื่อเว่ย ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากร่วมมือกับยักษ์สวรรค์และค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อต่อต้านเฉินอี้กับเทพธิดาจื่อเว่ย
เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงพลังอํานาจของผู้อมตะระดับแปดออกมาในเวลานี้ ท่าไม้ตายของนางกระทั่งเหนือกว่าเฉินอี้
เฉินอี้มีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสรรค์ขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยมีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะกลุ่มดาว ไม่ใช่ว่ามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ต้อยกว่ามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะกลุ่มดาว แต่มันเป็นเพราะพลังอํานาจของท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญาส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่พลังจิตของผู้ใช้งาน
ฟางหยวนมีบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดอีกหนึ่งตน ราชันภูต และมือปีศาจปล้นวิญญาณ แต่พวกมันถูกเปิดเผยแล้ว เทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆจะสามารถตอบโต้
พวกเขาไม่ได้ลดความระวังตัวลง พวกเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะปลดปล่อยการระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง หากมือปีศาจปล้นวิญญาณเข้าไปใกล้ แรงระเบิดจะบังคับให้มันล่าถอยออกมาและไม่สามารถขโมยวิญญาณ
วิธีตรวจสอบของเฉินอี้และเทพธิดาจื่อเว่ยค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ได้ใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณ
ยิ่งเขาใช้มันมากเท่าใด ข้อบกพร่องก็จะยิ่งเปิดเผยออกมามากเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย หากเบาะแสบางอย่างรั่วไหล นางจะสามารถอนุมานวิธีตอบโต้ได้ทันที
“เปรี้ยง!”
ด้วยเสียงฟ้าผ่า จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าปรากฏตัวขึ้นในที่สุด นางกลับมาแล้ว!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น