องครักษ์เสื้อแพร 1109-1112
ตอนที่ 1109 สนามรบราวคลื่นกระหน่ำ
Ink Stone_Fantasy
สองฝ่ายปะทะศึก ขุนพลออกประลอง ขากลับย่อมรอรับเสียงตะโกนเชียร์ชื่นชมจากทหารทัพตน ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่เป็นฝันของขุนพลทุกคน โดยเฉพาะหลี่หรูป๋อที่หลงใหลในคำบรรยายภาพวีรบุรุษ ในยามนี้ตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง
เขาเหมือนว่าไม่ทันสังเกตว่าทหารฝั่งตนที่ส่งเสียงยินดีเริ่มสีหน้าแปรเปลี่ยน เหมือนกำลังตะโกนเตือนเขาอันใด หลี่หรูป๋อถึงกับเอาทวนตนแขวนไว้ที่อานม้า สองมือประสานมือคำนับรับคำชม
ซามูไรวัวโค่วด้านหลังหลี่หรูป๋อเริ่มเข้าใกล้ยิ่งขึ้น มาถึงระยะยิงแล้ว กองกำลังหมิงมีคนทนไม่ไหว ควบม้าออกมา ซามูไรวัวโค่วที่ออกมาลอบยิงเริ่มน้าวธนูแล้ว…
ในตอนนั้นเอง หลี่หรูป๋อหันขวับกลับไป หลังแทบจะแนบลงบนหลังม้า ตอนเขาแหงนหน้าหันกลับไป ก็น้าวธนูไว้แล้ว ฉึก ๆ ดังออกไป
ซามูไรวัวโค่วพวกนั้นไม่ทันได้คิดเลยว่า หลี่หรูป๋อปฏิกิริยาไวเช่นนี้ คนหน้าสุดถูกหลี่หรูป๋อยิงทะลุลำคอ อีกคนตกใจตัวสั่น ไม่ขยับ ถูกแทงเข้าที่หน้าผาก คนที่สามโยนอาวุธในมือทิ้ง หันหลังวิ่งหนี หลี่หรูป๋อยืดตัวตรง ยิงออกไปอีกดอก ดอกนี้แทงทะลุท้ายทอยโจรวัวโค่ว
ธนูยิงต่อเนื่อง สามดอกสังหารสามคน ทั่วสนามรบเงียบ กองกำลังหมิงยิ่งส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้อง นี่เป็นการแสดงฝีมือ การรบบนหลังม้าอันยอดเยี่ยม ฝีมือธนูไม่ธรรมดา ที่ยิ่งยากก็คือรับมือในยามวิกฤตหากไม่ลนลาน ช่างสมเป็นขุนพลใหญ่
ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้อง หลี่หรูซงพ่นลม ยิ้มด่า
“ไอ้ตัวบัดซบ…”
หลี่หรูซงตวัดเสียงตะโกนดัง
“จู่เฉิงซวิ่นอยู่ไหน!?”
“ขอรับ!”
“เจ้านำทหารม้า 500 โจมตีโจรวัวโค่ว ไม่นับหัว ขอเพียงถล่มโจรวัวโค่วแตกพ่าย ไล่ตามโจรวัวโค่วทัพใหญ่ อาศัยจังหวะดูสภาพความเป็นจริงพวกมัน เจ้าทำได้ไหม!”
“ข้าไม่กลัวตาย ขอรับใช้แผ่นดิน!”
จู่เฉิงซวิ่นตอบเสียงดัง วิ่งหันกลับไปรวมกำลังทหาร ทหารม้าของเขามี 500 กว่า หลี่หรูซงไม่ทันได้เห็นว่าตอนจู่เฉิงซวิ่นหันกลับไปแอบสบถด่า
“ทำไมเป็นข้าอีกแล้ว!”
เห็นจู่เฉิงซวิ่นนำกำลังทหารม้าวิ่งไปด้านหน้า หลี่หรูซงออกคำสั่ง
“เตรียมปืนรังผึ้ง แต่ไม่ต้องรีบร้อนยิง จะยิงตอนไหน ให้รอคำสั่งข้า!”
ทหารติดตามรีบวิ่งออกไปถ่ายทอดคำสั่ง หลี่หรูซงยกเท้าออกจากบังโกรนม้า ยืนขึ้นไปบนอานม้ามองไปด้านหน้า ทัพใหญ่โจรวัวโค่วแม้มาก แต่ไม่มีปืนรังผึ้งแต่ละคนดูไม่ได้เป็นหนึ่ง กองกำลังหลายกองล้วนหยุดระหว่างทาง กองเดียวที่ยังเดินหน้าก็คือโจรวัวโค่วตรงหน้าเหล่านี้
*****************
ขุนพลโจรวัวโค่วทางนั้นย่อมไม่ใช่ยาสุ ซึเนะฮิสะ เขาถูกสังหารทิ้งไปแล้ว ซามูไรซุ่มโจมตีสามคนก็ถูกสังหารทิ้ง ทั้งกองก็เริ่มเปลี่ยนรูปทัพบุกขึ้นหน้า
ทหารราบพลทวนยาววางทวนยาวเอียงรอ เรียงแถวแนวนอน ค่อยๆ ก้าวนาขึ้นหน้าพร้อมกัน พลปืนใหญ่วัวโค่วอยู่ด้านหน้า ทหารม้ากับกองกำลังที่เห็นชัดว่านำโดยกลุ่มซามูไรอยู่ทางปีกขวา
จัดกองทัพเป็นแบบแผน พลปืนใหญ่วัวโค่วกับทวนยาวตั้งรับ ทหารม้ากับทหารเก่งกล้าออกรับศึก แต่จู่เฉิงซวิ่นมองแล้วไม่สนใจ อย่างไรก็มีวิธีรับมือ
“ที่ยิงธนูได้ให้ขึ้นม้ามาให้หมด เรียงแถวหน้ากระดานยาว!”
“บังคับฝีเท้าม้า!!”
จู่เฉิงซวิ่นตะโกนดัง ธนูกุมอยู่ในมือแล้ว ทหารม้าเร่งนำม้าขึ้นหน้าต่อเนื่อง กระจายไปยังสองข้างกองกำลัง
ม้าสองปีกเดินท่ามกลางโคลนดินแล้ว ความเร็วไม่อาจเร่งได้ กองกำลังโจรวัวโค่วตรงหน้าเข้มแข็งไม่น้อย อย่างไรก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้ จู่เฉิงซวิ่นอยู่ตำแหน่งตรงกลางบุกได้เร็วพอ ปืนใหญ่วัวโค่วเพิ่งยิง พวกเขาก็ไปถึงแล้ว
ปืนใหญ่วัวโค่วยิงไม่น้อย แต่ยิงแม่นไม่มาก ในช่องว่างนี้ จู่เฉิงซวิ่นก็บุกเข้าระยะประชิดพอแล้ว แต่ละคนล้วนไม่อาจสนใจความสมดุล ล้วนน้าวธนูบนหลังม้า ดึงได้ราวแปดส่วนรอ ทหารม้าด้านหลังพวกเขาล้วนทำตามเช่นกัน
เสียงฉึกๆ ๆ ธนูราวห่าฝน อาศัยความเร็วกำลังม้าในการยิงได้ยิ่งไกล ความแม่นแม้ว่าไม่มาก แต่ทัพศัตรูเรียงตัวหนาแน่น ธนูยิงไปย่อมปักเข้าสักคนให้ต้องบาดเจ็บล้มตาย
ระลอกแรกยิงไป ไม่สนใจเพื่อนทหารข้างๆ ที่ล้มลง รอบสองขึ้นพร้อม โจรวัวโค่วด้านหน้าเหมือนต้นข้าวที่ถูกเคียวเกี่ยวตัด ล้มไปทีละแถว
กองกำลังโจรวัวโค่วเริ่มวุ่นวายแล้ว โจรวัวโค่วรบกันเองมาสองร้อยปี พวกเขาไม่เคยเห็นทหารม้าเช่นนี้ ยิ่งไม่เคยเห็นการยิงบนหลังม้าเช่นนี้ ธนูแกร่งเช่นนี้ ลูกธนูแหวกอากาศมาปัก เกราะไม้ไผ่และเกราะหนังถูกลูกธนูปัก เกราะไผ่บนร่างกายกับเกราะหนังนั้นไม่มีทางป้องกันได้ แม้เป็นซามูไรเก่งกล้าแห่งยุค แต่ถูกธนูทะลุร่างอย่างไร้ปราณีเช่นนี้ ไม่ล้มตายก็ร้องโหยหวน ทำให้คนอื่นๆ ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวตาม
ยิงธนูไปสองรอบ จู่เฉิงซวิ่นนำกำลังมาด้านหน้าได้แล้ว ยังมีทหารราบทวนยาว โชคดีไม่ได้บาดเจ็บท่ามกลางห่าลูกธนู ยามนี้ไม่รู้ตกใจอึ้งไปหรืออันใด ถึงกับเอียงทวนยาวรอไม่ขยับ ความเร็วกับทิศทางทหารม้ากองกำลังหมิงล้วนไม่เปลี่ยน กำลังมุ่งเข้าปะทะไม่กลัวเกรง
ระยะยิ่งใกล้ ทหารราบทวนยาวถึงกับรู้สึกพื้นดินด้านหน้าสั่นสะเทือน ทหารม้าขี่บนหลังม้า สูงมากกว่าหนึ่งช่วงตัว ความรู้สึกเช่นนี้ยิ่งทำให้หวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดมีคนทนต่อไปไม่ไหว หันหลังวิ่งหนี มีคนถึงกับโยนทวนยาวในมือทิ้ง
มีคนไม่รู้ว่ากล้าหาญหรือโง่เขลา ยืนนิ่งไม่ขยับ ทวนยาวแทงใส่ม้า ม้าเมืองเหลียวโจวด้านหน้าล้วนใส่เครื่องป้องกันทำจากหนัง มีคนไม่ได้แทงใส่ มีคนแทงใส่ไม่ทะลุ และมีคนแทงใส่ม้าได้
หากเป็นทหารราบโจรวัวโค่วปะทะกับทหารม้า ทหารราบล้วนล้มระเนระนาด ไม่ว่าแทงหรือไม่แทง ทหารม้าในชุดเกราะพร้อมม้า ความเร็วเสริมกำลังก็ไม่อาจกระจัดกระจายแตกทัพโดยง่าย คนที่แทงทะลุ ทวนยาวในมือไม่อาจรับน้ำหนักได้ งอแล้วก็หักทันที คนทั้งคนถูกดีดกระเด็นกลับ มีคนถูกทวนแทงสะท้อนใส่ตัวทันทีเช่นกัน มีคนกระแทกไปโดนเพื่อนทหารข้างๆ ส่งเสียงร้องโหยหวนล้มลง ไม่อาจลุกขึ้นได้อีก
สำหรับโจรวัวโค่ว ไม่เพราะเจ้าเป็นทหารราบจึงตายเร็วหน่อย เจ้าเป็นซามูไรจึงมีชีวิตยาวนานยิ่งกว่า ในสถานการณ์ทหารม้ากองกำลังหมิงบุกปะทะเช่นนี้ ทุกอย่างล้วนเหมือนกัน
ก็คือถูกทหารม้ากองกำลังหมิงบุกเข้ามาพริบตา กองทัพโจรวัวโค่วก็แตกพ่าย เสียงร้องโหยหวนดังทั่ว สองฝ่ายล้วนบาดเจ็บล้มตาย จากนั้นโจรวัวโค่วเริ่มหนีกระจัดกระจาย
“รวมตัวกันไว้ อย่าแตกแถว พวกนั้นมีแต่ทหารราบ หนีไม่พ้น รวมตัวกันไว้!!”
จู่เฉิงซวิ่นกับขุนพลทหารตะโกนดัง เร่งทะยานม้าไปด้านหน้า ม้าในสภาวะนี้ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็ว แต่อย่างไรก็วิ่งเร็วกว่าทหารราบ พอไล่ตามทัน ทหารม้ากองกำลังหมิงไม่ต้องใช้ฟันหรือแทง หากใช้แค่คมดาบก็สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ อาศัยแรงม้าพาดตัดคอศัตรู
ทหารเก่าแก่ล้วนรู้เรื่องการประหยัดแรงเช่นนี้ พวกเขาไม่หยุดที่จะตั้งคมดาบไว้รอ เก็บเก็บชีวิตศัตรูด้านหน้าที่วิ่งหนี
ท่ามกลางการบุกของทหารม้า โจรวัวโค่วกลุ่มนี้แตกกระจัดกระจายง่ายดายยิ่ง สามารถมองเห็นทหารม้ากองกำลังหมิงเริ่มค่อยๆ บุกขึ้นหน้า แต่ทว่าจู่เฉิงซวิ่นหลังทะลายกองหน้าศัตรูได้ ทำตามคำสั่งหลี่หรูซงแล้ว ขับไล่โจรวัวโค่วหนีกระจัดกระจายไป
แม้มองเห็นทหารโจรวัวโค่วหนาแน่น แต่กองกำลังโจรวัวโค่วแต่ละกองก็ยังคงไม่ได้เกาะติดกันแน่น หน้าหลังล้วนเว้นระยะห่าง จู่เฉิงซวิ่นที่ตะลุยทะลายศัตรูกระจายไป ด้านหลังกองนี้ยังมีอีกกองราวสามพัน ระยะห่างจากตนราวห้าสิบก้าว กองด้านหน้าแตกกระจัดกระจายวิ่งไปรอบทิศ กองหลังมีระยะห่างนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบ แต่ทหารม้าจู่เฉิงซวิ่นกลับเพราะถูกทหารราบกองหน้าทำให้ความเร็วลดลง
“ยิง!!”
ทหารม้ากับทางนี้ใกล้กันพอควรแล้ว พลปืนใหญ่วัวโค่วก็ยิงทันที ทหารม้ากองกำลังหมิงร่วงจากหลังม้าส่งเสียงร้องโหยหวน มีทหารม้าที่เข้าใกล้ยิ่งมาก หลบพ้นปืนใหญ่วัวโค่ว แต่ไม่อาจเร่งความเร็วได้อีก ซามูไรนำกำลังทหารราบพร้อมทวนยาวบุกขึ้นหน้ามาแทงไปทั่ว คนย่อมต้านทานไม่อยู่ ร่วงจากม้า พอร่วงลงมา มีเกราะชั้นดี ยังไม่ตาย ถูกคนใช้ดาบตัดคอฉับ
“วิ่งๆๆ อย่าได้ผ่อนกำลัง วกกลับไป!”
จู่เฉิงซวิ่นขี่ม้าชำนาญสูง เขายังยิงธนูบนหลังม้า อาศัยเอี้ยวตัวและกำลังสองขาบังคับม้า ม้าเร่งความเร็ว ธนูแต่ละดอก ก็ย่อมมีโจรวัวโค่วหนึ่งคนร้องโหยหวนล้มลง แต่ไม่ใช่ทุกคนเหมือนเขาที่กล้าหาญชาญศึกเช่นนี้ หลายคนล้วนเพราะไม่อาจเร่งความเร็วม้าในเวลากระชั้นชิด ผ่านการบุกเมื่อครู่มา ม้าก็เริ่มเหนื่อยล้า หลายคนไม่อาจเร่งม้าได้ กองโจรวัวโค่วด้านหลังมีคนส่งสัญญาณและตีกลองดัง แต่ละหน่วยเดินหน้า แต่เดินหน้าได้ไม่มากนัก
แต่ระยะห่างไม่ไกล ก็พอดีกับทัพม้าจู่เฉิงซวิ่นคุมเชิงอยู่ ปืนใหญ่และธนูวัวโค่ว ถึงกับทวนยาวล้วนขวางทหารม้าไว้
“สู้ตาย ก่อนตายขอให้ได้สังหารเดรัจฉานนี้ไปด้วยกัน”
ทหารม้ากองกำลังหมิงร้อนใจ มีคนไม่วิ่งแล้ว สู้ตายด้วยธนู จากนั้นแทงม้าให้เจ็บเพื่อทะยานเข้าทัพศัตรูฟันสังหาร มีคนใช้ดาบแทงม้าตนเอง รีบเร่งความเร็วเข้าพื้นที่แห่งความตาย
หลังเสียทหารม้าไปร้อยกว่า กองทัพม้าจู่เฉิงซวิ่นในที่สุดก็ชิงความได้เปรียบได้ ก่อนจะหันกลับทัพ
“ทหารม้าโจรวัวโค่วๆ!!”
จู่เฉิงซวิ่นยังไม่ทันได้ปาดเหงื่อ ก็ได้ยินเสียงลูกน้องด้านหลังตะโกนดังราวกับสุกรโดนเชือด พอหันไปดู อดไม่ได้แอบด่า ทหารม้าโจรวัวโค่วราวหลายพันคน กำลังไล่เข้าโจมตีจากทางปีกขวาสนามรบ วิเคราะห์ความเร็วสองฝ่ายยามนี้ ระยะทางกลับ ระหว่างทางอาจถูกไล่ตามมาทัน
“ท่านแม่ทัพ แม่ทัพจู่ทางนั้น…”
ณ ที่ตั้งทหารม้ากองกำลังหมิง หลี่หรูซงเห็นสถานการณ์จู่เฉิงซวิ่นยามนี้ หลี่หรูซงพยักหน้าเล็กน้อย ยกดาบในมือ ตะโกนดังว่า
“ทุกคนบุก บุกเข้าไปในพื้นที่จู่เฉิงซวิ่นอยู่ตรงนั้นปะทะศึก นักรบผู้กล้าบุก!!”
ตอนที่ 1110 ม้าเหยียบโจรวัวโค่ว โลหิตชโลมราวดินโคลน
Ink Stone_Fantasy
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นรอบเปียงยาง กองกำลังหมิงคิดว่าตนรู้ภาพและเทคนิคการรบของทหารโจรวัวโค่วแต่มาถึงปี้ถีก่วนนี่ กลับพบว่าที่เคยรู้มาล้วนผิดพลาด
กำลังรบทหารโจรวัวโค่วไม่ได้เป็นดังที่พวกเมืองเหลียวโจวคิดว่าย่ำแย่ ทหารราบแม้ว่ามาก แต่ก็ยังมีทหารม้าจำนวนมากพอ เช่นกองที่บุกโจมตีก่อนหน้า ก็มีเกือบสองพัน
จู่เฉิงซวิ่นนำทัพตีทัพหน้าโจรวัวโค่วกระจุย จากนั้นก็บุกต่อ ถูกทหารราบศัตรูตั้งแถวรับ กว่าจะสลัดหลุดมาได้ ก็มองไปเห็นขบวนทัพม้าโจรวัวโค่วอีก
ปริมาณศัตรูมากกว่าที่คิดไว้มาก แม้ว่าทัพใหญ่เริ่มเดินหน้าแล้ว แต่น้ำไกลไม่อาจช่วยกระหายใกล้ หนีก่อนดีกว่า
ม้าแถวหน้าความเร็วไม่มาก ทหารม้าโจรวัวโค่วกลับมีกำลังดีอยู่ ระยะห่างสองฝ่ายเริ่มใกล้กัน แต่พอใกล้กันจริงๆ พวกจู่เฉิงซวิ่นกลับไม่กลัว แต่ละคนน้าวธนูบนหลังม้า หันไปยิง ทหารม้าโจรวัวโค่วที่เข้าใกล้ล้วนถูกยิงร่วง
ทหารม้าแผ่นดินหมิงที่เก่งกล้าที่สุดล้วนฝึกตามแบบมองโกลบนทุ่งหญ้า โดยเฉพาะเทคนิคการขี่ม้ายิง เทคนิคการยิงบนหลังม้าเป็นการวัดมาตรฐานความเก่งกล้าของทหารกล้าแต่ทางโจรวัวโค่วขี่ม้าดูแล้วเคร่งเครียด โจรวัวโค่วขาดแคลนม้า ม้าจำนวนมากเดาว่าได้มาจากที่เกาหลีนี่ ฝีมือขี่ม้ายังไม่ดีนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝีมือยิงธนูบนหลังม้า
หากเข้าใกล้ก็จะถูกยิงร่วง ระยะห่างสองฝ่ายค่อยๆ ห่างออกจากกัน แต่ขบวนทัพม้าโจรวัวโค่วยังไม่ยอมปล่อยไป ติดตามมานอกระยะยิง อย่างไรก็คนมากกว่า ล้อมสังหารเอาก็ได้
พวกจู่เฉิงซวิ่นกำลังขี่ม้าหนี ก็เห็นด้านหน้ามีทัพใหญ่ จู่เฉิงซวิ่นเป่าหวีดดัง ไม่สนใจว่าม้าจะล้มหรือไม่ กระตุกม้าหันหลังทันที วิ่งออกด้านข้าง ทุกคนที่เหลือก็ทำตาม ไม่ใช่แต่ละคนล้วนมีความสามารถขี่ม้าแบบจู่เฉิงซวิ่น ม้ายังเหนื่อยมากเพราะวิ่งมาบนดินโคลน ม้าสิบกว่าตัวก็ล้มลงเพราะเสียสมดุล คนบนหลังม้าก็ตะกายออกมาจากม้าวิ่งหนีต่อ…
ขบวนทัพม้าโจรวัวโค่วอาศัยจัวหวะนี้เข้าประชิด พวกจู่เฉิงซวิ่นที่วิ่งกระจัดกระจายอยู่ด้านหน้ากลับหันหลังกลับ เปิดให้เห็นกองทัพใหญ่ที่ปิดอยู่ด้านหลัง
ขบวนทัพม้าจำนวนมากเช่นนี้ใช่ว่าไม่อาจพบ แต่เพราะมัวแต่สนใจทหารหนีด้านหน้า คิดว่าตนเองสามารถไล่ได้ทัน พอมาถึงตรงหน้าก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
“กลับหลังหันๆ !”
ขุนพลหัวหน้าโจรวัวโค่วตะโกนคำสั่ง ทวนยาวในมือก็ตวัดแสดงคำสั่ง แต่ทัพม้าแม้ว่าวิ่งช้า แต่ก็ไม่อาจบอกว่ากลับหลังหันก็กลับหลังหันได้ ทหารม้าด้านหลังเห็นนายออกคำสั่ง ก็กระชากม้าหยุด หันหลังวิ่งกลับ แต่ก็ยากมาก
สองฝ่ายปะทะเบียดเสียด เริ่มวุ่นวาย ระยะห่าง กับกองกำลังหมิงอย่างไรก็น้อยมาก บ้างกลับหลังหัน บ้างกระจายออกรอบทิศ ตอนทัพใหญ่มาถึง ทหารม้าโจรวัวโค่วส่วนใหญ่กลับไปแล้ว แต่ระยะห่างสองฝ่ายใกล้กันพอควร ในสภาพดินโคลนเช่นนี้ ผู้ใดก็วิ่งได้ไม่เร็ว ไล่ตามก็ยาก
แต่กองกำลังหมิงมีธนู ระยะห่างตอนนี้อยู่ในรัศมียิง ทหารในสังกัดข้างหลี่หรูซงดึงลูกธนูออกจากซองหนังวิ่งไปยิงไป นี่เป็นคำสั่ง ทหารม้ากองกำลังหมิงแถวหน้าที่ยิงได้ก็เรียกได้ว่ามีฝีมือ ล้วนน้าวธนูยิงมุมแหงนออกไป
ธนูมาราวห่าฝน กองหลังทหารม้าโจรวัวโค่วล้วนร้องโหยหวนร่วงจากหลังม้า พอคนหนึ่งร่วง ทหารม้าโจรวัวโค่วด้านหน้าก็ยิ่งวิ่งเร็ว เมื่อครู่ธนูราวห่าฝน แม้ว่าสร้างอานุภาพสังหาร แต่ในมุมหนึ่งนั้นก็ทำให้เกิดช่องว่างเพียงพอ
สนามรบที่หลี่หรูซงเลือกนำกำลังทหารม้าออกรบเดิมเป็นตำแหน่งทางขวาของทัพใหญ่ทหารโจรวัวโค่ว ในระยะไล่ล่านี้ เขาไม่ได้สนใจลูกน้องว่าจะบุกช้าเร็วหรือให้เร็วยิ่งขึ้น เพราะแต่เริ่มมาถึงตอนนี้ขอแค่บุกเข้าไปก็พอ กองหน้าทหารม้าโจรวัวโค่วไม่สำคัญ แต่ต้องการให้ทหารม้ากองโจรวัวโค่วหันเข้าใส่ทหารราบตนเอง จากนั้นก็จะได้เหยียบกันเละ พอทัพวุ่นวายแล้วก็เข้าไล่สังหาร นี่คือประเด็นสำคัญ ใช้น้อยรบมาก ก็มีเพียงวิธีนี้ที่จะชนะ
ทหารม้าโจรวัวโค่วระยะห่างจากทัพตนไม่ไกลแล้ว คำสั่งต่างๆ มาสู่สนามรบ ทหารทวนยาวโจรวัวโค่ว ด้านหน้าล้วนมีซามูไรโบกธงเร่งกำลังอยู่ด้านหน้า
แม้เห็นกองทัพใหญ่โจรวัวโค่วมืดฟ้ามัวดิน แต่ทุกหลายพันนาย ไม่ก็ทุกพันนาย ล้วนเว้นช่องว่างระหว่างกัน มองเห็นธงคำสั่งโบก ทหารม้าโจรวัวโค่วเตรียมตัวนานแล้ว ก็จัดทัพม้าขึ้นบุก
“บุกเข้าไปๆ ล้อมสังหารโจรหมิง!!”
คำสั่งออกไป ซามูไรวัวโค่วแต่ละหน่วยพากันตะโกน นำกำลังทหารราบบุกขึ้นหน้า ทุ่งนาปี้ถีก่วนไปทางซ้าย หลายแห่งถูกเหยียบย่ำเป็นดินเหลว ม้าเดินไม่สะดวก กลับเป็นทหารราบคล่องตัวกว่าหน่อย โจรวัวโค่วด้านหน้ายังคงบีบพื้นที่เข้ามาเป็นรูปครึ่งวงกลม
“โจรวัวโค่วไม่ชำนาญ พวกเราเพียงแค่บุกเข้าไปกองหนึ่ง โจรวัวโค่วแตกกองหนึ่ง อต่ย่อมถูกกองอื่นอุดทางไว้ไม่กระจัดกระจาย ถึงตอนนั้นขบวนทัพม้าเราวิ่งไม่เร็ว ย่อมมีภัย!!”
สำหรับพวกขุนพลตระกูลหลี่แล้ว สถานการณ์การบเช่นนี้แม้ว่ากดดัน แต่ก็ไม่เพียงพอจะทำให้พวกเขาเสียการควบคุม หลี่หรูซงบนหลังม้ายังเหมือนปกติ ประเมินสถานการณ์ตรงหน้า รองแม่ทัพและขุนพลจู่โจมข้างๆ ก็ล้วนมีท่าทีไม่ต่างกัน หลี่ซานสือเอ่ยถามขึ้นว่า
“ท่านแม่ทัพ ยังไม่มีระยะวิ่ง หรือว่าหันกลับไป!!”
หลี่หรูซงส่ายหน้าขึ้นเสียงดังว่า
“ดินโคลนบัดซบพวกนี้ ไม่อาจกลับหลังหันได้ หากหันกลับมีแต่ตายสถานเดียว ถ่ายทอดคำสั่งข้า ระยะสองร้อยก้าวใช้ปืนรังผึ้ง ยิงทัพศัตรูกระจายไปก่อน พวกเราค่อยบุก!”
คำสั่งออกไป ทหารถ่ายทอดคำสั่งนำธงคำสั่งออกไปถ่ายทอดคำสั่ง สี่พันทหารม้าล้วนทหารเก่งกล้าตระกูลหลี่ ล้วนรับมือกับคำสั่งได้รวดเร็วแม่นยำ คำสั่งมาถึง ทุกหน่วยก็ผ่อนกำลังม้า แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเร่งความเร็วบุกเข้าไป
สองฝ่ายเว้นระยะห่าง ทหารม้าที่เร่งความเร็วมาพวกนั้น หลังวิ่งเว้นระยะห่างก็ลงจากหลังม้า หลายคนเร่งมือปลดหีบไม้บนหลังม้าลงไป หีบไม้เบื้องหน้าล้วนมีไม้ทำรูปสามขา หลายคนออกแรง นำสามขาปักลงดิน นำหีบไม้ด้านหนึ่งเล็งไปทางกำลังโจรวัวโค่วที่กรูกันมา
ด้านนั้นสามารถมองเห็นแถวลูกธนูเรียงเป็นชั้นๆ มองแล้วเหมือนกระบอกบรรจุลูกธนู แต่อีกด้านนั้น กลับเป็นรูเหมือนรังผึ้งเปิดออก และยังมีเชือกชนวนติดไว้กับตัวลูกธนู
พอจัดการเสร็จ ก็ตะโกนดัง กองทัพใหญ่ด้านหลังผ่อนกำลังฝีเท้าม้าลง แต่ยังคงเข้าใกล้ไม่หยุด ร้อยกว่าหีบไม้ล้วนจัดวางเสร็จ ระยะยิงนี้มีคนใช้ดินปืนโรยพร้อมโยงเชือกชนวน จ่อเข้ากับคบเพลิงที่เตรียมไว้ จากนั้นพากันขึ้นหลังม้า
มีคนตะโกนดัง ทหารม้ากองกำลังหมิงล้วนใช้คบไฟจุดชนวน จากนั้นวิ่งกลับมา ทหารราบโจรวัวโค่วเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เสียง ฟู่ ดังไปทั่วสนามรบ กลบเสียงไม่มิด พอเสียงนี้ดับไป สายชนวนใกล้จะมอดหมด หีบไม้พวกนั้นเริ่มสั่นไหว ลูกธนูพร้อมควันเริ่มพุ่งออกมาสี่ทิศ เสียงหวีดดังไปทั่วสนามรบ
ใช้ดินปืนผลักดันธนูในนั้นให้พุ่งออกจากหีบไม้ เรียกว่าปืนรังผึ้ง เพราะมีดินปืนเป็นตัวนำ ดังนั้นลูกธนูจึงมีความเร็วและระยะยิงที่ดีว่าธนูทั่วไป ความแม่นไม่มี แต่ทว่าสนามรบเช่นนี้ แต่ละแห่งล้วนมีแต่ทัพศัตรู ขอเพียงเล็งถูกทิศ ย่อมสร้างอานุภาพสังหารสูง
โจรวัวโค่วที่บุกมาด้านหน้าไม่คิดเลยว่าจะมีอาวุธเช่นนี้ ธนูแต่ละดอกตอนยิงปะทุออกมา คนไม่น้อยถึงกับยืนมองอึ้ง
เสื้อผ้าและเกราะหนังบนตัวพวกเขา ไม่อาจจะต้านทานการยิงของปืนรังผึ้งไฟเช่นนี้ได้ พวกทหารราบแถวหน้าหลายแถวล้วนล้มลง แต่ก็มีที่โชคดีไม่โดนยิง หากหันกลับก็ต้องร้องโหยหวน พวกเขาล้วนตกใจกับสภาพรอบล้อมเช่นนี้
ปืนรังผึ้ง ธนูไฟ ในเวลาสั้นๆ เพื่อนทหารแถวหน้ารับเอาไว้แล้ว ทหารด้านหลังก็ก้มตัวหลบ สถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนพากันแตกตื่น ไม่อาจครองสติอยู่ได้อีก คนที่ตั้งสติได้ล้วนพากันวิ่งหนี
ในสภาวะวุ่นวายสับสนนี้กินเวลาไม่นาน เพราะแถวหน้ากระจัดกระจาย กองหลังที่ตามมาจัดกำลังป้องกันทหารถอยหนี ระยะห่างที่ท้ายออกไปอีก ยังไม่ได้วุ่นวาย กองกำลังเหล่านี้ยังคงรูปแบบปะทะศึก
สถานการณ์แตกกระจัดกระจายหยุดลงอย่างรวดเร็ว ทหารพ่ายกระเจิงรวมตัวกลับมา หลี่หรูซงชักดาบยาวตนออกมาแล้ว เขาสามารถมองเห็นโจรวัวโค่วถูกปืนรังผึ้งระดมยิง กองทัพใหญ่ตรงหน้าล้วนอลหม่านกระเจิดกระเจิง แต่มองจากภาพรวมแล้ว สองฝ่ายแตกกระจายและรับมือกันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ระยะหนึ่ง หลี่หรูซงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกระแทกท้องม้า กวัดแกว่งดาบฟันไปด้านหน้า
นี่เป็นคำสั่ง ทหารม้ากองกำลังหมิงจากหน้าไปหลัง แต่ละคนล้วนปะทุอารมณ์คำรามตะโกนดังก้อง แต่ละคนล้วนเร่งทะยานม้าไปด้านหน้า ทหารม้าจะเร่งกำลังบุกแล้ว!!
ทหารโจรวัวโค่วยังไม่ทันได้ฟื้นคืนจากธนูไฟที่แหวกอากาศมาบนสนามรบเมื่อครู่ อยู่ๆ ล้วนเริ่มมีกำลังเคลื่อนไหวรุนแรง ทหารม้ากองกำลังหมิงกองใหญ่ราวกับคลื่นถาโถมเข้าใส่ อย่าว่าแต่เป็นทหารราบ ซามูไรบางคนยังไม่ทันตั้งตัวได้ ก็ล้มก้นกระแทกพื้น
ธนูไฟเมื่อครู่ทำให้พวกเขาแตกตื่นตกใจ ตอนนี้ทหารม้าเช่นนี้บุกมา ยิ่งทำให้พวกเขาไม่รู้รับมืออย่างไร หลายคนยืนอึ้งกับที่ ถอยหลังก็ไม่อาจหนีทัน ทหารราบในสถานการณ์นี้ย่อมวิ่งหนีทหารม้าไม่พ้น ทำอย่างไรดี ถูกบีบไร้หนทาง มีคนเริ่มบ้าคลั่ง ตะโกนเอ็ดตะโรดังก่อนจะเงื้ออาวุธวิ่งเข้าใส่
ขบวนทัพม้ากองกำลังหมิงหลายคนน้าวธนูพร้อม ธนูราวห่าฝนพุ่งแหวกอากาศไป ทำเอาพวกบ้าคลั่งตรงหน้าสูญสิ้น จากนั้นก็กวัดแกว่งดาบเข้าปะทะ กองหน้าโจรวัวโค่วด้านหน้าก็ต้านทานไม่อยู่ทันที หลายคนถึงกับถูกม้าเหยียบ กลายเป็นก้อนเนื้อเละๆ กองหน้าโจรวัวโค่วแตกกระเจิงแล้ว
ตอนที่ 1111 บุกขึ้นหน้า ตกหลุมกับดัก
Ink Stone_Fantasy
ทหารม้ากองกำลังหมิงส่งเสียงร้องดัง ศัตรูไล่มาด้านหน้าถูกตัดหัว แทงสังหาร โจรวัวโค่วด้านหน้าไร้แรงต้านทาน มีหลายคนถูกบีบให้จนมุม ตะโกนหันหลังหนีเอาตัวรอด แต่ยังคงถูกคนแทงจากที่สูง หลายคนยังถูกไล่ออกวิ่งไปสี่ทิศ แตกกระเจิงไม่เหลือสภาพ
ทหารม้ากองกำลังหมิงเดิมยังรวมตัวกัน แต่เพราะไล่ล่าศัตรูเริ่มกระจัดกระจายกัน แต่หลังกองหน้าศัตรูยังคงมีแถวทัพทหาร มีช่องว่างระหว่างทัพ ซามูไรกับทหารราบล้วนตะโกนดัง ให้ทหารที่หนีกระจัดกระจายออกจากพื้นที่ว่างด้านหน้า ไปเรียงแถวกันด้านหลัง หากมุ่งเข้าใส่ทัพตนก็ย่อมถูกสังหารแทน
ขบวนทัพม้ากองกำลังหมิงที่วิ่งทะยานเข้ามาเริ่มผ่อนกำลังลงแล้ว ทหารแตกพ่ายด้านหน้ายิ่งลดลงเรื่อยๆ กลับมีกองปืนใหญ่วัวโค่วปรากฎขึ้นแทน
เนินสูงใกล้ปี้ถีก่วน ซามูไรฮาตาโมโตะนับพันในเกราะชั้นดีถือสัญลักษณ์อุมะ จิรุชิ ที่เรียกว่า อุมะ จิรุชิ[1]ก็คือธงประจำตัวขุนพลทหารโจรวัวโค่ว บ้างเป็นธง บ้างเป็นสิ่งสัญลักษณ์ แสดงตำแหน่ง ก็เหมือนกับธงแม่ทัพ
พวกที่คุ้นกับกระบวนการโจรวัวโค่วก็จะมองอุมะ จิรุชิเหล่านี้ก็จะรู้ว่าโคนิชิ ยูกินากะ คุโรดะ นากามาสะ หรืออาจได้เห็นแม่ทัพใหญ่โจรวัวโค่ว อุคิตะ ฮิเดะอิเอะ หรือถึงกับได้เห็นโคบายากาว่า ทาคากาเกะแห่งกองรบหก
“ท่านขุนพลทุกท่าน โจรหมิงกำลังแข็งแกร่งมาก พวกเรา…พวกเราถอยกลับไปเมืองโซอุลรักษาการณ์ดีกว่าไหม!”
ถูกยกให้เป็นหัวหน้าอย่างขุนพลร่างอ้วนแต่งการหรูหราที่สุดในนั้นกล่าวติดอ่างขึ้น พอเขาพูดออกมา ซามูไรฮาตาโมโตะด้านนอกรอบๆ ล้วนอดไม่ได้ก้มหน้าลง บ้างก็ปิดบังสายตาดูแคลนตน บ้างก็รู้สึกละอายใจแทน
โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะสีหน้าฉายแววดูแคลน ไม่สนใจคนผู้นี้ หันไปมองชายวัยกลางคนทางซ้ายโดยไม่ได้นัดหมาย ชายท่าทางหนักแน่นอายุราว 40-50 ปี ไหล่กว้าง ขาสั้น ดูแล้วเป็นรูปสี่เหลี่ยม กำลังยืนหันข้าง กล่าวว่า
“ท่านอุคิตะ ท่านว่าโจรหมิงยามนี้กำลังรบดุเดือด แต่ท่านไม่ได้สังเกตหรือว่า โจรหมิงที่บุกเข้ามาเหมือนถูกดูด พวกเขาด้านหลังหมดแรงแล้ว!”
อุคิตะ ฮิเดะอิเอะมองไปอย่างหวาดๆ ไม่อาจพบเห็นอันใด โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะอย่างไรก็ออกสนามรบมานาน ล้วนรู้สึกได้ดังว่า ความเร็วการบุกกองกำลังหมิงเริ่มช้าลงแล้ว และเริ่มแตกกระจายแล้ว
“พี่น้องเราโต้กลับก็ยามนี้!”
เหมือนประสานรับคำพูดโคบายากาว่า ทาคากาเกะ ได้ยินปืนใหญ่วัวโค่วกับปืนกระบอกยิงตูมดัง บนสนามรบสียงดังอึกทึก ควันขาวลอยปกคลุม
“ขอท่านอุคิตะมีคำสั่ง ทหารม้ากับซามูไรทุกหน่วยล้วนพร้อมบุกแล้ว จัดการล้อมทหารม้าโจรหมิง ย่อมสามารถทำลายขบวนทัพม้ากองโจรหมิงนี้ราบคาบได้!”
โคบายากาว่า ทาคากาเกะกล่าวเสียงดัง ว่าขออุคิตะออกคำสั่ง ยังไม่ทันที่อุคิตะจะขยับ ซามูไรรอถ่ายทอดคำสั่งก็วิ่งลงเขาไปแล้ว แม่ทัพใหญ่อย่างอุคิตะ ฮิเดะอิเอะไม่สนใจอันใด เพียงพยักหน้าเห็นชอบ กุมหน้าผากกล่าวว่า
“อาจเพราะเช้านี้ถูกลม ตอนนี้ข้ารู้สึกหน้ามืดตาลาย สภาพเช่นนี้บัญชาการไปเกรงว่าจะเสียการ ไม่สู้ให้โคบายากาว่า มาทำหน้าที่แทน…”
น้ำเสียงเริ่มเบาลง คนรอบๆ ได้แต่สีหน้าดูแคลนหนักขึ้น แต่ทว่าโคบายากาว่า ทาคากาเกะสีหน้ากลับเป็นห่วง คำนับกล่าวว่า
“สุขภาพท่านสำคัญยิ่ง รีบกลับเข้าเมืองไปพักดีกว่า ที่นี่มอบให้ข้าดูแลก็พอ!”
กล่าวจบ ก็ทำเป็นไม่เห็นสีหน้าลิงโลดของอุคิตะ ฮิเดะอิเอะ หันไปกล่าวกับซามูไรฮาตาโมโตะหลายคนว่า
“ยังไม่ส่งใต้เท้ากลับเข้าเมืองไปพักผ่อนอีก เชิญหมอในกองมาดูแลด้วย…”
“เกรงใจจริงๆ ที่นี่ก็ขอให้ใต้เท้าทุกท่านดูแลแทนแล้ว”
อุคิตะ ฮิเดะอิเอะ ทำทีเสแสร้งไปก็ทำเป็นเดินอ่อนแรงไป พวกโคบายากาว่าคำนับส่ง จากนั้นก็หันมาดูสนามรบต่อ โคบายากาว่า ทาคากาเกะกำลังจะออกคำสั่ง กลับได้ยินไม่รู้มีคนกล่าวจากที่ใดว่า
“เจ้าพวกสวะ หากไม่ใช่มารดามันกับท่าน…”
สีหน้าโคบายากาว่า ทาคากาเกะดุดันกวาดสายตามมอง รอบๆ เริ่มเงียบกริบ ตอนนั้นเอง โคนิชิ ยูกินากะลังเลครู่หนึ่ง กล่าวว่า
“ใต้เท้าโคบายากาว่า คนของเราเบื้องหน้าบาดเจ็บล้มตายไปมากแล้ว ทหารม้าโจรหมิงแข็งแกร่งเกินไป หากพวกเราใช้กำแพงเมืองเมืองโซอุลเป็นกำบัง ปล่อยให้ทหารม้าโจรหมิงใช้เสบียงหมดค่อยลงมือโจมตี ถึงตอนนั้นขวัญทหารโจรหมิงหมดสิ้น ผลการรบอย่างไรก็ย่อมยิ่งใหญ่!”
โคบายากาว่าค่อยๆ ส่ายหน้า กล่าวว่า
“ไม่เหมาะ ตั้งแต่โจรหมิงออกรบมา ทหารเราก็ไม่เคยชนะ จากจังหวัดพยองอัน จังหวัดฮวังแฮตลอดทางถอยมาเรื่อยถึงที่นี่ บาดเจ็บล้มตายยิ่งมาก หากยังไม่ชนะอีก ทหารเก่งกล้ากองกำลังหมิงกินรวบแน่ ทัพเราไม่อาจมีกำลังใจฮึกเหิมได้อีก จากนี้คงต้องมีแต่แตกพ่าย ถึงตอนนั้น ทุกคนที่บาดเจ็บล้มตายก็จะไม่เพียงแค่เท่านี้แล้ว!”
ถูกโคบายากาว่ากล่าวเช่นนี้ ทุกคนล้วนอึ้งไป โคบายากาว่ายังชี้ไปบนสนามรบกล่าวว่า
“ทหารม้าวิ่งไม่ไหว ถูกกำลังคนเราที่ได้เปรียบล้อมไว้แล้ว จะรู้ผลแพ้ชนะแล้ว เวลาสำคัญตอนนี้ ก็เหลือแค่ว่าเราตัดสินใจแน่วแน่เพียงใดแล้ว กำลังทุ่มเลงไปได้มากเท่าไรแล้ว!”
กล่าวจบ โคบายากาว่า ทาคากาเกะก็หันไปตะโกนดัง
“ฮิเดคาเนะ เจ้านำกำลังฮาตาโมโตะเราเข้าสู่สนามรบ จะต้องนำหัวแม่ทัพโจรหมิงกลับมาให้ได้!”
ทหารที่ยืนข้างโคบายากาว่า ทาคากาเกะนายหนึ่งรับคำทันที รีบวิ่งลงเขาไป ซามูไรฮาตาโมโตะชุดเกราะล้วนติดตามไป
พอเห็นโคบายากาว่า ทาคากาเกะใช้ทหารเก่งกล้าตนเอง โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะก็ออกคำสั่งตาม ขุนพลทหารที่อุคิตะ ฮิเดะอิเอะทิ้งไว้ที่นี่หลายคนเริ่มเข้าสู่สนามรบ
****************
หลี่หรูซงฟุบตัวไปด้านหน้า ทวนยาวด้านหลังที่แทงมาแทงเอาอากาศ แต่ด้านหน้ายังมีศัตรู ซามูไรผู้หนึ่งสองแขนกำดาบยาวยกแล้วฟันทันที ซามูไรวัวโค่วร่างไม่สูงนัก แต่พอโดดก็ไม่ได้เตี้ย กอปรกับดาบมีความยาวก็พอที่สร้างคลื่นขมขู่ได้
หลี่หรูซงสองขากระแทกท้องม้า แทงขอเกี่ยวม้าใส่ ม้าเจ็บก็ทะยานตัวขึ้น ดาบโจรวัวโค่วฟันมา ดาบในมือหลี่หรูซง ตวัดมา คอซามูไรถูกฟันขาดไปครึ่ง เลือดสาดกระเซ็น ศพลอยคว้างก่อนร่วง ด้านหน้ายังคงมีทหารราบสองสามคนตะโกนดังก่อนจะแทงทวนใส่ หลี่หรูซงคิดหันม้าหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว เห็นว่ากำลังปะทะแล้ว ด้านหลังก็มีเสียงแหวกอากาศมาหลายเสียง ทหารราบด้านหน้าล้วนถูกยิงตาย
“ท่านแม่ทัพ โจรวัวโค่วมากเกินไป พวกเราไม่อาจบุกขึ้นหน้าได้แล้ว!”
ได้ยินเสียงคนด้านหลัง หลี่หรูซงถอนหายใจยาว หันไปมอง ทหารติดตามเขาตามมาแล้ว คนส่วนใหญ่ใบหน้าล้วนมีแต่คราบเลือด สกปรกกระดำกระด่าง หลี่หรูซงพยักหน้า กระตุกบังเหียนก่อนจะหันกลับ กล่าวว่า
“รวบรวมกองกำลังเรา ฝ่าออกไป!!”
กระแทกม้า ม้าก็วิ่งออกไปทันที ออกจากสถานการณ์ตรงนี้ได้ชั่วครู่ ก็มีทหารม้าโจรวัวโค่วไล่ตามมา
ทัพหน้าโจรวัวโค่วถูกสังหาร ทหารม้ากองกำลังหมิงหลังจากสลายทัพหน้าได้ราบคาบแล้ว ก็พบว่าไม่ได้ทำให้ทัพใหญ่โจรวัวโค่วแตกกระจัดกระจาย กลับเป็นตนเองตกเข้ามาในหลุมกับดัก
แรงบุกอ่อนกำลัง ถูกปืนใหญ่วัวโค่วยิงมุมแหงนใส่อีก บาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย กองกำลังก็เริ่มหยุดชะงักและวุ่นวายสับสน เพราะใช้คนน้อยสู้คนมาก ดังนั้นหลี่หรูซงไม่มีทางหนีอีกแล้ว แต่ทหารม้าบุกมากองใหญ่เพียงนี้ ด้านหน้าหยุดชะงัก ด้านหลังก็ไม่อาจรวมกำลังได้ชั่วคราว
หน้าหลังเบียดเสียด ทั้งกองกำลังพริบตาก็ไม่อาจขยับไปไหนได้อีก ยิงไม่ต้องพูดถึงทัพหน้ากองกำลังหมิงที่กระจัดกระจายไปตั้งแต่ตอนไล่โจมตีแล้ว
ใช้ทัพหน้าสลายกำลังบุกทหารม้า ใช้ปืนใหญ่วัวโค่วสร้างแรงสังหาร อาศัยจังหวะที่ไม่ทันได้หลบ ก็แทรกเข้ามาและแบ่งแยกกำลังออกจากกัน วิธีการรบโจรวัวโค่วแสดงให้เห็นแล้ว ล้วนได้ผลที่เรียกว่าดังคาด
ข้อได้เปรียบเรื่องกำลังทหารของทหารราบโจรวัวโค่วประสานกำลังกับทหารม้า เริ่มล้อมทหารม้ากองกำลังหมิง ทหารม้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกแล้ว ไม่อาจอาศัยความเร็วบุกทะลวงได้อีก ตอนนี้ได้เวลาเข้าปะทะสังหารแล้ว
แต่อย่างไรก็เป็นพวกขุนพลเก่าแก่ตระกูลหลี่ ทหารม้าเหล่านี้แม้ถูกแยกออกและล้อมไว้ ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอันใด สองฝ่ายเข้าปะทะ อาศัยอาวุธในมือ จากที่สูงฟันลงต่ำใส่ทหาราบโจรวัวโค่ว
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทหารม้ากองกำลังหมิงตัวต่อตัวกับทหารราบโจรวัวโค่ว หรือถึงกับซามูไรวัวโค่วก็ล้วนได้เปรียบ แต่อีกฝ่ายอาจมีถึงสองสามคนหรือสิบกว่าคนรุมคนเดียว บาดเจ็บล้มตายเริ่มค่อย ๆ เห็นผล
ทุกคนล้วนรู้ตอนนี้เช่นนี้ตนไม่อาจหนี และหนีไม่พ้น ได้แต่รวมกำลังกันเข้ามาใหม่ แต่ทว่าม้าวิ่งไม่เร็วแล้ว ได้แต่สังหารไปวิ่งไป
ทหารม้ากองกำลังหมิงในที่สุดก็รู้สึกถึงลักษณะเด่นทหารโจรวัวโค่วก็คืออดทน ตั้งแต่เริ่มถึงตอนนี้ ทหารม้ากองกำลังหมิงบุกไม่หยุด แถวทัพโจรวัวโค่วถอยไม่หยุด แต่ทุกครั้งก็ยันขึ้นมาใหม่ สุดท้ายหลังจากล้มตายไปไม่น้อย ก็สามารถล้อมกองกำลังหมิงไว้ได้
พวกหลี่หรูซงหลายร้อยคน ทหารในสังกัดเขามีแต่เก่งกล้าสามารถ ทหารม้าที่เก่งกล้าที่สุด ล้วนสวมเกราะ มีดดาบหรือธนู ม้าที่ขี่ล้วนเป็นของดีอันดับหนึ่ง ท่ามกลางการรบปะทะซ้ายขวา รวบกำลังที่กระจัดกระจายเข้ารวมกันไม่หยุด แต่ทว่า ทหารโจรวัวโค่วก็ยังล้อมเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านหลังมีเสียงปืนใหญ่ดังประปราย สองข้างเริ่มปรากฏซามูไรวัวโค่วชุดเกราะ ถือทวนยาว เข้าใกล้มาเรื่อยๆ
“ท่านแม่ทัพ ฉาต้าโข่วอยู่ทางขวา!”
หลี่หรูซงมองไป ดังคาด รีบตะโกนดังว่า
“บุกเข้าไป…”
วาจาไม่ทันจบก็มีเสียงร้องดังด้านหลังขัดจังหวะ หันไปมอง ทหารติดตามที่ตะโกนเมื่อครู่ถูกคนเกี่ยวร่วงจากหลังม้า ทหารโจรวัวโค่วใช้ขอเกี่ยวแทง ดึงร่วงจากหลังม้า คนที่ถูกเกี่ยวร่วงไปนั้นก็คือหลี่โหย่วเซิง เป็นขุนพลตระกูลหลี่ มีตำแหน่งหน่วยจู่โจม
หลี่หรูซงตวาดด่าเสียงดัง ก่อนจะคว้าธนูยิงใส่โจรวัวโค่วผู้นั้น แต่หลี่โหย่วเซิงก็ยังถูกล้อมไว้ ทั้งฟันทั้งแทง ไม่นานก็ไร้ลมหายใจ ทุกคนคิดหันมาเข้าไปช่วย แต่ไม่ทันได้เคลื่อนไหว ก็มีทวนสั้นจากอีกทางขว้างมา มีคนไม่ทันระวัง ถูกปักร่วงจากหลังม้า หลี่หรูซงกระชากม้าสุดชีวิตบุกไปด้านหน้า เพื่อไปรวมกับฉาต้าโข่ว
……………………………..
[1]อุมะ จิรุชิ” ปรากฏในยุคเซนโกกุ เวลาซามูไรเดินทัพไปรบนั้น พวกนายทัพมักจะใช้ให้บ่าวไพร่ถือธงและสัญลักษณ์ประจำตระกูลตามหลัง อาจใช้ไม้ค้ำชูหมวกศึก
ตอนที่ 1112 ตัดสินใจกับผลที่ปรากฏ
Ink Stone_Fantasy
ทวนยาวในมือหลี่หรูป๋อเอียงออก ก่อนจะแทงลงไป ซามูไรวัวโค่วที่บุกมาด้านหน้าไม่ทันป้องกัน ถูกคมทวนแทงหมวกเกราะ ใบหน้าถูกเปิดออก หลี่หรูป๋อบนหลังม้าไม่ทันได้กระชากทวนยาวกลับ ก็มีเสียงร้องประหลาดซามูไรวัวโค่วก่อนจะฟันดาบยาวใส่ทวนยาวเขา ครั้งแรกถูกปลายทวนยาวรับไว้ ครั้งที่สองฟันใส่ด้ามทวน หลี่หรูป๋อไม่ตกใจ หากกระชากม้า อาศัยม้ากระโจน ดันทวนที่หักแทงเข้าลำคอศัตรูทางซ้าย
เห็นในมือเขาไร้ทวนยาว อีกคนก็พุ่งเข้ามา ทหารติดตามด้านหลังหลี่หรูป๋อตะโกนดัง ให้ท่านแม่ทัพอย่าออกห่างทัพใหญ่มากไป หลี่หรูป๋อกลับไม่สนใจ พลิกมือชักดาบวัวโค่วที่เก็บได้ออกมา ซ้ายตวัดขวาฟัน ดาบวัวโค่วคมมากจริง สองข้างซ้ายขวาล้วนถูกเขาฟันตายไปหลายคน
ขุนพลหมิงที่กล้าหาญเช่นนี้ พริบตาซามูไรวัวโค่วที่ล้อมไว้พากันหวาดกลัว หลี่หรูป๋อบนหลังม้ามองสำรวจแล้ว ก็ตวัดดาบยาวตะโกนว่า
“บุกหน้าๆ พี่ใหญ่อยู่ที่นั่น!”
หลี่หรูป๋อข้างกายรวมกำลังทหารม้าได้หลายร้อย ทหารม้ากองกำลังหมิงกองเล็กรวมกำลังกันไม่หยุด เพื่อไปรวมตัวกับทางหลี่หรูซง
ทหารที่หลี่หรูซงนำมาจากเมืองเซวียนฝู่ และทหารม้าเลือกมาจากเหลียวซีเหล่านี้ล้วนเป็นทหารม้าเก่งกล้าที่ตอนนั้นพ่อลูกตระกูลหลี่ฝึกซ้อมมา แม้ถูกโจรวัวโค่วใช้คลื่นกองทัพล้อมไว้หลายชั้น แยกให้แยกตัวจากกัน แต่ก็ไม่ตื่นตระหนก ยังคงค้นหาเพื่อนทหารด้วยกันก่อนจะบุกไปรวมตัวกัน
กองกำลังหมิงเล็กๆ เริ่มเป็นกองใหญ่ กองกำลังหมิงทั้งสนามรบเหมือนก้อนหิมะที่กลิ้งมารวมกัน ยิ่งใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น บริเวณให้เคลื่อนไหวยิ่งกว้างขึ้น การล้อมของทัพใหญ่โจรวัวโค่วก็ยิ่งต้องตีวงกว้างขึ้น
**************
“จังหวัดพยองอัน ไม่ได้ผิดที่เจ้า ข้าจะเรียนแม่ทัพใหญ่และใต้เท้าทุกท่านให้ทราบเอง!”
ขุนพลโจรวัวโค่วด้านบนล้วนสีหน้าย่ำแย่ โคบายากาว่า ทาคากาเกะอยู่ๆ กล่าวเช่นนี้ โคนิชิ ยูกินากะเงียบ ตอนแรกเขาทิ้งกำลังหนึ่งในสามถอยไปยังจังหวัดคยองกี โจรวัวโค่วทุกระดับล้วนมองเขาด้วยสายตาหยามเหยียด คิดว่าโคนิชิ ยูกินากะไร้สามารถ
แต่หลังจากการรบวันนี้ พวกขุนพลโจรวัวโค่วได้เห็นความกล้าหาญทหารม้าเมืองเหลียวโจว แน่นอนรู้สึกว่าไม่ใช่ความผิดของโคนิชิ ยูกินากะ อย่างน้อยก็ทำการรบได้ดีแล้ว
“ใต้เท้า ใต้เท้าโอโนะสละชีพกลางสนามรบแล้ว!”
ทหารถ่ายทอดคำสั่งรีบวิ่งกลับมารายงาน คนผู้นี้เป็นขุนพลคนสำคัญในกองรบหกของโคบายากาว่า เหมือนจะในขณะเดียวกันกับที่ทหารถ่ายทอดคำสั่งนำธงกลับมารายงาน เกือบทุกกองที่ส่งออกไปล้วนมีซามูไรกับขุนพลระดับสูงสละชีพ คุโรดะ นากามาสะกองรบสามลังเลครู่หนึ่งก็กล่าวว่า
“ใต้เท้าโคบายากาว่า ปล่อยให้โจรหมิงสังหารเราเพียงพอแล้ว พวกเรากลับเมืองโซอุล……”
โคบายากาว่า ทาคากาเกะไม่สนใจวาจานี้ หากยังออกคำสั่งดัง
“ปืนใหญ่แต่ละหน่วยรวมกำลัง สกัดขบวนทัพม้าหมิง เตรียมกำลังของกองแม่ทัพใหญ่ออกรบด้วย เร็ว!”
“กองแม่ทัพใหญ่ ใต้เท้าโคบายากาว่า ท่านจะใช้จริงหรือ?”
“ทำไมไม่ใช้ ใต้เท้าใช้ที่ดินมหาศาลแลกอาวุธร้ายแรงนี้มา หากไม่ใช่ใช่ว่าเสียเปล่าหรือ!!”
จากที่สูงสามารถมองเห็นทหารม้ากองกำลังหมิงรวมกำลังเป็นกองใหญ่ แม้ความเร็วยังไม่ได้กระเตื้องขึ้น แต่ทิศทางที่กองกำลังหมิงมุ่งไป กองทหารราบโจรวัวโค่วไม่อาจรับมือได้
***************
หลี่หรูซงพอเห็นหลี่หรูป๋อ แม้ว่าสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน แต่ก็แอบผ่อนลมหายใจ ดาบในมือหลี่หรูป๋อเต็มไปด้วยคราบเลือด กระชากม้าหยุด ตะโกนบอกหลี่หรูซงว่า
“พี่ใหญ่ พวกเราฝ่าออกไปอีกที อาศัยกำลังชนกองกำลังโจรวัวโค่วให้แตก!!”
“ไม่อาจชนแล้ว ตอนนี้เสียหายไปมากแล้ว หากยังบุกอีกความเสี่ยงมากเกินไป ให้ทุกคนวิ่งกลับ ตีมาถึงตรงนี้กลับไปรายงานได้แล้ว!”
หลี่หรูซงกล่าวได้อย่างมีสติ ที่แห่งนี้ รอบนอกมีแต่ทหารโจรวัวโค่วมากราวทะเล หลี่หรูป๋อไม่โต้แย้ง พยักหน้ากลับไป
ทหารม้ากองกำลังหมิงไม่ได้หยุดพัก ชนปะทะทัพใหญ่โจรวัวโค่วจุดที่อ่อนกำลังที่สุด เท้าม้าติดดินโคลนวิ่งได้ไม่เร็ว หากบุกมาถึงตอนนี้ก็ล้วนอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อย โจรวัวโค่วด้านหน้าเอาแต่ถอย แต่ระดับเช่นนี้บุกเข้าไป กลับไม่แตกกระเจิง
มารอรับศัตรูรอบนอกนี้ ขุนพลทหารโจรวัวโค่วพยายามที่จะรวบรวมกำลังปืนใหญ่มาให้หมด มาเตรียมรอยิงที่นี่ น่าจะเป็นช่องทางนี้แล้ว หากตีฝ่าออกไปได้ ก็สามารถหนีพ้นปี้ถีก่วนขึ้นเหนือได้แล้ว อุดที่นี่ไว้ ก็ยังสู้กันต่อ
“ม้าไม่มีคนขี่มากมายเช่นนี้ ไม่ต้องกลัวม้าตาย บุกเข้าไป!”
ขุนพลทหารกองกำลังหมิงล้วนตะโกนด่าด้วยความโมโหมาก ให้ทหารม้าเบื้องหน้าบุกเข้าไป ทหารม้ากองกำลังหมิงล้มตายไปมากแล้ว ม้าวิ่งเปล่าหลายตัวก็เริ่มวิ่งตามกองกำลัง ตายไปตัว ก็หาม้ามาแทนได้
ม้าวิ่งชนอย่างไม่สนใจอันใด ทหารราบหลายสิบภายใต้การนำของซามูไรก็เริ่มแทงม้า แต่คนมากมายก็ยังตกใจแหวกทางให้ หาทางหลบทหารม้าที่บ้าคลั่งพวกนี้
ทหารราบโจรวัวโค่วด้านหน้าค่อยๆ ต้านทานไม่ไหว เสียงตูมดัง กองกำลังหมิงคำรามบุกเข้ามา ด้านหลังทหารราบพลปืนใหญ่วัวโค่วไม่ได้ตั้งแถว แต่เตรียมยิงพร้อมแล้ว ตอนนั้นเอง ก็ไม่สนใจอันใดมากมายอีกแล้ว
ซามูไรนำทัพมากวัดแกว่งดาบยาว คำรามออกคำสั่ง ปืนใหญ่วัวโค่วยิงดัง ควันขาวลอยปกคลุมทั่ว กองกำลังหมิงชะงักไปครู่ แต่ไม่ได้หยุด ในเวลากระชั้นชิดการรวมกำลังมาถึงหน้ากองปืนใหญ่วัวโค่วได้พันกว่า เสียงยิงดัง ทหารม้ากองกำลังหมิงด้านหน้าทยอยล้มลง
มีคนโดนยิงตายทันที แต่เพราะที่สูงกว่า ม้าจึงถูกยิงมากกว่า หลายคนร่วงลงพื้น แต่ก็ตะกายลุกขึ้นทันที ก่อนจะหลบทหารโจรวัวโค่ว จากนั้นก็หาม้าที่ว่างขึ้นขี่บุกต่อ
“ท่านแม่ทัพ ใช้ม้าข้า!”
หลี่หรูซงเองก็ม้าตาย ตะกายลุกขึ้นมาได้ ทหารติดตามหนึ่งโดดลงจากม้า ประคองเขาขึ้นม้าแทน ทหารติดตามหันไปอีกทางคิดหาม้า แต่ไปได้สองก้าว ก็ถูกทวนยาวสามทวนแทงตายทันที
หลี่หรูซงไม่อาจสนใจอันใดอีกแล้ว เห็นหลี่หรูป๋อไกลที่ตัวเริ่มบาดเจ็บ แต่ก็กวัดแกว่งดาบสู้ไม่กลัวตาย จึงได้มองต่อไปด้านหน้า กองปืนใหญ่ยิงมาในระยะห่างใกล้มาก ไม่ทันเติมกระสุน ไม่อาจขวางทางการบุกทหารม้าได้
กองกำลังขวางทางแนวนี้ ในเวลาอันสั้น ถูกทหารม้ากองกำลังหมิงตีแตก ทหารม้าบุกต่อไป ตอนนี้ใกล้สลัดหลุดแล้ว
ม้าที่ขี่เหงื่อออกมากจนน่าตกใจแล้ว ตอนวิ่งตะบึงไม่ได้พลิ้วตามลมอีกแล้ว หลี่หรูซงเองสองแขนใช้ดาบและธนูมากไปตอนนี้เริ่มปวดชาแล้ว หากยังไม่หนีเกรงว่าคงได้ตายสถานเดียวแล้ว หนีไม่พ้น เพิ่งหนีมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงตูมดัง…
พริบตา หลี่หรูซงก็สะดุ้งตกใจ เป็นเสียงปืนใหญ่ พวกเขาไม่ได้นำปืนใหญ่มา อาวุธเช่นนี้ หรือว่าเป็นของโจรวัวโค่ว วินาทีนั้นผ่านไปช้ามาก แต่พริบตาถัดมา หลี่หรูซงก็ได้ยินปีกขวามีคนตื่นตระหนกร้องโหยหวน มีคนตะโกนดัง
“มีปืนใหญ่ โจรวัวโค่วมีปืนใหญ่!”
พอหันไปมอง เห็นมุมสูงทางปีกขวา ปืนใหญ่สิบห้ากระบอกกำลังเร่งรีบบรรจุกระสุน ข้างๆ ยังม้าวัวทยอยลากออกไปอย่างเร่งรีบ เห็นชัดว่าเพิ่งนำมายังสนามรบ
ม้าไม่หยุด คาดว่าวิ่งมานาน ปืนใหญ่อย่างน้อยสามารถยิ่งได้สองหรือสามรอบ ทหารม้ากองกำลังหมิงกองใหญ่ได้มารวมตัวกันหนาแน่นแล้ว ความเสียหายย่อมมีมาก วันนี้ดีไม่ดีทุกคนล้วนหนีไม่พ้น หลี่หรูซงรู้สึกแน่นหน้าอก เหมือนจะพ่นเป็นโลหิตออกมา
ไม่เพียงแต่เขาคนเดียวที่เห็นปืนใหญ่ ทั้งกองกำลังหมิงล้วนเริ่มช้าลงไม่ทันรู้ตัว ทุกคนล้วนลังเล หลี่หรูซงได้สติทันที ใช้ดาบตีไปยังลำตัวม้าอย่างแรง ม้าเจ็บ หลี่หรูซงมุ่งตรงไปยังกองทหารปืนใหญ่
“หากยังเป็นลูกผู้ชาย ก็ตามข้าบุกเข้าไป ทุกคนจะได้กลับไป!”
แม่ทัพเป็นเช่นนี้ ทหารติดตามล้วนตะโกนคำรามดัง กระชากม้าตามไป พวกหลี่หนิงไม่สนใจอันใดใช้ขอม้าแทงท้องม้า จนม้าเจ็บกระโจนตัวขึ้น ระยะห่างใกล้ถึงกับล้วนมองเห็นท้องม้าพวกเขาเลือดแดงฉาน นี่ย่อมทำให้หากวิ่งพันก้าว ม้าก็ทนไม่ไหว แต่ในระยะสั้นๆ นี้ ม้าก็จะสามารถวิ่งได้เร็วอย่างที่สุด
“ท่านแม่ทัพ ตระกูลหลี่ยังต้องการท่านดูแล พวกข้าน้อยไปแทนท่าน!!”
ทหารติดตามวิ่งแซงหน้าหลี่หรูซง หลี่หรูซงไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีก ยกมือปาด มองเห็นแดงฉาน เลือดในมือเปรอะเปื้อนดวงตา
ปืนใหญ่โจรวัวโค่วเรียงแถวได้มั่วมาก พอเห็นทหารม้าตะลึงมาใกล้ พวกเขาก็รีบบรรจุกระสุน อย่างไรก็มีระยะห่าง ทหารม้ากองกำลังหมิงก็ใช่ว่าจะมาถึงก็มาได้ในทันที ปืนใหญ่ห้ากระบอกยิงดังแล้ว
เสียงดังราวอสุนีบาต ทหารม้ากองกำลังหมิงที่บุกหน้าม้าล้วนสะดุ้ง แต่ล้วนไม่มีผู้ใดผ่อนกำลังม้า
หลี่หรูซงยกดาบตะโกนดังบุกไปด้านหน้า เขาได้ยินเสียงหวีดดังยิ่งมาก หลี่หรูซงไม่กลัวอันใด สถานการณ์ตอนนี้ตายเป็นตาย ‘ตูม’ ดังสนั่น ทหารม้าติดตามด้านหน้าเขาผู้หนึ่งที่วิ่งไปอย่างบ้าคลั่งยามนี้ทั้งคนและม้าล้วนปลิวว่อน ปะทะใส่เขา
ในเวลาสั้นๆ คิดจะหลบก็ไม่ทัน ม้าหลี่หรูซงมีสัญชาตญาณดี ร้องเสียงดัง ก่อนจะโดดหลบ แต่การวิ่งมาด้วยความเร็ว ม้าก็ย่อมเสียสมดุล ทั้งคนและม้าล้มกระแทกพื้นดังตึง หลี่หรูซงขาเดิมที่ยังเหยียบยังโกรนม้าไว้ พอตกกระแทกพื้น หมวกเกราะไม่รู้ชนกับอะไร หมดสติไปทันที…
***************
หลี่หรูซงตื่นมาอีกที ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด รู้แต่ตนเองเหมือนนอนในหีบไม้ น่าจะเป็นบนรถใหญ่ รถใหญ่เคลื่อนไปเรื่อยๆ หลี่หรูซงไม่รู้ว่าตนเองถูกจับเป็นเชลยหรือไม่ รู้แต่ว่าตอนนี้ปวดหัวแทบระเบิด คอแห้งผากราวไฟสุม เขาพึมพำขึ้น ด้านนอกก็มีคนโผล่หัวเข้ามา ตะโกนดังทันทีว่า
“ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วๆ!”
หลี่หรูซงหลับตา ก่อนจะหมดสติหลับไปอีก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น