ลำนำบุปผาพิษ 1506-1509
บทที่ 1506 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 1
ผู้คนมากน้อยเพียงใดที่ถูกเขาทำให้ต้องพลัดพรากจากลูกเมีย บ้านแตกสาแหรกขาด ถ้อยคำก็ไม่กล้าเอ่ย เรื่องใดก็ไม่กล้ากระทำ คนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง เกลียดเขาจนเข้ากระดูกมานานแล้ว เพียงแต่อับจนหนทางมาโดยตลอด
ยามนี้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายปรากฏตัวแล้ว ในที่สุดก็ทำให้พวกเขาได้มองเห็นความหวังอีกครั้ง จะให้ละทิ้งไปง่ายๆ ได้อย่างไรกัน
คนส่วนใหญ่ที่กล้าเข้ามาดูการประหารคนในลานแห่งนี้ล้วนเป็นชายชาตรีเลือดร้อน ยามนี้โลหิตพลันเดือดพ่านขึ้นมา ยอมจ่ายค่าตอบแทนที่สูงลิ่วออกไป!
“คิดจะให้พวกเราติดตามไอ้ตัวปลอมสวมรอยแบบเจ้าน่ะหรือ ไม่มีทาง! ของปลอมก็คือของปลอม ไม่อาจกลายเป็นของจริงไปได้ตลอดกาล! เจ้าไม่คู่ควรจะยกรองเท้าให้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายด้วยซ้ำ!”
“ทุกคนอย่าไปฟังคำหลอกลวงของเขา คนผู้นี้ปลิ้นปล้อนกลับกลอก ไม่มีทางไม่เอาความกับพวกเรา พวกเราคงบ้าไปแล้วถึงจะปฏิญาณว่าจะติดตามเขา!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว! อย่างมากวันนี้พวกเราก็แค่ตายอยู่ที่นี่! หัวขาดก็แค่แผลใหญ่เท่านั้น! ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก พวกไม่กลัวตาย! ขอเพียงท่านช่วยล้างแค้นให้พวกเรา ช่วยราษฎรจากความทุกข์ยาก…”
ฝูงชนฮึกเหิมเร่าร้อน เสียงหนึ่งดังกว่าอีกเสียงหนึ่ง ระลอกหนึ่งดังกว่าอีกระลอกหนึ่ง
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมถูกด่าจนหน้าซีดเซียวแล้ว เขามองไปที่ตี้ฝูอี พลันหัวเราะฮ่าๆ ออกมา “ตี้ฝูอี นึกไม่ถึงว่าเจ้าได้ใจปวงชนอย่างยิ่ง เจ้าดูสิประชาชนเหล่านี้คิดเพื่อเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้าสมควรจะรับผิดชอบชีวิตของพวกเขามิใช่หรือ?”
มุมปากตี้ฝูอีหยักบางๆ “รับผิดชอบอย่างเล่า?”
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าเจ้าโขกศีรษะให้ข้าสามครั้ง ข้าก็จะปล่อยพวกเขาไป!”
แววตาเขาดั่งอสรพิษ กวาดผ่านร่างปวงชนที่อยู่ด้านล่างแท่น “พวกเขาสนับสนุนเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้าแค่โขกศีรษะให้ข้าเพื่อพวกเขาสามครั้งเท่านั้น การเสียสละเช่นนี้คงมิใช่ว่าเจ้าก็ไม่อยากทำกระมัง?”
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อย่าไปฟังเขา!”
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย พวกเราไม่กลัวตาย! ท่านอย่าได้หลงกลเขา!”
ตี้ฝูอียังไม่ได้พูดอะไร ประชาชนที่อยู่ด้านล่างก็ตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลแล้ว เสียงที่โกรธเกรี้ยวนั้นแทบจะทำลายกำแพงที่รายล้อมอยู่รอบด้านได้เลย
ตี้ฝูอีโบกแขนเสื้อช้าๆ ชาวบ้านก็เงียบลงด้วยตัวเอง สายตามากมายมองไปที่เขา
เขามองทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม “เงื่อนไขของเจ้ามีเท่านี้หรือ?”
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมชะงักไปครู่หนึ่ง นึกว่าเขาหวั่นไหวแล้ว ในใจร้องด่าว่าอีกฝ่ายใจอ่อนเยี่ยงอิสตรี พลางหยิ่งผยอง “นี่เป็นเงื่อนไขข้อแรก เจ้าทำเรื่องนี้ให้สำเร็จก่อน ข้าถึงจะบอกเงื่อนไขอื่นกับเจ้า”
ตี้ฝูอีเอ่ยอย่างเฉยชา “ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้ายังมีลูกไม้อื่นอยู่ คนอย่างเจ้าในเมื่อกุมราษฎรมากมายถึงเพียงนี้มาเป็นมือสังหารของเจ้าได้ แล้วจะยอมปล่อยข้าไปง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไรเล่า? เจ้าทำเช่นนี้เพียงต้องการให้ข้าอับอายขายหน้าเท่านั้น อย่าว่าแต่ข้าโขกศีรษะให้เจ้าสามครั้งเลย ต่อให้ทำลายพลังยุทธ์ตนแล้วโขกศีรษะให้เจ้า เจ้าก็คงไม่ปล่อยชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เหล่านี้ไปอยู่ดี! อย่าแต่ชาวบ้านพวกนี้ เกรงว่าแม้แต่ขุนนางราชสำนักพวกนี้ก็อย่าหมายจะได้ไปจากที่นี่แบบยังมีชีวิตอยู่เลย เพราะคนเหล่านี้ล้วนทราบความจริงหมดแล้วว่าเจ้าเป็นตัวปลอม เจ้าจึงต้องการฆ่าปิดปากพวกเขาทั้งหมด!”
วาจานี้ของตี้ฝูอีกล่าวได้ว่าเผยความคิดจิตใจอันแสนโสมมของเขาออกมาโดยตรง ราษฎรที่อยู่ด้านล่างต่างลอบพยักหน้า เห็นด้วยอย่างยิ่ง
อ่านนิยาย
เดิมทีเหล่าขุนนางบางส่วนยังคงโอบกอดความหวังเล็กๆ เอาไว้อยู่ ยามนี้เมื่อตี้ฝูอีกล่าวมาเช่นนี้ ประหนึ่งถูกพรมน้ำมนต์เรียกสติ ในที่สุดก็ทราบกระจ่างแล้ว
คนผู้นี้สามารถฆ่าปิดปากช่างฝีมือหนึ่งแสนคนในคราวเดียวได้ แล้วจะแยแสชีวิตของคนไม่กี่พันคนที่นี่ได้อย่างไร?
หากบอกว่าพวกเขายังมีแสงแห่งความหวังที่จะรอดชีวิตอยู่ นั่นก็คือตี้ฝูอี! ขอเพียงไม่ถ่วงมือถ่วงเท้าเขา สถานการณ์นี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกผัน
ต่อให้พวกเขาออกไปไม่ได้ต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด ขอเพียงตี้ฝูอียังมีชีวิตอยู่…
————————————————————————————-
บทที่ 1507 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 2
ต่อให้พวกเขาออกไปไม่ได้ต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด ขอเพียงตี้ฝูอียังมีชีวิตอยู่ คนเหล่านี้ที่พามายังมีชีวิตอยู่ ภายหน้าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมผู้นี้ก็ไม่เหลือผลดีอันใดให้รับประทานแล้ว จะถูกตี้ฝูอีสังหารในไม่ช้า! นี่สิถึงจะเป็นความหวังของโลกใบนี้!
ถึงแม้สัญชาตญาณของมนุษย์จะรักตัวกลัวตาย แต่เมื่อถูกต้อนให้จนมุมอย่างแท้จริง ก็พร้อมตายอย่างไม่เสียดายชีวิต ขอเพียงเป็นความตายที่คุ้มค่า!
มิเช่นนั้นนับแต่โบราณมา ก็คงไม่มีการต่อสู้พลีชีพที่น่าสรรเสริญยกย่องมากมายถึงเพียงนั้น
บัดนี้ปวงชนพร้อมทุ่มเททุกอย่างออกมาแล้ว ตะโกนแซ่ซ้องตี้ฝูอี พากันแสดงเจตนาว่าตนไม่หวั่นเกรงความตาย…
สายตาของพวกมู่เฟิงร่อนลงบนร่างตี้ฝูอี ชื่นชมอยู่ในใจว่าเขามีฝีไม้ลายมือในการเป็นรัฐบุรุษยิ่งนักโดยแท้ มีท่าทีของผู้นำอย่างยิ่ง
เมื่อปวงชนเพิกเฉยต่อความตายอย่างสิ้นเชิง ยามนั้นไม่ว่าอันใดล้วนกล้ากล่าวออกมาทั้งสิ้น
ฝูงชนกู่ตะโกน ร่ำร้องถึงความโกรธแค้นและความอยุติธรรมที่สะกดกลั้นเอาไว้เป็นเวลาหลายปีออกมา ย่อมต้องด่าทอทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมอย่างเทสาดเทเสียไม่มีชิ้นดี! แทบจะขุดบรรพบุรุษแปดชั่วโคตรของเขาไปจนถึงลูกหลานที่ยังไม่ถือกำเนิดออกมาด่าทอกันคนละรอบแล้ว
สีหน้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเขียวคล้ำแล้ว!
ยิ้มอย่างชั่วช้าแวบหนึ่ง “ตี้ฝูอี นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีความสามารถในการปลุกปั่นบงการใจคนเช่นนี้ด้วย! ดีมาก! เช่นนั้ก็ให้ข้าไพร่โง่เง่าเหล่านี้ลงหลุมไปพร้อมกับเจ้าเลยแล้วกัน!” เขาสัมผัสแหวนบนนิ้ว แตะหัวแม่มือลงไปบนส่วนที่นูนขึ้นมา…
ฝูงชนกลั้นหายใจตามสัญชาตญาณ ทว่าตี้ฝูอีกลับมองเขาด้วยรอยยิ้ม ไม่มีทีท่าว่าจะขัดขวางหรืออ่อนข้อให้เลย
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมตัดสินใจในทันใด กดส่วนที่นูนขึ้นมาลงไปทันที!
นี่เป็นเคล็ดควบคุมชนิดหนึ่ง เมื่อกดสิ่งนี้ลงไป กองทหารทมิฬเหล่านั้นจะเคลื่อนไหว นอกจากคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเขาแล้ว ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ล้วนจะถูกยิงเกาทัณฑ์เลือนวิญญาณใส่ทั้งหมด จัตุรัสแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นแดนนรกนองโลหิตแห่งหนึ่ง…
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหว
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวอยู่ดี
คลิก
ฝูงชนต่างงงงวย
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมหน้าเปลี่ยนสีแล้ว เขากดปุ่มบนแหวนติดต่อกันหลายครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ กองทหารทมิฬเหล่านั้นยังคงแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว ยืนรายล้อมปานมนุษย์ที่หล่อด้วยเหล็ก
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?!
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าใช้ร้อยครั้งได้ผลร้อยครั้ง!
ตี้ฝูอียืนสง่าอยู่ตรงนั้น ยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง เขาไม่พูดอะไร เพียงยกมือทำสัญญาณอย่างหนึ่ง
ในที่สุดกองทหารทมิฬเหล่านั้นก็เคลื่อนไหวแล้ว
เกาทัณฑ์เลือนวิญญาณเปลี่ยนทิศทาง ปลายศรจ่อไปทางกลุ่มนั้นของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม!
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมตกตะลึง!
ฝูงชนก็ตกตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน!
องครักษ์ที่ภักดีต่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเหล่านั้นก็ทึ่มทื่อไปแล้ว!
สีหน้าของเซียนหญิงลี่หวางแปรเปลี่ยน เดิมทีนางนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นปานเขาไท่ซานมาโดยตลอด ยามนี้ลุกขึ้นมาอย่างควบคุมไว้ไม่อยู่แล้ว!
ตี้ฝูอีดีดนิ้วคราหนึ่ง มองไปที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม “ตอนนี้เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมมองฉากนี้อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง “เจ้า…ทำได้อย่างไร?!”
หลังจากฝูงชนตะลึงงันกันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ไชโยโห่ร้องขึ้นมาอย่างอดไว้ไม่อยู่!
ที่แท้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว!
นึกไม่ถึงว่ากองหารทมิฬที่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้นจะถูกท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสยบไว้ได้ทั้งหมด กระแสน้ำไหลย้อนกลับในยามคับขัน!
ละครที่พลิกผันไปมาอยู่บ่อยครั้งเช่นนี้ทำให้หัวใจน้อยๆ ของเหล่าชาวบ้านแทบจะหยุดเต้นแล้ว แต่ยามนี้ทุกคนก็ยังคงถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอกกันถ้วนหน้า
พวกเขาไม่ต้องตายแล้ว!
พวกเขารอดแล้ว!
ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็คือท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ยามคับขันก็ยังเป็นที่พึ่งได้!
แทบทุกคนล้วนน้ำตาคลอเบ้าแล้ว ท่ามกลางฝูงชนไม่รู้ว่าผู้ใดร้องตะโกนขึ้นมา “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแสนเกรียงไกร!”
ตะโกนหนึ่งครั้งขานรับนับหมื่น เมื่อคนผู้นั้นตะโกนเปิดฉากขึ้นมา คนอื่นๆ ก็ตะโกนขึ้นมาจนดังก้องเช่นกัน “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแสนเกรียงไกร!”
บทที่ 1508 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 3
สีหน้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมซีดเทา เขาไม่นึกเลยว่าแผนการที่ตนเตรียมการไว้อย่างรอบคอบจะถูกอีกฝ่ายควบคุมไว้อยู่หมัด ยามนี้เขาแทบนับได้ว่าหมดหนทางแล้ว!
ประกายแสงวาบผ่านนัยน์ตาเขา จู่ๆ เขาก็ส่งสัญญาณอย่างหนึ่งให้คนที่อยู่ด้านหลังทันที
ด้านหลังเขายังคงมีทหารที่ภักดีอยู่หลายสิบคน เรือนกายคนเหล่านี้พลันวูบไหว พุ่งเข้าใส่นักโทษที่ยังอยู่บนเสาเหล่านั้นทันที!
บนร่างนักโทษเหล่านั้นล้วนมีระเบิดเวลาอยู่ ขอเพียงพวกเขาดึงเชือกกุมชะตาบนร่างของนักโทษเหล่านี้สักคราก็สามารถทำให้นักโทษเหล่านี้ระเบิดได้แล้ว เมื่อคนกว่าร้อยคนระเบิดขึ้นพร้อมกัน ก็เพียงพอจะกวาดล้างจัตุรัสนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง คนทั้งหมดล้วนจะถูกกลบฝังไว้ที่นี่…
ขณะที่หน่วยกล้าตายเหล่านั้นลงมือจู่โจม จู่ๆ ฝีเท้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมก็ชะงักไป พื้นที่เขาเหยียบย่ำอยู่พลันปริแยก ร่างของเขาร่วงหล่นลงไป!
นี่ก็เป็นสิ่งที่เขาจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า เป็นไม้ตายสุดท้ายของเขา
แผนการนี้ของเขาอยู่เหนือความคาดหมาย แม้กระทั่งหน่วยกล้าตายข้างกายเขาเหล่านั้นก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะหลงเหลือเล่ห์กลเช่นนี้อยู่ มองเห็นว่าร่างเขากำลังจะร่วงหล่นลงไปในหลุมที่ปริกแยกออกแห่งนั้น กลับคาดไม่ถึงว่าพลันมีเงาร่างคนแวบขึ้นมาเบื้องหน้า เชือกสีเงินยวงเส้นหนึ่งรัดพันบั้นเอวเขาไว้…
ร่างกายเขาที่เพิ่งจะหล่นลงไปถูกฉุดดึงขึ้นมาทันที โซซัดโซเซอยู่ไม่กี่ก้าวก็ร่วงลงบนพื้น ในเวลาเดียวกันนี้ ชีพจรหลักหลายจุดบนร่างเขาพลันชาหนึบ ยามที่ร่วงลงพื้นก็ยืนไม่อยู่ ล้มคว่ำปานสุนัขกินอาจม แม้แต่หน้ากากก็หลุดหายไปแล้ว…
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างจนตรอก มองเห็นเชือกสีเงินยวงที่หดกลับเข้าไปในแขนเสื้อของตี้ฝูอีพอดี
ชัดเจนยิ่งนัก ในช่วงเวลาดุจสายฟ้าแลบนี้ เป็นตี้ฝูอีที่ดึงเขากลับมา ทำให้เขาหลบหนีไม่สำเร็จ
ส่วนหน่วยกล้าตายเหล่านั้นของเขาที่พุ่งเข้าหานักโทษก็ล้มเหลวเช่นกัน พวกเขาถูกคนที่ตี้ฝูอีพามาด้วยขัดขวางไว้! ยามนี้กำลังต่อสู้กันอยู่
ตี้ฝูอียิ้มเยาะ “ละครยังไม่จบก็คิดจะหนีแล้วหรือ? ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น?!”
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเงียบงัน
คนที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมพามาด้วยหนนี้มีไม่น้อยเลยจริงๆ มีองครักษ์มีทหารและมีหน่วยกล้าตายด้วย
หน่วยกล้าตายเหล่านั้นต้องปกป้องเขาด้วยชีวิต เนื่องจากชะตาของพวกเขาผูกติดอยู่กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมผู้นี้ หนึ่งร่วงทุกคนล่มหนึ่งโรจน์ทุกคนรุ่ง ดังนั้นต่อให้พวกเขาทราบว่าเขาเป็นตัวปลอม ก็ทำได้เพียงปกป้องเขาด้วยชีวิต และเรื่องชั่วร้ายพวกนั้นที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมกระทำก็เป็นผลงานของพวกเขากว่าครึ่ง พวกเขาไม่มีทางถอยแล้ว
ส่วนองครักษ์และทหารที่เหลืออันใดนั้น ทั้งหมดนึกว่าเขาคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อีกทั้งต้องการแสวงหาลาภยศเงินทอง ดังนั้นจึงทำตามคำสั่งทุกอย่าง คนเหล่านี้ก็เคยกระทำเรื่องชั่วช้าบางส่วนตามคำสั่งเช่นกัน บัดนี้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ค่อนข้างสับสนอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าควรไปทางไหนดี
มีบางส่วนที่จิตใต้สำนึกยังคงเชื่อฟังคำสั่งของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมอยู่ คิดจะเข้าล้อมโจมตีตี้ฝูอี ถูกกู่ฉานโม่ตวาดเรียกสติคราหนึ่ง “พวกเจ้าปัญญาอ่อนหรือไง?! เขาไม่แยแสความเป็นความตายของพวกเจ้าเลย คิดจะทำให้ทุกคนที่นี่ระเบิดตายไปพร้อมกัน เขาหนีเอาตัวรอดคนเดียว! คนเช่นนี้พวกเจ้ายังคิดจะขายชีวิตให้เขาอีกหรือ?!”
ด้วยเหตุนี้ บรรดาทหารและองครักษ์เหล่านั้นจึงถอยหลังไปทันที!
ดังนั้นผู้ที่ทุ่มเทต่อสู้อย่างสุดชีวิตจึงเป็นหน่วยกล้าตายเหล่านั้น หน่วยกล้าตายพวกนี้ถึงแม้พลังวิญญาณจะสูง แต่ล้วนเป็นผลมาจากโอสถทั้งสิ้น ประสบการณ์ต่อสู้จริงไม่มากถึงเพียงนั้น ไม่มีทางเทียบกับคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์และคนที่ตี้ฝูอีพาออกมาจากเขตหวงห้ามได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็ถูกมองจุดอ่อนออกทันที…
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป หน่วยกล้าตายเหล่านี้ก็ถูกจับกุมได้ทีละคน ถูกมัดรวมอยู่ตรงนั้น
มาถึงยามนี้ แผนการของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แล้ว หมดหนทางอย่างแท้จริง ไม่มีลูกไม้ใดให้พลิกสถานการณ์ได้อีก
ตี้ฝูอีก้าวเข้าไป ขณะที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมกำลังจะทำอะไรบางอย่าง
“แง!” เด็กน้อยที่ยังถูกมัดไว้ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
————————————————————————————-
บทที่ 1509 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 4
เด็กคนนั้นเพิ่งอายุสามขวบ เชือกเส้นนั้นมัดเขาเจ็บปวดเสียจนเกินรับไหว เดิมทีเขาสลบไปแล้ว ยามนี้เพิ่งรู้สึกตัว ร้องไห้ทันทีที่ตื่นขึ้นมา
เด็กคนนั้นคือหลานชายของกู้เซี่ยเทียน เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางตี้ฝูอี “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีวิธีแก้มัดเชือกเหล่านี้หรือไม่?”
ตี้ฝูอีพยักหน้าเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดจาอันใด พลันหันเรือนกายเหินบินอย่างแผ่วเบา ตรงไปที่ด้านข้างเด็กคนนั้นเพื่อแก้มัดเชือก…
การเคลื่อนไหวเขารวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เขาค่อยๆ แก้มัดเชือกที่สร้างขึ้นมาพิเศษทีละชั้นๆ โดยไม่สัมผัสระเบิดเวลาแม้แต่น้อย ฝีมือเชี่ยวชาญเหนือธรรมดา
ฝูงชนชื่นชมเขาจนแทบอยากจะหมอบราบกราบกรานเลยทีเดียว!
สายตานับไม่ถ้วนรวมอยู่บนมือเขา จ้องมองเขาแก้มัดเชือกอย่างสุขตาสุขใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
วินาทีที่เชือกถูกแก้มัดออกทั้งหมด เด็กคนนั้นตกลงมาจากเสาอย่างปลอดภัย มารดาที่รออยู่ตรงนั้นรับเขาไว้ในอ้อมอก
ฝูงชนส่งเสียงร้องดีใจอีกคราหนึ่ง
ในขณะที่ความสนใจของทุกคนจดจ่อไปบนร่างของตี้ฝูอี พลันได้ยินคนส่งเสียงกรีดร้อง ‘อ๊า!’ เสียงร้องแหลมและรันทดดึงดูดความสนใจของฝูงชนในพริบตา
ฝูงชนต่างตกตะลึงเมื่อมองตามเสียงกรีดร้อง!
ในมือของเซียนหญิงลี่หวางท่านนั้นถือกระบี่ยาวมันวาวดุจหิมะ ทิ่มแทงกลางอกข้างซ้ายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม!
ฝูงชนนิ่งอึ้ง
ตี้ฝูอีหรี่ตาลงเล็กน้อย
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมจ้องมองเซียนหญิงลี่หวาง สายตาเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อ “เจ้า…เจ้า…”
“ข้าทำไมหรือ? เจ้าคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม! ข้าถูกเจ้าต้มเสียจนเปื่อย!” เซียนหญิงลี่หวางหน้าตาถมึงทึงสายตาเต็มเปี่ยมด้วยความเกลียดชัง นางไม่รอให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมได้อธิบาย ถือโอกาสพลิกกระบี่ยาว ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมอ้าปากกว้าง ทว่าไร้ซึ่งซุ่มเสียงที่จะเปล่งออกมาได้ เรือนกายทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว “นี่เจ้าทะเลาะกันเองหรือ?”
มืออันอ่อนนุ่มของเซียนหญิงลี่หวางยังเปื้อนคราบเลือดบนตัวของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม นางทอดถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้าเพียงแต่ถูกเจ้าคนผู้นี้หลอกลวงก็เท่านั้น ไม่ได้ร่วมมือกับเขา”
“เอ๊ะ?” ตี้ฝูอีเข้าใกล้นางอย่างช้าๆ “แต่ข้าได้ยินว่าเรื่องราวเลวร้ายไร้ซึ่งศีลธรรมของเขาล้วนเป็นเจ้าที่สั่งสอน อย่างเช่นใช้วิชากู่ควบคุมสี่ทูตและสานุศิษย์สวรรค์คนอื่น หรืออย่างเช่นการทำกำแพงวิญญาณอาฆาต…”
เขากวาดตามองหน่วยกล้าตายที่ถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างแวบหนึ่ง “แม้แต่การฝึกฝนวิชาชั่วร้ายของคนเหล่านี้ก็เป็นเจ้าที่สั่งสอน!”
เซียนหญิงลี่หวางกล่าวด้วยสีหน้าดุดัน “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกล่าวผิดแล้ว ข้าคือเซียนหญิงที่ดินแดนเบื้องบนส่งลงมา และยังเป็นฮูหยินท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่มีหน้าที่ทำให้โลกใบนี้ผาสุก ไม่มีทางทำเรื่องโหดร้ายไร้คุณธรรมเยี่ยงนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกลอุบายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม ข้าถูกเขาหลอกใช้ รู้สึกเสียใจยิ่งนัก…”
“พูดจาเหลวไหล!” มู่เฟิงลุกขึ้นยืน “เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ้าเป็นผู้ใช้วิชาที่ควบคุมพวกข้าด้วยตัวเอง!”
“ใช่แล้ว! พวกข้าถูกเจ้าควบคุมมาตลอด เห็นการกระทำของเจ้าด้วยตัวเอง!” มู่เหลยก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
เซียนหญิงลี่หวางขบเม้มริมฝีปาก นางทอดถอนใจ “ข้าใช้วิชาเซียนบางอย่างได้จริง ทว่าไม่ใช่วิชาควบคุมคน เป็นวิชาที่เพิ่มพูนพลังวิญญาณของพวกเจ้าได้ ใครจะรู้ว่ากู่ที่เจ้าตัวปลอมผู้นั้นสร้างขึ้นมาเอง เมื่อรวมเข้ากับวิชาเซียนของข้าแล้วกลับกลายเป็นวิธีการควบคุมพวกเจ้าอย่างหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่ทราบ คิดว่าพวกเจ้ายินยอมพร้อมใจอยู่ข้างกายเขา…เขาไม่ได้พูดเรื่องเหล่านั้นที่เขากระทำกับข้าทั้งหมด ข้าไม่รู้เลยแม้แต่น้อย…”
นางอาศัยการสังหารเจ้าตัวปลอมนั้นแล้วปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่เขา “แน่นอนว่า ข้าเห็นว่าเขาทำเกินไปอยู่บ้างในบางเรื่อง ทว่าเขาบอกว่าทำการใหญ่มิควรคิดเล็กคิดน้อย ในเมื่อจุดมุ่งหมายท้ายที่สุดแล้วเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสังเวยชีวิตผู้คนบ้างเล็กน้อย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น