เทพปีศาจหวนคืน 1260-1263

 เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1260 กับดักอาณาจักรแห่งความฝัน


แปลโดย iPAT 


ฟางหยวนตกใจเมื่อได้ยินอิงอู๋เซี่ยตะโกนว่า “นำวิญญาณสู่ความฝัน!”


นำวิญญาณสู่ความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันที่ทรงพลัง ในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน อิงอู๋เซี่ยกระทั่งทำให้เจ้าวังสวรรค์ผล็อยหลับและติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน


ฟางหยวนมีความประทับใจต่อท่าไม้ตายนี้ เพราะหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจตจำนงสรรค์ เขาอาจตายอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันตั้งแต่ครั้งนั้น


ในยุคนี้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันหายากมากโดยไม่ต้องกล่าวถึงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน


ทุกคนที่เผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน ไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านขัดขืน


ฟางหยวนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น


เขามีท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน แต่เขาก็มีร่างทารกอมตะเช่นกัน เผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน แม้เขาจะใช้เวลาเพียงชั่วครู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่ช่วงเวลาสั้นๆก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและอันตรายมาก


ฟางหยวนทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่ลังเล


ระหว่างล่าถอย เขามีข้อสงสัยอยู่ในใจ


ย้อนกลับไปท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันของอิงอู๋เซี่ยทรงพลังมากเพราะเขามีวิญญาณอมตะมากมายรวมถึงร่างกายาแห่งความฝัน


แต่ตอนนี้อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณอมตะเหล่านั้นอยู่ในการครอบครองงั้นหรือ?


ฟางหยวนไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่เขาแน่ใจว่าร่างผีดิบอมตะของอิงอู๋เซี่ยจะลดพลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้ลงหลายระดับ


ฟางหยวนล่าถอยออกไปในระยะไกลอย่างรวดเร็ว แต่เขายังไม่ถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน ‘อิงอู๋เซี่ยหลอกข้างั้นหรือ?’


ฟางหยวนคิดถึงเรื่องนี้ขณะที่สภาพแวดล้อมของเขาเปลี่ยนแปลงไป


ภาคใต้ ในชีวิตแรกของฟางหยวน


ภูเขาชิงเหมาถูกทำลายจากการระเบิดตัวเองของไป่หนิงปิง ฟางหยวนเข้าไปอยู่ในขบวนสินค้าเพื่อฝึกฝนและหารายได้


ขบวนสินค้ามาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง กองโจรสองกลุ่มพุ่งเข้ามาจากด้านหน้าและด้านหลัง


“ฆ่า!”


“ปกป้องสินค้า!”


ขบวนสินค้าเกิดความโกลาหลขึ้นทันที เสียงโห่ร้องดังไปทั่วหุบเขา ฝ่ายหนึ่งเป็นกองโจร อีกฝ่ายเป็นขบวนสินคา


เด็กหนุ่มฟางหยวนผสานตัวอยู่ในขบวนสินค้าและกัดฟันแน่น เขากำลังตื่นตระหนกกับการซุ่มโจมตีอย่างกะทันหันของกองโจรกลุ่มนี้


“นี่คืออาณาจักรแห่งความฝัน ข้าถูกนำเข้ามาในอาณาจักรแห่งความฝันจริงๆ!”


แต่ความสับสนก็หายไปอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนเร่งใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน


อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้เขาพบว่าตนเองออกจากอาณาจักรแห่งความฝันและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยตัวมันเองโดยไม่คาดคิด


“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนพึ่งตั้งคำถามเมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปอีกหน


เขากลับเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง


มันเป็นความฝันที่ต่อเนื่องจากครั้งก่อน


ในหุบเขา กองโจรกับขบวนสินค้ากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด


“แปลก ที่นี่ไม่ควรมีกองโจรซ่อนตัวอยู่” นายน้อยของขบวนสินค้าลงจากรถม้าและมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความงุนงง


ผู้นำขบวนสินค้าป้องกันตัวพร้อมกับตอบคำถามนายน้อยผู้นี้ “ถูกต้อง เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางเก่า ผู้ใดจะคิดว่าโจรภูเขาเหล่านี้จะซ่อนตัวอยู่ที่นี่”


นายน้อยกวักมือเรียก “ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสอง แต่การป้องกันของเราแข็งแกร่งมาก ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา”


“นายน้อยกล่าวถูกต้องแล้ว เราจะทำให้แน่ใจว่าโจรชั่วเหล่านี้จะอยู่ที่นี่ตลอดไป!” ผู้นำขบวนสินค้าเผยรอยยิ้มชั่วร้าย


แต่ในจังหวะนี้กลับมีเสียงดังมาจากด้านบน


ทุกคนมองขึ้นไป


ภาพที่เห็นทำให้พวกเขาตื่นตระหนก


หินก้อนใหญ่จำนวนมากกลิ้งลงมาจากหุบเขาด้านบน หินเหล่านี้พุ่งมาทางพวกเขา พลังของพวกมันไม่ด้อยกว่าการโจมตีของผู้ใช้วิญญาณระดับสอง


พวกเขายังมองเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่บนหน้าผา นี่เป็นแผนการที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า!


“ถอย!” ใบหน้าของนายน้อยกลายเป็นซีดเผือด


“มันสายเกินไปแล้ว…” ผู้นำขบวนสินค้ารู้สึกลำบากใจ


กองหินพุ่งชนผู้ใช้วิญญาณของขบวนสินค้าและทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บทันที ขวัญกำลังใจของกองโจรพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก


“บัดซบ!” ฟางหยวนส่ายศีรษะ


“นี่คือท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันที่แท้จริง แต่มันยังไม่สมบูรณ์ มันสามารถส่งข้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน แต่มันไม่สามารถขังข้าไว้ที่นี่ตลอดไป อย่างไรก็ตามนี่เพียงพอแล้วที่จะเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ของข้า!” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง


อิงอู๋เซี่ยเฝ้ามองสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากชั่วครู่พวกเขาก็ยังไม่เห็นฟางหยวนปรากฏตัวขึ้น


“เขาล่าถอยไปแล้วงั้นหรือ?” ไห่ลั่วหลันรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ


ไป่หนิงปิงมองอิงอู๋เซี่ย


อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจยาว “เห้อ…น่าเสียดาย”


หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน อิงอู๋เซี่ยลอบหลอมรวมวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันขึ้นมาอีกครั้งอย่างลับๆ


อิงอู๋เซี่ยตั้งใจใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเมื่อฟางหยวนใช้ไพ่ตายของเขา


อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้ใช้ไพ่ตายใบนั้น


การกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลัง ฟางหยวนต้องใช้เวลาชั่วครู่ เมื่อเวลานั้นมาถึงอิงอู๋เซี่ยจะฉวยโอกาสใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเพื่อทำให้ฟางหยวนล้มเหลวในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา


ยิ่งท่าไม้ตายทรงพลังมากเท่าใด ผลกระทบย้อนกลับของมันก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น


ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากฟางหยวนติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันขณะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลัง เขาจะล้มเหลวและได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง


อิงอู๋เซี่ยอธิบายเรื่องนี้กับพันธมิตรของเขาอย่างละเอียด


อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ก่อนหน้า อิงอู๋เซี่ยไม่มีทางเลือกและต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันก่อนเวลาอันควรเท่านั้น


หากเขาไม่ใช้มัน การโจมตีของฟางหยวนอาจประสบความสำเร็จและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก สุดท้ายพวกเขาจะเสียชีวิตในที่สุด


อิงอู๋เซี่ยสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบแหลมและแม่นยำในสถานการณ์นี้


“ดูเหมือนฟางหยวนจะไม่สามารถโจมตีได้ในเวลานี้ เราควรรีบไป ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันยังไม่สมบูรณ์ ประสิทธิภาพของมันจะลดลงตามเวลาที่ผ่านไป”


อิงอู๋เซี่ยออกคำสั่ง ผู้อมตะทั้งห้าออกเดินทางทันที


อย่างไรก็ตามพวกเขายังไปได้ไม่ไกลเมื่อฟางหยวนกลับมาอีกครั้ง


ฟางหยวนไม่ยอมให้กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยหลุดรอดไปจากใต้จมูกของเขา ดังนั้นเขาจึงออกไล่ล่าทันที


ไท่เป่ยหยุนเฉิงยังหมดสติ ผู้อมตะทั้งสี่ถูกฟางหยวนพัวพัน เดิมทีมันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาคอยู่แล้ว แต่ด้วยการแทรกแซงของฟางหยวน มันยิ่งยากลำบากมากขึ้นสำหรับพวกเขา


…..


“ระวัง!” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลังฟางหยวน


ฟางหยวนไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาเมื่อเศษหินปะทะศีรษะของเขา


“ลุงหนวด ท่านช่วยข้าไว้ ขอบคุณมาก!” ฟางหยวนเห็นชายเคราหนาเดินเข้ามาหลังจากทำลายก้อนหินขนาดใหญ่ที่ร่วงหล่นลงมา


“เจ้าหนู ดูแลตัวเองให้ดี!” ลุงเคราหนากล่าวด้วยความกังวล


เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงกรีดร้องแหลมสูงของผู้นำขบวนสินค้าดังขึ้น “นายน้อย มาเร็ว ปกป้องนายน้อย!”


สองผู้ใช้วิญญาณปีศาจระดับสามพุ่งเข้าปิดล้อมนายน้อยของขบวนสินค้าที่เคยทำให้ฟางหยวนอับอาย


นายน้อยผู้นี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย กระทั่งผู้ใช้วิญญาณที่ปกป้องขบวนสินค้ายังรู้สึกหวาดกลัว


“รออยู่ที่นี่ ข้าจะไปช่วยนายน้อย!” ลุงเคราหนากล่าวก่อนจะวิ่งออกไป


…..


อาณาจักรแห่งความฝันปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ฟางหยวนกำลังพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก


กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยตระหนักได้ว่าอาณาจักรแห่งความฝันส่งอิทธิพลต่อฟางหยวน


อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่สามารถเดินทางออกจากกำแพงภูมิภาค


“พวกเจ้าออกไปซะ ข้าจะถ่วงเวลาอยู่ที่นี่!” ในช่วงเวลาสำคัญซื่อหนิวก้าวออกมา


ท่าไม้ตายอมตะคลื่นดิน!


พื้นดินรอบตัวซื่อหนิวระเบิดขึ้นสู่อากาศและขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว


ฟางหยวนเร่งล่าถอย แต่ในช่วงเวลาวิกฤต อาณาจักรแห่งความฝันก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เขาพลาดโอกาสที่จะหลบหนีจากระยะการโจมตีของศัตรู


ฟางหยวนส่งลมหายใจมังกรออกไป แต่ลมหายใจมังกรกลับสลายไปหลังจากเคลื่อนที่ไปได้เพียงห้าถึงหกก้าว


ฟางหยวนพยายามใช้ร่างมังกรดาบบรรพกาลพุ่งออกไปแต่ยังไม่สามารถหลบหนี


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1261 ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด


แปลโดย iPAT 


“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” ดวงตามังกรมองไปที่ซื่อหนิว


ซื่อหนิวเงยหน้าขึ้นและตะโกน “นายท่าน ไปเร็ว!”


“ซื่อหนิว ข้าจะจดจำความภักดีของเจ้าเอาไว้!” อิงอู๋เซี่ยชำเลืองมองซื่อหนิวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบจากไป


เมื่อซื่อหนิวตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเพื่อถ่วงเวลาฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆจึงสามารถออกจากกำแพงภูมิภาคและเข้าสู่ภาคเหนือได้ในที่สุด


ขณะที่เท้าของพวกเขาเหยียบลงบนพื้นหญ้า อิงอู๋เซี่ยก็ดึงไท่เป่ยหยุนเฉิงออกมาจากมิติช่องว่างของเขา


ชายชราตื่นขึ้นแล้วแต่อาการบาดเจ็บของเขายังรุนแรงมาก ชีวิตของเขายังอยู่ในอันตราย


เมื่อผู้อมตะทั้งสี่อยู่พร้อมหน้า พวกเขาก็กระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศและหายตัวไปจากจุดนั้นทันที


…..


ภายในอาณาจักรแห่งความฝัน


การต่อสู้จบลงแล้ว


กลุ่มโจรเสียชีวิตทั้งหมด


แต่ฝ่ายขบวนสินค้าก็อยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก


ศพถูกทิ้งไว้ทุกหนทุกแห่งพร้อมกับบ่อเลือด


“ลุกหนวด กลับมา ตื่นได้แล้ว!” ฟางหยวนมองลุงเคราหนาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและรู้สึกตื่นตระหนก


“ช่วยด้วย ช่วยเขาที!” ฟางหยวนตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งแต่ไม่มีผู้ใดเข้ามา


ฟางหยวนรีบวิ่งไปหานายน้อย “ลุงหนวดได้รับบาดเจ็บขณะช่วยชีวิตท่าน เขากำลังจะตาย โปรดช่วยเขาด้วย!”


“เขาไม่สามารถช่วยได้แล้ว อาการบาดเจ็บของเขาร้ายแรงมาก สิ่งสำคัญคือเขาถูกโจมตีโดยวิญญาณพิษ เราไม่สามารถรักษาเขา” นายน้อยส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย


“ไม่ ท่านมีวิธี ท่านสามารถรักษาพิษ ท่านถูกโจมตีโดยวิญญาณพิษเช่นกัน!” ฟางหยวนไม่ยอมแพ้


การแสดงออกของนายน้อยกลายเป็นมืดครึ้ม “เจ้าต้องการให้ข้าใช้วิญญาณอันล้ำค่าเพื่อคนนอกงั้นหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าวิญญาณสายรักษามีขีดจำกัดในการใช้งาน”


“แต่ลุงหนวดได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน!” ฟางหยวนโต้แย้ง


“แม้เขาจะไม่ช่วยข้า ข้าก็ยังมีผู้พิทักษ์ที่คอยดูแลความปลอดภัยของข้าตลอดเวลา” นายน้อยเย้ยหยันและโบกมือไล่ฟางหยวน “ไปซะ วิญญาณสายรักษาของข้าจะนำไปใช้กับมดปลวกเช่นพวกเจ้าได้อย่างไร?”


ฟางหยวนกัดฟันและกำหมัดแน่นโดยไม่ขยับจากจุดเดิม


“เจ้ากำลังรนหาที่ตายงั้นหรือ?” นายน้อยเริ่มโกรธ


“ฟางหยวน…” เป็นเพียงเวลานี้ที่ลุงเคราหนาตื่นขึ้นและเรียกชื่อฟางหยวนเบาๆ


ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น เขาหันหลังและวิ่งกลับไปหาลุงเคราหนา “ลุงหนวด ท่านฟื้นแล้ว!”


ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจและมีความสุข


“อย่าต่อต้านนายน้อย เจ้าจะเป็นฝ่ายทุกข์ทรมาน หยุดอ้อนวอน วิญญาณสายรักษจะใช้กับคนเช่นพวกเราได้อย่างไร?” ลุงเคราหนายิ้ม


“แต่ท่านลุง อาการบาดเจ็บของท่าน…” ฟางหยวนสะอื้น


…..


“บึม!”


ซื่อหนิวล้มลงบนพื้นอย่างสูญสิ้นเรี่ยวแรง


“ฮ่าฮ่าฮ่า” เขามองมังกรดาบบรรพกาลที่บินอยู่ด้านหน้าและหัวเราะ “ข้าทำสำเร็จ! นายท่านสามารถหลบหนี ฮ่าฮ่าฮ่า นิกายเงาจะไม่มีวันแพ้! เทพปีศาจจิตวิญญาณจงเจริญ!”


ฟางหยวนใช้กรงเล็บทุบทำลายร่างหินของซื่อหนิวจ


ร่างหินของซื่อหนิวระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจายไปทั่ว


“คนกำลังจะตายจะตะโกนเพื่อสิ่งใด?” ฟางหยวนเย้ยหยันและหยิบชิ้นส่วนสำคัญที่สุดออกมาจากกองหิน


จากนั้นเขาก็บินออกจากกำแพงภูมิภาคและไปยังภาคเหนือ


เขาโยนชิ้นส่วนหินลงบนพื้นก่อนที่มันจะดูดซับปราณสวรรค์พิภพและควบรวมเป็นแดนศักดิ์สิทธ์


ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคตรวจสอบตำแหน่งของอิงอู๋เซี่ยและพบว่าพวกเขาอยู่ไกลมาก


“ฮืม! พวกเขาใช้ค่ายกลวิญญาณนั่น! แต่แล้วอย่างไร? พวกเจ้าทั้งหมดต้องตายด้วยน้ำมือของข้าไม่ช้าก็เร็ว!”


“แต่ที่นั่นดูเหมือนจะเป็นโลกใต้บาดาลของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ”


ฟางหยวนกลับสู่ร่างมนุษย์และขมวดคิ้วเล็กน้อย


เขาคุ้นเคยกับโลกใต้บาดานของภาคเหนือ เมืองคลื่นทมิฬยังซ่อนอยู่ที่นั่น น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดพบมัน ไม่ใช่เรื่องแปลกหากอิงอู๋เซี่ยจะไปที่นั่น


“กองกำลังพันธมิตรผีดิบอของภาคเหนือถูกทำลายไปแล้ว แต่ดูเหมือนที่นั่นจะมีทรัพยากรถูกทิ้งเอาไว้”


นี่เป็นสิ่งที่สามารถคาดเดา


ทรัพยการของเมืองคลื่นทมิฬยังถูกซ่อนไว้ที่นั่น


อย่างไรก็ตามซื่อหนิวตายไปแล้วขณะที่กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยได้รับบาดเจ็บ หากพวกเขาต่อสู้อีกครั้ง แม้ที่นี่จะไม่ได้อยู่ในกำแพงภูมิภาค แต่ฟางหยวนยังมีความได้เปรียบ


แดนศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหนิวก่อตัวขึ้นแล้ว ฟางหยวนเข้าไปแต่ไม่สามารถกำหราบจิตวิญญาณแผ่นดิน ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปฐพีของเขาอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่ปรมาจารย์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งปฐพีและต้องปล่อยมันไว้ชั่วคราว


ในอาณาจักรแห่งความฝัน


มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่กล่าวกันว่าสามารถบรรเทาพิษ เด็กหนุ่มฟางหยวนลอบออกจากขบวนสินค้าและปีนขึ้นไปบนหน้าผาเพื่อหาสมุนไพรดังกล่าว


ลมภูเขาอันหนาวเหน็บพัดมาทำให้ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้าน


หน้าผาสูงชันอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้อย่างง่ายดายหากประมาทเพียงเล็กน้อย


‘ข้าต้องหาสมุนไพรเพื่อรักษาลุงหนวด!’


‘เขาช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าจะไม่ชดใช้หนี้บุญคุณนี้ได้อย่างไร?’


‘อดทนไว้ ฟาง…หยวน…อย่ากลัว…’


ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะยื่นมือออกไป หลังจากพยายามหลายครั้งในที่สุดเขาก็สามารถคว้าสมุนไพรมาได้


ในยามรุ่งสางด้วยตะกร้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรและเสื้อผ้าที่ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขากลับไปยังค่ายพักแรม


…..


“เอาล่ะ อาณาจักรแห่งความฝันจบลงแล้ว” ฟางหยวนตื่นจากอาณาจักรแห่งความฝัน


ในที่สุดเขาก็กำจัดการแทรกแซงของอาณาจักรแห่งความฝันได้สำเร็จ


ในฉากสุดท้ายฟางหยวนยังได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนมาก ถูกต้อง มันคือสมุนไพรในตะกร้า


‘หากข้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันด้วยตนเอง ไม่มีทางที่ข้าจะสามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรได้มากถึงเพียงนี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันของอิงอู๋เซี่ยนอกจากจะสามารถใช้โจมตีศัตรู มันยังช่วยให้ผู้สำรวจได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝัน?’


ฟางหยวนคิดขณะไล่ล่ากลุ่มของอิงอู๋เซี่ยอีกครั้ง


โดยปราศจากการแทรกแซงจากอาณาจักรแห่งความฝัน แม้อิงอู๋เซี่ยจะหนีไปจนสุดขอบโลก ฟางหยวนก็สามารถไล่ล่า


…..


แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ


“เทพธิดาจ้าว อย่าใช้วิญญาณแห่งความรักอีกเลย ตอนนี้เจ้าไม่สามารถพูดได้แล้ว หากใช้ซ้ำๆ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องจ่ายด้วยสิ่งใดอีก!” ซือเจิ้งอี้เกลี้ยกล่อม


แต่จ้าวเหลียนหยุนส่ายศีรษะ


ในการต่อสู้กับจ้าวต้าหนิว วิญญาณแห่งความรักได้แสดงพลังอำนาจของมันออกมา แต่ครั้งนั้นวิญญาณแห่งความรักไม่ได้ใช้พลังงานอมตะแต่มันกลับพรากบางสิ่งไปจากจ้าวเหลียนหยุน


สิ่งนั้นคือเสียงของนาง


หลังการต่อสู้จบลง จ้าวเหลียนหยุนไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีก นางไม่สามารถแม้แต่ก่นเสียงในลำคอ


“หงหยุนยังรอข้าอยู่! ข้าไม่สามารถรออยู่ที่นี่และเฝ้ามองจากด้านข้าง แม้ข้าจะพูดไม่ได้ แล้วอย่างไร? ข้ายังสามารถสื่อสารกับทุกคนผ่านวิญญาณ! มันไม่ใช่ปัญหา!” จ้าวเหลียนหยุนส่งข้อความเสียงไปยังซือเจิ้งอี้


ซือเจิ้งอี้ถอนหายใจ เขาไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาอีกและทำได้เพียงปล่อยให้จ้าวเหลียนหยุนทำตามความปรารถนาของนางเท่านั้น


อย่างไรก็ตามไม่ว่าจ้าวเหลียนหยุนจะกรีดร้องอย่างไร วิญญาณแห่งความรักก็ยังไม่ขยับเขยื้อน


จ้าวเหลียนหยุนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปและสามารถเพียงเดินออกไปจากยอดเขาที่สิบสองพร้อมกับซือเจิ้งอี้เท่านั้น


เมื่อพวกเขาเดินออกจากยอดเขา จ้าวเหลียนหยุนถูกส่งไปยังยอดเขาอีกแห่งและถูกแยกจากซือเจิ้งอี้


ต่างจากครั้งก่อนหน้า มีเสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังขึ้นที่นี่


‘ผู้ใดกำลังต่อสู้กัน อวี๋อี้เย่ซือ ปู้เจิ้งซือ หรือมู่หลิงหลาน?’ จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกประหลาดใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน นางรีบขึ้นไปบนยอดเขา


ในไม่ช้านางก็เข้าไปห้องโถงบนยอดเขา


กลิ่นคาวเลือดพุ่งเข้าโจมตีจมูกของนางทันที


ฉากต่อมานางเห็นผู้อมตะหนุ่มที่งดงามราวกับผู้หญิงกำลังต่อสู้อย่างยากลำบากอยู่กับปีศาจอมตะผู้หนึ่ง


แน่นอนว่าเขาก็คืออวี๋อี้เย่ซือ


“อวี๋อี้เย่ซืออดทนไว้ ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว!” จ้าวเหลียนหยุนใช้วิญญาณส่งเสียง


อวี๋อี้เย่ซือทั้งประหลาดใจและมีความสุข เขาเร่งตอบ “ระวัง! ศัตรูเป็นปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด!”


“กระไรนะ!? เส้นทางแห่งเลือด!?” จ้าวเหลียนหยุนตกใจมาก นางมองศัตรูด้วยความหวาดกลัวและระแวดระวัง


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1262 หอกแสงตะวัน (อ่านฟรี)


แปลโดย iPAT 


ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด!


ตั้งแต่บรรพชนบ่อเลือดถือกำเนิดขึ้น บุคคลใดก็ตามที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดจะถูกตัดสินว่าเป็นสมาชิกบนเส้นทางสายปีศาจ


ในงานประลองทุ่งโลหิต ชูตู๋ยังต้องปฏิเสธกำลังเสริมที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดโดยปราศจากความลังเล


นั่นเป็นเพราะชูตู๋ต้องการสร้างกองกำลังฝ่ายธรรมะ หากเขาร่วมมือกับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือด ฝ่ายของเขาจะถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายปีศาจและความพยายามทั้งหมดของเขาจะกลายเป็นสูญเปล่า


อย่างไรก็ตามแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใด


เนื่องจากแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะเป็นกองกำลังฝ่ายปีศาจของภาคเหนือ มันไม่ใช่เผ่าหรือนิกายของฝ่ายธรรมะ


จ้าวเหลียนหยุนมาถึงยอดเขาที่สิบหลังออจากยอดเขาที่สิบสอง


ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่ปกป้องยอดเขานี้คือจ้าวผู เขาสวมชุดผ้าป่านและรองเท้าผ้า เขามีศีรษะล้านและมีรูปร่างหน้าตาธรรมดา


เขายืนอยู่กลางห้องโถงขณะที่อวี๋อี้เย่ซือล่าถอยออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีกกระทั่งไปถึงขอบห้องโถง


ร่างกายของเขาอาบย้อมไปด้วยเลือด อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก


เมื่อจ้าวเหลียนหยุนเห็นสหายผู้นี้ นางแทบไม่สามารถจดจำเขา อวี๋อี้เย่ซือเคยเป็นหนุ่มรูปงามที่ดูละเอียดอ่อน แต่ตอนนี้มันเหมือนกับเขาตกลงไปในบ่อเลือดและถูกบางคนดึงขึ้นมา


“ความสามารถอื่นๆของเขาธรรมดา แต่เขามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่ทรงพลัง! เมื่อเขากระตุ้นใช้งานมัน เลือดจะพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา หากเลือดของเขาสัมผัสผิวหนังของเจ้า เจ้าจะเริ่มมีเลือดออกและเมื่อเวลาผ่านไป เลือดจะไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ระวังตัวด้วย!” อวี๋อี้เย่ซือเร่งเตือนจ้าวเหลียนหยุน


“เข้าใจแล้ว พักก่อน ข้าจะสู้กับเขา” จ้าวเหลียนหยุนก้าวไปข้างหน้า


“รนหาที่ตายอีกคน” จ้าวผูยืนอยู่ที่จุดเดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน เขาแสยะยิ้มและเผยให้เห็นฟันที่แหลมคม


ท่าไม้ตายอมตะโซ่เงินสังหาร!


จ้าวเหลียนหยุนเตรียมท่าไม้ตายของนางเอาไว้แล้ว ดังนั้นโซ่สีเงินจึงพุ่งออกมาทันที


โซ่เงินหกสายเคลื่อนที่ไปรอบๆจ้าวเหลียนหยุนและปกป้องนางเอาไว้ หลังจากผ่านการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายกับจ้าวต้าหนิว ตอนนี้นางกลายเป็นคนใหม่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความเด็ดเดี่ยว


ผู้นำยอดเขาที่สิบจ้าวผูเห็นจ้าวเหลียนหยุนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของนางแต่เขากลับไม่พยายามหยุดนางและเฝ้าสังเกตเท่านั้น


จ้าวเหลียนหยุนตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่สอง


ฝนดาวตก!


พลังงานอมตะถูกใช้อีกครั้ง แสงสีน้ำเงินระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเหลียนหยุน


“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…”


ฝนดาวตกร่วงหล่นลงมา


อุกกาบาตเหล่านี้มีขนาดเล็กและบางราวกับอาวุธลับแต่กลิ่นอายของพวกมันกลับทรงพลังเหมือนพายุใหญ่


หากจ้าวผูยังนิ่งเฉย เขาอาจกลายเป็นเศษเนื้อในไม่ช้า


ภายใต้สถานการณ์นี้เขาไม่กล้ายโสอีกต่อไป เขาส่งหมอกโลหิตลอยขึ้นเหนือศีรษะและกลายเป็นร่มขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นฝนดาวตกของจ้าวเหลียนหยุน แต่ปริมาณของหมอกโลหิตยังลดลงอย่างรวดเร็ว


จ้าวผูกัดฟันก่อนจะกระทืบเท้าพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเหลียนหยุนราวกับแสงสีแดง


จิตใจของจ้าวเหลียนหยุนสั่นสะท้านขึ้น นางก้าวถอยหลังกลับโดยไม่รู้ตัว


โซ่เงินที่เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวนางตอบสนองทันที โซ่เส้นหนึ่งพุ่งเข้าปะทะจ้าวผู แต่ฝ่ายหลงยังสามารถหลบและเปลี่ยนทิศทางการโจมตี


แต่ในเวลาเดียวกันโซ่เงินอีกเส้นก็พุ่งเข้าไปหาเขา


จ้าวผูไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยและเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง


สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ จ้าวผูตระหนักว่าโซ่เงินสามารถโจมตีได้ด้วยตัวของพวกมันเอง โซ่เงินสามารถโจมตีและป้องกัน นอกจากนั้นพวกมันยังรวดเร็วและสามารถทำงานร่วมกัน


“สาวน้อย ท่าไม้ตายของเจ้ายอดเยี่ยมมาก!” จ้าวผูล่าถอยกลับไปและไม่พยายามโจมตีต่อ


นี่เป็นเรื่องปกติ


ท่าไม้ตายของจ้าวเหลียนหยุนได้รับการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันโดยนิกายคฤหาสน์วิญญาณและวังสวรรค์


พวกมันเหมาะสมกับผู้เริ่มต้นเช่นจ้าวเหลียนหยุน พวกมันไม่เพียงใช้งานได้ง่าย แต่พวกมันยังส่งผลกระทบย้อนกลับที่ไม่รุนแรงหากล้มเหลว สิ่งสำคัญที่สุดพวกมันเป็นท่าไม้ตายที่มีประสิทธิภาพสูงมาก


ฝนดาวตกยังร่วงหล่นลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง


จ้าวผูต้องเติมหมอกโลหิตอย่างต่อเนื่อง


อวี๋อี้เยซือรักษาตัวเองอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องโถง


จ้าวเหลียนหยุนนิ่งเงียบและพยายามเตรียมท่าไม้ตายอมตะท่าที่สาม


ท่าไม้ตายอมตะฝนดาวตกและโซ่เงินสังหารเป็นท่าไม้ตายที่ยากที่สุดของนาง สำหรับท่าไม้ตายอมตะท่าที่สาม มันมีความซับซ้อนน้อยกว่าสองท่าแรก


ระหว่างการฝึกซ้อมจ้าวเหลียนหยุนใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้


แต่ในการต่อสู้จริง นางพบว่านางต้องพยายามมากขึ้น


แม้ตอนนี้นางจะได้รับการปกป้องจากโซ่เงินสังหาร แต่สภาพจิตใจของนางไม่ปกติ นั่นทำให้ความพยายามหลายครั้งของนางจบลงด้วยความล้มเหลว


‘ท่าไม้ตายอมตะอีกท่างั้นหรือ? นางไม่รู้ว่าท่าไม้ตายอมตะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้งาน ยิ่งนางใช้พวกมันมากเท่าใด โอกาสที่นางจะเผยจุดอ่อนออกมาก็ยิ่งมากเท่านั้น ข้าจะสอนวิธีการต่อสู้ให้เจ้า!’ จ้าวผูเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและกระโจนไปข้างหน้า


แต่ครั้งนี้เมื่อเขามาได้ครึ่งทาง เขากลับอ้าปากกว้าง


“บึม!”


การระเบิดครั้งใหญ่ปะทุขึ้น จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกว่าเลือดทั่วร่างของนางเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง วิญญาณมากกว่าครึ่งในมิติช่องว่างเทียมของนางพุ่งขึ้นก่อนจะร่วงหล่นลงมาด้วยอิทธิพลของพลังงานลึกลับ


ท่ามกลางพวกมัน วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกทำลายในกระบวนการนี้


จ้าวผูเป็นปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด แต่เขาก็มีวิธีบนเส้นทางแห่งเสียงที่ทำให้จ้าวเหลียนหยุนหรือกระทั่งอวี๋อี้เย่ซือไม่คาดคิดและได้รับผลกระทบจากมัน


โซ่เงินสังหารยังปกป้องจ้าวเหลียนหยุนแต่นางไม่ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่สามเพราะการแทรกแซงจากจ้าวผู


นางเริ่มรู้สึกถึงความไร้พลังอำนาจ ‘ชายผู้นี้เหมือนที่อวี๋อี้เย่ซือกล่าว เขามีวิธีการมากมาย แม้เขาจะไม่สามารถทำลายโซ่เงินสังหารของข้า แต่เขาก็สร้างความยากลำบากและทำให้ข้าล้มเหลวในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะอย่างต่อเนื่อง ไม่ ข้าต้องอดทนต่อไป!’


จ้าวเหลียนหยุนยังพยายามกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของนางต่อไป


อาจเป็นเพราะนางล้มเหลวหลายครั้งเกินไป สุดท้ายจิตใจของนางจึงเริ่มสงบลง


ในที่สุดดวงตาของนางก็ส่องประกายขึ้นพร้อมกับบอลเพลิงที่ลอยขึ้นจากฝ่ามือของนาง


จากนั้นมันก็ควบรวมเป็นไม้เท้าเพลิง


หลายลมหายใจต่อมา เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำก็จางหายไปและทิ้งหอกสีทองแดงเอาไว้


จ้าวเหลียนกรีดร้อง “หอกแสงตะวัน โจมตี!”


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1263 เลือดไหลนอง


แปลโดย iPAT 


ท่าไม้ตายอมตะหอกแสงตะวันประสบความสำเร็จ!


“ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” จ้าวเหลียนหยุนเต็มไปด้วยความมั่นใจ นางค่อยๆยกหอกแสงตะวันขึ้นและชี้ไปที่จ้าวผูด้วยเจตนาสังหาร


จ้าวผูมองหอกแสงตะวันในมือของจ้าวเหลียนหยุนและยกย่อง “เป็นหอกที่น่าประทับใจ ทั้งอุณหภูมิและความเปล่งประกาย เมื่อมันระเบิด มันจะมีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว แต่…”


ทันใดนั้นเขากลับเผยรอยยิ้มราวกับแผนการของเขาประสบความสำเร็จแล้ว


เขากล่าว “ตอนนี้เจ้าไม่รู้สึกแปลกๆบ้างงั้นหรือ?”


“อันใด?” เป็นเพียงเวลานี้ที่จ้าวเหลียนหยุนสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไหลลงมาจากริมฝีปากของนาง


นางใช้มือซ้ายเช็ดเบาๆและพบว่ามันคือเลือด!


นางเริ่มมีเลือดออกตั้งแต่เมื่อใด?


“นี่คือ!?” รูม่านตาของจ้าวเหลียนหยุนหดเล็กลงพร้อมกับร่างกายของนางที่เริ่มสั่นสะท้านขึ้น


“มันคือท่าไม้ตายของข้าโลหิตไหลนอง”


“เป็นไปไม่ได้! ชัดเจนว่าเจ้า…” จ้าวเหลียนหยุนพยายามกล่าวแต่เลือดยิ่งไหลออกมาจากปากของนางมากขึ้น


“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าต้องการกล่าวว่าข้าไม่ได้แสดงท่าทางว่ากำลังกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะงั้นหรือ? อันที่จริงข้ากระตุ้นใช้งานมันไปแล้ว เจ้าเพียงไม่รู้เท่านั้น” จ้าวผูหัวเราะ


“เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันคือทักษะแบ่งจิต!?” อวี๋อี้เย่ซือเบิกตากว้าง


จ้าวผูชำเลืองมองเด็กหนุ่ม “เจ้าหนู เจ้าค่อนข้างมีความรู้”


ในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะ มีวิธีการและทักษะมากมายตัวอย่างเช่นนางมารผลาญสวรรค์สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไฟสองท่าหรือมากกว่าพร้อมกันเพื่อสร้างผลกระทบที่รุนแรงขึ้น


อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนของฟางหยวน มันเป็นการผสานเส้นทางความแข็งแกร่งและทาสเข้าด้วยกันเพื่อสร้างกองทัพภูตมนุษย์จำนวนมาก นอกจากนั้นเขายังสามารถหลอมรวมพวกมันให้เป็นกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนเพื่อเพิ่มพลังโจมตี ท่าไม้ตายเหล่านี้ล้วนใช้ทักษะการแบ่งจิตเพื่อทำงานหลายอย่างพร้อมกันทั้งสิ้น


วิธีของจ้าวผูก็เช่นกัน หากเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะโลหิตไหลนองโดยตรง จ้าวเหลียนหยุนจะตระหนักถึงมันและระวังตัวมากขึ้น สุดท้ายนางอาจสามารถหลบเลี่ยง


อย่างไรก็ตามเมื่อจ้าวผูใช้ท่าไม้ตายหลายท่าพร้อมกัน จ้าวเหลียนหยุนจึงไม่พบสิ่งผิดปกติและถูกลอบโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะโหลิตไหลนองอย่างลับๆ


‘บัดซบ! เขาซ่อนมันไว้ เขาแสร้งโจมตีโซ่เงินสังหารของข้าแต่แอบซ่อนแผนการชั่วร้ายเอาไว้!’


ตอนนี้จ้าวเหลียนหยุนพบว่านอกจากปาก เลือดยังเริ่มไหลออกจากจมูก รูหู และดวงตาของนางเช่นกัน


จ้าวเหลียนหยุนนึกถึงช่วงเวลาที่นางเห็นอวี๋อี้เย่ซือครั้งแรก


‘ข้าถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนั่น!’


‘หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าจะจบลงในสภาพเดียวกับอวี๋อี้เย่ซือ?’


‘ช่างเจ้าเล่ห์นัก!’


ด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน จ้าวเหลียนหยุนส่งหอกแสงตะวันออกไป


แต่จ้าวผูเตรียมพร้อมไว้แล้ว เขาเห็นตั้งแต่จ้าวเหลียนหยุนเริ่มขยับไหล่


หอกแสงตะวันไม่สามารถติดตามเป้าหมายแต่มันเร็วมาก


มันเคลื่อนที่ผ่านจ้าวผูและทะลวงกำแพงห้องโถงออกไปด้านนอกก่อนจะเกิดการระเบิด


‘ทรงพลังนัก! หากข้าถูกโจมตีด้วยสิ่งนี้…’ ร่างกายของจ้าวผูเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ‘โชคดีที่พวกเขาถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายของข้าแล้ว’


“โอ้” อวี๋อี้เย่ซือถอนหายใจและเดินเข้าไปหาจ้าวเหลียนหยุนเพื่อต่อสู้เคียงข้างนาง


ขวัญกำลังใจของจ้าวเหลียนหยุนลดลงอย่างรวดเร็ว นางมีประสบการณ์การต่อสู้จริงน้อยมาก นี่ทำให้สภาพจิตใจของนางได้รับอิทธิพลอย่างง่ายดายหลังจากท่าไม้ตายอมตะหอกแสงตะวันกลายเป็นการสูญเสียที่ไร้ประโยชน์


“อาการบาดเจ็บของเจ้า…” จ้าวเหลียนหยุนมองอวี๋อี้เย่ซือด้วยความกังวล


อาการบาดเจ็บของอวี๋อี้เย่ซือยังไม่ดีขึ้น


จ้าวผูหัวเราะ “พวกเจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าได้พักผ่อนจริงๆงั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ตราบเท่าที่พวกเจ้าถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายของข้า พวกเจ้าก็ไม่สามารถทำสิ่งใด เว้นเพียงข้าจะยกเลิกมันด้วยตนเอง “


“แต่ข้าค่อนข้างใจดี ข้าจะอนุญาตให้พวกเจ้ายอมจำนน ตราบเท่าที่พวกเจ้าคุกเข่าร้องขอความเมตตาและมอบวิญญาณอมตะของพวกเจ้าให้ข้า ข้าจะรับพวกเจ้าเป็นทาสและไว้ชีวิตพวกเจ้า”


“ฝันไปเถอะ!” จ้าวเหลียนหยุนกัดฟันปฏิเสธ


จ้าวผูไม่สนใจทัศนคติของนางและหัวเราะ “การต่อสู้ถูกตัดสินแล้ว พวกเจ้ายังไม่รู้สถานการณ์ของตนเองอีกงั้นหรือ? คนฉลาดย่อมสามารถยอมแพ้ พวกเจ้ายังเด็ก หากตาย มันก็จบ แต่ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่ก็ยังมีความหวัง”


อวี๋อี้เย่ซือเย้ยหยัน “ข้าไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บและทำได้เพียงปล่อยให้เลือดไหลต่อไป แต่ข้าก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก ข้าอนุมานแล้วว่าตราบเท่าที่เราสามารถสังหารเจ้า อาการบาดเจ็บของเราจะฟื้นฟูขึ้นด้วยตัวมันเอง”


“โอ้?” การแสดงออกของจ้าวผูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาต้องประเมินอวี๋อี้เย่ซือสูงขึ้น “เด็กน้อย ข้าต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเจ้าอีกครั้ง”


อวี๋อี้เย่ซือเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม กระทั่งผู้อมตะระดับเจ็ดยังต้องขอคำแนะนำจากเขา


อวี๋อี้เย่ซือไม่เพียงเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมวิญญาณแต่เขายังมีทักษะในการพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวม


หลังจากทั้งหมดเส้นทางแห่งการหลอมรวมกับเส้นทางแห่งปัญญามีความใกล้ชิดและสามารถทำงานร่วมกัน


นี่เป็นสาเหตุที่อวี๋อี้เย่ซือสามารถอนุมานท่าไม้ตายของจ้าวผู


“เราต้องฆ่าเขา จากนั้นเลือดจะหยุดไหล หากเขาไม่ตาย พวกเราจะตาย!”


พวกเขาถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้แห่งชีวิตและความตายอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง


“ไป!” จ้าวเหลียนหยุนพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล


“เด็กดื้อ ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้า!” จ้าวผูหัวเราะเสียงดังและพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว


ทั้งสองฝ่ายไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้


โซ่เงินสังหารถูกส่งออกมาขณะที่จ้าวผูพ่นเลือดไปที่โซ่สามเส้น


โซ่เงินสลายกลายเป็นบ่อเลือดทันที


“แปดประตูหลอมรวม ประตูที่สาม ประตูมือ เปิด!” อวี๋อี้เย่ซือฉวยโอกาสส่งฝ่ามือพุ่งเข้าโจมตีจ้าวผูจากระยะไกล


เงาฝ่ามือปะทะแผ่นหลังของจ้าวผูด้วยความเร็วสูง


จ้าวผูกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เลือดที่กระเด็นออกมากลับช่วยปิดบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว


ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจ้าวผู เขาคิด ‘แปลก เหตุใดการโจมตีของเด็กผู้นี้ทรงพลังขึ้นเรื่อย!”


อวี๋อี้เย่ซืออาจเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมแต่พลังการต่อสู้ของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน


ตราบเท่าที่เขามีเวลาเพียงพอ เขาจะสามารถค้นหาจุดอ่อนของเป้าหมาย นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะแปดประตูหลอมรวมของเขายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์และปลดปล่อยคุณสมบัติบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อศัตรูผู้นั้นโดยเฉพาะ


อวี๋อี้เย่ซือและจ้าวเหลียนหยุนรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถหลบหนีและต้องระเบิดพลังการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ออกมาเท่านั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)