ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1066-1093
ตอนที่ 1066 คนที่โดนฆ่าจะต้องเป็นคนชั่ว
คุณตาเหยียนและคุณยายหยางต่างก็นิ่งตะลึงงันไป ตอนนี้พวกเขาถึงได้นึกถึงนิสัยของหลานชายคนโตขึ้นมาได้
พูดให้น่าฟังหน่อยก็เป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเอง พูดให้ไม่น่าฟังก็ยโสโอหัง เรื่องที่ตัดสินใจแล้วต่อให้เอาวัวสิบตัวมาฉุดก็ไม่อยู่ อีกทั้งเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ แต่ไหนแต่ไรมาชอบทำก่อนแล้วค่อยมาบอกทีหลัง สอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนั้นก็ไม่ใช่ว่าเป็นแบบนี้หรอกเหรอ
คุณยายหยางทำหน้าปลื้มใจ หันไปยกนิ้วโป้งให้กับเหยียนหมิงซุ่น “ดี หลานชายของฉันมีความสามารถ ไม่ว่าหลานจะทำอะไร ยายจะสนับสนุนหลานเอง!”
แน่นอนว่าความคิดในใจของคุณตาเหยียนก็เหมือนกับคุณยายหยาง พวกเขาเหมือนกันในเรื่องความรักหลานชาย เพียงแค่เขาอายที่จะพูดเรื่องพวกนี้เอง อีกทั้งเหยียนหมิงซุ่นพูดแบบนั้น ในใจของเขาก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอ
รู้สึกว่าศักดิ์ศรีของเขาในฐานะหัวหน้าครอบครัวถูกท้าทาย ดังนั้น ——
“เขาไปฆ่าคนคุณก็สนับสนุน?”
คุณตาพูดประโยคนี้ด้วยความโกรธ เพียงเพื่ออยากจะระบายความโมโหออกมา หลังจากจบพูดเขาก็เสียใจเล็กน้อย คุณยายหยางตอบด้วยความโกรธว่า “แน่นอนว่าฉันสนับสนุน คนที่หลานชายของฉันฆ่าจะต้องเป็นคนเลว มันต้องสมควรตาย!”
คุณตาเหยียนแค่นเสียงฮึที่แสนดุดันออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ตอนนี้หลานชายปีกกล้าขาแข็งแล้ว คิดว่าความคิดความอ่านของตัวเองถูกต้อง เขาคิดอยากจะเข้าไปยุ่งก็ยุ่งไม่ได้!
คุณตากลับลืมไป หลานชายคนโตของเขาเป็นคนคิดว่าความคิดของตัวเองถูกต้องมาตั้งแต่เขายังเด็ก มีครั้งไหนบ้างที่เขาจะเข้าไปยุ่งได้?
สำหรับการสนับสนุนอย่างไม่มีหลักการใด ๆ สักนิดของคุณยายหยาง ในใจของเหยียนหมิงซุ่นพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย สามปีก่อนเขาจับผิดเรื่องของแม่แท้ๆของเขาได้ มีช่วงเวลาสั้นๆที่เขาห่างเหินกับสองตายาย บวกกับเขาอยู่ข้างนอกมาเป็นเวลานาน จึงค่อยๆห่างกับสองตายายมากยิ่งขึ้น
เป็นเหมยเหมยที่พูดโน้มน้าวใจของเขา พูดว่าถึงแม้สองตายายจะทำผิดต่อแม่ของเขา แต่ก็รักเขาด้วยความจริงใจจริงๆ บุญคุณที่ได้เลี้ยงดูมายังต้องตอบแทน
อีกทั้งในใจของเขาก็มีสองตายายอยู่ ถ้าหากตอนนี้ตีตัวออกห่างจากสองตายายไป หากรอถึงวันที่คิดอยากจะตอบแทนบุญคุณแต่สองผู้เฒ่ากลับล่วงลับไปแล้ว ตอนนั้นเหยียนหมิงซุ่นคงต้องเสียใจภายหลังแน่นอน ดังนั้นเพื่อจะได้ไม่เสียใจภายหลัง เหมยเหมยก็พูดโน้มน้าวใจให้คืนดีกับสองตายาย
แน่นอนว่าคนสารเลวอย่างเหยียนโฮ่วเต๋อและถานซูฟางด้วย ตีให้ตายก็ไม่สามารถให้อภัยได้!
อันที่จริงเหยียนหมิงซุ่นคิดอยากจะพูดมาก เขาเคยฆ่าคนมาก่อนตั้งนานแล้ว แน่นอนว่าทั้งหมดต่างก็เป็นคนไม่ดี จุดนี้คุณยายของเขาพูดไม่มีผิด
คุณยายหยางจัดการคุณตาได้อยู่หมัดก็ลำพองใจมาก ถามเหยียนหมิงซุ่นอีกว่า “เมื่อไหร่หลานจะพาเหมยเหมยมาที่บ้าน อั่งเปาของยายเตรียมรอไว้นานแล้วนะ”
“ไม่รีบร้อน รอเหมยเหมยเรียนจบก่อนค่อยว่ากัน!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดจบก็มองไปทางน้องชายที่ยังกินผลเบอร์รี่ป่าอยู่ แล้วหันหลังกลับเข้าห้อง มือซุกลงไปในกระเป๋า
คุณยายหยางพอได้รับคำตอบก็สบายใจ คิดว่าจะกินผลเบอร์รี่ป่าที่ว่าที่หลานสะใภ้ในอนาคตเก็บมาให้ แต่ว่า……
บนโต๊ะกลับไม่เหลือเบอร์รี่สีแดงไว้เลยแม้แต่ลูกเดียว เหลือไว้แค่เพียงดอกเก๊กฮวยป่า
ผลเบอร์รี่สุดท้ายที่เหลือนิดหน่อยอยู่ในมือของเหยียนหมิงต๋า กำลังจะเอาเข้าปากพอดี มุมปากแดงไปหมด
“ฉันจะตีเจ้าคนน่ารังเกียจไร้คุณธรรมไร้จิตสำนึกอย่างแกให้ตาย ไม่เห็บไว้ให้ฉนกินแม่แต่ลูกเดียว คืนนี้ห้ามกินเนื้อเลยนะ!”
ความโมโหของคุณยายหยางพุ่งสูงปรี๊ดในทันที คว้าไม้เรียวที่อยู่บนโต๊ะลงมา ทั้งวันรู้จักแต่จะกิน กินจนตัวโตเป็นกระทิงแล้ว แต่สมองกลับโง่ลงทุกวัน!
เหยียนหมิงต๋าก็ไม่เบี่ยงหลบ ถึงอย่างไรแต่ไหนแต่ไรมาคุณยายก็เป็นพวกปากร้ายใจดี ตีไปก็ไม่เจ็บเลยสักนิด นุ่มนวลกว่าคุณตาเยอะ
“คุณยายไม่ต้องตีแล้ว ผมมีเรื่องจะพูด”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบรูปภาพออกมาจากกระเป๋า นั่นก็คือรูปถ่ายลามกของอู่เยวี่ยและหานป๋อหย่วน
คุณยายหยางรับรูปภาพมาอย่างงงงวย หรี่ตามองอยู่นาน จึงพูดกระซิบว่า “เป็นรูปภาพทิวทัศน์ที่วันนี้พวกเธอไปถ่ายมาหรอ? หมิงต๋าไปเอาแว่นสายตายาวมาให้ยายหน่อย มันพร่าเบลอไปหมด”
เหยียนหมิงต๋ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีพายุรุนแรงรอเขาอยู่ วิ่งเข้าบ้านไปหยิบแว่นสายตายาวสองอันอย่างมีความสุขสมองของเขาเต็มไปด้วยความสุขอย่างสุดใจ
…………………………………………..
ตอนที่ 1067 ดูรูปภาพ
คุณยายหยางใส่แว่นสายตายาว ยิ้มและเตรียมเพลิดเพลินกับภาพถ่ายทิวทัศน์ แต่แล้วหน้าก็ถอดสี มือที่ถือรูปถ่ายสั่นไม่หยุด อดกลั้นดูรูปถ่ายพวกนี้อย่างรังเกียจจนหมด
ทักษะการถ่ายภาพของเหยียนหมิงซุ่นก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ รูปภาพเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นฉากหรือว่ามุมกล้องต่างก็ยอดเยี่ยมทั้งนั้น รวมถึงท่าทางที่น่าอับอายของอู่เยวี่ยก็ถูกถ่ายชัดเจนทุกกระเบียดนิ้ว
“รีบเข้าไปในห้อง!”
คุณยายหยางดึงคุณตาเหยียนเดินเข้าไปในห้อง ดูท่าทางโมโหมาก หันไปตลวาดใส่เหยียนหมิงต๋าที่ยืนตะลึงอยู่ด้านหลัง “แกก็เข้ามาด้วย!”
เหยียนหมิงต๋าตกใจ เกาหลังศีรษะอย่างงงงวย ไม่เข้าใจว่าคุณยายของตัวเองเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก แปลกพึลึก
คุณตาเหยียนก็รู้สึกแปลกๆ พูดอย่างไม่พอใจว่า “ยายแก่คุณทำอะไร พิลึกกึกกือ”
“คุณดูพวกนี้สิ โอโห ฉันไม่มีหน้าจะดูแล้ว!”
คุณยายหยางเอารูปพวกนี้ยัดส่งให้คุณตาเหยียน สบถด่าออกมาอยู่หลายคำ คุณตารับรูปภาพไปอย่างสงสัย ดูแค่เพียงรูปเดียวก็หน้าถอดสี ดูรูปภาพทั้งหมดอย่างรวดเร็ว อายจนรีบถอดแว่นออก
“มีอย่างที่ไหนกัน มีอย่างที่ไหนกัน นี่มันไร้สาระจริงๆ……หมิงซุ่นหลานถ่ายที่ไหนน่ะ?”
แม้กระทั่งคุณตาเหยียนยังด่าไปหลายประโยค พลันนึกขึ้นมาได้ว่าภาพถ่ายที่อู่เยวี่ยไปสมสู่กับผู้ชายคนอื่นเหยียนหมิงซุ่นไปถ่ายมาได้ยังไง
“วันนี้ผมกับเหมยเหมยไปภูเขาเฟิ่งหวงซานใช่ไหมล่ะครับ บังเอิญเจอสองคนนี้ แล้วก็บังเอิญเห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็น ผมรู้สึกว่าจำเป็นต้องถ่ายเอากลับมาให้หมิงต๋าดูจะได้เลิกโง่งมอยู่อย่างนี้สักที”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้บอกว่าเป็นความคิดของเหมยเหมย คุณตามักจะพูดอยู่เสมอว่าเหมยเหมยเหลี่ยมเยอะ ไม่พูดจะดีกว่า
คุณยายหยางพงกหัวงึกๆ “ไม่ผิด ต้องถ่ายรูปไว้ ให้เจ้าโง่น่ารังเกียจนี่ดูให้เต็มตา มันเอาแต่ใส่ใจอย่างกับพระเจ้าอยู่ทุกวี่วัน เป็นคนยังไงเนี่ย!”
คุณตาก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง สายตาทั้งสามคู่มองไปที่เหยียนหมิงต๋าที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ ภายในใจหวาดกลัวไปหมด
สัญชาตญาณบอกเขาว่า ภาพถ่ายเหล่านั้นต้องเกี่ยวข้องกับอู่เยวี่ยแน่นอนและก็ไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่ต้องการจะดูรูปภาพพวกนี้ เขากลัวที่จะเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขาเองเจ็บปวดใจ!
แต่ตอนนี้เขากลับหนีหลบซ่อนมันไม่ได้แล้ว!
คุณยายหยางบิดหูของเหยียนหมิงต๋า วางรูปถ่ายไว้ตรงหน้าของเขา ดุด่าออกมาด้วยความโกรธ “เบิกตาให้กว้างๆ ดูให้ดีๆ แกกตัญญูกับมันมากกว่าคุณยายอย่างฉันเสียอีก แต่มันตอบแทนแกยังไง? นอนกับผู้ชายอื่นตั้งนานแล้ว!”
เหยียนหมิงต๋าไม่อยากดู แต่หูโดนดึงจนเจ็บ ทำให้เขาเลี่ยงที่จะดูไม่ได้ และสายตาของเขานั้นดีอย่างน่าแปลกใจ เพียงแค่มองแวบเดียวก็มองเห็นได้อย่างชัดเจนทุกรายละเอียด เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ร่างขาวนวลด้านบนสองคนนั้นทับกันเป็นก้อน และสองคนนั้นก็กำลังทำเรื่องที่ไม่สามารถพรรณนาออกมาได้ ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักผู้ชาย แต่ผู้หญิงเขากลับคุ้นเคยอย่างที่สุด
เลือดฝาดบนใบหน้าของเหยียนหมิงต๋าหายวับไปในทันที เจ็บปวดหัวใจจนไม่สามารถหายใจได้ ส่ายหัวโดยอัตโนมัติ “ไม่จริง เป็นไปไม่ได้……เยวี่ยเยวี่ยไม่ใช่คนแบบนี้……ผมไม่เชื่อ……ไม่เชื่อ!”
คุณยายหยางโมโหจนถึงขีดสุด ฟาดแรงอยู่หลายที ครั้งนี้เธอตีด้วยความโมโหอารมณ์ร้อน ตบเข้าไปที่หน้าของเหยียนหมิงต๋าอย่างจัง บนใบหน้าปรากฏรอยนิ้วมือออกมาให้เห็น
“พี่ใหญ่ของแกเห็นเองกับตาจะไม่จริงได้ยังไง? แกยังจะดื้อดึงไม่ยอมรับไปถึงเมื่อไหร่? หมิงต๋าแกทำยายผิดหวังมากเกินไปแล้ว!”
คุณยายหยางเคียดแค้นชิงชังที่สุด สีหน้าดูไม่ได้เป็นอย่างมาก เหยียนหมิงซุ่นรีบไปที่ลิ้นชักหยิบยาลดความดันออกมา ให้คุณยายกินลงไป
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกห้ามไปมาหาสู่กับอู่เยวี่ยอีก พวกเราตระกูลเหยียนเป็นตระกูลที่ขาวสะอาดบริสุทธิ์ จะไม่ให้ผู้หญิงประเภทที่ไม่สะอาดบริสุทธิ์แบบนี้เข้าประตูมาหรอกนะ แกตัดใจเสียเถอะ!” คุณตาเหยียนตวาดอย่างเกรี้ยวกราด
เหยียนหมิงต๋ากระตุกมุมปาก ปรากฎรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมาเบาๆ แล้วก็หายวับไป
ตอนที่ 1068 ชะตากรรมอันเลวร้าย
เหยียนหมิงต๋างุดหน้าลงด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว หัวสมองของเขาฟุ้งซ่านไปหมด คุณตาเหยียยพูดอะไรออกมา เขาไม่ได้ยินเลยสักคำ ตอนนี้เขาคิดแค่เพียงจะไปหาอู่เยวี่ย ถามเธอว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น!”
“ผมจะไปหาเยวี่ยเยวี่ย ผมอยากจะถามเธอ……”
อยู่ดี ๆ เหยียนหมิงต๋าก็วิ่งออกไปด้านนอกด้วยความเร็วสูง ผู้เฒ่าทั้งสองคนรู้สึกตัวเหยียนหมิงต๋าก็ไปถึงลานบ้านแล้ว
“ห้ามไป! แกนี่มันช่างน่าผิดหวังจริงๆ!” คุณยายหยางผิดหวังเป็นอย่างมาก นี่อยากจะรนหาที่ตายจริงๆใช่ไหม?
ชั่วพริบตาเดียวร่างของเหยียนหมิงซุ่นก็ตามหลังของเหยียนหมิงต๋า ฉวยโอกาสที่ไม่ทันตั้งตัวเหวี่ยงฝ่ามือลงไป เหยียนหมิงต๋าก็ตาเหลือกสลบล้มไปในอ้อมกอดของเหยียนหมิงซุ่น
“ไม่เป็นไร เพียงแค่หมดสติไปก็เท่านั้นเอง”
เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบใจคุณยายหยางที่กำลังอกสั่นขวัญเสีย เธอผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ทั้งโมโหทั้งจนใจ และยังเจ็บปวดด้วย
“มารหัวขนจริงๆ……ทำไมถึงได้คลอดลูกที่เลวขนาดนี้ออกมาได้นะ!” คุณยายหยางส่ายหัวถอนหายใจ แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ดูแก่ไปเยอะ
สีหน้าของคุณตาเหยียยก็ดูไม่ได้เป็นอย่างมาก เขาครุ่นคิดอยู่นาน ก็กัดฟันพูดว่า “หมิงซุ่น ให้เหยียนหมิงต๋าไปเป็นทหารปีนี้เลย!”
แทนที่จะปล่อยให้หลานชายคนเล็กถูกทำลายด้วยเงื้อมือของผู้หญิง สู้ไปฝึกฝนที่กองกำลังทหารยังจะดีกว่า บางทีอาจจะมีอนาคตได้บ้าง
นับว่าเขาดูออกแล้ว เหยียนหมิงต๋าเป็นคนที่หัวรั้น ไม่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือของอู่เยวี่ยได้โดยสิ้นเชิง คุณตาเหยียนเพียงแต่รู้สึกเยาะเย้ย ลูกชายที่เขาให้กำเนิดนั้นโหดเหี้ยมและไม่ชอบธรรม แต่หลานชายทั้งสองต่างกลับเป็นพวกลุ่มหลงในความรัก
คนโตชอบจ้าวเหมยก็ช่างเถอะ นอกจากจะดูเย่อหยิ่งอวดดีไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อู่เยวี่ยผู้หญิงแบบนี้ เขาจะเห็นด้วยได้ยังไง?
ต่อให้ชั่วชีวิตนี้เหยียนหมิงต๋าไม่แต่งงาน ก็ดีกว่าแต่งกับผู้หญิงที่นำมาซึ่งหายนะอย่างอู่เยวี่ย!
คุณยายหยางถามอย่างตื่นตระหนก “ถึงอย่างไรก็ต้องให้เหยียนหมิงต๋าได้วุฒิมัธยมปลายใช่ไหม?
คุณตาเหยียนถามกลับ “สภาพเขาแบบนี้จะสามารถเรียนจบได้อย่างราบรื่น? หัวใจของมันทั้งดวงอยู่ที่อู่เยวี่ยหมดแล้ว ถึงอย่างไรกองทหารก็ไม่ได้ดูวุฒิอยู่แล้ว ก็ให้มันไปอยู่ที่กองทหารนั่นแหละ ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่ามันจะยังเจอกับอู่เยวี่ยได้ยังไง!”
คุณยายหยางยังไม่ค่อยเต็มใจ หลานชายคนโตก็ไปเป็นทหารแล้ว ให้หลานชายคนเล็กไปเป็นทหารอีก เธอจะตัดใจลงได้ยังไง!
“หมิงต๋าคงไม่สติเลอะเลือนขนาดนั้นหรอก อู่เยวี่ยเป็นแบบนั้นแล้ว หมิงต๋าจะยัง……”
คุณตาเหยียนพูดขัดเธอขึ้นมา ตำหนิว่า “ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้น เอาตามนี้แหละ พรุ่งนี้ฉันจะไปลงชื่อสมัครให้เหยียนหมิงต๋าที่กองกำลังทหาร”
อย่ามองว่าในเวลาปกติคุณยายหยางมักจะตวาดใส่คุณตา แต่พอเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น คนที่รับผิดชอบตัดสินใจกลับเป็นคุณตาเหยียน ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาโต้แย้งแน่นอน
แม้กระทั่งเหยียนโฮ่วเต๋อก็ยังไม่กล้า นอกจากเหยียนหมิงซุ่น
“ต้องบอกกับโฮ่วเต๋อสักหน่อยไหม?” คุณยายหยางถอนหายใจ ในใจร้อนรุ่ม ในบ้านทำไมถึงได้ไม่สุขสงบสักที!
หรือว่านี่คือกรรมตามสนอง?
ปีนั้นเหยียนโฮ่วเต๋อและถานซูฟางทำผิดต่อลูกสะใภ้ของเธอ ดังนั้นพระเจ้าก็เลยให้อู่เยวี่ยมาทำให้หลานชายของเธอเจ็บปวดทุกข์ทรมาน กงกรรมกงเกวียน ช่างเป็นชะตากรรมอันเลวร้ายจริงๆ!
คุณตาเหยียนแค่นเสียงฮึ ตั้งแต่ที่เหยียนหมิงซุ่นเปิดเผยเรื่องพวกนั้นออกมาเมื่อสามปีก่อน เขาก็ไม่ได้ไปมาหาสู่ลูกชายสักเท่าไร มักจะรู้สึกว่าหากมีความสัมพันธ์ดีกับลูกชายก็จะรู้สึกผิดต่อลูกสะใภ้ใหญ่
“รอฉันสมัครเสร็จก็ค่อยโทรศัพท์ไปบอกแล้วกัน”
คุณยายหยางพูดอย่างระแวงเสียงเบาว่า “ถานซูฟางจะต้องคิดก่อเรื่องอีกแน่นอน!”
“เขากล้าก่อเรื่อง? ถ้าก่อเรื่องอีกก็ไล่ออกจากตระกูลเหยียนไป หมิงต๋าแซ่เหยียน เป็นหลานชายของฉัน ฉันจะจัดการไม่ได้เหรอ!”
คุณตาเหยียนตะคอกออกมาเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้าง คุณยายหยางรีบปิดปากไม่พูดยั่วยุอะไรให้คุณตาโมโหอีก
เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจว่าน้องชายของเขาจะเข้าร่วมกองทหารในปีนี้หรือปีหน้า คุณตาพูดไม่ผิด ผลการเรียนแย่ๆของเหยียนหมิงต๋าแบบนั้น เรียนหรือไม่เรียนก็ไม่ต่างกัน ไปเรียนรู้ในกองทัพอาจจะเรียนรู้อะไรได้มากกว่า
ครั้งนี้คุณตาของเขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด เพียงแค่หวังว่าเขาจะอดทนต่อไปได้ ถานซูฟางผู้หญิงคนนั้น ต้องการให้ลูกชายเป็นข้าราชการเพื่อความก้าวหน้า จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะตกลงให้เหยียนหมิงต๋าไปเป็นทหารชั้นน้อยในกองทัพ?
โชคดีที่เขาจะไปหมู่บ้านตระกูลโม่ในช่วงบ่าย ไม่ต้องมาเจออะไรรกหูรกตา ไม่ต้องมาสนใจเรื่องเน่า ๆ พวกนี้!
………………………………………….
ตอนที่ 1069 รักทำให้ตาบอด
เหยียนหมิงซุ่นอยู่ที่หมู่บ้านสองวันก็กลับมา เอาของกินมาให้ครอบครัวเหมยเหมยหนึ่งคันรถ หอย ปลาน้ำจืด ปลาหนีชิว ปลาไหล ถั่วสดใหม่ มันหวาน เป็นต้น ล้วนเป็นสินค้าเฉพาะท้องถิ่นทั้งหมด เต็มคันรถไปหมด
“หมิงซุ่นทำไมถึงได้เอามาเยอะขนาดนี้? ไม่อย่างนั้นเอาพวกนี้……”
เหยียนซินหย่าพูดอย่างเกรงใจ เหมยเหมยดึงแขนเสื้อเธอเอาไว้ พูดตัดบทเสียงดังว่า “เยอะที่ไหน พวกนี้ยังไม่พอกินด้วยซ้ำ!”
เมื่อกี้เหยียนซินหย่าก็แค่โต้ตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ คิดอยากจะเหลือให้ผู้เฒ่าตระกูลเหยียนทั้งสองไว้บ้าง ลูกสาวตั้งใจตัดบท เธอก็รู้อย่างรวดเร็วว่าตัวเองพูดผิดแล้วก็พลันหงุดหงิดตัวเองไม่หาย
ยิ่งนานเธอยิ่งเลอะเลือนเสียจริง ๆ รู้อยู่เต็มอกว่าครอบครัวของแม่และครอบครัวตระกูลเหยียนเป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตกัน เธอก็ยังพูดคำพูดพวกนั้นอีก นี่มันคือการทำให้เหยียนหมิงซุ่นลำบากใจไม่ใช่เหรอ!
“หมิงซุ่นตอนเย็นกินข้าวบ้านฉันนะ เหมยเหมย ลูกไปดูทีวีเป็นเพื่อนหมิงซุ่นเถอะ แม่จะไปทำกับข้าว”
เหยียนซินหย่าทักอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ปฏิเสธ กินข้าวที่บ้านตระกูลจ้าวก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย ตอนเย็นก็มักจะมากินข้าวอยู่เสมอ สบายใจเป็นอิสระมากกว่าบ้านตัวเองเยอะ!
“น้าเหยียน ผมไปฆ่าปลาและก็พวกปลาไหลนะครับ แล้วก็จะตัดก้นหอยออก เหมยเหมยเธอชอบกินหอย”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบกรรไกรแล้วเดินไปลานบ้านเพื่อฆ่าปลาด้วยตัวเอง ต้นองุ่นที่ปลูกเมื่อห้าปีที่แล้วกิ่งก้านใบงอกงามเขียวชอุ่ม แถมยังเต็มไปด้วยพวงองุ่น เลขาโจวทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก องุ่นที่ให้คนปลูกเป็นพันธุ์ที่ได้รับการตัดแต่งอย่างดี รสชาติหวานเป็นพิเศษ
เหยียนซินหย่าก็ไม่เกรงใจอะไรกับเขาอีก ในใจของเธอถือว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นลูกเขยแล้ว มีอะไรที่ยังต้องเกรงใจกันอีก
และสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดคือ เหยียนหมิงซุ่นวางเหมยเหมยไว้เป็นอันดับแรกเสมอ ทุกเรื่องก็จะนึกถึงลูกสาวของเธอ ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายเพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่อบงการหัวใจของผู้ชายหรอกหรอ?
เหมยเหมยไปกับเหยียนหมิงซุ่น เพียงแต่ขยับปากไม่ขยับมือ ปากเล็กพูดจุ๊บๆจิ๊บๆ เหมือนกับนกกระจิบนกกระจาบยังไงอย่างนั้น
“เหยียนหมิงต๋าเห็นรูปภาพแล้วมีปฏิกิริยาเป็นยังไงบ้าง?”
เหมยเหมยไต่ถามเสียงเบา อยากจะรู้ปฏิกิริยาของเหยียนหมิงต๋ามากๆ ตอนนี้คงไม่เหมือนกับชาติที่แล้วแบบนั้นที่จะเป็นจะตายเพราะอู่เยวี่ยแล้วล่ะมั้ง!
“จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมเชื่อ โง่จริงๆ”
เหยียนหมิงซุ่นตัดหัวปลาไหลออกด้วยกรรไกร ในดวงตามีความเย็นชาพาดผ่านออกมา
เหยียนหมิงซุ่นกลับไปที่บ้านตระกูลเหยียนก่อน คุณตาคุณยายบอกกับเขาว่า สองวันมานี้เหยียนหมิงต๋าจะต้องไปหาอู่เยวี่ยแน่ เพราะว่าไอโง่นี่กลับมาก็พูดว่าอู่เยวี่ยโดนคนข่มเหงรังแกโดยไม่ได้เต็มใจ ทำเอาคนแก่ทั้งสองโมโหเกือบจะเป็นลม
เห็นได้จากจุดนี้ว่า อู่เยวี่ยมีอิทธิพลต่อเหยียนหมิงต๋าอย่างลึกซึ้ง!
ปิดตาและหูของเขา ทำให้เขากลายเป็นคนตาบอดและหูหนวก ทำให้เขาหลงใหล กลายเป็นหุ่นเชิดในเงื้อมมือของอู่เยวี่ย
“เหยียนหมิงต๋าเจ้าหน้าโง่หัวสมองหมู โมโหจะตายอยู่แล้ว!”
เหมยเหมยฉันอยากจะสาดน้ำแข็งเพื่อดึงสติเหยียนหมิงต๋าจริงๆ ถูกถ่ายภาพจัง ๆ ขนาดนั้นแล้ว เจ้าหมอนี่ก็ยังไม่เชื่อ สมน้ำหน้าที่ชาติที่แล้วมีเขางอกอยู่บนหัว
เหยียนหมิงซุ่นฆ่าปลาเสร็จหมดแล้ว ก็เริ่มขอดเกล็ดปลาออก เสียงขอดเกล็ดปลาดังขึ้นไม่หยุด
“ฤดูใบไม้ร่วงนี้จะส่งหมิงต๋าไปที่กองทัพ ฉันจะให้คนไปเฝ้าไว้”
เหมยเหมยพยักหน้าไม่หยุด “ใช่ ขังเขาเอาไว้ ดูสิจะยังทำตัวติดหนึบกับอู่เยวี่ยได้ยังไงอีก”
เหยียนหมิงซุ่นเอาปลาที่ฆ่าเสร็จแล้วมาล้างให้สะอาด วางไว้ในกะละมัง ให้เหมยเหมยเอาไปไว้ในห้องครัว เขาตัดก้นหอยต่อ ส่วนพวกเครื่องใน อีกเดี๋ยวเอาไปฝังไว้ใต้ต้นองุ่น ทำเป็นปุ๋ย
เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เหมยเหมยที่ออกมาพร้อมกับที่ตักขยะรีบไปเปิดประตู เห็นคนนอกประตูก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
คนที่มาคือหานป๋อหย่วนและอยู่กับจ้าวอิงหัว เธอไม่อยากจะเปิดประตูก็ไม่ได้
ตอนที่ 1070 เหยียนหมิงซุ่นที่ทำตัวเหมือนเจ้าของบ้าน
หานป๋อหย่วนถือถุงตาข่ายผลไม้ และยังมีติ่มซำของกวานเซิงหยวนอีกสองกล่อง เสื้อเชิ้ตสีฟ้าและกางเกงขายาวสีเทาอ่อน แว่นตาขอบทอง แต่งตัวดูดี มีทุนในการดึงดูดผู้หญิงเสียจริง
เมื่อเห็นเขาเหมยเหมยเหลือบลงไปมองตรงนั้นโดยไม่รู้ตัว ก็แค่อันเท่าไส้กรอก เจ้าหมอนี่ไปเอาความมั่นใจในตัวเองมาจากไหน?
ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่เธอไม่สามารถขังพ่อของตัวเองอยู่ด้านนอกประตูได้ เห็นทีคืนนี้ต้องทำการสั่งสอนจ้าวอิงหัวเสียใหม่ วันหลังอย่าได้พาแมวหรือหมากลับมาบ้านอีก
“พ่อคะ พ่อกลับมายังจะกดกริ่งทำไม? พ่อไม่ใช่ว่ามีกุญแจหรอกหรอ?”
เหมยเหมยเปิดประตู แล้วก็ไม่ได้มองหานป๋อหย่วน เพียงแค่จ้องเขม็งใส่จ้าวอิงหัวอย่างหัวเสีย
จ้าวอิงหัวยิ้มรับแล้วอธิบายว่า “เมื่อเช้ารีบออกจากบ้านน่ะ ก็เลยลืมหยิบไปด้วย!”
หานป๋อหย่วนมองผู้นำของเมืองจินที่ทำตัวนอบน้อมสารภาพต่อหน้าจ้าวเหมยอย่างแปลกใจ ไหนเลยจะยังมีท่าทางเกรงขามเหมือนเมื่อครู่ที่อยู่ต่อหน้าเขาอยู่อีก ดูแล้วจ้าวเหมยคงเป็นแก้วตาดวงใจของจ้าวอิงหัวจริงๆ!
เหมยเหมยตั้งใจโมโหใส่จ้าวอิงหัว “ครั้งหน้าถ้ายังลืมอีกก็จะปิดประตูล็อกพ่ออยู่ข้างนอกนั้นแหละ เชอะ!”
จ้าวอิงหัวเห็นท่าทางของเหมยเหมย ก็รู้ว่าลูกสาวโมโหจริงๆ อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า แค่ไม่พกกุญแจแค่นี้เหมยเหมยถึงกับโมโหเลยหรอ!
จะต้องมีเหตุผลอื่นแน่นอน จ้าวอิงหัวถือว่าเข้าใจลูกสาวของตัวอยู่พอสมควร พอเห็นตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เหมยเหมยไม่มองไปทางหานป๋อหย่วนเลยสักนิด ก็นึกออกในทันทีเหตุผลที่ลูกสาวโมโหเขาก็คือเขาพาเจ้าหมอนี่กลับมาด้วย!
จ้าวอิงหัวรีบเข้าหาเหมยเหมยและกระซิบเสียงเบาว่า “ลูกสาวพ่อไม่ต้องโมโหนะ วันหลังพ่อจะไม่พาเขากลับมาอีกแน่นอน วันนี้เด็กคนนี้ขวางทางพ่อไว้ มันคงไม่ดี พ่อก็ไม่กล้าปฏิเสธคนอื่นต่อหน้าเลขาโจว!”
เหมยเหมยกัดฟันกรอดพูดว่า “อีกครู่หนูจะไปบอกแม่ว่าให้แม่ลงโทษพ่อคุกเข่าบนกระดานซักผ้าตอนกลางคืน!”
จ้าวอิงหัว:……
เขาหันไปจ้องหานป๋อหย่วนเขม็ง พูดออกมาอย่างจริงใจในทันทีว่า “ถ้าอย่างนั้นพ่อจะรีบไปไล่เจ้าหมอนั่นไป”
เหมยเหมยกรอกตามองบนใส่ “พ่อ อย่างน้อยพ่อก็เป็นถึงผู้นำ ใช้สมองหน่อยได้ไหม เข้าประตูมาแล้วยังจะไล่ไปอีก คนแถวนี้จะเอาไปพูดยังไง พ่อต้องรักษาชื่อเสียงของแม่ไว้บ้างเถอะ!”
อย่าคิดว่าสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเมืองจินจะเป็นกันได้ง่ายๆ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่ามีกี่ตาที่คอยจับจ้องอยู่!
เหยียนซินหย่าต้องระมัดระวังและรอบคอบในทุกการเคลื่อนไหว จะพูดจาพล่อย ๆ ออกไปไม่ได้ กิริยาต้องสำรวม มิฉะนั้นจะมีผู้ที่ปองร้ายเอาสิ่งเหล่านี้ไปซุบซิบให้เป็นเรื่องได้ เป็นอาชีพที่ไม่น่าพึงประสงค์จริงๆ
จ้าวอิงหัวยิ้มเอาใจ ไม่กล้าพูดอะไรที่จะทำให้ลูกสาวโมโหอีก ตัดสินใจแน่วแน่ว่าหลังจากมื้อเย็นจะไล่หานป๋อหย่วนไปทันที
หานป๋อหย่วนไม่ได้สนใจบทสนทนาของพ่อลูกจ้าวอิงหัว ความสนใจของเขาถูกดึงดูดโดยชายที่กำลังนั่งยองๆอยู่ใต้ต้นองุ่น รูม่านตาหดตัวในทันที
ทำไมเหยียนหมิงซุ่นก็อยู่ที่นี่?
อีกทั้งดูท่าทางแล้วเหมือนว่าจะคุ้นเคยสนิทสนมกับครอบครัวตระกูลจ้าวเป็นอย่างมากอีกด้วย
หรือว่าจ้าวอิงหัวจะยอมรับความสัมพันธ์ของเหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยแล้ว?
หายป๋อหย่วนมีการคาดเดาที่ไม่ค่อยดี เขาหวังว่าการคาดเดาของตัวเองจะผิด แต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้เขาจนปัญญาที่ปฏิเสธการคาดเดาของตัวเอง ผ่านจนเข้ามาถึงด่านนี้ได้แล้ว ต่อให้ยังไม่ยอมรับแต่ก็เกรงว่าคงอีกไม่นานหรอก
เหยียนซินหย่าเห็นหานป๋อหย่วนก็เกิดอาการตกตะลึง เธอลอบจ้องเขม็งไปที่จ้าวอิงหัว ดูเย็นยะเยือกดุดันกว่าเหมยเหมยเล็กน้อย คำพูดที่ดูสุภาพเกรงใจ แต่รอยยิ้มที่ประทับบนใบหน้าดูเสแสร้ง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการเผชิญหน้ากับเหยียนหมิงซุ่น รอยยิ้มเหมือนดอกไม้เบ่งบาน
หานป๋อหย่วนรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่แววเดียวก็สังเกตเห็นถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับเหยียนหมิงซุ่น เขาเป็นแค่แขกที่มาเยือน แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับทำตัวเหมือนเจ้าของบ้าน นี่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ
มื้อเย็นจบลงอย่างรวดเร็ว เหมยเหมยไม่พูดกับหานป๋อหย่วนแม้แต่คำเดียว มีการสนทนาแต่กับเหยียนหมิงซุ่นเท่านั้น
ในใจของหานป๋อหย่วนมีคลื่นของความหึงหวงทะลักเข้ามา มื้อเย็นกินอะไรบ้างก็ไม่รู้ ไร้รสชาติไปหมด
…………………………………………..
ตอนที่ 1071 เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริง
แม้ว่าจะรู้สึกได้ถึงความเฉยเมยของครอบครัวตระกูลจ้าว แต่เขากลับไม่ได้ลุกออกไปหลังจากกินข้าวเสร็จ แต่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟาอย่างหน้าด้านๆ ดูท่าทางแล้วเหมือนว่าจะตั้งใจพูดคุยอีกสักหน่อย
หานป๋อหย่วนนั่งอยู่ทางด้านขวาของเหมยเหมย เขายังไม่ทันได้เปิดปากพูด เหมยเหมยก็ลุกไปอยู่ทางด้านซ้ายของเหยียนหมิงซุ่น คนอย่างหานป๋อหย่วนแค่อยู่ร่วมห้องเดียวกันยังรู้สึกเอียนไปหมดแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนั่งด้วยกันเลย
มื้อเย็นก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ได้กินอะไรเท่าไร ความอยากอาหารมันไม่มี
ดวงตาของหานป๋อหย่วนปรากฏความเคร่งขรึมออกมา กำหมัดแน่น ราวกับเป็นคนเก็บกดเสียอย่างนั้น
จ้าวเหมยเธอก็ช่างมองว่าตัวเองสูงส่งเกินไปแล้ว!
ใจที่อยากได้เหมยเหมยของหานป๋อหย่วนก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ต่อให้ต้องส่งให้เฮ่อเหลียนเช่อ เขาจะต้องได้ลิ้มลองความสดใหม่ก่อนให้ได้ ถึงอย่างไรจ้าวเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นก็ทำอะไรต่อมิอะไรกันไปแล้ว คงจะบานนานแล้วล่ะ เขาจะร่วมหลับนอนด้วยหรือไม่ก็ไม่มีผลกระทบอะไร
เขาไม่เชื่อว่าเหยียนหมิงซุ่นจะยังไม่ทำอะไรเหมยเหมยแล้วรอจนถึงตอนนี้แน่นอน ผู้หญิงที่งดงามผิวพรรณขาวนวลขนาดนี้ ใกล้ชิดสนิทสนมกันขนาดนั้น ตราบใดที่เขายังเป็นผู้ชายเขาทนได้อย่างไร ยกเว้นแต่เขาจะไม่ใช่ผู้ชาย
หานป๋อหย่วนจ้องมองไปทางเหมยเหมยที่ซุบซิบพูดคุยอยู่กับเหยียนหมิงซุ่น คนสวยยามที่อยู่ใต้แสงไฟ ช่างมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ ในใจของหานป๋อหย่วนรู้สึกคันยุบยิบไปหมด ปรารถนาที่จะเอามาไว้ในเงื้อมมือในตอนนี้เลย!
สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวและเหมยเหมยต่างก็ไม่ได้สนใจอะไรหานป๋อหย่วน เขานั่งไปก็ไม่มีความหมายอะไร จึงใจขอตัวกลับ
“เหมยเหมย วันหยุดนี้พี่จัดงานวันเกิด ถึงตอนนั้นให้เกียรติมาร่วมงานด้วยนะ!”
หานป๋อหย่วนเอ่ยชักชวนอีกครั้งด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลอ่อนโยน
เหมยเหมยขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจว่า “ฉันไม่มีเวลาไป อวยพรวันเกิดพี่ล่วงหน้าก็แล้วกัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหานป๋อหย่วนไม่เปลี่ยน แต่กำหมัดแน่นขึ้นอีก เขายักไหล่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “น่าเสียดาย ถ้าหากถึงเวลานั้นเหมยเหมยมีเวลาต้องมาร่วมงานนะ!”
เหมยเหมยตอบรับไปส่ง ๆ ต่อให้วันนั้นเธอจะนอนหลับอยู่บ้านเฉยๆ ก็จะไม่มีทางร่วมงานวันเกิดของหานป๋อหย่วนแน่นอน
หานป๋อหย่วนกล่าวร่ำลาอย่างมีมารยาท ไม่มีการพูดถึงหานซู่ฉินเลยแม้แต่คำเดียว และประพฤติตัวอย่างสุภาพเสมอ เหยียนซินหย่าใจอ่อน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหน่อย
ส่งหานป๋อหย่วนกลับมา เหยียนซินหย่าก็พูดว่า อันที่จริงแม่รู้สึกว่าหานป๋อหย่วนคนนี้ก็ไม่เลว เพียงแต่เสียดายที่ป้าของเขาคือหานซู่ฉิน……เฮ้อ!”
เหมยเหมยได้ยินก็รู้ว่าแม่ของเธอรูปลักษณ์เปลือกนอกที่เป็นปัญญาชนของหานป๋อหย่วนหลอกเอาเสียแลัว อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม่คะ บางคนรู้หน้าไม่รู้ใจ แม่อย่าไปโดนหานป๋อหย่วนมันหลอกเอาได้สิคะ”
เหยียนหมิงซุ่นส่งสายตาให้เธอ บอกให้เธอสงบสติอารมณ์ เหมยเหมยหุบปากลงอย่างเชื่อฟัง
“คุณอาจ้าว ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณอา ไปห้องสมุดกันเถอะครับ!”
เหยียนหมิงซุ่นและจ้าวอิงหัวไปห้องสมุดเพื่อคุยงานราชการ เหมยเหมยหยิบรูปภาพโป๊เปลือยออกมาจากในกระเป๋า ซึ่งมีเพียงสองรูปนี้ เธอเองที่แอบเก็บเอาไว้ล่วงหน้า เดิมทีตั้งใจไว้แล้วว่าจะเอากลับมาให้พ่อแม่ดู
“แม่ดูสิว่าหานป๋อหย่วนคนนี้แท้ที่จริงแล้วเป็นคนยังไง”
สายตาของเหยียนซินหย่าดีมาก เพียงแค่มองแวบเดียวก็เห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีท่าทีแน่นิ่ง จิตรกรก็เหมือนหมอ ในสายตาของพวกเขาสวมเสื้อผ้าหรือไม่ได้สวมเสื้อผ้า อันที่จริงไม่มีความแตกต่างอะไรมากมายนัก
“อู่เยวี่ยคือคนรักของหานป๋อหย่วน?” เหยียนซินหย่าด้วยอาการตื่นตะลึง
เหมยเหมยกรอกตามองบน “คนรักสามารถมีอะไรกันกลางวันแสกๆบนเนินเขาได้เหรอคะ? เห็นได้ชัดว่าหานป๋อหย่วนปฏิบัติต่ออู่เยวี่ยในฐานะผู้หญิงซื้อกิน ไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด แม่หนูบอกแม่เลยนะ หานป๋อหย่วนเจ้าหมอนี้หลอกล่อเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงในโรงเรียนไปทำเรื่องอย่างว่าตั้งหลายคน ชีวิตส่วนตัวเหมือนผู้ชายเพลย์ยอล ไม่ใช่คนดีเด่อะไรเลย”
เหยียนซินหย่าสบถด่าออกมา ความประทับใจที่มีต่อหานป๋อหย่วนร่วงดิ่งลง
ตอนที่ 1072 วิชาสุขศึกษา
“เหมยเหมยวันหลังลูกอย่าไปสนใจหานป๋อหย่วนนะ เชอะ หานซู่ฉินตัวดี ใจดำชะมัด!”
เพียงแค่เหยียนซินหย่านึกถึงหานซู่ฉินที่อยู่ต่อหน้าเธอเมื่อก่อน คุยโวว่าหลานชายของเธอดีแค่ไหน ยังบอกอีกด้วยว่าหานป๋อหย่วนเป็นคนใสซื่อ เขินเวลาจับมือสาวๆ……ถุย!
พูดจามั่วซั่ว!
“หนูรู้ หนูรำคาญคนแซ่หานจนจะทนไม่ไหวแล้ว!” เหมยเหมยเปลี่ยนท่าทีตอบรับไปส่งๆ หานป๋อหย่วนไม่ใช่แม้แต่เพื่อนของเธอ จะหลีกเลี่ยงได้ไกลแค่ไหนก็ได้อยู่แล้ว ทางที่ดีที่สุดไม่ควรเกี่ยวข้องกันไปอีกเลยสิบชาติจะดีกว่า
เหยียนซินหย่ามองดูรูปภาพอีกครั้ง ส่งเสียงยิ้มเยาะออกมา ยิ่งรู้สึกดูถูกอู่เยวี่ยเข้าไปอีก
ช่างเหมาะที่จะเป็นลูกที่เหอปี้อวิ๋นให้กำเนิดมาจริงๆ ลดคุณค่าตัวเอง ตอนนี้ยิ่งหน้าไม่อาย ยอมที่จะมีอะไรกับผู้ชายในสภาพแวดล้อมแบบนั้น!
เป็นผู้หญิงที่แม้กระทั่งไม่ให้คุณค่ากับตัวเอง ผู้ชายจะให้เกียรติเธอได้ยังไง?
เหยียนซินหย่าโยนรูปถ่ายลงบนโต๊ะน้ำชา มองไปที่เหมยเหมยด้วยความโล่งใจ ลูกสาวของเธอทั้งสวยทั้งรู้จักคิด แข็งแกร่งกว่าเหอปี้อวิ๋นหลายพันเท่า
“เหมยเหมยวันหลังลูกจะต้องให้ความสำคัญตัวเองรักตัวเองให้มาก ๆ ห้ามดูถูกตัวเองเหยียบย่ำตัวเองเหมือนอู่เยวี่ยแบบนี้ เข้าใจไหม?” เหยียนซินหย่าพูดประโยคที่มีความหมายสองแง่ และตั้งใจสังเกตท่าทางความเปลี่ยนแปลงของเหมยเหมย
เมื่อก่อนลูกสาวอายุยังน้อย อยู่ด้วยกันกับเหยียนหมิงซุ่นเธอก็ไม่ได้กังวลอะไร แต่ตอนนี้ลูกสาวของเธอมีเสน่ห์ดึงดูดคนได้แล้ว สวยกว่าตอนเด็กอยู่มาก เหยียนหมิงซุ่นเป็นหนุ่มวัยรุ่นเลือดร้อน สามารถอดทนได้สิถึงจะแปลก
นี่ถึงได้ต้องการให้เหมยเหมยรู้จักรักนวลสงวนตัว ดังนั้นเธอถึงได้พูดแบบนี้ไป
เหมยเหมยฟังออกถึงความหมายของคำพูดของเหยียนซินหย่า หน้าก็แดงก่ำไม่หยุด มุดหัวลงอย่างเขินอาย
“พี่หมิงซุ่นไม่ใช่หานป๋อหย่วน เขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”
เสียงบางเบาราวกับยุง เหยียนซินหย่ากดทีวีเพื่อเบาเสียง ถึงจะฟังเข้าใจ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังเตือนสติไปคำสองคำ สรุปแล้วก็คือให้เหมยเหมยปกป้องรักษาเอาไว้ให้ดี ห้ามชิงสุกก่อนห่าม
เหมยเหมยเขินจนหน้าแดงซ่าน ไหนเลยจะรู้ว่าแค่รูปภาพโป๊เปลือยเพียงแค่สองรูป จะกระตุ้นให้แม่ของเธอสอนวิชาสุขศึกษาได้
พูดถึงเรื่องแบบนี้กับแม่ของตัวเอง ช่างน่าเขินอายจริงๆ!
เหยียนหมิงซุ่นกับจ้าวอิงหัวที่อยู่ในห้องสมุดก็เริ่มพูดถึงประเด็นเรื่องพรหมจรรย์ จ้าวอิงหัวถลึงตาจ้องมอง พูดน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้านายกล้าแตะลูกสาวของฉันแม้แต่นิ้วเดียวล่ะก็ ฉันจัดการนายเสียคอยดูสิ!”
“คุณจะจัดการผมอย่างไร?”
เหยียนหมิงซุ่นเพียงแค่ตบโต๊ะเสียงเบา โต๊ะหนังสือก็กลายเป็นห้าส่วน เขามองจ้าวอิงหัวที่สะดุ้งตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตามีความขบขันแฝงอยู่
จ้าวอิงหัวหยิบเศษเสี้ยวของโต๊ะหนังสือที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เศาแหลมคมของมันวาววับ แม้กระทั่งเสี้ยนไม้ก็ไม่มี ใจเต้นแล้วเต้นอีก มือก็สั่นแล้วสั่นอีก ถอยหลังกลับไปอย่างไม่ตั้งใจหลายก้าว จ้องมองมือเรียวยาวของเหยียนหมิงซุ่นอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ในกองทหารนายเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ?” ถึงแม้ว่าจ้าวอิงหัวจะไม่ได้สมัครเป็นทหาร แต่ก็เข้าใจเรื่องราวของกองทัพทหารพอสมควร
เหยียนหมิงซุ่นพงกหัวเบาๆ
จ้าวอิงหัวสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ชื่นชมเหยียนหมิงซุ่นมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาก็คือ ——
“ทหารหน่วยรบพิเศษไม่ดี หากทำไม่ดีก็จบเห่แล้ว ฉันไม่หวังให้ลูกสาวเป็นม่ายในอนาคตหรอกนะ” จ้าวอิงหัวส่ายหัวไปมาไม่หยุด
เดิมทีที่เหยียนหมิงซุ่นไปเป็นทหารเขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าภรรยาของทหารนั้นทุกข์ทรมานแค่ไหน แต่ลูกสาวเขาชอบเจ้าหมอนี่เท่านั้น เขาจึงทำได้แค่เพียงเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ
แต่ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนความคิดอีกครั้ง ภรรยาของทหารนั้นต้องทุกข์ทรมาน แต่ภรรยาของทหารหน่วยรบพิเศษนั้นยิ่งขมขื่นยิ่งกว่า เขาจะตัดใจลงได้เช่นไร!
เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงต่ำว่า “ผมมีชีวิตยืนยาวมากกว่าคุณแน่นอน อายุจะยืนยาวเป็นร้อยปีเลย!”
จ้าวอิงหัวถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด กลับไปที่หัวข้อเมื่อครู่ “อย่างไรก็ตามนายจำไว้ อย่าแตะต้องลูกสาวของฉันก่อนแต่งงาน ไม่อย่างนั้นต่อให้ฉันจะเอาชนะนายไม่ได้ ก็ต้องฆ่านายให้ได้!”
ถ้าหากเหยียนหมิงซุ่นเกิดเป็นอะไรไปก่อนแต่งงาน ลูกสาวของเขาก็ยังเป็นหญิงสาวที่สะอาดบริสุทธิ์อยู่ดี!
เหยียนหมิงซุ่นพ่นเสียงออกทางจมูก “คุณคิดว่าผมเป็นตัวคุณเองหรือยังไง? ที่ความสามารถในการควบคุมตัวเองจะแย่ขนาดนั้นน่ะ!”
พูดจบเขาก็เปิดประตูเดินออกไป ขี้เกียจจะสนใจจ้าวอิงหัวที่โมโหจนแทบจะกระโดดลอยได้อยู่แล้ว
…………………………………………..
ตอนที่ 1073 เกิดความดีอกดีใจบนความโชคร้ายของคนอื่น
หลังจากที่เหยียนหมิงซุ่นออกไปก็กลับสู่สภาพสงบเหมือนเดิม ให้พูดยังไงเขาก็เป็นถึงผู้มีอำนาจ ดูแลจัดการคนมากมายขนาดนั้น ไหนเลยจะติดไฟง่าย ๆ เหมือนกับประทัด
ความดุร้ายก็เป็นเพียงหน้ากากที่เขาจงใจต้องการแสดงให้คนนอกเห็น ไม่เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกคณะนักการเมืองที่ย้ายมาอยู่ข้างกายเขา
ตอนนี้ดูแล้วการแสดงของเขาสำเร็จไปอย่างงดงาม
เหยียนหมิงซุ่นจะถูกหลอกหรือไม่เขาไม่รู้ แต่พวกคณะนักการเมืองเจ้าเล่ห์พวกนั้นกลับถูกหลอกไปเรียบร้อยแล้ว บางทีในสายตาของนักการเมืองเจ้าเล่ห์พวกนั้น จ้าวอิงหัวอย่างเขาคงจะเป็นถังระเบิดที่เอาแต่พึ่งพาวงศ์ตระกูลล่ะมั้ง!
เขาอยากได้ผลลัพธ์แบบนี้แหละ!
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการบั่นทอนจิตใจที่คอยหวาดระแวงของศัตรูอีกแล้ว!
จ้าวอิงหัวลูบจมูก อยู่ดีๆก็หัวเราะร่าออกมา ปีนั้นเขารู้จักเหยียนซินหย่ายังไม่ถึงหนึ่งเดือนก็ได้กอดสาวงามแล้ว สามารถเรียกได้ว่าเร็วปานจรวดก็ว่าได้ ใครให้ตอนที่เขารู้จักภรรยาของเขา เหยียนซินหย่าก็บรรลุนิติภาวะแล้วกันล่ะ!
แต่ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นรู้จักลูกสาวของเขา ลูกสาวของเขายังเป็นต้นอ่อนถั่วแดงอยู่เลย!
จ้าวอิงหัวอดไม่ได้ที่จะเกิดความดีอกดีใจบนความโชคร้ายของคนอื่น เขาคือพ่อตาในอนาคต ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องรอจนลูกสาวอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดถึงจะให้แต่งเรือนไปได้!
ให้เจ้าหนุ่มอัปลักษณ์นี่รอไปแล้วกัน!
เอาให้กระวนกระวายตายไปเลย!
แต่จ้าวอิงหัวกลับไม่รู้ ตอนอายุสิบสามลูกสาวของเขาก็เกือบจะโดนใครบางคนกลืนกินเข้าไปแล้ว เหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้นเอง!
ต่อให้คุณคิดจะดึงเวลาไปถึงอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี แต่ลูกสาวของคุณจะเห็นด้วยไหม?
เหมยเหมยแทบจะเฝ้าภาวนาให้ได้แต่งไปเป็นคุณนายเหยียนเร็ว ๆ แล้ว!
ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่อยากแต่งงานมากไปกว่าเธออีกแล้ว!
เรื่องของอู่เยวี่ยทำให้เหมยเหมยนึกถึงเหอปี้อวิ๋นขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชเป็นอย่างไรบ้าง?
เรื่องต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลานี้ ทำให้เหมยเหมยลืมเหอปี้อวิ๋นไปเย เธอยังไม่รู้ว่าเหอปี้อวิ๋นโดนปล่อยออกไปอย่างลับๆแล้ว
“แม่คะ วันหยุดอาทิตย์หน้าพวกเราไปเยี่ยมเหอปี้อวิ๋นกันหน่อยไหมคะ?” เหมยเหมยพูดกับเหยียนซินหย่า
เหยียนซินหย่าขมวดคิ้วแน่น ดูไม่ค่อยมีท่าทีดีใจสักเท่าไร “ไปเยี่ยมเธอทำไม? โรงพยาบาลจิตเวชวุ่นวายจะตาย เหมยเหมยไม่ต้องไปหรอก”
“หนูแค่อยากไปดูว่าเหอปี้อวิ๋นตอนนี้เป็นยังไงบ้าง……” เหมยเหมยกระซิบ
เหยียนซินหย่าแค่มองก็รู้ถึงความคิดของลูกสาว พูดยิ้มๆว่า “แน่นอนว่าไม่ดี โรงพยาบาลจิตเวชไม่ใช่สถานที่ที่ดี เหมยเหมยถ้าลูกอยากจะรู้ ก็ให้พ่อของลูกโทรไปถามสิ”
แววตาของเหมยเหมยประกายวิบวับ ใช่แล้ว ให้จ้าวอิงหัวยกสายโทรหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชก็ได้แล้ว
ความต้องการของภรรยาและลูกสาว แน่นอนว่าจ้าวอิงหัวก็ต้องทำตามอย่างเชื่อฟัง ตัวเขาเองไม่สามารถโทรศัพท์ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชได้ด้วยตัวเอง จึงโทรหาเลขาโจวให้เลขาโจวไปถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตัวเลขาโจวเองก็ไม่สามารถไปโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อตรวจสอบได้ วันรุ่งขึ้นก็เลยขอให้ผู้ช่วยทำแทน ในความคิดของเขา นี่มันเป็นเรื่องเล็กจิ๊บจ๊อย มันไม่คุ้มที่เขาจะไปทำเอง
ผู้ช่วยตัวน้อยเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาเพียงหนึ่งปี ไหนเลยจะมีประสบการณ์ในการทำสิ่งต่างๆ จึงโทรศัพท์หาผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชแทน
อันที่จริงผู้อำนวยการก็โดนหวงอวี้เหลียนหลอกเข้าคิดว่าเหอปี้อวิ๋นไม่ใช่คนสำคัญอะไร ดังนั้นเมื่อเขาได้รับสายจึงตกใจมาก ไม่รู้ว่าเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลจะยังจำผู้หญิงป่วยทางจิตคนนี้ได้
โชคดีที่ไม่มีใครมาค้นหาหลักฐานด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลจิตเวช ผู้อำนวยการจึงจำเป็นต้องกัดฟันพูดไป พูดแค่เพียงว่าเหอปี้อวิ๋นได้รับการดูแลเป็นพิเศษในโรงพยาบาล ให้เลขาโจววางใจได้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์
ผู้ช่วยตอบกลับเลาขาโจว เลขาโจวตอบกลับจ้าวอิงหัว จ้าวอิงหัวตอบกลับภรรยาและคุณหนูน้อยของตัวเอง
เหมยเหมยพอได้ยินว่าเหอปี้อวิ๋นได้รับการดูแลอย่างดี ใจก็สงบลง วางแผนไว้ว่าวันไหนจะหาโอกาสไปทักทายที่โรงพยาบาลจิตเวชเสียหน่อย โดยไม่ให้เหยียนซินหย่ารู้
ตอนที่ 1074 โทรศัพท์แปลกหน้า
วันต่อมาเป็นวันจันทร์ เหมยเหมยตั้งใจสังเกตเหยียนหมิงต๋าเป็นพิเศษ ดูแล้วไม่ได้แตกต่างอะไรจากปกติ เพียงแต่ตอนกลางวันกินข้าวก็ไม่ไปที่โรงอาหาร แต่กลับไปกินข้าวที่บ้านอย่างเชื่อฟัง
อีกทั้งเจ้าหมอนี่ก็อดไม่ได้คิดอยากจะไปหาอู่เยวี่ยที่ห้องเรียนข้างๆ แต่เพราะสายตาของเหมยเหมยที่ส่งไป เขาก็ถอยเท้ากลับไปนั่งอยู่กับที่
เหมยเหมยถอนหายใจ ช่างเป็นเวรกรรมจริงๆ!
ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ เหยียนหมิงต๋าก็ยังจะเป็นจะตายเพราะอู่เยวี่ยอยู่ดี ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีการไหนก็แยกพวกเขาออกจากกันไม่ได้!
ช่างมัน ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแล้วกัน!
ตอนนี้อู่เยวี่พัวพันอยู่กับหานป๋อหย่วน เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อชาติที่แล้ว ไม่แน่ว่าชาตินี้อู่เยวี่ยอาจจะไม่เห็นเหยียนหมิงต๋าอยู่ในสายตาแล้วก็ได้!
อีกอย่างคุณตาเหยียนก็ลงทะเบียนให้กับเหยียนหมิงต๋าเรียบร้อยแล้ว ถ้าการตรวจร่างกายไม่มีปัญหาอะไร ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเหยียนหมิงต๋าก็ต้องไปกองทัพทหารแล้ว
กองทัพทหารมีเหยียนหมิงซุ่นคอยสอดส่องอยู่ อู่เยวี่ยคิดจะยั่วยวนก็ทำอะไรไม่ได้!
อู่เยวี่ยทําหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไร ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อย เธอได้ตกลงกับหานป๋อหย่วนแล้ว อีกไม่กี่วันจะพาเขาไปพบอู่เจิ้งซือ
นี่นับได้ว่าเป็นการดูตัวกับผู้ใหญ่แล้วหรือเปล่านะ?
หางคิ้วของอู่เยวี่ยเลิกขึ้นด้วยความปิติยินดี ใบหน้าชมพูระเรื่อ เคยโดนผู้ชายรุกล้ำร่างกายก็ยิ่งตื่นตัว เหมือนกับดอกไม้ตูมที่กำลังจะบานสะพรั่งแล้ว ดอกไม้ที่บอบบางกำลังเบ่งบาน
วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นกลับไปที่กองทัพทหารแล้ว อันที่จริงที่เขากลับมาครั้งนี้เขามีภารกิจอื่น เขาจัดวางลูกน้องของตนเองไว้ในเมืองจิน แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเฮ่อเหลียนชิงจะมีลูกน้องอยู่ที่เมืองจิน แต่ว่าคนเหล่านั้นใช้เพื่อการทำงานเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ทำกิจส่วนตัว
ดังนั้นเขาจึงต้องมีลูกน้องที่เป็นของตัวเอง เขาไม่ค่อยวางใจเหมยเหมย ต้องมีใครสักคนอยู่เคียงข้างเธอ เขาถึงจะสบายใจได้
เพียงแต่เสียดายที่ตอนนี้ความสามารถของเขามีจำกัด จนปัญญาที่จะได้ใช้ลูกน้องชั้นยอดได้ ที่จัดวางไว้เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพที่ปลดประจำการแล้ว ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจึงถูกปลดประจำการ ประสิทธิภาพการรบยังดีมาก
เหมยเหมยกลับไม่รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นทำเรื่องพวกนี้เพื่อเธอ ทุกครั้งที่ต้องจากเธอไปก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้พบกันครั้งต่อไป หวังว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขึ้นอีกหน่อย เร็วขึ้นอีกหน่อยเท่านั้น……
วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว เหมยเหมยอารมณ์บูดบึ้งเล็กน้อย ดึงอารมณ์ให้ดีขึ้นไม่ได้ เหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่ เธอคนเดียวไหนเลยยังจะมีอารมณ์เล่น
“เหมยเหมย วันหยุดพวกเราไปภูเขาเฟิ่งหวงซานเก็บใบเมเปิ้ลสีแดงกลับมาทำโปสการ์ดดีไหม?” เจียงซินเหมยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิม
อู่เชาคล้อยตามอย่างมีความสุข “ดีสิ ฉันสัญญากับมู่มู่และเซียวเช่อแล้ว ว่าจะส่งโปสการ์ดให้พวกเขา!”
เดิมทีเหมยเหมยก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินชื่อของสยงมู่มู่กับเซียวเซ่อก็พลันใจเต้นขึ้นมา คิด ๆ แล้วก็พยักหน้า
“ก็ได้ วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายพวกเธอมาหาฉันแล้วกัน!”
ภูเขาเฟิ่งหวงซานในฤดูใบไม้ร่วงนั้นสวยงามมาก น้ำค้างย้อมต้นเมเปิลสีแดงให้แดงเหมือนเพลิงไฟ นอกจากนี้ยังมีใบไม้สีทองจำนวนมากที่ยังไม่ได้ย้อมเป็นสีแดง มองจากระยะไกล เหมือนภาพวาดทิวทัศน์ที่สวยงามก็ไม่ปาน แม้แต่ปรมาจารย์ที่เก่งที่สุดก็ไม่สามารถผสมสีที่สดใสและมีชีวิตแบบนี้ได้
ทั้งสามคนเก็บได้ค่อนข้างมากอัดแน่นไปด้วยใบไม้สีแดงเต็มถุง เตรียมตัวกลับไปเลือกใบไม้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อทำโปสการ์ด
ตอนลงเขาฟ้าก็มืดแล้ว ทั้งสามคนหิวจนท้องร้อง ก็เลยเตรียมตัวไปกินข้าวกันก่อน
“วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” เหมยเหมยพูด
จ้าวอิงหัวไปราชการที่ต่างจังหวัดแล้ว เหยียนซินหย่าก็ไปเข้าร่วมรายการทีวี ดึก ๆ นู่นถึงจะกลับบ้าน เธออยู่คนเดียวขี้เกียจทำกับข้าว สู้ไปกินข้างนอกดีกว่า
แน่นอนว่าเจียงซินเหมยและอู่เชามีความยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อน ทั้งสามสั่งอาหารเลิศรส ต่างก็หิวโซจนจะตายอยู่แล้ว แข่งกินกันอย่างตะกละตะกลาม
“ติ๊ดๆ”
เพจเจอร์ในกระเป๋าของเจียงซินเหมยดังขึ้น เธอนึกว่าเป็นพ่อแม่เร่งให้เธอกลับบ้าน ใครจะไปรู้ว่าที่แท้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอส่งมา
ไม่ได้พูดอะไรมาก พูดแค่เพียงว่าให้เธอรีบโทรกลับไป ดูรีบร้อนมาก
ที่สำคัญที่สุดเป็นเบอร์แปลก
………………………………………….
ตอนที่ 1075 เลขมั่วๆ
ลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยก็เรียนอยู่ที่อีจง เป็นนักเรียนชั้นม.6 อยู่ชั้นเดียวกับโอหยางซานซานแต่คนละห้องกัน
“แปลกจัง ดึกขนาดนี้ลูกพี่ลูกน้องของฉันทักหาฉันมีเรื่องอะไรนะ?” เจียงซินเหมยจับต้นชนปลายไม่ถูก
อู่เชาพูดว่า “โทรกลับไปถามก็รู้แล้ว ไม่แน่อาจจะเป็นเรื่องด่วนจริงๆก็ได้นะ!”
ผลการเรียนของลูกพี่ลูกน้องเจียงซินเหมยดีมาก ปกติไม่ค่อยชอบพูดเท่าไร นิสัยเป็นคนเงียบสุขุมเก็บความรู้สึก ทุกครั้งที่เห็นพวกเขาก็ทำแค่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเข้ามาคุยด้วยเลย พวกเขารู้สึกกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็ไม่แย่เลยทีเดียว
เหมยเหมยพูดว่า “เคาท์เตอร์ตรงนั้นมีโทรศัพท์ รีบโทรกลับไปเถอะ ถ้าหากว่ามีเรื่องด่วนจริง ชักช้าคงจะไม่เป็นการดี”
เจียงซินเหมยคิด ๆ แล้วก็ว่าใช่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบลูกพี่ลูกน้องคนนี้ นิสัยอมทุกข์ เข้ากันไม่ได้ และอีกอย่างเธอไม่ค่อยชอบพ่อแม่ของลูกพี่ลูกน้องคนนี้เอาเสียเลยจริงๆ
ซึ่งก็คือป้าและลุงคนโตของเธอ ทั้งคู่เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันมากจริง ๆ อยากกินแต่ขี้เกียจทำงาน ขี้โกงเล่ห์เหลี่ยมเยอะ กระต่ายยังไม่กินหญ้าของคอกข้าง ๆ แต่พวกเขาสองคนกลับชอบสร้างความพินาศให้คนรอบตัว มันน่าโมโหจริงๆ
พ่อแม่ของเธอเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นเด็กดีน่ารัก บางทีก็ช่วยเรื่องเงินทองบ้าง แต่สองสามีภรรยาคู่นี้ไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในบุญคุณ ตรงข้ามกลับยังพูดลับหลังพวกเขาอีกว่าเป็นคนใจแคบขี้งก มีเงินมากมายขนาดนั้น ก็ไม่รู้จักช่วยเหลือส่งเสียให้มากกว่านี้หน่อย ช่างน่าโมโหเสียจริงๆ
จึงโทรศัพท์ต่อสายอย่างรวดเร็ว ในโทรศัพท์มีเสียงประหม่าดังออกมา
“พี่คะ มีเรื่องอะไรกันแน่?” เจียงซินเหมยถาม
“ซินเหมย ฉัน…เธอ……สามารถส่งเงินมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
เสียงพูดจาตะกุกตะกัก พวกเหมยเหมยกลับไม่ได้สงสัยอะไร เพราะปกติลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยก็พูดจาแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินพูดจาคล่องเป็นประโยคขนาดนี้มาก่อน
เจียงซินเหมยคิ้วขมวดแน่น ถามว่า “พี่อยู่ไหน?”
“ร้านคาราโอเกะไห่เหยียน ฉัน……ฉันเลี้ยงคาราโอเกะเพื่อนนักเรียน แต่เงินที่พกมาไม่พอ ซินเหมย เธอ……เธอ……”
เจียงซินเหมยขี้เกียจที่จะฟังต่อ พูดตัดบทว่า “พี่รอฉันครู่เดียว เดี๋ยวฉันไปหา”
เสียงในสายโทรศัพท์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขอบคุณเสียงเบา ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยากพูดต่อ แต่มีเสียงดังจ้อกแจ้กจอแจออกมาในสายโทรศัพท์ ทำให้ได้ยินไม่ค่อยชัดนัก
“ฉันไม่กินแล้ว ฉันเอาเงินไปให้ลูกพี่ลูกน้องก่อน พวกเธอกลับบ้านไปก่อนเถอะ!” เจียงซินเหมยพูด
เหมยเหมยมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ “ลูกพี่ลูกน้องเธอทำไมถึงได้ไปร้านคาราโอเกะได้ล่ะ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ เมื่อก่อนให้เธอไปเล่นกันที่ร้านคาราโอเกะ เธอทำหน้าหยั่งกับเห็นผี ตอนนี้กลับทำเองซะงั้น แถมยังพาเพื่อน ๆ ไปเลี้ยงที่ร้านคาราโอเกะเองอีก”
เจียงซินเหมยก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ บอกลาพวกเหมยเหมยแล้วก็ขี่จักรยานไปทางร้านคาราโอเกะไห่เหยียน
อู่เชาและเหมยเหมยก็แยกทางกัน ทั้งสองคนกลับทางใครทางมัน บ้านใครบ้านมัน
เหยียนซินหย่ายังไม่กลับบ้าน เหมยเหมยรีบอาบน้ำแล้วก็กอดฉิวฉิวนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เปลี่ยนไปช่องที่เหยียนซินหย่าจัดรายการอยู่ เป็นรายการเกี่ยวกับการวาดภาพ ผู้จัดรายการก็คือจ้าวเป่าฮุ่ย
เหยียนซินหย่าเป็นแขกรับเชิญ และยังมีปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายคน พูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การวาดภาพของสำนักและปรมาจารย์ยุคโมเดิร์นของหวาเซี่ย
ตอนนี้กำลังถกกันเรื่องสำนักเหยียน จ้าวเป่าฮุ่ยจำเป็นต้องแนะนำเหยียนซินหย่าให้ผู้ชมฟังอีกครั้ง ด้านล่างเวทีมีเสียงปรบมืออันอบอุ่นมากมายดังขึ้น เหมือนกับกระแสน้ำไหลยาวนานไม่หยุด
ผู้ชมที่มาเข้าร่วมรายการประเภทนี้ ส่วนใหญ่มักจะมีความรู้การศึกษามีความสามารถสูง หรือทำงานในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการวาดภาพ แน่นอนว่าต้องเคยได้ยินชื่อของเหยียนตานชิงมาก่อนแน่นอน
ตอนนี้พอได้ยินว่าเหยียนซินหย่าเป็นลูกสาวของปรมาจารย์เหยียนตานชิง จะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง?
เหมยเหมยก็ปรบมือตามไปด้วย ดีใจสุด ๆ เธอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเป่าฮุ่ยใกล้จะแข็งทื่อไปแล้ว!
“ติ๊ดๆ”
เสียงเพจเจอร์ดังขึ้น รหัสก็คือหมายเลขเพจเจอร์ของเจียงซินเหมย แต่จอแสดงผลกลับเป็นตัวหนังสือจีนมั่ว ๆไม่ได้ความ
ตอนที่ 1076 อยู่ในอันตราย
เหมยเหมยขมวดคิ้วมองเพจเจอร์ เจียงซินเหมยส่งเลขมั่ว ๆ มาเป็นพรวนให้เธอหมายความว่ายังไง?
เพจเจอร์ของเธอและเจียงซินเหมยรวมถึงเด็กอ้วนน้อยทั้งสามคน เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนซื้อให้พวกเธอ เป็นเพจเจอร์ดิจิทัลรุ่นล่าสุด เพจเจอร์ประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องส่งต่อผ่านฝ่ายบริการตนเอง สามารถกดปุ่มตัวเลขบนเพจเจอร์โดยตรงเพื่อส่งข้อความง่ายๆได้เลย มีความคล้ายคลึงกับโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกๆ
“ติ๊ด ๆ ๆ”
เพจเจอร์ดังขึ้นอีกครั้ง ยังเป็นเจียงซินเหมยที่ส่งมา และยังคงเป็นตัวเลขมั่วๆเป็นพรวน
เหมยเหมยอดขมวดคิ้วแน่นไม่ได้ เจียงซินเหมยทำอะไรของเธอ?
เธอไม่ได้ไปจ่ายเงินให้ลูกพี่ลูกน้องที่ร้านคาราโอเกะไห่เหยียนหรอกหรือ?
จู่ ๆ ก็ส่งเลขมั่ว ๆ เป็นพรวนมาให้เธอหมายความว่ายังไง?
เธอไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่นึกว่าเจียงซินเหมยไม่ทันระวังแล้วคงไปกดโดนเข้า ไม่อย่างนั้นคงไม่มั่วซั่วขนาดนี้
เหมยเหมยหาว เตรียมตัวกลับห้องไปนอน เพิ่งจะเดินไปถึงบันได อยู่ดี ๆ หัวใจเธอก็หล่นไปที่ตาตุ่ม ร้องในใจว่าแย่แล้ว
เจียงซินเหมยจะต้องอยู่ในอันตรายแน่นอน!
หรือบางทีอาจจะกำลังถูกคุกคาม ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถส่งข้อความมาได้อย่างถูกต้อง สามารถทำได้แค่เพียงกดมาแบบมั่ว ๆ เท่านั้น
สาเหตุที่สามารถส่งมาที่เพจเจอร์ของตัวเองได้ นั้นก็เป็นเพราะเจียงซินเหมยและอู่เชาต่างก็ตั้งเหมยเหมยเอาไว้เป็นอันดับแรก เมื่อเพจเจอร์ไม่มีตัวเลือกก็จะเลือกส่งชื่อแรกที่ตั้งเอาไว้
เหมยเหมยรีบร้อนใส่เสื้อผ้า โยนฉิวฉิวเข้าไปในกระเป๋า รีบขี่จักรยานไปทางประตูใหญ่
ร้านคาราโอเกะไห่เหยียนอยู่ห่างจากบ้านพักรัฐบาลค่อนข้างไกลพอสมควร เธอเรียกรถแท็กซี่ ส่วนรถจักรยานก็โยนทิ้งไว้แถวนั้น
“คนขับแท็กซี่ ร้านคาราโอเกะไห่เหยียน เร็วหน่อยยะคะ เดี๋ยวเพิ่มเงินให้!”
“โอเค นั่งดี ๆ นะสาวน้อย!”
สายตาของคนขับรถเป็นประกาย กัดฟันแน่น เหยียบคันเร่ง รถพุ่งออกไปเหมือนสายลูกศรที่พุ่งออกไปจากคันศร
อำนาจของเงินไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ เดิมทีต้องใช้เวลาขับรถยี่สิบนาที แต่คนขับแท็กซี่คนนี้กลับใช้เวลาแค่เพียงสิบนาทีก็มาถึงแล้ว
“คนขับแท็กซี่ คุณรออยู่ข้างนอกนี่นะ เดี๋ยวเพิ่มเงินให้อีก!”
เหมยเหมยจ่ายเงิน แล้วบอกให้คนขับรถรออยู่ที่ประตูด้านนอก อีกเดี๋ยวไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง มีรถไว้เผื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
“ได้เลย สาวน้อยเธอวางใจเถอะ!” คนขับแท็กซี่พูดด้วยรอยยิ้ม จะไม่ดีใจได้ยังไงกัน
เหมยเหมยหายใจเข้าออกลึกๆ เดินไปทางร้านคาราโอเกะไห่เหยียน ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าลืมเรื่องสำคัญไปเสียได้
ก่อนเหยียนหมิงซุ่นจะไปก็พูดกับเธอว่า หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างแรกสุดให้เธอโทรศัพท์หาคนของพี่เสือ แต่เมื่อครู่เธอรีบร้อนจนเกินไปจึงทำให้ลืมจนได้
ถ้าหากว่าเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าเธอไม่ได้โทรศัพท์ไปก่อน กลับมาจะต้องตีก้นเธอลายแน่นอน
เหมยเหมยรีบเดินเข้าไปหาโทรศัพท์ที่ห้องโถงใหญ่ คนที่รับโทรศัพท์ก็คือพี่เสือพอดี เธอพูดถึงความคาดเดาของเธอคร่าวๆ ออกไปพี่เสือบอกให้เธอรีบกลับบ้านไป
“คุณหนูจ้าว เพื่อความปลอดภัยของคุณ กรุณากลับบ้านโดยเร็วที่สุด ส่วนเพื่อนร่วมชั้นของคุณให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา”
เหมยเหมยคิด ๆ แล้วก็ว่าใช่ เธอไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ อย่าไปก่อปัญหาเพิ่มจะดีกว่า
“ถ้าอย่างนั้นฉันรออยู่ที่ประตูใหญ่นะ คุณก็รีบ ๆ หน่อย!”
“วางใจเถอะ อีกสิบนาทีผมกับพรรคพวกก็จะตามไปถึง!”
ในสายโทรศัพท์มีเสียงสตาร์ทรถดังออกมา พี่เสือวางสาย คิดว่าน่าจะขับรถออกมากันแล้ว
เหมยเหมยหันไปมองทางร้านคาราโอเกะไห่เหยียนแวบหนึ่ง การตกแต่งไม่ได้หรูหราอะไรเป็นพิเศษ เป็นร้านคาราโอเกะระดับกลางๆ โดยปกติจะเป็นสถานที่สำหรับนักศึกษาหรือพนักงานออฟฟิศทั่วไปมาเลี้ยงรับรองกัน
มีผู้ชายวัยรุ่นสองคนเดินเข้ามา มองดูแล้วไม่เหมือนนักเรียนธรรมดาหรือว่าพนักงานบริษัท
“คุณชายหานบอกว่าวันนี้มีของสดใหม่ นักเรียนหญิงอายุสิบเจ็ดปี ยังไม่เคยโดนเปิดซิงเลยนะ!”
“เร็ว ๆ หน่อย ฉันรอไม่ไหวแล้ว คุณชายหานบอกแล้ว ถ้าหากว่าไปสาย พวกเขาก็จะไม่รอพวกเราแล้ว!”
……
ผู้ชายทั้งสองคนรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าดูรีบร้อน บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่แสนอัปลักษณ์
เหมยเหมยใจหล่นวูบถึงตาตุ่ม เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่านักเรียนหญิงที่ผู้ชายสองคนนี้พูดถึงเหมือนจะเป็นเจียงซินเหมย
…………………………………………..
ตอนที่ 1077 หนึ่งบีบสองดึงสามพ่น
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล เธอมองไปทางถนนอย่างร้อนใจ พวกพี่เสือยังมาไม่ถึง
“ถนนเจิ้งหยางฝั่งนู่นรถติดมาก พวกเราต้องไปอ้อมมาจากถนนหัวหยาง จ่ายเพิ่มไปตั้งหลายหยวนแหน่ะ 艹!”
มีคนเดินเข้ามาอีกแล้วพร้อมกับพ่นด่ากราดไปทั่ว
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่นอีกครั้ง พวกพี่เสือจะมาก็ต้องผ่านถนนเจิ้งหยาง พูดแบบนี้ก็ต้องอ้อมมาจากถนนหัวหยางเช่นกันน่ะสิ
ถ้าอ้อมไปทางถนนหัวหยางก็ต้องเสียเวลาไปอีกหลายนาที มิน่าล่ะจนถึงตอนนี้พวกพี่เสือก็ยังไม่ถึง
เพจเจอร์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อดังขึ้นอีกครั้ง เสียงดังขึ้นถี่ ๆ ยังคงเป็นตัวเลขยาว ๆ มั่ว ๆ เป็นพรวนอยู่ดี
เหมยเหมยกัดฟันกรอด ในใจมีการคาดเดาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ถ้าหากว่านักเรียนหญิงที่ผู้ชายเมื่อสักครู่พูดถึงคือเจียงซินเหมยจริงๆล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นกลัวว่าเจียงซินเหมยคงจะ……
เหมยเหมยไม่กล้าคิดต่อ เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คำพูดที่ผู้ชายเมื่อสักครู่พูดกัน เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ได้จะทำเรื่องดี
อีกอย่างก็ไม่ได้มีแค่ผู้ชายคนเดียวด้วย!
ไอ้สารเลวสมควรตาย!
เหมยเหมยหันไปมองทางถนนใหญ่อีกครั้ง พวกพี่เสือยังไม่ถึง
“รีบๆหน่อย ถ้าหากว่าสายล่ะก็ พวกเราก็จะไม่ได้ลิ้มลองของสดใหม่แล้ว!”
คำพูดของผู้ชายทั้งสองเมื่อครู่ เหมยเหมยจำได้อย่างชัดเจน ผู้ชายสองคนนั้นจากไปได้ประมาณสองสามนาทีแล้ว กลัวว่าตอนนี้เจียงซินเหมยคงจะตกอยู่ในอันตรายมากแล้ว
เหมยเหมยหันไปมองทางถนนอีกครั้ง พวกพี่เสือยังไม่ถึงเลย ไม่สนแล้วโว้ย!
เหมยเหมยกัดฟันกรอด เธอรอไม่ไหวแล้ว ถ้าหากเจียงซินเหมยโดนทำร้ายขึ้นมาจริงๆ แต่เธอกลับยืนอยู่หน้าประตูดูอยู่เฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย คงจะรู้สึกแย่ไปทั้งชีวิตแน่นอน
ฟ้ามืดลงเรื่อยๆ ไฟนีออนที่ทางเข้าหน้าประตูร้านคาราโอเกะไห่เหยียนก็ยิ่งสวยงามและมีสีสัน แขกก็มามากขึ้นเรื่อยๆ
ล้วนเป็นพวกวัยรุ่นทั้งหมด ยังมีพวกคนเสเพลอีก ผมหยิกยาว เสื้อลายดอก แว่นตาดำ เป็นรูปแบบฉบับที่นิยมกันในตอนนี้ของพวกวัยรุ่น
“คนสวย……วิ้ดวิ้ว!”
มีผู้ชายวัยรุ่นหลายคนหัวมาผิวปากแซวเหมยเหมย ยิ้มแซว ดูท่าทางเหมือนอยากจะเข้ามาชวนเหมยเหมยคุย
เหมยเหมยไม่อยากจะก่อเรื่อง เธอหันไปถลึงตาใส่พวกคนเสเพลพวกนั้น แล้วก็รีบวิ่งเข้าไปทางห้องโถงอย่างรวดเร็ว
“ฉิวฉิว ช่วยฉันหาหน่อยว่าซินเหมยอยู่ไหน?”
“รอเดี๋ยวนะ ที่นี่กลิ่นเหม็นจนเกินไป ดมไม่ออกว่าใครคือเจียงซินเหมย” ฉิวฉิวบ่นไม่หยุด
ตอนที่เหมยเหมยเตรียมตัวที่จะหาไปทีละห้อง ฉิวฉิวก็ส่งเสียงขึ้นมาว่า “ชั้นสองห้องทางด้านซ้ายสุด สถานการณ์ของเจียงซินเหมยไม่ค่อยดีเท่าไร!”
เหมยเหมยใจตกถึงตาตุ่ม วิ่งขึ้นไปทางชั้นสอง ตอนที่เห็นถังดับเพลิงตรงทางออกของบันได เหมยเหมยเกิดความคิดบางอย่างขึ้น เอาถังดับเพลิงแบกออกมาด้วย
เหมยเหมยที่แบกถังดับเพลิงวิ่งไปที่ห้องด้านในสุด ประตูปิดไว้อยู่ ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากข้างในเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอกัดฟันแน่น หายใจเข้าลึกๆ หมุนที่จับประตู มันถูกล็อกจากข้างใน
ไอ้สารเลว!
เหมยเหมยออกแรงเคาะประตู ข้างในมีเสียงบ่นรำคาญออกมา
“มีอะไร? บอกแล้วไงว่าอะไรก็ไม่ต้องเอามา ไสหัวไป!”
“ฉันเป็นเพื่อนนักเรียนของเจียงซินเหมยมาพาเธอกลับบ้าน!” เหมยเหมยตั้งใจพูด
เธอกำลังเดิมพัน ไอ้พวกสารเลวพวกนี้ได้ยินว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิง จะต้องไม่ระวังอย่างแน่นอน ไม่แน่อาจจะมีความคิดอื่นอีก แล้วยอมเปิดประตูให้แน่นอน
เป็นไปตามคาด——
“มีน้องสาวมาอีกแล้ว วันนี้โชคดีใช้ได้จริงๆ รู้ว่าพวกเราคนเยอะเนื้อที่มีแบ่งกันไม่พอ!”
ประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว คนที่เปิดประตูก็คือหนึ่งในผู้ชายสองคนก่อนหน้านั้น เห็นหน้าตาอันสวยงามของเหมยเหมยก็นิ่งตะลึงงันไป
เหมยเหมยไม่ทันที่จะได้ตรวจสอบสถานการณ์ภายในห้อง เธอบีบถังดับเพลิง ในปากท่องว่า “หนึ่งบีบสองดึงสามพ่น”
นี่คือสูตรการใช้ถังดับเพลิงที่เรียนรู้จากทีวีในชาติที่แล้ว ไม่คาดคิดเหมือนกันว่ามันจะถูกใช้ในครั้งนี้
“โอ๊ย……แม่ง!”
ผู้ชายคนนั้นนั่งยองลงบนพื้นโดยเอามือปิดตาไว้ ตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวด
คนอื่นๆ รู้สึกงุนงง จึงเตรียมตัวออกมาจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น เหมยเหมยบทจะลุยก็ลุยไม่ยั้ง ยกถังดับเพลิงและฉีดพ่นใส่คนเหล่านี้อย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่ 1078 แหล่งชุมนุมหมาป่า
ทันใดนั้นในห้องก็วุ่นวายไปหมด ทุกคนต่างก็ปิดตา ไม่มีใครเห็นว่าใครเป็นใคร ควันลอยเต็มไปหมด
เหม่ยเหม่ยพ่นถังดับเพลิงเสร็จ ก็ยกมันขึ้นและโยนลงไปที่ผู้ชายคนที่ใกล้ที่สุด
“……โอ๊ย……”
ผู้ชายคนที่โชคร้ายคนนั้นร้องเสียงหลง ล้มกระแทกไปกับพื้น ในห้องเต็มไปด้วยควัน เห็นแค่เพียงเงาคน หน้าตาเลือนลางไปหมด เหมยเหมยเอามือมาปิดจมูก เบิกตากว้างและค้นหาเจียงซินเหมยไปทุกที่
แต่หาอยู่นานก็หาไม่เจอ เหมยเหมยจึงทำได้แค่เพียงเรียกหาเสียงดัง “ซินเหมยเธออยู่ไหน?”
เจียงซินเหมยที่อยู่ในฤทธิ์ยาบนโซฟาเสื้อผ้ายุ่งเหยิง มีสีแดงแปลกๆบนใบหน้าของเธอ มีเลือดที่มุมปาก เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ก็มีสติรู้สึกตัวในทันทีดวงตาก็เป็นประกาย
เจียงซินเหมยพยายามลุกขึ้นจากโซฟา แต่ยาออกฤทธิ์เร็วเกินไป เธอไม่มีแรงเลยแม้แต่นิดเดียว เหมยเหมยร้องเรียกอยู่หลายครั้ง น้ำเสียงร้อนใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าควันเริ่มจางลง ถ้ายังไม่ไปกลัวว่าจะไม่มีโอกาสหนีแล้ว ที่สำคัญกว่านั้น เธอได้ยินเสียงเหมยเหมยเพียงคนเดียว เจียงซินเหมยคาดไม่ถึงว่าเหมยเหมยจะมาคนเดียว เธอไม่สามารถทำให้เพื่อนติดร่างแหไปด้วยได้
จึงส่งเสียงร้องฮึออกมา เจียงซินเหมยกัดลิ้นตัวเองไปอย่างแรง เลือดไหลออกมาจากมุมปากอีกครั้ง ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เธอมีสติขึ้นมาก เจียงซินเหมยรีบลุกขึ้นวิ่งไปทางประตูและโบกมือให้ไม่หยุด
ควันจางลงแล้ว เหมยเหมยก็เห็นเจียงซินเหมยแล้ว จึงเกิดโมโหเดือดดาลขึ้นมาอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
ตอนนี้ท่าทางของเจียงซินเหมยไม่ค่อยดีเลยจริงๆ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าบวมเป่ง ยังมีเลือดซิบ ๆ อีก จะมองยังไงก็เหมือนว่าโดน……
ไอ้สารเลว!
เหมยเหมยเกลียดตัวเองที่มาสายเกินไป เกลียดพวกสารเลวในห้องนี้มากยิ่งขึ้น ในห้องมีผู้ชายประมาณสิบคน ยังคงเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่ เหมยเหมยเกลียดมากที่สุด จึงหยิบแก้วที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะกาแฟ หันไปตีชายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ และตีเข้าไปที่ศีรษะอย่างรุนแรง
ชายคนนั้นล้มพับลงกับพื้น เลือดไหลออกมาจากศีรษะเรียบร้อยไปหนึ่ง
ฉวยโอกาสที่คนเหล่านี้ไม่ทันตั้งตัว เหมยเหมยก็ฟาดลงไปที่คนทั้งสอง จะฟาดไปจนกว่าที่เขี่ยบุหรี่จะหักครึ่ง ตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้สติคืนมาแล้ว สิ่งที่พวกเขาเห็นคือเด็กผู้หญิงและเธอเป็นสาวน้อยที่น่ารัก ทุกคนเริ่มมีความกล้าขึ้นมา
“มึง 艹 แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวรีบจับตัวไว้เลย ไว้สร้างความสุขให้ทุกคน!” มีคนร้องออกมา
ทุกคนต่างก็หัวเราะชอบใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้าย รุมล้อมเหมยเหมยเอาไว้
“ซินเหมยรีบมานี่!”
เหมยเหมยโยนที่เขี่ยบุหรี่อย่างสะเปะสะปะอีกครั้ง ฟาดไปทางหัวของผู้ชายคนหนึ่งแต่ก็โดนปัดหลบได้ หานป๋อหย่วนที่อยู่ด้านหลังดวงตาเป็นประกาย พูดกระซิบที่ข้างหูของผู้ชายตรงหน้า ดวงตาของผู้ชายก็เป็นประกายขึ้นทันที
ผู้ชายคนอื่น ๆ กลับหยุดชะงัก ลังเลไม่กล้าทำอะไร
“กลัวอะไร ตระกูลจ้าวจะล้มอยู่แล้ว ตาแก่หนังเหนียวของตระกูลจ้าว กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยชีวิตลูกชายของเขา จะมีเวลามาดูแลหลานสาวข้างนอกที่ไหน!” ชายคนนั้นยิ้มแป้น สายตาที่มองไปยังเหม่ยเหม่ยมีความทะเยอทะยานที่อยากจะชนะ
เจียงซินเหมเดินโซเซไปอยู่ข้างกายของเหมยเหมย เหมยเหมยดึงเธอเดินถอยหลัง พวกผู้ชายก็เดินเข้าใกล้ทีละก้าว
“จ้าวเหมยเธอหนีไม่รอดหรอก คุณชายเช่อยกเธอให้ฉันนานแล้ว กังวลอยู่ว่าจะหาเธอไม่เจอ กลับส่งตัวเองมาถึงหน้าประตูอย่างว่านอนสอนง่ายเสียได้ ฮ่าๆ อย่ารีบร้อนไปเลย ฉันจะดูแลเธออย่างดี”
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าหัวเราะอย่างลำพองใจ คำพูดที่พูดออกมานั้นต่ำช้าสารเลวมาก
“คุณชายโอหยางคุณจะกินคนเดียวไม่ได้นะ คุณกินเนื้อ ก็ต้องเก็บซุปไว้ให้เราด้วย!” มีคนหยอกล้อเสริมขึ้นมา
คนอื่นก็คล้อยตามไปด้วย เดิมทีพวกเขายังคงกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่เฮ่อเหลียนเช่อเคยกล่าวไว้ก็ใจกล้าขึ้นมาทันที ช่วงนี้เฮ่อเหลียนเช่อมีอำนาจมากที่สุดในเมืองหลวง เขาพูดอย่างนั้นแล้วยังจะมีอะไรให้กังวลอีก!
…………………………………………..
ตอนที่ 1079 แผนร้ายของหานป๋อหย่วน
“เหมยเหมยรีบวิ่งหนีไป ฉันจะขวางไว้ให้เธอเอง!”
เจียงซินเหมยเสียใจมาก เธอไม่น่าส่งข่าวไปบอกเพื่อนเธอเลย ตอนนี้กลับกลายเป็นทำร้ายเพื่อนไปด้วยแล้ว!”
“ไม่ต้องกลัว พวกเราสามารถหนีไปด้วยกันได้!”
ถึงแม้ว่าเธอจะกลัว แต่แน่นอนว่าเธอไม่สามารถทิ้งเพื่อนและหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวได้ และเธอเชื่อในตัวเหยียนหมิงซุ่น คนที่เขาทิ้งเอาไว้จะต้องไม่ไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน น่าจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้แล้วล่ะ
เธอแค่ต้องถ่วงเวลาเอาไว้หน่อย!
“แกเป็นอะไรกับโอหยางซานซาน? เป็นโอหยางซานซานที่ให้แกทำเรื่องแบบนี้ใช่ไหม?” เหมยเหมยถามเสียงสูง
เธอรู้ว่าแค่แรงของเธอคนเดียว ไม่สามารถพาเจียงซินเหมยหนีไปได้ ไม่สู้ยืนอยู่ที่เดิม พูดจารบกวนให้พวกคนเหล่านี้เสียสมาธิ เธอไม่เห็นหานป๋อหย่วน แต่ฟังจากคนอื่นเรียกหัวหน้าว่าคุณชายโอหยางถึงได้เกิดคำถามนี้ขึ้น
ผู้ชายคนนั้นส่งเสียงหัวเราะเยาะ “โอหยางซานซานไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน!”
เหมยเหมยใจเต้น ยิ่งเพิ่มความมั่นใจขึ้นไปอีกว่าผู้ชายคนนี่เกี่ยวข้องกับโอหยางซานซาน ดูจากอายุเขา น่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของโอหยางปิน
แต่ว่าได้ยินน้ำเสียงของผู้ชายคนนี้ เรื่องนี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับโอหยางซานซาน
“พวกแกอย่าไปฟังผู้ชายคนนี้พูดจาไร้สาระ ฉันเป็นหลานสาวของจ้าวหวายซาน ตระกูลของฉันพูดว่าจะล้มลงก็ล้มได้งั้นเหรอ พวกแกคิดว่ามันเป็นต้นอ่อนหรือยังไง? ถ้าปู่ของฉันรู้ว่าพวกแกกล้าที่จะปฏิบัติต่อฉันไม่ดีล่ะก็ เชอะ……กลัวว่าพวกแกมีเก้าชีวิตก็ยังไม่พอ!” เหมยเหมยขึ้นเสียงสูง จงใจเสแสร้งทำเหมือนเป็นคุณหนูที่หยิ่งยโส
คนอื่นเริ่มจะลังเลแล้วจริงๆ คนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกผู้ลากมากดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐเมืองจิน ทั้งดื่มกินเล่นพนันมีครบทุกวงจร การรังแกเด็กผู้หญิงธรรมดาๆแบบวันนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
อาศัยอำนาจของพ่อแม่พวกเขา เด็กผู้หญิงที่ถูกรังแกก็จะไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แค่เพียงจัดการเป็นการส่วนตัวก็เท่านั้น ในที่สุดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และพวกผู้ลากมากดีเหล่านี้ ในครั้งแรกอาจจะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่เมื่อทุกครั้งกลับไม่ถูกลงโทษ ความกล้าของพวกเขายิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การรังแกเด็กผู้หญิงก็มากขึ้นเช่นกัน
แต่พวกเขารู้สิ่งหนึ่งนั่นคือเด็กผู้หญิงที่พวกเขารังแกจะเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่กล้าหาเรื่องหญิงสาวที่มีความสำคัญแบบจ้าวเหมย!
ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเหมยเหมย พวกเขาก็เริ่มลังเลแล้ว
ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท พ่อของพวกเขาเป็นเพียงพนักงานธรรมดา ไหนเลยจะกล้ายั่วยุผู้นำระดับสูงของเมืองหลวง ไม่กล้าเทียบชั้นกับโอหยางสยงและหานป๋อหย่วนหรอกนะ
“คุณชายโอหยาง คุณชายหาน อยู่ดีๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าบังเอิญมีธุนะกับที่บ้าน ไปก่อนนะ!” มีคนพูดออกมาก่อน คนอื่น ๆ ก็พูดตามเตียมพร้อมจะจากไป ทุกคนต่างก็ทำหน้ายิ้มแย้มนอบน้อมถ่อมตัว
เหมยเหมยแอบดีใจอยู่ในใจ ถ้าหากคนพวกนี้ไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็จะเหลือแค่เพียงคนแซ่โอหยางแล้วก็คนแซ่หานคนนั้นแล้ว……
แซ่หาน?
เหมยเหมยมองไปข้างหลังโอหยางสยง แม้ว่าหานป๋อหย่วนจะปรากฏแค่เพียงครึ่งศีรษะและยังก้มศีรษะลงอีก แต่เธอก็ยังจำไอ้สารเลวนี่ได้
“หานป๋อหย่วน!”
เหมยเหมยร้องเสียงดัง หานป๋อหย่วนจึงต้องเดินออกมา หันมายิ้มให้เหมยเหมยอ่อนโยนและสุภาพเช่นเคย แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกรังเกียจสะอิดสะเอียน!
“ที่แท้ก็เป็นนายที่เป็นคนทำ หานป๋อหย่วนนายนี่มันดีจริงๆ!” เหมยเหมยตวาดด้วยเสียงอันดัง
ในตอนนี้เองเธอปะติดปะต่อทุกอย่างได้แล้ว จะว่าไปเจียงซินเหมยต้องมาติดร่างแหไปด้วยเพราะเธอ หานป๋อหย่วนมักจะขอให้เธอไปงานวันเกิด ลึก ๆ ก็รู้สึกอยู่แล้วว่าไอ้สารเลวนี่ไม่ได้มีเจตนาดีหรอก เธอไม่ตอบตกลงหลังจากนั้นหานป๋อหย่วนก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่เจียงซินเหมย
แม้ว่าการคาดเดาของเหมยเหมยจะไม่ถูก แต่ก็เดาถูกไปแปดถึงเก้าในสิบ!
ทั้งหมดนี้เป็นแผนการร้ายของหานป๋อหย่วนจริงๆ!
“จ้าวเหมยนังหน้าไม่อาย เชิญมาก็ปฏิเสธที่จะมา แต่แกกลับประเคนตัวเองมาถึงประตู คุณชายสยงคนแรกผมจะไม่แย่งกับคุณ ผมแค่ต้องการคนที่สอง!”
หานป๋อหย่วนก็ไม่แสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไป เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของคนเลวทรามต่ำช้าออกมา
ตอนที่ 1080 เจตนาร้ายลึกๆ
โอหยางสยงพอใจกับการรู้จักเอาตัวรอดของหานป๋อหย่วนมาก หัวเราะอย่างลำพองใจพูดว่า “วางใจเถอะ พวกเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน คนสองรับรองว่าต้องให้หานป๋อหย่วนกินอยู่แล้ว”
“ขอบคุณคุณชายสยง!”
หานป๋อหย่วนหัวเราะอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ แต่สุดท้ายก็รู้สึกเสียดาย ผู้หญิงไม่ใช่เหล้าเก่าที่ยิ่งนานก็ยิ่งหอม ของอร่อยที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็นคนแรก แต่เขาไหนเลยจะกล้าสู้กับโอหยางสยง?
ตระกูลโอหยางตอนนี้เต็มไปด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ในเมืองหลวง ไม่ใช่ครอบครัวตกอับเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว โอหยางสยงเป็นลูกพี่ลูกน้องของโอหยางปิน สองพี่น้องตอนนี้เป็นลูกน้องคนสำคัญของเฮ่อเหลียนเช่อ เมืองหลวงในตอนนี้ใครก็ไม่กล้ายั่วยุตระกูลโอหยางกันทั้งนั้นแหละ!
เพื่ออนาคตในวันหน้าของเขา วันนี้ก็ทำได้แค่เพียงกล้ำกลืนฝืนทนหน่อย!
เขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของเขา ขอเพียงแค่มีคนแนะนำเขาให้เฮ่อเหลียนเช่อรู้จัก เขาจะต้องทำได้ดีกว่าพวกโอหยางสยงแน่นอน แล้วเขาก็จะต้องได้รับความโปรดปรานจากเฮ่อเหลียนเช่อมากขึ้นแน่นอน!
ขอเพียงแค่เขามีอำนาจและตำแหน่ง อยากได้ผู้หญิงแบบไหนมีหรือจะไม่ได้?
ระหว่างการสนทนาของสองคนนี้ พูดเหมือนเหมยเหมยเป็นสิ่งของก็ไม่ปาน แสดงความคิดเห็นตามอำเภอใจ คำพูดคำจาก็เหมือนหยอกเด็ก เหมยเหมยอดกลั้นต่อความโกรธอย่างรุนแรงเอาไว้ไม่ไหว เธอรู้ว่าไอ้สารเลวสองคนนี้จงใจที่จะยั่วให้ตัวเองโมโห เธอต้องไม่หลงกลสิ
ฤทธิ์ยาในร่างของเจียงซินเหมยออกฤทธิ์อีกครั้ง ร่างกายอ่อนยวบเซล้มไปที่ร่างของเหมยเหมย
เธอสูงกว่าเหมยเหมยครึ่งหัว ทับลงมาแบบนี้น้ำหนักก็ถือว่าไม่เบา พิงอยู่เพียงแค่ชั่วครู่ เหมยเหมยก็รับน้ำหนักไม่ไหวแล้ว ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวโดยอัตโนมัติ
“เหมยเหมย……เธอรีบหนี……ไปคนเดียว……ไม่ต้องสนใจฉัน……”
เจียงซินเหมยกัดลิ้นอีกครั้ง พยายามที่จะยืนให้มั่นคง พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เหมยเหมยเปลืองพลังงานอยู่มาก กว่าจะได้ยินอย่างชัดเจน
เวลานี้เธอถึงเข้าใจว่าเลือดตรงมุมปากของเจียงซินเหมยเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วก็ไม่รู้ว่าคนสารเลวสมควรตายพวกนี้เอายาอะไรให้กับเจียงซินเหมย!
เหมยเหมยเห็นว่ามีเบียร์ครึ่งขวดอยู่บนโต๊ะหน้าประตู
ตอนนี้อากาศร้อน เบียร์ในร้านคาราโอเกะแน่นอนว่าจะต้องเย็น
เธอคว้าขวดเบียร์ขึ้นมา เทใส่เจียงซินเหมย หวังว่าเบียร์เย็นๆจะสามารถทำให้เจียงซินเหมยได้สติขึ้นมาอีกหน่อย
ผลของเบียร์เย็น ๆ ถือว่าไม่เลว อย่างน้อยก็ดีกว่าการกัดลิ้น เจียงซินเหมยสดชื่นขึ้นในทันที เรี่ยวแรงก็กลับมาบ้างแล้วด้วย
ผู้ชายคนอื่น ๆ ต่างก็มองหน้ากัน โอหยางสยงไม่ได้พูดอะไร พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะไปไหม แต่พวกเขาก็ยิ่งไม่กล้าอยู่ต่อ ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ว่าจะสามารถหาเรื่องได้ง่ายๆ เทพเจ้าแห่งการต่อสู้ พวกเขาที่เป็นผีตัวเล็กๆก็ควรที่อยู่ห่างๆหน่อยดีกว่า!
หนึ่งในพวกผู้ชายส่งสายตาเป็นนัยๆ คนอื่นก็เข้าใจโดยพลัน เพียงแต่ ——
พวกเขาเพิ่งจะยกเท้าขึ้นมา โอหยางสยงก็ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา ส่งสายตาอำมหิตมาทางพวกเขา ทำเอาพวกเขาขนลุกซู่ไปทั้งตัว เท้าหยุดชะงักอยู่กลางอากาศเช่นนั้น
“วันนี้ใครกล้าออกไป อย่าโทษว่าฉันไม่ไว้หน้าก็แล้วกัน สิ่งที่เฮ่อเหลียนเช่อไม่ชอบที่สุดก็คือลูกน้องไม่ซื่อสัตย์ วิธีการของคุณชายเช่อนั้น……ฮึๆ……”
พวกผู้ลากมากดีทั้งหลายเสียวสันหลังวาบ วิธีการของเฮ่อเหลียนเช่อต่อให้พวกเขาอยู่ไกลถึงเมืองจินก็ยังได้ยินชื่อเสียงมายาวนาน!
แต่ปัญหาก็คือตอนไหนกันที่พวกเขากลายเป็นลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อ?
การคุกคามของโอหยางสยงก็ทำเอาหลายคนตกใจจนขาอ่อน ยืนก็ยืนไม่อยู่ ไหนเลยยังจะกล้าหนีไปได้!
“วางใจเถอะ ขอเพียงแค่พวกนายมีจิตใจที่ซื่อสัตย์ แต่ไหนแต่ไรมาคุณชายเช่อนั้นใจกว้างกับคนที่ซื่อสัตย์อยู่มาก!” โอหยางสยงเปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มๆ แต่กลับทำให้รู้สึกใจเหน็บหนาวยิ่งกว่าหน้าเย็นชาเมื่อครู่เสียอีก
พวกเขาไม่ได้อยากจะติดตามเฮ่อเหลียนเช่อสักหน่อย!
พวกเขาเพียงแค่อยากจะได้สาวบริสุทธิ์ก็เท่านั้น เรื่องของการเมืองระดับสูงแบบนี้ เป็นเรื่องที่พวกผู้ลากมากดีอย่างพวกเขาทำกันหรือยังไง?
“อีกครู่พอฉันตะโกนหนึ่งสองสาม ซินเหมยเธอก็วิ่งออกไปข้างนอกเลยนะ!” เหมยเหมยพูดกระซิบ
เจียงซินเหมย เหมยเหมยผลักเธอไปทางด้านนอก ตะโกนเสียงดัง “รีบวิ่ง!”
เจียงซินเหมยกัดฟันพยายามออกแรงวิ่งโซซัดโซเซอย่างเต็มที่ไปด้านนอก วิ่งไปตะโกนไปว่า ‘ช่วยด้วย’ แต่ไม่มีใครอยู่ที่ทางเดินเลยแม้แต่คนเดียว ไม่มีใครออกมาไม่ว่าเธอจะตะโกนอย่างไรก็ตาม
…………………………………………..
ตอนที่ 1081 ควักลูกตา
พวกโอหยางสยงไม่ได้สนใจการจากไปของเจียงซินเหมย ถึงหน้าตาไม่ได้แย่ แต่ยังไงก็เทียบหนึ่งในสิบส่วนของจ้าวเหมยไม่ได้ มีคนสวยอย่างจ้าวเหมยอยู่พวกเขาจะถูกใจเจียงซินเหมยทำไมอีก?
จ้าวเหมยเธอ…”
โอหยางสยงเพิ่งพูดได้แค่ไม่กี่คำเหมยเหมยก็ขว้างขวดเบียร์ในมือออกไป แต่โอหยางสยงหลบได้ เงาสีขาวกับเขียวมรกตแวบเข้ามาพร้อมกันรวดเร็วปานสายฟ้า ไม่ว่าใครก็ไม่ทันเห็นว่าเป็นอะไร
โอ้ย…อะไรข่วนฉัน?”
โอหยางสยงร้องโหยหวนเอาสองมือปิดหน้า เลือดสีสดไหลซึมออกมาระหว่างนิ้ว
หานป๋อหย่วนที่อยู่ข้าง ๆ เองก็ไม่สู้ดีเท่าไรนัก ฉาฉากัดเข้าตรงลำคอของเขาและปล่อยพิษอ่อน ๆ เข้าไปทำให้หานป๋อหย่วนเหมือนเฮ่อเหลียนเช่อเมื่อสามปีก่อนที่แน่นิ่งเหมือนผักปลา ทั้งตัวเหลือเพียงแค่ดวงตาที่หมุนกลอกได้
ฉาฉาจู่โจมครั้งเดียวก็โดนเป้าหมายจึงหันเลื้อยกลับคืนตรงข้อมือของเหมยเหมย ทุกคนยังไม่ทันเห็นได้ชัดด้วยซ้ำว่ามันเป็นอะไร เลยคิดว่าเหมยเหมยแอบปล่อยอาวุธลับเลยนึกสะพรึงใจอย่างอดไม่ได้
ฉิวฉิว ควักลูกตามัน!”
เหมยเหมยตะโกนเสียงดังพลางหยิบของบนโต๊ะขว้างไปอีกทั้งที่เขี่ยบุหรี่ ขวดเบียร์ แก้วน้ำชา…เป็นต้น ทุกอย่างล้วนโถมเข้าหาตัวโอหยางสยง
อ๊าก…ตาของฉัน!”
โอหยางสยงร้องเสียงเจ็บปวดใช้สองมือปิดตาข้างซ้ายไว้โดยมีเลือดไหลลงมาเป็นสาย ดูแล้วน่าสยดสยองเสียจริง!
ฉิวฉิวร้องทีหนึ่งอย่างได้ใจแล้วสะบัดกรงเล็บก่อนที่จะโยนลูกกลม ๆ ที่อาบเลือดอย่างน่าสงสัยลงพื้น นั่นคือลูกตา ทุกคนกรีดร้องด้วยความตกใจแล้วรีบเอามือปิดตายืนตัวสั่นระริกพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
พระเจ้า!
เรื่องเลวทรามที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำมาก็แค่กึ่งหลอกล่อและข่มขืนเด็กผู้หญิง เรื่องที่ถึงขั้นเลือดตกยางออกไม่เคยทำเด็ดขาด แต่ตอนนี้คุณหนูตระกูลจ้าวที่ดูตัวเล็กอ่อนแอทำไมถึงควักลูกตาคนอื่นได้ล่ะ!
ฉิวฉิวเด็กดี!”
เหมยเหมยรับเจ้าก้อนสีขาวมา แล้วให้ฉิวฉิวฟุบตรงไหล่เธอ ดวงตาดำขลับเท่าเม็ดถั่วมองคนในห้องอย่างเย็นชา ทั้งที่ดูเป็นตัวก้อนขนที่แสนจะน่ารักแต่ทุกคนกลับรู้สึกขนลุกกราว รีบปกป้องลูกตาสุดรักสุดหวงของตัวเองไว้อย่างถึงที่สุด
ทุกคนต่างนึกถึงตัวละครตัวหนึ่งในนิยายกำลังภายในชั่วขณะ
ซึ่งก็คือแม่หญิงจงหลินในเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า เป็นบุคคลที่สวยงามน่าหลงใหลแต่ก็เข่นฆ่าใครโดยไม่กะพริบตาเช่นกัน บนตัวมีอาวุธลับที่เคลือบด้วยยาพิษแถมข้างกายยังมีเสือดาวเผือกตัวน้อยที่กินงูเป็นอาหารอีกตัวหนึ่ง…
หรือว่าจ้าวเหมยคือวิญญาณของจงหลินกลับชาติมาเกิด?
โอหยางสยงใช้ตาขวาข้างสุดท้ายดูลูกตาบนพื้นนั่นด้วยความเจ็บปวดปนแค้น เขารีบถลาเข้าไปเก็บลูกตาบนพื้นหวังว่าจะใส่กลับคืนไปได้
เหมยเหมยกลอกลูกตาทีหนึ่งแล้ววิ่งไปอีกโต๊ะหยิบขวดเหล้าเปล่าขว้างลงพื้นให้แตกเกลื่อนเต็มพื้น กลบลูกตานั่นไว้อย่างมิดชิดทำให้โอหยางสยงคว้าได้เพียงเศษแก้ว
นางแพศยารนหาที่ตายซะแล้ว…พวกแกไปด้วยกันให้หมด ใครจับตัวจ้าวเหมยได้ฉันรับรองว่าจะเลื่อนตำแหน่งพ่อของคนนั้นขึ้นเป็นระดับสาม!” ใบหน้าของโอหยางสยงมีแต่เลือดสดทำหน้าบิดเบี้ยวขึงขังราวกับสัตว์ดุร้าย
มีหลายคนหวั่นไหวกับข้อเสนอนี้และดูท่าทางอยากลองดี แต่กลับมีอีกหลายคนที่ยังนิ่งไม่เคลื่อนไหว พวกเขาไม่ได้โง่ สัญญาปากเปล่าแบบนี้เด็กอายุสามขวบยังไม่เชื่อเลย
จับนางแพศยาจ้าวเหมยให้ฉัน เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับสาม ฉันพูดได้ทำได้!” โอหยางสยงพูดขึ้นอีกรอบ เขาทนความเจ็บเอาไว้ก่อนจะพุ่งเข้าหาเหมยเหมย
เหมยเหมยจะยอมยืนนิ่งให้ถูกจับได้อย่างไร เธอหันหลังวิ่งออกไปด้านข้างขณะเดียวกันก็โยนถั่วเหลืองถอดไปด้านหลัง ถั่วเหลืองถอดเป็นอาหารที่เธอตั้งใจนำมาให้ฉิวฉิวลับฟันโดยเฉพาะ ไม่คิดว่าวันนี้จะได้ใช้ประโยชน์
ให้ตาย…”
โอหยางสยงมองไม่ถนัดจนเผลอเหยียบใส่เมล็ดถั่วเหลืองล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น คนอื่นกลับหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่วแล้ววิ่งไล่ตามไม่ลดละ
ตอนที่ 1082 อู่เยวี่ยที่จิตใจบิดเบี้ยว
เห็นว่าคนพวกนั้นเข้ามาใกล้เหมยเหมยขึ้นเรื่อย ๆ เหมยเหมยที่วิ่งจนเหนื่อยหอบลอบคิดในใจว่าทำไมพวกพี่เสือยังไม่มาอีก?
ความจริงก็เพราะเธอที่ใจร้อนเกินไปถึงได้รู้สึกว่านาทีเดียวยาวนานเหมือนผ่านไปแล้วหนึ่งปี ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นตั้งแต่เธอเดินเข้าห้องไปจนถึงตอนนี้ก็เพิ่งผ่านไปไม่กี่นาทีเท่านั้น พวกพี่เสือย่อมไม่มีทางมาถึงเร็วขนาดนี้ได้
เห็นว่าบนทางเดินไม่มีเจียงซินเหมย เหมยเหมยก็แอบโล่งใจ ดูเหมือนเจียงซินเหมยจะหนีไปได้แล้ว
เหมยเหมยสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ กำลังคิดจะวิ่งเร็วกว่านี้อีกนิด จู่ ๆ ห้องข้าง ๆ ก็เปิดประตูออกแล้วสาดน้ำแก้วหนึ่งใส่พื้น บนทางเดินที่ปูด้วยอิฐหินอ่อนเคลือบทำให้ลื่นเป็นอย่างมาก พอโดนน้ำเข้าไปก็ลื่นกว่าเดิม
เหมยเหมยที่ไม่ทันตั้งตัวเผลอเหยียบน้ำเข้าเจ้าตัวเลยล้มลงกับพื้นเสียงดังโครมเหมือนตรงส่วนเอวหักเป็นสองท่อนก็ไม่ปาน เจ็บจนเธอแทบกลั้นใจตายให้ได้!
ไอ้สารเลวคนไหนไร้จิตสาธารณะสาดน้ำไปทั่วแบบนี้!
ประตูบานนั้นพอสาดน้ำเสร็จก็รีบปิดประตูลง เหมยเหมยไม่ทันเห็นได้ชัดว่าบุคคลที่สาดน้ำเป็นใครแต่เธอเหมือนจะเห็นมือขาวละเอียด ดูท่าทางไม่เหมือนผู้ชาย น่าจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
หนีออกไปให้ได้ก่อนเถอะ ไว้เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีกับผู้หญิงที่สาดน้ำ!
แต่สิ่งที่เหมยเหมยไม่รู้คือ–
เจียงซินเหมยที่ถูกอู่เยวี่ยจับตัวได้อยู่ในห้องนั้น ซึ่งคนที่ถูกจับตัวพร้อมกับเธอยังมีหญิงสาวอีกคนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ย เพียงแต่หญิงสาวคนนี้หน้าตาว่างเปล่าเหมือนเพิ่งเจอเรื่องสะเทือนใจมาก
โอหยางซานซานนั่งอยู่บนโซฟาสีหน้าราบเรียบ
“ฉันจะบอกเธอให้ว่าไม่นานจ้าวเหมยก็จะโดนเหมือนลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ถูกผู้ชายสิบกว่าคนรุมโทรม…ฮ่าฮ่าฮ่า…แล้วยังโดนถ่ายรูปเปลือยไว้ให้คนทั้งเมืองได้ชื่นชมสภาพจ้าวเหมยหลังถูกรุมโทรม…”
อู่เยวี่ยกดเสียงให้ต่ำลงทำหน้าได้ใจถึงที่สุด แต่ในสายตาของเจียงซินเหมยนั้นกลับดูน่ากลัวยิ่งกว่างูอสรพิษ
เธอพยายามขัดขืนอยากให้หลุดพ้นจากพันธนาการของอู่เยวี่ย แต่ยาในตัวเธอแผลงฤทธิ์อีกแล้วไม่เหลือเรี่ยวแรงใด ๆ อีก แค่กระเสือกกระสนเพียงครู่เดียวเท่านั้นก็หมดแรง เจียงซินเหมยหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
เธอเองที่ทำให้เพื่อนต้องเดือดร้อน!
ความผิดของเธอทั้งหมด!
อู่เยวี่ยมั่นอกมั่นใจคิดแน่วแน่ว่าเหมยเหมยหนีไม่พ้นแล้ว เดิมทีเธอยังหึงอยู่นิดหน่อย รู้สึกว่าหานป๋อหย่วนทำแบบนี้ไม่ได้เห็นแฟนสาวตัวจริงอย่างเธออยู่ในสายตาเลย
ที่แท้ก่อนหน้านี้พวกหานป๋อหย่วนก็ได้สลับกันรุมโทรมลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยมาก่อนแล้ว ตอนนั้นเธอยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างถึงได้มาห้องของโอหยางซานซาน คิดว่าไม่เห็นน่าจะสบายใจกว่า
แต่ไม่นานเธอก็คิดได้ว่าเธอไม่มีทางปล่อยมือจากหานป๋อหย่วนแน่ ๆ ฉะนั้นเธอจำต้องทำตามหานป๋อหย่วน นอกจากจะหึงหวงไม่ได้ยังต้องคอยเอาอกเอาใจให้ดี
อย่างไรเสียสิ่งที่เธอต้องการก็แค่ตำแหน่งคุณนายหาน เรื่องอื่นเธอจะไปถือสาทำไมกัน!
ดังนั้นคนที่เสนอความคิดให้ลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยโกหกเจียงซินเหมยก็คืออู่เยวี่ยเอง
เธอเกลียดจ้าวเหมยและเกลียดเพื่อนรอบตัวของจ้าวเหมย แตะต้องจ้าวเหมยไม่ได้ก็ต้องเริ่มลงมือจากเพื่อนของเธอ!
เพียงแต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าจะล่อปลาตัวใหญ่อย่างจ้าวเหมยมาได้ พระเจ้าช่างเป็นใจเสียจริง!
วันนี้ไม่ว่ายังไงก็ปล่อยให้จ้าวเหมยหนีไปไม่ได้ เธอถูกซ่งเป่าเหลียงข่มขืน อย่างนั้นก็ให้จ้าวเหมยโดนคนสิบกว่าคนรุมโทรม!
ฮ่าฮ่าฮ่า…
อู่เยวี่ยหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หลงคิดว่าจ้าวเหมยเป็นเนื้อที่รอสับบนเขียงที่ไม่ว่าอย่างไรก็หนีไม่รอดแล้ว!
“เธออย่าหัวเราะ ได้ยินแล้วรำคาญ!”
โอหยางซานซานเอ่ยประโยคหนึ่งอย่างไม่พอใจพลางมองเด็กสาวที่นั่งข้างเธออย่างนึกรังเกียจแวบหนึ่ง หากเธอรู้ว่าคืนนี้จะมีรายการสดแบบนี้ต่อให้พูดอะไรเธอก็ไม่มีทางมา
แน่นอนว่าเธอไม่ได้เห็นใจลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยแค่รู้สึกสะอิดสะเอียนใจเท่านั้น
เธอเป็นถึงเจ้าหญิงโอหยางที่ตัวสะอาดบริสุทธิ์ จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรกแบบนี้ได้อย่างไร?
………………………..
ตอนที่ 1083 เผยความน่าเกรงขามของผู้หญิง
แน่นอนว่าโอหยางซานซานไม่มีทางออกหน้าช่วยเจียงซินเหมยกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ และยิ่งไม่มีทางช่วยจ้าวเหมย
หากจ้าวเหมยเป็นอะไรไปเธอมีแต่จะสมน้ำหน้า ส่วนเจียงซินเหมยกับลูกพี่ลูกน้องของเธอนั้นเป็นเพียงบุคคลที่ไม่มีความสำคัญอะไรเท่านั้นเอง
จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเธอ!
ไม่จำเป็นต้องไปล่วงเกินลูกพี่ลูกน้องอย่างโอหยางสยงเพราะบุคคลไร้ความสำคัญแบบนี้ ไม่สิ ต้องเรียกว่าคุณลุงถึงจะถูก!
โอหยางสยงเป็นลูกชายพี่ชายคนโตของโอหยางเซี่ยงหมิงที่ได้รับความรักจากคนในครอบครัวอย่างล้นหลาม คืนนี้หากไม่ใช่หานป๋อหย่วนที่บอกว่าโอหยางสยงจะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดด้วยเธอไม่มีทางลดตัวมาตามคำเชิญของหานป๋อหย่วนเด็ดขาด!
แต่ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะทำเรื่องแบบนี้ได้ ถึงจะไม่ได้ทำต่อหน้าเธอแต่เธอก็ไม่ได้มีความสุขนัก ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย!
อู่เยวี่ยยิ้มค้าง ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของโอหยางซานซานแต่ก็รู้สึกไม่พอใจเหลือเกินเลยหันไปตบหน้าเจียงซินเหมยฉาดใหญ่เป็นการระบายอารมณ์
ข้างนอกเหมยเหมยดิ้นรนจะลุกขึ้นยืน แต่เพิ่งลุกได้พวกโอหยางสยงก็ตามมาทันจนห่างจากเธอไม่ถึงหนึ่งเมตร และกำลังจะถูกจับตัวได้แล้ว
“จี๊ดจี๊ด…”
ฉิวฉิวบินออกไปอีกครั้ง เงาสีขาวผ่านแวบและตามด้วยเสียงร้องโหยหวนจากอีกหลายคน
“นี่มันอะไรกันเนี่ย? รุนแรงยิ่งกว่ากรงเล็บแมวอีก…โอ๊ย!”
……
“ฉิวฉิวทำดีมาก!”
เหมยเหมยร้องด้วยความดีใจและมีความกล้าเพิ่มขึ้นอีกมาก หากไม่ใช่เพราะเจ้าโรคจิตอย่างเฮ่อเหลียนเช่อฉิวฉิวของเธอจะเก่งยิ่งกว่าทหารหน่วยรบพิเศษด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่ายังมีสุดที่รักฉาฉาด้วยที่เก่งเหมือนกัน!
ในเมื่อเจ้าพวกตัวเล็กเก่งขนาดนี้ แล้วเธอจะหนีไปทำไมอีก?
จัดการก่อนค่อยว่ากันทีหลัง!
เหมยเหมยลอบด่าตัวเองว่าโง่ขณะเดียวกันก็นวดก้นไปด้วย ความเจ็บแล่นลิ่วขึ้นมาทำเอาเธอต้องยู่หน้า ยิ่งแค้นเจ้าพวกโอหยางสยงเข้ากระดูก ต้องให้พวกเขาได้เจอดีสักที!
เธอไขว้มือไปดึงของบางอย่างจากกระเป๋าเป้ด้านหลัง เป็นแส้เส้นเล็กขนาดยาว เป็นของที่เหยียนหมิงซุ่นสั่งทำให้เธอโดยเฉพาะ วัสดุพอ ๆ กับเฮ่อเหลียนเช่อ เธอฝึกมาสามปีตอนนี้เลยใช้ได้คล่องมือเต็มที่แล้ว
“โอ๊ย…”
เสียงร้องโหยหวนดังต่อกัน เหมยเหมยไม่ถอยกลับ แต่เป็นฝ่ายจู่โจมแทนโดยมีฉิวฉิวคอยช่วย เธอไม่กลัวคนพวกนี้หรอกนะ!
แส้เส้นนี้ทั้งเล็กและยาว นอกจากนี้ตรงส่วนปลายยังมีหนามขึ้นถี่ ๆ พอฟาดลงบนตัวคนนั้นสร้างความเจ็บยิ่งกว่าโดนมีดกรีด แต่ก็เพราะเหมยเหมยมีแรงไม่พอหากเปลี่ยนเป็นเฮ่อเหลียนเช่อหรือพวกเหยียนหมิงซุ่น ครั้งเดียวก็จบชีวิตพวกเขาได้
“พวกนายกล้ารังแกเพื่อนฉัน!”
“นายกล้าวางแผนใส่ฉัน!”
“พ่อแม่พวกนายคลอดสัตว์เดรัจฉานอย่างพวกนายออกมาแต่สอนพวกนายให้เป็นคนไม่ได้ วันนี้ฉันจะสั่งสอนพวกนายเอง!”
……
เหมยเหมยฟาดแส้หนึ่งทีก็ต้องด่าหนึ่งประโยค พวกผู้ชายกลุ่มนี้ล้วนมีดีแค่หน้าตา ทำไม่เป็นแม้กระทั่งท่าป้องกันตัว โอหยางสยงยังพอได้หลายท่าแต่เขาเสียตาไปข้างหนึ่ง เดิมก็เจ็บจนไม่เหลือสติเท่าไรแล้วบวกกับโดนฉิวฉิวข่วนเป็นระยะ ๆ ทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจเหมยเหมย
เห็นว่าอาศัยกำลังตัวเองเพียงลำพังก็จัดการผู้ชายร่างโตสิบกว่าคนได้อย่างราบคาบเหมยเหมยก็อดเหลิงไม่ได้ แส้ในมือใช้คล่องกว่าเดิมหนำซ้ำเธอยังสะบัดเป็นลวดลายสวยงามได้อีกด้วย
ปลายหางฟาดใส่หน้าผู้ชายคนหนึ่งเกิดเสียงดังเพี้ยะ ผิวหน้าเนียนของชายหนุ่มถลอกจนเห็นเนื้อเพราะหนามส่วนปลายของแส้ เลือดสีสดเปรอะไปทั่วหน้า
“ไอ้พวกสวะอย่างพวกนายมีชีวิตไปก็เปลืองอากาศ…สู้ตายไปเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ยังดีกว่า!”
เหมยเหมยหัวเราะเสียงดังพลางฟาดแส้ในมือไม่ยั้งเป็นการสั่งสอนเจ้าพวกนี้อย่างรุนแรง
อู่เยวี่ยเห็นเหตุการณ์ข้างนอกจากช่องประตูเล็ก ๆ อย่างชัดเจนก็กัดฟันกรอด นี่จ้าวเหมยต่อสู้เป็นด้วย น่าโมโหจริง ๆ!
ไม่ได้ วันนี้จะปล่อยจ้าวเหมยหนีไปไม่ได้!
อู่เยวี่ยกัดฟันคว้าที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะมาเปิดประตูย่องไปด้านหลังเหมยเหมยแล้วชูมือขึ้นสูง ๆ หมายจะฟาดลงไป
ตอนที่ 1084 รังหนูรังงู
เจียงซินเหมยเห็นการกระทำของอู่เยวี่ยได้ชัดเต็มสองตาก็ตะเกียกตะกายจะออกไปแต่กลับถูกโอหยางซานซานกระทืบใส่อย่างแรงจนล้มลงที่พื้น
“อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง!”
โอหยางซานซานกล่าวด้วยเสียงเย็นชา ความเกลียดชังที่มีต่อจ้าวเหมยของเธอไม่ได้น้อยไปกว่าอู่เยวี่ย แล้วจะยอมปล่อยให้เจียงซินเหมยไปขัดขวางอู่เยวี่ยได้อย่างไร!
เจียงซินเหมยร้องเสียงอื้ออึงจากลำคออยากจะเตือนเหมยเหมยที่ยืนอยู่ตรงทางเดินแต่เพราะปลายลิ้นเธอบาดเจ็บหนักเลยทำได้เพียงส่งเสียงร้องติด ๆ ขัด ๆ และไม่ดังพอจะให้เหมยเหมยได้ยิน จึงไม่รู้ทันอู่เยวี่ยที่ทำหน้าโหดเหี้ยมอยู่ด้านหลัง
ฉิวฉิวสังเกตเห็นอู่เยวี่ยแต่กลับถูกโอหยางสยงสกัดไว้ไม่สามารถปลีกตัวมา ได้แต่ส่งเสียงร้องเตือนเจ้านายไม่กี่ทีให้เหมยเหมยหันขวับกลับมาแต่ที่เขี่ยบุหรี่ในมืออู่เยวี่ยก็ฟาดลงมาเสียแล้ว
เธอสะดุ้งรีบเอนตัวไปด้านหลัง โชคดีที่ร่างกายเธอมีความยืนหยุ่นดี จึงโค้งตัวลงไประดับเก้าสิบองศาอย่างสมบูรณ์แบบ ที่เขี่ยบุหรี่ตามลงมาติด ๆ จนเห็นว่าใกล้จะฟาดใส่ศีรษะเธออยู่รอมร่อ
เหมยเหมยรีบสะบัดแส้อย่างแรงคิดจะฟาดที่เขี่ยบุหรี่ออกไป
พวกพี่เสือรีบวิ่งตามมา เพิ่งขึ้นมาถึงก็เห็นฉากสุดเสียวนี้พอดี ต่างตกใจจนวิญญาณแทบกระเจิง รีบเตะรองเท้าเหม็น ๆ บนเท้าออกไปก่อนจะวิ่งมาด้วยความเร็วแสง บนตัวมีกลิ่นเหงื่อในฤดูร้อนจาง ๆ ติดมาด้วย
“เคร้ง”
รองเท้าคู่เหม็นนั้นโดนที่เขี่ยบุหรี่ในมืออู่เยวี่ยพอดิบพอดี แรงกระทบอย่างหนักหน่วงทำให้ที่เขี่ยบุหรี่ลอยทแยงก่อนจะตกลงพื้นไม่ห่างจากตัวเหมยเหมยนัก เสียงใสดังสนั่นพร้อมกับแตกกระจายออกเป็นหลายชิ้น
เหมยเหมยไม่เคยเห็นพี่เสือมาก่อนแต่เธอเคยฟังเหยียนหมิงซุ่นพูดถึงหน้าตาพี่เสือ พอมองเห็นพี่เสือที่มาช่วยเธอไว้ทันเหมยเหมยก็พอจะเดาออก โล่งอกไปทีพลางทิ้งตัวนั่งลงพื้นอย่างสบายใจ
ทำเธอเหนื่อยแทบแย่!
พี่เสือถลาวิ่งเข้ามาหาถามด้วยความเป็นห่วง “คุณจ้าวไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ?”
“ไม่เป็นไร พวกนายเห็นเพื่อนฉันอยู่ที่ชั้นล่างมั้ย? เธอโดนวางยา” เหมยเหมยถามแต่พี่เสือกลับส่ายศีรษะ
เหมยเหมยใจหล่นวูบ บนทางเดินไม่มีเงาของเจียงซินเหมย ชั้นหนึ่งก็ไม่มีแล้วเธอไปไหนกัน?
พี่เสือพาคนมาด้วยราว ๆ เจ็ดแปดคนซึ่งแต่ละคนมีรูปร่างใหญ่บึกบึนอีกทั้งล้วนเป็นทหารเก่าที่เกษียณแล้วเลยมาทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานเหยียนหมิงซุ่น พี่เสือเป็นหัวหน้าทีมแต่ความจริงภารกิจหลักของพวกเขาก็คือปกป้องเหมยเหมย
พวกโอหยางสยงที่มีสภาพพ่ายแพ้อยู่แล้วจะยังเป็นคู่ต่อสู้ของพวกพี่เสือได้อย่างไรไหว ไม่ถึงห้านาทีพวกโอหยางสยงก็โดนควบคุมตัวไว้
อู่เยวี่ยเห็นท่าทางไม่ดีก็คิดจะหนี เหมยเหมยฟาดแส้ไปพันเท้าเธอ พอกระชากแรงหน่อยอู่เยวี่ยก็ล้มหน้าคะมำลงที่พื้นอย่างแรง
เหมยเหมยลุกยืนเดินไปตรงหน้าอู่เยวี่ย พอเห็นว่าเธอยังคิดที่จะลุกมาอีกก็ฟาดแส้ลงไปอีกอย่างไม่ปราณี
อู่เยวี่ยใส่ชุดกระโปรงสีขาว สีรอยเลือดยิ่งสร้างความสยองแก่คนพบเห็น อู่เยวี่ยเจ็บหนักอดส่งเสียงร้องไม่ได้พลางตะโกนให้หานป๋อหย่วนรีบมาช่วยเธอ!
เหมยเหมยที่ได้ยินชื่อหานป๋อหย่วนก็รู้สึกคุกรุ่นอย่างบอกไม่ถูก เรื่องวันนี้หานป๋อหย่วนต้องเป็นตัวต้นคิด เธอจะปล่อยไอ้สารเลวนี่ไปได้หรือ!
แค่นึกถึงถ้อยคำที่หานป๋อหย่วนกล่าวไว้รวมถึงสายตาน่าสะอิดสะเอียนนั่นเหมยเหมยก็โกรธจนอยากจะฆ่าหานป๋อหย่วนกับโอหยางสยงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้ต้องตามหาเจียงซินเหมยให้เจอก่อน
ไม่นานเหมยเหมยก็นึกถึงอู่เยวี่ย นางแพศยาคนนี้ต้องจู่โจมเจียงซินเหมยแน่!
ในห้องมีเสียงครางฮือแว่วมาแม้เหมยเหมยจะได้ยินไม่ค่อยชัดนักแต่พวกพี่เสือที่เคยผ่านการฝึกอย่างเป็นระบบมาก่อน เพียงครู่เดียวก็ตามหาห้องที่โอหยางซานซานอยู่เจอ และพบว่าเจียงซินเหมยนอนอยู่บนพื้นนั่นเอง!
“ฮือฮือ…”
เจียงซินเหมยเห็นเหมยเหมยเลยอดครางไม่ได้ปล่อยให้น้ำตาไหลริน เพื่อนไม่เป็นไรก็พอ ไม่อย่างนั้นเธอต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่
เหมยเหมยกลับไม่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นโอหยางซานซาน รังงูรังหนู อู่เยวี่ยกับหานป๋อหย่วนอยู่กันครบ ถ้าจะเพิ่มโอหยางซานซานอีกสักคนก็ไม่แปลก
“เห็นทีวันนี้คนชั้นต่ำมากระจุกตัวกันอยู่เป็นรังเลยนะ!” เหมยเหมยกล่าวเสียงกลั้วหัวเราะอย่างเย็นยะเยือก
………………………..
ตอนที่ 1085 ที่หนุนหลังฉันไม่เคยเป็นตระกูลจ้าว
โอหยางซานซานลุกพรวดด้วยความโกรธแล้วตวาดเสียงใส่ “จ้าวเหมยเธอพูดจาให้ดีหน่อย!”
“ให้ดี? โอหยางซานซานคนที่สกปรกยิ่งกว่านางแพศยาอย่างเธอยังมีหน้ามาบอกให้พูดดี ๆ ? ถุย เธอไม่คู่ควร!”
เหมยเหมยมองโอหยางซานซานด้วยสายตาเหยียดหยาม มั่นใจแล้วว่าเรื่องวันนี้ต้องเป็นไอ้คนชั้นต่ำสามคนอย่างหานป๋อหย่วน โอหยางซานซานแล้วก็อู่เยวี่ยรวมหัวกัน
จะว่าไปความจริงก็ดูจะกล่าวหาโอหยางซานซานเกินไปหน่อย เธอไม่ได้รวมหัวด้วยแต่เธอกลับไม่ได้ห้าม แค่นั่งดูเรื่องสนุก ๆ อยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบหรือบางทีก็พายเรือไปตามน้ำ แบบนี้ก็ไม่นับว่ากล่าวหาเธอเกินไป
“จ้าวเหมยเธอยังกล้ามาทำตัวเหิมเกริมต่อหน้าฉัน? เหอะ ตระกูลจ้าวของพวกเธอใกล้จบเห่แล้ว เธอเอาความมั่นใจมาจากไหน!”
โอหยางซานซานสลัดคราบยำเกรงในอดีตเชิดหน้ามองเหมยเหมยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามเช่นเดียวกัน แถมจะดูสมใจมากอีกด้วย
“โอหยางซานซานเธอนี่มันโง่จริง ๆ ฉันไม่เคยพึ่งพาตระกูลจ้าวอยู่แล้ว ทำไมจนตอนนี้เธอยังไม่เข้าใจอีก หัวสมองหมูหรือไงเธอน่ะ!”
เหมยเหมยฟาดแส้ไปอีกที คนที่คอยหนุนหลังเธออยู่คือเหยียนหมิงซุ่นกับจ้าวอิงหัวต่างหาก
ยามตระกูลจ้าวรุ่งเรืองก็ไม่อาจให้เกียรติยศแก่เธอได้มากมายนัก พอตระกูลจ้าวพลาดเลยไม่ส่งผลกระทบต่อเธอมากจนเกินไป เธอไม่สนใจจริง ๆ แต่เจ้าโง่พวกนี้ดันคิดว่าเธอสนใจ
โอหยางซานซานอ่อนแอกว่าอู่เยวี่ยมากโข แค่แส้ครั้งเดียวก็ทำเอาเธอเจ็บเจียนตาย น้ำตาไหลพราก
“จ้าวเหมยเธออย่ามาทำปากแข็งไปหน่อยเลย ตระกูลจ้าวจบเห่แล้วฉันจะรอดูว่าเธอจะทำตัวจองหองยังไงอีก!” โอหยางซานซานตะโกนพูด ไม่คิดจะเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยเลยสักนิด
เป็นถึงหลานสาวของตระกูลจ้าว ถ้าคนหนุนหลังไม่ใช่ตระกูลจ้าวแล้วจะเป็นใครได้?
คงไม่มีทางเป็นเฮ่อเหลียนเช่อหรอกนะ!
โอหยางซานซานเอาความมั่นใจจากไหนไม่รู้พุ่งตัวไปหาเหมยเหมยคิดจะสั่งสอนเธอด้วยตัวเอง เป็นการเอาคืนกับสิ่งที่ตัวเองโดนมาในอดีตทั้งหมด
พี่เสือกำลังจะขวางแต่โดนเหมยเหมยห้ามไว้ “ฉันจะสั่งสอนเธอเอง!”
พูดจบเธอก็ฟาดแส้ลงไปอีกที ทำให้โอหยางซานซานร้องออกมาด้วยความเจ็บ เสื้อผ้าบนตัวฉีกขาด เธอถลึงตาจ้องเหมยเหมยด้วยความแค้น ตวาดกล่าวด้วยความโกรธ “จ้าวเหมยนี่เธอกล้าตีฉัน?”
“ทำไมฉันถึงจะไม่กล้าตีเธอ น่าขำ เอาอีกสักรอบแล้วกัน!”
แส้ถูกฟาดลงไปอีกที ทำให้โอหยางซานซานกลิ้งเกลือกบนพื้นไปมาด้วยความเจ็บ ส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดหมดสิ้นซึ่งไฟโทสะในเมื่อครู่นี้
“เมื่อกี้เธอเป็นคนสาดน้ำใช่มั้ย? พูดมา!”
เหมยเหมยเหยียบเท้าลงบนหลังมือโอหยางซานซานพลางก้มมองเธอจากที่สูงกว่า เมื่อกี้น้ำถูกสาดออกมาจากห้องนี้ไม่ผิดแน่ ๆ เหอะ มีโอหยางซานซานกับอู่เยวี่ยอยู่ น้ำแก้วนั้นเป็นความจงใจร้อยเปอร์เซ็นต์
เจ้าพวกชั้นต่ำ!
“ไม่ใช่ฉัน…อู่เยวี่ย…หล่อนเป็นคนสาดเอง…”
โอหยางซานซานโดนเหยียบมือจนร้องเสียงหลง เหงื่อผุดตรงหน้าผากไหลกลิ้งลงมาราวกับเมล็ดถั่วเหลือง เธอจะทนได้อย่างไรไหว แค่ครู่เดียวก็เปิดโปงอู่เยวี่ยจนหมดเสียแล้ว
เหมยเหมยหันไปยังอู่เยวี่ยที่ถูกพี่เสือคุมตัวไว้อย่างเย็นชาแวบหนึ่ง สาดน้ำก่อนเป็นอันดับแรกค่อยเอาที่เขี่ยบุหรี่ลอบจู่โจมเธอ ใจเหี้ยมใจอำมหิตเหมือนชาติก่อนไม่มีผิด
เธอให้พี่เสือส่งคนพาเจียงซินเหมยไปโรงพยาบาลก่อนค่อยพาพวกโอหยางสยงมาในห้องทั้งหมด เริ่มทำการสอบสวนหลังล็อกประตูห้องเสร็จสรรพ
“เรื่องคืนนี้ใครเป็นต้นคิด?”
เหมยเหมยทำหน้าเย็นชาโดยมีแส้อยู่ในมือ ใครที่คิดจะลังเลเพียงนิดก็โดนแส้ฟาดทันทีอย่างไม่ยั้งมือ คนพวกนี้ล้วนเป็นคุณชายที่ถูกเลี้ยงตามใจมาอย่างดี เคยเจอความลำบากแบบนี้เสียที่ไหนกัน แต่ละคนร้องไห้โฮหาพ่อหาแม่กันสนั่น
“คุณหนูไม่ต้องลงมือเอง คุณหนูแค่คอยดูอยู่ข้าง ๆ ให้ผมถามเอง!” พี่เสือเห็นแล้วรู้สึกขบขันเลยเอาแส้มาจากเหมยเหมย แค่สะบัดเบา ๆ ผู้ชายคนข้าง ๆ ก็ตาเหลือกสลบเหมือดไปทันที
คนอื่นเห็นแล้วก็ตกใจฉี่แทบราด พระเจ้า ผู้ชายคนนี้มือหนักกว่าจ้าวเหมยเยอะเลย จะกล้าไม่สารภาพได้อย่างไรอีกก่อนที่จะร้องขอชีวิตกันถ้วนหน้า
“ไม่เกี่ยวกับพวกเรา เป็นความคิดของหานป๋อหย่วนหมดเลย หานป๋อหย่วนบอกว่าได้สินค้าสดใหม่มาให้เราลองชิมความสดดู พวกเราไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเป็นคุณจ้าว…”
ตอนที่ 1086 เจอมายังไงก็เอาคืนอย่างนั้น
หานป๋อหย่วนในเวลานี้ตัวแข็งเหมือนท่อนไม้ก็ไม่ปาน เหลือเพียงลูกตาที่หมุนกลอกไปมาไม่หยุดดูท่าทางน่าขันสิ้นดี เหมยเหมยเห็นไอ้คนจอมปลอมนี่ก็โมโห เจ้าคนสารเลวนี่เชิญเธอมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยเจตนาที่ไม่ดีอยู่แล้วสินะ!
“ไอ้สารเลว!”
เหมยเหมยยันเท้าถีบใส่ทำให้หานป๋อหย่วนล้มแน่นิ่งบนพื้นก่อนที่เหมยเหมยจะกระทืบระบายอารมณ์โกรธอีกหลาย ๆ ที
“ทำไมต้องหลอกเพื่อนฉัน? ใครเป็นคนต้นคิด?” เหมยเหมยถามอีก
ในเมื่อเริ่มแล้วย่อมไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้ เหล่าคุณชายอ้าปากพูดเป็นเสียงเดียว ทีแบบนี้ล่ะสามัคคีกันเหลือเกิน
“ผู้หญิงของหานป๋อหย่วนเป็นคนบอก คุณชายโอหยางบอกว่าคนเดียวน้อยไปไม่สะใจ ผู้หญิงของหานป๋อหย่วนเลยบอกว่าเธอมีวิธีหลอกมาอีกคนหนึ่ง แถมยังสวยกว่าคนก่อนหน้า…”
เหมยเหมยปรายตามองหญิงสาวที่ยังคงนั่งเหม่ออยู่บนโซฟา นั่นเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมย แค่ดูสภาพเธอก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“พวกเธอทำอะไรเพื่อนฉันหรือยัง?”
“เปล่า…ไม่ได้ทำจริง ๆ เพื่อนของเธอไม่ยอม ชิงกัดลิ้นตัวเองก่อน พอเห็นแบบนั้นเราก็หมดอารมณ์แล้ว…ถึงคุณจ้าวไม่มาเราก็ไม่แตะต้องเพื่อนของคุณจ้าวหรอก” คุณชายหนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงที่มีเล่ห์เหลี่ยมโดยที่คนอื่นต่างพยักหน้าเห็นด้วย
สิ่งที่พวกเขาพูดกลับเป็นความจริง แม้คนกลุ่มนี้จะชั่วร้ายไม่น่าให้อภัย แต่เรื่องที่พวกเขาก็ขี้ขลาดตาขาวเป็นเรื่องจริง พวกเขาไม่มีทางทำในสิ่งที่อาจเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิตคน
อย่างลูกพี่ลูกน้องเจียงซินเหมยนั้น แค่ขู่นิดขู่หน่อยก็ยอมปลดเปลื้องเสื้อผ้าด้วยตัวเองอย่างเชื่อฟังต่างหากที่พวกเขารักที่สุด!
เหมยเหมยแค่นเสียงพลางแอบถอนหายใจโล่งอก นับว่าโชคดีที่เธอมาทันเวลาไม่อย่างนั้นต่อให้เจียงซินเหมยจะหนีพ้นเงื้อมมือโหดเหี้ยมของเหล่าคุณชายพวกนี้ สัตว์เดรัจฉานอย่างโอหยางสยงกับหานป๋อหย่วนก็ไม่มีวันปล่อยเธอไป
แล้วก็ยัยผู้หญิงใจเหี้ยมอย่างอู่เยวี่ย เจียงซินเหมยไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับเธอแท้ ๆ ผู้หญิงคนนี้ยังทำได้ลงคอ สมแล้วที่มีนิสัยชั่วโฉดมาแต่เกิด!
ไม่ต้องถามเหมยเหมยก็รู้เหตุผลที่อู่เยวี่ยทำร้ายคนอื่นคงไม่พ้นที่เจียงซินเหมยเป็นเพื่อนของเธอ ชาตินี้อู่เยวี่ยไม่ได้มีชีวิตที่ราบรื่นอย่างชาติที่แล้วนิสัยจึงร้ายกาจกว่าเดิม จิตใจชั่วช้ากว่าเดิม คนบริสุทธิ์ล้วนกลายเป็นเป้าหมายที่เธอใช้ระบายอารมณ์
ผู้หญิงแบบนี้ดีที่สุดคือต้องเอาคืนอย่างที่ทำไว้กับคนอื่น ให้เธอได้ลิ้มรสชาติผลผลิตอันโหดร้ายที่เธอเป็นคนปลูกมันด้วยมือตัวเอง
รวมถึงโอหยางซานซานที่แม้เธอไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดในเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ต่อให้ไม่ใช่ตัวการจริง ๆ แต่ก็ปล่อยปละละเลย ปล่อยเธอไว้ไม่ได้เช่นกัน!
“ยาที่พวกนายให้เพื่อนฉันกินเอามาจากไหน?” เหมยเหมยถามเสียงเยือกเย็น
ทุกคนต่างหันสายตามองไปที่บุคคลเดียวกันกับบุคคลที่ร้องขอชีวิตเสียงดังที่สุดคนก่อนนั่นเอง เขาไม่รอให้เหมยเหมยถามก็ยอมรับเองอย่างเชื่อฟัง พลางล้วงยาทั้งหมดที่อยู่บนตัวเขาออกมา
เม็ดยาสีฟ้าอ่อนถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติกเล็ก ๆ มีประมาณสิบกว่าเม็ด
“คุณหนูจ้าว อยู่ในนี้หมดแล้วครับ” ชายหนุ่มมองเหมยเหมยอย่างเอาใจ
เหมยเหมยแสยะยิ้ม ยิ้มจนเหล่าคุณชายขนลุกเกรียว ไม่รู้ว่าเหมยเหมยจะทำอะไรกับพวกเขา
“ฉันไม่ทำโทษพวกนายแต่จะตบรางวัลให้พวกนาย เห็นสาวสวยสองคนนั่นมั้ย? เป็นของชั้นดีเชียวนะ วันนี้ให้พวกนายได้เล่นอย่างเต็มที่ไปเลย!”
เหมยเหมยเทเม็ดยาออกมาพลางยัดใส่ปากของโอหยางซานซานกับอู่เยวี่ยคนละเม็ด พวกเธอสองคนส่ายศีรษะแรง ๆ หวังจะขย้อนยาเม็ดนั่นออกมา ไม่มีใครรู้ฤทธิ์ยานี้ดีไปกว่าพวกเธอแล้ว
เจียงซินเหมยกลืนยาเม็ดนี้ไปถึงได้เป็นฝ่ายเรียกร้องผู้ชายเหล่านั้นด้วยตัวเองเหมือนโสเภณี…
ไม่เอา…พวกเธอไม่อยากกลายเป็นโสเภณี!
โอหยางซานซานกระวนกระวายมากยิ่งกว่า ความบริสุทธิ์ที่เธอรักษาไว้สิบเก้าปีจะพังทลายลงในพริบตาไม่ได้!
เธอยังไม่แต่งงานเลยนะ!
…………………….
ตอนที่ 1087 ไม่ใจอ่อนเด็ดขาด
“จ้าวเหมยเธอรีบหยุดเดี๋ยวนี้นะ แม่ของฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”
โอหยางซานซานร้องโวยวายเพียงแต่เธอก็โง่ไปเสียหน่อย ขอร้องก็ไม่รู้จักอ้อนวอนแต่ยังคงท่าทีคุณหนูใหญ่จอมเอาแต่ใจเหมือนเดิม
ใครจะสนใจเธอกัน!
“เพี้ยะ”
เหมยเหมยฟาดแส้ไปทีหนึ่งก่อนจะหยิบขวดเบียร์กรอกใส่ปากโอหยางซานซานไปครึ่งขวด เบียร์ผสมยาไหลลงท้องของเธอ ไม่นานยาก็เริ่มออกฤทธิ์
เธอทำเช่นเดียวกันนี้กับอู่เยวี่ย ทั้งคู่อดใจให้ครางเสียงออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเริ่มพร่ามัวตัวเริ่มบิดงอไปมาไม่หยุด อีกทั้งยังเริ่มเปลื้องผ้าขับให้ดูน่ายั่วยวนใจกว่าเดิม
เหมยเหมยให้พี่เสือป้อนยาใส่ปากคุณชายเหล่านั้นตามด้วยเบียร์เช่นกันเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เร็วกว่าเดิม คุณชายเหล่านี้กลับไม่รู้สึกสาสมใจสักนิดต่างมองโอหยางซานซานด้วยความหวาดระแวง
ให้นอนกับอู่เยวี่ยพวกเขาไม่มีอะไรต้องกลัวแต่โอหยางซานซานไม่เหมือนกันนี่นา ลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่งจ้องอยู่ข้าง ๆ แหนะ!
พวกเขาจะกล้าได้อย่างไร?
“พวกนายตามสบายเลย ไม่ต้องขอบคุณฉันมากก็ได้!” เหมยเหมยแค่นเสียงกล่าว
ถึงคุณชายมีฐานะเหล่านี้ไม่ได้มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตแต่กลับไม่รู้ว่าทำลายชีวิตหญิงสาวมามากแค่ไหน เพราะงั้นปล่อยให้พวกเขากัดกันเองแล้วกัน!
แม้ว่าโอหยางสยงจะไม่สนใจลูกพี่ลูกน้องตัวปลอมหลานสาวตัวจริงอย่างโอหยางซานซาน แต่การที่เหมยเหมยทำแบบนี้มันไม่ไว้หน้าตระกูลโอหยาง เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร!
“จ้าวเหมยเธอกล้าเหรอ!”
โอหยางสยงตวาดเสียงดุดันแต่กลับดูน่าเกรงขามน้อยกว่าเดิมเพราะอาการเจ็บที่ดวงตา
เหมยเหมยแค่นเสียงพลางเอาแส้จากมือพี่เสือมาฟาดใส่ตัวโอหยางสยงแรง ๆ “นายดูแล้วกันว่าฉันกล้าหรือไม่กล้า!”
“ตระกูลจ้าวใกล้ล้มแล้วจ้าวเหมยเธอจะหาที่พึ่งจากไหนอีก ฉันจะบอกให้ว่าเรื่องวันนี้ที่เธอทำ ฉันจะเอาคืนเธอร้อยเท่า ให้เธอโดนรุมโทรมนับพันคน…” โอหยางสยงใช้ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวจ้องเหมยเหมยอย่างดุดันเรียกให้คนมองขนลุกเกรียว
“ตอนนี้ตระกูลจ้าวยังไม่ล้มไม่ใช่หรือไง อีกอย่างนายต้องทำความเข้าใจให้ดี ตอนนี้ฉันคือมีด นายคือเนื้อ ความเป็นความตายของนายขึ้นอยู่กับฉัน นายจะเหิมเกริมอะไร!”
เหมยเหมยฟาดแส้ใส่อีกที เดิมทีคิดจะไว้ชีวิตโอหยางซานซานเสียหน่อยแต่ขณะนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว
คิดจะให้เธอโดนรุมโทรมด้วยคนนับพัน?
เหอะ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ให้พวกเธอตระกูลโอหยางทำผิดศีลธรรมแล้วกัน!
“จ้าวเหมยเธอคิดจะทำอะไร?”
โอหยางสยงรู้สึกถึงความผิดปกติเลยเริ่มลนลานขึ้นมา
“ไม่ทำอะไร นายอยากให้ฉันโดนรุมโทรมด้วยคนนับพันไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันให้นายข่มขืนหลานสาวแท้ ๆ ของนายก่อนแล้วกัน นายเป็นคนบีบบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ!”
เหมยเหมยอมยิ้มน้อย ๆ รอยยิ้มหวานใสแต่ในสายตาโอหยางสยงกลับสยองราวกับงูอสรพิษ เขาส่ายหน้าอย่างแรงไม่อยากกลืนเม็ดยา แต่พี่เสือบีบปลายคางเขาเบา ๆ เม็ดยาก็ไหลตามท่ออาหารลงกระเพาะอาหารอย่างเชื่อฟังเสียแล้ว
โอหยางสยงสอดนิ้วเข้าไปในลำคอคิดจะล้วงเม็ดยาออกมา แต่กลับสูญเปล่าทั้งที่ทำจนตาเหลือก
โอหยางซานซานที่อยู่ข้าง ๆ ยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างก็ตกใจกลัวเลยพูดอ้อนวอนไม่หยุด “จ้าวเหมยเธอปล่อยฉันไป…ฉันไม่กล้าแล้ว…เธอรีบเอายาถอนพิษให้ฉัน…”
โอหยางสยงเป็นคุณอาแท้ ๆ ของเธอเชียวนะ!
หากทำเรื่องแบบนั้นไปเธอจะเอาหน้าที่ไหนมีชีวิตอยู่ต่อไปกัน?
เหมยเหมยเหยียดปากเป็นเส้นตรงไร้ซึ่งความใจอ่อน เธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองใจเหี้ยมเลยสักนิด หากวันนี้เจียงซินเหมยใจไม่แน่วแน่พอ เธอไม่ได้ฉิวฉิวคอยช่วยเหลือ เธอกับเจียงซินเหมยจะถูกกระทำอย่างไร?
กลัวก็แค่พวกโอหยางซานซานคิดจะใช้วิธีต่ำทรามยิ่งกว่านี้มาหยามเธอล่ะสิ!
ใจอ่อนต่อศัตรูก็คือใจเหี้ยมต่อตัวเอง!
ผ่านความเจ็บปวดเจียนตายเมื่อชาติที่แล้วมา ชาตินี้ไม่ว่าใครคิดจะทำร้ายเธอ เธอจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า!
ไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!
ตอนที่ 1088 เจรจาข้อแลกเปลี่ยน
ยาออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว พวกโอหยางซานซานใกล้ทนไม่ไหวแล้ว
ผู้ชายกลุ่มนั้นได้เข้าไปนัวเนียกับอู่เยวี่ยแล้ว เพราะอู่เยวี่ยเคยลิ้มรสการมีความสัมพันธ์ทางกายมาก่อน แม้สติจะรู้ดีว่าไม่ควรเคลิ้มไปกับมันแต่ร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่ง เขยิบเข้าใกล้ผู้ชายอย่างควบคุมไม่อยู่…พัวพันกันไปมา…
โอหยางซานซานกลับยังพยายามหักห้ามความต้องการของร่างกายไว้อย่างสุดความสามารถ เธอกระชากเสื้อผ้าบนตัวอย่างอดไม่ได้แล้วเอาหน้าแนบพื้นเย็นเฉียบเพื่อจะให้ตัวเองได้สติสักเล็กน้อย ทว่ากลับเปล่าประโยชน์เพราะร่างกายทวีความร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
“น้ำ…จ้าวเหมยขอน้ำให้ฉันที…ฉันจะเอาน้ำ…”
โอหยางซานซานยอมก้มหัวที่แสนเย่อหยิ่งของเธอลง คลานมาตรงหน้าเหมยเหมยพลางกอดขาอ้อนวอนเธอ
เหมยเหมยเตะเธอให้พ้นจากตัวพลางแค่นหัวเราะกล่าว “น้ำ? โอหยางซานซานเธอจะขัดขืนไปทำไม? ไม่ว่ายังไงดื่มด่ำไปกับมันก็ดีกว่าขัดขืนนะ…เชิญดื่มด่ำตามสบายเลย!”
“ไม่นะ…จ้าวเหมยไม่เอา…ปล่อยฉันไปเถอะ…ขอร้องเธอล่ะ…จ้าวเหมยเธอปล่อยฉันไปเถอะ…”
โอหยางซานซานร้องไห้อ้อนวอน เธอยังมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง รู้ว่าหากวันนี้หลวมตัวเคลิ้มไปเธอก็จบสิ้นแน่ ๆ !
เธอไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ เธอยังต้องแต่งงานกับคนตำแหน่งใหญ่โต ยังอยากจะเป็นเจ้าคนนายคนอยู่นะ!
“โอหยางซานซาน ถ้าฉันลองเปลี่ยนเป็นเธอ เธอจะปล่อยฉันไปมั้ย?” เหมยเหมยโน้มตัวลงซักถามเสียงเย็นชา
ความจริงไม่ต้องรอคำตอบของเธอก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจดี หากวันนี้เป็นเธอที่เสียเปรียบโอหยางซานซานคงดีใจใหญ่เลยสินะ?
ส่วนโอหยางสยงคงมีแต่จะใช้วิธีต่ำช้ายิ่งกว่านี้จัดการเธอ ฉะนั้นแค่เธอนึกถึงความเป็นไปได้นี้มีแต่จะใจแข็งดั่งแท่งโลหะ
“ฉันจะทำ…จ้าวเหมย ฉันจะขอให้ไว้ชีวิตแทนเธอ…ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ…จริงนะ…”
โอหยางซานซานร้องไห้ไปพูดไป น้ำตาพรั่งพรูออกมาพร้อมกับความสิ้นหวัง ดวงตาเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยเพราะใกล้จะพังทลายเต็มทีแล้ว
มิหนำซ้ำเธอไม่ได้ใจเด็ดที่จะยอมทำร้ายตัวเองอย่างเจียงซินเหมย พอไม่กล้าลงมือทำร้ายตัวเองฤทธิ์ยาก็ยิ่งกระจายไปทั่วร่างเร็วกว่าเดิม
อู่เยวี่ยกับคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้างถึงพริกถึงขิงไปนานแล้ว และยิ่งกระตุ้นสองอาหลานโอหยางแต่พวกเขายังฝืนอยู่ที่เดิม ลุงหลานมีความสัมพันธ์ทางกายกันมันเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมไม่น่าให้อภัย
หากพวกเขาหลวมตัวไปจริง ๆ ชีวิตนี้ที่เหลือคงก้าวข้ามตราบาปนี้ไม่ได้
พี่เสือคิดจะย้ายพวกอู่เยวี่ยไปอีกห้องเพื่อที่จะไม่ให้แปดเปื้อนสายตาของเหมยเหมย
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น ก็แค่เนื้อกองเดียวเอง”
เหมยเหมยยื่นแขนห้ามเขาไว้ แม้เธอจะรู้สึกสะอิดสะเอียนใจแต่ก็พอจะรับไหว
การต่อสู้เมื่อสักครู่ต้องเรียกความสนใจจากคนด้านนอกไม่น้อย หากออกไปตอนนี้กลัวก็แต่จะมีปัญหาตามมาทีหลัง
เธอไม่เชื่อคำโกหกของโอหยางซานซานแม้แต่น้อย นางแพศยานี่น่ะหรือจะขอให้ไว้ชีวิตแทนเธอ?
เหอะ ไปหลอกเด็กสามขวบยังพอว่า!
“…อา…ฉันทรมานจัง…”
โอหยางซานซานกระชากเสื้อผ้าบนตัวเธอจนฉีกขาด ยาออกฤทธิ์โดยสมบูรณ์แล้ว สติของเธอถูกความต้องการครอบงำ ยามนี้เธอแค่ต้องการผู้ชายคนหนึ่ง…
โอหยางสยงหนีให้พ้นจากโอหยางซานซานที่กำลังคลานมาหาเขาอย่างยากลำบาก ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยว เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว แต่เขาต้องทนให้ไหว
“จ้าวเหมย เรามาเจรจากันหน่อยเป็นไง?”
โอหยางสยงพูดด้วยความเจ็บปวด เขาในเวลานี้นึกโชคดีที่บาดเจ็บตรงดวงตา ความเจ็บตรงส่วนแผลทำให้เขาคงสติไว้ได้ชั่วคราว
“นายบอกมาก่อนว่าข้อแลกเปลี่ยนคืออะไร ฉันจะดูว่าคุ้มหรือเปล่า” เหมยเหมยเริ่มสนใจ
“เกี่ยวกับจ้าวอิงสยง สองสามีภรรยาพวกเขาตอนนี้เป็นสุนัขจนตรอก…” โอหยางสยงพูดไปเพียงครึ่งเดียว
เหมยเหมยมองไปยังหานป๋อหย่วนกลับพบว่าเขากำลังกลอกตารัว ๆ ท่าทางร้อนรนเต็มเปี่ยมก็อดหัวเราะไม่ได้
………………….
ตอนที่ 1089 แผนชั่วร้ายที่กรุงปักกิ่ง
ดูเหมือนโอหยางสยงจะพูดความจริง อีกอย่างข่าวนี้ยังเป็นหานป๋อหย่วนที่บอกเขาเอง เธอค่อนข้างสนใจเรื่องที่สองสามีภรรยาจ้าวอิงสยงกำลังจะทำจริง ๆ ด้วยสิ
“ได้สิ!”
เหมยเหมยยิ้มรับ โอหยางสยงพรูลมหายใจเฮือกใหญ่ ยอมตกลงก็พอ
อย่างไรเสียที่ตระกูลจ้าวต้องล้มลงเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว เรื่องที่หานป๋อหย่วนพูดก็มีแค่เขาที่สนใจเท่านั้น ตอนนี้คุณชายเฮ่อมีคนที่ถูกตาต้องใจอยู่แล้วไม่ได้มีกิเลศตัณหาตั้งนานแล้ว จะยังสนใจจ้าวเหมยได้อย่างไร?
โอหยางซานซานคลานเข้าหาอีกโดยทั้งตัวเธอเหลือเพียงกางเกงชั้นในและยิ้มยั่วยวนให้โอหยางสยง
โอหยางสยงกลืนน้ำลาย หากไม่ใช่เพราะกังวลเรื่องศีลธรรมเขาคงหมดความอดทนไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ต่อให้ทรมานสักแค่ไหนก็ทำได้แค่อดทนไว้
ทางอู่เยวี่ยกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เสียงครางระงมดังเข้าหูไม่ขาดสาย
ลูกน้องของพี่เสือต่างเป็นเด็กวัยรุ่นเลือดร้อน ยังไม่ได้แต่งงานเลย หนังสดตรงหน้าทำให้พวกเขาเลือดในตัวสูบฉีดปลุกปั่นอารมณ์จนต้องก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว
“เงยหน้าขึ้นเจ้าพวกไร้ประโยชน์ สู้คุณจ้าวไม่ได้เลย!”
พี่เสือตำหนิเสียงดุพลางถลึงตามองพวกเขาอย่างไม่พอใจ แต่ละคนหันไปมองจ้าวเหมยที่หน้าเรียบนิ่งแวบหนึ่งก็อดรู้สึกละอายใจไม่ได้ สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ถึงเงยหน้ามองตรงไปข้างหน้าด้วยสีหน้าแน่นิ่ง
พวกเขาเป็นถึงทหารหน่วยรบพิเศษที่ผ่านการฝึกพิเศษมาก่อน สิ่งยั่วยวนใจแค่นี้จะทนไม่ได้ได้อย่างไรกัน?
ต่อให้เป็นหยางกุ้ยเฟยที่ถอดเสื้อผ้ามายืนตรงหน้าพวกเขา ในสายตาพวกเขาก็เป็นเพียงเนื้อติดมันกองหนึ่งเท่านั้น
ใช่ แบบนั้นแหละ!
แต่ละคนต่างสะกดจิตคำว่าเนื้อไขมัน…เนื้อไขมัน…เนื้อไขมัน…
ดูท่าจะได้ผลไม่น้อย ภาพเย้ายวนใจกลับกลายเป็นเพียงฝนในวันเมฆครึ้มในพริบตา มองไปทางนั้นอีกคราด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สภาพจิตใจและโฉมหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมากทีเดียว
“พี่เสือ มียาถอนพิษมั้ย?” เหมยเหมยถาม
พี่เสือหน้าแดงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เม็ดยาในมือของคุณชายเศรษฐีเหล่านั้นมีฤทธิ์ร้ายแรง ยาถอนพิษที่ดีที่สุดก็คือการร่วมรักระหว่างชายหญิง ไม่อย่างนั้นต้องไปโรงพยาบาล ไม่มียาถอนพิษอะไรทั้งนั้น
เหมยเหมยแค่ดูก็เข้าใจทันที ในเมื่อไม่มียาถอนพิษ…
อย่าหาว่าเธอใจร้ายเลย เธอฟาดแส้ใส่ตัวโอหยางซานซานอย่างแรงทีหนึ่ง แส้กระทบผิวเนียนโดยตรงจนเลือดซึมชั่วขณะเพราะไม่มีเสื้อผ้าขวางกั้น
โอหยางซานซานร้องเสียงโหยหวนแต่กลับมีสติขึ้นมาเล็กน้อย เหมยเหมยฟาดแส้ไปอีกทีจนอีกฝ่ายเป็นลมหมดสติไป
“โอเค ตอนนี้นายพูดได้แล้ว ขอแค่นายพูดให้ฉันพอใจ ฉันจะพาโอหยางซานซานกลับไป”
เหมยเหมยตบมือ ยิ้มให้โอหยางสยงเป็นสื่อว่าให้เขาเริ่มพูดได้แล้ว แน่นอนว่าไม่ต้องให้เธอเร่งเร้าโอหยางสยงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“หานซู่ฉินคิดจะเอาเธอถวายให้คุณชายเช่อเพื่อรักษาตำแหน่งของจ้าวอิงสยงไว้ แต่จ้าวหวายซานไม่เห็นด้วย หานซู่ฉินเลยร่วมมือกับคุณย่าของเธอคิดจะหลอกเธอกลับปักกิ่ง”
“เตรียมจะหลอกฉันยังไง?” เหมยเหมยถาม
“ไม่รู้รายละเอียด คุณจ้าวคงต้องถามหานป๋อหย่วนแล้วล่ะ” โอหยางสยงบ่ายเบี่ยง
ไอ้สารเลวหานป๋อหย่วน ถ้าบอกเขาแต่แรกว่าจ้าวเหมยโหดเหี้ยมขนาดนี้ มีหรือที่เขาจะมาหาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้?
เขาในเวลานี้ลืมไปหมดสิ้นแล้วว่าในตอนที่หานป๋อหย่วนเสนอความคิดนี้เขาได้ใจขนาดไหน การได้ขึ้นคร่อมหลานสาวตระกูลจ้าวให้อยู่ใต้ร่างได้ นี่เป็นถึงความใฝ่ฝันของผู้ชายกรุงปักกิ่งจำนวนไม่น้อยเชียว!
เหมยเหมยมองไปยังหานป๋อหย่วนที่ยังกลอกตาไม่หยุดพลางแค่นหัวเราะทีหนึ่ง มีเจ้าหมอนี่รวมหัวอยู่จริง ๆ ด้วย!
“ถึงข่าวนี้จะไม่ค่อยคุ้มราคาแต่ฉันไม่ใช่คนผิดคำพูด ก็ได้ ฉันจะพาโอหยางซานซานกลับไป ไม่รบกวนเวลาทำธุระส่วนตัวของคุณชายโอหยางแล้วกัน!”
ไม่รอให้เธอสั่งพี่เสือก็ให้ลูกน้องพาโอหยางซานซานออกไปจากห้อง โอหยางสยงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก แล้วจะทนไหวได้อย่างไรอีก ร้องเสียงคำรามกระโจนเข้าใส่อู่เยวี่ยแล้วเกลือกกลั้วเป็นเนื้อก้อนเดียวกัน
ตอนที่ 1090 ให้นายไม่มีลูกหลานได้อีก
หานป๋อหย่วนยืนนิ่งเหมือนท่อนไม้แต่สติอยู่ครบ เห็นเหมยเหมยเดินเข้ามาหาเลยรู้ทันทีว่าแย่แล้ว ดวงตาหมุนกลอกไม่หยุด น่าแค้นใจที่เขาส่งเสียงไม่ออกเลยไม่อาจร้องขอชีวิตได้
แต่ต่อให้เขาร้องขอชีวิตเหมยเหมยก็ไม่มีทางไว้ชีวิตเขา
“หานป๋อหย่วน นายวางแผนมาดิบดีเชียวนะ ต่อหน้าอย่างหนึ่งลับหลังอีกอย่างหนึ่ง…”
เหมยเหมยฟาดแส้ใส่ด้วยความแค้นใจ หานป๋อหย่วนเหงื่อผุดเต็มหน้าผากลูกตากลอกหมุนไม่หยุด นึกแค้นในใจ นางแพศยาจ้าวเหมยรอดูเถอะ หากอนาคตเขาได้ติดตามคุณชายเช่อจะต้องให้นางแพศยาคนนี้มาคุกเข่าอ้อนวอน
เพียงแต่–
เหมยเหมยมองหานป๋อหย่วนด้วยสายตาเย็นชาพร้อมทั้งแสยะยิ้มกะทันหันเรียกให้หานป๋อหย่วนใจหล่นวูบ รู้สึกเพียงแค่เสียวสันหลังวาบและจ้องเหมยเหมยไม่กระพริบตา อยากรู้ว่าเธอจะทำอะไร…
“นายกล้าวางแผนใส่ฉัน…ฉันจะให้นายไม่มีลูกมีหลานได้อีก!”
เหมยเหมยก่นด่าด้วยความเคียดแค้น พวกพี่เสือสะดุ้งเฮือก พอเห็นเหมยเหมยกระทืบเท้าใส่จุดกึ่งกลางลำตัวของหานป๋อหย่วนด้วยใบหน้าเย็นชาแล้วสูดปากกันอย่างพร้อมเพรียง มองหานป๋อหย่วนด้วยความเห็นใจ
สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของลูกพี่เหยียน โหดมาก ๆ !
หานป๋อหย่วนที่น่าสงสารเจ็บจนตาเหลือกและล้มตึงลงพื้นแต่ยังตัวแข็งราวกับท่อนไม้
เหมยเหมยยังไม่สะใจพอพลางหยิบแส้ฟาดใส่ตัวเขาอีกหลายทีให้เนื้อปริแตก เสียงไซเรนรถตำรวจดังแว่วมาแต่ไกลทำให้พี่เสือสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนกล่าว “ตำรวจมาแล้ว ต้องรีบไป”
หลังจากกระทืบตัวหานป๋อหย่วนเป็นครั้งสุดท้ายเหมยเหมยถึงยอมเก็บแส้เตรียมถอยไปพร้อมพวกพี่เสือ
“ช่วยพาฉันไปด้วยเถอะ…ขอร้องล่ะ!”
ลูกพี่ลูกน้องเจียงซินเหมยโถมเข้ามากอดขาพี่เสือเว้าวอน เหมยเหมยขมวดคิ้ว เธอไม่ได้สนิทกับหลิวฟางมากนัก แค่เคยพยักหน้าทักทายกันผ่าน ๆ เท่านั้น
รู้เพียงว่าหญิงสาวผู้นี้ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีพ่อแม่ไม่ใช่คนที่พึ่งพาอะไรได้ แต่ตัวเธอที่ค่อนข้างสู้เลยสอบได้คะแนนอันดับต้น ๆ ประจำห้องเสมอมา เป็นคนเก็บตัว เป็นคนประเภทนักเรียนดีเด่นผู้เป็นที่รักของเหล่าอาจารย์
แต่ก็เป็นเพราะนักเรียนดีเด่นคนนี้ทั้งที่รู้ว่ามีเสือเฝ้ารออยู่ในถ้ำกลับยังโกหกหลอกเจียงซินเหมยมา หากไม่ใช่เพราะเจียงซินเหมยที่ไหวพริบดี ผลสรุปของเธอในวันนี้ใช้ส้นเท้าคิดยังได้เลย
สิ่งสำคัญที่สุดคือปกติเจียงซินเหมยดูแลลูกพี่ลูกน้องคนนี้อย่างดีรวมถึงพ่อแม่ของเธอก็เช่นกัน มักสมทบทุนช่วยเหลือครอบครัวนี้บ่อยครั้ง ไม่อย่างนั้นแม้แต่ค่าเล่าเรียนหลิวฟางยังไม่มีปัญญาจ่ายด้วยซ้ำ
เหมยเหมยดูถูกคนประเภทที่ตอบแทนคุณด้วยความแค้นอยู่แล้ว เธอมองเหยียดหลิวฟางแวบหนึ่ง คิด ๆ ก็ตัดสินใจพากลับไปด้วย เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยก็ปล่อยให้เจียงซินเหมยเป็นคนจัดการเองแล้วกัน
ทางเดินข้างนอกมีคนมุงกันอยู่ไม่น้อยต่างล้อมประตูรอดูเรื่องสนุก ๆ เห็นพวกเหมยเหมยออกมาก็สะดุ้งถอยกรูไปด้านหลัง ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมแยกย้ายคอยยืนมองอยู่ห่าง ๆ ยื่นคอยื่นหัวอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง
หลิวฟางหลบอยู่หลังพี่เสือด้วยความอับอายเพราะเสื้อผ้าของเธอฉีก ๆ ขาด ๆ เผยให้เห็นลำตัวส่วนเปล่าเปลือย พอเห็นรอยแดงในพื้นที่นอกเหนือร่มผ้าคนมีตาแค่ดูก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พลันสายตาก็เปลี่ยนไปฉายแววเจ้าเล่ห์แถมยังมีคนผิวปาก หลิวฟางอายแทบตายไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
รถแท็กซี่นั้นทำตามหน้าที่ดีพอสมควร ผ่านไปตั้งนานแต่ยังรออยู่ทำเอาเหมยเหมยรู้สึกผิดเลยล้วงเงินห้าสิบหยวนให้เขาถือว่าเป็นค่าเสียเวลา คนขับรถดีใจในชั่วขณะ ตลอดทั้งวันเขายังหาเงินไม่ได้มากเท่านี้เลย!
พี่เสือเพิ่งสตาร์ทรถยนต์รถตำรวจก็ขับเคลื่อนมาเรียกให้เหมยเหมยกระตุกยิ้มมุมปาก
ชาติก่อนไม่รู้เคยอ่านประโยคนี้มาจากไหนว่ารถตำรวจมักปรากฏตัวหลังทุกอย่างปิดฉากลงแล้ว
เหอเหอ พูดไม่ผิดเลยจริง ๆ !
……………………
ตอนที่ 1091 คิดบัญชีหลังจบเหตุการณ์
เหมยเหมยให้พี่เสือพาเธอไปส่งโรงพยาบาลที่เจียงซินเหมยถูกส่งไปก่อนหน้านี้แล้ว เธอจะไปดูเสียหน่อยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้างอีกอย่างต้องแจ้งพ่อแม่เจียงซินเหมย เรื่องนี้ไม่อาจปิดบังได้
เจียงซินเหมยยังไม่ฟื้นแต่ดีที่ยาหมดฤทธิ์ไปแล้ว ตรงกันข้ามที่อาการสาหัสกลับเป็นลิ้นของเธอที่ถูกเย็บไปหลายเข็มเพราะกัดจนมันแทบขาด
หลิวฟางเองก็ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลซึ่งอาการของเธอไม่ค่อยดีเท่าไร ก่อนหน้าน่าจะฝืนตัวอยู่พอถึงโรงพยาบาลเลยเป็นลมหมดสติ แม้จะไม่ชอบใจผู้หญิงคนนี้แต่จะให้เพิกเฉยไม่ยอมช่วยชีวิตคงไม่ได้
“ซินซินเป็นยังไงบ้าง? เหมยเหมย เกิดอะไรขึ้นกับซินซิน?”
สองสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยอย่างรีบร้อนสีหน้าตื่นตระหนก นั่นเป็นพ่อแม่ของเจียงซินเหมยนั่นเอง พวกเขารออยู่ที่บ้านตั้งนานไม่เห็นลูกสาวกลับบ้านก็ร้อนใจจนเกือบแจ้งความอยู่รอมร่อกระทั่งได้รับสายจากพี่เสือถึงได้โบกรถมาที่นี่
“เหมยเหมย ซินซินโดนรถชนเหรอ หา?”
คุณแม่เจียงเป็นผู้หญิงที่มีจินตนาการสูง แค่เห็นว่าเจียงซินเหมยนอนสลบอยู่บนเตียงทั้งมีรอยแผลตรงแก้มก็อดนึกถึงอุบัติเหตุรถชนไม่ได้ น้ำตาพร้อมจะหลั่งลงได้ทุกเมื่อ
“คุณน้าใจเย็นค่ะ ไม่ใช่อุบัติเหตุรถ ซินเหมยเธอแค่…”
เหมยเหมยลำบากใจที่จะเอ่ยปากอยู่เสียหน่อยเพราะทั้งสองคนนี้ต่างเป็นคนที่อ่อนไหว เห็นเธอทำท่าอึกอักยากจะเอื้อนเอ่ยในหัวก็เริ่มคิดไปไกลอีกแล้ว รอบนี้ดันคิดมาตรงประเด็นเสียด้วย
สองสามีภรรยาหน้าขาวซีดตัวสั่นสะท้าน ปลายนิ้วเริ่มสั่นเทา พวกเขานึกถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุด ความเป็นไปได้ที่อาจทำให้พวกเขาตายทั้งเป็น
“ซินซินของฉันโดน…ใช่มั้ย…โดนคนชั่ว…ฮึก คุณคะ เราต้องแจ้งตำรวจ…ซินซินที่น่าสงสารของฉัน…” คุณแม่เจียงโผเข้าซบอกสามีปล่อยน้ำตาพรั่งพรูออกมา
คุณพ่อเจียงเองก็ทำหน้าเศร้าปนโกรธแต่ยังทนไหว เพียงแต่กัดฟันเสียดสีเกิดเสียงดัง ดวงตาแดงก่ำคล้ายปีศาจกินคน
เหมยเหมยถอนหายใจยาว นี่เธอยังไม่ได้พูดอะไรเลย!
คิดในแง่ดีหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร?
สองสามีภรรยาคู่นี้เป็นคนประเภทมองโลกในแง่ร้ายครบตามเกณฑ์ ทำไมถึงได้มีลูกที่มองโลกในแง่ดีอย่างเจียงซินเหมยได้ล่ะ?
“คุณลุงคุณน้า ฟังหนูพูดให้จบสิ ซินเหมยเธอสบายดี ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรทั้งนั้น ยังเป็นเหมือนเดิม เข้าใจมั้ยคะ?”
เหมยเหมยมองสองสามีภรรยาคู่นี้ เหลือแค่เธอไม่ได้บอกไปว่าลูกสาวของทั้งคู่ยังมีเยื่อพรหมจรรย์เหลืออยู่ แค่นี้น่าจะเข้าใจได้สินะ?
สองสามีภรรยาตระกูลเจียงกะพริบตาปริบก่อนจะถอนหายใจโล่งอกพร้อมกัน จากนั้นทั้งคู่ก็ยกมือเกาปลายจมูกเป็นจังหวะเดียวกัน น้ำตาหยุดไหลเหมือนสั่งได้พลางเผยยิ้มน้อย ๆ
“โอ๊ย ไม่เป็นก็ดีแล้ว ทำฉันตกใจหมด ฉันนึกว่า…คุณไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะ ซินซินไม่เป็นไร เหมยเหมยนี่ก็นะ พูดอะไรไม่พูดให้จบ ฉันกับคุณลุงเจียงจะหัวใจวายก็เพราะเธอเลย”
คุณแม่เจียงมองค้อนเหมยเหมยทีหนึ่งเช่นกันกับสายตาของคุณพ่อเจียง
เหมยเหมยกลอกตาที เหนื่อยใจเหลือเกิน!
นี่ความผิดของเธออย่างนั้นหรือ?
แค่หวังว่าสองสามีภรรยาคู่นี้พอรู้ความจริงเข้าจะไม่ทำอะไรเกินไปก็พอ!
“เธอพูดจริงเหรอ? หลิวฟางเป็นคนหลอกซินซิน ทำให้ซินซินเกือบ…” เสียงคำรามของคุณแม่เจียงดังขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย หมดซึ่งภาพบุคลิกอันเรียบร้อย เหลือเพียงความโกรธเคืองในฐานะคนเป็นแม่
“ใช่ค่ะ คนพวกนั้นป้อนยาให้ซินเหมย ลิ้นของซินเหมยถูกกัดจนเกือบขาดก็เพราะเธอต้องการประคองสติไว้ อ้อใช่แล้วคุณน้า หลิวฟางก็อยู่ในโรงพยาบาลนี้ เธอถูกคน…”
เหมยเหมยยังไม่ทันพูดจบประโยคดีสองสามีภรรยาที่สำรวจแผลของลูกสาวเสร็จก็พุ่งตัวออกจากห้องพักผู้ป่วยด้วยท่าทีขึงขัง เธอรีบตามไปแต่กลับเห็นว่าคุณแม่เจียงที่ปกติเป็นคนอ่อนโยนใจเย็นกระชากผมของหลิวฟางที่กำลังทำแผลอยู่ในห้องฉุกเฉิน ฝ่ามือถูกตวัดตบลงไปอย่างแรง
“หลิวฟางไอ้คนใจดำอำมหิต กล้าทำร้ายซินซินของฉัน ฉันจะตีเธอให้ตาย…”
ตอนที่ 1092 เธอมีอะไรให้โดนข่มขู่
คุณหมอกับพยาบาลต่างคว้าตัวคุณแม่เจียงที่อารมณ์โกรธพุ่งทะลุเพดาน หลิวฟางเองก็ไม่ตอบโต้เพียงแค่นั่งร้องไห้ไม่หยุด ชีวิตของเธอถูกทำลายไปแล้ว ตอนนี้คุณน้าเล็กที่เอ็นดูเธอที่สุดคงเกลียดเธอเข้าไส้ เธอจะมีชีวิตต่อเพื่ออะไรอีก?
“คุณน้า น้าเขย…ความผิดของหนูเอง…ความผิดของหนู…ตีหนูให้ตายไปเลยเถอะ…”
หลิวฟางปิดหน้าร้องไห้โฮ ดูออกว่าเธอรู้สึกผิดจริง ๆ น้ำตาของเธอก็เป็นของจริง แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
หากมีครั้งต่อไปเชื่อว่าหลิวฟางคงเลือกทางเดิมเพราะเธอมีความคิดชั่วร้ายอยู่ภายในใจ
นั่นเป็นเพราะเธอที่มีความอิจฉาเจียงซินเหมย
ไม่อย่างนั้นจะอธิบายสถานการณ์ที่เธอได้ถูกข่มขืนไปแล้วแต่ยังหลอกเจียงซินเหมยไปที่คลับสโมสรอย่างไร?
หลิวฟางร้องไห้อยู่ครู่หนึ่งแล้วจู่ ๆ เธอก็ผุดลุกขึ้นวิ่งไปตรงกำแพง พูดเสียงดัง “หนูไม่มีหน้าจะมีชีวิตต่อแล้ว….ให้หนูไปตายเถอะ…”
พ่อแม่เจียงซินเหมยสะดุ้งเฮือกรีบกระชากตัวหลิวฟางไว้โดยอัตโนมัติและพวกเขาก็คว้าตัวไว้สำเร็จ คุณพ่อเจียงกอดหลิวฟางที่ตะเกียกตะกายไม่หยุดไว้แนบแน่นไม่ยอมปล่อยมือด้วยความกลัวว่าหญิงสาวผู้นี้จะคิดสั้น
ความโกรธบนใบหน้าของคุณแม่เจียงจางลงมาก อย่างไรเสียก็หลานสาวคนหนึ่งอีกทั้งตอนนี้หลิวฟางยังย่ำแย่ขนาดนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเจียงซินเหมยไม่ได้ถูกทำร้ายจริง ๆ นี่ต่างหากเหตุผลสำคัญที่เธอสามารถยกโทษให้หลิวฟางได้
คุณพ่อเจียงเองก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมออกมือช่วยชีวิตหลิวฟางไว้
เหมยเหมยส่ายศีรษะ หลอกง่ายเสียจริง!
“ขอโทษค่ะ…ฮือ…ขอโทษ…หนูไม่คิดจะทำร้ายซินซิน…หนูไม่ได้ตั้งใจ…พวกเขาข่มขู่หนู…” หลิวฟางพูดเสียงพึมพำด้วยใบหน้าขาวซีดร่างสั่นเทาพร้อมจะร่วงได้เสมอ ท่าทางน่าสงสารจับใจ
พ่อแม่เจียงซินเหมยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กำลังจะอ้าปากเหมยเหมยเดินมาถามเสียงเย็นชา “พวกเขาขู่เธอยังไง? จะฆ่าเธอเหรอ?”
หลิวฟางสะดุ้งเฮือกใจหล่นวูบไม่กล้าสบตาเหมยเหมย
ก่อนหน้านี้ในห้องนั้นเธอเห็นทุกอย่าง จ้าวเหมยไม่ใช่คนดีอะไรเกรงว่าจะกล้าฆ่าคนด้วยซ้ำไป โลกของคนชนชั้นสูงเหล่านั้น ชาวบ้านธรรมดาอย่างเธอต่อให้ได้มุดหัวเข้าไปข้างในเกรงว่าจะเป็นเพียงแค่ของเล่นก็เท่านั้น
“พวกเขา…พวกเขาบอกว่าจะถ่ายรูปเปลือยของฉัน…แล้วจะขายฉันไปในที่ที่สกปรก…” หลิงฟางพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
คุณหมอและพยาบาลข้าง ๆ ต่างเผยสีหน้าไม่พอใจแล้วมองหลิวฟางอย่างเห็นใจ ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารจริง ๆ !
เหมยเหมยแค่นหัวเราะทีหนึ่ง “หลิวฟางเธอคิดว่าฉันโง่เหรอ? จะให้ฉันไปเรียกคนพวกนั้นมาซักถามพร้อมกับเธอมั้ย?”
หลิวฟางตัวสั่นระริกเริ่มใจเสีย แต่ยังตอบกลับแน่วแน่ “ฉันไม่ได้โกหก…พวกเขาขู่ฉันแบบนี้”
เหมยเหมยแค่นหัวเราะอีกที แม้คุณชายลูกเศรษฐีพวกนั้นไม่ใช่คนดีแต่อย่างมากพวกเขาก็แค่หลอกล่อเพื่อข่มขืนผู้หญิงแค่นั้นล่ะ ไม่ได้มีความกล้าจะถ่ายรูปเปลือยแล้วจับไปขายซ่อง ไม่อย่างนั้นเจียงซินเหมยคงไม่ทนมาจนถึงตอนนี้ได้ นั่นก็เพราะคุณชายพวกนั้นกลัวเธอจะเป็นอันตรายจนถึงชีวิต
โอหยางสยงกลับมีความกล้านี้แต่ปัญหาคือโอหยางสยงเพิ่งมาเมืองจินครั้งแรก คืนนี้เขาเป็นเพียงแขกคนหนึ่ง เขาจะกล้าออกหน้าข่มขู่หลิวฟางได้อย่างไร?
เพียงเพื่อผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนน่ะหรือ?
หากโอหยางสยงเป็นคนโง่เขลา เฮ่อเหลียนเช่อคงไม่มีทางเรียกใช้งานเขาหรอก
เหมยเหมยไม่อยากฟังหลิวฟางพูดไร้สาระต่อ เธอกล่าวเสียงเย็นชา “หลิวฟางเธอนี่มันไม่รู้จักแก้ไขเลยจริง ๆ อย่างแรก ตอนที่เธอโทรหาซินเหมยเธอโดนพวกเขารุมโทรมไปแล้ว ฉะนั้นความจริงเธอไม่มีอะไรที่จะเป็นข้ออ้างไว้ให้พวกเขาข่มขู่อีก…”
หลิวฟางหน้าซีดทันที ตัวสั่นสะท้านเอามือปิดหน้าด้วยความเจ็บปวด
…………………..
ตอนที่ 1093 สมน้ำหน้า
เหมยเหมยพูดต่อ “หมายความว่าในสถานการณ์แบบนั้นเธอจะโทรหาซินเหมยหรือไม่ก็มีผลเหมือนเดิม คนพวกนั้นนอกจากจะไม่ฆ่าเธอแล้วก็ไม่มีทางถ่ายรูปเปลือยของเธอ ยิ่งไม่มีทางเอาเธอไปขายที่ซ่องเป็นโสเภณี ฉะนั้น…”
เธอเว้นช่วงจังหวะพูดเล็กน้อยพลางมองหลิวฟางที่ก้มหน้าร้องไห้ด้วยสายตาหยามเหยียดก่อนหันไปมองพ่อแม่เจียงซินเหมยที่กำลังทำหน้าประหม่า รวมถึงคุณหมอและพยาบาลข้าง ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“หลิวฟางเหตุผลที่เธอเลือกที่จะโทรล้วนเป็นเพราะความอิจฉาของเธอ เพราะเธอถูกรุมโทรม เธอเลยอยากให้ซินเหมยเจอเหตุการณ์เดียวกับเธอ ดังนั้นโทรศัพท์สายนั้นเธอไม่ได้โทรเพราะโดนขู่ แต่มาจากความเห็นแก่ตัวของเธอล้วน ๆ ”
“ไม่ใช่นะ…ไม่ใช่อย่างนั้น…เธอพูดมั่ว…”
หลิวฟางที่โดนเปิดโปงความคิดใบหน้าก็ถอดสี เธอไม่กล้าเงยหน้าแค่เอามือปิดหน้าร้องไห้โฮด้วยอารมณ์เสียใจ
“หลิวฟางเธอนี่มันโง่บรมเลย เธอคิดว่าไม่ยอมรับก็แปลว่าไม่เคยเกิดขึ้นงั้นเหรอ? คนพวกนั้นสารภาพมาหมดแล้ว” เหมยเหมยจงใจพูดกระตุ้นเธอ เรียกให้หลิวฟางสีหน้าเปลี่ยนไปริมฝีปากสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
“ไม่…ไม่ใช่อย่างนั้น…คุณน้าฟังหนูพูดนะ…หนูไม่ได้คิดจะทำร้ายซินซิน…หนูไม่เคยคิด…”
ปีหน้าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ค่าเล่าเรียนกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันล้วนต้องได้จากคุณน้าเล็ก อย่าคิดจะหวังพึ่งแม่ของตัวเอง เธอจะเสียคนคอยหนุนอย่างคุณน้าเล็กไปไม่ได้!
เหมยเหมยคอยมองพ่อแม่เจียงซินเหมยที่ทำหน้าลังเล ช่างเป็นคนดีอะไรเช่นนี้ เสียดายกลับเลี้ยงหมาป่าเนรคุณตัวหนึ่งไว้
ช่างเถอะ ให้เธอรับบทคนชั่วร้ายนี้แล้วกัน!
“หลิวฟาง เธอน่าจะกังวลที่ปีหน้าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วไม่มีคนออกค่าเล่าเรียนให้สินะ? อีกด้านก็ใช้เงินคุณน้าเล็กของเธอแต่ในขณะที่อีกด้านก็จะทำร้ายลูกสาวของพวกเขา เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ยางอายเกินไปเหรอ?”
เหมยเหมยพูดจบไม่มองหน้าหลิวฟางอีก เธอพูดมาถึงขนาดนี้แล้วหากพ่อแม่เจียงซินเหมยยังสามารถยกโทษให้หลิวฟางได้ เช่นนั้นเธอก็หมดปัญญาแล้วล่ะ!
เสียงใสดังกึกก้อง คุณแม่เจียงตบหน้าหลิวฟางอีกฉาดหนึ่งพลางด่าด้วยความเจ็บปวดใจ “คนเนรคุณ…นับตั้งแต่นี้ไปเราตัดขาดกัน อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก!”
เหมยเหมยฉีกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ยังดียังดี ไม่ได้ใจดีถึงขั้นเลวร้าย
วันต่อมาเจียงซินเหมยไม่ได้มาเรียนเหมยเหมยเลยช่วยลาป่วยให้เธอเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แล้วคอยจดการบ้านไปส่งให้ถึงบ้านเธอพร้อมกับอู่เชาทุกวัน พ่อแม่เจียงซินเหมยต้อนรับเหมยเหมยเป็นอย่างดี หากไม่ใช่เพราะมีความต่างกันในเรื่องลำดับอาวุโสกลัวก็แต่จะยกเหมยเหมยไว้ขึ้นหิ้ง
“พ่อแม่เธออบอุ่นจัง เหมือนกองไฟ ฉันแทบรับมือไม่ไหวแล้ว!”
เหมยเหมยถูแขนไปมาเพราะรู้สึกขนลุก สองสามีภรรยาคู่นี้มีต่อมความรู้สึกที่มากล้นเกินไป
“เหมยเหมย ขอบคุณนะ ถ้าไม่ใช่เธอ เกรงว่าฉันคง…”
เจียงซินเหมยขอบตาแดงระเรื่อพลางสูดจมูก
“เราเพื่อนกันไม่ใช่หรือไงจะขอบคุณทำไม คราวหลังเธออย่าใจดีซี้ซั้วอีกล่ะ” เหมยเหมยเอ่ยเตือน
เจียงซินเหมยพูดเสียงแค้น “ไม่อีกแล้ว ฉันกับหลิวฟางคือศัตรูกัน”
อู่เชาคอยฟังอยู่เลยทำหน้างุนงงรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น “พวกเธอไปแอบทำเรื่องไม่ดีลับหลังฉันมาหรือเปล่า?”
“เปล่า แค่ไปสั่งสอนคนชั้นต่ำไม่กี่คนมาเท่านั้นเอง” เหมยเหมยพูดเสียงเรียบ ไม่ใช่เรื่องน่าอวดอะไรอย่าให้อู่เชารู้เลย
อู่เชากลับพึมพำเอง “จะว่าไปก็แปลก เมื่อคืนเหมือนจะเกิดเรื่องกับอู่เยวี่ยด้วย สถานีตำรวจโทรหาอาสอง อาสองไม่อยู่เมืองจินเลยโทรหาพ่อฉัน เมื่อคืนฉันไปค้างกับพ่อฉัน พ่อฉันเลยต้องไปที่สถานีตำรวจกลางดึก กลับมาสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่และไม่บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น”
เหมยเหมยกับเจียงซินเหมยพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน “สมน้ำหน้า!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น