พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1251-1252

 บทที่ 1251 เปลี่ยนอันดับหนึ่ง

โดย

Ink Stone_Fantasy

 “แถลงแก้ข้อกล่าวหาตรงนั้นเหรอ? ช่างเป็นทูตขวาเกาที่ยุติธรรมจริงๆ!” เถิงเฟยได้ยินแล้วโมโหจนหัวเราะประชด เดิมทีไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้แล้ว แต่ก็ยังอดไม่ได้ เขาเชิดคางไปที่แอ่งกระทะด้านล่าง “เกาก้วน เจ้ากล้ารับประกันมั้ยว่าข้างล่างไม่มีใครโกงอีกแล้ว?”


ครั้งนี้เขาพลอยล่วงเกินคนอื่นไปด้วยไม่น้อยเลย ที่จริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่คนในโลกนี้จิตใจคับแคบเกินไป ต่อให้จะมีคนรู้ว่าเขาไม่สามารถควบคุมอะไรได้ แต่การที่เขานั่งรักษาการณ์ที่นี่ก็ถือว่ามีความผิดแล้ว จะมีคนโกรธแค้นเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะโทษเขาว่าทำไมไม่ห้าม ในมือเขากุมอำนาจทางทหารเอาไว้มากมาย สามารถหยุดยั้งหรือถ่วงเวลาเกาก้วนได้แน่นอน รอให้ควบคุมตัวกลับไปแล้วค่อยลงโทษ ให้โอกาสในการมีชีวิตรอดสักครั้ง!


เขาเองก็มีกำลังและความสามารถที่จะหยุดยั้งเกาก้วนจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยลองถามแล้ว แต่คำพูดบางคำไม่สามารถประกาศออกไปได้ ถึงแม้จะเดาออกแล้วว่าเกาก้วนกล้าทำแบบนี้เพราะได้รับคำชี้แนะมาจากราชันสวรรค์ แต่กลับไม่กล้าบ่นกับผู้เสียหายทุกคนว่านี่คือเจตนาของราชันสวรรค์ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปจริงๆ แล้วโดนคู่ต่อสู้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ ไฟโกรธของราชันสวรรค์ก็จะต้องมาลงที่ตัวเขาอย่างแน่นอน


มิหนำซ้ำเดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับราชันสวรรค์อยู่แล้ว เกาก้วนไม่ได้บอกว่าเป็นเจตนาของราชันสวรรค์ เกาก้วนให้ตัวเองเป็นแพะรับบาปแทน ช่วยแบกข้อหานี้แทนราชันสวรรค์ ราชันสวรรค์ยังคงเป็นผู้ที่มีเหตุผลที่สุด พระปรีชาสามารถของราชันสวรรค์เป็นสิ่งที่ห้ามเคลือบแคลงสงสัย ในตอนนี้ถ้าเขายังกล้าบอกว่าเป็นเจตนาของราชันสวรรค์ เจ้าหาหลักฐานมาไม่ได้ นั่นก็แปลว่าเจ้าใส่ร้ายป้ายสีแล้ว เขาแบกความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอก


ที่จริงการที่ก่อนหน้านี้เขาติดต่อราชันสวรรค์ไม่ได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เจตนาของราชันสวรรค์เป็นอย่างไร ก็แสดงท่าทีออกมาชัดเจนมากแล้ว ถ้าเจ้ากล้าแสดงออกว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับราชันสวรรค์ ไม่ผิดหรอก! ราชันสวรรค์ไม่สะดวกจะฆ่าขุนนางของตัวเองจนตายหมด แต่ถ้าฆ่าทิ้งหรือถอดขุนนางออกสักกำมือหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก มีหนทางที่จะถอดจอมพลอย่างเขาออกอยู่แล้ว มีคนมาเติมในตำแหน่งเขาแน่นอน


เพื่อที่จะแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพื่อที่จะแสดงว่าตัวเองไม่กล้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับราชันสวรรค์ ขนาดเกาก้วนฆ่าคนของเขา เขาก็ยังไม่กล้าห้ามเลย นเมื่อให้คำอธิบายกับราชันสวรรค์ได้แล้ว ก็ให้คำอธิบายกับครอบครัวผู้เสียหายได้เหมือนกัน ขนาดข้านั่งรักษาการณ์ที่นี่ ข้ายังปกป้องญาติตัวเองไม่ได้เลย!


เขาได้แต่มองดูญาติของตัวเองโดนประหาร ความรู้สึกในใจยากที่จะบรรยายออกมาได้ อยู่ใกล้กษัตริย์ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือ!


“รับประกันไม่ได้” เกาก้วนตอบเสียงเรียบ


เถิงเฟยแสยะยิ้ม ในที่สุดก็ได้โอกาสแล้ว “ในเมื่อรับประกันไม่ได้ เช่นนั้นการทดสบครั้งนี้จะยังมีความยุติธรรมอะไรอีก บรรดาคนที่โดนประหารไปไม่ถือว่าตายอย่างไร้ความยุติธรรมหรอกเหรอ!”


เกาก้วนหันขวับ “เกาคนนี้ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่จนใจที่ในมือไร้หลักฐาน หรือว่าจอมพลเถิงมีหลักฐานอะไรล่ะ? ขอเพียงจอมพลเถิงรายงานความผิด หาพยานหลักฐานมาได้ เกาก้วนก็จะตรวจสอบอย่างถึงที่สุดแน่นอน ไม่ละเลยคนผิดแน่!”


“…” เถิงเฟยพูดไม่ออก เขารู้อย่างชัดเจนมาก ว่าจะยังมีคนที่ทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยลูกหลานขุนนางกลุ่มนี้ทำคะแนนแน่นอน ก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำ แต่เขาพูดได้เหรอ?ถ้าเขาพูดออกมา นั่นก็เป็นการล่วงเกินคนอื่นแบบถึงตายแล้วจริงๆ ต่อให้เขาจะรู้แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ เรียกได้ว่าถูกอุดปากจนพูดไม่ออกในชั่วพริบตาเดียว


เมื่อเห็นเขาไม่พูดอะไรแล้ว เกาก้วนก็เปลี่ยนประเด็นสนทนา “เจ้าหน้าที่หน่วยตรวจการฝ่ายขวาโดนโจนกบฎฆ่าตายไปหลายสิบคนเพราะการผลอมแปลงผลงานพวกนี้ ทำให้กำลังพลของจอมพลเถิงตายไปด้วยอีกนับพัน ถ้ากลับไปรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทรู้ ฝ่าบาทจะต้องเดือดดาลมากแน่นอน คนที่เกี่ยวข้องจะโดนประหารอย่างเลี่ยงไม่ได้!”


เถิงเฟยหัวใจกระตุกวูบ ก่อนหน้านี้สืบมาตลอดว่าตระกูลไหนกันแน่ที่ทำเรื่องปลอมแปลงผลงานทดสอบ ทางหน่วยตรวจการฝ่ายขวาไม่ยอมปริปากบอกเลย ตอนนี้จู่ๆ ได้ยินเกาก้วนบอก ก็ทำให้เขาเริ่มเครียดนิดหน่อยแล้ว หรือว่าสองคนนั้นของตระกูลตนก็จะโดนประหารเหมือนกัน? ถ้าเป็นแบบนี้จริง เจ้านอกคอกสองคนนั้นก็ทำความผิดที่สมควรตายหมื่นครั้งแล้ว ถึงตายก็ไม่พอให้ชดใช้ความผิด!


เขารีบถาม “เป็นตระกูลไหนที่ทำแบบนี้”


เกาก้วนให้คำตอบที่ทำให้เขาหายกังวล “ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเจ้าหรอก! สร้างผลเสียต่อต่อกองทัพ เรื่องนี้จะต้องมีคนออกมารับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นจะอธิบายต่อระดับบนและระดับล่างไม่ได้ ถ้ามีคนรับผิดชอบเรื่องนี้ก็จะผ่านไป จอมพลเถิงไม่จำเป็นต้องคิดมาก!”


ไม่ใช่ตระกูลของตนก็ดีแล้ว! ในที่สุดเรื่องน่าตกใจเรื่องนี้ก็ดับไฟโกรธในใจของเถิงเฟยได้ เขายิ้มเจื่อนในใจ รู้ว่าคนที่โดนประหารล้วนตายเปล่า เกาก้วนได้บอกใบ้ไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่าตระกูลที่เกี่ยวข้องนั้นโชคร้าย ฝ่าบาทแค่ต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู! ไม่น่าเชื่อว่าจะประหารทั้งตระกูลเพียงเพราะเรื่องนี้ ภายใต้ความเดือดดาลของฝ่าบาทแบบนี้ ยังจะมีใครกล้าระบายความโกรธไม่รู้จักจบจักสิ้นอีกล่ะ? ในมือฝ่าบาทถือข้ออ้างที่สมเหตุสมผล ข้อหาสร้างผลเสียต่อต่อกองทัพ เหตุผลนี้ก็ทำให้ใครเถียงอะไรไม่ได้ทั้งนั้น จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก อยากจะกดดันให้ฝ่าบาททำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่เหรอ? ย่อมต้องอยากให้เรื่องนี้ผ่านไปอยู่แล้ว ฝนตกฟ้าผ่าล้วนเป็นความเมตตาจากสวรรค์!


เมื่อใจเย็นลงแล้ว ในใจเถิงเฟยก็รู้สึกปลงมาก ถึงแม้ลูกหลานผู้มีอำนาจพวกนี้จะรนหาที่ตายเอง แต่ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ในบ้านให้ท้ายส่งเสริม ก็เกรงว่าคงจะไม่เดินมาจนถึงจุดนี้ อยากจะช่วยสร้างอนาคตให้ลูกหลานอยู่เบื้องหลัง แต่กลับเป็นการส่งลูกหลานขึ้นไปบนลานประหารแทน


เถิงเฟยรู้อย่างแจ่มแจ้ง ว่าลูกหลานผู้มีอำนาจพวกนี้โดนกดดันจนไร้ทางเลือก ถึงได้มาที่แดนอเวจี ในตอนแรกทุกคนก็แค่อยากจะรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ ตราบใดที่รักษาชีวิตเอาไว้ได้ ก็ยังมีโอกาสอาศัยภูมิหลังของวงศ์ตระกูลอยู่ ไม่ได้มีความคิดอย่างอื่นเลย แต่หลังจากรักษาชีวิตไว้ได้แล้ว ก็พบว่านรกก็เหมือนจะเป็นแบบนี้นี่เอง แต่ละคนวางแผนเพื่อที่จะร่ำรวยอย่างไม่ยอมเหงา จึงเริ่มใช้วิธีการที่ไม่ซื่อสัตย์ แต่ใครจะคิดว่าเกาก้วนจะแทรกเข้ามาทำให้สถานการณ์วุ่นวาย!


แต่เถิงเฟยไม่มีทางตัดสินได้ว่าการเปลี่ยนแปลงวิธีการตรวจสอบอย่างกะทันหันนั้นเป็นความคิดของเกาก้วน หรือเป็นความคิดของราชันสวรรค์ แต่เรื่องพวกนี้ล้วนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือมองออกแล้วว่าราชันสวรรค์ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะปรับปรุงระบบขนาดไหน ถึงขั้นไม่เสียดายที่จะตั้งตนเป็นศัตรูกับขุนนางทั้งราชสำนัก…


ยังคงเป็นในศาลายาวที่สร้างขึ้นชั่วคราว เจ้าหน้าที่หน่วยตรวจการฝ่ายขวาที่จุยหย่วนจัดกลุ่มไว้กำลังตัดสินคะแนนของผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนอย่างเร่งด่วนและเป็นขั้นเป็นตอน


ในแอ่งกระทะ คนหลายแสนเงียบกริบไร้เสียง กำลังมองดูจุดประหารที่อยู่บนหน้าผา ใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์มองเลือดที่ยังหยดอยู่บนหน้าผา สีของเลือดย้อมจนแดงราวกับเป็นน้ำตก โดดเด่นสะดุดตามาก ส่วนตรงตีนเขาก็มีศีรษะและร่างทีไม่สมประกอบกองรวมกัน สร้างความสยองขวัญแก่ผู้ที่พบเห็น


ทำไมลูกหลานผู้มีอำนาจมากมายขนาดนี้จึงถูกประหารแล้วล่ะ กลายเป็นความลับที่เปิดเผยไม่ได้แล้ว


เสียงกลืนน้ำลาลของเซี่ยโห้วหลงเฉิงดังชัดเข้ามาในหู มีเพียงเขาที่รู้ดีว่าตัวเองเคยคิดจะปลอมแปลงผลงานหรือเปล่า ในใจรู้สึกโชคดีไม่หาย


มีลูกหลานผู้มีอำนาจจำนวนไม่น้อยที่อาศัยเส้นสายบีบบังคับและใช้ผลประโยชน์หลอกล่อเพื่อให้ได้คะแนนมา แต่ละคนกระวนกระวาย กังวลว่าเกาก้วนจะสืบสาวปัญหานี้ต่อไปหรือไม่ ขนาดจ้านหรูอี้ยังรู้สึกกินปูนร้อนท้อง ท่าทางสูงส่งโอหังไม่มีเห็นแล้ว ทำสีหน้าเป็นธรรมชาติไม่ไหว ในดวงตาฉายแววกังวล


ในตอนนี้ พอพวกเขาเห็นเกาก้วนที่สวมหมวกทรงสูงและผ้าคลุมสีดำบนบันไดหน้าตำหนัก ในใจก็รู้สึกหนาวนิดหน่อย ก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่เพียงเคยได้ยินฉายาว่าเขาเป็นผู้พิพากษาหน้านิ่ง วันนี้เรียกได้ว่าได้เห็นกับตาตัวเอง รู้สึกว่าน่ากลัวว่าราชันสวรรค์เสียอีก ในสายตาของทุกคน ราชันสวรรค์คือแสงอันรุ่งโรจน์ที่อยู่เบื้องบน เที่ยงตรงยุติธรรม ชื่อเสียงบารมีบารมีแผ่ไพศาล อย่างน้อยทุกคนก็คิดว่าราชันสวรรค์ยังเป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผล ไม่มีทางฆ่าคนตามอำเภอใจอย่างนี้!


เหมียวอี้จ้องมองเกาก้วนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าตำหนักบนยอดเขา เขายอมแพ้ทูตขวาหน้านิ่งท่านนั้นแล้วจริงๆ ถึงแม้ในปีนั้นเขาจะเคยสั่งตัดหัวคนไปหลายพันคน แต่นั่นก็เป็นหัวทาสรับใช้ของตระกูลผู้มีอำนาจ เทียบไม่ติดกับหัวของลูกหลานผู้มีอำนาจหนึ่งพันกว่า ที่โหดกว่านั้นก็คือ จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ประกาศข้อหาความผิดด้วยซ้ำ ยังไม่ทันว่าประกาศว่าทำผิดอะไรก็โดนตัดหัวไปแบบนี้แล้ว!


ดูจากท่าทีแล้ว เหมือนไม่ได้คิดจะประกาศว่าลูกหลานผู้มีอำนาจมากมายขนาดนี้ทำผิดข้อหาปลอมแปลงผลงาน!


ภายใต้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงแดดยามเย็น กลิ่นคาวเลือดโชยกระจายอยู่ในอากาศ กำลังเตือนสติทุกคน เงาร่างที่สวมชุดคลุมสีดำปลิวสะบัดตามแรงลมอยู่หน้าตำหนักใหญ่ยังคงทำให้คนตัวสั่นทั้งๆ ที่ไม่หนาว…


“จุยหย่วน เปลี่ยนอันดับคะแนนสักหน่อย เปลี่ยนอันดับหนึ่งให้เป็นอันดับสอง เปลี่ยนอันดับสองให้เป็นอันดับหนึ่ง ห้ามเปิดเผยเรื่องนี้ต่อภายนอกอย่างเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนประหาร!”


ในตำหนักใหญ่ จู่ๆ เกาก้วนที่นั่งอ่านรายชื่ออันดับคะแนนก็กล่าวสิ่งที่ทำให้คนตกใจ


จุยหย่วนเงยหน้าอย่างตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมนายท่านที่ยุติธรรมมาตลอดจึงทำแบบนี้ได้ จึงรีบโน้มน้าวว่า “นายท่าน ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด! อันดับหนึ่งจ้านหรูอี้คือหลานสาวของอ๋องสวรรค์อิ๋ง หวังติ้งเฉาที่เป็นอันดับสองไม่มีภูมิหลังใดๆ เป็นเพียงเทพแห่งภูผาที่มีวรยุทธ์บงกชทองขั้นแปด…แน่นอน ข้าน้อยไม่ได้ดูถูกพื้นเพของหวังติ้งเฉา แต่เป็นเพราะภูมิหลังของจ้านหรูอี้มิอาจะมองข้ามได้ ถ้านางไม่ได้อันดับหนึ่งก็ไม่เป็นไรหรอก แต่อิงจากคะแนนของนางนั้นอันดับหนึ่งจริงๆ แต่ท่านลดให้นางเป็นอันดับสอง บวกกับเมื่อครู่นายท่านเพิ่งสั่งตัดหัวลูกหลานผู้มีอำนาจไปมากมายขนาดนั้น เดี๋ยวกลับไปอ๋องสวรรค์อิ๋งจะต้องจองเวรไม่เลิกแน่ จะต้องมีคนมากมายนำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างยื่นมติไม่ไว้วางใจ นายท่านได้โปรดไตร่ตรองอีกครั้ง!”


หลายปีมานี้เขาล่วงเกินคนอื่นตามเกาก้วนมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่คน ผูกติดเงื่อนตายไว้กับตัวเกาก้วนตั้งนานแล้ว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเกาก้วน สุนัขรับใช้อย่างเขาก็อย่าได้คิดเลยว่าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อ จะไม่ตกใจได้อย่างไร!


เกาก้วนตอบเสียงเรียบว่า “คะแนนของจ้านหรูอี้ได้อันดับหนึ่งจริงเหรอ? เกรงว่าคงไม่แน่หรอกมั้ง? ถ้าให้คนตรวจสอบดูจริงๆ ข้าเกรงว่านางจะรักษาหัวไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ! จุยหย่วน เป็นเพราะหวังติ้งเฉาไม่มีใครหนุนหลัง ข้าถึงได้ให้เขาได้อันดับหนึ่งไง ถ้าไม่ปลุกเร้าให้กำลังใจ แล้วการทดสอบในนรกครั้งต่อๆ ไปยังจะมีใครกล้ามาอีก? เรื่องบางเรื่องต้องทำให้คนมองเห็นความหวัง ต้องทำให้คนมองเห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงโชคชะตา! เจ้าไม่ต้องกังวลทางฝั่งอ๋องสวรรค์อิ๋งหรอก ต่อให้เขาจะรู้ความจริงเบื้องลึก แต่ก็คงจะไม่พูดอะไร ในใจเขาเข้าใจดีกว่าพวกเราว่าอะไรเป็นอะไร เขาจะเงียบไว้ ไม่แสดงความเห็นแย้งอะไร”


จุยหย่วนเข้าใจกระจ่างในทันที เข้าใจแล้ว และหายกังวลแล้วเช่นกัน นี่ไม่ใช่ความคิดของเกาก้วน แต่เป็นความคิดของเบื้องบน เป็นผลลัพธ์ที่เบื้องบนต้องการ จะไม่เกิดปัญหาอะไรแน่…


เมื่อตรวจสอบซ้ำๆ จนแน่ใจ หลังจากนั้นครึ่งเดือน คะแนนของผู้เข้าร่วมทดสอบสองแสนกว่าคนก็ถูกประกาศออกมาแล้ว มีอีกแสนกว่าคนที่กลับมามือเปล่าเพราะรักษาชีวิต ไม่ติดอันดับ


ในบรรดาคนที่กลับมามือเปล่า ถ้าไม่ใช่พวกไร้อำนาจอิทธิพลที่รับรู้ถึงความน่ากลัวของนรกแล้วล่าถอยเพราะหวาดกลัว ก็เป็นพวกที่อำนาจอิทธิพลของวงศ์ตระกูลยังไม่สูงพอ ระมักระวังตัวไม่กล้าทำอะไรซี้ซั้ว หลังจากได้เห็นหัวมากมายหลุดลงพื้น ก็มีคนรู้สึกว่าตัวเองช่างฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ ทำแบบนี้ดีกว่ารักษาชีวิตไว้ไม่ได้


เช้าตรู่ที่แสงอาทิตย์ส่องประกาย หินร้อยกว่าก้อนที่สองด้านสลักรายชื่อเอาไว้เต็มก็ลอยลงมาจากฟ้า มาปักเรียงเป็นแถวอยู่กลางแอ่งกระทะ


จุยหย่วนที่ยืนอยู่ริมหน้าผาร่ายอิทธิฤทธิ์ประกาศเสียงดัง “คะแนนทดสอบออกมาแล้ว จะประกาศเป็นเวลาสามวัน คนท่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับคะแนนของตัวเอง สามารถขอตรวจสอบซ้ำได้ ถ้าหลังจากสามวันนี้ไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับคะแนน ก็จะกำหนดแบบนี้และรายงานขึ้นไปต่อตำหนักสวรรค์!”


บทที่ 1252 อันดับเก้าเคียงคู่กัน

โดย

Ink Stone_Fantasy

พอศิลาอักษรปรากฏออกมา ทุกคนก็เดาได้ว่าคะแนนออกมาแล้ว


หลังจากจุยหย่วนยืนยันเพิ่ม กำลังพลหลายแสนที่อยู่ข้างล่างก็มีอารมณ์คึกคักเดือดพล่านทันที ในที่สุดความทรมานหนึ่งร้อยปีก็จะแสดงผลลัพธ์แล้ว!


คนไร้อำนาจอิทธิพลหนุนหลังบางกลุ่มที่เสี่ยงตายสู้สุดชีวิตก็ยิ่งตื่นเต้นกังวล ไม่ง่ายเลยกว่าจะรอดชีวิตกลับมาได้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ดูกันที่ผลลัพธ์ครั้งนี้


แต่จ้านหรูอี้กับลูกหลานผู้มีอำนาจคนอื่นๆ กลับโล่งใจมาก ตอนนี้ประกาศผลคะแนนออกมาแล้ว ก็แปลว่าเกาก้วนไม่คิดจะสืบสาวเรื่องโกงผลงานอีก อย่างน้อยก็ไม่ได้คิดจะสืบสวนต่อในตอนนี้ ด่านตรงหน้าผ่านไปแล้ว เพราะศีรษะของคนพันกว่าคนก่อนหน้านี้ทำให้คนหวาดผวาจริงๆ


กลุ่มคนที่อยู่ในแอ่งกระทะด้านล่างวุ่นวายกันไปหมด ต่างก็เบียดกันอยู่หน้าศิลาอักษรอย่างร้อนใจ มีคนไม่น้อยเหาะขึ้นไปตรวจดู ไม่นานกลุ่มคนก็ล้อมศิลาอักษรร้อยกว่าแผ่นนั่นเอาไว้หมดแล้ว


จุยหย่วนที่ยืนอยู่บนหน้าผามองดูกลุ่มคนที่อารมณ์ฮึกเหิมเร้าใจอยู่ข้างล่างอย่างเงียบๆ เพื่อที่จะปลุกปลั่นอารมณ์ของทุกคน จะได้นำความรู้สึกนี้กลับไปแพร่ให้คนที่จะมาทีหลัง นี่ก็คือเจตนาที่ทำแบบนี้


แต่พอนึกขึ้นได้ว่าในการทดสอบครั้งนี้มีคนมากมายที่ผลงานเหมือนกันทุกอย่าง แล้วก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เกาก้วนสั่งให้เปลี่ยนแปลงอันดับ จุยหย่วนก็แอบถอนหายใจเบาๆ ถึงอย่างไรโลกนี้ก็ไม่มีความยุติธรรมที่เต็มร้อย!


“น้องหนิว เร็วเข้าๆๆ พวกเราไปดูผลคะแนนกันเถอะว่าเป็นยังไง”


เซี่ยโห้วหลงเฉิงกระโดขึ้นมาส่งเสียงเร่ง เหมียวอี้ลุกขึ้นยืนช้าๆ มองภาพที่คนเบียดกันแวบหนึ่ง แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้มเรียบๆ “คะแนนออกมาแล้ว ควรจะได้อันดับเท่าไรก็ได้เท่านั้นแหละ มันไม่หนีไปไหนหรอก ไม่จำเป็นต้องไปเบียด รออีกหน่อยก็ได้ดูเหมือนกัน”


รออีกหน่อยค่อยดู? เซี่ยโห้วหลงเฉิงเกาหัวเกาหูอย่างร้อนรน เดินกลับไปกลับมาและหันหน้ากลับมามองบ่อยๆ


พวกฝานอวี้เฟยก็ข่มสีหน้าที่เฝ้าคอยจะดูผลคะแนนไม่ไหวเช่นกัน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตและอนาคตตัวเอง จะไม่ร้อนรนสนใจได้อย่างไร พวกเขาเองก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าเหมียวอี้ที่โจมตีฝ่าเข้าฝ่าออกทัพใหญ่หนึ่งล้านจะใจเย็นได้ขนาดนี้


“ติดแปดร้อยอันดับแรกแล้ว ข้าติดแปดร้อยอันดับแรกแล้ว! ข้าติดแปดร้อยอันดับแรกแล้ว!”


มีบางคนพุ่งตัวออกจากฝูงชนมากระโดดโลดเต้นดีใจอย่างบ้าคลั่ง ทุบอกเสียงดังตุ้บๆ ไม่หยุด ตื่นเต้นดีใจจนหน้าแดงแทบจะเปล่งแสง ดูจากท่าทางที่เหมือนอยากจะให้โลกรู้ใจจะขาด ก็รู้แล้วว่าคนคนนี้ไม่ใช่ลูกหลานผู้มีอำนาจ คนที่ออกสังคมบ่อยจนชินจะไม่ดีใจขนาดนี้ น่าจะเป็นคนประเภทที่ได้พลิกชะตาชีวิตตัวเองอย่างกะทันหัน


พอคนคนนี้โผล่ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนทันที ไม่รู้ว่ามีคนตั้งเท่าไรที่ในดวงตาฉายแววอิจฉา การติดแปดร้อยอันดับแรกก็แปลว่าใกล้จะได้เป็นผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์แล้ว ต้องทราบไว้ว่าลูกหลานผู้มีอำนาจมากมายก็ไม่ได้ขึ้นนั่งตำแหน่งนี้ได้ง่ายๆ เหมือนกัน ตั้งแต่นี้ไปจะได้เสพสุขกับเกียรติยศความร่ำรวยไม่จบไม่สิ้นแล้ว!


“ใครเข้ารอบแปดร้อยคนแรกแล้ว?” จู่ๆ เสียงเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็ดังขึ้น พอเห็นเป้าหมายแล้ว ก็ถลึงตากว้างมองชายคนนั้น ทั้งอิจฉาทั้งริษยา พับแขนเสื้อสองข้างอย่างช้าๆ ทำท่าเหมือนอยากจะต่อสู้กัน


เหมียวอี้เองก็มองดูความบ้าคลั่งของคนคนนั้นเช่นกัน เขานึกถึงตัวเองตอนเมื่อก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะมอบหุ้นของร้านขายของชำซื่อตรงให้ โค่วเหวินหลานก็คงไม่ช่วยให้ตนได้ตำแหน่งผู้บัญชาการตลาดสวรรค์ ตอนหลังถ้าไม่ใช่เพราะทดสอบได้อันดับหนึ่งและได้รับแต่งตั้งจากราชันสวรรค์จนคนอื่นว่าอะไรไม่ได้ เขาก็คงจะไม่ได้เป็นผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์ ไม่อย่างนั้นปี้เยว่ฮูหยินก็ประคองให้เขาขึ้นสู่ตำแหน่งท่ามกลางแรงกดดันที่มากขนาดนั้นไม่ไหวเช่นกัน เขาย่อมรู้ว่าตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์หมายความว่าอย่างไรสำหรับคนทั่วไป สำหรับคนส่วนใหญ่ นั่นคือตำแหน่งที่คนส่วนใหญ่ไม่มีวันไขว่คว้ามาได้เลย!


“น้องหนิว เจ้ารอก่อนนะ ข้าจะไปช่วยดู พวกเราไปกันเถอะ!”


ทางนั้นคึกคักเกินไปแล้ว บวกกับมีคนมาแหกปากตะโกนบอกข่าวดีเป็นพักๆ แบบนี้ยั่วโมโหเกินไปแล้ว สุดท้ายเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็รอไม่ไหว จึงบอกกับเหมียวอี้อย่างตรงไปตรงมา แล้วโบกมือเรียกพวกฝานอวี้เฟยเบียดเข้าไปในฝูงชน ไม่นานก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย “อย่าขวางทางพ่อสิ ไสหัวไป…ใคร? เจ้าบอกมาว่าใคร? กล้าด่าท่านปู่เซี่ยโห้วของเจ้าได้ยังไง ไสหัวไปทางโน้นเลย…หินแผ่นไหนมีชื่อของอันดับหนึ่ง? ตรงกลางเหรอ? อย่าขวางทาง หลีกไป!”


เห็นเซี่ยโห้วหลงเฉิงพาคนฝ่าเข้าไปในนั้นอย่างวางอำนาจบาตรใหญ่ คนอื่นเบียดเข้าไปไม่ได้ แต่เจ้าเวรนั่นกลับใช้ทั้งหมัดทั้งเท้าจนเบียดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เหมียวอี้เองก็กลั้นขำไม่ไหวเหมือนกัน เจ้าหมีควายมันมีคนหนุนหลังใหญ่โต เหมาะจะทำเรื่องแบบนี้ที่สุดแล้ว


ส่วนจ้านหรูอี้ที่เป็น ‘เพื่อนบ้าน’ ก็สังเกตความเคลื่อนไหวของเหมียวอี้อยู่ตลอด เหมียวอี้ดูสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด นางเองก็ไม่สะดวกจะเสียอาการ ต้องกู้หน้ากลับมาให้ได่ แต่ตอนนี้หลังจากได้เห็นคนพวกนั้นรายงานบอกข่าวดี นางเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน จึงหันกลับมาบอกให้คนที่อยู่ข้างกายไปตรวจดูคะแนนแล้ว ส่วนตัวเองก็เอียงหน้าชำเลืองมองเหมียวอี้ และยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน


บางครั้งก็จำเป็นต้องยอมรับ ว่าถึงแม้ลูกหลานผู้มีอำนาจจะมีความได้เปรียบมากกว่า แต่ถ้าตัดผลกระทบที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่ออกไป หลังจากมีปัจจัยสำหรับการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน คนฐานะธรรมดาที่ต้องสู้สุดชีวิตจะต้องโผล่ออกมาเสี่ยงอันตรายได้ง่ายกว่าแน่นอน ถ้าดูจากจำนวนคนในอัตราส่วนเปรียบเทียบ คนแบบหลังมีโอกาสชนะมากกว่าแน่นอน


คนที่มีทางหนีทีไล่ไม่มีทางสู้สุดชีวิต นี่คือกฎเหล็ก เพราะมันไม่คุ้มค่า! ส่วนคนพวกนั้นที่ไม่มีทางหนีทีไล่ คนที่สู้สุดชีวิตเพื่ออนาคต คนอื่นเปิดโอกาสให้แล้ว พวกเขาก็ต้องโผล่หน้าออกมา ไม่ใช่เพราะพวกเขามีศักยภาพมากกว่าคนที่มีอำนาจอิทธิพลหนุนหลังหรอก!


ทฤษฎีนี้ได้รับการพิสูจน์ในการทดสอบครั้งนี้แล้ว ในสิบอันดับแรกมีเพียงสองรายชื่อที่เป็นคนมีอำนาจอิทธิพลหนุนหลัง ที่เหลือล้วนเป็นนักพรตธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลัง


เซี่ยโห้วหลงเฉิงที่ไปเบียดอยู่ตรงหน้าแผ่นหินไล่ดูจากอันดับหนึ่งลงมาข้างล่าง พอเห็นว่าอันดับสองเป็นจ้านหรูอี้ก็อึ้งไปครู่หนึ่ง


“พี่เซี่ยโห้ว รีบมาดูสิ ท่านอยู่ในสิบอันดับแรก! ” จู่ๆ หลัวชิ่งจื่อที่อยู่ข้างกันก็เตือนให้รู้


“ไหนๆๆ?” เซี่ยโห้วหลงเฉิงตื่นเต้นทันที ตื่นเต้นจนมองมั่วไปทั่วแต่ไม่เห็นชื่ออันโดดเด่นของตัวเอง


“นี่ไง ท่านกับพี่หนิวอยู่อันดับเก้าเหมือนกัน!” หมานซานชี้บอก


สายตาของเซี่ยโห้วหลงเฉิงไปหยุดอยู่ที่อันดับตัวเองทันที ดวงตาทั้งคู่พลันเบิกกว้าง เห็นบนอันดับเก้ามีสองรายชื่อจริงๆ แบ่งเป็นเซี่ยโห้วหลงเฉิงและหนิวโหย่วเต๋อ!


“โอ้ว!” เซี่ยโห้วหลงเฉิงปรบมือสองข้างเสียงดังมาก จากนั้นก็ตบบ่าคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน “สหาย ข้าได้อันดับเก้า เจ้าได้อันดับที่เท่าไร?”


“เอ๋…” คนคนนั้นอึ้งไป เขารู้จักเซี่ยโห้วหลงเฉิง แต่เซี่ยโห้วหลงเฉิงไม่รู้จักเขา เขานึกไม่ถึงว่าเซี่ยโห้วหลงเฉิงจะเป็นฝ่ายมาเรียกเขาว่าสหายก่อน หลังจากรู้ตัวแล้วก็รีบกุมหมัดคารวะ “ข้ายังหาอันดับของตัวเองไม่เจอเลย ยินดีด้วยๆ!”


“เหอะๆ!” เซี่ยโห้วหลงเฉิงตบท้องของตัวเองที่นูนออกมา แล้วหันตัวมาสบตากับพวกฝานอวี้เฟยที่กลอกสายตาไปทั่ว พร้อมบอกด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าค่อยๆ ดูไปนะ ข้าจะกลับไปบอกข่าวดีกับน้องหนิวก่อนแล้ว” พูดจบก็กลับมาเบียดกับกลุ่มคน พอเห็นกลุ่มคนอุดทางกลับอยู่ ครั้งนี้เขากลับควบคุมอารมณ์ได้ดีอย่างประหลาด หรี่ตายิ้มพร้อมกุมหมัดคารวะบอกทุกคนว่า “ทุกท่าน รบกวนหลีกทางหน่อย!”


หลังจากมองคล้อยหลังเขาหายไปในกลุ่มคน สายตาของพวกฝานอวี้เฟยก็ไปหยุดอยู่บนศิลาอักษรตรงหน้าอย่างรวดเร็ว มองไปมองมาก็ยังไม่เห็นรายชื่อของตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิกลั่ก บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย รู้สึกแปลกใจ ทุกคนนำผลงานกลับมาเหมือนกัน แต่ทำไมเซี่ยโห้วหลงเฉิงกับหนิวโหย่วเต๋อถึงได้อันดับเก้า แต่กลับไม่มีอันดับของพวกเขา? ไม่มีเหตุผล! อย่าบอกนะว่าตระกูลเซี่ยโห้วใช้เส้นสายทำอะไรบางอย่าง? แต่ก็ไม่ถูกสิ ถ้าพูดถึงเส้นสาย พวกเราต่างหากที่เป็นคนของตระกูลเซี่ยโห้ว ไม่มีเหตุผลที่หนิวโหย่วเต๋อจะอยู่อันดับบนๆ…


สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดตอนนี้ก็คือ เซี่ยโห้วหลงเฉิงทิ้งพวกเขาไว้แล้วหนีไปแล้ว ไม่มีเซี่ยโห้วหลงเฉิงคอยวางอำนาจบาตรใหญ่เบิกทาง ถ้าพวกเขาคิดจะเบียดดูที่ศิลาอักษรแผ่นอื่นอีกก็จะยุ่งยากนิดหน่อย


เซี่ยโห้วหลงเฉิงเบียดออกมาจากกลุ่มคนแล้ว เดินเอามือไขว้หลังกลับมาอย่างภาคภูมิใจ เขาก้าวเท้าเบาๆ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม


จ้านหรูอี้ที่รอข่าวอยู่เงียบๆ เห็นเขาแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ดูจากท่าทางของเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว จะต้องได้อันดับที่ไม่เลวแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะภาคภูมิใจขนาดนี้เหรอ


“น้องจ้านคนสวย ข้าเห็นคะแนนของเจ้าแล้ว ไม่เลวเลยนะ ขาดไปนิดเดียวก็จะได้อันดับหนึ่งแล้ว เจ้าได้อันดับสอง!”


เซี่ยโห้วหลงเฉิงหัวเราะคิกคักพลางบอกข่าวจ้านหรูอี้มาแต่ไกลๆ


จ้านหรูอี้ไม่รู้ว่าเจ้าหมอนี่พูดจริงหรือโกหก แต่อดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วเจ้าได้อันดับเท่าไร?”


“เขินจัง! ก็ถูไถจนได้อันดับเก้ามานั่นแหละ!” เซี่ยโห้วหลงเฉิงหัวเราะพลางเดินผ่านนางไป


จ้านหรูอี้หันขวับไปมองเขา สงสัยอย่างแรงว่าเจ้าหมีควายนี่กำลังล้อตนเล่นอยู่ ไม่อย่างนั้นทำไมคนได้อันดับเก้าถึงดูดีใจกว่าคนได้อันดับสองล่ะ?


พอเห็นท่าทางของเซี่ยโห้วหลงเฉิง เหมียวอี้ก็รู้แล้วว่าคะแนนของตัวเองไม่ได้แย่ เป็นอย่างที่คาดไว้ เซี่ยโห้วหลงเฉิงเดินเข้ามากุมหมัดคารวะ พลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “น้องหนิว พวกเราต้องดีใจด้วยกันแล้ว เราสองคนได้อันดับเก้าคู่กัน ในสิบอันดับแรกมีแค่พวกเราสองคนที่ได้คะแนนคู่กัน คนอื่นโดดเดี่ยวเดียวดายทั้งนั้น ไม่ได้อยู่เป็นคู่มงคลเหมือนพวกเราสองคนหรอก!”


เขาดีใจจริงๆ การทดสอบครั้งนี้เขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเลย ทั้งยังมีเกาก้วนผู้พิพากษาหน้าตายมาคุมสั่งประหารคนปลอมแปลงผลงานอีก ส่วนเขานั้นอาศัยความสามารถตัวเองจนได้อันดับเก้ามา ทำให้คนในตระกูลตกใจจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องให้ตระกูลช่วยเหลือ ตัวเองก็สามารถเป็นผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์ได้ กลับไปจะต้องได้หน้าได้ตามากขนาดไหนกัน!


ผีน่ะสิที่จะอยู่เป็นคู่กับเจ้า! เหมียวอี้ด่าในใจอย่างบ้าคลั่ง ไอ้เวรเอ๊ย เจ้าไม่คิดว่าอันดับคู่ของเราสะดุดตาเกินไปบ้างเหรอ? ไม่กลัวว่าเกาก้วนเห็นคะแนนของพวกเราสองคนเหมือนกันแล้วมาสืบสวนพวกเราทีหลังรึไง?


มาพูดอะไรตอนนี้ก็ไม่มีความหมายแล้ว เหมียวอี้ถามส่งเดชว่า “ไม่รู้ว่าใครได้อันดับหนึ่ง?”


เซี่ยโห้วหลงเฉิงเกาหัว นึกไปนึกมาสักพักแล้วตอบว่า “หวังติ้งเฉา! ใช่แล้ว ชื่อนี้แหละ ไม่คุ้นหูเลย ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่มีความทรงจำอยู่ในหัวสักนิด ไม่เหมือนมาจากตระกูลไหน ไม่รู้เหมือนกันว่าโผล่มาจากไหน ครั้งนี้ได้โดดเด่นเป็นสง่าแล้ว มีหน้ามีตายิ่งกว่าตอนที่เจ้าได้อันดับหนึ่งในสถานที่ไร้ชีวิตอีก!”


“หวังติ้งเฉา!” เหมียวอี้พึมพำพลางครุ่นคิด แล้วส่ายหน้าเบาๆ ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน


คะแนนฝั่งนี้เป็นรูปธรรมแล้ว หัวใจสงบแล้วเช่นกัน หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม คนของจ้านหรูอี้ก็กลับมารายงานข่าวดีแล้ว ยืนยันแล้วว่าจ้านหรูอี้ได้อันดับสอง ส่วนคนที่อยู่กลุ่มเดียวกันก็ติดอันดับหนึ่งในพัน หรือพูดได้อีกอย่างว่าได้กลายเป็นผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์แน่นอน!


ขณะที่จ้านหรูอี้ดีใจ ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองเซี่ยโห้วหลงเฉิง รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ว่าเจ้าหมีควายนั่นมีเจตนาดีขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ?


เมื่อเห็นคนฝั่งจ้านหรูอี้กำลังแสดงความยินดีร่วมกัน เหมียวอี้ก็พลันนึกอะไรขึ้นได้ หันกลับไปถามเซี่ยโห้วหลงเฉิงว่า “พวกฝานอวี้เฟยล่ะ? คะแนนของพวกเขาไม่ได้อยู่อันดับเดียวกับพวกเราเหรอ?”


“เอ่อ…” เซี่ยโห้วหลงเฉิงนิ่งไปชั่วขณะ พอนึกขึ้นได้ ก็ตอบอย่างไม่เป็นธรรมชาติว่า “ข้าเองก็แปลกใจเหมือนกัน”


เมื่อเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของเขา เหมียวอี้ก็แอบสงสัยในใจ


หลังจากนั้นเกือบครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็เห็นพวกฝานอวี้เฟยกลับมาพร้อมสีหน้าเรียบเฉยแล้ว เหมียวอี้รีบถามว่า “คะแนนพวกเจ้าเป็นยังไงบ้าง?”


…………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)