ข้ามกาลบันดาลรัก 146.1-146.3

 ตอนที่ 146.1

 

การเลือกของผู้ใหญ่บ้าน

 


 


 


ฟังนางพูดจบ เมิ่งจงจวี่ก้มหน้าครุ่นคิด


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวหันไปกะพริบตาให้เมิ่งเอ้ออิ๋น เมิ่งเอ้ออิ๋นเข้าใจพลัน เอ่ยปากเกลี้ยกล่อมเมิ่งจงจวี่ “ท่านพ่อ ข้าว่าเมิ่งเชี่ยนโยวพูดถูกต้อง ไม่เช่นนั้นท่านลองดูก็ได้ เรื่องดีเช่นนี้ไม่แน่ว่าเหล่าผู้นำสกุลจะตบปากรับคำทันที”


 


 


เมิ่งจงจวี่มองเมิ่งต้าจินแล้วถาม “จินเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”


 


 


เมิ่งต้าจินไม่นึกไม่ฝันว่าเมิ่งเชี่ยนโยวคิดจะให้เขาเป็นผู้ใหญ่บ้าน นิ่งอึ้งอยู่ในภวังค์ ตอนนี้ได้ยินเมิ่งจงจวี่ถามเขา ถึงได้สติคืนกลับมา ถามขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก “ข้า ข้า…”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นเขาตัดสินใจไม่ได้ เอ่ยปากถามเขา “ท่านลุงใหญ่ ท่านอยากเป็นผู้ใหญ่บ้านหรือไม่?”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่ทางการที่มีอำนาจสูงสุดของหมู่บ้าน เรื่องใหญ่เรื่องน้อยเขามีอำนาจสิทธิ์ขาด ไม่ว่าใครในหมู่บ้านต่างก็อยากเป็น เมิ่งต้าจินเองก็ไม่ยกเว้น แต่เขาก็รู้ว่าการกระทำหลายปีที่ผ่านมาของตนเองไม่มีทางเป็นผู้นำของหมู่บ้านได้ จึงต้องหยุดความคิดนั้นไป ตอนนี้ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวถามเขาเช่นนี้ ความคิดที่ซุกซ่อนอยู่ในใจมานานก็พลันทะลักล้นออกมา ตอบว่า “ย่อมต้องคิดจะเป็น”


 


 


“เมื่อท่านลุงอยากเป็นผู้ใหญ่บ้านก็คุยง่ายแล้ว” เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “พรุ่งนี้ข้าท่านพ่อและลุงใหญ่จะไปหาผู้ใหญ่บ้าน ทุกอย่างรอคำตอบจากผู้ใหญ่บ้านแล้วค่อยว่ากันอีกที”


 


 


ภรรยาเมิ่งต้าจินยับยั้ง “ข้ายังคงไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ของโยวเอ๋อร์ หากผู้ใหญ่บ้านยอมรับเงื่อนไขของพวกเรา เช่นนั้นเราก็ต้องมอบสูตรเครื่องในรมควันให้เขา หลายปีมาแล้ว พวกเราเพิ่งจะได้อาศัยสูตรอาหารนี้หาเงินทำกำไรให้ครอบครัว ไม่ว่าอย่างไรเราจะให้คนอื่นไปเปล่าๆ เพียงเพราะเรื่องการซื้อที่ดินไม่ได้”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว กอดแขนนาง พูดอย่างสนิทสนม “ท่านป้าใหญ่ ข้าไม่เพียงทำเพื่อซื้อที่ดิน ปลูกเรือนให้ท่านปู่ท่านย่าเท่านั้น ข้ายังคิดแทนครอบครัวของเราในภายภาคหน้าด้วย ตอนนี้พวกเรากับผู้ใหญ่บ้านมีความแค้นต่อกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าต่อไปครอบครัวพวกเรามีเรื่องอะไร เขาจะต้องคอยจงใจกลั่นแกล้ง สู้พวกเราฉวยโอกาสนี้กำจัดเขาทิ้ง ส่วนเรื่องสูตรพวกท่านไม่ต้องเป็นกังวล เดิมข้าก็ไม่คิดจะทำการค้านี้ระยะยาวอยู่แล้ว”


 


 


ภรรยาเมิ่งต้าจินถามนางด้วยน้ำเสียงร้อนรน “เนื้อรมควันก็ไปได้ดีไม่ใช่หรือ? เหตุใดเจ้าถึงไม่คิดจะทำเป็นการค้าระยะยาว?”


 


 


คนอื่นๆ ในห้องก็มองนางอย่างไม่เข้าใจ


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวแย้มยิ้มอธิบายให้ทุกคนฟัง “ความจริงเนื้อรมควันทำง่ายมาก ขอแค่มีความตั้งใจขบคิดสักระยะหนึ่งก็คิดออกมาได้แล้ว ดังนั้นที่พวกเราขายดีเช่นนี้ เพราะพวกเราช่วงชิงโอกาสได้ก่อน คนที่นี่ยังคิดวิธีนี้ไม่ได้ แต่ผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่งก็ไม่เหมือนกันแล้ว จะต้องมีคนคิดออกมาได้ ถึงตอนนั้นเนื้อรมควันก็จะไม่ขายดีเช่นนี้แล้ว ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาเห็นว่าตอนนี้พวกเราขายได้กำไรดี เกิดความคิดละโมบ ขอเพียงพวกเขายอมถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน เราจะให้สูตรนี้กับพวกเขา แต่ไม่นาน พวกเขาก็ต้องร้องไห้แงๆ”


 


 


ภรรยาเมิ่งต้าจินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “โยวเอ๋อร์ เจ้าคงไม่ได้จงใจพูดหลอกพวกเรา เพื่อปลอบใจพวกเราหรอกนะ?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะแล้วย้อนถาม “หลอกพวกท่าน ข้าได้ประโยชน์อันใดเล่า?”


 


 


ภรรยาเมิ่งต้าจินหลุดขำ “เจ้าเด็กคนนี้ ทะเล้นขึ้นทุกวัน”


 


 


หญิงชราเมิ่งก็หัวเราะ พูดเกลี้ยกล่อมเมิ่งจงจวี่ “เมื่อโยวเอ๋อร์พูดเช่นนี้แล้ว ท่านก็ยอมลดศักดิ์ศรีไปบ้านหัวหน้าแต่ละสกุลสักครั้ง จะได้ไม่เสียแรงที่โยวเอ๋อร์คิดแทนพวกเราทั้งครอบครัวตั้งมากมาย”


 


 


เมิ่งจงจวี่พยักหน้า “ได้ ขอเพียงผู้ใหญ่บ้านยอมรับเงื่อนไขของพวกเรา ข้าก็จะไป ต่อให้ข้าไม่เหลือศักดิ์ศรีแล้ว ก็จะขอร้องจนกว่าพวกเขาจะตกลง”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพ่นหัวเราะ “ท่านปู่ ท่านจะไปขอร้องพวกเขาไม่ได้ หากท่านทำเช่นนี้ ภายหน้าจะเป็นจุดอ่อนให้พวกเขา ท่านต้องวางตนอย่างเหมาะสม บอกพวกเขาว่าหากลุงใหญ่เป็นผู้ใหญ่บ้านจะนำมาซึ่งประโยชน์ใดให้คนในหมู่บ้าน ขอเพียงพวกเขาไม่โง่ จะต้องเห็นด้วย”


 


 


เมิ่งจงจวี่ชะงักงันเล็กน้อย ถามอย่างแคลงใจ “เช่นนั้นจะได้หรือ?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าหนักแน่น


 


 


เมิ่งจงจวี่ลูบเคราใคร่ครวญครู่หนึ่งพูดว่า “คืนนี้ปู่จะพิจารณาถ้อยคำให้ดี พรุ่งนี้จะไปพูดกับพวกเขาตามที่เจ้าบอก”


 


 


เห็นเขาตกลง เมิ่งเชี่ยนโยวก็วางใจ นัดเวลาไปหาผู้ใหญ่บ้านวันพรุ่งกับเมิ่งต้าจินเสร็จ ก็ออกมาจากบ้านใหญ่พร้อมเมิ่งเอ้ออิ๋น


 


 


พอเมิ่งเชี่ยนโยวกลับไป สองผู้เฒ่าชรา เมิ่งต้าจินและภรรยาเมิ่งต้าจินต่างก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ พวกเขาเรียกเมิ่งเสียวเถี่ยออกมา ปรึกษาเรื่องไปหาหัวหน้าสกุลต่างๆ ในวันพรุ่งนี้


 


 


เมิ่งเสียวเถี่ยได้ยินเรื่องที่เมิ่งเชี่ยนโยวจะให้เมิ่งต้าจินเป็นผู้ใหญ่บ้านแม้จะตกใจไม่น้อย แต่ก็สนับสนุนเต็มที่ ช่วยแสดงความคิดเห็นมากมาย บอกเมิ่งจงจวี่ว่าต้องพูดอย่างไรถึงจะยิ่งบรรลุผล


 


 


เมิ่งจงจวี่ได้ฟังก็พยักหน้าไม่หยุด ชื่นชมเขาไม่เสียแรงไปหากินในเมืองมาหลายปี


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งเอ้ออิ๋นกลับมาถึงบ้าน บอกแผนการของตัวเองกับเมิ่งชื่อ เมิ่งชื่อตกใจเกือบตกจากเตียงเตา พูดว่า “โยวเอ๋อร์ จะเป็นไปได้อย่างไร? ผู้ใหญ่บ้านไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขของเจ้า”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพูดปลอบใจนาง “พวกเราต้องลองดู เขาไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร อย่างไรพวกเราก็ไม่มีอะไรเสียหาย”


 


 


เมิ่งชื่อยิ่งทวีความเป็นห่วง “หากเพราะเรื่องนี้ทำให้พวกเขายิ่งชิงชังพวกเราเล่า ภายหน้าพวกเขาไม่ยิ่งคอยหาเรื่องพวกเราหรือ”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “ไม่หรอก ไม่ว่าครั้งนี้พวกเขาจะยอมรับเงื่อนไขของพวกเราหรือไม่ ภายหน้าก่อนที่พวกเขาจะหาเรื่องพวกเราจักต้องยิ่งคิดให้รอบคอบ”


 


 


เมิ่งชื่อก็ยังเป็นกังวล เมิ่งเอ้ออิ๋นพูดปลอบประโลมนาง “พอแล้ว เจ้าเชื่อโยวเอ๋อร์เถอะ เจ้ายังไม่รู้จักบุตรสาวของพวกเราหรือ มีครั้งไหนที่ทำอะไรแล้วไม่มั่นใจบ้าง?”


 


 


เมิ่งชื่อคิดแล้วก็เห็นด้วย จึงไม่พูดอะไรมากอีก เพียงแค่ถอนหายใจ นั่งบนเตียงเตาด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ แม้แต่อารมณ์เย็บกระเป๋านักเรียนก็ไม่มีแล้ว


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวแลบลิ้น กะพริบตาปริบๆ อย่างเด็กทะเล้นให้เมิ่งเอ้ออิ๋น


 


 


เมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้าเข้าใจ


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พูดอะไรเพิ่มอีก หันหลังเดินมาที่ห้องของพวกเมิ่งเสียน ตรวจการบ้านซุนเหลียงไฉ


 


 


วันนี้ซุนเหลียงไฉได้รับคำชมจากอาจารย์ เริ่มมีกำลังใจอยากอ่านหนังสือ ตอนท่องหนังสือกลอนตามเมิ่งอี้เซวียน เห็นได้ชัดว่าเร็วกว่าเมื่อวานขึ้นเล็กน้อย ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็จำได้แล้ว เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเดินเข้ามา แทบทนไม่ไหวอยากท่องให้นางฟัง


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวนั่งบนเก้าอี้ เปิดหนังสือกลอน พลิกไปยังหน้าที่เขาต้องจำให้ได้ ตั้งใจฟังเขาขับขาน


 


 


ซุนเหลียงไฉเผชิญหน้ากับเมิ่งเชี่ยนโยวแล้วยังมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง ตอนที่ท่องออกมาก็เลยติดๆ ขัดๆ เกิดความกลัวว่าเมิ่งเชี่ยนโยวจะตีตัวเอง ร้อนรนจนเหงื่อซึมไปทั้งตัว


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง


 


 


ซุนเหลียงไฉตกใจหยุดกึก


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมุ่นหัวคิ้วถาม “เจ้ากลัวข้ามากหรือ?”


 


 


ซุนเหลียงไฉพยักหน้าก่อน จากนั้นพอได้สติก็ส่ายหน้าเต็มแรง


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “เจ้าไม่ต้องกลัวข้า ขอเพียงเจ้าทำในสิ่งที่ข้าบอกได้ แม้จะทำออกมาแย่ไปบ้าง ข้าก็ไม่ลงโทษเจ้า”


 


 


ซุนเหลียงไฉตะลึงค้างมองนาง


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ได้พูดอีก จ้องมองรอให้เขาได้สติกลับมา


 


 


ครู่หนึ่งซุนเหลียงไฉถึงได้สติกลับมาว่าเมิ่งเชี่ยนโยวพูดอะไร ออกอาการดีใจลิงโลด


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวส่งสัญญาณให้เขาท่องต่อไป


 


 


ซุนเหลียงไฉถึงคลายความกังวลใจลง ไม่พูดติดขัดอีก ไม่นานก็จำและท่องการบ้านที่อาจารย์สั่งวันนี้เสร็จเรียบร้อย


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าพึงพอใจ พูดให้สัญญา “วันนี้ทำได้ไม่เลว หากพรุ่งนี้เจ้าจำได้เร็วขึ้นกว่านี้ ข้าจะให้เจ้าสะพายกระเป๋านักเรียนใบใหม่ไปโรงเรียน”


 


 


ซุนเหลียงไฉอยากได้กระเป๋านักเรียนแบบเมิ่งเจี๋ยและเมิ่งชิงมานานแล้ว ได้ยินก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ด้วยอารามดีใจ กระวนกระวายถาม “เจ้าพูดจริงทำจริง?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “แน่นอน”


 


 


ซุนเหลียงไฉดีอกดีใจ พูดรับประกัน “พรุ่งนี้ข้าจะต้องท่องให้เร็วยิ่งขึ้น”


 


 


หลังจากตรวจการบ้านซุนเหลียงไฉเสร็จ ก็ออกมาจากห้องพวกเขา เตรียมจะกลับห้องขบคิดว่าพรุ่งนี้จะพูดเงื่อนไขกับผู้ใหญ่บ้านอย่างไร เมิ่งอี้เซวียนก็ตามออกมายืนตรงหน้านางอย่างไม่ให้ซุ้มให้เสียง มองนางอย่างน้อยใจ


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่เข้าใจ ถามขึ้น “เจ้าเป็นบ้าอะไรอีก?”


 


 


เมิ่งอี้เซวียนมองนางด้วยดวงตากลมโตงดงามคู่นั้น ปากพร่ำพูดออกมาว่า “กระเป๋านักเรียน”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวถึงได้สติกลับมา ตีไปที่ศีรษะเขาพูดว่า “กระเป๋านักเรียนเป็นของครอบครัวเรา เจ้าอยากได้ใบไหนก็เอาใบนั้นมาใช้ มาทำท่าทีน้อยเนื้อต่ำใจมองข้าเช่นนี้ หากท่านพ่อท่านแม่มาเห็นจะนึกว่าข้ารังแกเจ้า ได้ว่าข้าอีก”


 


 


เมิ่งอี้เซวียนเผยรอยยิ้มสุกสกาวจนทำให้ดวงดาราทั้งฟ้าอับแสง


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวถูกยั่วเย้าจนตาเกือบบอด ก่นด่าในใจ “ปีศาจ มาไม้นี้อีกแล้ว”


 


 


เมิ่งอี้เซวียนได้คำตอบของตัวเองแล้ว เดินกลับเข้าไปนอนในห้องอย่างพึงพอใจ


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวกลับยืนอยู่หน้าประตูอีกครู่ใหญ่ ก่นด่าเขาในใจนับครั้งไม่ถ้วน ถึงกลับเข้าห้องตัวเอง หลังจากล้างหน้าล้างตาก็ล้มตัวลงบนเตียงเตา คิดต่อว่าพรุ่งนี้จะต้องไปพูดเงื่อนไขกับผู้ใหญ่บ้านอย่างไร


 


 


เช้าวันรุ่งขึ้น ซุนเหลียงไฉยังคงตื่นด้วยการร้องเรียกจากเมิ่งเสียน ลืมตาขึ้นมาเห็นในห้องเหลือแค่ตัวเองนอนบนเตียงเตา ผลุนผลันลุกขึ้น สวมเสื้อผ้ามาถึงลานท่อนไม้พร้อมเมิ่งเสียน


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวนำทุกคนยืดเส้นยืดสายอยู่ ทั้งสองรีบมาเข้าร่วม


 


 


หลังจากยืดเส้นยืดสายเสร็จ พวกเมิ่งเสียนทั้งสามคนสวมถุงทรายเหมือนเคย เดินบนท่อนไม้ด้วยความเร็วสูง


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวนำซุนเหลียงไฉและคนที่เหลือวิ่งวนรอบท่อนไม้ด้านล่าง


 


 


เมื่อวานซุนเหลียงไฉวิ่งไปสิบรอบ วันนี้เช้าตื่นมาปวดร้าวระบมไปทั้งขา แม้จะมีใจอยากวิ่งให้เร็วกว่านี้ แต่ทุกก้าวที่วิ่งไป ราวกับจะเอาชีวิตเขา ความเร็วย่อมหดหาย พูดได้ว่าเป็นการฝืนเดินตามเท่านั้น


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยววิ่งมาข้างเขา พูดให้กำลังใจ “วันที่สองก็เป็นเช่นนี้ เจ้าอดทนวิ่งเหยาะๆ ก่อน พอร่างกายยืดตัวก็จะดีเอง”


 


 


ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเมิ่งเชี่ยนโยวจนถึงตอนนี้ นางไม่เคยพูดกับตัวเองด้วยวาจาอ่อนโยนละมุนละไมเช่นนี้มาก่อน ซุนเหลียงไฉตะลึงงันฉับพลัน


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมุ่นหัวคิ้วถาม “ยังมีตรงไหนไม่สบายหรือ?”


 


 


ซุนเหลียงไฉถึงได้สติกลับมา รีบร้อนส่ายหน้า “ไม่มี”


 


 


“เช่นนั้นก็วิ่ง วิ่งช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร” เมิ่งเชี่ยนโยวพูดซ้ำ


 


 


ซุนเหลียงไฉพยักหน้า กัดฟันวิ่งเหยาะๆ


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวก็คอยวิ่งเหยาะอยู่ข้างเขา


 


 


หลังจากวิ่งไปสองรอบ ขาก็ไม่ปวดมากขนาดนั้นแล้วจริงๆ แต่ซุนเหลียงไฉก็เหนื่อยแล้ว ความเร็วจึงไม่ได้เพิ่มขึ้น


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่ได้เร่งเร้าเขา คอยวิ่งข้างๆ เขาอย่างมีความอดทน หลังจากวิ่งได้สามรอบ ซุนเหลียงไฉก็พบว่าเมิ่งเชี่ยนโยวมิได้คิดจะตีเขาเหมือนเมื่อเช้าวานอีก ในที่สุดก็คลายความวิตกลง ขาก็มีพลังมากขึ้น อดทนวิ่งจนครบสิบรอบได้สำเร็จ ตอนที่กำลังจะหยุดหายใจหอบ เมิ่งเชี่ยนโยวก็พูดขึ้นข้างๆ เขา “ห้ามหยุดทันที ให้วิ่งช้าๆ อีกระยะหนึ่งถึงหยุดได้”


 


 


ซุนเหลียงไฉคิดถึงคำพูดที่เมิ่งเสียนพูดกับตัวเองเมื่อวาน กัดฟันเดินช้าๆ อีกระยะหนึ่งถึงหยุดเดิน


 


 


เมิ่งเจี๋ยและเมิ่งชิงคอยปรบมือให้กำลังใจเขา แม้แต่เมิ่งเสียนเมิ่งฉีและเมิ่งอี้เซวียนที่ลงมาจากท่อนไม้แล้วก็ส่งรอยยิ้มชื่นชมให้เขา


 


 


ซุนเหลียงไฉยกยิ้มให้พวกเขาอย่างเห่อเหิมใจ แล้วหย่อนก้นนั่งไปกับพื้น


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่สนใจเขาอีก หันไปพูดกับเมิ่งเสียนและคนที่เหลือ “พวกท่านประลองฝีมือกันหน่อย ข้าจะดูว่าพวกท่านฝึกวิชาคว้าจับเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”


 


 


เมิ่งเสียนพยักหน้า เริ่มจากประลองฝีมือกับเมิ่งฉีก่อน


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวตั้งใจมองดูพวกเขา คอยชี้แนะสิ่งที่บกพร่องไปของพวกเขา

 

 

 


ตอนที่ 146.2

 

การเลือกของผู้ใหญ่บ้าน

 


 


 


หลังจากทั้งสองประลองเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวก็เดินขึ้นหน้า นำความบกพร่องเมื่อครู่ของพวกเขาสาธิตกับร่างกายของเมิ่งอี้เซวียนอีกครั้ง


 


 


ทั้งสองฝึกท่าตามที่เมิ่งเชี่ยนโยวบอกอีกครั้ง เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าพูด “ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ แต่ยังต้องฝึกให้มากกว่านี้”


 


 


ซุนเหลียงไฉเห็นพวกเขาฝึกวรยุทธ์ ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เดินตรงมาอย่างสนอกสนใจ ยืนมองจากด้านข้างพร้อมเมิ่งเจี๋ยและเมิ่งชิง


 


 


ครั้งนี้เป็นการประลองกันของเมิ่งฉีและเมิ่งอี้เซวียน ทั้งสองสลับกันออกอาวุธ ไม่มีใครยอมให้ใคร


 


 


ซุนเหลียงไฉถลึงตาโต มองพวกเขาอย่างอิจฉา


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวยังคงบอกจุดบกพร่องของพวกเขา ทั้งแก้ไขให้ทีละจุด


 


 


ทั้งสองคนพยักหน้า


 


 


ซุนเหลียงไฉทนต่อไปไม่ไหวแล้ว รอจนพวกเขาฝึกเสร็จ จึงเดินไปถามเมิ่งเชี่ยนโยวต่อหน้า “เมื่อไหร่ข้าถึงจะได้ฝึกวรยุทธ์เช่นพวกเขา?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมองเขาแวบหนึ่งพูดว่า “รอให้ไขมันในตัวเจ้าหายไปก่อนค่อยว่ากัน”


 


 


ซุนเหลียงไฉก้มหน้ามองดูไขมันทั่วทั้งร่าง พูดอย่างไม่พอใจ “เจ้ารู้แก่ใจว่าข้ากำจัดไขมันพวกนี้ออกไปไม่ได้ ยังจะพูดเช่นนี้ เจ้าไม่อยากสอนให้ข้าใช่ไหม”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “ใครบอกว่าจะกำจัดไขมันออกไปไม่ได้ ขอเพียงเจ้ายืนหยัดออกกำลังเช่นนี้ทุกวัน ไม่เกินสามเดือน รับรองว่าเจ้าจะลดน้ำหนักไปได้ครึ่งหนึ่ง มีรูปร่างผอมโปร่งเหมือนพี่ใหญ่และพี่รองข้า”


 


 


ซุนเหลียงไฉถามนางอย่างประหลาดใจ “เจ้าพูดเป็นความจริง หลังจากนี้สามเดือนข้าจะเป็นเหมือนพวกเขาได้จริงๆ?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “ประมาณนั้น”


 


 


ซุนเหลียงไฉดีใจจนลืมตัว พูดรับประกัน “ข้าจะต้องยืนหยัด”


 


 


เมิ่งชื่อเดินมาเรียกทุกคนไปกินข้าว


 


 


ซุนเหลียงไฉกลับเข้ามาในห้องพับผ้าห่มของตัวเองลวกๆ ถึงเดินเข้ามากินข้าวในครัว


 


 


อาหารเช้ายังคงมีไข่ต้ม


 


 


หลังจากนั่งลง ก็คว้าไข่สองใบมาไว้ตรงหน้าตัวเอง เมิ่งเสียนที่นั่งข้างเขากระแอมขึ้นเบาๆ ซุนเหลียงไฉถึงได้สติกลับมา รีบวางไข่หนึ่งใบกลับคืนไป แล้วแอบมองเมิ่งเชี่ยนโยวแวบหนึ่ง พบว่านางกำลังก้มหน้ากินข้าว ถึงลอบถอนใจโล่งอก


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวแสร้งทำเป็นไม่เห็นพฤติกรรมของเขา ก้มหน้ากินอาหารของตัวเอง


 


 


กินข้าวเช้าเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งเสียนพาเมิ่งอี้เซวียนและซุนเหลียงไฉไปส่งที่โรงเรียน จากนั้นก็รีบเร่งกลับมา


 


 


เมิ่งต้าจินมาบ้านเมิ่งเอ้ออิ๋นตามเวลาที่นัดหมาย รอเมิ่งเชี่ยนโยวกลับมาพร้อมกับเมิ่งเอ้ออิ๋น


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวเพิ่งจะลงจากรถม้า ทั้งสองก็ออกมาจากบ้านอย่างอดใจรอไม่ไหว เมิ่งเอ้ออิ๋นพูดกับนางอย่างเร่งเร้า “โยวเอ๋อร์ พวกเราไปบ้านผู้ใหญ่บ้านเถอะ”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวโบกมือ พูดว่า “ไม่ต้องรีบ พวกเราไปโรงงานเรียกหลิวต้าเป่ามาก่อน”


 


 


เมิ่งเอ้ออิ๋นถามอย่างไม่เข้าใจ “เรียกเขามาทำไม?”


 


 


“อีกประเดี๋ยวท่านก็รู้เอง” เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ


 


 


ทั้งสามมาถึงโรงงานเนื้อรมควัน


 


 


อู๋ต้าและพวกเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเข้ามา รีบร้อนเข้าไปทักทาย


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมองแวบหนึ่งไม่เห็นหลิวต้าเป่า ถามอู๋ต้า “หลิวต้าเป่าเล่า?”


 


 


อู๋ต้ารีบตอบ “ไปเทน้ำเสีย เดี๋ยวก็กลับมาขอรับ”


 


 


สิ้นเสียง หลิวต้าเป่าที่หาบน้ำเสียไปทิ้งเพียงลำพังก็กลับมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างกายมีน้ำเสียสาดกระเซ็น คอยส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์


 


 


เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวอยู่ในลานบ้าน หลิวต้าเป่าร้องเรียกอย่างนอบน้อม “นายหญิง”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ยิ้มพูด “หลิวต้าเป่า เจ้าเอาหาบให้พวกเขา แล้วตามข้าไปบ้านพวกเจ้าหน่อยเถอะ”


 


 


หลิวต้าเป่างงงัน


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่อธิบายเพิ่ม ก้าวอาดๆ ออกไปจากโรงงานรมควันเนื้อ


 


 


เมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋นตามติดไป


 


 


หลิวต้าเป่าได้สติคืนกลับมา เร่งฝีเท้าวิ่งตามหลังไปด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ


 


 


คนทั้งหมดมาถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน ประตูใหญ่ยังคงปิดสนิท


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวส่งสัญญาณให้หลิวต้าเป่าเคาะประตู


 


 


หลิวต้าเป่าเดินขึ้นหน้า ออกแรงเคาะประตูบ้านตัวเองหลายครั้ง เสียงภรรยาผู้ใหญ่บ้านดังลอยออกมา “ใครกัน กลางวันแสกๆ เคาะประตูเสียงดังเช่นนี้ ในบ้านมีใครตายหรือไร?”


 


 


หลิวต้าเป่ามองพวกเมิ่งเชียนโยวอย่างอักอ่วนแวบหนึ่ง ถึงเปล่งเสียงตอบกลับ “ท่านแม่ ข้าเอง”


 


 


เกิดเสียงฝีเท้าดังอลหม่านไปทั้งลานบ้าน ประตูใหญ่ถูกเปิดออกโดยเร็ว บุตรชายสองคนของหลิวต้าเป่าวิ่งออกมา กระโจนเข้าหาอ้อมกอดหลิวต้าเป่า พูดอย่างยินดี “ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้ว”


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่าก็เดินออกมาอย่างยินดี ถามขึ้น “ต้าเป่า เจ้า…” คำพูดต่อจากนั้นหลังจากเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่ได้พูอต่อ


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพลางเดินพลางถาม “ต้าเป่า เหตุใดวันนี้นังตัวดีนั่นถึงยอมปล่อยเจ้ากลับมาได้?”


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่าหันหลังพยายามขยิบตาให้นาง ภรรยาผู้ใหญ่บ้านกลับถามนางอย่างสงสัย “สะใภ้ต้าเป่า ตาเจ้าเป็นอะไรหรือ?” แต่พอเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวและคนอื่นๆ ก็เข้าใจทันที


 


 


บุตรชายทั้งสองของหลิวต้าเป่าดมกลิ่นที่ตัวเขา บีบจมูกถามเขาอย่างแปลกใจ “ท่านพ่อ ตัวท่านมีกลิ่นอะไร เหม็นจะตายแล้ว”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็เห็นแล้วว่าบนตัวหลิวต้าเป่าเต็มไปด้วยน้ำเน่าเสีย ก่นด่าเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างไม่เกรงใจ “ข้าว่าแล้วนังตัวดีนี่จะต้องคอยทรมานต้าเป่าของพวกเรา เจ้ายังไม่ยอมรับ คราวนี้เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?”


 


 


หลิวต้าเป่าลอบมองเมิ่งเชี่ยนโยวแวบหนึ่ง เห็นสีหน้านางไม่สบอารมณ์ รีบร้อนพูดขึ้น “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องพูดแล้ว ให้พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านแค่นเสียงหึ หลีกทางให้พวกเขา


 


 


หลิวต้าเป่ารีบเชิญพวกเมิ่งเชี่ยนโยวทั้งสามคนเข้ามาในลานบ้าน


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเห็นสภาพเช่นนี้ของบุตรชายก็ให้เจ็บปวดใจ หันไปพูดกับภรรยาหลิวต้าเป่า “สะใภ้ต้าเป่า เจ้าไปต้มน้ำ ให้ต้าเป่าได้อาบน้ำชำระล้างร่างกาย แล้วหาเสื้อผ้าสะอาดให้เขาเปลี่ยนด้วย”


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่ารับคำ เตรียมจะไปต้มน้ำ


 


 


หลิวต้าเป่ารั้งนางไว้ “ไม่ต้องแล้ว อีกประเดี๋ยวข้ากลับไปกับนายหญิงยังต้องไปเทน้ำเสีย เปลี่ยนชุดสะอาดไปก็สกปรกอยู่ดี”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพูดอย่างลำพองใจ “ต้าเป่า ข้าและพ่อเจ้าตกลงกับพวกเขาแล้ว วันนี้พอเจ้ากลับมาก็จะไม่ต้องกลับไปอีก”


 


 


หลิวต้าเป่ามองเมิ่งเชี่ยนโยว


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ได้พูดอะไร


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่าได้ยินแม่สามีพูดเช่นนี้ ออกไปต้มน้ำอย่างดีใจ


 


 


บุตรชายสองคนของหลิวต้าเป่าก็ดีใจดึงเขาเข้าไปในบ้าน


 


 


ผู้ใหญ่บ้านได้ยินความเคลื่อนไหวด้านนอกนานแล้ว กลับไม่ได้ออกมา


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็ไม่เอื้อนเอ่ยให้พวกเขาเข้าบ้าน ถามพวกเขาอย่างหยิ่งผยอง “พวกเจ้าเอาสูตรเนื้อรมควันมาด้วยหรือเปล่า?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “เปล่า”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเปล่งเสียงแหลมสูง “ไม่ได้เอาสูตรมา แล้วพวกเจ้ามาทำอะไร? คิดจะใช้สัญญาทาสของลูกชายข้ามาแลกกับที่ดินผืนใหญ่ขนาดนั้น พวกเจ้าฝันไปเถอะ”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “สัญญาทาสของหลิวต้าเป่าพวกเราก็ไม่ได้เอามา”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยิ่งทวีความไม่เกรงใจ “เช่นนั้นพวกเจ้ามาทำอะไร? รีบกลับไป ไปเอาสัญญาทาสของต้าเป่าและสูตรเนื้อรมควันมาค่อยว่ากัน”


 


 


ทั้งสามคนไม่ขยับ


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพูดอย่างฉุนเฉียว “ยังไม่ไปอีก ถ้าข้าไม่พอใจ พวกเจ้ายังต้องเอาสูตรกุนเชียงมาให้ข้าด้วย”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านส่งเสียงกระแอมดังลอยมาจากในบ้าน


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านแผดเสียงพูดอย่างไม่พอใจ “แค่กๆๆ ดีแต่ไอ จะถูกคนขึ้นไปนั่งถ่ายอุจจาระบนหัวแล้วยังไม่รู้จักปริปาก”


 


 


ครั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านสำลักจริงๆ ส่งเสียงไอจนแทบขาดใจดังลอยออกมาจากในบ้าน


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะพูด “ท่านยายเข้าใจผิดแล้ว พวกเรามิได้ไม่ยินยอมนำสูตรอาหารและสัญญาทาสมา แต่พวกเราแค่อยากพูดเรื่องหนึ่งกับผู้ใหญ่บ้าน หากเขาตกลง พวกเราจะรีบกลับไปเอามาทันที”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านส่งเสียงไอครู่ใหญ่ถึงหยุดได้ หายใจแรงพูดกับทุกคน “พวกเจ้าเข้ามาเถอะ”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านแค่นเสียงหึ หมุนตัวเดินเข้าบ้าน


 


 


พวกเมิ่งต้าจินทั้งสามคนเดินตามเข้ามา


 


 


เห็นคนทั้งหมดเข้ามา ผู้ใหญ่บ้านไม่เคลื่อนไหว และไม่ได้เชื้อเชิญให้พวกเขานั่ง พูดขึ้นทันควัน “มีอะไรพวกเจ้าก็พูดออกมาเถอะ”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวขมวดหัวคิ้วมุ่น หันไปพูดกับเมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋น “ดูท่าตาผู้ใหญ่บ้านจะไม่ต้อนรับพวกเรา พวกเราก็อย่าหน้าด้านนั่งลงเลย เรียกหลิวต้าเป่ากลับไปพร้อมกันเถอะ”


 


 


พูดจบหันหลังเดินออกไป หลิวต้าเป่าและเมิ่งเอ้ออิ๋นก็หมุนตัวเดินตามออกมา


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านร้อนใจ รีบเดินมาขวางหน้าพวกเขาแล้วพูด “ก็แค่ไม่ให้พวกเจ้านั่งลงเท่านั้น ต้องใจน้อยเช่นนี้เชียวหรือ? คิดจะไปก็ไป พวกเจ้าไม่อยากซื้อที่ดินผืนนั้นแล้วหรือไร?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “วันนี้พวกเราตั้งใจมาตกลงเงื่อนไขกับพวกท่านด้วยใจจริง เมื่อพวกท่านไม่สนใจ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำตามพวกท่าน อย่างมากพวกเราไม่ซื้อที่ดินผืนนั้นก็ได้”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านผลุนผลันโบกมือ “อย่าๆ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก่อน”


 


 


พูดจบก็หันไปร้องพูดกับผู้ใหญ่บ้าน “ตาเฒ่า เจ้าพูดอะไรบ้างสิ”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านมองพวกเขาแวบหนึ่ง พูดอย่างจำใจ “เข้ามานั่งเถอะ”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านโล่งอก พูดกับเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างเอาใจ “ตาผู้ใหญ่บ้านเรียกพวกเจ้าเข้าไปนั่งแล้ว รีบเข้าไปเถอะ”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวลังเลครู่หนึ่ง ถึงหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านให้ทุกคนนั่งอย่างเอาอกเอาใจ


 


 


ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยปากถามตามตรง “พวกเจ้าตัดสินใจว่าอย่างไร?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มตอบเขา “เมื่อคืนวานพอข้านำข้อเสนอของท่านไปบอกท่านปู่ พวกเขาก็บอกว่าเห็นด้วย…”


 


 


ยังพูดไม่ทันจบ เสียงกระวนกระวายของภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็ดังแทรกเข้ามา “เมื่อเห็นด้วยแล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่นำสูตรอาหารและสัญญาทาสมาด้วยเล่า”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “ท่านอย่าเพิ่งใจร้อน ข้ายังพูดไม่จบ ท่านปู่ข้าเห็นด้วยแล้วก็จริง แต่พวกเขาก็ยื่นข้อเสนอหนึ่งออกมา หากพวกท่านก็เห็นด้วย พวกเราจะนำของสองสิ่งนั้นมาให้พวกท่านทันที”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยิ่งร้อนรนกระวนกระวายถาม “เงื่อนไขอะไร?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมองผู้ใหญ่บ้าน


 


 


ผู้ใหญ่บ้านก็มองมาที่นางพอดี


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวส่งยิ้ม พูดกับผู้ใหญ่บ้านอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เงื่อนไขของท่านปู่ข้าก็คือ ท่านต้องถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ให้ลุงใหญ่ของข้ามาเป็นแทน”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านลุกพรวดขึ้นฉับพลัน


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านร้องเสียงหลง “เจ้าว่าอะไรนะ?” เสียงหวีดแหลมนั้นสามารถทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาดได้


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวขมวดคิ้ว ปิดหูตัวเอง พูดซ้ำอีกครั้งด้วยเจตนาดี “เงื่อนไขของพวกเราคือให้ท่านถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ให้ลุงใหญ่ข้ามาดำรงตำแหน่ง”

 

 

 


ตอนที่ 146.3

 

การเลือกของผู้ใหญ่บ้าน

 


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านแผดเสียงดังสนั่นอีกครั้ง “ไม่มีทาง พวกเจ้าอย่าได้คิดได้ฝัน ตัดใจไปได้เลย”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมองผู้ใหญ่บ้าน


 


 


ผู้ใหญ่บ้านใช้นิ้วสั้นเทิ้มชี้นาง โมโหจนพูดไม่ออก


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวส่งยิ้มถามผู้ใหญ่บ้าน “คำตอบของท่านเล่า?”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านถึงโมโหคำรามอย่างลุแก่โทสะ “ไป ไสหัวพวกเจ้าออกไป!”


 


 


เมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋นขยับฝ่าเท้าอย่างไม่รู้ตัวเล็กน้อย คิดจะเดินออกไป


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวยืนไม่ขยับ ยิ้มถาม “ท่านแน่ใจว่าจะไม่คิดทบทวนก่อน? โรงงานรมควันเนื้อของข้าแค่ฤดูหนาวเดียวก็ทำกำไรได้ถึงสองหมื่นตำลึง”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านไม่สั่นคลอน พูดอย่างเยือกเย็น “ไสหัวไป ต่อไปอย่าให้ข้าเห็นหน้าพวกเจ้าอีก”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าพูด “ทราบแล้ว”


 


 


พูดจบหันไปพูดกับเมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋น “ท่านลุงใหญ่ ท่านพ่อ เมื่อตาผู้ใหญ่บ้านไม่ยินยอม พวกเราก็ไปเถอะ”


 


 


เมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้า หันหลังเดินออกไป


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวพลางเดินออกมาพลางตะเบ็งเสียงตวาด “หลิวต้าเป่า กลับไปทำงานที่โรงงานได้แล้ว!”


 


 


หลิวต้าเป่ากำลังอาบน้ำ ได้ยินเสียงเมิ่งเชี่ยนโยวตื่นตระหนกตัวสั่นเทา รีบขานรับ “ข้ารู้แล้ว นายหญิง ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้” พูดจบ พรวดพราดออกมาจากถังแช่ตัว คว้าสิ่งของมาเช็ดตัวลวกๆ สองสามที สวมเสื้อผ้าสกปรกของตัวเอง แล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องตัวเอง


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่าพาลูกทั้งสองวิ่งตามออกมา กระวีกระวาดถามภรรยาผู้ใหญ่บ้าน “ท่านแม่ ไหนท่านบอกว่าวันนี้ต้าเป่าไม่ต้องกลับไปแล้ว”


 


 


เด็กน้อยทั้งสองกอดขาหลิวต้าเป่าคนละข้าง วิงวอนไม่ให้เขาไป


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวจงใจพูดว่า “หลิวต้าเป่า วันนี้ข้าพาเจ้ากลับมา ก็เพราะอยากปล่อยตัวเจ้า ให้เจ้าได้กลับบ้านมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับภรรยาและลูก แต่พ่อแม่เจ้าไม่ยินยอม ข้าก็ไม่มีทางเลือก เจ้าต้องกลับไปทำงานที่โรงงานข้าต่อแล้ว”


 


 


หลังจากหลิวต้าเป่าขายตัวให้เมิ่งเชี่ยนโยว ก็เอาแต่คิดถึงวันที่ตัวเองจะได้ไถ่ถอนตัวเป็นอิสระ ตอนนี้ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ ย่อมต้องร้อนรน เปล่งเสียงซักถามผู้ใหญ่บ้านและภรรยาผู้ใหญ่บ้าน “ท่านพ่อ ท่านแม่ เรื่องเป็นมายังไงกันแน่?”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านรีบพูด “ต้าเป่า เจ้าอย่าไปฟังนังตัวดีนั่นพูดเหลวไหล พ่อกับแม่มีหรือจะไม่อยากไถ่ตัวเจ้า แต่เงื่อนไขของพวกเขาข้าและพ่อเจ้ายอมรับไม่ได้จริงๆ”


 


 


หลิวต้าเป่าร้อนใจถามนาง “เงื่อนไขอะไรกันแน่?”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยิ่งลนลาน พูดทันควัน “พวกเขาอยากให้พ่อเจ้าถอนตัวจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน”


 


 


หลิวต้าเป่าตะลึงงัน


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมองเขาแวบหนึ่ง พูดว่า “พวกเราไม่ได้ยื่นข้อเสนอเปล่าๆ นอกจากคืนสัญญาทาสของเจ้า ยังจะให้เปล่าสูตรเนื้อรมควันกับพวกเจ้าอีกด้วย”


 


 


หลิวต้าเป่าทำงานในโรงงานทุกวัน ย่อมรู้ว่าโรงงานขายเนื้อรมควันและเครื่องในรมควันได้วันละประมาณเท่าไหร่ และเคยแอบคำนวณว่าจะได้กำไรคร่าวๆ ต่อวันเท่าไหร่ พอได้ยินว่าเมิ่งเชี่ยนโยวจะให้เปล่าสูตรเนื้อรมควันกับพวกเขา รีบพูดเกลี้ยกล่อม “ท่านพ่อ เป็นผู้ใหญ่บ้านมีดีอะไร ทั้งปีมีให้เก็บกินได้ไม่กี่มากน้อย แต่สูตรเนื้อรมควันไม่เหมือนกัน กำไรที่หาได้ต่อวันมากกว่าที่ท่านเป็นผู้ใหญ่บ้านหลายปีมานี้เสียอีก”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านตวาดเขา “เจ้าจะไปรู้อะไร พ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านมาหลายปี ถูกคนยกย่องจนเคยชิน หากยอมถอนตัวจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านนี้ ต่อไปพ่อจะไปพบหน้าผู้อื่นอย่างไร?”


 


 


หลิวต้าเป่าลนลานพูด “ท่านพ่อ ท่านตื่นเสียทีเถอะ นั่นเป็นเพียงเรื่องอดีต ตั้งแต่บ้านพวกเขามีโรงงาน ท่านดูตอนนี้มีใครในหมู่บ้านไม่ไปประจบประแจงพวกเขา ไหนเลยจะมีคนมาคลอเคลียท่านอีก แม้แต่หัวหน้าสกุลทั้งหลายปีใหม่ปีนี้ก็ปฏิบัติต่อท่านเย็นชากว่าเดิมหลายเท่า นี่เป็นเพราะอะไร ท่านยังไม่รู้หรือ?”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านไม่พูด


 


 


หลิวต้าเป่าพูดอย่างงุ่นง่านใจต่อ “ขอเพียงมีสูตรนี้ พวกเราก็จะก่อตั้งโรงงาน รับสมัครคนงานจำนวนมากในหมู่บ้านได้ ถึงตอนนั้นคนในหมู่บ้านก็จะมาพินอบพิเทาท่านเหมือนก่อน พวกเราทั้งหาเงินได้ ทั้งได้รับความเคารพจากผู้คน ดีกว่าท่านเป็นผู้ใหญ่บ้านกระจอกๆ นั่นเป็นไหนๆ”


 


 


ได้ฟังคำพูดของเขา ผู้ใหญ่บ้านไม่สะทกสะท้าน ภรรยาผู้ใหญ่บ้านกลับหวั่นไหวแล้ว ถามขึ้น “ต้าเป่า เจ้าพูดเป็นความจริงเรอะ โรงงานของพวกเขาหาเงินได้มากขนาดนั้นจริงๆ?”


 


 


หลิวต้าเป่าพยักหน้า “ท่านแม่ ข้าจะโกหกท่านทำไม ข้าแอบคำนวณดูแล้ว แค่โรงงานรมควันเนื้อ ในแต่ละวันก็ทำเงินได้หลายร้อยตำลึงแล้ว”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเบิกตาโพลง ร้องอุทาน “ในแต่ละวันก็ทำเงินได้หลายร้อยตำลึงแล้ว?”


 


 


หลิวต้าเป่าพยักหน้าหนักแน่น


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านหันศีรษะกลับไปหยั่งเชิงร้องเรียก “ตาเฒ่า!”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านไม่หวั่นไหว


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวมองเขาแวบหนึ่ง แย้มยิ้มพูด “เมื่อตาผู้ใหญ่บ้านไม่ยินยอม พวกเราก็ไม่ฝืนใจ แต่ข้าต้องขอออกตัวไว้ก่อน เงื่อนไขในวันนี้พวกเราจะเสนอให้พวกท่านเพียงครั้งเดียว หลังจากพ้นประตูบ้านพวกท่านไป พวกเราจะจำไม่ได้แล้วว่าเคยพูดว่าอะไร พวกท่านอย่าคิดว่ารอให้พวกท่านคิดตกแล้ว ค่อยมาหาพวกเราเล่า”


 


 


พูดจบหันไปพูดกับหลิวต้าเป่า “ไปเถอะ น้ำเสียในโรงงานยังรอให้เจ้าไปเททิ้ง”


 


 


หลิวต้าเป่าสืบเท้าไปเบื้องหน้าผู้ใหญ่บ้าน “ผลั่ก” คุกเข่าลงแล้วพูดวิงวอน “ท่านพ่อ ข้าขอร้องท่านล่ะ ท่านตกลงเถอะ ลูกไม่อยากกลับไปทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว ท่านก็ทราบ ทุกวันหลังจากลูกเทน้ำเสียเสร็จ สะอิดสะเอียนจนข้าวก็กินไม่ลง อีกทั้งในแต่ละวันยังต้องถูกพวกนักเลงรังแก มีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น หากท่านยังไม่ช่วยไถ่ถอนตัวข้า อีกไม่ถึงครึ่งปีท่านคงไม่ได้เห็นหน้าลูกชายคนนี้อีกแล้ว”


 


 


ภรรยาต้าเป่าเจ็บปวดน้ำตาไหลพราก คุกเข่าเบื้องหน้าผู้ใหญ่บ้านพูดวิงวอนขอร้อง “ท่านพ่อ ท่านตกลงรับปากเถอะ ต้าเป่าก็อยู่ในหมู่บ้านนี้ กลับไม่อาจกลับบ้านได้ ข้าไม่อยากมีชีวิตเยี่ยงแม่ม้ายนี้แล้ว แล้วลูกทั้งสองคนต่างก็อยากได้เจอหน้าพ่อตัวเองทุกวัน ถือว่าเห็นแก่พวกเขา ท่านยอมตกลงเถอะ”


 


 


สีหน้าผู้ใหญ่บ้านเริ่มสั่นคลอน หัวคิ้วขมวดมุ่น


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวจับจ้องสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา โหมกระพือเชื้อไฟ จงใจพูดดุดัน “หลิวต้าเป่า มัวโอ้เอ้อะไรอีก อยากให้ข้าจับเจ้าไปแขวนใต้ต้นไม้แล้วตีอีกใช่ไหม?”


 


 


ครั้งก่อนหลิวต้าเป่าแอบขโมยเงินเก็บของชุ่ยฮวา ถูกเมิ่งเชี่ยนโยวเอาตัวไปแขวนใต้ต้นไม้หนึ่งชั่วยาม ยังถูกพวกอู๋ต้าเลือดร้อนฉวยโอกาสแก้แค้นเขา เกือบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ ตกใจจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ยิ่งเว้าวอนผู้ใหญ่บ้าน “ท่านพ่อ ขอร้องล่ะ ท่านตกลงรับปากเถอะ หากลูกถูกนางนำไปแขวนต้นไม้อีกครั้ง คงไม่รอดจริงๆ แล้ว”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านไม่เคยได้ยินต้าเป่าพูดว่าเมิ่งเชี่ยนโยวทารุณเขาเช่นนี้มาก่อน ได้ยินดังนั้นโมโหร้องก่นด่า “นังตัวดี กล้าดียังไงมาทำกับต้าเป่าของพวกเราเช่นนี้ คอยดูว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่แยแสคำข่มขู่ของนางแม้แต่น้อย พูดอย่างสมเหตุสมผล “เมื่อหลิวต้าเป่าขายตัวให้ข้าแล้ว ข้าจะจัดการกับเขาอย่างไรก็เป็นเรื่องของข้า อย่าว่าแต่แขวนใต้ต้นไม้ ต่อให้ข้าตีเขาให้ตาย เอาศพโยนให้สุนัขจิ้งจอกบนเขากิน พวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านได้ยินนางพูดจบโมโหจนตัวสั่น ร้องตวาด “เจ้ากล้า?”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่สนใจนาง เข้าไปกระชากคอเสื้อด้านหลังของหลิวต้าเป่า พูดอย่างหมดความอดทน “โอ้เอ้อยู่ได้ อยากตายใช่ไหม?” พูดจบก็ลากเขาเดินออกไป


 


 


หลิวต้าเป่าตกใจคำพูดนางจนสติสตังเลื่อนลอยไปนานแล้ว ถูกนางลากถูลู่ถูกังถอยหลังไป ก็ไม่กล้าดิ้นรนขัดขืน


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านก่นด่าอย่างเจ็บปวดใจ “เมิ่งเชี่ยนโยว นังตัวดี เจ้าทำกับต้าเป่าของเราเช่นนี้ เจ้าไม่มีวันได้ตายดีแน่”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พูดอะไร ฉุดลากหลิวต้าเป่าเดินโซซัดโซเซออกไป


 


 


เมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋นแม้จะทำใจไม่ได้ กลับไม่พูดอะไร มองหลิวต้าเป่าอย่างเห็นใจ เดินตามหลังนางไปเงียบๆ


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่าเห็นหลิวต้าเป่าถูกเมิ่งเชี่ยนโยวลากตัวออกไปอย่างไม่ปรานีปราศรัย หัวใจยิ่งหวาดหวั่น โขกศีรษะให้ผู้ใหญ่บ้านหลายครั้ง ร่ำไห้วิงวอน “ท่านพ่อ ขอร้องท่านยอมรับปากไถ่ถอนต้าเป่าด้วยเถิด”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านเผยอปาก แต่ก็หุบลง


 


 


ภรรยาหลิวต้าเป่าเห็นเขายังไม่ยอม กัดฟัน พูดข่มขู่ “หากวันนี้ท่านพ่อไม่ไถ่ตัวให้ต้าเป่า ข้าจะพาลูกทั้งสองคนมาตายต่อหน้าท่าน”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเห็นบุตรชายถูกเมิ่งเชี่ยนโยวลากออกไปเกือบจะพ้นประตูแล้ว ก็ร้อนรนพูดขึ้น “ตาเฒ่า เจ้ารับปากเถอะ ก็แค่ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านกระจอกๆ ไหนเลยจะสำคัญกว่าชีวิตของลูกชายและหลานชายของเรา”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านยังคงลังเล


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็ข่มขู่เขาบ้าง “หากลูกชายและหลานชายข้าเป็นอะไร ข้าก็ไม่ขออยู่แล้ว เจ้าอยู่เฝ้าตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านของเจ้าไปคนเดียวเถอะ”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านไม่พูดอะไร


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเห็นหลิวต้าเป่าใกล้จะถูกเมิ่งเชี่ยนโยวลากพ้นประตูบ้าน กรีดร้องเสียงหลง “พวกเจ้าหยุดก่อน!”


 


 


คนทั้งหมดหยุดชะงักฝีเท้า หลิวต้าเป่าใช้โอกาสนี้หายใจหอบหลายครั้ง


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านแผดเสียงถามผู้ใหญ่บ้าน “ตกลงเจ้าจะรับปากไถ่ถอนตัวลูกชายพวกเราหรือไม่?”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านตวาดนาง “คนด้อยประสบการณ์เยี่ยงเจ้า จะไปรู้อะไร? หลายปีมานี้เราล่วงเกินผู้คนไม่น้อย หากข้ายอมถอนตัวจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ภายหน้าครอบครัวของเราไม่มีทางได้อยู่สุข”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านตอบอย่างไม่ฟังอีร้าค่าอีรมใดๆ “ข้าไม่สน ข้าถามแค่ว่าเจ้าจะไถ่ถอนตัวให้ลูกชายเราหรือไม่”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าพูดกับนางไม่รู้เรื่อง ก็โมโห พูดอย่างเฉียบขาด “ไม่ให้”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเดือดดาล หยิบกรรไกรสำหรับตัดเย็บผ้าจากหัวเตียงจ่อลำคอตัวเอง พูดข่มขู่ผู้ใหญ่บ้าน “หากวันนี้เจ้าไม่ตกลง ข้าจะตายต่อหน้าเจ้าเดี๋ยวนี้”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านตกใจสะดุ้งโหยง รีบลุกขึ้นยืน พูดโอ้โลมนาง “มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน เจ้าวางกรรไกรลงก่อน”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านโมโหเดือดดาลแล้ว จ่อกรรไกรเข้าใกล้ลำคอ เค้นถามเขาอย่างคลุ้มคลั่ง “ตกลงเจ้าจะไถ่ตัวลูกชายเราหรือไม่?”


 


 


ภรรยาต้าเป่าเห็นเช่นนั้น กลิ้งกลอกนัยน์ตา แสร้งร้องคร่ำครวญ “ท่านแม่ ท่านจะทำเรื่องโง่ๆ ไม่ได้ ต่อให้ข้าและลูกทั้งสองตาย ท่านก็จะตายไม่ได้ ต้าเป่ายังต้องการท่านไปช่วยไถ่ถอนให้เขา”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านได้ฟังยิ่งทวีความกระวนกระวายใจ กรรไกรในมือขยับเข้าใกล้ ปลายแหลมทิ่มเข้าไปในเนื้อ เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาพลัน


 


 


ภรรยาต้าเป่าร้องโวยวายอย่างตื่นตระหนก “ท่านแม่!”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านไม่คิดเลยว่าภรรยาผู้ใหญ่บ้านจะกล้าทิ่มทำร้ายตัวเองจริงๆ พูดอย่างเสียขวัญ “ข้ารับปาก ข้ารับปากแล้ว! เจ้ารีบวางกรรไกรลงเดี๋ยวนี้”


 


 


ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยังคงใช้กรรไกรจ่อคอตัวเอง พูดว่า “เจ้าให้พวกเขากลับมาก่อน”


 


 


ผู้ใหญ่บ้านรีบหันไปร้องบอกด้านนอก “ข้าตกลงรับข้อเสนอของพวกเจ้า พวกเจ้ากลับมาเถอะ”


 


 


เมิ่งเชี่ยนโยวลอบถอนใจโล่งอก ปล่อยตัวหลิวต้าเป่า


 


 


หลิวต้าเป่าล้มนั่งไปกับพื้นหายใจเหนื่อยหอบ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)