เทพปีศาจหวนคืน 1560-1561

 เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1560 ถึงปรมาจารย์สูงสุด


 


สงครามขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้


 


หากฟางหยวนเอาชนะผู้อมตะระดับหกหรือผู้อมตะระดับเจ็ด นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก


 


แต่เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงเช่นจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า มันจึงกลายเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง


 


ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายดาย แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างชื่อเสียงให้เขาในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่งและขึ้นนําฟงจิวเก้อ


 


หลังการต่อสู้ครั้งนี้ชื่อของฟางหยวนก็ยิ่งโด่งดังมากขึ้น


 


กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็เริ่มให้ความสนใจสัตว์ประหลาดตัวนี้


 


แน่นอนว่านี่เป็นแผนการของฟางหยวน


 


แม้มันจะเป็นความพ่ายแพ้ของฟางหยวนและถูกบังคับให้ล่าถอย เขาก็ยังได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้


 


ชนะหรือแพ้ไม่สําคัญ มีเพียงความสูญเสียและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการต่อสู้เท่านั้นที่มีคุณค่า


 


แม้ฟางหยวนจะแพ้ แต่เขาก็ได้รับกําไรมหาศาล คุณค่าของซี่โครงทั้งสามไม่ได้อยู่ที่ตัวมันเองแต่เป็นความหมายที่ซ่อนอยู่


 


ฟางหยวนใช้การต่อสู้ครั้งนี้สั่นคลอนโลกของผู้อมตะทั้งหมดรวมถึงการแสดงออกที่ซับซ้อนของซูตู๋ ความไม่พอใจของวูหยง และการถอนหายใจของลั่วเว่ยหยิน


 


เมื่อฟางหยวนกลับมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขารู้สึกได้ถึงทัศนคติที่ไม่เหมือนเดิมจากผู้คนที่นี่


 


ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดรวมถึงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามแสดงออกด้วยทัศนคติที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง


 


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่วังสวรรค์กําลังหาโอกาสบุกโจมตีพวกเขาอีกครั้ง ดังนั้นฟางหยวนจึงกลายเป็นเสาหลักและสิ่งค้ำจุนจิตใจของพวกเขา


 


ฟางหยวนโจมตีผู้อมตะระดับแปดและยังเป็นผู้เชี่ยวชาญท่ามกลางผู้อมตะระดับแปดเช่น จักรพรรดินีอสูรสายฟ้า


 


พลังการต่อสู้ของเขาปรากฏต่อหน้าทุกคน แล้วตอนนี้ผู้ใดจะสนใจการบ่มเพาะระดับเจ็ดของเขา?


 


ด้วยเหตุนี้เมื่อฟางหยวนกลับมาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา คนเหล่านี้จึงออกมาต้อนรับเขาอย่างกระตือรือร้น


 


อย่างไรก็ตามทัศนคติของฟางหยวนค่อนข้างเย็นชา เขากล่าวเพียงไม่กี่คํากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ปิงหยวน และคนอื่นๆ ขณะที่เขาพยักหน้าให้เซี่ยเอ๋อ นี่ทําให้นางต้องก้มศีรษะลงด้วยความเขินอาย ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะคนอื่นๆเผยรอยยิ้มด้วยความยินดีเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้


 


ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เสนอให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับฟางหยวนแต่ฟางหยวนปฏิเสธโดยไม่ลังเล


 


“สถานการณ์ในเวลานี้ค่อนข้างอันตราย สิ่งสําคัญในตอนนี้คือการใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อก้าวข้ามภัยอันตรายในครั้งนี้” ฟางหยวนกล่าวอย่างเฉยเมยแต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย


 


สถานะของฟางหยวนเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์


 


ผู้อมตะเหล่านี้ปฏิบัติกับเขาในฐานะผู้อมตะระดับแปด ตอนนี้พวกเขาต้องก้มศีรษะลงและแสดงทัศนคติของผู้น้อย


 


ด้านหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่งของฟางหยวนที่สามารถโจมตีจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า ในทางกลับกันมีศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากฟางหยวน


 


“ทุกคนกลับไปได้ ข้าต้องคุยกับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเป็นการส่วนตัว” ฟางหยวนโบกมือให้กลุ่มผู้อมตะกลับไปโดยปราศจากความสุภาพ


 


จากนั้นฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ข้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยา นอกจากนั้นข้ายังเป็นสมาชิกพันธมิตรสีเผ่าพันธุ์”


 


คํากล่าวเหล่านี้ทําให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกดีมาก นี่ทําให้ความอึดอัดใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่ต้องส่งมอบความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมลดลงอย่างมาก


 


ผู้อมตะต่างมีไหวพริบและเร่งจากไป


 


จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคว้าแขนของฟางหยวนและหายไปจากจุดนั้นก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในเมืองเมฆาที่หนึ่ง


 


“ด้วยวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าที่ทําให้สามารถมองเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า เราพบว่าพวกเขาได้เตรียมการบางอย่างไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจริงๆ เราต้องกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อันตรายเหล่านั้นเป็นอันดับแรกหากเราต้องการย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยความกังวล


 


ฟางหยวนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของท่าน การปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ควรเป็นความสามารถพิ เศษของท่านมิใช่หรือ?”


 


จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “วังสวรรค์ก็คือวังสวรรค์ วิธีการของพวกเขาผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง ข้าใช้วิธีเกือบทั้งหมดแล้วแต่ยังไม่สามารถทําสิ่งใดกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้น”


 


ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายแหลมคม


 


วังสวรรค์เตรียมตัวมาดีจริงๆ เนื่องจากความพร้อมของพวกเขา พวกเขาจึงไม่กังวลว่าจะถูกค้นพบและไม่กลัวว่ามันจะถูกทําลาย บางทีเทพธิดาจื่อเว่ยอาจพิจารณาถึงทักษะของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไว้แล้ว


 


“ข้าสงสัยว่าท่าไม้ตายอมตะชําระล้างตัวเองของข้าจะมีผลหรือไม่?” ฟางหยวนคิดและค่อนข้างมั่นใจกับวิธีนี้หลังจากที่เขาสามารถกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลของเทพธิดาจื่อเว่ย


 


แต่เขายังไม่ต้องการทดลองในเวลานี้


 


เขากล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ในกรณีนี้โปรดนําความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมให้ข้า เมื่อข้ากลายเป็นถึงปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ข้าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน”


 


การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนไปทันที ความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเป็นสมบัติล้ำค่าของเขา เมื่อเขาต้องนํามันออกมามอบให้ฟางหยวน เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกไม่สบายใจและไม่เต็มใจ


 


อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาทําข้อตกลงกับฟางหยวนไว้แล้วและด้วยสถานการณ์ที่เลวร้าย แม้เขาจะไม่เต็มใจ เขาก็ทําได้เพียงพยักหน้าเท่านั้น


 


หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ได้เห็นความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว


 


ความหมายที่แท้จริงคือเจตจํานงรูปแบบหนึ่ง


 


นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเคยเห็นความหมายที่แท้จริงที่สามารถแสดงรูปลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน ความหมายที่แท้จริงนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของบรรพชนผมยาวที่นั่งไขว้ขาปิดเปลือกตา ร่างกายของเขาส่องประกายระยิบระยับเหมือนเพชร


 


เจตจํานงทั่วไปสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวของพวกมันเองโดยการใช้จ่ายความคิด แต่ความหมายที่แท้จริงนี้สงบนิ่งราวกับรูปปั้น


 


อย่างไรก็ตามนี่เป็นเหตุผลที่ความหมายที่แท้จริงนี้สามารถคงอยู่มาอย่างยาวนาน


 


“รับไป” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนก่อนจะถอนหาย ใจกล่าวกับฟางหยวน


 


ฟางหยวนพยักหน้าและก้าวไปข้างหน้า ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อความหมายที่ แท้จริงของบรรพชนผมยาวพุ่งเข้าสู่จิตใจของเขา


 


แสงระยิบระยับส่องประกายขึ้นในใจของเขาทันที


 


ฟางหยวนเร่งนั่งลงและปิดเปลือกตาทําสมาธิ


 


เขาเริ่มใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อดูดซับความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวอย่างต่อเนื่อง


 


ทุกอย่างดําเนินไปอย่างราบรื่น ฟางหยวนใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเพื่อซึมซับความหมายที่ แท้จริงของบรรพชนผมยาว


 


นี่คือความเข้าใจทั้งหมดของบรรพชนผมยาวที่มีต่อเส้นทางแห่งการหลอมรวม ตอนนี้มันกลายเป็นรากฐานของฟางหยวนแล้ว!


 


ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนทะยานขึ้นสู่ระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดในครั้งเดียว!


 


“นี่คือการทะยานขึ้นสู่สวรรค์ในขั้นตอนเดียว! กระทั่งในสงครามห้าภูมิภาคที่อาณาจักรแห่งความฝันปรากฏขึ้นมากมาย มันก็ยังไม่สามารถมอบความสําเร็จระดับนี้ให้ข้า!” กระทั่งฟางหยวนก็ยังรู้สึกตื่นเต้น กําไรของเขามหาศาลเกินไปจริงๆ


 


แม้ฟางหยวนจะดูดซับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทั้งหมดแล้ว แต่เขายังนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อนและลิ้มรสความหอมหวานของมันอย่างเต็มที่


 


เส้นทางแห่งการหลอมรวม!


 


นี่เป็นเส้นทางที่พิเศษมาก


 


ผู้อมตะที่บ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดในการหลอมรวมวิญญาณ


 


วิธีการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณมีสามองค์ประกอบ เลี้ยงดู ใช้งาน และหลอมรวมวิญญาณ


 


ตอนนี้ในแง่ของการหลอมรวมวิญญาณ ฟางหยวนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ไปแล้ว ท่ามกลางผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคอาจไม่มีผู้ใดที่สามารถแข่งขันกับเขา


 


“อย่างไรก็ตามระดับความสําเร็จอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ สิ่งที่ข้าขาดตอนนี้คือประสบการณ์ในการหลอมรวม วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม และท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม” ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน


 


“แต่ตราบเท่าที่ข้าฝึกฝนต่อไป ความก้าวหน้าของข้าจะรวดเร็วมาก ท้ายที่สุดตอนนี้ ข้าก็เป็นถึงปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม!”


 


“ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของข้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอก ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าจะกลายเป็นระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดในเวลาอันสั้น!”


 


ฟางหยวนไตร่ตรองและตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น


 


เพียงการชําเลืองมองเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์เล็กน้อย เขาก็สามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งและยังสามารถยกระดับมันได้อย่างเหมาะสม


 


เขาดูเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะที่มีเนื้อหามากกว่าเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณ ระดับมนุษย์และสามารถทําความเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็วด้วยการประมวลผลเพียงเล็กน้อย


 


สําหรับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดที่ซับซ้อน ฟางหยวนจําเป็นต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อไตร่ตรอง แต่เนื่องจากความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ความคิดของเขาจึงไม่มีข้อผิดพลาด


 


บางครั้งเขาไม่จําเป็นแม้แต่ต้องอนุมาน เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะหรือตัดสินว่าเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะนั้นๆใช้งานได้หรือไม่ด้วยสัญชาตญาณเท่านั้น


 


สําหรับเคล็ดลับที่ไม่สมบูรณ์ เขาไม่ต้องใช้แสงแห่งปัญญาในการอนุมานอีกต่อไป ตอนนี้ความยากของมันลดลงเป็นอย่างมาก


 


“ในประวัติศาสตร์มีปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเพียงสามคน ตอนนี้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าอยู่ในระดับถึงปรมาจารย์สูงสุด ข้าควรถูกพิจารณาว่าอยู่ในสิบอันดับแรกท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมตลอดกาล


 


พลังการต่อสู้ของฟางหยวนอาจไม่เปลี่ยนแปลง แต่มุมมองของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันแทบยกระดับมุมมองบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดทันที


 


ด้วยการยืนอยู่บนที่สูง


 


ข้อมูลเชิงลึกมากมายปรากฏขึ้นในใจของเขา


 


วิถีของการบ่มเพาะประกอบด้วยการเลี้ยงดู การใช้งาน และการหลอมรวม แท้จริงแล้วมันเป็นหนึ่งเดียวกัน


 


“การเลี้ยงดูวิญญาณเกี่ยวข้องกับการหลอมรวม การหลอมรวมวิญญาณต้องเข้าใจการใช้งาน และการใช้งานวิญญาณเกี่ยวเนื่องกับการเลี้ยงดูและการหลอมรวม


 


ฟางหยวนในปัจจุบันสามารถดูเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณและบอกได้ทันทีว่าวิญญาณ ดวงนั้นควรเลี้ยงดูอย่างไรและใช้งานอย่างไร


 


ด้วยความเข้าใจของเขา เขายังสามารถอนุมานวิธีการหลอมรวมวิญญาณได้จากวิธีการเลี้ยงดูและการใช้งานมันอีกด้วย


 


“เดี๋ยว! ข้าเข้าใจแล้ว ในความเป็นจริงท่าไม้ตายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ หรือท่าไม้ตายอมตะ พวกมันถือเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์ทั้งสิ้น!


 


ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นเมื่อเขาเข้าใจประเด็นนี้


บทที่ 1561 ทิวทัศน์บนจุดสูงสุด


 


หนึ่งในวิถีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมคือการหลอมรวมท่าไม้ตายให้เป็นวิญญาณดวงหนึ่ง


 


ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ความแข็งแกร่งของตนเอง


 


ท่าไม้ตายนี้เป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ผู้อมตะหญิงซูเซียนเอ๋อคิดค้นขึ้นเพื่อบุตรสาวของนาง ไห่ลั่วหลัน มันเป็นแก่นแท้บนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เมื่อกระตุ้นใช้งานมันสามารถสร้างภูตมนุษย์ รูปลักษณ์ของภูตมนุษย์จะเหมือนกับรูปลักษณ์ของผู้ใช้วิญญาณและเป็นภาพที่เกิดจากจิตใต้สํานึกของพวกเขา


 


ยิ่งไปกว่านั้นภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งเหล่านี้ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยเจตจํานงของตัวมันเอง


 


มีวิญญาณห้าสิบดวงที่ใช้สร้างท่าไม้ตายนี้


 


ตามความเข้าใจในปัจจุบันของฟางหยวนเกี่ยวกับแนวทางการหลอมรวม ท่าไม้ตายใดๆไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์หรือท่าไม้ตายอมตะ พวกมันถือเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ทั้งสิ้น


 


กล่าวคือวิญญาณที่ใช้สร้างท่าไม้ตายความแข็งแกร่งของตนเองสามารถใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณความแข็งแกร่งของตนเอง


 


เมื่อวิญญาณความแข็งแกร่งของตนเองถูกสร้างขึ้น มันจะสามารถปล่อยภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งออกมา


 


ประโยชน์ของสิ่งนี้เห็นได้ชัดเจน


 


ท่าไม้ตายถูกหลอมรวมเป็นวิญญาณเพียงดวงเดียวเพื่อใช้จากแทนวิญญาณหลายดวงจากท่าไม้ตายเดิม เมื่อผู้ใช้วิญญาณกระตุ้นใช้งานมันจะสะดวกรวดเร็วและใช้พลังวิญญาณน้อยกว่าการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอีกด้วย


อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน


 


นี่เป็นท่าไม้ตายที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นมาด้วยตนเอง มันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งทาสและเส้นทางความแข็งแกร่งที่เกิดจากการผสมผสานท่าไม้ตายหลายท่าเข้าด้วยกันเช่นท่าไม้ ตายจิตวิญญาณม้ามังกร ท่าไม้ตายสามเศียรหกกร ท่าไม้ตายระเบิดสายฟ้า ท่าไม้ตายภูตสัตว์อสูร ท่าไม้ตายราชันผีดิบสวรรค์หกกร และอื่นๆ


 


วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายนี้มีวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณอมตะยกภูเขาวิญญาณอมตะถึงแม่น้ำ และวิญญาณอมตะล้างใจ นอกจากนี้ยังมีวิญญาณสนับสนุนเช่นวิญญาณระเบิดพลัง วิญญาณความขมขึ้น วิญญาณยืมความแข็งแกร่ง วิญญาณความแข็งแกร่งของปฐพี วิญญาณความแข็งแกร่งของวารี วิญญาณความแข็งแกร่งของวายุ วิญญาณความแข็งแกร่งของสายฟ้า วิญญาณความแข็งแกร่งของอัคคี วิญญาณราชันบัวสมบัติสวรรค์ วิญญาณผนึกลมหายใจ ตลอดจนวิญญาณบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและอื่นๆอีกมากมาย


 


ท่าไม้ตายนี้มีรายละเอียดมากมาย มันลําบากมากในการกระตุ้นใช้งาน


 


เป็นเพราะฟางหยวนฝึกฝนมันอย่างสม่ํำเสมอ เขาจึงสามารถกระตุ้นใช้งานมันได้อย่างอิสระในการต่อสู้


 


แต่ในความเป็นจริงขั้นตอนของมันซับซ้อนเกินไป


 


จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากท่าไม้ตายนี้ถูกพัฒนาไปเป็นวิญญาณอมตะเพียงดวงเดียว?


 


วิญญาณอมตะหมื่นตัวตน!


 


เห็นได้ชัดว่ามันจะสะดวกสบายและใช้งานได้ในการต่อสู้จริง!


 


ฟางหยวนเพียงต้องส่งพลังงานอมตะให้กับวิญญาณอมตะดวงนี้เพื่อสร้างภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจํานวนมาก


 


ตอนนี้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดมัน ทําให้เขาสามารถบรรลุถึงจุดนี้


 


ทุกท่าไม้ตายอมตะสามารถเปลี่ยนเป็นวิญญาณอมตะ!


 


หัวใจของฟางหยวนเต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้นแต่ยังคิดต่อไป


 


“ตอนนี้ข้ามีความสามารถเปลี่ยนท่าไม้ตายให้เป็นวิญญาณ”


 


“อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายบางท่าไม่สามารถทําได้ ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะแม่น้ำโลหิตสีม่วงหรือท่าไม้ตายอมตะความคิดอุกกาบาตเพลิง หากเป็นท่าไม้ตายที่เกินขีดจํากัด มันต้องแยกเป็นวิญญาณอมตะหลายดวง จากนั้นข้าจึงจะใช้วิญญาณอมตะเหล่านั้นสร้างท่าไม้ตายที่ต้องการ


 


“วิธีนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย


 


*ข้อดีคือความสะดวกรวดเร็วและพึ่งพาพลังจิตน้อยลง ข้อเสียคือเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน มันอาจต้องใช้วิญญาณอมตะบางดวงเป็นวัสดุในการหลอมรวม นอกจากนั้นพลังอํานาจของวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนก็อาจไม่ทรงพลังเท่ากับท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน”


 


ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนใช้วิญญาณอมตะหลายดวงและวิญญาณระดับมนุษย์อีกนับไม่ถ้วนเพื่อกระตุ้นการทํางาน ขณะที่วิญญาณอมตะหมื่นตัวตนสามารถปลดปล่อยพลังอํานาจที่มันมีอยู่เท่านั้น หากมันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกหรือระดับเจ็ด มันอาจมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่จํากัด ดังนั้นพลังอํานาจของมันก็จะถูกจํากัดไปด้วย


 


“อีกประการหนึ่งคือเมื่อใช้วิญญาณอมตะเพียงดวงเดียว มันจะง่ายต่อการตอบโต้ ท่าไม้ตายซับซ้อนกว่าแต่มันยากที่ผู้อื่นจะอนุมานและถอดรหัส


 


ท่าไม้ตายสามารถปรับเปลี่ยนและยกระดับได้อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนสามารถเปลี่ยนเป็นท่าไม้ตายอมตะกําปั้นยักษ์หมื่นตัวตนและเกราะหวนคืน


แต่วิญญาณอมตะหมื่นตัวตนไม่สามารถทําเช่นนั้น


 


“แน่นอนว่าประโยชน์โดยรวมของการเปลี่ยนท่าไม้ตายเป็นวิญญาณยังเหนือกว่าเพราะวิญญาณสามารถใช้เป็นแกนกลางในการสร้างท่าไม้ตายอื่นๆ มันยังจะช่วยเพิ่มพลังอํานาจและป้องกันการอนุมานได้ดีขึ้นอีกด้วย


 


“แม้วิญญาณอมตะบางดวงอาจถูกใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวม แต่ข้าก็สามารถหลอมรวมมันขึ้นมาอีกครั้ง!”


 


ความสามารถนี้เป็นประโยชน์มากต่อฟางหยวน


 


อันดับแรกท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนสามารถดัดแปลงเป็นท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน เดิมที่การกระตุ้นใช้งานเกราะหวนคืนเป็นเรื่องที่ยากลําบากมาก เขาต้องใช้เวลาเตรียมตัวค่อนข้างมาก หากล้มเหลวเขาจะได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง


 


แต่หากฟางหยวนมีวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน เขาสามารถดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืนโดยใช้วิญญาณอมตะหมื่นตัวตนเพื่อลดขั้นตอนและใช้งานได้เร็วขึ้น


 


ด้วยวิธีนี้พลังการต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก


 


ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะมากมายแต่ท่าไม้ตายอมตะที่เขาใช้บ่อยมีไม่มาก


 


หากเขาสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนและวิญญาณอมตะมังกรดาบบรรพกาล เขาจะใช้วิญญาณอมตะเพียงสองดวงเพื่อใช้แทนท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร


 


นอกจากนี้ท่าไม้ตายอื่นๆ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นวิญญาณอมตะเช่นกัน


 


ขณะที่ฟางหยวนกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทันใดนั้นเขาก็เกิดความเข้าใจบางอย่าง


 


“เดี๋ยว! ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายหรือการหลอมรวมวิญญาณ ทั้งสองล้วนใช้ประโยชน์จากพลังงานแห่งเต๋า”


 


“เกราะหวนคืนของข้าใช้ประโยชน์จากแม่น้ําหวนคืนขณะที่เทพปีศาจจิตวิญญาณใช้ประโยชน์จากเมืองจิ๋ว”


 


“เมืองจิ๋วและแม่น้ำหวนคืนไม่ใช่วิญญาณ เหตุใดพวกมันถึงสามารถใช้งาน? ไม่ใช่เพราะพวกมันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่เต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋างั้นหรือ?”


 


ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดู การใช้งาน และการหลอมรวมวิญญาณ ทุกสิ่งล้วนพึ่งพาพลังงานแห่งเต๋า


 


“ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการบ่มเพาะเส้นทางใด ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับพลังงานแห่งเต๋าเป็นความจริงที่พลังงานแห่งเต๋เชื่อมต่อพวกเราเข้ากับสวรรค์พิภพ”


 


ทันใดนั้นวลีเก่าแก่ของการบ่มเพาะก็ปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวนอีกครั้ง


 


มนุษย์คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด วิญญาณเป็นแก่นแท้แห่งสวรรค์พิภพ


 


ฟางหยวนไม่เคยเข้าใจวลีนี้ได้ลึกซึ้งเท่ากับช่วงเวลานี้มาก่อน


 


“ข้าต้องเปลี่ยนท่าไม้ตายอมตะให้เป็นวิญญาณอมตะ แม้ข้าต้องใช้วิญญาณอมตะเป็นวัสดุในการหลอมรวม ข้าก็จะรวมพวกมันให้เป็นหนึ่งเดียว


 


“วิญญาณอมตะคือภาชนะบรรจุพลังงานแห่งเต๋าที่ยิ่งใหญ่ วัสดุในการหลอมรวมเปรียบเสมือนการสะสมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า ตราบเท่าที่เป็นเส้นทางเดียวกัน พวกมันก็สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกัน


 


“เหตุผลที่แม่น้ําหวนคืนและเมืองจิ๋วสามารถใช้แทนวิญญาณอมตะในท่าไม้ตายอมตะเป็นเพราะพวกมันมีรองรอยของพลังงานแห่งเต๋าจํานวนมาก จากมุมมองนี้ท่าไม้ตายอมตะจึงสามารถพัฒนาเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ


 


ฟางหยวนได้รับคําตอบของปัญหามากมาย


 


เส้นทางแห่งการหลอมรวมค่อนข้างพิเศษ แม้จะเป็นเส้นทางเดียว แต่มันเกี่ยวข้องกับทุกเส้นทาง ความเข้าใจที่ได้รับจากความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทั้งกว้างและลึกกว่าความสําเร็จบนเส้นทางสายอื่นที่ฟางหยวนเคยได้รับ


 


“คิดไปแล้วข้าใช้วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าเพื่อฟื้นฟูภูเขาตงฮัน มันดูเหมือนข้ากําลังใช้วิญญาณอมตะ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นการใช้ท่าไม้ตายอมตะพื้นที่ก่อนหน้า ท่าไม้ตายอมตะสามารถเปลี่ยนเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นจากอีกมุมมองหนึ่ง นี่ก็เป็นการหลอมรวมวิญญาณเช่นกัน”


 


“แต่สิ่งที่ข้าพยายามหลอมรวมไม่ใช่วิญญาณอมตะแต่เป็นทรัพยากรอมตะระดับเก้าภูเขาตงฮัน!”


 


ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณระดับเก้า?


 


สิ่งสําคัญคือท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่เขาเคยใช้กับภูเขาตงฮันในอดีตเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า!


 


เมื่อตระหนักถึงจุดนี้ฟางหยวนก็ได้รับแนวคิดมากมายจากการฟื้นฟูภูเขาตงฮัน


 


“ภูเขาตงฮันสามารถฟื้นฟูได้ มันยังสามารถใช้เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะได้เช่นเดียวกับแม่น้ำหวนคืน!”


 


โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว จุดสูงสุดบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่บันทึกไว้ ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ วิญญาณปีศาจสามเศียรพันกร ไม่ใช่ว่ามันคือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพชนิดหนึ่งงั้นหรือ?”


 


“นอกจากนี้ท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ที่สามารถทํางานได้ด้วยตัวมันเองโดยไม่พึ่งพาพลังงานอมตะ นี้ก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเช่นกัน!”


 


ตลอดเวลาที่ผ่านมาฟางหยวนไม่เคยเข้าใจว่าเพราะเหตุใดผนึกภูตผีจึงไม่ต้องการพลังงานอมตะในการกระตุ้นใช้งาน แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว


 


ภูเขาตงฮันต้องการพลังงานอมตะหรือไม่? ไม่


 


หุบเขาเหล่าโปต้องการพลังงานอมตะหรือไม่? ไม่


 


เทพปีศาจจิตวิญญาณต่อต้านภัยพิบัติโดยใช้ท่าไม้ตายอมตะมากมายแต่เขาไม่ได้ใช้พลังงานอมตะเพื่อปลดปล่อยพลังการต่อสู้ของเขาออกมา


 


แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าทุกชนิดจะสามารถหลอมรวมกันเพื่อก่อให้เกิดแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ


 


ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจําเป็นต้องสอดประสานกัน


 


ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดูวิญญาณ การใช้วิญญาณ และการหลอมรวมวิญญาณ พวกมันจําเป็นต้องใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่สอดประสานกัน


 


ฟางหยวนครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานก่อนจะค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น


 


สามวันสามคืนผ่านไป


 


เขาซึมซับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแต่เขาใช้เวลาทําความเข้าใจมันถึงสามวันสามคืน


 


ดวงตาสีดําของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยสติปัญญา


 


“เจ้า” เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของฟางหยวน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกตกใจ เล็กน้อย


 


“มีสิ่งใดผิดปกติ้งั้นหรือ?” ฟางหยวนถาม


 


จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ “บรรยากาศที่เจ้าปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่นี้ทําให้ข้ารู้สึกเหมือนกําลังมองเทพอมตะตะวันเดือดหรือเทพปีศาจปล้นสวรรค์!”


 


เทพอมตะตะวันเดือด เทพปีศาจปล้นสวรรค์ และผู้อมตะระดับเก้าทุกคนได้ รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางของตนเอง


 


ฟางหยวนสามารถก้าวไปถึงขอบเขตของพวกเขาแล้วด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม


 


เขาไม่ได้มองขึ้นไปบนภูเขาสูงตระหง่านจากด้านล่างอีกต่อไป


 


แต่นี่คือมุมมองจากจุดสูงสุดของการบ่มเพาะบนเส้นทางของผู้ใช้วิญญาณ!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)