เทพปีศาจหวนคืน 1075-1077
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1075 อสรพิษเปลี่ยนเป็นมังกร
แปลโดย iPAT
ผมที่หกมองฟางหยวนและหัวเราะโดยปราศจากความหวาดกลัว
หากฟางหยวนต้องการแจ้งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะไม่นั่งลงและกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมา
ผมที่หกกล่าว “ก่อนที่เจ้าจะมาที่นี่ ข้าจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเอาไว้แล้ว ไม่เพียงมันจะซ่อนพวกเราจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มันยังสามารถปิดผนึกข้อตกลงพันธมิตร หากไม่เชื่อ เจ้าสามารถทดลอง”
ฟางหยวนเข้าร่วมนิกายหลางหยา เขาถูกผูกมัดด้วยข้อตกลงพันธมิตรและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยอิสระ
หลังจากได้ยินคำกล่าวของผมที่หก ฟางหยวนทดลองมันและพบว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดข้อตกลงพันธมิตรจริงๆ
ฟางหยวนหรี่ตามองก่อนกล่าว “เจ้าซ่อนตัวได้ดีจริงๆ เอาล่ะ เจ้าต้องการสิ่งใด?”
ผมที่หกรู้สึกโล่งอก เดิมทีเขาเกรงว่าฟางหยวนจะปฎิเสธโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ แต่ตอนนี้อุปสรรคแรกได้ผ่านไปแล้ว
อย่างไรก็ตามผมที่หกไม่สามารถประมาทฟางหยวนบุคคลที่ไร้ยางอายที่สุด แม้จะมีความเสี่ยงแต่ผมที่หกก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทดลองเท่านั้น
การทำธุรกรรมกับฟางหยวนไม่ต่างจากการวางแผนจับพยัคฆ์ มันอันตรายเกินไป
หลังจากธุรกรรมนี้จบลง พวกเขาจะถูกผูกมัดไว้ด้วยกัน เมื่อเวลานั้นมาถึง ผมที่หกจึงจะปลอดภัย
แต่วิธีบรรลุเป้าหมายโดยไม่สูญเสียผลประโยชน์มากเกินไปเป็นปัญหาที่ผมที่หกยังรู้สึกกังวล
‘อิงอู๋เซี่ยกับข้ามีความเป็นอริศัตรูกันอย่างลึกซึ้ง แต่พวกเขากลับมาหาข้าและกระทั่งเปิดเผยตัวตน สิ่งใดที่พวกเขาต้องการจากข้า น่าสนใจ ข้าอยากรู้นักว่าพวกเขากำลังจะทำสิ่งใด?’ ฟางหยวนคิด
“ข้าจะกล่าวตามตรง ตอนนี้ท่านอิงอู๋เซี่ยอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง หากไม่ใช่เพื่อความอยู่รอด ข้าจะไม่เปิดเผยตัวและมาพูดคุยกับเจ้า” ผมที่หกกล่าว
ฟางหยวนยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและพิจารณาฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
ความตรงไปตรงมาของผมที่หกทำให้ฟางหยวนลอบตกใจอยู่ภายใน
เหตุใดเขาจึงเปิดเผยจุดอ่อนของตนเองออกมาก่อนทำธุรกรรม?
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น ในความเป็นจริงแม้ผมที่หกจะไม่กล่าวออกมา ฟางหยวนก็สามารถคาดเดา แต่การกล่าวออกมาโดยตรงแสดงให้เห็นถึงความพยายามครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
‘ดูเหมือนหลังจากเข้าร่วมนิกายหลางหยา ข้าจะลดความระวังตัวลง กระทั่งฝ่ายตรงข้ามจะเป็นมนุษย์ขน เขาก็ยังเป็นสายลับของนิกายเงา แล้วเขาจะถูกกลั่งแกล้งโดยง่ายเช่นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้อย่างไร?’ ฟางหยวนตื่นตัวมากขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนกล่าวอย่างช้าๆ “อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณทั้งหมดของข้า เขายังได้รับความช่วยเหลือจากไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิง แล้วเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร? ข้าปฎิเสธที่จะเชื่อ”
ผมที่หกส่ายศีรษะ “ฟางหยวน ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอีกต่อไป เจ้าซ่อนเจตจำนงพิเศษไว้ในวิญญาณเหล่านั้นและสั่งให้พวกมันทำลายตัวเอง เจ้าทำให้ท่านอิงอู๋เซี่ยประหลาดใจมาก เขาพยายามรักษาวิญญาณแต่มันเหลือเพียงสามสิบส่วนเท่านั้น”
ได้ยินเรื่องนี้ฟางหยวนมั่นใจแล้วว่าผมที่หกเป็นสายลับของนิกายเงา
นอกจากนั้นเขายังได้รับข้อมูลมากมายจากคำกล่าวของผมที่หก
‘ผู้ใดจะคิดว่าอิงอู๋เซี่ยจะควบคุมไห่ลั่วหลันได้จริงๆ ไห่ลั่วหลันเป็นคนน่าเกรงขาม นางไม่ใช่ตัวตนที่สามารถควบคุมได้โดยง่าย แต่หลังจากป้าของนางเสียชีวิต การจัดการนางก็ง่ายขึ้น นางมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง หากใช้งานได้ดี นางจะกลายเป็นตัวหมากชั้นยอด’
‘ไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นคนใจดี แม้เขาจะขี้ขลาดเป็นบางครั้ง แต่เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสองดวง เขาสามารถช่วยเหลือได้มาก แต่พวกเขากลับถูกควบคุมโดยอิงอู๋เซี่ย ช่างน่าอับอายนัก!’
ฟางหยวนลอบถอนหายใจ
โชคชะตาเป็นสิ่งลึกลับ
หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนได้รับร่างใหม่ขณะที่อิงอู๋เซี่ยได้รับความมั่งคั่งทั้งหมดของเขา
ในฐานะร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ อิงอู๋เซี่ยไม่ขาดแคลนวิธีการที่น่าอัศจรรย์และสามารถควบคุมไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง
‘อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณอมตะของข้าและไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง แต่ตอนนี้เขายังต้องการทำธุรกรรมจากข้า ข้าจะทำให้เขาต้องจ่ายในราคาที่สาสม!’ ฟางหยวนคิด
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดเผยจุดอ่อน ผมที่หกยังกล่าวต่อ “ก่อนทำธุรกรรม ให้ข้าแสดงความจริงใจของพวกเรา เจ้าสามารถคิดว่านี่คือค่าธรรมเนียม มันคือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการบ่มเพาะในอนาคตของเจ้า กล่าวอีกอย่างมันเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของเจ้า!”
ฟางหยวนก่นเสียงเย็น “เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดมากเกี่ยวกับมูลค่าของมัน ข้าสามารถประเมินด้วยตนเอง”
“ฟางหยวน เจ้ารู้จักเจตจำนงสวรรค์หรือไม่?” ผมที่หกถาม
“เจตจำนงสวรรค์?” ฟางหยวนถามกลับด้วยความสับสน
ผมที่หกพยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนกล่าว “เจ้าพลาดหลายสิ่งจริงๆ ฟางหยวน”
“เจ้าหลายถึงสิ่งใด?” คิ้วของฟางหยวนขมวดเล็กน้อย
ผมที่หกกล่าวต่อ “เจ้าได้รับคำแนะนำจากเจตจำนงสวรรค์และสามารถสลับร่างกับกายาแห่งความฝันของท่านอิงอู๋เซี่ย สุดท้ายจึงได้รับวิญญาณทารกอมตะ แต่เจ้าไม่รู้ว่ากายาแห่งความฝันถูกสร้างขึ้นโดยม่านเยี่ยนซื่อและมีข้อบกพร่องที่ดวงวิญญาณจะสูญเสียความทรงจำ เมื่อเวลาผ่านไปความทรงจำจะสูญหายไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องนี้ท่านอิงอู๋เซี่ยจึงสูญเสียความทรงจำและสามารถใช้เพียงท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน”
ผมที่หกนำวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา
มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ทั่วไปแต่มันมีค่ามากสำหรับฟางหยวน หากไม่ใช่สถานการณ์คับขัน พวกเขาจะไม่มอบมันให้กับฟางหยวน
ตามแผนการเดิมของอิงอู๋เซี่ย เขาจะใช้จุดอ่อนนี้จัดการฟางหยวน แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาต้องช่วยฟางหยวนจากจุดอ่อนนี้
“วิญญาณดวงนี้บันทึกข้อมูลก่อนและหลังเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียน ลองดู” ผมที่หกส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน
หลังจากตรวจสอบและไม่พบปัญหา ฟางหยวนจึงกระตุ้นใช้งานวิญญาณดวงนี้
ภาพเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียนปรากฏขึ้นในใจของเขา
เขาค้นพบความทรงจำที่ขาดหายไปมากมาย
‘ไม่แปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกแปลกๆ แต่มันกลายเป็นว่าข้าสูญเสียความทรงจำ!’
อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสที่ฉากเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงฟางหยวน
หลังจากตรวจสอบหลายครั้ง ฟางหยวนคิดก่อนกล่าว “ดูเหมือนข้าจะสูญเสียความทรงจำ แต่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือเรื่องจริงหรือเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น?”
ผมที่หกกัดฟันแน่น
เขารู้ว่านี่เป็นส่วนที่ยากลำบากที่สุดในการทำธุรกรรมครั้งนี้
ฟางหยวนและอิงอู๋เซี่ยเป็นศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลก มีเพียงการแสดงความจริงใจเท่านั้นจึงจะสามารถทำให้ฟางหยวนเชื่อพวกเขา
หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข ธุรกรรมจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
ความคิดของผมที่หกกำลังพุ่งชนกันอย่างรวดเร็ว เขากำลังพิจารณาถ้อยคำที่จะกล่าวกับฟางหยวนอย่างระมัดระวัง หลังจากทั้งหมดฟางหยวนสามารถสังหารผู้คนได้โดยไม่กระพริบตา หากเขากล่าวผิด นั่นอาจหมายถึงความตายของเขา แต่อิงอู๋เซี่ยต้องช่วยเหลือร่างหลักของพวกเขา สิ่งนี้ไม่สามารถล้มเหลว
หลังจากคิดเป็นเวลานาน ผมที่หกจึงเปิดปากกล่าว “ฟางหยวน เจ้ามีวิญญาณกาลเวลา เจ้ามีประสบการณ์ในการกำเนิดใหม่ ทุกคนรู้เรื่องนี้ แต่ความจริงก็คือ แม้เจ้าจะมีความลับมากมาย แต่เจ้าก็มีความเข้าใจน้อยกว่าพวกเรา”
“เจตจำนงสวรรค์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งห้าภูมิภาคและเก้าสวรรค์ มันครอบคลุมทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต วิถีของสวรรค์คือการกำจัดส่วนเกินและรักษาสมดุล วิถีของมนุษย์คือสิ่งตรงข้าม ความต้องการของพวกเราไม่มีที่สิ้นสุด”
“เทพอมตะหรือตัวตนในตำนานเป็นเป้าหมายที่สวรรค์ต้องการกำจัด ภัยพิบัติและวิญญาณอายุยืนต่างเป็นไพ่ตายของมัน ฟางหยวน เจ้ามีประสบการณ์เกี่ยวกับภัยพิบัติมาถึงสองครั้ง ครั้งหนึ่งคือภัยพิบัติพิภพ อีกครั้งคือภัยพิบัติที่เกิดจากการหลอมรวมวิญญาณอมตะ ภัยพิบัติทั้งสองมีพลังอำนาจเกินกว่าหลักเหตุผล นั่นเป็นเพราะเจ้าขโมยวิญญาณทารกอมตะและใช้ร่างใหม่ที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด เมื่อเจ้าเติบโตขึ้น เจ้าจะเหนือกว่าเทพอมตะทุกคนก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุนี้สวรรค์จึงต้องการสังหารเจ้าก่อนที่เจ้าจะสามารถเติบโตมากไปกว่านี้”
หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น
เขาพยายามหาคำตอบของคำถามนี้มาตลอด
แต่ตอนนี้ผมที่หกกลับมอบคำตอบให้เขาโดยตรง
‘เจตจำนงสวรรค์…’ ฟางหยวนคิดถึงคำๆนี้
ผมที่หกกล่าวต่อ “ร่างหลักของข้า เทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างนิกายเงา กองกำลังพันธมิตรผีดิบ และหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะโดยใช้เวลานับแสนปี แต่สุดท้ายพวกเรากลับล้มเหลว สิ่งนี้เกิดจากเจตจำนงสวรรค์ ไม่เพียงภัยพิบัติใหญ่และหมื่นภัยพิบัติ พวกเรายังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอีกนับไม่ถ้วน วังสวรรค์คือตัวแทนของสวรรค์ ขณะที่เจ้า ฟางหยวน เป็นนักฆ่าที่ซ่อนอยู่ของภัยพิบัติมนุษย์!”
“เจ้าหมายถึงสิ่งใด?” ฟางหยวนรู้สึกสนใจมาก คำกล่าวของผมที่หกกำลังจะทำให้สถานการณ์ของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ผมที่หกลังเลเล็กน้อย
เขารู้ว่าเมื่อถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกไป จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวนจะถูกแก้ไข ในความเป็นจริงมันกระทั่งจะทำให้ฟางหยวนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวาง
ฟางหยวนเหมือนอสรพิษที่ดิ้นรนอยู่ในบ่อโคลน แต่เมื่อเขาได้รับข้อมูลนี้ อสรพิษจะมองเห็นโลกใบใหญ่ มันจะกลายเป็นมังกรที่ทะยานขึ้นจากบ่อโคลนและท่องเที่ยวไปทั่วโลกได้อย่างอิสระ
คำพูดเพียงไม่กี่คำแต่พวกมันจะทำให้สถานการณ์ของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้งเชิง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1076 ทำธุรกรรมกับนิกายเงา (1)
แปลโดย iPAT
ผมที่หกไม่ต้องการบอกความลับนี้กับฟางหยวนแต่เขาไม่มีทางเลือก
สถานการณ์ของอิงอู๋เซี่ยบังคับให้เขาต้องทำเช่นนี้
ผมที่หกลอบถอนหายใจก่อนกล่าว “ฟางหยวน เจ้าสามารถฉกชิงวิญญาณทารกอมตะในช่วงเวลาสำคัญ นี่ไม่ได้เกิดจากความสามารถของเจ้าเท่านั้น แต่เจ้ายังได้รับคำแนะนำจากเจตจำนงสวรรค์ กระทั่งความจริงที่ว่าเจ้าใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อกำเนิดใหม่ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเจตจำนงสวรรค์ มันต้องการให้เจ้าย้อนกลับมาในอดีตและทำลายแผนการอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา!”
ได้ยินเรื่องนี้ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น
เขาแทบไม่สามารถควบคุมตนเอง
“เปรี้ยง!”
ทันใดนั้นเสียงสายฟ้าพลันดังขึ้นอย่างกะทันหัน
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” สติของฟางหยวนกลับมาอีกครั้ง
เขาใช้วิญญาณตรวจสอบและพบสายฟ้ากำลังแลบลั่นอยู่บนท้องฟ้า
พายุสายฟ้า!
ผมที่หกหัวเราะเสียงเย็นแต่ภายในยังรู้สึกกังวล “ฟางหยวน เจ้าพึ่งผ่านภัยพิบัติ นี่คือเจตจำนงสวรรค์ที่เหลือยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา คำกล่าวก่อนหน้านี้ของข้าเป็นการเปิดเผยความลับสวรรค์ มันทำให้สวรรค์โกรธ แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่แยกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถควบคุมสถานที่แห่งนี้ ภัยพิบัติผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ว่าเจตจำนงสวรรค์จะโกรธมากเพียงใด มันก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้อีก”
ฟางหยวนไม่ได้ปฏิเสธที่จะเชื่อ เขามองผมที่หกและกล่าวเสียงเรียบ “กล่าวต่อไป”
ก่อนหน้านี้ผมที่หกยังลังเล แต่ตอนนี้เมื่อได้กล่าวออกมาแล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น
เขากล่าวต่อ “ฟางหยวน วิญญาณกาลเวลาของเจ้ามีเจตจำนงสวรรค์ซ่อนตัวอยู่ภายใน สิ่งนี้สามารถยืนยันได้ด้วยการกำเนิดใหม่ของท่านอิงอู๋เซี่ย มันเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดและสามารถพิสูจน์ว่าการเกิดใหม่ทุกครั้งของเจ้าเป็นความต้องการของเจตจำนงสวรรค์”
“วิญญาณกาลเวลาใช้ร่างกายของผู้อมตะเป็นเชื้อเพลิงและนำดวงวิญญาณของพวกเขาเดินทางไปในอดีตผ่านสายธารแห่งกาลเวลา ฟางหยวน เจ้าเคยใช้งานมันมาหลายครั้ง เจ้าควรเข้าใจมันเป็นอย่างดี”
ฟางหยวนไม่ตอบ
ผมที่หกดำเนินการต่อ “วิญญาณกาลเวลามีเจตจำนงสวรรค์อยู่ภายใน ทุกครั้งที่เจ้าใช้วิญญาณกาลเวลา เจตจำนงสวรรค์จะฉวยโอกาสส่งอิทธิพลต่อความคิดของเจ้า”
“หลังจากย้อนเวลากลับไปในอดีต เจ้าจะคิดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากการกำเนิดใหม่เพื่อการบ่มเพาะ นั่นคือแผนการของเจตจำนงสวรรค์ การเผชิญหน้าที่เรียกว่าโชคชะตาคือเครื่องมือของเจตจำนงสวรรค์ เจ้าเติบโตขึ้นกระทั่งไปถึงภูเขาอี้เทียนและสามารถทำลายแผนการของนิกายเงา ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของเจตจำนงสวรรค์ทั้งสิ้น”
“ตามการอนุมานของเรา ในอนาคตก่อนการเกิดใหม่ครั้งแรกของเจ้า นิกายเงาประสบความสำเร็จ แต่เจตจำนงสวรรค์ไม่ต้องการเห็นร่างหลักของข้ากลายเป็นเทพอมตะอีกครั้ง เหตุใดโป้ชิงจึงล้มเหลวในอดีต? มันเป็นเพราะเขาเป็นร่างแยกของร่างหลักเช่นกัน นอกจากนั้นหลังจากร่างหลักได้รับวิญญาณทารกอมตะ เขาฟื้นคืนสู่ชีวิตและเหนือกว่าเทพอมตะทั้งหมด! ในอนาคตสวรรค์จะไม่สามารถกำจัดร่างหลักได้อีก ดังนั้นมันจึงวางแผนส่งเจ้าย้อนกลับมาในอดีตเพื่อเปลี่ยนอนาคต!”
ฟางหยวนเร่งถาม “เดี๋ยว! ข้าไม่เข้าใจบางสิ่ง เหตุใดเจตจำนงสวรรค์จึงเลือกข้า?”
“เพราะเจ้าเป็นปีศาจต่างโลก มีเพียงปีศาจต่างโลกที่สามารถเปลี่ยนอดีต หากพวกเขาไม่ใช่ปีศาจต่างโลก แม้จะเป็นเทพอมตะก็ไม่สามารถ เทพปีศาจบัวแดงทุ่มเทความพยายามตลอดชีวิตแต่เขายังไม่สามารถทำลายวิญญาณชะตากรรมหรือกำจัดเจตจำนงสวรรค์”
“แน่นอนว่าเจ้าไม่เพียงเป็นปีศาจต่างโลก หลังจากพิจารณาถึงประสบการณ์ส่วนตัวและสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น เจ้าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเครื่องมือของเจตจำนงสวรรค์” ผมที่หกตอบ
ฟางหยวนเงียบ
นี่เป็นการเปิดมุมมองใหม่ที่น่าตกใจมาก!
คำกล่าวของผมที่หกทำให้ฟางหยวนตระหนักว่าเขาเป็นตัวหมากเบี้ยในแผนการที่ยิ่งใหญ่
เขาคิดถึงช่วงเวลาห้าร้อยปีในชีวิตก่อนหน้า เขาถูกกดขี่และเร่ร่อนไปทั่วเป็นเวลาหลายร้อยปี ทั้งหมดเป็นเพราะเจตจำนงสวรรค์ใช่หรือไม่?
เขาต้องการสร้างเทพโลหิตแต่เจตจำนงสวรรค์ไม่อนุญาตให้เขาทำมันงั้นหรือ?
มันบังเอิญเกินไปที่เขาได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลา
หลังจากประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลา เขาถูกโจมตีอย่างกะทันหันโดยสิบนิกายโบราณ
ผมที่หกมองฟางหยวนและรู้สึกว่าฟางหยวนเริ่มหวั่นไหว แต่เพราะฟางหยวนไม่ได้แสดงออก ผมที่หกจึงทำได้เพียงสาปแช่งอยู่ในใจก่อนจะเปิดปากถามอีกครั้ง
“วิญญาณกาลเวลาของเจ้าเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก มันมีโอกาสล้มเหลวสูงมาก แต่เหตุใดเจ้าจึงประสบความสำเร็จในการใช้งานมันทุกครั้ง?”
“ไม่ใช่ทุกครั้ง ข้าล้มเหลวในครั้งสุดท้าย” ฟางหยวนกล่าวแต่เขารู้สึกตกตะลึงอยู่ภายใน
จุดนี้เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดที่สามารถพิสูจน์ว่าเจตจำนงสวรรค์มีอยู่จริง
ความทรงจำในส่วนนี้ของเขายังอยู่ เขาใช้วิญญาณกาลเวลาเพราะถูกโจมตีโดยหอคอยดวงตาสวรรค์ เขาไม่สามารถหลบและไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้วิญญาณกาลเวลา
ก่อนหน้านั้นผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก็ถูกทำลายล้างโดยหอคอยดวงตาสวรรค์เช่นกัน
ตามคำอธิบายของผมที่หก มันสามารถเข้าใจได้ว่า ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดถูกกำจัด ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาไม่สมบูรณ์ มันไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ แผนการของนิกายเงาล้มเหลว ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงไห่ลั่วหลัน เพราะนางไม่ได้อยู่บนภูเขาอี้เทียน ดังนั้นเจตจำนงสวรรค์จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่าฟางหยวนอีกต่อไป นี่เป็นสาเหตุที่ฟางหยวนล้มเหลวในการใช้วิญญาณกาลเวลาครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตามหลังจากเจตจำนงสวรรค์ละทิ้งตัวหมากที่ชื่อฟางหยวน เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลากลับยื่นมือเข้าช่วยฟางหยวน เขาถือกำเนิดใหม่อีกครั้งและทำให้แผนการของนิกายเงาประสบความสำเร็จ
“อันใด? เจ้าไม่รู้ว่าข้าล้มเหลวในครั้งสุดท้ายงั้นหรือ?” ฟางหยวนมองผมที่หก
มือของผมที่หกเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ
เขาเป็นเพียงร่างแยก เขาไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เขาอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาตลอดเวลา นอกจากนั้นเขาก็มีอิงอู๋เซี่ยเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้บังคับบัญชา ข้อมูลเหล่านี้ก็มาจากอิงอู๋เซี่ยเช่นกัน
แต่เขารู้ว่าอิงอู๋เซี่ยกระตุ้นใช้วิญญาณกาลเวลา เดิมทีอิงอู๋เซี่ยตกลงสู่แผนการของฟางหยวนและไม่มีทางตอบโต้ แต่เพราะวิญญาณกาลเวลาถูกกระตุ้นใช้งานโดยเจตจำนงสวรรค์ มันจึงทำให้สถานการณ์พลิกผันมาจนถึงจุดนี้
ผมที่หกรู้สึกประหม่ามากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าควรตอบสนองอย่างไร
แต่ฟางหยวนกลับโบกมือ “ช่างเถอะ พูดต่อ”
ผมที่หกลอบถอนหายใจ เขาสงบจิตใจก่อนกล่าวต่อ “เจตจำนงสวรรค์วางแผนใช้เจ้าเป็นเครื่องมือ มันเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมมาก เดิมทีพวกเราคิดว่าปีศาจต่างโลกจะไม่ได้รับอิทธิพลจากเจตจำนงสวรรค์ เพราะเหตุนี้ร่างหลักของข้าจึงถูกหลอก”
“หลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์ ผู้อาวุโสม่านเยี่ยนซื่อพบว่าเจ้าครอบครองวิญญาณกาลเวลาและเป็นบางคนที่ย้อนกลับมาในอดีต แต่เนื่องจากเจ้าไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงไม่ต้องการสร้างปัญหาเพิ่มเติม ต่อมาผู้อาวุโสม่านเยี่ยนซื่อยังช่วยปกป้องเจ้าจากการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่นั่นกลับทำให้กลุ่มของฟงจิวเก้อไปที่หุบเขาเหล่าโป”
“ในการต่อสู้ร้อยวัน ผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์สามารถหลบหนีแต่เขาถูกจับโดยปีศาจอมตะเซี่ยหู วังสวรรค์และผู้อมตะภาคเหนือต่างได้รับอิทธิพลจากเจตจำนงสวรรค์ พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งในภัยพิบัติมนุษย์ของร่างหลัก”
“ฟางหยวน หลังจากกำเนิดใหม่ ตลอดการเดินทางจากภาคใต้มายังภาคเหนือ เจ้าเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย ทั้งหมดเป็นฝีมือของเจตจำนงสวรรค์ที่ต้องการกำจัดเจ้า”
“เช่นเดียวกัน ท่านอิงอู๋เซี่ยกำลังพบกับความยากลำบากอยู่ในเวลานี้ เหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากท่านอิงอู๋เซี่ยอยู่ในร่างเดิมของเจ้า เขาดึงดูดศัตรูมากมายและเผชิญหน้ากับปัญหาแทนเจ้า”
“ฟางหยวน ชื่อของเจ้าอยู่ในบัญชีดำ สิบนิกายโบราณและวังสวรรค์กำลังไล่ล่าเจ้า สถานการณ์ของท่านอิงอู๋เซี่ยคืออนาคตของเจ้า! เจ้าคิดว่าจะปลอดภัยหากซ่อนตัวอยู่ภูมิภาคอื่นที่ไม่ใช่ภาคกลางงั้นหรือ? ร่างหลักของข้าท้าทายสวรรค์โดยการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ แต่ผู้อมตะของวังสวรรค์ยังไล่ล่าพวกเรา เหตุผลหลักที่ผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่เดินทางไปทั่วโลกเพราะการคงอยู่ของกำแพงภูมิภาค แต่เมื่อพวกเขามาถึง ผลลัพธ์จะไม่สามารถคาดเดา นอกจากนั้นผู้อมตะของวังสวรรค์ยังไม่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเพราะพวกเขาผสานมิติช่องว่างของตนเข้ากับถ้ำสวรรค์ของวังสวรรค์ เมื่อพวกเขาออกมายังโลกภายนอก พวกเขาจะได้รับมิติช่องว่างภูตผีและสามารถเดินทางไปที่ใดก็ได้ สุดท้ายพวกเขายังมีวิธีจำศีลเพื่อรักษาอายุขัย”
“ฟางหยวน ข้าขอถาม หากข้าไม่บอกเจ้าในวันนี้ เจ้าจะรู้จักเจตจำนงสวรรค์หรือไม่? เจ้าจะรู้ตัวหรือไม่ว่าตนเองถูกใช้เป็นเครื่องมือ?”
“เจ้าและร่างหลักของข้ามีความเป็นอริศัตรูกับอย่างลึกซึ้ง นั่นเป็นเรื่องจริง แต่เจ้าก็มีความใกล้ชิดกับพวกเราเป็นอย่างมาก ท่านอิงอู๋เซี่ยตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย หากเขาถูกจับโดยวังสวรรค์ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาจะถูกเปิดเผย หลังจากนั้นวังสวรรค์จะออกไล่ล่าเจ้า! เพราะวังสวรรค์คือตัวแทนของสวรรค์ ก่อนหน้านี้ฟงจิวเก้อกับผู้อมตะภาคกลางคนอื่นๆก็มาที่ภาคเหนือเพื่อตรวจสอบ ต่อมาเจ้าวังสวรรค์ยังเดินทางไปที่ภาคใต้ ฟางหยวน เจ้ากับท่านอิงอู๋เซี่ยถูกผูกติดกันด้วยเชือกแห่งโชคชะตา หากเขาตาย เจ้าก็จะตามไปในไม่ช้า!”
ผมที่หกกล่าวทั้งหมดในครั้งเดียว ทั้งหลักเหตุผลและหลักฐาน ทุกอย่างฟังดูน่าเชื่อถือและสามารถทำความเข้าใจ
ฟางหยวนถูกล่อลวง ดังนั้นเขาจึงต้องเปิดปากกล่าว “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง นี่เป็นเรื่องจริง ข้าคิดว่า…พวกเราสามารถทำธุรกรรมที่ดี”
ผมที่หกรู้สึกมีความสุขมาก เขาคิด ‘ตัดสินใจได้ถูกต้อง!’
ก่อนหน้านี้ผมที่หกรู้สึกกดดันอย่างมาก เนื่องจากเขาทำให้ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์
ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดซ่อนอยู่ มันก็ไม่สามารถปฏิเสธว่าความผิดพลาดเกิดจากเขา!
ผมที่หกรู้สึกผิดและเสียใจมากกับความผิดพลาดของตน
แม้การเปิดเผยตัวตนจะมีความเสี่ยง แต่เขาก็เต็มใจที่จะทำ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนทุกสิ่งจะไม่สูญเปล่า
ฟางหยวนเป็นทางออกสุดท้ายของอิงอู๋เซี่ยขณะที่ผมที่หกเป็นผู้เปิดเส้นทางสายนี้ให้เขา
—————–
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1077 ธุรกรรมกับนิกายเงา (2)
แปลโดย iPAT
“แล้วเราจะทำธุรกรรมอย่างไร? พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” ฟางหยวนถามด้วยการแสดงออกที่เป็นมิตร
“ฟางหยวน เรารู้ว่าเจ้ามีทรัพยากรอมตะมากมาย ทรัพยากรอมตะที่มาจากโลกใต้บาดาลมีปัญหา พวกมันเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ พวกเราไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น แต่ทรัพยากรอมตะที่มาจากน้ำตกสวรรค์สามารถใช้ได้ นี่คือรายการสินค้าที่พวกเราต้องการ ลองดู” ผมที่หกส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน
ฟางหยวนตรวจสอบก่อนพยักหน้า
หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “ข้ามีทรัพยากรอมตะเกือบทั้งหมด แต่ในฐานะสมาชิกหลักของนิกายหลางหยา ไม่ใช่ว่าเจ้าสามารถขอสิ่งเหล่านี้จากนิกายงั้นหรือ?”
ผมที่หกเผยรอยยิ้มขมขื่น “ตอนนี้แตกต่างออกไป จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนใหม่ไม่เหมือนก่อนหน้า ในนิกายหลางหยา ทุกอย่างต้องใช้แต้มผลงาน หากข้าต้องการสมบัติบางอย่าง ข้าต้องใช้แต้มผลงานในการแลกเปลี่ยน แต่แต้มผลงานของข้ามีไม่พอกับความต้องการของท่านอิงอู๋เซี่ย”
“เจ้าพูดถูก” ฟางหยวนพยักหน้าก่อนถาม “ข้าสามารถมอบทรัพยากรเหล่านี้ แต่เจ้าจะส่งให้อิงอู๋เซี่ยอย่างไร? สวรรค์สีเหลืองปิดในเวลานี้”
อิงอู๋เซี่ยขายวิญญาณอมตะและทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น แน่นอนว่าฟางหยวนรู้เรื่องนี้
ผมที่หกกล่าวต่อ “สวรรค์สีเหลืองไม่สามารถใช้งาน แต่เรามีวิธีส่งทรัพยากรเหล่านี้ไปให้ท่านอิงอู๋เซี่ย กองกำลังพันธมิตรผีดิบเป็นกองกำลังย่อยของนิกายเงา ก่อนการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ปีศาจอมตะเซี่ยหูจับตัวผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ ดังนั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบจึงสร้างสุดยอดค่ายกลวิญญาณเพื่อเชื่อมต่อทั้งห้าภูมิภาค”
“เดิมทีข้าคิดว่ามันเป็นเพียงข้องอ้างเพื่อปิดบังแผนการของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแต่มันกลับเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?” ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย
ผมที่หกเผยรอยยิ้มขมขื่น “นี่เป็นเรื่องจริง การบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบเพื่อหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะไม่ได้อยู่ในแผนการเดิมของนิกายเงา แต่ในเวลานั้นเราไม่มีทางเลือก กองกำลังพันธมิตรผีดิบมีประโยชน์มาก หากเป็นไปได้เราจะเก็บพวกเขาเอาไว้”
ฟางหยวนพยักหน้า
เขาคิดถึงช่วงเวลาห้าร้อยปีในชีวิตแรก ระหว่างช่วงเวลาเหล่านั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบยังอยู่ แต่การกำเนิดใหม่ของฟางหยวนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบเหลือเพียงความว่างเปล่า ผีดิบอมตะส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ
กระทั่งถึงเวลานี้ทั้งห้าภูมิภาคยังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายเพราะมัน
หลังจากทั้งหมดกองกำลังพันธมิตรผีดิบครอบครองทรัพยากรจำนวนมหาศาล
ทรัพยากรเหล่านี้กลายเป็นไร้เจ้าของ ผู้อมตะและกองกำลังใหญ่ต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงพวกมัน
‘ดูเหมือนในช่วงชีวิตแรกของข้า นิกายเงาจะประสบความสำเร็จจริงๆ การดำรงอยู่ของกองกำลังพันธมิตรผีดิบสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ วังสวรรค์โจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาส่งผลให้ฟงจิวเก้อเสียชีวิต แต่มันยังน่าสงสัย นิกายเงามีสายลับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่พวกเขากลับปล่อยให้มันตกอยู่ในกำมือของวังสวรรค์แทนที่จะเก็บไว้เอง’
ฟางหยวนคิดและรู้สึกว่ามีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่เบื้องหลัง
‘ความลับของโลกใบนี้ถูกซ่อนไว้ลึกเกินไป ตัวตนในตำนานปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องและวางแผนต่อต้านกันเอง พวกเขาเหมือนดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่บนท้องฟ้า หากเปรียบเทียบ ข้ายังไม่ถือว่าโดดเด่น ฮ่าฮ่า แต่ก็เพราะเหตุนี้ มันจึงยิ่งน่าสนใจมิใช่หรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า’
ฟางหยวนคิดและรู้สึกมีความสุข
มุมปากของเขายกตัวขึ้นเล็กน้อย
ผมที่หกไม่เข้าใจ เขาคิด ‘เขายิ้มเพราะเหตุใด? แล้วเหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่ดี…’
ฟางหยวนมองผมที่หกด้วยสายตาแหลมคมก่อนกล่าว “เช่นนั้นข้าจะได้รับสิ่งใดเป็นการแลกเปลี่ยน?”
“วิญญาณอมตะ” ผมที่หกตอบ
“น่าสนใจ น่าสนใจ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง
วิญญาณอมตะดวงใดที่อิงอู๋เซี่ยจะนำออกมาแลกเปลี่ยน? แน่นอนว่ามันต้องเป็นวิญญาณอมตะของฟางหยวน!
ขายวิญญาณอมตะคืนให้กับเจ้าของ นี่เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกว่าความคิดของอิงอู๋เซี่ยดีมาก
ในโลกใบนี้ ผู้ใดจะต้องการวิญญาณอมตะเหล่านั้นมากไปกว่าฟางหยวน? หากมี มันก็มีไม่มาก
สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขายังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับตนเอง ดังนั้นวิญญาณอมตะเหล่านี้จึงมีค่ากับฟางหยวนมากกว่าผู้ใด
เพราะความแตกต่างของแต่ละเส้นทางและพลังงานแห่งเต๋าที่อาจขัดแย้งกัน มันจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้อมตะจะใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางสายอื่น เว้นเพียงพวกเขาจะใช้มันเป็นส่วนประกอบของท่าไม้ตายอมตะ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่หาได้ยากเช่นกัน
สามารถกล่าวได้ว่าฟางหยวนเป็นลูกค้าที่ดีที่สุด ไม่เพียงเขาจะเคยใช้วิญญาณอมตะเหล่านั้นมาก่อน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขามีกำลังซื้อ!
เกี่ยวกับวิธีขนส่งวิญญาณอมตะ พวกเขาจะใช้ค่ายกลวิญญาณของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ
ฟางหยวนยิ้ม “วิญญาณอมตะของข้าเหลือกี่ดวง? ไม่เพียงข้าจะต้องการซื้อพวกมัน ข้ายังต้องการซื้อวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า และวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า”
ผมที่หกพิจารณาก่อนจะพยักหน้า “ข้าสามารถตัดสินใจเรื่องนี้และตกลง”
อิงอู๋เซี่ยเซี่ยควบคุมไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน เขาสามารถบังคับให้คนทั้งสองส่งมอบวิญญาณอมตะเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการหลบหนี ส่วนเรื่องอื่นเป็นเพียงเรื่องรอง
ฟางหยวนกล่าวอีกครั้ง “พวกเราจะแลกเปลี่ยนกันหนึ่งต่อหนึ่ง นำวิญญาณอมตะของพวกเจ้ามา แล้วข้าจะจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะ”
ผมที่หกแสดงออกด้วยความหนักใจ “กล่าวตามตรง มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยก่อนที่เจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะ เจ้าย่อมเข้าใจสถานการณ์ของทั้งห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบตกเป็นเป้าหมายของทุกฝ่าย หากเมืองคลื่นทมิฬไม่จมลงสู่โลกใต้บาดาล มันคงถูกยึดครองไปนานแล้ว ค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้งอยู่ในเมืองคลื่นทมิฬ มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อให้ข้านำวิญญาณอมตะมาที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้นข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถจัดเตรียมทรัพยากรอมตะให้เราก่อนเพราะพวกเราต้องการใช้พวกมันหลอมรวมวิญญาณ ยิ่งเร็วยิ่งดี ท่านอิงอู๋เซี่ยกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและไม่รู้ว่าจะอดทนได้นานเท่าใด”
ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน ‘ผมที่หกกำลังกล่าวความจริงและเท็จในเวลาเดียวกัน มันง่ายมาก เขากล่าวว่าอิงอู๋เซี่ยกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เขายังบอกอีกว่าอิงอู๋เซี่ยสามารถอดทนได้อีกสักพัก”
ฟางหยวนปฏิเสธเสียงแข็ง “นั่นเป็นไปไม่ได้ หากข้าจ่ายทรัพยากรอมตะและเจ้าไม่ส่งมอบวิญญาณอมตะให้ข้า ข้าจะไม่กลายเป็นคนโง่งั้นหรือ?”
“ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าเตรียมท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อผูกมัดทั้งสองฝ่ายเอาไว้แล้ว พวกเราไม่สามารถทำลายข้อตกลง” ผมที่หกแสดงออกอย่างจริงใจ
ฟางหยวนหัวเราะและโบกมือ “อย่าพูดกับข้าเรื่องวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล ข้าไม่เชื่อ! ตั้งแต่พวกเจ้าสามารถกำหราบไห่ลั่วหลัน พวกเจ้าก็ต้องมีวิธีลบข้อตกลงพันธมิตรที่สร้างขึ้นจากวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลถูกต้องหรือไม่? ข้าไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูล แล้วข้าจะโง่พอที่จะทำข้อตกลงด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลกับพวกเจ้าได้อย่างไร?”
“นี่…” ผมที่หกลังเล
เขาเข้าใจความคิดของฟางหยวน หากเป็นเขา เขาก็จะไม่ทำข้อตกลงใดๆกับนิกายเงาเช่นกัน
“เช่นนี้เป็นอย่างไร?” ผมที่หกเสนอความคิดใหม่ “ข้าจะใช้ข้อมูลเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจ้าส่งมอบทรัพยากรอมตะออกมาก่อน ข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากสำหรับเจ้า ฟางหยวน เจ้าไม่ต้องการรู้ขอบเขตของเจตจำนงสวรรค์เช่นนั้นหรือ? นิกายเงาของเรามีประสบการณ์ในการตอบโต้เจตจำนงสวรรค์ มันยังเกี่ยวกับปีศาจต่างโลกรวมถึงข้อมูลของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เจ้าไม่ต้องการพวกมันงั้นหรือ?”
ฟางหยวนถูกล่อลวง
เจตจำนงสวรรค์!
หลังจากตระหนักว่าเจตจำนงสวรรค์ต้องการกำจัดเขา แล้วฟางหยวนจะสามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้อย่างไร? ในโลกใบนี้ผู้ใดจะรู้จักเจตจำนงสวรรค์ดีไปกว่านิกายเงา?
หากนิกายเงาไม่ให้ข้อมูลแก่เขา ฟางหยวนก็จะถูกทิ้งไว้ในความมืดไปอีกนาน
สำหรับข้อมูลของปีศาจต่างโลก ฟางหยวนอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เขาอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงมาอยู่ที่นี่? แล้วยังมีปีศาจต่างโลกคนอื่นๆอยู่ที่นี่อีกหรือไม่? หากมี พวกเขามาจากโลกใบใด? เหตุใดปีศาจต่างโลกจึงสามารถเปลี่ยนอดีต?
และข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่มาถึงสามแสนปี มีความลับใดบ้างที่ซ่อนอยู่? นี่เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยให้ฟางหยวนยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้ในอนาคต
ข้อมูลเหล่านี้ล้ำค่ามากและล้วนเป็นประโยชน์ต่อฟางหยวน
ในจังหวะนี้สภาพแวดล้อมกลายเป็นเงียบงัน ไม่มีฝ่ายใดเปิดปากกล่าว
ฟางหยวนตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด
ผมที่หกรอคอยอย่างสงบแต่เขามั่นใจมากว่าฟางหยวนจะตอบตกลง หลังจากทั้งหมดข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากเกินไป
แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะสถานการณ์นี้ ผมที่หกจะไม่บอกสิ่งใดกับฟางหยวนทั้งสิ้น
ฟางหยวนถาม “ข้าไม่เข้าใจบางสิ่ง เมื่อมันเป็นสุดยอดค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ เหตุใดอิงอู๋เซี่ยไม่ใช้มันหลบหนีโดยตรง?”
ผมที่หกอธิบาย “ค่ายกลวิญญาณสามารถขนส่งทรัพยกรอมตะเท่านั้น ร่างผีดิบอมตะถูกพิจารณาว่าเป็นทรัพยากรอมตะแต่มันไม่สามารถขนส่งมิติช่องว่าง อาจมีวิธีการบางอย่างบนโลกใบนี้ แต่มันหาได้ยาก ตัวอย่างเช่นวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่มันมีเพียงหนึ่งเดียว สำหรับประตูแห่งดวงดาว มันมีข้อจำกัดมากเกินไปและไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้อื่น”
นิกายเงารู้จักประตูแห่งดวงดาวเพราะฟางหยวนใช้มันหลายครั้งเพื่อเดินทางเข้าออกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
เป็นเรื่องยากในการขนส่งผู้อมตะเพราะพวกเขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอยู่บนร่างกาย
ย้อนกลับไปฟางหยวนใช้มิติช่องว่างที่ตายไปแล้วเก็บวิญญาณสติปัญญาระดับเก้าขณะที่ร่างกายของเขาเป็นผีดิบอมตะในจุดต่ำสุดของระดับหก ด้วยวิธีนี้เขาจึงสามารถใช้ประตูแห่งดวงดาวหรือวิญญาณท่องแดนอมตะในการเดินทาง
แต่เขาไม่สามารถเก็บวิญญาณสติปัญญาไว้ในมิติช่องว่างของตนได้เป็นเวลานานและต้องปล่อยมันไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
สำหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขามีวิธีการเดินทางข้ามภูมิภาคของพวกเขาเอง
มันคือการเดินทางผ่านสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดำเช่นหอคอยดวงตาสวรรค์ที่นำกลุ่มผู้อมตะจากวังสวรรค์เดินทางไปยังภาคใต้ผ่านสวรรค์สีขาว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น