ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1132-1137
บทที่ 1132 กินเนสส์บุ๊ก
ทานมื้อค่ำเสร็จแล้ว ฉินสือโอวฉวยโอกาสตอนที่วินนี่อาบน้ำให้ต้าป๋าย เติมพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนส่วนหนึ่งเข้าไปในร่างกายมัน
ทว่าการรักษาอาการไม่ใช่การรักษาโรค พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไม่ใช่ยาอายุวัฒนะ ปัญหาของต้าป๋ายอยู่ที่อายุของมัน มันกำลังแก่ขึ้นเรื่อยๆ พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนสามารถยืดเวลาของขั้นตอนนี้ออกไปได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนตอนจบของเรื่องนี้ได้
นานๆ ไปต้าป๋ายก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองคล้ายกับการดื้อยาต่อพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ผลกระทบของพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่มีต่อมันก็จะน้อยลง จนกว่าสมรรถภาพร่างกายของมันจะแก่ตัวลงอย่างถึงที่สุด สุดท้ายพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็จะไม่มีผลกับมันอีกต่อไป
แต่มันจะมีวิธีไหนกัน? ฉินสือโอวทำได้เพียงเท่านี้ อย่างน้อยแบบนี้ก็ทำให้ต้าป๋ายมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น ถ้าไม่ทำแบบนี้ อีกไม่นานต้าป๋ายก็คงตาย วินนี่ก็จะเจ็บปวดจนใจสลาย!
ไม่ใช่แค่แก้วตาดวงใจอย่างหู่เป้าฉงหลัว แต่ยังมีเสี่ยวหมิงกับครอบครัวกระรอกดินที่เป็นเหมือนลูกบุญธรรม ที่จริงแล้ววินนี่รักและทะนุถนอมพวกมันทุกๆ ตัว ดังนั้นในตอนที่ตั๋วตั่วจะพาลูกกระรอกดินไปด้วย วินนี่จึงไม่ยินยอมให้ทำอย่างนั้น
สำหรับเธอแล้ว มันก็จริงอยู่ที่สัตว์เลี้ยงพวกนี้มีความสัมพันธ์ที่ชิดใกล้และห่างไกลกับเธอแตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นไปได้ เธอก็หวังว่าพวกมันจะมีชีวิตที่ดีกันทุกๆ ตัว ถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งไป เธอก็เจ็บปวดหัวใจทั้งนั้น
ฉินสือโอวจะไม่ยอมให้วินนี่ต้องเสียใจ และแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อยากพรากต้าป๋ายเช่นกัน
หลังจากวินนี่อาบน้ำให้ต้าป๋ายแล้ว เธอยังช่วยนวดตัวให้มันอย่างง่ายๆ อีกต่างหาก
ในตอนนี้ต้าป๋ายรู้สึกสบายตัวขึ้นมาแล้ว มันนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงนั้นเหมือนกับเสี่ยแก่ๆ ที่มีพวกเขาทั้งสองคนคอยปรนนิบัติ สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ พากันอิจฉามันมาก แต่พอได้เห็นลูกแมวป่าที่เสนอหน้าขึ้นไปเพราะอยากได้ความสบายแต่ถูกฉินสือโอวใช้มือหิ้วหูเอาไว้แล้วจับมันไปให้ปีศาจน้อยเสี่ยวเถียนกวา พวกมันก็พากันไปซ่อนตัวอยู่ไกลๆ แทน
ของหนึ่งสิ่งย่อมมีของอีกสิ่งที่ทำให้ต้องพบกับความพ่ายแพ้ เสี่ยวเถียนกวาที่เพิ่งจะคลานได้ เพียงไม่นานก็กลายมาเป็นดาวมฤตยูของเหล่าราชาในบ้าน
กลางเดือนพฤษภาคม พ่อแม่กับคนในครอบครัวของวินนี่ก็จะมาที่นี่แล้ว ฉินสือโอวจึงวางปัญหาเรื่องการเก็บเกี่ยวผลผลิตของฟาร์มปลากับการก่อสร้างสวนดอกไม้ไว้ก่อนชั่วคราว เพื่อเตรียมการต้อนรับครอบครัวของวินนี่ ในขณะเดียวกันเขาก็บอกให้พ่อกับแม่ของตัวเองรู้ จะได้ให้พวกท่านมาหารือเรื่องงานหมั้นกับงานแต่งงาน
พ่อฉินแม่ฉินเพิ่งจะกลับบ้านได้ยังไม่ทันถึงสองเดือน ทีแรกพวกเขายังไม่อยากกลับมาที่นี่เร็วขนาดนี้ แต่พอได้ยินว่าพ่อกับแม่ของวินนี่จะมาหารือเรื่องงานแต่งงาน พวกท่านก็รีบบอกให้ฉินสือโอวจองตั๋วเครื่องบินเลยทันที ส่วนงานเกษตรกับการเตรียมตัวเปิดร้านอาหารทะเลของที่บ้านน่ะเหรอ? ใครมันจะสนใจเรื่องนั้นกันล่ะ?
ท้องฟ้ากว้างใหญ่ ผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ แต่งานแต่งของลูกชายก็เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด
บ่ายวันที่ 15 ฉินสือโอวกำลังเก็บกวาดห้องรับแขก ทันได้นั้นก็มีสายจากเบอร์แปลกโทรเข้ามา หลังจากที่เขากดรับสายคนทางนู้นก็พูดขึ้นมาว่า “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณใช่คุณฉินผู้จัดการใหญ่ของบริษัทต้าฉิน โอเชี่ยนไซเอินซ์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัดหรือเปล่าครับ?”
ฉินสือโอวนึกว่าตัวเองเจอสิบแปดมงกุฎ บริษัทต้าฉิน โอเชี่ยนไซเอินซ์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัดอะไรกัน? เขามีบริษัทจำกัดอยู่ในครอบครอง แต่มันชื่อว่าบริษัทเสี่ยวอวี๋ โอเชี่ยน เอ็กซ์โพลเรชั่นจำกัด เกี่ยวอะไรกันกับโอเชี่ยนไซเอินซ์?
ดังนั้นเขาจึงวางสายไป แต่แค่ครู่เดียว เบอร์นั้นก็โทรเข้ามาอีกครั้ง
ฉินสือโอวยิ้มเย็น แล้วส่งโทรศัพท์ให้กับเออร์บัก พร้อมกับบอกเขาว่า “คิดว่าน่าจะเป็นพวกต้มตุ๋น ช่วยสร้างสีสันให้พวกมันหน่อยครับ”
หลังจากรับโทรศัพท์มาเออร์บักก็พ่นศัพท์ด้านกฎหมายออกมาก่อน แต่หลังจากฟังอีกฝ่ายพูดไม่กี่ประโยค สีหน้าของเขาก็เริ่มแปลกไป
ฉินสือโอวมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ เขาเองก็หันมามองฉินสือโอวด้วยความประหลาดใจเช่นกัน “อีกฝ่ายบอกว่าเป็นสถาบันตัวแทนของบริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดในโทรอนโต เขาบอกว่ามีคนส่งใบสมัครเพื่อขอท้าทายสถิติโลก เลยต้องมาที่ฟาร์มปลาเพื่อตรวจสอบ นายเป็นคนส่งใบสมัครไปเหรอ?”
แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่ใช่คนส่งใบสมัครไปแน่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ภายใต้จิตสำนึก เขานึกถึงคำพูดของหมอคนนั้นตอนที่พาต้าป๋ายไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เคลต์ขึ้นมาได้ บอกว่าอายุของต้าป๋ายสามารถทำลายสถิติโอพอสซัมเวอร์จิเนียที่มีอายุยืนที่สุดในโลกได้ แต่เรื่องนี้มีแค่เขากับวินนี่ที่รู้นี่นา
เขาเรียกวินนี่เข้ามา ถามเธอว่าเธอได้ส่งใบสมัครอะไรไปที่กินเนสส์ วินนี่ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น เธอพูดว่า “ไม่ใช่อยู่แล้วค่ะ อาจจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ? หรือคุณหมอที่กระตือรือร้นคนนั้นจะช่วยส่งใบสมัครขอรับการทดสอบให้พวกเรา?”
ฉินสือโอวแอบด่าคุณหมอคนนั้นอยู่ในใจว่าทำเรื่องให้มันวุ่นวาย เวรเอ๊ย เขาแค่อยากหาเงินใช้ชีวิตสบายๆ อยู่เงียบๆ บันทึกสถิติโลกกินเนสส์อะไรนี่เป็นเรื่องที่ยุ่งวุ่นวายมาก เป็นเรื่องที่เขาปฏิเสธที่จะทำมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
เออร์บักเข้าใจความคิดของฉินสือโอว จึงตั้งใจจะบอกปัดการทำลายสถิติโลกในครั้งนี้ แต่พออีกฝ่ายพูดขึ้นมาอีกไม่กี่ประโยค เขาก็หันมามองฉินสือโอวด้วยสีหน้าประหลาดใจอีกครั้ง “ไม่ใช่อายุของต้าป๋าย แต่เป็นกาวน้ำชนิดหนึ่ง ในครั้งนี้กินเนสส์บุ๊กจะมาพิสูจน์ความติดทนของกาวน้ำชนิดหนึ่ง”
ฉินสือโอวนึกถึงแซนเดอร์สขึ้นมาทันที เขาแทบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เมื่อนานมาแล้วแซนเดอร์สเคยบอกกับเขาว่า พวกเขาสกัดกาวชีวภาพชนิดหนึ่งได้จากเพรียงหินของฟาร์มปลา มีความติดทนที่แข็งแกร่งเหนือชั้นมาก สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตร แล้วลงทุนผลิตสินค้าเพื่อทำกำไรได้
เขาขับรถเอทีวีไปที่ฟาร์มเพาะเลี้ยงปูดันเจเนสส์ด้วยความเร่งรีบ คราวนี้แซนเดอร์สเป็นฝ่ายเห็นเขาก่อน จึงโบกมือทักทายอย่างมีความสุขว่าและถามว่าเขามาที่นี่ทำไม “บอส ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องเป็นกังวลนะ ที่นี่มีผมคอยดูแลอยู่ คุณสบายใจได้เลย”
ฉินสือโอวลงมาจากรถแล้วกลอกตามองบนหนึ่งครั้ง “ผมไม่ได้กังวลเลย แต่ที่ผมอยากรู้ก็คือ คุณส่งใบสมัครขอลงบันทึกสถิติโลกไปที่กินเนสส์บุ๊กเหรอครับ? นั่นมันเรื่องอะไรกัน?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ แซนเดอร์สก็พยักหน้ารับ แล้วถามว่า “ใช่แล้ว ทางกินเนสส์รับเรื่องแล้วเหรอ? ฉันส่งใบสมัครผ่านทางเพื่อนเก่าคนหนึ่ง แบบนี้จะช่วยให้พวกเราสร้างชื่อเสียงให้กับกาวซูเปอร์กลูชีวภาพจากเพรียงหินได้เร็วที่สุด คุณคิดว่าแบบนั้นไม่ดีหรอกเหรอ?”
ฉินสือโอวกล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ ผมแค่คิดว่าแบบนี้มันจะดูโอ้อวดเกินไปหรือเปล่า?”
“แต่นี่เป็นวิธีทำเงินที่ดีที่สุดนะ แล้วคุณก็ไม่ต้องลงทุนจ่ายค่าโฆษณาด้วย คุณไม่ชอบเงินเหรอครับบอส?”
“โอเค คุณพูดถูกผมไม่มีอะไรจะแย้งแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณรีบจัดการเถอะครับ คนของกินเนสส์บุ๊กมาถึงนครเซนต์จอห์นแล้ว ให้พวกเราลองดูว่าจะท้าทายการบันทึกสถิติในครั้งนี้อย่างไร”
พูดตามตรง ฉินสือโอวก็ค่อนข้างคาดหวังกับการท้าทายสถิติในครั้งนี้ ถ้าเป็นเรื่องของต้าป๋าย เขาจะปฏิเสธแน่ๆ แต่เรื่องกาวชีวภาพ ก็เหมือนกับที่แซนเดอร์สได้พูดไว้ มีโอกาสทำการโฆษณาฟรีๆ แบบนี้ แล้วทำไมถึงไม่ใช้มันซะล่ะ?
เกี่ยวกับบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ฉินสือโอวมีความเข้าใจไม่มากนัก รู้แค่ว่านี่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก เมื่อก่อนมันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา ในตอนนี้ท้ายที่สุดก็มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
ดังนั้นเมื่อมีลูกน้องเป็นคนรับหน้าที่แทน คนเป็นเจ้านายก็ไร้ซึ่งภาระและหมดความกังวล
ถึงแม้ว่าบริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดจะเปิดรับผู้คนทุกชนชั้นทั่วโลก ทว่าการที่จะเชิญพวกเขามาได้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยเช่นกัน
แซนเดอร์สกรอกใบสมัคร เซ็นข้อตกลงการท้าทายสถิติ ตามเงื่อนไขของ “กฎเกณฑ์ทั่วไป” และ “กฎเกณฑ์โดยละเอียด” ใน “แฟ้มเอกสารผู้ท้าทายสถิติ” เตรียมตัวท้าทายการบันทึกสถิติและเตรียมข้อมูลทีละอย่างๆ พร้อมกับเซ็นข้อตกลงในการให้ข้อมูลเป็นฉบับสุดท้าย ทางบริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดถึงจะเริ่มดำเนินการตรวจสอบ
ถ้าให้ฉินสือโอวเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ เขาต้องรู้สึกรำคาญแน่ๆ คงจะปล่อยมันทิ้งไว้ไปตั้งแต่แรกแล้ว
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ คนกลุ่มหนึ่งก็โดยสารเรือติดตามแซนเดอร์สมาถึงที่ท่าเรือแล้ว ในกลุ่มคนเหล่านั้นมีทั้งคนถือไมโครโฟน มีทั้งคนแบกกล้อง ทั้งยังมีคนที่กำลังถกเถียงกันด้วยความเคร่งขรึมและเสียงที่แผ่วเบา ทั้งหมดก็สี่สิบกว่าคน เป็นกลุ่มคนที่มีขนาดใหญ่มาก
แซนเดอร์สแนะนำฉินสือโอวให้คนกลุ่มนั้นได้รู้จัก ชายร่างผอมสูงที่สวมเสื้อกั๊กตัวเล็กของผู้กำกับก็เดินออกมาจับมือกับเขาพร้อมกับพูดว่า “สวัสดีครับ คุณฉิน ผมเป็นผู้รับผิดชอบควบคุมดูแลการท้าทายสถิติในครั้งนี้ ถ้าอย่างนั้นพวกเรา เตรียมตัวเริ่มกันเลยไหมครับ?”
บทที่ 1133 กาวซูเปอร์กลู
ฉินสือโอวเห็นคนพวกนี้แบกกล้องถ่ายรูปหามกล้องถ่ายวิดีโอ ก็นึกว่าการท้าทายสถิติครั้งนี้จะได้ออกทีวี ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบกลับไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดถังจวง แถมยังให้หู่จือเป้าจือผูกหูกระต่ายด้วยอีกต่างหาก ขณะเดียวกันก็แอบด่าพวกคนไม่ซื่อสัตย์อยู่ในใจ ทำไมเสื้อผ้าของเด็กๆ ตัวอื่นๆ ที่สั่งทำไว้ถึงยังไม่มาถึงสักที?
หลังจากนั้น ผู้ชายผอมสูงสวมเสื้อกั๊กก็บอกกับเขาว่า กล้องถ่ายวิดีโอมีไว้สำหรับบันทึกการท้าทายสถิติ สถานีโทรทัศน์ไม่ได้ส่งคนมา และจะไม่ได้ออกทีวี…
ฉินสือโอวแอบด่าอยู่ในใจอีกครั้ง หลอกลวงกันนี่ คุณบอกว่าพวกคุณจะไม่เอาออกทีวี แล้วอย่างนั้นจะทำให้มันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ทำไมกัน? การเปลี่ยนเสื้อผ้าครั้งนี้ยุ่งวุ่นวายมาก อีกทั้งหู่จือเป้าจือได้ผูกโบหูกระต่าย ใจบางๆ เหมือนกระจกของสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ก็ถูกทุบจนแหลก พอกลับไปจะต้องวุ่นวายอีกแน่ๆ
ผู้รับผิดชอบควบคุมดูแลการท้าทายสถิติที่สวมเสื้อกั๊กมีชื่อว่า เคลลี พอล เป็นผู้อำนวยการสถาบันตัวแทนของบริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดในแคนาดา โดยปกติแล้วเวลาที่คนระดับนี้ออกมาดำเนินกิจกรรม ส่วนใหญ่จะเป็นการออกรายการทีวี ดังนั้นจึงพูดได้ว่ากินเนสส์บุ๊กเองก็ให้ความสำคัญกับกิจกรรมครั้งนี้มากๆ
แน่นอนว่า นั่นไม่ใช่เพราะกิจกรรมในครั้งนี้มีความหมายมาก แต่เป็นเพราะเครือข่ายความสัมพันธ์ของแซนเดอร์สเยี่ยมยอดมากต่างหาก เขาหาคนมาช่วยติดต่อกินเนสส์บุ๊ก กินเนสส์บุ๊กก็ต้องเห็นแก่หน้าของคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงส่งผู้อำนวยการมาควบคุมดูแลการดำเนินกิจกรรม
วินนี่ชงชารินกาแฟให้กับพวกเขาทุกคน ดูแลต้อนรับแขกได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีอะไรติดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้คนจำนวน 20 กว่าคนได้รับเครื่องดื่มที่แตกต่างกันจากเธออย่างรวดเร็ว และในขณะที่กำลังดื่มเครื่องดื่ม ทุกคนก็เผลอตัวลดเสียงในการสนทนาลง ดังนั้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจก็เปลี่ยนเป็นเงียบสงบลง
หลังจากเคลลีรับกาแฟจากวินนี่เขาก็พูดขอบคุณเธอ หลังจากนั้นก็หันมาขยิบตาให้ฉินสือโอว แล้วพูดว่า “คุณฉิน ผมว่าคุณสมัครผิดรายการแล้วล่ะครับ ผมว่าคุณควรจะขอลงบันทึกสถิติผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกให้ภรรยาของคุณ ผมคิดว่าผมก็คงโหวตให้ภรรยาของคุณด้วยหนึ่งเสียง”
“ชมกันเกินไปแล้วครับ ฮ่าๆ แต่ถ้ามีการท้าทายบันทึกสถิติแบบนั้นจริงๆ ผมก็อยากจะสมัครให้ภรรยาของผมเหมือนกัน” ฉินสือโอวพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง วินนี่เป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาจริงๆ
วินนี่ในสมัยก่อน ถึงแม้ว่าจะสูงส่งสง่างาม แต่ด้วยบุคลิกที่บริสุทธิ์เหมือนหยกใสกระจ่างดุจน้ำแข็ง จึงทำให้เธอดูเหมือนไม่มีอยู่จริง ตอนนี้หลังจากคลอดลูกแล้ว บนตัวเธอมีกลิ่นอายของความอ่อนโยนจากคนเป็นแม่ จึงช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้เธออีกหลายส่วน
พอดื่มกาแฟเสร็จ เคลลีก็เริ่มคุยธุระสำคัญกับฉินสือโอว นั่นก็คือกิจกรรมการท้าทายสถิติในครั้งนี้นั่นเอง ตามข้อมูลที่แซนเดอร์สส่งไป พวกเขาทดสอบความติดทนของกาวซูเปอร์กลูชนิดนี้โดยวิธีที่การใช้เรือประมงดึงเรือยอชต์ขึ้นมา
ฉินสือโอวบอกว่าไม่มีปัญหา วัสดุอุปกรณ์ในการท้าทายสถิติอยู่ในสถานที่หมดแล้ว จัดการได้ง่ายมาก เดี๋ยวเขาจะให้พวกชาวประมงเตรียมการ
ในตอนท้ายเคลลีได้พูดกับเขาว่า “คุณฉิน ผมต้องขอแจ้งให้คุณทราบก่อนว่า บุคคลหรือหน่วยงานที่พยายามจะท้าทายหรือสร้างสถิติ จะต้องเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงจากการท้าทายหรือสร้างสถิติเอง บริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดของเรารวมไปถึงสถาบันตัวแทนจะไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดจากการทดลอง รวมถึงความรับผิดชอบใดๆ ก็ตามที่แฝงอยู่ในความรับผิดชอบที่อาจจะเกิดขึ้น คุณมีปัญหาอะไรไหมครับ?”
ฉินสือโอวกล่าวว่า “ไม่มีครับ ผมเข้าใจ”
เคลลีพยักหน้า แล้วเรียกผู้ช่วยคนหนึ่งให้เอาสัญญาฉบับหนึ่งมาให้ฉินสือโอวตรวจสอบแล้วเซ็น
ฉินสือโอวก็เรียกผู้ช่วยของตัวเองเช่นกัน ซึ่งก็คือเออร์บักนั่นเอง ชายชรากวาดตาอ่านสัญญาอย่างรวดเร็วแล้วพยักหน้าออกมา ฉินสือโอวก็ลงปากกาครั้งเดียว เซ็นชื่อของตัวเองลงไปอย่างมีชีวิตชีวาและเปี่ยมไปด้วยพลัง!
กิจกรรมการท้าทายสถิติครั้งนี้ พูดแล้วฟังดูง่ายมาก โดยจะทดสอบด้วยท่อนเหล็กหนึ่งท่อน และใช้เครื่องชักรอกที่ท้ายเรือปริ้นเซสเมล่อนยกเรือลาดตระเวนแฟร์เวลขึ้นมา
เรือลาดตระเวนมีน้ำหนักอยู่ระหว่างห้าตันถึงสิบตัน เรือยอชต์ประเภทนี้จะค่อนข้างหนักกว่าเรือเล็กที่มีขนาดเท่ากัน เพื่อเป็นการรักษาความสบายในการเดินเรือ จึงต้องทำให้เรือยอชต์ต้านทานการจู่โจมของคลื่นลมให้ได้มากที่สุด ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่จะต้องมีน้ำหนักที่มากพอ
น้ำหนักของเรือแฟร์เวลอยู่ที่ 17900 ปอนด์ หรือเกือบๆ 1.8 ตัน เหมาะที่จะเป็นผู้ท้าทายสถิติ เนื่องจากกาวซูเปอร์กลูที่รักษาสถิติไว้เมื่อก่อนหน้านี้คือกาวชนิดแห้งเร็วที่มีชื่อว่าพีอาร์ 100 ซึ่งสามารถยกรถยกที่มีน้ำหนักถึงเจ็ดตันครึ่งขึ้นมา แล้วหยุดค้างไว้กลางอากาศได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
พีอาร์ 100 คือไพ่คิงของผลิตภัณฑ์กาวชนิดแห้งเร็ว 3M ™ Scotch-Weld ™ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เป็นของบริษัท 3M บริษัทแห่งนี้คือองค์กรธุรกิจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครบวงจรรูปแบบใหม่ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่รัฐมินนิโซตาในอเมริกา ทุกๆ ปีมีรายรับมากถึงสามหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มีพนักงานลูกจ้างทั่วโลกราวๆ แปดหมื่นสี่พันคน ประกอบธุรกิจทั่วโลกมากกว่า 65 ประเทศ
ใช้เวลาสั้นๆ ครึ่งชั่วโมงในการเตรียมการ ทางฝ่ายกินเนสส์ได้เตรียมอุปกรณ์มาเองด้วยบางส่วน ซึ่งก็คือท่อนเหล็กที่ถูกตัด มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหกเจ็ดเซนติเมตร พื้นผิวราบเรียบเกลี้ยงเป็นมัน แซนเดอร์สนำกาวที่ผสมเสร็จแล้วออกมา แล้วทาลงไปบนผิวราบเรียบของท่อนเหล็ก ทำให้เหล็กสองท่อนเชื่อมติดกัน
ขณะที่ฉินสือโอวกับแซนเดอร์สกำลังดำเนินงาน เคลลีที่มีฐานะเป็นพยานจะเป็นผู้ควบคุมดูแลและรับรองความถูกต้อง มีตากล้องคอยบันทึกภาพในเหตุการณ์ แล้วก็ยังมีพิธีกรอีกหนึ่งคน เขาถามว่า “ไม่ทราบว่ากาวที่ริเริ่มการท้าทายสถิติมีชื่อว่าอะไรเหรอครับ?”
คำถามนี้ง่ายมาก เรื่องชื่อเรียกถูกจัดการตั้งนานแล้ว แซนเดอร์สจึงตอบกลับไปว่า “กาวของพวกเรามีชื่อเรียกว่า กาวซูเปอร์กลูชีวภาพคิวเอส เป็นกาวที่ทีมของเราสกัดออกมาจากเพรียงหินชนิดพิเศษ มันเป็นกาวชีวภาพชนิดหนึ่ง แต่ผ่านการวิเคราะห์ทางเคมีและประกอบการสังเคราะห์ใหม่ พวกเราดัดแปลงให้มันกลายเป็นกาวเคมี รับประกันได้ว่าสามารถดำเนินการผลิตขนาดใหญ่ได้”
กาวชีวภาพคิวเอส คิวมาจากตัวอักษรตัวแรกจากนามสกุลของฉินสือโอว ส่วนเอสก็คือตัวอักษรตัวแรกจากนามสกุลของแซนเดอร์สนั่นเอง ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบแต่ก็เป็นวิธีตั้งชื่อที่ดีมากๆ เหมือนกัน
ชื่อนี้เป็นชื่อเรียก ไม่ใช่ชื่อทางการ กาวชนิดต่างๆ ล้วนแต่มีชื่อเรียกทางวิชาการ เพื่อแสดงถึงส่วนผสมที่อยู่ข้างใน ชื่อทางวิชาการของกาวชีวภาพคิวเอสคือกาวไซยาโนอะคริเลต จนกว่าจะจดทะเบียนสิทธิบัตรให้ผลิตภัณฑ์ ชื่อนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผยออกไป
“ไม่ใช่ว่ายกขึ้นแค่หนึ่งนาทีสองนาทีก็ได้แล้ว แต่ต้องยกได้ถึงหนึ่งหรือสองชั่วโมง และจะต้องสูงจากพื้นดินหนึ่งเมตร คุณมั่นใจกับกาวของคุณไหมครับ?” พิธีกรยังคงถามต่อ
แซนเดอร์สเป็นคนดังมาตั้งนานแล้ว เขาจึงตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ “แน่นอนอยู่แล้วครับ ความมั่นใจที่พวกเรามีต่อมันก็เหมือนกับความมั่นใจที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม! ถ้ามีเวลา ผมก็หวังว่าจะรักษาเวลาไว้ได้สักสองชั่วโมง ผมเชื่อว่ามันต้องไม่มีปัญหาอะไรแน่ๆ!”
“การท้าทายสถิติครั้งนี้ยังมีความยากอีกหนึ่งอย่าง” แซนเดอร์สพูดต่อ “เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ หลังจากสี่ชั่วโมงที่พวกเราทากาวลงไป พวกเราก็จะเริ่มยกมันขึ้น”
เคลลีที่ยืนอยู่ข้างๆ กันพูดเสริมอีกว่า “พวกเราต่างก็รู้ว่า ตามปกติแล้วหลังจากทากาวลงไป จะต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมงถึงจะทำให้มีความติดทนนานที่ดีที่สุด”
หลังจากถ่ายวิดีโอเก็บหลักฐาน ส่วนที่เหลืออยู่ก็คือต้องรอ ของในเรือแฟร์เวลถูกยึดไว้ดีแล้ว การตรวจสอบเครื่องชักรอกขนาดใหญ่บนหางเรือปริ้นเซสเมล่อนก็เสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน สายเคเบิลเหล็กความหนาเท่ากับนิ้วโป้งมือถูกสอดผ่านเครื่องชักรอกอยู่ในอากาศ อีกเดี๋ยวพอทำการเชื่อมติดกับท่อนเหล็กก็จะใช้ได้แล้ว
ท่อนเหล็กทั้งสองท่อนถูกทากาวติดไว้ด้วยกันอย่างเสร็จสมบูรณ์ ตอนตัดท่อนเหล็กทำได้ดีมาก หลังจากนำมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง หากไม่สังเกตดูให้ดีๆ ก็อาจจะถึงกับมองไม่เห็นรอยต่อที่อยู่ตรงกลาง
เคลลีเข้าไปดูท่อนเหล็กกับกาวที่อยู่ระหว่างกลาง ก็หันกลับมาพูดว่า “กาวของพวกคุณยอดเยี่ยมมากจริงๆ แค่ระดับความบางของกาวก็น่าตกใจแล้ว หลังจากนี้พวกคุณวางแผนทิศทางการเผยแพร่ไว้อย่างไรบ้างครับ? เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ไฮเทคหรือเปล่า?”
บทที่ 1134 สถิติใหม่
ตอนที่แซนเดอร์สปรึกษาหารือกับฉินสือโอว ทิศทางการพัฒนากาวนี้หลังจากนี้ ก็คือการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีขนาดใหญ่จริงๆ เนื่องจากข้อได้เปรียบของมันคืออัตราความเร็วในการยึดติด สีใสและบางเบา ไม่มีกลิ่น มีคราบขาวน้อย ความเหนียวและความทนทานดี ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนต่อแรงกระแทก
นอกจากนี้ สิ่งที่หาได้ยากก็คือ กาวชีวภาพชนิดนี้ไม่ได้มีผลกระทบที่ทำให้พลาสติกเก่าลงอย่างรวดเร็ว พลาสติกเมื่อถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน จะเก่าและทรุดโทรม และในขั้นตอนนี้มักจะส่งผลกระทบที่ทำให้เกิดการเร่งปฏิกิริยา ส่งผลให้พลาสติกเก่าไวยิ่งขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หากจำหน่ายกาวชีวภาพคิวเอสในราคาสูงให้กับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีไฮเทคบางแห่งเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์พิเศษ แบบนั้นก็จะสามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างแน่นอน
กาวรุ่นพีอาร์ 100 ในประเภทการใช้งานถูกจำแนกเป็นกาวพลาสติกที่มีความหนืดต่ำ มันต้องใช้เวลา 10-30 วินาทีในการยึดติด ในการทดลองของแซนเดอร์ส เวลาในการยึดติดของกาวชีวภาพคิวเอสอยู่ที่ 8-15 วินาที ประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าพีอาร์ 100 อยู่มาก ยิ่งถ้านำมาใช้งานจริง เวลาไม่กี่วินาทีนี้จะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
กาวรุ่นพีอาร์ 100 หลักๆ แล้วตอนนี้จะถูกใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเช่นรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือที่ใช้แรงงานมือและเครื่องมือที่ใช้กำลังไฟฟ้า อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ ไอแพด แท็บเล็ตและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่นๆ ต่างก็มีมันเป็นส่วนประกอบทั้งนั้น ซึ่งนี่ก็เป็นทิศทางการพัฒนาของกาวชีวภาพคิวเอสเช่นกัน
ช่วงที่มีเวลาว่าง ฉินสือโอวพาพนักงานของกินเนสส์ไปเที่ยวชมฟาร์มปลา และยังใช้เวลาสองชั่วโมงเพื่อขับเรือฮาวิซทไปตกปลาที่ริมทะเล
ในฤดูใบไม้ผลิทุกสรรพสิ่งบนโลกกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหล่าปลาทะเลมีพละกำลังที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อใช้เหยื่อที่ฉินสือโอวเตรียมไว้ให้ ในเวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็ได้รับผลสำเร็จแล้ว ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะมีจำนวนมากที่สุด ฝูงปลาคาพีลินก็เริ่มปรากฏตัวแล้วเช่นกัน
ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว กระแสลมหนาวขั้วโลกเหนือกับกระแสน้ำกัลฟ์สตรีมก็จะมารวมกันที่ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ เมื่อถึงเวลานั้นพวกมันจะนำแพลงก์ตอนและสาหร่ายทะเลจำนวนมหาศาลมาด้วย พอปลาคาพีลินได้รับแรงดึงดูด ก็จะรีบตามมาหาอาหาร
แต่ก็ไม่ใช่ว่าปลาคาพีลินจะมาอย่างนี้ทุกๆ ปี พวกมันมีตัวเลือกดีๆ อยู่หลายที่ ก็เหมือนกันกับฝูงนกจมูกหลอดหางสั้น ฤดูหนาวปีที่แล้ว นกจมูกหลอดหางสั้นก็ไม่ได้มาที่ฟาร์มปลา แต่ไปพักผ่อนอยู่ที่สถานที่หนึ่งในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์
ขณะที่กำลังยืนอยู่บนหัวเรือ ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไป เมื่อลงไปไปสู่น้ำสิ่งแรกที่เขามองเห็นก็คือปลาคาพีลิน
ปลาเหล่านี้รวมกลุ่มกันให้เห็นเป็นฝูงเล็กๆ ปลาฝูงเล็กแต่ละฝูงๆ กำลังว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร เพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรสที่กระแสลมหนาวและกระแสน้ำอุ่นพัดพาแล้วไหลมารวมตัวกัน
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนว่ายแฉลบผ่านด้วยความรวดเร็ว ระหว่างทางฉินสือโอวเห็นปลาฝูงเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ฝูงปลาพวกนี้มีขนาดเล็กมากจริงๆ มีปลาแค่สิบกว่าตัวเท่านั้นที่อยู่ด้วยกันเป็นฝูง ส่วนใหญ่เป็นปลาตัวเมียที่มีท้องนูนๆ พองๆ
สำหรับปลาคาพีลิน ฝูงปลาขนาดใหญ่คือปลาหลายล้านตัวที่รวมฝูงกันจนกลายเป็นชุมชนปลา ตอนนี้ยังไม่ปรากฏให้เห็น เนื่องจากปลาฝูงใหญ่กำลังอยู่บนเส้นทางการอพยพ
แต่ว่า ถึงจะเห็นแค่จำนวนปลาฝูงเล็กที่ปรากฏตัวอยู่ในตอนนี้ แต่ฉินสือโอวคิดว่าปีนี้ฟาร์มปลาอาจจะได้พบกับโอกาสในการเก็บเกี่ยวที่ดีอีกครั้งแล้วก็ได้
ชาร์คก็มีลางสังหรณ์แบบนี้เหมือนกัน เขาพูดว่า “บอส ดูท่าว่าพวกเราคงต้องกลับไปเตรียมอวนจับปลาแล้วล่ะครับ ปลาคาพีลินจะมาแล้ว นี่คือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้กับพวกเรา ถ้าไม่รับไว้สักหน่อย ผมคิดว่าพระเจ้าคงไม่ดีใจแน่”
ฉินสือโอวพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “แต่พวกเราจะโลภเกินไปไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ?”
ชาร์คพยักหน้ารับ การคาดการณ์ของเขาไม่ได้อิงตามปริมาณของปลาคาพีลิน เนื่องจากเขาไม่มีหัวใจโพไซดอน มองไม่เห็นปลาที่อยู่ใต้น้ำ สิ่งที่เขามองเห็นคือวาฬที่ปรากฏตัวอยู่ในบริเวณลึกของฟาร์มปลาอย่าง วาฬบาลีน วาฬหลังค่อม วาฬสีน้ำเงิน
ที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่พวกนี้รีบมาที่ฟาร์มปลา ก็เพราะว่าพวกมันกำลังรองานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะอย่างปลาคาพีลินอยู่
พนักงานของกินเนสส์ก็นับว่ามีประสบการณ์ความรู้ที่กว้างขวาง สามารถแยกปลาที่พวกเขาตกขึ้นมาได้ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเพราะปลาที่ตกขึ้นมาได้ก็เป็นที่รู้จักกันทั่วไป
ในที่สุด ตอนที่มีคนเก็บคันเบ็ดขึ้นมาก็สามารถตกปลาดีๆ ได้แล้ว ปลาทูน่าครีบเหลืองขนาดสามสิบเซนติเมตรกว่าๆ
“โว้ว บาร์กลีย์ตกปลาทูน่าได้หนึ่งตัว!” มีคนร้องตะโกนพร้อมกับกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว เป็นปลาที่ไม่เลวเลย ปลาทูน่าครีบเหลือง เพียงแต่ว่ามันยังเป็นปลาเล็กอยู่”
พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนช่วยส่งเสริมความรวดเร็วในการเจริญเติบโตของปลาทูน่าครีบเหลือง นี่คือไข่ปลาที่ปลาตัวเมียในฟาร์มปลาวางไข่ไว้เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้มีขนาดถึงสามสิบเซนติเมตรแล้ว ลูกปลาล็อตแรกที่ปล่อยไว้เมื่อสองปีที่แล้ว ลูกปลาที่เจริญเติบโตขึ้นในตอนนี้ก็มีความยาวถึงครึ่งเมตรแล้ว
ปลาทูน่าครีบเหลืองเป็นปลาที่มีการเจริญเติบโตที่ดีมาก โดยเฉพาะลูกปลาวัยอ่อนที่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้สถานการณ์ปกติเวลาหนึ่งปีครึ่งพวกมันจะสามารถเติบโตได้ถึงสามสี่กิโลกรัม ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมระดับความเข้มข้นในการจับปลาถึงได้มากขนาดนี้ นั่นก็เพราะสภาพการแพร่พันธุ์ของปลาชนิดนี้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักนั่นเอง
คนที่ตกปลาทูน่าขึ้นมาได้ถามว่าเขาจับปลาที่มีระดับการเจริญเติบโตเท่านี้ไม่ได้ใช่ไหม ฉินสือโอวจึงบอกกับเขาว่านี่คือฟาร์มปลาส่วนบุคคล ได้รับการควบคุมจากกรมประมงไม่มาก เขาสามารถเอาปลาตัวนี้ไปด้วยได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกๆ คนก็คึกคักดีใจยิ่งกว่าเดิม พวกเขาหย่อนเบ็ดลงไปบ่อยครั้ง ด้วยหวังว่าจะสามารถตกปลาทูน่าขึ้นมาได้เหมือนกัน
ปลาทูน่าครีบเหลืองมีราคาที่ค่อนข้างถูก ซึ่งตรงกันข้ามกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาชนิดนี้มีมูลค่าในตลาดค่อนข้างน้อย
การตกปลาเป็นกีฬาที่ฆ่าเวลาได้ดีมาก เวลาสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้ว
ท่อนเหล็กสองท่อนที่ใช้กาวชีวภาพติดเอาไว้กลายเป็นข้อต่อ มีสายเคเบิลเหล็กมัดไว้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ปลายสายเคเบิลด้านบนเชื่อมติดกับเครื่องชักรอกของเรือปริ้นเซสเมล่อน ส่วนปลายด้านล่างก็ผูกอยู่บนเรือแฟร์เวล
พอเคลลี พอลออกคำสั่ง บูลที่อยู่ในห้องขับเรือก็สตาร์ทเครื่องชักรอก ทันใดนั้นสายเคเบิลเหล็กก็ถูกดึงจนตึง ขณะเดียวกันเสียง ‘เอี๊ยด’ ที่ทำให้รู้สึกเสียวฟันก็ดังขึ้นมา ผ่านการเชื่อมต่อของท่อนเหล็ก สายเคเบิลเหล็กก็เริ่มส่งพลังออกมา ค่อยๆ ยกเรือแฟร์เวลขึ้นอย่างช้าๆ
ยกเรือแฟร์เวลขึ้นมาจนห่างจากพื้นได้ประมาณหนึ่งเมตรกว่าๆ เคลลีบอกว่าพอแล้ว บูลถึงได้หยุดการทำงานของเครื่องชักรอกไว้
ฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ยืนดูอยู่บนท่าเรือ เขารู้สึกว่าการท้าทายครั้งนี้ไม่เห็นจะมีอำนาจบารมีตรงไหน เพราะมันก็เห็นได้ชัดว่าพนักงานของกินเนสส์ไม่ได้รู้สึกว่าน่าสนใจอะไร มีไม่กี่คนที่มองดูเหมือนดูการแสดง แต่ที่มีมากกว่านั้นก็คือคนที่กำลังจับกลุ่มคุยกันเรื่องการตกปลา
อีกทั้งคนที่ดูขั้นตอนการท้าทายสถิติก็ดูอยู่แค่ตอนเริ่มต้น หลังจากเรือแฟร์เวลถูกยกขึ้นมา พวกเขาก็เดินออกไปจากท่าเรือ ไปมุงอยู่กับเพื่อนร่วมงานที่กำลังคุยกันเรื่องการตกปลาอยู่ข้างๆ แล้วเช่นกัน
แต่ขั้นตอนนี้ก็น่าเบื่อมากจริงๆ นั่นล่ะ ฉินสือโอวดูอยู่ไม่กี่นาทีก็เลิกสนใจ แล้วพาพวกเด็กๆ ไปเล่นกันอยู่บนชายหาดแทน
ความเหนียวของกาวชีวภาพมันสุดยอดมากจริงๆ ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง เรือแฟร์เวลกวัดแกว่งอยู่ในอากาศเบาๆ ราวกับระฆัง นี่เป็นเพราะคลื่นลมลูกใหญ่ที่สาดกระทบ เรือปริ้นเซสเมล่อนลอยไปตามคลื่นทะเล จนทำให้เครื่องชักรอกทรงตัวได้ไม่นิ่ง
กล้องบันทึกภาพอยู่โดยตลอด เคลลีพูดขึ้นมาว่า “คุณฉิน ศาสตราจารย์แซนเดอร์ส ยินดีกับพวกคุณด้วยครับ พวกคุณกำลังจะรวยแล้ว สารยึดเกาะชนิดนี้ต้องสามารถสร้างสถิติโลกได้อย่างแน่นอน การท้าทายสถิติของพวกคุณมีความยากที่สุด เมื่อก่อนไม่ว่าจะเป็นการแขวนห้อยรถยนต์หรือตู้คอนเทนเนอร์ ต่างก็ไม่ใช่การทดสอบที่สามารถแกว่งไกวได้แบบนี้”
เวลาหนึ่งชั่วโมงสิ้นสุดลงแล้ว เรือแฟร์เวลยังคงแกว่งอยู่กลางอากาศอย่างเบาๆ สายเคเบิลเหล็กยังแข็งแกร่งมั่นคง ราวกับว่าไม่มีข้อต่อของท่อนเหล็กอยู่ตรงกลาง
การนับเวลาถอยหลังสิ้นสุดลงแล้ว มีพนักงานมาย้ายกล้องไป เคลลีจึงบอกชาร์คว่าวางเรือยอชต์ลงได้แล้ว หลังจากนั้นก็หันไปจับมือกับฉินสือโอวและแซนเดอร์สด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ยินดีกับพวกคุณด้วย เพื่อน ยินดีด้วยๆ พวกคุณทำลายสถิติในด้านสารยึดเกาะที่มีความเหนียวแน่นที่สุดในโลกที่บริษัท 3M รักษาเอาไว้ได้แล้ว! สถิติโลกครั้งใหม่ กำเนิดขึ้นแล้ว!”
บทที่ 1135 มีคนมาแล้ว
การท้าทายประสบความสำเร็จ พวกชาวประมงพากันปรบมือและกอดกันเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความยินดี ฉินสือโอวกับแซนเดอร์สรู้สึกยินดีอย่างแท้จริง นี่หมายความว่ากาวชีวภาพได้รับชื่อเสียงเกียรติยศขั้นแรกมาแล้ว นั่นหมายความว่ากำลังจะมีเงินเข้ากระเป๋าพวกเขาแล้ว!
ไม่ต้องสงสัยเลย ฉินสือโอวไม่มีทางลงทุนเปิดบริษัทเพื่อดำเนินการผลิตกาวชีวภาพด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เขาวางแผนไว้ว่าหลังจากจดทะเบียนสิทธิบัตรให้ของสิ่งนี้เขาก็จะขายมันให้กับบริษัทอื่นๆ อย่างบริษัท 3M ด้วยวิธีนี้บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ก็จะเป็นประโยชน์กับพวกเขาแล้ว
ทั้งสองคนกอดกันหนึ่งครั้ง ฉินสือโอวตบหลังศาสตราจารย์สูงวัยอย่างแรง พร้อมพูดกับเขาด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ทำได้ดีมากครับ ศาสตราจารย์ ถือว่าคุณได้รับความสำเร็จที่งดงามไปหนึ่งอย่างแล้ว! ดีมาก ดีมาก ผมขอแนะนำให้คุณรีบวิจัยเปลือกแมลงสีดำที่ผมให้คุณไปสักหน่อยดีกว่า ผมคิดว่าของสิ่งนั้นจะทำให้คุณประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเดิม!”
แซนเดอร์สกลับนึกว่าตัวเองถูกสบประมาท “ไม่ บอส นี่ไม่ใช่ความสำเร็จที่ดีที่สุดของผม ความสำเร็จที่ดีที่สุดของผมขึ้นอยู่กับปูดันเจเนสส์! ขอแค่ปูพวกนี้มีชีวิตรอดอยู่ในฟาร์มปลา ชื่อเสียงในด้านวิธีการเพาะพันธุ์ของพวกเรา ก็จะดังก้องไปทั่วโลก!”
พอพูดถึงปูดันเจเนสส์ฉินสือโอวก็อยากจะเฆี่ยนตัวเองสักที ตอนนั้นเขาทำอะไรลงไป แอบขนปูล็อตนั้นมาโยนไว้ในฟาร์มปลาเฉยๆ ก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง? แล้วพอถึงเวลาจับไปขาย ก็บอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่อง ใครจะสนใจว่าปูดันเจเนสส์พวกนี้มีชีวิตรอดอยู่ในฟาร์มปลาได้อย่างไร?
ดีเลยทีนี้ แซนเดอร์สยึดติดกับมันไปแล้ว
รอจนฉินสือโอวกับแซนเดอร์สฉลองกันเสร็จแล้ว เคลลีก็มอบเหรียญรางวัลกับประกาศนียบัตรให้เขาหนึ่งฉบับ “นี่ไม่ใช่ใบประกาศนียบัตรอย่างเป็นทางการนะครับ เนื่องจากพวกเราไม่รู้ว่าคุณจะสามารถท้าทายสถิติได้สำเร็จไหม ดังนั้นจึงยังไม่ได้ทำประกาศนียบัตรฉบับจริงออกมา นี่เป็นฉบับเริ่มต้น ซึ่งเราให้ไว้เป็นของที่ระลึก สำหรับใบประกาศนียบัตรบันทึกสถิติโลกอย่างเป็นทางการ พอกลับไปแล้วพวกเราถึงจะทำแล้วส่งเป็นพัสดุมาให้คุณ”
ฉินสือโอวพูดอย่างมีความสุขว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะรอให้ถึงวันนั้นแล้วกันครับ”
เหรียญรางวัลอันนี้ทำมาจากทองเหลือง ข้างบนประทับโลโก้ของบริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดเอาไว้ พร้อมกับคำประกาศอย่างเป็นทางการบางส่วน ซึ่งน่าจะเป็นของที่มอบให้โดยปกติ
ใบประกาศนียบัตรถูกห่อหุ้มด้วยหน้าปกสีแดงสด เนื้อหาที่อยู่ด้านในก็คือข้อความที่เคลลีเพิ่งจะเขียนขึ้นมาเมื่อกี้ และยังมีเลขหมายของเกียรติบัตรอยู่ด้วย ซึ่งนั่นก็คือเลขประจำลำดับสถิติโลกของพวกเขานั่นเอง
การท้าทายสถิติบรรลุผลแล้ว พวกเคลลีก็พากันนั่งเรือออกจากเกาะแฟร์เวลไปที่นครเซนต์จอห์นแล้ว ฉินสือโอวเชิญพวกเขาอยู่ที่นี่ต่อเพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้ฉลองความสำเร็จจากการท้าทายสถิติด้วยกันก่อน แต่เคลลีปฏิเสธเขา โดยเขาพูดรอยยิ้มว่า “รอให้ได้ประกาศนียบัตรฉบับทางการมาก่อนแล้วค่อยจัดปาร์ตี้ดีกว่าครับ น่าเสียดายมาก ที่พวกเราไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพราะยังมีงานที่ต้องทำอยู่”
มาเป็นประจักษ์พยานในการท้าทายสถิติ นี่เป็นงานของพวกเขา
ตลอดฤดูหนาว ที่ฟาร์มปลาไม่ได้จัดงานปาร์ตี้เลยสักครั้ง คราวนี้ถือโอกาสที่ท้าทายบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ได้สำเร็จ เป็นโอกาสในการจัดงานปาร์ตี้ได้พอดี และอีกไม่กี่วันครอบครัวของวินนี่ก็จะมาถึงที่นี่แล้ว จะได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับแขกที่มาจากแดนไกลด้วย
วันที่ 16 เดือนพฤษภาคม อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง ครอบครัวของวินนี่มาถึงที่นี่แล้ว
ฉินสือโอวตั้งใจเปลี่ยนเสื้อผ้าไปใส่ชุดถังจวงสีขาวบริสุทธิ์ เขามีรูปร่างสูงลำตัวตรง หุ่นดีได้สัดส่วน รวมกับนิสัยเฉพาะตัวในเวลาปกติที่ถูกปลูกฝังให้ชอบการอ่านประวัติศาสตร์และวรรณกรรมคลาสสิคของจีน ชุดถังจวงสีขาวจึงดูเข้ากับเขาได้เป็นอย่างดี
วินนี่ช่วยเขาจัดคอเสื้อกับแถบด้านหน้าของเสื้อคลุมจีน จัดระเบียบชุดถังจวงเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็เดินไปสำรวจตัวเองอยู่ที่หน้ากระจก หลังจากนั้นก็ถอยไปข้างหลังแล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาพร้อมกับนั่งย่อทำท่ายืนม้า ปากก็ส่งร้องเสียงประหลาดๆ ออกมาว่า ‘อะจ๊าก’ เหมือนหลี่เสี่ยวหลงสุดๆ ไปเลย!
“แม่งเอ๊ยโคตรเท่เลย!” ท่านชายฉินพูดกับกระจกอย่างทอดถอนใจ “นี่มันหล่อไม่เกรงใจหลักธรรมแห่งสวรรค์เลย ต้องถูกคนอื่นตีแน่ๆ”
พอไวส์มองเห็นการแต่งตัวของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับตะโกนว่า “ฟังฉันให้ดี พวกเราคนจีนไม่ใช่พวกขี้โรคแห่งเอเชีย! อะจ๊าก อะจ๊าก!”
วินนี่ดึงเขาไว้ แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “อยู่นิ่งๆ หน่อย เด็กน้อย นายเป็นคนอเมริกา ไม่ใช่คนจีน”
ไวส์จึงพูดว่า “ผมเป็นคนอเมริกา แต่เป็นจอมยุทธของประเทศจีน! จอมยุทธของอเมริกาชอบเอาแต่พึ่งพาการกลายพันธุ์กับเทคโนโลยีไฮเทค ไม่น่าสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว กังฟูยังมีพลังร้ายกาจกว่าอีก ฉันจะใช้พลังดัชนีชี้แกให้ตาย กอร์ดอน!”
กอร์ดอนเพิ่งเดินลงมาจากข้างบน พอมองเห็นไวส์ตั้งท่าต่อสู้ใส่ตัวเอง เขาก็พูดอย่างจนปัญญาว่า “ไวส์ ถ้าไม่ได้เห็นแก่ความโง่ของนาย ฉันคงฟาดนายจนพ่อแม่นายจำนายไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว!”
ไวส์หันไปฟ้องฉินสือโอวว่า “อาจารย์ กอร์ดอนข่มขู่ผม แถมเขายังดูถูกสำนักของพวกเราอีกต่างหาก ท่านต้องตัดสินความยุติธรรมให้กับศิษย์นะขอรับ!”
ฉินสือโอวตบหัวเขาเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันรู้ ไวส์ แต่อาจารย์จะลงไม้ลงมือกับเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกผู้คนในยุทธภพหัวเราะเยาะหาว่ารังแกคนอ่อนแอเอาได้ เจ้าตั้งใจฝึกกังฟูให้ดี หลังจากฝึกฝนสำเร็จแล้วค่อยไปแก้แค้น โอเคไหม?”
ไวส์พยักหน้ารับ แล้วพูดด้วยความมั่นใจที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม “ถ้าอย่างนั้นผมจะไว้ชีวิตเขาไปก่อน อีกสิบปีหลังจากนี้ ผมจะทำให้เขาเสียใจที่กล้ามายุแหย่ผมในวันนี้!”
วินนี่จับเสี่ยวเถียนกวาโบกมือ เรียกให้ฉินสือโอวรีบมาหา ไวส์วิ่งมาอยู่ข้างๆ ตัวเธอ หลังจากนั้นก็เงยหน้าพูดว่า “อาจารย์หญิง วันนี้ท่านงดงามมากจริงๆ!”
คาดว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะฟอกส์กับสามีจะมาที่นี่ วินนี่ถึงจัดการกับตัวเองโดยพลัน เธอที่ชอบความเป็นธรรมชาติถึงกับยอมแต่งหน้าอ่อนๆ ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมง สะบัดเครื่องสำอางสารพัดอย่างลงไปบนใบหน้า จนทำให้ฉินสือโอวอดทอดถอนใจเมื่อเห็นเธอไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ช่างใจร้ายกับเขาจริงๆ!
เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ เดิมทีฉินสือโอวแนะนำให้วินนี่สวมชุดกี่เพ้า แต่วินนี่ปฏิเสธไป เพราะสวมชุดกี่เพ้าแล้วอุ้มลูกได้ไม่สะดวก เสี่ยวเถียนกวาชอบดึงทึ้งเสื้อผ้าของเธอ ถ้าชุดกี่เพ้ายับก็คงจะดูน่าเกลียด
เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจึงสวมเสื้อโค้ตเข้ารูปสีฟ้าสดใสสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งก็คือเสื้อผ้าที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าวาโกในย่านกินซ่าประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วในราคาสองล้านหกแสนเยนตัวนั้นนั่นเอง ตั้งแต่ซื้อมาเธอยังไม่เคยใส่เลย
เสื้อโค้ตเข้ารูปมีคอปกที่คมชัด ใช้การตัดเย็บแบบสามมิติ ร่างแบบคอปกออกมาได้อย่างงดงามประณีต สำหรับเสื้อผ้าของผู้หญิงนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากกระดูกไหปลาร้ากับแนวไหล่เป็นส่วนสำคัญที่เผยเสน่ห์ของพวกเธอออกมา
ชายเสื้อโค้ตด้านล่างมีลักษณะพิเศษที่โดดเด่นมาก มันเป็นเหมือนกระโปรงพลีทที่บานออก ดูน่ารักและมีชีวิตชีวาทั้งยังช่วยเสริมให้รอบเอวดูสวยขึ้นอีกด้วย เมื่อใส่คู่กันกับถุงน่องซีทรูโปร่งบางเหมือนคริสทัลใส ก็ยิ่งทำให้วินนี่มีทั้งความสวยบริสุทธิ์และความงดงามอ่อนหวานของหญิงสาวดูมีชีวิตชีวาเหมือนสาวน้อย ดึงดูดสายตาได้ดีมาก
พอได้ยินคำชมของไวส์ วินนี่ก็ยิ้มหวานพราวเสน่ห์ เธอยื่นมือออกไป แกล้งทำท่าจะดีดหัวเขาพร้อมกับพูดด้วยความไม่พอใจว่า “ท่านอาจารย์ของนายสอนให้นายพูดจากกะล่อนปลิ้นปล้อนด้วยเหรอ?”
ไวส์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ กอร์ดอนที่อยู่ข้างๆ กันก็พูดขึ้นมาว่า “จริงๆ นะครับ พี่วินนี่ วันนี้พี่สวยมากจริงๆ ผมยังเคยคิดว่าพอคลอดลูกแล้วพี่จะกลายเป็นแม่มดเฒ่าแล้วเสียอีก ที่แท้ผมก็เดาผิด…”
วินนี่หมดปัญญา เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจหรือว่าควรจะโกรธดี
นีลเซ็นสตาร์ทเครื่องยนต์เรือแฟร์เวล ฉินสือโอวกับวินนี่พากันตรงไปที่นครเซนต์จอห์น ฉินสือโอวกำลังอุ้มเสี่ยวเถียนกวาเอาไว้ ส่วนวินนี่ก็กำลังอุ้มต้าป๋าย ระดับการดูแลเอาใจใส่ของวินนี่ที่มีต่อต้าป๋าย ตอนนี้มันมากกว่าที่เธอมีต่อเสี่ยวเถียนกวาเสียอีก
มาถึงสนามบินแล้ว พวกเขารออยู่ประมาณสิบนาทีกว่าๆ พวกมาริโอ้ก็เดินลากกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ออกมาแล้ว
ฉินสือโอวรีบส่งลูกให้กับคุณย่าของวินนี่ แล้วช่วยยกของให้คนชราทั้งสองคน พูดกับพวกเขาซ้ำๆ ว่า “ยินดีต้อนรับสู่นครเซนต์จอห์นครับ คุณปู่คุณย่า ระหว่างทางพวกคุณคงจะเหนื่อยมากๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ?”
ชายชราหัวเราะฮ่าๆ พูดว่า “ไม่เป็นไร นั่งเครื่องบินแค่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ไม่เหนื่อยเลยสักนิด เดินเถอะ พวกเราอยากเห็นฟาร์มปลาของนาย มาริโอ้กับมิแรนดากลับมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าฟาร์มปลาของนายดีอย่างนั้นอย่างนี้ ในที่สุดคนแก่อย่างพวกเราสองคนก็มีโอกาสมาดูบ้างแล้ว”
บทที่ 1136 พี่เขยของภรรยาที่เป็นที่ต้...
คุณปู่คุณย่าของวินนี่ไม่เคยมาที่ฟาร์มปลา และยังไม่เคยได้เจอเสี่ยวเถียนกวามาก่อน
มาริโอ้กับมิแรนดาและคนอื่นๆ เคยมาที่นี่เมื่อช่วงก่อนหน้าที่เสี่ยวเถียนกวาจะคลอดออกมา ทว่าชาวแคนาดาไม่ได้ให้ความสำคัญกับญาติพี่น้องทุกรุ่น ดังนั้นการที่ปู่กับย่ามาเยี่ยมหลานชายหลานสาวจึงเกิดขึ้นได้น้อยมาก พวกเขามาดูเยี่ยมวินนี่อยู่ไม่กี่วันพอเห็นว่าเธอสบายดี ก็พากันกลับแล้ว
ในครั้งนี้พวกเขามากันทั้งครอบครัว ปู่กับย่าของวินนี่ สองสามีภรรยามาริโอ้กับมิแรนดา ฟอกส์กับพี่ใหญ่รูปหล่ออาร์ม็อง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวินนี่ถึงได้แต่งหน้าแต่งตัวอยู่พักใหญ่กว่าจะออกจากบ้าน ฟอกส์ที่สวมชุดเดรสยาวสีชมพูเก็บซ่อนความสวยงามและความน่าหลงใหลที่เคยมีอยู่เป็นประจำ เมื่ออยู่ข้างกายอาร์ม็องเธอกลายเป็นภรรยาที่สวยสง่าและโอนอ่อนผ่อนตาม
อาร์ม็องเป็นผู้ชายในฝันของสาวน้อย รูปลักษณ์ของเขามีความอบอุ่นอ่อนโยนแบบชาวฝรั่งเศส เนื่องจากต้องอยู่กับนักศึกษาและหนังสือตลอดทั้งปี ดังนั้นกลิ่นอายความมีภูมิฐานของเขาจึงมีมากกว่าฉินสือโอว เมื่อยืนอยู่หน้าประตูทางออกสนามบิน ผู้หญิงทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็พากันมองดูเขาทั้งนั้น
วินนี่กอดกับคุณปู่คุณย่าและพ่อแม่ของเธอ พอมองเห็นฟอกส์เธอก็เข้าไปกอดด้วยเช่นกัน ได้เห็นแบบนี้อาร์ม็องก็เผยรอยยิ้มออกมา เมื่อมาอยู่ตรงหน้าเขา วินนี่ก็ไหวไหล่แล้วยื่นมือออกมา “อาจารย์อาร์ม็อง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”
เป็นเวลานานมากแล้วจริงๆ ช่วงเทศกาลคริสต์มาสวินนี่ไม่ได้กลับบ้านเพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่ ครั้งที่แล้วที่ได้พบกับอาร์ม็องก็เมื่อหนึ่งปีครึ่งที่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉินสือโอวได้พบกับครอบครัวของวินนี่
เห็นวินนี่อุ้มต้าป๋ายเอาไว้ตลอดเวลา มาริโอ้ก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา “ลูกชอบโอพอสซัมเวอร์จิเนียขนาดนี้เลยเหรอ? เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยนะ”
วินนี่ไหวไหล่ เธอช่วยต้าป๋ายสางขนที่ยุ่งเหยิงอย่างประคบประหงม พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หนูชอบลูกๆ ของหนูทุกตัวค่ะ พ่อต้องสนใจหนูให้มากกว่านี้สักหน่อย แล้วพ่อจะรู้ว่าหนูเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
มาริโอ้ถูจมูกไปมา ฉินสือโอวไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา แต่หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจเจตนาที่เธอต้องการจะสื่อทันที วินนี่ซ่อนความหมายเจ็บแสบไว้ในนั้น เธอโกรธเคืองที่ตอนเป็นเด็กเขาไม่ได้ดูแลเธอให้ดีเท่าที่ทำกับฟอกส์
ที่จริงแล้ว ตามความเข้าใจของฉินสือโอว มาริโอ้กับมิแรนดาถือว่าเป็นพ่อแม่ที่ดี ที่ตอนเป็นเด็กวินนี่ไม่มีความสุขหลักๆ แล้วน่าจะเป็นเพราะตัวเธอเอง
เด็กหญิงในตอนนั้นไม่ได้เป็นดั่งเทพธิดาเหมือนในตอนนี้ เธอเป็นเด็กหญิงหัวดื้อที่ชอบสร้างปัญหาสารพัดอย่าง ส่วนฟอกส์ก็โตเกินกว่าวัย จนกลายเป็น ‘ลูกบ้านข้างๆ’ การที่มาริโอ้กับภรรยารักลูกสาวคนโตมากกว่าจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยาก
นอกจากนี้แล้ว พอฉินสือโอวได้ดูรูปของพวกเขา ก็พบว่าตอนเป็นเด็กฟอกส์สวยกว่าวินนี่มาก จนอายุสิบสามวินนี่ยังเป็นแค่เด็กที่มีนิสัยทอมบอยอยู่เลย ไม่อย่างนั้นตอนเรียนประถมเธอคงไม่ได้เป็นผู้เล่นหลักในทีมบาสเกตบอลหญิงของโรงเรียน
หลังจากนั้นพอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย อยู่ๆ วินนี่ก็เปลี่ยนจากลูกเป็ดขี้เหร่กลายมาเป็นหงส์งาม ที่งดงามจนทำให้ผู้คนตื่นตะลึง!
หลังจากกลับมาถึงฟาร์มปลา เออร์บักก็พาพวกเด็กๆ มาพบกับคุณปู่คุณย่าของวินนี่ พวกเขานำของขวัญมาด้วย อาร์ม็องเป็นฝ่ายเปิดกระเป๋าเดินทางออกก่อน แล้วนำของที่เตรียมมาให้ทุกๆ คนออกมา
สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวตกตะลึงก็คือ อาร์ม็องเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมาก เขาไม่เพียงแต่มีของขวัญมาให้เออร์บักกับพวกเด็กๆ แต่ยังนำของขวัญชิ้นเล็กๆ สำหรับเป็นที่ระลึกมาให้พวกชาวประมงด้วย เขาถึงขั้นเตรียมของขวัญมาให้พวกหู่เป้าฉงหลัวด้วยซ้ำ…
ฉินสือโอวดึงวินนี่เข้ามาหา แล้วพูดกับเธอเสียงเบาว่า “ผมว่าคราวนี้ครอบครัวคุณสุดยอดมากจริงๆ เตรียมของขวัญมาเยอะแยะขนาดนี้ ช่วยสร้างหน้าตาให้คุณได้เยอะเลยนะ”
วินนี่เงียบไปสักพัก เธอโน้มตัวเข้ามาใกล้หูของเขาแล้วพูดอย่างเบาๆ ว่า “อย่าเซ่อสิคะ นี่น่าจะเป็นของที่อาร์ม็องเตรียมมาทั้งหมดแน่ๆ เรื่องการสร้างภาพสำหรับเขาน่ะ ถือว่าเป็นอัจฉริยะเลยจริงๆ ครอบครัวของฉันก็โดนเขาซื้อเพราะแบบนี้แหละค่ะ”
ตอนที่อาร์ม็องคบกับฟอกส์ คนในบ้านปิดบังเรื่องนี้กับวินนี่แค่คนเดียว เธอคิดมาตลอดว่านี่เป็นความคิดของอาร์ม็อง เพราะเขาเป็นอาจารย์ของวินนี่ เขารู้ว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูอ่อนโยนลึกๆ แล้วหัวแข็งขนาดไหน
เมื่อมาถึงฟาร์มปลา ฉินสือโอวพาปู่กับย่าของวินนี่ไปเยี่ยมชมรอบๆ อย่างง่ายๆ ให้พวกท่านทั้งสองคนได้เห็นหาดทรายสะอาดๆ กับฟาร์มปลาที่รุ่งเรือง
ช่วงพลบค่ำหลังเลิกเรียน อาร์ม็องเห็นมิเชลกำลังฝึกซ้อมบาสเกตบอสอยู่ จึงเสนอความคิดเห็นว่า “พวกเรามาเล่นด้วยกันดีไหม? ฉันก็ชอบบาสเกตบอลมากๆ เลยเหมือนกัน น่าเสียดายที่มีพรสวรรค์ไม่มากพอ”
มิเชลยิ้มอย่างอายๆ แล้วพูดกับเขาว่า “พรสวรรค์ของผมก็ไม่ได้ดีเท่าไรเหมือนกันครับ ถ้าคุณชอบ ถ้าอย่างนั้นก็มาเล่นด้วยกันเถอะ”
อาร์ม็องมีความสามารถในการเล่นบาสเกตบอลแค่ทั่วๆ ไปจริงๆ แต่นั่นก็เพราะเทียบกันกับปรมาจารย์อย่างฉินสือโอวและกัวซง ศักยภาพของเขามีอยู่เท่าๆ กันกับมิเชลพอดี หากใช้ประโยชน์จากร่างกายที่แข็งแรงบึกบึนก็จะเล่นได้เสมอกันกับเขา ดังนั้นมิเชลจึงเล่นบาสเกตบอลด้วยกันกับเขาได้อย่างเต็มที่
ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ ฉินสือโอวจึงรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า มิเชลที่เป็นคนโลกส่วนตัวสูงกลับสามารถคุยเล่นกับอาร์ม็องได้อย่างถูกคอ ทันใดนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกอิจฉาริษยาขึ้นมาทันที
วินนี่สังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของสามี ตอนที่กำลังทำอาหารอยู่ด้วยกัน เธอจึงถามเขาเสียงเบาว่า “เรื่องอาร์ม็อง ถ้าปล่อยวางได้จะดีที่สุดนะคะ รู้ไหมว่าตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเขามีฉายาว่าอะไร? รู้ไหมคะว่าพวกเราเรียกเขาว่าอย่างไร?”
ฉินสือโอวส่ายหัวเหมือนกลองป๋องแป๋ง
“อาจารย์เจ้าเสน่ห์” วินนี่พูดพร้อมไหวไหล่
อาหารมื้อนี้มีไว้เพื่อต้อนรับพ่อแม่ภรรยาและคนในครอบครัวของเธอ ฉินสือโอวจึงขอให้คุณลุงฮิคสันมาช่วยทำอาหาร ขณะเดียวกันก็บอกกับเขาว่า เร็วๆ นี้เขาวางแผนจะจัดงานปาร์ตี้ ถึงตอนนั้นจะขอให้คุณลุงมาเป็นพ่อครัวใหญ่
พอคุณลุงฮิคสันรู้ว่าเขาสร้างสถิติลงบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในใจความสำคัญสำหรับการจัดปาร์ตี้ ทันใดนั้นคุณลุงฮิคสันก็รู้สึกฮึกเหิมคึกคักขึ้นมาทันที จึงตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ดีมากไอ้หนู นายเยี่ยมยอดมากจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะสร้างสถิติโลกได้! ดีมาก ฉันไม่ได้จะเอาอาหารมาอย่างเดียวนะ แต่ฉันจะเอาไอซ์ไวน์ที่ฉันเพิ่งหมักจนได้ที่มาด้วย!”
ฉินสือโอวรู้สึกสนใจไอซ์ไวน์ล็อตนี้มาก เขาจึงถามว่า “ดื่มได้แล้วเหรอครับ?”
ชายชราหัวเราะเสียงดังแล้วตอบเขาว่า “แน่นอนสิ ดื่มได้ตั้งนานแล้ว แต่ต้องบ่มจนถึงระยะที่เป็นไวน์แก่ถึงจะมีรสชาติดีที่สุด ดังนั้นฉันเลยยังไม่ได้เอาออกมา ตอนนี้นายสร้างสถิติโลกได้สำเร็จ แน่นอนว่าต้องใช้มันฉลองความสำเร็จให้กับนายแทนแชมเปญอยู่แล้ว”
วิธีหมักไอซ์ไวน์มีอยู่หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีการแบบดั้งเดิม เด็ดกิ่งก้านออก คั้นน้ำออกมา หลังจากนั้นก็นำเนื้อ เมล็ดและเปลือกใส่ลงไปหมักไว้ในถังแล้วเริ่มหมัก ในระหว่างขั้นตอนการหมักแอลกอฮอล์ เม็ดสีและกลิ่นสัมผัสจะถูกสกัดออกมาพร้อมกัน
ในการหมักด้วยวิธีนี้ จะต้องใช้แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในปริมาณต่ำจัดการกับถังหมักก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์เกิดการปนเปื้อน
ขณะที่น้ำองุ่นถูกหมักจนเกิดเป็นแอลกอฮอล์อยู่ในถังใบใหญ่ เปลือกและเนื้อขององุ่นที่แช่อยู่ในน้ำองุ่น ภายใน 5-7 วันก็จะปล่อยเม็ดสีและความทนทานของไวน์ออกมา หลังจากนั้นก็จะสามารถดื่มได้แล้ว
แต่ก็เหมือนกับที่ฮิคสันพูด ถ้าอยากได้รสสัมผัสที่ดี ก็ต้องดื่มไวน์แก่ ไวน์แก่ต้องใช้เวลาหมักตั้งแต่ครึ่งปีไปจนถึงสองปี ตามทฤษฎีแล้วในระยะเวลานี้ ยิ่งหมักได้นานเท่าไรรสสัมผัสก็จะยิ่งดี
ตอนนี้ระยะเวลาหมักบ่มยังไม่ถึงสองปี แต่ก็มีรสสัมผัสออกมาแล้ว ตาเฒ่าบอกว่าเพราะเก็บองุ่นจากฉินสือโอวไปได้เยอะ เขาเลยหมักไวน์ได้ถึงยี่สิบกว่าถัง ปีนี้สามารถนำมาดื่มได้ตามสบาย
ทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว พาวลิสก็ไปบำรุงรักษารสซีบิสกิตคันเล็กของเขาตามปกติ อาร์ม็องไม่มีอะไรทำ จึงเข้าไปเล่นเป็นเพื่อนเขา เขาพอจะรู้วิธีซ่อมรถอยู่บ้าง สามารถสอนเทคนิคซ่อมรถง่ายๆ บางส่วนให้กับพาวลิสได้ ทำให้พาวลิสคึกคักดีใจเป็นอย่างมาก
พอเป็นแบบนี้ท่านชายฉินก็เริ่มซึมแล้ว เขานึกว่าเขาเป็นลูกเขยที่ยอดเยี่ยม แต่พออาร์ม็องมา ก็ดูเหมือนว่าเลเวลของเขาจะต่ำเกินไปหน่อย
บทที่ 1137 สิ่งที่คุณไม่รู้
วินนี่เป็นคนฉลาดหลักแหลม มองออกว่าอารมณ์ของฉินสือโอวผิดปกติ เธอจึงกอดสามีของเธอไว้จากทางด้านหลัง แล้วพูดกับเขาอย่างอ่อนโยนว่า “จุ๊บๆ นะคะ จุ๊บๆ นะ ที่รัก สำหรับฉันคุณเป็นสามีที่ดีที่สุดเลยนะคะ”
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า “อาจจะดีที่สุดแค่สำหรับคุณ สำหรับคนอื่นๆ แล้วดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”
ได้เห็นอาร์ม็อง แค่ครั้งแรกเขาก็เริ่มมีความคิดว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้แล้ว วินนี่กับฟอกส์เป็นผู้หญิงที่มีความคล้ายคลึงกัน อีกทั้งในตอนนี้วินนี่ยังเหนือกว่าอยู่หลายส่วน ถ้าเขาไม่ได้มีหัวใจโพไซดอน เขาคงไม่ได้โคจรมาเจอกับวินนี่
ท่านชายฉินเดินขึ้นบันไดไปด้วยอารมณ์ที่ตกต่ำลง วินนี่อดยิ้มออกมาไม่ได้ เธอเดินตามขึ้นไปดึงมือเขาแล้วพูดกับเขาว่า “เอาล่ะๆ ทำไมคุณถึงทำตัวเหมือนเด็กเลยล่ะค่ะ? เรื่องแบบนี้ก็ต้องเอาไปเทียบกันเหรอคะ? ทำไมคุณต้องอยากเป็นสามีที่ดีในสายตาของคนอื่นด้วยล่ะค่ะ? อาร์ม็องก็ดี แต่เขาจะเทียบกับเบคแคมได้ไหมล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นกระทั่งเบคแคมผมก็เทียบไม่ได้เลยเหรอ?” ท่านชายฉินรู้สึกว่าความมั่นใจของตัวเองถูกทำลายลงอีกครั้งแล้ว
วินนี่บอกกับเขาว่า “ต้องไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้วค่ะ สำหรับฉันแล้ว คุณดีกว่าเบคแคมตั้งเยอะ แต่แค่อาร์ม็องน่ะเทียบกับเขาไม่ได้ก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรคุณก็อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ ดีไหมคะ?”
ฉินสือโอวพยักหน้า กลับมานอนเอนหลังอยู่บนเตียงในห้องนอน ต้าป๋ายกำลังนอนฟุบอยู่ในรังเล็กๆ ข้างหัวเตียงของมัน พอเห็นว่าคุณพ่ออารมณ์ไม่ดี มันก็ลุกขึ้นมาแล้วปีนขึ้นมาบนเตียงในพริบตาเดียว นั่งยองๆ ลงไปบนหมอน ต้าป๋ายแลบลิ้นเลียหูของเขา ทำอย่างนี้เพื่อที่จะปลอบโยนเขา
แต่นั่นกลับทำให้ท่านชายฉินยิ่งเสียใจ ให้ตายสิ เขามันอ่อนด้อยเกินไปแล้ว กระทั่งสัตว์เลี้ยงพวกนี้ยังต้องมาปลอบเขา
ฉินสือโอวแกล้งแหย่ต้าป๋ายเล่น ที่ประตูก็มีเสียง ‘เอี๊ยด’ ดังขึ้นมา หัวของหู่จือกับเป้าจือปรากฏขึ้นพร้อมกัน พวกมันลองมองๆ ดูแล้วแสยะปากทำสีหน้ายิ้มแย้มออกมา หลังจากนั้นก็ผลักประตูแล้วมุดเข้ามาข้างใน
สุนัขแลบราดอร์สามารถเปิดประตูได้เอง ฉินสือโอวจึงไม่ได้คิดอะไรมาก เขาลุกขึ้นแล้วอ้าแขนออกบอกเป็นนัยว่าให้พวกมันกระโดดเข้ามาสู่อ้อมแขนของตัวเอง หลังจากนั้น พวกซิมบ้า หลัวปอกับฉงต้าที่ตามหู่จือกับเป้าจือมาติดๆ ก็มุดเข้ามาข้างในเหมือนกัน
เห็นเหล่าสัตว์เลี้ยงทยอยกันปรากฏตัว ฉินสือโอวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่หู่จือเป้าจือที่เปิดประตูเข้ามา เห็นได้ชัดว่าเป็นวินนี่ต่างหากที่พาพวกมันเข้ามาหาเขา
เขาลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง วินนี่เปิดประตูแล้วเดินเข้ามาด้านใน ในอ้อมอกกำลังอุ้มกระรอกเสี่ยวหมิงกับลูกนกอินทรีทองตัวอ้วนตุ๊ต๊ะเอาไว้
“แคลร์เริ่มอ้วนเกินไปหน่อยแล้ว” วินนี่บ่นออกมา
ลูกนกอินทรีทองยื่นคอร้องแควกๆ ออกมาสองครั้ง ฉินสือโอวรับเอามันมา แล้วดันมันให้ตกลงไปจากบนเตียง
บนพื้นมีพรมผืนหนา ฉินสือโอวจึงไม่กังวลว่าหล่นลงไปแล้วมันจะเป็นอะไรไป ดังนั้นเขาเลยผลักมันลงไปอย่างแน่วแน่มากๆ
พอลูกนกอินทรีทองถูกผลักตกลงมาจากเตียง มันก็เผลอกระพือปีกด้วยจิตใต้สำนึก ถึงแม้ว่าตัวจะค่อนข้างอ้วน ทว่ามันก็สามารถบินร่อนอยู่กลางอากาศได้สำเร็จ แล้วร่อนลงมาบนพรมได้อย่างมั่นคง
นี่ทำให้จิตใจของฉินสือโอวรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา คาดไม่ถึงว่าลูกนกอินทรีทองจะฝึกบินได้สำเร็จแบบนี้ ตอนนี้ยังมีหนทางอีกยาวไกลให้มันเดินก่อนที่มันจะบินได้ แต่มันก็เริ่มก้าวย่างออกมาได้อย่างดีแล้วหนึ่งก้าว ความสามารถที่มันแสดงออกมาในครั้งนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าบุชตอนที่มีอายุเท่านี้เสียอีก
เพียงแต่มันก็เห็นได้ชัดว่า ลูกนกอินทรีทองไม่ชอบกระพือปีกบิน มันชอบใช้ขาที่มีพละกำลังของมันในการวิ่งมากกว่า เหมือนกันกับห่านขาวอย่างไรอย่างนั้น หลังจากร่อนลงบนพื้น มันเหยียบอยู่บนพรมนุ่มๆ ร้องแควกๆ ขณะที่กำลังวิ่งวุ่นไปทั่วห้อง ดูท่าทางคึกคักดีใจมาก
วินนี่ขึ้นมานอนกับฉินสือโอวบนเตียง เธอแนบศีรษะไว้บนอกของเขา พร้อมกับโอบกอดเขาไว้และถามเขาว่า “จริงๆ แล้วอะไรที่ทำให้คุณไม่มีความสุขกันแน่คะ?”
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมาแล้วบอกกับเธอว่า “ผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนั้นเลย ถ้าแต่งงานกับผม คุณจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไหมครับ?”
วินนี่ถามเขาด้วยความตกใจว่า “เฮ้ นี่คือพูดจริงหรือเปล่าคะ?”
ฉินสือโอวพยักหน้ารับ เขารู้สึกเศร้าซึมอยู่นิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะความกังวลจากการแต่งงาน ที่ทำให้ท่านชายฉินที่ปกติแล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็มีจิตใจที่นิ่งสงบอยู่เสมอ อยู่ๆ ก็กลายเป็นคนอ่อนไหวขึ้นมาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวของวินนี่ จนต้องเป็นทุกข์เป็นร้อนเพราะเรื่องผลได้ผลเสีย
วินนี่โอบกอดเขาไว้ แล้วพูดว่า “โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาคุยกันอย่างจริงจังกัน ที่รักคะ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เรารู้จักกันเลยดีไหมคะ?”
“ครั้งแรกที่ได้เจอกันตอนที่อยู่บนเครื่องบิน ฉันไม่มีความประทับใจอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ถึงฉันจะปลอบคุณ แต่ฉันก็ปลอบคนอื่นมาตั้งมากมาย ครั้งที่สองเป็นเพราะคุณเสียสละที่นั่งชั้นหนึ่งให้กับคนแก่ที่ต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นฉันแค่รู้สึกว่าคุณเป็นคนหนุ่มที่ถูกสั่งสอนมาดี”
“ต่อมา พวกเราก็ได้พบกันบนเครื่องบินอีกครั้ง ฉันคิดว่าอย่างน้อยคุณก็เป็นคนที่มีความตั้งใจ ตอนนั้นคุณอยากจีบฉันใช่ไหมล่ะค่ะ? รู้ไหมคะว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจให้โอกาสคุณ? เพราะทั้งสามครั้งที่คุณขึ้นเครื่องบิน ล้วนแต่เป็นไฟล์ทบินเดียวกันกับฉันทั้งนั้น”
“มันพิสูจน์ให้เห็นว่าพรหมลิขิตทำให้พวกเราได้เจอกันเหรอครับ?” ฉินสือโอวถาม
วินนี่แบะปากพูดว่า “จะบ้าเหรอคะ พรหมลิขิตน่ะมีไว้หลอกเด็กผู้หญิงเท่านั้นแหละ พวกเราอยู่ด้วยกันทั้งสามไฟล์ทบิน เห็นได้ชัดว่าคุณตั้งใจสอบถามไฟล์ทบินของฉันแล้วค่อยจองตั๋วเดินทาง ฉันคิดว่าผู้ชายที่เต็มใจจะแสดงความรู้สึกดีๆ ต่อผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเงียบๆ แบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็ควรให้โอกาสเขาได้ตามจีบเธอสักหน่อย ใช่ไหมล่ะค่ะ?”
ฉินสือโอวเกากกหูแกรกๆ เขานึกขึ้นมาได้แล้ว นั่นเป็นเพราะเออร์บักที่ช่วยจัดการให้เขา ชายชราเป็นคนเจาะจงเลือกไฟล์ทบิน เพราะอยากให้ฉินสือโอวได้พบกันวินนี่บ่อยขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการเกิดโอกาสที่พวกเขาจะสปาร์คกัน
เขาต้องขอบคุณเออร์บัก สิ่งที่คุณปู่ทำให้เขามีอยู่มากมายเหลือเกิน ถ้าไม่มีคุณปู่ ตอนนี้เขาคงไม่มีทางได้อยู่กับวินนี่
“หลังจากนั้น พวกเราก็ไปเดินชมวิวที่โทรอนโต เข้าชมงานนิทรรศการเรือยอชต์ แล้วกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ฟาร์มปลาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในตอนนั้นฉันรู้สึกสับสนมากๆ เพราะวันเวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ฉันคิดว่าคุณมีข้อเสียอยู่หลายอย่าง ไม่มีจิตใจที่จะแสวงหาความก้าวหน้า กลัวว่าตัวเองจะสู้คนอื่นไม่ได้แถมยังอวดดีอีก อ่อนไหวขี้ระแวง กล้าคิดแต่ไม่กล้าทำ…”
“ผมมันไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ฉินสือโอวท้อใจยิ่งกว่าเดิมแล้ว
วินนี่พูดว่า “ฟังฉันให้จบสิคะ! แต่หลังจากได้พบหู่จือกับเป้าจือ ความคิดที่ฉันมีต่อคุณก็เริ่มเปลี่ยน คุณยอมเลี้ยงลูกหมาจรจัดเนื้อตัวสกปรกมอมแมมทั้งสองตัว คุณอาบน้ำร้อนให้พวกมัน เลี้ยงดูพวกมันด้วยความอดทน จนพวกมันกลายเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม”
พอพูดจบ วินนี่ก็เกาะกรามล่างของหู่จือกับเป้าจือ สุนัขแลบราดอร์ยื่นเท้าออกมากอดแขนเธอเอาไว้อย่างซุกซน พร้อมกับหรี่ตาเล็กน้อย แสดงสีหน้าของความสุขออกมา
“ในตอนนั้นความคิดของฉันก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ อย่างน้อยคุณก็เป็นผู้ชายที่มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ผู้ชายที่มีความรักอยู่ในหัวใจคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอก ใช่ไหมล่ะคะ?”
“พอเรายิ่งรู้จักกัน ฉันถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านั้นฉันยังรู้จักคุณไม่มากพอ เลยเข้าใจคุณผิด คุณไม่ใช่คนที่น้อยใจในโชคชะตาแต่ทำตัวอวดดี แล้วก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีจิตใจที่จะแสวงหาความก้าวหน้า แต่ยินดีที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความคิดจิตใจที่กว้างขวาง”
“ทีละเล็กทีละน้อย ทัศนคติที่ฉันมีต่อคุณก็เปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันมองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากตัวคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายคนอื่นไม่มี จิตใจที่มีความเมตตา มีความรับผิดชอบ ความเข้มแข็ง รู้จักการให้อภัย ฉิน คุณรู้ไหมคะว่าฉันหลงรักคุณตั้งแต่ตอนไหน?”
วินนี่มองเขาด้วยสายตาลึกซึ้ง ดวงตาคู่นั้นที่เป็นประกายระยิบระยับ ซ่อนสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจเอาไว้
ฉินสือโอวส่ายหน้า เขาไม่รู้จริงๆ ว่าวินนี่ตกหลุมรักเขาตั้งแต่ตอนไหน ถึงอย่างไรเขาก็รู้สึกว่าถ้าระหว่างคนทั้งสองคนมีความรู้สึกให้กันมันก็จะสำเร็จลงได้เอง
“ที่จริงก็ตั้งนานแล้ว นานกว่าที่คิดเสียอีก ครั้งแรกที่พวกเราได้เจอกับอีวิลสัน ตอนนั้นคุณดื่มเหล้าจนเมา พวกเราเจอเขาในอุโมงค์ หลังจากนั้นสิ่งแรกที่คุณทำก็คือดึงฉันมาไว้ทางด้านหลัง” วินนี่ลูบแก้มของเขา “ในตอนนั้นฉันก็รู้แล้วว่า หลังจากนั้นฉันอาจจะต้องตกอยู่ในกำมือของคุณแล้ว”
นานมากแล้วจริงๆ ในตอนนั้นฉินสือโอวยังไม่ทันได้เริ่มจีบวินนี่อย่างจริงจังเลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น