เทพปีศาจหวนคืน 1554-1555
บทที่ 1554 เปิดเผยตําแหน่ง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและเสร็จสิ้นการทําธุรกรรมกับฟางหยวนในที่สุด
การแลกเปลี่ยนเป็นไปอย่างรวดเร็ว
“นี่คือวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋างั้นหรือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองวิญญาณอมตะที่อยู่ในมือ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากระตุ้นใช้งานมันก่อนที่การแสดงออกของเขาจะเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง
“พวกเขาเตรียมตัวมาดีจริงๆ!”
วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าทําให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ถูกทิ้งไว้โดยกลุ่มผู้อมตะภาคกลาง
ฟางหยวนเคยถูกติดตามตัวด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลของเทพธิดาจื่อเว่ย เขาได้เรียนรู้จากความล้มเหลวครั้งนั้นและมั่นใจว่าฟงจิวเก้อจะทิ้งมาตรการลับบางอย่างเอาไว้สําหรับการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
“ฟางหยวน เจ้าเดาถูก เราต้องกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้นออกไป! เมื่อเจ้ากลับมา เราจะย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาทันที!”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวอย่างจริงจัง
แม้ฟงจิวเก้อจะเดินทางมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณทองแดนอมตะ แต่การวางแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไว้ในตําแหน่งเดิมก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
นี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด
องค์ชายฟงเซี่ยนจากไปแล้ว มิฉะนั้นการย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์จะทําให้เกิดความปั่นป่วนและจะเป็นการเปิดเผยตําแหน่งของมันออกมา
ลมพัดผ่านใบหน้าของฟางหยวนขณะที่เขาบินอยู่บนท้องฟ้า
เขาต้องการจับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแต่แผนการของเขาล้มเหลว แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เขาต้องขอบคุณวังสวรรค์สําหรับเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากภายนอก จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่มอบความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมให้เขา
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังต้องใช้พลังงานอย่างมากในการเจรจาเกลี้ยกล่อมจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
หลังจากสิ้นสุดการสื่อสาร ฟางหยวนมุ่งหน้ากลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาทันทีเพื่อนำวิญญาณสติปัญญากลับคืนและรับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม
มันจะดีที่สุดสําหรับวิญญาณสติปัญญาที่จะไม่ขนส่งมันผ่านสวรรค์สีเหลือง มิฉะนั้นวิญญาณอมตะระดับเก้าจะสร้างความโกลาหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้วังสวรรค์จะรู้เกี่ยวกับการคงอยู่ของวิญญาณสติปัญญา แต่การที่พวกเขารู้กับคนทั้งโลกรู้เป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สําหรับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม แม้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะตัดสินใจมอบมันให้กับฟางหยวน แต่เขาก็จะมอบมันให้เขาที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเท่านั้น
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตระหนักถึงอันตรายในการย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์และรู้สึกกดดันกับการเผชิญหน้ากับวังสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ฟางหยวนกลับไป เขายังเจรจากับเผ่ามนุษย์หินเพื่อขอยืมมังกรหินที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปดมาปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอีกด้วย
‘หลังจากกลับไป ไม่เพียงข้าต้องนาวิญญาณสติปัญญากลับคืนและรับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม แต่ข้ายังต้องใช้แสงแห่งปัญญาถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะที่ฟงจิวเก้อใช้บุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยารวมถึงการซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณอมตะ นอกจากนี้…แม้ข้าจะติดอยู่ในเขตแดนของลั่วเว่ยหยินแต่ข้าก็ได้รับข้อมูลในเชิงลึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความฝันสามชาติ ภพ บางทีข้าอาจใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อทําความเข้าใจมัน’
เมื่อคิดถึงลั่วเว่ยหยิน สายตาของฟางหยวนก็กลายเป็นมือครื้ม
เขาเกือบแน่ใจแล้วว่าลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ความสามารถในปัจจุบันของฟางหยวนไม่เพียงพอที่จะจัดการคนผู้นี้
ในความเป็นจริงฟางหยวนยังเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดเท่านั้น ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือเกราะหวนคืนที่สามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด สําหรับทักษะด้านอื่นๆ เขายังธรรมดามากเมื่อเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปดที่แท้จริง
‘หือ?’ ทันใดนั้นการแสดงออกของฟางหยวนก็เปลี่ยนแปลงไป เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของอาภรณ์วิญญาณ
‘ไม่ดีแล้ว บางคนกําลังอนุมานตําแหน่งของข้าและมันเป็นวิธีที่ทรงพลังมาก แน่นอนว่ามันต้องเป็นฝีมือของผู้อมตะระดับแปดที่ยอดเยี่ยม!’
ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์ภูตผีทันที
อาภรณ์วิญญาณผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผนึกภูตผี
อาภรณ์วิญญาณเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด แต่หลังจากมันผสานตัวเข้ากับท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีระดับเก้า มันกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะที่มีพลังอํานาจเท่ากับจุดสูงสุดของระดับแปด
“โอ้?” ตอนนี้เป็นคราวของเทพธิดาจื่อเว่ยที่ต้องประหลาดใจ
นางมั่นใจมากแต่ผู้ใดจะคิดว่าการอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนจะกลายเป็นเรื่องยากไปอย่างกะทันหัน
“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลานที่อยู่ด้านข้างถาม
“มันค่อนข้างซับซ้อน ข้ามีวิญญาณอมตะขีดจํากัดความมืดของฟางหยวนรวมถึงตัวฟางเจิ้ง สองสิ่งนี้เป็นเบาะแสสําคัญ แต่ขากลับไม่สามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวน” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม “น่าเสียดาย หากเป็นก่อนหน้านี้ ข้าคงต้องยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เขาทําให้ภูเขาตงฮันระเบิด แม้ต้นกําเนิดที่แท้จริงจะเกิดจากเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่ฟางหยวนก็มีส่วนร่วมในการสร้างความเสียหายให้กับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว ด้วยสิ่งนี้ ข้าจะอนุมานตําแหน่งของเขาได้อย่างแน่นอน”
หลังกล่าวจบคํา เทพธิดาจื่อเว่ยก็ดีดนิ้วก่อนที่ผู้อมตะระดับแปดผู้หนึ่งจะเดินเข้ามา
“ท่านหญิงจื่อเว่ย มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้?” คนผู้นี้ก็คือเฉินอี้ เดิมที่เขาถูกมอบหมายให้ไปเป็นกำลังเสริมของฟงจิวเก้อ แต่หลังจากฟงจิวเก้อกลับมา งานของเขาก็สิ้นสุดลงและถูกเรียกตัวกลับมายังวังสวรรค์โดยเทพธิดาจื่อเว่ย
“ใช้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของเจ้า ข้าต้องพึ่งพาพลังอํานาจของเจ้าเพื่อสรุปตําแหน่งของฟางหยวน” เทพธิดาจื่อเว่ยออกคําสั่ง
เฉินอี้โค้งคํานับและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมทันที
ด้วยพลังอํานาจของท่าไม้ตายในตํานานนี้ร่วมกับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว ในที่สุดเทพธิดาจื่อเว่ยก็ค้นพบตําแหน่งของฟางหยวน
“บัดซบ!” ในจังหวะที่ตําแหน่งของฟางหยวนถูกค้นพบ อาภรณ์ภูตผีก็ระเบิดขึ้นทันที
ความเชื่อมต่อระหว่างอาภรณ์วิญญาณกับผนึกภูตผีพังทลายลง ผนึกภูตผีปลอดภัยไร้ปัญหา แต่อาภรณ์วิญญาณแทบถูกทําลายในครั้งเดียว
“ตําแหน่งของข้าถูกเปิดเผยแล้ว!”
บทที่ 1555 ฟางหยวนปะทะจิ้งหลาน
‘ความสามารถในการทําลายอาภรณ์ภูตผีของข้าหลังจากที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกบุกโจมตี นี่ต้องเป็นการเคลื่อนไหวของวังสวรรค์อย่างแน่นอน!’
ความคิดนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวน
‘ฟางเจิ้งถูกจับ เขามีสายเลือดที่ใกล้ชิดกับร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของข้า แต่ร่างแยกของข้าอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ พวกเขาไม่น่าจะสามารถใช้เบาะแสนี้’
‘วิญญาณอมตะขีดจํากัดความมืดของข้าอยู่ในมือของวังสวรรค์ นี่เป็นเบาะแสสําคัญ แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะทําลายอาภรณ์ภูตผีของข้า!’
‘แล้ววังสวรรค์ใช้วิธีใด? พวกเขามีเบาะแสใดเกี่ยวกับข้า?’
ฟางหยวนคิดขณะบินไปอย่างรวดเร็ว
ตําแหน่งของเขาถูกเปิดเผย การอยู่ที่เดิมไม่ใช่เรื่องฉลาด สิ่งสําคัญในเวลานี้คือต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องซ่อมแซมอาภรณ์วิญญาณและคิดหาวิธีแก้ปัญหา
“เปรี้ยง!”
หลังจากบินมาหลายชั่วโมง เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นจากท้องฟ้าที่แจ่มใส
สายฟ้าพุ่งเข้ามาหาฟางหยวนโดยตรง
ฟางหยวนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เขาหลบออกไปอย่างรวดเร็ว
สายฟ้าฟาดลงบนพื้นก่อนจะเผยให้เห็นร่างมนุษย์
มันคือจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า เด็กหญิงในชุดเกราะสีดําทมิฬ
ประกายสายฟ้าแลบลั่นอยู่บนชุดเกราะของนาง
การปะทะของนางทิ้งหลุมลึกเอาไว้บนพื้นและมีกลุ่มควันสีขาวลอยขึ้นสู่อากาศ
จิ้งหลานปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา ชัดเจนว่ามันเป็นกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปด!
นางค่อยๆเงยหน้ามองฟางหยวนและกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าคือฟางหยวนงั้นหรือ? เจ้าคิดจะวิ่งไปที่ใด?”
‘ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลาง นอกจากนี้นางน่าจะ
มาจากวังสวรรค์!?’ รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงขณะที่เขาระวังตัวอย่างเต็มที่
ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน!
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะกับศัตรูที่ไม่รู้จักทันที
ท้องฟ้าที่แจ่มใสถูกเติมเต็มด้วยภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวน
กองทัพภูตมนุษย์พุ่งเข้าหาจิ้งหลานราวกับคลื่นยักษ์
จิ้งหลานปิดเปลือกตาก่อนจะเปิดขึ้นอีกครั้ง รูม่านตาสีดําของนางเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและมีประกายสายฟ้าแลบลั่นอยู่ภายในตลอดเวลา
นางมองไปรอบๆแต่ยังไม่พบร่างจริงของฟางหยวน
“ใบหน้าที่คุ้นเคยยืม!” จิ้งหลานเย้ยหยัน
“อ๊าก…” ทันใดนั้นนางก็กรีดร้องออกมาอย่างกะทันหัน
คลื่นเสียงระเบิดออกไปทุกทิศทาง ไม่ว่ามันจะเคลื่อนที่ไปที่ใด ภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวนก็จะถูกทําลายภายในเวลาไม่นาน
ท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสอีกครั้ง ภูตมนุษย์ของฟางหยวนถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์และเหลือเพียงร่างจริงของเขาเท่านั้น
คลื่นเสียงสายฟ้าระดับแปด! เหตุใดข้าจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจากนาง?” ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาไม่ได้ตกใจกับการทําลายกองทัพภูตมนุษย์ ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนเป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปด ไม่ว่าจะมีภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งมากมายเพียงใด พวกมันก็ยังไร้ประโยชน์
ท่าไม้ตายอมตะความคิดอุกกาบาตเพลิง!
ท่าไม้ตายอมตะความคิดดาราสีม่วง
ฟางหยวนผลักฝ่ามือซ้ายออกไปและส่งอุกกาบาตเพลิงจํานวนมากพุ่งเข้าโจมตีจิ้งหลาน
หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมือขวาส่งละอองดาวสีม่วงจํานวนนับไม่ถ้วนออกมา
ดวงตาของจิ้งหลานแสดงให้เห็นถึงความรังเกียจเมื่อเห็นอุกาบาตเพลิง แต่เมื่อนางเห็นละอองดาวสีม่วง รูม่านตาของนางกลับหดลงน้อยเล็กน้อย
“นี่เป็นท่าไม้ตายที่ไม่ธรรมดา ข้าต้องหลบมัน” จิ้งหลานกลายเป็นสายฟ้าและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน
เร็วมาก!
นางรวดเร็วกระทั่งฟางหยวนยังประหลาดใจ
ยิ่งไปกว่านั้นนางยังสามารถควบคุมสายฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม มันไม่อาละวาดไปรอบๆ นางพุ่งผ่านอุกกาบาตเพลิงและหลบละอองดาวสีม่วงไปได้อย่างง่ายดาย
ฟางหยวนโจมตีอย่างต่อเนื่องแต่จิ้งหลานยังสามารถหลบหลีก หลังจากเปลี่ยนทิศทางหลายครั้ง นางก็บรรลุถึงตําแหน่งของฟางหยวน
“เข้ามา!” ฟางหยวนกัดฟันกล่าวและเปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาล
เผชิญหน้ากับมังกรดาบบรรพกาล จิ้งหลานดูราวกับมดตัวน้อย
แต่นางดุร้ายมาก นางไม่หลบและใช้เขาบนหมวกเหล็กพุ่งเข้าปะทะกรงเล็บมังกรโดยตรง
“ปัง!”
การปะทะทําให้ทั้งสองถอยหลังกลับไป
กรงเล็บของฟางหยวนกลายเป็นด้านชา
สําหรับจิ้งหลาน เขาบนหมวกเหล็กของนางเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวขณะที่นางรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
“นี่คือเกราะหวนคืนงั้นหรือ?” จิ้งหลานทราบเรื่องนี้แล้ว ก่อนออกมานางได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับฟางหยวนจากเทพธิดาจื่อเว่ย
ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจกับฉากนี้ ทุกอย่างอยู่ในการคาดเดาของนาง
นางหัวเราะขณะพุ่งออกไปข้างหน้าอีกครั้ง
ฟางหยวนต่อสู้กับนางอย่างไม่เกรงกลัว
ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างต่อเนื่อง
ฟางหยวนอาศัยเกราะหวนคืนเพื่อต่อต้านจิ้งหลานแต่เขายังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
‘คนผู้นี้รู้จักเกราะหวนคืนเป็นอย่างดี นางใช้กําลังเพียงพอที่จะบังคับให้ข้าใช้เกราะหวนคืน แม้มันจะไม่ทรงพลังมากนักแต่นี่คือสิ่งที่ทําให้นางอันตราย!’
ฟางหยวนรู้สึกสังหรณ์ร้าย
แม้จิ้งหลานจะไม่สามารถจัดการฟางหยวนแต่นี่เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น
นางมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังซึ่งเฝ้ามองการต่อสู้อยู่อย่างใกล้ชิดและวิเคราะห์เกราะหวนคืนของฟางหยวนตลอดเวลา
เมื่อเกราะหวนคืนถูกอนุมานอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะสามารถหาวิธีต่อต้านมันได้ในที่สุด
หากมีท่าไม้ตายที่สามารถจัดการเกราะหวนคืน มันจะเป็นจุดจบของฟางหยวน
‘นางเปลี่ยนวิธีการโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบเกราะหวนคืนของข้า ความตั้งใจของนางชัดเจนมาก!’
‘นางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าและจิตวิญญาณ การโจมตีด้วยสายฟ้าของนางรวดเร็วและทรงพลังขณะที่วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณถูกหลอมรวมเข้ากับชุดเกราะบนร่างของนางและทําให้การป้องกันรวมถึงการฟื้นตัวของนางรวดเร็วยิ่งขึ้น’
‘ถอย!’
ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรและซ่อนตัวอยู่ในนั้นด้วยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย
มังกรดาบบรรพกาลจํานวนมากไม่ได้โจมตีจิ้งหลานแต่กระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง
“เจ้าจะวิ่งไปที่ใด?” จิ้งหลานตะโกนและส่งสายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนออกไปทําลายมังกรดาบบรรพกาล
พลังอํานาจของมังกรดาบบรรพกาลสูงกว่าภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับท่าไม้ตายอมตะระดับแปด
ร่างจริงของฟางหยวนถูกค้นพบอีกครั้ง
จิ้งหลานไล่ล่า
ฟางหยวนวิ่งหนีและไม่พยายามโจมตี
“เจ้าทําได้เพียงหดหัวอยู่ในกระดองงั้นหรือ!?” จิ้งหลานเย้ยหยันด้วยความขุ่นเคือง ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ด้วยเกราะหวนคืน มันเหมือนกับเขาหลบอยู่ในเปลือกหนามที่สะท้อนการโจมตีทั้งหมดกลับไป
“ยังไม่เสร็จอีกงั้นหรือ?” จิ้งหลานส่งเสียงกลับไปยังเทพธิดาจื่อเว่ย
เทพธิดาจื่อเว่ยอยู่ที่วังสวรรค์แต่นางเฝ้ามองการต่อสู้อย่างใกล้ชิดและพยายามใช้ทักษะของนางถอดรหัสเกราะหวนคืน
สําหรับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว มันได้รับความเสียหายครั้งใหญ่และไม่มีประโยชน์มากนัก
“มีผลอยู่บ้าง ผู้อาวุโสโปรดฟัง” เทพธิดาจื่อเว่ยสอนท่าไม้ตายให้กับจิ้งหลาน
จิ้งหลานพยายามกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายดังกล่าว หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง ในที่สุดนางก็สามารถกระตุ้นใช้งานมัน
แสงสีเทาพุ่งเข้าปะทะเกราะหวนคืนและทําให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นบนพื้นผิวของมัน
‘พวกเขาอนุมานวิธีรับมือเกราะหวนคืนได้แล้วหรือ?’ หัวใจของฟางหยวนกลายเป็นตึงเครียดแต่โชคดีที่ท่าไม้ตายนี้เป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับหกและไม่สามารถทําลายเกราะหวนคืน
ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายสว่างไสว นางจดจําผลกระทบนี้เอาไว้ นี่เป็นความสําเร็จเล็กๆในการตรวจสอบเกราะหวนคืน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฟางหยวน เกราะหวนคืนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่น่าเสียดายที่เจ้าจะตายในวันนี้!” จิ้งหลานหัวเราะเสียงดัง
ความเร็วของนางน่ากลัวมาก นางเร็วกว่าฟางหยวน หากสถานการณ์นี้ยังดําเนินต่อไป เกราะหวนคืนจะถูกโต้ตอบได้ในไม่ช้า
“ไม่ใช่ว่าเจ้ามีค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศงั้นหรือ? เหตุใดไม่ใช้มัน?” จิ้งหลานหัวเราะเย้ยหยัน
ด้วยเสียงที่ดังสนั่น นางส่งสายฟ้าพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง
ฟางหยวนไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาจดจ่ออยู่กับการหลบหนีอย่างเต็มที่เท่านั้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น