ลำนำบุปผาพิษ 1313-1316

 บทที่ 1313 ข้า…ข้าจะรับผิดชอบ…


หนนี้ถ้าเขาตายเกรงว่าจะไม่มีเวลาให้ประกอบร่างขึ้นใหม่อีกแล้ว


ดังนั้นเขาจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป!


ถึงอย่างไรเขาก็แข็งแกร่งนัก ถึงแม้ร่างกายจะสลบไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณยังคงรักษาสติไว้ได้ ใช้พลังจากดวงวิญญาณหล่อเลี้ยงสัญญาณชีพของร่างนี้ แต่ก็หล่อเลี้ยงไว้ได้เพียงสามชั่วยามเท่านั้น แล้วเขาก็จะใช้พลังไม่ได้ ทำได้เพียงละทิ้งกายเนื้อ…


นางจะช่วยเขาหรือไม่?


บางทีอาจต้องกล่าวว่านางจะรู้ตัวทันเวลาหรือเปล่า?


ยามนี้ได้ทราบแล้วว่าเจตนารมณ์สวรรค์ไร้น้ำใจนัก


ซีจิ่ว บุพเพของเจ้าและข้าเป็นข้าที่ฝืนช่วงชิงมา หรือว่าผลแตงที่ฝืนเด็ดย่อมไม่หวานจริงๆ?


ชั่วชีวิตนี้ข้าไม่เคยใส่ใจสิ่งใดเลย ใส่ใจเพียงเจ้าผู้เดียว ทว่ากลับทำผิดพลาดอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…


ซีจิ่ว ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียใจภายหลัง ไม่อยากให้เจ้าเศร้าใจไปชั่วชีวิต ดังนั้นเจ้าต้องช่วยข้าก่อนนะ…


เจ้าหอยยักษ์โผนทะยานปานเหินบิน พบกับหลัวจั่นอวี่ที่ติดตามร่องรอยของมันมาพอดี


เจ้าหอยยักษ์ทราบว่าหลัวจั่นอวี่เป็นหมอมีชื่อ รีบลากลากเขามาขอให้ช่วยเหลือ และเปิดฝาหอยออกให้เขาดูอาการก่อน หลัวจั่นอวี่ตรวจสอบครู่หนึ่งก็ขมวดคิ้ว


ลมหายใจของตี้ฝูอีรวยรินเกินไปแล้ว! ราวกับเปลวเทียนท่ามกลางสายลมที่พร้อมจะดับลงได้ทุกเมื่อ


ถึงอย่างไรหลัวจั่นอวี่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ มือกำแน่น!


ว่ากันตามเหตุผล ตอนที่ตี้ฝูอีเพิ่งเข้ามาอาการบาดเจ็บหนักหนาถึงเพียงนั้นก็สมควรจะพักฟื้นอยู่ในสถานที่เดิม ค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมา เขากลับอวดดีไปกำราบผู้อื่น ซ้ำยังปล่อยให้เจ้าหอยยักษ์ที่พึ่งไม่ได้ตัวนี้พากวิ่งตะลุยไปอีก ต่อให้มิใช่เขาวิ่งด้วยตัวเอง ก็ยังกระทบกระเทือนถึงบาดแผลอยู่ดี ทำให้บาดเจ็บขึ้นไปอีก!


หลัวจั่นอวี่ก็ไม่กล้าโอ้เอ้เช่นกัน  “ไป รีบไปที่เรือนร้อยสมาน!”


เรือนร้อยสมานเป็นสถานที่ที่หลัวจั่นอวี่ใช้ช่วยชีวิตคนโดยเฉพาะ


ถึงแม้นามจะหยาบกระด้าง แต่มองแล้วกลับทำให้คนสบายใจ


ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว การรักษาให้หายขาดราบรื่น ล้วนเป็นความหวังของผู้รักษาทุกคน


เนื่องจากผู้คนต้องออกไปล่าสัตว์เก็บเกี่ยวกันทุกวัน เรื่องได้รับบาดเจ็บกล่าวได้ว่ามีเกิดขึ้นทุกวัน บางครั้งถึงขั้นที่เกิดขึ้นวันละหลายครั้งด้วย


เมื่อก่อนนอกจากหลัวจั่นอวี่แล้วยังมีผู้ช่วยอีกสองคน ค่อนข้างยุ่งง่วนยิ่งนัก


หลังจากกู้ซีจิ่วมาที่นี่ ฝูงชนก็สร้างโรงหมอให้นางหลังหนึ่ง อยู่ข้างๆ เรือนร้อยสมานของหลัวจั่นอวี่ ให้ทั้งสองปรึกษาหารือช่วยเหลือกันและกันได้สะดวก…


ทักษะการแพทย์ของกู้ซีจิ่วเหนือล้ำกว่าหลัวจั่นอวี่มากนัก ดังนั้นผู้คนที่นี่จึงแขวนป้ายให้โรงหมอของเธอว่า ‘เรือนพันสมาน’ เสียเลย


กู้ซีจิ่วพาไป๋หลี่เช่อกลับมาที่เรือนพันสมาน


ไป๋หลี่เช่อเจ็บจนแทบสลบแล้ว หยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่า!


การผ่าตัดเช่นนี้ย่อมต้องถอดเสื้อผ้าท่อนบนออก เริ่มแรกไป๋หลี่เช่อยังคงเหนียมอายอยู่บ้าง เขารู้สึกอายเล็กน้อยที่ต้องเปลือยไหล่ต่อหน้าเด็กสาว


เพียงแต่วาจาเหนียมอายของเขายังไม่ทันได้กล่าวจนจบ ก็ถูกกู้ซีจิ่วตัดบทแล้ว “พูดเหลวไหลให้น้อยหน่อย!” ฉีกเสื้อท่อนบนของเขาออกทั้งหมดแล้วโยรทิ้งไปทันที เผยให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำเป็นมัดๆ ของเขา


รูปร่างของไป๋หลี่เช่อยอดเยี่ยมนัก เขาก็ภาคภูมิใจในร่างกายได้สัดส่วนของตน เขารู้สึกว่าไม่มีบุรุษคนไหนที่มีกล้ามเนื้อแบบเขา มีกลิ่นอายความเป็นชายถึงเพียงนี้


ทุกครั้งยามที่เขาถอดเสื้อออก ถึงแม้จะเป็นเพียงสองไหล่ที่เปลือยเปล่า ก็สามารถดึงดูดสายตาของสาวๆ บางส่วนได้แล้ว


เขาเป็นชายหนุ่มหล่อล่ำ เปี่ยมด้วยความเป็นชาย


ยามนี้ไป๋หลี่เช่อที่เปี่ยมด้วยความเป็นชายนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดเสมือนไก่ที่ถูกกำจัดขนแล้วตัวหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะมองตาของกู้ซีจิ่ง อยากขุดค้นหาแววตาตื่นตาตื่นใจสักนิดจากนัยน์ตาของนาง…


ผลคือ สายตาที่กู้ซีจิ่วมองเขาไม่มีระลอกคลื่นเลยสักน้อย


เพื่อความแม่นยำ เธอจึงไม่ได้มองทั้งร่างเขา สายตาจดจ่อเพียงบาดแผลของเขา…


ไป๋หลี่เช่อกระแอมคราหนึ่ง “ข้า…ข้าจะรับผิดชอบนะ…”


กู้ซีจิ่วอับจนวาจา มิน่าล่ะคนถึงพูดกันว่าหมอหญิงนั้นเป็นยาก


————————————————————————————-


บทที่ 1314 ให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ


กู้ซีจิ่วอับจนวาจา มิน่าล่ะคนถึงพูดกันว่าหมอหญิงนั้นเป็นยาก หากว่ามองร่างผู้ชาบแล้วต้องรับผิดชอบดังว่า คาดว่าชีวิตนี้เธอคงไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว ทำได้เพียงออกเรือนครั้งแล้วครั้งเล่า!


“ไม่จำเป็น ถ้าพูดจาหยุมหยิมอีกสักประโยค ข้าจะไม่ต่อแขนให้เจ้าแล้ว!”


ประโยคเดียวก็สามารถสะกดไป๋หลี่เช่อได้ เขาไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย


กู้ซีจิ่วกลัวว่าเขาจะดิ้นระหว่างผ่าตัด หลังจากให้เขานอนบนเตียงผ่าตัดแล้ว จากนั้นก็กรอกน้ำผงกัญชา[1]ให้เขาส่วนหนึ่ง พลางสกัดจุดเขาไว้


ผงกัญชานี้เป็นตัวอยาที่กู้ซีจิ่วผลิตขึ้นเองโดยอ้างอิงจากสรรพคุณของยาชาในยุคปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่ดีเท่ายาชาของยุคปัจจุบัน แต่ก็มีประปโยชน์นัก แถมยังไม่ทำให้ผู้ป่วยสลบไปด้วย ความเจ็บปวดก็ลดน้อยลงมาก…


การต่อแขนย่อมเป็นงานที่พิถีพิถันอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมารบกวน กู้ซีจิ่วจึงลั่นดาลประตูไว้เสีย


หลังจากตระเตรียมทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เธอกำลังจะเริ่มต่อแขนให้เขา ก็มีเสียงอุ้งเท้าเล็กๆ ตะกุยประตูและมีเสียงร้องแง้วๆ แอ้วๆ ของลู่อู๋น้อยแว่วมาจากประตู


กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าวันนี้ตนหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ยิ่ง หัวใจกระวนกระวายยิ่งนักอย่างน่าประหลาด ค่อนข้างสงบใจไม่ลง เสียงตะกุยประตูของลู่อู๋น้อยทำให้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ตำหนิออกไปประโยคหนึ่ง “ลู่อู๋ อย่ามากวน! ข้ากำลังผ่าตัดให้ผู้อื่นอยู่ ห้ามรบกวน ถ้าเจ้าก่อกวนอีกข้าจะไม่เอาเจ้าแล้ว!”


คำขู่ประโยคนี้ของเธอได้ผลนัก เสียงข่วนประตูหายไปแล้ว


…….


ภายในเรือนร้อยสมาน ตี้ฝูอีฝืนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาทราบอาการบาดเจ็บของตน ดังนั้นเรื่องแรกที่เขาทำหลังฟื้นขึ้นมาก็คือสั่งการเจ้าหอยยักษ์ “ไปเรียกนายของเจ้ามา…”


เจ้าหอยยักษ์กำลังยุ่ง จึงใช้ลู่อู๋ไป ลู่อู๋ก็ทราบถึงความสำคัญ หันหลังโผนทะยานไปเลย เพียงแต่มันออกไปอย่างรวดเร็วและกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ผ่านไปครู่หนึ่งมันก็คอตกกลับมา ร้องแง้วๆ แอ้วๆ ใส่เจ้าหอยยักษ์คำรบหนึ่ง


เจ้าหอยยักษ์มองตี้ฝูอีอย่างลำบากใจ “ลู่อู๋บอกว่านางกำลังผ่าตัดให้ผู้อื่นอยู่ มาไม่ได้”


แววตาของตี้ฝูอีมืดหม่นลงไป


หลัวจั่นอวี่กล่าวว่า “ให้ข้าช่วยท่านเถอะ วิชาแพทย์ของข้าก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน อาการบาดเจ็บเช่นนี้ของท่านข้าก็รักษาได้”


ริมฝีปากของตี้ฝูอีขยับสองครา คล้ายว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าไม่ได้พูดออกมาก็สลบไปอีกครั้งแล้ว


หลัวจั่นอวี่ไม่กล้าชักช้ายืดยาด รีบรักษาบาดแผลให้เขา…


…….


หลังจากกู้ซีจิ่วตะเพิดลู่อู๋น้อยไป ก็สูดหายใจเบาๆ และทำการผ่าตัดต่อไป เส้นเลือดทุกเส้นล้วนต้องเชื่อม เส้นเอ็นทุกเส้นล้วนต้องประสาน กระดูกก็ต้องจัดให้ถูก…


เธอกดความว้าวุ่นอันน่าประหลาดในหัวใจลงไป ยุ่งวุ่นวายตามลำดับขั้นตอน เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป


หนึ่งชั่วยามผ่านไป หนึ่งชั่วยามครึ่งผ่านไป แขนข้างนั้นต่อไปได้เกินครึ่งแล้ว ความสำเร็จในการผ่าตัดใกล้จะอยู่เบื้องหน้าเต็มที


ขณะที่เธอยุ่งวุ่นวายอยู่ นอกประตูก็มีเสียงเคาะอย่างเร่งร้อนแว่วเข้ามาอีกครั้ง


กู้ซีจิ่วค่อนข้างไม่สบอารมณ์แล้ว เธอเคยบอกไปชัดเจนแล้วว่าตอนที่เธอผ่าตัดอยู่ห้ามไม่ให้คนอื่นมารบกวน นี่เป็นผู้ใดอีกแล้วที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวถึงเพียงนี้?!


“ก่อกวนอะไรอีก?! ไสหัวไป!”


“ซีจิ่ว ข้าเอง เจ้ารีบเปิดประตูเร็ว ข้ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเจ้า!” เสียงของหลัวจั่นอวี่แว่วเข้ามา


กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง มองการผ่าตัดที่ทำไปแล้วครึ่งทาง “พี่ ข้ากำลังผ่าตัดให้ไป๋หลี่เช่ออยู่ จำเป็นต้องต่ออย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นแขนนี้ของเขาจะใช้การไม่ได้แล้ว…”


“ซีจิ่ว ยังมีคนที่บาดเจ็บสาหัสอยู่อีกคน พี่ช่วยเขาไม่ได้ เจ้าไปรีบไปดูเถอะ…”


กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว “เช่นนั้นให้เวลาข้าอีกครึ่งชั่วยาม…”


“เจ้านาย ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแย่แล้ว! เกรงว่าเขาจะรอท่านถึงครึ่งชั่วยามไม่ไหว ท่ารีบมาช่วยเขาเถอะ!” เสียงของเจ้าหอยยักษ์ที่แว่วเข้ามาคล้ายจะเจือเสียงร่ำไห้ไว้ด้วย


‘แกร๊ง!’ ในสมองกู้ซีจิ่วเกิดเสียงดังตูม มีดผ่าตัดร่วงลงพื้น!


————————————————————————————-


[1] ผงกัญชา เป็นวิธีการวางยาชาด้วยกัญชาของหมอฮว่าถัว โดยนำผงกัญชามาผสมกับสุราแล้วให้ผู้ป่วยจิบก่อนลงมือผ่าตัดรักษา


บทที่ 1315 ช่วยชีวิต


แทบจะไม่ทันได้ถามอะไร นางเปิดประตูทันใด “อะ…อะไรนะ?”


เจ้าหอยยักษ์แทบจะร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่ด้านนอกประตู “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว แต่เขาบาดเจ็บสาหัส เกือบจะหมดลมหายใจแล้ว…”


กู้ซีจิ่วร่างซวนเซเล็กน้อย ไม่ทันได้ถามต้นสายปลายเหตุทั้งหมดในเวลานี้ เธอถามแค่เพียงว่า “เขาอยู่ที่ไหน?”


“ในเรือนร้อยสมานของข้า…” หลัวจั่นอวี่กล่าว


เงาร่างกู้ซีจิ่วขยับวูบวาบ พลันหายวับไป


หลัวจั่นอวี่นิ่งอึ้ง


ไป๋หลี่เช่อที่รับการผ่าตัดไปครึ่งหนึ่งเอ่ยปาก “ขะ…แขนของข้ายังต่อไม่ติดเลย…”


หลัวจั่นอวี่อดไม่ได้ที่จะย่นหน้าผาก เขาไม่ค่อยรู้เรื่องราวระหว่างตี้ฝูอีกับกู้ซีจิ่วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และไม่รู้ว่าตี้ฝูอียึดครองตำแหน่งใดในใจของกู้ซีจิ่ว ทว่าดูจากการกระทำของทั้งสองคน เห็นได้ชัดยิ่งว่าทั้งสองต่างใส่ใจซึ่งกันและกันเป็นที่สุด


หากรู้เช่นนี้แต่แรก เมื่อสักครู่ตอนเขาช่วยตี้ฝูอีกลับมาก็จะเคาะประตูห้องกู้ซีจิ่วโดยทันที ไม่ใช่เสียเวลาอยู่นานแต่ก็พบว่าตัวเองช่วยไม่ได้ถึงค่อยมาเรียกนางไป


ทว่าถึงแม้กู้ซีจิ่วสร้างปาฏิหาริย์ช่วยชีวิตคนเจ็บกลับมาได้ หากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายต้องมาจบชีวิตเยี่ยงนี้ เกรงว่าน้องสาวจะใจสลาย…


ขอให้ยังไม่สายเกินไปด้วยเถิด!


เขามองไป๋หลี่เช่อแวบหนึ่ง กล่าวในใจว่า ยามนี้อย่าว่าแต่แขนของเจ้ายังต่อไม่ติดเลย ต่อให้ศีรษะของเจ้ายังต่อไม่ติด นางก็จะไปช่วยตี้ฝูอีทันที…


ทักษะการแพทย์ของหลัวจั่นอวี่ดีเยี่ยมยิ่งนัก ส่วนที่สำคัญที่สุดในการผ่าตัดแขนของไป๋หลี่เช่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลัวจั่นอวี่แค่เย็บเนื้อเยื่อบริเวณผิวหนังด้านนอก และทายาอีกนิดหน่อยก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น ดังนั้นเขาจึงรั้งอยู่ต่อ…


กู้ซีจิ่วแทบจะกระโจนเข้าไปในเรือนร้อยสมาน ในที่สุดเธอก็เห็นตี้ฝูอีแล้ว นิ้วมือในแขนเสื้อสั่นเทา


เธอไม่เคยเห็นตี้ฝูอีที่อ่อนแอจนมีสภาพเป็นแบบนี้มาก่อน ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ใบหน้าซีดขาวเฉกเช่นกระดาษแผ่นหนึ่ง ริมฝีปากบางขบเม้มเป็นเส้นเดียวกัน ซีดจนแทบจะเป็นสีเดียวกันกับใบหน้า มีเลือดตรงมุมปาก บนใบหน้าก็เช่นกัน ผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่ใต้ร่าง มือของเขาราวกับว่ากำลังทำมุทราบางอย่าง นิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น


ดูจากแค่รูปลักษณ์ของเขา สภาพเหมือนกับคนตายไม่ผิด! กู้ซีจิ่วมองไม่เห็นพลังชีวิตจากตัวเขาแม้แต่น้อย


เขามาทำไม? เขามาอย่างไร? เขามาเมื่อไร?…


คำถามเหล่านี้ไม่มีความสลักสำคัญในยามนี้ กู้ซีจิ่วโผเข้าไปข้างกายเขาทันที ตรวจดูบาดแผลของเขา และวัดชีพจรให้


เวลานี้สมองของเธอว่างเปล่า แทบจะทำทุกอย่างรวดเร็วดังเครื่องจักรกล ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือไม่อาจให้เขาตายเป็นอันขาด! ต่อให้เธอตาย เธอก็ไม่ต้องการให้เขาตาย! ต้องช่วยชีวิตเขา! เธอต้องช่วยชีวิตเขา!


ชีพจรของเขาไม่สม่ำเสมอ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ…


กระดูกซี่โครงบริเวณหน้าอกหักสี่ซี่ หนึ่งในนั้นแทงทะลุเข้าห้องหัวใจ เขาน่าจะถูกโจมตีหนักหนาปางตาย เลือดคั่งอยู่ภายในตับ บริเวณช่องท้องมีบาดแผลขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าหลัวจั่นอวี่จะรักษาไปแล้ว ทว่าดูจากความลึกของบาดแผลน่าจะบาดเจ็บถึงอวัยวะภายในเช่นกัน…


ลักษณะการบาดเจ็บเช่นนี้ของตี้ฝูอี หากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดา ยามนี้คงได้กลับไปอยู่ในสังสารวัฏนานแล้ว!


เคราะห์ดีที่เป็นเขา ถึงรักษาพลังชีวิตของร่างกายนี้ได้ไม่ถึงขั้นตายจากไป


กู้ซีจิ่วยิ่งตรวจดูมือก็ยิ่งสั่นมากขึ้น เขาบาดเจ็บถึงเพียงนี้! เพราะอะไร? เป็นไปได้อย่างไร?!


“ตี้ฝูอี! ตี้ฝูอี! ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย! ฝูอี! ฝูอี…”


กู้ซีจิ่วตรวจร่างกายให้เขาอย่างรวดเร็วพลางร้องเรียกชื่อเขาสุดชีวิต หมายจะเรียกสติเขากลับคืนมา


บาดแผลของเขาเยี่ยงนี้ การรักษาของหมอก็เรื่องหนึ่ง ผู้บาดเจ็บยังต้องมีเจตจำนงอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ด้วย…


————————————————————–


บทที่ 1316 ช่วยชีวิต 2


บาดแผลของเขาเยี่ยงนี้ การรักษาของหมอก็เรื่องหนึ่ง ผู้บาดเจ็บยังต้องมีเจตจำนงอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ มิเช่นนั้นต่อให้กู้ซีจิ่วมีความสามารถสร้างปาฏิหาริย์ฟื้นคนตายให้กลับมาเป็นได้ ก็ไร้ประโยชน์กับบาดแผลของเขา


เธอร้องเรียกชื่อทั้งหลายของเขาอยู่หลายรอบ ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับมา


“เจ้านาย เขาจะตายแล้วใช่หรือไม่?” น้ำตาเจ้าหอยยักษ์ยังคงเอ่อล้นนัยน์ตา มันไม่อยากให้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีอันเป็นไป ถึงแม้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะเข้มงวดกับพวกมันสามตัว แต่ละวันสั่งให้พวกมันทำงานกองโต ฝึกฝนจนพวกมันยอมตายเสียยังดีกว่า ทว่าเขาก็สอนทักษะที่แท้จริงให้พวกมัน บอกว่าพวกมันเป็นผู้ช่วยของกู้ซีจิ่ว ต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเจ้านายได้ถึงจะถูก


เขายังให้เม็ดยาพวกมันกิน ทำให้พลังวิญญาณของพวกมันพัฒนารวดเร็วกว่าการพัฒนาแบบธรรมชาติมากกว่าเท่าทวี!


ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่เป็นเช่นนี้จึงไม่อาจตายได้ เขาตายไปแล้วเจ้านายจะทำอย่างไร? เจ้านายไม่กลายเป็นม่ายตั้งแต่อายุยังน้อยหรอกหรือ?


“ข้าจะไม่ยอมให้เขาตาย!” กู้ซีจิ่วราวกับให้สัตย์สาบาน ซ้ำยังเติมต่อท้ายอีกหนึ่งประโยคในใจว่า ‘ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตข้าก็ตาม!’


ถึงแม้เธอจะหนีการแต่งงานมา ถึงแม้อยากจะเดินทางใครทางมัน ทว่าเธอไม่เคยคาดหวังให้เกิดเรื่องอันใดกับเขา และย่อมยิ่งไม่ต้องการให้เขาตายแน่นอน ถึงขั้นคิดขึ้นมาแล้วก็หวาดกลัวจนตัวเย็นเฉียบ! แทบไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหากเขาตายไปจริงๆ เธอจะทำอย่างไร…


เธอรีบร้อนรักษาเขา เจ้าหอยยักษ์เหมือนจะบ่นพึมพำอยู่ข้างกาย แต่เธอก็ไม่ได้ยินแม้แต่น้อย ในสายตาเธอมีเพียงแค่บาดแผลของเขาเท่านั้น…


เรื่องคนอื่นเก่งนัก พอเจอกับตัวถึงกับไปไม่เป็น


ตอนที่กู้ซีจิ่วรักษาคนอื่น ไม่ว่าคนคนนั้นบาดเจ็บสาหัสเพียงใด สถานการณ์จะน่าเวทนาเพียงใด เธอก็รักษาให้คนผู้นั้นแบบไม่กะพริบตาได้ จิตใจสงบเป็นที่สุด ไม่มีอาการมือสั่นแม้แต่น้อย


ทว่ายามนี้มือของเธอสั่นแล้ว! สั่นเหมือนไม่ใช่มือของตัวเอง


เช่นนี้ไม่ได้การ! การผ่าตัดมือจำเป็นต้องนิ่ง! มิเช่นนั้นหากสั่นเพียงเล็กน้อยก็อาจคร่าชีวิตคนได้!


และตอนนี้เธอก็ไม่มีใครอื่นที่ฝากความหวังได้ มีแค่เธอเท่านั้น และมีเพียงเธอที่รักษาชีวิตเขาได้


ทันใดนั้นเธอหยิกแขนตัวเองอย่างแรง ให้ความเจ็บปวดอันรุนแรงนี้ช่วยครองสติเอาไว้…


ไม่มีทาง เขาไม่มีทางตายได้! กู้ซีจิ่ว เจ้าต้องนิ่งไว้!


เขาเป็นเทพ เขาไม่มีทางตายได้! ผู้คนในโลกหล้านี้ตายแต่เขาจะตายไม่ได้! ตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือรักษาบาดแผลของเขา อย่าคิดสะเปะสะปะไปไกล เจ้าต้องใจเย็น!


เธอสูดหายใจเข้าลึก และสูดหายใจเข้าลึกอีกครั้ง จากนั้นจับมืออันเย็นเยือกของเขาไว้ “ตี้ฝูอี ข้าไม่อนุญาตให้ท่านตาย! ท่านได้ยินไหม! ท่านเป็นอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพื่อเข้ามาที่นี่ เพราะอยากพูดอะไรกับข้าใช่หรือไม่? ท่านยังไม่ได้พูดเลย ข้ายังไม่ได้ฟังที่ท่านพูดเลย ข้าอยากฟังท่านพูด…”


น้ำเสียงของเธอจุกอยู่ในลำคอ น้ำตาทำให้การมองเห็นพร่ามัว


เธอสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง ปาดน้ำตาด้วยความหนักแน่น ก่อนแนบกายเอ่ยข่มขู่ข้างใบหูของเขา “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หากท่านตาย ข้าก็จะตายเป็นเพื่อนท่านด้วย! ข้าจะไปปรโลกเพื่อคิดบัญชีกับท่าน!”


……


ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม นางกำลังยุ่งง่วน หลัวจั่นอวี่เข้ามาอย่างเงียบเชียบ เห็นกู้ซีจิ่วกำลังผ่าตัดให้ตี้ฝูอี ถึงแม้สีหน้าของนางจะซีดเผือด ทว่าการเคลื่อนไหวยังคงคล่องแคล่วช่ำชอง ไม่มีวอกแวก


หลัวจั่นอวี่เลื่อมใสนาง!


น้อยมากที่หมอทั่วไปจะทำได้ถึงจุดนี้ สามารถผ่าตัดให้คนที่ตัวเองใส่ใจที่สุดได้สงบเยือกเย็นถึงเพียงนี้


หากไม่ใช่เพราะเห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของนาง เห็นนัยน์ตาที่มองไปยังตี้ฝูอีฉายแววใส่ใจและเป็นห่วงเป็นใย เขาก็แทบจะคิดว่ากู้ซีจิ่วไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งอันใดต่อตี้ฝูอีไปแล้ว


เขากลัวว่านางจะยุ่งเกินไป จึงอยากมาเป็นผู้ช่วยนาง


แต่กู้ซีจิ่วไม่ยอม นางไม่อยากให้ผู้ใดแตะต้องร่างกายของตี้ฝูอี


———————————————————————-

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)