เทพปีศาจหวนคืน 1116-1117
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1116 ไข่ที่ตายแล้ว
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนควบคุมไห่เจิ้งปลอมเข้าไปในรังอินทรีย์อย่างช้าๆ
แสงเก้าสีส่องสะท้อนใบหน้าของไห่เจิ้ง
รังอินทรีย์ไม่ได้ใหญ่โต มันเป็นห้องโถงเล็กๆเท่านั้น
กลางห้องมีไข่ขนาดใหญ่วางอยู่
ไห่เจิ้งปลอมชำเลืองมองมัน
ไข่ใบนี้มีความสูงประมาณมนุษย์เพศชายที่โตเต็มวัย เปลือกของมันเหมือนคริสตัลที่ส่องประกายแสงเก้าสีออกมา
แต่ฟางหยวนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความตาย
เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ เขาจึงหันไปให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อม
เขาตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายชั่วโมงแต่กลับไม่พบสิ่งใด
“นี่เป็นไปได้อย่างไร? ไห่ฟานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มรดกที่แท้จริงของเขาจะมีเพียงรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ที่ว่างเปล่างั้นหรือ? แล้ววิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่ที่ใด ท่าไม้ตายอมตะอยู่ที่ใด?”
ฟางหยวนคิดและกลับไปหาไข่ที่ตายแล้วอีกครั้ง
“บางทีไข่ที่ตายแล้วใบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญ!”
ฟางหยวนคาดเดา
เมื่อมาถึงจุดนี้ความทรงจำของไห่เจิ้งไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ฟางหยวนได้ก้าวข้ามความรู้ทั้งหมดของเผ่าไห่มาแล้ว
เพื่อให้ได้รับมรดกที่แท้จริงของเผ่าไห่ ฟางหยวนต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น
ไห่เจิ้งปลอมเดินไปรอบๆไข่ที่ตายแล้วและกระตุ้นใช้วิญญาณสายตรวจสอบ
ครู่ต่อมาฟางหยวนยืนยันอีกครั้งว่าไข่ใบนี้ตายไปแล้วจริงๆ
ไข่ที่ตายแล้ว
ไม่มีการปลอมแปลง
ฟางหยวนคาดเดาต่อไป
“อย่าบอกว่ามรดกที่แท้จริงของไห่ฟานถูกบางคนขโมยไปแล้ว ข้าไม่ใช่คนแรกที่มาถึงที่นี่งั้นหรือ?” มันช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะคิดเช่นนี้
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
โลกใบนี้มีความลับมากเกินไป
หลังการทำธุรกรรมกับผมที่หก ฟางหยวนไม่กล้าดูแคลนผู้ใดอีกต่อไป
แม้เขาจะเป็นผู้กลับชาติมาเกิด แต่ไม่ใช่เขาเพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ที่โชคดี ยังมีหลายคนที่โชคดีกว่าเขาและสามารถก้าวเข้าสู่ระดับเก้า
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะ ฝ่ายปีศาจ หรือผู้บ่มเพาะสันโดษ มีอัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
ฟางหยวนเป็นเพียงดาวดวงหนึ่งท่ามกลางท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เท่านั้น
การคาดเดาของฟางหยวนไม่ใช่การเดาสุ่มแต่เขาอนุมานจากความน่าจะเป็น
ตามข้อมูลที่ได้รับจากไห่เจิ้ง ผู้อมตะเผ่าไห่ตระหนักถึงความสำคัญของวิญญาณทัศนคติ นอกจากพวกเขาจะค้นหาวิญญาณทัศนคติ พวกเขายังทำวิจัยและพยายามใช้สิ่งอื่นทดแทนอีกด้วย
จากข้อมูลในความทรงจำของไห่เจิ้ง เผ่าไห่ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ใดประสบความสำเร็จ
ผู้อมตะบางคนอาจลอบเข้ามาในรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์เพื่อขโมยมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานไปโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้
และคนผู้นี้อาจไม่ใช่สมาชิกของเผ่าไห่ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยมากตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ฟางหยวนตรวจสอบหลายครั้งแต่ยังไม่พบเงื่อนงำอื่น
นี่ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
เขาทำธุรกรรมและแลกเปลี่ยนมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
แน่นอนว่าความช่วยเหลือของชูตู๋เป็นเพียงเรื่องชั่วคราว
การร่วมมือกับชูตู๋เป็นเรื่องอันตราย เขากำลังขอความช่วยเหลือจากเสือที่เจตจำนงสวรรค์อาจยุแยงให้เกิดความเข้าใจได้ตลอดเวลา
แม้ฟางหยวนจะไม่ต้องใช้มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานในตอนนี้แต่มันอาจเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
‘แม้จะไม่มีมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานแต่รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ยังเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่ล้ำค่า’
ความจริงก็คือทรัพยากรทั้งหมดที่อยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวนยังมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์!
แน่นอนว่านี่ไม่นับรวมภูเขาตงฮันหรือหุบเขาเหล่าโป
‘อย่างไรก็ตามไข่ที่ตายแล้วใบนี้แท้จริงแล้วคือสิ่งใด? หากมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานยังอยู่ มันอาจเป็นเบาะแสที่ไห่ฟานตั้งใจทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง’
แม้จะมีความหวังเพียงเล็กน้อยแต่ฟางหยวนยังต้องการตรวจสอบ
เขาไปที่สวรรค์สีเหลืองและซื้อสารานุกรมเกี่ยวกับสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาล
แต่หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนกลับไม่พบสิ่งใดที่คล้ายกับไข่ที่ตายแล้วใบนี้
เขาไม่ผิดหวัง ตรงข้ามเขารู้สึกมีความสุข
ยิ่งไข่ใบนี้ลึกลับมากเท่าใด มันก็ยิ่งล้ำค่ามากเท่านั้น
‘ไข่ที่ตายแล้วใบนี้ดูเหมือนจะเป็นไข่ของสัตว์อสูรแรกกำเนิด!’ ฟางหยวนคาดเดา
แต่หากเป็นกรณีนี้ข้อมูลที่วางขายในสวรรค์สีเหลืองจะกลายเป็นไร้ประโยชน์
เนื่องจากผู้อมตะส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้อมตะระดับหกและเจ็ดเท่านั้น
สัตว์อสูรแรกกำเนิดเป็นสัตว์อสูรที่มีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด แต่ผู้อมตะระดับแปดจะไม่ขายข้อมูลเหล่านี้ในสวรรค์สีเหลือง ตัวตนเหล่านี้ไม่ขาดแคลนความมั่งคั่ง นอกจากนั้นผู้อมตะส่วนใหญ่ก็จะไม่ซื้อเพราะมันเหนือกว่าระดับของพวกเขามากเกินไป
ในยุคปัจจุบันสัตว์อสูรแรกกำเนิดมักอาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ เว้นเพียงเขตต้องห้ามต่างๆของทั้งห้าภูมิภาค
‘ข้าควรนำไข่ที่ตายแล้วใบนี้ไปประมูลในสวรรค์สีเหลืองโดยตรงหรือไม่?’ ฟางหยวนคิดและปฏิเสธความคิดนี้ทันที
มันสะดุดตาเกินไป
ผู้อมตะเผ่าไห่ยังไม่ตายทั้งหมด
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถอนุมานสิ่งต่างๆได้จากข้อมูลเล็กๆ
สิ่งนี้ไม่เป็นผลดีต่อฟางหยวน
หากมันดึงดูดความสนใจของผู้อมตะระดับแปด นั่นยิ่งจะสร้างปัญหามากขึ้นไปอีก
ฟางหยวนไม่สามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาได้ในเวลานี้
แต่เขาไม่รู้สึกหดหู่ใจเพราะเขารู้ว่ามีบางคนสามารถช่วยแก้ปัญหานี้
นั่นคือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา!
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีต้นกำเนิดมาจากบรรพชนผมยาวผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์
ผู้อมตะบนเส้นทางสายใดที่มีความรู้รอบตัวมากที่สุด?
แน่นอนว่ามันคือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งข้อมูล และเส้นทางแห่งการหลอมรวม
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถอนุมานความลับได้จากเบาะแสบางอย่าง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมีทักษะในการรวบรวมข้อมูล ขณะที่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมต้องมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุในการหลอมรวมทุกประเภท
กล่าวถึงผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์จะมีผู้ใดเหนือกว่าบรรพชนผมยาว
ฟางหยวนตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
แต่นี่ไม่ใช่กระบวนการที่ราบรื่น ฟางหยวนค่อนข้างหนักใจกับทัศนคติของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
เมื่อเร็วๆนี้นิกายหลางหยาไม่พอใจฟางหยวนเพราะเขาเก็บตัวฝึกตนโดยไม่สนใจนิกาย ตอนนี้นิกายหลางหยากำลังเผชิญหน้ากับสุนัขดาวตกเพลิงทำให้ความคืบหน้าในการพัฒนาไท่ชิวแทบไม่สามารถเดินหน้าต่อ
“ฟางหยวน หากเจ้าสังหารสุนัขดาวตกเพลิงให้นิกาย ข้าจะนำตำราที่เจ้าต้องการออกมาจากคลังสมบัติของเรา มิฉะนั้นเจ้าต้องแลกเปลี่ยนมันด้วยแต้มผลงานหนึ่งร้อยแต้ม” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวเสียงเย็น
ฟางหยวนยิ้ม “ข้าจะแลกมัน”
ฟางหยวนมีแต้มผลงานเพียงพอ
ตอนนี้เขายังไม่มีแผนการที่จะไปยังไท่ชิว
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก่นเสียงเย็น เขากำลังจะกล่าวอีกครั้ง แต่ฟางหยวนชิงกล่าวก่อน “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเป็นคนเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง การเพิ่มกฎระเบียบเป็นสิ่งจำเป็นที่นิกายหลางหยาไม่สามารถหลีกเลี่ยง”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาโกรธมาก “ข้าได้ยินว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผมที่สิบสอง ข้าจำได้ว่าเด็กคนนี้เคยยกย่องเจ้ามาก่อน ไม่นานมานี้เขาออกไปต่อสู้กับสุนัขดาวตกเพลิงและได้รับบาดเจ็บร้ายแรงกลับมา สัตว์อสูรเดียวดายของเขาตาย ตอนนี้เขาหดหู่ใจมาก เหตุใดเจ้าไม่ไปเยี่ยมเขาสักหน่อย?”
“ขอบคุณผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งที่เตือนข้า” ฟางหยวนพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่โศกเศร้าราวกับรู้สึกเจ็บปวดแทนผมที่สิบสอง
“หลังจากแลกเปลี่ยนตำราแล้วข้าจะไปเยี่ยมผมที่สิบสอง” ฟางหยวนกล่าวอย่างหนักแน่น
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้มากกว่านี้
หลังจากได้รับสิ่งที่ต้องการ ฟางหยวนเดินทางไปยังเมืองเมฆาที่สิบสอง แต่เขาไม่ได้เข้าพบผมที่สิบสองเนื่องจากผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนบอกกับเขาว่า “นายท่านของข้าไม่ต้องการรับแขก โปรดกลับไป”
ฟางหยวนไม่ได้รับการต้อนรับแต่เขาไม่ได้จากไปและยังเอ่ยปากถามอาการของผมที่สิบสองด้วยความห่วงใย
อย่างไรก็ตามทัศนคติของผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนเย็นชามาก ฟางหยวนแสดงออกราวกับไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร
หากไม่ใช่เพราะจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถรับรู้ทุกสิ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนจะไม่ทำเรื่องนี้
การกระทำของผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนแสดงให้เห็นว่าผมที่สิบสองไม่พอใจฟางหยวน
‘ความสัมพันธ์ของข้ากับนิกายหลางหยามาถึงขั้นนี้แล้ว…แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือผมที่หก ข้าจำเป็นต้องฟื้นฟูและรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้ในอนาคต แต่นั่นไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน’
ฟางหยวนกลับไปยังเมืองเมฆาของตนเอง หลังจากตรวจสอบข้อมูล ธุรกรรมครั้งนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
‘มันคือไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด!’
ฟางหยวนตะลึง
อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดคือสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด!
หลังจากประหลาดใจ ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสุข
เขาตระหนักถึงผลลัพธ์ของการทำงานหนัก หากนี่เป็นไข่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจริง แม้จะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน มันก็ยังคุ้มค่า!
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1117 อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด
แปลโดย iPAT
อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด
ฟางหยวนเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดมานานแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าไข่ของมันมีลักษณะอย่างไร
อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เมื่อมันโตเต็มวัย มันสามารถเดินทางได้อย่างอิสระในสวรรค์ทั้งเก้ารวมถึงการเข้าออกถ้ำสวรรค์สวรรค์ต่างๆ
นี่เป็นความสามารถที่น่าอัศจรรย์
ระหว่างสวรรค์ชั้นต่างๆมีกำแพงพลังงานกีดขวางอยู่ขณะที่ถ้ำสวรรค์แยกตัวออกจากโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์
แต่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดสามารถเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้นได้ด้วยสัญชาตญาณและความสามารถบนเส้นทางแห่งห้วงมิติของมัน
มันมีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดและยังบินได้รวดเร็วมาก ไห่ฟานสามารถเก็บไข่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเอาไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล
จุดอ่อนเดียวของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็คืออายุขัยของมัน
มันมีอายุขัยเพียงแปดสิบปีเท่านั้น
หากเปรียบเทียบ มนุษย์ธรรมดาที่มีอายุขัยหนึ่งร้อยปียังเหนือกว่ามันในแง่มุมนี้
สัตว์อสูรแรกกำเนิดที่มีอายุขัยน้อยกว่ามนุษย์ นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเพราะโดยทั่วไปสัตว์อสูรแรกกำเนิดมักมีอายุขัยหลายแสนปี
อย่างไรก็ตามมันมีความสามารถในการยืดอายุ
ก่อนมันจะตายด้วยความชรา มันจะวางไข่
ภายในไข่ใบนี้จะมีความทรงจำทั้งหมดที่มันสะสมมาตลอดชีวิต
ลูกนกที่เกิดจากไข่ใบนี้จะกลายเป็นอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่มาพร้อมกับความทรงจำในชีวิตก่อนหน้ารวมถึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เคยมี หากไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่มันอยู่ในไข่หรือเป็นลูกนกแรกเกิด มันจะอ่อนแอมาก
หลังจากเข้าใจสิ่งนี้ ฟางหยวนสามารถคาดเดาบางสิ่ง ‘ไข่ที่ตายแล้วของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ไห่ฟานทิ้งไว้มีเบื้องหลัง!’
เหตุใดไห่ฟานต้องทิ้งไข่ใบนี้เอาไว้?
เห็นได้ชัดว่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเคยไปที่ถ้ำสวรรค์ของไห่ฟานมาก่อน นี่คือกุญแจที่จะนำไปสู่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
ผู้อมตะเผ่าไห่พยายามค้นหาถ้ำสวรรค์ของไห่ฟาน แต่จากความทรงจำของไห่เจิ้ง พวกเขายังไม่พบสิ่งใด
‘มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานต้องอยู่ในถ้ำสวรรค์ของเขาเอง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยปราศจากวิธีบนเส้นทางอาหาร มันจะดีที่สุดที่เขาจะเก็บวิญญาณอมตะไว้ที่นั่น’
‘ถ้ำสวรรค์ของไห่ฟานไม่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใดๆ ตามความทรงจำของไห่เจิ้ง ไห่ฟานเคยได้รับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์เก้าชั้น หากข้าเดาไม่ผิด ก่อนตาย เขาต้องผสานมันเข้ากับถ้ำสวรรค์ของตนเอง’
‘น่าเสียดายที่เขาไม่มีวิญญาณอายุยืน’
‘แต่เหตุใดไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่อยู่ในรังอินทรีย์ถึงเป็นไข่ที่ตายแล้ว?’ ฟางหยวนกำลังเผชิญหน้ากับคำถามที่ยากลำบาก
มีสองคำตอบที่เป็นไปได้
หนึ่งคือไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดใบนี้ตายไปตามธรรมชาติ ไห่ฟานทิ้งไข่ที่มีชีวิตเอาไว้ แต่เนื่องจากไม่มีผู้ใดสามารถรับสืบทอดมรดกของเขาเป็นเวลานานเกินไป ดังนั้นไข่อินทรีย์ใบนี้จึงตายไปในที่สุด
ความเป็นไปได้ที่สองคือไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดใบนี้ยังไม่ตายแต่ต้องใช้วิธีการพิเศษบางอย่างเพื่อปลุกมันให้ตื่นขึ้น
หากเป็นกรณีแรก ฟางหยวนจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เขาสามารถเพียงขายรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์และไข่ที่ตายแล้วออกไปเท่านั้น
จากมุมมองของฟางหยวน แน่นอนว่าเขาต้องการให้เป็นกรณีที่สองมากกว่า
แต่หากต้องใช้วิธีการพิเศษ แล้วมันคือสิ่งใด?
‘หากเป็นกรณีที่สอง ข้าจะปลุกไข่ใบนี้อย่างไร?’ ฟางหยวนคิด
แต่หลังจากคิดอย่างยาวนานเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไข่ใบนี้ดูเหมือนตายไปแล้วจริงๆ มิฉะนั้นฟางหยวนจะไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายตั้งแต่แรก
‘หากข้าเป็นไห่ฟาน ข้าจะทิ้งเงื่อนงำบางอย่างเอาไว้เบื้องหลังเพื่อให้บุตรหลานของข้าแก้ปัญหาและรับสืบทอดมรดก’ ฟางหยวนคาดเดา
เขารู้สึกว่าตนเองมองข้ามบางสิ่งไปโดยไม่รู้ตัว
‘หากข้าใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอีกครั้งกับไข่ที่ตายไปแล้ว มันจะตื่นขึ้นหรือไม่?’ ฟางหยวนสันนิษฐาน
แต่เขายังไม่ได้ทำทันที
เนื่องจากนี่เป็นเพียงสมมติฐานและยังไม่มีหลักฐานสนับสนุน
ฟางหยวนเป็นคนรอบคอบ ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งปัญาวิเคราะห์ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเหล่านั้น
เพียงไม่นานเขาก็ค้นพบบางสิ่ง
สิ่งใด?
ท่าไม้ตายเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกดัดแปลงมาก่อน รุ่นดั่งเดิมของมันยังดีกว่ารุ่นใหม่
ไห่ฟานพยายามทำสิ่งใด?
ฟางหยวนนึกถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ของเผ่าไห่ที่อยู่ในความทรงจำของไห่เจิ้ง
ไห่ฟานมักสั่งสอนชนรุ่นหลังว่า ‘พวกเจ้าต้องคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองและอย่าเชื่อถือประสบการณ์ของรุ่นพี่โดยไม่คิดให้รอบคอบ มีเพียงการเรียนรู้จากพวกเขาและคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองเท่านั้นที่จะทำให้พวกเจ้าสามารถก้าวไปข้างหน้า’
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนต้องพิจารณาท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเหล่านี้ใหม่อีกครั้ง
เขาพยายามลบการดัดแปลงที่ล้มเหลวของไห่ฟานออกไป นี่ทำให้เขาค้นพบสิ่งที่น่าตกใจบางอย่าง
‘ท่าไม้ตายเหล่านี้ไม่ใช่ความล้มเหลวแต่พวกมันสามารถผสานงานกันและทำให้เกิดเป็นท่าไม้ตายใหม่!’
‘ไห่ฟานเพิ่มขั้นตอนที่ไม่จำเป็นเข้าไปโดยเจตนา ท่าไม้ตายเหล่านี้ต่างมีข้อบกพร่องหนึ่งหรือสองจุด แต่เมื่อพวกมันหลอมรวมกัน พวกมันกลับทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ!’
สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจมากที่สุดก็คือมันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด
ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ไห่ฟานใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด?
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก
ตั้งแต่บรรพชนบ่อเลือดปรากฏตัวขึ้น ทุกคนรู้จักพลังอำนาจของเส้นทางแห่งเลือดเป็นอย่างดี กองกำลังระดับสูงทั้งหมดลอบค้นคว้าเรื่องนี้อย่างลับๆ
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่ในสิบนิกายโบราณของภาคกลางโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะของภาคเหนือที่คลั่งไคล้ความแข็งแกร่ง
ฟางหยวนมีความมั่นใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งเลือดมากกว่าเส้นทางแห่งการหลอมรวม
หลังจากทั้งหมดเขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด
ด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือด ฟางหยวนเข้าใจทันทีว่าท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดนี้มีไว้เพื่ออินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด!
แต่ท่าไม้ตายนี้ยังไม่สมบูรณ์
เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนไม่รู้สึกผิดหวัง ตรงข้ามดวงตาของเขากลับส่องประกายขึ้น
‘ไห่ฟานต้องมีท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดที่สมบูรณ์ แต่เขาทิ้งท่าไม้ตายเพียงครึ่งไว้กับทายาท’
‘เขาไม่ส่งต่อท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดที่สมบูรณ์แบบให้ทายาทโดยตรงแต่ใช้วิธีการบางอย่างเพื่อปกปิดมันเอาไว้’
‘แรงจูงใจของเขาต้องเป็นการทดสอบผู้สืบทอด พวกเขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตนเอง เหตุผลที่สองคือเส้นทางแห่งเลือดไม่สามารถเปิดเผย หากคนนอกรู้ว่าไห่ฟานใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งเลือด มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไห่ฟานไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์นี้’
ฟางหยวนสามารถคาดเดาความคิดของไห่ฟาน
ตอนนี้เขามั่นใจมากว่าไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดยังไม่ตายอย่างสมบูรณ์แต่ถูกผนึกเอาไว้
นี่จะทำให้เรื่องต่างๆง่ายขึ้น!
ฟางหยวนไม่ใช่ผีดิบอมตะอีกต่อไป เขาสามารถใช้เลือดจากร่างกายของตนเองได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งเลือด เขากลับหยุดการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
‘เกือบไปแล้ว! ข้าเกือบพลาดบางสิ่ง!’ หน้าผากของฟางหยวนปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เหตุใดไห่ฟานจึงทิ้งท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดเอาไว้ให้กับบุตรหลาน?
มันไม่ใช่เรื่องแปลกจริงๆงั้นหรือ?
ทุกคนรู้ดีว่าไห่ฟานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขาสามารถทิ้งวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเอาไว้และนั่นยังเป็นวิธีที่ดีกว่า
แต่เขากลับเลือกใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
มีเพียงเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ นั่นคือเส้นทางแห่งเลือดสามารถทำบางสิ่งขณะที่เส้นทางแห่งกาลเวลาไม่สามารถทำ
ในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด ความคิดแรกของฟางหยวนก็คือการตรวจสอบสายเลือด!
มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานมีไว้สำหรับบุตรหลานเผ่าไห่ มรดกของผู้อมตะในเผ่ามักถูกเก็บไว้ให้สมาชิกเผ่าและเงื่อนไขแรกของการรับสืบทอดก็คือความเกี่ยวข้องทางสายเลือด น้อยคนนักที่จะทิ้งมรดกของตนเองไว้ให้กับผู้อื่น
วิญญาณทัศนคติและท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเป็นสองขั้นตอนแรกในการตรวจสอบ
สำหรับขั้นตอนที่สาม มันคือการตรวจสอบสายเลือดด้วยวิธีการบนเส้นทางแห่งเลือด
‘หากผู้สืบทอดไม่มีสายเลือดของเผ่าไห่ มันอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับไข่ที่ตายแล้วใบนี้หรือบางทีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ฟักออกมาอาจกลายเป็นศัตรูกับคนผู้นั้น’
นึกถึงเรื่องนี้ฟางหยวนรู้สึกราวกับเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเขามากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์อสูรแรกกำเนิดกลายเป็นศัตรู มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดรวดเร็วมาก ฟางหยวนไม่สามารถวิ่งหนีจากมัน ขณะเดียวกันพลังป้องกันของเขาก็อ่อนแอเกินไป เมื่อเกิดการปะทะ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
‘ดูเหมือนข้าต้องใช้สายเลือดที่เหมาะสมในการปลดผนึกไข่ใบนี้เท่านั้น’ ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาด
หลายวันต่อมา
มุมหนึ่งของมิติช่องว่างจักรพรรดิ
เส้นผมของไห่เจิ้งยุ่งเหยิง ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า
ฟางหยวนบังคับผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งบินเข้าไปหาไห่เจิ้ง
ร่างของไห่เจิ้งสั่นสะท้านขึ้นราวกับถูกฟ้าผ่า เขาตะโกนด้วยความหวาดกลัวและตกใจ “เจ้า! เจ้าต้องการสิ่งใด?”
ฟางหยวนเคยค้นวิญญาณของไห่เจิ้ง แต่ลืมเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้เขาใช้วิธีการทุกประเภทเพื่อทรมานไห่เจิ้ง สภาพของไห่เจิ้งในเวลานี้กล่าวได้ว่าความตายยังดีกว่า
ไห่เจิ้งเป็นเชลยศึกของฟางหยวน จนถึงตอนนี้เขายอมแพ้แล้ว ท่าทางที่สง่างามของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์
แต่เขาไม่สามารถกระทั่งกัดลิ้นฆ่าตัวตาย
‘ไห่เจิ้งยังมีคุณค่า แม้เผ่าไห่จะล่มสลายไปแล้ว แต่ไห่ลั่วหลันยังมีชีวิตอยู่’ นี่คือความคิดของฟางหยวน
ดังนั้นไห่เจิ้งจึงอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถตายหรืออยู่อย่างเป็นสุข
“อย่ากังวล นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ข้ามั่นใจมาก” ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเผยรอยยิ้มขณะเคลื่อนที่เข้าใกล้ไห่เจิ้งมากขึ้น
ไห่เจิ้งกรีดร้อง “เจ้าบอกว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายเสมอ! ไม่ ไม่ อา…”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น