ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1398-1405
บทที่ 1398 เรือหลายร้อยลำกำลังแข่งกัน
เมื่อการจับฉลากเริ่มขึ้น กลุ่มเด็กวัยรุ่นก็เข้าแถวเพื่อจับฉลากหมายเลข ฉินสือโอวจึงมองไปที่สนามแข่งบนทะเลสาบ
เมื่อก่อนทะเลสาบเฉินเป่ามีเพียงท่าเรือเล็กๆ แต่ต่อมามีการค้นพบฟอสซิล พิพิธภัณฑ์และสถาบันวิจัยโบราณคดีจึงมาขุดค้นและสร้างท่าเรือขึ้นอีกแห่ง
ท่าเรือทั้งสองอยู่ห่างกันประมาณห้าร้อยเมตร ซึ่งท่าเรือหนึ่งแห่งจะรับผิดชอบการแข่งขันกลุ่ม การแข่งขันของผู้ชายจะอยู่ที่ท่าเรือแห่งใหม่และการแข่งขันของผู้หญิงจะอยู่ที่ท่าเรือเก่า ด้านหน้าของท่าเรือจะใช้ธงเล็กๆ หลากสีแบ่งสนามแข่ง ซึ่งดูแล้วเป็นเรื่องปกติมาก
กอร์ดอนเป็นคนแรกที่จับสลากเสร็จ จึงวิ่งกลับมาอย่างมีความสุขและพูดโม้ว่า “ดูสิ ฉันอยู่ในสนามแรกและกลุ่มแรก นี่บ่งบอกว่าฉันจะได้ที่หนึ่งหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดว่า “นี่ มีคำคำหนึ่งบอกไว้ว่าทุกอย่างควรพอดี ปกติถ้าเป็นแบบนี้มักได้ที่สุดท้ายนะ นายรู้ว่าคนสุดท้ายก็เป็นที่หนึ่งได้เหมือนกันใช่ไหม?”
กอร์ดอนพูดอย่างไม่ยอมว่า “เป็นไปได้อย่างไร ผมทำแบบทดสอบของทั้งห้องอยู่หลายครั้ง คุณครูก็ไม่ได้บอกว่าผมสอบได้ที่หนึ่งเช่นกัน”
ฉินสือโอวสูดหายใจเข้าลึกๆ และรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะคุยกับเด็กคนนี้แล้ว
เมื่อการจับฉลากจบลง การแข่งขันของฝ่ายชายและหญิงจะแตกต่างกัน การแข่งขันของฝ่ายหญิงคือแข่งหนึ่งรอบ พายครั้งแรกจะเริ่มจับเวลา สุดท้ายก็จะจัดอันดับ ใครก็ตามที่ใช้เวลาสั้นที่สุดคนนั้นก็จะได้อันดับที่หนึ่ง
ทีมชายแบ่งออกเป็นสองรอบ หลังจากผลการแข่งขันรอบแรกออกมาแล้ว จะมีการคัดเลือกสิบอันดับแรกมาแข่งต่อ เพื่อหาสามอันดับแรก
ไม่ต้องบอกเลยว่า การแข่งขันทีมฝ่ายชายมีความยุติธรรมมากกว่า แต่เด็กผู้หญิงอ่อนแอเกินไปและการพายสองร้อยเมตรไม่ใช่งานเล็กๆ ฉินสือโอวจึงทดสอบในระหว่างการฝึกซ้อมและเขาจะต้องทำงานหนักนี้ให้สำเร็จ
การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว กอร์ดอนเป็นคนแรกที่ลงน้ำ ฟักทองของเขามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้เข้าแข่งขัน เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเบิกตากว้างแล้วถามว่า “พระเจ้า นี่นาย นายปลูกฟักทองลูกนี้ได้อย่างไร?”
ฟักทองของเด็กๆ วัยรุ่นมีน้ำหนักเพียงหกหรือเจ็ดร้อยปอนด์ เช่นเดียวกับเพื่อนตัวน้อยที่อยู่ข้างๆ กอร์ดอน
กอร์ดอนลูบเรือฟักทองอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “นี่คือเรือประจัญบานสุดพิเศษกอร์ดอนและเออร์บัก ไม่ใช่ฟักทอง นายรอดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมได้เลย ฉันจะได้ที่หนึ่งแน่นอน”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น เด็กคนนั้นก็แบะปากและบ่นพึมพำว่า “เจ้านี่ช่างขี้อวดจริงๆ!”
การแข่งขันได้มียิ่งปืนเริ่มการแข่งขันและโหวจื่อเซวียนก็ถือปืนไว้ในมือ หลังจากผู้รักษาเวลาพร้อมแล้ว เขาก็ยกปืนขึ้นและชี้ขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมกับเสียงดัง ‘ปัง’
เมื่อได้ยินเสียงปืน กลุ่มเด็กวัยรุ่นก็เริ่มมีพลังฮึกเหิมขึ้นมาทันที กอร์ดอนจึงตะโกนเสียงดังออกมาว่า “ว้าว! เรือบัญชาการสูงสุดกอร์ดอน เออร์บัก พุ่งลงน่านน้ำทะเลสาบ พุ่งลงทะเลและไปยังดวงดาวแห่งจักรวาล!”
เขาส่งเสียงร้องอยู่ตรงนั้น เด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ จึงออกตัวอย่างรวดเร็วด้วยไม้พายของพวกเขา….
ฮิวจ์มาหาฉินสือโอวและมองไปที่กอร์ดอนด้วยความเป็นห่วงแล้วพูดว่า “ฉันรู้สึกมาตลอดว่าไอคิวของเด็กคนนี้ยังไม่ดีพออนิจจา ฉิน พวกนายคนจีนมีวิธีอะไรบ้างที่จะสามารถฟื้นฟูสมองให้ลูกๆ ได้”
ฮิวจ์คนน้องที่ตามมาข้างหลังจึงหัวเราะเยาะและพูดว่า “เงื่อนไงแรกของการฟื้นฟูสมองคือต้องมีสมองก่อน พวกนายดูกอร์ดอนสิ เด็กคนนั้นดูมีสมองเหรอไง?”
ฮิวจ์ไม่สนใจน้องชายของเขาและพูดต่อว่า “ถ้าเขามีช่วยบอกให้ฉันรู้ที ฉันก็จะฟื้นฟูมันให้น้องชายฉันเหมือนกัน”
ฮิวจ์คนน้องพูดอย่างไม่พอใจว่า “พี่ชายสุดที่รัก ไม่ดูถูกฉันบ้างคงจะไม่สบายใจใช่ไหม?”
ฮิวจ์ถอนหายใจและพูดว่า “พี่เป็นห่วงแก เข้าใจไหม?”
ฉินสือโอวว่า “โอเคโอเค พวกนายสองคนหยุดทะเลาะกันได้แล้ว รีบดูการแข่งขันเถอะ กอร์ดอนจะออกแรงแล้ว!”
อันที่จริง แค่ฉันเห็นแขนอันทรงพลังทั้งสองข้างของกอร์ดอนแล้วก็เหมือนกับลูกตุ้มนาฬิกาที่กำลังแกว่งไปมาและการเคลื่อนไหวก็ทำให้การพายเรือทั้งสองพายได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเรืออื่นๆ อีกเก้าลำเป็นเรือขนาดเล็กทั้งหมด เด็กๆ วัยรุ่นที่อยู่บนเรือก็กำลังใช้มือพาย ซึ่งนั่นก็คือถือไม้พายไว้ในมือและพายไปทางด้านซ้ายขวา แต่ทางฝั่งกอร์ดอนจะพายทั้งสองด้านด้วยกัน เพื่อให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เรือฟักทองแล่นข้ามทะเลสาบอย่างรวดเร็วและผู้คนบนฝั่งก็ค่อยๆ ร้องอุทานว่า “แบบนี้เขาไม่โกงเหรอ?”
ฮิวจ์คนพี่และคนน้องเอียงตามองฉินสือโอวทั้งซ้ายและขวาแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นายขี้โกงเหรอ? การพายแบบวิธีนี้จะสบายกว่าการพายด้วยมือมากนะ”
ฉินสือโอวถอนหายใจและพูดว่า “นี่เรียกว่าการใช้กฎของการแข่งขันอย่างสมเหตุสมผล กฎการแข่งขันไม่อนุญาตให้ใช้ไม้พายคู่เหรอ? นอกจากนี้ลองดูสิ นี่ก็เป็นแค่เรือฟักทองจากบ้านฉันไม่ใช่เหรอ? สรุปว่าดีหรือไม่ดี”
กอร์ดอนจะโชคดีหรือโชคร้าย ทีมของเขาเป็นเพียงแค่การใช้ไม้พายคู่ ส่วนคนอื่นๆ ก็ใช้การพายเรือด้วยไม้พายเดี่ยว
โดยปกติแล้วกอร์ดอนจะเร็วที่สุดและเขาเร็วกว่าคนอื่นๆ มาก
แต่ความเร็วนี้ก็ตรงกันข้ามเช่นกัน เรือฟักทองมีลักษณะกลม ในมุมมองของการรับแรงจึงไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นเรือ แม้ว่ากอร์ดอนจะพายเรือเร็ว แต่ก็มีหลายครั้งที่เรือฟักทองจะหมุนวนรอบทะเลสาบ ซึ่งแบบนี้จะใช้เวลานานมาก
ข้อดีของการพายไม้คู่ก็คือเรือฟักทองจะรับแรงให้เท่ากันมากขึ้น เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่เรือจะพลิกคว่ำในทะเลสาบ
แต่ผู้คนหรือสิ่งของแต่ละอย่างล้วนมีจุดแข็งและจุดอ่อน คนพายไม้เดี่ยวจะหมุนได้ง่าย แต่เนื่องจากเป็นสามร้อยหกสิบองศาเหมือนกัน จึงใช้ทิศทางใดก็ได้เป็นทิศทางที่ไปข้างหน้า ดังนั้นถ้าจะหมุนก็แค่ลอยไปตามระดับน้ำเท่านั้น จากนั้นคนที่อยู่ในเรือก็หันกลับมาแล้วเดินหน้าต่อไปก็พอแล้ว
ที่ไม้พายคู่ได้เปรียบ เนื่องจากไม้พายทั้งสองคงที่แล้วจึงสามารถค่อยๆ ปรับและหมุนตัวกลับได้ ดังนั้นจึงใช้เวลานานมาก อีกทั้งยังหมุนตัวกลับยากอีกด้วย
สนามแข่งขันอยู่ที่หนึ่งร้อยเมตร หลังจากถึงจุดหมายปลายทางแล้วจะมีรอบขากลับอีกครั้ง หลังจากเรือฟักทองของกอร์ดอนกลับมา ผู้รักษาเวลาจะตรวจสอบนาฬิกาและรายงานผล “ชายเดี่ยวสองร้อยเมตร รอบที่หนึ่งกอร์ดอนเข้ารอบคนแรก ด้วยเวลาหนึ่งนาทีสี่สิบห้าวินาที”
ขณะนี้เด็กวัยรุ่นที่เหลืออีกเก้าคนเพิ่งหันหน้าพายเรือกลับ เรืออ้วนกลมจะหลีกเลี่ยงการพลิกคว่ำในทะเลสาบได้ยากจริงๆ
วินนี่เลียนแบบการประกวดการคลานของทารกที่เธอพาเถียนกวาไปในตอนแรก จึงเตรียมเหรียญรางวัลไว้มากมาย ซึ่งทุกคนจะได้รับรางวัล แต่วัสดุจะเป็นพลาสติก
กอร์ดอนยกเหรียญขึ้นเพื่อส่งสัญญาณไปรอบข้าง จากนั้นกัดมันเข้าปากอย่างมีความสุขและโบกมือไปมารอบๆ
แม้ว่าก่อนหน้านี้ทุกคนจะบ่น แต่ในขณะนี้ทุกคนก็ยังปรบมือให้กอร์ดอนอย่างอบอุ่น พวกพ่อแม่ชาวแคนาดาก็ให้ความสำคัญกับการให้กำลังใจลูกๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกของตัวเองก็ตาม
ในการแข่งขันรอบที่สองมีชาร์คน้อยเพิ่มเข้ามาด้วย เขาก็สามารถเคลื่อนไหวไม้พายคู่ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จึงทำให้คว้าที่หนึ่งได้สำเร็จ และซีมอนสเตอร์น้อยที่เข้ารวมการแข่งขันในรอบที่สามก็ดูจะน่าสงสารเล็กน้อย เขาเริ่มออกแรงได้สำเร็จและขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาถูกวนเป็นวงกลมหลังจากพายมาได้มากกว่าสี่สิบเมตร
ซึ่งตอนนี้มันแย่มาก การพายเรือไม้คู่ร่วมกับเรือกลมมันจะทำให้เครื่องหมุน หลังจากประสบปัญหานี้ซีมอนสเตอร์น้อยก็ยังคงสบายดีและอดทนพยายามกลับไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ยิ่งเขาเร่งการหมุนก็ยิ่งเร็วขึ้นและยิ่งหมุนตัวหลายครั้ง จนทำให้เขาเวียนหัวจนต้องนอนบนเรือฟักทองก่อนจากนั้นก็อาเจียนออกมา
ฉินสือโอวต้องการลากเขากลับมา การแข่งขันจบลงแล้วและอีกเก้าคนที่เหลือก็จบการแข่งขันแล้วเช่นเดียวกัน แต่ซีมอนสเตอร์น้อยก็ยังไม่ยอมแพ้ หลังจากที่เขาปรับมันแล้ว เขาก็พยายามพายหมุนมันกลับมา
ชาวแคนาดาจะให้ความสำคัญกับความตั้งใจและความอุตสาหะของเด็กๆ มากกว่า พวกเขาเชื่อว่านี่คือลักษณะที่สำคัญที่สุดในความสามารถของมนุษย์ สำคัญกว่าพรสวรรค์ เมื่อซีมอนสเตอร์น้อยหมุนกลับมา เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างล้นหลาม!
บทที่ 1399 ผู้ชนะเลิศ
ฉินสือโอวเฝ้าดูกลุ่มเด็กผู้ชายอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ไปที่กลุ่มเด็กผู้หญิงอีกครั้ง ทางฝั่งเชอร์ลี่ย์และลอเรนซ์ก็ได้แข่งขันเสร็จสิ้นแล้วและมองไปที่เขาอย่างเย็นชา ถามว่า “คุณยังไม่รู้ว่าจะมาได้อย่างไร?”
เสี่ยวเถียนกวาเงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคน จากนั้นก็มองไปที่ฉินสือโอว ทันใดนั้นเธอก็พูดตามว่า “มาได้ไง?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงตัวน้อยเปล่งเสียงสามคำออกมา ฉินสือโอวคิดว่าเธอได้ยินผิดตอนที่เธออ้าปากพูด หลังจากนั้นเสียงของผู้คนที่นั่นก็วุ่นวายขึ้น หลังจากนั้น เด็กหญิงก็พูดซ้ำอีกครั้งว่า “มาได้ไง?”
เชอร์ลี่ย์และลอเรนซ์ก็ได้ยินเช่นกัน ทั้งสองจึงโยนความไม่พอใจต่อฉินสือโอวออกไปทันที และหนึ่งในนั้นก็โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับหัวเราะในขณะที่บีบแก้มอ้วนของเด็กหญิงตัวน้อย
เด็กหญิงตัวน้อยเกลียดการกระทำแบบนี้มาก เธอโบกแขนสั้นๆ และผลักทั้งสองไปข้างหลังอย่างแรงพร้อมกับทำเสียง ‘อ่าๆ’ ด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าเล็กๆ ของเธอเต็มไปด้วยสีหน้าอดทนไม่ไหว
ฉินสือโอวทั้งเกลี้ยกล่อมลูกสาวและถามทั้งสองคนว่า “การแข่งขันของพวกเธอจบแล้วเหรอ? ฉันจำได้ว่าพวกเธออยู่หลังๆ กันหมดนะ”
เชอร์ลี่ย์บ่นว่า “คุณไม่สนใจพวกเราสักนิดเลย ใช่ เราอยู่อันดับหลังๆ แต่ทีมฝ่ายหญิงของเรามีน้อย มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เราจะแข่งได้ถึงเมื่อไรกันล่ะ?”
ฉินสือโอวคิดไปคิดมาก็เห็นด้วย ตอนนี้ทีมฝ่ายชายทำการแข่งขันได้มาถึงครึ่งทางแล้ว ทีมฝ่ายหญิงที่มีเพียงหนึ่งร้อยแปดสิบคนก็คงจะทำเหมือนกันหมด ดังนั้นเขาจึงถามทั้งสองคนเกี่ยวกับผลการแข่งขัน
เชอร์ลี่ย์ยักไหล่และพูดอย่างผิดหวังเล็กน้อยว่า “ปกติเรือฟักทองของเราจะใหญ่เกินไปและพายได้ค่อนข้างยาก น่าจะอยู่ระหว่างอันดับที่ห้าถึงสิบ”
ฉินสือโอวพูดปลอบใจทั้งสองคนว่า “แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว ถึงอย่างไรพวกเธอก็เพิ่งจะฝึกฝนมาได้ไม่นาน นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันคู่อีกใช่ไหม? พวกเธอสองคนอยู่ในห้าอันดับแรกหรือถึงสิบอันดับแรกล่ะ รวมแล้วต้องอยู่ในสามอันดับแรกแน่นอน”
“ถ้ายังไม่ใช่ล่ะ?” เชอร์ลี่ย์จับแขนของเขาและพูดด้วยความน่าสงสาร
ฉินสือโอวถึงกับกลืนน้ำลาย แม่เจ้า เขาใช้พลังโพไซดอนเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้พวกเธอตลอด และพวกเธอยังมีเรือฟักทองที่ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ถ้าไม่ได้สามอันดับแรก เขาก็คงไม่มีเหตุผลอะไรแล้ว
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดแบบนี้ออกไปได้ เขาจึงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมทั้งสองคนว่า “ไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ฉันพูดได้แค่ว่าพระเจ้าไม่อยากเห็นพวกเธอสองคนคว้าแชมป์ไม่ใช่เหรอ?”
ไวส์เรียกเขาไปอีกฝั่ง ฉินสือโอวจึงกอดเด็กสาวทั้งสองคน จากนั้นก็ถามว่า “ทำอะไร?”
ไวส์ที่สีหน้ากำลังจริงจังและยืนอยู่บนฟักทองของเขาก็พูดว่า “อาจารย์ คุณรีบเปิดวิดีโอดูสิ พ่อของผมบอกว่าเขาส่งคำขอวิดีโอมาให้คุณ พวกเขาต้องการดูตารางชนะการแข่งขันของผมทั้งหมด!”
ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาดู ก็มีคำขอวิดีโอจริงๆ หลังจากที่เขายอมรับคำขอแล้ว ใบหน้าของบรูซและภรรยาก็ปรากฏบนหน้าจอเล็กๆ ของโทรศัพท์มือถือ ทำให้เขาต้องดูในแนวนอน ไม่อย่างนั้นจะใบหน้าของทั้งคู่จะมีแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกมาก
“เฮ้ ฉิน ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” จอร์จยิ้มอย่างสดใสและวิเวียนก็มาทักทายเขาเช่นกัน
ฉินสือโอวตอบกลับและรีบหันกล้องไปที่ไวส์ เขารู้ว่าทั้งคู่อยากเห็นอะไรมากที่สุด
เมื่อเห็นไวส์ วิเวียนก็กรีดร้องขึ้นทันทีเหมือนกับสาวที่หลงใหลในชายที่รูปร่างหล่อเหลา “พระเจ้า ลูกของฉันสุดยอดมากจริงๆ! ที่รัก ใครทำเรือฟักทองให้ลูก? ทั้งสวยและสง่างามมากจริงๆ!”
ไวส์พูดด้วยความดีใจว่า “ลุงนีลเซ็นเป็นคนช่วยทำ แต่ตัวหนังสือข้างบนนั้นผมเขียนเอง”
ฉินสือโอวเหลือบมองดูและมีตัวอักษร ‘อู’ ที่น่าเกลียดจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ด้านนอกของฟักทอง ใช่ มันมากมายนับไม่ถ้วน มีทั้งใหญ่และเล็ก ไวส์เขียนมันมาสองสามวันแล้วและเขาก็คิดว่าเด็กคนนี้กำลังฝึกคัดลายมือบนฟักทองที่ถืออยู่
วิเวียนกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เธอร้องไห้ออกมาด้วยความประหลาดใจ “นี่ลูกเขียนเหรอ? แม่อยากจะบอกว่าตัวอักษรเหล่านี้ทั้งสวยงามทั้งสง่างาม! ไวส์ ดวงใจของแม่ ลูกสุดยอดมาก แต่น่าเสียดายที่แม่ไม่สามารถไปคว้าแชมป์ข้างๆ ลูกได้ นี่คือแชมป์แรกของลูกใช่ไหม?”
กอร์ดอนที่อยู่ข้างๆ ก็โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับโบกมือ “ไม่ต้องห่วงครับ ป้าวิเวียน มีผมอยู่จะต้องไม่มีทางคว้าแชมป์ได้แน่นอน ดังนั้นพวกคุณยังมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์แรกข้างๆ เขา”
วิเวียนถอนหายใจและพูดว่า “ฉิน เอาเด็กไม่รู้จักความนี่ออกไปได้ไหม?”
จอร์จพูดกับไวส์อย่างไม่พอใจว่า “ลูกรัก ลูกมีการแข่งขันที่สำคัญขนาดนี้ ทำไมไม่บอกเราก่อนเลยล่ะ? เราจะไปที่สนามแข่งเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกได้ ทำไมพอมาถึงวันนี้แล้วถึงพูด! ลูกไม่รักแม่กับพ่อแล้วเหรอ?”
ไวส์พูดอย่างเขินอายว่า “ไม่ใช่นะครับ ผมรู้สึกว่าผมไม่มีความมั่นใจ ผมคิดว่าผมคงคว้าแชมป์ไม่ได้ ถ้าพ่อกับแม่มาก็จะรู้สึกอับอายไปด้วย”
“ไม่เลยลูกรัก พ่อกับแม่จะภูมิใจในตัวลูกเสมอ” วิเวียนพูดไปน้ำตาคลอเบ้าไปด้วย เธอทำท่าจะร้องไห้ เธอไม่มีบุคลิกที่เหมือนกับราชินีเหล็กแห่งชิคาโก้เลยสักนิด
การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้น ไวส์จูบกับเลนส์กล้องแล้วกระโดดขึ้นเรือพร้อมกับถอดเสื้อแจ็กเกตออก เผยให้เห็นชุดกีฬาอยู่ข้างใน ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าและร่างกายท่อนล่างอยู่ในชุดกางเกงสไตล์บรูซลี ด้านหลังเขียนตัวอักษร ‘อู’ แบบเอียงด้วยปากกา
ฉินสือโอวแทบจะสำลักน้ำลาย แต่บรูซและภรรยาไม่สนใจ จอร์จจึงให้เขามาดูใกล้ๆ หลังจากอ่านเสร็จเขาก็พูดด้วยความพึงพอใจว่า “รูปร่างของลูกชายฉันดีจริงๆ ฉิน ขอบคุณที่ทำงานหนักนะ! วิเวียนกับฉันเป็นหนี้ครอบครัวคุณจริงๆ!”
วิเวียนยังพูดอีกว่า “ขอบคุณมากจริงๆ เราคิดว่าชีวิตนี้คงจะไม่ได้เห็นไวส์ออกกำลังกายอย่างหนักอีกแล้ว คุณได้ทำตามความปรารถนาของเราแล้ว!”
เสียงปืนดังขึ้น ไวส์เช่นกอร์ดอนตะโกนเสียงดังว่า “อ้าวๆ!” จากนั้นกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างก็ยกขึ้นและไม้พายคู่ก็แกว่งไปมาอย่างรวดเร็ว ดั่งเรือฟักทองที่ถูกยิงออกไปเหมือนกับธนู
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเขาควรให้กำลังใจไวส์สักหน่อย ดังนั้นเขาจึงโกง ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเพื่อปูทางในทะเลให้กับไวส์ เรือฟักทองที่อยู่ด้านหน้าจึงสงบนิ่งและมีคลื่นซัดอยู่ด้านหลัง มีคลื่นใต้น้ำขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้านล่าง
ดังนั้นไวส์จึงไม่ต้องกังวลว่าเรือฟักทองจะหมุนสะเปะสะปะไปรอบๆ ในทะเลสาบ เขาแค่ต้องพายอย่างสุดแรงก็พอและเดินทางไปกลับให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
คนแรกที่กลับมา ไวส์โบกมือและกระโดดลงจากเรือฟักทอง ‘แครกๆๆ’ และโบกมือไปมา หลังจากนั้นเตะสูงอีกครั้งหนึ่งตะโกนว่า “อา!”
วิเวียนที่อยู่นั่นก็ยิ่งตื่นเต้นมากกว่าเขา เธอจึงกรีดร้องอย่างสุดเสียงว่า “โอ้พระเจ้า! โอ้พระเจ้า! โอ้พระเจ้า! ลูกรักของฉันได้ที่หนึ่ง! โอ้ เขาคือแชมป์! เขาต้องได้ที่หนึ่งแน่นอน! จอร์จคุณเห็นไหม?!”
จอร์จพูดอย่างมีความสุขว่า “แน่นอน ผมเห็นแล้ว ลูกชายของเราทำได้ดีมาก”
ต่อมาทีมของเชอร์ลี่ย์และลอว์เรนซ์จะทำการแข่งขันต่อ เขายื่นโทรศัพท์ให้ไวส์และไปให้กำลังใจทั้งสองคน
เชอร์ลี่ย์เป็นไม้แรก ซึ่งรับผิดชอบในการไป ลอว์เรนซ์ไม้สอง รับผิดชอบการกลับมา ทั้งสองตบมือไฮไฟว์กัน จากนั้นเรือฟักทองของลอว์เรนซ์ก็ลากออกมาถึงเส้นชัยหนึ่งร้อยเมตร
คนข้างๆ เขาถอนหายใจและพูดว่า “สองสาวนี้ต้องได้เป็นแชมป์แน่นอน หนึ่งในนั้นคือแชมป์และอีกคนคืออันดับสาม มาอยู่ทีมด้วยกันแล้วใครจะเทียบพวกเธอได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉินสือโอวก็ถึงกับผงะและถามว่า “เชอร์ลี่ย์ เธอกับลอว์เรนซ์ใครเป็นแชมป์?”
เชอร์ลี่ย์สะบัดผมสีบลอนด์ใส่เขาและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ก็ต้องเป็นหนูสิคะ! หนูจะเป็นแชมป์สองสมัย!”
ฉินสือโอวโกรธเธอมากจนเขาพูดว่า “เธอบอกไม่ใช่เหรอว่าเธอจะอยู่ที่ห้าถึงสิบ?”
“หนูหยอกคุณเล่น!” เชอร์ลี่ย์ยิ้มอย่างสดใสและความสวยงามก็กลบกลุ่มเด็กวัยรุ่น
บทที่ 1400 หัวใจของผู้ที่แข็งแกร่ง
ไม่มีความท้าทายอะไรแล้ว เชอร์ลี่ย์ก็เป็นไม้คนแรกพายไปจนถึงเส้นชัยคนแรกและผู้ปกครองที่อยู่ข้างๆ ก็ต่างพากันชมเชยว่า “เด็กหญิงสาวสวยนี้สวยเหมือนนางฟ้า แต่การเคลื่อนไหวของเธอยืดหยุ่นและทรงพลังเหมือนกวางน้อย ไม่รู้จริงๆ ว่าพ่อแม่แบบไหนจะเลี้ยงลูกให้เป็นแบบนี้ได้”
ฉินสือโอวหัวเราะและเขารู้สึกว่าเป็นการว่ายกยอตัวเอง
เชอร์ลี่ย์และลอเรนซ์ไฮไฟว์กัน ลอว์เรนซ์พร้อมจะออกโจมตีทุกเวลา เธอเริ่มพายเดินทางกลับ
ลอเรนซ์เป็นลูกสาวของแลนซ์ เป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างเงียบ เธอมักจะช่วยแลนซ์ทำงานที่ทะเล เธอจึงมีสมรรถภาพทางกายที่ดีและทำงานได้เร็วอย่างไม่พูดไม่จา และนี่ก็เป็นเหมือนกันที่เธอเป็นคนแรกที่เดินทางกลับสำเร็จ
ผู้รักษาเวลารายงานเวลาของพวกเขาว่า “การแข่งขันพายเรือผลัดรอบที่สอง อันดับที่หนึ่ง ใช้เวลาไปสี่นาทียี่สิบแปดวินาที!”
ดังนั้นงานของสาวๆ ก็จบลงแล้ว แม้ว่าระยะทางจะแค่หนึ่งร้อยเมตร แต่การพายเรือก็เหนื่อยมากเช่นกัน หลังจากที่ทั้งสองสาวลงจากเรือฟักทอง ทั้งคู่ก็เหงื่อท่วมตัว
ฉินสือโอวช่วยเชอร์ลี่ย์เช็ดเหงื่อและ โลลิต้าสาวบลอนด์ที่ไม่สนใจอะไร จู่ๆ ก็รู้สึกอายขึ้นมาและกระตุกชายเสื้อผ้าของเขาและกระซิบว่า “ฉิน คุณเป็นแบบนี้ทำให้ต่อไปหนูจะแต่งงานได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวหัวเราะและพูดว่า “เป็นอะไรไป? เธอเพิ่งจะอายุแค่สิบห้าปีเองนะ คิดเรื่องแต่งงานแล้วเหรอ?”
กลุ่มเด็กวัยรุ่นจึงอิจฉาตาร้อนและมองไปที่ฉินสือโอวด้วยความโมโห จากนั้นจึงตะโกนว่า ‘ฉันจะแทนที่นาย’
ยังเหลือสี่รอบหลังจากการแข่งขันของทีมฝ่ายหญิง ฉินสือโอวจึงไปดูการแข่งขันของทีมฝ่ายชายที่นั่นก่อนเพื่อให้กำลังใจพาวลิสและมิเชล
การเอาชนะของพาวลิสไม่ค่อยเก่ง หรือพูดได้ว่าเขารู้คุณสมบัติของการแข่งขันในครั้งนี้และแสดงมันออกมาได้สม่ำเสมอมาก เขากลับมาพร้อมกับอันดับที่สี่ของการแข่งขันทีม เห็นได้ชัดว่าไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
มิเชลก็แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณในการต่อสู้ที่แตกต่างออกไปด้วยบุคลิกที่ชอบเก็บตัวตามปกติของเขา เขายิ้มเขินอายก่อนขึ้นเรือ รอยยิ้มของเขาหายไปทันทีที่ขึ้นเรือ เขาจ้องมองคู่ต่อสู้และสแกนคู่ต่อสู้ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เมื่อเสียงปืนดังขึ้น มิเชลก็กัดฟันพร้อมกับพายเรือออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับลูกธนูอันแหลมคมถูกยิงออกไป
แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างใจหวัง ยิ่งกังวลมากเท่าไร ก็ยิ่งผิดพลาดได้ง่ายเท่านั้น เมื่อมิเชลกลับมาที่เส้นชัยก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น เรือฟักทองเกิดน้ำวนซึ่งตกอยู่ในสภาพวิกฤตเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นแบบนี้ มิเชลล์จึงไม่ลังเลที่จะกระโดดลงไปในน้ำและใช้แขนทั้งสองข้างหมุนให้เรือฟักทองทรงตัว จากนั้นแขนทั้งสองข้างดึงปากเรือไว้แล้วร่างผอมบางของเขาก็พลิกตัวลงอย่างรวดเร็วและตกลงไปในเรือฟักทอง จากนั้นยืนขึ้นและออกเดินทางอีกครั้ง
การกระทำของมิเชลทำให้เขาประหลาดใจมาก ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นและผู้ปกครองก็ต่างตกใจกับปฏิกิริยาและไหวพริบที่ยอดเยี่ยมของเขา
หลังจากที่มิเชลกลับมาในอันดับที่หนึ่ง หลายคนก็ยื่นมือออกมาจับมือเขาพร้อมกับส่งเสียงชื่นชมอย่างต่อเนื่อง
มิเชลในขณะนี้จึงกลับมาเขินอายเหมือนเดิมอีกครั้ง เขายิ้มพร้อมกับส่ายหัวและบอกว่าไม่เป็นอะไร
ในที่สุดก็เข้าสู่รายชื่อรอบชิงชนะเลิศ ทางฝั่งฟาร์มปลามีสามคนที่ได้เข้ารอบ กอร์ดอน ไวส์และมิเชล ชาร์คน้อยช้าไปหนึ่งวินาทีจึงตกไปอยู่อันดับที่สิบเอ็ด ช่างน่าเสียดายมากจริงๆ
รอบรองชนะเลิศของทีมฝ่ายชายเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นที่สุด วัยรุ่นที่เหลืออีกสิบคนเป็นเด็กที่แข็งแกร่งที่สุดที่คัดเลือกมาจากเกือบสามร้อยคน แต่ละคนมีทักษะและพละกำลังที่ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่
เมื่อโหวจื่อเซวียนเหนี่ยวไก เรือฟักทองสิบลำก็พุ่งไปข้างหน้าเหมือนปลาทูน่าครีบน้ำเงินสิบตัว
ครั้งนี้ฉินสือโอวไม่ได้ใช้กลวิธีโกงใดๆ อีกแล้ว เขาแค่ต้องการทำให้ไวส์และพ่อแม่มีความสุข ถึงจะช่วยเขาได้ แต่ครั้งนี้ก็เป็นการตัดสินครั้งสุดท้าย ดังนั้นเขาต้องยุติธรรมสักหน่อยคงจะดีกว่า
แต่เด็กวัยรุ่นทั้งสามกลับแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และระดับการแข่งขันที่ทำให้เขาประหลาดใจ ครั้งนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีสำหรับมิเชล คนแรกที่ถึงเส้นชัยจึงหันหลังกลับมาและกอร์ดอนก็ตามมาติดๆ จากนั้นก็ไวส์…
เมื่อเห็นมิเชลล์อยู่ในอันดับที่หนึ่ง กอร์ดอนก็ส่งเสียงร้องพร้อมกับเร่งความเร็วอีกครั้ง เขาใช้เวลาไม่นานในการแซงหน้ามิเชล
มิเชลใช้ความเป็นมืออาชีพสังเกตสถานการณ์นี้ จากการหรี่ตา กัดฟันและเหวี่ยงไม้พายอย่างดุเดือด ในช่วงยี่สิบเมตรสุดท้ายเขาขึ้นนำและตัดเข้าที่หนึ่งได้สำเร็จ!
กอร์ดอนตามหลังมาช้ากว่าแค่สองถึงสามวินาที คนที่เข้าอันดับที่สามคือไวส์ เขากรีดร้องว่า ‘เฮ้ยๆๆ’ ตลอดทาง ทำให้สร้างความรำคาญให้กับวัยรุ่นที่เข้าร่วมคนอื่นๆ จึงมีคนตะโกนว่า “นายโง่หรือเปล่า?”
“เฮ้ยๆๆ!” ไวส์ไม่สนใจและยังคงกรีดร้องต่อไป จากนั้นเมื่อเข้าใกล้ฝั่งจึงกระโดดขึ้นและตะโกนว่า “ฉันได้ที่สาม! ฉันคืออัศวินไวส์!”
ฉินสือโอวลูบจมูกไปมาและเขาก็มองไปที่วินนี่ ก็พบว่าวินนี่ก็อยู่ที่นั่นด้วยจึงรู้สึกงุนงง
คราวนี้ต้องไปเรียนกับเจ้านี่จริงๆ แล้ว การแข่งขันรอบนี้ที่สนับสนุนโดยฟาร์มปลาและจัดโดยวินนี่ จนถึงตอนนี้ เงินรางวัลเกือบทั้งหมดจะถูกฟาร์มปลานำเข้ากระเป๋า ซึ่งไม่น่าดูเลยเท่าไร
ดังนั้น ฉินสือโอวจึงตัดสินใจที่จะช่วยวินนี่อย่างเป็นทางการ หลังจากการแข่งขันจบลง เขาจะเอาเด็กทั้งหกคนมาอยู่ข้างๆ และพูดว่า “แข่งขันพายผลัดในรอบต่อไป พวกนายไม่ต้องรวมทีมกัน ฉันจะจัดทีมให้พวกนายเอง ว่าจะให้ไปอยู่ทีมใคร เข้าใจไหม?”
“ไม่เข้าใจครับ” เด็กทั้งห้าคนส่ายหัว แต่พาวลิสกลับหัวเราะ เมื่อเป็นแบบนี้ฉินสือโอวจึงเข้าใจว่าเมื่อกี้ที่พาวลิสไม่ได้ที่หนึ่งของทีม ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เขาเดาผลลัพธ์ออกตั้งแต่แรก
น่าเสียดายที่คนอื่นไม่โตก่อนวัยเหมือนพาวลิส ดังนั้นฉินสือโอวจึงเริ่มใช้วิธีโกงความสามารถออกมา “พวกนายได้เห็นแล้วว่าพวกนายเป็นคนที่หน้าตาดีของที่นี่ พวกนายคือราชา! ถ้าพวกนายร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง นั่นก็จะเป็นทีมที่มีฝีมือสุดยอดและไม่มีค่าใดๆ สักนิด แต่ถ้าพวกนายไปร่วมมือกับพวกมือใหม่เหล่านั้น นอกจากจะเอาชนะได้แล้ว พวกนายยังได้แสดงความเป็นราชาออกมาได้อีกด้วย!”
“นอกจากนี้ ด้วยผู้ชมจำนวนมาก ศักยภาพจึงค่อนข้างแย่และคะแนนที่ออกมาไม่ดีเมื่อสักครู่นี้ของพวกนั้น ตอนนี้จึงทำให้รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก พวกนายจะไม่ไปช่วยพวกเขาหน่อยเหรอ? ถ้าพวกเขาแพ้สองครั้งติดต่อกัน จะต้องพังอย่างแน่นอน!”
“กอร์ดอนไม่เคยล้มลง เขาเป็นคนสุดท้ายในชั้นเรียนทุกครั้ง” ชาร์คน้อยพูดจาเข้าใจยาก
กอร์ดอนพูดอย่างโมโหว่า “หุบปาก ใครบอกว่าฉันเป็นคนสุดท้ายทุกครั้ง? ครั้งนี้ฉันไม่ใช่แล้ว ครั้งนี้เป็นสองอันดับสุดท้าย!”
ฉินสือโอวจึงกลอกตาไปมา “นี่มันไม่ใช่ประเด็น โอเค? การร่วมมือกันของพวกนายคืออะไร? คนที่ช่วยให้คนที่อ่อนแอแข็งแกร่ง คือผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง!”
เด็กๆ ทั้งห้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก จากนั้นก็ค่อยๆ พากันพยักหน้า กอร์ดอนจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง คุณลุงคนนี้นี่สุดยอดเหมือนกับคนที่ร่วมมือด้วยเลย”
ไวส์ยังพูดอีกว่า “อัศวินควรช่วยผู้ที่แข็งแกร่งและผู้ที่อ่อนแอ ผมต้องการเป็นเพื่อนร่วมทีมกับเด็กที่มีคะแนนแย่ที่สุด”
มิเชลจึงมีปฏิกิริยาออกมา เขามองไปที่เหรียญบนหน้าอกของเขาและพูดกับฉินสือโอวอย่างเงียบๆ ว่า “ฉิน ผมอยากได้ที่หนึ่งจริงๆ!”
ฉินสือโอวเงียบไปพักหนึ่งและกำลังจะพูด มิเชลก็พูดต่อว่า “แต่คุณก็พูดถูก ผมฟังคุณพูดแล้ว ผมจะอยู่ทีมกับเด็กที่มีคะแนนแย่ที่สุดเมื่อสักครู่นี้”
ศักยภาพของเด็กๆ วัยรุ่นยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะสามารถร่วมทีมกับเพื่อนร่วมทีมที่แย่ที่สุดเพื่อคว้าแชมป์ได้ เมื่อจบรอบแรก มีเพียงมิเชลและเด็กตัวผอมบางคนหนึ่งที่เข้าสู่สิบอันดับแรก อีกห้าคนก็พ่ายแพ้กันไปหมด!
มิเชลและเพื่อนร่วมทีมของเขาก็ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศเช่นกัน พวกเขาอยู่อันดับที่แปด มิเชลยังได้เป็นไม้หนึ่งในช่วงเปิดเกมอีกด้วย…
บทที่ 1401 มีคนหน้าหนาแบบนี้ด้วยเหรอ
สุดท้ายจะเป็นการมอบรางวัล เด็กวัยรุ่นทั้งสามคนจะยืนบนเวทีมอบรางวัลสูงสุดของการแข่งขันกลุ่มเดี่ยวก่อนและรับใบรับรองและตั๋วรางวัลจากวินนี่ด้วยความอิจฉาและเกลียดชัง
จากนั้นพวกเขาก็ลงจากเวทีและเด็กวัยรุ่นอีกหกคนก็ขึ้นไปแทน ดังนั้นก็ถึงรอบที่พวกเขาจะรู้สึกอิจฉาและเกลียดชังแล้ว
เชอร์ลี่ย์และลอเรนซ์สบายที่สุด หลังจากได้รับรางวัลประเภทการแข่งขันเดี่ยวแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการรับรางวัลประเภททีม ดวงตากลมโตของโลลิต้าก็ยิ้มโค้งงอเป็นพระจันทร์ยิ้ม เหมือนกับที่บทกวีตะวันตกที่กล่าวไว้ว่ารอยยิ้มอันแสนหวานนั้นเหมือนไวน์ที่รสชาติกลมกล่อม แต่ทำให้เด็กวัยรุ่นมึนเมา
สุดท้ายพวกเด็กวัยรุ่นก็รู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อย กอร์ดอนพูดอย่างไม่พอใจว่า “เพื่อนร่วมทีมของผมแย่มาก ต่อให้จะเปลี่ยนเป็นคนธรรมดา ผมก็ยังสามารถติดสามอันดับแรกได้”
มิเชลและคนอื่นๆ จึงนิ่งเงียบและไม่พูดอะไร พวกเขาคงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนที่ได้รับรางวัลจะต้องแนะนำตัวของผู้ชนะ เมื่อกี้ตอนที่ทั้งสามคนอยู่บนเวที หลายคนที่อยู่ข้างล่างก็พูดถึงเรื่องนี้
ไวส์เป็นคนเปิดใจกว้างมาก เขาพูดอย่างมีความสุขว่า “แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ? ผมรู้จักเพื่อนใหม่อยู่คนหนึ่งและผมยังช่วยเขาไว้!”
การแข่งขันจบลงในเวลาเกือบๆ บ่ายโมงตรง การแข่งขันของเด็กสี่ร้อยคน แม้ว่าแต่ละรอบจะใช้เวลาเพียงสองหรือสามนาทีอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีคนจำนวนมากและยังใช้เวลานาน
ในตอนท้ายของการแข่งขัน ทุกคนค่อยๆ แตกกระเจิงกันและวิ่งไปกินข้าวในเมือง การหมุนเวียนของเมืองในปัจจุบันถึงขีดสุดเป็นอย่างมาก จากคำพูดของคาร์สันเจ้าของร้านพิซซ่าบอกว่า “ตั้งแต่ฟาร์มปลาปิดตัวลง เมืองนี้ก็ไม่ได้คึกคักมายี่สิบปีแล้ว”
ฉินสือโอวย้ายเรือฟักทองขึ้นไปบนรถ ในเวลานี้ชายวัยกลางคนที่สวมสูทและใส่แว่นตาก็เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กรูปร่างผอมและพูดทักทายว่า “เฮ้ สวัสดีครับ คุณเป็นพ่อแม่ของมิเชลใช่ไหม? ผมติดตามคุณมาสักพักแล้ว พวกคุณอยู่ด้วยกันตลอดไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวจำได้ว่าเด็กที่อยู่ข้างๆ ชายวัยกลางคนก็คือเพื่อนร่วมทีมของมิเชล เขาจึงยื่นมือออกไปและพูดว่า “โอ้ ผมเป็นผู้ปกครองของเขา ไม่ใช่พ่อแม่ของเขา ขอถามหน่อยคุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”
หลังจากพูดจบ เขาโบกมือให้มิเชลและมิเชลที่กำลังกัดฟันลากเรือฟักทองขึ้นฝั่งก็รีบวิ่งไปหา
“เฮ้ แคลเล็น” มิเชลเข้ามาทักทายเด็กคนนั้น
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตาก็ยิ้มและพูดว่า “ผมมาที่นี่เพื่อขอบคุณ มิเชลคนนี้เมื่อกี้ได้ช่วยไว้มาก เขาได้พาลูกชายของผมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ มันวิเศษมากใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่และพยักหน้าให้กับมิเชลเพื่อให้เขามาต้อนรับ มิเชลจึงพูดอย่างสุภาพว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับคุณลุง มันเป็นเรื่องที่ผมควรทำ เราเป็นทีมเดียวกัน แคลเล็นและผมต่างก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะชนะการแข่งขันนี้”
ชายวัยกลางคนมองลูกชายด้วยความรักและพูดว่า “แคลเล็นชอบการแข่งเรือฟักทอง เรามาจากเมืองแมคเล็นแนน รัฐแอลเบอร์ตา เราเข้าร่วมการแข่งขันเรือฟักทองหลายครั้ง ผลของวันนี้เป็นผลการแข่งที่ดีที่สุดตั้งแต่แคลเล็นเคยได้รับ”
ฉินสือโอวเข้าใจความหมายของเขา ก่อนหน้านี้แคลเล็นเดาว่ามันเป็นครั้งสุดท้าย อย่างน้อยวันนี้เขาก็ได้มีส่วนร่วม คะแนนของแย่ที่สุด ฟักทองที่เขาใช้ในการแข่งขันก็มีขนาดเล็กที่สุด มีขนาดเพียงสามถึงสี่ร้อยปอนด์เท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้หวังที่จะได้รับผลการแข่งขันที่ดี แต่สมรรถภาพทางกายและอายุทำให้เขาไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ ด้วยเหตุนี้มิเชลจึงเลือกที่จะร่วมมือกับเขาเอง ทั้งสองก็มาถึงรอบชิงชนะเลิศและไม่ตกรอบ ผลลัพธ์นี้ทำให้มิเชลไม่พอใจมาก แต่กลับเพียงพอทำให้แคลเล็นมีความสุขมาก
มิเชลก็เข้าใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “แคลเล็นทำได้ดีมาก ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อยู่กับเขา ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะแลกเปลี่ยนเรือฟักทองกับแคลเล็น ผมต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก”
ชายวัยกลางคนพูดอย่างมีความสุขว่า “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? เรือฟักทองของคุณใหญ่มากและทำมาอย่างดี มันเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งได้เลย”
“แต่มันเทียบไม่ได้กับความช่วยเหลือของแคลเล็นที่มีต่อผมในระหว่างการแข่งขันและเทียบกับมิตรภาพของเราไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” มิเชลกล่าว
ฉินสือโอวช่วยเขาพูดว่า “ใช่แล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจ คุณจะให้เด็กๆ แลกเปลี่ยนเรือฟักทองกันได้ไหม ให้พวกเขาได้มีบางสิ่งบางอย่างเป็นที่ระลึกในมิตรภาพครั้งนี้”
คนวัยกลางคนจึงยินยอมด้วยความเต็มใจ เขาบอกว่าลูกชายชอบแข่งเรือฟักทอง เรือฟักทองที่ทำมาอย่างดีลำนั้น สำหรับเด็กหนุ่มแคลเล็นแล้วมันสำคัญมาก
หลังจากแลกเปลี่ยนเรือฟักทองกันแล้ว พ่อลูกแคลก็จากไปอย่างมีความสุข ก่อนออกเดินทางชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาฉินสือโอวและกระซิบว่า “เฮ้คุณ มิเชลเป็นเด็กที่น่าทึ่งและผมกล้าพนันได้เลยว่าเด็กคนนี้จะมีอนาคตที่ดี”
ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ให้เรารอวันนั้นด้วยกันนะ”
หลังจากพ่อลูกทั้งสองคนกลับไป มิเชลก็ขวางฉินสือโอวไว้อย่างเขินอายและพูดว่า “ขอบคุณครับฉิน”
ฉินสือโอวหัวเราะและพูดว่า “ขอบคุณฉันทำไม?”
“ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น! ผมคิดมาตลอดว่าผมทำผิด สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแข่งขันไม่ใช่ชัยชนะ แต่เป็นคุณค่าต่างหาก!” มิเชลกล่าว
นี่ก็เป็นความผิดพลาดเช่นกัน ฉินสือโอวตบไหล่มิเชลและช่วยเขาแบกเรือฟักทองลำเล็กขึ้นรถบรรทุก จากนั้นก็กลับฟาร์มปลาอย่างมีความสุข
การแข่งขันเรือฟักทองที่วินนี่จัดขึ้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก รัฐนิวฟันด์แลนด์และรัฐโนวาสโกเชียได้มีสื่อมาทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ สื่อของเซนต์จอห์นได้ทำหน้าเว็บบอร์ดประจำสัปดาห์หน้าเพื่อโฆษณาความสำเร็จจุดมุ่งหมายของเมือง และนี่ยังเป็นการถือโอกาสทำกำไรเล็กน้อยด้วย
มีการทำข้อมูลอ้างอิงของการแข่งขันที่คึกคัก ซึ่งจะเป็นวันที่เหลือของเดือนพฤศจิกายน เห็นได้ชัดว่ามันน่าเบื่อมาก ช่วงเวลาครึ่งเดือนสิ้นสุดลงไปอย่างรวดเร็ว เดือนธันวาคมก็กำลังจะมาถึงและเริ่มเข้าสู้ต้นฤดูหนาวอันแสนหนาวเหน็บ
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หิมะรอบแรกจะมาถึงแล้ว แต่ในปีนี้มาช้ากว่าปกติเล็กน้อยและจะตกหนักมากในรอบนี้
เป็นผลให้ในเวลานี้ เรือลาดตระเวนเริ่มเข้าสู่ฟาร์มปลาและผู้มาเยือนเป็นเจ้าของฟาร์มปลาอันดับต้นๆ ในรัฐโนวาสโกเชีย ซึ่งก็คือคาร์เตอร์
ความโชคดีหรือโชคร้ายของคนธรรมดาจะไม่ถูกกำหนดโดยนก ฉินสือโอวรู้สึกสับสน เพราะความสัมพันธ์ของเขากับคาร์เตอร์นับว่าไม่ดี ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกล้าฝ่าหิมะมาหาเขาถึงที่นี่?
แต่ในเมื่อหน้าประตูมีแขก ฉินสือโอวก็ต้องต้อนรับเขาตามมารยาท จึงเชิญเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่อหลบความหนาวเย็นและในขณะเดียวกันก็ต้มน้ำร้อนชงกาแฟไปด้วย
ในขณะที่กำลังดื่มกาแฟ คาร์เตอร์ก็ถอนหายใจและพูดว่า “พระเจ้า ถึงเวลาที่หิมะจะมาจริงๆ แล้ว ข้างนอกหนาวจนแทบจะทนไม่ไหว การดื่มกาแฟสักแก้วในตอนนี้ก็เหมือนกับชีวิตได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ”
ฉินสือโอวถาม “หนาวขนาดนี้ คุณมาหาผมถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่า?”
เขาเปิดอกพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องการเล่นลูกไม้ใดๆ ถึงอย่างไรเขาและคาร์เตอร์ก็ไม่ค่อยลงรอยกัน
คาร์เตอร์หัวเราะหึหึและพึมพำสักพักแล้วจึงพูดจุดประสงค์ออกมาว่า “ผมได้ยินมาว่ากรมประมงต้องการเป็นพันธมิตรกับฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์? คุณมีข่าวอะไรไหม?”
“เป็นพันธมิตรกับฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์เหรอ?” ฉินสือโอวถามกลับ
จู่ๆ คาร์เตอร์ก็เริ่มกังวลขึ้นมาทันทีและถามว่า “ใช่ๆ เป็นพันธมิตรกับฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ คุณมีข่าวบ้างไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดว่า “ผมเคยได้ยินคนพูดถึง ว่าแต่มีอะไรเหรอ?”
คาร์เตอร์ถูมือไปมาและพูดด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “มันเป็นแบบนี้ ผมได้ยินมาว่ากรมประมงตัดสินใจที่จะทำสิ่งนี้ โดยกำหนดเป้าหมายไปที่เจ้าของฟาร์มปลาในรัฐนิวฟันด์แลนด์และโนวาสโกเชียของเรา คุณรู้ไหมว่าพันธมิตรนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการพัฒนาการประมงของเรา ผมต้องการเป็นประธานสภาของพันธมิตรนี้ ดังนั้นผมจึงมาหาคุณในครั้งนี้และหวังว่าคุณจะช่วยผมได้”
บทที่ 1402 บ่อน้ำร้อนในวันที่หิมะโปรย...
เมื่อสองเดือนก่อน ตอนที่ฉินสือโอวแต่งงาน แมทธิว จินเคยพูดกับเขาว่าจะวางแผนสร้างพันธมิตรด้านการประมงรอบๆ ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ เพื่อรวมการประมงของแคนาดาตะวันออก เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกและอำนวยความสะดวกในการจัดส่งแบบครบวงจร
ฉินสือโอวไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก ตามความคิดของเขาแล้ว เขาต้องการทำในส่วนของตัวเองให้ดีก็พอ ทำไมตอนแรกถึงมาที่เกาะแฟร์เวล? ก็แค่อยากใช้ชีวิตสบายๆ ในฐานะเจ้าของฟาร์มปลาไม่มีอะไรทำก็ตกปลา นอนเล่น ดูแลพ่อแม่ เลี้ยงลูกและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับวินนี่
ตอนนี้วินนี่ก็ได้เป็นนายกเทศมนตรีแล้ว ฉินสือโอวเองก็ไม่อยากตกอยู่ในสังคมขององค์กรราชการอีก ดังนั้นทั้งคู่จึงยุ่ง แม้แต่เวลาว่างเวลาอิสระก็ยังไม่มี
ดังนั้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ฉินสือโอวจึงไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับการดำเนินงานของกรมประมงและต้องการลดอิทธิพลของตัวเองลงให้ได้มากที่สุด
ถ้าตอนนี้มีบุคคลอื่นแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานพันธมิตรกรมประมง เขาก็ยินดีต้อนรับ ยกเว้นคาร์เตอร์
ไม่รู้ว่าทำไมฉินสือโอวที่ใจดีกับคนอื่นถึงรู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นคาร์เตอร์ครั้งแรก นี่สามารถอธิบายได้ด้วยสายตาเท่านั้น มีบางคนเช่นชาร์คและซีมอนสเตอร์ที่เติบโตมาอย่างกำยำ หน้าตาดุร้าย พวกเขาอาจถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในต่างประเทศได้ แต่เขากลับรู้สึกดีและคิดว่าคนเหล่านี้สามารถคบหาได้
คาร์เตอร์มักจะยิ้มตาหยี หน้าตาหล่อดูดีในหมู่คนผิวขาว แต่ฉินสือโอวกลับไม่ชอบเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเริ่มต้นจากการประมูลของกรมประมง และคาร์เตอร์ยังเป็นคนเลือกเอง แล้วจะให้ฉินสือโอวช่วยเขาได้อย่างไร?
ดังนั้น ฉินสือโอวจึงส่ายหัวและปฏิเสธว่า “ขอโทษครับคุณคาร์เตอร์ คุณก็รู้ว่าผมเป็นแค่คนจีนอพยพมา ผู้คนไม่ให้ความสำคัญกับผมหรอกใช่ไหม? เรื่องแบบนี้ผมไม่มีน้ำหนักอะไรมากอยู่แล้วและอาจช่วยอะไรคุณไม่ได้ด้วย”
คาร์เตอร์หัวเราะเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นและพูดว่า “ฉิน คุณนี่ดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ใหญ่ที่สุดในการประมงนิวฟันด์แลนด์ ถ้าคุณไม่สำคัญจริงๆ ถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นอย่างไรล่ะ ฮ่าๆ”
ฉินสือโอวจ้องที่เขาและไม่คิดว่าเขาจะพูดเล่น แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหมือนพูดเสียดสี
บางทีนี่อาจจะเป็นอคติ แต่ฉินสือโอวไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร เขาแค่ไม่ชอบคาร์เตอร์
คาร์เตอร์ยิ้มเจื่อนๆ และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ฉิน ผมคิดว่าผมเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในตำแหน่งนี้ ผมมีทรัพยากร มีคอนเนคชั่นและประสบการณ์ ดังนั้นผมจึงเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ ไม่ใช่เหรอ? แน่นอนว่าคุณก็เหมาะสมมากเช่นกัน แต่ผมคิดว่าถ้าเราได้ร่วมมือกันคงจะดีที่สุด”
ฉินสือโอวยังคงจ้องมองเขาอย่างต่อเนื่อง ชายคนนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อท้าทายหรอกเหรอ?
คาร์เตอร์ยังแนะนำฟาร์มปลาและความสามารถของเขาและยังบอกเป็นนัยๆ ว่า “ฉิน ถ้าคุณสนับสนุนผมให้เป็นประธานคณะกรรมการ ผมคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมที่จะเป็นรองประธานกรรมการได้เท่าคุณแล้ว บางทีถ้าไม่มีผม คุณก็สามารถเป็นรองประธานกรรมการได้ แต่ด้วยการสนับสนุนของผม คุณก็สนับสนุนผมด้วย มันก็ดีต่อทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อเห็นฉินสือโอวไม่พูดอะไร เขาก็คิดว่าฉินสือโอวกำลังสนใจอยู่ จึงพูดกระตุ้นต่อไม่หยุด “ตามข้อมูลที่ผมได้สอบถามมา ครั้งนี้กรมประมงมาจริงและพันธมิตรนี้จะเป็นองค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมประมงของแคนาดา”
“ตอนนี้กรมประมงต้องการเลือกบุคคลจากภายในเป็นมาเป็นประธาน แต่เราไม่สามารถให้บุคคลภายนอกมาเป็นผู้นำเราได้ ไม่ใช่เหรอ? สำหรับกลุ่มพันธมิตรการประมง ก็ควรจะเป็นเจ้าของฟาร์มปลาเป็นผู้นำใช่ไหม? ถ้าคุณ ผมและเจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นๆ รวมตัวกัน ผมคิดว่าเราสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้”
ฉินสือโอวลูบคางไปมา เขาเหมือนจะเข้าใจว่าคาร์เตอร์คงจะมาเพื่อท้าทาย และไม่ได้มาเพื่อพูดโอ้อวด ชายคนนี้คิดว่าเขาเกือบจะรับตำแหน่งประธานนี้ได้จริงๆ และเขาก็ไม่ถือว่าตัวเองเป็นคู่แข่ง ในข่าวของเขาคือกรมประมงได้ที่ส่งคนมาเป็นประธานคณะกรรมการเองและต้องการการสนับสนุนจากเขาเพื่อต่อต้านกับกรมประมง
ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ฉินสือโอวมักจะได้ยินบ่อยๆ กรมประมงจะส่งคนมาเป็นหัวหน้าเองจะไม่ดีกว่าเหรอ? ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เขาทำและก็ไม่ใช่คาร์เตอร์ทำ มันเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งคู่!
เมื่อเข้าใจหลักการนี้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ฉินสือโอวจะสนับสนุนคาร์เตอร์ เขาไม่ปฏิเสธอย่างสุภาพอีกต่อไปและพูดความจริงไปตามตรงว่า “ขอโทษจริงๆ คาร์เตอร์ ผมคิดว่าไม่สามารถสนับสนุนคุณได้ ผมชื่นชอบคุณมาก แต่ผมไม่สามารถต้านทานการตัดสินใจของกรมประมงได้”
หลังจากที่เขาพูดจบ กล้ามเนื้อแก้มของคาร์เตอร์ก็กระตุกขึ้น ฉินสือโอวสังเกตเห็นแววตาดูถูกในดวงตาของผู้ชายคนนี้ ซึ่งนี่ทำให้เขาโกรธอยู่ในใจและยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะสนับสนุนคาร์เตอร์
แต่เขาไม่ได้ไล่คาร์เตอร์ออกไปตรงๆ ถึงอย่างไรครั้งก่อนก็ได้ส่งลูกปลามาให้ คาร์เตอร์ยังเลี้ยงข้าวและนอกจากนี้ยังเคยให้เขาพักผ่อนในพื้นที่ของเขาเองในขณะที่ฝนตกหนักอีกด้วย
บังเอิญที่ตอนนี้หิมะตกหนัก ฉินสือโอวจึงทำเช่นเดียวกัน เขาเชิญคาร์เตอร์และชาวประมงของเขาเข้ามาพักและจัดให้นีลเซ็นมาต้อนรับ จากนั้นก็กลับไปอยู่กับลูกสาว
เขายอมที่จะเผชิญหน้ากับพวกตัวเล็กอย่างหู่เป้าฉงหลัว ดีกว่าไปเผชิญหน้ากับคาร์เตอร์
หลังจากหิมะตกอุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว คราวนี้ไม่จำเป็นต้องย้ายมาสเตอร์เข้าบ้าน เพราะเต่าอัลลิเกเตอร์สามารถอยู่ในบ่อน้ำร้อนได้
เต่าอัลลิเกเตอร์มีความอดทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี อุณหภูมิของน้ำสามสิบถึงสี่สิบองศาเซลเซียสไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมันและมันจะไม่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ส่วนมากมักจะนอนอยู่บนขอบสระ
ฉินสือโอวพาหู่เป้าฉงหลัวมาป้อนอาหารมาสเตอร์ แต่มาสเตอร์หิวไม่ได้ เพราะมีปลาโครงกระดูกอยู่ในบ่อน้ำร้อน ถ้ามาสเตอร์หิว ฉินสือโอวก็กล้ารับประกันว่าเจ้าเต่าตัวนี้จะไปจับปลามากิน
ไม่เพียงแต่มาสเตอร์เท่านั้น แต่หู่เป้าฉงหลัวก็ให้ความสนใจกับปลาโครงกระดูกเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะฉงต้า นอนอยู่บนสระพร้อมกับกะพริบตาเล็กๆ มองลงไปข้างล่างและยังยื่นอุ้งเท้าอ้วนลงไปในน้ำ เหมือนจะวางแผนหลอกล่อเพื่อจับปลาน้อยมากิน
ฉินสือโอวรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ได้ เขาต้องบอกให้เจ้าเด็กพวกนี้รู้ว่าอะไรกินได้อะไรกินไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสตอนที่ฉงต้ากำลังนั่งยองๆ ในสระและกำลังมองลงไปในน้ำ พุ่งเข้าใส่จากด้านหลังและส่ง ฉงต้าลงไป
ฉงต้าส่งเสียงร้องคร่ำครวญและสำลักน้ำเข้าไปเต็มปาก จากนั้นก็หันกลับมามองฉินสือโอวอย่างไม่พอใจ
ฉินสือโอวจึงเปลี่ยนเป็นกางเกงชายหาดและกระโดดลงไปในน้ำ เขากอดฉงต้าและจูบมันพร้อมกับชี้ไปที่ปลาตัวเล็กในสระให้พวกมันดู จากนั้นก็โบกมือไปมาและพูดว่า “นี่กินไม่ได้นะรู้ไหม? กินไม่ได้! ใครกินจะจัดการคนนั้น!”
ความสนใจของหู่จือและเป้าจือที่สนใจปลาตัวเล็กๆ คือการต้องการเล่นไม่ใช่ต้องการกิน หลัวปอและเฟอเรทแบลคฟรุทยิ่งกลัวไม่กล้าลงไปในน้ำ ดังนั้นฉินสือโอวจึงเตือนพวกมัน พวกมันจึงสงบลง ไม่ไปจ้องมองปลาโครงกระดูกอีก
ข้างนอกหิมะตกหนักและควันในบ่อน้ำร้อนก็มีหมอกลอยฟุ้ง ฉินสือโอวที่กำลังเพลิดเพลินกับการแช่น้ำอุ่นอยู่ จู่ๆ ก็เงยหน้ามองเห็นอะไรแปลกๆ
รอบๆ และด้านบนบ่อน้ำร้อนจะล้อมด้วยกระจก แต่เป็นกระจกที่มีความแข็งแรงสูงธรรมดาทั่วไปแม้ว่าจะแข็งแรงพอ เหนียวทนทานและทนต่อลม แต่หมอกนั้นรุนแรงเกินไป อุณหภูมิภายในและภายนอกจึงแตกต่างกันมาก ในกระจกจึงเต็มไปด้วยไอน้ำและภายนอกก็มองเห็นไม่ชัด
สิ่งนี้ทำให้ฉินสือโอวไม่สบายใจมาก คิดไปคิดมา การแช่บ่อน้ำร้อนในวันที่หิมะตกแล้วเงยมองหิมะที่กำลังตกหนัก แบบนี้จะสบายแค่ไหนกัน?
ฉินสือโอวลุกขึ้นและโทรศัพท์หาวิลและพูดว่า “ฉันอยากจะเปลี่ยนผนังกระจกบ่อน้ำร้อน นายมาดูหน่อยสิว่าเปลี่ยนได้ไหม?”
บทที่ 1403 เปลือกหอยพิษปรากฏขึ้นอีกครั้ง
วิลบอกว่าไม่มีปัญหา รอหิมะหยุดเขาจะเข้ามาช่วยเปลี่ยนให้
ดังนั้นนี่จึงเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ฉินสือโอวก็ไม่สามารถตำหนิวิลได้ เพราะในเซนต์จอห์นไม่มีบ่อน้ำร้อนและการก่อสร้างของวิลยังต้องเรียนรู้และยังขาดประสบการณ์ ไม่อย่างนั้นปัญหาเหล่านี้คงจะสามารถแก้ไขได้ในครั้งเดียว
หลังจากแช่น้ำได้สักพัก ฉินสือโอวก็ล้างตัวให้หู่เป้าฉง จากนั้นก็กวักมือเรียกหลัวปอ พี่น้องเฟอเรทและแมวป่าที่นอนอยู่ขอบบ่อน้ำร้อนให้ลงมา
เดิมทีเจ้าตัวน้อยทั้งสี่นอนอยู่บนพื้นอุ่นๆ อย่างมีความสุข แต่ละตัวหลี่ตาเตรียมที่จะหลับ เมื่อฉินสือโอวกวักมือเรียก พวกมันก็ตื่นขึ้นทันที และสะบัดก้นกระโดดถอยหลัง
“มานี่” ฉินสือโอวยิ้มพร้อมโบกมือ
เจ้าตัวน้อยทั้งสี่รวมตัวกันแล้วกระโดดถอยหลัง
“มานี่สิ!” ฉินสือโอวหยุดยิ้ม
เจ้าตัวเล็กทั้งสี่เบียดกัน จากนั้นก็กระโดดถอยหลังต่อ
“เฮ้ มาหาฉัน!” ฉินสือโอวเริ่มโกรธ
หลัวปอเอาหัวมุดไว้ในอุ้งเท้า พี่น้องเฟอเรทแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ในขณะที่ราชาซิมบ้าก็ส่งเสียงร้องพร้อมกับตาลุกวาวมองหาโอกาสที่จะหลบหนีออกไป
น่าเสียดายที่ที่นี่มีประตูแค่บานเดียว ซึ่งถูกฉินสือโอวปิดไว้
ฉินสือโอวไม่พูดอะไรและยื่นมือซ้ายไปที่หลัวปอ ส่วนมือขวาก็ราชาซิมบ้าและเฟอเรทพี่ชาย ส่วนเฟอเรทน้องสาวก็ไม่ต้องสนใจ มันจะทำตามเฟอเรทพี่ชายทุกอย่าง เฟอเรทไปไหนมันก็จะไปด้วย
เจ้าตัวเล็กสองสามตัวส่งเสียงกรีดร้องและปฏิเสธที่จะลงไปในน้ำ ฉินสือโอวไม่บังคับพวกมัน หลังจากลากพวกมันไปที่ขอบสระแล้วก็เขาก็จับอุ้งเท้าเล็กๆ ของพวกมันลงไปในน้ำ
บ่อน้ำร้อนถูกสร้างขึ้นไม่เหมือนกับบ่อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีขั้นบันไดเป็นชั้นๆ ข้างในและน้ำในที่เหล่านี้ก็จะตื้นมาก หลังจากที่ฉินสือโอวเอาเท้าขอเจ้าตัวเล็กวางไวบนขั้นบันได หลัวปอที่กำลังตื่นตระหนกก็สงบลง
สิ่งที่หมาป่ากลัวคือทะเลลึก ไม่ใช่บ่อน้ำเล็กๆ แบบนี้เพียงแต่ขาทั้งสี่ของมันแตะพื้นได้ก็พอ
ในบ่อน้ำตื้นๆ แบบนี้ หมาป่าขาวตัวน้อยผ่อนคลายอย่างรวดเร็วหลังจากที่เท้าทั้งสี่แตะพื้น หลังจากที่มันรู้สึกว่าน้ำในบ่อน้ำร้อนอุ่น มันจึงลองเอนตัวนอนไปตามขั้นบันได ฉินสือโอวก็ไม่ขัดขืนที่จะอาบน้ำให้มันพร้อมกับหรี่ตาอย่างสนุกสนาน
นี่จึงเป็นตัวอย่างที่ดี แมวป่าที่อยู่ด้านหลังก็ตามลงมาแบบนี้เช่นกัน แต่สำหรับมันแล้วขั้นบันไดยังลึกไปหน่อย หลังจากมันเอนตัวนอนลง ก็เหลือแค่เพียงส่วนหัวเท่านั้นที่โผล่ออกมา ดังนั้นจึงรู้สึกไม่สบายสุดท้ายก็ลุกขึ้นยืน
สุดท้ายพี่น้องเฟอเรทก็ดูเหมือนจะไม่ตกใจกลัวบ่อน้ำนี้ จึงกระโดดลงมาอย่างมั่นใจ
การฝึกฝนจริงๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว หมาป่าขาวนอนลงได้ แมวป่าต้องยืนขึ้นและเฟอเรทแบลคฟุตก็จมอยู่ใต้น้ำ…
ฉินสือโอวรีบจับเจ้าตัวเล็กที่เปียกน้ำทั้งสองตัวขึ้นมา เฟอเรทแบลคฟรุตมีเสน่ห์และน่ารักจึงกลายเป็นหนูน้ำ ฉินสือโอวเงยหน้ามองและแบะปากด้วยความรังเกียจ “น่าเกลียดจริงๆ!”
จิตใจที่อ่อนแอของเฟอเรทตัวน้อยได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จากนั้นพวกมันไม่ยอมลงไปในน้ำอีก พวกมันจึงนอนอยู่ข้างๆ สระว่ายน้ำเพื่อรับความอบอุ่น
แต่การทำความสะอาดให้มันก็ง่ายดาย ฉินสือโอวแค่เอาน้ำร้อนพรมลงไปมันก็พอแล้ว
ตอนนี้คนที่สบายที่สุดก็คือมาสเตอร์ หลังจากช่วงเวลาแห่งการทะเลาะกันผ่านไป ก่อนหน้านั้นเต่าอัลลิเกเตอร์ที่เต็มไปด้วยพลังรู้สึกเบื่อหน่าย จึงว่ายน้ำไปมาในบ่อ สุดท้ายก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้และนอนอยู่บนนั้นอย่างสบายใจ…
หลังจากฉินสือโอวล้างตัวให้เจ้าตัวเล็กเสร็จและใช้ผ้าขนหนูเช็ดจนแห้งแล้ว เขาก็แต่งตัวและเปิดประตูออกไป
เจ้าตัวเล็กสองสามตัวเดินตามมา เมื่อเปิดประตูออกไปก็รู้สึกได้ถึงลมทะเลเย็นยะเยือกข้างนอก โดยมีฉงต้าเป็นหัวหน้า พวกมันตัวสั่นและหันศีรษะไปมา ครั้งนี้ยกเว้นพี่น้องเฟอเรท นอกนั้นกระโดดลงบ่อน้ำร้อนกันหมด หู่จือและเป้าจือที่โผล่มาแค่หัวจึงจ้องมองพวกมันพร้อมกันกับฉินสือโอว
ฉินสือโอวส่งเสียงร้องตะโกน เมื่อเห็นว่าพวกมันไม่ยอมออกมา จึงต้องออกไปด้วยตัวเองและปล่อยให้พวกมันอยู่ที่นี่ เพราะถึงอย่างไรพื้นที่ว่างก็ใหญ่มากพอ
สองวันต่อมา เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในบ้านบ่อน้ำร้อนรู้สึกสบายจนไม่อยากออกมา ฉินสือโอวและวินนี่จึงไม่สนใจ เสี่ยวเถียนกวาพอไม่มีของเล่นก็ไม่ยอม ใช่ เจ้าตัวเล็กเหล่านี้เป็นของเล่นของเธอ ความแต่กต่างก็คือฉงต้าเป็นของเล่นชิ้นใหญ่ ส่วนตัวอื่นๆ เป็นของเล่นชิ้นเล็ก
ทุกวันเมื่ออากาศอบอุ่นในตอนเที่ยงพ่อฉินและแม่ฉินจึงต้องพาเด็กหญิงน้อยไปกลิ้งเล่นกับพวกมันที่บ่อน้ำร้อน อุณหภูมิในห้องและข้างนอกแตกต่างกันมาก ฉินสือโอวจึงไม่อยากให้ไปเล่นในที่แบบนั้นเพราะจะทำให้ไม่สบายได้ง่าย
แต่เจ้าพวกตัวเล็กฉลาดเกินไป จึงพาพวกมันออกมาและสักพักก็วิ่งกลับไปด้วยกัน
หลังจากฉินสือโอวสังเกตอย่างละเอียดก็พบว่า ส่วนใหญ่ฉงต้าจะเป็นผู้นำ ไม่อย่างนั้นเจ้าตัวเล็กตัวอื่นๆ ก็จะไม่มีความกระตือรือร้นแบบนี้
แน่นอนว่ามีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือหลังจากเข้าไปในห้องบ่อน้ำร้อนแล้วสามารถหลีกเลี่ยงกรงเล็บของเสี่ยวเถียนกวาได้ ถ้าอยู่ข้างนอกพวกมันจะถูกวิ่งไล่ข่วนทุกวัน
ฤดูหนาวไม่เพียงแต่เป็นเรื่องยากสำหรับมาสเตอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นฤดูที่ยากลำบากสำหรับฉงต้าเช่นกัน เมื่ออุณหภูมิต่ำการขับของเหลวภายในของมันจะส่งผลต่อพละกำลังของมันและเข้าสู่สภาวะจำศีล แม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับหมีธรรมดาที่จะหาที่หลับเป็นเวลานาน แต่ก็ยังเป็นก็การลดพลังงานมากจริงๆ
จึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกมันเล่นแบบนี้ไปก่อน ฉินสือโอวไม่สนใจ เวลาผ่านไปจะทำให้เสี่ยวเถียนกวาชินกับมันไปเอง เพราะถึงอย่างไรก็ตามเธอยังมีของเล่นที่ไม่สามารถเข้าไปในบ่อน้ำร้อนได้ ซึ่งนั่นก็คือเจ้าเด็กอ้วนแห่งตระกูลบูล
หลังจากอยู่ที่ฟาร์มปลาเป็นเวลาสองวัน คาร์เตอร์ก็ต้องการที่จะกลับ
ฉินสือโอวรอไม่ไหว ชายคนนี้พูดถึงเรื่องการสนับสนุนกรอกหูของเขาทุกวัน ซึ่งมันทำให้เขารำคาญมาก
หิมะตกหนักในฤดูหนาวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าฉินสือโอวจะเกลียดคาร์เตอร์ แต่เขาก็รู้สึกว่าสภาพอากาศแบบนี้ไม่ปลอดภัยที่จะออกทะเล เขายังหวังว่าคาร์เตอร์จะสามารถหลีกเลี่ยงหิมะได้อีกครั้งแน่นอนว่าการเดินทางไปในเมืองจะดีที่สุด
คาร์เตอร์ยืนกรานที่จะกลับ โดยบอกว่าชาวประมงโทรศัพท์มาว่าสองสามวันนี้หิมะตกหนักส่งผลกระทบต่อฟาร์มปลาของเขา เขาจึงต้องกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนั้นฉินสือโอวก็ไม่มีอะไรจะพูด จึงทำได้เพียงส่งพวกเขากลับ เรือของพวกเขาไม่ได้ขับไปที่ฟาร์มปลา แต่จอดที่ท่าเรือในเมือง
ฉินสือโอวจึงรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ รัฐโนวาสโกเชียอยู่ทางใต้ของเกาะแฟร์เวลและท่าเรือเมืองเล็กๆ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะแฟร์เวล เนื่องจากเซนต์จอห์นอยู่ทางตอนเหนือและเพื่อที่จะไปเซนต์จอห์นได้สะดวก
แล้วทำไมคาร์เตอร์ถึงจอดเรือไว้ที่ท่าเรือในเมืองล่ะ? มันไม่สะดวกมาก
แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไร เพียงแต่แค่สงสัยและเก็บข้อคำถามนี้ไว้ในใจ
ทั้งสองจับมือและอำลากัน คาร์เตอร์พูดว่า “ฉิน คิดข้อเสนอของผมให้ดีๆ นะ คุณไม่ต้องการเป็นรองประธานกรรมการจริงๆ เหรอ? สำหรับชาวจีนอพยพแล้ว นี่เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยนะ ผมพนันได้เลยว่าพวกคุณคนจีนรับตำแหน่งแบบนี้ไม่ได้หรอก ถ้าพลาดโอกาสนี้ คุณจะต้องเสียใจแน่นอน”
ฉินสือโอวแอบพูดว่าทำไมคนคนนี้ถึงน่ารำคาญได้ขนาดนี้นะ ยังไม่รีบไปอีก ชักช้ากว่านี้เขากลัวว่าเขาจะเตะผู้ชายคนนี้ตกลงไปในน้ำ
เรือลาดตระเวนของคาร์เตอร์ออกไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปที่ฟาร์มปลา ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรทำ เขาคิดเรื่องที่จะหาโอกาสเอาจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในน้ำและหาสมบัติที่ก้นทะเล
พายุหิมะที่โหมกระหน่ำ ทำให้การเดินเรือในทะเลอันตรายเป็นอย่างมาก เขาจึงพิจารณาสักพักและเอาจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไว้ที่เรือลาดตระเวนของคาร์เตอร์ ถ้าเกิดอันตรายเขาจะสามารถช่วยได้
แต่สุดท้ายจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็อยู่ได้ไม่นาน จู่ๆ ก็โยนอะไรบางอย่างออกจากเรือ
ฉินสือโอวกวาดสายตามองรอบๆ และต้องตกตะลึงทันที มันโยนสิ่งคล้ายๆ กันออกจากเรือมาเรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็คือเปลือกหอยขนาดเท่าฝ่ามือ
เปลือกหอยพิษ มันคือหอยเต้าปูนลายเสือ!
บทที่ 1404 ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึ...
เมื่อเห็นหอยพิษทั้งสองนี้ ฉินสือโอวก็เข้าใจทุกอย่างทันที ไม่น่าแปลกใจที่เรือของคาร์เตอร์จะไม่ตรงไปหยุดท่าเรือประมง เพราะเขาจะโยนหอยพิษลงน่านน้ำในเมือง
เมื่อคิดอย่างละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาของวิกฤตหอยพิษครั้งก่อน หลังจากการประมูลการประมง ฟาร์มปลาต้าฉินก็ได้รับลูกปลาที่ประมูลได้แล้วไม่ใช่เหรอ? แม้ว่าตอนนั้นเรือของคาร์เตอร์จะไม่ได้มา แต่เขาก็ซื้อลูกปลาและลูกกุ้งจำนวนมากจากรัฐโนวาสโกเชีย ไม่แน่ว่าที่นั่นอาจจะมีคนของคาร์เตอร์อยู่
จากนั้นเมื่อเข้าสู่น่านน้ำทะเลก็เห็นว่ามีใครบางคนกำลังโยนหอยพิษลงน้ำ ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนพัดคลื่นขึ้นและกระแทกเรือลาดตระเวนอย่างรุนแรง จากนั้นก็รีบเดินออกจากวิลล่าไป
หู่จือเป้าจือพยายามจะแอบวิ่งออกไปข้างนอกพอดี เขาจึงคว้าพวกมันไว้ จากนั้นก็ตะโกนบอกกลุ่มคนที่กำลังเสียงดังวุ่นวายบนโต๊ะไพ่นกกระจอกแล้วพูดว่า “ไปตามคาร์เตอร์ ฉันลืมบางอย่างที่สำคัญ!”
เขาใช้เรือยนต์ความเร็วสูงที่เร็วที่สุด ชาร์คจึงเร่งความเร็วและเรือก็พุ่งไปในน้ำเหมือนลูกศรอันแหลมคม
ในขณะนี้ระยะห่างของเรือลาดตระเวนของคาร์เตอร์ออกเดินทางได้ไม่นานและเส้นทางของเขาคือการข้ามเกาะแฟร์เวล ดังนั้นเรือยนต์ความเร็วสูงก็เข้าไปปิดกั้นอย่างรวดเร็วและเส้นทางของเรือทั้งสองก็รวมเข้าด้วยกัน
ฉินสือโอวโบกมือแสดงให้ชาร์คไปรับเรือลาดตระเวนของคาร์เตอร์ที่อยู่ด้านหลัง
คาร์เตอร์ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาจึงถามเสียงดังว่า “เฮ้ เพื่อน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวพาชาวประมงกับหู่เป้าขึ้นเรือลาดตระเวนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หลังจากส่งคุณไปแล้ว ระหว่างทางผมกลับมาคิดอย่างละเอียดดู ผมคิดว่าข้อเสนอของคุณมันถูกต้อง ผมควรสนับสนุนคุณ พวกเราเจ้าของฟาร์มปลาควรจะรวมตัวกัน ธุรกิจของเราไม่ควรให้คนนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง”
หลังจากได้ยินแบบนั้น คาร์เตอร์ก็มีความสุขขึ้นมาทันทีและเขาก็พูดว่า “นี่สิถึงจะถูก แต่เรื่องนี้คุณโทรศัพท์มาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาคุยด้วยตนเองหรอก?”
ฉินสือโอวพูดด้วยความมั่นใจว่า “ได้อย่างไรกันล่ะ? คุณมาหาผมที่ฟาร์มปลาด้วยตัวเองขนาดนี้แล้ว ผมจะโทรศัพท์หาเพื่อจัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้ นั่นไม่ใช่ทัศนคติที่ผมควรมีต่อประธานคณะกรรมการใช่ไหม?”
ในขณะที่พูดอยู่เขาก็สแกนดาดฟ้าไปด้วย แต่ก็ไม่พบร่องรอยของหอยพิษ บนดาดฟ้ามีเพียงแอ่งน้ำที่เป็นน้ำแข็ง น่าจะเกิดจากการที่เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนกระจายไปตามลมและโจมตีเรือลาดตระเวน ทำให้แท็งก์น้ำที่มีหอยเต้าปูนลายเสือทะลักออกมา
แต่ถ้าอิงจากสิ่งนี้ก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้
ฉินสือโอวต้องค้นหาหลักฐานต่อไป ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “เอาแบบนี้ไหม ตอนนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากฟาร์มปลาของผม ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปปรึกษาพูดคุยเรื่องนี้โดยอย่างละเอียดกันก่อนและดูว่าจะร่วมมือกันได้อย่างไร”
คาร์เตอร์พูดบ่ายเบี่ยงว่า “เราค่อยมาคุยกันทีหลังได้ไหม? ตอนนี้ผมมีเรื่องเร่งด่วนที่ฟาร์มปลาเล็กน้อย คุณก็รู้ว่าฟาร์มปลาไม่เคยมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่แล้ว เราก็ต้องทำไม่ใช่เหรอ? ”
ฉินสือโอวพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปในห้องโดยสารก่อนเถอะ? เราควรจะคุยกันสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?”
ยิ่งชายคนนี้บ่ายเบี่ยงมากเท่าไร เขาก็ยิ่งต้องจะต้องเค้นเอาความจริงและต้องหาหลักฐานให้ได้
คาร์เตอร์ไม่มีอะไรจะพูด จึงพาพวกเขาเข้าไปในห้องโดยสารของเรือลาดตระเวนอย่างหนักใจ
ขณะนี้มีชาวประมงคนหนึ่งในห้องขับเรือโผล่หัวออกมาอย่างกระวนกระวายใจพร้อมกับดูคาร์เตอร์ที่กำลังลังเลที่จะพูด
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกตื่นเต้นทันที จึงถามว่า “นี่คุณ คุณกำลังเจอกับปัญหาอะไรหรือเปล่า? นี่คือพื้นที่ของผม พูดตรงๆ ได้ ผมจะจัดการให้พวกคุณเอง ”
ชาวประมงคนนั้นมองไปที่คาร์เตอร์อย่างลำบากใจ สุดท้ายก็กัดฟันพูดว่า “บอส ปัญหาของคามิลล์น้อยค่อนข้างร้ายแรงทางที่ดีเราควรรีบหาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ”
ทันทีที่เขาพูดออกมา ฉินสือโอวก็สังเกตเห็นท่าทางของคาร์เตอร์ที่เปลี่ยนไป สีหน้าของเขาซีดลงทันที
ฉินสือโอวจึงยิ้มเยาะเย้ยในใจและชิงถามก่อนว่า “คามิลล์น้อยของพวกคุณเป็นอะไรเหรอ? มีหมออยู่ในเมืองของเรา เขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จบการศึกษาจากคณะแพทย์ฮาร์วาร์ด บางทีเขาอาจจะช่วยพวกคุณได้ ”
คาร์เตอร์ยิ้มแห้งพร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้องหรอก เราลองไปที่เซนต์จอห์นดูเถอะ ดูสิฉิน ตอนนี้มีลูกน้องคนหนึ่งของผมกำลังติดโรค ผมต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ”
ฉินสือโอวจึงแสร้งทำเป็นกระวนกระวายใจพร้อมกับรีบเดินไปที่ห้องขับเรือย่างรวดเร็วและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เสียเวลาไม่ได้แล้ว ผมว่าคุณควรไปที่เมืองและให้หมอทำการรักษาฉุกเฉินก่อน ผมมีเครื่องบิน สามารถพาไปส่งที่นั่นได้ ”
คาร์เตอร์ต้องการจะหยุดเขา แต่ไปที่นั่นจะทันเหรอ? ฉินสือโอวรวดเร็วมากและยังเดินเร็วกว่าที่เขาวิ่งเสียอีก ฉินสือโอวผลักชาวประมงที่ขวางหน้าประตูอยู่ออกและเข้าไปในห้องขับเรือ
เรือลาดตระเวนเป็นเรือยอชต์ขนาดเล็กที่สะดวกสบาย ห้องขับเรือจึงค่อนข้างกว้างขวางและยังมีเตียงขนาดเล็กหนึ่งเตียง อย่างแรกคือจะสะดวกต่อคนเรือในการสลับกันพักผ่อน อย่างที่สองคือสะดวกต่อเจ้าของเรือ ถ้าพาหญิงสาวมาออกทะเลเที่ยวเล่น ที่ก็จะสามารถเข้ามาอยู่ในห้องขับเรือได้
ขณะนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงเล็กๆ เตียงนี้ ใบหน้าซีกซ้ายของเขาแดงและบวมขึ้น ตาจะปูดและจนไม่สามารถลืมตาได้ จึงนอนลงอย่างอ่อนแรงบนเตียง
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ฉินสือโอวก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น นี่คือการถูกพิษ! นี่คือความร้ายแรงของพิษหอย!
พิษของหอยเต้าปูนลายเสือเป็นพิษในโปรตีน คล้ายกับพิษของงูพิษ หลังจากถูกกัดและถูกพิษแล้ว แผลจะบวมแดงและแสบร้อนอย่างรวดเร็วและจะทำให้รู้สึกแสบร้อนและชา จากนั้นอาการเหล่านี้จะค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วร่างกายทำให้แขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อชาไม่มีความรู้สึก สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและค่อยๆ หมดสติไป
ถ้าพิษของหอยรุนแรงมากก็สามารถทำร้ายหัวใจได้ ซึ่งมันโหดร้ายมาก ยังจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเสียชีวิตได้ในที่สุด!
ดังนั้นหลังจากพบว่าเป็นหอยพิษแล้ว วินนี่จึงตกใจและปิดล้อมชายฝั่งทันที เพราะสิ่งนี้มีพลังร้ายแรงมาก ตอนแรกนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจากพิษหอย ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือและความชำนาญในการรักษาระดับสูงจากโอดอมได้ทันเวลา ถ้าไม่เสียชีวิตเขาคงจะเป็นอัมพาตครึ่งหนึ่ง
ตอนนี้ ชายหนุ่มคนนี้ร่างกายก็เป็นอัมพาตไปครึ่งหนึ่งแล้ว จุดที่เขาถูกกัดอยู่บนใบหน้า ซึ่งใกล้กับหลอดเลือดแดงมากและมันเป็นจุดที่อันตรายมาก ตอนแรกนักท่องเที่ยวคนนั้นกำลังออกทะเลกับชาวประมงและขณะที่ดำน้ำอยู่ก็ถูกกัดเข้าที่ปลายนิ้ว ซึ่งไม่สามารถเทียบกันได้
ไม่สงสัยเลยที่ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นคนที่เพิ่งถือหอยพิษมาและต้องการที่จะโยนลงน้ำ สุดท้ายฉินสือโอวจึงใช้คลื่นกระแทกเรือลำเล็ก เขาเดาว่าจะไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงและล้มลง หอยพิษจึงสัมผัสกับใบหน้าของเขาและทำให้เขาตกใจทันที
กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง ฉินสือโอวทอดถอนใจ
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ก็ง่ายขึ้น ไม่ใช่แค่ฉินสือโอวเท่านั้นที่มองหน้าของชายหนุ่มคนนี้ออก แต่ชาวประมงคนอื่นๆ ก็ยังมองออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหอยพิษอย่างไร พวกเขาไม่เห็นผลกระทบของหอยพิษแบบนี้มาก่อน พวกเขาเคยเห็นแค่เหตุการณ์ที่แมงกะพรุนทำร้ายผู้คนเป็นส่วนใหญ่
พิษของแมงกะพรุนบางชนิดก็เป็นพิษในโปรตีนด้วยเช่นกันและส่งผลกระทบคล้ายๆ กัน
ชาร์คเหลือบมองและพูดอย่างรีบร้อนว่า “นี่ถูกพิษแมงกะพรุนมาใช่ไหม? รีบกลับเมืองของเราด่วนเลย ต้องฉีดเซรุ่มให้ทันเวลา หมอโอดอมคนนี้สามารถทำได้”
เมื่อคาร์เตอร์ได้ยินเช่นนั้น ก็หาข้ออ้างและพูดว่า “ใช่สิ เพื่อนผมคนนี้จับฟองน้ำทะเลอันสวยงามขึ้นมาจากในน้ำ สุดท้ายไม่ระวังจึงถูกกัด ให้ตายเถอะ นี่มันจัดการได้ยากจริงๆ!”
นีลเซ็นพูดด้วยความแปลกประหลาดใจว่า “แต่เขาโดนกัดที่หน้าได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “อย่าสนใจเรื่องพวกนี้เลย รีบกลับแล้วโทรศัพท์บอกหมอโอดอม ให้เขาเตรียมตัวรักษาน้องชายคนนี้”
แค่กลับไปที่โรงพยาบาลก็พอแล้ว โอดอมสามารถวิเคราะห์ได้ว่ามันคือพิษจากอะไร แต่น่าเสียดายที่คาร์เตอร์ไม่รู้ เขายังคิดว่าเขาสามารถใช้แมงกะพรุนพิษมาเป็นข้ออ้างได้
บทที่ 1405 ฉันได้ตำแหน่งผู้นำนี้แล้ว
หลังจากเข้าไปในโรงพยาบาลชุมชนแล้ว โอดอมก็ต้องถึงกับขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นอาการของหนุ่มชาวประมงพร้อมกับพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น เจอหอยพิษอีกแล้วเหรอ? ”
ทันทีที่เขาพูดออกมา คาร์เตอร์ก็แทบจะลุกขึ้นมาทันทีและรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ๆๆ นะหมอ ลูกน้องผมคนนี้จับแมงกะพรุนพิษได้เลยกลายเป็นแบบนี้ ไม่ใช่หอยพิษอะไรสักหน่อย ”
โอดอมมองไปที่คาร์เตอร์และคนอื่นๆ อย่างสงสัย จากนั้นก็มองไปที่ฉินสือโอว
ฉินสือโอวรู้ว่าความจริงของเรื่องเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ร้อนใจและยักไหล่ให้โอดอมพร้อมกับแสดงท่าทางให้เขาเข้าใจเองได้
โอดอมขอให้ชาวประมงหนุ่มนอนลงบนเตียงในโรงพยาบาลเขาแขวนน้ำเกลือและฉีดยาให้ชายหนุ่ม จากนั้นเขาก็พูดว่า “พวกคุณ ตอนนี้ผมต้องการรู้ความจริง ผมมีเซรุ่มมากมาย ผมต้องตัดสินใจว่าจะใช้ตัวไหนดี”
คาร์เตอร์ก็เป็นเจ้าของฟาร์มปลาเก่าเช่นกัน จึงคุ้นเคยกับแมงกะพรุนพิษเป็นอย่างดี เขารีบพูดถึงแมงกะพรุนพิษชนิดที่มีพิษในโปรตีน ซึ่งเป็นแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส สามารถหลั่งพิษในโปรตีนได้
โอดอมพยักหน้า หลังจากตรวจอาการของชายหนุ่มแล้ว เขาก็เอาเลือดไปตรวจวิเคราะห์ตามปกติอีกครั้งและทำการเก็บตัวอย่างบาดแผลบนใบหน้าของเขา จากนั้นไม่นานก็ฉีดยาเซรุ่มให้เขาและพูดว่า “โอเค สิ่งที่จำเป็นในตอนนี้คือเขาต้องพักผ่อนและเขาจะกลับมาเป็นปกติมีชีวิตชีวาเหมือนเดิมในสองวัน”
คาร์เตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกและกอดอกพร้อมพูดว่าอัลเลลูยา
หลังจากที่เขาขอบคุณพระเจ้าแล้ว โอดอมก็หยิบแบบทดสอบออกมาและเขาเซ็นชื่อโดยไม่ได้ดู จากนั้นก็จับมือขอบคุณโอดอมพร้อมพูดว่า “ขอบคุณครับหมอ ถ้าไม่มีคุณ ครั้งนี้น้องชายของผมคงต้องแย่แน่ๆ”
โอดอมยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พิษของหอยเต้าปูนลายเสือจะกระจายอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ อันที่จริงยาในปริมาณเพียงเล็กน้อยจะไม่ทำให้เสียชีวิต ส่วนใหญ่จะทำให้เส้นเลือดและกล้ามเนื้อกระตุกและทำให้เกิดลมพิษ”
คาร์เตอร์หยักหน้าพร้อมเห็นด้วย แต่ไม่นานเขาก็มีปฏิกิริยาเริ่มพยักหน้าช้าลงเรื่อยๆ พร้อมกับมองไปที่โอดอมแล้วพูดว่า “คุณใส่ร้ายผมเหรอ?”
โอดอมขมวดคิ้วและพูดว่า “หมายความว่าอย่างไร?” เขาจึงเอาใบตรวจสอบทางเคมีให้ดู “คุณเซ็นชื่อในเอกสารใบนี้เองไม่ใช่เหรอ? นอกจากนี้ ผมได้ตรวจสอบพิษในบาดแผลของเขาดูแล้ว ซึ่งมันเป็นสารพิษทางชีวภาพที่มีโปรตีน ซึ่งอยู่ในหอยเต้าปูนลายเสือ”
คาร์เตอร์หน้าแดงก่ำพร้อมกับร้องตะโกนพูดว่า “คุณอย่าพูดเหลวไหลนะหมอ ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ฉินสือโอวเข้ามาแทรกแซงระหว่างทั้งสองด้วยความงงงวยและถามว่า “เดี๋ยวก่อน ฉันไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนี้ถูกพิษอะไรกันแน่?”
“หอยเต้าปูนลายเสือ!” “แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส!”
เสียงของทั้งสองคนดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน
ฉินสือโอวเรียกหู่จือและเป้าจือเข้ามาให้พวกมันมาดมใบหน้าของชายหนุ่ม จากนั้นให้นีลเซ็นพาพวกมันไปที่เรือลาดตระเวน “ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ให้ลูกๆ ของผมได้ลองค้นหาดูก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกันไหม? พวกมันสามารถหาผู้ร้ายที่ทำร้ายผู้ชายคนนี้ได้”
คาร์เตอร์ต้องการที่จะขว้างเจ้าแลบราดอร์ทั้งสองตัวนี้ออกไป แต่ฉินสือโอวกำลังจ้องมองเขาและพูดอย่างไม่พอใจว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมคุณถึงดูลุกลี้ลุกลนขนาดนี้ล่ะ? ท่านประธาน คุณไม่ได้ปิดบังอะไรผมใช่ไหม?”
คาร์เตอร์หายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “เอาล่ะ พูดตรงๆ นะ ลูกน้องของผมคนนี้บาดเจ็บจากหอยเต้าปูนลายเสือจริงๆ ผมต้องขอโทษที่โกหกคุณ? แต่ผมมีความลำบากใจ”
ฉินสือโอวยักไหล่พร้อมกับยิ้ม แล้วพูดว่า “ท่านประธาน ผมอยากฟังรายละเอียดมากกว่านี้”
คาร์เตอร์เปิดปากพูดและสุดท้ายก็พูดอย่างไร้สาระว่า “ไม่มีอะไร ผมแค่ไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดก็เท่านั้น…”
“เข้าใจผิด?” ฉินสือโอวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับกอดแขนทั้งสองข้าง แล้วถามว่า “เข้าใจผิดอะไร? ทำไมยิ่งฟังผมยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ?”
ขณะนี้มีรถตำรวจคันหนึ่งขับเข้ามาถึงประตูโรงพยาบาลชุมชน โรเบิร์ตสารวัตรร่างท้วมพาตำรวจสองคนลงจากรถมาด้วยและถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่า “หมอ มีเรื่องอะไรกันเหรอ? คุณบอกว่าพบหอยพิษเหรอ?”
คาร์เตอร์มองไปที่ฉินสือโอวด้วยความโกรธและลังเลใจ ฉินสือโอวเองก็แปลกใจ จึงมองไปที่โอดอม ฉินสือโอวอธิบายว่า “ขออภัยคุณคาร์เตอร์ นี่เป็นกฎในเมืองของเรา ถ้ามีการค้นพบหอยพิษจะต้องแจ้งตำรวจ ตำรวจจะเป็นฝ่ายจัดการดูแลเรื่องนี้”
ทันทีที่ตำรวจปรากฏตัวขึ้น ชาวประมงลูกน้องของคาร์เตอร์ก็พากันตื่นตระหนกตกใจ หู่จือและเป้าจือก็ถูกนีลเซ็นพาขึ้นเรือลาดตระเวน ไม่นานก็พบกล่องเพาะพันธุ์ที่มีหอยเต้าปูนลายเสือมากกว่ายี่สิบตัว
คาร์เตอร์พูดด้วยความโกรธว่า “พวกคุณบุกเข้าไปในเรือลาดตระเวนของผมอย่างผิดกฎหมาย พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะค้นเรือของผม! นี่มันผิดกฎหมาย เข้าใจไหม? ผมจะฟ้องพวกคุณ!”
ฉินสือโอวพูดอย่างเย็นชาว่า “ผมไม่เข้าใจ คุณประธานทำไมคุณถึงกังวลขนาดนี้? มันเป็นแค่หอยเต้าปูนลายเสือเท่านั้นเอง ผมได้รับคำยินยอมจากปากคุณแล้วว่าให้สุนัขของผมไปค้นหาผู้ร้ายที่ทำร้ายลูกน้องของคุณได้”
“ผมไม่ได้ยินยอม!”
โรเบิร์ตส์มองไปที่กล่องใส่หอยเต้าปูนลายเสือใบนี้ จากนั้นก็จ้องไปที่คาร์เตอร์แล้วถามว่า “คุณชาวต่างชาติ นี่มันคืออะไร? ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหม?”
คาร์เตอร์สงบสติอารมณ์และพูดว่า “ผมจะไม่พูดอะไรจนกว่าทนายความของผมจะมาถึงที่นี่”
มีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับกฎหมายของแคนาดาที่ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร นั่นคือหลังจากที่ตำรวจจับคน ตราบใดที่ทนายความยังไม่มา คำพูดของเขาคนนั้นจะไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ แต่เมื่อทนายความมาถึงแล้ว สิ่งที่พูดออกมาก็จะเป็นหลักฐานที่หนักแน่นได้ จากนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ
บางเรื่องไม่ต้องการหลักฐาน ฉินสือโอวแสร้งทำเป็นเข้าใจจึงโกรธแล้วไปฉีกเสื้อคลุมของคาร์เตอร์พร้อมตะโกนว่า “ในเมืองของเรา หอยพิษถูกทิ้งเมื่อสองสามวันก่อน คุณทำใช่ไหม?”
คาร์เตอร์ยืนกรานว่า “ผมจะไม่พูดจนกว่าทนายความของผมจะมา”
“แต่ลูกน้องของคุณสามารถเปิดปากพูดได้ ผมพนันได้เลยว่าพวกเขาคงไม่ต้องการเสี่ยงระหว่างอาชีพชาวประมงกับเสี่ยงติดคุกเพราะปลอมใบรับรองแน่นอน” โรเบิร์ตพูดอย่างมั่นใจ
…………………………………………………………
ชาวประมงหลายคนต่างพากันอ้าปากค้างและตำรวจก็พาพวกเขาออกไป โรเบิร์ตพูดเสริมอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณต้องคิดให้ดี คุณมีพ่อแม่ มีภรรยาลูกชายและลูกสาว เมื่อคุณเข้าคุกชีวิตของพวกเขาจะจบสิ้น และถ้าคุณออกมาจากคุกก็จะยิ่งหางานได้ยากขึ้น ”
ฉินสือโอวจ้องไปที่คาร์เตอร์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาพูดด้วยความโมโหว่า “คุณไม่ได้มาหาผมเพราะมีเรื่องจะคุยหรอกใช่ไหม? เดิมทีที่คุณต้องการมาก็เพื่อที่จะทำร้ายเมืองของเราใช่มั้ย? ดีมาก! ”
ในขณะที่พูดอยู่ เขาก็พลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเบอร์โทรศัพท์ของแมทธิว จินแล้วพูดว่า “เฮ้ รัฐมนตรีจิน? ผมฉินเอง ใช่สิ แน่นอนว่ามีเรื่องที่จะพูด ยังจำเรื่องที่คุณบอกผมเกี่ยวกับพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์ได้ไหม? ผมคิดว่าคุณพูดถูก ผมควรเป็นประธานคณะกรรมการ ”
ทางฝั่งแมทธิว จินก็รู้สึกตกใจเมื่อเขารับสายของฉินสือโอวและพูดด้วยความแปลกใจว่า “ทำไมจู่ๆ ถึงคิดเรื่องนี้อย่างมั่นใจแล้วล่ะฉิน? ”
ฉินสือโอวพูดว่า “เพราะผมดื่มมากเกินไปตอนที่ผมแต่งงานน่ะสิ ตอนนี้ก็เลยเพิ่งจะตื่นขึ้นมา ”
แมทธิว จินหัวเราะชอบใจ “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นผมขอแนะนำคุณว่าให้วินนี่ทำซุปแก้เมาค้างให้ ผมลองแล้ว รสชาติดีและได้ผลมาก ในเมื่อคุณยินยอมแล้ว ก็เตรียมพร้อมที่จะรับตำแหน่งเถอะ งานของเราได้เริ่มขึ้นแล้ว ”
หลังจากวางสายแล้ว ฉินสือโอวก็มองไปที่คาร์เตอร์อย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณทำให้ผมโกรธแล้วนะ ผมจะลงเลือกตั้งผู้นำพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์และผมคิดว่าผมได้ตำแหน่งผู้นำนี้แล้ว!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น