เทพปีศาจหวนคืน 1548-1551
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1548 มรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพ
แปลโดย iPAT
กระทั่งฟงจิวเก้อยังมึนงงเมื่อเห็นวิญญาณสติปัญญา
นี่คือวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!
มันอยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก มันเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว มันเป็นที่รู้จักของทุกคน แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะอยู่ที่นี่และอยู่ต่อหน้าฟงจิวเก้อในเวลานี้
“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีวิญญาณสติปัญญาอยู่จริงๆ!” ฟงจิวเก้อตกใจมากและไม่สามารถควบคุมตนเอง
แต่ไม่นานเขาก็สงบจิตใจลง
ดวงตาของเขาส่องประกายสว่างไสว เขาตรวจสอบวิญญาณสติปัญาอย่างใกล้ชิดและพบว่ามันเป็นวิญญาณที่ทรงพลังมาก!
ความคิดหนึ่งเข้าครอบงำจิตใจของฟงจิวเก้อ นั่นคือนำวิญญาณสติปัญญาระดับเก้าออกไป!
ท่าไม้ตายอมตะเพลงรับสมบัติ!
เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้ด้วยพลังทั้งหมด กลิ่นอายระดับแปดปะทุขึ้น
เพลงรับสมบัติสามารถช่วยฟงจิวเก้อปรับแต่งวิญญาณอมตะป่าได้โดยตรง มันเป็นเพลงที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่สงบ
ขณะที่เขาร้องเพลง วิญญาณสติปัญญาเริ่มเคลื่อนไหว
“วิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกตกใจมากเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้
วิญญาณสติปัญญาถูกซ่อนไว้ที่หุบเขาเหล่านี้โดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามเผ่าพันธุ์เป็นคนนอก พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้
แต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อได้ทำลายสภาพแวดล้อมและเผยการคงอยู่ของวิญญาณสติปัญญาออกมา
“เราไม่สามารถปล่อยให้เขานำวิญญาณสติปัญญาออกไป! ขัดขวางเขาเร็วเข้า!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้องและออกคำสั่งด้วยความวิตกกังวล
เขากล่าวเสริม “แต่ระวัง อย่าทำลายมัน!”
แม้เขาจะไม่เตือน แต่ผู้อมตะทั้งหมดก็เข้าใจถึงความสำคัญของวิญญาณอมตะระดับเก้าเป็นอย่างดี
แต่การขัดขวางฟงจิวเก้อโดยไม่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณสติปัญญาที่อยู่ใกล้ๆ มันเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ต้องควบคุมค่ายกลวิญญาณอย่างเต็มที่เพื่อโจมตีฟงจิวเก้อ
ฟงจิวเก้อคำรามขณะกระตุ้นใช้นักรบเพลง
นักรบเพลงรับสมบัติบินเข้าไปหาวิญญาณสติปัญญาขณะที่นักรบเพลงอื่นๆช่วยป้องกันการโจมตี
วิญญาณสติปัญญาสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างรวดเร็ว สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดทำให้มันบินหนีไป
นักรบเพลงรับสมบัติออกไล่ล่าแต่ยังไม่สามารถทำสิ่งใด
เหตุการณ์นี้ทำให้หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง วิญญาณสติปัญญาเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้าแต่เพลงรับสมบัติเป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับแปด มันไม่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณสติปัญญา
‘หากไม่ได้รับก็ต้องทำลาย!’ ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของฟงจิวเก้อก่อนที่เขาจะปฏิเสธมันทันที นี่คือวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า การทำลายมันคือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
นอกจากนั้นมันยังเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว หากเขาได้รับมัน มันจะเป็นประโยชน์ต่อเขาเป็นอย่างมาก
ฟงจิวเก้อไม่ยินดียอมแพ้
“หยุด!” ฟงจิวเก้อพุ่งเข้าไปหาวิญญาณสติปัญญา
วิญญาณสติปัญญาบินอย่างรวดเร็วแต่ฟงจิวเก้อก็ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ
วิญญาณสติปัญญารู้สึกถึงภัยคุกคามจากฟงจิวเก้อ ดังนั้นมันจึงปล่อยแสงแห่งปัญญาออกมา
แสงแห่งปัญญา!
ฟงจิวเก้อถูกแสงแห่งปัญญาปกคลุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทันที ความคิดนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา สติปัญญาของเขาพุ่งสูงขึ้น สายตาของเขากลายเป็นเฉียบแหลม
คำถามและปัญหาทั้งหมดในการบ่มเพาะของเขากำลังได้รับการแก้ไข แม้เขาจะไม่ได้รับคำตอบทันที แต่ปัญหาคอขวดที่สำคัญมากมายก็ถูกทำลายไปอย่างง่ายดาย
“โอ้ ไม่!” ฟงจิวเก้อเป็นตัวตนในตำนาน หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เขาก็สัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ เขากัดลิ้นและพยายามบังคับตนเองให้ถอยห่างออกไป
หลังจากล่าถอยออกมา เขาทำได้เพียงมองวิญญาณสติปัญญาหลบหนีไปเท่านั้น
“ช่างยอดเยี่ยมนัก เพียงช่วงเวลาสั้นๆ อายุขัยของข้าก็ถูกกลืนกินไปมากแล้ว!” ตอนนี้เส้นผมของฟงจิวเก้อเปลี่ยนเป็นสีขาวไปอย่างสมบูรณ์
“ภารกิจในครั้งนี้คือการจับตัวฟางเจิ้งและยึดครองภูเขาตงฮัน นี่เป็นคำสั่งที่ได้รับมาจากเทพธิดาจื่อเว่ย แต่ผู้ใดจะคิดว่ามีวิญญาณสติปัญญาอยู่ที่นี่ ข้าได้พยายามเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถนำมันมาได้ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังไม่สามารถปรับแต่งมัน มิฉะนั้นพวกเขาคงทำไปนานแล้ว!”
ความคิดของฟงจิวเก้อเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นของพวกมันเอง
วิญญาณอมตะป่าดึงดูดผู้อมตะเสมอ
โดยเฉพาะเมื่อวิญญาณอมตะป่าดวงนี้เป็นวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!
“หากพวกเขาปรับแต่งวิญญาณสติปัญญา ข้าคงไม่สามารถฉกชิงมันได้ แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป ข้าต้องกลับไปแจ้งวังสวรรค์และนิกายเกี่ยวกับเรื่องนี้ คราวหน้าที่เราบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เราต้องนำมันกลับไป!”
ฟงจิวเก้อสูดหายใจลึก เขามองไปที่วิญญาณสติปัญญาด้วยความปรารถนาก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ
ท่าไม้ตายอมตะนี้ใช้วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเป็นแกนกลาง มันมีชื่อว่า นำพามนุษย์ มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่ยิ่งใหญ่ เหลียงเหลียง ฟงจิวเก้อไม่คุ้นเคยกับมันมากนักแต่มันก็มีประสิทธิภาพสูงมาก
มันสามารถขนสงผู้คนไปที่ใดก็ได้ในโลกใบนี้
“วูบ…”
ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ฟงจิวเก้อหายไป ณ จุดเกิดเหตุ
หลังจากชั่วครู่ยักษ์สวรรค์ก็มาถึง
“บัดซบ! ฟงจิวเก้อหนีไปแล้ว! สิบนิกายโบราณของภาคกลาง ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไป!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเสียหายและเต็มไปด้วยความโกรธ
ภาคใต้ ในเขตแดนอมตะเขาวงกตโคลนทราย
ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจยาว
ผ่านไปสามชาติภพแต่ฟางหยวนยังไม่กลับใจ
“ข้าคิดผิดไป”
“ข้าคิดว่าความเกลียดชังและความโกรธเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟางหยวนกระทำความชั่ว”
“แต่ความจริงก็คือเขามีอารมณ์มากมาย เขาไม่ได้ขาดสิ่งใด แม้เขาจะไล่ล่าความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับมัน”
“สิ่งที่ผลักดันให้เขาทำเช่นนี้คือเป้าหมายของเขา เป้าหมายนี้ฝังรากลึกอยู่ในหัวใจของเขา แม้จะผ่านไปกี่ร้อยชาติ มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง”
“คนผู้นี้ไม่สามารถแก้ไข”
“ท่านอาจารย์…” เย่ฟานพึมพำเบาๆ
ในเวลานี้ไม่เพียงเขาแต่กระทั่งเฉิงซินซื่อและคนอื่นๆก็ตื่นขึ้นแล้ว
ทุกคนตกอยู่ในความมึนงงหลังจากผ่านไปสามชาติภพในอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขากำลังลิ้มรสความรู้สึกอันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ลั่วเว่ยหยินมองไปรอบๆและหยุดสายตาที่เฉิงซินซื่อ
ดวงตาของนางแดงก่ำ นางเกือบร้องไห้ ความโศกเศร้าของนางปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นางมีความผูกพันทางอารมณ์กับฟางหยวนอย่างลึกซึ้งทั้งสามชาติภพ
ลั่วเว่ยหยินลอบพยักหน้าอย่างลับๆก่อนจะกล่าวกับทุกคน “ข้าล้มเหลว ปีศาจตนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง เขากำลังจะแหกคุกและหลบหนี ไปกันเถอะ”
เย่ฟานตกใจ “ท่านอาจารย์ เรามีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน”
ลั่วเว่ยหยินเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ไปกันเถอะ”
ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์รู้สึกสับสนขณะที่ไท่เมี่ยนเฉินและผู้อมตะตระกูลอี้ทั้งสองมีข้อสงสัย
ไท่เมี่ยนเฉินถามโดยตรง “ท่านแซ่ลั่วและเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปฐพี ท่านเป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพเช่นนั้นหรือ?”
ลั่วเว่ยหยินพยักหน้า “นั่นคือข้า”
“เป็นเช่นนี้” ผู้อมตะตระกูลอี้ถอนหายใจ พวกเขาแสดงความเคารพต่อลั่วเว่ยหยินทันที
พวกเขาไม่สงสัยคำกล่าวของลั่วเว่ยหยิน
วิธีการต่อสู้ของลั่วเว่ยหยินเหมือนกับเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขามีทักษะในการวางกับดักและเปลี่ยนแปลงศัตรู นี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเทพอมตะสวรรค์พิภพอย่างชัดเจน
ท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมด เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นคนใจดีและมีเมตตาที่สุด เขารักษาโลกใบนี้ด้วยตัวเขาเองเพียงผู้เดียวและสามารถหยุดความวุ่นวายหลังจากยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เทพอมตะสวรรค์พิภพกลับไม่ได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ เขาอยู่ที่ภาคใต้และกระทั่งทิ้งมรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพไว้ที่นี่
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1549 ระเบิดวิญญาณ
แปลโดย iPAT
ภาคกลาง วังสวรรค์
บนท้องฟ้าสีเงิน ท่ามกลางวิหารจำนวนนับไม่ถ้วน
แสงสีเขียวหยกส่องประกายขณะที่ฟงจิวเก้อปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย
“คาวระท่านหญิงจื่อเว่ย” ฟงจิวเก้อรีบป้องหมัดขึ้น
เทพธิดาจื่อเว่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้เมฆาขณะที่นางค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองฟงจิวเก้อ
ทันใดนั้นแสงดาวก็พุ่งออกจากดวงตาของนางและทำให้ห้องโถงส่องประกายระยิบระยับ
ฟงจิวเก้อไม่ได้กล่าวสิ่งใดแต่ส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ออกไปเพื่อให้เทพธิดาจื่อเว่ยทำความเข้าใจสถานการณ์
“ฟงจิวเก้อ เจ้าเป็นผู้พิทักษ์เต๋าที่ยิ่งใหญ่ เจ้าทำได้ดีจริงๆ” เทพธิดาจื่อเว่ยยกย่อง
ฟงจิวเก้อยิ้ม “นี่คือฟางเจิ้ง”
หลังกล่าวจบคำเขาก็นำเชลยออกมา
ฟางเจิ้งอยู่ในสภาพหลับลึก สำหรับเจตจำนงของฟางหยวนที่อยู่ในตัวเขา มันถูกฟงจิวเก้อกำจัดออกไปแล้ว
ฟงจิวเก้อวางฟางเจิ้งลงบนพื้นและถอนหายใจ “ข้าค้นวิญญาณฟางเจิ้งแล้ว ฟางหยวนเป็นปีศาจที่แท้จริง เขาไร้หัวใจและโหดร้ายมาก เขาต้องการปรับแต่งน้องชายของเขาให้เป็นเทพโลหิต แต่ข้าไม่เข้าใจ เขาเป็นเพียงมนุษย์ แม้เขาจะมีสายสัมพันธ์กับฟางหยวน แต่เหตุใดท่านถึงให้ความสำคัญกับฟางเจิ้งมากนัก?”
เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างช้าๆ “วิถีแห่งสวรรค์จะสร้างสมดุลเสมอ หยินและหยางหมุนวนรอบกัน ฟางเจิ้งเกิดมาพร้อมกับฟางหยวน เขาเป็นอุปสรรคที่สวรรค์กำหนดไว้สำหรับฟางหยวน หากเขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เขาจะมีประโยชน์ในการจัดการกับฟางหยวนในอนาคต”
“เข้าใจแล้ว” ฟงจิวเก้อพยักหน้า
“น่าเสียดาย” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวหลังจากค้นวิญญาณฟางเจิ้ง “ฟางหยวนไม่ได้ปรับแต่งเทพโลหิตและบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดของเขาต่อไป มิฉะนั้นข้าจะสามารถใช้หอพิพากษาปีศาจเพื่อค้นหาตำแหน่งของเขา ในความคิดเห็นของข้า ฟางหยวนไม่สังเกตเห็นว่าการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดในชีวิตก่อนหน้าของเขาเป็นกับดักของเจตจำนงสวรรค์ ตอนนี้เขาไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดอีกต่อไป นี่อาจเป็นเพราะโชคของเขา”
“วิญญาณชะตากรรมยังไม่ได้รับการซ่อมแซม โชคมีอิทธิพลมาก เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจน เจ้าประสบความสำเร็จและสามารถกลับมาในครั้งนี้เพราะสถานะผู้พิทักษ์เต๋าทำให้เจ้ามีโชคที่แข็งแกร่งและไม่ถูกสะกดข่มโดยฟางหยวน”
ฟงจิวเก้อพยักหน้า “เราจะจัดการภูเขาตงฮันอย่างไร? แล้ววิญญาณสติปัญญาที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา?”
“นำมันมา” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม
ฟงจิวเก้อมึนงงก่อนที่เขาจะนำภูเขาตงฮันออกมาจากมิติช่องว่างของเขา
ภูเขาคริสตัลสีชมพูมีขนาดใหญ่โตมากแต่หลังจากมันเข้ามาในวังของเทพธิดาจื่อเว่ย มันก็ถูกบีบอัดจนมีขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์
วังสวรรค์เป็นผู้นำของฝ่ายธรรมะ พวกเขามีรากฐานที่ลึกล้ำ แม้ยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณจะจบลงแล้ว แต่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณยังไม่สูญสิ้น ในความเป็นจริงวังสวรรค์ยังมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอยู่มากมาย
ภูเขาตงฮันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เมื่อเทพธิดาจื่อเว่ยสามารถมอบวิธีฉกชิงภูเขาตงฮันให้ฟงจิวเก้อ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะมีวิธีการย่อส่วนมัน
เทพธิดาจื่อเว่ยยื่นแขนออกไปขณะที่ภูเขาตงฮันลอยเข้ามาอยู่บนฝ่ามือของนางอย่างแผ่วเบา
“อัศจรรย์นัก” เทพธิดาจื่อเว่ยมองมันด้วยความประหลาดใจ นางพยักหน้าอย่างมีความสุข “ด้วยภูเขาลูกนี้ เราจะมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฮวงเอ๋อจะได้รับประโยชน์จากมัน การสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของนางจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น”
ฟงจิวเก้อยิ้ม เขามีความสุขที่เขาสามารถช่วยบุตรสาวของเขา
“สำหรับวิญญาณสติปัญญา…” เทพธิดาจื่อเว่ยคิดเกี่ยวกับมันก่อนกล่าว “ข้าต้องได้รับวิญญาณดวงนี้ ฟงจิวเก้อ เจ้าไปพักผ่อนได้”
ในการโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาครั้งต่อไป อีกฝ่ายต้องระวังตัวมากขึ้น พวกเขาจะเตรียมพร้อมรับมือ ฟางหยวนอาจกลับมาแล้ว ดังนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยจึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบ
“ทราบแล้ว” ฟงจิวเก้อกล่าวลาและกลับไปยังนิกายคฤหาสน์วิญญาณ
เทพธิดาจื่อเว่ยออกจากวังจื่อเว่ย นางนำภูเขาตงฮันไปยังวิหารสีดำ
วิหารปราบวิญญาณ!
มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่กักขังเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้
เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้มและนำภูเขาตงฮันเดินเข้าไปหาเทพปีศาจจิตวิญญาณ
“โอ้ เทพปีศาจจิตวิญญาณ ดูว่านี่คือสิ่งใด?” เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มบาง
เทพปีศาจจิตวิญญาณเงียบ
เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า “ช่างดื้อรั้นนัก! อย่างไรก็ตาม…ข้าไม่ได้นำภูเขาลูกนี้มาที่นี่เพื่อปลุกเร้าความมุ่งมั่นของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าเคยใช้ภูเขาลูกนี้มาก่อน ข้ามีวิธีควบคุมความคิดของเจ้า ตราบเท่าที่ข้ามีบางสิ่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้า ข้าจะสามารถดึงความทรงจำทั้งหมดของเจ้าออกมา”
เทพปีศาจจิตวิญญาณยังเงียบ
รอยยิ้มของเทพธิดาจื่อเว่ยจางหายไปขณะที่ดวงตาของนางกลายเป็นคมกริบ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานางมีปัญหากับความดื้อรั้นของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาตลอด นางต้องการขุดค้นความทรงจำอันล้ำค่าของเขาออกมา แต่นางกลับมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย
ตอนนี้ภูเขาตงฮันอยู่ในมือของนาง นางพบโอกาสที่ดี นางต้องการใช้มันกับเทพปีศาจจิตวิญญาณทันที
วินาทีถัดมาท่าไม้ตายอมตะก็ถูกกระตุ้นใช้งาน วิหารปราบวิญญาณส่งเสียงและปลดปล่อยแสงสว่างออกมา
แสงสะท้อนภูเขาตงฮันและพุ่งไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามต่อต้านแต่ท่าไม้ตายนี้ทรงพลังมาก ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับภูเขาตงฮันค่อยๆถูกดึงออกมาแสดงต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย
เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณในวัยเยาว์พบภูเขาตงฮันโดยบังเอิญ เขาตกใจและมีความสุขมาก…
หลังจากผ่านอุปสรรคมากมาย ในที่สุดเขาก็ได้รับภูเขาตงฮัน เขาเริ่มใช้งานมันอย่างลับๆ…
เทพปีศาจจิตวิญญาณคิดอย่างหนักและพบวิธีเคลื่อนย้ายภูเขาตงฮันในที่สุด…
เทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและค่อยๆพบว่าภูเขาตงฮันมีประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ได้ใช้สร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพียงอย่างเดียว แต่เขายังสามารถใช้ภูเขาตงฮันสนับสนุนค่ายกลวิญญาณอมตะอีกมากมาย
‘โอ้ มีค่ายกลวิญญาณตงฮันอยู่ด้วยงั้นหรือ? เหตุใดฟางหยวนไม่สร้างมันขึ้นมา? เขาคิดว่ามันจะปลอดภัยภายในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหรือค่ายกลนี้มีความต้องการสูงเกินไป?’ เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกสงสัย
แต่ในไม่ช้าความสงสัยของนางก็ได้รับคำตอบ ปรากฏว่าหลังจากใช้ภูเขาตงฮันเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณ มันจะไม่สามารถสร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยว
เทพธิดาจื่อเว่ยยังดูต่อไป
มีฉากเกี่ยวกับภูเขาตงฮันปรากฏขึ้นเรื่อยๆ แม้ส่วนใหญ่จะไร้ประโยชน์ แต่บางส่วนยังมีข้อมูลการบ่มเพาะที่สำคัญ กระทั่งวังสวรรค์ยังได้รับประโยชน์บางอย่าง
ในยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาวางภูเขาตงฮันไว้ในเมืองจิ๋วและใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อปรับเปลี่ยนมัน
ความทรงจำนี้ทำให้หัวใจของเทพธิดาจื่อเว่ยสั่นไหว
“ท่าไม้ตายนี้ช่างน่าทึ่งมาก! เมืองจิ๋วเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพบนเส้นทางแห่งกฎ แต่ด้วยการใช้ท่าไม้ตายนี้ เขาสามารถขจัดความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋า นี่อาจจะเป็นต้นกำเนิดของวิญญาณทารกอมตะ”
เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถอนุมานบางสิ่งเกี่ยวกับวิญญาณทารกอมตะเนื่องจากวังสวรรค์ได้ต่อสู้กับฟางหยวนมาหลายครั้งและได้รับเบาะแสที่ล้ำค่าบางอย่าง
นางคิดไม่ผิด!
เหตุผลที่ร่างทารกอมตะไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋ามีต้นกำเนิดมาจากเมืองจิ๋วและท่าไม้ตายของเทพปีศาจจิตวิญญาณในเวลานั้น
เทพปีศาจจิตวิญญาณจ่ายราคามหาศาลเพื่อดัดแปลงภูเขาตงฮันแต่มันก็คุ้มค่า หลังจากนั้นเขาจึงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อฟื้นฟูภูเขาตงฮันได้อย่างง่ายดาย
‘วิธีการเหล่านี้ช่างน่าทึ่งนัก ตัวตนที่กลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าล้วนมีพรสวรรค์ที่สามารถสั่นคลอนสวรรค์พิภพได้อย่างแท้จริง!’ ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายด้วยความยกย่อง
ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้เป็นข้อมูลการบ่มเพาะที่ล้ำค่าสำหรับวังสวรรค์
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีภูเขาตงฮัน ท่าไม้ตายเหล่านี้จะสามารถใช้งานได้ทั้งหมด
ท่ามกลางพวกมัน มีท่าไม้ตายหนึ่งที่เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกสนใจมาก
“ท่าไม้ตายนี้สามารถจุดระเบิดภูเขาตงฮัน มันเรียกว่าระเบิดวิญญาณ การระเบิดตัวเองของอสูรวิญญาณมีพลังที่น่าเหลือเชื่อ แต่การระเบิดภูเขาตงฮันกระทั่งยอดเยี่ยมกว่า ใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของภูเขาลูกนี้เพื่อจุดระเบิด นี่เป็นความคิดที่ชาญฉลาดนัก หือ เดี๋ยว…”
รูม่านตาของเทพธิดาจื่อเว่ยหดเล็กลงเมื่อนางสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ!
“บึม!!”
ในเวลาต่อมา การระเบิดที่น่าตกใจก็ปะทุขึ้น ภูเขาตงฮันถูกทำลายและกลายเป็นฝุ่นผง
ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดาจื่อเว่ยหรือเทพปีศาจจิตวิญญาณ ทั้งคู่ต่างติดอยู่ในรัศมีของการระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวนี้!
บทที่ 1550 ค่าชดเชย
ภาคใต้
หมื่นมังกร!
เสียงคำรามของมังกรดังไปทั่ว สนามรบทั้งหมดถูกทำลาย แสงสีเงินพุ่งออกมาราวกับสายฟ้า
ทันทีที่เขาสามารถหลบหนีจากเขตแดนอมตะ เขาได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจำนวนมาก
‘กระไรนะ!? แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกวังสวรรค์ที่นำโดยฟงจิวเก้อบุกโจมตีงั้นหรือ?’ ฟางหยวนตกตะลึง
เขาติดอยู่ในเขตแดนอมตะของลั่วเว่ยหยินเพียงไม่นาน แต่ในเวลาเดียวกันแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็ถูกโจมตีโดยวังสวรรค์ หากบางคนบอกว่ามันไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองเหตุการณ์ แม้แต่ผีก็ไม่เชื่อ!
‘โอ้ พวกเขาพ่ายแพ้แล้วงั้นหรือ? ผู้อมตะภาคกลางจำนวนมากเสียชีวิต มีเพียงฟงจิวเก้อที่รอดชีวิตไปได้?’ ฟางหยวนตรวจสอบข้อความที่ถูกส่งมาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับข้อความของผมที่หก
ผมที่หกเป็นสายลับที่ถูกวางไว้ในนิกายหลางหยาโดยนิกายเงา เขาอยู่ข้างฟางหยวน ดังนั้นข้อความจากผมที่หกจึงน่าเชื่อถือมากที่สุด
ข้อความของผมที่หกทำให้ฟางหยวนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
‘เมื่อฟงจิวเก้อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามความคาดหมาย เขาจึงวางแผนที่จะล่าถอย…’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายแหลมคม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้อาจกำลังเดินทางมาที่นี่
ฟางหยวนเร่งเดินทาง ระหว่างทางเขาใช้วิธีการที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อจุดระเบิดภูเขาตงฮัน
‘วังสวรรค์โจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผนมานานแล้ว วิธีการดึงภูเขาตงฮันไม่ธรรมดา การนำภูเขาตงฮันไปเป็นแผนการที่จะทำลายรากฐานของข้า แต่น่าเสียดาย…ฮ่าฮ่า…ภูเขาตงฮันของข้าจะถูกฉกชิงโดยง่ายได้อย่างไร?’
ฟางหยวนวางภูเขาตงฮันไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ด้านหนึ่งเป็นการแสดงความจริงใจในการทำงานร่วมกันและทำให้นิกายหลางหยาเป็นผู้ดูแลธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว สิ่งนี้ช่วยประหยัดเวลาและความพยายามของฟางหยวน อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะฟางหยวนได้จัดเตรียมแผนการป้องกันเอาไว้แล้ว เขาไม่กลัวว่านิกายหลางหยาหรือผู้อมตะคนอื่นๆจะขโมยภูเขาตงฮันไปจากเขา
ในขณะที่ฟางหยวนเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว เขาเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า!”
เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดวงนี้กับหินก้อนหนึ่ง
มันเป็นชิ้นส่วนของภูเขาตงฮันที่ถูกเก็บไว้โดยฟางหยวนเมื่อนานมาแล้ว
ตอนนี้ภูเขาตงฮันได้ระเบิดทำลายตัวเองไปแล้ว หินก้อนนี้เป็นชิ้นส่วนเดียวของมันที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้
เมื่อฟางหยวนใช้วิญญาณพื้นที่ก่อนหน้า ก้อนคริสตัลสีชมพูก็เริ่มขยายตัวอย่างช้าๆก่อนจะกลายเป็นภูเขาตงฮันในที่สุด
‘แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเหมือนวิญญาณอมตะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเองและมีเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ ภูเขาตงฮันได้รับการดัดแปลงโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณในอดีต ดังนั้นภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า หินจากภูเขาตงฮันจึงสามารถฟื้นฟูตัวมันเองและกลายเป็นภูเขาตงฮันที่สมบูรณ์แบบในที่สุด’
ฟางหยวนมั่นใจมาก ภูเขาตงฮันอาจถูกฉกชิงไป แต่เขาไม่ได้สูญเสียมันและยังได้รับภูเขาตงฮันกลับคืนมาทันที
แต่กระบวนการนี้ยังต้องใช้เวลา
วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกขณะที่ภูเขาตงฮันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่เทียบเท่ากับวิญญาณอมตะระดับเก้าและขนาดของหินภูเขาที่ฟางหยวนเก็บไว้ก็ค่อนข้างเล็ก มันต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกระยะหนึ่ง
วังสวรรค์วางแผนมานายแล้ว การสูญเสียในครั้งนี้ของฟางหยวนค่อนข้างรุนแรง
ประการแรก เขาไม่สามารถนำอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับคืน ประการที่สอง ภูเขาตงฮันถูกทำลายขณะที่มันต้องใช้เวลาฟื้นตัวและต้องใช้พลังงานอมตะจำนวนมาก ประการสุดท้าย ฟางเจิ้งถูกจับตัวซึ่งหมายความว่าแผนการปรับแต่งเทพโลหิตของฟางหยวนถูกหยุดยั้ง
โชคดีที่วิญญาณสติปัญญาไม่ถูกจับหรือถูกทำลาย
สถานการณ์ในเวลานั้นอันตรายอย่างมาก
หากฟงจิวเก้อตั้งใจทำลายวิญญาณสติปัญญา มีความหวังเพียงเล็กน้อยที่มันจะเอาชีวิตรอดได้ด้วยตัวมันเอง
แต่ฟงจิวเก้อไม่ได้โจมตีมันในเวลานั้น
สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกยินดี แต่ในขณะเดียวกันมันก็หมายความว่าการโจมตีของวังสวรรค์จะดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ฟงจิวเก้อถอยกลับด้วยความตั้งใจของตัวเขาเอง นั่นหมายความว่าวังสวรรค์จะโจมตีอีกครั้งอย่างแน่นอน
แต่มันจะเกิดขึ้นเมื่อใด? วังสวรรค์จะส่งผู้ใดมา? แล้วพวกเขาจะใช้วิธีการใด?
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่ต้องคิด
ฟางหยวนบินลงไปยังหุบเขาธรรมดาแห่งหนึ่ง
เขาออกจากสนามรบมาไกลแล้ว เขาระวังตัวมากระหว่างการเดินทาง ตอนนี้เขามาถึงสถานที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว
ฟางหยวนซ่อนกลิ่นอายของตนเอง จากนั้นเขาก็จัดตั้งค่ายกลวิญญาณเตือนภัยก่อนจะนั่งไขว้ขาและปิดเปลือตาลงเพื่อทำการอนุมาน
หลังจากไม่นานเขาก็เปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วราวกับเขาประสบกับการต่อสู้ระหว่างนิกายหลางหยากับฟงจิวเก้อมาด้วยตนเอง
‘ชัดเจนว่าวิญญาณท่องแดนอมตะอยู่กับวังสวรรค์ ดูเหมือนมันจะถูกเลื่อนขั้นขึ้นเป็นระดับเจ็ด พวกเขายังใช้มันเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะ…’
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่สามารถหลบหนีจากการรับรู้ของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฉากการโจมตีของฟงจิวเก้อถูกส่งมายังฟางหยวนทั้งหมด
ด้วยเบาะแสที่เพียงพอและความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน เขาเข้าใจทันทีว่าฟงจิวเก้อบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้อย่างไร
‘เพื่อป้องกันวิญญาณท่องแดนอมตะ ข้าได้แก้ไขรูปลักษณ์ของภูเขาตงฮันแล้ว แต่กลุ่มของฟงจิวเก้อปรากฏตัวขึ้นเหนือสามทวีป ข้อมูลที่รั่วไหลออกไปนี้อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน’
‘ข้าต้องใช้ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศของทั้งสามทวีป แต่กระทั่งมันจะเปลี่ยนแปลงไป มันก็อาจไม่สามารถขัดขวางการบุกรุกของวังสวรรค์’
‘แม้ผู้อมตะของวังสวรรค์จะไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่การหลบหนีที่ง่ายดายของฟงจิวเก้อก็บอกได้ว่าพวกเขามีวิธีการบางอย่างที่ทิ้งไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา’
ความคิดทุกประเภทพุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
วังสวรรค์ไม่ได้เคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหว พวกเขาจะทำให้พื้นพิภพสั่นสะเทือน หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนได้จัดเตรียมวิธีการป้องกันหลายอย่างเอาไว้ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอาจสูญเสียหม้อหลอมรวมไปอย่างสมบูรณ์หรือมันอาจถูกกำหราบโดยฟงจิวเก้อไปแล้ว
ฟางหยวนเตรียมการเอาไว้หลายอย่าง แต่รากฐานของวังสวรรค์ลึกเกินไป ตัวอย่างเช่นครั้งนี้ฟงจิวเก้อสามารถย่องเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้เพราะความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่ยิ่งใหญ่เหลียงเหลียง
วังสวรรค์เป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากที่สุดเพราะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าพวกเขามีไพ่ตายกี่ใบอยู่ในมือ!
ฟางหยวนถอนหายใจก่อนจะติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
เขาแจ้งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขาและยังกล่าวถึงการคาดเดาที่ว่าลั่วเว่ยหยินน่าจะเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอาจยังไม่พอใจที่ฟางหยวนไม่ปรากฏตัวเพื่อปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่สิ่งที่ฟางหยวนกล่าวเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ดังนั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงไม่สามารถตำหนิเขาได้
“วังสวรรค์ไม่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้แต่พวกเขาค้นพบวิญญาณสติปัญญา พวกเขาจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน ฟางหยวน เจ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยา นิกายต้องการความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าควรกลับมาปกป้องนิกาย” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวอย่างจริงจัง
ฟางหยวนยิ้ม
นั่นเป็นไปไม่ได้!
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาช่วยฟางหยวนได้มากจริงๆ มันถือเป็นรากฐานของเขา แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะผูกมันเขาด้วยเหตุผลนี้
วังสวรรค์ในปัจจุบันทรงพลังมาก ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม พวกเขาจะกลายเป็นเจ้าเหนือหัวของโลกใบนี้
หากฟางหยวนคอยปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา วังสวรรค์จะหัวเราะอย่างมีความสุขเพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ฟางหยวนจะไม่มีความก้าวหน้าหากเขาอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาต้องเดินทางไปรอบๆเพื่อแสวงหาทรัพยากรในการบ่มเพาะและเติบโตต่อไป
เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาจะสามารถเดินทางไปรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ไม่ว่ามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงจะช่วยเหลือเขาได้หรือไม่ เขาก็ต้องทำลายแผนการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมของวังสวรรค์
นี่เป็นทางออกเดียวของเขา
มิฉะนั้นหากวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ ผู้อมตะเกือบทั้งโลกจะอยู่ภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณชะตากรรม หลังจากทั้งหมดมีปีศาจต่างโลกเช่นฟางหยวนอยู่เท่าใด? เมื่อเวลานั้นมาถึง วังสวรรค์จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้งและฟางหยวนจะไม่เหลือความหวังที่จะต่อสู้กับมัน
‘แม้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะถูกทำลาย แม้วิญญาณสติปัญญาจะดับสูญ พวกมันก็ไม่สามารถขัดขวางแผนการของข้า!’
แสงที่น่ากลัวส่องประกายขึ้นในดวงตาของฟางหยวน
แน่นอนว่าเขาจะไม่กล่าวถ้อยคำเหล่านี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
เขาถูกผูกมัดโดยข้อตกลงพันธมิตร แต่เขามีค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองและมันไม่ได้มีไว้โอ้อวดเท่านั้น
“เรายังต้องคุยกันเรื่องค่าชดเชยใช่หรือไม่?” ฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
“อา…” การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจมดิ่งลงทันที เขาทำข้อตกลงกับฟางหยวนไว้แล้ว หากภูเขาตงฮันหรือวิญญาณสติปัญญาสูญหายหรือถูกทำลาย จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องชดเชยให้ฟางหยวนสิบเท่า
วิญญาณสติปัญญาไม่ได้ถูกทำลาย นี่ทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอกกับเรื่องนี้ แต่ภูเขาตงฮัน…
อย่างน้อยตอนนี้มันก็หายไปจริงๆ!
“หากวังสวรรค์ได้รับภูเขาตงฮัน พวกเขาจะผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นี่เป็นตัวช่วยชั้นยอดสำหรับพวกเขา” ฟางหยวนเพิ่มแรงกดดันขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยานิ่งเงียบ
“เจ้า..ไม่ต้องพูดแล้ว อย่ากังวล ข้าจะชดเชยให้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบกลับ
“ข้าเชื่อท่าน ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจะกลับคำพูดได้อย่างไร?” ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก
“เจ้าต้องการค่าชดเชยแบบใด?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น มีหลายสิ่งที่เขาต้องการ!
บทที่ 1551 วิญญาณอายุยืนสี่พันปี
ภูเขาตงฮันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวจากภูเขาตงฮันเป็นสินค้าผูกขาด ตราบเท่าที่มีดวงวิญญาณมากพอ มันจะกลายเป็นเหมืองทองคำอันไร้จุดสิ้นสุด
ด้วยเหตุนี้มูลค่าของมันจึงมหาศาล จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องชดเชยค่าเสียหายให้ฟางหยวนสิบเท่าของมูลค่านี้
หากที่นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ทั่วไป มันอาจไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีความสามารถเพียงพอที่จะจ่ายราคานี้
ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนสร้างข้อตกลงกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะไม่พิจารณาถึงประเด็นนี้ได้อย่างไร?
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของห้าภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลาย มันอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ฟางหยวนไม่สงสัยเลยว่ามันสามารถจ่ายค่าเสียหายให้เขาได้อย่างเต็มที่
ฟางหยวนกล่าวถึงวิญญาณสติปัญญาเป็นอันดับแรก “ข้าจะย้ายวิญญาณสติปัญญามาไว้ในมิติช่องว่างของข้า ดังนั้นข้าต้องการวิธีย้ายมันเป็นค่าชดเชยอันดับแรก”
วิธีนี้อยู่ในมรดกที่แท้จริงของนิกายหลางหยา ฟางหยวนพยายามมาตลอดเพื่อให้ได้รับมันมา แต่กระทั่งทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนมรดกที่แท้จริงกัน เขาก็ยังไม่ได้รับมัน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเก็บวิธีนี้ไว้ลึกมาก เขาไม่ใช่คนโง่ หากเขาแลกเปลี่ยนวิธีนี้กับฟางหยวน มันไม่ได้หมายความว่าฟางหยวนจะสามารถนำวิญญาณสติปัญญาออกไปเช่นนั้นหรือ?
แม้วิญญาณสติปัญญาจะไม่รับคำสั่งและไม่ได้เป็นของนิกายหลางหยา แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนก็เป็นคนนำมันมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนไปทันที
ฟางหยวนกล่าวถึงเรื่องนี้โดยตรง มันเหมือนกับดาบที่แทงทะลุหัวใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับปาก
สิ่งที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาวางแผนมาตลอดคือการพยายามควบคุมวิญญาณสติปัญญาโดยการให้อาหารมันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะช่วยฟางหยวนเลี้ยงดูวิญญาณสติปัญญา
แต่น่าเสียดายที่จนถึงเวลานี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ยังไม่บรรลุเป้าหมาย แผนการของเขาไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อฟางหยวนร้องขอสิ่งนี้และเอ่ยอ้างกรรมสิทธิ์ ความพยายามทั้งหมดของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงกลายเป็นสูญเปล่า
แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการ
แต่เขาไม่สามารถตอบโต้
ท้ายที่สุดแม้วิญญาณสติปัญญาจะเป็นวิญญาณป่าแต่มันก็ถูกนำมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของฟางหยวน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวอย่างลังเล “นั่น…จะดีหรือ? แท้จริงแล้วหากพวกเราสามารถควบคุมวิญญาณสติปัญญา พวกเราจะสามารถใช้มันเป็นแกนกลางของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ไม่เพียงเราจะสามารถป้องกันตัวเอง แต่มันยังสามารถต่อต้านการอนุมานจากผู้คนทั้งโลก!”
ฟางหยวนยิ้ม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง แผนการของท่านก็ดีแต่มันยากมากที่จะทำได้จริง ท่านมีความมั่นใจที่จะดำเนินการตามแผนการนี้ได้ในเร็ววันนี้หรือไม่?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเงียบ
ฟางหยวนกล่าวต่อ “สถานการณ์ปัจจุบันอันตรายมาก มันเป็นเรื่องยากที่ท่านจะปกป้องวิญญาณสติปัญญา ฟงจิวเก้อค้นพบมันแล้วซึ่งหมายความว่าวังสวรรค์จะรู้เรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาย่อมไม่เต็มใจที่จะปล่อยมันไป เมื่อพวกเขาบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอีกครั้ง เราจะทำอย่างไรหากพวกเขาคว้าวิญญาณสติปัญญาไป”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจลึก
สิ่งที่ฟางหยวนกล่าวคือความจริง คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นเพียงจินตนาการในขณะที่วังสวรรค์ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
ในความเป็นจริงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้ซ่อนวิญญาณสติปัญญาไว้อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดเพราะวิธีการตรวจสอบของฟงจิวเก้อทรงพลังเกินไป
วิญญาณสติปัญญาเคยเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว ตอนนี้มันถูกค้นพบแล้วและแน่นอนว่าวังสวรรค์จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ การโจมตีครั้งต่อไปของพวกเขาจะรุนแรงและอันตรายมากขึ้น
ฟางหยวนกล่าวถูกต้อง แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เต็มใจที่จะล้มเลิกแผนการของเขา
ฟางหยวนกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นความคิดที่ดีแต่มันก็มีข้อเสีย หากเราทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากลายเป็นสถานที่สงบสุข แล้วผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจะมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองงั้นหรือ? พวกเราต้องการนำเผ่ามนุษย์ขนขึ้นสู่จุดสูงสุด หากพวกเราอนุญาตให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอาศัยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ พวกเขาจะไม่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตลอดไปงั้นหรือ?”
“หือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะลึง คำกล่าวของฟางหยวนสมเหตุสมผล
ก่อนหน้านี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนไม่เคยเผชิญหน้ากับภัยอันตรายใดๆ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวปกป้องผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนมากเกินไปและทำให้พวกเขาแทบไม่มีพลังการต่อสู้ เมื่อนิกายเงาบุกเข้าโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาเกือบพ่ายแพ้
พวกเขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสูดหายใจลึกและหยักหน้า “ฟางหยวน ข้าจะยอมรับคำขอของเจ้า ข้าจะมอบวิธีทั้งหมดให้เจ้า จากค่าชดเชยภูเขาตงฮันสิบส่วน นี่เท่ากับหนึ่งส่วนของมัน”
“ตกลง” ฟางหยวนไม่สงสัยคำกล่าวของจิตวิญาณแผ่นดินหลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก
“ต่อไปข้าต้องการวิญญาณอายุยืน” ฟางหยวนกล่าวคำขอที่สอง
หากเขาเก็บวิญญาณสติปัญญาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องแบกรับภาระเรื่องอาหารของมัน ฟางหยวนมีวิญญาณอายุยืนในคลังสมบัติของเขา แต่มันไม่ปลอดภัยที่จะพึ่งพาเพียงสิ่งที่เขามีอยู่
“ตกลง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นด้วยกับคำขอนี้อย่างมีความสุข
เขาเป็นจิตวิญญาณแผ่นดิน เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปตราบเท่าที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังดำรงอยู่ ดังนั้นวิญญาณอายุยืนจึงไม่มีประโยชน์กับเขา
แน่นอนว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนต้องใช้มันในการยืดอายุขัย อย่างไรก็ตามมนุษย์ขนมีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นการให้อาหารวิญญาณสติปัญญาก็มีความสำคัญมากกว่าการยืดอายุขัยของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอย่างเห็นได้ชัด
ฟางหยวนใช้ค่าชดเชยอีกส่วนหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอายุยืนจำนวนมาก
บรรพชนผมยาวเป็นบุคคลเมื่อสามแสนปีก่อน แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ดังนั้นคลังสมบัติของมันจึงเต็มไปด้วยวิญญาณอายุยืน
แม้ฟางหยวนจะนำวิญญาณอายุยืนส่วนใหญ่ไป แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังเหลือวิญญาณอายุยืนอีกมาก!
ฟางหยวนคำนวนว่าหากเขาใช้วิญญาณอายุยืนทั้งหมดกับตัวเขาเอง เขาจะสามารถยืดอายุของเขาได้มากกว่าสี่พันปี!
กระทั่งเทพปีศาจบัวแดงก็มีชีวิตอยู่เพียงสามพันปีเท่านั้น
นี่หมายความว่าหากฟางหยวนใช้วิญญาณอายุยืนเหล่านี้ เขาจะมีอายุยืนกว่าเทพปีศาจบัวแดง! แน่นอนว่ามันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเขาต้องไม่ถูกฆ่าตายในช่วงเวลานี้
วิญญาณอายุยืนเหล่านี้สามารถแก้ปัญญาเรื่องอาหารของวิญญาณสติปัญญาได้เป็นเวลานาน
ท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมด เทพปีศาจบัวแดงมีอายุขัยสั้นที่สุด เทพปีศาจไร้ขอบเขตและเทพปีศาจคลั่งมีชีวิตอยู่มากกว่าหกพันปี เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีอายุมากกว่าเจ็ดพันปี และเทพอมตะตะวันเดือดมีอายุมากกว่าแปดพันปี สามคนที่อายุยืนที่สุดได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ เทพอมตะบัวสวรรค์มีชีวิตอยู่มากกว่าหนึ่งหมื่นสองพันปี เทพอมตะกลุ่มดาวอยู่นานกว่าหนึ่งหมื่นเก้าพันปี และเทพอมตะแรกกำเนิดมีอายุเกินสองหมื่นห้าพันปี เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าคนแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและมีอายุยาวนานที่สุด
‘เทพอมตะและเทพปีศาจทั้งหมดมีอายุขัยที่ยาวนาน แต่ในประวัติศาสตร์ ผู้อมตะระดับแปดและผู้อมตะระดับเจ็ดก็มีชีวิตยืนยาวเช่นกัน บางคนถึงกับมีชีวิตอยู่หลายพันปี’
‘แต่ด้วยสงครามห้าภูมิภาคที่กำลังจะมาถึง ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเปิดม่าน วิญญาณอายุยืนจะหายากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทพอมตะแห่งความฝันปรากฏตัวขึ้น วิญญาณอายุยืนจะยิ่งหายาก โลกจะไม่ผลิตมันขึ้นมาอีกนาน’
ฟางหยวนครุ่นคิด วิญญาณอายุยืนมีค่ามหาศาลและมูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป
ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญและสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายยอมจ่ายด้วยทุกสิ่งเพื่อยืดอายุของพวกเขาแม้จะเป็นเวลาเพียงสองสามวันก็ตาม
วิญญาณอายุยืนเป็นเพียงวิญญาณระดับมนุษย์แต่มีตัวอย่างมากมายในประวัติศาสตร์ที่มันถูกแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะ
ค่าชดเชยของฟางหยวนถูกคำนวณโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตามมูลค่าในปัจจุบันของมัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฟางหยวนเสนอราคาที่ถูกมาก
นอกจากวิญญาณอายุยืน ฟางหยวนยังใช้ค่าชดเชยแลกเปลี่ยนกับแต้มผลงานของนิกายหลางหยารวมถึงวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร
ฟางหยวนเคยยืมวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรมาก่อนหน้านี้และมันมีประโยชน์มาก
สำหรับวิญญาณบัวสวรรค์อมตะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ฟางหยวนรู้ว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่แลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะดวงนี้
ดังนั้นจากค่าชดเชยสิบส่วนของภูเขาตงฮันยังเหลืออยู่อีกเจ็ดส่วน
ตอนนี้ฟางหยวนกำลังจะร้องขอสิ่งที่ยิ่งใหญ่
“ข้าต้องการใช้ค่าชดเชยนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับบางสิ่งในนิกาย” ฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลายเป็นเคร่งเครียด เขาเร่งถาม “อา…เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนสิ่งใด?”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น