ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1238-1249

 บทที่ 1238 การกลับมาของหอยทาก

 

สำหรับสัญญาพรีเซนเตอร์ของสัตว์นั้น จำนวนนี้ถือว่าดีมากแล้ว เพราะมีค่าเท่ากับรายรับสามสิบล้านที่จอร์แดนได้รับตอนจบการแข่งขันหนึ่งฤดูกาลใน NBA แล้ว จากจุดนี้ทำให้รู้ได้ว่าบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงแอนนาแมร์คิดว่าหู่จือกับเป้าจือสามารถทำเงินให้พวกเขาได้เท่าไรแล้ว


เอริก้านำสัญญามาด้วย ฉินสือโอวเรียกให้เออร์บักมาในทันทีเพื่อให้เขาช่วยตรวจดูให้ เมื่อไม่มีปัญหาก็สามารถเซ็นได้เลย


เออร์บักพูดเตือนเขาว่า “ฉิน ถ้านายอยากให้หู่จือกับเป้าจือเป็นพรีเซนเตอร์ นายสามารถเลือกดูก่อนก็ได้นะ ตอนนี้บริษัทที่สนใจในตัวพวกมันคงมีไม่น้อยเลย อีกอย่างนายลองคิดให้กว้างอีกนิด หู่จือกับเป้าจือไม่เพียงสามารถเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับอาหารสัตว์เท่านั้นนะ”


เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว คนทั้งสี่คนของบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงแอนนาแมร์ที่เพิ่งวางใจก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง พากันมองไปที่ฉินสือโอวด้วยความรู้สึกตื่นเต้นพร้อมกัน


ท่านชายฉินปัดมือออก เขายิ้มแล้วพูดกับเอริก้าว่า “วางใจได้ครับ พวกเราชาวจีนทำธุรกิจจะถือเรื่องความซื่อสัตย์มาก ในเมื่อผมตกลงรับปากกับพวกคุณไปแล้ว ก็เท่ากับว่าสัญญาครั้งนี้ได้เซ็นไปเรียบร้อยแล้วครับ”


เอริก้ายิ้มออกมา แล้วพูดว่าแน่นอนว่าพวกเราเชื่อใจคุณ


ชื่อเสียงของบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงแอนนาแมร์ดีมาก การได้ร่วมงานกับบริษัทแบบนี้สามารถวางใจได้ อีกอย่างสัญญาที่เขากับเอริก้าทำร่วมกันคือให้หู่จือกับเป้าจือเป็นพรีเซนเตอร์ด้านอาหารสัตว์เท่านั้น ไม่ส่งผลต่อการเป็นพรีเซนเตอร์ด้านอื่นเลย


ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญา 1+1 กัน ระยะสัญญาคือสองปี ปีแรกเป็นสัญญาปกติทั่วไป ส่วนปีที่สองทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงเต็มที่ หากว่าหู่จือกับเป้าจือไม่สามารถนำผลประโยชน์ที่เหมาะสมมาให้ได้ ทางบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงแอนนาแมร์สามารถบอกยกเลิกสัญญาก่อนหมดสัญญาได้


และหากว่าผลประโยชน์ที่หู่จือกับเป้าจือนำมาให้มีมากมายมหาศาล ทางด้านฉินสือโอวก็สามารถขอขึ้นราคาค่าตัวได้ หากว่าทางบริษัทไม่ยอมขึ้นค่าตัวให้ เขาก็สามารถบอกยกเลิกก่อนหมดสัญญาได้เหมือนกัน แต่หากว่าค่าตัวที่เขาแจ้งมา ทางบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงแอนนาแมร์สามารถให้ได้ ในราคาเท่ากันนี้ เขาจะไม่สามารถไปร่วมมือกับบริษัทอื่นได้


สัญญาที่ยุ่งยากพวกนี้ เออร์บักกลับบอกว่านี่ยังถือว่าเรียบง่ายนะ…


หลังเซ็นสัญญา ฉินสือโอวให้ทั้งสี่คนอยู่ต่อตรงใต้ร่มไม้ของฟาร์มปลาเพื่อทานอาหารกลางวันริมหาดกัน พร้อมกับถามว่า “พวกคุณเคยคิดจะผลิตอาหารสัตว์ของหมีสีน้ำตาล หมาป่า แมวป่าหรือกระรอกบ้างไหมครับ? ทางผมสามารถเป็นพรีเซนเตอร์ได้หมดนะครับ เต่าก็มี กวางอูฐก็มีเช่นกัน”


เอริก้าอึ้งถึงขั้นเหงื่อไหลออกมา เธอพูดออกมาอย่างตกใจว่า “พระเจ้า ที่นี่คือสวนสัตว์เหรอคะ? หรือว่าคุณคือดรูอิดคนในตำนานของเคลต์เหรอคะ?”


ทั้งสี่คนอาศัยอยู่ในเมืองกับฟาร์มปลาเป็นเวลาสองวัน การมาเจรจาธุรกิจใหญ่แบบนี้ทำให้พวกเขามีเวลาเหลือเฟือ เมื่อทุกอย่างราบรื่น ทำให้สามารถใช้เวลาที่เหลือไปกับการท่องเที่ยวได้


สิ่งที่พวกเราชอบที่สุดยังคงเป็นการตกปลาในฟาร์มปลา ตกปลาเสร็จแล้วก็มาทำอาหาร ลมทะเลพัดโชย แสงแดดสาดส่อง นั่งดื่มกินกันใต้ร่มไม้ใหญ่ ชีวิตแบบนี้แหละถึงจะเรียกได้ว่าดื่มด่ำเป็นที่สุด


ตอนจากกันเอริก้าพูดด้วยความรู้สึกเอ่อล้นว่า “คุณฉินคะ ฟาร์มปลาของคุณเปรียบดังสวรรค์บนดินจริงๆ ดิฉันเคยไปฮาวาย นิวซีแลนด์ ฟิจิ และเคยไปมัลดีฟส์มาแล้ว แต่ก็ยังสู้ฟาร์มปลาของคุณไม่ได้เลยค่ะ”


ผู้ช่วยของเธอคนหนึ่งก็พูดด้วยว่า “ดิฉันยังไม่เคยเห็นน้ำทะเลที่ใสขนาดนี้มาก่อนเลย ล่องเรืออยู่บนทะเล ก็สามารถเห็นถึงภาพสะท้อนวิญญาณตัวเองในทะเลได้เลยค่ะ!”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมา ที่พวกเขาพูดมานั้นค่อนข้างเกินไปนิด แต่ฟาร์มปลาของเขาก็เป็นสถานที่ที่ดีมากในการมาพักผ่อนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ไม่อย่างนั้นแมคคาลลียนคงไม่มาที่นี่แล้วอยู่จนถึงแก่หรอก คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นคนที่เห็นโลกกว้างมาก่อนด้วย


ช่วงพลบค่ำฉินสือโอวพาพี่น้องเฟอเรทไปออกกำลังกายที่ชายหาด เฟอเรทเป็นนักล่าที่มีฝีมือดีมาก พวกมันจำเป็นต้องได้รับการออกกำลังกายและการฝึกฝนอยากหนักหน่วง แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงเงอะงะในบ้านนั้นได้หลุดจากอันดับนั้นกันหมดแล้ว


ระหว่างที่เดินไปทั่วอยู่นั้น เขาก็ปล่อยพลังโพไซดอนลงไปในน้ำอย่างเคยชิน


แต่ว่าหลังพลังโพไซดอนเพิ่งเข้าไปในน้ำเท่านั้น เขาก็เจอเข้ากับปลาปักเป้าตัวอ้วนกลมฝูงหนึ่งกำลังอ้าปากหมับๆ อยู่ในน้ำ


ฉินสือโอวเข้าไปดูทีหนึ่ง ก็พบว่าพวกมันกำลังกินหอยทากกันอยู่ เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที เดือนกรกฎาคมปีที่แล้วฟาร์มปลาของเขาเคยได้รับความเสียหายจากหอยทาก แต่เพราะตอนนั้นถูกพบได้เร็วทำให้ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก หรือว่าหอยทากกลับมาอีกแล้ว?


จิตสำนึกแห่งโพไซดอนถูกปล่อยออกไปทั้งสี่ทิศ วนอยู่รอบหนึ่งฉินสือโอวก็วางใจขึ้นมา เป็นจริงตามนั้นหอยทากกลับมาอีกแล้ว แต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้รวมกลุ่มกันสร้างความเสียหาย พวกมันมีจำนวนไม่มาก ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ


เดือนกรกฎาคมเป็นฤดูผสมพันธุ์ของหอยทาก พวกมันจะออกมาจากทะเลลึกเพื่อมาผสมพันธุ์ หอยทากในช่วงนี้ยังเป็นอาหารของสิ่งมีชีวิตอีกด้วย อย่างเช่นพวกกุ้งมังกร ปูกับปลาวาฬ ล้วนกินพวกมันเป็นอาหารทั้งนั้น


ฉินสือโอวก็อยากจับมากินบ้าง เจ้าตัวน้อยพวกนี้สะอาดมาก พวกมันอาศัยอยู่ในทะเลลึก ทำให้ไม่ได้รับการปนเปื้อน แถมยังถ่ายเป็นเวลาอีกด้วย ทำให้อุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียม เป็นอาหารที่ดีมากชนิดหนึ่ง


นกจมูกหลอดหางสั้นของฟาร์มปลาถึงกับรวมฝูงกันรออยู่บนผิวน้ำ พวกมันในตอนนี้กำลังจับหอยทากกินกันอยู่ แบบนี้จึงสามารถควบคุมจำนวนของหอยทากได้ สามารถพูดได้ว่าฟาร์มปลาจะรุ่งได้ ระบบนิเวศน์ต้องดีด้วย


ตอนกินอาหารค่ำ ฉินสือโอวบอกพวกชาร์คว่าเขาอยากจับหอยทากมากิน ถามพวกเขาว่ามีวิธีอะไรหรือเปล่า


คนแคนาดาไม่กินหอยทาก หรือไม่ก็กินกันน้อยมาก ที่ที่กินของพวกนี้ก็เพิ่งเริ่มมีเมื่อไม่กี่ปีมานี้เท่านั้น จะมีแค่ภัตตาคารระดับสูงเท่านั้นที่จะมี เพราะว่านอกจากเดือนกรกฎาคมแล้ว หอยทากจะอยู่แต่ในทะเลลึก จับได้ค่อนข้างยาก คนแคนาดาเองก็ไม่ได้รู้สึกสนใจพวกมันมากด้วย


แต่สำหรับชาวประมงแล้ว ทุกสิ่งในทะเลถือว่าเป็นของขวัญ สามารถกินได้หมด ก่อนจะมาที่ฟาร์มปลาพวกเขาต่างก็เคยกินหอยทากกันมาก่อน


ชาร์คพูดว่า “ไม่มีปัญหา เชื่อมือพวกผมเถอะครับบอส พรุ่งนี้เวลานี้คุณได้กินเจ้าสิ่งนี้แน่ครับ”


เช้าตรู่วันต่อมา ชาร์คพาบูลกับชาวประมงอีกหลายคนไปหาท่อนไม้ใหญ่มาจำนวนหนึ่ง ระหว่างท่อนไม้ผูกแหตกปลาไว้ บนแหตกปลาก็คลุมไปด้วยหญ้าทะเลกับสาหร่ายจำนวนมาก จากนั้นจึงนำไปผูกไว้ที่ท้ายเรือฮาวิซทแล้วขับออกไปอย่างช้าๆ


ฉินสือโอวออกทะเลตามไปด้วย เขาถามว่า “หอยทากจะมาดูดบนท่อนไม้เองเหรอ?”


ชาร์คยิ้มแล้วพูดว่า “หอยทากไม่มีกระเพาะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกินและถ่ายตลอดเวลา พวกมันค่อนข้างยึดติดเรื่องอาหาร และคาดหวังที่จะสามารถกินอาหารได้โดยไม่ต้องขยับตัว ทำให้การใช้หญ้าทะเลกับสาหร่ายเป็นอาหาร ใช้ท่อนไม้ทำเป็นจุดพักเท้า จะทำให้พวกมันตามมาเอง”


และจริงตามนั้น ถึงตอนพลบค่ำที่เรือหาปลากลับถึงฝั่งแล้ว ตอนที่ลากท่อนไม้กลับมาดูนั้น ด้านบนเต็มไปด้วยหอยทากตัวใสจำนวนมากมาย และยังมีปลาปักเป้าที่ตัวพองอีกสองตัวติดมาด้วย


ปลาปักเป้าที่ติดมากับเรือหาปลานั้นเป็นปลาปักเป้ามีหนาม ผิวภายนอกมีจุดสีเทาขาว หลังดูดน้ำทะเลเข้าไปจนตัวพองแล้วจะมีลักษณะเหมือนกับเม่น แหจับปลาเป็นศัตรูของพวกมัน หลังจากถูกแหพันไว้แล้ว พวกมันจะคิดว่าถูกทำร้ายแล้วจึงพองตัวออกมา ทำให้ยิ่งหลุดออกจากแหไม่ได้เข้าไปอีก


ฉินสือโอวใช้มีดตัดแหส่วนนั้นออกแล้วปล่อยปลาปักเป้าน้อยลงไปในน้ำ พวกมันเบิกตาจ้องอยู่ในน้ำสักพัก เมื่อรู้สึกว่าไม่มีอันตรายแล้ว จึงพ่นน้ำทะเลออกมากลายเป็นปลาตัวแบนก่อนแล้วค่อยว่ายจากไป


พวกชาวประมงนำอ่างน้ำออกมา สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็คือหอยทากที่จับได้นั่นเอง หอยทากเนื้อนุ่ม ตัวอวบอ้วน นำไปผัดไฟแดงกับพริกและซีอิ๊วก็จะกลายเป็นอาหารแกล้มเหล้ารสเลิศได้เลย


พี่น้องเฟอเรทนั่งอยู่ข้างฉินสือโอวแล้วมองเจ้าพวกนี้อย่างสงสัย พวกมันใช้กรงเล็บข่วนไปเบาๆ เนื้อที่อวบอ้วนของหอยทากก็สะเทือนไปมา พวกมันรู้สึกว่าน่าสนุกจึงเล่นต่อไปอีก กรงเล็บขยับไปมาราวกับกำลังเตะบอลอย่างไรอย่างนั้น

 

 

 


บทที่ 1239 งานประมูลลูกปลา

 

จำนวนหอยทากที่จับได้ในหนึ่งวันนั้นไม่น้อยเลย อ่างน้ำสี่อันกับถังน้ำสองอันที่เอามาด้วยถูกใส่จนเต็มหมดแล้ว


ฉินสือโอวยกไปอ่างหนึ่ง ที่เหลือให้พวกชาวประมงกับทหารแบ่งกันเอง ชาร์คบอกว่า “หรือว่า บอส คืนนี้พวกเรามาย่างหอยทากกินด้วยกันดีไหมครับ?”


บูลเลียริมฝีปากยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีเลย ฉันชอบความคิดนี้ของนาย ชาร์ค ฉันไม่ได้กินหอยทากย่างมานานแล้ว คิดถึงรสชาติของเจ้าพวกนี้จริงๆ”


ฉินสือโอวพยักหน้าบอกว่าได้ ความจริงเขาอยากถามว่าเจ้าพวกนี้สามารถเอามาย่างกินได้ด้วยเหรอ? แต่มาคิดอีกทีพวกชาวประมงของนิวฟันแลนด์ย่างได้ทุกอย่างนั่นแหละ เหมือนกับบ้านเกิดของโหวจื่อเซวียน ที่ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถเอามาย่างเป็นมื้ออาหารได้ ถ้าหากว่ามี ก็คือเก็บไว้ทำมื้อที่สองนั่นเอง


วินนี่เริ่มรับงานต่อจากคนรักษาการณ์ของนายกเทศมนตรีแล้ว เธอมีเวลาปรับตัวหนึ่งฤดูกาล สองเดือนแรกเธอต้องเป็นผู้ช่วยนายกเทศมนตรีฮานี่ย์ แรมโบ้ก่อน แต่หนึ่งเดือนหลังจากนั้นจะตรงกันข้าม ฮานี่ย์ต้องมาเป็นผู้ช่วยของเธอแทน


จากนั้นพอวินนี่เริ่มเป็นงานแล้ว ฮานี่ย์จะมีสองทางเลือก ถ้าวินนี่เห็นด้วยตัวเขาเองก็ยินดี งั้นก็สามารถอยู่ต่อเป็นรองนายกได้ แต่หากวินนี่ไม่เห็นด้วยหรือตัวเขาไม่ยินยอม อย่างนั้นทางสภาผู้ว่าราชการจังหวัดจะทำการย้ายงานให้เขา ปกติแล้วต้องไปทำงานที่สภาผู้ว่าราชการจังหวัดแทน


ความโปร่งใสของรัฐบาลแคนาดานั้นสูงมาก แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับรัฐบาลระดับสูงอย่างฟินแลนด์ แต่ก็มีชื่อเสียงมากในโลก ไม่ว่าจะสภาผู้ว่าราชการจังหวัดหรือว่าข้าราชการผู้น้อยต่างก็โปร่งใสไม่ต่างกันเลย


ดังนั้นคนส่วนมากจึงยินดีที่จะดำรงตำแหน่งรองนายกในเมืองต่อ เพื่อช่วยเหลือนายกจัดการงานทั่วไป เงินบำนาญไม่ได้น้อยลง เงินประกันได้เท่ากัน แต่งานน้อยกว่ามาก ความสัมพันธ์กับคนก็จริงใจกว่าด้วย


ชาร์คนำเตาย่างออกมา แซ็กพาคนเอาหอยทากร้อยต่อกันเป็นพวงๆ แล้วใส่ไว้ในน้ำสะอาด หากว่าไม่ใช้น้ำจืดแช่เจ้าพวกนี้แล้วล่ะก็ รสชาติที่ได้หลังย่างเสร็จจะค่อนข้างเค็ม


ฉินสือโอวแบกเฟอเรทผู้พี่ไว้บนไหล่ซ้าย เฟอเรทผู้น้องเอาไว้บนไหล่ขวาแล้วนั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าประตู ตามองไปที่ประตูฟาร์มปลาเป็นพักๆ รถคาดิลแลคของวินนี่ก็ยังคงไม่ปรากฏให้เห็น เขาเริ่มรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว


แมคคาลลียนที่นั่งพักอยู่ข้างๆ สังเกตเห็นจุดนี้ จึงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณรอวินนี่อยู่เหรอคะ?”


ฉินสือโอวยอมรับออกไปอย่างง่ายดาย แล้วพูดว่า “ใช่ครับ ตั้งแต่ผมกับวินนี่อยู่ด้วยกันมา เธอก็เป็นแม่บ้านมาตลอด ผมเคยชินกับเวลาที่ถ้าผมอยู่บ้านเธอก็จะอยู่ข้างๆ ตอนนี้เธอไม่อยู่ ผมรู้สึกไม่ค่อยชินครับ”


สิ่งสำคัญคือพอวินนี่ไม่อยู่บ้าน หน้าที่ดูแลเด็กๆ ก็ตกเป็นของท่านชายฉินด้วย ด้วยอายุที่มากขึ้น ร่างกายของเสี่ยวเถียนกวาก็โตขึ้นด้วย เธอคลานได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ และไกลขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉินสือโอวต้องจับตาดูเธอไว้ตลอด


คุยกับแมคคาลลียนเพียงครู่เดียว ฉินสือโอวก้มหน้าลงมามองก็พบว่าลูกสาวไม่อยู่เสียแล้ว เขารีบผิวปาก ก็มีเสียงของหู่จือและเป้าจือตอบกลับมาแต่ไกล พวกมันกำลังจับตาดูเสี่ยวเถียนกวาอยู่


ฉินสือโอววิ่งไปตามเสียง เสี่ยวเถียนกวาเจอเข้ากับไข่ห่านใบใหญ่สองใบในพงหญ้า เธออยากจะเอากลับมาด้วย แต่น่าเสียหาย ที่แขนขาทั้งสี่ของเธอต้องใช้สำหรับคลาน การจะเอาไข่ห่านใบใหญ่กลับไปด้วยจึงยากเกินไปสำหรับเธอ


ฉินสือโอวอยากจะพาเธอกลับไป แต่ว่าเสี่ยวเถียนกวาชี้ไปที่ไข่ห่านอย่างไม่พอใจแล้วร้องออกมา จากนั้นก็อ้าปากอย่างเจ้าเล่ห์แล้วร้อง ‘ปะป๊า’ ออกมาไม่ขาดคำ


หู่จือกับเป้าจือค่อนข้างอ่อนไหวกับคำว่า ‘ปะป๊า’ พอเสี่ยวเถียนกวาร้องออกมาเท่านั้น ทั้งสองตัวก็ดีใจจนร้องโฮ่งๆ ไม่หยุด ทำเอาฉินสือโอวเซ็งไปเลย


ไม่มีทางเลือก คงทำได้แค่เอาไข่ห่านสองใบกลับไปด้วย หลังจากเขานำกลับไปด้วยแล้วเสี่ยวเถียนกวาก็ไม่สนใจอีกเลย เธอคลานไปคลานมาต่อ ไม่รู้ว่าคิดจะไปไหน


ท่านชายฉินจนปัญญาแล้ว เขาจับเสี่ยวเถียนกวาใส่ไว้ในรถเข็นเด็ก เธอก็ปีนอยู่ในนั้นไม่หยุด นี่อันตรายมาก เพราะว่าเธออาจปีนออกมาแล้วหกล้มได้


เมื่อเห็นว่าวิธีนี้ก็ไม่ได้ผล เขาจึงไปหาเชือกมาเส้นหนึ่ง แล้วมัดเสี่ยวเถียนกวาไว้ข้างตัวแทน แบบนี้แม้ว่าเสี่ยวเถียนกวาจะคลานอีกก็คลานไปได้ไม่ไกล วนเวียนไปมาได้แค่บริเวณนี้ ถือว่าเป็นการปลดปล่อยฉินสือโอวกับหู่จือเป้าจือแล้ว


พ่อของฉินสือโอวที่นำเครื่องเทศออกมาให้เห็นเข้าก็ร้อนใจขึ้นมาทันที เขารีบเข้าไปตีฉินสือโอวทีหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า “นี่แกเป็นพ่อภาษาอะไรกัน? ทำอะไรเนี่ย? นี่เป็นลูกสาวหรือหมาแมวที่เลี้ยงกันแน่?”


เชือกถูกปลดออกแล้ว เสี่ยวเถียนกวาก็รีบคลานออกไปยังที่ไกลๆ อีก ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงตื่นตัวขึ้นมาแล้วตามอยู่ข้างหลัง


ผ่านไปสักพัก มือถือของเขาดังขึ้น เมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาเป็นหัวหน้ากรมประมงแมทธิว จินนั่นเอง ฉินสือโอวจึงรีบรับสายแล้วถามว่า  “เฮ้ ท่านประธานจิน ทำไมถึงมีเวลาโทรหาผมได้ล่ะครับ? บอกมาเลยครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”


เสียงของแมทธิว จินดังขึ้น  “คืออย่างนี้นะ ฉิน พวกผมกำลังเตรียมจัดงานประมูลลูกปลากุ้งปูตามแนวชายฝั่งของฟาร์มปลานิวฟันแลนด์กัน งานเริ่มขึ้นประมาณอีกสิบวันให้หลัง คุณเตรียมตัวไว้นะครับ เอาสินค้ามาด้วย”


ฉินสือโอวอึ้งไปพักหนึ่ง ของจำพวกลูกปลากับลูกกุ้งก็เอามาประมูลได้ด้วยเหรอ? คนแคนาดานี่ช่างคิดเสียจริง


แมทธิว จินพูดต่อว่า “กรมประมงได้ทำการตรวจสอบบ่อเลี้ยงปลาอนุบาลทุกที่แล้ว ฟาร์มปลาของใครที่มีปลาและกุ้งชั้นดีก็จะถูกบันทึกไว้ ฟาร์มปลาของคุณมีของชั้นดีเยอะที่สุด ว่าอย่างไร คุณมีความคิดที่จะขายลูกปลาไหมครับ?”


การเติบโตของฟาร์มปลานั้นมีหลายวิธี การจำหน่ายปลาที่เลี้ยงไว้นั้นเป็นสิ่งที่พื้นฐานที่สุด จากนั้นยังมีการทำเป็นการท่องเที่ยวกับทำบ่อเลี้ยงลูกปลาด้วย ซึ่งก็มีให้เห็นกันทั่วไป อย่างเช่นก่อนหน้านี้มีฟาร์มปลาที่ฉินสือโอวคิดจะเอาไว้เลี้ยงปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก ก็คือที่ที่จะเอาไว้เลี้ยงลูกปลาขายโดยเฉพาะนั่นเอง


ฉินสือโอวครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดว่า “เคยมีความคิดประมาณนี้อยู่บ้างครับ งั้นเดี๋ยวผมขอจัดการกับจำนวนปลาที่ฟาร์มปลาผลิตได้ก่อน แล้วค่อยไปดูที่งานอีกทีนะครับ”


แมทธิว จินบอกว่าดีมาก จากนั้นทั้งสองก็คุยเรื่อยเปื่อยกันต่ออีกสักพัก ประธานกรมประมงถามเขาถึงชีวิตหลังงานหมั้นของเขา แล้วก็ยินดีกับวินนี่ที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี


ฉินสือโอวกลอกตาไปมา คำยินดีนี้มาได้เร็วเหลือเกิน ตอนนี้คงแทบทั่วแคนาดาแล้วที่รู้ว่าวินนี่ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีของเกาะแฟร์เวล เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเขาคิดไปเองแต่อย่างไร ข่าวของวินนี่บนอินเทอร์เน็ตนั้นเยอะจริงๆ เยอะถึงขั้นเขายังสงสัยว่ามีคนจ้างให้ทำข่าวเรื่องวินนี่เลยทีเดียว


จากนั้นเขาถามแมทธิว จินว่าทำไมถึงคิดจะจัดงานประมูลลูกปลานี้ ประธานจินบอกกับเขาว่า เขาในตอนนี้กำลังจัดงานพูดคุยแลกเปลี่ยนระดับสูงเกี่ยวกับการเกษตรและการประมงในอเมริกา แล้วพบว่าฟาร์มปศุสัตว์ของอเมริกาหลายที่ล้วนมีการจัดงานประมูลวัวแกะม้ากันทั้งนั้น ทำให้เขาเกิดไอเดียนี้ขึ้นมา


หลังวางสาย ฉินสือโอวหนีบเสี่ยวเถียนกวากลับไป ตอนนี้วินนี่กลับมาแล้ว เธอยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อสูทผู้หญิง รองเท้าส้นสูงที่เป็นการแต่งตัวที่ดูมืออาชีพมาก นอกเหนือจากนั้นเสื้อสูทของเธอยังเป็นสีไวน์แดงอีก ทำให้เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระฉับกระเฉง


“เป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยไหม?” ฉินสือโอวเดินเข้าไปถาม แล้วรีบรับกระเป๋ามาจากวินนี่


วินนี่ส่ายหัว พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “เป็นงานที่ง่ายมากค่ะ ก็เป็นเมืองเล็กๆ นี่คะ จะมีงานสักแค่ไหนกันเชียว? พวกคุณทำอะไรกันคะ จะย่างเนื้อกินกันอีกแล้วเหรอ?”


ฉินสือโอวอยากให้วินนี่ลองชิมหอยทากย่างดู แต่ว่าชาร์คยังไม่ได้จุดไฟในเตา เขาจึงนำเตาเผาฟืนของตัวเองออกมา ใส่ถ่านแทนฟืน เปลวไฟไม่ใหญ่ไม่เล็ก เหมาะกับการนำมาย่างพอดี


นำหอยทากสองเส้นมาทาด้วยน้ำมันถั่วลิสง ฉินสือโอวพัดไฟไปมาด้านบนเตาย่าง แล้วสาดมะแข่นกับพริกผงลงไปเป็นพักๆ ระหว่างนั้นก็ทาน้ำมันด้วยไม่หยุด ไม่นานก็ย่างเสร็จแล้ว


หอยทากอุดมไปด้วยโปรตีน ทำให้ย่างสุกได้ง่าย แต่เพราะขาดไขมัน ตอนย่างจึงต้องใช้น้ำมันจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นจะทำให้ไหม้ได้ง่าย

 

 

 


บทที่ 1240 รอบชิงชนะเลิศ! รอบชิงชนะเลิศ!

 

ร่างกายของหอยทากสามารถเก็บน้ำได้มาก หลังย่างจนน้ำออกมาแล้วทาน้ำมันลงไปแทน พวกมันก็สามารถเก็บน้ำมันได้ด้วย ดังนั้นจึงต้องใช้น้ำมันเป็นส่วนผสมเครื่องปรุงในการย่าง เจ้าสิ่งนี้รสชาติอร่อยมาก มันสามารถผสมผสานรสชาติของเครื่องปรุงได้ดีอย่างไร้ที่ติ


หลังฉินสือโอวย่างเสร็จสองเส้นแล้วก็ยื่นให้วินนี่เส้นหนึ่ง เจ้าตัวเล็กพวกนี้อ้วนท้วม มันวาว โดนย่างจนกลายเป็นสีเหลืองทองอ่อนๆ จนกลายเป็นชิ้นเนื้อที่หอมกรุ่น พอได้เข้าปากแล้วรสชาติมีส่วนคล้ายจักจั่นย่าง แต่ว่าจะหอมกว่า นุ่มกว่า


นอกเหนือจากนี้แล้ว หอยทากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำและน้ำมัน เคี้ยวทีเดียวก็มีน้ำมันและน้ำพุ่งออกมาเต็มปาก ช่างเป็นอะไรที่สดใหม่ และหอมหวาน ยิ่งเมื่อผสมผสานเข้ากับเครื่องปรุงแล้ว เป็นรสชาติที่ของย่างอย่างอื่นเทียบไม่ได้เลย


สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เพราะมีปริมาณไขมันต่ำ กินหอยทากจึงไม่ทำให้อ้วนได้ง่าย ผู้หญิงสามารถกินได้มากตามใจชอบ


ฉินสือโอวเดินเรื่อยเปื่อยไปหาชาร์คแล้วพูดกับเขาว่า “เจ้าสิ่งนี้ย่างแล้วรสชาติไม่เลวเลย”


ชาร์คหัวเราะเหอๆ แล้วพูดว่า “แน่นอนสิครับ ตอนเด็กผมชอบไปหว่านแหริมทะเลเพื่อจับพวกมัน สามารถกินได้เต็มอิ่มในฤดูร้อนของทุกปีเลยครับ”


“แล้วปีที่แล้วทำไมนายถึงไม่บอกล่ะ? หอยทากเยอะขนาดนั้น เสียของหมดเลย” ฉินสือโอวพูดพร้อมส่ายหัว ปีที่แล้วก็กินเจ้าพวกนี้เหมือนกัน แต่ว่ากินโดยใช้การอบกับผัดไฟแดง


ชาร์คยักไหล่แล้วพูดว่า “ปีที่แล้วหอยทากไม่อ้วน พวกมันเป็นพวกแตกแยก ไม่เหมาะกับการนำมาย่างกิน เพราะย่างให้น้ำมันออกมาไม่ได้ ทำให้ตอนกินจะรู้สึกแห้งมาก เหมือนกับเนื้อกระต่ายในฤดูใบไม้ผลินั่นแหละครับ”


วิธีการย่างหอยทากของพวกเขามีหลากหลายรูปแบบ นอกจากการย่างทั่วไปอย่างที่ฉินสือโอวทำแล้ว ยังมีการย่างด้วยการทาน้ำเชื่อมเพื่อทำหอยทากย่างหวาน และย่างด้วยการใช้สาหร่ายใบใหญ่มาห่อไว้เพื่อให้เหมือนกับการนึ่งด้วยเป็นต้น วิธีหลากหลาย รสชาติก็ไม่เหมือนกัน


ฉินสือโอวจำวิธีการทำมันฝรั่งบดอบหอยทากที่การ์เซียทำปีที่แล้วได้ จึงไปเก็บเปลือกหอยสะอาดแถวริมทะเลมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็คิดทบทวนวิธีการทำ เขาต้มหอยทากจนสุกก่อน ใส่เกลือและพริกไทยดำ หัวหอม ขึ้นฉ่าย เห็ดหอมและแฮมหั่นเต๋า


จากนั้น เขาก็นำมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วมาปอกเปลือก หั่นชิ้น และบดจนเละ เติมเกลือ ไข่แดงกับเนยสดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นเทบรั่นดีลงในหม้อ พร้อมกับเกลือ ผงพริกไทยดำและกระเทียมเจียว หลังคลุกเคล้าแล้วรอจนเย็นแล้วใส่เข้าไปในเปลือกหอย สุดท้ายใช้เนยปิดปากแล้วใส่เข้าไปในเตาอบ


พ่อของฉินสือโอวก็ทำหน้าที่ของตัวเองปีที่แล้วด้วยเหมือนกัน โดยการทำพริกขี้หนูผัดหอยทาก แต่ทว่าอย่างไรเสียพ่อของฉินสือโอวก็เป็นพ่อครัวเก่ามาก่อน ดังนั้นหอยทากที่ผัดออกมานั้นจึงยังคงสีขาวบริสุทธิ์ของเนื้อหอยทาก สีแดงสดของพริก และสีเขียวขจีของผักไว้ได้ มองดูแล้วทำให้เจริญอาหารได้มากทีเดียว


แลนซ์กลับบ้านไปหยิบค็อกเทลมาสองขวด บอกว่าเป็นของที่น้องชายให้เขามา แต่ฉินสือโอวชิมแล้วรู้สึกไม่ค่อยชินปาก เขายังคงกลับไปดื่มไอซ์ไวน์ที่เอามาจากร้านคุณลุงฮิคสันดีกว่า


ระหว่างกินหอยทากอบกับหอยทากย่างอยู่นั้น ฉินสือโอวก็เรียกให้พวกชาวประมงมาหา แล้วส่งต่อข่าวที่แมทธิว จินบอกกับเขาให้พวกชาวประมง


พวกชาวประมงพากันส่ายหัว ชาร์คพูดว่า “เรื่องนี้ไม่โอเคครับ บอส ผมคิดว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ รสชาติของปลาที่ได้จากฟาร์มปลาของเรานั้นดีที่สุดในแคนาดา…”


“ไม่ ดีที่สุดในโลก!” บูลพูดตัดบทเขาแล้วพูดแทรกขึ้นมา


ชาร์คทำท่าขอยอมแพ้ แล้วพูดว่า “โอเค ดีที่สุดในจักรวาลละกัน สรุปก็คือ พวกเรามีทรัพยากรที่ดีที่สุด สามารถทำเงินได้มากที่สุด เงินที่เราทำได้ก็ถือว่ามากพอแล้ว ทำไมยังต้องขายลูกปลา ลูกกุ้งชั้นดีพวกนี้ให้คนพวกนี้ล่ะครับ?”


แซนเดอร์สเห็นต่างออกไป เขาพูดว่า “ผมรู้สึกว่าคุณภาพปลาของพวกเราดีขนาดนี้ ก็เพราะคุณภาพน้ำของฟาร์มปลาและคุณภาพของหญ้าทะเล ไม่เกี่ยวกับพันธุ์ของปลาหรือกุ้งเลย ถ้าเป็นแบบนี้ทำไมถึงจะเอามาทำเป็นธุรกิจไม่ได้ล่ะ?”


ฉินสือโอวพยักหน้า ศาสตราจารย์สูงวัยคนนี้เป็นมืออาชีพ เขาเคยทำการวิเคราะห์สิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลามาก่อน พบว่าที่ปลากุ้งปูมีรสชาติดี และตัวใหญ่ สาเหตุเป็นเพราะหญ้าทะเลที่คนพากันละเลยนั่นแหละ


นอกจากปลากุ้งปูส่วนหนึ่งที่มีค่าพวกนั้นแล้ว ฉินสือโอวก็ไม่เคยให้พลังโพไซดอนกับสิ่งมีชีวิตอื่นอีกเลย เขาถ่ายเทพลังโพไซดอนให้กับหญ้าทะเล เป็นการพัฒนาคุณภาพของปลาจากต้นเหตุ เท่ากับสามารถอธิบายได้ว่าทำไมคุณภาพปลาจากฟาร์มปลาของเขาถึงได้ดีขนาดนี้


ชาวประมงคนอื่นส่ายหัว ยังคงคิดว่าการนำลูกปลาของตัวเองออกไปจำหน่ายนั้นไม่เหมาะสม เพราะว่าพวกเขาในตอนนี้ถือว่าได้กำสูตรลับไว้อยู่


ฉินสือโอวกลับไม่ใส่ใจ เขาพูดว่า “อย่างไรเสียก็เป็นงานประมูล พวกเราไปดูกันเถอะ บางทีพวกเราอาจจะได้เชื้อพันธุ์สิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีมูลค่าสูงจากฟาร์มปลาอื่นๆ กลับมาก็ได้ นี่คือโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนกันล่ะ”


“แบบนี้ก็ถูกเหมือนกันครับ” ชาร์คพยักหน้า


ฉินสือโอวเห็นชาวประมงคนอื่นอยากจะเถียงต่อ จึงยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วพูดว่า “มาเถอะ เพื่อนฝูงทั้งหลาย วันนี้มีเหล้าก็เมาวันนี้ ไม่ต้องไปสนว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ชนแก้ว พวกเรามาชนแก้ว!”


พวกชาวประมงชูแก้วเบียร์ขึ้น ส่ายเบียร์เข้มข้นในนั้นไปมาแล้วโห่ร้องกันว่า “ชนแก้ว ดื่มด่ำกับปัจจุบัน!”


ปีนี้หอยทากไม่ได้รวมกลุ่มกันมาปรากฏตัว ทำให้คุณภาพดีกว่าปีที่แล้วมาก เมื่ออาหารอุดมสมบูรณ์พวกมันเองก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วย หลังจากนั้นอีกหลายวันฉินสือโอวจึงให้พวกชาวประมงไปออกค้นหาอีก จากนั้นนำมาต้มสุกแล้วแช่แข็งไว้ เท่านี้ก็สามารถกินต่อได้อีกสองเดือนแล้ว


ต้นเดือนกรกฎาคม โรงเรียนประถมแกรนท์ใกล้จะปิดเทอม การแข่งบาสเกตบอลของประถมศึกษาปีที่สี่ถึงหกก็ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว


เพราะมิเชลกับกอร์ดอนเข้าร่วมด้วย โรงเรียนประถมแกรนท์ในปีนี้จึงมาแรงแซงโค้ง กลายเป็นม้าดำของพื้นที่เขตเซนต์จอห์นทันที เอาชนะจนโรงเรียนอื่นๆ ไม่ทันตั้งตัว ทำเอาโรงเรียนที่ฝีมือดีเก่าแก่หลายที่ต้องล้มระนาวไปตามๆ กัน


การแข่งรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ เป็นการแข่งระหว่างโรงเรียนประถมแกรนท์กับผู้ได้รับรางวัลถ้วยเงินจากปีที่แล้วโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อ


นักกีฬาของโรงเรียนหงเฉิงจื่อล้วนเป็นเด็กประถมห้ากับหกทั้งนั้น ชั้นประถมสี่นอกเสียจากว่าจะมีอัจฉริยะบังเกิด ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะได้เข้าร่วมทีมโรงเรียนนี้อย่างแน่นอน ทำให้รูปร่างของนักกีฬาของพวกเขาดูแล้วแข็งแกร่งที่สุด ทั้งสูงและตัวโตกว่าเด็กโรงเรียนอื่นๆ มาก


ปีที่แล้วพวกเขาแพ้ให้กับโรงเรียนคาทอลิกเซนต์ปีเตอร์ด้วยคะแนนห่างกันเพียงเฉียดฉิวที่สองคะแนน ปีนี้พวกเขาแก้แค้นได้สำเร็จ และนำพาความคิดที่จะได้เป็นแชมป์เข้าไปในการแข่งรอบชิงชนะเลิศ


ในตอนนี้ฮิวจ์คุ้นเคยกับหน้าที่การงานของเขามากขึ้นทุกวัน หากบอกว่าเขาเป็นผู้ช่วยครูฝึกแล้วล่ะก็ เรียกว่าเขาเป็นนักวิเคราะห์จะถูกกว่า เขามีสายข่าวมากมายในเซนต์จอห์น ไม่ว่าข้อมูลของคู่แข่งคนไหนก็สามารถหาได้หมด เป็นการช่วยเหลือทีมได้มากเลยทีเดียว


แม้ว่าเป็นการละเล่นของเด็กๆ แต่อย่างไรเสียก็เป็นรอบชิงชนะเลิศ การแข่งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก ช่องโทรทัศน์ทางกีฬาของเซนต์จอห์นก็เข้ามาทำการถ่ายทอดสดด้วย สถานที่จัดการแข่งคือโรงยิมชายฝั่งปลาค็อด ที่นี่คือโรงยิมที่ใหญ่ที่สุดในนิวฟันด์แลนด์


ฉินสือโอวพาพวกเด็กๆ นั่งรถโรงเรียนไปที่โรงยิม กัวซงก็ลางานไปเข้าร่วมการแข่งขันด้วย เพราะการแข่งครั้งนี้สำคัญมากจริงๆ เขาจะต้องเป็นครูฝึกควบคู่กับฉินสือโอวด้วย


และความจริงแล้วครูฝึกหลักของทีมนี้ก็คึอเขาด้วย กลยุทธ์ง่ายๆ ที่ใช้ก่อนหน้านี้ก็เขานี่แหละที่นำมาบอกกับฉินสือโอว จากนั้นฉินสือโอวค่อยสอนให้กับพวกเด็กๆ


สนามบาสเกตบอลนี้มีทั้งหมดแปดพันที่นั่ง แน่นอนว่าคงไม่ถึงกับนั่งจนเต็ม แต่เพราะการแข่งของผู้ชิงอันดับสามกับสี่ก็ถูกจัดที่นี่ด้วย ทำให้ผู้ปกครองที่มาร่วมดูการแข่งขันมีเยอะมาก ผู้เข้าแข่งขันมีทั้งหมดสี่โรงเรียน


โรงเรียนประถมในแคนาดาให้ความสำคัญกับการพัฒนาของกิจกรรมกีฬามาก และยังถือว่านี่เป็นกิจกรรมครอบครัวอีกหนึ่งอย่างด้วย ทุกครั้งที่ถึงการแข่งขันที่สำคัญ โรงเรียนที่เกี่ยวข้องจะพานักเรียนทุกคนมา จากนั้นก็จะให้พวกนักเรียนพาพ่อแม่มาด้วย เท่านี้แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันระดับล่าง แต่บรรยากาศก็ยังคงเข้มข้น

 

 

 


บทที่ 1241 ปีศาจน้ำที่เดือดดาล

 

บนรถโรงเรียน ฉินสือโอวบอกกลยุทธ์การแข่งขันให้กับพวกเด็กๆ “คู่แข่งของพวกเรานั้นแข็งแรงกว่า มีวินัยมากกว่า พวกเขาก็เหมือนกับอเล็กซานเดอร์มหาราชที่จัดระเบียบกองทหารใหม่ ไม่สามารถเอาชนะได้…”


“แต่ว่ากองทหารที่จัดระเบียบใหม่นั้นมีจุดด้อยอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือขาดการเคลื่อนไหวเฉียบพลัน! อย่าได้หลงไปอยู่ในแผนการรบเด็ดขาดนะ เพื่อนตัวเล็กทั้งหลาย อีกเดี๋ยวต้องวิ่งสุดแรงเกิดนะ! ให้ช้างที่เงอะงะพวกนี้ได้ลิ้มรสถึงวิธีการออกล่าของเสือในป่าว่าเป็นอย่างไร วิ่ง ส่งบอล หามิเชล ส่งน็อกเอาท์ให้พวกเขาไปเลย!”


ฉินสือโอวนำแผนกลยุทธ์ที่คิดไว้กับกัวซงบอกกับพวกเด็กๆ แต่จะใช้ได้ไหมนั้นคงพูดยาก อย่างไรเสียก็ยังเป็นแค่เด็กเท่านั้น พวกเขาไม่มีทางเข้าใจกลยุทธ์ที่ยากเกินไป แต่กลยุทธ์ที่ง่ายเกินไปก็ไม่เพียงพอแน่หากอยู่ต่อหน้าคู่แข่งที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ


หนึ่งพละกำลังสยบสิบงาน นักกีฬาของโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อก็มีข้อได้เปรียบเรื่องพละกำลังนี่แหละ


ฉินสือโอวรู้ว่าพวกเด็กๆ กลัวอะไร ดังนั้น หลังจากนั้นเขาจึงพูดประโยคให้กำลังใจอีกสักพัก กัวซงรอจนเขาพูดจบแล้วก็เดินมาข้างตัวเขาแล้วพูดเสียงเบาว่า “กำลังใจนั้นไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ให้พวกเด็กๆ พักผ่อนสักพักเพื่อรักษาสมาธิไว้ดีกว่า”


ท่านชายฉินเงียบไม่พูดอะไร เขาพยายามสุดกำลังแล้ว การพาทีมสภาพนี้มาไกลถึงรอบชิงชนะเลิศได้นั้นจะต้องขอบคุณความแข็งแกร่งของกอร์ดอนและมิเชล


นอกจากสองคนนี้ จากสภาพโดยรวมของทีมแล้ว ความสามารถของพวกเขาถือว่าแย่มาก หากใช้คำที่กำลังฮิตในอินเทอร์เน็ตมาพูดก็คือ “ฉันไม่ได้หมายถึงใครเป็นพิเศษนะ ฉันแค่บอกว่าทุกคนที่นั่งอยู่นั้น ล้วนเป็นขยะทั้งนั้น!”


การแข่งขันเริ่มจากให้ที่สามกับที่สี่มาแข่งกันก่อน หลังจากพวกเขามาถึงการแข่งขันก็เริ่มไปได้สักพักแล้ว มีคนมาพาพวกเขาเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็พักอีกสักครู่ ฉินสือโอวพยายามให้กำลังใจอีกรอบเป็นครั้งสุดท้าย การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว เหล่านักกีฬาเริ่มต่อแถวเดินเข้าสนาม


โรงยิมนี้ไม่เหมือนกับสถานที่ก่อนๆ ที่พวกเขาไปแข่งมาเลย มีจอฉายภาพขนาดใหญ่แขวนอยู่กลางอากาศ พื้นสนามใหม่เอี่ยมเงาวับ หลังกอร์ดอนเข้าสนามแล้วก้มลงมองดู จากนั้นก็พูดกับฉินสือโอวด้วยสีหน้าดีใจว่า “ฉิน เหมือนกับกระจกเลยครับ”


พอดีกับที่มีเด็กร่างกายกำยำหลายคนเดินเข้ามาพอดี เมื่อเห็นการกระทำของกอร์ดอนแล้ว คนที่สูงหนึ่งเมตรแปดในนั้นคนหนึ่งก็พูดล้อเลียนขึ้นมาว่า “ไม่เคยเห็นสนามบาสเกตบอลที่ได้มาตรฐานเหรอไง? ไม่น่าล่ะทุกคนถึงบอกว่าพวกนายเป็นพวกชาวประมงบ้านนอก รีบไสหัวกลับไปที่เรือของพวกนายซะ บาสเกตบอลไม่ใช่กีฬาที่พวกนายจะเอื้อมแตะได้หรอกนะ”


เด็กพวกนี้ใส่เสื้อกีฬาสีแดงอมส้ม เห็นได้ชัดว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อที่เข้าสนามมาก่อน


เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของกอร์ดอนก็เปลี่ยนไปทันที ปั้นหน้าถมึงทึงรีบเข้าไปตะโกนว่า “ไอ้โง่ แกไม่อยากมีฟันแล้วใช่ไหม?”


มิเชลที่กำลังอบอุ่นร่างกายอยู่นั้นรีบเข้าไปแยกกอร์ดอนกับเด็กกลุ่มนั้น แต่สุดท้ายกลับมีคนมาผลักเขาไปทีหนึ่ง แล้วพูดอย่างโหดร้ายว่า “ไอ้หนู อย่ามาใกล้ฉันมาก ฉันทนไม่ได้กับกลิ่นคาวปลาเน่าๆ!”


มิเชลโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาจ้องตาเขม็งไปที่เด็กกลุ่มนั้น ไม่พูดอะไร แค่ดึงกอร์ดอนเดินกลับไป


ฉินสือโอวมองดูเงียบๆ อยู่ข้างๆ เขาเดาว่าเด็กพวกนี้น่าจะจงใจอยากมาหาเรื่อง เขาเคยดูเอกสารนักกีฬาของโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อแล้ว เด็กสามคนนี้ล้วนไม่ใช่ตัวเต็ง


เห็นได้ชัดว่า พวกเขารู้ถึงความเก่งกาจของกอร์ดอนกับมิเชลจึงจงใจมาหาเรื่องให้พวกเขามีเรื่องชกต่อย จากนั้นกอร์ดอนกับมิเชลก็จะถูกไล่ออกจากสนาม แค่นี้โรงเรียนประถมแกรนท์ก็แพ้อย่างแน่นอนแล้ว


กรรมการสังเกตเห็นท่าทีดุเดือดของทั้งสองฝ่ายจึงเดินเข้ามา นักเรียนโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ เพื่อนร่วมทีม แล้วมองหน้าหาเรื่องฝั่งโรงเรียนประถมแกรนท์


ฉินสือโอวไม่ออกตัวใดๆ เขายืนมองลูกทีมของตัวเอง พวกแซม วอล์กเกอร์ เกรย์ที่ยืนประจันหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง แม้ว่าจะมีกลัวบ้างเล็กน้อย แต่ยังคงลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องกอร์ดอนกับมิเชลไว้


แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่ท่านชายฉินพยักหน้าในใจ เจ้าพวกเด็กกลุ่มนี้ไม่เลว


การแข่งขันยังไม่ทันเริ่มแต่นักกีฬาทั้งสองทีมกลับจะตีกันขึ้นมา เมื่อเห็นแบบนี้ทำเอาผู้เข้าชมที่นั่งอยู่พากันเดือดขึ้นมา เด็กๆ ทั้งหลายพากันโห่ร้องออกมาอย่างดุดัน “จัดการเจ้าพวกบ้านนอกสารเลวนี่ไปเลย!” “สั่งสอนบทเรียนให้พวกมันเลยสิกอร์ดอน!” “คุณพ่อปล่อยมือ ผมจะลงไปสั่งสอนเจ้าพวกเลวนี่!”


เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะตีกันขึ้นมา กรรมการรีบเข้ามาใกล้ เตือนให้ทั้งสองฝ่ายแยกกัน สุดท้ายนักเรียนจากโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อจึงเดินกลับไปยังจุดอบอุ่นร่างกายของตัวเองอย่างได้ใจ ราวกับทหารที่ได้รับชัยชนะตั้งแต่ยังไม่เข้าใกล้อย่างไรอย่างนั้น


ในการปะทะกันครั้งนี้ ถือว่าทีมของโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อชนะแล้ว เพราะว่าพวกเขามาหาเรื่องถึงฝั่งโรงเรียนประถมแกรนท์ แต่ยังสามารถกลับไปอย่างสง่างามได้อีก แค่นี้ก็ถือว่าชนะแล้ว


เรื่องนี้ทำให้ความฮึกเหิมพุ่งขึ้นมาทันที กองเชียร์ที่นั่งอยู่ฝั่งนักเรียนของโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อก็โห่ร้องอย่างเหิมเกริมด้วย


กลับตรงกันข้าม ความฮึกเหิมของทางฝั่งโรงเรียนประถมแกรนท์กลับมีเพียงน้อยนิด ฉินสือโอวมองเห็นจุดนี้ จึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “พวกเธอเห็นแล้วนะ พวกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดูถูกพวกเธอ เพื่อนๆ ของพวกเขาก็ดูถูกพวกเธอ ผู้ปกครองของพวกเขาเองก็ดูถูกพวกเธอ!”


กอร์ดอนพูดอย่างหัวเสียว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉิน พวกเรารู้เรื่องต่ำช้าพวกนี้ดี!”


ฉินสือโอวมองดูพวกเด็กๆ ที่กำลังเศร้าอย่างจริงจัง แล้วตะเบ็งเสียงออกมาทันทีว่า “ทำไมจะพูดไม่ได้? ฟังให้ดีนะ คนแพ้ไม่มีสิทธิ์ให้คนมานับถือหรอก! ถ้าหากพวกนายไม่ชนะ ถ้าหากพวกนายกลัว งั้นก็ไม่มีใครมานับถือพวกนาย! ไม่มีใครจะมาเคารพพวกนาย!”


“นายนึกว่ามีแค่คู่แข่งที่ดูถูกพวกนายงั้นเหรอ? ไม่!” ฉินชี้ไปที่กัวซงที่กำลังคุยอยู่กับกรรมการว่า “แม้แต่คนคนนั้นก็ดูถูกพวกนาย! รู้ไหมว่าตอนอยู่บนรถช่วงท้ายเขาพูดกับฉันว่าอะไร? เขาบอกว่าพวกนายเป็นแค่กลุ่มมือใหม่สมัครเล่น บอกว่าแค่พวกนายได้รางวัลถ้วยเงินก็ถือว่าพระเจ้าคุ้มครองแล้ว!”


พวกเด็กๆ โกรธกันสุดขีดแล้ว พากันใช้สายตาอาฆาตจ้องไปที่กัวซง พวกเขาอาจจะมีฝีมือไม่เท่าคนอื่น แต่คนที่อ่อนไหวง่ายอย่างพวกเขาไม่ยอมให้มีคนมาดูถูกผลงานที่พวกเขาได้มาอย่างยากลำบาก


ฉินสือโอวพูดด้วยเสียงจริงจังว่า “พวกนายอยากชกเขาไหม? ชกให้เหมือนกับที่อยากชกเจ้าพวกที่อยู่ตรงข้ามเมื่อกี้เหรอ? ไม่ เรื่องบนสนามบาสเกตบอลก็ต้องแก้ปัญหาบนสนามบาสเกตบอล! ไปอบอุ่นร่างกาย! ไปเตรียมลงแข่ง! ไปสู้ ไม่ตายก็ไม่ยอมถอยให้กับคู่แข่ง!”


“บอกกับทุกคน พวกเราคือที่หนึ่ง! พวกเราคือราชาแห่งนิวฟันด์แลนด์! ศักด์ศรีของราชาจะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยี! ใครกล้าเหยียดหยามเรา ก็ต้องให้พวกเขาเสียใจ! ไป! พวกเราคือราชา จะต้องชนะได้แน่!”


“พวกเราคือราชา! จะต้องชนะได้แน่!”


เด็กทั้งกลุ่มพากันตะโกนออกมา สุดท้ายฉินสือโอวดึงตัวมิเชลไว้ แล้วพูดด้วยสีหน้านิ่งว่า “นายเป็นฝ่ายป้องกัน ฝ่ายป้องกันของเพื่อนร่วมรบของนายล้วนเป็นชาวประมง แต่บนตัวพวกเขาไม่ได้มีเพียงกลิ่นคาวปลาเท่านั้น ยังมีกลิ่นคาวเลือดของฉลามด้วย!”


มิเชลพยักหน้าหนักแน่น ยังคงไม่พูดอะไร แต่สายตาแน่วแน่


อบอุ่นร่างกาย ร้องเพลงชาติแคนาดา จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มตั้งเกมกันบนสนามแข่งเพื่อเตรียมเริ่มการแข่งขัน


ดูจากขนาดร่างกายแล้ว นักกีฬาจากโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อดูแข็งแรงกว่าพวกมิเชลเท่าหนึ่ง แต่ว่าตอนโยนบอลขึ้นไปนั้นแซมไม้ไผ่ยังคงออกตัวได้อย่างสวยงาม เขาตบบอลที่กรรมการโยนขึ้นไปลงมาได้ในทีเดียว


มิเชลได้รับบอลแล้วก็รีบเร่งฝีเท้าออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ราวกับพายุหมุนพัดผ่าน คนของโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อรีบกลับไปทำการป้องกัน แต่พอเข้าไปถึงเขตเส้นสามคะแนนแล้ว มิเชลก็เปลี่ยนทิศทางถอยหลังกลับ เขากระโดดเพียงทีเดียวเท่านั้นสามแต้มก็ถึงมือแล้ว!


“สวบ!” เสียงดังฟังชัด ลูกบาสผ่านเข้าไปในห่วง


3-0 มิเชลไม่มองกระดานคะแนน เขามองคู่แข่งด้วยท่าทางสุขุม ราวกับว่าไม่ได้ทำอะไรเลยอย่างนั้น


โรงเรียนประถมแกรนท์เริ่มแผนการรุกอย่างหนักหน่วง ทางฝั่งหงเฉิงจื่อจ่ายบอลออกไป กองหลังของพวกเขาที่ถือบอลอยู่ก็เริ่มลดแรงโน้มถ่วงของร่างกายลงเลี้ยงบอลแล้ววิ่งไปข้างหน้า


ตอนนี้กอร์ดอนทิ้งตำแหน่งป้องกันของเขาลง ราวกับจิ้งจอกภูเขาเขาวิ่งฝ่าเข้าไปในกองหลังที่ถือบอลอยู่ของฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปเพื่อจะแย่งบอล


เด็กคนนั้นไหวตัวทันรีบพลิกตัวปกป้องบอลไว้ แต่ตอนนี้มิเชลที่จ้องเขาอยู่ตลอดได้ออกตัวแล้ว แขนที่ยาวเหยียดนั้นสะบัดออกไปอย่างรวดเร็ว ทีเดียวก็แย่งบอลมาได้แล้ว


หลังจากแย่งบอลมาได้แล้ว พอดีกับที่มิเชลหันหน้าเข้าหาห่วงของพวกเขาอยู่แล้ว เขาเลี้ยงลูกวิ่งไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็หยุดลง ขาทั้งสองข้างก้าวไปอย่างรวดเร็ว ก้าวสามก้าวใหญ่ๆ พุ่งเข้าไปในพื้นที่เขตกำหนด


จากนั้น สองเท้ากระโดดกระแทกไปบนสนามอย่างแรงทีหนึ่ง ราวกับนกอินทรีที่สยายปีกบินไปบนฟ้าไกล ยกแขนขึ้นสูงทั้งสองข้าง จับบอลไว้เหวี่ยงออกมาจากหลังหัว เหวี่ยงแขนแล้วกดบอลกระแทกลงไปในห่วง!


“สุบ!” เสียงหยุดลง ตามด้วยเสียงร้องของนักเรียนกับผู้ปกครองที่มาดู พวกเขาพูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาว่า “โอ้ แสลมดังก์!”


แม้ว่าแป้นบาสที่ใช้ในการแข่งขันของนักเรียนประถมจะเตี้ยกว่ามาตรฐานไปหน่อย แต่ว่าในการแข่งขันของนักเรียนประถมนั้นกลับไม่มีคนสามารถทำท่าแสลมดังก์ได้เลย โดยเฉพาะกับเมืองเล็กๆ ที่การกีฬาไม่พัฒนาอย่างเซนต์จอห์นแห่งนี้


แต่แสลมดังก์ของมิเชลเมื่อครู่นี้นั้นเป็นของแท้แน่นอน จอแสดงภาพที่แขวนอยู่กลางอากาศของสนามได้เริ่มฉายภาพซ้ำเมื่อกี้ออกมา เป็นภาพช้าที่แสดงให้เห็นถึงท่าแสลมดังก์ที่สวยงามไร้ที่ติของมิเชล


แสลมดังก์เสร็จลงถึงพื้น มิเชลยังคงไม่ดูการเปลี่ยนแปลงของกระดานคะแนน เขาวิ่งผ่านคู่แข่งที่กำลังตาค้างอยู่ แล้วพูดเสียงเบาว่า “จำวันนี้ไว้นะ ฉันมาสอนแทนพ่อแม่และครูของพวกนาย ว่าการเคารพคนอื่นต้องทำอย่างไร!”


กอร์ดอนเข้าไปผลักมิเชลทีหนึ่งอย่างดีใจ แล้วตะโกนว่า “เพื่อน นายถึงขั้นแสลมดังก์ได้เลยเหรอเนี่ย!”


เมื่อเห็นพี่น้องตัวเองแล้ว มิเชลก็ยิ้มออกมา แล้วก็กลับไปทำหน้าสุขุมเหมือนเดิมแล้วพูดว่า “แสลมดังก์ได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฉันจะทำลายเจ้าพวกสารเลวพวกนั้นซะ!”


แม้ว่าสีหน้าส่วนใหญ่ของมิเชลมักแน่นิ่งเหมือนน้ำในบ่ออยู่แล้ว แต่คนที่สนิทกับเขาต้องรู้สึกได้แน่นอน เขาเดือดขึ้นมาแล้ว!

 

 

 


บทที่ 1242 ประชุม

 

‘เกิดเหตุฆาตกรรมครั้งใหญ่ที่โรงยิมปลาค็อด แต่ผู้ก่อเหตุกลับเป็นปีศาจน้ำ’ ‘หนังสือพิมพ์กีฬาเซนต์จอห์น’ พาดหัวข่าวนี้ในการเขียนข่าวเกี่ยวกับการแข่งรอบชิงชนะเลิศของนักเรียนชั้นประถมปีที่สี่ถึงหก


“นี่คือการถ่ายทอดรายการข่าวกีฬาของเซนต์จอห์น อันดับแรกจะเป็นการรายงานข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันบาสเกตบอลรอบชิงชนะเลิศของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ถึงหก โรงเรียนประถมแกรนท์ได้รับถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะอันดับหนึ่ง ชนะโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อไปในคะแนน 85-50 ในคะแนนนี้หัวหน้าทีมของโรงเรียนประถมแกรนท์มิเชล เออร์บักได้ทำคะแนนไป 52 คะแนนในการเข้าสนามไป 48 นาที โดยทำรีบาวด์ 12 ครั้ง และแย่งบอลได้ 8 ครั้ง…”


อย่างไรเสียก็เป็นเพียงการละเล่นระหว่างพวกเด็กๆ แม้ว่าจะเป็นการแข่งรอบชิงชนะเลิศก็เถอะ แต่การรับชมจากคนภายนอกก็ยังไม่มากนัก สำนักข่าวท้องถิ่นก็มีเพียงหนังสือพิมพ์กีฬากับช่วงข่าวกีฬาภาคค่ำเท่านั้นที่มาทำข่าว หัวข้อข่าวที่เขียนโดยสำนักข่าวเหล่านั้นค่อนข้างเกินจริง การบรรยายข่าวก็ธรรมดาเกินไป


ในความเป็นจริงแล้วการแข่งขันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น และไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้นด้วย โรงเรียนประถมแกรนท์ใช้การแข่งขันครึ่งแรกในการเอาชนะคู่แข่ง มิเชลลงสนามครึ่งแรกไป 24 นาทีก็ทำคะแนนจากการชู้ตและชู้ตจุดโทษได้ถึง 34 คะแนน ส่วนทางโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อนั้นลูกทีมทั้งหมดรวมกันกลับทำคะแนนได้ไม่ถึง 30 คะแนนเลยด้วยซ้ำ


หลังจากเขาทำคะแนนจากการแสลมดังก์ได้สำเร็จแล้ว นักกีฬาของโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อก็ลนลานกันขึ้นมาทันที พวกเขาเพิ่งจะเข้าใจในตอนนี้นี่เองว่าคู่แข่งที่พวกเขากำลังเจออยู่นั้นน่ากลัวเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก


ในการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพมีข้อเท็จจริงอยู่สองประโยค ประโยคแรกก็คือยิ่งใกล้ห่วงบาสเท่าไรก็ยิ่งเอาชนะได้ง่ายเท่านั้น อีกประโยคคือบาสเกตบอลเป็นกีฬาสำหรับห้าคน เป็นกีฬาสำหรับทีม


แน่นอนว่านี่คือข้อเท็จจริงในการแข่งระดับมืออาชีพ ดังนั้นจึงไม่มีผลกับการแข่งขันของโรงเรียนประถม อย่างน้อยแค่มิเชลคนเดียวก็ทำลายข้อเท็จจริงข้อที่สองนั้นไปได้แล้ว


เขาทำคะแนนสามแต้มในสนามได้อย่างต่อเนื่องๆ ใช้การชู้ตสามแต้มระยะไกล ทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้สนิท และการโจมตีในแต่ละครั้งของเขายังเหมือนกับมีดแหลมคมที่ปักเข้าไปกลางอกคู่แข่ง ทำเอาพวกเขาเจ็บปวดแสบไปถึงทรวงอีก


มิเชลทำคะแนนระยะไกลด้วยสีหน้าที่แน่นิ่งและยังทำแต้มด้วยท่าที่ยากที่สุดได้อย่างสวยงาม ราวกับว่าบนตัวเขามีกลิ่นอายของปีศาจอยู่จริงๆ อย่างนั้น เขาได้ทำเอาคู่แข่งหน้าซีดเซียวไปตามๆ กันเลย


จบการแข่งขัน ฉินสือโอวให้มิเชลชูถ้วยสีทองที่เป็นสัญลักษณ์แทนผู้ชนะอันดับหนึ่งขึ้น ตอนนี้นี่เองที่เจ้าตัวเพิ่งจะเผยสีหน้าดีใจที่เด็กควรจะมีออกมา แต่แม้ว่าจะในตอนนี้ รอยยิ้มของเขาก็ยังเต็มไปด้วยความเขินอายและถ่อมตน


เมื่อได้ถ้วยรางวัลมาแล้ว ฉินสือโอวก็เดินส่ายไปมาโอ้อวดอยู่หน้ากัวซง แล้วพูดอย่างได้ใจว่า “ดูสิ ใครว่ากำลังใจทางจิตวิญญาณไม่ได้ผล? นี่ก็คือถ้วยรางวัลที่ได้มาจากกำลังใจนั่นล่ะ”


กัวซงเต็มไปด้วยสีหน้าแปลกใจ นายว่าอะไรน่ะ?


นักข่าวที่เข้ามาในสนามหลังจบการแข่งขันมาสัมภาษณ์ฉินสือโอว ท่านชายฉินก็พูดออกไปอย่างไม่เกรงใจใครว่า “ที่พวกเราได้รับรางวัลชนะเลิศนั้นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้วครับ เพราะพวกเรามีนักกีฬาที่ดีที่สุด และทีมที่ดีที่สุดด้วย ผมกล้าพูดได้ว่าในการแข่งขันบาสเกตบอลของโรงเรียนประถมในเซนต์จอห์นนั้น มิเชลอยู่ระดับหนึ่ง ที่เหลืออยู่อีกระดับหนึ่ง อนาคตของเขาก็คือ NBA เขาในวันนี้คือดวงดาวเจิดจ้าดวงใหม่ของวงการกีฬาในแคนาดา!”


ท่าทีของท่านชายฉินที่พูดคำพูดเหล่านี้นั้นเรียกได้ว่าน่าประทับใจดั่งขุนเขากับลำธารใหญ่ และรัศมีปกคลุมไปทั่วราวกับเสือคำราม แต่หลังจบการสัมภาษณ์แล้วคำพูดเหล่านี้ของเขากลับไม่ปรากฏอยู่บนทีวี และไม่ได้ปรากฏบนหนังสือพิมพ์ด้วย แม้กระทั่งบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีเช่นกัน


ให้ตายสิเซ็งจิตจริงๆ ท่านชายฉินผิดหวังแล้ว…


ไม่ว่าผู้ชมภายนอกจะเป็นอย่างไร แต่กีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนประถมแกรนท์นั้นได้รับความสนใจขึ้นมากอย่างน่าประหลาดใจ นี่ก็คือผลกระทบที่ได้จากการเป็นผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่ง


ส่วนโรงเรียนประถมแกรนท์ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อเสียงและไม่มีสิทธิ์แม้แต่ขอยกเลิกการตั้งโรงเรียน เพราะข่าวเรื่องการได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ทำให้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง มีเด็กที่ชื่นชอบบาสเกตบอลทำเรื่องย้ายมาเรียนที่นี่จำนวนไม่น้อย เพียงเพื่อที่จะเข้าร่วมกับทีมนี้


มิเชลยังคงทำตัวไม่โดดเด่นเช่นเคย แต่เขาไม่ใช่คนเก็บตัวอีกต่อไปแล้ว เขากลายเป็นคนมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ยืนอยู่ในสนามนั้นเขาเต็มไปด้วยความอยากเอาชนะ เหมือนกับคำเตือนที่ฉินสือโอวบอกกับเขาไว้ว่า ต้องเป็นฉลาม!


กลางเดือนกรกฎาคม เหล่านักเรียนประถมปิดเทอม ฉินสือโอวกลับต้องไปร่วมงานประชุมลูกปลา


งานครั้งนี้จัดขึ้นที่ท่าเรือบาสก์ ซึ่งเป็นเมืองติดชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ และยังเป็นเมืองที่สำคัญรองลงมาจากน่านน้ำเซนต์จอห์นของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ในปัจจุบัน


พูดแล้วก็ทำเอาคนปวดใจยิ่งนัก ทะเลนิวฟันด์แลนด์ที่เคยเป็นถึงหนึ่งในสี่ฟาร์มปลาใหญ่ ในตอนนี้กลับกลายเป็นฟาร์มปลาร้าง จำนวนปลาที่เก็บเกี่ยวได้เยอะที่สุดยังมาจากอ่าวๆ เดียวอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ในศตวรรษที่แล้วเลย


ฉินสือโอวนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปที่ท่าเรือบาสก์ เขาให้เจนนิเฟอร์ช่วยจองโรงแรมให้ล่วงหน้าแล้ว เป็นโรงแรมห้าดาวแห่งเดียวในท่าเรือบาสก์ โรงแรมฮิลตัน


เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์เดินเข้าไปโรงแรม กลับพบกับคนคุ้นเคยคนหนึ่ง ผู้กำกับใหญ่คาเมรอน


เมื่อเห็นฉินสือโอว คาเมรอนทั้งดีใจและประหลาดใจ ดึงตัวเขาไว้แล้วถามว่า “คุณมาเพื่อส่งตัวนิมิตส์ให้ผมเหรอ?”


ฉินสือโอวถามอย่างงุนงงว่า “เริ่มถ่ายทำตั้งแต่ตอนนี้แล้วเหรอครับ? พวกคุณทำการถ่ายทำกันที่ท่าเรือบาสก์เหรอ?”


คาเมรอนส่ายหัวแล้วพูดว่า “แค่มาเก็บภาพเท่านั้น สถานที่ถ่ายทำจริงๆ อยู่ที่นิวยอร์ก คุณมาทำอะไรที่นี่? ไม่ได้มาส่งตัวนิมิตส์ให้ผมหรอกเหรอ?”


ไม่ต้องรอฉินสือโอวตอบ ผู้กำกับใหญ่มองดูสีหน้าของเขาแล้วก็ยักไหล่อย่างผิดหวัง แล้วพูดว่า “เอาเถอะ ดูท่าผมคงไม่ต้องรีบทำการถ่ายทำแล้วล่ะ”


ฉินสือโอวรู้สึกเสียใจเล็กน้อยจึงกล่าวว่า “ครั้งนี้ผมมาร่วมงานประมูลของกรมประมง รอผมเสร็จธุระแล้วจะรีบส่งนิมิตส์ไปให้นะ โอเค? ให้ส่งไปนิวยอร์กเลยหรือเปล่า?”


“ไม่ ไมอามี่ ส่งไปที่ไมอามี่ได้เลย ตอนนี้ทีมงานเอฟเฟกต์ของเราอยู่ที่นั่น พวกเขาเป็นคนทำภาพสามมิติให้กับนิมิตส์น่ะ” คาเมรอนพูดด้วยเสียงดีอกดีใจ


ทั้งสองคนต่างมีธุระต้องทำ จึงนัดทานข้าวเย็นแล้วก็จากกัน ฉินสือโอวโทรหาพวกของโดนัลด์ พวกเขาเองก็จะมาร่วมงานประมูลธุรกิจการประมงด้วย


โดนัลด์และพวกไม่ได้จองห้องพักที่โรงแรมฮิลตัน แต่เป็นโรงแรมระดับสามดาวแห่งหนึ่ง เมื่อได้รู้ว่าฉินสือโอวพักอยู่ที่โรงแรมฮิลตัน ทุกคนจึงพากันอิจฉาแล้วบอกว่านายนี่เป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ประสบความสำเร็จจริงๆ พวกเราเป็นกันมาหลายสิบปีแล้วก็ยังเทียบนายไม่ได้เลย


ฉินสือโอวพูดเล่นออกไปว่าเขาสามารถมอบพันธุ์ปลาให้ฟาร์มของพวกเขาได้นะ แค่นี้หลังจากนี้ไม่กี่ปีพวกเขาก็สามารถพักโรงแรมห้าดาวได้แล้ว


โดนัลด์และพวกฟังคำพูดนี้แล้วก็ตื่นตัวกันขึ้นมา เขาถามว่า “ฉิน นายพูดจริงใช่ไหม? ในงานประมูลครั้งนี้ นายจะเอาพันธุ์ปลาของนายมาออกประมูลด้วยเหรอ? ถ้าหากว่าจะขายจริงๆ งั้นฉันจะได้เตรียมเงินไว้ล่วงหน้า จะต้องเอาพันธุ์ปลาของนายมาอยู่ในมือให้ได้”


ฉินสือโอวบอกว่าเขาจะเข้าร่วมประมูลด้วยแน่นอน แต่ว่าจะเป็นพันธุ์ปลาประเภทไหนยังต้องดูสถานการณ์ของงานประมูลก่อน


ความจริงเขาไม่อยากนำลูกปลาของฟาร์มปลาตัวเองขายให้กับเพื่อนอย่างพวกโดนัลด์ เพราะเขารู้ว่าพันธุ์ปลาของตัวเองเป็นเพียงพันธุ์ธรรมดาเท่านั้น สิ่งที่ไม่ธรรมดาเป็นหญ้าทะเลและพลังโพไซดอนต่างหาก แต่คนที่ซื้อพันธุ์ปลาของเขาไปนั้นไม่มีของพวกนี้ ทำให้ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี


หลังจากเตรียมงานมาทั้งวัน ตอนเย็นงานประมูลก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ระยะเวลาจัดงานคือสองวัน เย็นวันนี้จะเป็นการแนะนำพันธุ์ปลากุ้งปูในปัจจุบันของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำการพูดคุยกันก่อน เมื่อมีสินค้าที่สนใจจะได้คุยเรื่องวิธีการเลี้ยงกันเป็นการส่วนตัวได้

 

 

 


บทที่ 1243 ไม่เป็นดังคาด

 

กรมประมงให้ความสำคัญต่องานประมูลอุตสาหกรรมการประมงในครั้งนี้มาก เพราะว่านี่ก็คือการทดลองอย่างหนึ่ง หากว่าประสบความสำเร็จแล้วสามารถนำไปโปรโมต จะทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาสามารถทำกำไรได้มากมาย เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้มีคนที่ทำธุรกิจเพาะเลี้ยงปลามาร่วมงานกันค่อนข้างเยอะ


และเพราะอย่างนี้ พิธีกรเปิดงานประมูลในครั้งนี้จึงเป็นแมทธิว จิน ประธานกรมประมงของแคนาดามาออกโรงด้วยตัวเอง


บางครั้งฉินสือโอวก็รู้สึกว่าชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของประเทศเหล่านี้ก็ไม่ได้ดีเท่าไรนัก อย่างคำที่ว่า ‘ชีวิตก็เหมือนคนดื่มน้ำ จะเย็นหรืออุ่นมีแค่คนดื่มเท่านั้นที่รู้ได้’ ในสายตาคนภายนอกเห็นแต่เพียงว่าแมทธิว จินดูแลฟาร์มปลาในแคนาดาทั้งหมด ออกคำสั่งคำเดียวก็สามารถทำให้ฟาร์มปลาดังกล่าวรุ่งโรจน์หรือปิดตัวลง ทำให้คนกว่าพันคนต้องตกงานหรือมีงานทำได้ แต่จะมีใครกันที่รับรู้ถึงแรงกดดันที่เขาแบกรับไว้ล่ะ?


การได้พบกับแมทธิว จินในครั้งนี้ เป็นการพบกันที่ผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งปี ฉินสือโอวรู้สึกว่าท่านประธานคนนี้แก่ตัวลงอย่างเห็นได้ชัด รอยตีนกาข้างดวงตาก็ชัดขึ้นมามาก


เทียบกันแล้วชีวิตของฉินสือโอวถือว่าดีกว่าเยอะ เขาอิสระราวกับก้อนเมฆและนกกระเรียนป่า ฟาร์มปลาเป็นดั่งอ่างเก็บสมบัติที่สามารถทำเงินให้เขาได้เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย


และถ้าเงินขาดมือจริงๆ เขาก็สามารถไปหาเรืออับปางใต้ทะเลมาลำหนึ่ง ตอนนี้ก็กำลังงมเรือบรรทุกทองคำอับปางลำหนึ่งด้วย หากว่าสามารถงมขึ้นมาได้แล้ว ทรัพย์สมบัติของเขาก็สามารถเพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลายอีกแล้ว


ปกติแมทธิว จินต้องคอยคิดว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจการประมงอย่างไร ฉินสือโอวล่ะ? สิ่งที่เขาคิดก็คือคืนนี้กินอะไร พรุ่งนี้จะพาลูกสาวไปเที่ยวไหนดี…


หลังพบหน้ากันแล้วแมทธิว จินไม่ได้พูดอะไรกับเขามาก ทั้งสองเพียงจับมือก็จากกันแล้ว หลังจากนั้นฉินสือโอวก็โดนพวกโดนัลด์กับชาวประมงที่คุ้นเคยลากเข้าไปในกลุ่ม


คนที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้มีจำนวนไม่น้อย คาดว่ามีถึงสองร้อยกว่าชีวิต ยืนเบียดกันเต็มงานไปหมด คนเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือพวกที่หากินกับอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เป็นหลัก อีกกลุ่มคือหากินกับน่านน้ำรอบมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือเป็นหลัก


หลังจากฉินสือโอวมาถึงแล้ว โดนัลด์ก็ลากตัวเขาออกไป แต่ถูกขัดโดยเจ้าของฟาร์มปลากลุ่มอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ที่เข้ามาพูดคุยสร้างสัมพันธ์ด้วย หัวข้อสนทนาเริ่มจากผู้กำกับดังคาเมรอนจะมาถ่ายทำภาพยนตร์


ต้นแบบของพระเอกในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือท่านชายฉินคนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขารู้สึกภาคภูมิใจมาก หากว่าเป็นสามปีก่อน เขาคงไม่กล้าคิดว่าจะมีวันที่ตัวเองจะเป็นต้นแบบการทำภาพยนตร์ของผู้กำกับจากฮอลลีวูดหรอก


แน่นอนว่าตอนนั้นเขาก็คงไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะได้รับการต้อนรับอย่างดีในประเทศต่างถิ่นด้วย ในงานประมูลแทบจะทุกคนที่อยากจะเป็นเพื่อนกับเขา การต้อนรับที่เขาได้รับนั้นแทบจะมากกว่าประธานอย่างแมทธิว จินด้วยซ้ำ


โดนัลด์พูดกับเขาอย่างไม่อิจฉาว่า “นายกลายเป็นคนที่น่าหลงใหลจากทุกคนแล้ว เพื่อน ดีนะที่พวกเราไม่ได้จัดงานปาร์ตี้ ไม่อย่างนั้นนายคงได้เป็นราชาประจำงานแน่”


ฉินสือโอวถามอย่างสบายอารมณ์ว่า “แล้วฉันทำให้นายหลงใหลได้หรือเปล่า?”


โดนัลด์หัวเราะเหอๆ แล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ถ้าหากนายยอมขายพันธุ์ปลาของปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาอลาสก้าพอลล็อคกับปลาแฮดดัคแล้วล่ะก็ งั้นฉันต้องหลงใหลนายอย่างแน่นอน”


ด้วยจุดประสงค์เดียวกันนี้ คนอื่นๆ ที่มาสานสัมพันธ์กับเขา ก็เพราะอยากได้ลูกปลากุ้งปูของเขาเหมือนกัน


เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางทะเลระหว่างประเทศทำได้ยากขึ้น ธุรกิจการประมงของแคนาดาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของประเทศ เจ้าของฟาร์มปลาที่อยากทำเงินต้องพึ่งการส่งออก แทบจะทุกคนที่นี่ก็ล้วนทำธุรกิจส่งออกกันทั้งนั้น


แต่ว่า สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกไม่สู้ดีนัก ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ทางทะเลของแคนาดาดิ่งลงเรื่อยๆ ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาพากันหวั่นใจกันหมด


เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ตั้งของทางรัฐบาลแคนาดาด้วย เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ทำให้น้ำทะเลทั้งน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือหรือมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือได้รับมลภาวะค่อนข้างน้อย และพวกปลากุ้งปูในน่านน้ำเย็นนั้นเติบโตได้ช้า แต่อุดมไปด้วยสารอาหาร และรสชาติดี


ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทางทะเลของแคนาดาล้วนถูกจัดให้เป็นสินค้าชั้นดีทั้งหมด และจากที่เศรษฐกิจของทุกประเทศพากันตกต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้กำลังในการซื้ออาหารทะเลชั้นดีถดถอยลงไปด้วย สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือพวกเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหลาย


ผลิตภัณฑ์ทางทะเลชั้นดีอย่างพวกหอยงวงช้าง ปูหิมะ ปูดันเจเนสส์ ปลิงทะเลขั้วโลกเหนือ และปลิงขาว ในช่วงสิบปีแรกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด จำนวนการส่งออกของแคนาดาล้วนนับเป็นหน่วยร้อยตันทั้งหมด แต่การส่งออกในปัจจุบัน แค่สามารถทำได้ปีละหลายร้อยตันก็ถือว่ายากมากแล้ว


ปีนี้จำนวนการส่งออกของเมนล็อบสเตอร์สูงขึ้นมาก แต่เพราะกุ้งมังกรแก๊ฟคี่ ทำให้ปริมาณการเก็บเกี่ยวของกุ้งมังกรในแคนาดาลดลงอย่างมาก แม้แต่ตลาดในประเทศก็ยังไม่สามารถจัดจำหน่ายได้ ใครจะเอาไปส่งออกอีก?


ที่ฉินสือโอวได้รับความสนใจขนาดนี้ ก็เพราะสถานการณ์ของเขาไม่เหมือนกัน ในตอนที่อาหารทะเลของทุกคนขายไม่ออกนั้น เขาได้สร้างแบรนด์อาหารทะเลต้าฉิน แถมยังเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องการขายเลยสักนิด จะไม่ทำให้คนอิจฉาชิงชังได้อย่างไร?


เจ้าของฟาร์มปลาที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนมีสมองทั้งนั้น พวกเขารู้ว่าอิจฉาชิงชังไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำทุกวิถีทางที่จะสานสัมพันธ์กับฉินสือโอว เพื่อหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเขา ให้ผลิตภัณฑ์ตัวเองเข้าไปอยู่ในแบรนด์ต้าฉินด้วย


พวกเขาต่างก็คำนวณมาก่อนแล้ว แม้ว่าจะขายในราคาต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ของฟาร์มปลาต้าฉินครึ่งหนึ่ง ก็สามารถทำกำไรได้มหาศาล!


หลังจากคนมาร่วมงานได้พอสมควรแล้ว แมทธิว จินก็ประกาศเริ่มงาน ช่วงแรกเป็นการเปิดโอกาสให้ถามคำถาม เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาสามารถถามเกี่ยวกับนโยบายและสถานการณ์ปัจจุบันของการค้าผลิตภัณฑ์ทางทะเล หากมีคำแนะนำที่ดีก็สามารถบอกได้ ให้ทุกคนปรึกษาหารือร่วมกัน


โดนัลด์กระตือรือร้นมาก เขาเข้าไปยื้อแย่งจนได้โอกาสเป็นคนแรกที่ออกความเห็น เขาเริ่มยิงนัดแรกให้แมทธิว จินเลยทันที “ท่านประธาน พวกเราอยากทราบว่าใกล้จะถึงฤดูจับปลาค็อดกับปลาแฮร์ริ่งแล้ว ปริมาณที่ให้พวกเราจับได้นั้นสามารถเพิ่มขึ้นอีกนิดได้ไหมครับ?”


เพื่อเป็นการปกป้องให้ธุรกิจฟาร์มปลาเติบโตได้ต่อเนื่อง ทางแคนาดาจึงค่อนข้างระมัดระวังกับปริมาณการจับปลาในทะเล จะมีการอ้างอิงสถานการณ์การจับปลาและการจำหน่ายในช่วงห้าปีเพื่อคำนวณหาจำนวนที่เหมาะสม จากนั้นค่อยนำตัวเลขที่ได้มาทำการลดจำนวนลงอีกนิด สุดท้ายจึงจะได้เป็นตัวเลขที่ทุกคนต้องยึดตามในการจับปลา


ฟาร์มปลาจะดีกว่านิดหนึ่ง เรือหาปลาที่ออกไปจับปลาในทะเลจำเป็นต้องซื้อใบอนุญาตในการจับปลาทุกลำ และบนใบอนุญาตนี้จะมีปริมาณมาตรฐานในการจับปลาอยู่ ไม่สามารถจับเกินกว่านั้นได้ ดังนั้นเรือลำหนึ่งออกทะเลไปจะสามารถทำเงินได้เท่าไรนั้นแทบจะสามารถคำนวณออกมาล่วงหน้าได้เลย


แมทธิว จินเงียบไปสักครู่ แล้วพูดว่า “ถึงแม้จะเพิ่มปริมาณการจับได้แล้วอย่างไร? พวกคุณคิดว่าตลาดสามารถรองรับปลากุ้งปูจำนวนมากขนาดนั้นได้เหรอ? ถ้าหากรองรับไม่ไหว แล้วพวกคุณคิดว่าจะทำอย่างไร? ลดราคาขายเหรอ?”


“เรื่องนี้เป็นเรื่องระดับประเทศ พวกเราเป็นคนเลี้ยงปลา ไม่ได้ทำงานด้านการนำเข้าส่งออก” มีคนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง


เมื่อมีหนึ่งคนไม่พอใจ คนอื่นๆ ก็เริ่มคล้อยตามด้วย บรรยากาศในงานวุ่นวายขึ้นมาในทันที สองปีมานี้พวกเจ้าของฟาร์มปลาส่วนมากจะขาดทุนไม่ใช่ได้กำไร ทำให้เก็บกดกันมาก เมื่อมีโอกาสได้ระบายให้ประธานของกรมประมง จะมีใครไม่อยากระบายบ้าง?


ฉินสือโอวประสานมือทั้งสองข้างไว้ไม่ออกความเห็น สถานการณ์แบบนี้เขาไม่ร่วมด้วยจะดีกว่า


แต่ตอนนี้เขาที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกี่ยวข้องด้วย แมทธิว จินทำการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปยังตัวเขาทันที เขากล่าวว่า “ผมรู้ว่าเจ้าของฟาร์มปลาหลายคนที่นี่ต่างขาดทุนกัน แต่ทำไมเจ้าของฟาร์มปลาหนุ่มคนหนึ่งกลับทำกำไรได้ แล้วเจ้าของฟาร์มปลาเก่าแก่ที่มากด้วยประสบการณ์อย่างพวกคุณ กลับขาดทุน?”


สายตาคนนับร้อยจับจ้องไปที่ฉินสือโอว ท่านชายฉินยิ้มและพยักหน้าให้กับคนรอบข้าง แต่ในใจกลับด่าตาแก่แมทธิว จินว่าไม่มีคุณธรรมเสียจริง นี่มันเป็นการเอาเขาไปแขวนไว้บนเตาย่างนี่นา


ดีที่ว่าเขาได้เตรียมเตาย่างไว้ก่อนแล้ว จึงสามารถผ่านด่านนี้ไปได้  “ผมต้องขอบคุณคนคนหนึ่ง…”

 

 

 


บทที่ 1244 กุ้งขาวและปลายอดม่วง

 

“นั่นก็คือผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงด้านสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล ผู้ก่อตั้งการศึกษาทางพันธุกรรมของมหาสมุทรนานาชาติ ศาสตราจารย์มากวิชาด้านการศึกษามหาสมุทรของมหาวิทยาลัยโทรอนโต คุณแซนเดอร์ส วอร์ตัน!”


ท่านชายฉินยื่นมือชี้ไปข้างๆ อย่างชั่วร้าย เพื่อทำการแนะนำผู้เชี่ยวชาญแซนเดอร์สที่รับเคราะห์แทน จากนั้นก็พูดต่อว่า “ผมก็แค่ใช้ความรู้ที่ได้รับจากศาสตราจารย์แซนเดอร์ส ใช้วิธีการเลี้ยงแบบวิทยาศาสตร์เท่านั้น ทุกคนก็สามารถลองได้นะครับ ผมคิดว่าขนาดคนโง่อย่างผมยังสามารถประสบผลสำเร็จได้บ้าง ทุกท่านจะต้องสามารถประสบผลสำเร็จได้เยอะเลยล่ะครับ”


จากนั้นสายตาอันรุ่มร้อนของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็เปลี่ยนไปอยู่ที่ตัวแซนเดอร์สแทน ในใจศาสตราจารย์สูงวัยกำลังระเบิดไม่หยุด เขาอยากจะบอกกับฉินสือโอวคำหนึ่งว่านายประชดกว่านี้ได้อีกไหม? เสียดายที่สถานที่นี้ไม่อำนวยนัก


หลังจบช่วงการปรึกษาหารือแล้ว พนักงานของกรมประมงก็นำสมุดเล่มเล็กราวกับสมุดภาพแจกให้กับทุกคน ฉินสือโอวรับมาเล่มหนึ่งแล้วเปิดดู ข้างในเป็นข้อมูลการเก็บเกี่ยวของเจ้าของฟาร์มปลาที่ได้รับความสนใจ


เมื่อก่อนไม่สามารถจัดงานประมูลประเภทนี้ขึ้นมาได้ นอกจากเรื่องวิสัยทัศน์แล้ว ยังเป็นเพราะการคัดค้านจากเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาด้วย


ก็เหมือนกับฟาร์มเลี้ยงวัวแพะไก่เป็ด สถิติการตายของฟาร์มแต่ละที่นั่นไม่เหมือนกัน คุณภาพของสัตว์ที่เลี้ยงมาก็ไม่เหมือนกันด้วย ตัวอย่างเช่นคนญี่ปุ่นเก่ง ที่สามารถเลี้ยงวัววากิวที่เป็นสัตว์แย่งเงินออกมาได้


ดังนั้น ฟาร์มปลาที่ประสบความสำเร็จแต่ละที่ก็จะมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นความลับที่พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ การทำกำไรก็ต้องพึ่งเจ้าสิ่งนี้นั่นแหละ และเป็นธรรมดา ที่สิ่งที่เรือขโมยปลาอยากขโมยที่สุดก็คือสินค้าของพวกเขาเหล่านี้


พวกเจ้าของฟาร์มปลาไม่อยากให้สินค้าขึ้นชื่อของตัวเองเปิดเผยออกมา ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนทรัพยากรเหรอ? ช่างเถอะ พวกเขาแค่ปกป้องพื้นที่สามในสิบของพวกเขาไว้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนหรอก


แต่ตอนนี้ไม่หมือนกัน เศรษฐกิจซบเซา ส่วนทางด้านส่งออกก็ตกต่ำลงทุกปี พวกเขาไม่สามารถปิดตัวได้อีกต่อไปแล้ว


อีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฉินสือโอวยินยอมที่จะแบ่งทรัพยากรฟาร์มปลาของเขาให้ เทียบกับฟาร์มปลาต้าฉินที่สามารถยืนหยัดแบรนด์ของตัวเองไว้ได้นั้น ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของพวกเขาเทียบไม่ติดแม้เพียงขี้เล็บเลย


ฉินสือโอวเปิดดูสมุดภาพ ภาพแรกก็เกี่ยวกับฟาร์มปลาของเขาเลย เป็นการแนะนำข้อมูลของปลาลิ้นหมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาลิ้นหมาเกล็ดเงินของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เพราะปลาลิ้นหมาของฟาร์มปลาต้าฉินในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ตรงส่วนหลังมีเกล็ดเงินที่เกาะกลุ่มกันเป็นเส้นสีเงินเพิ่มขึ้นมา ทำให้ได้ชื่อนี้มา


แต่ทว่า ปลาลิ้นหมาชนิดนี้ยังไม่ได้ถือว่าเป็นพันธุ์ใหม่ จากกฎการตั้งสายพันธุ์ใหม่ของวิทยาศาสตร์ธรรมชาตินั้น การจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ได้จำเป็นต้องมีการแบ่งแยกของการสืบพันธุ์ แน่นอนว่าปลาลิ้นหมาของฟาร์มปลาต้าฉินยังไม่มี


เจ้าของฟาร์มปลาที่นั่งอยู่ด้านหน้าฉินสือโอวพลิกดูสมุดภาพรอบหนึ่ง ก็หันหลังกลับมาถามอย่างตื่นเต้นว่า “เฮ้ ฉิน นายสนใจขายลูกปลาลิ้นหมาเกร็ดเงินบ้างไหม? ฉันยินดีให้ราคาสูงเลยนะ”


โดนัลด์ที่อยู่ข้างๆ เบะปากแล้วพูดว่า “แวร์น นายอย่าฝันหวานไปเลย แม้ว่าฉินยินดีจะแบ่งลูกปลาชนิดนี้ แต่งานประมูลเริ่มพรุ่งนี้นะ ถ้าหากนายอยากซื้อ ก็ไปเตรียมเงินให้พร้อมไว้ดีกว่า”


แวร์นเจ้าของฟาร์มปลาหัวเราะร่าสองทีแล้วหันหน้ากลับไป เปิดดูสมุดภาพต่อ


ภาพที่สองก็ยังคงเกี่ยวกับฟาร์มปลาต้าฉิน ภาพนี้เป็นภาพของปลาทะเลตัวแบนมหาสมุทรแอตแลนติก


ปลาชนิดนี้สามารถโตจนมีขนาดใหญ่ที่มีความยาวสองสามเมตรได้ไม่มีปัญหา พวกมันเป็นปลาน้ำลึก อาศัยอยู่ในหินทรายและโคลนใต้น้ำลึก 50-2000 เมตร กระจายตัวอยู่ตั้งแต่แลบราดอร์ถึงกรีนแลนด์จนถึงเกาะน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และทะเลแบเรนตส์ตอนใต้ไปจนถึงอ่าวบิสเคย์


ปลาทะเลตัวแบนของฟาร์มปลาต้าฉินไม่เพียงแต่ตัวใหญ่ เนื้อก็เยอะและแน่น ซอสปลาลิ้นหมาสำหรับย่างที่กำลังได้รับความนิยมในนิวยอร์กตอนนี้ ก็ใช้ชิ้นเนื้อปลาลิ้นหมาของฟาร์มปลาต้าฉินด้วย ราคาสูง แน่นอนว่ารสชาติก็ดี เปี่ยมไปด้วยสารอาหาร


ฉินสือโอวพลิกดูสักพัก แล้วหาผลิตภัณฑ์ทะเลที่ตัวเองสนใจ


ว่าไปแล้ว ผลิตภัณฑ์ทะเลของฟาร์มปลาของเขานั้นถือว่าหลากหลายแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ ไม่สามารถทำให้เขาใช้สร้างเป็นแบรนด์สำหรับอาหารทะเลได้


จากความคิดของเขาและบัตเลอร์ แบรนด์อาหารทะเลต้าฉินต้องครอบคลุมไปด้วยผลิตภัณฑ์ทางทะเลอย่างน้อยหนึ่งร้อยชนิดจึงจะใช้ได้ แน่นอนว่ายิ่งเยอะก็ยิ่งดีกว่า


เปิดจนถึงหน้าที่สี่ มีกุ้งชนิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในสายตาของเขา กุ้งกุลาดำฉบับพัฒนาแล้ว


ทั่วโลกมีกุ้งขาวอยู่แค่ 28 ชนิด หนึ่งในนั้นที่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของทวีปอเมริกามี 7 ชนิด ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกมี 6 ชนิด มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกมี 14 ชนิด มหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมี 1 ชนิด แอฟริกาตะวันตกมี 1 ชนิด  ในทั้งหมดนี้ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคือกุ้งขาวของญี่ปุ่น จีนและกุ้งกุลาดำ


กุ้งกุลาดำในสมุดภาพนั้นเป็นกุ้งขาวชนิดที่สามารถโตได้มาก สามารถโตจนมีความยาวได้ถึงสามสิบเซนติเมตร ตัวเดียวก็มีน้ำหนักมากถึงหนึ่งชั่ง


กุ้งชนิดนี้ไม่เพียงแต่สามารถโตจนมีขนาดใหญ่เท่านั้น เนื้อยังสดใหม่ เต็มไปด้วยสารอาหาร เปลือกของพวกมันค่อนข้างแข็งแรง สามารถทนทานต่อการใช้มือจับได้ นอกเหนือจากนี้แล้วความทนทานในการออกจากน้ำแล้วอยู่ในอากาศก็มากอีกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้สามารถจำหน่ายกุ้งตัวเป็นๆ ได้


ฉินสือโอวเปิดดูต่ออย่างสนใจ กุ้งขาวชนิดนี้มาจากฟาร์มปลาแห่งหนึ่งในรัฐโนวาสโกเชีย เจ้าของฟาร์มมีชื่อว่านิโค ตู้ ดูจากนามสกุลแล้วน่าจะเป็นชาวจีน ทำให้เขายิ่งสนอกสนใจขึ้นมา


ผลิตภัณฑ์ทางน้ำที่สามารถอยู่บนสมุดภาพได้นั้นล้วนแต่เป็นของที่มีจุดขายทั้งนั้น สิ่งที่กุ้งกุลาดำที่พัฒนาแล้วชนิดนี้ต่างจากแบบเก่าก็คือ มันสามารถปรับตัวได้กับน่านน้ำที่ค่อนข้างหนาวเย็น!


แม้ดูเหมือนจุดที่พัฒนาแล้วจุดนี้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับเป็นประโยชน์อย่างมากในการโปรโมตกุ้งกุลาดำ


กุ้งกุลาดำเป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกุ้งขาว พวกมันสามารถต้านทานโรคได้ดี มีความสามารถในการปรับตัวกับความเค็ม สามารถอยู่ได้ในพื้นที่อุณหภูมิสูงและออกซิเจนต่ำได้ แต่เสียตรงที่ความสามารถในการปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำค่อนข้างน้อย โชคร้ายตรงที่อุณหภูมิของน้ำในฤดูหนาวของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือนั้นค่อนข้างหนาวเย็น ไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของกุ้งกุลาดำ


กรมประมงใส่ใจกับความเป็นส่วนตัวของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลามาก บนนั้นจึงมีเพียงการแนะนำข้อดีของกุ้งขาวอย่างคร่าวๆ เท่านั้น ไม่ได้มีข้อมูลที่ละเอียดมาก เพื่อเป็นการรักษาเคล็ดลับในการเลี้ยงกุ้งชนิดนี้ไว้นั่นเอง


แม้ว่าการรักษาลิขสิทธิ์ของทางแคนาดาจะค่อนข้างเข้มงวด แต่ว่าเคล็ดลับการเพาะเลี้ยงไม่ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในการรักษาลิขสิทธิ์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ญี่ปุ่นเก็บเคล็ดลับการเลี้ยงวัววากิวไว้ในกางเกงตัวเองนั่นเอง เพราะเมื่อเปิดเผยออกมาแล้วก็จะถูกคนอื่นแย่งไปเลียนแบบทันที


ฉินสือโอวยื่นกุ้งกุลาดำให้แซนเดอร์สดู แล้วถามเสียงเบาว่า “พวกเราเพาะเจ้านี้ดีไหมครับ? สามารถทำได้หรือเปล่า?”


เพราะศาสตราจารย์สูงวัยเคยประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปูดันเจเนสส์มาแล้ว ตอนนี้จึงเป็นตอนที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขาศึกษาอยู่สักพักแล้วก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ได้ ไม่มีปัญหา!”


ฉินสือโอวพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็เปิดอ่านต่อไป ไม่นานก็เห็นผลิตภัณฑ์ทางน้ำที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือปลายอดม่วงพันธุ์มินิ


ปลายอดม่วงก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของปลาทะเลตัวแบน บ้านเกิดของฉินสือโอวเรียกมันว่าปลาลิ้น ปลาชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน เนื้อละเอียดรสชาติดี มีประโยชน์แถมยังอร่อย จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก


ที่ฟาร์มปลาก็มีปลายอดม่วง แถมยังเป็นปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสที่มีค่ามากกว่าเสียด้วย ปลาชนิดนี้มีเนื้อค่อนข้างน้อย ตอนกินให้ความรู้สึกลื่นไหล แม้จะต้มนานเนื้อก็ไม่แก่ ไม่มีกลิ่นคาวและกลิ่นแปลกปลอม จัดว่าเป็นปลาที่มีโปรตีนและคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก


ความหมายอีกอย่างของคำว่ามีค่า ก็คือมีน้อยนั่นเอง


ปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสอร่อยก็จริง แต่ว่าพวกมันกระจัดกระจายอยู่ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ มีจำนวนน้อยมากในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ฉินสือโอวเคยใช้พลังไซดอนพัฒนาปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสแล้ว แต่สุดท้ายก็ทำให้พวกมันอ้วนขึ้น โตไวขึ้นเท่านั้น ความสามารถในการขยายพันธุ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย


เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสจึงไม่สามารถอยู่ในรายการจัดจำหน่ายทั่วไปได้ เป็นเรื่องที่ทำให้คนรู้สึกเสียดายไม่น้อยเลย


ปลายอดม่วงพันธุ์มินิชนิดนี้นี่แหละ ที่ทำให้เขามีหวังที่จะขยายการเพาะเลี้ยงออกไปได้

 

 

 


บทที่ 1245 ถึงตาฉันประมูลแล้ว

 

เช้าตรู่วันที่สอง งานประมูลลูกปลาได้เริ่มขึ้น


กรมประมงและรัฐบาลแคนาดาให้ความสำคัญกับงานประมูลนี้มาก เพราะการประมงเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศแคนาดาที่เกี่ยวพันถึงการงานของคนนับล้านและการบริโภคของคนนับสิบล้านเลย ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา ธุรกิจรายได้หลักนี้แหละที่จะต้องทำผลงานออกมา


ดังนั้นรัฐบาลจึงทำการเชิญผู้สื่อข่าวจำนวนมากมาในงานประมูลนี้ด้วย เจ้าของฟาร์มปลาที่เข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้มีไม่ถึงสองร้อยคน แต่นักข่าวและช่างภาพจากทุกสำนักรวมกันมีถึงสี่ห้าสิบคน ถือว่ามีจำนวนเยอะมากทีเดียว


ตอนที่ฉินสือโอวเดินเข้าไปในงานนั้นราวกับเขาเป็นดาราดังเลย เขากับแซนเดอร์สกำลังคุยกันเรื่องปลายอดม่วงพันธุ์มินิอยู่ ทันใดนั้นกล้องถ่ายภาพทั้งหลายก็โผล่ออกมาทั้งสองข้างทาง เต็มไปด้วยแสงไฟสาดส่องเข้ามาทันที


แม้ว่าจะมีการเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ท่านชายฉินก็ยังตกใจกับภาพที่เห็น เขาลูบจมูกแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจออกมาว่า “ไม่ตายสิ รู้สึกว่าช่วงนี้ผมจะมีชะตาต้องกันกับนักข่าวเสียจริง อัตราการออกงานของผมนี่น่าจะเทียบได้กับดารารองแล้วหรือเปล่านะ?”


งานเลือกตั้งของวินนี่ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของโรงเรียนประถมแกรนท์ และงานประมูลลูกปลาในครั้งนี้ ล้วนก็มีนักข่าวเข้าร่วมด้วยทั้งนั้น


แซนเดอร์สวิเคราะห์แทนฉินสือโอวสักพัก แล้วพูดว่า “บอส ผมค้นพบจุดที่น่าสนใจมากจุดหนึ่ง คุณดูนะ ตอนที่เลือกตั้งนายกเทศมนตรี นักข่าวแทบไม่ได้สนใจคุณเลย ตอนงานแข่งขันคุณก็เป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น แต่ตอนนี้คุณได้เป็นถึงพระรองแล้ว แล้วต่อไปล่ะ…”


“ไม่นะ ศาสตราจารย์ ผมในตอนนี้เป็นพระเอกหรือเปล่า?” ฉินสือโอวตอบกลับไปอย่างดีใจ


แซนเดอร์สยักไหล่แล้วพูดว่า “คุณแน่ใจเหรอครับ? ผมว่าพระเอกน่าจะเป็นแมทธิว จินนะ”


ฉินสือโอวคิดสักพัก ถอนหายใจแล้วพูดว่า “คุณพูดถูก แมทธิวสิที่เป็นพระเอก”


“ไม่เป็นไรครับ หากปล่อยไปตามสถานการณ์ตอนนี้ ครั้งหน้าคุณต้องได้เป็นพระเอกแน่ อย่าท้อใจไปเลยครับ” แซนเดอร์สพูดปลอบใจเขา


ฉินสือโอวส่ายหัว แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับมาพูดด้วยเสียงประหลาดใจว่า “เฮ้ย ผมจะท้อใจทำไม? ผมเป็นเจ้าของฟาร์มปลานะ ไม่ใช่ดาราสักหน่อย!”


สำหรับนักข่าวแล้ว ฉินสือโอวอาจจะไม่ใช่พระเอก แต่สำหรับเหล่าเจ้าของฟาร์มปลา ฉินสือโอวเป็นบุคคลหลักอย่างไม่ต้องสงสัยเลย หลังจากเขาเข้าไปในงานแล้วก็มีคนมาทักทายเขาไม่ขาดสาย แต่คนส่วนมากเหล่านั้นท่านชายฉินกลับไม่รู้จักพวกเขาเลย


ภายหลังแมทธิว จินมาถึง เขาทำการกล่าวเปิดก่อน จากนั้นค่อยเชิญพิธีกรสวมถุงมือขาวผู้ชำนาญการมาดำเนินงานประมูลต่อ


งานประมูลที่ฉินสือโอวเคยเข้าร่วมมาก่อนหน้านี้ เขาเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ในทุกงาน เขาเป็นฝ่ายที่เสนอสินค้าออกประมูล ครั้งนี้แม้ว่าเขายังคงเป็นฝ่ายเสนอสินค้าออกประมูล แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือเขาจะเข้าร่วมการประมูลด้วย เพราะเขาได้เล็งผลิตภัณฑ์ทะเลไว้หลายอย่างเลย


แมทธิว จินกล่าวเปิดได้กระชับและแจ่มแจ้งเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และขั้นตอนของงานประมูลในครั้งนี้ คนต่างระดับกัน สิ่งของที่สนใจก็ไม่เหมือนกัน ฉินสือโอวรู้สึกว่างานประมูลแบบนี้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการประมงของแคนาดาได้เยอะเลยทีเดียว


หน้าที่ของเจ้าของฟาร์มปลาคือการมาซื้อผลิตภัณฑ์ทะเลสายพันธุ์ต่างๆ เรื่องการขายลูกปลาลูกกุ้งลูกปูนั้นล้วนเป็นหน้าที่รองทั้งนั้น แต่ว่าก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ แต่เพราะพวกเจ้าของฟาร์มปลามีกำลังไม่เพียงพอ จำนวนลูกพันธุ์ที่ผลิตได้ในแต่ละปีก็มีจำนวนจำกัด


เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอแค่พันธุ์ผลิตภัณฑ์ทะเลพวกนี้สามารถขายได้ในราคาสูง พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็ยินดีที่จะทำแล้ว


สิ่งที่งานประมูลอุตสาหกรรมการประมงเสนอให้ก็คือเวทีนี้นั่นเอง วัตถุประสงค์ของงานประมูลนี้คืออะไร? แมทธิว จินพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ก็คือโก่งราคา โก่งราคาของพันธุ์ผลิตภัณฑ์ทะเลขึ้นไป!


การโก่งราคานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ไม่เหมือนกับฟองสบู่ในเศรษฐกิจ ไม่เหมือนกับการโก่งราคาอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ทุกคนต่างไม่ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนทรัพยากรกัน ผลิตภัณฑ์ทางทะเลหลายชนิดจึงสามารถผลิตได้แค่ในบริเวณเล็กๆ เท่านั้น อีกอย่างสภาพที่อยู่อาศัยของพวกมันในตอนนี้ก็ใช่ว่าจะเหมาะสมที่สุด


การโก่งราคาพันธุ์ผลิตภัณฑ์ทะเล พวกเจ้าของฟาร์มปลามีหวังที่จะได้ผลประโยชน์ หนำซ้ำกำไรยังมากพอให้พวกเขาหวั่นไหวอีกด้วย จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะยอมนำพันธุ์ผลิตภัณฑ์ทะเลคุณภาพดีออกมาแบ่งปัน สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมการประมงของแคนาดาเลยทีเดียว


ในด้านนี้ทางประเทศจีนมีการจัดการได้ดีกว่า เพราะว่างานจำพวกนี้เป็นงานของรัฐบาล การนำเข้าพันธุ์ใหม่ พัฒนาพันธุ์ใหม่ จากนั้นค่อยนำมากระจายให้กับท้องถิ่น รัฐบาลลงเงินและทรัพยากรให้ ประชาชนเพียงรอรับผลประโยชน์ก็พอ


นี่คือข้อดีของระบบสังคมนิยม แต่ทว่าเพราะมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของการจัดแบ่งงานของประเทศจีนนั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ความหลากหลายของสายพันธุ์ใหม่ที่นำเข้ามาหรือการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่นั้นมีน้อยเกินไป ไม่มีกำลังมากพอ


แคนาดาไม่เหมือนกัน กรมประมงเป็นผู้ดูแลจัดการไม่ใช่ผู้บริการ พวกเขาเจ้าของฟาร์มปลาอยากจะเพาะพันธุ์อะไรให้คิดหาวิธีเอาเอง จะพัฒนาอย่างไร นำเข้าอย่างไร ล้วนเป็นเรื่องของตัวเอง รัฐบาลไม่เข้ามายุ่ง


ดังนั้น เจ้าของฟาร์มปลาใหญ่อย่างฉินสือโอวจึงต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางทะเลอย่างแซนเดอร์สเพื่อมาช่วยตัวเองดูแลฟาร์มปลา ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น เจ้าของฟาร์มปลาที่มาร่วมงานกว่าสองร้อยกว่าคน ต่างก็จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทะเลหรือไม่ก็ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้กันทั้งนั้น


เทียบกันแล้ว ความรู้ด้านวัฒนธรรมของเจ้าของฟาร์มปลาในแคนาดานั้นถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเองก็สู้พวกเขาไม่ได้


การโก่งราคาพันธุ์ผลิตภัณฑ์ทะเลในงานประมูล ก็คือวิธีการอย่างหนึ่ง ทั้งขับเคลื่อนทรัพยากรให้หมุนเวียน แลกเปลี่ยนและขยายทรัพยากรล้ำค่าได้อย่างไร้ที่ติ และยังสามารถปรับรูปแบบใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ทะเลที่มีค่าได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย


หลังแมทธิว จินพูดจบ ผู้คนในงานส่งเสียงปรบมือกันประปราย พวกเจ้าของฟาร์มปลาไม่ได้นับถืออะไรประธานกรมประมงแต่อย่างใด ในสายตาพวกเขารัฐบาลนั้นไร้ความสามารถมาก ช่วยเหลือพวกเขาไม่ค่อยได้ ไม่อย่างนั้นทำไมธุรกิจของพวกเขาถึงทำยากขึ้นทุกวัน กำไรที่ได้ก็น้อยลงทุกวันล่ะ?


สำหรับงานประมูลอุตสาหกรรมการประมงในครั้งนี้ เป็นงานที่รัฐบาลควรต้องทำอยู่แล้ว พวกเขาจ่ายภาษีมากมายเพื่อเลี้ยงชีวิตพนักงานพวกนี้ ก็เพื่อให้พนักงานเหล่านี้ทำงาน นี่ถือว่าเป็นงานบริการพื้นฐานอย่างหนึ่ง


ฉินสือโอวปรบมืออย่างตั้งใจ ก็เพราะเขาเห็นแก่หน้าแมทธิว จิน เมื่อเจ้าของฟาร์มปลารอบๆ เห็นเขาปรบมืออย่างจริงจังแล้ว ก็พากันจำใจให้เกียรติเขา พากันปรบมือตาม


เมื่อเป็นแบบนี้ ไม่นานเสียงปรบมือจึงดังขึ้นมา นักข่าวรอบๆ รีบพากันถ่ายภาพ เพราะนี่แหละเป็นภาพประชาสัมพันธ์ที่รัฐบาลต้องการ


ชายถุงมือขาวขึ้นเวที เปิดงานประมูลอย่างเป็นทางการ ชิ้นแรกที่นำออกมาเป็นปลาชนิดหนึ่งจากฟาร์มปลาของฉินสือโอว ปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก


ปลาที่เยอะที่สุดในฟาร์มปลาต้าฉินก็คือปลาค็อด ปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างมีค่าในสายพันธุ์ปลาค็อด ผสมพันธุ์ค่อนข้างง่าย สามารถขายได้ตั้งแต่ปลาตัวเมียที่กำลังตั้งไข่ไปยังลูกปลา


งานประมูลขายเฉพาะลูกปลาเท่านั้น หนึ่งหมื่นตัวนับเป็นหนึ่งหน่วย ฉินสือโอวสามารถให้ได้ประมาณห้าหน่วย ดังนั้นจึงออกประมูลในจำนวนห้าหน่วย


งานประมูลครั้งนี้ยืมวิธีการประมูลของบริษัทจัดประมูลริชชี่ โซเธบี้ และคริสตีส์มาใช้ มีการโชว์ลูกปลาและยังมีภาพบรรยากาศปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกในฟาร์มปลาต้าฉินฉายให้ดูอีกด้วย


ความจริงไม่ต้องทำให้ยุ่งยากแบบนี้ก็ได้ พวกเจ้าของฟาร์มปลาล้วนเป็นคนในวงการนี้ ต่างก็รู้ถึงสภาพบรรยากาศปลาค็อดในฟาร์มปลาต้าฉินดี ครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว ปลาค็อดที่แพงที่สุดในตลาดก็มาจากฟาร์มปลาต้าฉิน และตั้งแต่ครึ่งปีหลังมา ก็ไม่พบเจอในตลาดอีกเลย เพราะแบรนด์อาหารทะเลต้าฉินได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว


ชายที่สวมถุงมือขาวใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นและกระตือรือร้นในการแนะนำสภาพของลูกปลา ตามด้วยการบอกราคา “ปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกห้าหน่วย ราคาเริ่มต้นของแต่ละหน่วยคือสองหมื่นดอลลาร์แคนาดา ราคาเคาะแต่ละครั้งคือ500 ดอลลาร์แคนาดา!”


เสียงผู้คนในงานประมูลพากันดังเซ็งแซ่ขึ้นมาแล้ว

 

 

 


บทที่ 1246 การยื้อแย่งปลาค็อดมหาสมุทร...

 

ผลิตภัณฑ์ทางทะเลที่เข้าร่วมการประมูลมีทั้งหมด 68 ชนิด เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของฟาร์มปลานิวฟันแลนด์ หนำซ้ำนี่ยังเป็นช่วงที่มีผลผลิตน้อย หากว่าเป็นช่วงเก็บเกี่ยวแล้วล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องจัดงานประมูลแบบนี้เลย เพราะในช่วงเก็บเกี่ยวนั้นพวกเจ้าของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ไม่ขัดสนเรื่องเงินกันอยู่แล้ว


แน่นอนว่าพันธุ์ผลิตภัณฑ์ทางทะเลพวกนี้ยังมีพวกพันธุ์ผสมด้วย อย่างเช่นปลาค็อด ที่ฟาร์มปลาต้าฉินได้เสนอให้ถึงสี่สายพันธุ์ ฟาร์มปลาอื่นๆ ก็เสนอปลาค็อดด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าคุณภาพเทียบกับฟาร์มปลาต้าฉินไม่ได้ แต่ดีกว่าตรงที่ราคาจะถูกกว่า


อย่างเช่นปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก ลูกปลาของฟาร์มปลาต้าฉินตั้งราคาที่หน่วยละสองหมื่นดอลลาร์แคนาดา ตกเฉลี่ยลูกปลาตัวหนึ่งราคาสองดอลลาร์แคนาดา ราคานี้ไม่ถูกเลย สถิติของลูกปลาที่เติบโตในฟาร์มปลาคือร้อยละยี่สิบ หรือก็คือการจะเลี้ยงปลาตัวหนึ่งให้โตได้ แค่ต้นทุนก็ต้องใช้ไปสิบดอลลาร์แคนาดาแล้ว!


ราคาที่ฟาร์มปลาทั่วไปให้มาจึงถูกลงไปมาก ตอนหลังมีฟาร์มปลาแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ฟาร์มปลาไทเซล’ เสนอราคาปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกเริ่มต้นอยู่ที่หน่วยละแปดพันดอลลาร์แคนาดา ราคาประมูลที่ทั้งสองฝ่ายให้ต่างกันถึงสองเท่าครึ่ง!


แม้ว่าราคาลูกปลาของฟาร์มปลาต้าฉินจะสูง แต่ก็ยังเกิดการแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ฟาร์มปลาไทเซลไม่มีวันได้รับแน่นอน


ปลาของใครดี พวกเจ้าของฟาร์มปลารู้ชัดแจ่มแจ้ง แม้ว่าการเพาะเลี้ยง คุณภาพน้ำ และอาหารล้วนเป็นปัจจัยสำคัญของอุตสาหกรรมการประมง แต่ลูกปลาที่ดีสามารถเลี้ยงให้โตเป็นปลาที่ดีกว่าได้ จุดนี้ใช้หลักการเดียวกับการใช้สารเคมีปลูกพืชนั่นแหละ


ปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกของฟาร์มปลาต้าฉินครองตลาดปลาค็อดทั่วอเมริกาเหนือ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเลี้ยงให้ได้คุณภาพเท่ากัน ขอแค่สามารถเลี้ยงให้เหมือนได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ ก็สามารถทำกำไรได้มากแล้ว


เสียงชายที่สวมถุงมือขาวเพิ่งเงียบลง ก็มีคนรีบชูสมุดภาพในมือแล้วตะโกนว่า “หมายเลข 045 20,500!”


“โอเคครับ คุณหมายเลข 045 ให้ราคาที่ 20 500 ดอลลาร์แคนาดา ยังมีท่านไหนให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ?” ชายที่สวมถุงมือถามพร้อมรอยยิ้ม


“หมายเลข 112 21,000!”


“ครับ คุณหมายเลข 112 ให้ราคาที่ 21,000 ดอลลาร์แคนาดา ไม่ทราบว่า…”


“หมายเลข 100 21,500!” เจ้าของฟาร์มปลาคนนี้ตะโกนตัดบทชายที่สวมถุงมือออกไปอย่างกระตือรือร้น


ราคาเริ่มไต่จาก 20,000 จากนั้นแค่ไม่กี่รอบราคาก็แตะที่ 25,000 ดอลลาร์แคนาดาแล้ว การเคาะราคาของเจ้าของฟาร์มปลานั้นค่อนข้างรอบคอบ ทุกครั้งที่พวกเขาเคาะจะเคาะเพียงครั้งละ 500 ดอลลาร์แคนาดาเท่านั้น ไม่เคาะเกินกว่านั้น


ฉินสือโอวมองดูเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาเคาะราคากันอย่างสนอกสนใจ เขารู้สึกว่างานประมูลแบบนี้น่าสนใจกว่า โลกที่เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาเผยออกมานั้นค่อนข้างสมจริง ไม่เหมือนกับเศรษฐีเหล่านั้น ที่โยนเงินเหมือนกับโยนก้อนหิน


สินค้าประมูลชิ้นแรกก็เกิดการแย่งกันขึ้นมาแบบนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี สีหน้าแมทธิว จินเปี่ยมไปด้วยความดีใจ ท่านฉินรู้สึกว่าตาเฒ่าคนนี้ขมวดคิ้วมาครึ่งปี ในที่สุดวันนี้ก็สามารถคลายลงได้แล้ว


หลังจากถึง 25,000 ดอลลาร์แคนาดาแล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็ยังไม่หยุดเคาะ สองหมื่นหกพันดอลลาร์แคนาดา สองหมื่นแปดพันดอลลาร์แคนาดา สุดท้ายสูงถึงสามหมื่นดอลลาร์แคนาดา!


โดนัลด์ก็เข้าร่วมการเคาะราคานี้ด้วย แต่เมื่อราคาถึงสามหมื่นดอลลาร์แคนาดาแล้ว ตัวเขาก็เริ่มอึกอัก นี่คือราคาสามหมื่นดอลลาร์แคนาดาต่อหนึ่งหมื่นตัว ถ้าห้าหมื่นตัว งั้นก็เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดาเลยนะ!


ไม่ใช่เจ้าของฟาร์มปลาทุกคนจะเป็นเหมือนเศรษฐีฉิน


โดนัลด์คิดไอเดียยามคับขันออกมา ดึงเพื่อนข้างตัวมาแล้วพูดว่า “แอนดรูว์ ฟังนะ ห้าหน่วยค่อนข้างเยอะ ความจริงพวกเราทุกคนเลี้ยงแค่สองหมื่นห้าพันตัวก็พอแล้ว เอาอย่างนี้ พวกเราร่วมมือกันเถอะ ประมูลร่วมกัน จากนั้นค่อยแบ่งกัน ว่าอย่างไร?”


แอนดรูว์ ทัคเกอร์พูดอย่างไม่ลังเลว่า “เอาตามนี้เลย เพื่อน ให้ราคาเลย!”


แวร์นหันหลังมาพูดอย่างร้อนรนว่า “เฮ้ เพื่อน รวมฉันด้วยคนหนึ่งได้ไหม? ฉันขอแค่หนึ่งหน่วย พวกนายสองคนๆ ละสองหน่วย”


การเคาะราคากำลังอยู่ในช่วงดุเดือด โดนัลด์ร้อนใจ จึงพูดว่า “โอเค งั้นตกลงตามนี้ เฮ้ ทางนี้ หมายเลข 022 สามหมื่นสี่!”


การเคาะราคาครั้งนี้ของโดนัลด์ค่อนข้างโหด เพิ่มราคาขึ้นไปหนึ่งพันเหรียญในทีเดียว ก่อนหน้านี้พวกเจ้าของฟาร์มปลาเพิ่มราคาทีละห้าร้อยเหรียญเท่านั้น


จากนั้นก็มีคนรีบมาตามมาอีก “34,500!”


โดนัลด์ใช้เสียงที่แหบแห้งตะโกนออกไปว่า “หมายเลข 022 สามหมื่นเจ็ด!”


ครั้งนี้โหดกว่า เพิ่มราคาขึ้นไปถึง 1,500 ดอลลาร์แคนาดา


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาส่งเสียงไม่พอใจกันออกมา ราคานี้ถือว่าค่อนข้างสูง ดูจากอัตราการมีชีวิตของปลาค็อดแล้ว ปลาที่เก็บเกี่ยวได้ในตอนท้ายแค่ต้นทุนก็สิบแปดกว่าเหรียญต่อหนึ่งตัวแล้ว บวกกับค่าอาหาร ค่ายา ค่าจับปลาและค่าใช้จ่ายในการแช่แข็ง เมื่อรวมๆ กันแล้วตัวหนึ่งต้องใช้เงินถึงสามสิบสี่สิบเหรียญเลย


ราคาปลีกของปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกในตลาดตอนนี้คือปอนด์ละประมาณสามสิบกว่าดอลลาร์แคนาดา ปลาตัวหนึ่งสามารถหนักได้ถึงสิบกว่าปอนด์ ดูไปเหมือนราคาไม่เลว ที่ตัวหนึ่งตัวสามารถขายได้ถึงสามร้อยดอลลาร์แคนาดา


แต่นั่นคือราคาตลาด หากว่าจับปลาขึ้นมาจากฟาร์มปลาแล้วขายให้กับพ่อค้าอาหารทะเลโดยตรง แต่ละปอนด์จะได้แค่สี่ห้าเหรียญ ปลาหนึ่งตัวสามารถขายได้เพียงสี่ห้าสิบเหรียญเท่านั้น เทียบกับต้นทุนสามสิบสี่สามสิบห้าเหรียญแล้ว ได้ไม่คุ้มเสียเลย


หลังจากโดนัลด์ให้ราคานี้แล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาในงานก็ส่งเสียงปรึกษาหารือกันให้แซ่ด ชายที่สวมถุงมือขาวต้องประกาศราคาซ้ำอีกรอบ ถึงจะมีคนให้ราคา 37,500 ดอลลาร์แคนาดา


แต่พอเขาให้ราคาเสร็จ โดนัลด์ก็ให้ราคาอีก “หมายเลข 022 สี่หมื่น!”


ในงานเต็มไปด้วยเสียงที่เปล่งออกมาเพราะความตกใจ มีคนหันหลังมาพูดกับโดนัลด์ว่า “โดนัลด์ นายบ้าไปแล้วเหรอ? หน่วยละสี่หมื่น ห้าหมื่นก็คือสองแสนนะ! นายคิดให้ดีนะ อย่าขาดทุนจนสุดท้ายไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อน้ำมันล่ะ!”


โดนัลด์ชูนิ้วกลางออกมา ด่าออกไปว่า “ไสหัวไป ชัค ฉันไม่ขาดทุนแน่นอน พวกนายแน่จริงก็มาแข่งกับฉันสิ ลูกปลาของฉินจะขาดทุนได้อย่างไร?”


แวร์นกระตุกแขนของโดนัลด์ พูดเสียงเบาว่า “เพื่อน นายระมัดระวังการเคาะราคาหน่อยก็ดีนะ ให้ตายเถอะ พวกเราเป็นหุ้นส่วนของนายนะ ไม่ใช่นักลงทุน สุดท้ายตัวนายเองก็ต้องจ่ายเงินด้วยนะ หรือว่านายไม่ปวดใจเลยเหรอ?!”


โดนัลด์ผลักเขาออก บอกว่าเขาได้คิดไว้แล้ว


และจริงตามนั้น ภายหลังไม่มีคนเคาะอีกเลย ชายที่ถุงมือขาวประกาศสี่หมื่นดอลลาร์แคนาดาสามรอบ จากนั้นก็เคาะไม้ ขาย!


จากนั้นก็มีผลิตภัณฑ์ทะเลอีกหลายอย่างที่ถูกขายออกไป ของที่ตามมาก็คือเป้าหมายของฉินสือโอวแล้ว ปลายอดม่วงพันธุ์มินิ


ยอดขายในอเมริกาเหนือของปลาชนิดนี้ค่อนข้างธรรมดา ส่วนมากจะส่งออกไปขายทวีปเอเชีย เพราะปลายอดม่วงมินิก็เหมือนกับชื่อของมัน ตัวค่อนข้างเล็ก หนามบนหลังก็ค่อนข้างเยอะ ทำให้ใช้ช้อนส้อมกินลำบาก


แต่เนื้อของปลาชนิดนี้จะนุ่มเป็นพิเศษ เพราะว่าตัวเล็กทำให้สิ่งสกปรกในท้องก็น้อยไปด้วย เหมาะแก่การนำไปทอดกิน ประเทศที่พัฒนาแล้วในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลีและสิงคโปร์ ล้วนชอบกินปลาชนิดนี้


ปัจจุบันเพราะประเทศจีนแข็งแกร่งขึ้น มาตรฐานในการใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้น ประเทศจีนจึงเริ่มกินปลาชนิดนี้แล้ว


ฉินสือโอวไม่เคยเลี้ยงปลายอดม่วงมินิมาก่อน นี่ไม่ใช่ปลามีชื่อเสียงของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เป็นปลาที่เจ้าของฟาร์มปลานำเข้ามาจากมหาสมุทรแปซิฟิก


ราคาเริ่มต้นของปลาชนิดนี้เท่ากับราคาปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกของฉินสือโอว ก็คือหน่วยละสองหมื่นเหรียญทั้งคู่


ไม่ใช่เพราะว่าปลาชนิดนี้จะมีค่าเท่ากับปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก แต่เพราะลูกปลาของมันมีจำนวนมากต่างหาก ปลายอดม่วงเป็นปลาน้ำลึก เพราะมีพื้นที่ให้ว่ายน้อย ชำนาญในการซ่อนตัว ทำให้อัตราของศัตรูธรรมชาติที่ล่ามันเป็นอาหารน้อยไปด้วย


นอกเหนือจากนี้ ปลาน้ำลึกยังมีข้อดีอีกอย่างคือไม่ค่อยว่ายไปเรื่อย อย่างปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติกหากว่าไม่มีการล้อมจำกัดพื้นที่การเลี้ยงแล้ว งั้นการโปรยลูกปลาหนึ่งหมื่นตัวลงไป พรุ่งนี้ก็มีสองพันตัวที่ว่ายไปที่ฟาร์มปลาคนอื่นแล้ว แต่ปลายอดม่วงมินิไม่ต้องเป็นห่วง พวกมันเป็นพวกรักบ้านมาก

 

 

 


บทที่ 1247 เจ้าของฟาร์มปลาที่วอนหาเรื่อง

 

เริ่มประมูลปลายอดม่วงมินิ ราคาเริ่มต้นเท่ากันที่สองหมื่น เจ้าของฟาร์มปลาสามารถเสนอให้ได้ยี่สิบหน่วย หรือก็คือลูกปลาสองแสนตัว


หากปลายอดม่วงมินิสองแสนตัวเหล่านี้ได้รับการใส่ใจ และไม่มีปัญหาอะไร ท้ายสุดแล้วจะสามารถขยายพันธุ์ได้มากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นตัว


ฉินสือโอวเล็งปลาชนิดนี้ไว้ ซึ่งมีคู่แข่งไม่มากนัก


ข้อแรกเพราะลูกปลาชนิดนี้มีจำนวนเยอะ ราคาอยู่ที่สี่แสนเหรียญ เจ้าของฟาร์มปลาที่สามารถลงทุนกับเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้นั้นมีค่อนข้างน้อย ข้อสองคือปลายอดม่วงมินิมุ่งไปทางตลาดทางเอเชีย หากอยากทำเงินจำเป็นต้องทำการส่งออก และผ่านกระบวนการต่างๆ มากมาย


ดังนั้นในความคิดของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลา หากมีเงินทุนและแรงแล้วละก็สู้เพาะผลิตภัณฑ์ทะเลที่ขายดีในอเมริกาเหนือดีกว่า อย่างเช่นพวกปลาค็อด ปลาเเซลมอนแปซิฟิก และปลายอดม่วงตระกูลอื่น


อาหารทะเลต้าฉินมีฐานที่มั่นคงในปักกิ่งอยู่แล้ว สามารถทำการขยายไปยังเขตรอบๆ ได้ ทวีปเอเชียเป็นตลาดหลักของเขาอยู่แล้ว เขามีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสม สำหรับเขาแล้วปลายอดม่วงมินิเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีตัวหนึ่งเลย


ชายที่สวมถุงมือขาวประกาศแจ้งราคาเริ่มต้น ฉินสือโอวก็โบกมือเป็นนัยว่าจะรับราคานี้ เมื่อเห็นแบบนี้แล้วชายที่ถุงมือขาวจึงพูดว่า “คุณหมายเลข 001 ให้ราคาที่สองหมื่นดอลลาร์แคนาดา!”


ใช่แล้ว ท่านชายฉินคือหมายเลข 001 เรียกได้ว่าแมทธิว จินเป็นเพื่อนประเภทหมูไปไก่มา เพื่อขอบคุณที่เขานำทรัพยากรมากมายมาร่วมออกงานประมูล จึงตั้งใจเลือกเลขที่ดีที่สุดให้กับเขา


หมายเลขในงานประมูลแบบนี้มีความนัยอยู่ หมายเลข 001 หมายความว่าในสายตาของกรมประมงนั้น ฉินสือโอวคือเจ้าของฟาร์มปลาที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าเป็นหมายเลขที่มีกลิ่นอายของการเมืองอยู่


มีคนชูสมุดภาพขึ้นมาตามเพื่อบอกว่ามีความสนใจในผลิตภัณฑ์ทะเลนี้ด้วยเหมือนกัน แถมตอนที่บอกราคา ฉินสือโอวยังสังเกตเห็นด้วยว่าเขาเอียงคอแล้วใช้สายตาท้าทายมองมาที่ตัวเอง หลังจากบอกราคาแล้วเขาไม่ได้ยกมือลง แต่กลับทำท่า ‘แน่จริงก็มา’ ออกมาแทน


ท่านชายฉินหัวเราะทีหนึ่ง เขาได้ผ่านช่วงวัยรุ่นใจร้อนไปแล้ว จำนวนงานประมูลที่เข้าร่วมก็หลายงานแล้ว การจะมีเรื่องกันในงานประมูลนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดี การควบคุมอารมณ์ไม่อยู่มักจะหมายถึงการเสียเปรียบครั้งใหญ่ ทำให้เสียเงินมากขึ้น


เมื่อเข้าใจในหลักการนี้ เขาโบกมือบอกราคา ด้วยเสียงแน่นิ่งว่า “21,000!”


ข้าไม่บ้าไปกับแกด้วยหรอก ฉินสือโอวรักษาความนิ่งไว้ ราคาที่บอกไปก็ขึ้นมาแค่หนึ่งระดับเท่านั้น


คนก่อนหน้าชูสมุดภาพอีกรอบเพื่อบอกเป็นนัยว่าบวกอีกหนึ่งรอบ จากนั้นก็จ้องฉินสือโอวทีหนึ่ง ชายที่สวมถุงมือขาวทำเป็นไม่เห็น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหมายเลข 002 ให้ราคาที่ 21,500 ดอลลาร์แคนาดา!”


เห็นได้ชัดว่า คนคนนี้จงใจยกราคาข่มฉินสือโอว แต่ว่าการเล่นกันของเด็กๆ แบบนี้ท่านชายฉินไม่สนใจที่จะเล่นด้วย จะมีประโยชน์อะไรล่ะ? ธุรกิจมูลค่าไม่กี่แสนเหรียญ สำหรับเขาแล้วเด็กๆ มาก


แต่ว่าการทำสงครามจำเป็นต้องดูหมิ่นกลยุทธ์ศัตรู และให้ความสำคัญกับทักษะของศัตรู ท่านชายฉินถามโดนัลด์ที่อยู่ข้างตัวเสียงเบาว่า “ไอ้อ่อนนี่คือใครน่ะ? ให้ตายสิ ฉันไปกินขนมปังบ้านมันหรือว่าตีหมาบ้านมันหรือไง? ทำไมต้องมาหาเรื่องฉันด้วย?”


โดนัลด์เกาหัวแล้วพูดว่า “เขาชื่อว่าคาร์เตอร์ เอลเลนส์ เป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ใหญ่ที่สุดในรัฐโนวาสโกเชีย หรือว่าบางทีเขาอาจจะอิจฉาฐานะของนายหรือเปล่า?”


แวร์นที่อยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงทั้งสองคนคุยกัน จึงหันหลังมาแล้วพูดว่า “ไม่นะ เพื่อน นายพูดผิดแล้ว ที่เจ้าหมอนี่ไม่ถูกชะตากับฉิน เพราะว่าเพื่อนร่วมหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของเขาถูกแบรนด์อาหารทะเลต้าฉินกดดันอย่างหนัก ทำให้ผลิตภัณฑ์ทะเลมากมายของเขาไม่สามารถนำเข้าไปขายในอเมริกาได้ต่างหาก”


รัฐโนวาสโกเชียอยู่ใกล้เขตพื้นที่อเมริกา มีผลผลิตภัณฑ์ทะเลมากมายที่ส่งออกไปที่นั่น แคนาดาและอเมริกามีสัญญาการค้าระหว่างประเทศอย่างเสรี การขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลไปไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร จ่ายเพียงภาษีประเทศและภาษีทวีปก็พอแล้ว


เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าโชคเข้าข้างเขาแล้ว จึงพูดออกไป “เพื่อนร่วมหุ้นเขาคือตระกูลมอร์รี่ในนิวยอร์กหรือเปล่า?”


แวร์นยักไหล่ เพื่อเป็นการบอกว่าใช่กับคำถามของฉินสือโอว


ในระหว่างนั้นก็มีคนเคาะราคาให้กับปลายอดม่วงมินิอีก ราคาขึ้นไปอย่างช้าๆ ขึ้นไปทีละขั้นๆ


แต่ก็เหมือนกับที่ฉินสือโอววิเคราะห์ไว้ก่อนหน้า คนที่เหมาะจะเลี้ยงปลายอดม่วงมินิมีไม่มาก คนที่ร่วมเคาะราคามีน้อยมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้


แต่ว่าถ้าฝั่งฉินสือโอวไม่เคาะราคา ทางคาร์เตอร์ก็เงียบไม่ออกเสียง พอฝั่งเขาเคาะราคา คาร์เตอร์ก็รีบเคาะตามทันที


ท่านชายฉินไม่ได้รู้สึกอะไร ราคาขึ้นทีละห้าร้อยเหรียญๆ จนไปถึงสามหมื่นอย่างช้าๆ ตอนนี้ทางคาร์เตอร์ก็ไม่มีการเคาะราคาอีก


ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนดีขึ้นมา แต่เพราะเมื่อถึงราคานี้แล้วก็ต้องเริ่มระมัดระวัง หากว่าฉินสือโอวไม่เคาะตาม งั้นเขาก็ต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน ปลายอดม่วงมินิพวกนี้เหมาะที่จะจำหน่ายไปทวีปเอเชียเป็นที่สุด คาร์เตอร์ไม่มีช่องทางการขายในทวีปเอเชีย หากเขาเลี้ยงปลาพวกนี้ ก็เท่ากับสร้างความเสียหายให้ตัวเอง


แต่ว่าเขาก็พอใจแล้วล่ะ ปลายอดม่วงมินิที่ควรจะได้ในราคาสูงสุดที่ 25,000 เหรียญ แต่การที่ตัวเองมาปั่นราคาแบบนี้ ทำให้ราคาขึ้นไปถึงหนึ่งเท่าตัว ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างประหลาด


ฉินสือโอวยิ้มๆ ไม่ได้ใส่ใจ เขามีวิธีต่อกรกับคนประเภทนี้ เขาสามารถไม่ต้องมาร่วมการประมูลนี้ ชอบผลิตภัณฑ์ทางน้ำของใครก็แค่นำกลับไปฟาร์มปลา ใช้พลังโพไซดอนพัฒนาเสียหน่อย ผลที่ได้มาก็คือรุ่นที่แกร่งกว่าแล้ว


แต่การทำแบบนี้ก็คือการปล้นนี่เอง อาจมีบางทีที่ท่านชายฉินไม่ใช่คนดีนัก แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำเรื่องแย่งผลงานคนอื่นแบบนี้


ผลิตภัณฑ์ทะเลที่มาร่วมออกประมูลในครั้งนี้ ไม่มีอันไหนที่ไม่ใช่ของที่เหล่าเจ้าของพยายามสุดความสามารถในการนำเข้ามาและพัฒนาให้ดีขึ้น เป็นของที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อของคนเหล่านี้ ถ้าฉินสือโอวอยากได้ เขาจำเป็นต้องให้ผลตอบแทนที่มากพอแก่คนเหล่านี้ด้วย


ชิ้นต่อไปเป็นผลิตภัณฑ์ทางทะเลที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอีกรอบ นั่นก็คือปลาลิ้นหมาเกล็ดเงิน หนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของฟาร์มปลาต้าฉิน


ปลาลิ้นหมาชนิดนี้ยังคงเป็นลูกปลาหนึ่งหมื่นตัวต่อหนึ่งหน่วย แต่ราคาต่อหน่วยกลับสูงถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือลูกปลาชนิดนี้หนึ่งตัวก็มีราคาถึงสิบห้าเหรียญ! หรือพูดอีกแง่ก็คือ ลูกปลาตายไปหนึ่งตัวก็เท่ากับเสียไปสิบห้าเหรียญ!


การเพาะเลี้ยงผลิตภัณฑ์ทะเลที่มีมูลค่าสูงนั้นมีความเสี่ยงที่สูงมาก แต่เหล่าเจ้าของฟาร์มปลากลับยังคงยื้อแย่งกัน เพราะกำไรที่ปลาชนิดนี้ทำให้ได้นั้นสูงมาก ปลาลิ้นหมาโตเต็มตัวขนาดหนึ่งเมตรหนึ่งตัว แบรนด์อาหารทะเลต้าฉินขายอยู่ที่ราคาสูงถึงห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา!


พอชายที่สวมถุงมือขาวเปิดให้ประมูลเท่านั้น เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็เริ่มยื้อแย่งกันทันที ถึงขั้นเกิดสถานการณ์ที่ว่ามีคนสองถึงสามคนเคาะราคาพร้อมกันเลยทีเดียว แสดงให้เห็นถึงการแย่งกันอย่างดุเดือด


สถานการณ์นี้ทำเอาแมทธิว จินที่ดูอยู่ถึงขั้นหัวเราะจนปากเบี้ยว ฉินสือโอวมองไปแวบแรกนึกว่าประธานสูงวัยคนนี้เป็นลมชักเสียอีก


หลังจากปลาลิ้นหมาแล้ว ผลิตภัณฑ์ทะเลอีกชิ้นที่ฉินสือโอวสนใจก็ปรากฏขึ้น นั่นก็คือกุ้งกุลาดำฉบับพัฒนาแล้วนั่นเอง


ฉินสือโอวมองไปที่กุ้งตัวใหญ่บนเวทีอย่างสนใจ มันมีความยาวถึงยี่สิบห้าเซนติเมตร หลังจากตักออกมาแล้วเต็มไปด้วยพละกำลัง ดิ้นไปมาในจานไม่หยุด มันไม่เหมือนกับกุ้งขาวทั่วไป พวกมันมีนิสัยดุดัน หน่วยก้านแข็งแกร่ง


ชายที่สวมถุงมือขาวประกาศแจ้งราคา กุ้งขาวชนิดนี้ราคาไม่ต่ำเลย ราคาของลูกกุ้งหนึ่งหน่วยอยู่ที่ 18,000 ดอลลาร์แคนาดา


ฉินสือโอวยกมือเพื่อเป็นการเปิดเคาะราคาครั้งแรก ชายที่สวมถุงมือขาวกำลังจะประกาศต่อ คาร์เตอร์ก็ยกมือขึ้นมา พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งว่า “หมายเลข 002 20,000 เหรียญ!”


เจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นที่กำลังเตรียมจะให้ราคาพากันรีบเก็บสมุดภาพที่ถือในมือทันที แล้วหันไปมองการสู้กันของทั้งสองคน ไม่ต้องสงสัยเลย คนมือเติบสองคนนี้จะเริ่มการโก่งราคากันแล้ว


ฉินสือโอวยังคงขี้เกียจแข่งราคากับคาร์เตอร์ การกระทำแบบนี้เด็กเกินไป อย่าแข่งกับคนอื่นในงานประมูล นี่คือประสบการณ์ที่เขาได้รับมาหลังการเข้าร่วมงานประมูลมาหลายที่


ราคาขึ้นไปถึงเลขสอง ฉินสือโอวยกมือเพื่อเคาะราคา 20,500 เหรียญ หลังจากนั้น คาร์เตอร์ก็ตะโกนออกมาตามหลังทันทีว่า   ฃ“หมายเลข 002 25,000 เหรียญ!”


หลังจากได้ยินราคานี้แล้ว สีหน้าของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็พากันเปลี่ยนไปทันที ฉินสือโอวกลับหรี่ตาลง ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่จะวอนหาเรื่องเสียแล้ว

 

 

 


บทที่ 1248 สั่งสอนบทเรียนให้นายบทหนึ่ง

 

ฉินสือโอวมองไปที่คาร์เตอร์ คาร์เตอร์กำลังยิ้มมาให้เขา แถมยังยื่นมือทำท่าเชื้อเชิญแบบสุภาพบุรุษอีก


โดนัลด์อธิบายว่า “เขากำลังทำท่าเชิญให้นายเคาะราคา”


ฉินสือโอวมองด้วยหางตา นายคิดว่าฉันเป็นคนโง่หรือไงน้องชาย? คิดว่าฉันจะไม่เข้าใจท่าทางนี้หรือไง?


แต่เมื่อคิดว่าโดนัลด์ทำด้วยความหวังดี ความจริงเจ้าหมอนี่เป็นคนตรงไปตรงมา คำพูดนี้จึงไม่น่าจะใช่การยุยงให้มีเรื่องกัน ท่านชายฉินจึงไม่อยากจะโทษเขา เพียงแค่ตบไหล่เขาเบาๆ แล้วพูดว่า “รอดูว่าฉันจะจัดการมันยังไง”


ฉินสือโอวไม่ได้ทำการเคาะราคาทันที เขาไม่สนใจกับท่าทางหาเรื่องของคาร์เตอร์ สองมือเท้าคางไว้บนโต๊ะมองไปที่คนอื่นๆ


แต่เจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นๆ ล้วนรอดูความสนุกกันอยู่ มีคนถึงขั้นหยิบมือถือออกมาด้วย ทำให้ท่านชายฉินคนนี้ปวดใจเหลือหลาย ทุกคนช่วยจริงจังกันหน่อยได้ไหมเนี่ย? อยากดูหนังก็ไปโรงหนังสิ สรุปเป็นใครกันที่ขายผลิตภัณฑ์ทะเลไม่ออกจนต้องมาเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้?


ไม่มีคนเคาะราคาต่อคาร์เตอร์ ใบหน้าของชายที่สวมถุงมือขาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพแล้วประกาศราคาต่อ เขาประกาศติดต่อกันสองครั้ง หลังจากครั้งที่สามกำลังจะเคาะค้อนแล้วแท้ๆ ฉินสือโอวถึงเพิ่งพูดออกมาว่า “หมายเลข 001 สามหมื่นเหรียญ!”


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่รอดูเรื่องสนุกต่างพากันตื่นตัวขึ้นมาทันที การเคาะราคาครั้งนี้ถือว่าสูงพอดูเลย


สำหรับกุ้งกุลาดำที่พัฒนาแล้วนั้น ราคาสามหมื่นเหรียญไม่ถือว่าสูง เพราะอัตราการมีชีวิตรอดของกุ้งชนิดนี้ถือว่าสูงพอตัว และสำหรับกุ้งที่อาศัยอยู่ในใต้ท้องทะเลลึกนั้น มันชอบซ่อนตัวอยู่ในซอกโขดหิน ความสามารถในการซ่อนตัวก็สูงด้วยเช่นกัน


คาร์เตอร์ฟังราคาที่ฉินสือโอวเคาะแล้วก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นออกมาทีหนึ่ง เขาชูสมุดภาพในมือแล้วตะโกนว่า “หมายเลข 002 สี่หมื่นเหรียญ!”


“แซ่ด!” เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาส่งเสียงตกใจออกมากันถ้วนหน้า ส่วนทางเจ้าของฟาร์มปลาที่พัฒนากุ้งขาวน่ะกำลังยิ้มไม่หุบปากเลย


จากนั้นฉินสือโอวก็ชูมือเคาะราคาด้วยหน้าไม่เปลี่ยนสีต่อว่า “หมายเลข 001 ห้าหมื่นเหรียญ!”


“แซ่ด!” เสียงตกใจที่ดังกว่าเก่าดังขึ้นมา มีเจ้าของฟาร์มปลาที่ตกใจเพิ่มขึ้นมาอีก


คาร์เตอร์มองไปที่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง ก็เคาะราคาอีก “หมายเลข 002 หกหมื่นเหรียญ!”


“หมายเลข 001 เจ็ดหมื่นเหรียญ!”


“หมายเลข 002 แปดหมื่นเหรียญ!”


“หมายเลข 001 หนึ่งแสนเหรียญ!”


“หมายเลข 002 หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญ!” คาร์เตอร์มั่นใจว่าฉินสือโอวจะประมูลกุ้งขาวนี้ให้ได้ เพราะเขาเคยวิเคราะห์การขยายช่องทางการค้าของฟาร์มปลาต้าฉินมาก่อนแล้ว และพบว่าฟาร์มปลานี้ยังขาดทรัพยากรที่ดีในการตีตลาดไปยังตลาดอาหารทะเลในทวีปเอเชีย และกุ้งกุลาดำก็คือตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย


ดังนั้นเขาตัดสินใจว่าจะสั่งสอนบทเรียนราคาแพงให้ฉินสือโอวสักครั้งหนึ่ง เขารู้ว่าคนจีนตรงหน้าคนนี้มีเงินมาก และรู้ว่ากุ้งกุลาดำมีความสำคัญกับแบรนด์อาหารทะเลต้าฉินแค่ไหน จากการคาดเดาของเขาแล้ว ราคาในใจที่คนจีนตรงหน้าคิดไว้นั้น น่าจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นเหรียญ


ดังนั้นเขาจึงรอการเคาะราคาครั้งต่อไปของฉินสือโอว เขาตัดสินใจแล้ว ตอนที่ฉินสือโอวเคาะราคาอีกครั้งนั้น เขาก็จะหยุดการเคาะทันที ถึงตอนนั้นสีหน้าของคนจีนคนนี้ต้องน่าดูแน่ๆ


เมื่อคิดแบบนี้ คาร์เตอร์ก็มองไปที่ฉินสือโอวอย่างใจจดใจจ่อ รอเขาเคาะราคาต่อไป แต่ว่าการแสดงออกของอีกฝ่ายนั้นกลับทำให้ใจเขาตกฮวบ


ฉินสือโอวยักไหล่ จากนั้นก็ชูนิ้วโป้งให้กับเขา


ไม่รู้ว่าเจ้าของฟาร์มปลาข้างคาร์เตอร์นั้นโง่จริงหรือว่ามองดูความสนุกนี้จนโง่ไปแล้ว เขาเห็นท่าทางของฉินสือโอวแล้วก็โน้มตัวเข้าไปพูดว่า “เพื่อน เขากำลังชมนายอยู่ ดูท่าความยิ่งใหญ่ของนายจะเอาชนะคนจีนคนนี้แล้ว ทำได้ดี!”


คาร์เตอร์เต็มไปด้วยความโกรธ ผลักเขาออกไปแล้วพูดเสียงเบาว่า “หลีกไป ไอ้ลาโง่!”


ชายที่สวมถุงมือขาวไม่สนใจท่าทางเล็กน้อยด้านล่างเวที ขอแค่ไม่มีคนเคาะราคา เขาก็ต้องเตรียมดำเนินงานตามกฎต่อไป “คุณผู้ชายหมายเลข 002 ให้ราคาที่หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญ ไม่ทราบว่ามีท่านไหนให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ?”


มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เคาะราคาในตอนนี้ หนึ่งหน่วยมีกุ้งขาวหนึ่งแสนสองหมื่นตัว ราคากุ้งกุลาดำของตลาดในแคนาดาตอนนี้ก็อยู่ที่ชั่งละประมาณยี่สิบดอลลาร์แคนาดาเท่านั้น แต่ตอนนี้ลูกกุ้งตัวหนึ่งราคาก็อยู่ที่สิบสองดอลลาร์แคนาดาแล้ว นอกเสียจากว่ากุ้งที่ผลิตออกมาตอนท้ายจะสามารถเข้าไปอยู่ในสินค้าระดับพรีเมี่ยมของแบรนด์อาหารทะเลต้าฉิน ไม่อย่างนั้นจะต้องขาดทุนแน่นอน


คาร์เตอร์ร้อนรนแล้ว ตัวเขามีช่องทางการจำหน่ายอาหารทะเลระดับพรีเมี่ยมที่ไหนกัน? เมื่อก่อนยังมีตระกูลมอร์รี่ช่วยเขาจัดการอาหารทะเลเกรดดี แต่ว่าตอนนี้เพราะแรงกดดันจากบัตเลอร์ ทำให้ตระกูลมอร์รี่อยู่ไม่เป็นสุขนัก แค่หุ้นส่วนอาหารทะเลในอเมริกาพวกเขายังดูแลไม่ไหวเลย แล้วจะยังมาซื้ออาหารทะเลจากคาร์เตอร์ได้อย่างไร?


เขาจ้องตาค้างไปที่ฉินสือโอว หวังให้อีกฝ่ายทำเหมือนที่ผ่านมาคือรอจนถึงเส้นตายก่อนแล้วค่อยเคาะราคา ตอนนี้เขาเริ่มเสียใจแล้ว ทำไมตัวเองต้องเล่นกับไฟด้วย?!


ชายที่สวมถุงมือขาวใช้น้ำเสียงที่ช้าและหนักแน่นพูดว่า “หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญครั้งที่หนึ่ง! หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญครั้งที่สอง! หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญครั้งที่สาม!”


‘ปัง!’ เสียงดังกึกก้อง ชายที่สวมถุงมือขาวปล่อยค้อนลงไปบนโต๊ะ ใช้เสียงสูงพูดว่า “ยินดีกับคุณผู้ชายหมายเลข 002 ด้วยครับ ตอนนี้กุ้งกุลาดำห้าหน่วยตกเป็นของเขาแล้ว ต่อไปจะทำการเปิดประมูลสินค้าชิ้นต่อไป…”


สีหน้าของคาร์เตอร์เต็มไปด้วยความเจ็บปวด จบแล้ว เหล้าแห่งความขมขื่นที่ตัวเองทำขึ้นมา สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่ต้องดื่มเข้าไป!


นี่เป็นเงินถึงหกแสนดอลลาร์แคนาดาเลยทีเดียว เงินหกแสนดอลลาร์แคนาดาที่ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน แน่นอนว่าจากฐานะของคาร์เตอร์แล้ว ราคาของฟาร์มปลาของเขาอย่างน้อยก็หกสิบล้านดอลลาร์แคนาดา อย่างไรเสียก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ใหญ่ที่สุดในรัฐโนวาสโกเชียนี่นา


แต่ต้องคิดถึงว่า ฐานะของเจ้าของฟาร์มปลาขึ้นอยู่กับฟาร์มปลาและผลิตภัณฑ์ทางทะเล ความจริงตัวพวกเขาไม่ได้มีอิสระในการโยกเงินเสียเท่าไรหรอก ปกติเงินจะได้มาจากการกู้จากธนาคารเสียมากกว่า มีฟาร์มปลาค้ำประกัน ทำให้การกู้เงินหลายล้านหรือสิบล้านเป็นเรื่องง่ายราวพลิกฝ่ามือ


ดังนั้นสำหรับคาร์เตอร์แล้ว เงินหกแสนจึงไม่ได้เป็นเพียงเงินจำนวนน้อยอีกต่อไป โดยเฉพาะในปีนี้ที่ตลาดอาหารทะเลทำยากแบบนี้ด้วย!


สิ่งที่ทำให้เขายิ่งเจ็บปวดก็คือ ชั่วขณะที่เขาหันหัวไปมองนั้น ก็เห็นฉินสือโอวที่ไม่รู้ว่าหยิบมือถือออกมาตอนไหน กำลังถ่ายรูปสีหน้าของเขาอยู่…


“ไอ้คนจีนสารเลวคนนี้!” คาร์เตอร์ขบฟันก่นด่าเสียงเบา แต่สิ่งที่ทำเอาเขาหมดหนทางจริงๆ ก็คือ นอกจากได้ระบายอารมณ์ทางคำพูดแล้ว ก็ไม่มีวิธีที่ทำให้เขาสบายใจได้อีกเลย


จากนั้นก็มีผลิตภัณฑ์ทางทะเลอีกมากมายที่นำออกมาประมูลอย่างไม่ขาดสาย ฉินสือโอวได้ทำการประมูลหอยเชลล์ไปอีกสิบกว่าหน่วย หอยนางรมยี่สิบกว่าหน่วย ปูหิมะขาโตอีกห้าสิบกว่าหน่วย


น่าจะเพราะวิธีที่ฉินสือโอวทำกับคาร์เตอร์โหดเกินไป ทำให้ตอนที่เขาร่วมประมูลของเหล่านี้นั้น เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาล้วนไม่กล้าแย่งกับเขาอีกเลย ถึงแม้จะมีคนสนใจ แต่การเคาะราคาก็ระมัดระวังมาก กลัวว่าจะกลายเป็นคาร์เตอร์คนที่สองกัน


งานดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนงานประมูลจบลง ฉินสือโอวได้ประมูลผลิตภัณฑ์ทางทะเลมา 9 ชนิด เขาคิดคำนวณสักพัก เงินที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดก็แค่ประมาณสี่แสนเหรียญเท่านั้น แถมผลิตภัณฑ์มากมายในนั้นยังเป็นลูกพันธุ์ที่มีจำนวนมากอย่างปูหิมะขาโตอีกด้วย


งานประมูลสิ้นสุดลง เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาพากันถือบัตรธนาคารไปคิดเงินกัน งานประมูลครั้งนี้เป็นถึงงานที่กรมประมงจัดขึ้น จึงไม่มีใครกล้าเบี้ยว ไม่อย่างนั้นก็คือเท่ากับไม่ไว้หน้ากรมประมง


ฉินสือโอวเดินไปหาคาร์เตอร์ คาร์เตอร์สังเกตเห็นเงาของเขา แล้วมองไปที่เขาอย่างโกรธเคือง เจ้าของฟาร์มปลาจากรัฐโนวาสโกเชียคนนี้ได้แอบตัดสินใจแล้ว ถ้าสารเลวคนนี้กล้าเข้ามาพูดจาประชดเสียดสีล่ะก็ งั้นก็จะจัดการเขาตรงนั้นเลย!


แต่ท่านชายฉินไม่ได้สนใจเขา ยังคงเดินพุ่งตรงไปด้านหน้าคาร์เตอร์ แล้วพูดกับเจ้าของฟาร์มปลาเชื้อสายเอเชียวัยหนุ่มว่า “สวัสดีครับ คุณนิโค ตู้ใช่ไหมครับ? ผมชื่อฉิน จากฟาร์มปลาต้าฉินครับ คือแบบนี้นะครับ ลูกกุ้งขาวของคุณยังพอมีเหลือบ้างไหมครับ? ผมอยากจะซื้อจำนวนหนึ่งครับ”


เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว คาร์เตอร์ก็โกรธจัดขึ้นมา รู้อยู่แล้วว่านายอยากจะเพาะกุ้งขาวพันธุ์นี้ แต่ทำไมเมื่อกี้นายไม่สู้กับฉันจนถึงที่สุดล่ะ?


แน่นอนว่านิโค ตู้รู้ถึงความขัดแย้งของทั้งสองคน เขาได้ทำธุรกิจกับคาร์เตอร์ไปแล้ว จึงไม่สามารถทำธุรกิจกับฉินสือโอวได้อีก ไม่อย่างนั้นจะต้องมีการผิดใจกับอีกฝ่ายเป็นแน่ ดังนั้น เขาจึงพูดออกไปอย่างลำบากใจว่า “ขอโทษครับ คุณฉิน ลูกกุ้งห้าหน่วยถึงขีดจำกัดที่ผมให้ได้แล้วครับ”


เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของคาร์เตอร์ก็เผยความดีใจออกมา แล้วมองไปที่ฉินสือโอวอย่างได้ใจ รู้อยู่แล้วว่านายสนใจกุ้งชนิดนี้ แต่นายกลับซื้อไม่ได้! แต่ว่าเขาเองก็แอบตัดสินใจอีกด้วยว่า ถ้าคนจีนคนนี้ยอมอ่อนข้อให้เขา เขาก็ยินยอมที่จะขายทรัพยากรกุ้งขาวให้มือให้


ก็นี่เป็นเงินหกแสนเหรียญเลยนี่นา! เงินในบัญชีเขาจะมีเงินถึงหกแสนเหรียญหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย


ฉินสือโอวยิ้มๆ พูดว่า “ไม่ครับ คุณตู้ ผมคิดว่าฟาร์มปลาคุณยังสามารถสรรหาลูกกุ้งได้อีกจำนวนหนึ่งนะครับ คุณไม่อยากได้กำไรที่อยู่ตรงหน้าจริงเหรอครับ? อีกอย่างถ้าผมเดาไม่ผิด พวกเราน่าจะเป็นเพื่อนร่วมชาติกันใช่ไหมครับ?”


นิโค ตู้พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ครับ ผมก็เป็นคนเชื้อสายจีนเหมือนกัน บ้านเกิดผมคือมณฑลกวางตุ้งครับ แต่พูดตามจริงนะครับคุณฉิน การจะขายลูกกุ้งให้คุณอีกจำนวนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องลำบากจริงๆ ครับ”


ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ฟาร์มปลาของผมยังมีลูกปลาค็อด ปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาแฮดดัค ปลาค็อดหิมะ ปลาอลาสก้าพอลล็อค ปลาค็อดลายจุดก็มีด้วย ไม่ทราบว่าคุณต้องการบ้างไหมครับ?”


หลังจากได้ยินคำนี้แล้วตาของนิโค ตู้ก็เป็นประกายขึ้นมา เขาถามไปว่า “มีกี่หน่วยครับ?”


ฉินสือโอวพูดว่า “ก็ดูว่าคุณสามารถให้ได้กี่หน่วยครับ ทางผมมีอย่างน้อยสิบหน่วย”


“สิบหน่วย? ไม่มีปัญหาครับ กลับไปผมจะรีบเตรียมให้คุณเลย!” นิโค ตู้พูดอย่างดีใจ


ตอนนี้คาร์เตอร์ใกล้จะบ้าแล้ว ที่ทำให้เขาคลั่งไปอีกก็คือ ฉินสือโอวยังพูดต่ออีกด้วยว่า “คุณขายหน่วยละเท่าไรครับ? เห็นแก่ว่าเรามาจากที่เดียวกัน ราคาปลาค็อดของผมสามารถให้คุณได้ในราคาประมูลเริ่มต้นนะครับ”


นิโค ตู้เข้าใจความหมายของเขา จึงมองไปที่คาร์เตอร์อย่างเกรงใจ ลูบจมูกแล้วพูดเสียงเบาว่า “ผมก็ให้ราคาประมูลเริ่มต้นกับคุณเหมือนกันครับ”


คาร์เตอร์ “…”

 

 

 


บทที่ 1249 ผู้กำกับเลี้ยงอาหาร

 

เมื่อได้ตกลงปากเปล่ากับนิโค ตู้แล้ว ฉินสือโอวก็จับมือกับเขา บอกว่าเขากลับไปแล้วจะรีบเตรียมลูกปลาค็อดให้ หลังเตรียมเสร็จแล้วจะส่งให้เขาทางเรือ


นิโค ตู้ดีใจมาก บอกว่ากลับไปจะรีบเตรียมลูกกุ้งให้ด้วยเหมือนกัน และจะเตรียมและส่งให้เขาให้เร็วที่สุดด้วย


ทางฝั่งคาร์เตอร์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาดึงนิโค ตู้ไปหาแมทธิว จิน บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ฟังรอบหนึ่ง แล้วโวยวายออกมาว่า “นี่มันกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว! ท่านประธาน พวกเขากำลังกลั่นแกล้งผม! ผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน! ไม่ยอมแน่นอน!”


หลังแมทธิว จินฟังอย่างละเอียดแล้ว บอกให้เขาหุบปากแล้วก็ถามความเป็นมาของเรื่องจากนิโค ตู้ หลังจากเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบว่า “เรื่องนี้เป็นปัญหาอย่างไร? ผมพูดไม่ชัดเจนเหรอครับ? การประมูลครั้งนี้ก็คืองานนำเสนอสินค้า ทุกคนสามารถทำการแลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระหลังจบงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ทรัพยากรมีการหมุนเวียนนะครับ”


คาร์เตอร์พูดอย่างหัวเสียว่า “แต่ว่าทำไมราคาลูกกุ้งที่ขายให้ผมถึงแพงขนาดนี้ แต่เจ้าหมอนี่กลับขายให้คนจีนคนนั้นในราคาที่ต่ำขนาดนั้นล่ะ? ถ้าหากว่าไม่มีความยุติธรรม งั้นงานประมูลจะมีประโยชน์อะไรครับ?”


แมทธิว จินอธิบายให้เขาฟังอย่างใจเย็นว่า “ผมบอกไปแล้ว จุดประสงค์ของงานประมูลคือการเพิ่มการหมุนเวียนของทรัพยากรทางทะเล ส่วนเรื่องยุติธรรมหรือไม่นั้น ผมเป็นคนจัดงานประมูลครั้งนี้ขึ้นมา ผมไม่คิดว่าจะมีใครบังคับให้ใครเคาะราคาซื้อขายกันนะครับ”


คาร์เตอร์จ้องมองแมทธิว จินด้วยความอึ้ง เขารู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ชอบมาพากล แต่ว่าหาทางตอบกลับไปไม่เจอ จึงทำได้แต่พูดว่า ‘ไม่ยุติธรรม’


แมทธิว จินยักไหล่อย่างเลือกไม่ได้ เขาถามนิโค ตู้ว่า “คุณตู้ คุณคิดว่างานประมูลครั้งนี้เป็นอย่างไรครับ?”


นิโค ตู้พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “สุดยอดที่สุดครับ ผมไม่ใช่คนที่ชอบพูดคำพูดสวยหรู แต่ตอนนี้ผมจำเป็นต้องพูดครับ คุณประธาน พวกคุณได้ทำเรื่องดีเรื่องหนึ่งให้กับประชาชนแล้วครับ พวกเราควรจะทำแบบนี้กันตั้งนานแล้ว ให้ทรัพยากรหมุนเวียน ให้ทุกคนสามารถได้ใช้เงินที่น้อยกว่าซื้อทรัพยากรที่ดีกว่า!”


คำพูดของเขาครั้งนี้เป็นคำที่มาจากใจจริงทั้งนั้น งานประมูลในครั้งนี้ นิโค ตู้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ไม่เพียงแต่เจอเจ้างั่งที่ให้ราคาลูกกุ้งที่สูงจนไม่คาดคิดเท่านั้น ยังสามารถได้ลูกปลาค็อดที่ขึ้นชื่อของฟาร์มปลาต้าฉินในราคาถูกอีกด้วย นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดมาก่อนทั้งนั้น!


เมื่อได้ยินคำพูดของนิโค ตู้แล้ว คาร์เตอร์ก็ลมจุกอกจนแทบจุกตายทันที สุดท้ายเมื่อเขาเห็นแมทธิว จินไม่สนใจตัวเอง จึงพูดออกมาอย่างขี้โกงว่า “ถ้าหากไม่สามารถหาความยุติธรรมให้ผมได้ งั้นคุณประธานครับ ผมขอปฏิเสธรายการซื้อของผมเมื่อกี้ครับ”


แมทธิว จินขยับแว่นไปมา แล้วพูดว่า “ตามกฎหมายแล้ว เรื่องนี้สามารถทำได้ แต่ว่าตามกฎของงานประมูลของพวกเราสภาประมูลแล้ว ต่อไปคุณจะเสียสิทธิ์การเข้าร่วมงานประมูลที่จัดขึ้นโดยกรมประมงนะครับ”


พูดจบ เขาส่งสายตาเป็นนัยว่าให้ไปคิดเอาเองให้กับคาร์เตอร์แล้วก็จากไป จากนั้นไม่นานก็มีการแถลงข่าววิเคราะห์งานประมูลครั้งนี้ออกมา เขาที่เป็นเจ้าของฟาร์มปลาก็ต้องเข้าร่วมด้วยเหมือนกัน


คาร์เตอร์ยืนอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยว รู้สึกว่าทั้งโลกเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ใจจริงแล้วเขาเองก็ไม่อยากจ่ายเงินซื้อกุ้งขาวที่ไม่มีประโยชน์พวกนั้นเลย หากว่าเป็นเมนล็อบสเตอร์ก็ว่าไปอย่าง อย่างน้อยราคาของเมนล็อบสเตอร์ในตอนนี้ก็สูงมาก แต่กับกุ้งขาวนั้นจะทำประโยชน์ให้เขาอย่างไร?


แต่ความคิดที่จะไม่จ่ายเงินก็แค่คิดเท่านั้น งานประมูลของกรมประมงในครั้งนี้เป็นกิจกรรมสำคัญที่กรมประมงจัดขึ้นในปีนี้ ในงานประมูลไม่มีผลิตภัณฑ์ทางทะเลชิ้นไหนเลยที่ไม่มีคนประมูล หลังจบงานก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ผิดคำพูด หากว่าเขากลายเป็นจุดดำในนั้นแล้ว นั่นก็คือการหาเรื่องกับกรมประมงอย่างรุนแรง


เขาสามารถไม่เข้าร่วมงานประมูลของกรมประมงครั้งต่อไปได้ เขายังสามารถหาเรื่องกับแมทธิว จินได้ด้วย แต่เขาไม่สามารถทำผิดกับกรมประมงได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปงานต่างๆ ในฟาร์มปลาของเขาจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เลย


เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับฉินสือโอว เขาเข้าร่วมงานประมูลแล้วก็เตรียมจะกลับฟาร์มปลา ก่อนจะกลับไปเขาได้ไปบอกลากับคาเมรอนก่อน คาเมรอนกำลังสั่งการให้ตากล้องทำการเก็บภาพท่าเรือบาสก์ไปวิเคราะห์อยู่ เมื่อเห็นฉินสือโอวมาแล้วก็ให้เขารอสักพัก


คาเมรอนยุ่งกับงานต่ออีกหนึ่งชั่วโมงกว่า จึงจะมาหาฉินสือโอวพร้อมกับความรู้สึกเสียใจ เขายิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เป็นการเก็บภาพที่ค่อนข้างสำคัญ ผมไม่สามารถปลีกตัวมาได้ มีเรื่องอะไรหรือครับ?”


ฉินสือโอวเห็นว่าเวลาไม่เช้าแล้ว จึงพูดเข้าประเด็นทันที บอกไปว่าเขาเตรียมจะกลับฟาร์มปลาแล้ว


คาเมรอนบอกว่าจะไปกับเขาด้วย “ทานมื้อกลางวันกันก่อนค่อยไปแล้วกันนะครับ? ผมรู้มาว่าที่นี่มีชาวฝรั่งเศสมาเปิดร้านอาหารที่ดีมากเลย ชิ้นปลาค็อดผัดขิงกรอบกับผัดผักสไตล์บาสก์ของพวกเขานั้นอร่อยมากเลย นอกจากนั้น ถ้าคุณชอบกินตับห่านแล้วล่ะก็ ต้องมาลองสลัดตับห่านเสิร์ฟพร้อมผลไม้ของร้านนี้นะครับ”


ผู้กำกับใหญ่เชิญทั้งที ฉินสือโอวจึงต้องให้เกียรติ


ร้านอาหารมีชื่อว่าร้านอาหารแซงปิแยร์ ชื่อดังมากในย่านนี้ เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสไตล์ของฝรั่งเศสในศตวรรษที่สิบแปด ตกแต่งร้านแบบเก่าแก่แต่อบอุ่น


ทั้งร้านมีโต๊ะอยู่แค่แปดตัวกับห้องพิเศษหนึ่งห้อง เมื่อเถ้าแก่เห็นคาเมรอนเดินเข้ามาแล้ว ก็รีบพาพวกเขาไปยังห้องพิเศษทันที พร้อมรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ผมได้เตรียมห้องนี้ไว้ให้คุณมาตลอดเลยครับ คุณคาเมรอน เป็นเกียรติมากที่ได้ต้อนรับคุณอีกครั้ง”


คนดังก็ดีแบบนี้ล่ะ ฉินสือโอวเดินเข้าไปในห้องพิเศษมองดูทีหนึ่ง ผนังรอบด้านล้วนเป็นกรอบรูปสภาพใหม่ มีทั้งรูปของคาเมรอน ภาพโปสเตอร์ของภาพยนตร์ที่เขาเป็นคนผู้กำกับ เป็นรูปที่ใหญ่ที่สุดเป็นรูปหมู่ของเขากับร้านอาหารนี้


คาเมรอนเริ่มจากสั่งกาแฟสองแก้วกับขนมหวานจำนวนหนึ่งก่อน เถ้าแก่ถามฉินสือโอวว่าต้องการสั่งอะไร พร้อมกับให้คำแนะนำว่า “หากว่าคุณมาครั้งแรก แนะนำให้คุณลองขนมม้วนนมกับขนมปังฝรั่งเศสของเรานะครับ เป็นขนมหวานขึ้นชื่อของร้านเราครับ”


ฉินสือโอวพยักหน้าตกลง เขาไม่เลือกกิน ขอแค่รสชาติอย่าแปลกมากเหมือนกิวิอักที่เป็นสูตรลึกลับของชาวเอสกิโม เขาก็กินได้หมด


ระหว่างดื่มกาแฟ คาเมรอนพูดออกมาด้วยเสียงทอดถอนใจประโยคหนึ่งว่า “นึกไม่ถึงว่ามื้อแรกที่ผมเลี้ยงอาหารคุณ จะเป็นที่นี่นะครับ”


ฉินสือโอวก็พูดด้วยเสียงทอดถอนใจยิ่งกว่า เขาพูดว่า “ไม่คิดว่าผมจะได้มาทานข้าวแบบใกล้ชิดขนาดนี้กับไอดอลนะครับ” ระหว่างพูดเขาก็หยิบมือถือออกมาแล้วเปิดกล้อง “มาครับ ผู้กำกับ ยิ้มทีหนึ่ง พวกเรามาถ่ายรูปคู่กันอีกสักรูป…”


คาเมรอน “…”


ระหว่างทานอาหารกัน คาเมรอนถามเขาเกี่ยวกับฟาร์มปลาและมหาสมุทร ฉินสือโอวพบว่าเขาถามได้มืออาชีพมาก จึงพูดออกไปด้วยความแปลกใจว่า “พูดจริงนะครับ คุณคาเมรอน การศึกษาด้านมหาสมุทรของคุณนั้นทำให้ผมทึ่งจริงๆ นะครับ คำถามที่คุณถามมาแต่ละอย่างมีความเป็นมืออาชีพสูงมากเลย”


คาเมรอนหัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอนครับ ความรู้เกี่ยวกับมหาสมุทรของผมต้องมากกว่าความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ของคุณแน่นอน ไม่ใช่เหรอครับ?”


จุดนี้ฉินสือโอวจำเป็นต้องยอมรับ เขามีความรู้เรื่องภาพยนตร์อะไรบ้าง? แต่ทว่าเขาสงสัยมากว่าทำไมคาเมรอนถึงคิดอยากจะมาทำภาพยนตร์เกี่ยวกับภัยในมหาสมุทร ผลงานก่อนหน้าอย่างไททานิก ก็ถือว่าเป็นที่สุดของภาพยนตร์แนวนี้แล้ว คาเมรอนไม่น่ามีความจำเป็นที่จะมาถ่ายแนวนี้อีกนี่นา?


ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถือว่าค่อนข้างใกล้ชิดกันแล้ว คำถามแบบนี้เขาสามารถถามได้ ดังนั้น ฉินสือโอวจึงยกคำถามนี้ขึ้นมา


เมื่อได้ยินคำถามของเขา คาเมรอนนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีคุณอาจจะไม่เชื่อนะครับ ฉิน ภาพยนตร์เกี่ยวกับมหาสมุทรนั้น เป็นแนวที่ผมอยากถ่ายทำมาตลอดเลย”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)