เทพปีศาจหวนคืน 1131-1132
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1131 ปรับแต่งวิญญาณของไห่ฟาน
แปลโดย iPAT
‘เปรียบเทียบกับไห่ฟาน แม้ข้าจะมีวิญญาณอมตะมากมาย แต่ข้าก็ไม่สมารถใช้ประโยชน์จากพวกมันได้ในระดับนี้’ ฟางหยวนคิด
มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานทำให้เขาตระหนักถึงปัญหามากมายของตนเอง แต่เขาก็ไม่ลังเล ‘มันยอดเยี่ยมมากแล้วที่ข้าสามารถเลี้ยงดูวิญญาณอมตะมากมาย’
ผู้อมตะต้องให้ความสำคัญกับภัยพิบัติ ยิ่งการบ่มเพาะสูงเท่าใด ภัยพิบัติที่พวกเขาต้องเผชิญก็ยิ่งรุนแรงเท่านั้น
ไห่ฟานมีวิญญาณอมตะเพียงไม่กี่ดวง ภาระในการให้อาหารพวกมันค่อนข้างน้อย ขณะที่เขามีวิธีการมากมายและสามารถจัดการกับปัญหาทุกประเภท
ไห่ฟานเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลฮวงจินที่โดดเด่น เขาให้ความสำคัญกับครอบครัวและทิ้งมรดกที่แท้จริงของตนเอาไว้เบื้องหลัง
ไห่ฟานไม่มีหนึ่งในสิบสุดยอดกายา มิติช่องว่างของเขามีศักยภาพและทรัพยากรที่จำกัด
โดยรวมแล้วการเลี้ยงดูวิญญาณอมตะเพียงไม่กี่ดวงแต่มีท่าไม้ตายจำนวนมากถือเป็นทางเลือกที่ฉลาด
แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไป
ความแตกต่างประการแรกคือมิติช่องว่างของเขา
มิติช่องว่างจักรพรรดิมีศักยภาพอันยิ่งใหญ่ การให้อาหารวิญญาณอมตะจำนวนมากเป็นภาระใหญ่หลวงแต่ฟางหยวนสามารถเลี้ยงดูพวกมัน
ความแตกต่างที่สองคือฟางหยวนถือเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ
เขาดูแลเพียงตัวเองเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเผ่าหรือให้ความสนใจกับบุตรหลาน
นี่เป็นข้อดีของการเป็นคนนอกรีต
ข้อได้เปรียบของชนเผ่าคือการแบ่งปันทรัพยากรและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในกรณีของไห่ฟาน เขาเป็นผู้มอบผลประโยชน์ให้แก่เผ่า
แต่ไห่ฟานไม่เคยคิดที่จะออกจากเผ่า
เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมของชนเผ่า ระหว่างการเติบโต เขาได้รับความช่วยเหลือมากมายจากชนเผ่า เขาคุ้นเคยกับสายสัมพันธ์ มิตรภาพ และเครือญาติ
สภาพแวดล้อมนี้ส่งอิทธิพลต่อความคิดของเขาเป็นอย่างมาก
ในทางตรงข้ามฟางหยวนไม่เคยถูกจำกัดด้วยสายสัมพันธ์ เขาแทบไม่มีภาระในด้านนี้ แม้เขาจะเข้าร่วมนิกายหลางหยา แต่เขาก็ต้องการใช้ประโยชน์จากนิกายเท่านั้น
ความแตกต่างที่สามคือฟางหยวนมีแรงกดดันมหาศาลในการเอาชีวิตรอด
เขาต้องการวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นเขาสามารถใช้วิญญาณอมตะดาบบินในการโจมตีและใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเพื่อล่าถอย
แม้ฟางหยวนจะไม่มีท่าไม้ตายมากมาย เขาก็ยังสามารถใช้วิญญาณอมตะเพื่อจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ
ในความเป็นจริงการมีวิญญาณอมตะหลายดวงมีประโยชน์อย่างมากต่อการสร้างท่าไม้ตายอมตะ
ท่าไม้ตายอมตะคือการผสานงานระหว่างวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์ ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิตที่ใช้วิญญาณอมตะดาบบินเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งดาบอีกเล็กน้อย
หากฟางหยวนไม่มีวิญญาณอมตะดาบบินแต่มีเพียงวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ เขาจะสามารถใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเพื่อทดแทนวิญญาณอมตะดาบบินหรือไม่?
เนื่องจากทั้งสองเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบเหมือนกัน โดยพื้นฐานพวกมันสามารถใช้แทนกันได้แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างเล็กน้อย
วิญญาณอมตะดาบบินเป็นวิญญาณที่ใช้ในการโจมตี มันเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างท่าไม้ตายอมตะสายโจมตี
แต่วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเป็นวิญญาณสายเคลื่อนไหว หากใช้มันแทนวิญญาณอมตะดาบบิน เขาต้องเปลี่ยนวิญญาณระดับมนุษย์มากมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน ด้วยวิธีนี้ขั้นตอนการใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิตจะกลายเป็นยุ่งยากมากขึ้นและมีโอกาสล้มเหลวสูงขึ้น
เมื่อพิจารณาในภาพรวม วิธีการของไห่ฟานเหมาะสมกับคนส่วนใหญ่ แต่ไม่เหมาะสมกับฟางหยวน
การเลี้ยงวิญญาณอมตะจำนวนมากเหมาะสมกับฟางหยวนมากที่สุด หากผู้อมตะคนอื่นใช้วิธีนี้ มันจะถือเป็นการรนหาที่ตาย
ฟางหยวนยังอ่านต่อไป
หลังจากท่าไม้ตายอมตะ ไห่ฟานยังมีท่าไม้ตายระดับมนุษย์
ส่วนใหญ่พวกมันเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่โดยพื้นฐาน ฟางหยวนไม่ต้องการพวกมันอีกต่อไป
ระดับอมตะและระดับมนุษย์แตกต่างกันมาก ท่าไม้ตายระดับมนุษย์มีประโยชน์เพียงเล็กน้อย หลังจากทั้งหมดฟางหยวนมีท่าไม้ตายที่ดีอยู่แล้ว
เขามีท่าไม้ตายระดับมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งเลือดอยู่มากมาย
นอกจากท่าไม้ตายระดับมนุษย์ยังมีท่าไม้ตายที่ไม่สมบูรณ์ทั้งระดับอมตะและระดับมนุษย์
ความสมบูรณ์ของพวกมันแตกต่างกันไป บางส่วนมีเพียงแนวความคิดหรือเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น
พวกมันเป็นสิ่งที่ไห่ฟานยังไม่ประสบความสำเร็จ
ฟางหยวนกวาดตามองและไม่มีสิ่งใดสามารถดึงดูดความสนใจของเขา
ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนต่ำเกินไปขณะที่เขาไม่สามารถใช้งานแสงแห่งปัญญา
‘หลังจากกลับไป ข้าต้องฝึกฝนท่าไม้ตายเหล่านี้ให้ชำนาญ’ ฟางหยวนวางแผน
การใช้ท่าไม้ตายอาจจบลงด้วยความล้มเหลว
หากมันล้มเหลวระหว่างการต่อสู้ ผู้อมตะจะได้รับผลกระทบย้อนกลับ ในช่วงเวลาสำคัญ มันจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง มันอาจส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้หรืออาจเป็นสิ่งกำหนดชีวิตและความตาย
ดังนั้นผู้อมตะจึงต้องมีความชำนาญในการใช้ท่าไม้ตายของพวกเขา
เรื่องนี้ต้องใช้เงินทุนบางส่วนเช่นกัน
วิญญาณระดับมนุษย์ที่เป็นส่วนสนับสนุนท่าไม้ตายจำเป็นต้องซื้อ การฝึกฝนท่าไม้ตายต้องใช้พลังงานอมตะ และการฝึกซ้อมย่อมต้องเกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งครั้ง
เงินเป็นสิ่งจำเป็น!
ด้วยเหตุนี้การพัฒนามิติช่องว่างจึงมีความสำคัญต่อการบ่มเพาะของผู้อมตะ
เงินเป็นรากฐานของกองทัพ
การต่อสู้เป็นเรื่องอันตราย พวกเขาจะไม่รับความเสี่ยงเว้นเพียงจะมีผลประโยชน์หรือความขัดแย้งที่ใหญ่พอ มิฉะนั้นผู้อมตะส่วนใหญ่มักจะบ่มเพาะอยู่อย่างสันติ
‘ในการฝึกท่าไม้ตายจำนวนมาก ข้าต้องการเงินทุนขนาดใหญ่’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว เขารู้สึกทั้งดีใจและกังวล
หลังจากนั้นฟางหยวนก็อ่านไปถึงส่วนของเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณ
เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ!
มีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณปีอมตะห้าเคล็ดลับ
ไห่ฟานทิ้งประสบการณ์ของเขาเอาไว้อย่างละเอียด มันเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
จากเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะทั้งห้า ไห่ฟานใช้เคล็ดลับสุดท้ายมากที่สุด
มันเป็นเคล็ดลับที่ไห่ฟานสร้างขึ้นในภายหลัง มันใช้วัตถุดิบน้อยที่สุดและมีอัตราความสำเร็จสูงที่สุด มันใช้เวลาและพลังจิตน้อยที่สุดเช่นกัน โดยรวมมันเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมที่ยอดเยี่ยม
หลังจากพัฒนาเคล็ดลับนี้ ไห่ฟานละทิ้งสี่เคล็ดลับก่อนหน้าทันที
แต่เพราะธรรมชาติที่รอบคอบของไห่ฟาน เขาจึงทิ้งเคล็ดลับทั้งหมดเอาไว้
‘วิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำสามารถผลิตวิญญาณปีระดับมนุษย์อย่างไม่สิ้นสุด วิญญาณปีเหล่านี้สามารถใช้ยกระดับวิญญาณปีอมตะ มันค่อนข้างสะดวก’
ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความชื่นชม
ต่อไปคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะราชินีมด
ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะดวงนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงกวาดตามองเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้ก็น่าตกใจมาก
มีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้นับร้อยเคล็ดลับ!
และทั้งหมดล้วนเป็นเคล็ดลับที่สมบูรณ์
บางส่วนเป็นเคล็ดลับระดับหก บางส่วนเป็นเคล็ดลับระดับเจ็ด และยังมีสองหรือสามเคล็ดลับที่เป็นเคล็ดลับระดับแปด
นอกจากนั้นยังมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณบนเส้นทางสายอื่นเช่นเส้นทางแห่งไฟหรือเส้นทางแห่งโชค
เปรียบเทียบกับท่าไม้ตายอมตะ เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะเหล่านี้ไม่ค่อยเป็นระเบียบ มีทั้งเคล็ดลับที่ถูกคิดค้นขึ้นใหม่และเคล็ดลับจากยุคบรรพกาล
ท่ามกลางเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะทั้งหมด ไห่ฟานให้ความสำคัญกับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำมากที่สุด
วิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายฟ้าเป็นผลงานชิ้นสำคัญของไห่ฟาน
เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากการหลอมรวมวิญญาณปี
ไห่ฟานอธิบายขั้นตอนทั้งหมดของการหลอมรวมวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำไว้อย่างละเอียด เพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้ เขาต้องติดหนี้ผู้คนมากมาย
ไห่ฟานทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อหลอมรวมมัน หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จ
แต่กระทั่งเขาจะประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ แต่ไห่ฟานก็ยังต้องชดใช้หนี้สินต่อไปอีกหลายปี
เขาเตือนผู้สืบทอดให้เรียนรู้จากการทำงานหนักของบรรพชน หากพวกเขาบรรลุระดับแปดในอนาคต พวกเขาควรระวังหากต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด
อ่านถึงจุดนี้ ฟางหยวนต้องนึกถึงปีศาจอมตะเซี่ยหูอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนี้สหายเฒ่าผู้นี้กำลังหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด
วิญญาณอมตะดวงนี้มีค่ามากเพราะมันก็คือวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์! ตามคำกล่าวของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยโชคของเทพอมตะตะวันเดือด
การหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดถือเป็นการพนันที่ยิ่งใหญ่
ปีศาจอมตะเซี่ยหูมีหม่าหงหยุนเป็นส่วนประกอบหลัก นี่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของเขา แต่ถึงกระนั้นในการรวบรวมทรัพยากรอมตะ เขายังต้องละทิ้งชื่อเสียงเช่นการลอบเข้าไปขโมยศพผีดิบอมตะในสุสานผีดิบ เขายังปล้นสะดมทรัพยากรของเผ่าไห่ การกระทำของเขาทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะตกสู่ความสับสนวุ่นวาย ทุกคนต่างรู้สึกกังวล
เหยากวงพยายามหลอมรวมวิญญาณอมตะฟื้นคืนจากความตาย นี่เป็นวิญญาณอมตะระดับแปดเช่นกัน
ทุกคนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงของการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด
แต่เหตุใดพวกเขายังพยายามหลอมรวมพวกมัน?
เหตุผลก็คือผู้อมตะระดับแปดที่มีวิญญาณอมตะระดับแปดกับผู้อมตะระดับแปดที่ไม่มีวิญญาณอมตะระดับแปดถือเป็นสองสถานะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผู้อมตะระดับแปดต้องเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติขณะที่อายุขัยของบางคนใกล้สิ้นสุด หลายครั้งที่พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องแบกรับความเสี่ยง
ในกรณีของปีศาจอมตะเซี่ยหู เขาทำสิ่งนี้เพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง สำหรับเหยากวง อายุขัยของเขากำลังจะสิ้นสุด เขาต้องการยืดอายุของตนเอง
ภัยพิบัติไม่ใช่ปัญหาของไห่ฟานแต่เขามีอายุขัยที่จำกัดและเสียชีวิตในที่สุด
‘ภัยพิบัติและอายุขัย’ ฟางหยวนรู้ว่าในการแสวงหาชีวิตนิรันดร์ เขาต้องก้าวข้ามปัญหาสองข้อนี้ไปให้ได้
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1132 ยึดครองถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
แปลโดย iPAT
หลังจากเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะยังมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์
ฟางหยวนรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่พบเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณทั้งหมด
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขามากที่สุดคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณวัน วิญญาณเดือน และวิญญาณปีระดับมนุษย์
‘ข้าสามารถซื้อวิญญาณระดับมนุษย์เหล่านี้ได้ในสวรรค์สีเหลืองและยังสามารถหลอมรวมพวกมันด้วยตนเอง แต่การหลอมรวมด้วยตนเองจะทำให้ข้าเสียเวลา ข้าควรขอให้มนุษย์ขนของนิกายหลางหยาหลอมรวมพวกมันให้ข้า’
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ฟางหยวนต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนิกายหลางหยาเริ่มห่างเหิน เขาต้องปรับปรุงความสัมพันธ์หากต้องการความช่วยเหลือ
ฟางหยวนยังอ่านข้อมูลต่อไป
หลังจากเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์ยังมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์
พวกมันมีความสมบูรณ์ที่แตกต่างกัน
ต่อไปเป็นประสบการณ์ชีวิตของไห่ฟานรวมถึงเคล็ดลับเกี่ยวกับการอนุมานบนเส้นทางแห่งปัญญา
ฟางหยวนยิ้มเมื่อเห็นสิ่งนี้
เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งปัญญามาจากตงฟางชางฟาน ประสบการณ์ของไห่ฟานยังค่อนข้างตื้นเขินในมุมมองของฟางหยวน
ทุกคนมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน แม้ไห่ฟานจะเป็นตัวตนที่โดดเด่นแต่เขาก็มีจุดอ่อนเช่นกัน
เช่นเดียวกับเทพอมตะตะวันเดือดและเทพปีศาจปล้นสวรรค์ พวกขายังต้องร้องขอให้บรรพชนผมยาวช่วยหลอมรวมวิญาณอมตะ
ท่ามกลางข้อมูลมากมาย มีแผนที่ของทั้งห้าภูมิภาครวมถึงสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำรวมอยู่ด้วย พวกมันมีคุณค่ามหาศาลในแง่ของการอ้างอิง แน่นอนว่าแผนที่ของภาคเหนือมีรายละเอียดมากที่สุด
ฟางหยวนให้ความสนใจกับแผนที่ของสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกได้เปิดหูเปิดตา
ผู้อมตะระดับเจ็ดและผู้อมตะระดับแปดมักขึ้นไปสำรวจสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำเพื่อค้นหาทรัพยากรต่างๆอยู่เสมอ
ในฐานะผู้อมตะระดับแปด ไห่ฟานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
มีข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือและวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงอยู่ด้วย แต่ตอนนี้มันไร้ประโยชน์ไปแล้ว
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฟางหยวนมากที่สุดคือเงื่อนงำเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเทพปีศาจบัวแดง
จากบันทึก ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ถึงความปรารถนาต่อมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงของไห่ฟาน
แต่นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เทพปีศาจบัวแดงเป็นผู้อมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ ไม่แปลกที่ทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องการมัน
ประเด็นสำคัญประการสุดท้ายคือแนวความคิดเกี่ยวกับการพัฒนามิติช่องว่างของไห่ฟาน
ย้อนกลับไปหลังจากไห่ฟานสามารถครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ เขาเริ่มขายวิญญาณปีระดับมนุษย์และกลายเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่งคั่งให้กับเขา
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีเขากลายเป็นผู้ขายวิญญาณปีรายใหญ่ที่สุดในโลกและได้รับกำไรมหาศาล
อย่างไรก็ตามไห่ฟานยังเตือนผู้สืบทอดเกี่ยวกับการโจมตีของอสูรปี เขายังบอกวิธีรับมือกับอสูรปี วิธีจับ วิธีขายอสูรปี และการเชื่อมต่อระหว่างอสูรปีกับมิติช่องว่างของผู้อมตะ
ฟาหงยวนขมวดคิ้ว
ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ อสูรปีระดับสัตวอสูรแรกกำเนิดเคยบุกเข้าไปในมิติช่องว่างของไห่ฟานมาก่อน
พวกมันมีพลังการต่อสู้ระดับแปด!
ไห่ฟานต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสังหารพวกมัน เนื่องจากการต่อสู้เกิดขึ้นในมิติช่องว่างของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นคือความเสียหายครั้งใหญ่ หลายครั้งที่ไห่ฟานรู้สึกเจ็บปวดกับการสูญเสียของเขา
หลังจากได้รับบทเรียน ไห่ฟานเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับวิธีปิดผนึกวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ
เขาคิดค้นวิธีการมากมาย พวกมันล้วนถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเขา
อย่างไรก็ตามไห่ฟานยังเตือนผู้สืบทอดให้ระวังบางสิ่ง นั่นคือการใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำระหว่างการต่อสู้
ในการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง หากอสูรปีบุกเข้าไปในมิติช่วงของพวกเขาในเวลานั้น มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
‘ดูเหมือนข้าต้องระวังเกี่ยวกับการใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ หากประมาท เจตจำนงสวรรค์อาจฉวยโอกาสดึงดูดอสูรปีเข้ามาหาข้า!’
ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก เขาไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด
ด้วยความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากเกินไป มีเพียงโชคที่ไม่คาดคิดเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้
ฟางหยวนดึงสติกลับมาและถอนหายใจ
‘มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานเป็นผลงานของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งกาลเวลาอย่างแท้จริง’ ฟางหยวนยกย่อง ‘แต่ความยากลำบากในการรับสืบทอดมรดกสูงเกินไป’
ด้วยความยากลำบากระดับนี้ บุตรหลานของเผ่าไห่จึงไม่เคยประสบความสำเร็จในการรับสืบทอด สุดท้ายมันจึงตกเป็นของฟางหยวน
แต่อย่าคิดว่าฟางหยวนมีช่วงเวลาที่ง่ายดาย โดยปราศจากวิญญาณทัศนคติ ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือด ความช่วยเหลือจากชูตู๋ และอีกมากมาย เขาจะไม่สามารถมาถึงจุดนี้
‘ตามมาตรฐานของโลกผู้อมตะ การรับสืบทอดมรดกของไห่ฟานถือเป็นเรื่องยากมาก’
เปรียบเทียบกับมรดกของผู้พิทักษ์ดาบผู้อมตะระดับแปดเผ่าเหนียงเอ๋อ ผู้สืบทอดของเขายังปรากฏตัวขึ้นทุกๆสองหรือสามร้อยปี คนปัจจุบันคือเหนียงเอ๋อปิงซื่อ
ไห่ฟานและผู้พิกษ์ดาบต่างเป็นตัวตนที่สามารถฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์และเป็นความภูมิใจของเผ่า เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตั้งเงื่อนไขที่ยากลำบากเพื่อคัดเลือกผู้สืบทอดที่คู่ควร อย่างไรก็ตามระดับความยากของทั้งสองยังแตกต่างกันมาก
‘ต่อไปข้าต้องยึดครองถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน’ ฟางหยวนมองระฆังทองเหลืองและส่งสัญญาณบางอย่าง
ในช่วงเวลาต่อมาจิตวิญญาณสวรรค์ระฆังทองเหลืองก็บินเข้ามาหาฟางหยวนอย่างช้าๆ
ฟางหยวนยิ้ม
เมื่อเขาได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน เขาได้กลายเป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์เรียบร้อยแล้ว เขาสามารถออกคำสั่งจิตวิญญาณสวรรค์ระฆังทองเหลืองได้โดยธรรมชาติ
สิ่งที่น่าเสียใจคือถ้ำสวรรค์ไห่ฟานดูดซับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีฟ้าเข้าไป นั่นทำให้ระฆังทองเหลืองกลายเป็นไร้สติ ฟางหยวนไม่สามารถสื่อสารกับมันได้โดยง่าย
ฟางหยวนกวาดตามองภูเขามรดกอมตะ
ภูเขาลูกนี้มีศาลาอยู่หลายหลัง แต่ละหลังมีมรดกบางอย่างซ่อนอยู่ บางมรดกเป็นมรดกระดับมนุษย์ ขณะที่บางมรดกเป็นมรดกอมตะ
ผู้ใช้วิญญาณที่อาศัยอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานรับสืบทอดบางมรดกไปแล้ว นั่นทำให้พวกเขาค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ
แต่น่าเสียดายที่พวกเขามีความก้าวหน้าไม่มากและถูกสังหารโดยฟางหยวนจนหมดสิ้นในวันนี้
ฟางหยวนตรวจสอบและตระหนักว่ามีมรดกเหลืออยู่เล็กน้อย
เขาเก็บรวบรวมมรดกที่เหลือทั้งหมด
ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ทุกอย่างที่อยู่ภายในถือเป็นสมบัติของเขา
อย่างไรก็ตามมรดกส่วนใหญ่เป็นมรดกระดับมนุษย์ มีมรดกอมตะเพียงสามมรดก สองในสามไม่มีวิญญาณอมตะแต่มีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะอยู่เล็กน้อย มรดกสุดท้ายมีวิญญาณอมตะเหลืออยู่หนึ่งดวง มันคือวิญญาณอมตะหนามกระดูกบนเส้นทางแห่งกระดูก แต่มันไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับฟางหยวน
หลังจากรื้อค้นภูเขามรดกอมตะ ฟางหยวนกวาดตามองโลกใบใหญ่ใบนี้
ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีทรัพยากรมากมาย แผนที่ในมรดกกล่าวถึงแหล่งทรัพยากรทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ แต่หลังจากผ่านไปหลายปี หลายสิ่งยังเปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกันระฆังทองเหลืองก็ไม่สามารถสื่อสาร
โชคดีที่ฟางหยวนมีเชลย
แม้เขาจะสังหารผู้อมตะทั้งหมด แต่เขายังเก็บดวงวิญญาณของผู้คนเหล่านั้นเอาไว้ ตอนนี้พวกมันถูกขังไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ค้นวิญญาณ!
หลังจากไม่นานฟางหยวนก็เข้าใจถ้ำสวรรค์ไห่ฟานอย่างชัดเจน แต่ยังมีพื้นที่ต้องห้ามอีกอยู่หลายจุด
ในกระบวนการค้นวิญญาณ ฟางหยวนได้เรียนรู้ประสบการณ์การบ่มเพาะของพวกเขา
‘ท่าไม้ตายแสงสีเลือด? ฮ่าฮ่าฮ่า เจตจำนงสวรรค์…’ ฟางหยวนตระหนักถึงแผนการของเฉิงเทา โจวหมิง และเฟิงจุน
ท่าไม้ตายแสงสีเลือดที่เฟิงจุนคิดค้นขึ้นค่อนข้างน่าสงสัย ฟางหยวนสันนิษฐานว่าสิ่งนี้อาจเกิดจากอิทธิพลของเจตจำนงสวรรค์
โชคดีที่ฟางหยวนดำเนินการอย่างรวดเร็วและใช้เวลาน้อยมากเพื่อยึดครองมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน
‘ข้าต้องย้ายทรัพยากรทั้งหมดเก็บไว้ในมิติช่องว่างของข้า ที่นี่ไม่ปลอดภัย!’
‘สำหรับถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้าจะมอบมันให้กับชูตู๋ ถ้ำสวรรค์ถือเป็นส่วนแบ่งสามสิบส่วนในมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน’
สำหรับเรื่องที่เจตจำนงสวรรค์จะทำสิ่งใดกับชูตู๋ ฟางหยวนไม่สนใจ
เขาได้มอบส่วนแบ่งให้กับชูตู๋ไปแล้ว เขาไม่ต้องกังวลว่าชูตู๋จะพบกับสิ่งใด
ในเวลาไม่กี่วันฟางหยวนก็สามารถบรรลุเป้าหมาย
เขาได้รับทรัพยากรมากมายและได้เรียนรู้วิธีการพัฒนามิติช่องว่างที่สามารถใช้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ในช่วงห้าร้อยปีของชีวิตก่อนหน้า พรสวรรค์ของเขาอยู่ในระดับต่ำ เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่มุ่งเน้นทักษะการต่อสู้ ในแง่ของการพัฒนามิติช่องว่าง เขายังไม่เก่งนัก โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นมิติช่องว่างขนาดใหญ่มากเช่นมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ตอนนี้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นเหมือนสารานุกรมที่วางอยู่ตรงหน้าเขา!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น