ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1212-1225

  ตอนที่ 1212 เข้าร่วมงานเลี้ยง


 เหมยเหมยโดนคุณปู่จ้องมองราวกับนั่งบนเบาะเข็มที่ทิ่มแทง อาหารเช้ารสชาติแสนอร่อยของเชฟหยวนก็พลันไร้รสชาติขึ้นมา ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าคุณย่าจะจากไปได้ทุกเมื่อ เธออยากจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเสียจริง


จริง ๆแล้วเธอก็ไม่กล้าพูดออกมาทำได้เพียงแอบคิดเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็เธอหวังให้คุณย่ารีบจากไปสักที…เอ่อ…ถึงแม้ความคิดแบบนี้ดูเหมือนอกตัญญู แต่นี่เป็นความคิดที่แท้จริงของเธอ


ช่วงเช้าคุณปู่กับจ้าวอิงหย่งสองสามีภรรยาออกจากบ้านไปแล้ว ที่บ้านเหลือแค่เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานสองคน แล้วก็ยังมีพวกพี่น้องสยงมู่มู่ จ้าวอิงหนานไม่สามารถหยุดความอยากรู้อยากเห็นไว้ได้จึงลากตัวเหมยเหมยมาถาม


 “ไหนแกบอกอามาสิ เหยียนหมิงซุ่นตอนนี้อยู่ในสถานะอะไรกันแน่?”


หลายวันมานี้จ้าวอิงหนานอัดอั้นเกือบตาย เธอรู้สึกประหลาดใจเหยียนหมิงซุ่นเป็นลูกชายของเหยียนโฮ่วเต๋อ เป็นตระกูลที่ธรรมดามาก ทำไมถึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับเฮ่อเหลียนชิงขึ้นมาได้?


โหดสุดสุด!


ท่าทีของจ้าวอิงหย่งหลายวันมานี้เธอเข้าใจเป็นอย่างดี อยากจะอาศัยหลานสาวกับเหยียนหมิงซุ่นเชื่อมความสัมพันธ์ แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น เธอแค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้นจริง ๆ


เหมยเหมยถอนหายใจ เธอรู้ว่าจ้าวอิงหนานเก็บไว้ไม่ได้หรอก


“ก็เป็นอย่างที่คุณอาคิดนั่นแหละค่ะ!” เหมยเหมยไม่ได้พูดอย่างชัดเจน เธอเคยตกลงกับเหยียนหมิงซุ่นไว้ว่าจะไม่บอกสถานะที่แท้จริงของเขาให้คนอื่นรู้


สิ่งที่รับปากไปแล้วต้องทำให้ได้ เธอไม่มีทางผิดคำสัญญาหรอก!


แน่นอนว่าจ้าวอิงหนานไม่พอใจกับคำตอบนักยังอยากจะถามต่อ เหยียนซินหย่าเข้ามาช่วย “จะเที่ยงแล้ว เดี๋ยวความจริงทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผยออกมาเอง เธอจะรีบร้อนทำไมกัน?”


เหมยเหมยยิ้มอย่างซุกซน “ใช่ค่ะ คุณอาจะรีบร้อนไปทำไมกันคะ?”


จ้าวอิงหนานรู้สึกหงุดหงิดจนเกาหัวอยู่ชั่วครู่ ตัวเธอเองก็ยิ้มออกมารอคอยให้ถึงตอนกลางวันเร็ว ๆ


ด้านนอกมีเสียงรถบีบแตรดังเป็นระยะ เหมยเหมยแววตาเป็นประกาย “พี่หมิงซุ่นมารับฉันแล้ว แม่คะ อาคะ พวกเราไปด้วยกันเถอะ”


เหยียนซินหย่าตามลูกสาวไปอย่างไม่ลังเลใจอยู่แล้ว หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ถึงแม้ว่าเธอจะช่วยอะไรไม่ได้แต่อย่างไรก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนลูกสาว ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เธอยอมเสียสละตัวเองเพื่อถ่วงเวลาให้ลูกสาว!


ตอนนี้ยังเช้าอยู่เพิ่งจะสิบโมงกว่า ๆ  จ้าวอิงหนานลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งสั่งกำชับหลานและลูกชาย จากนั้นก็รีบขึ้นรถ


 “น้าเหยียน คุณจ้าว” เหยียนหมิงซุ่นทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


วันนี้เขาใส่ชุดทหารติดกระดุมเป็นระเบียบทุกเม็ด ชุดทหารที่พอดีตัวแสดงให้เห็นรูปร่างที่กำยำของเขา ราวกับต้นไป๋หยางริมชายแดน


เสื้อผ้าที่พอดีตัวช่างยั่วยวน เหมยเหมยกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ ตาก็เหลือบมองอยู่ตลอดเวลา


รู้สึกคอแห้งผากอยู่หน่อยแหะ!


น่าเสียดายแม่ตัวเองกับคุณอาอยู่ข้าง ๆมองมาอย่างไม่ละสายตา เธออยากทำอะไรหน่อยก็ไม่ได้…เฮ้อ…น่าเสียดายจัง!


เหยียนหมิงซุ่นแค่มองก็รู้ว่าเหมยเหมยคิดอะไรอยู่ ในหัวเธอคิดอะไรมันเขียนไว้อยู่ตรงหน้าหมดแล้ว ยัยเด็กโง่เอ้ย!


จริงๆแล้วคนที่คอแห้งไม่ใช่เหมยเหมยคนเดียวเท่านั้น เขากระหายเสียยิ่งกว่าแค่อดทนไว้เท่านั้น แสร้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


 “น้าเหยียน คุณจ้าว อีกสักครู่ผมจะมีธุระ เดี๋ยวจะให้เหมยเหมยพาพวกคุณไปเดินเล่นที่สวนฟาร์มก่อนนะครับ” เหยียนหมิงซุ่นพูด


เฮ่อเหลียนชิงตาเฒ่าจิ้งจอกนั้น พอพูดออกไปแล้วก็ไม่สนใจอะไรสักอย่าง เขาเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เสี่ยวเมิ่งคอยให้ความช่วยเหลือ แม้แต่เวลานัดเดทกับเหมยเหมยเขายังหาเวลาออกมาไม่ได้เลย


เหยียนซินหย่าและจ้าวอิงหนานมองตากัน ฟังจากที่เหยียนหมิงซุ่นพูดแล้ว เหมยเหมยน่าจะคุ้นเคยกับสวนฟาร์มพอสมควร ดูแล้วไม่รู้ว่ายัยเด็กนี่มีอะไรปิดบังพวกเธออีกบ้าง!


พวกเขาไปถึงเร็วแขกยังมาไม่ถึงกัน เหยียนหมิงซุ่นพูดกำชับไม่กี่คำก็รีบจากไป เหมยเหมยคุ้นเคยทางเป็นอย่างดีพาเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน ตรงนั้นค่อนข้างสงบ


 “คุณหนูจ้าวครับ คุณท่านพักผ่อนอยู่ใต้ซุ้มองุ่น คุณสะดวกไปเดินเล่นตรงอื่นไหมครับ?” พอเพิ่งจะเดินมาถึงสวนหลังบ้านก็มีคนเดินออกมาหยุดพวกเขาไว้ เป็นหนึ่งในคนดูแลสวนฟาร์มนั่นเอง


……………………………………………


 ตอนที่ 1213 เหน็บแนมเสียดสี


 เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานทั้งสองยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ แต่พอเห็นคนที่มาหยุดพวกเขามีท่าทีเคร่งขรึมดูแล้วไม่น่าจะต่อกรได้ด้วยง่าย ๆ จึงเกิดอาการหวาดกลัว จึงดึงเสื้อของเหมยเหมยเบา ๆ


 “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปทางนั้นแล้วกัน”


เหมยเหมยรู้ว่าเฮ่อเหลียนชิงต้องกำลังเล่นกับฉิวฉิวกับต้าหวงอยู่แน่ ถึงแม้จะไปก็คงจะไม่เป็นไร แต่ตาแก่โรคจิตอารมณ์แปรปรวน เธอเกรงว่าเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานจะตกใจหลบออกไปจะดีกว่า


 “แม่คะ อาคะ ทางนั้นมีสวนดอกไม้ บรรยากาศก็ไม่เลว พวกเราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ”


ความจริงสวนดอกไม้เล็ก ๆนั่นเธอเป็นคนจัดวางเอง ปลูกดอกไม้ไว้หลากหลายชนิด ตอนที่เธอไม่อยู่เหยียนหมิงซุ่นให้คนงานในสวนฟาร์มมาช่วยดูแลให้


เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานไม่ได้ขัดอะไร ทั้งสามคนเดินมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้แต่เดินได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็มีคนวิ่งมาหา เรียกพวกเขาไว้


 “คุณหนูจ้าว นายท่านเรียกพบ คุณนายทั้งสองด้วยครับ”


เหมยเหมยขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเฮ่อเหลียนชิงต้องการจะทำอะไร?


เดี๋ยวก็ไม่ให้พวกเธอเข้าไป เดี๋ยวก็เรียกให้เข้าไปพบ ประสาทเสียจริง!


 “ถ้าอย่างนั้นเราไปทักทายเสียหน่อยละกัน” เห็นแก่หน้าเหยียนหมิงซุ่น เหมยเหมยตัดสินใจไม่เห็นแก่หน้าของตาแก่โรคจิตอีกแล้ว พาเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานเดินไปทักทาย


จ้าวอิงหนานตัวสั่นเล็กน้อย ถึงแม้เธอจะไม่รู้จักเฮ่อเหลียนชิงแต่เคยได้ยินเฝิงไห่ถังพูดถึง เป็นตาแก่ที่น่ากลัวเหมือนกับเฮ่อเหลียนเช่อ ไม่สิ…น่ากลัวกว่าเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนหนึ่งที่ไม่พอใจใครก็สั่งฆ่าสถานเดียว!


 “อาคะ ไม่ต้องกลัวนะแค่ทักทายเล็กน้อย ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เหมยเหมยเห็นแล้วก็ขบขัน พูดจาปลอยโยนข้างหูจ้าวอิงหนานเบา ๆ


เหยียนซินหย่าไม่รู้จักเฮ่อเหลียนชิง ในเมื่อไม่รู้จักจึงไม่มีความกลัวใด ๆ สุขุมสงบเป็นธรรมดา อีกทั้งยังทำการสำรวจมองซ้ายมองขวาด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกด้วย


พอมาถึงใต้ซุ้มองุ่นที่มีชีวิตชีวาเขียวชอุ่ม เฮ่อเหลียนชิงกำลังถือชอคโกแลตเล่นกับฉิวฉิวที่อยู่ในอ้อมกอด หันหลังให้กับพวกเขา หวงฉิวนอนอยู่บนโต๊ะหินด้วยท่าทีขี้เกียจ พอเห็นเหมยเหมยก็ตาลุกวาวกระโจนไปอยู่ที่ไหล่ของเธอ


 “เหมียว”


หวงฉิวขดตัวเป็นวงกลม เกาะเหมยเหมยแน่อ้อนไม่หยุด


เหมยเหมยหยิบปลาแห้งที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋า หวงฉิวมีความสุขขึ้นมาในทันทีเลียหน้าเหมยเหมยหลายครั้ง จากนั้นจึงกินปลาแห้งด้วยความพึงพอใจ


 “แกมาเร็วขนาดนี้ทำไม คิดจะมากินข้าวเช้าด้วยกันเลยเหรอ?” เฮ่อเหลียนชิงพูดจาเหน็บแนมเหมือนเช่นเคย


เหมยเหมยรู้สึกชินมานานแล้ว วันไหนที่เฮ่อเหลียนชิงไม่พูดจาเสียดสีสิ วันนั้นเธอถึงจะไม่ชิน!


แต่เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานไม่รู้เนี่ยสิ พอได้ยินเช่นนั้นก็คิดว่าเฮ่อเหลียนชิงไม่ชอบเหมยเหมย ที่เรียกเธอมาก็เพื่อจะมาด่า!


ใจที่อยากจะปกป้องลูกสาวของเหยียนซินหย่าเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอรีบก้าวออกไปข้างหน้าดันลูกสาวไปด้านหลัง พูดเสียงดังว่า“คุณคะ พวกเราเป็นคนที่เหยียนหมิงซุ่นรับมาเข้าร่วมงานเลี้ยง รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณเข้าแล้ว ขอโทษด้วยจริง ๆค่ะ พวกเราจะออกไปเดี๋ยวนี้”


เหยียนซินหย่าคิดว่าพวกเธอรบกวนเฮ่อเหลียนชิงจึงทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจ คิดว่าถ้าออกไปก็คงจบ


แต่ทว่า——


 “ผมให้พวกคุณไปแล้วเหรอ? มิน่ายัยเด็กนี่ถึงไม่รู้จักมารยาทสักนิด ถ้ามีตัวอย่างที่ดีให้เห็นก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก?” เฮ่อเหลียนชิงหันตัวกลับมา ทำหน้าบึ้งตึงมองไปที่พวกเขา


เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานงงไปเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?


พวกเธอยังไม่ทันได้ทำอะไรผิดไปเหรอ?


เหมยเหมยเริ่มโมโหแล้ว เดิมทีคิดว่าวันนี้เป็นวันดีจะไม่ทะเลาะกับตาแก่โรคจิตสักหน่อย แต่ตาแก่นี่ทำเกินไปจริงๆ ถึงขนาดกล้ามารังแกแม่ของเธอ!


ไม่เห็นหัวเฮเลยหรือไง?


 “เฮ้ คุณอย่ามาได้คืบจะเอาศอก แม่กับอาของฉันไปทำอะไรให้คุณโมโหหรืออย่างไร? เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกลั่?” เหมยเหมยเท้าสะเอวอย่างไม่เกรงใจสักนิด


ตอนที่ 1214 เหยียนซินหย่าโมโห


 เหมยเหมยทำให้จ้าวอิงหนานตกใจเป็นอย่างมากรีบไปดึงเธอไว้ ข้างหน้าคือเฮ่อเหลียนชิงผู้ฆ่าคนได้อย่างไร้ความปราณี เหมยเหมยตะโกนเสียงดังขนาดนี้ พวกเรายังจะได้กลับบ้านกันอยู่ไหมเนี่ย?


 “อาคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ!” เหมยเหมยพูดจาปลอบโยน


จ้าวอิงหนานกระตุกปากเล็กน้อยมองเธอด้วยสายตาตักเตือนแวบหนึ่ง พูดเสียงเบาว่า “แกเก็บอาการหน่อย พวกเราจะไม่ยอมตกเบี้ยล่างตอนนี้ รีบไปกันเถอะ”


เหยียนซินหย่าก็คิดอย่างนั้นเช่นเดียวกัน ถึงแม้เธอจะไม่รู้จักเฮ่อเหลียนชิง แต่เห็นตาแก่นี่แล้วก็ดูไม่ใช่คนดีอะไร ดูแปลกเสียด้วยซ้ำ อาจจะมีปัญหาทางจิตก็เป็นได้


คิดถึงคนที่มีปัญหาทางจิตแล้วเหยียนซินหย่าก็นึกถึงเหอปี้อวิ๋น ผู้หญิงคนนี้ฆ่าคนไปสองคน อีกทั้งยังกรีดหน้าหร่วนเป่าฮุ่ยจนเสียโฉม ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวอิงหัวออกหน้า ผู้หญิงคนนี้แม้แต่โทษก็ไม่ต้องรับผิดถือว่าเป็นคนโรคจิตจึงให้พ้นโทษไปเลย


แต่ถึงแม้ว่าเป็นเช่นนี้เหอปี้อวิ๋นก็ได้รับโทษเพียง 5 ปีเท่านั้น


ชีวิตคนสองคนเลยนะ เหยียนซินหย่านึกขึ้นก็ใจหาย ถึงแม้คนที่ตายสองพ่อลูกนั่นจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าหวาดกลัวอยู่ดี


จากเรื่องนี้ทำให้เหยียนซินหย่าคิดได้ว่าเวลาเจอคนโรคจิตต้องถอยไปอยู่ห่าง ๆห้ามเข้าใกล้ เพราะมิฉะนั้นถ้าตายก็เท่ากับตายฟรี


เฮ่อเหลียนชิงไม่พอใจกับท่าทีของเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานเป็นอย่างมาก จะมีท่าทีเกรงกลัวไปทำไมกัน?


หรือว่าเขาหน้าตาน่ากลัวเหรอ?


ทั้งที่เขาเป็นคุณชายที่ดูสง่างามแท้ ๆ ถึงแม้ตอนนี้อายุจะมากแล้วแต่ไม่น่าเกลียดแน่นอน ผู้หญิงสองคนนี้หมายความว่าอย่างไรกัน?


 “คนไหนเป็นแม่ของยัยเด็กบ้านี่” เฮ่อเหลียนชิงถามเสียงแหลม


เหยียนซินหย่าใจเต้นตึกตักเดินออกมาอย่างกล้าหาญ “ฉันเป็นแม่ของเหมยเหมย คุณมีธุระอะไร?”


จริงๆแล้วเฮ่อเหลียนชิงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเหยียนซินหย่ากับเหมยเหมยมีความสัมพันธ์อะไรกัน เพราะสองแม่ลูกหน้าตาค่อนข้างคล้ายกัน โดยเฉพาะไฝบริเวณคิ้ว ดูก็รู้ทันทีว่าเป็นแม่ลูกกัน


 “คุณมาก็ดีแล้ว รีบพายัยเด็กบ้านี่กลับไปอบรมสั่งสอนให้ดี ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หน้าหนาราวกับกำแพง ทุกวันเอาแต่มาเกาะลูกชายผมไม่ปล่อย ดูคุณแล้วน่าจะเป็นคนมีมารยาท แต่ทำไมถึงเลี้ยงลูกสาวที่หน้าด้านหน้าทนแบบนี้ออกมาได้กันนะ?”


เฮ่อเหลียนชิงฟ้องยาวเหยียด มองไปที่เหยียนซินหย่าที่โกรธจนตัวสั่น เหมยเหมยที่โกรธจนหน้าเขียว เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาในทันที รู้สึกสบายไปตั้งแต่หัวจรดเท้า


ไม่กี่วันก่อนโดนยัยเด็กบ้านี่ต่อปากต่อคำ ความโมโหที่เก็บมาจนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยออกมาเสียที!


ความจริงแล้วเหมยเหมยรู้สึกคุ้นชินกับคำพูดเหน็บแนมเสียดสีของเฮ่อเหลียนชิงมานานแล้ว แต่ตาแก่โรคจิตนี่กลับพูดจาอย่างนี้ต่อหน้าแม่ของเธอ เหยียนซินหย่าสาวเรียบร้อยจากบ้านตระกูลใหญ่ จะทนกับคำพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?


เธอกลัวว่าแม่ตัวเองจะเชื่อสิ่งที่ตาแก่โรคจิตพูด แล้วโมโหจนทำลายสุขภาพ


 “คุณเป็นคนที่สมองมีปัญหาหรืออย่างไร ลูกสาวของฉันมีมารยาท เป็นเด็กรู้ความว่านอนสอนง่าย ใครเจอใครก็ชื่นชม คุณพูดบ้า ๆอะไรออกมา ฉันคิดว่าเป็นเพราะลูกชายของคุณมีจิตคิดพิศวาสลูกสาวฉันแล้วมาระรานไม่เลิกเสียมากกว่ามั้ง?”


ไม่รอให้เหมยเหมยพูดอะไร เหยียนซินหย่าก็ด่าชุดใหญ่ เธอที่ปกติอ่อนโยนเรียบร้อยกลายร่างเป็นสาวนักรบต่อกรกับเฮ่อเหลียนชิง


เฮ่อเหลียนชิงชะงักไปสักพัก เขาไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง ไม่สิ ทำไมเหยียนซินหย่าไม่เหมือนตามในข้อมูลที่บอกไว้ล่ะ ? ความอ่อนโยนสง่างามอยู่ตรงไหนกัน?


นี่มันผู้หญิงขวางโลกไร้เหตุผลชัด ๆ !


มิน่าถึงสอนลูกสาวแบบเหมยเหมยออกมาเป็นแบบนี้!


เหยียนซินหย่าไม่รู้ความสัมพันธ์ของเฮ่อเหลียนชิงกับเหยียนหมิงซุ่น คิดว่าลูกชายของเฮ่อเหลียนชิงที่พูดถึงเป็นคนอื่น แค่เธอคิดว่ามีคนหื่นกามมาตามติดลูกสาวเธอ เธอก็เริ่มรู้สึกเกิดโมโหที่ผสมปนเปเข้ามา


 “ถ้าคุณมีเวลาว่างก็เอาเวลาไปสั่งสอนลูกชายหน่อยนะ อย่าทำตัวเหมือนหมาเห็นกระดูกก็เข้าไปแทะ คนอย่างคุณมีหน้ามาว่าลูกสาวฉันด้วยเหรอ?”


เหยียนซินหย่ายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหแล้วก็ด่าต่ออีกเป็นชุด เฮ่อเหลียนชิงโดนด่าจนมึนไปเลย


บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้กินอะไรเข้าไปถึงได้กล้ามากขนาดนี้นะ?


……………………………………………….


 ตอนที่ 1215 สมองเหมือนกัน


ในใจเหมยเหมยรู้สึกถึงอบอุ่นแล่นไหลผ่านเข้ามา ปกติแม่เธอขนาดทะเลาะก็ยังทำไม่เป็น แต่ตอนนี้เพื่อเธอแล้วกลับกล้าด่าตาแก่โรคจิต


แต่ทำไมแม่ของเธอถึงเปรียบพี่หมิงซุ่นเป็นหมาล่ะ?


แล้วเธอก็ไม่ใช่กระดูกเสียหน่อย!


เธอยังไม่ทันได้แก้ต่างอะไรเหยียนซินหย่าก็ดึงตัวเธอมา แล้วพูดเสียงดังว่า “เหมยเหมยพวกเราไปกันเถอะ ให้เหยียนหมิงซุ่นส่งพวกเรากลับบ้าน ข้าวนี่ไม่ต้องกงไม่ต้องกินมันละ”


จ้าวอิงหนานไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ความอยากอาหารของเธอถูกเฮ่อเหลียนชิงทำให้ตกใจจนหายไปหมดแล้ว จะกินลงอีกเสียที่ไหนกัน?


กลับบ้านไปกินอาหารฝีมือเชฟหยวนน่าจะดีกว่า


เฮ่อเหลียนชิงเพิ่งได้สติกลับมา แสยะยิ้มพูดขึ้นว่า “ผมให้พวกคุณไปแล้วเหรอ? ในเมื่อมาถึงบ้านผมแล้ว อย่าคิดว่าจะได้ออกไปง่าย ๆ!”


เหยียยนซินหย่าหน้าซีดเผือด ความคิดสี่มิติของศิลปินในตัวเธอทำให้เธออดคิดเรื่องฆ่าคนทำลายศพ ทำลายศพเพื่อทำลายหลักฐานไง…


แล้วเธอก็มองไปที่พืชพันธุ์ต่าง ๆและเถาวัลย์องุ่น ก็คิดถึงวิธีอำพรางศพทำลายหลักฐานที่ดีขึ้นมาได้ในทันที——ปุ๋ยคอก


สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน สมองเหมือนกันเป๊ะ!


 “คุณ คุณคิดจะทำอะไร? เหมยเหมย ลูกกับอารีบหนีไป แม่…จะขวางเอาไว้ให้ก่อน” เหยียนซินหย่ากลัวจนขาสั่น แต่ก็ดันลูกสาวให้ไปอยู่ด้านหลังให้จ้าวอิงหนานรีบพาหนีไป


ถึงแม้เหมยเหมยจะรู้สึกตื้นตันใจแต่เธอรู้สึกตลกมากกว่า แต่ก่อนทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่าแม่ตัวเองน่ารักขนาดนี้!


 “เฮ้ ถ้าคุณยังมาหลอกแม่ฉันอีก ระวังฉันจะไม่ให้ฉิวฉิวมาเล่นกับคุณอีกต่อไปแล้วนะ!” เหมยเหมยงัดไม้เด็ดออกมา


เฮ่อเหลียนชิงมองด้วยสายตาดุดันส่งเสียงไม่พอใจ แล้วชี้ไปที่เก้าอี้หินข้าง ๆด้วยท่าทีที่มีเมตตา “แล้วจะต้องเชิญให้พวกคุณนั่งด้วยไหมล่ะ?”


เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานตอนนี้รู้สึกทะแม่ง ๆ เหมือนว่าเหมยเหมยจะสนิทสนมกับตาแก่โรคจิตนี้พอสมควร อีกทั้งความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดูไม่ธรรมดาด้วย


เหมยเหมยดึงทั้งสองคนที่มีความสงสัยอยู่เต็มหัวให้นั่งลง แย่งชอคโกแลตสองชิ้นจากมือของเฮ่อเหลียนชิงส่งให้พวกเธอ ชอคโกแลตทำให้จิตใจสงบนิ่งลงได้ แม่กับอาของเธอน่าจะตกใจไม่น้อยต้องผ่อนคลายบ้าง


ฉิวฉิวพอเห็นเจ้านายของตัวเองก็รีบทิ้งคนบางคน แล้วกระโจนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเหมยเหมย


เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานมองกันไปมา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


 “แม่คะ อาคะ เขาชื่อเฮ่อเหลียนชิง เป็นพ่อบุณธรรมของพี่หมิงซุ่นค่ะ”


ในเมื่อได้เจอกันแล้ว แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรกันอีก ถึงแม้ว่าเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับตกใจมาก ไม่ใช่ลูกนอกสมรสก็พอแล้ว


แน่นอนว่าพวกเธอรู้สึกแปลกใจมาก เฮ่อเหลียนชิงอยู่ที่เมืองหลวง เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนเมืองจิน ทั้งสองคนมาบรรจบเจอกันได้อย่างไร?


จ้าวอิงหนานคิดลึกไปมากกว่านั้น ดูจากท่าแล้วเหยียนหมิงซุ่นน่าจะมีเฮ่อเหลียนชิงเป็นพ่อบุญธรรมนานแล้ว แต่เหมยเหมยแค่ไม่ยอมพูด ไม่ยอมปริปากบอกอะไร แม้แต่พี่กับพี่สะใภ้ก็ไม่รู้ ความคิดแบบนี้เหมือนกับเด็กอายุสิบกว่าขวบเสียที่ไหนล่ะ?


ถึงแม้จะคิดว่าเหมยเหมยระวังตัวมากเกินไป แต่พอเธอคิดไปถึงพี่ชายกับแม่ที่บ้านก็รู้สึกว่าโชคดีแล้วล่ะ


แล้วก็ยังดีที่เหมยเหมยทำอะไรก็ระมัดระวังเป็นอย่างดีถึงไม่ถูกเล่นงานได้ไงล่ะ!


ตอนนี้เหยียนซินหย่าก็เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายที่เฮ่อเหลียนชิงพูดถึงคือเหยียนหมิงซุ่น จึงเริ่มหน้าเริ่มแดงขึ้นมา เมื่อสักครู่เธอว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นหมา!


แต่ว่า——


 “คุณเฮ่อเหลียนค่ะ หมิงซุ่นกับเหมยเหมยสองคนนี้บริสุทธิ์ใจต่อกัน มีความรู้สึกที่ดีให้กัน เมื่อสักครู่สิ่งที่คุณพูดไม่ถูกต้อง อีกหน่อยอย่าพูดอีกนะคะ” เหยียนซินหย่ายังคงจดจำคำที่เฮ่อเหลียนชิงพูดกับลูกสาวเมื่อสักครู่ได้


เฮ่อเหลียนชิงกรอกตามองบนกำลังจะอ้าปากด่า เหยียนหมิงซุ่นผู้ได้รับข่าวเดินเข้ามา เฮ่อเหลียนชิงตอนนี้หูตาไวรีบสงบปากสงบคำทันที


 “พ่อบุญธรรมครับ นายใหญ่มาแล้ว รออยู่ที่ห้องหนังสือครับ”


เหยียนหมิงซุ่นมีท่าทีเคารพนอบน้อม แต่กลับมีแววตาที่ตักเตือนว่า  นั่นเป็นแม่ยายของผมในอนาคตเชียวนะ!


เฮ่อเหลียนชิงมองกลับไปด้วยสายตาดุดัน ไม่ใช่แม่ยายของฉันเสียหน่อย!


ตอนที่ 1216 แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน


 เฮ่อเหลียนชิงถูกเหยียนหมิงซุ่นพาตัวออกไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยินยอมเท่าไรนักเพราะนายใหญ่นั่นน่าเบื่อไร้รสชาติ สู้เล่นกับแม่ของยัยเด็กบ้ายังสนุกกว่าเสียอีก!


เหยียนหมิงซุ่นพูดแกมขอโทษว่า “น้าเหยียน คุณจ้าว พ่อบุญธรรมของผมค่อนข้างดื้อรั้น คำพูดที่เขาพูดพวกคุณก็คิดเสียว่าเขาแค่ผายลมแล้วกันครับ อย่าเก็บไปคิดมาก”


เหมยเหมยพยักหน้าตาม “ใช่ค่ะ คิดเสียว่าเขาผายลมออกมาละกัน”


ในใจเหยียนซินหย่าเห็นด้วยสุดขีดแค่ผายลมออกมาเอง แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อีกทั้งลูกบุญธรรมของเขาก็ยังยืนอยู่ตรงหน้า!


 “ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูพูดต่อหน้าเขาอย่างนี้แหละ” เหมยเหมยไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เธอกับเฮ่อเหลียนชิงพอเจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน แค่บอกว่าผายลมยังถือว่าดีแล้วด้วยซ้ำ!


เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มแล้วพูดว่า “น้าเหยียนไม่ต้องคิดมากนะครับ พ่อบุญธรรมของผมมักจะบอกว่าเหมยเหมยเป็นคนใสซื่อ จิตใจดี แล้วก็ชอบเหมยเหมยมากๆครับ!”


แต่ที่จริงคำพูดเดิมของเฮ่อเหลียนชิงคือ ‘ยัยเด็กบ้านั่นโง่จะตายเล่นกับเธอคลายเหงาได้ดี แล้วก็ยังกินข้าวได้มากขึ้นด้วย’


แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นคิดว่า นี่คือวิธีการแสดงออกว่าชอบของเฮ่อเหลียนชิง ไม่เช่นนั้นจะกินได้มากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร!


เหยียนซินหย่าจึงวางใจลงบ้าง เธอมองตาแกนั่นพลันรู้สึกว่าไม่ค่อยปกติ บางทีเขาอาจจะชอบที่ลูกสาวของเธอพูดจาจาบจ้วงแบบนี้ก็ได้ !


เฮ่อเหลียนชิงถูกลูกน้องพาไปที่ห้องหนังสือ นายใหญ่พอเห็นเขาก็ประหลาดใจ ทำไมตาแก่นี่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นขนาดนี้ อีกทั้งยังอ้วนขึ้นด้วย!


พูดถึงล่าสุดที่นายใหญ่เจอเฮ่อเหลียนชิงคือสองปีก่อน ตอนนั้นเฮ่อเหลียนชิงผอมเหลือแต่กระดูก ดูเหมือนไร้ชีวิต นายใหญ่ยังคิดว่าตาแก่นี่อาจจะใช้ชีวิตได้ไม่ถึงสองปี!


ใครจะไปคิดว่าผ่านไปสองปี เฮ่อเหลียนชิงกลับยิ่งดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิม ดูอ่อนวัยมากขึ้นด้วย ดูท่าแล้วยังสามารถก่อเรื่องได้อีกหลายสิบปีทีเดียว


นายใหญ่ทั้งดีใจและกังวลในเวลาเดียวกัน ดีใจที่เฮ่อเหลียนชิงยังไม่ตายจะได้มาสู้กับหนิงเฉินเซวียนต่อ ตำแหน่งของเขาก็จะมั่งคงยิ่งขึ้น


สิ่งที่กังวลก็คือหากเฮ่อเหลียนชิงคิดจะกลับมา ตาแก่นี้น่ากลัวกว่าหนิงเฉินเซวียนเสียอีก ถ้าหากว่ามีวันหนึ่ง เฮ่อเหลียนชิงทำลายหนิงเฉินเซวียน ความสมดุลถูกทำลาย เป้าหมายคนต่อไปของเฮ่อเหลียนชิงจะเป็นใคร?


จะเป็นเขาไหมนะ?


นายใหญ่จ้องพินิจพิเคราะห์เฮ่อเหลียนชิงที่ดูสดใส บนใบหน้าไม่ได้แสดงท่าทีเช่นใด ยิ้มเล็กน้อย “คุณกินยาวิเศษอะไรมา? ถึงกลับมาดูเด็กได้ขนาดนี้”


เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าไม่เปลี่ยน ยิ้มแล้วพูดว่า “ยังจะมียาวิเศษอะไรได้อีก ก็มีแต่พวกธัญญาพืชทั้งหลาย กินข้าวเยอะขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นเอง”


นายใหญ่ถามด้วยความประหลาดใจว่า “อาการเบื่ออาหารของคุณดีขึ้นแล้วหรือ? ใครรักษาให้หาย ทำไมผมไม่ยักรู้”


 “ใช่ เพื่อนสาวของหมิงซุ่นเป็นคนรักษาให้” เฮ่อเหลียนชิงพูดพลางหัวเราะ


 “เพื่อนสาวเหรอ? เด็กสาวคนนั้นของตระกูลจ้าวหรือ? เธอรักษาโรคเป็นเมื่อไหร่กัน?” นายใหญ่พูดชื่อเหมยเหมยออกมา สายตาเฮ่อเหลียนชิงสั่นไหวเล็กน้อย แล้วแอบยิ้มเยาะ


เขารู้ว่าตาแก่นี่ไม่วางใจ แน่นอนว่าต้องส่งคนมาสะกดรอยตาม เหอะ…เขาใช่คนที่ตาแก่นี่จะมาดักฟังอะไรง่าย ๆเสียที่ไหน เรื่องที่มาดักฟังไป แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่เขาตั้งใจจะให้นายใหญ่รู้เท่านั้น


หากเขาไม่ต้องการให้ใครได้รู้ ถึงแม้ว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์มาเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก


 “เด็กคนนั้นแหละ เธอรู้เรื่องการแพทย์เสียที่ไหน แต่ยัยเด็กนี่กินข้าวแล้วดูน่าสนใจดีแค่เห็นก็อยากอาหารแล้ว กินข้าวกับยัยเด็กนี่ไม่กี่มื้อ อาการเบื่ออาหารของผมก็ดีขึ้นเลย”เฮ่อเหลียนชิงไม่ได้ปิดบังอะไร มุมปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม


นายใหญ่ไม่ค่อยเชื่อนัก เขาจงใจถามขึ้นว่า “ดูท่าแล้วคุณน่าจะชอบยัยหนูตระกูลจ้าวคนนั้นมากใช่ไหม?”


เฮ่อเหลียนชิงหุบยิ้มลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ก็พอได้ ใครให้ลูกชายผมชอบล่ะ ถึงผมจะไม่ชอบแต่จะไปทำอะไรได้”


สีหน้าท่าทางเหมือนผู้ปกครองที่เป็นห่วงลูกหลานในตอนนี้ แตกต่างจากสีหน้าท่าทางรังเกียจที่แสดงต่อหน้าเหยียนซินหย่าเมื่อสักครู่ราวกับเป็นคนละคนกันเลยเชียว


………………………………………………………………


 ตอนที่ 1217 คาดเดา


 ถึงแม้นายใหญ่จะสงสัยว่าเฮ่อเหลียนชิงอาการดีขึ้นเพราะมียาวิเศษ แต่เขาก็รู้ว่าตาแก่นี่ไม่มีวันพูดความจริงๆ เดี๋ยวค่อยวางแผนสืบเรื่องนี้ในภายหลัง หากมียาวิเศษที่ทำให้คนฟื้นจากความตายได้จริง เขาจะปล่อยไปง่าย ๆได้อย่างไร!


 “วันนี้คุณจัดงานเลี้ยงใหญ่ เตรียมจะกลับมาแล้วใช่ไหม?” นายใหญ่ถามกลับแววตาเป็นประกาย


นี่จึงจะเป็นจุดประสงค์ที่เขามาในวันนี้


เฮ่อเหลียนชิงหลบซ่อนตัวมาเกือบ 20 ปี จู่ ๆ ก็พุ่งพรวดออกมา อีกทั้งยังรับลูกบุญธรรม นายท่านจะไม่คิดมากได้อย่างไร?


ยิ่งไปกว่านั้นในมือของเฮ่อเหลียนชิงมีพลังที่ทำให้คนกลัว หากเขาอยากจะทำอะไรขึ้นมา… ต้องเกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นแน่


เฮ่อเหลียนชิงยิ้มอย่างรู้ทัน เขารู้ว่านายใหญ่จะคิดแบบนี้ เหอะ…ถ้าเขาอยากจะทำอะไรจริง ๆ ตำแหน่งนายใหญ่หลายปีมานี้จะมั่นคงเช่นนี้หรือ?


 “ผมมันเป็นคนไร้ประโยชน์ จะกลับมาได้อย่างไรเล่า? แต่ว่าก็จะมีบางคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว ถ้าให้มานั่งอธิบายทีละคนทีละคนคงวุ่นวายน่าดู ผมก็เลยเชิญทุกคนมาเสียเลย พูดให้รู้เรื่องในทีเดียว”


เฮ่อเหลียนชิงพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา อันนี้เป็นคำพูดจากใจเขาจริง   จุดประสงค์ในการจัดงานเลี้ยงด้วยเหตุผลนี้ แน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยอมรับว่า เขากำลังทำเพื่อหนุนนำให้ยัยเด็กนั่น!


เขากับยัยเด็กเจอหน้ากันต้องกัดกันอยู่เรื่อย ยัยเด็กนั่นถูกคนอื่นรังแก เขาสิดีใจเสียแทบไม่ทัน!


นอกจากนั้นเขายังอยากจะบอกสองคนนั้นว่า เขาเฮ่อเหลียนชิงยังมีชีวิตอยู่ดีมีสุข ร่างกายแข็งแรงดีมาก พวกแกล้างคอรอไว้ได้เลย นั่งรอความตายอยู่ที่บ้านเสียเถอะ!


แน่นอนนายใหญ่รู้เรื่องที่ไม่กี่วันก่อนเหยียนหมิงซุ่นทำตัวเป็นวีรบุรุษไปช่วยสาวงาม แต่คนขี้สงสัยอย่างเขากลับรู้สึกว่าจุดประสงค์ของเฮ่อเหลียนชิงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น


 “พูดไปแล้วทำไมคุณถึงรับลูกบุญธรรม? แต่ก่อนคุณบอกไม่ใช่หรือว่ามาคนเดียวก็จะต้องไปคนเดียว” นายใหญ่อยากจะถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง


ศักยภาพที่แท้จริงของเหยียนหมิงซุ่นถึงจะเป็นสิ่งที่นายใหญ่กลัวที่สุด


เฮ่อเหลียนชิงรับลูกบุญธรรมที่เก่งกว่าเฮ่อเหลียนเช่อ เขาจะไม่กลัวได้อย่างไร!


เฮ่อเหลียนชิงพูดเสียงเบาว่า “อายุเยอะแล้ว ความคิดก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมก็ต้องหาลูกชายมาใส่เสื้อไว้ทุกข์ให้ผมเสียหน่อยสิ”


นายใหญ่ฟังคำเสียดสีตัวเองที่แฝงในคำพูดเขาออก พอนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับตาแก่ที่อยู่ด้านหน้าขึ้นมา ก็อดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้ ความสงสัยเริ่มเบาบางลงไป


 “มันก็ใช่ ผมเห็นว่าหมิงซุ่นก็เป็นเด็กที่ไม่เลวเลย” นายใหญ่ชื่นชมอย่างตะกุกตะกัก


เฮ่อเหลียนชิงเงยหน้ามองเขา พูดด้วยท่าทีจริงจังว่า “คุณวางใจได้ ในชีวิตนี้ของผมไม่ขออะไร จุดประสงค์เดียวที่ผมมีชีวิตอยู่ต่อก็คือฆ่าหนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกให้ตาย ผมไม่มีวันรามือจากพวกเขาแน่”


นี่เป็นครั้งแรกที่เฮ่อเหลียนชิงแสดงการตัดสินใจว่าจะฆ่าหนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกนั้นอย่างเปิดเผย ถือว่าเป็นการฉีกผ้าผืนชั้นสุดท้ายออกไปอย่างไม่ปิดบังสักนิด


นายใหญ่ชะงักไปชั่วครู่ ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับความคิดที่จะฆ่าหนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกของเฮ่อเหลียนชิง เรื่องราวความชั่วร้ายของทั้งสามคนนี้ ใช้เวลาสามวันสามคืนก็คงจะเล่าไม่จบ


 “พวกคุณ…”


ถึงแม้ในใจอยากจะให้สองนั้นตายสักเท่าไรแต่ยังต้องรักษาภาพพจน์อยู่ดี เฮ่อเหลียนเช่อพูดขัดแกมเสียดสีเบา ๆว่า “คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอก ขอเพียงแค่หนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกนั้นตาย ผมถึงจะได้ลาทางโลกปลีกวิเวกอย่างแท้จริงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสบายใจ”


นายใหญ่เปิดปากถอนหายใจอย่างจนปัญญา แต่ในใจรู้สึกมีความสุขมาก


เวลาผ่านไปเร็วมากแขกในสวนฟาร์มทยอยมามากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาดีใจกันมากต่างพากันมาสำรวจสวนฟาร์มลึกลับแห่งนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สิ่งที่อยากรู้ที่สุดก็คือจุดประสงค์ของเฮ่อเหลียนชิงที่จัดงานเลี้ยงครั้งนี้


หรือว่าเป็นเพราะกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว?


ไม่ใช่สิไม่ใช่ คนใกล้ตายที่ไหนจะมีอารมณ์เลี้ยงข้าวคนอื่น!


……


ทุกคนต่างก็คิดกันไปคนละทาง ความข้องใจทำให้พวกเขาเฝ้ารอคอยการเริ่มงานเลี้ยงเป็นพิเศษ รอให้เฮ่อเหลียนชิงเป็นคนมาบอกคำตอบด้วยตัวเอง


 ตอนที่ 1218 ราวกับนั่งบนพรมเข็ม


 หลังจากเหยียนหมิงซุ่นมาบอกข่าวแล้วก็รีบเดินออกไปจัดการธุระต่อ เหมยเหมย เหยียนซินหย่าและจ้าวอิงหนานพักผ่อนอยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉิวฉิวกับหวงฉิวกินอิ่มเต็มที่ กำลังเล่นกันอยู่บนซุ้มองุ่น


 “เหมยเหมย มาที่นี่บ่อยเหรอ” จ้าวอิงหนานถามด้วยความอยากรู้


ดูจากท่าทีเมื่อสักครู่ของหลานสาวดูจะคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าบ้านตระกูลจ้าวเสียอีก เกรงว่าคงจะไม่ได้มาแค่ครั้งสองครั้งแน่!


เหมยเหมยพยักหน้า “ใช่ค่ะ มักจะมาทานข้าวที่นี่บ่อยๆ อาคะ แม่คะ หนูจะพาไปดูสวนดอกไม้ทางนู้นดีกว่า ดอกไม้พวกนั้น หนูเป็นคนลงมือปลูกเองกับมือเลยนะ!”


เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานส่งสายตาแห่งความสงสัยให้กัน ดูจากท่าทีของลูกสาว(หลานสาว)แล้ว ราวกับเป็นนายหญิงของที่นี่อย่างชัดเจน เสียแรงที่เมื่อสักครู่พวกหล่อนยังคิดว่าเฮ่อเหลียนชิงคิดไม่ดีกับเหมยเหมย


 “เหมยเหมย ทำไมลูกไม่บอกให้เร็วกว่านี้? ที่จริงเมื่อครู่แม่เสียมารยาทมากเกินไปแล้ว” เหยียนซินหย่าตำหนิ


 “คิคิ อย่าคิดมากเลยแม่ ตาแก่นั่นนิสัยเสียแบบนี้แหละ ถ้าพูดดีดีกับเขาเขาไม่ฟังด้วยซ้ำ ด่าสักหน่อยถึงจะมีความสุข”


เหมยเหมยเหยียบขึ้นไปบนโต๊ะหิน ดึงองุ่นสองพวงลงมาจากซุ้มองุ่น แล้วส่งให้ทั้งสองคนที่กำลังตกใจ


 “กินองุ่นค่ะ องุ่นที่นี่รสชาติไม่เลวเลยค่ะ”


องุ่นรสชาติดีจริง ๆ เฮ่อเหลียนชิงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรมาปลูกพันธุ์ชั้นดี ไม่อร่อยสิแปลก


เหมยเหมยเด็ดองุ่นยัดใส่ปากเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนาน องุ่นรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังพอดีปลอบโยนพวกเขา ทำให้จิตใจค่อย ๆสงบลง เหยียนหมิงซุ่นส่งคนให้มาเรียกพวกเขาไปที่ด้านหน้า งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว


ที่นั่งของเหมยเหมยเด่นมากเป็นที่นั่งตรงกลาง ใคร ๆก็สามารถเห็นได้ สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องราวกับปลายเข็มที่ทิ่มแทง รู้สึกไม่ค่อยสบายนัก


เหยียนซินหย่าฝืนทนนั่งกับลูกสาว จ้าวอิงหนานกลับไปนั่งที่โต๊ะตระกูลจ้าว โต๊ะที่พวกเธอนั่งมีแค่พวกเธอสองแม่ลูก แล้วก็ตาแก่โรคจิตเฮ่อเหลียนชิง แค่พวกเขาสามคนเท่านั้น


เฮ่อเหลียนชิงไม่คิดจะพูดอะไรกับพวกเธอ เหยียนซินหย่ารู้สึกโล่งใจอย่างอดไม่ได้ ถึงแม้จะรู้ว่าตาแก่นี่ไม่ได้คิดร้ายต่อลูกสาว


 “คุณหนิงเชิญทางนี้ครับ”


หนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนเช่อสองคนนั่นมาแล้วมุ่งตรงมานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเขา เหมยเหมยไม่รู้จักหนิงเฉินเซวียน แต่เธอรู้จักเฮ่อเหลียนเช่อ เหมยเหมยใจเต้นตึกตัก


เหยียนหมิงซุ่นจัดที่นั่งอย่างไรกันเนี่ย?


เหมยเหมยไม่รู้ว่าโต๊ะของพวกเขาเฮ่อเหลียนชิงเป็นคนจัดการเอง เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย


เฮ่อเหลียนเช่อเห็นเหมยเหมยก็แสยะยิ้มอย่างเย็นชา หลายวันมานี้เหมยซูหานใส่อารมณ์กับเขา เล่นสงครามประสาทกันมาหลายวันแล้ว ก็เป็นเพราะเขาเล่นงานนังเด็กนี่


เหมยซูหานปากบอกเพราะเรื่องอื่น แต่เขารู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้


อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่าเหมยซูหานยังเหลือเยื่อใยให้นังเด็กนี่อยู่!


เหมยเหมยสัมผัสได้ถึงสายตาเยือกเย็นของเฮ่อเหลียนเช่อ ใจก็เต้นตึกตักอีกครั้ง แผ่นหลังเย็บเฉียบ รีบนั่งตัวตรง จะทำท่าทีหวาดกลัวต่อหน้าเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้


 “เฮ่อเหลียนชิง คุณยังไม่ตายอีกเหรอ?” หนิงเฉินเซวียนยังไม่ทันนั่งลงก็พูดคำนี้ออกมา ดูแตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นคนมีมารยาทมากเสียจริง


หนิงเฉินเซวียนคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ศัตรูตัวฉกาจของเขาจะสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นทุกวัน ดูแล้วยังดูอ่อนวัยกว่าเขาเสียอีก จะให้ไม่โมโหได้อย่างไรล่ะ?


เฮ่อเหลียนชิงพูดขึ้นว่า “คุณยังไม่ตายเลย ผมจะตายได้อย่างไร!”


หนิงเฉินเซวียนโมโหหน้าเขียว แค่นเสียงไม่พอใจแล้วนั่งลง แต่ทั้งร่างกลับแผ่รังสีความเยือกเย็นออกมา ทำให้เหยียนซินหย่าหนาวจนตัวสั่น ถ้าเป็นไปได้เธอยอมไปนั่งที่มุมลับตายังจะดีเสียกว่า


เหมยเหมยตักน้ำซุปให้แม่ที่น่าสงสารของเธอ ปลอบโยนด้วยเสียงแผ่วเบา เหยียนซินหย่าดื่มน้ำซุปร้อน ๆเข้าไป จิตใจก็สงบลงมาไม่น้อย


เฮ่อเหลียนเช่อมองไปที่เหยียนซินหย่าหลายที นัยน์ตาของเขาเต็มไปความตกตะลึง ในสายตาเขาแล้วเหยียนซินหย่าดูมีรสชาติกว่าจ้าวเหมยมาก ลูกท้อที่สุกงอมแล้วรสชาติถึงจะอร่อยสิ


แต่ตอนนี้เขาชอบแค่พ่อดอกเหมยคนเดียว ผู้หญิงหน้าตาดีขนาดไหนก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้


แต่พอเห็นนังเด็กนี่ค่อนข้างเอาใจใส่ความรู้สึกของแม่ตัวเอง น่าจะพอเอามาใช้ประโยชน์ได้!


……………………………………..


 ตอนที่ 1219 สั่งสอน


 แขกเริ่มจะทยอยเข้ามานั่งจนเต็มแล้ว เสียงผู้คนดังเซ็งแซ่ ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้ความจริงถูกเปิดเผย


ตระกูลจ้าวนั่งกันเต็มโต๊ะแล้ว โต๊ะของพวกเขาห่างจากโต๊ะของเหมยเหมยเล็กน้อย


 “พ่อ ดูสิ เหมยเหมยนั่งโต๊ะเดียวกับเฮ่อเหลียนชิง แล้วก็ยังมีน้องสะใภ้ด้วย”


จ้าวอิงหย่งดีใจเป็นอย่างมาก เขาเห็นความสัมพันธ์ของหลานสาวกับเฮ่อเหลียนชิงสนิทสนมกันยิ่งกว่าที่เขาคิดเสียอีก!


นี่ช่างเป็นข่าวดีจริง ๆ!


จริง ๆแล้วคุณปู่เห็นเหมยเหมยตั้งแต่แรกแล้ว ความคิดของเขาเหมือนกับจ้าวอิงหย่ง ในใจทั้งตื่นเต้นและเจ็บปวด


เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก!


เขาคิดไม่ถึงเลยว่า จ้าวหวายซานอย่างเขาผู้เป็นวีรบุรุษมาทั้งชีวิต กลับจะต้องมาพึ่งพาหลานสาวประคองตระกูลจ้าว


สิ่งที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่ดีก็คือ เขาไม่แน่ใจว่าหลานสาวจะยอมไหม!


“สวัสดีครับทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมงานเลี้ยงนี้ สาเหตุที่นายท่านเชิญทุกคนมาร่วมงานในวันนี้ ก็เพื่อประกาศข่าวดีเรื่องหนึ่ง”


เสี่ยวเมิ่งพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ช่างแตกต่างกับเขาที่สุขุมเยือกเย็นในเวลาปกติ ทำหน้าที่ได้ดีกว่าพิธีกรมืออาชีพเสียอีก


เสี่ยวเมิ่งส่งไมค์ให้กับเฮ่อเหลียนชิง เหยียนหมิงซุ่นก็เดินมาอยู่ด้านข้างเขา


 “ทุกท่าน ผมจะขอแนะนำให้ทุกคนให้รู้จักลูกบุญธรรมของผม เหยียนหมิงซุ่น หมิงซุ่นทักทายทุกคนเสียหน่อย”


เฮ่อเหลียนชิงเสียงแหลมมาก พอพูดใส่ไมค์ยิ่งทำให้ระคายหู ฟังแล้วรู้สึกทรมานหูเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่มีใครกล้าแสดงออกมา


เหยียนหมิงซุ่นรับไมค์ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเฮ่อเหลียนเช่อแวบหนึ่ง ทำปากเยาะเย้ย พูดด้วยความเบิกบานใจว่า “ได้มาเป็นลูกบุญธรรมของพ่อ ถือเป็นโชคดีของผมอย่างมาก ต่อจากนี้ผมจะกตัญญูต่อพ่อบุญธรรม นำภารกิจของพ่อบุญธรรมมาเป็นเป้าหมาย ไม่ทำให้พ่อบุญธรรมต้องผิดหวังครับ”


พอพูดถึงตรงนี้ เหยียนหมิงซุนก็มองไปที่หนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูก คนที่รู้เรื่องก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี นี่เป็นการบอกเป็นนัยว่ากำลังจะเกิดพายุขึ้นในเมืองหลวงแล้ว


เฮ่อเหลียนเช่อได้รับคำท้าทายจากเหยียนหมิงซุ่น สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยน ลุกพรวดจะระเบิดอารมณ์ หนิงเฉินเซวียนห้ามเขาไว้ ใช้สายตาตักเตือน เฮ่อเหลียนเช่อนั่งลงอย่างไม่พอใจ สีหน้าดูไม่ได้เลย


เฮ่อเหลียนชิงส่งเสียงไม่พอใจ พึมพำกับตัวเองว่า “เด็กน้อยบ้าระห่ำ หลายปีผ่านไปไม่ได้มีการพัฒนาเอาเสียเลย อยู่ใกล้ใครก็จะเป็นอย่างนั้นจริง ๆสินะ!”


เสียงไม่ได้ดังมากแต่ก็ไม่ถือว่าเบา ทั้งโต๊ะได้ยินกันทุกคน เหมยเหมยเบะปาก เธอรู้สึกว่าคำพูดของตาแก่โรคจิตออกมาจากความโกรธแค้นเสียมากกว่า!


เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง ลุกขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ก็ถูกหนิงเฉินเซวียนกดลงไปอีกครั้ง


 “ตาแก่บ้าเอ้ยระวังตัวไว้เถอะ” เฮ่อเหลียนเช่อพูดอย่างเหี้ยมโหด สิ้นเสียงก็มีเงาสีขาวผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฮ่อเหลียนเช่อรู้สึกเจ็บบริเวณลำคอ จนต้องส่งเสียงร้องออกมา


ฉิวฉิวโจมตีสำเร็จเพียงครั้งเดียวแล้วรีบกลับไปอยู่บนต้นไม้ ร้องขอความดีความชอบจากเหมยเหมย: “เจ้านาย ผมเก่งใช่ไหมล่ะ?”


 “เด็กดี เดี๋ยวตาแก่โรคจิตจะซื้อชอคโกแลตให้หนึ่งคันรถเลย” เหมยเหมยพูดอย่างยิ้มแย้ม ฉิวฉิวมีความสุขจนม้วนตัว แล้วก็พาน้องหวงฉิวออกไปวิ่งเล่นด้วยกัน


เฮ่อเหลียนเช่อยื่นมือไปลูบตรงลำคอ แต่สัมผัสถึงรอยเลือด ลำคอรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ย้ำเตือนเขาว่าเมื่อสักครู่เขาโดนคน…ไม่สิ เขาไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรมาลอบโจมตีเขา


 “เช่อเอ๋อร์เป็นอะไรไป?” หนิงเฉินเซวียนเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจ ถึงแม้ปกติเขาจะชอบดุด่าทุบตีเฮ่อเหลียนเช่อ แต่ในใจกลับรู้สึกรักและเอ็นดูอยู่ตลอด อย่างไรเสียก็เป็นลูกชายแท้ ๆของเขา!


อีกทั้งยังเป็นลูกชายคนเดียวของผู้หญิงที่เขารักที่สุด จะไม่ให้เจ็บปวดใจได้อย่างไร?


เฮ่อเหลียนเช่อร้องเสียงซี้ด แล้วส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ”


เมื่อสักครู่เขาเห็นอย่างชัดเจนว่ามีเงาสีขาวมาทำร้ายตัวเอง สถานการณ์นี้ดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก สามปีก่อนตอนที่จับเหมยเหมยที่สโมสรอันดับหนึ่ง เขาก็ถูกเงาสีขาวลอบโจมตีเช่นกันเป็นแบบเดียวกับเงาสีขาวในวันนี้เลย


ตอนที่ 1220 แล่นเรือไปตามลม


 เฮ่อเหลียนเช่อไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เขาฉลาดมาก แค่คิดครู่เดียวก็สามารถนึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างกันได้ พอเห็นเหมยเหมยนั่งอยู่ที่โต๊ะประธาน แววตาก็พลันดุดันในทันที


ดูท่าความสัมพันธ์ระหว่างจ้าวเหมยกับตาแก่บ้านี่น่าจะไม่ธรรมดา!


เฮ่อเหลียนชิงเห็นเลือดซึมบริเวณลำคอของเฮ่อเหลียนเช่อก็มีความสุข เหมยเหมยเขยิบเข้ามาพูดเสียงเบาว่า “ฉิวฉิวช่วยคุณแก้แค้น คุณจะต้องซื้อชอคโกแลตหนึ่งคันรถมาให้เป็นรางวัลนะ”


“ต้องให้แกบอก? ถอยไป อย่ามาบังฉันดูเรื่องสนุกๆ!”


เฮ่อเหลียนชิงกลอกตามองบนใส่เธอด้วยท่าทางรังเกียจ ยื่นมือผลักเหมยเหมยออกไป ชื่นชมสภาพน่าเวทนาของไอ้เด็กนรกอย่างมีความสุข


เหมยเหมยแค่เสียงใส่แล้วกลับไปที่ที่นั่งตัวเอง เห็นเฮ่อเหลียนเช่อกำลังจ้องตัวเองจึงกลอกตามองบนใส่ ก้มหน้ากินข้าว แล้วตักซุปให้กับเหยียนซินหย่า


 “กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง ไม่มีใครมีทางหนีพ้น!”


เฮ่อเหลียนชิงพูดอย่างมีความสุข ไม่ปิดบังความสุขของเขาที่มีบนความทุกข์ของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย เสี่ยวเมิ่งสั่งให้คนไปเอากล่องยามาตั้งแต่แรกแล้ว เพื่อจัดการแผลให้กับเฮ่อเหลียนเช่อ


คนอื่นต่างก็ก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง หัวใจเต้นแรงตึกตัก


พระเจ้า งานเลี้ยงเพิ่งจะเริ่มก็เลือดตกยางออกแล้ว ตอนนี้พวกเขาหมดกะจิตกะใจทำอะไรแล้ว อยากจะรีบกินแล้วก็รีบไป ไม่อยากจะติดร่างแหไปด้วย


เทพเทวดาตีกัน ผีตัวเล็กไม่ควรเข้าไปยุ่งสิ!


เหยียนหมิงซุ่นพูดจาพอเป็นพิธีไม่กี่คำ ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาจะลงมาแล้วแต่ใครจะไปรู้ว่าเขามองไปที่เหมยเหมยด้วยสายตาหวานเยิ้ม


เหมยเหมยหน้าแดงขึ้นมาในทันที มองไปที่เขาแวบหนึ่ง จริง ๆเลยมีคนตั้งเยอะมองอยู่ ไม่เก็บอาการเสียเลย!


ถึงแม้ในใจของเธอจะรู้สึกดีมากก็ตามเถอะ


เฮ่อเหลียนชิงกลับรู้สึกสถานการณ์ไม่ดีนัก รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นหมอนี่จะต้องประกาศเรื่องแต่งงานแน่นอน ถ้าประกาศออกไป เขาจะเอารูปถ่ายมาแกล้งยัยเด็กนี่ต่อได้อย่างไรกันเล่า!


 “ต่อไปผมอยากจะแนะนำคู่หมั้นของผมกับทุกคนสักหน่อย” ถ้าไม่พูดเรื่องน่าประหลาดใจเหยียนหมิงซุ่นก็คงไม่หยุด เขาโยนระเบิดออกมาลูกหนึ่ง แขกที่แกล้งตายทั้งหลายก็ลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนพากันตื่นตะลึง


การกระทำของเฮ่อเหลียนชิงช่างรวดเร็วเหลือเกิน ไม่เพียงแต่จะหาลูกชายได้ขนาดลูกสะใภ้ก็หาเอาไว้แล้ว?


คนที่ฉลาดหน่อยก็จะนึกถึงเหมยเหมยทันที มิน่าสาวสวยคนนี้ถึงได้นั่งอยู่ที่โต๊ะประธาน ที่แท้ก็มีความสัมพันธ์เช่นนี้นี่เอง!


คนที่รู้จักเหมยเหมยต่างก็เลิกคิ้วขึ้นมา ไอ้หยา นี่ไม่ใช่หลานสาวตระกูลจ้าวหรอกเหรอ!


 “คุณจ้าว ยินดีด้วยยินดีด้วย คุณเป็นคนที่มองคนไม่ผิดจริง ๆ!” มีคนเข้ามายืนอยู่ข้างคุณปู่จ้าว ยิ้มแบบประจบสอพลอ แตกต่างจากหน้าเย็นชาเมื่อไม่กี่วันก่อน


บ้านตระกูลจ้าวถึงแม้จะโดนยึดตำแหน่งคืนแต่ใครให้บ้านเขาเลี้ยงหลานสาวออกมาได้ดีล่ะ พอโยนเบ็ดลงไปตกก็ตกได้เฮ่อเหลียนชิงปลาตัวใหญ่ มีที่พักพิงหนุนนำใหญ่โตขนาดนี้ บ้านตระกูลจ้าวกลับคืนมามีอำนาจเป็นเรื่องที่ไม่ช้าเร็ว!


เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นก็มีหลายคนที่เดินเข้ามาทักทาย อีกทั้งยังแอบถามเรื่องของเหยียนหมิงซุ่น ทุกคนต่างก็มาเพื่อสานสัมพันธ์กับบ้านตระกูลจ้าว ลืมเรื่องไม่กี่วันก่อนที่พวกเขาพยายามเบี่ยงหลบตระกูลจ้าวจนสิ้น


คุณปู่ผ่านโลกมามาก ถึงแม้ในใจจะดีอกดีใจแต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า จ้าวอิงหย่งกลับเก็บอาการไม่อยู่ยิ้มมจนปากฉีกไปถึงใบหู อันหย่าฟางส่งสายตาดุให้เขา เขาถึงสามารถเก็บอาการลงได้


ชายสองคนนี้มีความคิดเหมือนกัน รู้สึกว่าตอนนี้ตระกูลจ้าวกับเฮ่อเหลียนชิงต้องมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นในอนาคต ถึงแม้ว่าเหมยเหมยจะไม่ยอมแนะนำให้ ตอนนี้บ้านตระกูลจ้าวกับเฮ่อเหลียนชิงถูกมัดลงเรือลำเดียวกันแบบไม่ต้องพูดอะไร กลายเป็นบ้านเดียวกันไปแล้ว


ไม่เห็นพวกนั้นที่วิ่งมาเอาหน้าตามกันเป็นพรวนนั่นเหรอ!


เหยียนหมิงซุ่นเดินไปตรงหน้าเหมยเหมยยื่นมือให้เธอ ยิ้มเล็กน้อย มีพลังแข็งแกร่งราวกับภูเขาทำให้เธอยิ่งรู้สึกสบายใจ


………………………………………


 ตอนที่ 1221 ที่แท้ก็เป็นคนคุ้นเคย


ถึงแม้ว่าเหมยเหมยจะเขินตัวม้วนแต่กลับไม่ลังเลเลยสักนิด ยื่นมือออกไปก็ถูกมือใหญ่ของเหยียนหมิงซุ่นจับไว้แน่น มือใหญ่โอบมือเล็ก ช่างเหมาะกันอย่างไร้ที่ติ คู่สวรรค์สร้างขึ้นมาชัด ๆ


เหยียนซินหย่าตกใจยกใหญ่ ถึงแม้ว่าเธอจะยอมรับเหยียนหมิงซุ่นนานแล้ว แต่นี่เป็นการประกาศต่อหน้าสาธารณะ เท่ากับเป็นการบอกชาวโลกทั้งหมด เรื่องใหญ่ขนาดนี้จ้าวอิงหัวไม่อยู่เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง


เฮ่อเหลียนเช่อมองคู่รักที่เหมาะสมเกินใครเทียมบนเวทีจนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเหมยซูหาน ความอิจฉาริษยาก็พุ่งทะลักออกมา


ชีวิตนี้เขาและเหมยซูหานคงไม่สามารถแสดงความรักต่อหน้าแขกจำนวนมากมายขนาดนี้เหมือนเหยียนหมิงซุ่นได้


ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน!


ความเสียใจอย่างสุดซึ้งทำให้เฮ่อเหลียนเช่อยิ่งมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยอย่างไม่พอใจกว่าเดิม จ้องเขม็งและเย็นชาลงเรื่อย ๆ ในตอนนี้ไม่รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นพูดอะไรข้างหูของเหมยเหมย


เหมยเหมยแหงนหน้ามองเหยียนหมิงซุ่น แสงแดดที่กระทบผ่านใบไม้สาดส่องลงมายังพวกเขา ทำให้ผิวและเส้นผมเป็นสีทองจาง ๆ


ช่างเหมือนภาพวาดก็ไม่ปาน


ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องชมว่าสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก!


“คู่หมั้นของผมชื่อจ้าวเหมย จ้าวที่มาจากจ้าวจื่อหลงหรือจูล่ง เหมยที่มาจากหน้าตางดงามราวภาพวาด รู้จักกับผมมาตั้งแต่เด็ก และเป็นคนหนึ่งในชีวิตนี้ที่ผมเต็มใจทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ ถ้าใครมารังแกเหมยเหมยของผมก็นับว่าเป็นศัตรูกับเหยียนหมิงซุ่นด้วย ผมจะไม่ยอมปล่อยไปแน่นอน หากไม่ตายก็จะไม่เลิกรา!”


เหยียนหมิงซุ่นพูดด้วยท่าทีจริงจังเหมือนคำกล่าวสาบานในงานแต่งงานก็ไม่ปาน ทุกคนรู้สึกได้ถึงความรักที่เขามีต่อเหมยเหมย รู้สึกแปลกใจแต่มากไปกว่านั้นคือความอิจฉา


ถึงอย่างไรทุกคนต่างก็โหยหาความรักที่สวยงามโดยไม่หวาดระแวงต่อกันแบบนั้น!


แน่นอนว่าความอิจฉา นอกจากความริษยา คนที่อายุมากหน่อยต่างพากันอิจฉาตระกูลจ้าวที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับเฮ่อเหลียนชิงได้ หวนกลับมาตั้งตัวเป็นใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่งซึ่งอาจจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ


ส่วนหญิงสาวอายุน้อยต่างก็อิจฉาเหมยเหมยที่สามารถมีผู้ชายที่ดีเลิศอย่างเหยียนหมิงซุ่นคอยปกป้องดูแล จึงแอบภาวนาให้ทั้งคู่เลิกรากันโดยเร็ว เพื่อที่พวกเธอจะได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ได้!


เดิมทีเหยียนซินหย่ายังกระวนกระวายอยู่บ้าง แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับปลอบโยนเธอด้วยความจริงใจ ความปรารถนาสูงสุดของผู้หญิงคืออะไร?


ไม่ใช่มีคู่ครองที่รักเดียวใจเดียวหรอกหรือ?


เหยียนหมิงซุ่นดีกับลูกสาวเธอเองก็เห็นกับตา เมื่อก่อนที่ยังไม่รู้ว่ามีลูกสาว เหยียนหมิงซุ่นก็คอยปกป้องเหมยเหมยมาตลอด ตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นเธอยังต้องมีอะไรให้กังวลอีก?


ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ได้โง่ สถานะตัวตนของเหยียนหมิงซุ่นนั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว หากต้องการผู้หญิงแบบไหนมีหรือจะหาไม่ได้ กลัวว่าจะมีคนไม่น้อยที่จะส่งลูกสาวของพวกเขาประเคนให้ตรงหน้าเหยียนหมิงซุ่นด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ?


แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับแสดงความรักต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังพูดตัดไมตรีขนาดนั้น เธอจะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไรเล่า?


สบายใจมากขึ้นต่างหาก!


เหมยเหมยของเธอมีคู่หมั้นที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ปกป้อง ดูสิว่ายังจะมีพวกตาบอดที่ไหนกล้ารังแกลูกสาวเธออีก!


เหยียนซินหย่าคิดไม่ผิด ทันทีที่เฮ่อเหลียนชิงประกาศถึงสถานะตัวตนของเหยียนหมิงซุ่น แขกหลายคนก็เริ่มคำนวณเล็กน้อย คิดจะแต่งงานเกี่ยวดองเป็นญาติกับเฮ่อเหลียนชิง แบบนี้ก็จะยิ่งได้คนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกชั้น


แต่ลูกคิดเพิ่งจะดึงออกมาเหยียนหมิงซุ่นก็ป่าวประกาศออกมาแบบนี้แล้ว เอาเสียคนเหล่านั้นเหน็บหนาวยิ่งกว่าตอนที่หนาวที่สุดของปีเสียอีก!


ทุกคนหนาวไปตั้งแต่หัวจรดเท้าจนทะลุไปถึงหัวใจ!


แน่นอนว่ามีคนบางประเภทที่ไม่ยอมแพ้ คิดต่อไปอีกว่าต่อให้จะแต่งงานแล้วก็ตามก็ต้องคิดหาทางแยกทำให้แตกหักได้ ไหนเลยจะยอมแพ้ง่าย ๆ!


เฮ่อเหลียนเช่อหรี่ตามอง เหยียนหมิงซุ่นรูปร่างสูงใหญ่มีเสน่ห์ จ้าวเหมยเป็นสาวน้อยน่ารัก เพียงแต่เขายิ่งมองก็ยิ่งโมโห เพราะเมื่อครู่ตอนที่เขามองไปที่เหยียนหมิงซุ่น อยู่ดี ๆก็ค้นพบว่าเจ้าหมอนี่คือคนคุ้นเคย


คนที่ทำเรื่องดี ๆที่สโมสรอันดับหนึ่งของเขาพังเมื่อสามปีก่อน


คนลึกลับที่ปรากฏตัวอย่างลึกลับในบ้านพักของเขาเมื่อสองปีก่อน เขาถูกทุบตีจนนอนติดเตียงตั้งสามวัน


เป็นฝีมือเจ้าหมอนี่ทั้งนั้น!


ตอนที่ 1222  ไม่ยอมรับความสัมพันธ์


เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันกรอดอย่างเกลียดชัง นี่เขาพยายามตามหาตัวแทบตายก็ไม่เจอ พอเลิกหากลับเจอง่าย ๆเสียอย่างนั้น!


เขาตามหาเจ้าหมอนี่มาสองปี ที่แท้ก็เป็นไอ้เวรนี้นี่เอง!


ความแค้นทั้งเก่าใหม่ เขาต้องฆ่าไอ้หมอนี่ด้วยน้ำมือของตัวเองให้ได้เลย!


เหยียนหมิงซุ่นรับรู้ได้ถึงสายตาอันอาฆาตของเฮ่อเหลียนเช่อก็หันไปยิ้มให้เขาเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาฉายความเหยียดหยามออกมา เฮ่อเหลียนเช่อบีบแก้วแน่นและบีบแรงขึ้นเรื่อย ๆ


“เพล้ง”


แก้วแตกกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย มือของเฮ่อเหลียนเช่อชุ่มไปด้วยเลือด แขกทุกคนต่างตกใจ  รีบก้มหน้าก้มตาลงกินข้าว


เสี่ยวเมิ่งเพียงส่งสัญญาณมือ คนที่รักษาบาดแผลของเฮ่อเหลียนเช่อก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว จัดการกับอาการบาดเจ็บที่มือของเขาอย่างใจเย็น


เฮ่อเหลียนชิงแค่นเสียงพูดเหน็บแนมว่า “ยิ่งโตยิ่งโง่ ตัวเองไม่มีความสามารถกลับระบายความโกรธกับแก้ว จุ๊ ๆ โง่จนคนอื่นเทียบไม่ติดเลยจริง ๆ!”


เฮ่อเหลียนเช่อมองไปที่เฮ่อเหลียนชิงอย่างดุดัน “ก็แค่หาของธรรมดามาเป็นลูกชาย คุณต้องอธิษฐานว่าลูกชายคนนี้จะมีชีวิตยืนยาวขึ้นหน่อยนะ อย่าตายก่อนคุณไปเสียล่ะ ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาแล้วจะไม่มีใครส่งคุณขึ้นภูเขาในวันตาย!”


เฮ่อเหลียนชิงมองชายหนุ่มที่เมื่อก่อนเคยเรียกเขาว่าพ่อ ความอ่อนโยนพาดผ่านดวงตาแวบหนึ่ง เฮ่อเหลียนเช่อมีริมฝีปากสีแดงและฟันขาวเหมือนตอนเด็ก ผิวขาวนวลเนียน ใครเห็นก็อยากจะหยิกสักที ตอนนั้นเขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อเด็กคนนี้


แต่ผลสุดท้าย……


ใจของเฮ่อเหลียนชิงที่กำลังนึกถึงความอ่อนโยนก็รีบดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว ดึงเปลือกแข็งที่เขาสร้างเพื่อป้องกันตัวเองกลับขึ้นมาอีกครั้ง


“วางใจเถอะ ลูกชายของฉันจะต้องมีชีวิตอยู่อีกยาวนานแน่นอน แต่นายต่างหากที่ควรระวัง อย่าตายก่อนพ่อก็แล้วกัน ไม่งั้นจะทิ้งศพพ่อแกกองไว้บนถนน แม้กระทั่งเสื่อห่อศพก็ยังไม่มี!”


การปะทะฝีปากของเฮ่อเหลียนเช่อและหนิงเฉินเซวียนรวมหัวกันก็ยังสู้เฮ่อเหลียนชิงไม่ได้เลย พูดเพียงไม่กี่คำอารมณ์โมโหที่รุนแรงของเฮ่อเหลียนเช่อก็ถูกจุดขึ้น


หนิงเฉินเซวียนกดเฮ่อเหลียนเช่อเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เรื่องหลังความตายของฉันไม่ต้องให้นายลำบากมายุ่งหรอก ถ้าหากยังอยากให้งานเลี้ยงวันนี้ดำเนินไปจนจบ ช่วยหุบปากแล้วเป็นเด็กดีหน่อย”


เฮ่อเหลียนชิงกลอกตามองบน แต่ก็ไม่ได้แหย่เฮ่อเหลียนเช่ออีกต่อไป เหยียนซินหย่าถอนหายใจอย่างโล่งอก จิบซุปต่อไปอย่างใจสั่น


เหมยเหมยรับไมโครโฟนมาจากมือของเหยียนหมิงซุ่น นี่เป็นครั้งแรกที่พูดต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ในใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ถ้าหากไม่ได้เหยียนหมิงซุ่นจับมือเอาไว้ ตอนนี้เธอคงจะไม่สามารถสงบสติลงได้ขนาดนี้แน่นอน


“ที่ฉันอยากพูดก็คือ ฉันชื่อจ้าวเหมย พ่อคือจ้าวอิงหัว แม่คือเหยียนซินหย่า พี่ชายคือจ้าวเสวียหลิน พวกเขาคือครอบครัวของฉัน… อืม ความสัมพันธ์ของครอบครัวพวกเราดีมาก กับพี่หมิงซุ่นก็ดีมากเช่นกัน… ฉันอยากพูดแค่นี้แหละค่ะ”


อันที่จริงเหมยเหมยไม่อยากจะพูดอะไร แต่เธอรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นประกาศไปแบบนี้คงทำให้หลายคนคิดว่าตระกูลจ้าวและเฮ่อเหลียนชิงดองญาติกัน และนี่คือสิ่งที่คุณปู่และพวกจ้าวอิงหย่งต้องการ


แต่เธอไม่ได้คิดแบบนี้


เธอไม่ยินดีให้ตระกูลจ้าวได้ประโยชน์จากบารมีของเหยียนหมิงซุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขามีสิทธ์อะไร?


แต่เมื่อครู่เหมยเหมยเห็นว่ามีหลายคนไปที่โต๊ะของตระกูลจ้าวเพื่อดื่มอวยพร และความชอบใจที่ปิดไว้ไม่อยู่ของจ้าวอิงหย่ง ในใจของเธอตื่นตระหนกจึงอยากพูดอะไรสักหน่อย แม้ว่ามันจะทำให้คุณปู่โกรธก็ตามแต่เธอไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว!


เหยียนหมิงซุ่นลูบมือเธอเบา ๆแล้วจูงมือเธอกลับไปยังที่นั่ง เขาหยิบเหล้ามาหนึ่งขวดและแก้วหนึ่งใบ เพื่อดื่มอวยพรให้ทุกโต๊ะ


คำพูดของเหมยเหมยยังคลุมเครือจึงมีหลายคนฟังไม่เข้าใจความหมาย  มีจำนวนน้อยคนนักที่จะมีสมองปราดเปรื่อง พลันฟังเข้าใจในคำพูด


นี่หลานสาวตระกูลจ้าวกำลังขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับตระกูลจ้าวอย่างชัดเจน!


คุณปู่ก็ฟังออกถึงความหมายของหลานสาว และอันหย่าฟางก็เช่นกัน อาการดีอกดีใจก่อนหน้านั้นหยุดนิ่งลงในทันที มีเพียงจ้าวอิงหย่งเท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจมัวแต่นับถอยหลังสู่การคืนสถานะให้กับตนเองอย่างเป็นทางการ


เหยียนหมิงซุ่นมาดื่มอวยพรถึงโต๊ะตระกูลจ้าว ทุกคนต่างหันมองมาอยากจะดูว่าหลานเขยของตระกูลจ้าวจะเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลจ้าวเช่นไร


……………………………………………………………


ตอนที่ 1223 ขิงก็รา ข่าก็แรง


เหยียนหมิงซุ่นเคารพคุณปู่ก่อน สีหน้าท่าทางดูเคารพนบน้อมมากหาที่ติไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ในสายตาของคนนอก กลับดูเคารพนบน้อมมากเกินไปหน่อย ดูห่างเหินอย่างไรไม่รู้


“คุณจ้าว ขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานนะครับ ผมขอดื่มให้คุณก่อนเลย” เหยียนหมิงซุ่นใช้คำพูดอันเหมาะสมอย่างเมื่อครู่ชนแก้วดื่มและใช้ริมฝีปากจิบเพียงเบา ๆเท่านั้น


ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ


คุณปู่พยายามอดทนต่อความอึดอัดภายในใจ ทำได้แค่ยกเหล้าขึ้นมาจิบ ทั้ง ๆที่เหล้าเหมาไถหอมและนุ่มลิ้นมากแต่เขากลับลิ้มรสได้แค่ความขมขื่นเท่านั้น


หรือว่าตระกูลจ้าวจะไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป?


จ้าวอิงหย่งกลับไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เขาตะโกนว่า “เสี่ยวเหยียนต้องดื่มรวดเดียวหมดถึงจะถูก มา ๆ ลุงสามจะดื่มกับนายเอง ชน!”


เขากลับตีสนิทเรียกตัวเองว่าลุงสามก่อน อันหย่าฟางสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยแล้วเตะเขาไปเบา ๆทีหนึ่ง แต่จ้าวอิงหย่งกำลังดีอกดีใจ ใจคิดแค่ต้องการสานความสัมพันธ์กับหลานเขยตัวโชคลาภในอนาคต ไหนเลยจะสนใจเรื่องอื่น


เหยียนหมิงซุ่นยิ้มเบา ๆ เบี่ยงหลบขวดเหล้าที่จ้าวอิงหย่งยื่นออกมา “คุณจ้าวก็พูดตลกแล้ว ผมดื่มไม่เก่ง ขอโทษด้วยครับ”


พูดจบเขาก็ชนกับจ้าวอิงหย่งด้วยท่าทีปกติและใช้ริมฝีปากแตะพอเป็นพิธี จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีกแล้วหันไปมองจ้าวอิงหนานแทน


“เมื่อก่อนอาจารย์จ้าวเคยสอนผมมาก่อน เป็นอาจารย์วันเดียวก็นับว่าเป็นอาจารย์ไปตราบชั่วชีวิต ผมขอดื่มให้อาจารย์ อาจารย์จ้าวตามสบายเลยนะครับ”


เหยียนหมิงซุ่นจริงใจกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เขารินเหล้าในแก้วของเขาจนเต็มแล้วดื่มหมดในรวดเดียว จ้าวอิงหนานตะลึงไปชั่วขณะ รีบดื่มเหล้าหมดแก้วเช่นกันพลันอบอุ่นไปทั้งหัวใจ


เธอก็แค่เคยสอนดนตรีเหยียนหมิงซุ่นเพียงแค่คาบหนึ่งต่อสัปดาห์เท่านั้น แถมยังโดนคาบวิชาหลักอื่นเอาชั่วโมงไปอีก ยังจะพูดถึงเรื่องศิษย์อาจารย์อะไรได้เล่าแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับเคารพเธอต่อหน้าคนมีชื่อเสียงมากมายในเมืองหลวงขนาดนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเธอดีต่อเหมยเหมยมากหรอกหรือ


ท่าทางเย็นชาที่ชนแก้วกับพี่สามของเธอเมื่อครู่ เธอเห็นอย่างชัดเจน ในใจรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่อยากนับญาติกับตระกูลจ้าวแน่นอน


แต่กลับเต็มใจดื่มแก้วเดียวรวดให้เธอคนเดียว จ้าวอิงหนานจะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไร?


เหยียนหมิงซุ่นไปโต๊ะอื่นแล้ว ตระกูลจ้าวถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวในทันที คนที่เข้ามารุมล้อมก่อนหน้านี้กลับไปที่นั่งของตัวเองอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว


บรรดาเหล่าคนดังมีชื่อเสียงในเมืองหลวงล้วนฉลาดกันทั้งนั้น เมื่อครู่เหยียนหมิงซุ่นแบ่งแยกอย่างชัดเจน และคำพูดที่จ้าวเหมยพูดก่อนหน้านั้นพวกเขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรเล่า!


หลานสาวตระกูลจ้าวเอาใจออกห่างจากตระกูลจ้าวแล้ว ไม่ใช่เรือลำเดียวกันแล้ว!


คุณปู่แสดงสีหน้าโมโห เขาคิดไม่ถึงว่าหลานสาวของเขาจะใจร้ายขนาดนี้ ไม่คำนึงถึงหน้าตาของตระกูลจ้าวเลยสักนิด


สังเกตเห็นสายตาแปลก ๆของคนอื่นที่ทิ่มแทงมาคุณปู่ก็เหมือนมีก้างติดคอ ยากที่จะกลืนอาหารลงคอได้ คิดแค่เพียงอยากกลับบ้านเร็ว ๆ


ต่อให้จ้าวอิงหย่งจะโง่เขลามากแค่ไหนแต่เวลานี้ก็มองออกถึงความผิดปกติ พวกที่ประจบอยู่ข้างกายเขาเมื่อครู่ ตอนนี้หายไปหมดไม่เหลือสักคนและกลับไปมีท่าทางเมินเฉยเหมือนหลายวันก่อน


“พ่อ เหมยเหมยเธอหมายความว่ายังไง?” จ้าวอิงหย่งใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห


“กลับไปค่อยว่ากัน”


คุณปู่ส่ายหัวเบา ๆ ปรามคำด่าทอของจ้าวอิงหย่งไว้ วันนี้ตระกูลจ้าวเสียหน้ามากพอแล้ว หากให้ลูกสามก่อเรื่องขึ้นมาอีกจะพลอยทำให้คนอื่นหัวเราะเอาเสียเปล่า ๆ


ในที่สุดเหยียนหมิงซุ่นก็มาถึงโต๊ะของเฮ่อเหลียนชิง ดื่มเคารพให้กับแม่ยายก่อนเต็มแก้ว แล้วก็เฮ่อเหลียนชิงอีกครั้ง ในที่สุดก็ถึงคราวของพ่อลูกหนิงเฉินเซวียน เฮ่อเหลียนเช่อลุกขึ้นยืนซึ่งส่วนสูงเทียบเคียงกับเหยียนหมิงซุ่น พลังคุกคามสูสีกัน


“คุณชายหมิงคนดี ๆคนหนึ่งเอาแต่ลอบกัดลับหลัง เลวทรามต่ำช้า!”


“ผมต้องขอบคุณคุณชายเช่อสักหน่อย หลายปีมานี้เป็นพระคุณมากที่คุณชายเช่อคอยดูแลชีวิตลูกน้องผมถือว่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายทีเดียว”


เหยียนหมิงซุ่นเผชิญหน้ากันตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทุกคำพูดเหมือนกับใบมีด ถากถางว่าสามปีมานี้เฮ่อเหลียนเช่อให้ผลประโยชน์แก่เขามากมาย ทั้งยังพ่ายแพ้เสียที่ดินและธุรกิจให้เขาไม่น้อย


ตอนที่ 1224 เฮ่อเหลียนชิงออกหน้าแทนเธอ


เหยียนหมิงซุ่นกับเฮ่อเหลียนเช่อโต้ตอบกันไปมาต่างไม่มีใครยอมใคร ไฟโทสะแผ่ไปทั่วทั้งงาน เหล่าแขกในงานไม่กล้าแม้กระทั่งจะเงยหน้ามองจึงทำแค่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป


รุนแรงไม่เบา ลูกชายทั้งสองคนของเฮ่อเหลียนชิงนี้ต่างก็ไม่ธรรมดากันเลย!


เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่บาดแผลบริเวณคอของเฮ่อเหลียนเช่อ พูดเหน็บแนมว่า “ขนาดกระรอกตัวน้อยของฉันแกยังรับมือกับมันไม่ได้ เฮ่อเหลียนเช่อฝีมือของแกช่าง…..” เขาหยุดพูดพลางส่ายหัวอย่างดูถูก “เฮ่อเหลียนเช่อนายคงไม่ได้โดนดูดมาจนหมดแรงหรอกใช่ไหม? กลับไปเอาไตหมูมาบำรุงหน่อยนะ”


“พรวด”


เหมยเหมยพ่นน้ำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ รีบเอามือปิดปากไหล่สั่นไม่หยุด


“ร่างกายฉันแข็งแรงจะตาย แกต่างหากละที่ควรทำ ดูท่าทางคู่หมั้นของนาย ร่างกายคงใช้การให้พึงพอใจไม่ได้เท่าไร เหยียนหมิงซุ่นถ้าแกทนไม่ไหวฉันสามารถแบ่งเบาแกได้นะ!”


เฮ่อเหลียนเช่อมองเหมยเหมยอย่างดุดันราวกับงูพิษ คำพูดที่พ่นออกมาเหมือนกับพิษร้าย เหยียนซินหย่าหน้าเปลี่ยนสี เตรียมยืนจะปะทะฝีปากแต่โดนเหมยเหมยรั้งไว้ก่อน


แน่นอนว่าเหมยเหมยก็โมโห ไอ้โรคจิตวิปริตสมควรตายนี่พูดว่าตัวเธอเป็นผู้หญิงสำส่อนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เธอจะไม่โมโหเลยได้ไงเล่า?


ไม่ต้องรอให้เหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นด่า เฮ่อเหลียนชิงที่นั่งดูฉากสนุก ๆอยู่ก็หยิบถ้วยซุปขึ้นมาแล้วสาดไปที่เฮ่อเหลียนเช่อ


เพราะว่ากะทันหันเกินไป อีกทั้งเฮ่อเหลียนเช่อคิดว่าเฮ่อเหลียนชิงเป็นคนไร้ประโยชน์ที่มีแรงแค่น้อยนิดจึงไม่เห็นอยู่ในสายตา ใครจะคิดว่าจู่ ๆจะถูกดักซุ่มสาดซุปใส่เข้าเต็มหน้าจนมันเยิ้มขนาดนี้ล่ะ


โชคดีที่อาหารนำมาขึ้นโต๊ะนานแล้ว น้ำแกงเลยแค่อุ่น ๆ นอกจากความมันแล้วก็ไม่โดนน้ำแกงลวก


แต่กลับเสียหน้ายับเยินอย่างแรง!


“เมื่อเช้ากินขี้มาหรือไง? ดีแต่พ่นคำพูดซี้ซั้วออกมาอยู่ได้ หนิงเฉินเซวียนแกอย่าเอาแต่สนใจว่าคลอดออกมาแต่ไม่ดูแลให้ดีสิ กลับไปสั่งสอนให้ดีเถอะ พูดจาดี ๆไม่เป็นก็ถือว่าช่างมันเถอะเพราะมากสุดก็แค่เป็นใบ้ แต่ทางน้ำมีไม่ไปดันรั้นจะใช้ถนนแห้ง ๆเอาซะได้ คนสืบทอดวงศ์ตระกูลหนิงของนายก็จะสิ้นสุดลงแค่นี้แหละ!”


เฮ่อเหลียนชิงด่าออกมาชุดหนึ่งโดยเลือกเอาจุดอ่อนมาด่า หนิงเฉินเซวียนและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็หน้าดำคล้ำด้วยความโกรธ เคร่งขรึมจนน่ากลัว


“โอ้ย…ฉันนี่มันช่างโง่เขลาจริง ๆ ตระกูลหนิงของพวกแกทางที่ดีไร้ทายาทสืบทอดถึงจะดีที่สุด เฮ่อเหลียนเช่อสนใจจะเดินบนถนนแห้ง ๆ บุรุษบำเรอคนเดียวไม่เพียงพอ วันหลังฉันจะส่งเด็กสาวสวย ๆให้นายสักสองสามคน รับรองว่าเต็มอิ่มถึงอกถึงใจนายแน่นอน!”


เฮ่อเหลียนชิงยิ้มได้อย่างลำพองใจมาก เขาตั้งใจแสดงท่าทีขัดคอหนิงเฉินเซวียน


ไม่มีใครจะเข้าใจเจ้าสารเลวหนิงเฉินเซวียนคนนี้ดีเท่าเขาอีกแล้ว อย่ามองว่าไอ้หมอนี่เคยไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้วจะหัวสมัยใหม่นะ แต่ในกระดูกลึก ๆกลับเป็นคนให้ความสำคัญกับการสืบทอดวงศ์ตระกูลมาก ไม่อย่างปีนั้นเขาคงจะไม่เสี่ยงอันตรายกับความพินาศที่สุดในโลกแบบนั้นหรอก ร่วมประเวณีกับน้องสาวคนละแม่จนให้กำเนิดมารหัวขนอย่างเฮ่อเหลียนเช่อออกมา


เพียงเพราะว่าหนิงเฉินเซวียนไม่สามารถตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่นได้อีกต่อไป และจนปัญญาที่จะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นเขายอมที่จะแบกโลกทั้งใบเอาไว้


“เฮ่อเหลียนชิงของที่ไร้ประโยชน์อย่างนายมีคุณสมบัติอะไรมาสนใจเรื่องทายาทวงศ์ตระกูลของฉัน? ตระกูลหนิงของฉันขอเพียงแค่คิดอยากจะมีเท่าไรก็ย่อมได้ แต่เฮ่อเหลียนชิงอย่างแกไม่มีปัญญาจะมีได้หรอก”


ตามที่คาดไว้เขาเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่ต่อสู้กับเฮ่อเหลียนชิงมานานหลายทศวรรษ โผล่มาเรื่องจุดอ่อนแบบนี้ ความเกลียดชังก็ฉายในแววตาของเฮ่อเหลียนชิง เขากำหมัดแน่น


เหยียนหมิงซุ่นรีบก้าวไปข้างหน้าและตอบกลับไปว่า “พ่อบุญธรรมมีแค่ฉันก็พอแล้ว อีกอย่างคลอดออกมาแต่ไม่เลี้ยงดูสู้ไม่มีเลยจะดีกว่า ตัวอย่างเช่นพวกรักร่วมเพศพวกนั้น ลูกชายแบบนี้คลอดออกมาแล้วมีประโยชน์อะไร?”


เฮ่อเหลียนชิงยิ้มอย่างสบายใจ คำพูดที่พูดออกมายิ่งทิ่มแทง “ใช่ไหมล่ะ เดินถนนแห้ง ๆแบบนั้น ต่อให้จะสาดน้ำพรมมันทุกวันแต่ก็คงไม่ออกดอกออกผลหรอก!”


พ่อแท้ ๆ VS พ่อบุญธรรม


พ่อบุญธรรมชนะ!


หลังงานเลี้ยงพ่อลูกหนิงเฉินเซวียนก็จากไปด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม รังสีไอเย็นแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายทำให้หนาวสั่นจนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าอยู่ใกล้เขาในระยะร้อยเมตร


…………………………………………………….


 ตอนที่ 1225 ปากแข็งไม่ยอมแพ้


เหมยเหมยกลับรู้สึกคันยุบยิบในใจ เมื่อครู่ตอนที่เฮ่อเหลียนเช่อจะจากไป สายตาของเขาที่หันมองเธอดูชั่วร้าย เธอกล้ารับรองเลยว่าไอ้โรคจิตวิปริตสมควรตายนี่คิดเล่ห์เพทุบายอะไรอีกแล้วแน่นอน


เหยียนหมิงซุ่นก็เห็นเหมือนกัน เขาก็คิดเหมือนกันว่าเฮ่อเหลียนเช่อคิดอยากจะจัดการเหมยเหมย เขาจึงแอบวางแผนอยู่ในใจว่าจะจัดการเพิ่มกำลังลูกน้องปกป้องไว้ข้างกายเหมยเหมย


งานเลี้ยงจบลงผู้คนต่างแยกย้าย ห้องโถงด้านหน้าว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว เหยียนซินหย่ากลับไปที่บ้านตระกูลจ้าวพร้อมกับพวกคุณปู่ เหมยเหมยยังคงอยู่ที่สวน เธอยังมีธุระต่อ


“ขอบคุณที่เมื่อครู่คุณช่วยหนูสั่งสอนเฮ่อเหลียนเช่อนะคะ!” เหมยเหมยรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง แต่กลับพูดออกมาตรง ๆอย่างจริงใจ


เมื่อครู่เธอคาดไม่ถึงจริง ๆว่าเฮ่อเหลียนชิงที่ยามปกติไม่แม้แต่จะพูดดีกับเธอสักคำและไม่เคยทำหน้าดี ๆใส่เธอเลยสักนิด กลับช่วยเธอสั่งสอนเฮ่อเหลียนเช่อนับว่าช่วยระบายความโมโหได้ดีจริง ๆ


เธอไม่ใช่คนไม่สำนึกบุญคุณ ในเมื่อเฮ่อเหลียนชิงยื่นมือมาช่วยเธอแน่นอนว่าต้องขอบคุณอยู่แล้ว


เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง หากมองสังเกตใกล้ ๆก็จะเห็นสีแดงระเรื่อตรงปลายหูของเขา เขาแค่นเสียงไอหนัก ๆสองสามครั้ง เฮ่อเหลียนชิงเชิดคางขึ้นทำท่าเหมือนรำคาญ


“เธออย่าคิดไปเองฝ่ายเดียว ฉันช่วยหมูช่วยหมาได้แต่ไม่มีทางช่วยเธอหรอก ก็แค่ไม่ชอบหน้าไอ้สารเลวนั้นเห็นแล้วขัดตาก็เท่านั้นเอง”


เสียงแหลมสูงบาดหู คำพูดไม่น่าฟังขึ้นไปอีก เหมยเหมยโดนเขายั่วโมโหจนใบหน้าแดงก่ำไปหมด น้ำตาคลอเบ้า ——โมโหมาก


แต่เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเฮ่อเหลียนชิงได้ ไม่อย่างนั้นตาแก่โรคจิตนี่ก็จะเยาะเย้ยเธอได้อีก เหมยเหมยสูดจมูก จงใจพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณแค่รู้สึกอายจึงจงใจใช้คำพูดนั่นมายั่วโมโหฉัน ฉันเป็นผู้ใหญ่พอจะไม่ถือสาคุณแล้วกัน”


“ฉันอาย? สมองของเธอโดนประตูหนีบมาหรือ? หึ  วันข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คิดไปเองฝ่ายเดียว วันหลังต่อให้ฉันจะเห็นว่าเธอจะถูกไอ้สารเลวนั่นเข่นฆ่า ฉันก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอแน่นอน!”


เฮ่อเหลียนชิงพูดอย่างแข็งกร้าว แต่คนในสวนกลับไม่มีใครเชื่อเลยสักคน


ก่อนที่นายท่านพวกเขาจะจัดงานเลี้ยง ไม่เห็นทำเหมือนที่ให้คำมั่นสัญญาสัญญาไว้สักนิด พูดนักพูดหนาว่าคุณหนูจ้าวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเขาก็ไม่สน แต่เฮ่อเหลียนเช่อเพิ่งจะพ่นคำหยาบคายใส่ นายท่านก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย


เฮ้อ ไอ้โรคปากแข็งไม่ยอมแพ้ของนายท่าน เมื่อไรจะแก้ไขได้สักทีเนี่ย!


เหมยเหมยไม่โมโหแต่กลับหัวเราะ “คุณคิดอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยแล้วยื่นไหวด้วยเหรอ?” เธอพูดเสียงต่ำ “เรี่ยวแรงยังสู้ฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”


เฮ่อเหลียนชิงหน้าเปลี่ยนสีทันที เขาเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอ เป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงที่แท้จริง บวกกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง โชคไม่ดีเท่าเด็กสมควรตายคนนั้นจริง ๆ


ตีคนได้แต่อย่าหักหน้า ด่าคนได้แต่ห้ามเผยจุดอ่อน ยัยเด็กสมควรตายคนนี้อยากเป็นปฏิปักษ์นักหรือไง?


เหยียนหมิงซุ่นที่กำลังสั่งให้ลูกน้องทำความสะอาดสนามหญ้าหน้าบ้านก็ได้ข่าวว่าพ่อบุญธรรมของเขากำลังทะเลาะอยู่กับแฟนตัวน้อยของเขา จึงรีบเข้ามาคว้าเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาที่กำลังเหยียบเท้าปึงปังด้วยความโกรธเอาไว้


“เอาเถอะ ๆ……พวกเราไปเล่นทางด้านนั้นกันเถอะ อย่าไปถือสาเลยเนอะ!”


เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบด้วยท่าทีที่อ่อนโยนและน้ำเสียงนิ่มนวล ถึงแม้ว่าเขาอยากจะหัวเราะก๊าก ไม่รู้ว่าพ่อบุญธรรมของเขาพูดอะไรบ้างถึงทำเอาภรรยาของเขาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้


“เขาด่าฉัน……ยังพูดอีกว่าสมองเหมือนหมู……ยังว่าฉัน……”


เหมยเหมยน้อยใจเป็นอย่างมาก ฟ้องด้วยน้ำตาที่ไหลพราก ๆ ภูเขาที่พักพิงของเขามาเสียที


“เธอยังว่าฉันสู้พวกผู้หญิงไม่ได้เลย!”


เฮ่อเหลียนชิงตะโกนเสียงแหลม ไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเลยแม้แต่นิดเดียว


“ก็คุณว่าหนูก่อน……คุณมันคนแก่แต่ไม่น่าเคารพ!”


“เธอก็ไม่เคารพผู้อาวุโส……ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่!”


……


เหยียนหมิงซุ่นรีบกอดภรรยาที่กำลังจะระเบิดเอาไว้แล้วหันไปจ้องเตือนเฮ่อเหลียนชิงที่กำลังชอบใจอยู่ แล้วพูดไม่มีเสียงว่า ‘ฉิวฉิว’ เฮ่อเหลียนชิงก็หุบปากลงในทันที กอดฉิวฉิวเอาไว้แน่นรีบให้เสี่ยวเมิ่งเข็นเขากลับห้อง


แต่ห้ามไม่ให้ยัยเด็กสมควรตายนี่นึกถึงฉิวฉิวขึ้นมาได้ เขายังเล่นด้วยไม่หนำใจเลย!


………………………………………………………..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)