ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1498-1509

 ตอนที่ 1498 ล้มทับ…จับกิน


เหมยเหมยได้ใจอย่างมาก เหยียนหมิงซุ่นติดกับสำเร็จแล้ว…ต่อไป–


เริ่มทานมื้อใหญ่ได้เลย!


“ที่รัก…ฉันอยากกินพี่…”


เหมยเหมยผละออกจากเขา วันนี้เธอเป็นฝ่ายรุก เธอจะเป็นเจ้าหญิงคอยบงการ…


เหยียนหมิงซุ่นใจวูบโหวงแปลก ๆ เมื่อไม่ได้สัมผัสรสชาติหอมหวานต่อกำลังจะลิ้มรสอีกก็ตัวสะท้าน…ก้มมองด้วยความแปลกใจแต่ทำเอาลูกตาแทบกระเด็นออกมา


แต่ไม่นานก็ขบคิดอะไรต่อไม่ได้…จึงหลับตาลงครางเสียงออกมาอย่างสบาย


สวรรค์บนดินก็แค่นั้นแหละ!


เสียงครางหอบที่แว่วมาจากเหนือศีรษะเป็นพัก ๆทำเอาเหมยเหมยได้ใจยิ่งกว่าอะไร…


ดูสิว่าเหยียนหมิงซุ่นจะกลั้นอยู่ไหม!


ดวงตาเหยียนหมิงซุ่นเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ต่อให้ตอนนี้ฟ้าจะสล่มดินจะสลายก็หักห้ามความกระหายที่เขาอยากกลืนกินหญิงสาวตรงหน้านี้ไม่ได้แล้ว…


ส่งเสียงคำรามทุ้มต่ำออกมาทีหนึ่ง…


เขาช้อนตัวเหมยเหมยขึ้น…โยนลงบนเตียง…


“ที่รัก…รีบมากินฉันสิ…”


เหมยเหมยยิ้มหวานสายตาหยาดเยิ้มกึ่งนั่งกึ่งนอนอย่างเกียจคร้าน ตัวเอนเอียงน้อย ๆ ขับให้ดูเย้ายวนเกินบรรยาย…เธอหัวเราะคิกคักกระดิกนิ้วใส่เหยียนหมิงซุ่น…


เหยียนหมิงซุ่นกลืนน้ำลายหลายทีแต่ไม่สามารถแก้กระหายได้เลย เขาเพิ่งกระโจนขึ้นเตียงได้ไม่นาน ใบหน้าอันน่ารำคาญใจของจ้าวอิงหัวปรากฎอยู่ตรงหน้าทันที…


แล้วก็จ้าวเสวียหลินที่น่ารำคาญยิ่งกว่านั่นด้วย!


“เหยียนหมิงซุ่น…แกจะเป็นคนที่ไม่รักษาคำพูดเหรอ?” เสียงคำรามของจ้าวอิงหัวดังขึ้นข้างหู เรียกให้เหยียนหมิงซุ่นสงบสติลงทันทีนึกโกรธตัวเองทำไมถึงได้สูญเสียการควบคุมได้?


เรื่องที่รับปากไว้ก็ต้องทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นหลังจากนี้ไปคำพูดของเขายังจะมีความน่าเชื่อถืออยู่อีกหรือ?


เหยียนหมิงซุ่นก่นด่าตัวเองรอบที่หมื่น สูดหายใจลึก ๆหลายทีเตรียมถอยทัพกลับเมือง


“พี่หมิงซุ่น…รีบมาสิ…”


เหมยเหมยพึมพำเสียงเบา เจ้าตัวฟุบอยู่บนเตียงเหมือนแมวตัวเล็กแต่ดวงตาแทบจะลืมไม่ไหวอยู่รอมร่อ แต่ก็ยังไม่ลืมภารกิจสำคัญอย่างการยั่วยวนอีก


เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะระอา สภาพนี้ต่อให้เขาไม่รักษาคำพูดก็กินไม่ลงอยู่ดี!


ช่างเป็นยายเด็กโง่จริง ๆ!


อยากยั่วเขาแต่ดันมอมตัวเอง!


เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างหงุดหงิดพลางอุ้มเหมยเหมยที่เมาแล้วเข้าไปในผ้าห่ม ในขณะที่สาวน้อยยังพึมพำเองไม่หยุด “…ฉันไม่ใช่ถั่วแขก…พี่หมิงซุ่นชอบฉันจะตาย…จะต้องกินเขาให้ได้!”


เธอยังกำหมัดเล็ก ๆเหมือนให้คำสาบานด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง “…กินเข้าไป…กินให้สิ้นซาก…”


“ฟู่ว!”


เหมยเหมยพลิกตัวทีแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราไป!


ไปกินในฝันแล้วกัน!


ฉิวฉิวที่อยู่นอกหน้าต่างตะกุยกรงเล็บอย่างโมโห…ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย!


เกือบจะสำเร็จแล้วแต่ดันพลาดท่าเสียก่อน!


โอ๊ย…โมโหเหลือเกิน…เขาจะต้องไปหากระรอกตัวเมียสักตัวมาระบายโกรธ!


เหยียนหมิงซุ่นนึกสงสัยอย่างมาก ถั่วแขกอะไรกัน?


เขาก้มมองสาวน้อยที่หลับใหลราวกับหมูตัวน้อย ผิวเนียนละเอียด จุดที่ควรแบนก็แบน จุดที่ควรนูนก็นูน…แม้ไม่ได้มีมากเหมือนโฮ่วเซิ่งหนานแต่เขารู้สึกว่ากำเหมาะมือดีที่สุดแล้ว


ใหญ่เหมือนแม่พันธุ์วัวนมมันสวยตรงไหน?


เหมยเหมยไปฟังคำไร้สาระพวกนี้มาจากไหน?


มิน่าหลายวันนี้ถึงอยากรีบแต่งงานถึงขั้นกล้ายั่วเขา โง่จริง ๆเลย!


เหยียนหมิงซุ่นจุ๊บริมฝีปากแดงฉ่ำเหมือนดอกกุหลาบด้วยความรักใคร่ที พูดเสียงเบา “…มีแค่เธอที่ทำให้ฉันกระหายได้…ที่รัก…”


เขาห่มผ้าบางๆ ให้เหมยเหมยที่นอนหลับสนิทไปแล้ว เกรงว่าโยนเธอไปไว้ในสวนก็คงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างระอา จุดไฟแล้วก็นอนตายเหมือนหมู แต่เขายังต้องดับไฟในตัวอยู่นี่สิ


ก็ได้…ไปอาบน้ำเย็นเสียหน่อยแล้วกัน!


…………………….


ตอนที่ 1499 เธอคือถั่วลันเตาอ่อน


ฝันถึงภาพสองเราร่วมรักกันตลอดทั้งคืน!


เหมยเหมยถูกเสียงนกน้อยผู้ขยันขันแข็งปลุกให้ตื่นจากความฝันแล้วบิดขี้เกียจไปมา แสงอาทิตย์ยามเช้าสอดส่องผ่านม่านผืนบางเข้ามากระทบเตียง เป็นเช้าที่สดใสดีจริง ๆ


เธอยื่นมือออกไปข้าง ๆตามสัญชาตญาณแต่กลับว่างเปล่า


ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้งตามด้วยความเขินอายที่เพิ่งโผล่มารายงานตัว นึกถึงความใจกล้าเมื่อคืนเหมยเหมยก็มุดเข้าผ้าห่มอีกครั้ง ไม่อยากออกไปเลย


แต่ว่า–


ไม่นานเธอก็สังเกตถึงความผิดปกติ


ไม่มีความรู้สึกปวดเมื่อยเหมือนถูกรถถังทับ ร่างกายสบายดียิ่งกว่าอะไรเหมือนทุกอย่างปกติสุขดี


ถึงรถถังทับใส่ออกจะเกินจริงสักนิดแต่ถ้าเธอกินเหยียนหมิงซุ่นไปแล้วจริง ๆ ไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกอะไรสักนิดหรือเปล่า?


เหมยเหมยเลิกผ้าห่มเห็นผ้าปูเตียงสะอาดเหมือนซื้อใหม่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลือด ไม่มีแม้แต่เส้นผมด้วยซ้ำ!


เธอใจดิ่งวูบรีบพูดปลอบตัวเอง เธอฝึกฉีกขาทุกวี่วันไม่แน่ชั้นเยื่อพรหมจรรย์อาจขาดนานแล้ว ไม่มีเลือดออกมาถึงจะปกติ ใจเย็น…ต้องใจเย็น!


“ฉิวฉิว…แกรีบกลับมานะ!”


เหมยเหมยจำต้องขอความช่วยเหลือคุณชายฉิว เธอรู้ว่าเมื่อคืนเจ้ากระรอกลามกตัวนี้ต้องแอบฟังอยู่นอกกำแพงแหง เพื่อให้รู้ว่าตัวเองได้ทานมื้อใหญ่สมใจหรือไม่ ต่อให้ลำบากใจแค่ไหนก็ต้องถาม


คุณชายฉิวดูเหนื่อยล้าเล็กน้อยหลังออกกำลังกายกับกระรอกตัวเมียแสนสวยที่เพิ่งตามจีบมาตลอดคืน มุดออกมาอย่างเกียจคร้านแล้วมองเหมยเหมยด้วยสายตานิ่งเฉย


“ไม่ต้องถาม…กินหรือไม่กินเธอไม่รู้ตัวสักนิดเหรอ?”


ฉิวฉิวส่งสายตาดูถูกดูแคลนให้เหมยเหมยแวบหนึ่ง คร้านจะสนใจเจ้านายที่ใช้ไม่ได้คนนี้อีก ไปเล่นกับไก่ตัวเมียสวนหลังบ้านยังสนุกกว่า


เหมยเหมยนิ่งชะงักไปชั่วขณะและใจหายวาบทันควัน!


หรือว่าเธอคือถั่วแขกจริง ๆ?


เธอกระโจนเข้าหาขนาดนั้นแล้วทำไมพี่หมิงซุ่นถึงไม่ยอมกินเธอ?


เหยียนหมิงซุ่นกลับมาจากวิ่งออกกำลังยามเช้าแล้ว วันนี้เขาวิ่งไปห้ากิโลเมตร ช่วยไม่ได้ ไฟในตัวร้อนแรงเกินไป


“เหมยเหมยยังไม่ตื่นเหรอ?”


ไม่เจอใครในห้องนั่งเล่นเหยียนหมิงซุ่นเลยถามป้าฟาง ป้าฟางส่ายศีรษะไปมา


เหยียนหมิงซุ่นนึกแปลกใจหน่อย ๆ แม้หล่อนจะชอบนอนตื่นสายแต่ก็ไม่เคยตื่นสายขนาดนี้มาก่อน หรือว่ายังไม่หายจากอาการเมา?


เขาไม่ค่อยวางใจเท่าไรเลยเดินไปที่ห้องนอนพบว่าผ้าห่มนูนขึ้นเป็นก้อน เพียงแต่เขาหูดีว่องไวได้ยินเสียงร้องไห้กระซิกเบา ๆ พลันก็สีหน้าเปลี่ยนไปก้าวเท้ายาวเข้าไปเปิดผ้าห่มออก กลับเห็นเหมยเหมยน้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงตาแดงราวกับกระต่าย ตัวกระตุกขึ้นลง


เหยียนหมิงซุ่นจับหน้าผากเธอด้วยความเป็นห่วง อุณหภูมิปกติเลยเบาใจลงเล็กน้อย เห็นท่าทางน่าสงสารของเหมยเหมยก็นึกสงสารอยู่บ้างแต่รู้สึกขบขันเสียมากกว่า


“ปวดหัวล่ะสิ? ดูสิว่าหลังจากนี้เธอจะดื่มเหล้าอีกมั้ย? ปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรื่อย ๆนะ กล้ากระดกไปถึงครึ่งขวด!” เหยียนหมิงซุ่นให้ป้าฟางชงน้ำผึ้งมาให้แก้วหนึ่งก่อนจะอุ้มเหมยเหมยมาป้อนเธอ


เธอรู้สึกกระหายเข้าจริง ๆซึ่งน้ำผึ้งละลายน้ำรสชาติหวานถูกใจเธอพอดีเลยดื่มหมดแก้วทีเดียว ทว่าน้ำตากลับไหลลงมาอย่างใช้ไม่ได้ พอได้ยินเสียงตำหนิของเหยียนหมิงซุ่นอีกก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ


“ฉันดื่มไปครึ่งขวดยังไม่เกิดผล…ฮือ…ฉันคือถั่วแขก…”


เหมยเหมยซบอกเหยียนหมิงซุ่น เสียงร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาเปื้อนเสื้อเหยียนหมิงซุ่นอาบชุ่ม


“ใครว่าเธอเป็นถั่วแขก? ทั้งที่เป็นถั่วลันเตาอ่อนสดใหม่น่ากินชัด ๆ!” เหยียนหมิงซุ่นกลั้นหัวเราะพูดปลอบ


“พี่ก็เก่งแต่โกหกฉัน…ถ้าฉันคือถั่วลันเตาอ่อนจริง ๆ ทำไมพี่ไม่ยอมกินฉัน? เมื่อคืนฉันทำขนาดนั้นแล้ว พี่ก็ยังไม่กินฉัน…เพราะฉันเป็นถั่วแขกพี่ถึงไม่ชอบกิน…คนเลว…”


เหมยเหมยยอมเชื่อเสียที่ไหนพลางเอามือหยิกเนื้อตรงหน้าอกของเหยียนหมิงซุ่นแรง ๆ แต่หยิกไม่โดนเนื้อกลับเมื่อยเล็บมือเสียมากกว่า เธอจึงเปลี่ยนไปใช้ฟันซี่เล็กงับแทนด้วยความโกรธ


กัดให้ตายไปเลย!


ตอนที่ 1500 ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษ


เหยียนหมิงซุ่นสะทกสะท้านกับการจู่โจมของเหมยเหมยสักนิด เพียงแต่กลัวจะทำฟันคมซี่เล็กของเธอหัก เขาเลยอุ้มเหมยเหมยขึ้นมาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้แห้งแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เมียพี่จะเป็นถั่วแขกได้อย่างไร? คนที่พูดคำนี้ต้องอิจฉาเธอแน่ ๆ อย่าไปฟังหล่อนพูดจาเหลวไหล!”


เหมยเหมยไม่ได้กล่อมง่ายเหมือนอย่างเคยแต่จับประเด็นนี้ไว้ไม่ยอมปล่อย


“แล้วทำไมพี่ไม่…อันนั้นกับฉัน?”


เหยียนหมิงซุ่นปวดหัวเหลือเกิน นี่อาการป่วยกำเริบหรือไง?


“เรายังไม่ได้แต่งงานทำอย่างนั้นจะเป็นการทำร้ายเธอได้ เราเก็บเรื่องนี้ไว้ตอนแต่งงาน เธอไม่คิดว่ามันจะมีความหมายมากกว่าเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดเกลี้ยกล่อมภรรยาด้วยความฝืนใจ ด่าสองพ่อลูกจ้าวอิงหัวในใจไม่เหลือชิ้นดี


“ไม่เอา พี่ไม่ยอมทำต่างหากถึงเป็นการทำร้ายฉัน…พี่หมิงซุ่น…ฉันไม่เก็บไว้ตอนแต่งงานแล้ว ฉันจะเอาตอนนี้!”


เหมยเหมยที่เป็นเด็กดีเชื่อฟังมาตลอดเริ่มเอาแต่ใจ แต่ถ้อยคำของเธอดันทิ่มแทงหัวใจส่วนลึกของเหยียนหมิงซุ่นเข้าทุกประโยคจนเกิดความรู้สึกร่วม!


แต่มันทำไม่ได้ไง!


เหยียนหมิงซุ่นกัดฟันนึกอยากเกลี้ยกล่อมภรรยาตัวน้อยอีก เหมยเหมยเริ่มน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง


“พี่ไม่ชอบฉัน…โฮ่วเซิ่งหนานยังบอกเลยว่าเพราะฉันไม่มีแรงดึงดูดต่อพี่ พี่ถึงไม่ยอมกินฉัน!”


เหมยเหมยพูดเสียงสะอื้น


เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเคร่งขรึม ที่แท้ก็ผู้หญิงคนนี้นี่เองที่เป็นตัวการเบื้องหลัง!


ไม่ได้สนุกมาหลายวันแล้ว!


ตอนนี้รีบโอ๋ภรรยาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่คราวนี้ไม่ว่าโอ๋เหมยเหมยอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นพูดอะไรก็ไม่ยอมฟังเอาแต่บอกให้เขาใช้การกระทำพิสูจน์!


เมื่อโดนบีบบังคับจนระอาเหยียนหมิงซุ่นเลยจำต้องบอกความจริงไป


“เหมยเหมย…ฉันสัญญากับเธอพ่อไว้แล้วยังเขียนคำสาบานไว้ด้วยว่าหลังเรียนจบถึงจะแต่งงานได้ และห้ามล่วงเกินเธอ เธอไม่อยากให้ฉันกลายเป็นคนผิดคำพูดหรอกใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มขมขื่น


เหมยเหมยเบิกตากว้างด้วยความตกใจและน้ำตาก็เหือดแห้งทันที


“พ่อฉันบังคับให้พี่เขียนคำสาบานด้วยเหรอ?”


“แล้วก็พี่ชายเธอด้วย!” แอบใส่ร้ายว่าที่พี่ชายภรรยาในอนาคต


เหมยเหมยโกรธจนได้แต่กัดฟันกรอด ที่แท้ตัวต้นเหตุอยู่นี่เอง!


พ่อและพี่ชายที่แสนดีของเธอทำเรื่องบ้าบออะไรอยู่ กลับไปค่อยคิดบัญชีกับพวกเขา!


จ้าวอิงหัวที่กำลังประชุมงานอยู่เมืองจินตัวสะท้านเฮือกกะทันหัน เหลือบมองไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่งตามสัญชาตญาณก็พบว่าท้องฟ้าสดใสไร้เมฆ ซึ่งไม่มีแม้แต่นิดเดียวแล้วลมพัดมาจากไหน?


เช่นเดียวกันกับจ้าวเสวียหลินที่กำลังทำภารกิจอยู่แถบชายแดนทางใต้ จู่ ๆก็รู้สึกถึงลมวาบหวิวเหมือนพ่อของเขา เพียงแต่เขาไม่ได้เก็บมาคิดมาก


พอรู้เรื่องลำบากใจที่เหยียนหมิงซุ่นไม่จัดการกินเธอเหมยเหมยก็สบายใจขึ้นมาก แต่เธอก็ไม่พอใจอยู่ดีเพราะโฮ่วเซิ่งหนานไม่รู้นี่นา!


จะให้เธอวิ่งโร่ไปบอกต่อหน้าโฮ่วเซิ่งหนานว่าที่เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมจัดการกินเธอเพราะเขียนคำสาบานไว้งั้นเหรอ?


ไม่ได้เด็ดขาด!


ฉะนั้นแผนการ ‘จับกินอินทรี’ นี้ต้องดำเนินต่อไป!


จะให้โฮ่วเซิ่งหนานดูถูกเธอไม่ได้!


เหมยเหมยหลอกลูกตาไปมาและมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เธอสวมเสื้อผ้าไปก็ถามไป “พี่เขียนอะไรในนั้นบ้าง?”


เหยียนหมิงซุ่นเห็นว่าเธอไม่เป็นไรแล้วเลยไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำอย่างสบายใจ พลางถอดเสื้อไปตอบกลับไป “ไม่มีอะไร แค่รับปากว่าห้ามกินเธอ!”


เหมยเหมยครุ่นคิดแล้วถามอีก “แค่รับปากว่าพี่จะไม่กินฉันใช่ไหม?”


“ใช่!”


เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดอะไรมากแค่ถอดเสื้อผ้ามุดเข้าห้องน้ำก่อนจะปิดประตู


เหมยเหมยได้คำตอบที่ต้องการก็ดวงตาเป็นประกาย เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ทีหนึ่งแล้วสวมเสื้อผ้าวิ่งไปถามหน้าประตูห้องอาบน้ำเสียงดัง “พี่หมิงซุ่น วันเกิดเดือนหน้าพี่อยากได้ของขวัญอะไร?”


เสียงสายน้ำแว่วออกมา “ขอแค่ได้จากเหมยเหมยพี่ก็ชอบหมดแหละ!”


“อืม ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษเลย!”


เหมยเหมยฮัมเพลงราวกับเสียงนกกระจาบฝนเดินไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำข้างนอก เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะออกมา ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะราวกับเด็กน้อยเลย!


……………………


ตอนที่ 1501 นาฬิกาข้อมือดิสนีย์?


วันเกิดของเหยียนหมิงซุ่นคือเดือนธันวาคมซึ่งก็คือเดือนถัดไป วันเกิดของฉีฉีเก๋อกลับอีกไม่กี่วันนี้แล้ว


“ฉีฉีเก๋อ นี่ของขวัญวันเกิดจากฉัน วาดได้ไม่ดี เธออย่ารังเกียจนะ” เหมยเหมยหยิบรูปที่เธอวาดเสร็จไว้นานแล้วออกมาจากกระเป๋า


นี่เป็นรูปที่เธอวาดให้ฉีฉีเก๋อ อีกทั้งยังเป็นรูปวาดสีน้ำมันที่เธอไม่ค่อยวาดเท่าไร ระดับฝีมือการวาดสีน้ำมันของเหยียนซินหย่าไม่เลวเหมยเหมยจึงได้เรียนรู้อยู่ระยะหนึ่ง เธอคิดว่าองค์ประกอบทั้งห้าของใบหน้าฉีฉีเก๋อมีสัดส่วนชัดเจน การใช้สีน้ำมันวาดดูเหมาะสมกว่าสักหน่อย


ฉีฉีเก๋อรับรูปวาดมาด้วยความตกใจ รูปนี้น่าจะสักฟุตหนึ่งได้ สีสันสดใสเห็นได้ชัดว่าเพิ่งวาดเสร็จไม่นาน บนรูปเป็นหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนตัวเองไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งนั่นคือตัวเธอเอง


“เหมยเหมย…ขอบคุณนะ นี่เป็นของขวัญล้ำค่าชิ้นที่สองที่ฉันได้รับเลย ฉันจะเก็บมันไว้อย่างดี!”


ฉีฉีเก๋อดีใจอย่างมาก ถือรูปไว้ดูอย่างไรก็ดูไม่เบื่อ


เหมยเหมยที่พะวงใจอยู่นั้นค่อยโล่งอกไปที ยิ้มกล่าว “เธอชอบก็พอ ตอนแรกฉันยังกลัวว่าจะวาดไม่ดี เธอจะไม่ถูกใจเสียอีก!”


“จะวาดไม่ดีได้อย่างไร ถึงฉันไม่รู้เรื่องการวาดแบบตะวันตกแต่ก็คิดว่าดี เหมยเหมยเธอเก่งจริง ๆเลย ไม่ใช่แค่วาดรูปสไตล์จีนเป็นยังวาดแบบตะวันตกได้ด้วย ไหนจะวาดหนังสือการ์ตูนอีก เต้นก็เก่ง…ภาษาอังกฤษก็พูดได้ดี ฉันไม่รู้เลยว่าเธอทำอะไรไม่เป็นอีกบ้าง!”


ฉีฉีเก๋อพูดชมด้วยความจริงใจไม่มีความริษยาแอบแฝงสักนิดเดียว


“ไม่ได้เก่งถึงขนาดที่เธอพูดหรอก ฉันยังมีอีกเยอะเลยที่ทำไม่ได้!” เหมยเหมยฟังแล้วก็หัวเราะแต่แอบได้ใจอยู่หน่อย


ชาติที่แล้วเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเลยโดนคนด่าว่าไร้ประโยชน์ทุกวี่วัน พัฒนาการของเธอในตอนนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าคิดกล้าฝัน ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่เพิ่งกลับมาแรก ๆเธอเองยังไม่กล้าคิดเลย ขอแค่สอบผ่านหกสิบคะแนนก็พอ!


หวนนึกถึงตัวเองที่แสนโง่เขลาในอดีต เหมยเหมยก็อดหัวเราะไม่ได้ เรื่องราวบนโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปเสมอ ไม่ผิดเลยจริง ๆ


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับพวกสีอันน่าก็เข้ามาชื่นชมด้วยไม่กี่ประโยค แน่นอนว่ามีเพียงเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่จริงใจ สีอันน่านั้นอิจฉาริษยาจนแทบตายอยู่แล้ว


สวีจื่อเซวียนกับเจิ้งเสวียซานก็ปรายตามองแวบหนึ่งจนนึกอิจฉาริษยายิ่งกว่า ไม่คิดว่าเหมยเหมยจะวาดรูปแบบตะวันตกได้เก่งขนาดนี้ แล้วทำไมต้องเอามายั่วยุพวกเธอที่ชั้นเรียนศิลปะจีนด้วย เอาไปห้องศิลปะสีน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ?


ช่วงนี้ถังม่านลี่ศึกษารูปวาดตะวันตกอยู่พอประมาณเพราะได้รับผลกระทบจากใครบางคน เธอแสร้งกวาดตามองรูปวาดของฉีฉีเก๋อไม่กี่ทีก่อนจะจงใจพูดว่า “ถ้าจะให้ฉันพูดก็งั้น ๆแหละ การใช้สี เงา สัดส่วน…ไม่เชี่ยวชาญเลย เทียบกับพอลไม่ได้ด้วยซ้ำ ห่างชั้นกันราวฟันกับดิน!”


เหมยเหมยใจเต้นตึกตัก พอล?


มหาวิทยาลัยปักกิ่งจะมีสักกี่คนที่ชื่อพอล?


ฉีฉีเก๋อผลักถังม่านลี่ออกแล้วเก็บรูปวาดอย่างระมัดระวังพร้อมพูดเสียงตำหนิ “เธอไม่รู้เรื่องศิลปะตะวันตกก็อย่ามาพูดจาอวดเก่ง หลีกไป!”


“ฉันจะไม่รู้ได้ไง พอลเรียนวาดรูปสีน้ำมันมาสิบกว่าปี วาดดีกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า!” ถังม่านลี่จงใจสะบัดมือเพื่อโชว์นาฬิกาดิจิตอลบนข้อมือที่ขาวขึ้นมากของเธอ


เพียงแต่ดูจากงานฝีมือแสนชุ่ยนั้นก็รู้แล้วว่าเป็นสินค้าราคาถูกจากฮ่องกง เมืองหนานผิงมีตลาดขายส่งเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาหนึ่งถึงสองหยวนต่อเส้น อยากได้มากแค่ไหนก็มีมากเท่านั้น ต่อให้มาถึงเมืองหลวงราคาก็ไม่มีทางเกินสิบหยวนได้หรอก


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหลุดขำพลางจงใจกล่าว “แหม…ช่วงนี้รวยเหรอ ใส่นาฬิกาข้อมือดิจิตอลด้วย ใช่ของดิสนีย์หรือเปล่า?”


“ของดิสนีย์นั่นแหละ เธอดูสิตรงนี้มีตัวอักษรย่อว่าดิสนีย์ด้วยนะ พอลบอกว่านี่เป็นแบรนด์ดังระดับโลก ราคาตั้งหลายร้อยแหนะ!” ถังม่านลี่ดูได้ใจเหลือเกิน


ในที่สุดก็เอาคืนได้สักที!


ตอนที่ 1502 ของปลอม


“ฉันขอดูหน่อย ป้ายอยู่ไหน? จะว่าไปฉันไม่เคยใส่นาฬิกาข้อมือของดิสนีย์เลย ให้ฉันได้เห็นเป็นบุญตาหน่อยสิ!”


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดยิ้มกริ่มแต่แววตาดูถูกในสายตานั่นแทบจะเก็บไม่อยู่แล้ว


ถังม่านลี่กลับไม่รู้สึกแต่อย่างใดพลางชูแขนขึ้นสูง จับฝาพลาสติกแล้วอ่านตัวอักษรย่อตรงขอบเรือนออกมาเสียงดัง “อ่ะ อยู่นี่ DSN เห็นหรือยัง!”


นาฬิกาข้อมือนี้เป็นของขวัญวันเกิดที่พอลมอบให้เธอ เพื่อเป็นการตอบแทนเธอจึงมอบเรือนร่างอันสวยงามของเธอให้ เมื่อคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้วพอลยังพาเธอไปดูดาวแสนงดงามบนภูเขานอกชานเมืองด้วย


ท้องฟ้าคือผ้าห่ม พื้นดินคือเตียง เธอกับพอลได้ใช้ค่ำคืนสุดโรแมนติกด้วยกันอย่างมีความสุข


ต้องบอกเลยว่าผู้ชายตะวันตกเก่งกว่าผู้ชายชาวจีนเยอะ!


นี่เป็นข้อสรุปเดียวจากถังม่านลี่หลังได้เมามันไปทั้งคืน


เธอคิดว่าช่วงขาขึ้นของชีวิตใกล้มาถึงแล้ว พอลบอกว่ารอเธอเรียนจบก็จะพากลับไปแต่งงานที่บ้านเกิดเขาแล้วย้ายทะเบียนบ้านสำมะโนครัวของเธอไปด้วย อีกสามปีถังม่านลี่จะกลายเป็นผู้ชนะ เป็นเจ้าคนนายคนที่แม้แต่จ้าวเหมยยังต้องแหงนมอง!


เธอนึกเกลียดที่เวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน ถ้าให้ดีเรียนจบพรุ่งนี้เลยจะดีกว่า!


เหมยเหมยกวาดตามองถังม่านลี่ที่แต่งตัวจัดจ้านสวยเตะตาหลายทีพลันก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เสื้อผ้าเพิ่มขึ้นไม่น้อย ไหนจะดัดผมด้วยอีกต่างหาก ยิ่งกว่านั้นยังแต่งหน้าบาง ๆ ถังม่านลี่หน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอปรับโฉมสักหน่อยก็ดูดีมีออร่าขึ้นทันที สวยกว่าสีอันน่ามากโข


คำถามคือถังม่านลี่เอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ?


ไหนว่ายากจนไม่มีแม้แต่เงินซื้อเนื้อกินด้วยซ้ำ?


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดูป้ายยี่ห้อที่ถังม่านลี่ชี้ให้ดูจนชัดเจน ในที่สุดก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เอามือกุมท้องหัวเราะไม่หยุดจนน้ำตาเล็ด สีอันน่าเองก็มีสีหน้าเดียวกัน


สวีจื่อเซวียนกับฉีฉีเก๋อนึกแปลกใจไม่รู้ว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขำอะไร


ถังม่านลี่แสดงท่าทีไม่พอใจ “เธอหัวเราะอะไร? แน่จริงเธอก็ไปซื้อนาฬิกาดิสนีย์มาสักเรือนสิ!”


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าถมึงทึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาแล้วแค่นเสียงใส่อย่างไม่พอใจ “ถ้าเธอหมายถึงพวกโอเมก้าเฟรเดริก คองสตองต์ฉันซื้อไม่ไหวจริง ๆ แต่ดิสนีย์น่ะเหรอฉันใส่จนเบื่อไปตั้งแต่แปดร้อยปีก่อนแล้ว ดูสภาพยากจนของเธอสิ ฉันจะเปิดโลกให้เธอนะว่าแบบไหนถึงจะเป็นของดิสนีย์ ยังจะมี DSN อีก…ให้ตาย เธอยังจะสะกดให้ฟังอีก!”


คุณหนูใหญ่เหริ่นเปิดลิ้นชักของเธอออกมาเสียงดังแล้วค้นนาฬิกาข้อมือเรือนสีชมพูจากในบรรดาสิ่งของมากมายขึ้นมา หน้าตาดูคล้ายของถังม่านลี่แต่พอดูให้ละเอียดกลับเห็นความแตกต่างของคุณภาพอย่างชัดเจน


“เห็นชัดหรือยัง? นี่ต่างหากดิสนีย์ของแท้ ป้ายยี่ห้อของดิสนีย์คือ MIKEY ใช้กันทั่วโลก ไม่ใช่ DSN อะไรนั่นของเธอ…โอ๊ย หัวเราะจนปวดท้องไปหมดแล้ว!”


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโยนนาฬิกาดิสนีย์ของเธอไว้บนโต๊ะตรงหน้าถังม่านลี่แล้วเริ่มเอามือกุมท้องหัวเราะเสียงดังสะท้านฟ้าอีกครั้ง


ถังม่านลี่หน้าแดงดำสลับกันไปมาด้วยความโกรธ มือสั่นเล็กน้อย พลางหยิบของแท้ของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขึ้นมา พอได้จับดูเธอก็รู้ได้ทันทีว่าของตัวเองเป็นของปลอม


ความรู้สึกยามสัมผัสกับเนื้อผิวต่างกันชัดเจน รวมถึงน้ำหนักก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว


ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?


พอลให้นาฬิกาปลอมแก่เธอได้อย่างไรกัน?


ไม่มีทาง พอลต้องโดนหลอกเหมือนกันแน่ ๆ!


ถังม่านลี่พูดปลอบใจตัวเองไม่หยุด แต่เหตุผลแบบนี้แม้แต่เด็กอายุสามขวบยังไม่เชื่อ คุณชายผู้สูงศักดิ์ที่เติบโตอยู่ยุโรปตั้งแต่เด็กจะไม่รู้จักนาฬิกาดิสนีย์หรือไง?


นี่มันน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าเด็กชาวจีนที่ไม่รู้จักซุนหงอคงด้วยซ้ำ!


เห็นถังม่านลี่หน้าซีดเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ก่นด่าด้วยความโมโห “เธอคิดว่าต่างชาติรวยกันทุกคนหรือไง? ฉันจะบอกความจริงให้เธอรู้แล้วกันว่าคนต่างชาติที่มาประเทศเรา แปดเก้าในสิบคนคือยาจก บางทีบ้านเกิดเขายังสู้บ้านเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ!”


“ไม่จริง ครอบครัวพอลเปิดบริษัทใหญ่แล้วจะไม่มีเงินได้อย่างไร?” ถังม่านลี่พูดขัดเธอเสียงแหลม


………………….


 ตอนที่ 1503 เชื้อแพร่ระบาด


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยักไหล่ “ก็ได้ บางทีเธออาจจะโชคดีจับคนรวยได้คนหนึ่งจริง ๆก็ได้ ขอให้โชคดีแล้วกัน!”


เหอะ ถ้าครอบครัวของพอลเปิดบริษัทจริง เธอเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจะยอมอ้วนอีกสิบห้ากิโลกรัมเลย!


คนที่แม้แต่นาฬิกาข้อมือดิสนีย์ของแท้ยังไม่ซื้อให้จะเป็นคนรวยจริง ๆได้หรือ?


เด็กสามขวบยังไม่เชื่อเลย!


เมื่อกี้ถือว่าเธอหวังดีเลยพูดมากไปหน่อย หลังจากนี้เธอไม่สนหรอกว่ายัยบ้านนอกนี่จะไปตายที่ไหน!


สมแล้วที่โดนพวกฝรั่งหลอก!


ใกล้ถึงเวลาเรียนช่วงบ่ายแล้วเหมยเหมยเลยส่งสายตาให้ฉีฉีเก๋อแวบหนึ่ง ฉีฉีเก๋อเข้าใจจึงหยิบกระดานวาดภาพออกจากหอพักพร้อมกับเหมยเหมย เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลอกตาทีหนึ่งก่อนจะวิ่งตามไล่หลังมา


นับตั้งแต่หลายวันก่อนที่เหมยเหมยห้ามเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฉีกถุงน่องเปื้อนเลือดของโฮ่วเซิ่งหนาน คุณหนูใหญ่เหริ่นผู้นี้ก็มักเดินตามติดเหมยเหมยต้อย ๆ ทำเอาฉีฉีเก๋อไม่พอใจอย่างมาก รู้สึกว่าสาวอ้วนคนนี้จะแย่งเพื่อนสนิทของเธอไป


“ฉีฉีเก๋อ แฟนหนุ่มของถังม่านลี่ชื่อพอล? ทำงานอะไรเหรอ?” เหมยเหมยถาม


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแย่งพูดก่อน “เรื่องนี้ฉันรู้ พอลคนนี้คือครูต่างชาติของมหาลัยเรา หน้าตาพอเข้าวัดเข้าวาได้แต่ไม่ใช่คนดีเด่อะไร อนาคตถังม่านลี่ได้ร้องไห้แน่!”


พูดถึงตรงนี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็กัดฟันกรอด คนไร้ยางอาย ทำเอาขายขี้หน้าผู้หญิงชาวจีนหมด!


หากเธอเป็นแม่ของถังม่านลี่ต้องเอาไม้ท่อนใหญ่ฟาดให้ขาหัก จับขังที่บ้านไม่ให้ออกมาข้างนอก


ฉีฉีเก๋อถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งแล้วพูดเสริม “ก็พอลที่น่ารังเกียจคนนั้นไง วันนั้นยังสารภาพรักกับเธออยู่เลยแล้วก็มาคบกับถังม่านลี่แล้ว ผู้ชายหลายใจแบบนี้จะเป็นคนดีได้ไง!”


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหูตั้ง พอลเคยสารภาพรักกับดาวมหาวิทยาลัยด้วย?


โอ้ ข่าวใหญ่นี้คุ้มแล้วที่ไม่ได้ตามมาเสียเปล่า!


เหมยเหมยส่ายศีรษะไม่ถามอะไรอีก แม้เธอมั่นใจว่าถังม่านลี่จะต้องได้รับบาดแผลแต่เธอกลับไม่คิดจะสอดมือเข้าไปยุ่ง หวังดีแต่ไม่ได้ดี ไม่เห็นหรือไงว่าเมื่อกี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังว่าเลย!


อีกอย่างถังม่านลี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอสักนิด จะมีชีวิตที่ดีหรือไม่ดีแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?


“เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเคยเตือนแล้ว ถังม่านลี่ไม่ยอมฟังเองเราพูดมากไปก็เปล่าประโยชน์ ให้หล่อนไปชนกำแพงเองแล้วกัน ชนหลาย ๆทีหล่อนน่าจะกลับตัวกลับใจได้เองแหละ!” เหมยเหมยกล่าว


อย่างมากถังม่านลี่ก็อาจจะเสียตัวล่ะนะ เรื่องแบบนี้แม้จะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านบ้างแต่หลัก ๆขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของสภาพจิตใจเจ้าตัวล่ะ


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อต่างเห็นด้วยกันทั้งคู่ พวกเธอเป็นเพียงเพื่อนในมหาวิทยาลัย จะไปยุ่งอะไรมากได้เล่า!


เหมยเหมยกลับหยุดเดินกะทันหันและเผยสีหน้าจริงจังขึ้นมา


เมื่อกี้เธอฉุกคิดได้ว่าพอลต้องเคยมีความสัมพันธ์กับโฮ่วเซิ่งหนานแน่ อีกอย่างโฮ่วเซิ่งหนานยังตกเป็นผู้สงสัยที่ติดเชื้อ HIV หากถังม่านลี่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพอล ถ้าอย่างนั้น…


“ช่วงนี้ถังม่านลี่เคยออกไปค้างข้างนอกไหม?” เหมยเหมยทำสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนส่ายศีรษะ “ปกติอยู่ วันหยุดสุดสัปดาห์ฉันกลับบ้านเลยไม่รู้เท่าไหร่!”


“คืนวันเสาร์ที่แล้วถังม่านลี่เพิ่งกลับมาตอนฟ้าสว่าง เธอบอกว่าไปเที่ยวที่บ้านเกิด” ฉีฉีเก๋อกล่าว


เหมยเหมยใจหล่นวูบ ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ถังม่านลี่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพอล ถ้าอย่างนั้นเธออาจมีโอกาสติดเชื้อ HIV สูง เช่นนี้คนที่พักอยู่หอเดียวกันก็อันตรายแล้วล่ะ


ไม่ได้การแล้ว ต้องบอกเรื่องนี้ให้เหยียนหมิงซุ่นรู้


แล้วทำไมยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากทางโรงพยาบาลอีกล่ะ นี่ผ่านไปตั้งหลายวันแล้วน่าจะตรวจเชื้อ HIV ได้แล้วนี่นา?


“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ฉีฉีเก๋อกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสังเกตได้ถึงความผิดปกติของเหมยเหมยเลยเริ่มกังวลตาม


“ไม่มีอะไร ปกติพวกเธอก็ระวังตัวหน่อย อย่าเข้าใกล้ถังม่านลี่มาก โดยเฉพาะถ้าหล่อนได้รับบาดเจ็บหรือเป็นประจำเดือน พวกเธอก็อย่าเข้าใกล้หล่อน” เหมยเหมยพูดย้ำเตือน


ตอนที่ 1504 ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ


เหมยเหมยยังไม่กล้าฟันธงว่าโฮ่วเซิ่งหนานคือผู้ติดเชื้อ HIV ฉะนั้นเธอยังบอกพวกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปโต้ง ๆไม่ได้ หากว่าเธอเดาผิดก็เท่ากับใส่ร้ายโฮ่วเซิ่งหนาน เรื่องนี้ก็ไม่มีทางจบลงง่าย ๆ


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสงสัยแต่ฉีฉีเก๋อกลับไม่เข้าใจ “ทำไมบาดเจ็บหรือประจำเดือนมาแล้วเข้าใกล้ไม่ได้?”


“ตอนนี้ฉันยังพูดไม่ได้ อย่างไรก็ตามพวกเธอจำคำของฉันไว้ก็พอ ในช่วงนี้เลยต้องจำไว้ให้ดีนะ แล้วพวกเธอก็ช่วยบอกพวกสวีจื่อเซวียนด้วยแล้วกันว่าให้ระวังตัวหน่อย” เหมยเหมยไม่ไว้วางใจเลยพูดย้ำแล้วย้ำเล่า


แม้จะไม่ชอบนิสัยของพวกสวีจื่อเซวียนนัก แต่ในเมื่อไม่มีความแค้นลึกซึ้งใหญ่โตอะไร ก็จะพยายามเตือนแล้วกัน!


จะยืนมองพวกเธออยู่ใกล้อันตรายแต่ตัวเองกลับนิ่งดูดายไม่ได้ เหมยเหมยยังไม่ใจเหี้ยมถึงขั้นนั้น!


ฉีฉีเก๋อก็ยิ่งไม่เข้าใจจึงทำหน้างุนงง


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคล้ายจะนึกอะไรได้เลยสีหน้าเปลี่ยนไปหน่อย พลางยื่นมือข้างซ้ายของเธอออกมา แผลตรงนิ้วชี้ใกล้หายดีแล้วทิ้งรอยแผลเป็นสีน้ำตาลไว้


สัปดาห์ที่แล้วจ้าวเหมยก็ห้ามเธอเข้าใกล้มิสโฮ่วที่บาดเจ็บเลือดไหลอีก ทั้งยังแสดงท่าทางจริงจังมาก ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดมาก แต่พอตอนนี้นึกได้ว่าตอนนั้นสีหน้าจ้าวเหมยเองก็ดูท่าทางประหลาดมาก เฉกเช่นในเวลานี้


เริ่มแรกจ้าวเหมยถามว่าถังม่านลี่ได้ค้างข้างนอกหรือเปล่า แล้วถึงกำชับให้พวกเธออยู่ให้ห่างจากถังม่านลี่ โดยเฉพาะตอนบาดเจ็บกับประจำเดือนมา


บาดเจ็บกับประจำเดือนมีจุดคล้ายกันตรงไหนบ้าง?


ก็คือเลือด…


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนใจดิ่งวูบ เธอน่าจะเดาสาเหตุได้แล้วแต่เธอไม่กล้าฟันธงออกมาเลยมองเหมยเหมยอย่างหยั่งเชิงด้วยสายตาที่สื่อความหมายชัดเจน เหมยเหมยพยักหน้าให้เธอนิด ๆแล้วก็ส่ายศีรษะ


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเข้าใจความหมายของเหมยเหมยดีว่าสิ่งที่เธอเดาถูกต้อง แต่จ้าวเหมยไม่ให้เธอพูดออกไป


เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆหัวใจเต้นระส่ำเหมือนเดิมแต่กลับกังวลผิดปกติ เธอฟาดมือใส่ฉีฉีเก๋อที่ยังคิดจะซักถามต่อไปทีหนึ่ง “เธอจะถามอะไรเยอะแยะ? บอกให้เธออย่าเข้าใกล้ก็อย่าเข้าใกล้ จะพูดมากทำไม?”


ฉีฉีเก๋อลูบแขนปอย ๆอย่างน่าสงสาร ยัยอ้วนนี่แรงเยอะชะมัด!


ยังบอกว่ากินแต่หญ้าทุกวัน ต้องแอบกินเนื้อมาแน่ ๆ!


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มเห็นฟันให้เหมยเหมยแล้วพูดรับปาก “เธอสบายใจได้ ฉันจะจับตาดูยัยโง่นี้ไม่ให้คลาดสายตาเลย!”


เหมยเหมยค่อนข้างไว้ใจเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพอสมควร หญิงสาวผู้นี้แม้จะทำอะไรไม่เป็นที่น่าถูกใจอยู่บ้างแต่เป็นคนฉลาดหลักแหลมหัวไว นอกจากชอบอวดรวยที่ทำเอารู้สึกขยาดไปสักนิดแต่ไม่มีนิสัยเสียอย่างอื่น มีเธอคอยสอดส่องฉีฉีเก๋อคิด ๆดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร


แต่เรื่องของโฮ่วเซิ่งหนานจะชักช้าไม่ได้เด็ดขาด ต้องรีบจัดการให้ได้!


มิฉะนั้นผู้หญิงคนนี้ใช้ชีวิตส่วนตัวมั่วไปทั่วแบบนี้ ถ้ายิ่งชักช้าคนที่ตกเป็นผู้โชคร้ายก็ยิ่งมาก ไหนจะแพร่เชื้อไปเรื่อย ๆ อนาคตมหาวิทยาเมืองหลวงก่อตั้งเป็นหมู่บ้านโรคเอดส์ได้เลย


ณ ห้องทดลองแห่งหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเมืองหลวง


ศาสตร์จารย์ผมขาวโพลนคนหนึ่งในชุดเสื้อกาวน์สีขาว หน้ากาก ถุงมือเต็มยศ เขาเลื่อนตาออกจากกล้องจุลทรรศน์ด้วยสีหน้าหนักอึ้งอย่างมาก ราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับอยู่ในใจ


“เชื้อไวรัส HIV” ศาสตราจารย์อาวุโสถอดหน้ากากออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง


วัยรุ่นที่อยู่ข้าง ๆในชุดเต็มยศเช่นกัน ต่างสูดหายใจเฮือกหนึ่งแต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี


“ศาสตราจารย์ แต่พวกเราตรวจดูตั้งนานไม่พบเชื้อ HIV นี่นา!” นักศึกษานึกแปลกใจเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะเลือดที่ส่งมาในครั้งนี้แปลกเกินไปก็คงไม่กินเวลามาถึงตอนนี้แล้วยังหาข้อสรุปไม่ได้หรอก


“ไม่เจอไม่เท่ากับไม่มีอยู่ เพียงแต่ครั้งนี้เชื้อซ่อนตัวดีมากจนเราเกือบโดนมันหลอกเข้าให้ ตอนนี้มั่นใจได้แล้วว่าเจ้าของเลือดคนนี้คือผู้ติดเชื้อ HIV ที่ไม่แสดงอาการ” ศาสตราจารย์กล่าว


“ผู้ไม่แสดงอาการ? หรือว่าเจ้าตัวจะไม่มีอาการกำเริบ?”


“ไม่ใช่ว่าไม่กำเริบเพียงแต่เชื้อฟักตัวเป็นเวลานาน อาจจะห้าปีสิบปีหรือยี่สิบปี บางทีอาจจะมีสุขภาพแข็งแรงไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ แต่เธอกลับเป็นตัวพาหะชั้นดีเหมือนผู้ติดเชื้อคนอื่น ๆ” ศาสตราจารย์อธิบาย


……………………..


 ตอนที่ 1505 คำแถลงบนหนังสือพิมพ์


ทางคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเมืองหลวงรีบติดต่อเหยียนหมิงซุ่นโดยด่วน ที่แท้ตัวอย่างเลือดนี้เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนส่งให้เอง การจะได้เลือดโฮ่วเซิ่งหนานมามันง่ายยิ่งกว่าอะไร ขณะที่เหมยเหมยเกิดข้อสงสัยนี้เหยียนหมิงซุ่นก็สั่งให้ลูกน้องไปเก็บเลือดโฮ่วเซิ่งหนานมาก่อนจะส่งไปให้ทางคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเมืองหลวงตรวจ


เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นคาดไม่ถึงว่าผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่มีข้อสรุปอะไร เขายังนึกว่าเหมยเหมยเดาผิดเสียอีก


นี่ก็เป็นเหตุผลที่กระดาษเล็ก ๆแผ่นนั้นของเหมยเหมยหายเงียบไป คุณหมอคณะแพทย์ศาสตร์ได้ส่งเลือดไปตรวจแล้วจริงๆ แต่เพราะเลือดของโฮ่วเซิ่งหนานมีความพิเศษอย่างมากบวกกับ ณ เวลานี้ในประเทศยังไม่มีการศึกษาโรค HIV ลึกเท่าไร


ฉะนั้นหลังการตรวจเลือดครั้งแรกได้ผลเป็นลบ หรือเท่ากับตัวอย่างเลือดนี้ไม่มีเชื้อ HIV


คุณหมอผู้กระตือรือร้นคนนั้นถอนหายใจโล่งอกไปทีพร้อมก่นด่าเจ้าของกระดาษแผ่นเล็กนี้จนไม่เหลือชิ้นดี หลงคิดว่าเป็นการกลั่งแกล้งของนักศึกษาคนไหนเสียอีก!


เหยียนหมิงซุ่นได้รับการรายงานจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเมืองหลวงเลยไม่กล้าประมาทอีก เขาไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เหมยเหมยคาดเดาจะเป็นจริง


ยิ่งกว่านั้นเขารู้สึกรังเกียจมากกว่า


รังเกียจที่ตัวเองไปเข้าตาผู้หญิงสกปรกยิ่งกว่าน้ำในท่อน้ำเสียคนนี้!


ขณะเดียวกันนายใหญ่ก็นัดพบคุณปู่จ้าวที่ใช้ชีวิตกึ่งเก็บตัว เป็นการนัดพบกันโดยส่วนตัวที่คุณปู่จ้าวนึกขอบคุณอย่างมาก การพบเจอกันแบบนี้มีค่าสำหรับเขาในเวลานี้เหลือเกิน


รอคุณปู่จ้าวกลับไปเกิดสับสนทางอารมณ์อย่างมากและรู้สึกพะวงเต็มอก


แต่ไม่นานเขาก็ตัดสินใจแน่วแน่ ทุกอย่างที่เขาก็เพื่อความรุ่งเรืองของตระกูลจ้าว หลานสาวจะต้องเข้าใจ!


อีกอย่างตอนนี้หลานสาวยังเด็กจะเข้าใจความรักอะไรกัน อนาคตเขาค่อยหาคนที่ดีกว่าให้หลานสาว


คุณปู่จ้าวพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองไม่หยุดว่าเขาคิดถูกแล้ว เขาไม่ได้สติเลอะเลือนอย่างคุณย่า เขายังหวังดีต่อหลานสาวอยู่…


เหยียนหมิงซุ่นไปที่สวนฟาร์มก่อนเพราะเขาต้องปรึกษาเรื่องนี้กับเฮ่อเหลียนชิงสักประเดี๋ยว


เฮ่อเหลียนชิงดูสีหน้าไม่ค่อยดีเช่นเดียวกับเสี่ยวเมิ่งทำเอาเหยียนหมิงซุ่นแปลกใจอย่างมาก “นี่เกิดอะไรขึ้น? ใครทำให้พ่อบุญธรรมไม่พอใจเข้า?”


“หึ!”


เฮ่อเหลียนชิงพ่นลมทางจมูกหนัก ๆทีหนึ่งแล้วยังกลอกตาใส่เหยียนหมิงซุ่นอีกทีแต่ก็ไม่พูดสักที


เสี่ยวเมิ่งตอบ “เมื่อกี้จ้าวหวายซานมา”


“เขามาทำอะไร?” เหยียนหมิงซุ่นยิ่งสงสัยเพราะนับตั้งแต่ตระกูลจ้าว ล้มจ้าวหวานซานก็ถือว่าถอนตัวออกจากวงการแล้ว น้อยครั้งที่จะโผล่หน้าในที่สาธารณะ ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามาที่สวนฟาร์มเลย?


ต่อให้อยู่ในช่วงที่ตระกูลจ้าวกำลังได้ดิบได้ดีจ้าวหวายซานก็ไม่เคยมาเหยียบที่สวนฟาร์ม ครั้งนี้เขาเพื่ออะไรกัน?


เหยียนหมิงซุ่นชักสังหรณ์ใจแปลก ๆ ก่อนหางตาจะเหลือบเห็นหนังสือพิมพ์บนโต๊ะเตี้ย หัวข้อพาดข่าวชัดเจนมากเพราะเด่นหราอยู่หน้าหนังสือพิมพ์และจากสายตาคมปราดดุจเหยี่ยวของเขาไม่อยากเห็นก็ยากแล้วล่ะ


“หลานสาวจ้าวหวายซานจ้าวเหมย…”


แค่เริ่มต้นที่พูดถึงเหมยเหมยเหยียนหมิงซุ่นก็ยิ่งสังหรณ์ใจ พอเขาอ่านบทความทั้งหมดก็ยิ่งเดือดดาล ต้องพยายามระงับอารมณ์โกรธไว้ถึงไม่ฉีกหนังสือพิมพ์ทิ้ง


จ้าวหวายซาน!


เขาดูถูกมันเอง!


แอบทำการใหญ่เงียบ ๆแล้วยังเอามีดแทงข้างหลัง


ที่แท้คือจ้าวหวายซานได้ออกคำแถลงการณ์ผ่านหนังสือพิมพ์รายวันในเมืองหลวง ซึ่งความหมายโดยรวมคือหลานสาวของเขายังอายุน้อย ยังไม่คิดเรื่องแต่งงานและไม่มีคู่หมั้นที่ว่าแต่อย่างใด หากมีคนภายนอกแอบอ้างเป็นคู่หมั้นของจ้าวเหมยหรือกุข่าวลือเสียหาย ตระกูจ้าวจะไม่ยอมความอีกทั้งจะดำเนินคดีตามกฎหมาย


ชัดเจนว่าบทแถลงนี้เขียนมาให้เขาดู!


เฮ่อเหลียนชิงถามเสียงสูง “ยัยนั่นรู้เรื่องไหม?”


เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะทันที “เหมยเหมยไม่รู้อยู่แล้ว ต้องเป็นจ้าวหวายซานแอบทำลับหลังเธอ แต่จ้าวหวายซานทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน?”


“จะเพื่ออะไรได้อีกล่ะ? ต้องเป็นข้อตกลงร่วมของตาแก่จ้าวกับนายใหญ่ เหอะ คิดจะตลบหลังพวกเรา ไม่มีทาง!” เฮ่อเหลียนชิงพูดเสียงเล็กแหลมและสีหน้าถมึงทึง


ตอนที่ 1506 เอาคืน


เหยียนหมิงซุ่นกระตุกยิ้มเย็นชา ความจริงเขาไม่ค่อยรีบร้อนนักเพราะในเมื่อเหมยเหมยก็เป็นภรรยาของเขาอยู่ดี เป็นของเขาเพียงคนเดียว ใครก็เปลี่ยนความจริงนี้ไม่ได้!


แม้แต่นายใหญ่ก็ไม่สามารถทำได้!


นายใหญ่คิดว่าให้จ้าวหวายซานแถลงการณ์แบบนี้แล้วจะบีบบังคับให้เหมยเหมยตัดความสัมพันธ์กับตนได้หรือ?


เหอะ ดูถูกคนอย่างเหยียนหมิงซุ่นมากไปแล้ว!


อีกอย่างผู้หญิงสำส่อนอย่างโฮ่วเซิ่งหนานไหนยังเป็นผู้ติดเชื้อ HIV เขาเหยียนหมิงซุ่นยอมครองโสดตลอดชีวิตก็ไม่มีทางแต่งงานเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นภรรยาหรอก


สิ่งที่เหยียนหมิงซุ่นไม่รู้คือชีวิตในชาตินี้ของเขาได้ถูกเหมยเหมยเปลี่ยนไปแล้ว รอดพ้นจากภัยชีวิต


“เมียจะบินหายไปแล้วแกยังหัวเราะออกอีกเหรอ?”


เฮ่อเหลียนชิงเห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านของเหยียนหมิงซุ่นก็นึกโกรธ ทั้งที่เขาควรเป็นคนที่ใจเย็น แน่นิ่ง ไม่แม้แต่จะรู้สึกอะไรมากที่สุด แต่ตอนนี้ทำไมกลับกลายเป็นเขาที่กำลังโกรธเพียงคนเดียวล่ะ?


อับอายขายหน้าเหลือเกิน!


เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะ “พ่อบุญธรรมอย่าใจร้อนไป ผมกับเหมยเหมยความรักมั่นคงยิ่งกว่าทองคำ ไม่ว่าจะแผนชั่วร้ายไหนก็ไม่มีทางสำเร็จ นายใหญ่เสียแรงเปล่าแล้ว”


“ฉันใจร้อนอะไร? ใช้ตาข้างไหนเห็นว่าฉันใจร้อน? ฉันอยากให้แกถอนหมั้นกับยัยนั้นจะตาย…ฉัน…”


เฮ่อเหลียนชิงกระเด้งตัวขึ้นทันทีและลอบโกรธตัวเองที่เมื่อกี้แสดงอาการผิดปกติเกินไป


เสี่ยวเมิ่งกลอกตาที เมื่อกี้คนที่พ่นน้ำลายเต็มหน้าตาแก่จ้าวคือใครกัน?


ยังเขวี้ยงแก้วน้ำชาของสวนฟาร์มแตกไปตั้งสองใบแหนะ นั่นเป็นของบรรณาการชั้นยอด ทั้งสวนฟาร์มมีแค่ชุดเดียว แตกไปสองใบ ส่วนที่เหลือก็ใช้งานได้ไม่ดีแล้ว นายท่านไม่ปวดใจ เขายังปวดใจแทนแหนะ!


เหยียนหมิงซุ่นหลบน้ำลายที่พ่นออกมาจากปากใครบางคน สุขภาพดีแล้วมีแค่จุดนี้ที่ไม่ดีก็คือน้ำลายพ่นไกลกว่าปกติมาก!


“หรือว่าพ่อบุญธรรมอยากได้โฮ่วเซิ่งหนานมาเป็นลูกสะใภ้?” เหยียนหมิงซุ่นจงใจถาม


เสียงด่าทอหยุดชะงัก เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรพลางแค่นเสียงอยู่พักใหญ่ถึงตอบกลับ “ก็ไม่ใช่ โลกนี้ผู้หญิงตั้งมากมาย หาลูกสะใภ้ที่ถูกอกถูกใจสักคนไม่ยาก”


เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะทีแล้วเอาผลตรวจเลือดของโฮ่วเซิ่งหนานไว้บนโต๊ะ เฮ่อเหลียนชิงเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วถามด้วยความสงสัย “นี่อะไร?”


“พ่อบุญธรรมต้องดีใจที่ครั้งนี้ตัวเองรอด ไม่อย่างนั้นถ้าพ่อให้โฮ่วเซิ่งหนานแต่งเข้าบ้านมาจริง ๆ เหอะ พ่อกับพี่เมิ่งจะตายอย่างไรยังไม่รู้เลย!” เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่ได้พูดเกินจริงสักเท่าไร ต่อให้ไม่ได้ใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยากับโฮ่วเซิ่งหนาน แต่การใช้ชีวิตอยู่ใต้หลังคาเดียวกันใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่ติดเชื้อ?


เสี่ยวเมิ่งสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วหยิบผลรายงานขึ้นมาดูเพียงไม่กี่บรรทัดก็อ่านเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น พลันรู้สึกสะอิดสะเอียนใจเหมือนกลืนกินแมลงวันเข้าไป แต่ส่วนมากก็คืออารมณ์โกรธ


นี่เขาให้บุคคลอันตรายขนาดนี้เข้าใกล้นายท่านได้อย่างไร ช่างผิดต่อหน้าที่เหลือเกิน!


เฮ่อเหลียนชิงแย่งผลรายงานมาดูก็ทำหน้าบูดบึ้งเหมือนก้อนอุจจาระ เขารู้จักโรคเอดส์อยู่แล้วแต่เขายังไม่รู้ครอบคลุมดี ในความคิดเขานั้นคนที่เป็นโรคเอดส์ส่วนมากก็เพราะใช้ชีวิตแหลกเหลวเกินไป


แน่นอนว่าไม่ได้เข้าใจโฮ่วเซิ่งหนานผิดเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ใช้ชีวิตแหลกเหลวจริง ๆ


แต่ยังมีผู้ป่วยโรคเอดส์อีกมากมายที่เป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาไม่ได้อยากติดเชื้อไวรัสนี้ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนล่วงหน้า


“พ่อบุญธรรมไม่อยากเอาคืนนายใหญ่เหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดยุแหย่


เฮ่อเหลียนชิงตาเป็นประกาย นั่นสิ ตาแก่นั่นวางแผนตลบหลังเขา เขาจะยอมทนได้อย่างไร?


“เสี่ยวเมิ่ง เตรียมรถ!”


เฮ่อเหลียนชิงเก็บผลรายงานไว้ในเสื้อและไม่ต้องให้เสี่ยวเมิ่งเข็นรถก็เข็นรถด้วยตัวเองไปอย่างไว


ทนรอไปตอกหน้านายใหญ่คืนแทบไม่ไหวแล้ว!


จะให้ยัยตัวสกปรกมาเป็นลูกสะใภ้เขา?


คิดจะเอาเปรียบท่านชิงหรือไงกัน


…………………….


ตอนที่ 1507 แผนชั่วร้าย


เหยียนหมิงซุ่นแอบเอาคืนพ่อบุญธรรมนิดหน่อย เฮ่อเหลียนชิงออกจากบ้านไปอย่างรีบร้อนจนเขาพอจะจินตนาการล่วงหน้าได้แล้วว่านายใหญ่จะโดนคนปากคอเราะร้ายอย่างเฮ่อเหลียนชิงพูดเหน็บแนมแบบไหน?


ปกติเฮ่อเหลียนชิงไม่มีเหตุผลยังเค้นหาเอาเหตุผลให้ได้ ตอนนี้พอมีเหตุผลแล้วเขาจะไม่ขอผลประโยชน์สิแปลก!


โฮ่วเซิ่งหนานสอนเสร็จก็ไปหาไฟซาล ซึ่งเธอเองก็เห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแล้วเช่นกันจึงพึงพอใจกับประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลุงตัวเองมาก ฉีกยิ้มมุมปากสูงอย่างได้ใจที่แม้แต่ไฟซาลที่เธอรู้สึกรังเกียจยังดูเข้าตามากพอสมควร


ความจริงไฟซาลคนนี้นอกจากหน้าตาน่าเกลียดไปสักหน่อยและกลิ่นตัวแรงไปสักนิด นอกจากสถานะที่ต่ำต้อยอย่างอื่นก็ยังไม่เลว โดยเฉพาะพฤติกรรมบนเตียงที่สร้างความพึงพอใจแก่โฮ่วเซิ่งหนานอย่างมาก


แต่เธอไม่มีวันเกี่ยวข้องกับคนนี้อีก!


มันฉุดสถานะเธอให้ตกต่ำลง!


“ไฟซาล นายจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่?” โฮ่วเซิ่งหนานถามไปตรง ๆ เธอนัดเจอไฟซาลที่สวนดอกไม้มหาวิทยาลัยซึ่งขณะนี้เป็นเวลาพักกลางวัน สวนดอกไม้จึงเงียบสงัด


ไฟซาลเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ไว้นวดเคราเฟิ้มในมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ตัวสูงปานกลางและไม่มีหน้าตาคมชัดดั่งชายชาวตะวันกลางแต่อย่างใด นอกจากสีผิวที่ออกโทนเข้มเขาหน้าตาคล้ายชาวจีนมากกว่า


แน่นอนว่าในตัวเจ้าชายตกอับผู้นี้มีเลือดชาวจีนอยู่ครึ่งหนึ่งเพราะคุณแม่ของเขาคือชาวจีนและเป็นหนึ่งในคนรักของคุณพ่อเขา เขาเลยเป็นหนึ่งในบรรดาลูกนอกสมรสของราชา เกรงก็แต่แม้แต่พ่อเขายังจำไม่ได้เลยว่ามีลูกชายคนนี้อยู่อีกตั้งคน!


“เรื่องที่ฉันรับปากเธอไว้ต้องทำได้อยู่แล้ว แต่เธอต้องหาทางให้จ้าวเหมยอยู่ตามลำพัง ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของฉัน” ไฟซาลสีหน้านิ่งขรึม เขาเคยเห็นรูปถ่ายของจ้าวเหมยซึ่งเป็นสาวงามที่ทำให้เขาใจสั่นคนหนึ่งเลยก็ว่าได้


ฉะนั้นเขาเตรียมจับสาวงามผู้นี้ถวายให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตาแก่ที่มีรสนิยมน่ารังเกียคนหนึ่งที่ชอบสาวงามตัวน้อยแสนเย้ายวนอย่างจ้าวเหมยเป็นพิเศษ


ขอเพียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพอใจเขาก็จะมีชีวิตที่ดีในประเทศ ยังจะต้องมาอยู่ในที่ยากจนแร้นแค้นอย่างฮวาเซี่ยไปทำไมอีก?


“ได้ เรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง”


แม้โฮ่วเซิ่งหนานจะไม่ค่อยพอใจแต่ก็จำต้องรับปากไว้ จ้าวเหมยเป็นดั่งหนามที่ตำอกเธอที่หากไม่ถอนออกเธอก็จะไม่มีวันสบายใจไปตลอดชีวิต


ด้านหลังพวกเขาคือดงหญ้าทั้งแถบที่ต้นหญ้างอกสูงอย่างมาก ผู้ชายหนึ่งคนกำลังนั่งยองอยู่ในท่ามกลางดงหญ้ามีสีหน้าตื่นตระหนก


โฮ่วเซิ่งหนานกับไฟซาลใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันเพราะรู้ว่ามีชาวจีนที่รู้ภาษาอังกฤษน้อย ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ระวังตัวไปเสียบ้าง ไม่มีการเบาเสียงเลยทำให้นักศึกษาชายที่กำลังงีบอยู่ในสวนดอกไม้ได้ยินเข้า


นักศึกษาชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นซึ่งเป็นอิงจวี้กังที่มักเดินผิดท่าตอนเข้าค่ายทหารนั่นเอง เมื่อนั้นมีคนมากมายหัวเราะเยาะเขามีเพียงเหมยเหมยที่ออกตัวพูดแทนเขา แล้วยังโดนทำโทษให้วิ่งรอบสนามสิบรอบ


ด้วยเหตุนี้อิงจวี้กังรู้สึกขอบคุณเหมยเหมยอย่างมาก หนำซ้ำยังรู้สึกผิดเหลือเกิน จึงเคยมีความคิดเสมอว่าควรทำอะไรเพื่อดาวมหาวิทยาลัยบ้าง


แม้อิงจวี้กังจะมาจากหมู่บ้านชนบทแต่ภาษาอังกฤษของเขากลับอยู่ในระดับดีเยี่ยม เพราะพ่อแม่ของเขาให้ความช่วยเหลือแก่ศาสตราจารย์อาวุโสท่านหนึ่งที่มาช่วยแก้ไขความเป็นอยู่ในหมู่บ้านเมื่อนานมาแล้ว จึงได้ช่วยชีวิตท่านอาวุโสผู้นั้นไว้และบังเอิญที่ศาสตราจารย์อาวุโสผู้นั้นมาจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวง อีกทั้งยังใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาหลายปีเลยถนัดทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ


จึงทำให้อิงจวี้กังได้ร่ำเรียนวิชาภาษาอังกฤษจากศาสตราจารย์ผู้นี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยกับการฟังบทสนทนาของพวกโฮ่วเซิ่งหนาน


นอกจากอิงจวี้กังจะมีปฏิกิริยาค่อนข้างในเวลาเดินตบเท้าไปบ้างแต่เรื่องอื่นไม่ได้มีปฏิกิริยาช้าแต่อย่างใด แค่เขาฟังก็รู้ว่าสองคนนี้มีเจตนาร้ายต่อดาวมหาวิทยาลัยเลยกลั้นหายใจไว้ไม่กล้าปริเสียงแม้แต่น้อย


เขาต้องรีบบอกดาวมหาวิทยาลัยให้เธอระวังตัวให้มาก!


ตอนที่ 1508 ถังม่านลี่หลาบจำแล้ว


ทางโฮ่วเซิ่งหนานทำงานว่องไวมากและเธอก็ให้พอลช่วยด้วย พอลกลับไม่ปฏิเสธเลยไปขอความช่วยเหลือจากถังม่านลี่ทันที บอกว่าจะจัดงานปาร์ตี้วันเกิดให้ถังม่านลี่แล้วเชิญเพื่อน ๆในหอพักทั้งหมดมาร่วมงามด้วย


พอลคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็กถังม่านลี่ต้องทำได้แน่ แต่ทว่า–


“ฉันแตกคอกับจ้าวเหมยแล้ว เธอไม่มีทางมาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดฉันหรอก อีกอย่างงานปาร์ตี้วันเกิดฉันทำไมต้องเชิญเธอมาด้วย รังเกียจจะตายอยู่แล้ว” ถังม่านลี่ปฏิเสธซึ่งอยู่เหนือความคาดหมายของพอล


พอลพูดเกลี้ยกล่อมอีกหลายประโยคแต่ไม่ว่าอย่างไรถังม่านลี่ก็ไม่ยอม งานปาร์ตี้วันเกิดเธอจะแต่งตัวให้สุดไปเลย ลำพังโครงหน้าเดิมของเธอคืนนั้นเธอจะต้องเฉิดฉายยิ่งกว่าเจ้าหญิง เชิญจ้าวเหมยไปดับออร่าเธอหรือ?


เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้น!


พอลเองก็ทำอะไรเธอไม่ได้เลยปล่อยเลยตามเลย อย่างไรเสียนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น เขาอยากทำอย่างอื่นกับสาวงามตรงหน้ามากกว่า


 “เพี้ยะ”


ถังม่านลี่ตบมือใหญ่ของพอลที่ซุกซนอยู่บนตัวของเธอพลางพูดเสียงติดกระเง้ากระงอด “ไม่เอาน่า…เค้ายังต้องเรียนหนังสืออยู่นะ…”


“งั้นคืนนี้มาหาฉัน?”


“คืนนี้ตรวจหอ ถ้าถูกจับต้องโดนหักคะแนน ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในช่วงสังเกตพฤติกรรมในมหาลัยนะ…”


ถังม่านพูดพลางมองพอล แต่กลับเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้กับคำว่าสังเกตพฤติกรรมเลยสักนิดเลยใจหายวาบ และอารมณ์ไม่ขุ่นมัวขึ้นมาทันที


“ฉันไปเรียนแล้วนะ!”


ถังม่านลี่เองก็คร้านจะเอาใจพอลที่เริ่มไม่พอใจก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป เหอะ เธอก็ไม่พอใจเหมือนกัน!


ให้นาฬิกาข้อมือปลอมเธอทำให้เธอต้องโดนเพื่อนร่วมหอพักหัวเราะเยาะเย้ย ตอนนี้กลับไม่ช่วยให้เธอรอดพ้นจากการถูกหักคะแนน พอลไม่ได้รักเธออย่างที่ปากพูด เธอจะเสียเปรียบผู้ชายคนนี้อีกไม่ได้แล้ว!


โฮ่วเซิ่งหนานรู้จากพอลว่าทำภารกิจไม่สำเร็จพลันทำหน้าไม่สบอารมณ์ มองพอลด้วยสายตาเย็นยะเยือก


เอาเปรียบเธอแต่กลับไม่ทำงาน เธอเป็นคนดูเอาเปรียบง่ายขนาดนั้นเชียว?


พอลเพิกเฉยกับความโกรธของเธอพลางยักไหล่แล้วยิ้มกล่าว “ก็แค่เรื่องเล็ก ๆเอง เจสสิก้าเธอไม่มีทางไม่พอใจหรอก เธอเป็นผู้หญิงที่ใจกว้างที่สุดในบรรดาองค์กรอัศวินของเราแล้วนะ!”


โฮ่วเซิ่งหนานใจหล่นวูบ พอลเน้นเสียงเข้มตรงคำว่าองค์กรอัศวินซึ่งคิดจะข่มขู่เธออย่างชัดเจน!


ไอ้สารเลว!


รอจัดการจ้าวเหมยเสร็จเธอค่อยมาจัดการไอ้สารเลวนี่!


ตอนเที่ยงเหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อเตรียมไปทานข้าวที่หลังมหาวิทยาลัยเพราะกับข้าวที่โรงอาหารเกินจะรับไหวจริง ๆ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตามมาด้วยเป็นปกติ สองวันนี้เธอกับฉีฉีเก๋อใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและอยู่ให้ห่างถังม่านลี่ไกลสามเมตร ที่น่าขำกว่านั้นคือเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังหาผ้าปิดปากอันใหญ่มาสองชิ้นโดยแบ่งให้ฉีฉีเก๋อหนึ่งชิ้น พอสวมแล้วเหมือนกลุ่มก่อการร้ายเสียมากกว่า


“ให้ตายเถอะ…อึดอัดจะตายอยู่แล้ว…จะเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรเนี่ย!”


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถอดผ้าปิดปากออกแล้วสูดอากาศนอกสวนดอกไม้ลึก ๆหลายที แม้รู้ว่าไม่ติดต่อทางอากาศแต่เธอไม่กล้าหายใจเข้าลึก ๆในเขตมหาวิทยาลัย แล้วยังแกล้งว่าเป็นหวัดมาสามวันแล้ว!


ฉีฉีเก๋อพยักหน้าเห็นด้วย


เหมยเหมยพูดปลอบพวกเธอ “ใกล้แล้ว อย่างมากอีกสามวัน อดทนไว้หน่อย!”


หลังจากกลับไปวันนั้นเธอก็ปรี่เข้าหาเหยียนหมิงซุ่นแล้วเล่าเรื่องถังม่านลี่ให้ฟัง เหยียนหมิงซุ่นบอกว่าผลตรวจยังไม่ออกแต่ก็อีกไม่นานแล้ว ให้เธอระวังตัวให้มาก


เหมยเหมยนึกขุ่นใจกับระดับการแพทย์ในสมัยนี้เหลือเกิน ตรวจเชื้อ HIV ยังต้องใช้เวลานานขนาดนี้ เสียเวลาชะมัด!


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อได้ยินว่าอีกแค่สามวันก็ถอนหายใจโล่งอกะ อารมณ์ดีขึ้นฉับพลัน


“มื้อเที่ยงฉันเลี้ยงเอง พวกเธออยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างใจป้ำ


ทั้งสามคนเพิ่งเดินมาถึงประตูหลังมหาวิทยาลัยอิงจวี้กังก็วิ่งกระหืดกระหอบมา หลังจากออกมาจากสวนดอกไม้เขาก็พุ่งมาหาดาวมหาวิทยาลัยและวิ่งผ่านคนมากมายกว่าจะหาพวกเธอเจอ


…………………..


 ตอนที่ 1509 อยู่ในความคาดหมาย


“จ้าวเหมย…ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ!” อิงจวี้กังมือปาดเหงื่อหน้าผากทีด้วยสีหน้าร้อนรนอย่างมาก


“เรื่องอะไร?”


เหมยเหมยนึกแปลกใจ อิงจวี้กังอยู่ห้องเดียวกับสีอันน่าที่มีเพียงวิชาร่วมเพียงบางวิชา ปกติเจอกันยังแทบไม่ทักทายกันแล้วอิงจวี้กังมีธุระอะไรกับเธอ?”


อิงจวี้กังกลับไม่พูดอะไรเพียงกวาดมองรอบข้างทีด้วยสีหน้าหวาดระแวง ดูท่าทางลับ ๆล่อ ๆจนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่แค่เห็นก็โมโหเลยตวาดใส่ “มีอะไรก็รีบพูดมา ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆทำไม?”


“เรื่องสำคัญ ฉันต้องระวังตัวหน่อย…” อิงจวี้กังเห็นรอบข้างไม่มีบุคคลน่าสงสัยเลยวางใจลงเล็กน้อย ก่อนเขยิบเข้าไปใกล้อีกนิดเริ่มเล่าเรื่องที่เขาแอบได้ยินมาจากสวนดอกไม้เมื่อสักครู่เสียงเบา


“ฉันคิดว่ามิสโฮ่วกับเจ้าหนวดนั่นน่าสงสัยมากเลยมาบอกเธอหน่อย ช่วงนี้เธอระวังตัวหน่อยจะดีกว่า อย่าแยกตัวไปไหนคนเดียวนะ!” อิงจวี้กังพูดย้ำแล้วย้ำอีก


“ขอบคุณมาก ฉันจะระมัดระวัง นายกินข้าวมาหรือยัง? ไปกินด้วยกันไหม?”


เหมยเหมยไม่สนใจนักเพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติมากที่โฮ่วเซิ่งหนานคิดจะจัดการเธอ เธอไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะมาไม้ไหนในที่มืดหรือที่สว่างก็ตาม แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณอิงจวี้กังมาก นี่เป็นคนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณ


“ยังไม่ได้กิน…ฉันไปกินที่โรงอาหารก็พอ…ไม่เป็นไร…”


อิงจวี้กังหน้าแดงและทำหน้าขวยเขินน้อย ๆ ไปทานข้าวกับเพื่อนผู้หญิงก็ต้องเป็นฝ่ายชายที่จ่ายค่าอาหาร นี่เป็นวิถีของสุภาพบุรุษที่ศาสตราจารย์อาวุโสเคยบอกไว้ แต่ประเด็นคือเขาไม่มีเงิน!


ไม่ไปทานด้วยจะดีกว่า!


เหมยเหมยรู้ทันความคิดของอิงจวี้กังเลยพูดกลั้วหัวเราะน้อย ๆ “ฉันอยากเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน ในเมื่อนายยังไม่ได้กินข้าวงั้นก็ไปกินด้วยกันกับพวกเราเลย เป็นแค่ร้านอาหารเล็ก ๆนายอย่ารังเกียจก็แล้วกัน”


“ไม่รังเกียจ…เอ่อฉันไปกินโรงอาหารดีกว่า…” อิงจวี้กังโบกมือพัลวัน จะให้ดาวมหาวิทยาลัยเลี้ยงได้อย่างไร!


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฟาดมือใส่ทีหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์แล้วตวาดใส่ “อ้ำ ๆอึ้ง ๆเหมือนผู้หญิงอยู่ได้ รีบตามมา!”


อิงจวี้กังหดคอด้วยความตกใจจนไม่กล้าปริเสียงอีก คอยเดินตามหลังอย่างเชื่อฟัง


ฉายาเสือตัวเมียของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนประจำห้องศิลปะจีน เขาไม่กล้ามีเรื่องด้วยหรอก


ฉีฉีเก๋อนึกกังวลอย่างมากเลยเสนอให้เหมยเหมยแจ้งความ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับคัดค้านเป็นคนแรก “ไม่มีหลักฐานอะไรแจ้งความไปก็เปล่าประโยชน์ ตำรวจไม่มาสนใจเรื่องพวกนี้หรอก ฉันว่านะจัดการเองเลยดีกว่า หาคนเอากระสอบทรายครอบหัวเจ้าลิงตัวใหญ่นั่นเสีย!”


พูดถึงตรงนี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำตาวาววับถูมือไปมาด้วยความตื่นเต้น


ถึงขั้นพูดเสนอตัวว่า “จ้าวเหมยให้ฉันช่วยหาคนให้เธอไหม? แต่ละคนเป็นมืออาชีพลักพาตัวทั้งนั้น รับรองว่าไม่มีใครรู้”


อิงจวี้กังหดคออีกครั้งแล้วคีบเนื้อต้มพริกเสฉวนใส่ปากหนึ่งชิ้นพลางเคี้ยวเหมือนหุ่นยนต์ นี่มันเสือตัวเมียเสียที่ไหน? ทั้งที่เป็นโจรสาวชัด ๆ!


เหมยเหมยยิ้มส่ายหน้า “เรื่องนี้พวกเธอไม่ต้องยุ่งหรอก โฮ่วเซิ่งหนานไม่ใช่คนธรรมดา พวกเธออย่าไปมีเรื่องกับหล่อน ฉันจะจัดการเอง”


ครอบครัวเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นเพียงครอบครัวทำธุรกิจธรรมดาที่ต่อให้โฮ่วเซิ่งหนานจะตกต่ำเพียงใดก็จัดการครอบครัวแบบนี้ได้ง่าย ๆอยู่แล้วโดยแค่เอ่ยปากสั่งเท่านั้น เธอจะทำร้ายเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้


เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนเหงื่อผุดเต็มตัว ดีที่เธอถามก่อน!


หากเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่ชอบลงมือทำก่อนแล้วค่อยขอรางวัล ไม่เท่ากับว่าเธอหาเรื่องให้แม่ตัวเองเข้าแล้วเหรอ? !


ดาวมหาวิทยาลัยเป็นคนสวยที่จิตใจงดงามเสียยิ่งกว่า เพื่อนคนนี้คุ้มค่าที่จะคบ!


ว่าแต่เจ้าลิงตัวใหญ่นั่นเป็นใครมาจากไหนกันแน่?


ไว้วันไหนไปสืบดูดีกว่า


ในร้านอาหารค่อนข้างหรูร้านหนึ่งที่ไม่ไกลจากร้านอาหารที่พวกเหมยเหมยมาทานข้าวนั้นโฮ่วเซิ่งหนานกับเจิ้งเสวี่ยซานเองก็ทานข้าวกันอยู่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)