เทพปีศาจหวนคืน 1073-1074
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1073 สติปัญญายากที่จะใช้
แปลโดย iPAT
สวรรค์สีเหลืองเกิดจากถ้ำสวรรค์ของผู้อมตะล้านสมบัติ
ในยุคโบราณผู้อมตะล้านสมบัติผสานถ้ำสวรรค์ของเขาเข้ากับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลือง
มันกลายเป็นสถานที่พิเศษและไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อีกต่อไป
สถานที่แห่งนี้อยู่ที่ใด? นี่เป็นเรื่องลึกลับ ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญามากมายพยายามอนุมานเกี่ยวกับมันแต่ไม่มีผู้ใดได้รับคำตอบ
กระทั่งเทพอมตะหรือเทพปีศาจก็ไม่รู้ตำแหน่งที่ตั้งของมัน
เจ้าของสวรรค์สีเหลืองคือผู้อมตะล้านสมบัติเพียงผู้เดียว หลังจากเสียชีวิต เขาไม่มีผู้สืบทอด
“สวรรค์สีเหลืองอยู่มาถึงวันนี้ มันเป็นตลาดอันดับหนึ่งของห้าภูมิภาค แล้วเหตุใดมันจึงปิดตัวลงอย่างกะทันกัน?” ผู้อมตะตระกูลเฉิงตกตะลึง
สวรรค์สีเหลืองเปิดดำเนินการมานานกว่าสามแสนปี มันเป็นสถานที่สำคัญที่ช่วยในการบ่มเพาะของผู้อมตะมาตลอด
แต่วันนี้มันกลับปิดอย่างกะทันหัน มันจึงช่วยไม่ได้ที่ทุกคนจะรู้สึกระแวงและระวัง
“เจ้าคิดว่าเพราะเหตุใดมันจึงปิดตัวลงอย่างกะทันหันเช่นนี้?”
“โอ้ มันปิดตัวลงหลังจากการเดิมพันบนภูเขาอี้เทียน เงินเดิมพันจำนวนมหาศาลยังอยู่ที่นั่น!”
“อย่าบอกว่าเจตจำนงสวรรค์ของถ้ำสวรรค์ต้องการขโมยเงินเดิมพันเหล่านั้น!?”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงส่ายศีรษะ “เจตจำนงสวรรค์ของถ้ำสวรรค์สีเหลืองไม่สนใจเงินเดิมพัน หากมันคิดคดโกง สวรรค์สีเหลืองจะไม่มีชื่อเสียงและคงอยู่มาถึงวันนี้ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ไม่เคยมีการคดโกงเกิดขึ้นในสวรรค์สีเหลือง การปิดสวรรค์สีเหลือง มีความเป็นไปได้ไม่กี่กรณี”
“แล้วมันคือสิ่งใด?” เฉิงชิงชิงเร่งถาม
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงเปิดเผยความลับบางอย่าง
ปรากฏว่ามีบางครั้งที่สวรรค์สีเหลืองปิดตัวลง จากบันทึกในประวัติศาสตร์พวกมันเกิดจากเหตุผลเดียวกัน
มันเกี่ยวข้องกับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลือง
ย้อนกลับไปผู้อมตะล้านสมบัติรู้ว่าตนเองไม่สามารถผ่านภัยพิบัติครั้งต่อไป ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เขาดูดกลืนเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลืองเข้าไป แม้เขาจะถูกขังอยู่ในสวรรค์สีเหลืองและสูญเสียอิสรภาพ แต่เขาก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใดๆอีก
ด้วยการดูดกลืนเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลือง ถ้ำสวรรค์แห่งนี้จึงสามารถขยายอาณาเขต
ประวัติศาสตร์ยังกล่าวอีกว่ามีหลายครั้งที่บางคนขายเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลืองให้กับเจตจำนงสวรรค์ของถ้ำสวรรค์แห่งนี้
หลังจากได้รับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลือง เจตจำนงสวรรค์จะปิดถ้ำสวรรค์และดูดซับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลืองเพื่อขยายอาณาเขตของตัวมันเอง
“ครั้งนี้หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด มันควรเป็นกรณีนี้เช่นกัน” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงสรุป
เขากล่าวได้ถูกต้อง
ในโลกใบนี้ มันอาจเป็นสิ่งเดียวที่สามารถดึงดูดความสนใจเจตจำนงสวรรค์ของถ้ำสวรรค์สีเหลือง
สวรรค์ทั้งเจ็ดชั้นถูกทำลายไปแล้วรวมถึงสวรรค์สีเหลือง มีเพียงผู้โชคดีเท่านั้นที่จะพบเศษชิ้นส่วนของพวกมัน
แต่วังสวรรค์มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สมบัติในการครอบครองของพวกเขาเกินกว่าจินตนาการของผู้คน มันไม่แปลกที่พวกเขาจะมีเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลืองอยู่ในการครอบครอง นอกจากนั้นพวกเขายังต้องมีไม่น้อย มิฉะนั้นเจตจำนงสวรรค์จะไม่ปิดถ้ำสวรรค์เพื่ดดูดซับมัน
หากวังสวรรค์ขอให้เจตจำนงสวรรค์หยุดธุรกรรมของอิงอู๋เซี่ย เจตจำนงสวรรค์จะปฏิเสธ หลังจากทั้งหมดมันเป็นตลาดขนาดใหญ่ของทั้งห้าภูมิภาค ด้วยการคงอยู่ของกำแพงภูมิภาค อิทธิพลของวังสวรรค์จึงถูกจำกัดอยู่ในภาคกลางเท่านั้น
แต่วังสวรรค์มีความมั่งคั่งอย่างที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำธุรกรรมกับเจตจำนงสวรรค์ของถ้ำสวรรค์สีเหลืองและทำให้มันปิดตัวลง
ด้วยวิธีนี้แผนการของอิงอู๋เซี่ยจึงถูกขัดขวาง
“บัดซบ! วังสวรรค์อีกครั้ง!” อิงอู๋เซี่ยแสดงออกด้วยความเกลียดชัง เขากำหมัดและกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถทำสิ่งใด
วังสวรรค์ขายเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลืองในราคาถูก พวกเขาจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อหยุดอิงอู๋เซี่ย สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพวกเขา
การเคลื่อนไหวของวังสวรรค์ปิดทางออกของอิงอู๋เซี่ย
โดยปราศจากสวรรค์สีเหลือง กระทั่งอิงอู๋เซี่ยจะต้องการขายวิญญาณ เขาก็ไม่สามารถติดต่อกับผู้ซื้อ
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฏเหล็กติดอยู่ในสวรรค์สีเหลือง!
เมื่อไม่สามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรอมตะ แล้วเขาจะหลอมรวมวิญญาณที่ต้องการได้อย่างไร?
คนผู้หนึ่งไม่สามารถทำอาหารโดยปราศจากวัตถุดิบ หากไม่มีวิญญาณอมตะ แล้วเขาจะออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร?
สวรรค์สีเหลืองปิด เจตจำนงสวรรค์กำลังดูดซับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลือง สถานการณ์นี้จะไม่จบลงเร็วๆนี้ ในประวัติศาสตร์ ระยะเวลาที่สั้นที่สุดยังไม่น้อยกว่าสองเดือน
อิงอู๋เซี่ยทำได้เพียงถ่วงเวลาจนกว่าค่ายกลวิญญาณจะพังทลายลงเท่านั้น
“พรวด!”
อิงอู๋เซี่ยกระอักเลือดด้วยความโกรธและล้มลงบนพื้น
…..
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
รูปลักษณ์ของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป เขากลายเป็นผีดิบอมตะอีกครั้ง
เขาพัฒนาท่าไม้ตายเพลิงนิพพานและสร้างท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเพื่อสลับร่างระหว่างผู้อมตะที่มีชีวิตกับผีดิบอมตะที่ตายไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้วิธีการดังกล่าว
เขาสูญเสียวิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่งทั้งหมด เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางความแข็งแกร่งได้อีก
ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีถอดดวงวิญญาณและยึดครองร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งตนหนึ่ง
ร่างของผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งร่างนี้มาจากนางมารผลาญสวรรค์ หลังจากเกิดใหม่ ฟางหยวนเตรียมตัวสำหรับการสร้างมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายในกรณีที่แผนหลักล้มเหลว ด้วยการทำธุรกรรม เขาได้รับร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากจากนางมารผลาญสวรรค์
ร่างผีดิบเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวดาว พวกมันรวมอยู่ในคลังสมบัติล้ำค่าของเขา
ทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้ามาจากโลกใต้บาดาล สำหรับทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดและทรัพยากรอมตะระดับแปด พวกมันมาจากน้ำตกสวรรค์ เขาได้รับกำไรขนาดใหญ่จากการตื่นขึ้นของโป้ชิง
ฟางหยวนมีพลังงานอมตะหรือหินวิญญาณอมตะไม่มาก แต่เขาไม่ขาดแคลนทรัพยากรอมตะ นอกจากนั้นคุณค่าของพวกมันยังสูงมาก
อย่างไรก็ตามทรัพยากรอมตะยังไม่ใช่จุดสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือวิญญาณสติปัญญา
ฟางหยวนจ้องมองวิญญาณสติปัญญาเป็นเวลานานแต่มันไม่ปล่อยแสงแห่งปัญญาออกมา ในความเป็นจริงมันไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน
‘ใช้ร่างอื่นแทนไม่สำเร็จ ข้าไม่สามารถทำให้มันปลดปล่อยแสงแห่งปัญญาออกมา’
ฟางหยวนไม่แปลกใจกับเรื่องนี้
เขาเคยทำการทดลองที่คล้ายคลึงกันนี้มานานแล้วในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
วิญญาณสติปัญญาไม่เคยตอบสนองการทดลองของฟางหยวน
ย้อนกลับไปฟางหยวนสามารถทำข้อตกลงกันมันเพราะลมมรณะ
ความอยู่รอดเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
แต่วิญญาณสติปัญญาจะตอบสนองต่อฟางหยวนที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น กล่าวคือทั้งร่างกายและดวงวิญญาณต้องเป็นฟางหยวนคนเดิม หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งขาดหายไป วิญญาณสติปัญญาจะไม่ตอบสนอง
‘นี่หมายความว่าข้าต้องนำร่างเดิมกลับคืนมางั้นหรือ?’ ฟางหยวนคิด
ร่างเดิมของเขาเป็นผีดิบอมตะที่วิญญาณสติปัญญายอมรับ
‘อิงอู๋เซี่ยหายตัวไป เขาอาจมีวิญญาณกาลเวลา วิญญาณท่องแดนอมตะ และวิญญาณอมตะดวงอื่นๆ สำหรับไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง พวกเขาอาจให้ความช่วยเหลืออิงอู๋เซี่ย’
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่มีเวลาเพราะภัยพิบัติ แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่เขาคิดถึงปัญญาที่เรียกว่าอิงอู๋เซี่ย เขาจะรู้สึกปวดหัวเสมอ
‘ดังนั้นข้ายิ่งจำเป็นต้องใช้ฟางเจิ้งสร้างเทพโลหิต’
ร่างปัจจุบันของฟางหยวนเกิดจากวิญญาณทารกอมตะระดับเก้า เขาไม่มีพ่อแม่ เขาไม่มีญาติในสายเลือดอยู่บนโลกใบนี้
แต่ฟางหยวนยังต้องการใช้ฟางเจิ้งสร้างเทพโลหิต
หากเขาไม่ได้ร่างผีดิบกลับคืน ฟางหยวนจะผสานดวงวิญญาณของตนเข้ากับร่างเทพโลหิตของฟางเจิ้งเพื่อกระตุ้นวิญญาณสติปัญญา
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงสัญชาตญาณของเขาเท่านั้น
แต่สัญชาตญาณไม่สามารถดูแคลนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นสัญชาตญาณของปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดเช่นฟางหยวน
เห็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังในการทดลองของฟางหยวน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ
ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและเปิดปากถาม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งมีวิธีใช้งานวิญญาณสติปัญญาหรือไม่?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบ “วิธีที่ง่ายที่สุดคือยกระดับการบ่มเพาะของเจ้าสู่ระดับเก้าและปรับแต่งวิญญาณสติปัญญา!”
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้ารู้จักวิธีนี้เช่นกัน ข้าถามถึงวิธีอื่น?”
‘เห้อ…มันเป็นวิธีที่ไม่ใช่วิธี ข้าสามารถมอบวิญญาณอายุยืนเป็นอาหารให้มัน หลังจากมันกินอาหารจนพอใจ ข้าอาจจะได้รับการตอบรับจากวิญญาณสติปัญญา หากวิธีนี้ประสบความสำเร็จ วิญญาณสติปัญญาจะเป็นของข้า เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าต้องมอบมันให้ข้าไม่ว่าอย่างไร’ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคิดและยิ้มกับตนเอง
ฟางหยวนหรี่ตามอง “มันไม่เป็นไรหากจะกล่าวออกมาโดยตรง”
“เจ้าคิดว่าข้าต้องการมันงั้นหรือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากระทืบเท้า “อา…จิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก บัดซบ! เหตุใดข้าต้องบอกเจ้าอีกครั้ง? เจ้ากำลังกล่าวหาข้า!”
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1074 สายลับเผยตัว
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนส่ายศีรษะและถอนหายใจ
ราคาของการให้อาหารวิญญาณสติปัญญาแพงเกินไป อาจมีเพียงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเท่านั้นที่สามารถจ่าย
ฟางหยวนไม่ต้องการจ่ายด้วยอายุขัยของตนเอง กระทั่งเขาจะมีวิญญาณอายุยืน เขาก็จะใช้มันในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น
วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ แต่มันมีค่ายิ่งกว่าวิญญาณอมตะอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ
มีอุปสรรคสำคัญสองประการในการบ่มเพาะของผู้อมตะ หนึ่งคือภัยพิบัติ และสองคืออายุขัย
แม้แต่เทพอมตะและเทพปีศาจก็ถูกท้าทายโดยปัญหาสองข้อนี้
ย้อนกลับไปเหตุผลประการหนึ่งที่เทพอมตะตะวันเดือดสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงขึ้นมาก็เพราะต้องการรวบรวมวิญญาณอายุยืนทั้งหมดของภาคเหนือ
แม้เทพอมตะตะวันเดือดจะมีวิญญาณสติปัญญา แต่เขาก็ไม่สามารถใช้งานมัน เนื่องจากวิญญาณอายุยืนมีอยู่จำกัด อย่างไรก็ตามด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เขาสามารถใช้มันอ้างอิงเพื่อเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งสายอื่น ดังนั้นวิญญาณสติปัญญาจึงไม่มีความสำคัญมากนัก
หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต วิญญาณอายุยืนเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง นั่นเป็นช่วงเวลาของเทพอมตะสวรรค์พิภพ
เขาค้นหาวิญญาณอายุยืนตลอดเวลาหลายปีในชีวิต แต่วิญญาณอายุยืนไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของผู้คน
หลังจากเทพอมตะสวรรค์พิภพตาย วิญญาณอายุยืนก็ปรากฏขึ้นอีก ทุกๆสิบปีวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงจะดึงดูดวิญญาณอายุยืนเข้าไป นั่นทำให้วิญญาณสติปัญญาได้รับอาหารอย่างช้าๆและค่อยๆฟื้นตัวขึ้น
กระทั่งถึงวันที่ฟางหยวนทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เพื่อรักษาชีวิตรอด วิญญาณสติปัญญาจึงติดตามฟางหยวนไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู สุดท้ายจึงมาจบลงที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
‘ก่อนหน้านี้ข้าใช้วิญญาณอายุยืนเพื่อหลอมรวมทะเลวิญญาณที่สอง นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นข้าได้รับวิญญาณอายุยืนมาจากนางมารผลาญสวรรค์ แต่ด้วยการกำเนิดใหม่ ข้าสูญเสียวิญญาณอายุยืนไป ตั้งแต่นางมารผลาญสวรรค์สามารถมอบให้ข้า นางย่อมมีวิญญาณอายุยืนมากกว่าหนึ่ง แต่นางตายไปแล้วในค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา ข้าสงสัยว่าวิญญาณอายุยืนจะถูกทำลายไปพร้อมกับนางหรือไม่? หือ…’
ฟางหยวนคิดก่อนที่จะตระหนักถึงบางสิ่ง
‘วิญญาณอายุยืนหาได้ยาก กระทั่งเทพอมตะหรือเทพปีศาจยังต้องการมัน นางมารผลาญสวรรค์ตายเพราะแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ความมั่งคั่งทั้งหมดของนางย่อมถูกโอนถ่ายไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณเรียบร้อยแล้ว แม้แผนการของเขาจะล้มเหลว แต่ความมั่งคั่งที่เหลืออยู่ของนิกายเงาก็ไม่สามารถดูแคลน!’
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีวิญญาณอายุยืนอยู่จำนวนหนึ่ง พวกมันเป็นวิญญาณอายุยืนที่ถือกำเนิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่นานกว่าสามแสนปี มันเคยเป็นถ้ำสวรรค์มาก่อน ด้วยการคงอยู่ของคฤหาสน์วิญญาณหม้อหลอมรวม พื้นที่ของมันยิ่งขยายใหญ่ขึ้น
เผ่ามนุษย์ขนจำนวนมหาศาลอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายชั่วอายุคน ขณะที่วิญญาณอายุยืนเกิดจากการคงอยู่ของรูปแบบชีวิต
ที่ใดมีสิ่งมีชีวิต วิญญาณอายุยืนจะถือกำเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ประชากรจำนวนนับไม่ถ้วน และประวัติศาสตร์อันยาวนาน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงสามารถรวบรวมวิญญาณอายุยืนได้มากมาย
‘วิญญาณสติปัญญาพึ่งพาอายุขัยเพื่อปลดปล่อยพลังอำนาจ อาหารของมันก็ยังเป็นวิญญาณอายุยืน ดังนั้นตอนนี้ข้าควรปล่อยให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเลี้ยงดูมันไปก่อน’
ฟางหยวนรู้เจตนาของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์
แต่นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะฟางหยวนไม่มีวิญญาณอายุยืน
นอกจากนั้นเขายังกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งต่อไปที่ใกล้เข้ามาและไม่มีเวลาสนใจเรื่องวิญญาณสติปัญญา
แม้วิญญาณสติปัญญาจะถูกนำมาโดยเขา แต่ฟางหยวนก็ไม่เคยให้อาหารมันแม้แต่ครั้งเดียว
ในความเป็นจริง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถช่วยเหลือฟางหยวนได้มากในเรื่องนี้
‘ในกรณีที่วิญญาณสติปัญญายอมรับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มันก็ยังเป็นเรื่องดี ด้วยสถานะของข้า ข้าสามารถยืมมือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อใช้งานวิญญาณสติปัญญา ข้าเพียงต้องจ่ายด้วยแต้มผลงานของนิกายเท่านั้น’
วิญญาณเป็นเพียงเครื่องมือ
การทำงานหนักทั้งหมดของเขาเพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่
การทดลองใช้วิญญาณสติปัญญาล้มเหลวแต่ฟางหยวนไม่รู้สึกผิดหวัง ก่อนจากไป เขาขอสิ่งหนึ่งกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลที่บันทึกภาพเหตุการณ์ระหว่างการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์
“การหลอมรวมวิญญาณครั้งนี้แปลกมาก ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทรงพลังเกินไป พวกเราประสบความสำเร็จเพราะโชคช่วย ฟางหยวน หากเจ้าพบสิ่งใด เจ้าต้องรีบบอกข้า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวกับฟางหยวนก่อนที่เขาจะจากไป
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่พบสิ่ง ข้าก็คงเช่นกัน แต่ข้าจะทำอย่างดีที่สุด” ฟางหยวนตอบ ในความเป็นจริงเขาคาดเดาว่ามันเกี่ยวกับร่างใหม่ของเขา แต่เขาไม่บอกการคาดเดานี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
นอกจากตรวจสอบภัยพิบัติ ฟางหยวนยังมีอีกเป้าหมายหนึ่ง เขาต้องการตรวจสอบนิกายหลางหยาและค้นหาสายลับที่ซ่อนอยู่
ตลอดมาฟางหยวนไม่เคยลืมเรื่องนี้
ก่อนหน้าสายลับสองคนเปิดเผยตัวออกมาโดยไม่คาดคิด นอกจากนั้นพวกเขายังรับหน้าที่สำคัญในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
‘นอกจากพวกเขา ยังมีสายลับคนอื่นอยู่อีกหรือไม่?’
ปัญหานี้เป็นเรื่องสำคัญต่อฟางหยวน หลังจากทั้งหมดเขาเข้าร่วมกับนิกายหลางหยาเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตเขายังต้องพึ่งพาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอีกมาก
เขาต้องตรวจสอบแต่เขาไม่มีเวลากระทั่งถึงตอนนี้
หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง ฟางหยวนเข้าใกล้ที่พักใหม่ของเขา
มันเป็นเมืองสีขาวขนาดใหญ่ที่มีหอคอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า
นี่คือเมืองเมฆา
ทวีปเมฆามีสิบสองเมือง แต่ละเมืองเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ เมื่อพวกมันทำงานพร้อมกัน พวกมันจะสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทวีปเมฆาเอาไว้ทั้งหมด
เมืองเมฆาทั้งสิบถูกสร้างขึ้นจากหอคอยเมฆาทั้งสิบสอง
เมืองเมฆาที่อยู่ด้านหน้าฟางหยวนถูกมอบให้เขาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อให้เขาใช้อาศัยและปกป้องมัน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆได้รับมอบหมายให้ปกป้องเมืองเมฆาในแต่ละเมืองเช่นกัน
ตามแผนการของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะคัดเลือกมนุษย์ขนที่โดดเด่นจากสามทวีปด้านล่างขึ้นมาอาศัยอยู่ในเมืองเมฆาและฝึกฝนพวกเขา
ฟางหยวนบินเข้าไปในเมืองก่อนจะลงจอดบนพื้น
ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนหลายคนเร่งต้อนรับการกลับมาของเขา
พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ถูกคัดเลือกมาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและส่งมอบให้ฟางหยวน พวกเขาตั้งใจปรนิบัติฟางหยวนและหวังว่าจะได้รับคำแนะนำในการบ่มเพาะจากเขา
ฟางหยวนไม่สนใจมนุษย์ขนเหล่านี้ แต่ผู้นำกลุ่มมนุษย์ขนบอกฟางหยวนว่าเจ้าเมืองที่หกมารอพบฟางหยวนและรออยู่ในห้องรับรองนานแล้ว
เจ้าเมืองที่หกก็คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน ผมที่หก เขาเป็นผู้ดูแลเมืองเมฆาลำดับที่หก
‘เหตุใดเขาจึงมาที่นี่?’
ฟางหยวนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เขาไปที่ห้องรับรองและพบกับผมที่หก
“ข้า ผมที่หก ทักทายท่านเจ้าเมืองที่สอง ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการต่อสู้จากท่าน” ผมที่หกทักทายฟางหยวนอย่างสุภาพ
การแสดงออกของฟางหยวนไม่เปลี่ยนแต่สายตาของเขากลับเย็นเยียบ
ภายนอกผมที่หกกล่าวเสียงดังแต่เขาลอบส่งข้อมูลไปหาฟางหยวนอย่างลับๆ
“ฟางหยวน ข้าคือตัวแทนของท่านอิงอู๋เซี่ย พวกเราต้องการทำธุรกรรมกับเจ้า!”
อิงอู๋เซี่ย!
นิกายเงา!
ผมที่หกคือสายลับ!
ความคิดมากมายพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน
“พวกเราเป็นสมาชิกนิกายหลางหยาเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมากพิธี” ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มและแสดงออกอย่างอบอุ่น
เขาเชิญผมที่หกให้นั่งลงก่อนที่ตนเองจะนั่งบนเก้าอี้ของตนเอง
‘ผมที่หกเป็นสายลับ เขาเป็นสายลับคนเดียวในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหรือไม่?’
‘เขาเป็นตัวแทนของอิงอู๋เซี่ย พวกเขาต้องการทำธุรกรรมใด?’
‘เกิดสิ่งใดขึ้นกับอิงอู๋เซี่ย เหตุใดเขาจึงติดต่อข้า?’
‘นี่เป็นกับดักหรือไม่? มันเป็นแผนการตรวจสอบของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหรือไม่?’
ฟางหยวนคิดเรื่องเหล่านี้ขณะนั่งลง
ดวงตาของเขาแหลมคมเหมือนใบมีดขณะมองผมที่หกด้วยเจตนาสังหาร เขาส่งข้อความเสียงไปหาผมที่หก “ผมที่หก ช่างกล้านัก! เจ้ากล่าวความจริงหรือไม่? หากมันเป็นเรื่องจริง ข้าจะส่งเจ้าให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเพื่อให้เขาตัดสิน!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น