เทพปีศาจหวนคืน 1093
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1093 ปฏิเสธ
แปลโดย iPAT
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ทวีปเมฆา
ในเมืองเมฆาที่หนึ่ง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเรียกฟางหยวนมาพบ
“ฟางหยวน ดื่มชาก่อน นี่เป็นชาสายรุ้งเพลิงที่มีชื่อเสียง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยการแสดงออกที่อบอุ่น
ฟางหยวนรับถ้วยชาเอาไว้และเห็นชาสีแดงที่มีแสงสีรุ้งส่องประกายราวกับปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ
ฟางหยวนมีประสบการณ์ห้าร้อยปี ดังนั้นเขาจึงมีความรู้มากมาย
ชาทั่วไปสามารถดื่มอย่างช้าๆ แต่ชาชนิดนี้แตกต่างออกไป มันต้องดื่มภายในหนึ่งคำ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือสายรุ้งที่อยู่ในชา หลังจากดื่มเข้าไป พวกเขาจะได้สัมผัสกับรสชาติของชาสายรุ้งเพลิงที่แท้จริง
ฟางหยวนมองถ้วยชาที่อยู่ในมือแต่ไม่ได้ดื่มมัน
ร่างกายปัจจุบันของเขาโดดเด่นมาก ในครั้งเดียวความคิดนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นในใจของเขา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนปัจจุบันชอบดื่มชาสายรุ้งเพลิงขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนชอบดื่มชาควันเมฆ
ชาทั้งสองชนิดแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทั้งสอง
ส่วนผสมหลักของชาควันเมฆคือชาลอยฟ้า
นี่เป็นหนึ่งในพืชที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงปลูกไว้ในมิติช่องว่างของเขา ชาลอยฟ้าจะลอยอยู่บนท้องฟ้า มันไม่ใช่พืชทั่วไป
ชาลอยฟ้าถือเป็นพืชชั้นสูงเพราะมันเติบโตขึ้นบนท้องฟ้า มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถเก็บเกี่ยวพวกมัน
แต่ในภาคเหนือมีดอกไม้หลากหลายชนิดเติบโตขึ้นบนพื้น หนึ่งในดอกไม้ที่ได้รับความนิยมคือดอกชานม
ดอกไม้ชนิดนี้พบเห็นได้ทั่วไปในภาคเหนือ มันเป็นดอกไม้ที่อยู่ในรูปลักษณ์ของถ้วยชา ทุกสองสามวันมันจะผลิตน้ำหวานออกมาจนเต็มถ้วย
น้ำหวานของมันมีรสหวาน มันจะดึงดูดผึ้งและผีเสื้อจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามา แน่นอนว่ามนุษย์สามารถดื่มน้ำหวานชนิดนี้ได้เช่นกัน
ผู้ใช้วิญญาณเกือบทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือหรือแม้แต่มนุษย์ธรรมดาต่างเคยลิ้มรสเครื่องดื่มตามธรรมชาติชนิดนี้
แท้จริงแล้วทั้งชาและสุราต่างเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในภาคเหนือเช่นเดียวกับอีกสี่ภูมิภาค
ภาคใต้นิยมดื่มชาทะเลเมฆสีฟ้าแต่ชาชนิดนี้ไม่ได้ผลิตในภาคใต้ มันมาจากทะเลตะวันออก ตระกูลอี้ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังใหญ่ของภาคใต้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองกำลังจากทะเลตะวันออก ดังนั้นพวกเขาจึงนำชาทะเลเมฆสีฟ้ามาขายเพื่อทำกำไร
ในภาคกลาง มันกระทั่งมีชาที่หลากหลายมากกว่า ชาชิงปู๋ของนิกายคฤหาสน์วิญญาณและชาเงามังกรของนิกายท่าเรือหมื่นมังกรเป็นชาที่ได้รับความนิยมมาก
ชาบางชนิดมีเพียงผู้อมตะเท่านั้นที่สามารถผลิตได้
ตัวอย่างเช่นชาน้ำมันหิมะของเทพธิดาหลี่ซานหรือชาทะเลหยกของฟงจิวเก้อ
เห็นฟางหยวนไม่ได้ดื่มชา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยวนจึงต้องกระตุ้น “ผู้อาวุโสฟางหยวนเชิญดื่ม เจ้าอาจไม่รู้ แต่นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดื่มชาสายรุ้งเพลิง”
ฟางหยวนโบกมือ “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับชาสายรุ้งเพลิงมานานแล้ว แต่เมื่อข้าถือชาถ้วยนี้ มันทำให้ข้าคิดถึงหลายสิ่ง”
วิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม “เช่นนั้นผู้อาวุโสฟางหยวนกำลังคิดถึงสิ่งใด? มันคือปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาไท่ชิวของนิกายหลางหยาหรือไม่?”
“ไม่ ไม่ใช่เรื่องนี้” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง เขากล่าวบางสิ่งออกมาเพื่อใช้เป็นข้ออ้าง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกผิดหวัง “เจ้าเป็นเจ้าของวิญญาณกาลเวลา เจ้ามาจากอนาคตและมีความรู้มากมาย เจ้ามีประสบการณ์ที่หลากหลายและรอบรู้เรื่องชา แต่เจ้ารู้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นชาหรือสุรา พวกมันได้รับการเผยแพร่ออกไปในวงกว้างเพราะการคงอยู่ของเส้นทางอาหาร”
“โอ้ เป็นเช่นนั้น?” ฟางหยวนรู้สึกสนใจ
หรือกล่าวให้ถูกต้องมากกว่านั้น เขาสนใจเส้นทางอาหาร
ตอนนี้เขากำลังจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิโดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างแหล่งทรัพยากรเพื่อเป็นอาหารให้แก่วิญญาณอมตะจำนวนมากของเขา
แต่หากเขามีวิธีบนเส้นทางอาหาร มันจะง่ายกว่าสำหรับเขาในการให้อาหารวิญญาณเหล่านั้น
น่าเสียดายที่เส้นทางอาหารเจริญรุ่งเรืองเพียงช่วงเวลาสั้นๆในประวัติศาสตร์ มันกระทั่งหายากกว่าเส้นทางแห่งปัญญา
เกี่ยวกับเส้นทางอาหาร ฟางหยวนได้เรียนรู้ความลับบางอย่างระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนผ่านความทรงจำของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ผู้สร้างเส้นทางอาหารไม่ใช่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์แต่เป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูร นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เส้นทางอาหารแทบสูญหายไปแล้วในปัจจุบัน
แต่สำหรับฟางหยวน มันไม่สำคัญว่าผู้ใดจะเป็นผู้สร้างเส้นทางสายนี้ตราบเท่าที่มันเป็นประโยชน์ต่อเขา ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มักหยิ่งยโสและคิดว่าเผ่าพันธุ์ของตนเองเหนือกว่า แต่ฟางหยวนไม่มีควมคิดเช่นนี้
หากการเปลี่ยนเป็นมนุษย์ขนช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายชีวิตนิรันดร์ เขาจะละทิ้งตัวตนของมนุษย์ทันทีโดยไม่ลังเล
หลังจากตระหนักว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางอาหาร ฟางหยวนจึงเอ่ยปากถามต่อ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปิดเผย “การสร้างชาหรือสุราทุกประเภทคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์แบบ”
“หากมันสมบูรณ์ วิญญาณชาหรือวิญญาณสุราจะถือกำเนิดขึ้น มีวิญญาณชาและวิญญาณสุรามากมายหลากหลายชนิด ตัวอย่างเช่นวิญญาณหนอนสุราหรือวิญญาณชาเขม่าควัน”
หนอนสุราเป็นวิญญาณที่ฟางหยวนคุ้นเคยดี เขาใช้มันหลังจากกำเนิดใหม่เพื่อการเติบโตที่รวดเร็ว
ชาเขม่าควันถือเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งในโลกของผู้ใช้วิญญาณ ดังนั้นมันจึงถูกปราบปรามอย่างหนักโดยตัวตนระดับสูง
“น่าเสียดายที่เส้นทางอาหารกำลังจะสูญหายไปจากโลกใบนี้”
“ผู้อมตะที่ต้องการทดสอบความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการแข่งขันบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม พวกเขาสามารถแข่งขันโดยการชงชาทีละถ้วย ชิม และตัดสินว่าผู้ใดเหนือกว่า”
คำตอบของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทำให้ฟางหยวนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่มีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางอาหารมากนัก ส่วนใหญ่ที่เขารู้จะเกี่ยวกับเส้นทางแห่งการหลอมรวม
‘เทพปีศาจจิตวิญญาณมีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางอาหารอย่างแน่นอน เขาต้องได้รับมรดกบนเส้นทางอาหารมาในอดีต แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่และกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ มันยากสำหรับข้าที่จะได้รับสิ่งใดจากเขา…’ ฟางหยวนคิด
หลังจากชั่วครู่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงเปิดปากกล่าวความตั้งใจที่แท้จริงของเขาออกมา “ฟางหยวน ข้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ข้าเชิญเจ้ามาดื่มชาเพราะข้ามีภารกิจให้เจ้า!”
ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “โปรดกล่าว”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นคนตรงไปตรงมา ฟางหยวนสามารถคาดเดาเจตนาของเขามานานแล้ว
ดังคาดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวความตั้งใจของตนออกมา “เจ้ารู้เกี่ยวกับแผนการพัฒนาไท่ชิวของข้า เจ้าเป็นผู้แนะนำด้วยตนเอง นอกจากนั้นเจ้ายังเป็นผู้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่”
“ด้วยเหตุนี้ผู้อมตะของเราจึงสามารถเดินทางไปไท่ชิวได้อย่างราบรื่นและเริ่มปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม แต่ตอนนี้เราพบปัญหา”
ฟางหยวนพยักหน้า “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกำลังกล่าวถึงสุนัขดาวตกเพลิงใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง สัตว์อสูรเดียวดายตัวนี้ทำร้ายผู้อมตะหลายคนของเรา ข้ามอบภารกิจให้กับพวกเขาแต่ทุกคนต่างกลับมาด้วยความล้มเหลว ข้ารู้ว่ามีเพียงผู้เดียวที่สามารถกำหราบสุนัขดาวตกเพลิงตัวนี้ นั่นก็คือเจ้า เหตุใดเจ้าไม่รับภารกิจนี้?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถามโดยตรง
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “ช่วงนี้ข้ายุ่งมาก”
เขามีปัญหามากมายอยู่ในมือ
ผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนตั้งแต่เกิดภัยพิบัติพิภพครั้งแรก
ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองกำลังจะมาถึง
ฟางหยวนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับภัยพิบัติครั้งนี้
แต่ฟางหยนวจะไม่บอกจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเกี่ยวกับภัยพิบัติพิภพของเขา มิติช่องว่างจักรพรรดิถูกเก็บเป็นความลับจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเช่นกัน
แน่นอนว่านิกายเงารู้เรื่องทั้งหมด
แต่ฟางหยวนรู้ว่าแผนการของนิกายเงาคือการนำวิญญาณทารกอมตะกลับคืน ในกรณีนี้พวกเขาจะไม่เปิดเผยการมีอยู่ของมิติช่องว่างจักรพรรดิเช่นกัน มิฉะนั้นมันจะสร้างปัญหาให้กับพวกเขาในอนาคต
จากมุมมองของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนโชคดีมากที่สามารถฟื้นคืนสู่ชีวิต สำหรับวิธีฟื้นฟูของฟางหยวน เขามีข้ออ้างมากมายเพราะเขารู้หลายวิธีในการกู้คืนชีวิตให้แก่ร่างผีดิบอมตะ
สถานการณ์ปัจจุบันเป็นความยากลำบากที่ฟางหยวนไม่สามารถกล่าวออกมา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้า “เจ้ายุ่งมากจริงๆ”
เขาเป็นจิตวิญญาณแผ่นดินของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขารู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว “เจ้าฝึกฝนอย่างหนัก แต่การทำภารกิจให้สำเร็จก็เป็นตัวช่วยในการบ่มเพาะของเจ้าเช่นกัน อย่าลืมว่าเจ้ามีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข เจ้าต้องเลี้ยงสุนัขเดียวดายหกชนิดและใช้อึของพวกมันเลี้ยงวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข”
“ในอดีตข้าใช้ประโยชน์จากสวรรค์สีเหลืองแต่ตอนนี้สวรรค์สีเหลืองปิด แม้มันจะเปิดอีกครั้ง ข้าก็ยังแนะนำให้เจ้าเลี้ยงสุนัขเดียวดายเอาไว้ในมิติช่องว่างของเจ้า”
“คำกล่าวของท่านทำให้ข้าได้รับความกระจ่างอย่างแท้จริง” ฟางหยวนพยักหน้า
วิญญาณอมตะโชคอึสุนัขมีความสำคัญกับเขามากจริงๆ
เพื่อต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ โชคเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถขาด
โชคชะตาเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าและไม่สามารถเปลี่ยนแปลง
แต่โชคจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและสามารถใช้ประโยชน์
ข้อมูลอันล้ำค่านี้ฟางหยวนได้รับมาจากนิกายเงา
การเดินทางไปยังไท่ชิวของฟางหยวนถูกค้นพบโดยเจตจำนงสวรรค์ นั่นทำให้เขาพบกับคลื่นสัตว์อสูร แต่ในช่วงเวลาสำคัญฟางหยวนกลับพบซากศพสัตว์อสูรแรกกำเนิดและสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกว่ามันเป็นความโชคดีที่เกิดจากวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข
วิญญาณอมตะดวงนี้ไม่ใช่วิญญาณสายโจมตีหรือป้องกัน แต่มันกลับเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่
‘เทพอมตะตะวันเดือด…โชคของตนเอง โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด โชคแห่งสวรรค์พิภพ…โชคอึสุนัขเป็นหนึ่งในมรดกที่แท้จริงโชคของตนเอง โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ ตัวอย่างเช่นวิญญาณเชื่อมโยงโชค วิญญาณเรียกภัยพิบัติ และวิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์ ช่างน่าเสียดาย…’ ฟางหยวนคิด
แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลายเพราะเขา ในเวลานั้นเขาได้รับอิทธิพลจากเจตจำนงปลอมของโม่เหยา แล้วเจตจำนงสวรรค์? มันใช้เขาเป็นเครื่องมือในการทำลายมรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดด้วยหรือไม่?
จากมุมมองของเจตจำนงสวรรค์ มันจะกำจัดส่วนเกินขณะที่เติมเต็มส่วนขาด
โชคชะตาเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับเจตจำนงสวรรค์
หลังจากวิญญาณชะตากรรมถูกทำลายโดยเทพปีศาจบัวแดง พลังอำนาจบนเส้นทางแห่งโชคจึงปะทุขึ้น นี่ทำให้เกิดตัวตนเช่นเทพอมตะตะวันเดือด
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาลุกขึ้นยืน “ผู้อาวุโสฟางหยวน หากเจ้าสามารถปฏิบัติภารกิจนี้และทำสำเร็จ ไม่ว่าเจ้าจะจับสุนัขดาวตกเพลิงได้หรือไม่ เจ้าก็จะได้รับแต้มผลงานจากนิกายแปดร้อยแต้ม!”
“แปดร้อยแต้ม…” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
แต่หลังจากไตร่ตรอง เขากลับตอบอีกอย่าง “ข้าขอปฏิเสธ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น