เทพปีศาจหวนคืน 1152-1153

 เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1152 ภูเขาแสงห้าสี


แปลโดย iPAT 


“ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ…”


ภายในแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยูมีเป็ดตัวหนึ่งร้องเรียกฟางหยวน


นี่คือจิตวิญญาณแผ่นดินที่หลิวชิงหยูทิ้งไว้เบื้องหลัง


การปรากฏตัวของมันแตกต่างและแปลกประหลาดมาก


ฟางหยวนตั้งใจฟัง แม้เขาจะไม่เข้าใจภาษาเป็ด แต่เขายังสามารถคาดเดา


ในความเป็นจริงจิตวิญญาณสวรรค์ของไห่ฟานก็เป็นระฆังทองเหลืองที่ไม่สามารถสื่อสาร


“เงื่อนไขของการรับสืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยูคือ…” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความประหลาดใจ


แม้หลิวชิงหยูจะถูกสังหารโดยฟางหยวนแต่เจตจำนงที่เขาทิ้งไว้ไม่เกี่ยวกับฟางหยวน เขาไม่ได้พยายามตามหาอิงอู๋เซี่ยเช่นกัน


แต่มันเกี่ยวกับเบาะแสของมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูล


“เบาะแสของมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลถูกสลักไว้ในวิญญาณอมตะดาบบิน” ฟางหยวนนำวิญญาณอมตะดาบบินออกมาแสดงให้จิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดดูและอธิบาย


ครู่ต่อมาจิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดจึงใช้จงอยปากจิกรองเท้าของฟางหยวนอย่างมีความสุข


ตอนนี้ฟางหยวนกลายเป็นเจ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยูไปแล้ว!


อย่างไรก็ตามแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ค่อนข้างรกร้าง


ไม่ใช่ว่าหลิวชิงหยูมีรากฐานที่เลวร้าย แต่หลังจากเข้าร่วมนิกายเงา ทรัพยากรทั้งหมดของเขาถูกยึดครองไปโดยอิงอู๋เซี่ย


อิงอู๋เซี่ยไม่ได้ยึดวิญญาณอมตะของหลิวชิงหยูเพราะเขาต้องการเก็บพลังการต่อสู้ของหลิวชิงหยูเอาไว้ใช้เหมือนแรงงานทาส


แต่อิงอู๋เซี่ยนำทรัพยากรทั้งหมดของหลิวชิงหยูไปเพื่อให้เขาไม่มีอนาคต หากหลิวชิงหยูต้องการบ่มเพาะต่อไป เขาต้องพึ่งพานิกายเงาเท่านั้น


ฟางหยวนคิดก่อนจะเข้าใจเรื่องนี้


สำหรับวิญญาณอมตะของหลิวชิงหยู พวกมันถูกทำลายไปแล้ว


“มีสิ่งใดเหลืออยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้บ้าง?” ฟางหยวนกวาดตามองไปรอบๆและขมวดคิ้ว


แดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยูถูกรื้อค้นและตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน


นี่ทำให้ฟางหยวนรับรู้ถึงความรู้สึกของชูตู๋ในเวลานั้น


จิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดส่งเสียง “ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ…”


ฟางหยวนหันหน้ากลับมา “พาข้าไปที่นั่น”


จิตวิญญาณแผ่นดินนำฟางหยวนไปยังปลายทาง มันเป็นภูเขาสีรุ้งที่ไม่เตี้ยไม่สูง หินบนภูเขาส่องประกายหลากหลายสีสัน


ภูเขาลูกนี้ไม่มีต้นไม้แต่มีหญ้าหลายชนิด หญ้าเหล่านี้ส่องแสงออกมาเช่นกัน


“ภูเขาแสงห้าสี หญ้าสิบสี” ฟางหยวนพึมพำ


นี่เป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งแสง


สภาพแวดล้อมพิเศษของภูเขาลูกนี้สามารถสร้างวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งแสงจำนวนมาก


เห็นได้ชัดว่าภูเขาแสงห้าสีได้รับการดูแลอย่างดีโดยหลิวชิงหยู


“อิงอู๋เซี่ยไม่มีวิญญาณอมตะยกภูเขา เขาไม่มีวิธีเคลื่อนย้ายภูเขาลูกนี้และทำได้เพียงทิ้งมันไว้ที่นี่เท่านั้น” ฟางฟยวนคาดเดา


วิธีการเคลื่อนย้ายภูเขาหายากมากในโลกใบนี้


ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนสามารถเคลื่อนย้ายหุบเขาเหล่าโป กระทั่งผู้อมตะระดับแปดองค์ชายฟงเซี่ยนยังรู้สึกตกใจ


แม้อิงอู๋เซี่ยจะได้รับความมั่งคั่งบางส่วนจากนิกายเงาแต่เขายังขาดวิธีเคลื่อนย้ายภูเขา


เมื่อเห็นภูเขาแสงห้าสีและไม่สามารถเคลื่อนย้าย อิงอู๋เซี่ยรู้สึกรำคาญใจมาก


โดยปราศจากความลังเล ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะยกภูเขาย้ายภูเขาแสงห้าสีไปยังมิติช่องว่างของเขาทันที


เขาวางภูเขาลูกนี้ไว้ในภาคใต้น้อย


ตอนนี้ภูเขามรดกอมตะจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟานกลายเป็นภูเขาที่มีความสูงเป็นอันดับสองรองจากภูเขาแสงห้าสี


“ในที่สุดข้าก็ได้รับประโยชน์บางอย่าง” ฟางหยวนถอนหายใจ


หากไม่ได้รับภูเขาแสงห้าสี มันจะกลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่


แม้ฟางหยวนจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ แต่จากมุมมองของเขา ชัยชนะที่ปราศจากผลประโยชน์ไม่มีคุณค่าใด


ฟางหยวนสรุปว่าการต่อสู้กับหลิวชิงหยูครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายขาดทุน


เขาใช้พลังงานอมตะจำนวนมากเพื่อกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด นี่เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป


หลิวชิงหยูบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งแสงและเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่ฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงอยู่น้อยมาก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถดูดกลืนแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยู


อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังได้รับข้อมูลมากมายจากจิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดรวมถึงเบาะแสเกี่ยวกับมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูล


หลังจากนั้นฟางหยวนได้มอบวิญญาณระดับมนุษย์ให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดและสั่งว่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ห้ามเปิดประตูทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ หากศัตรูบุกโจมตีต้องรีบแจ้งเขาผ่านสวรรค์สีเหลืองทันที


พลังงานอมตะระดับเจ็ดของหลิวชิงหยูถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ฟางหยวนไม่ได้เก็บพวกมันไว้แต่มอบให้จิตวิญญาณแผ่นดินเป็ด


“ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ…” จิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดหลั่งน้ำตาและกระพือปีกเมื่อฟางหยวนจากมา


ทางเข้าออกของแดนศักดิ์สิทธิ์ปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว


‘แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดถูกซ่อนไว้ มันไม่ควรถูกค้นพบ’


‘อย่างไรก็ตามหากเจตจำนงสวรรค์ต้องการทำลายผลประโยชน์ของข้า ยังมีหลายวิธีในการกำจัดแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้’


‘มันจะดีที่สุดหากข้าสามารถรักษาแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดเอาไว้ แต่หากไม่ มันก็ไม่ถือเป็นการสูญเสีย หลังจากทั้งหมดมันมีค่าน้อยเกินไป’


ฟางหยวนไม่มีเวลายกระดับการบ่มเพาะและความสำเร็จบนเส้นทางแห่งแสง เขายังห่างไกลจากระดับเจ็ดอีกมาก


สำหรับการไล่ล่าอิงอู๋เซี่ยต่อไป?


ฟางหยวนลังเล


ตามข้อมูลที่ได้รับจากจิตวิญญาณแผ่นดินเป็ด เขาเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ


กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยมีผู้อมตะสี่คนรวมตัวเขาเอง ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หินชื่อซื่อหนิว เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี ไห่ลั่วหลันบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งไฟ ไท่เป่ยหยุนเฉิงสูญเสียวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่ตอนนี้เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเมฆาและบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางสายนี้


สำหรับอิงอู๋เซี่ย เขายังอยู่ในร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง เขายังใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ การบ่มเพาะของเขาต่ำที่สุด แต่พลังการต่อสู้ของเขากลับสูงสุดหรืออาจอยู่ในอันดับสอง


หากฟางหยวนมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด เขาจะออกไล่ล่าทันที


แต่ตอนนี้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลายเป็นไข่ไปแล้ว


ฟางหยวนอาจมีวิญญาณอมตะมากมาย แต่เมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้น มันยังเป็นเรื่องยากที่จะทำนายได้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ


‘ความแข็งแกร่งของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นตามความคาดหมายของข้าจริงๆ’


การเติบโตของฟางหยวนทำให้อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆตกใจ แต่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้นของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆก็ทำให้ฟางหยวนตกใจเช่นกัน


เพียงไม่นานหลังจากประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ ความแข็งแกร่งของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆกลับฟื้นคืนมาอย่างรวดเร็ว


นิกายเงาร่วงลงสู่จุดต่ำสุดแต่ก็ยังไม่สามารถมองข้าม


อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆยังเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่สำหรับฟางหยวน


ร่างทารกอมตะทำให้ความขัดแย้งระหว่างนิกายเงากับฟางหยวนไม่สามารถแก้ไข


อิงอู๋เซี่ยยังไม่สนใจฟางหยวนในเวลานี้เพราะเขาต้องการช่วยเหลือร่างหลักเป็นอันดับแรก นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด


ฟางหยวนไม่ได้จัดการอิงอู๋เซี่ยก่อนหน้านี้เพราะเขามีพละกำลังไม่เพียงพอ เขายังต้องรับมือกับภัยพิบัติและพัฒนามิติช่องว่างจักรพรรดิ


แต่ตอนนี้เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานและมีความแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว ดังนั้นเขาจึงออกไล่ล่าอิงอู๋เซี่ย


หากอิงอู๋เซี่ยสามารถช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ ฟางหยวนรู้ว่าโอกาสของเขาจะหมดไปเพราะอีกฝ่ายคือเทพปีศาจ แม้เขาจะตายไปแล้ว แต่ฟางหยวนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา


ยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องกล่าวถึงอีกประการ


นั่นคือวิญญาณสติปัญญา


วิญญาณสติปัญญาไม่ได้หายไป ปัจจุบันมันอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนได้รับร่างเดิมไปแล้ว แต่เขายังเกรงว่าร่างเดิมของเขาจะมีกับดักที่ถูกจัดตั้งไว้โดยอิงอู๋เซี่ย


ฟางหยวนไม่กล้ากระทำการผลีผลาม


เขาเคยคิดที่จะทดลองนำดวงวิญญาณของผู้อมตะคนอื่นใส่เข้าไปในร่างเดิมของเขา


แต่วิธีนี้ยังมีข้อบกพร่องมากมาย


ประการแรก เขาต้องกระทำการอย่างลับๆโดยไม่ให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาล่วงรู้


ประการที่สอง แม้เขาจะใช้ดวงวิญญาณของผู้อมตะคนอื่นเพื่อทดสอบ แต่มันยังไม่น่าเชื่อถือ ฟางหยวนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าอิงอู๋เซี่ยวางกับดักโดยเล็งเป้าหมายที่ดวงวิญญาณของเขาซึ่งอาจมีการระบุว่าเป็นปีศาจต่างโลกหรืออื่นๆที่เฉพาะเจาะจง


ปัญหาในการใช้วิญญาณสติปัญญาจำกัดการเติบโตของฟางหยวน


ดังนั้นเขาจึงต้องเดินทางมายังทะเลตะวันออก


เป้าหมายหลักของเขาก็คือจัดการอิงอู๋เซี่ย!


หากเขาทำสำเร็จ เขาจะสามารถตรวจสอบว่าอิงอู๋เซี่ยวางกับดักไว้หรือไม่ หากเขาวางกับดักเอาไว้จริงๆ มันจะแก้ไขได้อย่างไร?


อิงอู๋เซี่ยกลัวว่าฟางหยวนจะเติบโตเร็วเกินไปขณะที่ฟางหยวนก็กลัวว่าความแข็งแกร่งของอิงอู๋เซี่ยจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถช่วยร่างหลักของเขาได้ในที่สุด


ด้วยเหตุนี้การรับสืบทอมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลจึงเป็นเพียงเรื่องรอง


สิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ก็คืออิงอู๋เซี่ย!


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1153 การต่อสู้ระยะยาว


แปลโดย iPAT 


กำแพงพลังงานสีฟ้าปิดบังวิสัยทัศน์ของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆเอาไว้


มันคือกำแพงภูมิภาค!


ทะเลไหลเชี่ยวอยู่ใกล้กับกำแพงภูมิภาค ด้วยเหตุนี้เมื่อฟางหยวนเดินทางจากภาคใต้ไปยังภาคเหนือ เขาจึงเข้าใกล้ทะเลไหลเชี่ยวและพบกับหลิวชิงหยู


อิงอู๋เซี่ยใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเดินทางมาที่นี่โดยตรง


“เราจะข้ามไปอีกครั้งงั้นหรือ?” ไห่ลั่วหลันถอนหายใจ


“คนก่อนหน้านี้คือผู้ใด?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงถาม


“ศัตรู ศัตรูที่แข็งแกร่ง! อย่ามองเพียงการบ่มเพาะระดับหกของเขาเพราะแท้จริงแล้วเขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด!” อิงอู๋เซี่ยมองไท่เป่ยหยุนเฉิงและเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง


ไท่เป่ยหยุนเฉิงอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “พลังการต่อสู้ระดับแปด!”


ไห่ลั่วหลันแสร้งตกใจเช่นกัน “ไม่แปลกใจเลยที่เราต้องถอย”


ซื่อหนิวไม่กล่าวสิ่งใด


ไท่เป่ยหยุนเฉิงแสดงออกด้วยความโศกเศร้า “เห้อ…เนื่องจากเขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด หลิวชิงหยูคงจบสิ้นแล้ว น่าเสียดาย…”


“สามารถตายเพื่อนิกายเงาถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา” ซื่อหนิวกล่าว


“ไปเถอะ เขาอาจไล่ล่าพวกเรา อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่สามารถท่องเที่ยวไปในสวรรค์ทั้งเก้า หากมันมาจากสวรรค์ทั้งเก้า มันจะสามารถเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาคได้อย่างอิสระ” ไห่ลั่วหลันลอบส่งข้อความเตือนอิงอู๋เซี่ย


อิงอู๋เซี่ยมองนางและตอบ “ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าตรวจสอบมาแล้ว อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดของฟางหยวนมาจากไห่ฟาน อินทรีย์ตัวนี้ถูกเลี้ยงไว้ในภาคเหนือ หากมันเข้าสู่กำแพงภูมิภาค มันจะถูกกดดัน ตอนนี้ถือว่าพวกเราค่อนข้างปลอดภัย”


“เป็นเช่นนั้น?” ไห่ลั่วหลันตะลึง


“ตอนนี้พวกเราจะไปที่ใด? เราไม่สามารถกลับไปที่ภาคกลาง เราจะไปภาคใต้เลยหรือไม่?” ไห่ลั่วหลันถาม


อิงอู๋เซี่ยยิ้มก่อนจะปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณบางดวงออกมาจากร่างกาย


เขาหันหน้ามองไปยังทิศทางของทะเลไหลเชี่ยว


ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาทำให้เกิดเสียงเบาๆ


ลมทะเลพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของผู้อมตะทั้งสี่


“รอ” อิงอู๋เซี่ยกล่าวเพียงคำเดียว


“รอสิ่งใด?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงรู้สึกสับสน


“รอศัตรู” อิงอู๋เซี่ยตอบ


ผู้อมตะอีกสามคนมองหน้ากันด้วยความงุนงง


ก่อนหน้านี้พวกเขารีบร้อนล่าถอยออกมา แล้วเหตุใดตอนนี้พวกเขาถึงต้องรอ? ศัตรูมีพลังการต่อสู้ระดับแปด พวกเขาจะรอให้ศัตรูมาฆ่างั้นหรือ?


การแสดงออกของไห่ลั่วหลันเปลี่ยนไป “ข้าเข้าใจแล้ว!”


“มันคือ?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งถาม


ซื่อหนิวไม่ได้แสดงออกแต่ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น


ไห่ลั่วหลันยิ้ม “ไม่อยากรู้งั้นหรือว่าเขารู้ตำแหน่งของพวกเราได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้เขารู้ที่อยู่ของพวกเขาอย่างชัดเจน”


เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของซื่อหนิวเปลี่ยนไป


ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าวเสียงต่ำ “ไห่ลั่วหลัน เจ้าหมายความว่ามีคนทรยศอยู่ในกลุ่มพวกเรางั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้ พวกเราทั้งสี่จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? เว้นเพียงหลิวชิงหยูจะเป็นสายลับ เดี๋ยว! ข้อตกลงพันธมิตรถูกใช้ประโยชน์งั้นหรือ?”


“ความน่าจะเป็นที่บางคนจะทรยศมีต่ำมาก” อิงอู๋เซี่ยส่ายศีรษะ


เขามองไท่เป่ยหยุนเฉิง


แม้ไท่เป่ยหยุนเฉิงจะถูกขังไว้ในความมืดแต่เขาก็อยู่ภายใต้ข้อตกลงพันธมิตรของอิงอู๋เซี่ย เขาไม่สามารถทรยศ


“เหตุผลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือเขามีวิธีตรวจสอบที่สามารถติดตามตำแหน่งของพวกเรา” อิงอู๋เซี่ยกล่าว


“แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราอยู่ในฐานทัพและแทบไม่ได้ออกมาภายนอก” ไท่เป่ยหยุนเฉิงขมวดคิ้ว


ไห่ลั่วหลันยิ้ม “วิญญาณอมตะมีอยู่มากมาย มีวิธีการที่ยอดเยี่ยมและไม่น่าเชื่ออยู่นับไม่ถ้วน”


“นั่นเป็นเรื่องจริง” ไท่เป่ยหยุนเฉิงพยักหน้า


ไห่ลั่วหลันกล่าวต่อ “หากเราไม่สามารถหาวิธีรับมือ ไม่ว่าพวกเราจะไปที่ใด ศัตรูก็จะพบพวกเรา มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”


“ดังนั้นนายท่านจึงตัดสินใจรออยู่ที่นี่เพื่อให้อีกฝ่ายใช้วิธีตรวจสอบของเขา ข้าเข้าใจแล้ว” ซื่อหนิวเข้าใจในที่สุด


ความคิดมากมายก่อตัวและพุ่งชนกันอยู่ในใจของอิงอู๋เซี่ย


แม้เขาจะอยู่ในร่างผีดิบอมตะและไม่สามารถคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เขามีวิธีการมากมายที่สามารถปิดข้อบกพร่องนี้


อิงอู๋เซี่ยคิดอย่างรวดเร็ว ‘ฟางหยวนใช้วิธีใดในการค้นหาตำแหน่งของข้า’


‘ข้ามาที่ทะเลตะวันออกอย่างลับๆ แล้วข้อมูลรั่วไหลได้อย่างไร? เขาสามารถหาตำแหน่งของข้าจากภาคเหนือได้อย่างไร?’


‘นั่นเป็นไปไม่ได้! กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ก็ไม่สามารถสรุปสิ่งใดหลังจากที่ข้าใช้ค่ายกลวิญญาณปกปิดร่องรอย’


‘ไม่ว่าสิ่งใดจะอยู่ในมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งนี้!’


เจตจำนงสวรรค์!


อิงอู๋เซี่ยมีคำตอบอยู่ในใจ


‘เมื่อข้าได้รับการแจ้งเตือนจากเจตจำนงสวรรค์ เป็นไปได้ที่ฟางหยวนจะได้รับการแจ้งเตือนในลักษณะเดียวกัน?’


สิ่งนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด


แต่อิงอู๋เซี่ยยังไม่พอใจกับคำตอบนี้


‘หากคนที่อยู่ในสถานการณ์นี้ไม่ใช่ข้าแต่เป็นฟางหยวน เขาจะทำอย่างไร? เขาจะคิดอย่างไร?’


‘เขาจะพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้’


‘แล้วสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่จะเป็นไปได้คือสิ่งใด?’


อิงอู๋เซี่ยถามตัวเองและได้รับคำตอบ ‘อีกฝ่ายมีท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบที่สามารถทะลวงผ่านกำแพงภูมิภาคและยืนยันตำแหน่งของข้า’


อิงอู๋เซี่ยยิ้มเยาะ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?


แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขากลับแข็งค้าง


เขานึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง!


ฟางหยวนมีเบาะแสที่สำคัญที่สุดมาตลอด นั่นคือโชคที่เชื่อมต่อกันของพวกเขา


วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชค!


แรกเริ่มอิงอู๋เซี่ยไม่มีทางเลือกและต้องขายวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคในสวรรค์สีเหลือง


หลังจากทำธุรกรรมกับฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยได้รับวัสดุในการหลอมรวมที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงนำวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคกลับคืนมาจากสวรรค์สีเหลือง


แม้ฟางหยวนจะมีร่างกายใหม่แต่ผลกระทบของวิญญาณเชื่อมโยงโชคยังคงอยู่ ดังนั้นโชคของฟางหยวนจึงยังเชื่อมต่อกับโชคของไห่ลั่วหลัน


อิงอู๋เซี่ยได้รับข้อมูลมากมายจากนิกายเงาเกี่ยวกับวิธีการต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ มีประเด็นหนึ่งกล่าวว่าโชคชะตาเป็นเรื่องยากที่จะท้าทายแต่โชคสามารถใช้ประโยชน์


โชคเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเจตจำนงสวรรค์


แล้วผู้ใดโชคดีกว่ากัน?


โดยไม่ต้องคาดเดา มันเป็นฟางหยวนที่มีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข!


ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข อิงอู๋เซี่ยรู้เรื่องนี้จากผมที่หก


ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยจึงใช้วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคเชื่อมต่อโชคกับไห่ลั่วหลัน


แม้ไห่ลั่วหลันจะไม่เต็มใจแต่นางก็ไม่สามารถต่อต้าน


ด้วยวิธีนี้อิงอู๋เซี่ยกับฟางหยวนจึงมีโชคที่เชื่อมต่อถึงกัน


‘หากเขาตระหนักถึงความสัมพันธ์นี้และใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชค แม้เราจะอยู่ต่างภูมิภาค เขาก็สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของข้า กรณีนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก’


‘เส้นทางแห่งโชค…’


ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยสั่นสะท้านขึ้น


เขาเห็นมัน!


ด้วยการใช้วิญญาณอมตะตรวจสอบโชค เขาเห็นโชคของเขาและโชคของไห่ลั่วหลันเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเล็กน้อย


‘ดังคาด! วิธีบนเส้นทางแห่งโชค! ฟางหยวนช่างน่าประทับใจนัก ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากมันได้จริงๆ แต่น่าเสียดายที่ข้าค้นพบวิธีการของเจ้าแล้ว’


ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายสดใส


อย่างไรก็ตามกระทั่งอิงอู๋เซี่ยจะรู้แต่เขาก็ไม่สามารถทำลายการเชื่อมต่อของโชค


เขาไม่มีวิญญาณอมตะตัดโชค


แต่เขามีวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณมากมาย บางทีมันอาจสามารถแทรกแซงโชค


เขาทดลองทีละอย่างแต่ผลลัพธ์กลับไม่ดีนัก


โชคยังสั่นสะเทือน


ในความเป็นจริงอิงอู๋เซี่ยสามารถใช้วิธีกำจัดไห่ลั่วหลันได้โดยตรง


แต่แตกต่างจากหลิวชิงหยู ไห่ลั่วหลันเป็นตัวหมากที่ไม่สามารถโยนทิ้งโดยง่าย


นางมีคุณค่า หากสูญเสียนาง พวกเขาจะไม่สามารถแม้แต่ใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยนจึงล้มเลิกความคิดที่จะกำจัดนางทิ้งไป


‘เช่นนั้นการเข้าสู่มิติช่องว่างจะช่วยได้หรือไม่?’


อิงอู๋เซี่ยเข้าไปในมิติช่องว่างของซื่อหนิวและพบว่าด้วยการใช้วิธีนี้ผสานกับวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ โชคบนศีรษะของเขาหยุดสั่นสะเทือน


เขาสั่งให้ไห่ลั่วหลันเข้าสู่มิติช่องว่างของซื่อหนิว


จากนั้นไท่เป่ยหยุนเฉิงกับซื่อหนิงก็เข้าสู่กำแพงภูมิภาค


ด้านฟางหยวน เขาพึ่งออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยูและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคอีกครั้ง


เขาสัมผัสได้ถึงโชคที่เชื่อมต่อกับเขาจากหลายสถานที่


ทะเลตะวันออก ทะเลทรายตะวันตก และภาคใต้


ท่ามกลางสถานที่เหล่านั้น เขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อโชคที่ชัดเจนจากทะเลตะวันออก


ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคมีระยะการตรวจสอบที่ยาวไกลมากแต่ผลกระทบของมันไม่โดดเด่นนัก หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนเชื่อมต่อโชคเอาไว้ก่อนหน้า เขาจะไม่สามารถตรวจสอบข้ามภูมิภาค


“พวกเขาอยู่ที่ขอบกำแพงภูมิภาค ค่ายกลวิญญาณนี้ช่างน่าทึ่งนัก”


“ฮืม! แม้ชัยชนะเป็นเรื่องยากที่จะได้มา แต่ข้าจะไล่ล่าพวกเจ้า แม้ข้าจะไม่สามารถสังหารพวกเจ้า ข้าก็จะทำให้พวกเจ้าอ่อนแอลง ตราบเท่าที่ข้าป้องกันไม่ให้พวกเขาสามารถช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ ชัยชนะจะเป็นของข้าในที่สุด”


“แปลก เหตุใดพวกเขาถึงหยุดเคลื่อนไหว?”


“หือ?”


ทันใดนั้นฟางหยวนพลันแสดงออกด้วยความประหลาดใจ


คนสองคนหายไปจากความรู้สึกของเขา


“โอ้ พวกเขารู้สึกตัวแล้ว ช่างรวดเร็วนัก” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง


ด้วยวิธีนี้เขาจึงไม่สามารถไล่ล่าฝ่ายตรงข้าม


“แต่ตราบเท่าที่โชคยังเชื่อมต่อกัน พวกเจ้าจะถูกคุกคามจากท่าไม้ตายอมตะของข้า ข้าจะใช้ท่าไม้ตายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อตรวจสอบตำแหน่งของพวกเจ้า พวกเจ้าจงระวังตัวไว้ให้ดี เมื่อข้าพบพวกเจ้า พวกเจ้าต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล!”


“สิ่งนี้จะทำให้เกิดการต่อสู้ระยะยาว แต่หากพวกเจ้าทำลายการเชื่อมต่อโชค ฮ่าฮ่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการงั้นหรือ?”


“เอาล่ะ ลืมมันไปก่อน ตอนนี้ข้าควรจะไปรับรางวัลในทะเลไหลเชี่ยว”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)