ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1310-1325

 ตอนที่ 1310 ได้รับการช่วยเหลือ


เหยียนหมิงซุ่นเริ่มเป็นกังวลเพราะฟองอากาศที่ลอยผุดออกมาน้อยลงเรื่อยๆ ถ่านในมิติเล็กของเหมยเหมยก็ใช้จนหมดเกลี้ยง ตอนนี้ที่ใช้อยู่ก็เหลืออีกไม่กี่ก้อน หากใช้ที่เหลือเหล่านี้หมดแล้วเขาและเหมยเหมยก็จะตกอยู่ในวิกฤตอีกครั้ง


“พี่หมิงซุ่น……ฉันพอแล้ว”


เหมยเหมยส่งหลอดให้เหยียนหมิงซุ่น เธอสูดเพียงไม่กี่ทีพอให้ตัวเองสบายขึ้นมาบ้างแล้วส่งต่อให้เหยียนหมิงซุ่น ตอนที่ฟองอากาศเริ่มลดลงเหยียนหมิงซุ่นแทบจะไม่ได้ออกซิเจนเลย เธอไม่สามารถเห็นแก่ตัวเกินไปได้


“พี่ไม่ต้อง……”


ถึงแม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นจะอาการไม่ค่อยดีแต่ร่างกายของเขาพิเศษ ยังสามารถยืนหยัดได้อีกระยะหนึ่ง แต่เหมยเหมยไม่เหมือนกัน ปากของเธอกลายเป็นสีม่วงดำแล้ว ถ้าไม่มีออกซิเจนแค่หนึ่งนาทีก็ทนต่อไปไหว


เหมยเหมยปิดท่อหายใจอย่างดื้อรั้น กำหลอดแน่น เล็บสีชมพูน่ารักแต่ก่อนกลายเป็นสีเขียวม่วงแสนน่ากลัว หลอดเล็ก ๆที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรแต่ตอนนี้กลับสำคัญเหมือนทองพันชั่ง เธอจับเอาไว้ครู่เดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว แต่ยังดึงดันส่งไปใต้จมูกของเหยียนหมิงซุ่น


เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสูดเข้าไปไม่กี่ที และวางหลอดไว้ที่จมูกเหมยเหมยอีกครั้ง แต่จู่ ๆเขาก็สีหน้าเปลี่ยนฉับพลันแล้วกอดเหมยเหมยไว้ในอ้อมแขน


“ตู้ม”


เสียงดังติดต่อกันหลายครั้งราวกับจุดประทัด


เหมยเหมยกลับไม่ได้กลัวเท่าไร อ้อมกอดของเหยียนหมิงซุ้นทำให้เธอสบายใจเป็นพิเศษ แม้ว่ายอดเขาเอเวอเรสต์จะพังทลายลงต่อหน้าเธอ เธอก็ไม่ตื่นตระหนก


“เกิดอะไรขึ้น?”


หรือว่าอู่เยวี่ยกลับมาอีกรอบแล้ว?


เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าดุดัน ลอบด่าพี่เสือในใจว่าจัดการไม่ได้เรื่อง แต่ในไม่ช้าเขาก็ลิงโลดดีใจ มีลมพัดแวบผ่านเข้ามาถึงแม้ว่าจะนำฝุ่นละอองเข้ามามากแต่ก็มีออกซิเจนมากเช่นกัน


“เหมยเหมย รีบปิดจมูกหายใจ”


ไม่ต้องรอให้เขาพูด เหมยเหมยก็สัมผัสได้ถึงอากาศบริสุทธิ์ด้วยตัวเอง เหมือนปลาเกยตื้นที่อ้าปากหายใจอย่างสุดชีวิต แต่ไรมาเธอไม่เคยรู้สึกเลยว่าอากาศจะมีความสำคัญมากเช่นนี้


ชีวิตกลับมาสวยงามอีกครั้ง!


ทว่าครั้งแรกที่ระเบิดเหมยเหมยได้รับบาดเจ็บภายใน ก่อนหน้านี้ยังมีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรงอีกร่างกายของเธอทนไม่ไหวมานานแล้ว ทันทีที่สถานการณ์คลี่คลายลงเธอก็หมดสติไป


เหยียนหมิงซุ่นวัดอัตราการเต้นหัวใจของเธอ ถือว่าไม่น่ากังวล ตอนนี้ทางออกได้ระเบิดเปิดออกแล้ว ตัวเขาออกไปเองได้โดยไม่ต้องรอให้คนอื่นมาช่วย


พี่เสือยังไม่ได้เริ่มขุดเข้าไป เหยียนหมิงซุ่นก็อุ้มเหมยเหมยมุดโผล่ออกมา พวกลูกน้องต่างพากันดีใจ ดวงตาแดงก่ำ คิดไว้แล้วว่าเจ้านายเขาต้องไม่เป็นอะไร


เหยียนหมิงซุ่นอุ้มเหมยเหมยไปวางไว้บนรถแล้วเข้าไปอุ้มเหยียนซินหย่าออกมา สั่งให้ลูกน้องรีบส่งตัวพวกเธอสองแม่ลูกไปโรงพยาบาลก่อน เขายังมีสิ่งที่ต้องทำ!


“ขุดต่อไป!”


เหยียนหมิงซุ่นสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา เหอปี้อวิ๋นยังอยู่ข้างใน ไม่ว่าเธอจะเป็นหรือตายก็ต้องหาผู้หญิงคนนี้ให้เจอ ถ้าตายแล้วก็แล้วไป แต่ถ้ายังไม่ตายก็ฆ่าให้ตายเสีย!


พี่เสือไม่ได้ถามอะไรและนำลูกน้องเริ่มขุด ตอนนี้พวกเขาไร้ซึ่งกังวลในใจแล้ว รถขุดดินทั้งสามคันทำงานอย่างแข็งขัน เพียงไม่นานก็ขุดได้เกือบครึ่ง


หลังจากที่เหยียนหมิงชุนและคนอื่น ๆออกมา ลี่เมิ่งเฉินก็เอาแต่ครุ่นคิดบางอย่างราวกับกำลังคิดโจทย์ปัญหา


แน่นอนว่าเขากำลังคิดโจทย์ปัญหาอยู่


เขามีความมั่นใจความสามารถในการคำนวณของตัวเอง 200% จากเวลาที่เหยียนหมิงซุ่นถูกขังจนถึงตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงห้าสิบนาที แม้ว่าการคำนวณของเขาจะคลาดเคลื่อนไปบ้างแต่คงคลาดเคลื่อนไม่เกินสิบนาที ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเวลาอีกสิบนาที


สิบนาทีนี้เหยียนหมิงซุ่นและจ้าวเหมยทั้งสามคนรอดมาได้อย่างไร?


ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นจะได้รับการฝึกฝนพิเศษมาก็อยู่ได้นานกว่าคนทั่วไปไม่กี่นาที แต่จ้าวเหมยและเหยียนซินหย่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก คิดตามหลักการพวกเธอไม่น่ารอดด้วยซ้ำ


น่าสนใจแหะ!


ดูท่าสองคนนี้คงจะมีความลับที่สำคัญมาก!


เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นเหยียนหมิงซุ่นหรือจ้าวเหมยกันแน่?


…………………………………………..


 ตอนที่ 1311 ขาดเป็นสองท่อน


ลี่เมิ่งเฉินเดินเข้าไปหาเหยียนหมิงซุ่น พร้อมเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี “ฉันช่วยชีวิตของนายและว่าที่ภรรยาในอนาคตของนายไว้ แล้วก็ได้ชีวิตของว่าที่แม่ยายนายด้วย ตั้งสามชีวิตเลยนะ น้ำใจครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่พอแล้วมั้ง?”


เหยียนหมิงซุ่นปรายตามองเขาอย่างเฉยเมย พร้อมเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่มียาวิเศษ นายเปลี่ยนขออย่างอื่นแทนเถอะ”


“อย่าพึ่งด่วนปฏิเสธ มีหรือไม่มียาวิเศษนายกับฉันรู้ดีแก่ใจ นายวางใจได้ ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายแน่นอน ฉันแค่ต้องการเอาไว้ช่วยคุณปู่เท่านั้น รับรองจะไม่มีบุคคลที่สามรู้เรื่องยาวิเศษแน่นอน”


ลี่เมิ่งเฉินมีสีหน้าลังเล เขานึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมากะทันหัน พลันเข้าใจอะไรบางอย่าง


“ฉันคิดว่าเจ้ายาวิเศษนี่คงมีบุคคลที่สี่รู้เข้าเสียแล้วล่ะ!” เหยียนหมิงซุ่นจ้องเขาเขม็ง แววตาสังหารแผ่ทั่วสารทิศ ลี่เมิ่งเฉินพลันรีบเอ่ยแก้ตัว “ฉันไม่ได้เป็นคนบอก ในเมื่อฉันเดาออกคนอื่นก็ต้องเดาออกได้เหมือนกัน มิเช่นนั้นทำไมเฮ่อเหลียนเช่อถึงถ่อมาถึงเมืองจินได้เล่า? ทั้งยังสั่งให้คนไปลักพาตัวว่าที่ภรรยาและว่าที่แม่ยายของนายมาอีก ฉันเดาว่าเป้าหมายของเจ้านั่นก็คือยาวิเศษ!”


ลี่เมิ่งเฉินยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวว่าสิ่งที่ตนคาดเดาไว้จะเป็นเรื่องจริง จึงมีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นมา เขาไม่ชอบทั้งเฮ่อเหลียนเช่อและเหยียนหมิงซุ่น แต่ถ้าต้องเลือกหนึ่งในสองเขายอมรับเหยียนหมิงซุ่นยังดีกว่า


อย่างน้อยเรื่องที่เหยียนหมิงซุ่นทำก็ยังพอคลำหัวให้เจอหางได้ เฮ่อเหลียนเช่อจอมวิปริตนั่นความคิดซับซ้อนมากเกินไป เดาทางไม่ถูกว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อไป


เหยียนหมิงซุ่นตื่นตระหนก หากว่าสิ่งที่ลี่เมิ่งเฉินพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นการที่เหมยเหมยต้องพบเจอกับอันตรายในครั้งนี้ก็พอจะเข้าใจได้ง่ายหน่อย


เฮ่อเหลียนเช่อจงใจชี้นำหวงอวี้เหลียนไปพูดเกลี้ยกล่อมเหอปี้วอิ๋นให้ลักพาตัวเหยียนซินหย่า นั่นเพราะเหอปี้อวิ๋นไม่เป็นที่จับตามองนัก หากว่าเป็นลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนลงมือ คงดึงดูดความสนใจของผู้คนในเมืองจินได้


เหตุที่เฮ่อเหลียนเช่อลักพาตัวเหยียนซินหย่ามาก็เพื่อต้องการข่มขู่เหมยเหมย โดยใช้ยาวิเศษมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน


เพียงแต่ทำไมหลังจากนั้นเฮ่อเหลียนเช่อถึงได้ส่งคนช่วยออกตามหา ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด อีกอย่างเมื่อครู่พี่เสือบอกเขาว่าระเบิดที่ใช้ระเบิดปากทางออกเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนให้มา ไม่งั้นเขาคงไม่ได้ออกมาอย่างราบรื่นขนาดนี้


และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหยียนหมิงซุ่นคิดไม่ตก เฮ่อเหลียนเช่อเกลียดเขาเข้ากระดูกดำตายไปยังดีเสียกว่า หากว่าช่วยเขาออกมาไม่ได้ เฮ่อเหลียนเช่อควรจะดีใจถึงจะถูก ทำไมถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยล่ะ?


ลี่เมิ่งเฉินราวกับมองความคิดอันวุ่นวายของเหยียนหมิงซุ่นออก จึงเอ่ยว่า “ความคิดของคนวิปริตนายอย่าคาดเดาเลย ถ้าเดาออกก็คงไม่เรียกว่าวิปริตหรอก เหยียนหมิงซุ่น นายเป็นถึงสุภาพบุรุษอกสามศอก ไม่ต้องถึงขนาดตอบแทนเป็นเท่าทวีคูณหรอก แต่นายก็ต้องคงตอบแทนบุญคุณยิ่งใหญ่ของทั้งสามชีวิตให้ฉันบ้างใช่ไหม?”


“ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษ”


เหยียนหมิงซุ่นสวนกลับไปตรง ๆ ลี่เมิ่งเฉินรู้สึกโกรธจนเจ็บจี๊ดไปถึงใจ


นี่คิดจะปลิ้นปล้อนเหรอ?


เหยียนหมิงซุ่นคอยจับตามองการทำงานของรถขุดดินอยู่ตลอด จู่ ๆก็มีเสียงดังครวญครางดังลอยขึ้นมา รถขุดดินคันหนึ่งหยุดเครื่อง ลูกน้องที่ขับรถขุดดินกระโดดลงมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก


“คุณชายหมิง ขุดเจอคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ครับ” พี่เสือเดินเข้าไปดูแวบเดียว สีหน้าดูไม่ดีนัก ราวกับได้เห็นสิ่งของน่าสะอิดสะเอียน


เหยียนหมิงซุ่นรู้ดีว่าที่ขุดเจอต้องเป็นเหอปี้อวิ๋นแน่ น่าประหลาดใจนัก ทั้ง ๆที่เหมยเหมยบอกว่าเหอปี้อวิ๋นอยู่ใกล้กับระเบิดมากที่สุด ตามหลักแล้วถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่เละเป็นผุยผงก็ต้องตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว


แต่ตอนนี้กลับยังมีชีวิตอยู่?


เขาสาวเท้าก้าวยาวเข้าไป แค่แวบเดียวก็รับรู้ได้ว่าเหตุใดพี่เสือและคนอื่น ๆถึงมีสีหน้าท่าทีเช่นนั้น ลี่เมิ่งเฉินจอมขี้สงสัยก็แอบย่องตามมาด้วย แต่ความสามารถในการอดกลั้นของเขาอ่อนแอกว่าพวกเหยียนหมิงซุ่นเหล่าทหารที่เห็นซากศพมาก่อนจนชินชา


“อ้วก…”


“ลี่เมิ่งเฉินคลื่นไส้ไม่หยุด ใบหน้าที่เคยเย็นชาอยู่ตลอดกลับซีดเซียว ทั้ง ๆที่รู้สึกแย่มาก แต่สายตากลับจ้องมองไปที่พื้นอย่างไม่ละสายตา”


คนที่ร่างกายขาดออกเป็นสองท่อนแต่ยังคงมีชีวิตอยู่ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาเคยเจอ ต่อให้น่าสะอิดสะเอียนแค่ไหนก็ต้องศึกษาให้ทะลุปรุโปร่ง ความรู้สึกนึกคิดของอัจฉริยะแตกต่างจากคนทั่วไปจริง ๆ!


ตอนที่ 1312 เหอปี้อวิ๋นทำชั่วได้ชั่ว


ท่ามกลางซากปรักหักพังเหอปี้อวิ๋นนอนจมกองเลือดไหล แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็หายใจโรยริน ลมหายใจออกแรงแต่ลมหายใจเข้าแผ่วเบา


ร่างกายส่วนล่างของเหอปี้อวิ๋นถูกรถขุดดินตัดขาดจากส่วนบน เลือดอาบท่วมท่อนร่างแดงเถือก ลำไส้ทะลักออกมาอยู่บนพื้น แต่ท่อนบนของเหอปี้อวิ๋นกลับขยับไปมาไม่หยุด ราวกับคิดจะปีนป่ายออกจากกองซากปรักหักพังนั้น


ภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ต่อให้พวกพี่เสือจะชินชาภาพเหล่าเพื่อนทหารที่เคล้าไปด้วยคาวเลือด แต่ตอนนี้กลับรับไม่ได้ สีหน้าดูแย่ไม่หยอก


ลี่เมิ่งเฉินกลับดีขึ้นมาก พลางล้างสมองตัวเองว่า ‘ไม่มีอะไร ก็แค่อวัยวะบนตัวของมนุษย์ถูกจัดวางใหม่ก็เท่านั้น แท้จริงก็ยังเป็นคนนั้นแหละ เพียงแค่ตอนนี้แยกส่วนกระจัดกระจาย และใกล้หมดลมหายใจเต็มที!’


“แชะ แชะ”


ลี่เมิ่งเฉินหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับหันไปเก็บบันทึกภาพเหอปี้อวิ๋นที่ใกล้หมดลมหายใจไว้หลายสิบรูป ถ่ายไว้ทุกมุม สามารถเก็บเอาไว้เพื่อเป็นฐานข้อมูลอันดับหนึ่ง


“ช่วย ช่วย…ฉันด้วย…เยวี่ยเยวี่ย…”


เสียงของเหอปี้อวิ๋นเบามากขาด ๆหาย ๆ เหยียนหมิงซุ่นนั้นหูตาว่องไวจึงพอจับใจความได้บ้าง เขาย่อตัวลงพูดกับเหอปี้อวิ๋นในระยะใกล้ “อู่เยวี่ยหนีไปแล้ว เธอเป็นคนโยนระเบิด”


เขาไม่คิดว่าการแทงด้วยมีดครั้งนี้จะโหดร้ายอะไร สภาพเหอปี้อวิ๋นในตอนนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง หากจะโทษก็ต้องโทษที่เธอเลี้ยงลูกสาวตัวแสบคนหนึ่งออกมา!


เหอปี้อวิ๋นนั้นมีสติขึ้นมาบ้าง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนที่ระเบิด และรู้ว่าอู่เยวี่ยทอดทิ้งเธอ อีกทั้งยังโยนระเบิดใส่เธอจนต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้


“เยวี่ยเยวี่ย…ลูกใจร้ายมาก…”


ในจังหวะนั้นเหอปี้อวิ๋นถึงได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดตามร่างกาย เธอพยายามมองลงไปหาร่างกายส่วนล่าง แต่กลับเห็นแต่ความว่างเปล่า หนำซ้ำยังมีลำไส้ทะลักกองอยู่ด้านนอก ไหนเล่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?


เหอปี้อวิ๋นนั้นทั้งเกลียดทั้งกลัวทั้งเสียใจทั้งเจ็บปวด จนค่อยๆ ตายทั้งเป็นไปพร้อมกับความเจ็บปวด ดวงตานั้นเบิกกว้าง นอนตายตาไม่หลับ!


เกรงว่าจนวันตายเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกสาวที่ตนนั้นรักอย่างสุดหัวใจ ถึงได้ส่งเธอไปลงนรกด้วยเงื้อมือตัวเอง อีกทั้งยังใช้วิธีที่โหดร้ายขนาดนี้!


เหยียนหมิงซุ่นไร้ซึ่งความรู้สึก คนชั่วอย่างเหอปี้อวิ๋น ต่อให้ไม่ถูกรถขุดดินตัดขาดเป็นสองท่อน เขาก็ไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่ และอู่เยวี่ยตัวดีนั่นอีกคน


ผู้หญิงที่ชั่วช้าเลือดเย็นเสียยิ่งกว่าเหอปี้อวิ๋นหลายร้อยเท่า!


“เผาที่นี่ซะ” เหยียนหมิงซุ่นกำชับอย่างเย็นชา


ลี่เมิ่งเฉินกลับรีบพุ่งเข้ามาหา “อย่าเผา อย่าเผา ถึงยังไงนายก็ไม่เอาแล้วนี่ งั้นก็ยกศพให้ฉันสิ!”


พวกพี่เสือสีหน้าเปลี่ยน มองลี่เมิ่งเฉินด้วยความประหลาดใจ ราวกับมองคนวิปริตก็มิปาน


ลี่เมิ่งเฉินรีบเอ่ยขึ้น “ก็คนที่ร่างกายขาดเป็นสองท่อนแล้วยังมีชีวิตอยู่น้อยมากที่จะเจอ ฉันต้องเอากลับไปศึกษาให้มาก ไม่แน่ว่าอีกหน่อยคนเราอาจสับร่างกันได้ก็ได้นะ!”


ทุกคนต่างก็ส่ายหน้าหน่ายใจต่อความคิดแสนประหลาดของลี่เมิ่งเฉิน


คนนะไม่ใช่ไส้เดือนที่ขาดเป็นสองท่อนแต่ยังมีชีวิตอยู่ได้ เหอปี้อวิ๋นก็มีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่กี่นาทีไม่ใช่เหรอ?


เพียงไม่เอ่ยถามถึงยาวิเศษอีกเหยียนหมิงซุ่นก็ใจกว้างพอ เขาสั่งให้ลูกน้องแช่แข็งเหอปี้อวิ๋นก่อนแล้วค่อยขนส่งทางอากาศไปให้ถึงตระกูลลี่


“สามชีวิตนั้น ฉันตอบแทนไปแล้วหนึ่งชีวิต ยังเหลืออยู่สองชีวิต”


บัญชีของเหยียนหมิงซุ่นคิดคำนวณออกมาอย่างชัดเจน ครู่เดียวหนี้ชีวิตที่ติดค้างทั้งสามคนก็ลดเหลือเพียงสองคนแล้ว ลี่เมิ่งเฉินมองเขาด้วยความงงงัน ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้เอ่ยด่าไปที


…ไอ้พ่อค้าหน้าเลือด!


เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นอยากจะพูดอะไรกับเฮ่อเหลียนเช่อสักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพูดดีด้วยบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อไปตั้งแต่เมื่อไร


“พี่หมิงซุ่น เฮ่อเหลียนเช่อและอู่เยวี่ยหมั้นกันแล้ว”


เขานึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เหมยเหมยเคยบอกเขา เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่คิด ๆดูแล้วก็พอวิเคราะห์ได้ว่าเหตุใดอู่เยวี่ยถึงมีส่วนเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย


………………………………………………….


ตอนที่ 1313 กล่าวโทษผู้อื่น


เหยียนหมิงซุ่นให้พวกพี่เสืออยู่เก็บกวาดซากที่เหลือ ส่วนตัวเขาได้ล่วงหน้าไปที่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเหมยเหมยเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ไปเห็นกับตาเขาคงไม่สบายใจ


ส่วนทางอู่เยวี่ยเขามีวิธีจัดการ และเฮ่อเหลียนเช่อหากตรวจสอบแล้วรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เขาก็ไม่มีทางปล่อยไอ้ทรพีนั่นไปเช่นกัน


เหมยเหมยฟื้นแล้ว เธอไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ร่างกายยังคงอ่อนแอ สีหน้านั้นแทบดูไม่ได้ จ้าวอิงหัวอยู่เป็นเพื่อนเธอที่โรงพยาบาล ดวงตาแดงก่ำ ดูแก่ลงเป็นสิบปี


เดิมทีจ้าวอิงหัวติดประชุมอยู่ในเมือง การประชุมพึ่งเริ่มได้เพียงครึ่งเดียวเขาก็รู้สึกโหวง ๆไม่สบายใจเอามาก ๆ แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดเอะใจอะไร เข้าใจว่าช่วงนี้คงทำงานเหนื่อย ๆ หัวใจจึงได้แสดงอาการต่อต้าน


แต่เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง จ้าวอิงหัวก็ได้รับข้อมูลจากพี่เสือว่าได้เกิดเรื่องขึ้นกับภรรยาและลูกสาว ในเวลานั้นราวกับวิญญาณออกจากร่าง จึงรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่งานที่ต้องรายงานต่อผู้นำมณฑลยังมอบหมายให้ผู้ช่วยไปทำแทน


ตอนเขากลับมาประจวบเหมาะกับช่วงที่พี่เสือพาตัวเหยียนซินหย่าและเหมยเหมยมาส่งโรงพยาบาลพอดี ซึ่งจังหวะที่เขาได้เห็นสภาพน่าเวทนานั้น จ้าวอิงหัวแทบเป็นลมล้มพับไป นับเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมา


ในขณะนี้เหยียนซินหย่ายังคงอยู่ในห้องผ่าตัดเพื่อทำการช่วยชีวิต เหมยเหมยปลอดภัยดี จ้าวอิงหัวเบาใจลงไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งห้อยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ เพียงแค่รอให้เหยียนซินหย่าออกมาอย่างปลอดภัยเขาถึงจะวางใจได้


“เหมยเหมยฟื้นแล้วเหรอ? ดื่มน้ำหน่อยไหม?” จ้าวอิงหัวสำรวจร่องรอยบาดแผลตามตัว แม้หมอจะบอกว่าเป็นแค่แผลถลอก แต่เขากลับปวดใจนัก


ตั้งแต่ลูกสาวกลับบ้านมา แม้แต่คำพูดแรง ๆเขายังทำใจพูดไม่ได้เลย เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยสองคนนี้ไม่ตายดีแน่ ใช่ว่าเขาจะฆ่าพวกหล่อนไม่ตาย!


เหมยเหมยส่ายหน้าไปมา ในตอนนี้เธอรู้สึกผะอืดผะอม เกรงว่าดื่มน้ำเข้าไปจะอาเจียนออกมา เมื่อนึกถึงเหยียนซินหย่าขึ้นมา เธอจึงรีบเอ่ยถามว่า “พ่อคะ…แม่เป็นอย่างไรบ้าง?”


น้ำเสียงแหบแห้งไม่น่าฟัง ช่วงลำคอก็ปวดแสบปวดร้อนไปหมด ทำให้จ้าวอิงหัวเจ็บปวดใจมากกว่าเดิม แต่พอนึกถึงภรรยาที่นอนอยู่ในห้องผ่าตัดโดยไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ใจของเขาแทบจะแยกออกเป็นสองส่วนเสียให้ได้


“ไม่เป็นไร แม่ของลูกไม่เป็นอะไรหรอก ลูกนอนพักสักหน่อย รอลูกตื่นขึ้นมาพ่อจะพาไปหาแม่เอง!”


จ้าวอิงหัวฝืนทนทำตัวเข้มแข็ง คอยปลอบโยนเพราะกลัวว่าลูกสาวตนจะเสียใจเอาได้


เรื่องความเสียใจให้เป็นเขาเองที่แบกรับไว้!


แต่ความกังวลและความกระวนกระวายของจ้าวอิงหัวกลับไม่อาจปิดบังเหมยเหมยได้ เธอรู้ดีว่าสถานการณ์ของเหยียนซินหย่าไม่ค่อยดีนัก ในใจกระวนกระวาย แต่ใบหน้ากลับไม่ได้แสดงอาการออกมา เพียงแค่หลับตาลงอย่างว่าง่าย


ตอนนี้เธออ่อนแอจนเกินไป สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือการพักผ่อน เธอจะต้องหายดีในเร็ววัน เพื่อไปตามคิดบัญชีกับนางชั่วอู่เยวี่ย


เธอจะต้องเอาความเจ็บปวดของทั้งสองภพชาติ เอาคืนอู่เยวี่ยเป็นร้อยเท่าพันเท่า!


ตอนเหยียนหมิงซุ่นมาถึง เหมยเหมยยังคงหลับอยู่ จ้าวอิงหัววิ่งไปวิ่งมา ครู่หนึ่งแวะไปสอดส่องที่ห้องผ่าตัด อีกครู่หนึ่งก็วิ่งกลับมาดูแลลูกสาว เกรงก็แต่เขาอยากจะฉีกแบ่งเป็นสองร่างเนี่ยสิ!


“คุณไปเฝ้าป้าเหยียนเถอะ เดี๋ยวทางเหมยเหมยผมเฝ้าเอง”


น้ำเสียงของเหยียนหมิงซุ่นติดเย็นชาเล็กน้อย เขานึกกล่าวโทษต่อจ้าวอิงหัว อยู่ในพื้นที่ของตนแท้ ๆ ภรรยากับลูกสาวยังเกือบถูกคนอื่นปองร้ายเกือบถึงตาย ยศอำนาจที่มีไม่มีความหมายเอาเสียเลย!


และแน่นอนว่าเขาเกลียดตัวเองมากกว่า พูดตามตรงเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าจ้าวอิงหัวสักเท่าไหร่ จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโทษคนอื่น!


เหมยเหมยหลับได้ไม่นาน ในฝันมีแต่เสียงระเบิด และยังมีภาพเหตุการณ์ในชาติที่แล้วก่อนที่เธอจะตาย พื้นที่รอบ ๆ นองไปด้วยเลือด เธอตกใจจนเหงื่ออาบท่วมตัวจนสะดุ้งตื่น


“ฝันร้ายเหรอ? ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”


เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งนั่งลงได้ครู่เดียวก็เหลือบเห็นหน้าผากของเหมยเหมยชุ่มไปด้วยเหงื่อ อีกทั้งสีหน้าเหยเก จึงได้โอบเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดถึงทำให้เธอพอจะสงบนิ่งลงได้


ในเวลานี้เขากลับนึกถึงคำพูดแปลก ๆบางอย่างที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งพลังมหัศจรรย์ของเหมยเหมย เสมือนมิติที่ข้ามไปหยิบของได้ในยุคเทพเซียนโบราณ แล้วยังทำสิ่งของนั้น ๆมาแปลงเป็นของทุกสรรพสิ่งได้


ตอนที่ 1314 รอจังหวะคิดบัญชีแค้น


ซบอยู่ในอ้อมอกแสนอบอุ่นและแข็งแรงของชายหนุ่ม เหมยเหมยจึงสงบลงได้อย่างรวดเร็ว “ศพของเหอปี้อวิ๋นหาเจอแล้วเหรอ?”


เธอคิดว่าเหอปี้อวิ๋นต้องตายไปแล้วอย่างไม่มีสงสัย แต่เมื่อผ่านการวิเคราะห์ของลี่เมิ่งเฉิน ในจังหวะที่เกิดการระเบิดขึ้นนับว่าเหอปี้อวิ๋นโชคดีไม่น้อย แผ่นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านบนโรงงานถล่มลงมาแต่กลับห้อยค้างกลางอากาศไม่ถล่มลงมาโดนเหอปี้อวิ๋น ซึ่งแบบนั้นถือเป็นการสร้างกำแพงขึ้นมาให้กับเหอปี้อวิ๋นเพื่อเป็นกำบังในการหลบ


เพียงแค่ในช่วงสุดท้ายเธอกลับหลบไม่พ้นรถขุดดิน อีกทั้งยังต้องตายอย่างอนาถ


พูดแค่ว่าเวรกรรมตามสนองคนชั่ว!


ไม่ควรค่าแก่ความเห็นใจ!


เหยียนหมิงซุ่นเล่าเรื่องการตายของเหอปี้อวิ๋นให้ฟัง บอกเพียงแค่ว่าถูกรถขุดดินขุดโดนจนตาย แต่กลับไม่ได้เอ่ยถึงลักษณะการตายของเธอ กลัวว่าจะทำให้ภรรยาตัวน้อยของเขานั้นจะต้องสะอิดสะเอียน เหมยเหมยตะเบ็งเสียง “ทำชั่วได้ชั่ว พระเจ้าคงทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว”


เธอลอบพรูลมหายใจ ซึ่งไม่ได้รู้สึกดีใจมากแต่อย่างใด อีกทั้งเธอมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา


เธอได้กลับไปอยู่ในโลกที่เธอเคยมีชีวิตอยู่ในชาติก่อนจริงหรือ?


แล้วเหตุใดในชาตินี้เรื่องราวต่าง ๆถึงได้เปลี่ยนแปลงไปเสียหมด!


ตัวอย่างเช่นการตายของอู่เจิ้งหง เมื่อชาติก่อนอู่เจิ้งหงมีชีวิตที่สุขสบายมาตลอด หนำซ้ำยังไม่มีการหย่าร้างกับจี้เจี้ยนโปด้วย เว่ยชิวเยวี่ยและอู่เจิ้งเต้าก็ไม่มีการหย่าร้าง ครอบครัวเต็มไปด้วยความสุข


ส่วนเหอปี้อวิ๋น เมื่อชาติที่แล้วก่อนที่เธอจะตายเหอปี้อวิ๋นยังคงมีชีวิตที่สุขสบาย ดูทรงแล้วมีชีวิตอยู่ต่ออีกสามสิบปีก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย และเหมยซูหานเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด


ทุกอย่างล้วนต่างออกไปจากชาติที่แล้ว!


ถ้าอย่างนั้นเหยียนซินหย่าจะตายไหม?


ชาติที่แล้วเหยียนซินหย่ามีชีวิตเช่นไรเธอไม่รู้ ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนี้ทุกอย่างมันไม่สำคัญแล้ว เพราะเธอค้นพบแล้วว่า ต่อให้ชาติก่อนเธออายุยืนยาวเป็นร้อยปี ในชาตินี้เธอก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก


“พี่หมิงซุ่น แม่ของฉันออกมาหรือยัง?” เหมยเหมยกังวลเป็นอย่างมาก


เมื่อครู่เหยียนหมิงซุ่นได้สั่งให้ลูกน้องเข้าไปสอดส่องมาแล้ว หมอที่ทำการผ่าตัดให้กับเหยียนซินหย่านั้นเป็นถึงศัลยแพทย์ชั้นนำของเมืองจิน แม้จะเป็นแค่ในปะเทศก็ยังนับว่าเป็นชั้นหนึ่ง เพราะงั้นชีวิตของเหยียนซินหย่าก็หายห่วงไปได้


เพียงแต่ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร ตอนนี้เป็นสิ่งที่ยังไม่อาจรู้ได้


“คุณชายหมิง การผ่าตัดของคุณผู้หญิงสำเร็จดี หมอบอกว่าต้องคอยเฝ้าดูอาการอีกสิบสองชั่วโมง ก็สามารถย้ายเข้าไปอยู่ในห้องพักผู้ป่วยทั่วไปได้แล้ว” ลูกน้องของเขากลับมารายงาน


เหมยเหมยถอดถอนหายใจลากยาว ดูเหมือนว่าชีวิตของเหยียนซินหย่าจะไม่มีอะไรที่ต้องน่ากังวลใจแล้ว


ส่วนการบำรุงในตอนหลังเชื่อว่าแค่มีน้ำยาของเธออยู่ เหยียนซินหย่าจะต้องกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววันแน่


จ้าวอิงหัวเบาใจลงไปกว่าครึ่งแต่ก็ยังติดเป็นกังวลอยู่บ้าง เหยียนหมิงซุ่นบอกให้เขากลับไปทำงาน ทางฝั่งโรงพยาบาลเขาจัดคนมาดูแลเอง


“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอก ผมจะลากตัวคนที่บงการอยู่เบื้องหลังออกมาเอง” เหยียนหมิงซุ่นกำชับ


หากว่าเป็นเฮ่อเหลียนเช่อบงการ จ้าวอิงหัวไม่ใช่ศัตรูของเขาเลย หากเข้ามายุ่งจะเป็นการเอาไข่ไปกระทบหิน


จ้าวอิงหัวตบศีรษะตัวเองอย่างหงุดหงิด ตัวเขาไร้ประโยชน์จริง ๆ แม้แต่ภรรยาและลูกก็ปกป้องไว้ไม่ได้ อำนาจของเขาที่ได้มานั้นช่างไร้ประโยชน์เสียสิ้นดี


แม้เขาไม่อาจลงมือคนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังได้ แต่คนอื่นที่สมรู้ร่วมคิดกับมันเขาไม่มีทางปล่อยไว้แน่ หวงอวี้เหลียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประสาท และผู้ดูแลเรือนจำ…


คนพวกนี้เขาปล่อยไว้ไม่ได้!


หวงอวี้เหลียนเอาแต่อยู่ที่บ้านเพื่อรอข่าวดี แต่สุดท้ายกลับได้แค่คำดุด่าจากเฮ่อเหลียนเช่อ เหอปี้อวิ๋นเปลี่ยนไปกลางคัน!


วันนี้ทั้งวันหวงอวี้เหลียนกลัดกลุ้มใจไม่หาย เธอส่งข้อความหาเหอปี้อวิ๋น  แต่เหอปี้อวิ๋นกลับไม่ตอบกลับมาเลย เธอก็ยิ่งกังวลใจเกรงกลัวว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะฆ่าเธอให้ตาย!


เธอรู้แก่ใจดีถึงความเหี้ยมโหดของเฮ่อเหลียนเช่อ


หวงอวี้เหลียนที่ตื่นตระหนกและหวาดกลัวต้องการติดต่อกับโอหยางปิน แต่โทรไปอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย ส่วนโอหยางปินกำลังง่วนอยู่กับของเล่นชิ้นใหม่ มีหรือที่จะสนใจต่อคนรักเก่าอย่างเธอ


หวงอวี้เหลียนจึงไม่มีทางเลือกจำต้องเก็บสัมภาระง่าย ๆไปก่อน เตรียมหาที่หลบข้างนอก หากหาไม่ได้ก็ค่อยขอไปอยู่กับลูกสาวก่อน รอให้คลื่นพายุสงบลงก่อนค่อยกลับมา


ทว่าหวงอวี้เหลียนพึ่งมาถึงสนามบินก็เจอชายร่างกำยำมาดักขวางทางเอาไว้แล้ว


……………………………………………….


ตอนที่ 1315 หวงอวี้เหลียนเต็มไปด้วยความผิด


พอเหยียนหมิงซุ่นมั่นใจว่าเหมยเหมยสองแม่ลูกปลอดภัยดี เขาก็เตรียมไปจัดการกับหวงอวี้เหลียนและอู่เยวี่ย ส่วนทางเฮ่อเหลียนเช่อ เขาคงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งถึงจะลงมือได้


เพียงแต่…


“คุณชายหมิง หวงอวี้เหลียนถูกเฮ่อเหลียนเช่อเอาตัวไปแล้ว” ลูกน้องของเขากลับมารายงาน


พวกเขาช้าไปแค่ก้าวเดียว พอมาถึงสนามบินก็เห็นว่าหวงอวี้เหลียนถูกคนของเฮ่อเหลียนเช่อเอาตัวไปแล้ว ในเวลากลางวันแสก ๆพวกเขาไม่อาจทำอะไรโดยพลการได้ ทำได้แค่กลับมารับโทษ


เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น เอ่ยถาม “อู่เยวี่ยล่ะ?”


“หาตัวเธอไม่พบครับ ไม่ได้อยู่กับเจิ้งซือด้วย ราวกับเพิ่งจะหายตัวไปครับ” ลูกน้องเขารู้สึกละอายแก่ใจมาก


หลายเรื่องแล้วที่พวกเขาทำไม่สำเร็จ ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี เสียแรงนักที่คุณชายหมิงไว้ใจ!


หวงอวี้เหลียนถูกพาตัวมาตรงหน้าเฮ่อเหลียนเช่อ เหมยซูหานเองก็อยู่ด้วย เขารู้ว่าเหมยเหมยและแม่ต่างก็พ้นขีดอันตรายแล้วจึงอาละวาดจะออกจะโรงพยาบาล เฮ่อเหลียนเช่อจึงจำยอมพาเขาออกจากโรงพยาบาล


ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ้านทรงโมเดิร์นหลังหนึ่งที่เฮ่อเหลียนตกแต่งไว้นานแล้ว ซึ่งแต่ก่อนเป็นบ้านพักของนายทุนใหญ่ หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ทุกคนในบ้านต่างก็กระจัดกระจายกันไป ที่ตายก็ตาย ที่หนีไปได้ก็หนีไป หากโชคดีมีชีวิตรอดก็เกรงว่าคงไม่คิดจะย้อนกลับมาอีก


บ้านหลังนี้จึงตกเป็นของเฮ่อเหลียนเช่อทั้งหมดโดยไม่เสียเงินแม้แต่แดงดียว


“ซูหาน หญิงชั่วนี่ฉันจับตัวมาให้แล้ว นายจะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เลย!” เฮ่อเหลียนเช่อลอบมองเหมยซูหานอย่างเอาใจ เหลือบมองเหยียดหยามหวงอวี้เลียนที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยร่างที่สั่นเทิ้ม


เพื่อให้เหมยซูหานระบายความโกรธ คงต้องลากตัวนางผู้หญิงคนนี้มาเป็นที่รับมีดแล้วล่ะ


ใครใช้ให้เหอปี้อวิ๋นชีวิตสั้นนักเล่า!


“คุณชายเฮ่อ…ฉัน…ฉันเชื่อฟัง…คุณ” หวงอวี้เหลียนกลัวจนแทบฉี่ราด เอาแต่ร้องขอชีวิตไม่หยุด


เฮ่อเหลียนเช่อมีท่าทีเย็นชา ในแววตาเผยถึงความเหี้ยมโหด กล้าที่จะเอ่ยถึงคำสั่งของเขาต่อหน้าเหมยซูหานงั้นหรือ?


ยังเห็นว่าเหมยซูหานโกรธเขาไม่พอใช่ไหม?


สมควรตายนักนะ!


เฮ่อเหลียนเช่อประเคนถีบเข้าให้ โดนบริเวณขั้วหัวใจของหวงอวี้เหลียนพอดี ตั้งแต่เด็กก็มีพละกำลังที่มากกว่าคนอยู่มาก ถีบเข้าไปแค่ครั้งเดียวหวงอวี้เหลียนถึงกลับกระอักเลือดออกมา ใบหน้าซีดเซียวขึ้นมาในทันที


“อยู่ต่อหน้าคุณชายเช่อ ยังกล้าที่จะพูดจาสามหาว นางผู้หญิงแพศยา แกกล้าที่จะใส่ร้ายคุณชายเช่อหรือ? สมควรตาย!”


ลูกน้องคนฉลาดนายหนึ่งเดินเข้ามาถีบซ้ำอีกหลายครั้ง คำพูดคำจาที่กล่าวออกมาลบล้างมลทินให้เฮ่อเหลียนเช่อจนหมด เฮ่อเหลียนเช่อยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ลอบมองลูกน้องได้สักพักก็รู้สึกถูกชะตาอย่างไม่รู้สาเหตุ


หลักแหลมไม่เบา ต่อไปคงต้องมอบหมายงานให้จัดการมากขึ้น!


หวงอวี้เหลียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ช่างเป็นเวรกรรมของเธอจริง ๆ !


เธอไม่เคยบาดหมางหรือเป็นศัตรูกับเหยียนซินหย่ามาก่อน แล้วเหตุใดเธอต้องสั่งให้เหอปี้อวิ๋นไปฆ่าเหยียนซินหย่าเล่า หากไม่ใช่เพราะเฮ่อเหลียนเช่อสั่งให้ทำ เพียงแต่ตอนนี้เฮ่อเหลียนเช่อกลับตีหน้าซื่อไม่ยอมรับ เกรงว่าตัวเธอจะไม่มีหนทางรอดเสียแล้ว


“ไม่ใช่ฉันจริงๆ นะ…เป็นเหอปี้อวิ๋น…ทั้งหมดเขาเป็นคนทำคนเดียว” หวงอวี้เหลียนรีบคลานไปตรงหน้าเหมยซูหานที่ยังอยู่ในสภาพป่วย เธอร้องขอชีวิตไม่หยุด เธอมองออกว่าคนวิปริตอย่างเฮ่อเหลียนเช่อปฏิบัติต่อหนุ่มหน้ามนผู้นี้ต่างออกไป คิดดูแล้วคำพูดของชายหนุ่มผู้นี้คงมีผลต่อใจของเฮ่อเหลียนเช่อไม่น้อย


เพียงแต่เหมยซูหานเกลียดคนที่คิดปองร้ายเหมยเหมยที่สุด แล้วเขาจะยอมร้องขอไว้ชีวิตเธอได้อย่างไรเล่า?


ไม่แทงด้วยมีดก็นับว่าดีเท่าไรแล้ว!


เหมยซูหานมองหวงอวี้เหลียนอย่างเย็นชาแค่แวบเดียว ก่อนจะหันกลับไปมองเฮ่อเหลียนเช่อแล้วเอ่ย “ผู้หญิง จิตใจชั่วช้าแบบนี้ เก็บไว้บนโลกนี้ก็รังแต่จะเป็นภัยต่อผู้อื่น อาเช่อ นายกำจัดคนชั่วช้าเพื่อบ้านเมืองเถอะ!”


เขารู้ดีว่าคำพูดของหวงอวี้เหลียนเป็นจริง คนต้นเรื่องคือเฮ่อเหลียนเช่อ แต่เขาจะทำอะไรได้?


หรือจะให้เขาฆ่าเฮ่อเหลียนเช่อหรือ?


เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!


เพราะงั้นหวงอวี้เหลียนต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อไฟโทสะของเขา เพราะถึงอย่างไรนางผู้หญิงคนนี้ก็เต็มไปด้วยความผิดอยู่แล้ว!


ตอนที่ 1316 เหรินจื่อ


เหยียนหมิงซุ่นไม่พอใจมากที่ถูกเฮ่อเหลียนเช่อตัดหน้าไป ช่วงเย็นเขาเข้าไปหาเฮ่อเหลียนเช่อด้วยตนเอง แต่กลับเจอเศษเนื้อและกองเลือด ทั้งยังขยับไปมาไม่หยุด…


มองจากระยะไกลเหมือนก้อนเนื้อบางอย่าง แต่พอมองในระยะใกล้ก็ยังคงเหมือนก้อนเนื้อ เพียงแต่น่าสะอิดสะเอียนมากกว่าเดิม!


มือเท้าถูกตัดทิ้ง เลือดไหลนองพื้น ก้อนเนื้อนั้นสะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวด ฟังเสียงดูเหมือนจะเป็นผู้หญิง เพียงแต่มองเห็นใบหน้าไม่ชัด


ภายในห้องรับแขกอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด แม้แต่บรรยากาศยังเป็นสีแดง เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่รู้ตัว แม้ว่ามือเขานั้นจะปลิดชีวิตคนมามากมายแต่เขาก็ไม่ชอบกลิ่นคาวเลือด จนถึงขั้นเกลียดด้วยซ้ำ


ดังนั้นทุกครั้งหลังจากที่เขาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นก็จะรีบทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดสะอ้าน


แต่คนเลือดเย็นอย่างเฮ่อเหลียนเช่อนั้น กลับมองว่าการทรมานให้ตายเป็นเรื่องสนุก ไม่ยอมให้เธอตายอย่างสงบ ทรมานเธอไปอย่างช้า ๆ เช่นเดียวกับหวงอวี้เหลียนในตอนนี้ที่นอนกองอยู่บนพื้น


แม้จะมองเห็นใบหน้าไม่ชัด แต่เหยียนหมิงซุ่นก็พอจะคาดเดาตัวตนของหวงอวี้เหลียนได้ นอกจากหวงอวี้เหลียนแล้วจะเป็นใครไปได้?


เขาแค่รู้สึกแปลกใจ หวงอวี้เหลียนรับคำสั่งมาจากเฮ่อเหลียนเช่อมิใช่หรือ?


เหตุใดถึงถูกเฮ่อเหลียนเช่อทรมานอย่างน่าเวทนาเช่นนี้?


“กำลังรอนายอยู่พอดี ของขวัญชิ้นนี้นายคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง? ยกให้นายเลยนะ!” ในมือของเฮ่อเหลียนเช่อนั้นถือไวน์ที่มีสีแดงเสียยิ่งกว่าเลือดบนพื้น ยิ้มตาหยีมองเหยียนหมิงซุ่นด้วยท่าทีสบายอกสบายใจเอามาก


ก่อนหน้านี้เขาใช้วิธีเหรินจื่อ[1] ของหลิวไทเฮามาลองทดสอบบนร่างหวงอวี้เหลียน เขาปรารถนาที่อยากจะรู้ผลลัพธ์นักประจวบเหมาะกับที่วันนี้มีอุปกรณ์ทดลองพอดี เฮ่อเหลียนเช่อจึงลงมือจัดการหวงอวี้เหลียนด้วยท่าทีร่าเริง


หนำซ้ำเขายังเมตตาฉีดยาชาให้หวงอวี้เหลียนไปบ้าง เพื่อให้หวงอวี้เหลียนนั้นมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนมองดูตัวเองค่อย ๆถูกเขาตัดมือและเท้าทิ้งมาสับป้อนให้หมากิน


แววตาของหวงอวี้เหลียนฉายแววหวาดกลัวและเจ็บปวด ช่างเป็นอะไรที่ทำให้เขาดีใจจนแทบบ้าในขณะที่อีกคนเจ็บปวดจนแทบคลั่ง!


นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เหมยซูหานไม่คัดค้านการลงมือกับผู้หญิง เขาต้องดื่มด่ำกับความสนุกนี้ให้พอ ไม่เช่นนั้นครั้งต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเมื่อไหร่


เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองหวงอวี้เหลียนที่น่าอนาถเสียกว่าเหอปี้อวิ๋นชักดิ้นชักงอไม่หยุดแวบเดียว อย่างน้อยเหอปี้อวิ๋นเจ็บปวดแค่ไม่กี่นาทีก็ตาย แต่หวงอวี้เหลียนกลับถูกฉีดยาชา อีกทั้งเฮ่อเหลียนเช่อยังช่วยเธอห้ามเลือด หากไม่เกิดเรื่องเหนือคาดขึ้น เธอก็ยังอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปีจนถึงหลายสิบปี


มีชีวิตอยู่เหมือนกับตัวอ่อน(แมลงวัน) คงเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้แล้วล่ะ!


“นายเอาอู่เยวี่ยไปซ่อนไว้ที่ไหน?”


แค่พริบตาเดียวเหยียนหมิงซุ่นก็เลิกสนใจหวงอวี้เหลียนและไม่คิดอยากฆ่าเธออีก หากมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นนี้ก็เป็นดั่งบทลงโทษของหวงอวี้เหหลียนแล้ว ฆ่าเธอก็เป็นเพียงแค่การได้ระบายอารมณ์เท่านั้น


เฮ่อเหลียนเช่อที่เห็นว่าหยียนหมิงซุ่นไม่ได้มีท่าทีใดต่อเขาจึงอารมณ์เสียขึ้นมาในชั่วขณะ


เขาจ้องหวงอวี้เหลียนที่ยังชักดิ้นอยู่บนพื้น ก่อนจะหันไปโบกมือออกคำสั่งกับลูกน้อง “เอาตัวมันลงไปเลี้ยงให้ดี ฉันจะเลี้ยงมันไว้เป็นของเล่น!”


บรรดาลูกน้องที่ตกใจต่อการกระทำอันโหดเหี้ยมของเฮ่อเหลียนเช่อตั้งแต่ต้น จึงรีบเข้ามาพาตัวหวงอวี้เหลียนออกไป ไม่แม้แต่จะกล้าทำตัวช้า เกรงว่าถ้าทำให้คุณชายเช่อไม่พอใจเข้าจะกลายเป็นเหมือนหวงอวี้เหลียนไปอีกราย


ลูกน้องคนฉลาดก็รีบนำน้ำสะอาดเข้ามาล้างเอาคราบเลือดที่ติดอยู่บนพื้นออกจนสะอาด พร้อมทั้งจุดควันหอม กลิ่นคาวเลือดจางลงไปมาก


“นายชอบจ้าวเหมยไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงถามหาอู่เยวี่ยได้เล่า?” เฮ่อเหลียนเช่อจงใจพูดจากวนประสาท เพื่อเป็นการต่อกรกับเหยียนหมิงซุ่น


“เฮ่อเหลียนเช่อนายอย่ามาทำไก๋ไม่รู้เรื่อง ครั้งนี้ที่เกิดเรื่องกับเหมยเหมยก็เป็นเพราะนายบงการ เหอะ คนอย่างคุณชายเช่อกล้าที่จะทำร้ายผู้หญิงแล้วหรือ นายมีปัญญานักก็มาจัดการฉันสิ!” เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเยาะ พร้อมกับจงใจพูดจาถากถางเขา


ชั่วพริบตาเฮ่อเหลียนก็โกรธจนหน้าดำ เกือบจะกระโจนเข้าใส่เหยียนหมิงซุ่นอยู่แล้ว แต่เขาก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยความเย็นชา “นายนี่ช่างเป็นดั่งสนัขกัดลูตงปินโดยไม่แยกแยะคนดี[2]เสียจริง! ถ้าหากว่าฉันจะฆ่าจ้าวเหมย ทำไมต้องให้คนช่วยออกตามหาด้วยล่ะ? แล้วก็…”


เขาหยุดพูด ก่อนจะหันมายิ้มเยาะใส่เหยียนหมิงซุ่น แล้วพูดเยาะเย้ย “ฉันพึ่งจะช่วยชีวิตนายไว้เองนะ เหยียนหมิงซุ่นนายตอบแทนผู้มีพระคุณของนายแบบนี้เหรอ?”


………………………………………………………..


[1] หรือเรียก มนุษย์หมู ซึ่งเป็นบทลงโทษที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นโดยหลิวไทเฮา เพื่อใช้ในการประหารขุนนางเก่า ซึ่งมีวิธีการที่โหดร้ายมาก โดยจะทำการตัดมือ ตัดเท้า ควักลูกตา เอาทองแดงกรอกหูให้หูหนวก กรอกยาใบ้เข้าปาก ตัดลิ้น ทำลายเส้นเสียง ลากตัวไปไว้ในสุขา หรือบางรายอาจถูกตัดจมูก โกนหัว โกนขนคิ้วและทายาประเภทที่ขนไม่งอกอีกเลย


[2] เป็นดั่งการ ตอบแทนน้ำใจด้วยความเกลียดชัง ซึ่งสุนัข(เปรียบเหมือนคน) ที่ไม่รู้จักคนดีที่คอยให้อาหารมัน


ตอนที่ 1317 ล่องูออกจากถ้ำ


เหยียนหมิงซุ่นตีหน้าขรึมทันที ได้รับการช่วยเหลือจากเฮ่อเหลียนเป็นเรื่องที่เขารังเกียจที่สุดในโลก เขาสงสัยว่าคนวิปริตต้องจงใจกวนประสาทแน่นอน


“อย่างมากครั้งหน้าฉันจะไว้ชีวิตนายสักครั้ง” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยอย่างเย็นชา


เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงเย็นชาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ “ฉันจำเป็นต้องให้นายไว้ชีวิต? เหยียนหมิงซุ่นนายนี่มันคุยโวโอ้อวดจนลอยขึ้นฟ้าได้แล้วมั้ง? นายรอดูเถอะ ฉันจะทำให้นายตายด้วยเงื้อมือขอฉันเอง เหมือนกับเมื่อกี้ที่กลายเป็นเหรินจื่อ(มนุษย์หมู) จากนั้นก็ยัดนายใส่ไห…เหอะๆ !”


เขายิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น ในแววตาเป็นประกาย หากไม่ติดว่าเขากลัวทักษะฝีมือของเหยียนหมิงซุ่นล่ะก็ ตอนนี้เขาอยากจะเอาเจ้าบ้านั่นมาเป็นหนูทดลองจะต้องสนุกมากแน่


“เฮ่อเหลียนเช่อนายอย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย ฉันจะถามนายอีกครั้ง อู่เยวี่ยอยู่ที่ไหน?” เหยียนหมิงซุ่นขัดอารมณ์ที่บ้าคลั่งของเฮ่อเหลียนเช่อจนในใจรู้สึกขุ่นเคืองนัก


ปกติแล้วเจ้าชั่วนี่ก็ดูเป็นปกติมากแต่พอวันนี้ได้เห็นเลือด เจ้าหมอนี่กลับดีใจอย่างไร้ที่เปรียบ มองการฆ่าคนเป็นเรื่องสนุกและช่วงสามปีมานี้ลดลงไปบ้าง


หลายปีก่อนหน้านี้คนที่ตายด้วยเงื้อมือของเฮ่อเหลียนเช่อ ต่อให้นับก็นับไม่หมด


“ไม่รู้สิ อู่เยวี่ยเป็นอะไรกับฉัน? ฉันจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ไหน!” เฮ่อหลียนเช่อตัดบทไม่ยอมรับ


เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเยาะ “อู่เยวี่ยไม่ใช่คู่หมั้นของนายหรอกเหรอ? นายไม่รู้แม้กระทั่งว่าคู่หมั้นตัวเองอยู่ที่ไหน?”


เฮ่อเหลียนเช่อนิ่งค้างไป ซวยแล้ว เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียได้


“ต่อให้เป็นคู่หมั้นของฉันแล้วจะทำไม? ก็แค่ผู้หญิงคนเดียวฉันจำเป็นต้องคอยตามสอดส่องเธอหรือไง? อีกอย่างนายมาตามหาคู่หมั้นของฉันทำไม? หรือว่าคิดที่จะสวมเขาให้ฉัน?”


เฮ่อเหลียนเช่อพูดอย่างไม่มีมูล ทำให้เหยียนหมิงซุ่นโมโหแทบจะเข้าไปฆ่าจอมวิปริตนี่เสีย


เขามองสำรวจไปทั่วทุกสารทิศ รู้ดีว่าอู่เยวี่ยต้องถูกเฮ่อเหลียนเช่อซ่อนเอาไว้ และเป็นไปได้ว่าอาจจะอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ให้ตายอย่างไรเฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่ยอมรับเขาจึงทำอะไรไม่ได้


“เฮ่อเหลียนเช่อ ถ้านายเก่งมากนักก็ซ่อนอู่เยวี่ยไปตลอดชีวิตล่ะ ถ้าเธอกล้าจะออกมา นายจะปกป้องเธอไม่ได้อีกคงต้องให้นายหาคู่หมั้นคนใหม่แล้วล่ะ”


เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเตือนไปหนึ่งประโยค ก่อนจะมุ่งหน้าออกไปทางประตุ เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เขาจึงหันไปหาเฮ่อเหลียนเช่อพร้อมกับโยนภาพถ่ายไม่กี่ภาพให้ พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง “ในนี้มีภาพถ่ายอยู่ไม่กี่รูป คงต้องรบกวนคุณชายเช่อช่วยส่งมอบให้อู่เยวี่ยหน่อยล่ะ เออใช่…อีกอย่างเหมยเหมยฝากบอกอู่เยวี่ยด้วยว่า ต่อไปก็โยนระเบิดให้แม่นหน่อย โยนแบบนั้นไม่มีใครตายแม้แต่คนเดียว โง่ชะมัด!”


เมื่อพูดจบเขาก็สาวเท้ายาวเดินออกจากบ้านไป มุมปากกระตุกยิ้ม ไม่ต้องดูก็รู้ว่าสีหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อในตอนนี้ต้องไม่ดีแน่


อีกอย่างถ้าอู่เยวี่ยอยู่ในบ้านหลังนั้นจริง เขามั่นใจว่าเธอจะต้องได้ยินคำพูดพวกนั้นชัดเจน


เขาเข้าใจความคิดของอู่เยวี่ยดีเพราะเคยเป็นเด็กเรียนเก่งมาก่อน เพราะงั้นเธอเกลียดที่สุดคือการที่ถูกคนอื่นด่าเธอว่าโง่ โดยเฉพาะเหมยเหมยที่แต่ก่อนนั้นเป็นแค่เด็กไม่เอาไหนเทียบกับเธอไม่ได้เลยสักนิด


สำหรับความแค้นที่อู่เยวี่ยมีต่อเหมยเหมย รวมทั้งได้เห็นการตายที่น่าอนาถของผู้เป็นแม่ เธอสละชีวิตแม่แท้ ๆของตัวเองไปแต่ก็ยังทำให้เหมยเหมยตายไม่ได้ นึกถึงจุดนี้อู่เยวี่ยจะต้องไม่พอใจแน่?


ในเมื่อไม่พอใจก็จัดการง่ายแล้ว!


สิ่งที่เขาต้องการคือความไม่พอใจของอู่เยวี่ย แบบนั้นเขาถึงจะสามารถล่องูออกจากถ้ำได้


ผู้หญิงคนหนึ่งที่บ้าคลั่ง ความกล้าของเธอต้องมีอยู่มากล้น อีกทั้งสมองก็คงเลอะเลือนไม่น้อย!


เฮ่อเหลียนเช่อรับภาพถ่ายเหล่านั้นมา บนภาพคือเหอปี้อวิ๋นที่ร่างขาดเป็นสองท่อน ลี่เมิ่งเฉินเป็นคนถ่ายไว้ ฝีมือการถ่ายภาพของอัจฉริยะก็ไม่เป็นรองใคร มุมและแสงสวยไม่เบา ทำให้รู้สึกเหมือนตนเองเผชิญของจริงอยู่ตรงหน้า


จู่ ๆเขาก็รู้สึกไม่พอใจ เหยียนหมิงซุ่นเล่นด้วยวิธีที่เหนือชั้นกว่าเขา ทำไมเขาคิดไม่ถึงว่าเอารถขุดดินมาทรมานคนเล่นล่ะ?


ครั้งหน้าต้องหาคนมาทดลองหน่อยแล้ว!


อู่เยวี่ยที่หลบอยู่ในมุมมืดก็วิ่งโผล่ออกมา ถึงแม้จะมีท่าทีหวาดกลัว แต่ก็ใจกล้าแย่งภาพถ่ายในมือของเฮ่อเหลียนเช่อไป เธอมองแค่แวบเดียวก็แทบจะเป็นลมล้มพับไป


จ้าวเหมย…แกจะต้องไม่ตายดีแน่!


ตอนที่ 1318 การยึดติดของอู่เยวี่ย


อู่เยวี่ยนั้นถูกเฮ่อเหลียนเช่อซ่อนไว้จริงและไม่ให้เหมยซูหานรับรู้เรื่องนี้ เฮ่อเหลียนรู้ดีถ้าเหมยซูหานรู้ว่าอู่เยวี่ยเป็นคนที่จุดชนวนระเบิด เกรงว่าเหมยซูหานจะสั่งให้เขาฆ่าอู่เยวี่ยอีกแน่


เหมยซูหานในตอนนี้อารมณ์รุนแรงนัก เขาเองไม่กล้าจะหาเรื่อง ปิดบังไว้ก่อนจะดีกว่า!


ส่วนเหตุที่ว่าทำไมเฮ่อเหลียนเช่อถึงได้ซ่อนอู่เยวี่ยไว้ เกรงว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดเลย


เขาคิดเพียงแค่ว่าตอนนี้เขาสนใจในตัวอู่เยวี่ย ไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ตายด้วยน้ำมือของเหยียนหมิงซุ่น แต่กลับอยากจะชุบเลี้ยงผู้หญิงคนนี้ไว้ รอดูว่าวันข้างหน้าเธอจะนำเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรมาให้เขา


อู่เยวี่ยในตอนนี้จะต้องเกลียดเหยียนหมิงซุ่นและจ้าวเหมยจนเข้ากระดูกดำ ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมและเลือดเย็นมากพอ แค่เขาฝึกฝนอีกเล็กน้อย ในอนาคตจะต้องสร้างเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่ให้เหยียนหมิงซุ่นแน่


ช่างน่ารอคอยเสียจริง!


ลี่เมิงเฉินมีประโยคหนึ่งที่ไม่ได้พูดผิดไป เพราะเป็นความคิดของพวกวิปริตไม่ต้องไปคาดเดาอะไร ถึงอย่างไรก็ไม่มีวันเดาได้ถูก


เฮ่อเหลียนเช่อเองก็ยังไม่รู้ว่าก้าวต่อไปเขาจะทำอะไร ไม่ว่าจะฆ่าคนหรือจุดไฟ เจ้าบ้านั่นก็ทำตามความรู้สึก


เพียงแค่ทำให้เขาอารมณ์ดี แม้ต้องให้เขาไประเบิดท้องทะเลลึก เขาก็ยังพร้อมที่จะทำเพราะเป็นเรื่องสนุก!


ในโลกใบนี้คนที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกของเฮ่อเหลียนมีเพียงแค่หนิงเฉินเซวียนและเหมยซูหานสองคนเท่านั้น!


ในมืออู่เยวี่ยถือภาพถ่ายไม่กี่ใบไว้ น้ำตาไหลพรากเป็นสาย แม้ว่าจะเป็นเธอจะเป็นคนวางระเบิดจนเหอปี้อวิ๋นตาย แต่พอได้เห็นท่าทีที่น่าเวทนาก่อนตายของเหอปี้อวิ๋น อู่เยวี่ยก็ทั้งโกรธทั้งเกลียดและรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง


เพราะเหอปี้อวิ๋นไม่ได้ตายเพราะระเบิดของเธอ!


เธอไม่ได้ฆ่าแม่แท้ ๆของตัวเอง!


คนร้ายคือเหยียนหมิงซุ่นและจ้าวเหมย เป็นพวกเขาที่ฆ่าเหอปี้อวิ๋นตาย!


ตั้งแต่โยนระเบิดจนถึงตอนนี้ ความละอายใจที่ยิ่งเพิ่มทวีขึ้นบัดนี้ได้มลายหายไปจนสิ้น ทุกอย่างผันเปลี่ยนเป็นความโกรธเกลียด โดยเจาะไปที่ตัวจ้าวเหมย แต่กลับไม่ได้เกลียดเหยียนหมิงซุ่นลึกซึ้งขนาดนั้น


แต่ที่ทำให้เธอไม่พอใจก็คือเหตุใดคนชั่วช้าอย่างจ้าวเหมยถึงได้ดวงแข็งนักเล่า? ระเบิดมากมายขนาดนั้นยังทำให้ตายไม่ได้ หนำซ้ำยังด่าว่าเธอโง่?


เธอเกลียดชะมัด!


“อยากแก้แค้น?” เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงพลางลอบมองใบหน้าบึ้งตึงของอู่เยวี่ย นัยน์ตาฉายแววเจ้าเล่ห์


อู่เยวี่ยออกแรงพยักหน้าตอบ คุกเข่าลงกะทันหันพร้อมกับก้มหัวให้เฮ่อแหลียนเช่อ “คุณชายเช่อ ได้โปรดคุณช่วยฉันด้วย ในใจของเหมยซูหานนั้นมีแต่จ้าวเหมยมาตลอด ขอเพียงแค่นางชั่วช้านั่นตาย เหมยซูหานก็จะรักคุณคนเดียวอย่างสุดหัวใจ!”


เฮ่อเหลียนเช่อเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะยกเท้าถีบเข้าที่ยอดอกของอู่เยวี่ย ความอายกลับกลายเป็นคนโกรธ


นั่นเพราะอู่เยวี่ยพูดแทงใจเขา เขาไม่ชอบเอามาก ๆเรื่องที่เหมยซูหานรู้สึกดีกับเหมยเหมย


พูดไม่ออกบอกไม่ถูก นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้คนแข็งแกร่งอย่างเฮ่อเหลียนเช่อกระวนกระวาย!


“ฉันเคยรับปากเหมยซูหานไว้ว่าจะไม่ทำร้ายเหมยเหมยตลอดไป” เฮ่อเหลียนเช่อพูดแฝงความนัย


อู่เยวี่ยเจ็บปวดจนหายใจลำบากแต่ก็ต้องฝืนไว้ ตอนนี้เธอไร้ซึ่งมารยาหลอกล่อเฮ่อเหลียนเช่อแล้ว ไอ้คนวิปริตนี่ผูกพันกับเหมยซูหานอย่างลึกซึ้ง เกรงว่าการที่ให้เธอมาเป็นคู่หมั้นจะเป็นเพียงเรื่องตบตาคนอื่นเท่านั้น


เธอช่างไร้เดียงสา ที่คิดว่าจะทำให้เฮ่อเหลียนเช่อรักเธอได้!


อู่เยวี่ยไม่กล้าคิดปรารถนาอะไรอีก ตอนนี้เธอต้องการเพียงฆ่าจ้าวเหมย และนี่ก็กลายเป็นสิ่งที่เธอยึดติดว่าเธอจะต้องฆ่าจ้าวเหมยให้ตาย


เมื่อได้ยินคำพูดของเฮ่อเหลียนเช่อ อู่เยวี่ยพลันดวงตาเป็นประกาย จึงรีบพูดขึ้น “คุณชายเช่อ ต้องรักษาคำพูดแน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนที่ทำร้ายจ้าวเหมย คนที่ทำคือฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับคุณชายเช่อสักหน่อย”


เฮ่อเหลียนเช่อนับว่าพอใจต่อความคิดอู่เยวี่ยมาก แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะรีบรับปากเหมยซูหานไปหน่อย ตอนนี้เขากลับผิดหวังเอามาก แต่เขาก็ไม่อยากให้เหมยซูหานโกรธเคือง


ดังนั้น ผู้หญิงอย่างอู่เยวี่ยยังคงมีค่าอยู่!


ถึงอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเขา!


เหมยซูหานสาวมาถึงตัวเขาไม่ได้อยู่แล้ว!


………………………………………..


ตอนที่ 1319 สารภาพ


เฮ่อเหลียนเช่อให้ลูกน้องพาตัวอู่เยวี่ยออกไป และวางแผนจะให้อู่เยวี่ยลงมือพรุ่งนี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำสำเร็จหรือไม่ ก็ไม่ได้เสียหายอะไรกับเขา คิดว่าเป็นเรื่องสนุกก็พอ!


แต่เขากลับไม่รู้ว่าจิตใจและความคิดของผู้หญิงยากที่จะหยั่งถึง


ผู้ชายมักจะดูถูกผู้หญิง แต่สุดท้ายก็ถูกผู้หญิงตลบหลังกลับอยู่ร่ำไป


เหยียนหมิงซุ่นกลับมาจากบ้านของเฮ่อเหลียนเช่อก็มุ่งหน้าไปโรงพยาบาล จ้าวอิงหัวคอยเฝ้าเหยียนซินหย่าอยู่ เขาเองก็เข้ามาดูแลเหมยเหมย


“หวงอวี้เหลียนถูกเฮ่อเหลียนเช่อทำให้กลายเป็นเหรินจื่อ(มนุษย์หมู)เสียแล้ว ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ปิดบังเหมยเหมย


เหมยเหมยหน้าถอดสี เหริ่นจื่อเธอรู้จักมันคือการลงทัณฑ์ของหลิวไทเฮาโหดเหี้ยมอย่างที่สุด เพียงแค่จินตนาการถึงก็รู้สึกผะอืดผะอมแล้ว และแน่นอนว่าเธอยิ่งรู้สึกแปลกใจ


“เฮ่อเหลียนเช่อและหวงอวี้เหลียนพวกเดียวกันไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเขาถึงแตกหักกันได้?”


ตอนแรกเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เมื่อครู่ลูกน้องเขาได้เบาะแสมาว่าช่วงกลางวันเหมยซูหานเข้ามาเย็บแผลข้อมือหัก เป็นเพราะเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน เฮ่อเหลียนจึงพาเหมยซูหานไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประชาชนเมืองจินแห่งแรก ดังนั้นอาการบาดเจ็บของเหมยซูหานจึงตรวจสอบได้ง่ายมาก


ตามที่ได้ยินมาก็คือเหมยซูหานเป็นคนกรีดข้อมือตัวเองจนมือด้านซ้ายแทบขาด ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหยียนซินหย่าหายตัวไปแล้วชั่วโมงครึ่ง


และเป็นเวลาเดียวกับที่เฮ่อเหลียนเช่อให้คนออกไปตามหาเหมยเหมยสองแม่ลูก ท่าทีเปลี่ยนไปจนดูคลุมเครือ


ดังนั้นเหยียนหมิงซุ่นจึงวิเคราะห์เอาเอง มีความเป็นไปได้ที่เหมยซูหานรู้เข้าว่าเฮ่อเหลียนเช่อคิดทำร้ายเหยียนซินหย่าและเหมยเหมยสองแม่ลูก เพราะงั้นเขาถึงได้กรีดข้อมือเอาความตายมาขู่


ดูเหมือนว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะให้ความสำคัญต่อเหมยซูหานมาก


แม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจในความรักระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้าน ไม่ว่าใครจะรักกันก็ตาม ขอแค่ไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ก็พอ


พอเหมยเหมยรู้ว่าเหมยซูหานมีผลต่อเรื่องที่เกิด อีกทั้งวันหน้ามือซ้ายของเขาก็ไม่อาจยกของหนักได้อีก ในใจกลับรู้สึกไม่ดีนัก


เธอไม่อยากติดหนี้บุญคุณชีวิตเหมยซูหานเลยสักนิด!


“พี่หมิงซุ่น พี่ไม่มีอะไรจะถามฉันหรือ?” เหมยเหมยจิตใจฟุ้งซ่าน ตั้งแต่ฟื้นมาเธอเอาแต่คิดว่าจะบอกเหยียนหมิงซุ่นเรื่องที่เธอกลับชาติมาเกิดอย่างไรดี


หากพูดความจริงออกไป เหยียนหมิงซุ่นจะมองว่าเธอเป็นตัวประหลาดหรือเปล่า แล้วจะรักเธออยู่ไหม?


แต่จะให้เธอโกหกเหยียนหมิงซุ่น เธอก็รู้สึกอึดอัดใจ ทั้งยังรู้สึกผิดต่อเหยียนหมิงซุ่นที่ยอมสละแม้กระทั่งชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเธอ


ใบหน้าเล็กงดงามบูดบึ้งจนแทบจะรวมกันเป็นก้อนแล้ว เดิมทีหน้ารูปไข่ที่เกลี้ยงเกลาขาวใสเหมือนไข่ปอกเปลือกกลับมีร่องรอยบาดแผลเล็ก ๆ อยู่ไม่น้อย ไม่ได้น่าเกลียดแต่กลับทำให้รู้สึกสงสาร


เหยียนหมิงซุ่นใช้มือเกลี่ยคายหว่างคิ้วที่ขมวดเป็นปมแน่น หัวเราะเสียงเบา “ไม่ล่ะ นอนเถอะ อย่าคิดมากเลย จะกลายเป็นสาวแก่แล้ว!”


เหมยเหมยรู้สึกอบอุ่นในใจ แต่ยิ่งเหยียนหมิงซุ่นเอาใจใส่เธอ เธอก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ


“พี่หมิงซุ่น…ฉันฝันบางอย่างที่ยาวนานมาก…” เหมยเหมยกัดฟันแน่น เธอตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องจริงบ้างเท็จบ้าง การกลับชาติมาเกิดเป็นเรื่องประหลาดเธอจึงไม่กล้าลอง


เหยียนหมิงซุ่นหว่างคิ้วกระตุก เห็นสีหน้าท่าทางของเหมยเหมย เขาก็รู้ทันทีว่าเหมยเหมยจะเล่าสาเหตุที่ทำให้เธอเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อตอนอายุสิบสองปีแน่


เหมยเหมยเล่าเหตุการณ์ชาติก่อนของเธออย่างตะกุกตะกัก แต่เธอปิดบังเรื่องที่เธอและเหมยซูหานแต่งงานกัน ต่อให้เธอจะไม่ฉลาด แต่แน่นอนเธอรู้ถึงความขี้หวงและความใจแคบของผู้ชายคนนี้


ต่อให้เป็นความฝันก็เกรงว่าเหยียนหมิงซุ่นจะหัวเสียได้


เหมยเหมยจึงบอกแค่ว่าเหมยซูหานเป็นคู่หมั้นของเธอ อู่เยวี่ยแต่งงานกับเหยียนหมิงต๋าแต่เป็นชู้กับเหมยซูหานแล้วถูกเธอจับได้ เรื่องราวหลังจากนั้นเธอก็เล่าออกมาหมดอย่างไม่ปิดบัง


เล่าถึงตอนท้าย เหมยเหมยก็น้ำตานองหน้า


ต่อให้เป็นเพียงแค่ความทรงจำแต่เธอก็ยังเจ็บปวดอยู่ดี


ตอนที่ 1320 ฉิวฉิวต้องเป็นเซียนสัตว์แน่ๆ


เหยียนหมิงซุ่นกระชับกอดเหมยเหมยแน่นแล้วลูบหลังเธอแผ่วเบา เขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่ความฝันของเหมยเหมย คงจะเป็นสิ่งที่เธอเผชิญมาด้วยตัวเอง หากแค่ฝันแล้วทำไมถึงได้เจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจแบบนี้เล่า?


ไม่แปลกเลยที่เหมยเหมยจะเกลียดอู่เยวี่ย เหอปี้อวิ๋นและอู่เจิ้งซือขนาดนั้น


ทั้งสองคนนั้นเอาแต่เข้าข้างอู่เยวี่ย และทำให้เหมยเหมยตายอย่างไร้ซึ่งความยุติธรรม เขาไม่แปลกใจเลยสักนิด เดิมทีพวกนั้นก็แค่คนชั้นต่ำที่เห็นแก่ตัวไร้ความรู้สึก อีกทั้งเหมยเหมยก็ไม่ใช่ลูกแท้ ๆของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าไม่เคยให้ความจริงใจเลยสักนิด


แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจคือเหมยซูหาน เจ้าหมอนี่มีสิทธิ์อะไรมาหมั้นหมายกับเหมยเหมย?


นับว่าโชคดีที่เหมยเหมยไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดออกมา หากเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าชาติที่แล้วเหมยเหมยคือภรรยาของเหมยซูหานและยังมีลูกด้วยกัน เกรงว่าจะยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่!


แต่เหยียนหมิงซุ่นถือว่าโชคดี โชคดีที่มีญาณรับรู้บางอย่างล่วงหน้าได้จึงได้ขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างเหยียนหมิงต๋ากับอู่เยวี่ย ไม่เช่นนั้นหากต้องให้น้องหน้าโง่อย่างเหยียนหมิงต๋าแต่งงานกับอู่เยวี่ย มีหวังบนหัวของเหยียนหมิงต๋าคงมีเขาขึ้นแน่


มะรืนนี้เหยียนหมิงต๋าก็จะเข้ากองไปพร้อมกับพวกทหารใหม่แล้ว ทั้งยังถูกเขาส่งตัวไปอยู่ในเขตที่ราบสูงที่ลำบากที่สุด ต่อให้เจ็ดนางฟ้าลงมาจุติก็ยั่วยวนเขาไม่ได้


“ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว จะไม่มีใครมาทำร้ายเธออีก” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล


เหมยเหมยปาดเช็ดน้ำตาพร้อมพยักหน้ารับ เธอเองก็คิดว่าต่อไปนี้ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เหอปี้อวิ๋นตายไปแล้ว เหลือเพียงอู่เยวี่ย…


เหยียนหมิงซุ่นเดาใจเธอออก จึงพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “วางใจเถอะ พี่ไม่ปล่อยอู่เยวี่ยไว้แน่”


หากเขาเดาไม่ผิด สองวันนี้คนบ้าอย่างอู่เยวี่ยต้องย้อนกลับมาลงมือทำร้ายเหมยเหมยที่โรงพยาบาลซ้ำแน่นอน


สิ่งที่เหมยเหมยยึดติดคืออู่เยวี่ย เช่นเดียวกัน สิ่งที่อู่เยวี่ยยึดติดก็คือเหมยเหมย ไม่ตายก็ไม่มีเลิกรา!


เหมยเหมยร้องไห้ไปสักพักถึงรู้สึกสบายใจขึ้น เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “เหมยเหมยเคยฝันถึงพี่ไหม?”


เมื่อครู่เขาอยากจะถามแต่ก็กลัวเสียหน้า แต่ในใจก็คันยุบยิบจนทนไม่ไหวต้องถามออกไป ทั้งยังตีหน้าขรึมอีกด้วย


เหมยเหมยหัวเราะร่า พลางส่ายหน้าอย่างจงใจ เหยียนหมิงซุ่นแววตาขุ่นเคืองไม่พอใจ


ทำไมถึงไม่มีเขาล่ะ?


ขนาดไอ้บ้าเหมยซูหานนั่นยังมีเลย!


เหมยเหมยทนแกล้งเขาต่อไม่ไหว ถึงได้หัวเราะร่วนแล้วพูดว่า “ต้องฝันเห็นอยู่แล้ว คนเก่งอย่างพี่จะไม่ให้ฝันถึงได้อย่างไร แต่ตอนนั้นฉันแทบจะไม่พูดกับใครเลยจึงไม่เคยคุยกับพี่ เพียงแค่ได้ยินอู่เยวี่ยพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรเสียพี่ก็เป็นพี่เขยเขานี่!”


เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เหมยเหมยจ้องหน้าเขาเขม็งอย่างไม่พอใจ


เมื่อชาติก่อนอู่เยวี่ยได้หน้าได้ตาไปเต็ม ๆ ไม่ใช่เพราะมีพี่เขยแบบนี้หรอกหรือ!


เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือดึงปากเล็กที่ยู่อยู่ของเหมยเหมยก่อนจะหลุดขำ “ใช้ใส่ซีอิ้วได้เป็นกิโลแล้วเนี่ย เรื่องในฝันพี่จะรู้ได้อย่างไรล่ะ ถึงอย่างไรในชาตินี้พี่ก็ไม่มีทางให้อู่เยวี่ยมาเป็นน้องสะใภ้ทัดเทียม…เธอหรอก?”


คำพูดสุดท้ายเขากดเสียงให้ทุ้มต่ำข้างหูเหมยเหมย ลมหายใจร้อนผ่าวแผ่ซ่านปะทะใบหน้าเล็ก ๆของเธอจนแทบไหม้ จึงทุบอกของเหยียนหมิงซุ่นไปไม่กี่ครั้งแล้วมองค้อนใส่ “ใครจะแต่งงานกับพี่ล่ะ…ฉันยังเด็กอยู่เลย…จะทำผิดกฎหมายนะ…”


น้ำเสียงของหญิงสาวนุ่มนวลลากยาว นุ่มหวานหยดย้อยยิ่งกว่าเส้นสายไหม หวานจนทำให้เหยียนหมิงซุ่นนั้นอยากจะดื่มด่ำกับจูบอันเร่าร้อนกับแฟนสาวตนสักครา


แต่ตอนนี้ตัวอันตรายอย่างอู่เยวี่ยยังไม่ถูกกำจัด เหยียนหมิงซุ่นจึงตัดสินรอให้กำจัดอู่เยวี่ยไปได้ก่อนค่อยกลับมารับจูบอันเร่าร้อนของเหมยเหมยเป็นรางวัล!


เหยียนหมิงซุ่นจึงถามถึงเรื่องมิติเพิ่ม ซึ่งเหมยเหมยเองก็ไม่ปิดบังเลยสักนิด เธออุ้มฉิวฉิวที่จ้าวอิงหัวพึ่งอุ้มขึ้นมาส่งขึ้นมาพร้อมชี้นิ้วแล้วบอกว่า “มิติเป็นของฉิวฉิว มันมาจากที่ที่แห่งหนึ่งที่พิเศษมาก ฉันสงสัยว่าฉิวฉิวต้องเป็นเซียนสัตว์บนฟ้าที่ลงมาจุติแน่ ๆ ”


เดิมทีฉิวฉิวที่นอนอย่างเกียจคร้านอยู่ พอได้ยินคำพูดของเหมยเหมยก็พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมา ยืดลำตัวตั้งตรงนั่งด้วยท่าสุภาพ


คุณชายฉิวอย่างเขาจะไม่ทำให้สัตว์เซียนต้องขายหน้า!


……………………………………………….


ตอนที่ 1321 หึง


เหยียนหมิงซุ่นมองฉิวฉิวที่แสร้งทำหน้าจริงจังด้วยความสงสัยแวบหนึ่ง อ้วนไขมันกองเป็นก้อนจนแทบจำไม่ได้ เทียบกับครั้งที่เพิ่งมาอยู่กับเหมยเหมยแล้วอ้วนขึ้นอย่างน้อยสามเท่า


เจ้ากระรอกน้อยจอมตะกละ หื่น เย่อหยิ่งตัวนี้…จะเป็นสัตว์เทวะที่สูงส่งได้เช่นใด?


ดูอย่างไรก็ไม่เหมือน!


เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือจับหางฟูของฉิวฉิวไว้ เจ้าตัวน้อยไม่ขัดขืนสักนิด แต่กรงเล็บทั้งสี่ข้างหดเป็นก้อน เชื่องเสียเหลือเกิน


ช่วยไม่ได้ บนโลกนี้คุณชายฉิวอย่างเขากลัวอยู่สองคน–


คนหนึ่งคือนายผู้ชาย ส่วนอีกคนคือเฮ่อเหลียนเช่อ


ต่อให้นายผู้ชายจะถอนขนของเขา เขาก็ไม่กล้าแม้แต่ปริปากร้องด้วยซ้ำ!


ฉิวฉิวถึงขั้นโค้งคำนับให้เหยียนหมิงซุ่นอย่างเอาใจ มารยาทดีไว้ก่อนไม่ผิดหรอกน่า!


เหยียนหมิงซุ่นลูบขนนุ่มเรียบของฉิวฉิวไปมาหลายทีอย่างไม่อ่อนโยนสักนิด จู่ ๆเขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้เลยกางขาทั้งสี่ข้างของฉิวฉิวออกเผยให้เห็นหน้าท้องกลมสีชมพูของมัน


ฉิวฉิวอายแทบตาย ทำไมนายผู้ชายก็ชอบดูน้องชายของเขากันนะ?


“เป็นตัวผู้เองเหรอ วันหลังอย่าซุกอกเจ้านายของแกให้มากนัก ถ้าฉันเห็นจะถอนขนของแกเสีย!” เหยียนหมิงซุ่นอารมณ์เสียทันที เขาไม่ชอบให้สิ่งมีชีวิตเพศผู้ทุกชนิดเข้าใกล้เหมยเหมย


พอนึกขึ้นได้ว่าฉิวฉิวจะซุกตัวในผ้าห่มของเหมยเหมยและนอนหลับไปพร้อมกับที่รักของเขา เหยียนหมิงซุ่นก็ยิ่งอารมณ์เสีย


จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยได้นอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับเหมยเหมยเลย!


ร่างอ้วนท้วมของฉิวฉิวสั่นระริกพยักหน้าด้วยสีหน้าขมขื่น กองผ้าห่มของนายผู้หญิงทั้งหอมทั้งนุ่ม สบายจะตาย!


เฮ้อ!


เหมยเหมยรวบตัวฉิวฉิวออกมาพลางถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่นทีหนึ่งแล้วพูดค้อนใส่ “พี่ว่าอะไรนะ? ฉิวฉิวเป็นแค่กระรอกตัวหนึ่ง พี่มาหึงบ้าอะไรเนี่ย?”


ถึงเหมยเหมยจะพูดอย่างนั้นแต่ในใจกลับหวานหยดย้อย ไม่เพียงแค่ผู้ชายที่ชอบให้ผู้หญิงหึงตัวเอง ผู้หญิงก็ชอบให้ผู้ชายหึงตัวเองเหมือนกัน แบบนี้ถึงจะบ่งบอกว่าผู้ชายให้ความสนใจผู้หญิงคนนี้นี่นา!


เหยียนหมิงซุ่นลูบจมูกป้อย ๆ เขาก็คิดว่าตัวเองนิสัยเป็นเด็กไปจริง ๆ แต่เขาไม่ชอบใจเจ้าก้อนนี้เลย ใครใช้ให้มันซุกตัวในผ้าห่มล่ะ!


ฉิวฉิวรู้สึกได้ถึงเสียงคร่ำครวญในใจของเจ้านายผู้ชายก็ตัวสั่น แอบพูดกับเหมยเหมยว่า “เจ้านาย หรือว่าเจ้านายรีบจัดการเรื่องนั้นกับนายผู้ชายซะเถอะ ฉันว่านายผู้ชายอยากปลดปล่อยจะแย่แล้ว…”


ขอแค่นายผู้ชายได้ลิ้มรสชาติของเนื้อคงไม่มีเวลามาสนใจว่าเขาจะซุกตัวในผ้าห่มหรือเปล่าแล้วมั้ง?


เหมยเหมยใช้เวลาพักใหญ่ถึงจะเข้าใจประโยคนั้น ทันใดนั้นใบหน้าก็แดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศ แล้วตบก้นฉิวฉิวแรง ๆหลายที “ถ้าพูดเหลวไหลอีกจะงดช็อกโกแลตของแกนะ”


ฉิวฉิวได้แต่สะบัดหางไปมาอย่างกระเง้ากระงอด ดีแต่จะเอาช็อกโกแลตมาขู่เขา!


นิสัยไม่ดีเลย!


ใจป้ำไม่เท่าเฮ่อเหลียนชิงด้วยซ้ำ!


เหมยเหมยให้ฉิวฉิวเปิดช่องมิติแล้วค่อยเอาฟันซี่ที่ฉิวฉิวถอดออกให้เหยียนหมิงซุ่นดู “อันนี้ฉิวฉิวให้ฉันมา ข้างในมีพื้นที่ประมาณหนึ่งฟาง ใส่ของได้ไม่น้อย โชคดีที่มีมันครั้งนี้เราถึงรอดมาได้”


เธออุ้มฉิวฉิวมาหอมฟอดใหญ่แรง ๆอยู่หลายที อดีตช่วยฉิวฉิวไว้เพียงเพราะความเห็นใจแต่ฉิวฉิวกลับช่วยเธอไว้นับครั้งไม่ถ้วน ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณอันน้อยนิดเมื่อห้าปีก่อนไปตั้งนานแล้ว


เหยียนหมิงซุ่นเองก็ตบฉิวฉิวเบา ๆ กลับรู้สึกชอบใจมันขึ้นไม่น้อย รู้จักตอบแทนบุญคุณเหมือนกันนี่นา


ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าเมื่อก่อนที่เหมยเหมยสามารถซื้อของเก่าในตลาดหนานสุ่ยได้มากมาย เห็นทีเป็นคุณงามความดีของฉิวฉิวอีกสินะ!


เหยียนหมิงซุ่นถามเหมยเหมยถึงเรื่องชาติที่แล้วอีกหน่อย พอได้ยินว่ารออีกสิบกว่าปีที่ดินในเมืองจินจะพุ่งสูงถึงระดับที่น่าตะลึงก็นึกโชคดีอย่างอดไม่ได้


มิน่าตอนนั้นเหมยเหมยถึงให้เขาซื้อที่ดินซื้อบ้านอยู่ได้!


อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดที่เขามีอยู่ตอนนี้รอผ่านไปอีกสิบกว่าปี ต่อให้เขากับเหมยเหมยใช้เป็นกี่สิบชาติก็ใช้ไม่มีวันหมด


“ไม่ต้องคิดเรื่องในฝันแล้ว ฉันจะเฝ้าอยู่ตรงนี้แหละ เธอหลับให้สบายใจเถอะ ไม่ต้องกลัว!”


พยาบาลมาเปลี่ยนยา ไม่นานเหมยเหมยก็เริ่มง่วง เหยียนหมิงซุ่นคอยพูดกล่อมด้วยเสียงอ่อนโยนจนทำให้เธอผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นเองก็สวมเสื้อหลับอยู่ข้าง ๆ


ตอนที่ 1322 เหยียนหมิงต๋าเป็นคนซื้อระเบิด


วันรุ่งขึ้นเหยียนซินหย่าก็พ้นขีดอันตรายย้ายไปห้องพักผู้ป่วยธรรมดา เหมยเหมยกับจ้าวอิงหัวถึงโล่งอก รอเพียงเหยียนซินหย่าค่อย ๆพักฟื้น


แต่เหยียนซินหย่ายังไม่ได้สติแต่อย่างใด หลับสนิทนิ่งมาตลอด คุณหมอบอกว่าเธอกำลังพักฟื้นร่างกายด้วยตัวเอง เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็จะฟื้นเอง แต่คุณหมอไม่ได้บอกวันเวลาแน่ชัด อาจจะหนึ่งสัปดาห์ อาจจะหนึ่งเดือน อาจจะครึ่งปีหรือนานกว่านั้น


คุณหมอเห็นว่าเหยียนซินหย่าได้รับบาดแผลสาหัสขนาดนี้ แล้วยังยื้อเวลามาโรงพยาบาลไปตั้งนาน แต่รักษาชีวิตไว้ได้ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว


เป็นปาฏิหาริย์จริง ๆ เพราะหากไม่มียาวิเศษของเหมยเหมย เหยียนซินหย่าไม่มีทางรอดแน่


“ฉันจะฆ่าอู่เยวี่ยให้ได้!” เหมยเหมยแค้นนัก


เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบเธอ “ให้เป็นหน้าที่พี่เอง!”


ไม่ต้องให้เหมยเหมยบอกเขาก็ไม่มีทางปล่อยผู้หญิงคนนี้ไป


คุณหมอมาตรวจร่างกายให้เหมยเหมยพลางบอกว่ารอสังเกตอาการของเธออีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เหมยเหมยดีอกดีใจ แม้ว่าเธอจะพักอยู่ห้องพักผู้ป่วยส่วนตัว มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ไม่เลวแต่โรงพยาบาลมีกลิ่นยาฆ่าเชื้อที่เป็นเอกลักษณ์ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายเท่าไร


รู้สึกราวกับอากาศเต็มไปด้วยเชื้อโรค


หลังจากเปลี่ยนเหยียนซินหย่าไปยังห้องพักผู้ป่วยธรรมดา จ้าวอิงหัวก็ไปทำงานตามปกติ มีงานเป็นตั้งกำลังรอเขาสะสางอยู่ แต่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนจ้าวอิงหัวก็จะหาเวลามาโรงพยาบาลเป็นประจำทุกวัน


เพียงสองวันจ้าวอิงหัวก็สะสางทุกอย่างเรียบร้อย ไล่สืบประวัติตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประสาทไปจนถึงผู้คุมเรือนจำที่เหอปี้อวิ๋นเคยอยู่และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน


คนพวกนี้ไม่มีใครที่ใสสะอาดแม้แต่คนเดียว จ้าวอิงหัวไม่ต้องหาข้ออ้างอะไรก็สามารถตัดสินโทษแต่ละคนได้ด้วยข้อหาติดสินบนและละเลยหน้าที่ พอจะลงโทษคนพวกนี้ได้แล้ว!


จนถึงตอนนี้ขอแค่คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ บางส่วนตายก็ตายไป บางส่วนพิการก็พิการไป บางส่วนที่ได้รับโทษก็รับโทษไป…เหลือเพียงอู่เยวี่ยคนเดียวที่ยังกระโดดโลดเต้นเริงร่าอยู่


ไม่สิ ยังมีอีกหนึ่งคน!


ก่อนวันที่เหมยเหมยจะออกจากโรงพยาบาลพี่เสือได้สืบเจอเรื่องหนึ่งจึงแอบบอกเหยียนหมิงซุ่น


“แน่ใจนะว่าหมิงต๋าไปซื้อระเบิดที่บ้านนอกเอง?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงเย็นชา


“ครับ เป็นน้องชายของคุณชาย อีกอย่างเขาไม่ได้ซื้อทีเดียว แต่แบ่งซื้อหลายรอบ” พี่เสือตอบ


“รู้แล้ว”


เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าเย็นชาแล้วให้พี่เสือถอยออกไป สองมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน


เขาช่างมีน้องชายที่แสนดีจริง ๆ!


เหยียนหมิงซุ่นยกแขนดูเวลาแวบหนึ่งก่อนจะมองเหมยเหมยที่กำลังงีบบนเตียงอีกที ตอนบ่ายเหยียนหมิงซุ่นต้องไปรวมพลที่กรมกองกำลังทหารแล้ว เหลือเวลาอีกสามชั่วโมง


เจ้าสารเลวนี่ต้องเจอเขาสั่งสอนหนัก ๆสักหน!


เหยียนหมิงซุ่นปลุกเหมยเหมยพลางกำชับเธอว่าช่วงบ่ายอย่าออกจากห้องพักผู้ป่วย เขาจะรีบกลับมาก่อนบ่ายสาม


“อืม ไม่ต้องรีบ พี่เฝ้าอยู่ตรงนี้อู่เยวี่ยไม่มีทางโผล่มาหรอก พี่ไปจะได้ล่อมันมาพอดี” เหมยเหมยคิดอยากให้เหยียนหมิงซุ่นไปตั้งนานแล้ว คอยเฝ้าตั้งแต่เช้ายันค่ำแบบนี้อู่เยวี่ยต้องไม่กล้าโผล่หน้ามาแหง


เช่นนี้เธอก็ไม่สามารถแก้แค้นแทนเหยียนซินหย่าได้เองสิ!


เหยียนหมิงซุ่นเกลี่ยจมูกสาวน้อยทีหนึ่ง นี่เขาทำเพื่อใครกันแน่?


เพราะกลัวเหมยเหมยเจ็บตัวอีกครั้งไม่ใช่หรือไง?


ยอมพลาดโอกาสจับตัวอู่เยวี่ย เขาก็ไม่อยากให้เหมยเหมยเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ


เหยียนหมิงซุ่นสั่งให้คนคอยเฝ้าอยู่นอกห้องพักผู้ป่วยอย่างเข้มงวด เชื่อว่าคนธรรมดาอย่างอู่เยวี่ยไม่มีทางแฝงตัวเข้ามาได้แน่นอน


เห็นว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วเหยียนหมิงซุ่นถึงจากไปอย่างสบายใจ ตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์โทสะ ต้องซัดเจ้าโง่นั่นระบายอารมณ์สักหน่อย


หลายวันมานี้เหยียนหมิงต๋าพักอยู่ที่บ้านตัวเองไม่ได้อยู่กับคุณปู่เหยียน เหยียนโฮ่วเต๋อพักอยู่ในห้องพักสำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการ เป็นตึกหอพักสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เพิ่งสร้างใหม่ เหยียนโฮ่วเต๋อได้ห้องที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร


คุณปู่เหยียนกับคุณย่าหยางเองก็เช่นกัน นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ได้มาเหยียบบ้านของลูกชายเพียงเพื่อมาส่งหลานชาย


ขณะนี้ถานซูฟางน้ำตาคลอเบ้ากำลังพูดกำชับลูกชายส่งท้าย เธอทำใจไม่ได้จริง ๆ ไม่รู้ว่าสามีคิดอย่างไรถึงยอมตกลงให้ลูกชายไปค่ายทหาร


“ปัง”


ประตูถูกคนผลักเข้ามาจากข้างนอก เหยียนหมิงซุ่นปรากฎตัวอยู่หน้าประตูโดยมีไอเย็นแผ่กระจายอยู่รอบตัว


………………………………………


 ตอนที่ 1323 คิดบัญชี


ทุกคนต่างสะดุ้งตกใจเฮือก พอคุณย่าหยางเห็นชัดว่าเป็นหลานชายคนโตก็ดีอกดีใจ เธอนึกว่าหลานชายคนโตตั้งใจมาส่งหลานชายคนเล็ก


แต่ไม่นานคุณย่าก็สังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของหลานชายคนโต นี่เหมือนคนจะมาส่งอำลาที่ไหนกันล่ะ เหมือนคนมาทวงหนี้ต่างหาก


“หมิงซุ่น…”


คุณย่าหยางเรียกอย่างระวังทีหนึ่ง


เหยียนหมิงต๋ากลับใจเต้นระส่ำ นับตั้งแต่ซื้อระเบิดให้อู่เยวี่ยตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาฟุ้งซ่านใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขามักรู้สึกว่าระเบิดพวกนั้นก็เหมือนระเบิดเวลาที่ไม่แน่อาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาเมื่อไรไม่รู้


ต่อให้อู่เยวี่ยพูดตลอดว่าเธอแค่ต้องการระเบิดไประเบิดปลาที่เขื่อนกักน้ำ แต่เหยียนหมิงต๋ากลับไม่วางใจอยู่ดี ถ้าหากว่า…


เหยียนโฮ่วเต๋อกลับดีใจยิ่งกว่าคุณย่าหยางเสียอีก ช่วงนี้เขาสืบมาอย่างละเอียดแล้วว่าคุณชายหมิงที่กลายเป็นเฟิ่งหวงผู้ได้ดิบได้ดีนั่นก็คือเหยียนหมิงซุ่นลูกชายคนโตของเขานั่นเอง


เสียดายที่จ้าวเหมยไม่ยอมช่วย เหยียนหมิงซุ่นเองก็เงียบหาย คนเป็นพ่ออย่างเขาคิดจะตามหาลูกชายแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาหัว


ขณะนี้ลูกชายคนโตโผล่มาหาถึงที่ อย่าให้พูดเลยว่าเหยียนโฮ่วเต๋อได้ใจแค่ไหน


เขาหลงคิดว่าในที่สุดเหยียนหมิงซุ่นก็รู้ถึงความสำคัญของคนเป็นพ่ออย่างเขาแล้ว!


“หมิงซุ่นรีบเข้ามานั่งเร็ว ซูฟางไปชงชา เอาชาจิ่งหลงที่ฉันซื้อจากเมืองหางหลายวันก่อนนะ” เหยียนโฮ่วเต๋อเริ่มคลี่ยิ้มราวกับต้อนรับแขกกิตติมาศักดิ์


ต่อให้ถานซูฟางไม่สมยอมแค่ไหนแต่เธอรู้ว่าบัดนี้เหยียนหมิงซุ่นผงาดขึ้นแล้ว เธอไม่สามารถต่อกรเจ้าเด็กเหลือขอนี่เหมือนอย่างเคยได้อีก กลับต้องก้มตัวก้มหน้าประจบประแจงเขาแทน


“ไปเดี๋ยวนี้แหละ ฉันจะชงชาให้คุณพ่อคุณแม่ด้วย!”


ถานซูฟางเดินไปชงชาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหยียนหมิงซุ่นไม่ปริเสียงแม้แต่น้อยแต่เดินตรงดิ่งไปหาเหยียนหมิงต๋าที่ก้มหน้างุด ถามเสียงเย็นชา “หนึ่งสัปดาห์ก่อนแกซื้อระเบิดให้อู่เยวี่ยไปห้ากิโลกรัมเหรอ?”


เหยียนหมิงต๋าตัวสะท้านเฮือก เหงื่อผุดขึ้นเต็มหลังทันที พี่ใหญ่รู้ได้อย่างไร?


ทั้งที่เขาปลอมตัวแล้วแท้ ๆ แม้แต่คุณปู่คุณย่ายังจำไม่ได้


ต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่น เหยียนหมิงต๋าไม่กล้าเล่นตุกติกสักนิดเลยพยักหน้าด้วยความซื่อสัตย์ หัวใจหล่นวูบ อู่เยวี่ยเอาระเบิดพวกนี้ไปทำอะไรกันแน่?


เหยียนหมิงซุ่นเห็นท่าทางโง่เขลาของหมอนี่ก็โมโห แต่ก็เพราะเป็นน้องชายของเขาเอง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเขาคงเอาถึงตายแล้ว


“เพี้ยะ”


เหยียนหมิงซุ่นเองก็คร้านถามแต่สะบัดฝ่ามือฟาดฉาดใหญ่ เหยียนหมิงต๋าเป็นหนุ่มน้อยตัวสูงร้อยแปดสิบกว่าเซนติเมตรแต่โดนเขาตบหน้าจนล้มอยู่มุมผนัง ผ่านไปพักใหญ่ก็ลุกไม่ขึ้น หน้าบวมเป่งให้ดวงตาหยีลง


“เฮ้ย…เหยียนหมิงซุ่นเธอทำอะไรน่ะ? หมิงต๋าใกล้จะไปเป็นทหารแล้ว พูดจากันดี ๆให้แล้ว ๆกันไปก็จบ ลงมือทำร้ายกันมันใช้ได้ที่ไหน?”


ถานซูฟางที่ถือถาดออกมาเห็นลูกชายสุดที่รักโดนตบหน้าจนหน้าบวมเหมือนหมู จะทนฉีกยิ้มได้ที่ไหนอีกล่ะ อ้าปากก่นด่าทันที


คุณย่าหยางเองก็ไม่เข้าใจ เธอถามเหตุผลจากเหยียนหมิงซุ่นเสียงเบา เธอรู้นิสัยหลานชายคนโตที่เลี้ยงมากับมือคนนี้ยิ่งกว่าใคร ไม่มีทางทำร้ายหลานชายคนเล็กอย่างไร้เหตุผลแน่นอน


“เจ้างั่งนี่ซื้อระเบิดให้อู่เยวี่ยไปห้ากิโลกรัม พวกคุณย่ารู้ไหมว่าอู่เยวี่ยเอาระเบิดพวกนี้ไปทำอะไร?” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเสียงเย็นชา


คุณย่าหยางตกใจเฮือกใหญ่ แค่ได้ยินว่าเป็นระเบิดก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดี ไหนจะเกี่ยวโยงถึงอู่เยวี่ยอีก จะมีเรื่องดีได้อย่างไรกัน?


เหยียนหมิงต๋าพูดแก้ตัว “เยวี่ยเยวี่ยบอกว่าเธอจะเอาไประเบิดใส่ปลาที่เขื่อนกักน้ำฉันถึงซื้อให้เธอหรอก”


“อู่เยวี่ยให้แกซื้อปืนแกก็จะซื้องั้นสิ? เจ้าโง่ ถูกขี้ปิดตาไว้หรือไง แก…แก…ฉันจะซัดคนโง่อย่างแกให้ตาย!”


คุณปู่เหยียนโกรธจนเดินมากระทืบซ้ำหนึ่งทีแต่เกือบพลาดทำตัวเองล้ม โชคดีที่เหยียนหมิงซุ่นพยุงไว้ทัน


ตอนที่ 1324 ไม่ยอมเชื่อ


แม้ถานซูฟางจะโกรธที่ลูกชายยังคบกับอู่เยวี่ย แต่เธอสงสารลูกชายมากกว่าที่โดนซ้อมสาหัสขนาดนี้ เลยอดบ่นออกมาไม่ได้ “มีอะไรคุยกันดี ๆไม่ได้หรือไง? ก็แค่ซื้อระเบิดไม่ใช่เหรอ? เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างอู่เยวี่ยจะเอาระเบิดไปทำเรื่องร้าย ๆอะไรได้?”


ถึงเธอจะรู้สึกว่าเหตุผลที่อู่เยวี่ยให้เหยียนหมิงต๋าช่วยซื้อระเบิดให้ หลัก ๆเพราะไม่อยากเสียเงินเองก็ตาม เธอใช้ส้นเท้าคิดยังคิดได้เลยว่าระเบิดห้ากิโลกรัมนี้ต้องเป็นลูกชายเธอควักจ่ายเอง


โง่เสียจริง!


ระเบิดห้ากิโลกรัมราคาไม่ใช่น้อย ๆ ถานซูฟางเริ่มเสียดายเงินอีกแล้วเลยอดเขกกบาลเหยียนหมิงต๋าแรง ๆทีหนึ่งไม่ได้ “บอกให้ลูกอย่าไปคบกับอู่เยวี่ยไง ทำไมลูกไม่ยอมฟัง ไปเป็นทหารก็ดีจะได้ไม่โดนยายสุนัขจิ้งจอกหลอกเอาเงินไปอีก!”


เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะ ในสายตาผู้หญิงคนนี้มีแต่เงิน


“เมื่อวานโรงงานร้างแห่งหนึ่งที่เขตชานเมืองถูกระเบิด พวกคุณน่าจะเคยได้ยินมาบ้างใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถาม


“รู้สิ ฉันได้ยินมาว่าเหมือนจะสร้างโรงงานใหม่เลยระเบิดโรงงานเก่าไป” เหยียนโฮ่วเต๋อเอ่ยอย่างกระตือรือร้น


ข่าวของเขารวดเร็วทันใจเสมอ


คุณปู่เหยียนกลับรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ เลยมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงระแวดระวัง “ระเบิดเมื่อวานเป็นฝีมืออู่เยวี่ยเหรอ?”


“ใช่ อู่เยวี่ย เธอร่วมมือกับเหอปี้อวิ๋นลักพาตัวเหมยเหมยกับคุณแม่ของเธอไป หรือคุณนายของผู้ว่าเมืองจิน อีกอย่างยังใช้มีดแทงแม่เหมยเหมยจนตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย สุดท้ายเธอยังวางระเบิด และนั่นก็คือที่โรงงานร้างเขตชานเมืองแห่งนั้น”


เหยียนหมิงซุ่นเล่าวีรกรรมชั่วร้ายของอู่เยวี่ยให้ฟังคร่าว ๆ จงใจไม่บอกว่าเหยียนซินหย่าพ้นขีดอันตรายและไม่บอกว่าเฮ่อเหลียนเช่อมีเสี่ยวเอี่ยวด้วยเพราะอยากหลอกให้เหยียนหมิงต๋ากลัว


เหยียนหมิงต๋าตกใจไม่น้อยจริง ๆ หน้าซีดทันที มองเหยียนหมิงซุ่นด้วยสายตาตื่นกลัวส่ายศีรษะไม่หยุด “เป็นไปไม่ได้…เยวี่ยเยวี่ยไม่มีทางโกหกฉัน ทั้ง ๆที่เธอบอกว่าเอาไประเบิดปลา…พี่ใหญ่จงใจทำให้ฉันกลัว…”


เหยียนโฮ่วเต๋อเองก็กระทืบเท้าซ้ำพร้อมด่า “พี่ใหญ่ของแกจะโกหกแกทำไม? ฉันจะตีไอ้โง่อย่างแกให้ตาย!”


เขาทำงานในแวดวงการเมืองมานานและผ่านเรื่องราวมามาก แค่ได้ฟังที่เหยียนหมิงซุ่นเล่าก็รู้ว่าเรื่องนี้รุนแรงนัก เลยรีบถาม “หมิงซุ่น คุณนายจ้าวอาการสาหัสมากไหม?”


“แน่นอน ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย อีกอย่างเหมยเหมยก็บาดเจ็บไม่น้อย สองแม่ลูกกำลังถูกช่วยชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล ”เหยียนหมิงซุ่นตีหน้านิ่งไม่มองเหยียนโฮ่วเต๋อ


คุณย่าหยางตกใจรีบท่องบทสวดไม่หยุด “บาปกรรม อู่เยวี่ยบ้าไปแล้ว…ต้องเป็นบ้าไปแล้ว!”


“อู่เยวี่ยกับแม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง? จับตัวได้มั้ย?” คุณปู่เหยียนถาม


เหยียนหมิงซุ่นล้วงรูปถ่ายอีกหลายใบจากกระเป๋ายื่นใส่หน้าเหยียนหมิงต๋าที่ยังพึมพำไม่หยุด พูดเสียงตำหนิ “แกดูให้ชัด แม้แต่แม่แท้ ๆของตัวเองอู่เยวี่ยยังใจเหี้ยมทำได้ลงคอ นี่คือสภาพก่อนตายของเหอปี้อวิ๋น”


ทุกคนต่างสะดุ้งตกใจใหญ่ คุณย่าหยางรีบถามแทรก “เหอปี้อวิ๋นตายแล้ว?”


“ใช่ ตายเพราะโดนระเบิดของอู่เยวี่ย” เหยียนหมิงซุ่นตอบคำถาม


“อมิตตาพุทธ…ผู้หญิงคนนี้ทำไมใจเหี้ยมขนาดนี้!” คุณย่าหยางส่ายหน้ารัว


แม้ว่าเหอปี้อวิ๋นจะชั่วร้ายแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอดีต่ออู่เยวี่ยจริง ๆ แต่อู่เยวี่ยกลับทำแบบนี้กับแม่แท้ ๆของตน


เทียบสัตว์เดรัจฉานไม่ได้ด้วยซ้ำ!


“อ้วก…”


เหยียนหมิงต๋าดูรูปถ่ายเพียงแวบเดียวก็ทนดูต่อไม่ไหว มื้อกลางวันมีไส้ผัดของโปรดที่เขาชอบทานที่สุดซึ่งเขาเขมือบไปจนหมดจานใหญ่ ตอนนั้นทานเอร็ดอร่อยมากแค่ไหนตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าน่าสะอิดสะเอียนใจมากเท่านั้น


ไส้จานใหญ่กำลังบิดตัวอยู่ในกระเพาะในยามนี้ พร้อมจะผุดทะลักออกมาได้ทุกเมื่อ


นี่ฝีมืออู่เยวี่ยจริงหรือ?


ทั้งที่เยวี่ยเยวี่ยไม่กล้าทำร้ายชีวิตหนอนบ้งด้วยซ้ำ เธอมีความเมตตาขนาดนั้นแล้วจะกล้าฆ่าคนได้อย่างไร?


………………………..


ตอนที่ 1325 ขู่ขวัญ


เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นท่าทีแน่นิ่งของลูกชายคนเล็กเลยอดเอารูปถ่ายที่กระจายบนพื้นขึ้นมาดูด้วยความสงสัยไม่ได้ เขาสายตาสั้นเล็กน้อย ปกติอยู่บ้านไม่สวมแว่นตา ตอนนี้จึงเห็นแต่ของสีแดงสองชิ้น


“นี่ตายสองคนเหรอ? นอกจากเหอปี้อวิ๋นตายแล้วยังมีใครอีกคน? หรือว่าจะเป็นอู่เยวี่ย?”


เหยียนโฮ่วเต๋ออดดีใจไม่ได้ หากคนตายคืออู่เยวี่ยก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องมายั่วลูกชายเขาอีก!


ถานซูฟางดีใจเสียยิ่งกว่า เธอจินตนาการไปไกลกว่าอีกเท่าตัว หลงคิดว่าเหยียนหมิงต๋าเห็นสภาพหลังการตายจากระเบิดของอู่เยวี่ยถึงได้ทำท่าคลื่นไส้เช่นนั้น


เธอรู้ว่าคนที่ตายด้วยระเบิดคงมีสภาพดูไม่จืด


“ไหนฉันดูสิ…นี่ก็นับว่ากรรมตามสนองแล้ว…” ถานซูฟางเป็นคุณหมอตัวจริงย่อมไม่กลัวการเห็นศพอยู่แล้ว เลยแย่งภาพถ่ายจากมือเหยียนโฮ่วเต๋อมาดู


แม้เธอจะค่าสายตาสั้นเกือบพันแต่เพราะสวมแว่นตาอยู่เลยเห็นชัดเต็มสองตา แวบเดียวก็เห็นเนื้อสองชิ้นบนภาพถ่ายอย่างชัดเจน นั่นก็คือเหอปี้อวิ๋นที่ร่างขาดเป็นสองท่อนนั่นเอง


ต่อให้เธอเห็นศพคนตายจนชินตา แต่ศพที่ตายได้อย่างอนาถขนาดนี้ก็ทำเอาเธอพะอืดพะอมได้อยู่ดี


เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นสีหน้าที่แปลกไปของภรรยาเลยถลาไปหยิบแว่นตามา แวบเดียวก็เห็นรูปร่างครึ่งท่อนบนของเหอปี้อวิ๋นแบบขยายชัดที่มีลำไส้ห้อยเลือดอาบไปทั้งพื้น


“อ้วก…”


ผัดไส้น้ำแดงอีกจานเล็กมื้อเที่ยงแทบจะลงท้องเหยียนโฮ่วเต๋อทั้งหมด ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจลูกชายคนเล็กแล้วว่าทำไมถึงมีท่าทางอย่างนั้น


เขามีความอดทนที่ต่ำกว่าเหยียนหมิงต๋ามากโข เอามือปิดปากพุ่งไปยังห้องน้ำอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง


คุณปู่เหยียนกับคุณย่าหยางเองก็ดูรูปถ่ายเช่นกันต่างมีสีหน้าย่ำแย่มาก พวกเขาไม่คิดเลยว่าเหอปี้อวิ๋นจะน่าอนาถขนาดนี้


หากเป็นสมัยโบราณถือเป็นการลงโทษฟันเอวแล้วนะ!


ต้องเจ็บขนาดไหนกัน?


“หมิงซุ่น จับตัวอู่เยวี่ยได้หรือยัง? คนที่เหี้ยมโหดเช่นนั้นจะปล่อยเธอลอยนวลไม่ได้เด็ดขาด จะต้องจับตัวมายิงเป้า!” คุณย่าหยางพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น


เป็นครั้งแรกที่ถานซูฟางเข้าข้างแม่สามี “ไม่ผิดหรอก ต้องยิงเป้า คนอย่างอู่เยวี่ยคือโรคจิต มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปก็เป็นตัวอันตราย หลังจากนี้เธอต้องฆ่าคนอีกแน่ ๆ ต้องเอาตัวมายิงเป้าทิ้ง”


สิ่งสำคัญที่สุดคือต่อให้ตายไปก็อย่ามาตามรังควานลูกชายเธออีก!


ลูกสะใภ้แบบนั้นเธอไม่กล้าเอาหรอกนะ จะตายอย่างไรคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!


เหยียนหมิงซุ่นปรายตามองถานซูฟางเย็นชาแวบหนึ่งแล้วพูดเย้ย “ไม่ต่างกันเท่าไรหรอก”


ถานซูฟางชะงักก่อนค่อยเดือดพล่าน เธอใจดีกว่าอู่เยวี่ยมากโขอย่างน้อยก็ไม่ได้ฆ่าโม่เหวินเซียงเองกับมือ แค่พูดบางอย่างให้กระทบกระเทือนใจผู้หญิงคนนั้นเท่านั้นเอง


แม้เธออยากจะด่ากลับแต่นึกถึงสถานะปัจจุบันของเหยียนหมิงซุ่นแล้ว ถานซูฟางจึงจำใจปิดปากไปเงียบ ๆ พยายามระงับอารมณ์โกรธไว้


“ตอนนี้อู่เยวี่ยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จะจับตัวได้ไหมยังไม่รู้ ผมสงสัยว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่เธอจะมาหาหมิงต๋า…” เหยียนหมิงซุ่นจงใจกล่าวเช่นนั้น


คุณย่าหยางสะดุ้งจนเด้งตัวขึ้น “ไม่ได้ไม่ได้…หมิงต๋าจะไปเจอฆาตกรคนนั้นอีกไม่ได้แล้ว โฮ่วเต๋อ ตอนนี้แกรีบส่งหมิงต๋าไปกรมกองกำลังทหารเดี๋ยวนี้ จับตาดูเจ้าหมอนี่ให้ดี”


ถานซูฟางเองก็ชักร้อนใจพลางเห็นด้วยกับคำพูดของคุณย่าหยางอย่างมาก ต่อให้อู่เยวี่ยใจกล้าแค่ไหนคงไม่ไปหาลูกชายถึงกรมกองกำลังทหารหรอกนะ?


เหยียนหมิงต๋าหน้าตาเหม่อลอยดวงตาล่องลอย ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเหยียนหมิงซุ่นพูดแต่อย่างใด


เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้าไปถีบแรง ๆอีกที “แกไม่อยากไปเป็นทหารก็ไปเข้าคุก แกช่วยอู่เยวี่ยซื้อระเบิดห้ากิโลกรัมก็มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดคดีเจตนาฆ่าของอู่เยวี่ย ตัดสินโทษแกจำคุกสามปีหรือห้าปียังน้อยไป”


ถานซูฟางตกใจจนหน้าถอดสีรีบฉุดลูกชายขึ้นพลางพูดเว้าวอน “หมิงต๋าเชื่อฟังพี่ชายนะ ลูกไปอยู่ค่ายทหารให้สบายใจเถอะ อย่าคิดถึงอู่เยวี่ยอีก ผู้หญิงคนนั้นจะทำร้ายชีวิตลูกได้นะ!”


…………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)