ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1222-1229

 บทที่ 1222 เสียงร้องเพลงดังขึ้นมา

 

“เก็บอวนขึ้นมา!” ฉินสือโอวขมวดคิ้วพลางออกคำสั่ง ชาร์คโบกมือไปมา ชาวประมงที่อยู่บนเรือสวมชุดดำน้ำที่เรียบง่ายและแข็งแรงลงทะเลไป พวกเขาใช้ส่วนด้านบนของอวนลอยกลางน้ำผูกเข้ากับเชือก ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งผูกเขากับเรือฮาวิซท จากนั้นก็ลากอวนลอยกลางน้ำขึ้นมา


พลังการทำลายของอวนลอยกลางน้ำนั้นแข็งแกร่งมาก ทรัพยากรประมงที่อุดมสมบูรณ์ การสูญพันธุ์อย่างมักง่ายเกิดขึ้นจากการทอดอวนลงไปสุ่มสี่สุ่มห้า ทำให้ได้รับทรัพยากรมาจำนวนมหาศาล


อวนจับปลาเต็มไปด้วยปลาต่างๆ มีปลาตัวใหญ่จำนวนมากแต่ที่มากกว่าคือปลาตัวเล็กๆ ฉินสือโอวเข้าไปดู มีทั้งปลาจะละเม็ด ปลาซันมะ ปลาค็อด ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะ ปลากะพงญี่ปุ่น ลูกปลาค็อด นอกจากนี้ยังมีปลาดาบเหนืออีกด้วย


ปลาดาบเหนือเป็นปลาชนิดพิเศษของมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาดาบส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกเท่านั้น  มีเพียงปลาดาบเหนือเท่านั้นที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะว่ายน้ำมาจากมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อมายังมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อวางไข่


ทักษะการว่ายน้ำของปลาชนิดนี้ค่อนข้างแย่ พวกมันเดินทางจากมหาสมุทรแปซิฟิกมายังมหาสมุทรแอตแลติกด้วยความยากลำบาก ปรากฏว่าเมื่อหลีกเลี่ยงจากปากฉลามและเรือประมงได้แล้ว ท้ายที่สุดแล้วกลับมาเจอเข้ากับอวนตาข่ายหลายชั้นนี้


“ไอ้ลูกผสมพวกนี้!” ฉินสือโอวโมโหจนตบหน้าปัดเรือยนต์ เขาพูดผ่านวิทยุสื่อสารออกมาอย่างร้ายกาจว่า “ฟังนะ ต่อไปหากเจอเข้ากับเรือขโมยปลา ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม พวกมันต้องถูกจับและปฏิบัติตามกฎหมายการจับเต่ามะเฟืองทั้งหมด!”


เขามักจะใจอ่อนเกินไป เพราะเขาเข้าใจถึงความยากลำบากในการจัดการเรือประมง ทรัพยากรนอกชายฝั่งนั้นน้อยลงเรื่อยๆ ทุกคนที่ออกทะเลไปหากไม่ได้โชคกลับมาก็ต้องเสียเงินแทน ดังนั้นไม่ว่าจะต้องผ่านวิธีการอะไร ฉินสือโอวก็ยังคงหาทางออกให้พวกขโมยปลาเสมอ


อย่างน้อย เขาก็ไม่เคยทำร้ายชีวิตคนเลย


แต่ว่าตอนนี้เรือขโมยปลาชักจะทำเกินไปแล้ว ถึงขนาดที่ว่าหว่านอวนลงมาในพื้นที่ฟาร์มปลาของเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้อย่างแน่นอน!


ฉินสือโอวตัดสินใจที่จะตอบโต้กลับ หลังจากนี้คราเคนจะไม่อ่อนโยนอีกต่อไป หากเจอเข้ากับเรือประมงอีก พวกมันจะต้องถูกทำลาย!


แต่ว่าเมื่อเป็นแบบนี้ การได้รับผลผลิตของพวกเขาก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมา บนอวนผืนนี้มีปลาจำนวนมากติดอยู่ด้านบน ปลาจำนวนเล็กใหญ่รวมกันหนักราวสองสามตัน โดยมีปลาค็อดแอตแลนติก ปลาแซลมอนแอตแลนติก ปลาแซลมอนโคโฮ ล้วนแต่เป็นปลาเศรษฐกิจอันมีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก


พวกชาวประมงทำงานกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาแบ่งปลาตามขนาดตัวเล็กใหญ่ ฉินสือโอวเห็นกล่องใบหนึ่งเต็มไปด้วยลูกปลาที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ ใจของเขาเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาพูดขึ้นออกมาว่า “กล่องใบนี้ให้ฉันเอาไปเองแล้วกัน ฉันจะเอาไปใช้ทำอย่างอื่น”


ลูกปลาก็มีข้อดีของมัน พ่อกับแม่อยู่ที่นี่ ทำให้เขานึกถึงอาหารรสเลิศจานหนึ่งที่ได้กินบ่อยๆ ตอนเด็ก ปลาทอดกระทะ ใช้ปลาพวกนี้ทำได้พอดีเลย


บนเรือปริ้นเซสเมล่อน ความยาวของอวนที่ลากมาค่อยๆ ลดลง ซีมอนสเตอร์ขับเรือไปข้างหน้า แบบนี้อวนจะค่อยๆ คลายออก กลายเป็นการวางตาข่ายดักศัตรู


ฉินสือโอวเลือกใช้อวนที่มีรูตาข่ายขนาดใหญ่ ปลาที่มีขนาดยาวต่ำกว่าหนึ่งเมตรโดยปกติจะไม่สามารถหนีหลุดไปได้ แต่ปลาที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรจะต้องใจเย็นและฉลาด เพียงแค่อย่านอนติดอยู่กับด้านข้างอวน แบบนั้นก็จะสามารถหนีผ่านตาข่ายออกไปได้ง่าย


ทรัพยากรของฟาร์มปลามีจำนวนมาก เขาไม่กลัวว่าพวกมันจะลดจำนวนลงหรอก


เมื่อเทียบกับเรือฮาวิซท เรือปริ้นเซสเมล่อนเป็นเรือประมงระดับสูง ที่เรือมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ที่หางเรือมีหลอดไฟฮาโลเจนติดอยู่ สวิตช์ควบคุมอยู่ที่ห้องควบคุม ทั้งหมดแบ่งเป็นสามประเภท หลอดไฟล่อปลา ไฟลูกลอย และไฟสมอ


ปลาทะเลโดยเฉพาะปลาที่อาศัยอยู่บริเวณชั้นกลางของมหาสมุทรขึ้นไป พวกมันตอบสนองต่อแสงอย่างรุนแรง ปลาแองเกอร์ที่ฉินสือโอวพบเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็ใช้คุณสมบัตินี้ของมันในการล่อพวกมัน


ซีมอนสเตอร์เปิดไฟที่หางเรือ เรือปริ้นเซลเมล่อนเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว


ที่หางเรือไม่เพียงมีแต่ไฟฮาโลเจนเท่านั้น ด้านในยังมีหลอดไส้ร้อนอยู่ หลอดไฟแบบนี้ราคาถูก มันเป็นหลอดแผ่รังสีความร้อน พวกมันเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานความร้อน พลังงานแสงและพลังงานรังสี ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบสนองความต้องการของแสงและความร้อนของปลาทะเล ดังนั้นแม้ว่าประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างจะต่ำ แต่มันก็ยังคงถือว่าไม่ตกรอบ


ที่สำคัญกว่านั้นคือหลอดเมทัลฮาไลด์ หลอดประเภทนี้เป็นหลอดก๊าซดิสชาร์จ ประสิทธิภาพในการส่องแสงของมันสูงมาก เนื่องจากมีเมทัลฮาไลด์อยู่ในหลอด แสงที่ปรากฏออกมาเป็นแสงสีฟ้าสวยงาม ดวงไฟจะปล่อยแสงออกมาที่ระยะห้าร้อยยี่สิบนาโนเมตรและห้าร้อยหกสิบนาโนเมตร


นี่คือพลังของเทคโนโลยีสมัยใหม่ จากผลวิจัยที่หาได้ ปลาทะเลที่อยู่ในระดับชั้นกลางจะมีความไวต่อแสงมากที่สุดต้องอยู่ในช่วงระยะห้าร้อยหกสิบนาโนเมตร หากอยู่ในสภาพที่แสงไม่ดี จะมีความไวต่อแสงมากสุดห้าร้อยยี่สิบนาเมตร หากคลื่นความยาวนี้ถูกใช้เป็นระยะ พวกมันจะสามารถดึงดูดปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง


เมื่อก่อนเรือฮาวิซทไม่มีคุณสมบัติแบบนี้ การลากอวนเมื่อก่อนใช้เทคนิคล่าขุมสมบัติห้าประการกับการหาแบบโซนาร์ แต่ว่าทั้งสองวิธีเป็นเพียงการตกปลาปกติ เพียงแค่รอปลามารวมกันเป็นฝูง หลังจากที่พวกเขาเจอปลา จึงจะจับได้


ตอนนี้เรือปริ้นเซลเมล่อน ใช้วิธีการตกปลาเป็นหลัก และใช้วิธีการใช้แสงล่อปลา พวกเขาจะสามารถรวมปลาที่กระจัดกระจายเข้ามารวมกันได้ พวกเขากวาดปลาเรียบไม่เหลือ แบบนี้จะทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น


ครั้งแรกที่ฉินสือโอวเห็นเรือประมงใช้เทคนิคนี้ เขาค่อนข้างแปลกใจจึงเข้าไปในห้องโดยสารเพื่อดูการทำงานของมัน


ซีมอนสเตอร์เคยออกทะเลไปไกล จึงคุ้นเคยกับเครื่องมือพวกนี้มาก เขาเปิดปุ่มกดที่เขียนว่าการไหลของน้ำและโคมไฟขึ้นมา แล้วพูดออกมาว่า “นี่เป็นโหมดใช้ไฟล่อปลา ตอนนี้ไฟที่ส่งบนผิวน้ำและในน้ำเปิดขึ้นพร้อมกัน เมื่อดวงไฟถูกปล่อยออกมา พวกมันจะลอยไปตามกระแสน้ำได้ แบบนี้จะสามารถขยายขอบเขตของกับดักได้”


เรื่องที่ต้องทำต่อเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ซีมอนสเตอร์นั่งลงบนที่นั่งโดยเท้าทั้งสองข้างวางอยู่ที่พนักวางเท้า จากนั้นก็ดื่มกาแฟอย่างสบายใจ เรื่องที่ต้องทำต่อไปนั่นก็คือการรอ รอให้โคมไฟล่อปลาล่อปลาทะเลกลุ่มใหญ่เข้ามา


เรือประมงเคลื่อนออกไปข้างหน้าช้าๆ ราวหนึ่งชั่วโมงแล้ว ซีมอนสเตอร์ก็เรอออกมาแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เริ่มสั่งให้ชาวประมงทำงาน “โอเค โอเค เพื่อนยากทั้งหลาย ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวมาถึงแล้ว! พวกเรามาร้องเพลง ‘ป่าเบิร์ช’ และเริ่มรับของขวัญล้ำค่าจากทะเลกันเถอะ!”


พวกชาวประมงกู่ร้องหัวเราะขึ้นมา การทำงานในทะเลเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก พวกเขาจำเป็นจะต้องหาความสุขให้ตัวเอง บางครั้งเพลงเพลงเดียวก็สามารถทำให้พวกเขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ ดังนั้นทุกคนจึงมักจะร้องเพลงด้วยกัน


พวกชาวประมงทุกคนมีเสียงอันแหบและดัง ไม่มีใครร้องเพลงเพราะเลยสักคน ดังนั้นจึงไม่มีใครหัวเราะเยาะกันและกัน ลูกคอของพวกเขาแต่ละคนเหมือนกับต้องคำสาป พวกเขาไม่สนใจทำนอง ขึ้นอยู่กับว่าเสียงของใครดังกว่า เสียงของคนนั้นก็กลืนเสียงของคนอื่นได้


การทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะพวกเขาแข่งขันกัน แต่เพราะมันเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง พวกชาวประมงเชื่อว่าการร้องเพลงในระหว่างที่จับปลานั้น ยิ่งร้องดังมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งจับปลาได้มากขึ้นเท่านั้น


เพลงดินแดนแห่งเบิร์ชสีเงิน จุดเริ่มต้นเกิดมาจากแตรใหญ่ของเรือประมงที่ดังขึ้นในสมัยก่อน พวกชาวประมงทำงานไปพลางโห่ร้องออกมา ฉินสือโอวได้รับความรู้สึกนั้นจนเขาก็ร้องเพลงออกมาเช่นกัน “ดินแดนแห่งเบิร์ชสีเงิน บ้านเกิดของบีเวอร์…ที่นั่นมีกวางตัวใหญ่ ว่ายน้ำได้อย่างอิสระ…แนวชายฝั่งหินของทะเลสาบสีฟ้า ฉันอยากจะกลับไปอีกครั้ง…”


เมื่อมาถึงท่อนที่ต้องร้องพร้อมกัน ความสนุกก็เกิดขึ้น “บูม ดี ดี บูม บูม บูม ดี ดี บูม บูม บูม! บูม! บูม!..”


ทุกคนตะโกนออกมาพร้อมกัน โดยเฉพาะบลูที่ตะโกนจนหน้าแดงและลำคอปูดโปน


แต่มันก็เป็นแบบที่พวกเขาเชื่อกัน ในขณะที่กำลังร้องเพลงอยู่นั้น อวนขนาดใหญ่ก็ถูกลากขึ้นมาด้วยเครื่องจับปลา ในอวนจับปลาเต็มไปด้วยปลาค็อดแอตแลนติก ปลาแฮดดัค ปลาคาพีลิน ปลาหิมะ อวนจับปลาถูกย้ายไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของจากนั้นมันก็ถูกเปิดออก ราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ปลาจำนวนนับไม่ถ้วนไหลทะลักออกมาทันที!

 

 

 


บทที่ 1223 ระบบนิเวศของภูเขาไฟขนาดเล็ก

 

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า ลำเรือปริ้นเซสเมล่อนขนาดใหญ่ค่อยๆ ถูกแสงอาทิตย์สาดส่องลงมา มันแล่นเข้าเทียบท่าอย่างช้าๆ


บัตเลอร์สวมหมวกฟางรอพวกเขาอยู่ที่ท่า การแต่งการของเขาน่าสนใจมาก หมวกฟาง สูทสีขาว และรองเท้าคัทชู เมื่อบวกกับหนวดเคราขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้คางแล้ว เขาแต่งตัวแนวแฟชั่นย้อนยุคเหมือนกับชาวอเมริกันผิวดำในยุคหกสิบเจ็ดสิบก็ไม่ปาน


เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวลงมาจากเรือก่อน ชายหนวดเฟิ้มอุทานออกมาว่า “เพื่อนยาก ถ้าหากไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ฉันคงคิดว่าเมื่อคืนนายคงเล่นไพ่นกกระจอกอยู่แทนที่จะไปตกปลา เห็นจิตวิญญาณของนายแบบนี้แล้ว ดูกระปรี้กระเปร่าเหลือเกิน”


ครั้งนี้บัตเลอร์ต้องการอาหารทะเลจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นฉินสือโอวคงไม่ส่งเรือปริ้นเซสเมล่อนออกไป พวกเขาอยู่ในน่านน้ำหนึ่งวันหนึ่งคืน จับปลาทะเลหลากหลายชนิดรวมกันได้ห้าสิบตัน รวมถึงล็อบสเตอร์และปูก็ได้กลับมาด้วยเช่นกัน


เมื่อคืนฉินสือโอวก็มาช่วยแบ่งปลาด้วยตัวเอง แต่ร่างกายของเขานั้นพิเศษ หลังจากที่ทำงานอย่างหนักและงีบไปเพียงสองชั่วโมง ร่างกายของเขาก็กลับมามีพลังอีกครั้ง


แน่นอนว่าเขาไม่บอกสาเหตุที่แท้จริง เขาทำเพียงพูดกลั้วหัวเราะกับบัตเลอร์ว่า “ถ้าหากนายอยู่ให้ห่างจากนางแบบสาวของนายสักหน่อย ห่างจากการสูบบุหรี่สักหน่อย หันมาออกกำลังกายแต่เช้าเหมือนฉันมากๆ และใส่ใจกับสารอาหารที่ได้รับ นายก็จะกระปรี้กระเปร่าเหมือนฉันนี่แหละ”


บัตเลอร์ถามออกมาว่า “พูดได้ดีมากเพื่อน แต่ว่าทำไมฉันจะต้องหาเงินด้วยความสิ้นหวังแบบนี้ล่ะ? หาเงินมาไม่ใช่เพื่อความสนุกไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันไม่สูบบุหรี่ไม่ดื่มเหล้าไม่เล่นกับสาวๆ แบบนั้นฉันก็ไม่ต้องมีเงินเยอะก็ได้”


พูดไป เขาก็ตบไหล่ของฉินสือโอวไป จากนั้นเขาก็วิ่งเหยาะ ๆ ไปบนเรือ เพื่อดูการจับปลา


หลังจากขึ้นเรือไป เขาก็เจอเขากับปลาโอแถบหนึ่งตัว เขาหยิบมันขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับล็อบสเตอร์ จากนั้นเขาก็ไปถ่ายรูปคู่กับปูหิมะ แล้วก็ถ่ายวิดีโอ จากนั้นก็อัปรูปขึ้นโซเชียลมีเดีย


เมื่อเห็นพวกชาวประมงเม้มปากใส่ตัวเอง บัตเลอร์ก็พูดออกมาว่า “เฮ้ๆๆ เพื่อนยาก พวกนายคิดว่าฉันเป็นคนหลงตัวเองใช่ไหม? ไม่ แน่นอนว่าไม่ใช่! ตอนนี้พวกโรงแรมใหญ่ๆ กำลังติดตามฉันในทวิตเตอร์อยู่ ฉันต้องให้พวกเขารู้ว่าอาหารทะเลต้าฉินของพวกเรามาจากฟาร์มปลาสดๆ! นี่เป็นสินค้าที่ดีที่สุด!”


“คุณบัตเลอร์ ลำบากคุณแล้วจริงๆ” ชาร์คพูดขึ้นมาอย่างจงรักภักดี


ชายหนวดเฟิ้มโบกมือไปมาแล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “ไม่หรอก พวกนายต่างหากล่ะ”


“ไม่เลย คุณบัตเลอร์ คุณก็เป็นเจ้านายของพวกเราอีกคนไม่ใช่เหรอ? ถ้างั้นให้อั่งเปาพวกเราหน่อยได้หรือเปล่า?”


“ฉันมีเรื่องที่ต้องทำอีก พวกนายส่งปลาพวกนี้ไปให้ฉันแล้วกัน” บัตเลอร์เดินออกไปอย่างมั่นคง


หลังจากที่ฉินสือโอวกลับมา พ่อแม่ของเขาก็กำลังรอเขาอยู่ วินนี่พูดปลอบใจด้วยความอดทนว่า “ดูสิคะ หนูบอกแล้วว่าฉินออกทะเลไปไม่เป็นอะไรหรอก พวกคุณไม่ต้องรอเขา ที่นี่เป็นฟาร์มปลาของพวกเรา ทะเลคลื่นลมสงบ ปลอดภัยมาก”


ฉินสือโอวถามออกมาถึงได้รู้ว่า พ่อแม่ของเขารอเขาทั้งคืนไม่ได้นอน เพราะกังวลว่าเขาจะเจอกับอันตรายที่ทะเล


ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกๆ มักจะบริสุทธิ์เช่นนี้ พวกเขาสองคนไม่เข้าใจเรื่องงานที่ต้องออกทะเล พวกเขารู้เพียงว่าการออกไปทะเลหนึ่งวันหนึ่งคืนนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก


ฉินสือโอวเอาลังที่บรรจุลูกปลาไปไว้ในห้องครัว จากนั้นก็บอกกับพ่อแม่ว่าเขาออกไปทะเลรอบนี้ไม่ได้เจอกับเรื่องร้ายอะไร และบอกให้พวกเขาไปพักผ่อน


วินนี่รีบให้เขาไปพักผ่อนด้วยเช่นกัน ฉินสือโอวไม่ได้เป็นอะไร จึงพูดออกมาว่า “ผมได้ลูกปลาพวกนี้มาจำนวนหนึ่ง ตอนกลางวันทานอาหารพิเศษจากบ้านเกิดของพวกเรากันนะ ปลากระทะ”


วินนี่ยกมือบีบจมูกฉินสือโอวด้วยความเอ็นดู แล้วพูดว่า “เอาล่ะๆ ฉันรู้แล้วค่ะ คุณไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวปลาพวกนี้ฉันจัดการเอง”


สองพี่น้องเฟอเรท ชะโงกหัวออกมาจากกระเป๋าของวินนี่ จมูกเล็กๆ ของพวกมันขยับไปมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองไปยังลังน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยลูกปลาตาไม่กะพริบ เฟอเรทมีสัมผัสต่อกลิ่นคาวเร็วมาก พวกมันชอบปลาเหมือนกัน เพียงแต่ติดเรื่องความสามารถเท่านั้น อยู่ในป่าจะไปกินปลาได้อย่างไรกัน


ฉินสือโอวไม่อยากขัดอีก เขากลับไปนอนที่ห้องนอน ปรากฏว่าเมื่อเขาล้มตัวลง ต้าป๋ายก็กระโจนขึ้นมาบนเตียงทันที มันเดินไปมารอบๆ ตัวเขาช้าๆ


เมื่อเห็นต้าป๋ายสภาพร่างกายของฉินสือโอวก็ดีขึ้น เขาอุ้มพอสซัมตัวน้อยขึ้นมามองระดับสายตา เขามองมันตั้งแต่ดวงตาไปจนถึงหาง รูปร่างของต้าป๋ายนั้นค่อนข้างดี เทียบกับท่าทางหงอยเหงาของเมื่อก่อนถือว่าดีขึ้นมาเยอะ เมื่อโดนฉินสือโอวกอดมันก็ยกเท้าขึ้นมาเขี่ยๆ เขา ท่าทางดูขี้เล่นทีเดียว


ฉินสือโอวรู้สึกว่ากระดองของแมลงยักษ์ใช้ได้ผล สองวันมานี้เขาให้ต้าป๋ายกินไปนิดหน่อย ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เลวเลยทีเดียว


แบบนี้เขาเลยลงจากเตียง เขาดึงกระดองขนาดเท่าฝาหม้อออกมาจากใต้เตียง แล้วใช้ตะไบตะไบพวกมันอย่างระมัดระวังเผื่อให้ได้ผงออกมา


โดยที่ไม่ต้องให้เขาป้อน ต้าป๋ายก็เดินเข้ามากินด้วยตนเอง มันแลบลิ้นเล็กๆ ออกมาแล้วเลียผงพวกนั้นเข้าปากไปทั้งหมด แม้แต่เศษเล็กๆ ที่ตกอยู่ตามพรมก็เลียจนหมด


หลังจากกินผงเปลือกกระดองจนหมด ต้าป๋ายก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน ฉินสือโอวรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเผาผลาญที่ลดลง สองวันก่อนหน้าก็เป็นแบบนี้ พอกินสิ่งนี้เข้าไปต้าป๋ายก็นอนหลับทันที


เขานอนกอดต้าป๋ายอยู่บนเตียง หลังจากคิดไปคิดมาเขาก็ปล่อยให้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปยังหลุมน้ำเงิน  แล้วก็ถ่ายพลังงานโพไซดอนให้กับเจ้าสัตว์ประหลาดตะขาบยัษ์สีดำตัวนี้


จากร่างกายสีดำของตะขาบยักษ์ ฉินสือโอวคิดมานานแล้ว อายุของเจ้าตัวเล็กทั้งหลายคงอยู่ได้อีกไม่นาน พลังโพไซดอนสามารถยืดไปได้อีกนิดหน่อย แต่ว่าไม่สามารถยืดได้นานมากนัก แต่ไม่แน่ว่ากระดองของตะขาบยักษ์สีดำตัวนี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะยืดอายุสัตว์น้อยที่น่ารักเหล่านี้ได้


ที่หลุมน้ำเงินมีแมลงยักษ์อยู่จำนวนไม่น้อย ตะขาบยักษ์ตัวนี้ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในยุคใด และก็ไม่รู้ว่าตะขาบยักษ์เหล่านี้อาศัยอยู่ที่หลุมน้ำเงินนี้มานานเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าถ้าเขาเพียงแค่ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของเขาใช้ จำนวนของพวกมันก็คงเพียงพอ


ส่วนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องน่ะเหรอ? ฉินสือโอวรู้สึกว่าดูผลจากการเปลี่ยนแปลงดีกว่า ให้แซนเดอร์สมาวิจัย ก็ต้องนำออกไปจำนวนหนึ่ง เขาไม่อยากเอาพวกมันออกมาข้างนอก เขายังคงเชื่อมั่นในประโยคนั้น เดิมทีคนเราไม่มีความผิด แต่เพราะมีของดีอยู่กับตัวจึงมีความผิดซะงั้น!


เมื่อออกมาจากถ้ำ เขาได้ถือโอกาสนี้ในการทิ้งพลังโพไซดอนให้แนวปะการังสีแดงด้วยจำนวนหนึ่ง และได้แวะไปดูตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาไฟใต้น้ำด้วย


ที่ก้นทะเลยังคงมีแมกมาปล่อยมาตามรอยแตกอยู่เป็นระยะๆ สิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องความดันใต้ทะเล ทำให้เกิดระบบนิเวศใหม่ใกล้ๆ กับบริเวณภูเขาไฟ


สาหร่ายบางชนิดสามารถฝังรากไว้ที่หินปูนที่อ่อนนุ่มใต้ทะเลได้ ที่นี่มีสารอาหารสมบูรณ์มาก พวกมันเติบโตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ทั่วทั้งเนินภูเขาทะเลเต็มไปด้วยสาหร่ายขึ้นล้อมรอบเกือบทั้งหมด


ปูตัวเล็กสีเทาที่เหมือนกับปูราชินีที่ครั้งที่แล้วฉินสือโอวเคยเห็นกำลังเดินขึ้นลงไปมาที่เนินเขา พวกมันไม่ได้ตัวใหญ่มาก แต่ว่าค่อนข้างอ้วน ราวกับขนมปังก้อนๆ หนึ่งเลย แถมยังดูมีชีวิตชีวาด้วย


ปลาที่นี่ส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดเล็กที่มีลำตัวเกือบโปร่งใสแต่มีสีสัน ปลาตัวยาวที่สุดยาวเพียงนิ้วชี้เท่านั้น พวกมันว่ายน้ำไปมาอย่างมีความสุข ปากแหลมคอยจิกกินสิ่งมีชีวิตบางชนิดไม่หยุด ดูเหมือนว่าพวกมันจะคอยกินปรสิตที่อยู่บนร่างกายของสิ่งชีวิตพวกนั้น


ปลาหลากสีพวกนี้จะชอบอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมาก เพราะไม่มีกุ้งปูปลาตัวไหนมาคอยล่าพวกมัน อีกทั้งเมื่อพวกกุ้งปูปลาเข้าใกล้ภูเขาไฟ ราวกับผู้ป่วยที่กำลังรับการตรวจจากแพทย์อยู่


ฉินสือโอวไปดูฟองน้ำซิลิโคนที่เหมือนกับฟองน้ำแก้ว ของเหล่านั้นสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พวกมันจะดึงสารอาหารออกมาจากแมกมาที่แข็งตัว หลังจากนั้นพวกก็จะเติบโตไปเรื่อยๆ


รอบๆ ภูเขาไฟมีฟองน้ำทะเลอยู่รอบๆ ราวสี่ห้าสิบอัน พวกมันสามารถยาวได้ถึงเมตรครึ่ง หลังจากนั้นมันก็จะหยุดโตและเริ่มแตกหน่อ ครั้งที่แล้วที่ฉินสือโอวมาดู มีเพียงสิบกว่าอันเท่านั้น


จากการเจริญเติบโตที่ไปอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ฟองทะเลเหล่านี้จึงไม่ใช่ฟองน้ำแก้ว เพราะว่าฟองน้ำแก้วไม่สามารถยาวได้ถึงหนึ่งเมตรแม้จะใช้เวลาถึงหมื่นปีก็ตาม…


แต่ว่า ฟองน้ำทะเลพวกนี้มาจากไหนกัน? แล้วสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง? ไม่ว่าอย่างไรท่านชายฉินก็ไม่มีทางรู้ได้เลย

 

 

 


บทที่ 1224 ปลากระทะ

 

ท่านชายฉินคิดว่าตัวเองมีจิตวิญญาณของนักวิชาการที่สามารถรู้ถึงต้นตอของมันได้ เขาเรียนมัธยมมาจากโรงเรียนชนบทใช้ความคิดนี้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกและมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศได้ เนื่องจากเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าฟองน้ำทะเลนี้เกิดขึ้นได้อย่าไงร เขาจึงต้องศึกษามันอย่างรอบคอบ


หลังจากที่ศึกษาอยู่ได้ไม่ได้ เขาก็หลับตานอนหลับได้สำเร็จ….


วินนี่ขึ้นมาเรียกฉินสือโอวมาทานข้าว เมื่อเปิดประตู เธอก็เห็นว่าผู้ชายของตัวเองกำลังนอนฝันหวานราวกับเด็ก นอกจากนี้ยังมีโอพอสซัมเวอร์จิเนียตัวอ้วนอยู่ในอ้อมกอด พอสซัมวางหัวที่มีขนยาวอยู่ที่คอของฉินสือโอว บางครั้งก็ขยับหัวถูคางเขาเป็นครั้งคราว เหมือนเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่


วินนี่ยิ้มหวานออกมา เธอหยิบกระดาษขึ้นมาฉีกเป็นสองสามเส้น จากนั้นก็มานั่งบนเตียง พลางมองไปยังฉินสือโอวด้วยความอ่อนโยน


ท่านชายฉินรู้สักคันใบหน้าเล็กน้อย เขาปัดมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าวินนี่กำลังใช้เส้นผมแกล้งเขา ฉินสือโอวสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเงยหน้าขึ้นเบิกตากว้างพลางพูดออกมาว่า “ว้าก…”


เขาคิดอยากจะกัดวินนี่สักที


แต่ว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นใบหน้าซีดเผือดที่อยู่ด้านหน้า ไม่มีอวัยวะบนใบหน้าทั้งห้า มีเพียงหลุมสองสามหลุม แล้วผมที่กระเซอะกระเซิงที่อยู่ตรงหน้าเขา


“โว้ว!” ขุนนางฉินเห็นของเล่นชิ้นนี้ทันทีที่ลืมตาขึ้นมา เดิมทีเขาอยากทำให้วินนี่ตกใจจนตัวลอย ในขณะเดียวกันเขาก็โยนต้าป๋ายออกไป ส่วนตัวเองก็ถอยหลังไป


วินนี่โยนกระดาษที่บังหน้าเหล่านั้นทิ้งแล้วหัวเราะออกมา ต้าป๋ายกลิ้งไปมาบนพื้น มันลืมตาขึ้นมางัวเงียแล้วมองไปยังคนทั้งสอง มันจำได้ชัดเจนว่าตัวเองนั้นนอนหลับอยู่บนเตียง แล้วทำไมจู่ๆ ถึงลงมาอยู่ที่พื้นได้ล่ะ?


ฉินสือโอวมองไปยังใบหน้าที่กำลังพึงพอใจของวินนี่ เขาก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที เขากะว่าจะทำให้วินนี่ตกใจกลัว ทำไมเขาถึงโดนทำให้ตกใจเสียเองล่ะ?


หากเป็นปกติ ของแบบนี้ไม่สามารถหลอกเขาได้ แต่วินนี่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ถึงสามารถทำให้เขาตกใจตื่นในขณะที่นอนหลับได้ ตอนนี้สมองของฉินสือโอวกำลังสับสน ปฏิกิริยาทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว สมองของเขาไม่สามารถตอบสนองได้


ฉินสือโอวกำลังตกใจอยู่ ส่วนวินนี่หัวเราะแล้วลุกขึ้นจากนั้นก็วิ่งออกไป เธอรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น


ฉินสือโอวสวมชุดนอนแล้วไล่ตามวินนี่ไป วินนี่วิ่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากลงไปชั้นล่าง หลังจากนั้นเธอก็หยุดวิ่ง เธอรีบพูดขึ้นมาว่า “พ่อแม่กำลังนอนหลับอยู่ หากคุณทำอะไรฉัน ฉันจะตะโกนจนทำให้พวกเขาตื่นเลย”


เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินสือโอวตื่นตกใจขึ้นมาทันที “แล้วอาหารกลางวันก็ยังทำไม่เสร็จใช่ไหม? คุณก็ไม่ใช่ลูกสะใภ้ที่ดี หลักสามปฏิบัติสี่คุณธรรมล่ะ? ช่วยเหลือสามีสั่งสอนบุตรล่ะ?”


วินนี่ผลักเขาไปที่ห้องครัว “อยู่ในกระทะหมดแล้วค่ะ คุณเปิดดูสิคะ”


ฉินสือโอวเปิดกระทะออก ข้างในเป็นปลาที่ถูกล้างอย่างสะอาด เขาเกาหัวแล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะทำปลากระทะ เขาปล่อยวินนี่ไปก่อน จากนั้นก็เตรียมตัวทำอาหาร


ก่อนจะเริ่ม เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตะโกนเรียก ซีมอนสเตอร์ แบล็คไนฟ์ ชาร์คและบลู ให้เข้ามา


ชายร่างใหญ่ห้าคนวิ่งเข้ามาในห้องครัวด้วยความมึนงง ฉินสือโอวชี้ไปยังหม้อและปลาที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องถาม เมนูง่ายๆ เมนูหนึ่ง ตอนนี้ฉันจะทำให้พวกนายดู พวกนายดูให้ดีล่ะ”


มีหลายพื้นที่ที่ทำปลากระทะ ที่บ้านเกิดของฉินสือโอวมีแม่น้ำหลายสาย ปลาในแม่น้ำไม่ได้ตัวใหญ่ นำมาทำอาหารทั้งตัวไม่อร่อย และหากต้องการทอดล่ะก็ เนื่องจากเมื่อก่อนมีแป้งมีน้ำมันน้อย ทำให้ออกมาไม่อร่อย ดังนั้นทุกครอบครัวจึงจับปลาในแม่น้ำ แล้วเอามาทำเป็นปลากระทะทานกัน


ตอนเด็กๆ ฉินสือโอวมักจะไปนำอวนตกปลาของตัวเองไปจับปลากับพวกฉินเผิงบ่อยๆ ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง พวกเขาจะนำกระทะของตัวเองไป มีหมั่นโถวไปด้วยจำนวนหนึ่ง หลังจากจับลูกปลาในแม่น้ำแล้วพวกเขาก็จะจุดไฟทำปลากระทะกินกันที่ริมแม่น้ำ


พอตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นมา เขาก็ไม่ได้กินอีกเลย ตอนนี้ปลาในแม่น้ำมีน้อยมากแล้ว และมีที่เลี้ยงมากมายในฟาร์มปลาที่วางจำหน่ายในตลาด มีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามจะทำอาหารเมนูนี้


วินนี่รู้ว่าบ้านเกิดของพวกเขาทำปลาเพียงอย่างไรคร่าวๆ ปลาเล็กๆ พวกนั้นถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแต่จะล้างท้องและตัดหัวปลาออกเท่านั้น แต่เธอยังบั้งปลาบนตัวไว้แล้วด้วย แล้วใช้ไวน์ขาวและน้ำส้มสายชูหมักไว้อย่างง่ายๆ


แบบนี้ฉินสือโอวก็ทำอาหารได้ทันที มันง่ายมากเลย เขาตั้งกระทะจนร้อนแล้วเทน้ำมันมะกอกลงไป หลังจากที่น้ำมันเดือดเขาก็ใส่หมูสามชั้นลงไป หลังจากผัดเนื้อหมูจนมีกลิ่นหอมก็ใส่หอมหัวใหญ่ ขิง กระเทียม และพริกลงไปแล้วผัดเข้าด้วยกัน


หลังจากผัดเครื่องเทศจนมีกลิ่นหอมแล้ว เขาก็เทซอสถั่วเหลืองลงไป จากนั้นก็เทน้ำลงไปและเริ่มเคี่ยว สุดท้ายเขาก็ต้มไวน์ขาวและน้ำตาลลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ


นอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่มลงไปอีก รสชาติของปลาทะเลนั้นสดใหม่อร่อย กุญแจสำคัญของอาหารเมนูนี้คือความร้อนไม่ใช่ปริมาณของเครื่องปรุง ดังนั้นเมื่อทานก็จะได้รับรสชาติสดใหม่ของปลา


ในขณะที่กำลังตุ๋นปลา ฉินสือโอวก็นำเส้นบะหมี่มาละลายในน้ำอุ่นจากนั้นก็นวดเข้าด้วยกันจนกลายเป็นแผ่นแพนเค้กแผ่นเล็กๆ เขานำแพนเค้กเข้าเตาอบเพียงครู่หนึ่ง เมื่อได้ที่แล้วเขาก็หยิบมันออกมา จากนั้นก็เอาด้านหนึ่งทาน้ำมันแล้วนำไปย่างบนกระทะ


ปลากระทะเมนูนี้ต้องทานคู่กับแพนเค้กธัญพืชถึงจะอร่อย เดิมทีการทานแบบนี้เป็นที่นิยมในยุคเจ็ดสิบและช่วงแปดสิบ ณ ตอนนั้นอาหารหลักของบ้านเกิดฉินสือโอวเป็นพวกเค้กข้าว ข้าวเกาเหลียง


แต่ทานกับแพนเค้กทำให้มีรสชาติที่ดีกว่า ซุปปลาที่กำลังเดือดส่งเสียงดังปุดๆ ออกมา แพนเค้กชนิดนี้ดูดซับน้ำได้ดี มันจะดูดซับน้ำซุปปลามาบางส่วน สุดท้ายเมื่อแพนเค้กพวกนั้นถูกย่างจนได้ที่ น้ำซุปจากปลาก็คงจะเหลือจำนวนไม่มากแล้ว พอถึงตอนนั้นก็ถือว่าอาหารจานนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว


ฉินสือโอวถามเหล่าชายหนุ่มที่อยู่รอบๆ ว่า “ทำกันได้หมดแล้วใช่ไหม?”


ทุกคนพากันพยักหน้า ชาร์คยิ้มพลางถามว่า “วันนี้ผมได้เรียนรู้เรื่องหนึ่ง ว่าเดิมทีแล้วปลาตัวเล็กก็สามารถเอามาทำอาหารแบบนี้ได้”


ฉินสือโอวถามออกมาว่า “แล้วปกติพวกนายทำอย่างไรกันล่ะ?”


ชาร์คตอบว่า “ง่ายมาก แค่ตุ๋นกับน้ำก็ใช้ได้แล้ว”


ฉินสือโอวพูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจว่า “ใช้น้ำเปล่าต้มปลาเหรอ? แบบนั้นอาหารจะอร่อยเหรอ?”


ชาร์คยักไหล่แล้วตอบว่า “ผมก็ไม่รู้ อีกอย่างของพวกนี้ก็ให้หมาที่บ้านกิน มันคงไม่สนว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรหรอก?”


ฉินสือโอว “…”


ในขณะที่บลูกระทุ้งแขนเข้าที่ด้านหลังเขา ฉินสือโอวก็เลือกแพนเค้กสีเหลืองทองอันหนึ่งขึ้นมาจุ่มน้ำซุปแล้วส่งให้วินนี่ วินนี่ลองชิมแล้วยิ้มออกมาพลางพูดว่า “อือ อร่อยมากเลย ต่อไปทำอาหารให้ฉันทานบ่อยๆ เลยดีไหมคะ?”


เมื่อพูดจบ เธอก็เกิดอาการกังวลขึ้นมาทันที “ที่รัก ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่คลอดลูกความอยากอาหารของฉันก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นมาก พอทานไปแล้ว คุณว่าฉันจะเปลี่ยนมาอ้วนเหมือนหมูไหม?”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมา เขาหันไปบีบคางวินนี่อย่างอ่อนโยน แล้วใช้น้ำเสียงนุ่มนวลพูดปลอบใจเธอว่า “จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ที่รัก ไม่ว่าคุณจะอ้วนขนาดไหน คุณก็มีเพียงขาสองขาเท่านั้น!”


ตอนที่ได้ยินประโยคนี้วินนี่กำลังจะยิ้มหวานออกมา แต่เมื่อได้ฟังประโยคหลังก็ทำเอาเธอขนลุกขึ้นมาทันที สุดท้ายเธออดไม่ได้ที่จะมองไปยังพวกชาร์คและพูดออกมาอย่างเศร้าๆ ว่า “เอาล่ะ เห็นแก่คุณแล้วกัน คืนนี้ลองพิมพ์คำว่าฉันรักคุณร้อยครั้ง ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ”


หลังจากที่วินนี่เดินออกไป ชาร์คและคนอื่นๆ ก็มองมาไปยังฉินสือโอวด้วยความอิจฉา “หัวหน้า นี่คือโทษของความสุขจริงๆ สินะ”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “พวกนายลองคุกเข่าลงบนแป้นพิมพ์แล้วใช้เข่าพิมพ์คำว่า ‘ฉันรักคุณ’ สักร้อยครั้งดูสิ ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าพวกนายจะมีความสุขหรือเปล่า!”


พวกชาวประมง “…”


แบล็คไนฟ์พูดเปลี่ยนประเด็นขึ้นมาว่า “งั้นพวกเรากินข้าวกันได้แล้วใช่ไหมครับ?”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “แน่นอน กินได้ตามสบาย แต่ว่าไม่ใช่ที่นี่ พวกนายต้องทำเอง ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกพวกนายมาทำไมกันล่ะ?”


พวกชาวประมง “…”

 

 

 


บทที่ 1225 อุทธรณ์

 

บัตเลอร์โชคดีได้กินปลากระทะฝีมือของฉินสือโอว ชายเคราหนาเป็นคนรู้งาน เมื่อกินเข้าไปก็เอ่ยชมออกมาต่างๆ นานา  ชาวผิวสีเป็นผู้ทำการแสดงเก่ง ท่าทางการแสดงที่เปลี่ยนไปอย่างมากของชายคนนี้ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจ


“พวกนายก็แค่กินปลาเอง พวกเราไม่ได้กินเนื้อมังกรกันเสียหน่อย ไม่ใช่เหรอ?” ท่านชายฉินบ่นอยู่เงียบๆ ในใจ หลังจากนั้นก็หันไปชมการแสดงของชายหนวดเฟิ้มต่อ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จ


พ่อของฉินสือโอวก็พูดชมเช่นกัน เขากินปลาไหลอเมริกาไปหนึ่งตัว จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวโอวทำอาหารอร่อยจริงๆ สตูปลาก็เคี่ยวกำลังดี เนื้อปลานุ่มลื่นมาก กลิ่นก็หอมมาก อาหารจากนี้ลูกทำได้อร่อยกว่าพ่อกับแม่เยอะเลย”


ฉินสือโอวมีความสุขอย่างหยุดไม่อยู่ วินนี่ยิ้มออกมา พลางถามพ่อของฉินสือโอวว่า “คุณพ่อคะ ปลาที่คุณพ่อทานคือปลาไหลอเมริกา เป็นปลาที่เนื้อนุ่มและอร่อยที่สุดชนิดหนึ่งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ถ้าหากว่าคุณพ่อเป็นคนทำอาหาร รสชาติจะต้องดีกว่านี้แน่นอนค่ะ”


พ่อของฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ แล้วพูดว่า “วินนี่นี่ช่างพูดจาเอาใจเสียจริง ได้ อาหารเย็นพ่อจะแสดงฝีมือเอง”


เออร์บักมองมาด้วยความใสซื่อ และถามออกมาว่า “ตอนเย็นยังจะกินปลากระทะกันอีกเหรอ?”


เหมือนกับคนผิวขาวส่วนใหญ่ เออร์บักไม่สามารถทานปลาที่มีก้างเยอะได้มากนัก แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ตะเกียบได้ แต่ก้างปลาของลูกปลาค่อนข้างเล็ก เขาทานปลาชนิดนี้แล้วรู้สึกเปลืองแรงเหลือเกิน


เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จ บัตเลอร์ก็บินกลับนิวยอร์กทันที นอกจากนี้ยังใช้เครื่องบินขนส่งอาหารทะเลที่คุณภาพดีที่สุดไปเพื่อขายในราคาสูงอีกด้วย ส่วนที่เหลือนั้นก็ใช้เรือขนส่งแบบเร็วส่งกลับไป อันที่จริงแล้วนิวยอร์กไม่ได้อยู่ไกลกับนครเซนต์จอห์นมากนัก


สิ้นเดือนมิถุนายน ฉินสือโอวได้รับหมายศาลจากศาลฎีกาแห่งนิวฟันด์แลนด์ว่าเขาจะต้องปรากฏตัวในศาลอีกครั้งในฐานะพยาน คดีใช้ระเบิดในการตกปลาของลินตันและวัยรุ่นทั้งสี่ที่ในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็รับฟ้อง ตอนนี้มาถึงการตัดสินขั้นสุดท้ายแล้ว


ระบบการเมืองและกฎหมายของแคนาดาค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะมีรากฐานมาจากทั้งกฎหมายของอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา สามประเภทนี้รวมเข้าด้วยกัน เพราะว่าพวกเขาเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ และผู้อพยพที่ควิเบกส่วนใหญ่ก็เป็นชาวฝรั่งเศสและเพื่อนบ้านอย่างอเมริกาก็กลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่สุดในปัจจุบัน


ระบบของศาลในแต่ละรัฐไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นที่นิวฟันแลนด์จะมีศาลอยู่สองระดับ ศาลชั้นต้นคือศาลรัฐ หน้าที่ของพวกเขาคือการจัดการคดีแพ่งและคดีอาญาเป็นส่วนใหญ่ และคดีใช้ระเบิดเพื่อการตกปลาในครั้งนี้ถือว่าเป็นคดีอาญา


ศาลชั้นต่อว่าคือศาลฎีการัฐ ในความหมายหนึ่งคือ หน้าที่ส่วนใหญ่ของพวกเขาคือการดูแลคดีแพ่งและคดีอาญาที่ร้ายแรง


นอกจากศาลฎีการัฐแล้วยังมีศาลที่อยู่เหนือกว่าขึ้นไปคือศาลอุทธรณ์ รับผิดชอบในการรับฟังคำอุทธรณ์จากศาลฎีการัฐ ตามธรรมเนียมของคนท้องถิ่นแล้ว พวกเขาชอบเรียกศาลอุทธรณ์ว่าศาลฎีกาแห่งรัฐ


ศาลอุทธรณ์ของนิวฟันแลนด์ยังคงอยู่ที่นครเซนต์จอห์น ในกรณีที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ นครเซนต์จอห์นถือเป็นรัฐใหญ่เพียงรัฐเดียวของที่นี่ แทบจะทุกอย่างที่เกี่ยวกับเมืองนี้จะอยู่ที่นครเซนต์จอห์นเกือบหมด แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ นครเซนต์จอห์นก็ไม่ใช่เมืองใหญ่


ฉินสือโอวและพวกชาวประมงเข้าไปเป็นพยานในศาล พวกชาวประมงต่างพากันแต่งตัวอย่างดี พวกเขาทุกคนสวมชุดสูท เบิร์ดพูดกลั้วหัวเราะว่า “พวกนายดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลย ฉันอยากจะถ่ายรูปพวกนายไว้สักสองสามรูปจริงๆ”


บลูลูบเคราสั้นๆ ที่เหมือนกับลวดเหล็กของตัวเองแล้วยิ้มออกมา “อย่ามาไร้สาระ บิ๊กเบิร์ด ตอนนี้พวกเราเป็นชนชั้นสูง จำเป็นต้องถ่ายรูปเสียหน่อย ฉันจะอัปขึ้นทวิตเตอร์ จะต้องเท่มากแน่ๆ”


“คนเขาจะคิดว่านายเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วจะจับนายดำเนินคดีและสั่งจำคุกมากกว่า” แลนซ์หัวเราะออกมาเสียงดัง


คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะออกมาเช่นกัน บลูพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “ฉันออกจะดูเหมือนผู้ดี พวกนายนี่พูดจาไร้สาระจริงๆ!”


ซีมอนสเตอร์กำลังทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ชาร์คถามเขาว่าคิดอะไรอยู่ เขาเลยตอบออกมาว่า “อันที่จริง ตอนนี้พวกเราก็เป็นชนชั้นสูงจริงๆ นะ พวกนายไม่ได้คำนวณรายได้ต่อปีของตัวเองใช่ไหม? หากมองตั้งแต่รายได้ ผู้ผดุงความยุติธรรมที่มาถึงเมื่อกี้ไม่ได้มีรายได้สูงกว่าฉันใช่ไหม?”


เงินเดือนของเจ้าหน้าที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้สูง พวกเขาได้รับการแต่งตั้งมาจากรัฐบาลกลาง ศาลอุทธรณ์ไม่ได้เป็นศาลที่มีอำนาจสูงสุด และผู้พิพากษาก็ไม่ได้มีอำนาจมากที่สุด รายได้ของพวกเขาขึ้นอยู่กับระบบศาลกลาง


ในแคนาดา ผู้พิพากษาและทนายความอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีรายได้สูง ปกติแล้วชาวประมงธรรมดาจะได้เงินเพียงเศษเสี้ยวของพวกเขา แต่ชาร์ค ซีมอนสเตอร์พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงชาวประมงธรรมดา การได้อยู่มากับฉินสือโอวนับว่าเป็นความโชคดีของพวกเขา เงินปันผลจากหนึ่งไตรมาส ก็เท่ากับชาวประมงธรรมดาที่ทำงานมาทั้งปีแล้ว


ดังนั้น คนของฟาร์มปลาไม่ว่าจะเป็นทหารหรือว่าชาวประมง ต่างก็พากันปกป้องผลประโยชน์ของฟาร์มปลาเป็นพิเศษ


พวกเขารู้ว่ารายได้ของตัวนั้นไม่สามารถเทียบกับของฉินสือโอวได้ และไม่สามารถเทียบได้กับรายรับของฟาร์มปลา แต่นอกจากฉินสือโอว นอกจากฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว พวกเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาได้รับเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง


ดังนั้น เรื่องของฟาร์มปลาทุกเรื่อง พวกเขาก็คิดว่าเป็นเรื่องของตัวเอง ในใจของพวกเขาต้องการให้ฟาร์มปลายังคงดำเนินกิจการไปได้ด้วยดีต่อไป


ชาร์คมองหน้าซีมอนสเตอร์อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วถามว่าปีที่แล้วเขาได้รับเงินเท่าไหร่ ซีมอนสเตอร์ถลึงตาใส่เขาแล้วบอกให้เขาพูดก่อน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มทะเลาะกัน…


ไม่นานผู้พิพากษาก็มาถึง คนทุกคนพากันยืนขึ้น และการพิพากษาก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ


เหมือนกันกับครั้งที่แล้ว ฉินสือโอยืนยันว่าเยาวชนอย่างลินตันไม่เพียงแต่จะยิงวาฬในฟาร์มปลาของเขาเท่านั้น และยังคิดจะจับเต่ามะเฟืองอีกด้วย


การกระทำของฉินสือโอวคือการทำลายชื่อเสียงของพวกเขา การทำแบบนี้ค่อนข้างโหดร้าย แต่จะให้ทำอย่างไร การกระทำของเด็กวัยรุ่นพวกนี้ที่ฆ่าวาฬไม่โหดร้ายเหรอ? อีกอย่าง ตอนนั้นหากไม่เป็นเพราะฉินสือโอวไปห้ามไว้ แล้วปล่อยให้พวกเขาเจอเข้ากับเต่ามะเฟือง แบบนั้นพวกเขาจะปล่อยเต่ามะเฟืองผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?


ทนายความที่พ่อของลินตันจ้างมาเก่งกาจมาก ไม่เสียแรงที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ฉินสือโอวที่กล่าวข้อหาเรื่องเกี่ยวกับการล่าเต่ามะเฟืองแล้ว ยังถูกเขาหักล้างได้ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถล้างข้อกล่าวหาเรื่องการใช้วัตถุระเบิดประเภทธนูที่ผิดกฎหมายได้


สุดท้ายศาลอุทธรณ์ก็ยึดคำพิพากษาเดิม ชายหนุ่มทั้งสี่ที่เป็นผู้ต้องหาร้องไห้ออกมาที่ชั้นศาล อารมณ์ของแต่ละคนหดหู่ไปตามๆ กัน


ตอนแรกพวกเขายังไม่เคยได้ลิ้มรสรสชาติของการติดคุก ดังนั้นเมื่อขึ้นศาลครั้งแรกเลยมีความหยิ่งผยอง ทุกวันนี้พวกเขาถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์กักกัน พวกเขาได้สัมผัสกับความเจ็บปวดในการสูญเสียอิสรภาพ อีกทั้งวัยรุ่นทั้งสี่คนยังเป็นคนหน้าตาดี ดอกเบญจมาศงามมีแนวโน้มว่าจะยังผลิบาน พวกเขาคงไม่สามารถทำตัวหยิ่งผยองได้อีก


การขึ้นศาลในครั้งนี้ พ่อแม่ของวัยรุ่นทั้งสี่คนต่างก็มากันหมด เมื่อผู้พิพากษาประกาศคำตัดสินครั้งสุดท้าย ชายวัยกลางคนผู้มีท่าทีสง่างามก็ยืนขึ้นมาด้วยความโกรธและตะโกนออกมาว่า “ไม่! พวกเราไม่ยอมรับคำตัดสินนี้! ผมจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป!”


ใช่แล้ว พวกเขาสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อได้ ต่อไปยังมีศาลฎีกาของแคนาดาอยู่ ศาลนี้จะรับคำอุทธรณ์หลังจากที่ผ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์แล้ว แต่การพิจารณาคดีจะถือเป็นที่สิ้นสุดทันที หากคำตัดสินยังเป็นแบบเดิม วัยรุ่นทั้งสี่คนจะไม่สามารถหนีจากการเข้าคุกได้


อีกอย่างรัฐบาลประจำรัฐและรัฐบาลกลางยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษและศาลพิเศษขึ้นมาด้วยจำนวนหนึ่ง พวกเขาสามารถรับเรื่องอุทธรณ์ครั้งที่สองได้จำนวนหนึ่ง


เพียงแค่คดีสามารถพลิกกลับคำพิพากษาได้ เนื่องจากกระทำที่เลวร้ายเกินไป


หลังจากที่เลิกศาล ฉินสือโอวกับพวกชาวประมงที่เดินออกมาพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น ถูกคนคนหนึ่งหยุดพวกเขาไว้ คนคนนั้นคือพ่อของลินตัน ชไนเดอร์ วอเทอเรนซ์


เจ้าของโรงงานเหล็กคนนี้ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนก่อนหน้านี้ เขาใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยมองมายังฉินสือโอว แล้วพูดขึ้นว่า “คุณฉิน จะไม่มีที่ว่างสำหรับการประนีประนอมหน่อยเหรอ? คุณก็รู้ ถ้าหากพวกเราไม่ทำอะไรเลย เด็กที่น่าสงสารพวกนี้ก็จะติดคุกนะ!”

 

 

 


บทที่ 1226 เตรียมหาเสียงในเมือง

 

เด็กที่น่าสงสารงั้นเหรอ? ฉินสือโอหัวเราะเยาะออกมาเพราะคำนี้ วาฬที่ถูกพวกเขาฆ่าตัวนั้นต่างหากที่น่าสงสาร ไม่ใช่เหรอ?


พูดตามความจริงแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับชไนเดอร์และครอบครัวของเด็กคนอื่นๆ ที่มีท่าทีอ่อนน้อมแบบนี้ ฉินสือโอวก็เริ่มใจอ่อน เขาก็เป็นเพียงวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง สิ่งที่เด็กหนุ่มทั้งสี่กระทำเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สามารถให้อภัยได้


แต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้เขาหมดหนทางจริงๆ “คุณก็รู้ คุณชไนเดอร์ ในคดีนี้ผมไม่ได้เป็นคนฟ้องลูกของพวกคุณ แต่เป็นพวกเขาที่ทำผิดกฎหมาย ตอนนี้เป็นประเทศที่ฟ้องพวกเขา ผมก็หมดหนทางเหมือนกัน”


เจ้าของโรงงานเหล็กพูดอย่างร้อนรนว่า “ไม่ๆ คุณฉิน พวกเขามีวิธีแน่นอน ใช่ไหม?”


ฉินสือโอวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าหากพวกคุณยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาสูงสุด เช่นนั้นผมจะยอมที่ถอนข้อกล่าวหาที่บอกว่าพวกเขาทั้งสี่คนยิงเต่ามะเฟือง ผมคิดว่าคุณก็รู้ว่านี่คือสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้”


ชไนเดอร์ มองไปยังทนายโบราโซ คาร์นินเดอะฟอร์ธ ที่เขาจ้างมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เขาส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ความหมายของเขาคือแค่นี้มันยังไม่เพียงพอ


แต่สิ่งที่ฉินสือโอวทำได้ก็มีเพียงเท่านี้ หรือว่าต้องให้เขาไปเปลี่ยนคำพูดก่อนหน้านี้ แล้วบอกว่าพวกเขาทั้งสี่คนไม่ได้เป็นคนฆ่าวาฬงั้นเหรอ? ไม่ได้หรอกนะ มันคือเรื่องจริง เขาไม่สามารถเปลี่ยนคำพูดได้


ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของครอบครัวชไนเดอร์ ฉินสือโอวจึงเดินออกมาด้วยท่าทีนิ่งสงบ ผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้ามาคว้าเสื้อของเขาไว้ เธอตะโกนออกมาด้วยเสียงอันแหบพร่าว่า “ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายแบบนี้? คุณไม่มีลูกเหรอ? ทำไมคุณไม่ยอมช่วยเด็กพวกนี้ พวกเขาทำอะไร? พวกเขาเพียงแค่ฆ่าวาฬตัวเดียวก็เท่านั้น วาฬตัวเดียวมันจะอะไรนักหนาเหรอ? มันมีมูลค่าเท่าไหร่? พวกเราจะชดใช้ให้สิบเท่า ยี่สิบเท่า หนึ่งร้อยเท่าเลย!”


ฉินสือโอวใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น เขาพูดขึ้นมาว่า “ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ คุณผู้หญิง แต่ผมคิดว่าคนที่ต้องการส่งลูกๆ ของคุณเข้าคุกอันที่จริงแล้วไม่ใช่กฎหมายหรอก แต่เป็นเพราะความรักแบบไม่ลืมหูลืมตาของพวกคุณต่างหาก!”


เบิร์ดและนีลเซ็นมีฐานะเป็นถึงบอร์ดี้การ์ดของฉินสือโอว นีลเซ็นใช้ร่างกายของตัวเองกันฉินสือโอวและผู้หญิงคนนั้นให้ห่างกัน ส่วนเบิร์ดก็พาฉินสือโอวเดินแยกออกมาด้านข้าง พลางพูดขึ้นว่า “บอส รีบเดินเถอะครับ”


เมื่อออกมาจากศาล ฉินสือโอวก็ถอนหายใจออกมา ปรากฏว่ามีคนพูดขึ้นมาอีกว่า “คุณฉิน สวัสดีครับ ตอนนี้พอจะมีเวลาไหมครับ? มีคนต้องการพบคุณ”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมา ให้ตายเถอะเขากลายเป็นคนใหญ่คนโตตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? มีคนต้องการคุยกับตัวเองทีละคนสองคนแบบนี้น่ะ? เอาล่ะ ตอนนี้จะมีเรื่องอะไรมาคุยกับเขางั้นเหรอ? แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นพวกนั้นแน่นอน


เขาพยักหน้าอย่างว่าง่าย เขาอยากรู้ว่าชไนเดอร์และคนอื่นๆ จะหาคนแบบไหนมากดดันคนอย่างตัวเอง


ปรากฏว่าเมื่อเข้าห้องทานกาแฟไป เขาก็เห็นแฮมเล็ตพุ่งเข้ามาจับมือเขาไว้


“โว้ว ท่านนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ยังอยู่ในเวลางาน ทำไมคุณถึงวิ่งออกมาแบบนี้ล่ะ?” ฉินสือโอวหัวเราะออกมา


แฮมเล็ตชี้ไปที่ด้านนอกศาลแล้วพูดว่า “ไม่มีทางอื่นแล้ว ปกติอยากจะเจอนายก็หาไม่เจอ ฉันก็ไม่มีเวลาไปเกาะแฟร์เวล ทำได้เพียงแค่รอนายมาที่นครเซนต์จอห์นแล้วนัดมาคุยเท่านั้น”


บริกรนำน้ำผลไม้มาเสิร์ฟหนึ่งแก้ว ฉินสือโอวบอกว่าเขาไม่ได้สั่ง แฮมเล็ตยิ้มพลางพูดออกมาว่า “ฉันช่วยสั่งให้นายเอง นายชอบน้ำผลไม้ ไม่ชอบกาแฟไม่ใช่เหรอ?”


ฉินสือโอวปฏิเสธออกไปว่า “ไม่ครับ วันนี้ผมอยากดื่มกาแฟสักแก้ว มีเรื่องให้คิดมากเกินไปแล้ว”


บริกรนำน้ำผลไม้กลับไป เขาแอบตกใจอยู่ในใจเงียบๆ มิน่าล่ะถึงมีแต่คนบอกว่าเจ้าของฟาร์มปลาชาวจีนคนนี้เป็นคนที่สุดยอดมาก เพราะว่าเป็นคนที่สุดยอด น้ำผลไม้ที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้คิดจะปฏิเสธก็ปฏิเสธได้ เอาแต่ใจจริงๆ


แฮมเล็ตหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี แล้วบอกกับบริกรว่า “รีบเปลี่ยนเป็นกาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วบดจากกัวเตมาลา แอนติกามาเร็ว”


เมื่อบริกรเดินออกไป ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมาแล้วมองไปยังแฮมเล็ต จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “อยากเจอผม มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ?”


แฮมเล็ตตอบว่า “ฉันคิดว่านายจะมาหา แต่ปรากฏว่ารอตั้งนานนายก็ไม่มา เพราะแบบนั้นฉันเลยมาหานายเอง แน่นอนว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนาย เรื่องที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ นายรู้แล้วใช่ไหม?”


ฉินสือโอวถามกลับด้วยความสงสัย “การอุทธรณ์ครั้งสุดท้ายของศาลฎีกาสูงสุดแห่งแคนาดางั้นเหรอครับ?”


แฮมเล็คพูดขึ้นอย่างตะลึงว่า “อุทธรณ์อะไรกัน? เดี๋ยวก็จะเดือนกรกฎาคมแล้ว การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีของเกาะแฟร์เวลจะเริ่มขึ้นแล้ว! นายไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยเหรอ?!”


ฉินสือโอวพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้ปล่อยไก่ออกมาอีกแล้ว เขาพึ่งจะออกมาจากศาลแล้วก็โดนแฮมเล็ตเรียกตัวมาทันที ในหัวของเขากำลังคิดถึงแต่เรื่องของคดีอยู่


“อ้อๆ การเลือกตั้งเปลี่ยนวาระ แน่นอนว่าผมสนใจ วินนี่ได้เตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว ผมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการลงเลือกตั้งของเธออย่างเต็มที่” ฉินสือโอวพูด


แฮมเล็ตพยักหน้าแล้วพูดว่า “แบบนี้ก็ไม่เลว หากวินนี่ได้รับเลือก เธอก็จเป็นนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของเกาะแฟร์เวล”


ฉินสือโอวไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการเมืองพวกนี้เลยจริงๆ เพราะแบบนี้เขาจึงถือโอกาสถามแฮมเล็ตในเรื่องที่เขากังวลมากที่สุด “ผู้หญิงลงสมัครเลือกตั้งไม่ค่อยมีความได้เปรียบเลยใช่ไหม?”


แฮมเล็ตยักไหล่ “แน่นอน ประชาชนยังคงไว้วางใจในความเป็นผู้นำของเพศชายมากกว่า ส่วนสาเหตุขอไม่อธิบาย เพราะมันต้องพูดถึงประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ ระบบการเมืองรวมถึงความเจริญของสังคมด้วย แต่ว่าก็ต้องมองที่โอกาสด้วย สำหรับการเลือกตั้งระดับเมือง ผู้หญิงอาจจะไม่โดดเด่น แต่หากเป็นการเลือกตั้งระดับมหานคร แบบนั้นเธออาจจะไม่มีโอกาสเลยแม้แต่เงา”


ฉินสือโอวถามว่าทำไม แฮมเล็ตถูมือไปมาอย่างเก้ๆ กังๆ แล้วพูดว่า “แคนาดามีเมืองเล็กๆ อยู่เยอะ แต่ละเมืองมีครัวเรือนไม่กี่สิบครัวเรือน พวกเขาไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นนายกเทศมนตรีเมือง นายไม่ได้ดูข่าวเหรอ? นายกรัฐมนตรีเมืองบางเมืองเป็นสัตว์นำโชคด้วยนะ”


เรื่องนี้ไม่ต้องดูข่าวก็รู้ แคนาดาและอเมริกานั้นเหมือนกัน มักจะมีข่าวออกมาบ่อยๆ ว่าชาวบ้านบอกว่าอะไรที่น่ารักก็จะกลายเป็นนายกเทศมนตรีคนใหม่ของพวกเขา การเลือกพวกสัตว์น่ารักพวกนั้นก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบเช่นกัน มีบางเมืองเลือกแมวเลือกสุนัขพวกนั้นมาเป็นนายกเทศมนตรี…


เมื่อกาแฟมาเสิร์ฟ ฉินสือโอวก็พูดขอบคุณแล้วยกมันขึ้นดมกลิ่น อือ กลิ่นหอมไม่เลวเลย


ที่แฮมเล็ตเรียกเขา อันที่จริงเขาต้องการที่จะระบาย เรื่องด้านบนก็ได้รับการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว รอให้วินนี่ลงสมัครเลือกตั้งและจากนั้นก็ทำการลงคะแนนเสียง เขาส่งเอกสารรับรองให้วินนี่แค่นี้ก็ได้แล้ว


ด้วยความนิยมของวินนี่ที่มีต่อชาวเมือง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งนี้จึงไม่ใช่ปัญหา อีกอย่างแฮมเล็ตที่อยู่ในเมืองยังคอยช่วยเหลือเรื่องทีมงานที่อยู่ในมหานครอีกด้วย มีคนพวกนี้คอยสนับสนุน โอกาสที่วินนี่จะชนะก็ยิ่งมีมากขึ้น


มาถึงเดือนกรกฎาคม การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแฟร์เวลก็ได้เริ่มขึ้น


วันเวลาเลือกตั้งถูกกำหนดไว้ที่สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ฉินสือโอวรู้สึกว่าแม้ว่าวินนี่จะมั่นใจว่าเธอจะได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี แต่ว่าตัวเองก็ไม่สามารถวางใจได้ เขาจึงทุ่มสุดตัวในการช่วยแฮมเล็ตหาเสียงเพื่อช่วยสนับสนุนวินนี่


อันดับแรก เขาไปยังโรงพิมพ์เพื่อให้พิมพ์ภาพวินนี่หลายๆ ภาพ จากนั้นก็เอาไปแปะที่รั้วบ้านทุกหลัง แบบนี้ไม่ว่าใครจะเดินออกมา ก็จะเห็นรอยยิ้มอันสง่างามของวินนี่


เหล่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเล็กๆ ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่กับสิ่งที่เห็น เมื่อพวกเขาเข้ามาในเมืองก็จะเห็นโปสเตอร์สาวงามคนหนึ่งอยู่ทุกที่ จนมีคนถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เธอเป็นดาราที่มีชื่อเสียงคนไหนของแคนาดากันเหรอ? ถึงแม้ว่าจะสวยมาก แต่ทำไมไม่เคยเห็นเลยล่ะ?”


ผลการลงทุนในเมืองเล็กๆ ของฉินสือโอวก่อนหน้านี้เริ่มเห็นผมแล้ว เขาประชาสัมพันธ์เรื่องการเลือกตั้งของวินนี่ผ่านทางวิทยุโดยเฉพาะ อันที่จริงนี้เป็นช่องบันเทิง เพราะวินนี่จะพูดคุยกับทุกคนเกี่ยวกับบทความสนุกๆ ที่เจอในอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็ร้องเพลงอะไรพวกนั้น


ทุกอย่างเกิดขึ้นช้าๆ จนในที่สุดช่องวิทยุช่องนั้นก็กลายเป็นช่องคาราโอเกะสำหรับร้องเพลง ทั้งวันมีแต่เสียงร้องโหยหวนออกมาไม่หยุด!

 

 

 


บทที่ 1227 บอลลูนปลิวว่อน

 

ตอนที่กำลังทานอาหารกันอยู่ ฉินสือโอวถามออกมาว่า “พวกคุณคิดว่าพวกเราจำเป็นต้องออกอากาศหาเสียงทางโทรทัศน์ด้วยหรือไม่?”


วินนี่และเออร์บักต่างมองเขาด้วยความตกตะลึง


ฉินสือโอวพูดความคิดของเขาออกมาว่า “พวกเราสามารถทำรายการที่เป็นสาธารณประโยชน์ได้ ให้วินนี่เป็นพิธีกร พูดเรื่องการปกป้องฟาร์มปลา ปกป้องนิเวศวิทยา ปกป้องเด็กอะไรพวกนั้น พวกคุณว่าเป็นอย่างไร?”


เออร์บักพูดออกมาว่า “นายอยากให้วินนี่เข้าร่วมการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปเหรอ?”


ฉินสือโอวตอบกลับว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่ นายกเทศมนตรีก็พอแล้ว”


เออร์บักใช้ผ้าเช็ดปากเช็ดปากตัวเองแล้วพูดออกมาว่า “โอเค ถ้าเป็นแบบนั้นนายก็ไม่ต้องสนใจหรอก ที่เหลือให้ฉันกับวินนี่จัดการเองก็พอแล้ว”


คำพูดเหล่านั้นของทนายสูงอายุทำร้ายจิตใจของฉินสือโอวมาก หมายความว่าอย่างไรกัน ภรรยาของเขาเข้าร่วมการเลือกตั้ง จะไม่ให้เขาสนใจงั้นเหรอ? แล้วถ้าเขาไม่สนแล้วใครจะสนล่ะ?


เมื่อทานอาหารเสร็จ ฉินสือโอวก็พาสองพี่น้องเฟอเรท ไปที่โซฟาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


สองสามวันมานี้พวกมันทั้งสองตัวใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย กินอิ่มแล้วก็ไปหาที่นอนสบายๆ ไปวันๆ ตอนนี้พวกมันคุ้นชินกับที่นี่แล้ว วันนี้เมื่อทานอาหารเย็นอิ่ม พวกมันก็อยากจะกลับไปที่รังเพื่อนอนหลับ ปรากฏว่าถูกฉินสือโอวอุ้มออกมา พวกมันจึงทำได้เพียงหาวออกมาอย่างไม่พอใจ


ฉินสือโอวแสดงท่าทีเคร่งขรึมใส่เจ้าสองตัวนั้น หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “การเลือกตั้งกำลังจะเริ่มเร็วๆ นี้แล้ว วินนี่และตาแก่เออร์บักไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้ พวกเขาประเมินศัตรูต่ำเกินไป ใช่ไหม?”


สองพี่น้องเฟอเรทยังคงหาวอยู่เหมือนเดิม มันกลอกตามองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนีกลับไปยังรังๆ นุ่มของพวกมัน


ท่าทางของพวกมันทำให้ฉินสือโอวไม่พอใจมาก พวกมันและวินนี่ รวมถึงเออร์บักมีท่าทีต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ต่างกันอย่างไร? เขาไม่สามารถจัดการกับวินนี่และเออร์บักได้ นี่ยังไม่สามารถจัดการกับพวกมันสองตัวได้อีกเหรอ?


ฉินสือโอวหันกลับมามองลูกสาวที่กำลังคลานไปทั่วพื้น เขาอุ้มเธอขึ้นมาวางไว้ที่ด้านหน้าสองพี่น้องเฟอเรท แล้วพูดกระตุ้นว่า “ไป เถียนกวา ไปเล่นกับพวกมันสิ!”


สองพี่น้องเฟอเรทไม่เคยเห็นถึงความร้ายกาจของเสี่ยวเถียนกวา พวกมันชะล่าใจ หลังจากนั้นพวกมันก็ถูกเสี่ยวเถียนกวากอดเข้าไปในอ้อมอก จากนั้นเธอก็หยิบพวกมันเข้าปาก


เรื่องนี้ทำให้พวกมันทั้งสองตัวตกใจมาก พระเจ้า นี่จะถูกกินจริงๆ เหรอเนี่ย? ช่วยด้วย หากมีเรื่องก็ค่อยๆ คุยกัน ไม่เห็นเอะอะก็ให้อาวุธนิวเคลียร์มากินพวกมันเลย!


ฉินสือโอวจัดการพวกมันออกมา สองพี่น้องเฟอเรทเป็นคนซื่อสัตย์ พวกมันนอนลงข้างหน้าฉินสือโอวพลางขมวดคิ้ว เขาว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้นแหละ


หลังจากที่แกล้งเจ้าสองตัวนั้นอยู่สักพัก ฉินสือโอวก็ปล่อยให้พวกมันไปหลับ ส่วนเขาก็หยิบไอแพดขึ้นมาเข้าอินเทอร์เน็ตและเริ่มหาตัวช่วยในการหาเสียง


เมื่อก่อนที่เข้าร่วมการหาเสียงของแฮมเล็ต แม้ว่าฉินสือโอวจะไม่ได้รับประสบการณ์ทั้งหมด แต่ก็ยังดีที่เขาได้เข้าร่วมในส่วนที่สำคัญ ทำให้เขามีความเข้าใจในการหาเสียงในบางเรื่อง


ตอนนี้มีตามแผนที่ในที่ต่างๆ ได้มีการทำการหาเสียงแบบต่างๆ ไปแล้ว ต่อไปต้องทำการจู่โจมไปยังพื้นที่ที่สำคัญ ฉินสือโอวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ จึงไม่เหมาะที่จะโฆษณาทางโทรทัศน์ งั้นก็ซื้อบอลลูนสักลูกแล้วกัน ปล่อยให้มันลอยขึ้นจากเมือง แบบนี้ทุกคนก็จะสามารถเห็นมันได้


เขาหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ผู้ผลิตบอลลูนที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ที่เมืองมอนทรีออล ดูจากคำแนะนำแล้วเป็นบอลลูนที่นำเข้ามาจากตุรกี คุณภาพของมันค่อนข้างน่าเชื่อถือ


บอลลูนแบ่งออกมาเป็นสี่ประเภทหลักๆ ได้แก่ ประเภทเอเอ เอเอ็กซ์ เอเอ็ม และเอเอส


ในทุกประเภท ประเภทเอเอจะเต็มไปด้วยก๊าซที่เบากว่าอากาศเช่นไฮโดรเจนหรือฮีเลียม ถุงลมนิรภัยไม่ได้ปิดไว้อย่างมิดชิด และไม่มีอุปกรณ์ทำความร้อน ถุงลมนิรภัยของบอลลูนประเภทเอเอ็กซ์เต็มไปด้วยอากาศ อากาศถูกทำให้ร้อนจากอุปกรณ์ทำความร้อน ทำให้น้ำหนักเบาและลอยตัวขึ้นได้ จึงถูกเรียกว่าบอลลูน บอลลูนประเภทเอเอ็ม เต็มไปด้วย ‘อากาศเบาบาง’ และเครื่องทำความร้อน ส่วนบอลลูนประเภทเอเอส เต็มไปด้วย ‘อากาศเบาบาง’ ถุงลมนิรภัยแบบปิด เนื่องจากมันเคลื่อนขึ้นสูงด้วยการควบคุมการเติมอากาศ ดังนั้นมันจึงมักจะถูกใช้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์


หนึ่งในสี่บอลลูนเหล่านั้น แนวโน้มที่ฉินสือโอวคิดว่าดีที่สุดคือประเภทเอเอ็ม เพราะว่าในระดับคุณสมบัติเดียวกันบอลลูนประเภทนี้มีราคาแพงที่สุด ของที่แพงที่สุดจึงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แต่มันก็การันตีได้ว่าต้องดีกว่าของราคาถูกแน่นอน


บอลลูนประเภทเอเอ็มมีอีกชื่อเรียกว่าบอลลูนโรเซล เขาคือนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่สิบแปด โรเซลเป็นผู้คิดค้นและบุกเบิกบอลลูน จึงได้ใช้ชื่อของเขามาเป็นชื่อของบอลลูน แต่ว่าเมื่อถึงช่วงศตวรรษที่สิบเก้า คาเมรอนผู้เชี่ยวชาญด้านบอลลูนก็ได้ปรับปรุงมันให้ดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีของบอลลูนประเภทนี้จึงพัฒนามาจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว


บอลลูนโรเซลใช้ถุงลมนิรภัยสองชั้น ข้างในถุงลมนิรภัยเป็นบอลลูนฮีเลียม อากาศถูกเติมเข้าไประหว่างถุงลมนิรภัยทั้งสองชั้น ส่วนเตาจุดไฟถูกติดตั้งไว้ที่ด้านล่าง


ดังนั้นในระหว่างการบิน บอลลูนฮีเลียมจะสามารถรักษาระดับการลอยตัวให้คงที่ได้เสมอ นอกจากนี้ ในช่วงกลางวันยังสามารถใช้แสงแดดในการเพิ่มความร้อนของอากาศที่อยู่ระหว่างถุงลมนิรภัยทั้งสองชั้นได้ด้วย เป็นการเพิ่มแรงในการลอยตัว ส่วนในตอนกลางคืนก็ค่อยเปิดเตาเผาทำความร้อน


บอลลูนที่ฉินสือโอวต้องการซื้อคือบอลลูนเอเอ็มเจ็ด ชื่อรุ่นคือ ‘อาร์เกนเจอร์ เอฟทู เจเนเรชั่น’ มันไม่เหมือนบอลลูนธรรมดาทั่วไป ที่นั่งสำหรับนั่งคือตะกร้าใหญ่ใบหนึ่ง บอลลูนชนิดนี้มีห้องแรงดันประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการปิดผนึกอย่างแน่นหนาถังแรงดันทำจากกระจกนิรภัย มันทำลายไม่ได้แต่ว่าก็โปร่งใสมาก


สิ่งที่ดึงดูดฉินสือโอวไม่ใช่เรื่องที่ว่าบอลลูนนั้นหรูหรามากขนาดไหน แต่บอลลูน ‘อาร์เกนเจอร์’ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีมาก มีประกันภัยสองชั้น หากก๊าซฮีเลียมรั่วไหลระหว่างทำการบิน บอลลูนลูกนี้ก็จะสามารถเปลี่ยนมาเป็นบอลลูนแบบดั้งเดิมได้ ทั้งหมดของบอลลูนลูกนี้อาศัยเพียงแค่ความร้อนในการรักษาระดับความสูง


แต่หากเกิดการรั่วไหลที่มากขึ้น ไม่สามารถควบคุมความสูงได้ บอลลูนก็จะทำหน้าที่เป็นร่มชูชีพ มันจะควบคุมความเร็วให้อยู่ที่ห้าเมตรต่อวินาที ถ้าหากว่าสถานการณ์ยังคงแย่ลง ก็มีเพียงวิธีการเดียวเท่านั้น ถังแรงดันสามารถแยกออกจากตัวบอลลูนได้ การรับประกันสูงสุดคือการรับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้งาน


ฉินสือโอวดูคำแนะนำ ในการลอยไปทั่วโลกในแต่ละครั้ง บอลลูนชนิดนี้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วสองครั้งเท่านั้น นั่นคือในเดือนธันวาคมปี 1998 และเดือนมีนาคม ปี 2009 ทั้งสองเหตุการณ์ไม่มีผู้เสียชีวิต ถือว่ามีความน่าเชื่อถือสูงมาก


หลังจากดูคำแนะนำ และหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบอลลูนนี้แล้ว เขาก็พบว่าบอลลูนนั้นเหมือนกับคอมพิวเตอร์ เนื่องจากว่ามันสามารถเอามาประกอบกันได้ คุณสามารถซื้อลูกบอลลูน ตะกร้าแขวน ถังนิรภัย เตาเผา ระบบเชื้อเพลิง ระบบการเชื่อมโยง เครื่องเป่าลมและอื่นๆ มาประกอบเองได้ ขอเพียงไม่กลัวตาย ก็ทำเองได้เลย


ฉินสือโอวไม่ประกอบเองแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขากลัวตาย แต่ว่าเขาไม่เข้าใจมัน เขาดูบอลลูนของโรเซลรุ่นอาร์เกนเจอร์เอฟทูดีแล้ว ราคาทั้งชุดอยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นแปดพันดอลลาร์ เป็นบอลลูนที่แพงที่สุดในบอลลูนประเภทเดียวกัน


บอลลูนประเภทเอเอ็กซ์ธรรมดา ปกติแล้วราคาจะอยู่ที่ระหว่างห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนดอลลาร์ บอลลูนโรเซลนั้นแพงที่สุด เพราะว่าหน้าที่ของมันคือการเดินทางรอบโลกเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น บริษัทผลิตเบียร์ ‘บัดไวเซอร์’ ที่จัดงานแข่งขันบอลลูนเพื่อชิงถ้วยบัดไวเซอร์เวิร์ดทัวร์เป็นประจำทุกปี ผู้เข้าแข่งขันก็จะเลือกใช้บอลลูนประเภทนี้


บริษัทผลิตบอลลูนที่มอนทรีออลแห่งนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทผลิตเบียร์บัดไวเซอร์ ฉินสือโอวซื้อบอลลูนหนึ่งชุด เขาจึงมีคุณสมบติในการเข้าแข่งขันในปีนี้ทันที และการแข่งขันจำเป็นจะต้องจบภายในวันที่สามสิบเอ็ดของเดือนธันวาคมปีนี้


เมื่อสั่งสินค้าไปแล้ว ก็มีคนโทรเข้ามาหาฉินสือโอว และแนะนำตัวเองทันที “คุณฉิน สวัสดีครับ ผมชื่อจอห์นสัน เอริคผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์บริษัทบอลลูนอาร์เกนเจอร์ สปอร์ตจำกัด คุณสั่งซื้อบอลลูนเอเอ็มรุ่นอาร์เจนเกรอ์เอฟทูหนึ่งชุดใช่ไหมครับ? ไม่ทราบว่ามีข้อสงสัยหรือต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมครับ?”


ฉินสือโอวตอบกลับว่า “ผมไม่มีข้อสงสัยครับ ส่วนความต้องการผมมีอยู่หนึ่งข้อ รีบส่งมาให้ผมด่วนเลยครับ!”


จอห์นสัน เอริคนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คาดว่าเขากำลังคำนวณเวลาอยู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “พรุ่งนี้จะไปส่งให้คุณฉินประมาณบ่ายสองโมงครับ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกหรือไม่ครับ?”


“สะดวกครับ” ความเร็วในการตอบกลับนั้นเร็วพอสมควร


เมื่อสั่งซื้อบอลลูนแล้ว ฉินสือโอวก็มาครุ่นคิดอีกที จากนั้นเขาก็รีบโทรหาโรงพิมพ์ใหญ่ที่สุดในนครเซนต์จอห์นทันที เขาสั่งให้โรงพิมพ์ทำแบนเนอร์ขนาดยาวพิเศษ เรื่องนี้ต้องรีบกว่า เขาถามว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะทำเสร็จ อีกฝ่ายบอกว่าเร็วเท่าที่เงินจะถึง ดังนั้นแบนเนอร์นี้จึงเสร็จภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง!

 

 

 


บทที่ 1228 จะบินขึ้นได้ยากจริงๆ

 

บริษัทอาร์เกนเจอร์ทำงานเร็วจริงๆ พวกเขาบอกว่าบ่ายสองโมงจะมาส่งของ แต่ในความเป็นจริงพวกเขามาถึงตั้งแต่เที่ยงแล้ว จอห์นสันโทรมาหาเขาว่า “คุณฉิน พวกเรามาถึงสนามบินเซนต์จอห์นแล้ว ถึงตอนนี้คุณจำเป็นต้องมารับสินค้าเองครับ”


ฉินสือโอวหวังว่าบอลลูนจะถูกส่งมาถึงเกาะเล็กๆ แห่งนี้ แต่ปรากฏว่าจอห์นสันบอกเขาอย่างเขินอายว่า พวกเขาให้เครื่องบินขนส่งมาส่งของ ตามกฎแล้วต้องมาส่งถึงเมืองที่ลูกค้าอาศัยอยู่เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างเกาะแฟร์เวลที่อยู่ห่างไกลออกไปในทะเล พวกเขาไม่สามารถที่จะจัดส่งได้


ความเร็วของอีกฝ่ายทำให้ฉินสือโอวตกตะลึง ฉินสือโอวจึงไม่อยากที่จะรบกวนพวกเขาอีก เขาจึงไปรับของด้วยตัวเอง


จอห์นสันรออยู่บริเวณด้านนอกสนามบินเซนต์จอห์น เมื่อฉินสือโอวมาถึงเขากำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่สนามบินสองสามคนอยู่


ชาวจีนในนครเซนต์นั้นมีค่อนข้างน้อย เมื่อจอห์นสันมองเห็นใบหน้าของฉินสือโอวเขาก็เอ่ยขอโทษเจ้าหน้าที่สนามบิน หลังจากนั้นก็โบกมือให้เขา พลางเอ่ยถามออกมาอย่างอบอุ่นว่า “คุณฉิน สวัสดีครับ?”


ฉินสือโอวพยักหน้า “สวัสดีครับ ผมชื่อฉิน ไม่ทราบว่าบอลลูนอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”


จอห์นสันอธิบายว่า “ยังไม่ได้ถูกขนมาครับ คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับคุณฉิน บอลลูนของพวกเราค่อนข้างใหญ่ ของที่คูณสั่งคือบอลลูนเจ็ดชั้น ต้องใช้รถบรรทุกขนถึงจะขนมาได้ วิธีของผมคือ พวกเรามาปล่อยบอลลูนที่สนามบิน แล้วนั่งบอลลูนไปยังเกาะของคุณกันเถอะ คุณว่าเป็นอย่างไร?”


ขนาดมาตรฐานของบอลลูนนั้นแบ่งออกเป็นหลายระดับ อย่างบอลลูนเจ็ดชั้นมีขนาดสองพันถึงสองพันสี่ลูกบาศก์เมตร บอลลูนแปดชั้นมีขนาดสองพันสี่ถึงสามพันลูกบาศก์เมตร บอลลูนเก้าชั้นมีขนาดสามพันถึงสี่พันลูกบาศก์เมตร และบอลลูนสิบชั้นมีขนาดสี่พันถึงหกพันลูกบาศก์เมตร


นอกจากนี้ยังมีรูปทรงพิเศษ ที่เมืองมอนทรีออลมักจะมีเทศกาลบอลลูน ทุกปีจะมีการจัดแสดงบอลลูนรูปร่างพิเศษต่างๆ มากมาย นั่นคือการที่บอลลูนถูกสร้างขึ้นเป็นรูปต่างๆ เช่น บอลลูนรูปดาว บอลลูนรูปยานอวกาศ แม้กระทั่งบอลลูนรูปคนก็ยังมี


ฉินสือโอวซื้อของชิ้นใหญ่จนชินแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน บอลลูนสิบชั้นจะมีการลอยขึ้นและลงจอดที่ค่อนข้างยากมาก เขาซื้อบอลลูนเจ็ดชั้น ในทางทฤษฎีแล้วสามารถใช้มันในการเดินทางรอบโลกได้แล้ว


เมื่อได้ยินคำพูดของจอห์นสัน ท่านชายฉินก็คิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน นั่งบอลลูนกลับไปยังเมืองเล็กๆ ไม่แน่ว่าอาจจะสร้างความตกตะลึงให้กับคนที่อยู่ด้านล่างได้


ก่อนหน้านี้บอลลูนถูกใช้ในการหาเสียงของแฮมเล็ตและงานเฉลิมฉลองของเมือง แต่ทั้งหมดเป็นบอลลูนขนาดเล็ก ใช้เพียงสำหรับแขวนป้ายแบนเนอร์เท่านั้น ไม่เหมือนกับบอลลูนที่เขาสั่งซื้อลูกนี้ ขนาดของมันสามารถรองรับครอบครัวได้หนึ่งครอบครัวเลยทีเดียว


ฉินสือโอวพยักหน้าและหลังจากพูดจบ จอห์นสันก็สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพูดขึ้นว่า “เช่นนั้น ก็เหลือเพียงปัญหาเดียว ผมจะต้องได้รับการอนุญาตจากสนามบิน เพื่อทำการปล่อยบอลลูนที่นี่”


เจ้าหน้าที่สนามบินคนหนึ่งได้ยินประโยคนั้น เขาจึงพูดขึ้นมาจากทางด้านหลังว่า “ไม่ได้ คุณครับ พวกเราต้องรับผิดชอบต่อสนามบินและผู้โดยสารทุกคน บอลลูนไม่ได้รับการอนุญาตให้ปล่อยขึ้นภายในรัศมียี่สิบกิโลเมตรจากสนามบิน ไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลอันตรายต่อวิสัยทัศน์ของเครื่องบินของพวกเรา”


จอห์นสันหันกลับไปคุยกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองคน เขาพยายามโน้มน้าวให้พวกเขารับข้อเสนอของตน แต่ว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนนั้นไม่ฟังคำพูดของเขาเลย เขาโบกมือเพื่อบอกให้จอห์นสันออกไป


ฉินสือโอวหยุดอยู่ครู่หนึ่ง เขาถามออกมาว่า “ขอโทษนะครับ ผมขอขัดจังหวะหน่อย นี่เป็นข้อกำหนดของประเทศหรือว่าเป็นข้อกำหนดของสนามบินครับ การที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยบอลลูนขึ้นในรัศมียี่สิบกิโลเมตรจากสนามบินนี่น่ะครับ?”


เจ้าหน้าที่พากันยักไหล่แล้วพูดว่า “ไม่ใช่ข้อกำหนด แต่ว่าพวกเรามีหน้าที่ที่ต้องขจัดสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดอันตรายได้”


จอห์นสันพูดออกมาอย่างจนปัญญาว่า “นี่มันไม่อันตรายเลย จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการแข่งขันบอลลูนของพวกเราก็อยู่ที่สนามบิน อีกอย่างเทศกาลบอลลูนของเมืองมอนทรีออล ก็ยังจัดใกล้กับสนามบินอีกด้วย”


เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนนั้นยังคงส่ายหัวไปมา เขาบอกว่ามอนทรีออลก็คือมอนทรีออล แต่ที่นี่คือนครเซนต์จอห์น


ฉินสือโอวไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาถามออกมาว่า “ผมเป็นสมาชิกวีไอพีของสายการบินแอร์แคนาดา ไม่ทราบว่าผมมีสิทธิ์ใช้สนามบินเป็นที่ปล่อยและลงจอดบอลลูนได้หรือไม่?”


การเป็นสมาชิกวีไอพีของสายการบินแอร์แคนาดานั้นเหตุผลก็มาจากพ่อแม่ของเขาเท่านั้น ครั้งที่มาถึงนครเซนต์จอห์น ผู้สูงวัยทั้งสองคนถูกคุมตัวโดยศุลกากรเนื่องจากเกิดการเข้าใจผิด ฉินสือโอวประท้วงเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้แอร์แคนาดาต้องชดเชยให้เขา


สมาชิกวีไอพีนี้ได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ฉินสือโอวจำได้ว่าในตอนที่เขาอ่านคู่มือการถือบัตรสมาชิกครั้งแรก สมาชิกสามารถใช้พื้นที่สำหรับจอดเครื่องบินชั่วคราวของสนามบินได้ โดยสามารถใช้ได้กับรถยนต์ เครื่องบินส่วนตัวและบอลลูน


ฉินสือโอวพูดพลางหยิบบัตรวีไอพีออกมา แอร์แคนาดาทำบัตรได้ดูน่าเชื่อถือมาก ด้านบนมีรูป ชื่อและหมายเลขบัตรของเขาอยู่ เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนมองดูอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็มองไปยังฉินสือโอวพลางพูดออกมาด้วยความสงสัยว่า “คุณคือคุณฉิน ชาวจีนที่อยู่ที่เกาะแฟร์เวลเหรอครับ?”


ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องจริงนั่นแหละ เพื่อน”


เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วพึมพำกันอยู่ครู่หนึ่ง คนที่ดูอายุมากกว่าอีกคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “พวกเราไม่สามารถรองรับให้ได้ เอาแบบนี้ ผมจะไปรายงานชั้นผู้ใหญ่ก่อน พวกคุณรอฟังข่าวจากพวกเรานะครับ”


พวกเขากดโทรศัพท์โทรออก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่คนที่คุยโทรศัพท์ก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พวกคุณสามารถปล่อยบอลลูนที่นี่ได้ แต่ว่าพวกคุณสามารถใช้พื้นที่ได้เพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น”


ฉินสือโอมองไปยังจอห์นสันอย่างไม่แน่ใจ จอห์นสันพยักหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา ตอนนี้บอลลูนใช้การเชื่อมต่อแบบแยกส่วน มีเพียงแค่การเติมลมเท่านั้นที่ค่อนข้างช้า การประกอบส่วนอื่นนั้นค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะเมื่อพวกเรามีทีมที่ชำนาญ”


หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนประสานงานกับทางสนามบินแล้วเขาก็บอกกับจอห์นสันว่าสามารถทำงานได้ จอห์นสันกดโทรศัพท์โทรออก รถบรรทุกรับจ้างของสนามบินขนาดใหญ่ก็วิ่งออกมา ส่วนประกอบขนาดใหญ่ถูกห่อหุ้มอย่างแน่นหนาอยู่ด้านบน นอกจากนี้ที่ด้านหลังยังมีรถก่อสร้างรูปทรงเหมือนรถบรรทุกน้ำขนาดเล็กตามมาอีกหนึ่งคัน


จอห์นสันนำทีมมาด้วยสิบกว่าคน พวกเขาแกะห่อส่วนประกอบอันแน่นหนานั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นอุปกรณ์แต่ละส่วนก็ค่อยๆ โผล่ออกมาให้เห็น


เมื่อทุกส่วนออกมาครบ จอห์นสันก็เริ่มอธิบายกับฉินสือโอวว่า “ดูนี่นะครับ นี่คือบอลลูน ใช้เส้นใยไนลอนผสมเขากับวิธีการที่ทำให้แข็งแรงสูงวิธีใหม่ ถึงแม้ว่ามันจะบางมาก แต่อันที่จริงแล้วมันทนความร้อน ทนแสงและทนรอยขีดข่วนได้ดีมาก…”


“นี่คือตะกร้าและถังนิรภัย มันจำเป็นต้องประกอบเข้ากับตะกร้า รอสักครู่นะครับ พวกเรามาดูส่วนต่อไปกัน นี่คือเตาเผา เป็นการติดตั้งหัวฉีดทั้งสี่ตามแบบที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน นี่คือที่จัวทั้งสี่ด้าน ทำจากวัสดุอัลลอยทั้งหมด เป็นอย่างไร เท่มากใช่ไหมครับ?”


“นี่คือเครื่องเป่าลม มีพลังกำลังพอดี นี่คือวาล์วทรงกระบอกสำหรับบอลลูนโดยเฉพาะ ที่นี่ยังมีสายพาน สายโยง ตะขอนิรภัย อุปกรณ์ซ่อมแซมวัสดุ เชิญคุณดูได้เลย ของพวกนี้เป็นสิ่งจำเป็นทั้งหมด”


“แน่นอนว่ายังมีใบรับรองจากพวกเรา เอกสารประวัติย่อ รวมถึงใบอนุญาตขึ้นบอลลูนด้วย”


ภายใต้คำแนะนำของจอห์นสัน ฉินสือโอวค่อยๆ ดูไปทีละส่วน หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยความตกตะลึงว่า “พระเจ้า การจะให้บอลลูนนี้ขึ้นได้ มันยากจริงๆ”


จอห์นสันพูดกลั้วหัวเราะว่า “แน่นอนครับ นี่เป็นยานพาหนะที่อันตราย พวกเราต้องเตรียมตัวอย่างดีถึงจะบินขึ้นได้ อุปกรณ์พวกนี้ ไม่สามารถขาดไปได้แม้แต่ชิ้นเดียว และต้องไม่ให้มันอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้เด็ดขาด ทุกอย่างพร้อมแล้ว คุณฉิน เชิญคุณรออีกสักสองชั่วโมงนะครับ จากนั้นบอลลูนก็พร้อมที่จะลอยขึ้นฟ้าแล้ว!”

 

 

 


บทที่ 1229 วิวเมือง

 

การใช้งานอุปกรณ์การบิน นอกจากเครื่องบินกระดาษแล้ว อย่างอื่นต้องอาศัยการทำงานอย่างขยันขันแข็งของคนหลายคนร่วมกัน เช่นเครื่องบินพาณิชย์ เฮลิคอปเตอร์ หรือการปล่อยบอลลูน


หลังจากที่อุปกรณ์ของบอลลูนพร้อมแล้ว คนหนึ่งกลุ่มสี่คน อีกกลุ่มหกคนก็เริ่มประกอบส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว


อย่างแรกคือการกระจายบอลลูนทั่วทั้งผืน ขั้นตอนนี้พวกเขาทำงานกันรวดเร็วมาก คนทั้งสี่คนใช้เวลาเพียงสิบนาทีก็ทำงานนี้จนเสร็จ


ส่วนกลุ่มหกคนนั้นประกอบตะกร้าแขวน ขั้นตอนนี้ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะว่าจำเป็นจะต้องติดตั้งตะกร้าแขวน ห้องนิรภัย เตาและเครื่องเป่าลมและอื่นๆ เข้าด้วยกัน


พวกเขาเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ทั้งหมดเกือบจะเสร็จในเวลาเท่ากัน หลังจากนั้นพวกเขาก็ร่วมมือกันต่อตะกร้าเข้ากับถุงลมนิรภัยที่แขวนอยู่ด้านข้าง


ตอนนี้เองรถก่อสร้างคันเล็กที่ตามรถบรรทุกมาก็เริ่มทำงาน มันฉีดฮีเลียมเข้าไปยังถุงลมนิรภัย ขั้นตอนนี้เป็นไปอย่างช้าๆ ถุงลมนิรภัยเริ่มพองขึ้นอย่างช้าๆ และเริ่มลอยขึ้นเรื่อยๆ จนมันลอยสูงไปประมาณห้าถึงหกเมตร เครื่องเป่าลมที่อยู่ในตะกร้าเริ่มทำงาน ที่หัวเตาเผาก็เริ่มทำการพ่นไฟออกมาช้าๆ


ก๊าซเริ่มทำงานร่วมกับอากาศ บอลลูนลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อถุงลมนิรภัยลอยอยู่ในอากาศถึงจุดสูงสุด การเตรียมการก็ดำเนินการมาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว


ฉินสือโอวมองไปยังตะกร้าที่แกว่งไปมาที่กำลังลอยขึ้นช้าๆ ในใจเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา เขาพูดว่า “ตอนนี้ผมสามารถขึ้นไปได้แล้วใช่ไหม?”


เขามองดูเวลา อันที่จริงก็ไม่ได้ใช้เวลามากเท่าไหร่ ไม่ถึงชั่วโมงครึ่งด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากนี่เป็นการปล่อยครั้งแรก หลังจากที่ประกอบตะกร้าเสร็จแล้ว จึงต้องตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาอะไรก่อนแล้วค่อยเติมลมเข้าไปในถุงลมนิรภัย ภายในหนึ่งชั่วโมงก็สามารถลอยขึ้นฟ้าได้แล้ว


จอห์นสันส่ายหัวพลางพูดว่า “ไม่ได้ครับ คุณฉิน พวกเรายังจำเป็นต้องจะปรับอุปกรณ์เช่น จีพีเอสนำทาง โทรศัพท์ดาวเทียม สถานีวิทยุ ทั้งหมดตั้งค่อยๆ ปรับครับ หลังจากที่ไม่มีปัญหาแล้วพวกเราจะติดต่อไปยังพนักงานภาคพื้นดิน เมื่อเรียบร้อยหมดแล้วถึงจะขึ้นบินได้ครับ”


ฉินสือโอวพูดออกมาอย่างตกตะลึงว่า “ทำไมยุ่งยากขนาดนี้? ตอนที่ผมเห็นคำแนะนำ มันบอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าคนสองคนก็สามารถทำให้บอลลูนลอยขึ้นได้น่ะ?”


สองคนที่เขาบอกคือนักบินและนักบินผู้ช่วย สำหรับควบคุมบอลลูน


จอห์นสันส่ายหัว เขาพูดแนะนำว่า “สามารถปล่อยได้กับลอยได้เป็นสองเรื่องที่เป็นเรื่องดี! ในสายตามืออาชีพอย่างพวกเรา ต้องมีอย่างน้อยห้าคนถึงจะทำให้บอลลูนนั้นลอยขึ้นได้อย่างสมบูรณ์!”


“ทำไมเรื่องเยอะจัง?” ท่านชายฉินสูดลมหายใจเข้าลึก เขารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตัวเองจะบังคับบอลลูนนี้


จอห์นสันยังคงพูดต่อไปว่า “ใช่แล้วครับ ค่อนข้างเยอะเลยครับ อย่างแรกคุณต้องมีนักบินและผู้ช่วยนักบิน อย่างที่สองคุณต้องมีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินสองคน และต้องมีนักสุขอนามัยอีกหนึ่งคน ถ้าหากว่าเป็นบอลลูนทรงพิเศษ แบบนั้นก็ยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินต้องมีถึงเก้าคนด้วยกัน!”


“ทำไมต้องมีนักสุขอนามัยด้วย?” ท่านชายฉินถามขึ้นมาอย่างทำอะไรไม่ถูก ตอนที่เขาหาข้อมูลในตอนแรกไม่เห็นมีแนะนำเรื่องนี้เลย


จอห์นสันหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “การเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของการบินอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของความดัน อุณหภูมิ และความหนาแน่นของอากาศ สิ่งพวกนี้จะทำให้รู้สึกไม่สบาย ดังนั้นควรมีนักสุขอนามัยอยู่ด้วย เพื่อข้อมูลทางสรีรวิทยา เช่นติดตามความดันเลือด น้ำตาลในเลือด และไขมันในเส้นเลือด”


หลังจากการทดสอบผ่าน วิศวกรที่มาพร้อมกับจอห์นสันก็ยกนิ้วโป้งให้กับเขา ความหมายของเขาคือบอลลูนไม่มีปัญหา สามารถลอยขึ้นได้แล้ว


ฉินสือโอวถามออกมาว่า “ได้แล้วเหรอ?”


จอห์นสันยิ้มออกมา “ใช่ครับ เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดไม่มีปัญหา”


ฉินสือโอวพยักหน้าและเป็นคนนำขึ้นไปบนบอลลูนก่อน ข้างในมีชายวัยกลางคนสองคนรออยู่แล้ว พวกเขาคือนักบินและผู้ช่วยนักบิน


เมื่อเห็นฉินสือโอวเดินมายังบอลลูนอย่างเปิดเผย จอห์นสันก็พูดขึ้นว่า “คุณฉินช่างกล้าหาญเสียจริง ในคนที่ผมรู้จัก มีคนจำนวนน้อยที่กล้าขึ้นบอลลูนทันทีที่เห็นครั้งแรกทั้งที่ยังไม่ได้ทำการทดสอบการบินแบบคุณน้อยมาก”


เดิมที เวลาที่ฉินสือโอวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ นักบินของเขาก็จะวนเฮลิคอปเตอร์วนไปมาอยู่หลายครั้ง เพื่อเป็นการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีปัญหาจากนั้นฉินสือโอวจึงจะถูกดึงขึ้นไป


แต่บอลลูนไม่เหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ ตราบเท่าที่คุณทำตามกฎการทำงานของบอลลูนอย่างเคร่งครัด บอลลูนนี้ก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้นแน่นอน เพราะว่าการที่บอลลูนลอยขึ้นได้นั้นเกิดจากก๊าซที่ถูกเผาไหม้จากระบบการเผาไหม้ ถ้าหากระบบการเผาไหม้ไม่สามารถผลิตความร้อนได้อีก บอลลูนก็จะกลายเป็นร่มชูชีพ จากนั้นก็จะร่อนลงมาช้าๆ ตามธรรมชาติ


แม้ว่าถังนิรภัยจะแตก แต่เนื่องด้วยวัสดุของมัน ตราบใดที่ถุงลมนิรภัยไม่ได้โดนขีปนาวุธ หรือฉีกขาดจากพายุทอร์นาโด แบบนั้นอย่างไรก็ไม่มีทางที่มันจะเกิดรูขนาดใหญ่ได้ การเป็นแบบนี้หัวเตาก็ยังคงจะผลิตความร้อนออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเติมเต็มก๊าซที่รั่วไหลออกไป และยังคงรับประกันได้ว่าบอลลูนจะลงจอดตามปกติ


แน่นอนว่า ถ้าหากไม่มีภัยธรรมชาติหรือภัยที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ถุงนิรภัยกลับแตกออกและในขณะเดียวกันเตาก็ไม่สามารถใช้งานได้ แบบนั้นคนที่อยู่ด้านบนจะเป็นอันตราย แต่ความน่าจะเป็นที่จะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการซื้อหวยแล้วถูกรางวัลเป็นพันล้านสักเท่าไหร่


ตอนนี้บอลลูนได้รับการรับรองว่าเป็นเครื่องบินที่ปลอดภัยที่สุดจากสหพันธ์การขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ฉินสือโอวรู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกใช่ไหม?


อีกอย่าง ฉินสือโอวที่อยากขึ้นบอลลูนไม่ใช่เพราะความอยากรู้อยากเห็น แต่เป็นเพราะเขานำบางสิ่งบางอย่างมา…นั่นก็คือแบนเนอร์ขนาดยาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาที่จำเป็นจะต้องนำมาด้วย แบนเนอร์อันนี้จะต้องแขวนไว้ที่บอลลูน


เมื่อขึ้นบอลลูนมา นักบินทั้งสองคนก็เริ่มยุ่งขึ้นมาทันที คนหนึ่งสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินผ่านทางวิทยุสื่อสาร ส่วนอีกคนก็ตรวจสอบเครื่องวัดความสูง เครื่องวัดความเร็วในการลอยตัว เครื่องวัดอุณหภูมิ ระดับความดัน เครื่องวัดความเร็วลมอื่นๆ


เตาเริ่มทำการจุดไฟออกมา เปลวไฟขนาดใหญ่ยาวสองสามเมตรกำลังลุกไหม้เป็นเส้นตรง อากาศร้อนอันทรงพลังค่อยๆ ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นบอลลูนก็ค่อยๆ ลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว


จอห์นสันอธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า “พวกเรามีฮีเลียมไม่เพียงพอ เพราะว่านี่เป็นการปล่อยบอลลูนลูกนี้ครั้งแรก ต้องให้เวลามันปรับตัวเข้ากับความตึงเครียดก่อน ดังนั้นการบินครั้งนี้จึงต้องพึ่งเตาไฟ”


เชื้อเพลิงที่ใช้กับบอลลูนเอเอ็มรุ่นอาร์เกนเจอร์เอฟทูคือโพนเพนและก๊าซเหลว หัวเตาเป็นเตาแก๊สอัดพลังงานสูงที่มีความร้อนมากกว่าเตาแก๊สที่ใช้ในบ้านทั่วไปถึงห้าร้อยเท่า มันสามารถจุดไฟได้ตลอดเวลา และยังต้านทานพายุระดับแปดได้


ถ้าหากเกิดการหยุดทำการของเตาไฟก็ไม่ต้องกลัว บนบอลลูนยังมีระบบเผาไหม้สองระบบที่อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมอยู่เสมอ สามารถเปิดใช้ได้ตลอดเวลา


อันที่จริงตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะปล่อยบอลลูน การบินเจ้าสิ่งนี้ควรทำตอนกลางวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนดวงอาทิตย์ตก โดยปกติแล้วจะต้องเป็นช่วงที่สงบที่สุดของวัน และเป็นช่วงที่กระแสลมเสถียรที่สุด


บอลลูนไม่ได้ถูกบังคับจริงๆ มันลอยไปตามแรงลม แต่ว่าเนื่องจากลมมีทิศทางและความเร็วต่างกันในแต่ละระดับความสูง นักบินสามารถเลือกระดับความสูงได้ตามความเหมาะสมตามทิศทางที่ต้องการสำหรับเที่ยวบินของตัวเอง


ตอนนี้ลมจากทางทิศเหนือกำลังดี เกาะแฟร์เวลตั้งอยู่ทางทิศใต้ของนครเซนต์จอห์น ทำให้สามารถบินได้อย่างสบายใจ นี่คือเหตุผลที่นักบินเลือกที่ปล่อยบอลลูนในช่วงเวลานี้ ไม่อย่างนั้นอาจจะขอความช่วยเหลือเพิ่มหากต้องการที่จะไปยังเกาะแฟร์เวล


ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวเคยกลัวความสูง แต่เขานั่งเฮลิคอปเตอร์และใช้รถแทรกเตอร์ทางอากาศที่ฟาร์มปลาทุกวัน อาการกลัวความสูงของเขาจึงดีขึ้นมาก การลอยตัวของบอลลูนไม่ได้ถือว่าสูงมาก ในระดับนี้เขาสามารถรับมันได้


ในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาก็ก้มลงมองด้านล่าง เขาเห็นนครเซนต์จอห์นค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ ใต้เท้าของเขา


นครเซนต์จอห์นเป็นเมืองท่า ถูกสร้างขึ้นริมทะเล ทำให้พื้นที่ภูมิประเทศไม่ราบเรียบ ในเมืองมีภูเขาน้อยใหญ่มากมาย บ้านบางหลังมีการสร้างที่เอียงเล็กน้อย เมื่อมองจากมุมสูง สิ่งนี้จะเห็นชัดขึ้นเป็นพิเศษ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)