ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1326-1329

 ตอนที่ 1326 ไม่ได้สติ


เหยียนหมิงต๋ากลับยังคงแสดงทีท่าบื่อทึ่ม เอาแต่พึมพำอยู่คนเดียวว่า “ผมไม่เชื่อ…เยวี่ยเยวี่ยไม่ใช่คนแบบนั้น…ผมจะไปถามเยวี่ยเยวี่ย ผมจะถามให้รู้เรื่องว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับผม…”


แม้เขาจะพึมพำเสียงเบาแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับได้ยินชัดเต็มสองหู ไฟโทสะในอกก็ยิ่งสุมหนักกว่าเดิม พยายามอยู่นานไม่ให้เอาเจ้างั่งนี่ให้ตาย


เหยียนหมิงต๋าลุกพรวดหมายจะวิ่งไปหาอู่เยวี่ย เขาชอบผู้หญิงคนนี้มาตั้งหลายปีชอบมาตั้งแต่เด็ก ทำดีกับอู่เยวี่ยเสมอมา ไม่ว่าอู่เยวี่ยให้เขาทำอะไรเขาไม่เคยปฏิเสธ


แต่ทำไมอู่เยวี่ยถึงโกหกเขา?


เขาจะต้องถามให้รู้เรื่อง!


เหยียนหมิงซุ่นฟาดสันมือลงท้ายทอยของเหยียนหมิงต๋า เจ้างั่งนี่หมดสติไปโดยที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยงงงวยและเสียใจ รวมถึงความไม่เข้าใจ แต่กลับไม่มีความโกรธสักนิด


“ผมจะให้หมิงต๋าไปฝึกในที่ที่ลำบากที่สุด หากอู่เยวี่ยยังไม่ถูกจับตัวก็ห้ามกลับบ้าน พวกคุณเองก็ห้ามติดต่อเขา”


เหยียนหมิงซุ่นปวดศีรษะเหลือเกิน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าเหยียนหมิงต๋าจะยึดติดแต่กับอู่เยวี่ยอย่างลึกซึ้งขนาดนี้ ไม่แยแสความจริงครั้งแล้วครั้งเล่า กลัวก็แต่อู่เยวี่ยจะใช้ให้เจ้าโง่นี่ไปฆ่าคน เหยียนหมิงต๋าก็คงยอมสินะ!


เวรกรรมจริงๆ!


คุณปู่เหยียนกับเหยียนโฮ่วเต๋อเข้าใจความหมายเหยียนหมิงซุ่นดีจึงพยักหน้าเห็นด้วย “ตกลงตามนี้ ให้เจ้าหมอนี่ไปฝึกฝนที่ค่ายทหารหน่อยก็ดี”


ถานซูฟางกลับทำใจไม่ได้เลย มีแต่ความปวดใจ และความโกรธเคืองที่มีต่อเหยียนหมิงซุ่น


แค่เป็นทหารก็ลำบากมากพอแล้ว แต่เหยียนหมิงซุ่นจะส่งตัวเหยียนหมิงต๋าไปยังค่ายทหารที่ลำเค็ญที่สุด เขาต้องจงใจแน่ ๆ จงใจให้หมิงต๋าลำบาก ให้เธอต้องพรากจากลูกชาย


“ต้องไปที่ลำบากที่สุดเลยเหรอ? ให้อยู่ค่ายทหารละแวกเมืองจินไม่ได้เหรอ? หมิงซุ่นตอนนี้ใช่ว่าเธอจะไม่มีอำนาจนั้นสักหน่อย!” ถานซูฟางพูดแฝงนัยยะด้วยท่าทีไม่พอใจ


“ในเมื่อคุณทำใจไม่ได้ งั้นหมิงต๋าไม่ต้องไปเป็นทหารหรอก อย่างที่คุณว่าอำนาจที่ไม่ต้องให้หมิงต๋าไปเป็นทหาร ผมยังพอมีอยู่บ้าง” เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าเย็นชา


เหยียนโฮ่วเต๋อถลึงตาใส่อย่างดุดัน “ความคิดของผู้หญิง เธอจะเข้าใจอะไร หุบปาก!”


ด่าถานซูฟางเสร็จเหยียนโฮ่วเต๋อก็ยิ้มให้เหยียนหมิงซุ่นอย่างเอาใจ “หมิงซุ่นอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขาเลย ลูกส่งหมิงต๋าไปฝึกอบรมที่ค่ายทหารได้เต็มที่ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ไม่จำเป็นต้องดูแลเขาเป็นพิเศษหรอก!”


เหยียนโฮ่วเต๋อไม่ใช่คนโง่ เขาเคยตามสืบมานานแล้วว่าพ่อบุญธรรมของเหยียนหมิงซุ่นไม่ใช่บุคคลธรรมดา เป็นผู้มีอิทธิพลในค่ายทหาร เหยียนหมิงซุ่นส่งตัวน้องไปฝึกย่อมมีใจที่คิดจะผลักดันหมิงต๋าแน่นอน


แม้ลูกชายคนโตของเขาจะไม่ใยดีพ่ออย่างเขาแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักน้องมาก อีกทั้งเมื่อกี้เขาก็แค่จงใจพูดไปเช่นนั้น เขาไม่เชื่อหรอกว่าลูกชายคนโตจะไม่ดูแลลูกชายคนเล็กจริงๆ!


เหยียนหมิงซุ่น ‘เขาต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ให้คนในค่ายทหารฝึกอบรมเจ้าโง่นั่นให้ตายไปเลย!’


เหยียนหมิงต๋าโดนส่งตัวไปยังกรมกองกำลังทหารในสภาพหมดสติทั้งอย่างนั้น โดยมีลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นเป็นคนไปส่ง เช้าอีกวันทหารชุดใหม่จะถูกส่งตัวไปยังพื้นที่ทางเหนือที่สุดของประเทศเพื่อรักษาชายแดน


“หมิงซุ่น…เอ่อ พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกหน่อย…” ถึงเหยียนโฮ่วเต๋อจะเกรงกลัวลูกชายแต่ตอนนี้โอกาสหายากนัก หากเขาไม่พูดวันหน้าอยากพบหน้าลูกชายคนโตยังไม่รู้ต้องรอถึงเมื่อไรเลย


เหยียนหมิงซุ่นมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ดวงตาดำสนิทที่มองมาทำเอาเหยียนโฮ่วเต๋อขนลุกซู่ในใจ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด


ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลเหมยเหมยนอนบนเตียงคนไข้จนระบมไปหมด เธอลงจากเตียงเดินไปหลายก้าวพลางคิดในใจว่าเมื่อไรอู่เยวี่ยจะมาสักที


เธอแทบอดใจรอจะฆ่านางแพศยาคนนี้เองกับมือไม่ไหวแล้ว!


ภายใต้ความช่วยเหลือของเฮ่อเหลียนเช่อทำให้อู่เยวี่ยสามารถมาถึงโรงพยาบาลแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เธอไม่อาจเข้าใกล้ห้องพักผู้ป่วยของเหมยเหมยได้เลย ผู้ชายสี่คนนั้นจ้องตาแทบไม่กะพริบ อู่เยวี่ยคิด ๆแล้วก็จากไป


เธอต้องหาทางแฝงตัวเข้าไปให้ได้ คุณชายเช่อบอกแล้วว่าขอเพียงเธอฆ่าจ้าวเหมยได้คุณชายเช่อจะส่งเธอไปต่างประเทศ


ฉะนั้นเธอจะต้องทำให้สำเร็จ!


………………………………………………………………


 ตอนที่ 1327 ใกล้สำเร็จแล้ว


อู่เยวี่ยปลอมตัวเป็นหญิงวัยกลางคนที หากไม่ดูใกล้ ๆก็คงมองไม่ออก เธอเอาก้อนอิฐครึ่งก้อนจากสวนดอกไม้เดินมาตรงมุมอับของทางบันไดเพื่อรอนางพยาบาลที่แยกตัวมาคนเดียว ดีที่เวลานี้ไม่ค่อยมีใครใช้ลิฟต์ ไม่นานอู่เยวี่ยก็ได้เป้าหมาย


อู่เยวี่ยที่เคยฆ่าคนมาแล้วยามนี้ใจเหี้ยมไร้ความปรานีเลยลงมือได้โดยไม่ลังเล ยกก้อนอิฐขึ้นกระแทกตัวพยาบาลผู้โชคร้ายคนนั้นอย่างหนัก ไม่ทันได้เปล่งเสียงก็ล้มพับลงไปกองบนพื้น


อู่เยวี่ยลากพยาบาลคนนั้นไปยังห้องเก็บของตรงมุมหัวบันไดและเปลี่ยนเป็นชุดพยาบาลสาวอย่างรวดเร็วก่อนเดินขึ้นไปชั้นบน ถือโอกาสที่คนอื่นไม่ทันสังเกตลอบขโมยถาดยายกไปที่ห้องพักผู้ป่วยของเหมยเหมย


ขอเพียงเธอฉีดยาที่ได้มาจากคุณชายเช่อเข้าสู่ร่างจ้าวเหมย ภารกิจของเธอก็สำเร็จแล้ว คุณชายเช่อบอกไว้แล้วว่าเรื่องหลังจากนั้นเขาจะจัดการเอง


อู่เยวี่ยล้วงกระบอกฉีดยาที่อัดเต็มไปด้วยน้ำยาจากกระเป๋า แล้วก้มลงมองชุดอำพรางของตัวเองพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ เจ้าโง่อย่างจ้าวเหมยไม่มีทางจำเธอได้แน่


เหมยเหมยลงจากเตียงเดินวนอยู่หลายรอบ เมื่อรู้สึกสบายตัวขึ้นเลยตัดสินใจไปที่ห้องเหยียนซินหย่าสักหน่อยเพื่อจะได้แอบป้อนยาวิเศษให้เธอ แม้เธอสัญญากับเหยียนหมิงซุ่นแล้วว่าจะไม่ออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแต่แค่เดินในโรงพยาบาลไม่กี่ก้าวคงไม่เป็นไรหรอก


ไม่รอให้เธอได้บอกผู้ดูแลของตัวเองก็มีเสียงแว่วเข้ามาจากนอกประตูห้องพักผู้ป่วย


“ทำไมพยาบาลสวีไม่มา?” เสียงลูกน้องเหยียนหมิงซุ่น


“เปลี่ยนเวรกัน ฉันสกุลจาง มารับเวรต่อจากพยาบาลสวี” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าที่ฟังดูอายุไม่น้อยแล้ว เหมยเหมยเลิกคิ้วสูงดวงตาฉายแววนึกสนุก


ลูกน้องนอกประตูยังลังเลเพราะคุณชายหมิงได้สั่งไว้ว่าห้ามบุคคลแปลกหน้าเข้าใกล้ห้องพักผู้ป่วย แล้วจะปล่อยตัวนางพยาบาลคนนี้เข้าไปดีไหมนะ?


“ให้พยาบาลจางเข้ามาเถอะ ในโรงพยาบาลจะเกิดเรื่องอะไรได้เชียว!” เหมยเหมยตะโกนไปทางประตู


ลูกน้องลังเลอีกสักครู่หนึ่งก่อนก้มมองอู่เยวี่ยที่งุดหน้าอยู่อีกที คิด ๆแล้วก็ถูก ภายใต้การเฝ้าจับตาดูของพวกเขาจะเกิดเรื่องอะไรได้ล่ะเลยปล่อยอู่เยวี่ยเข้าไปพร้อมกับเดินตามประกบจับตามอง


อู่เยวี่ยลอบด่าในใจหลายประโยค เธอรู้วิธีทำแผลเสียที่ไหนกันล่ะ นานเข้าจะต้องเผยไต๋แน่ ๆ แต่ดวงตาสองคู่ด้านหลังที่จ้องมองมาทำเอาอู่เยวี่ยจำต้องบากหน้าแสร้งทำท่าเตรียมจะทำแผลให้ใหม่


ไม่นานเธอก็นึกวิธีการได้เลยจงใจเอ่ยขึ้น “ฉันจะเช็คแผลข้างในของคนไข้ โปรดทั้งสองท่านออกไปสักครู่หนึ่ง”


ลูกน้องชะงัก หนึ่งในนั้นรีบพูดขึ้น “เมื่อก่อนไม่เคยเช็ค ทำไมครั้งนี้จู่ ๆจะมาเช็ค?”


อู่เยวี่ยทำเป็นอธิบายเหตุผลไปทำให้ลูกน้องทั้งสองคนเกิดความลังเลใจอีกครั้ง ก่อนที่คุณชายหมิงไปได้สั่งพวกเขาไว้โดยเฉพาะว่าห้ามให้คุณหนูจ้าวหลุดจากสายตาพวกเขาเด็ดขาด


ลูกน้องกำลังจะบอกให้อู่เยวี่ยรอเหยียนหมิงซุ่นกลับมาค่อยทำการตรวจร่างกาย พวกเขาไม่กล้าทำพลาดหรอกนะ หากคุณหนูจ้าวเป็นอะไรไปจะเอาหน้าที่ไหนไปพบคุณชายหมิง


จู่ ๆ เหมยเหมยก็พูดขึ้นว่า “พวกนายไปเฝ้าที่ประตูเถอะ แค่ตรวจร่างกายเองไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไรหรอก”


อู่เยวี่ยแอบยิ้มร่าในใจ สมแล้วที่เป็นคนโง่อยู่วันยังค่ำถึงได้คิดเผื่อเธอทุกทาง


จ้าวเหมยเอ๋ยจ้าวเหมย เธอรนหาที่ตายเองนะ คนโง่อย่างเธอไปเกิดใหม่เป็นหมูดีกว่า คนโง่มีสิทธิ์เกิดเป็นคนเสียที่ไหนกัน!


ตอนแรกลูกน้องยังไม่ยอมออกไป แต่เหมยเหมยพูดอีกรอบและดูแสดงท่าทีไม่พอใจเท่าไร พวกเขาจึงต้องออกไปเฝ้าหน้าประตูคอยเงี่ยหูฟัง ขอแค่มีอะไรไม่ชอบมาพากลพวกเขาจะได้พุ่งเข้าไปได้ทันท่วงที


อู่เยวี่ยหยิบกระบอกฉีดยาออกมาโดยพยายามกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้ เอ่ยด้วยเสียงจริงจัง “ถอดกางเกงลง ฉีดยา!”


“ไหนว่าตรวจร่างกายไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงฉีดยาอีกแล้วล่ะ?” เหมยเหมยจงใจถาม


“ตรวจไปด้วยฉีดยาไปด้วย โปรดให้ความร่วมมือในการทำงานของฉันด้วย ฉันยังต้องไปห้องพักผู้ป่วยท่านอื่นอีก” อู่เยวี่ยพูดเสียงเย็น


เหมยเหมยตาวาว “ได้สิ เธอเข้ามาฉันค่อยถอด”


อู่เยวี่ยเดินเข้าไปหาเหมยเหมยช้า ๆ หัวใจเต้นรัวจนแทบหลุดออกจากอก เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น เธอก็ใกล้ทำสำเร็จแล้ว


ตอนที่ 1328 สะสางบุญคุณความแค้น


อู่เยวี่ยเขยิบเข้าใกล้เหมยเหมยทีละก้าว ๆ แม้จะเป็นระยะทางสั้น ๆ ไม่กี่เมตรแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนเดินมานานเหลือเกิน ความจริงเพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ


ในที่สุด–


ก็เดินมาตรงหน้าเหมยเหมย อู่เยวี่ยเชิดปลายคางขึ้นเป็นเชิงให้เธอรีบถอดกางเกง “รบกวนเร็ว ๆหน่อย อย่าทำให้ฉันเสียเวลา”


เหมยเหมยแสยะยิ้มน้อย ๆ เลื่อนมือไปตรงเอวกางเกงทำท่าเหมือนจะถอดกางเกง เธอคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีหน้าอู่เยวี่ยตลอด ดวงตาที่ขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตื่นเต้นราวกับโดนฉีดยากระตุ้น เหมยเหมยก็ได้แค่ลอบแค่นยิ้มในใจ


เธอกำลังรออยู่เชียว!


“นี่คือน้ำยาอะไร? ทำไมต้องฉีดด้วย?” จู่ ๆ เหมยเหมยก็โพล่งออกมาประโยคหนึ่ง สบโอกาสตอนที่อู่เยวี่ยชะงักไปวูบหนึ่งรีบถอดหน้ากากอนามัยของอู่เยวี่ยออก ส่วนมืออีกข้างปัดกระบอกฉีดยาทิ้ง


ทำสองท่วงท่าติดต่อกันในครั้งเดียว รอจนอู่เยวี่ยได้สติ เหมยเหมยก็ถีบเข้าสุดแรง ฝาเท้าครั้งนี้ได้อัดแน่นไปด้วยโทสะที่เธอสั่งสมมาตลอดหลายวัน กระทืบใส่ปลายคางอู่เยวี่ยแรงๆ


“แกร๊ก”


เสียงกระดูกเลื่อนดังขึ้นและความเจ็บปวดที่ถูกส่งผ่านมาจากปลายคาง อู่เยวี่ยอยากอ้าปากกรีดร้องแต่กลับร้องไม่ออก—กระดูกส่วนคางของเธอล็อกเข้าแล้ว!


ลูกน้องนอกประตูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้องเลยสะดุ้งตกใจหมายจะผลักประตูเข้ามา เหมยเหมยได้เหยียบอู่เยวี่ยไว้ใต้เท้าพลางตะโกนบอกลูกน้องข้างนอกประตูด้วยเสียงเย็นชา “เฝ้าประตูไว้ ห้ามให้ใครเข้ามา!”


เธอจะต้อง…พูดคุยเรื่องชีวิตกับอู่เยวี่ย…อย่างช้า ๆ!


ให้ความแค้นทั้งสองชาติมันจบลงในครั้งนี้เถอะ!


ลูกน้องแง้มประตูน้อย ๆกลับเห็นว่าเหมยเหมยกำลังเหยียบหลังนางพยาบาลเมื่อครู่จนพยาบาลไม่อาจขัดขืนได้ค่อยวางใจลงหน่อย หลงคิดว่าพยาบาลล่วงเกินคุณหนูจ้าว คุณหนูจ้าวเลยระบายอารมณ์กับนางพยาบาลที่มีตาแต่หามีแววไม่นี่อยู่!


พวกเขาปิดประตูอย่างรู้หน้าที่ ในเมื่อคุณหนูจ้าวไม่เป็นอะไรถ้าอย่างนั้นพวกเขาต้องเฝ้าประตูให้ดี จะให้คนอื่นเห็นสถานการณ์ในห้องไม่ได้เด็ดขาดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงคุณหนูจ้าว


อู่เยวี่ยเห็นประตูถูกปิดลงเลยหลับตาอย่างสิ้นหวัง


เกิดข้อผิดพลาดตรงไหนกันแน่?


เจ้าโง่จ้าวเหมยจำเธอแค่ได้แค่เพียงแวบเดียวหรือ?


เหมยเหมยกระทืบใส่อีกหลายทีอย่างสุดแรงทุกครั้ง เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นติด ๆกัน อู่เยวี่ยเจ็บปวดจนกระดิกตัวไปมาไม่ได้ สองมือคอยป้องหัวไว้อย่างอ่อนแรงแต่กลับโดนเหมยเหมยเตะจนแขนหัก


พละกำลังของเหมยเหมยมีมากกว่าอู่เยวี่ยกว่าหลายเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย เทควันโดที่เธอเรียนมาตลอดหลายปีก็ไม่สูญเปล่า แต่ก่อนหน้านี้เหตุที่พลาดท่าให้เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยนั่นเป็นเพราะเหยียนซินหย่าอยู่ในเงื้อมือพวกเขา อยากจะลงมือแต่กลัวพลาดไปโดนคนข้าง ๆจึงย่อมไม่กล้าขัดขืนคำสั่ง


ตอนนี้ไม่มีเหยียนซินหย่าให้คอยกังวลใจ เหมยเหมยก็ใส่ได้เต็มที่สักที เตะเข้ารัว ๆ อยู่สิบกว่าครั้งเมื่อเห็นว่าอู่เยวี่ยขยับตัวไม่ได้แล้วถึงยอมหยุด ก้มตัวลงมองอู่เยวี่ยที่ดูท่าทางไม่พอใจ


“สงสัยมากใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงจำเธอได้ตั้งแต่แวบแรก?”


“คิดว่าตัวเองฉลาดมาก ปลอมตัวได้สมบูรณ์แบบงั้นสิ?”


……


เหมยเหมยหัวเราะเย้ยหยัน เธอไม่ฉลาดเท่าอู่เยวี่ยก็จริงแต่เธอผูกความแค้นกับอู่เยวี่ยมาสองชาติ ต่อให้อู่เยวี่ยกลายเป็นผงธุลีเธอก็จำได้ เธอจะจำนางแพศยาคนนี้ไม่ได้ได้อย่างไร?


อู่เยวี่ยส่ายศีรษะระรัว เธออยากพูดแต่พูดไม่ออก เธอมั่นใจว่าขอแค่ได้พูดเธอจะต้องกล่อมจ้าวเหมยได้แน่นอน


เหมยเหมยรู้ทันความคิดในใจเธอก็ยิ่งโมโหเลยกระทืบเท้าใส่หน้าท้องเธออย่างแรงอีกที “คิดว่าฉันจะหลงกลเธออีกเหรอ?  อู่เยวี่ยเธอก็แค่อาศัยโฉมหน้าผู้หญิงมารยาร้อยเล่ห์นี้หลอกเหยียนหมิงต๋าแล้วก็หลอกเหมยซูหานไม่ใช่หรือไง? ยังหลอกคนทั้งโลกให้ทุกคนคิดว่าเธอเป็นพี่สาวที่แสนดี…ภรรยาที่แสนดี ลูกสาวที่แสนดี…


ถุย…ความจริงเธอก็แค่ผู้หญิงส่ำส่อนชั้นต่ำที่เห็นแก่ตัวเลือดเย็นใจดำอำมหิต…เหยียบเรือสองแคม…ทำไมเธอถึงหน้าด้านได้ขนาดนี้? หน้าของเธอทำไมถึงหนาขนาดนี้?”


อู่เยวี่ยมองเหมยเหมยที่ดวงตาแดงก่ำและเริ่มระเบิดความบ้าคลั่งด้วยใจที่เย็นวาบ


……………………………………………………


ตอนที่ 1329 ดันไม่ให้เธอได้สมหวัง


จ้าวเหมยหมายความว่าอย่างไร?


เหยียบเรือสองแคมอะไร?


แน่นอนว่าเธออยากเหยียบเรือหลายแคมมากกว่าด้วยซ้ำ อยากให้ผู้ชายทั่วทั้งโลกชอบเพียงเธอ แต่เธอทำได้ที่ไหน?


จนถึงตอนนี้ก็หลอกได้แค่เจ้าโง่เหยียนหมิงต๋าเท่านั้น ในใจของเหมยซูหานมีเพียงจ้าวเหมย โดนจ้าวเหมยหลอกจนหลงหัวปักหัวปำ เธอเคยหลอกเหมยซูหานตั้งแต่เมื่อไร?


ในยามนี้เหมยเหมยกำลังจมอยู่กับความทรงจำชาติที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ความเจ็บปวดที่จงใจลืมเลือนกำลังถาโถมเข้าหาตัวเองราวกับคลื่นน้ำ เธอชักจะเริ่มแยกไม่ออกว่าชาติไหนคือชาติไหน มีเพียงความคิดเดียวในใจ–


ต้องกำจัดอู่เยวี่ย!


แก้แค้นให้เธอและลูก!


เห็นอู่เยวี่ยน้ำตาคลอทำท่าน่าสงสารเหมือนหญิงจอมมารยาเหมยเหมยก็ยิ่งแค้น เพราะใบหน้าของหญิงมารยานี้ถึงหลอกเอาผู้ชายคนโง่ ๆพวกนั้นตกหลุมพรางอย่างสมยอม


“เพราะเธอมีใบหน้าดวงนี้ไม่ใช่เหรอถึงหลอกพวกผู้ชายมาได้? เธอยังบอกว่าฉันเป็นยายขี้เหร่ที่ไม่มีใครชอบ…โง่ยิ่งกว่าหมู…อู่เยวี่ยเธอดูให้ดี…ตอนนี้ใครกันแน่ที่เป็นยัยขี้เหร่ ใครกันแน่ที่เป็นคนโง่…”


เหมยเหมยหยิบมีดปอกผลไม้จากลิ้นชักมากรีดใบหน้าอู่เยวี่ย อู่เยวี่ยสะดุ้งถอยกรูดไปข้างหลังอย่างอดไม่ได้ ไม่นานก็ถูกเหมยเหมยกระชากกลับมาแล้วปักลงตรงขาและแขนเธออย่างไม่สบอารมณ์จนเลือดพุ่งกระฉูด


“คิดจะหนี? เหอะ ในที่สุดฉันก็รอเวลาที่จะได้จบชีวิตเธอเองกับมือ เธอคิดว่าฉันจะปล่อยเธอให้หนีไปได้เหรอ?”


เสียงเหมยเหมยเหมือนส่งตรงมาจากนรกเยือกเย็นเข้ากระดูกของอู่เยวี่ย เธอมองหญิงสาวที่แตกต่างไปจากจ้าวเหมยจอมขี้ขลาดอ่อนแอในความทรงจำด้วยความหวาดผวา ความเศร้าสลดพรั่งพรูจากก้นบึ้งหัวใจ


หรือว่าครั้งนี้เธอหนีไม่รอดแล้วหรือ?


“กรี๊ด…”


ความเจ็บแสบแผ่ซ่านมาจากผิวหน้า เหมยเหมยกรีดปลายมีดลงบนหน้าอู่เยวี่ยอย่างไม่ลังเล เธอต้องการทรมานนางแพศยาคนนี้ให้ถึงที่สุด จะวิงวอนร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้เช่นกัน!


เหมยเหมยหยิบกระจกมาวางตรงหน้าอู่เยวี่ยให้เธอได้เห็นใบหน้าของตัวเองชัดเจน


“ฝีมือของฉันเป็นไงบ้าง? เฮ้ย…เหมือนจะเบี้ยวไปหน่อย ไม่เป็นไร ฉันกรีดอีกที”


เหมยเหมยพูดเสียงพึมพำ ภายใต้สายตาตกใจกลัวของอู่เยวี่ยพลางหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นกรีดตรงแก้มขวาของหล่อนซ้ำอีกที หนำซ้ำเธอจงใจผ่อนให้ช้าลงค่อยๆ กรีดเรียกให้ความเจ็บขยายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว อู่เยวี่ยเจ็บจนเหงื่อแตกพลั่ก อยากเป็นลมแต่ดันทำไม่ได้


“ความรู้สึกที่โดนมีดกรีดคงดีมากสินะ วางใจได้ ฉันจะค่อย ๆกรีด ให้เธอได้ดื่มด่ำเต็มที่แน่นอน!”


เหมยเหมยฉีกยิ้มให้อู่เยวี่ยน้อย ๆ ฟันสีขาวดูเยือกเย็นผนวกกับรอยยิ้มไร้เดียงสาของเหมยเหมยทำเอาหัวใจของอู่เยวี่ยเหมือนดิ่งสู่เหวลึก


จ้าวเหมยบ้าไปแล้ว!


เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!


เหมยเหมยไม่สนหรอกว่าอู่เยวี่ยจะคิดอย่างไรได้แต่สานต่องานพังโฉมหน้าอย่างใจเย็น เธอจะปล่อยให้นางแพศยาคนนี้ตายไปง่าย ๆไม่ได้ จะต้องให้เธอได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดเจียนตายก่อนสิ


แต่เงื่อนไขจำกัด ไม่อย่างนั้นเหมยเหมยจะใช้เครื่องมือทรมานทั้งสิบในสมัยราชวงศ์ชิงกับอู่เยวี่ยสักหน เช่นนี้ถึงจะทุเลาความแค้นในใจเธอได้!


อู่เยวี่ยเจ็บจนชาไปทั้งตัวหลายครั้งที่เป็นลมหมดสติไปแต่ไม่นานก็ถูกความเจ็บปลุกให้ตื่น เป็นลมแล้วฟื้นขึ้นอีก…ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความขัดขืนที่มีในยามแรกกลายเป็นความนิ่งเฉยในยามนี้


เธอรู้ว่าเธอในตอนนี้เปรียบดั่งก้อนเนื้อในมือจ้าวเหมย จ้าวเหมยอยากกรีดอย่างไรก็กรีด


เธอพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว!


อู่เยวี่ยสิ้นหวัง เธอไม่ยอมหรอก เธอจะตายด้วยน้ำมือจ้าวเหมยได้อย่างไรกัน?


แต่ต่อให้เธอไม่ยอมแต่ก็มิอาจขัดขืนได้ เธอหวังเพียงว่าจ้าวเหมยจะให้เธอตายได้สักที อย่าได้ทรมานเธออีกเลย!


“อยากรีบตายมากใช่ไหม?” เหมยเหมยถามเสียงเบา


อู่เยวี่ยพยักหน้าแรง ๆมองเธออย่างเว้าวอน เหมยเหมยกดมีดกรีดอีกทีแล้วตอบเสียงเย็น “แล้วถ้าเธออยากได้แต่ฉันไม่ให้ล่ะ? ความเจ็บแค่นี้เทียบกับความเจ็บที่ฉันตกจากชั้นสามสิบสามได้เหรอ?”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)