เทพปีศาจหวนคืน 1059-1060

 บทที่ 1059 อึสุนัขแบ่งโชค


แปลโดย iPAT 


 


ทะเลทรายตะวันตก


 


“ฆ่าพวกเขา สมบัติทั้งหมดต้องเป็นของพวกเรา!”


 


“ปล้น!”


 


“ป้องกัน หากสินค้าสูญหาย ตระกูลจะไม่ปล่อยพวกเราไป!”


 


เสียงการต่อสู้ดังขึ้นรอบๆเนินทราย กลุ่มโจรและสมาชิกขบวนสินค้ากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด


 


โจรกลุ่มนี้เป็นกองโจรทะเลทรายที่ดุร้ายและค่อนข้างแข็งแกร่ง


 


ด้านขบวนสินค้า มีมนุษย์ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์วิหค


 


ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์วิหคบางส่วนปกป้องสินค้าอยู่บนพื้นขณะที่บางส่วนบินอยู่บนท้องฟ้าและต่อสู้กับกลุ่มโจร


 


คลื่นเพลิงทำให้อุณหภูมิของทะเลทรายยิ่งร้อนแรงมากขึ้น บางครั้งดาบสายลมก็ถูกส่งออกมาและตัดร่างกายของผู้คนที่อยู่ตรงหน้าทำให้เกิดฉากนองเลือด


 


ผู้ใช้วิญญาณส่วนใหญ่ของทะเลทรายตะวันตกมักบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไฟหรือเส้นทางแห่งวายุ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะใช้การโจมตีบนเส้นทางทั้งสองสาย


 


หลังจากชั่วระยะเวลาหนึ่งฝ่ายกองโจรสามารถชิงความได้เปรียบ พวกเขาพบกับความสูญเสียเพียงเล็กน้อยขณะที่สมาชิกของขบวนสินค้าได้รับบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก


 


ฮันหลี่นอนอยู่บนกองสินค้าด้วยใบหน้าที่ไหม้เกรียมและร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยเลือด


 


‘บัดซบ! วันนี้เป็นวันตายของข้างั้นหรือ?’ ฮันหลี่รู้สึกสิ้นหวัง


 


ชีวิตของเขาเริ่มต้นด้วยความยากลำบากก่อนจะกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณโดยบังเอิญ เขาถูกไล่ออกจากหมู่บ้านและกลายเป็นคนเร่ร่อน


 


เพื่อความอยู่รอด เขาต้องเข้าร่วมกับขบวนสินค้าแต่เขาไม่เคยคิดว่าขบวนสินค้าขบวนนี้จะตกเป็นเป้าหมายของกองโจรที่แข็งแกร่ง


 


“วิ่ง!”


 


“ขบวนสินค้าขบวนนี้จบสิ้นแล้วแต่ข้าจะไม่ตายไปพร้อมกับพวกเขา!”


 


“คนฉลาดต้องหนีไปกับข้า มนุษย์วิหคกลุ่มนี้จบสิ้นแล้ว แม้พวกเขาจะรอดชีวิต แต่พวกเขาก็จะถูกประหารโดยตระกูล!”


 


สมาชิกบางส่วนของขบวนสินค้าเริ่มหลบหนี


 


พวกเขาล้วนเป็นผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ที่ถูกว่าจ้างมาเป็นผู้รักษาความปลอดภัย


 


“เจ้าพวกนี้!”


 


“อย่าสนใจพวกเขา แม้ต้องตาย พวกเราก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด!”


 


ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์วิหคกัดฟันกล่าวด้วยความโกรธ


 


‘เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?’ ฮันหลี่รู้สึกงุนงง เขายังเด็กและขาดประสบการณ์ เขาไม่สามารถตอบสนองต่อความจริงที่เกิดขึ้น


 


“เหตุใดเจ้าไม่หนีไป?” ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์วิหคผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาฮันหลี่


 


ฮันหลี่อ้าปากค้าง เขาไม่รู้ว่าควรตอบสนองอย่างไร เขารู้จักผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์วิหคผู้นี้เพราะนี่ก็คือผู้นำขบวนสินค้า


 


“แม้ระดับการบ่มเพาะของเจ้าจะต่ำ แต่ในบางแง่มุม เจ้าก็ยังเหนือกว่ามนุษย์ที่หลบหนีการต่อสู้เหล่านั้น!” ผู้นำขบวนสินค้าเผ่ามนุษย์วิหคถอนหายใจก่อนจะตบไหล่ฮันหลี่พร้อมกับแสงที่ส่องประกายขึ้น


 


‘โอ้ น่าทึ่ง! นี่คือความสามารถของผู้ใช้วิญญาณระดับสี่งั้นหรือ?’ ฮันหลี่ตกใจเมื่ออาการบาดเจ็บของเขาได้รับการรักษา เขาต้องการขอบคุณแต่ผู้นำขบวนสินค้ากลับพุ่งเข้าสู่สนามรบเรียบร้อยแล้ว


 


แนวหน้าอยู่ในสถานการณ์คับขัน ผู้นำขบวนสินค้าเผ่ามนุษย์วิหคจึงต้องเข้าร่วมการต่อสู้


 


เมื่อผู้ใช้วิญญาณระดับสี่โจมตี ฝ่ายกองโจรเริ่มพบกับความสูญเสีย


 


กลุ่มโจรมีผู้ใช้วิญญาณระดับสี่เช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเขานั่งมองอยู่ด้านหลังด้วยรอยยิ้มเย็นชา


 


ผู้นำขบวนสินค้าเผ่ามนุษย์วิหคควบคุมสนามรบได้อย่างรวดเร็ว เขาสังหารศัตรูจำนวนมากขณะที่ฮันหลี่เฝ้าดูด้วยความกระตือรือร้น


 


แต่ผู้นำขบวนสินค้าเผ่ามนุษย์วิหคกลับไม่มีความสุข


 


เขารู้ว่านี่เป็นกลยุทธ์ลดพลังวิญญาณของศัตรู เมื่อผู้เชี่ยวชาญตัวจริงของฝ่ายกองโจรปรากฏตัว เขาจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ


 


“ฟิ้ว…”


 


เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงลมดังมาจากระยะไกล


 


มันราวกับเสียงโหยหวนของสัตว์ป่า


 


ทุกคนมองไปยังต้นกำเนิดเสียงและตะโกน “โอ้ ไม่ มันคือพายุหมุนไหมทอง!”


 


พายุหมุนในทะเลทรายตะวันออกมีหลายประเภท ตัวอย่างเช่น พายุหมุนไหมทอง พายุหมุนไหมเงิน พายุหมุนไหมทองแดง และอื่นๆ พายุหมุนไหมทองคือพายุหมุนที่ทรงพลังที่สุด กระทั่งผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ก็ยังไม่สามารถรักษาชีวิตหากติดอยู่ภายใน


 


ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของมนุษย์วิหคหรือฝ่ายกองโจร พวกเขาต่างตื่นตกใจ


 


ฝ่ายกองโจรพุ่งเข้าหาขบวนสินค้าและต้องการนำสินค้าไปก่อนที่พายุหมุนไหมทองจะมาถึง


 


สำหรับมนุษย์วิหค พวกเขาสามารถบินได้ตามธรรมชาติ สถานการณ์ของพวกเขาจึงค่อนข้างดีกว่า


 


การต่อสู้บรรลุถึงจุดสำคัญ


 


ทุกวินาทีมีผู้เสียชีวิต


 


ฮันหลี่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างขบวนสินค้าและซุ่มโจมตีฝ่ายตรงข้าม


 


การบ่มเพาะของเขาค่อนข้างต่ำและไม่ใช่เป้าหมายสำคัญ กลุ่มโจรไม่คิดว่าเขาเป็นภัยคุกคาม


 


กลุ่มโจรไม่ต้องการสร้างความเสียหายให้กับสินค้า ดังนั้นฮันหลี่ที่ซ่อนตัวอยู่จึงค่อนข้างปลอดภัย


 


สายลมพัดมากระทบร่างกายของฮันหลี่และทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด


 


“ถอย!” แม้จะไม่เต็มใจ แต่ผู้นำขบวนสินค้าเผ่ามนุษย์วิหคก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลบหนี


 


ฝ่ายกองโจรตัดสินใจล่าถอยเช่นกัน


 


“เร็ว! ย้ายสินค้า!” ผู้นำขบวนสินค้าเผ่ามนุษย์วิหคได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เขายังให้ความสำคัญกับสินต้า


 


ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์วิหครีบร้อนเคลื่อนย้ายสินค้าโดยไม่มีผู้ใดสนใจฮันหลี่


 


ฮันหลี่ถูกดูดเข้าไปในพายุหมุนไหมทองพร้อมกับมนุษย์วิหคและสินค้าจำนวนมาก


 


เขาหมุนไปรอบๆก่อนจะชนกับหินหรือสินค้าบางอย่างและเป็นลมไปทันที


 


หลังจากไม่นานเขาค่อยๆตื่นขึ้น


 


“เด็กน้อย ในที่สุดเจ้าก็ตื่น” ชายชราผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าวอย่างแผ่วเบา


 


“ท่านคือผู้ใด?” ฮันหลี่ยังงุงงง เขามองไปรอบๆและตระหนักว่าเขานอนอยู่บนพื้นทรายที่เต็มไปด้วยซากศพและกองสินค้า


 


“พายุหมุนหยุดแล้วและข้ารอดชีวิตงั้นหรือ?” ฮันหลี่ตะลึงก่อนจะแสดงออกอย่างมีความสุข


 


“หากข้าไม่ช่วยเจ้า เจ้าจะรอดมาได้อย่างไร?” ชายชรายิ้ม


 


“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิต!” ฮันหลี่แสดงความขอบคุณด้วยความจริงใจ


 


ขายชราพยักหน้า “ย้อนกลับไปก่อนที่ข้าจะกลายเป็นผู้อมตะ ข้าก็ไม่ต่างจากเจ้า พายุหมุนที่นำเจ้ามาที่นี่เกิดจากข้า ข้าแพ้เดิมพันของเทียนจิน ก่อนตาย ข้าจะมอบมรดกที่แท้จริงของข้าให้เจ้า”


 


…..


 


ภาคกลาง


 


หุบเขาดาบหัก


 


“วิญญาณปราณดาบอยู่ที่ใด?”


 


“ตามหามัน!”


 


“วิญญาณปราณดาบเป็นของข้า ผู้ใดก็อย่าคิดจะฉกชิง!”


 


กลุ่มผู้ใช้วิญญาณตะโกนและพุ่งเข้าไปในหุบเขา


 


“เจ้าบ้า! อย่าขวางทางข้า!”


 


“ผู้ใดกีดขวางข้าต้องตาย!”


 


หงอี้อยู่นอกหุบเขาเมื่อกลุ่มผู้ใช้วิญญาณที่บ้าคลั่งพุ่งผ่านเขาไป


 


ใบหน้าของหงอี้กลายเป็นซีดขาวและรีบหลบหนี


 


ผู้ใช้วิญญาณกลุ่มหนึ่งวิ่งแซงหงอี้ไป


 


“เกิดสิ่งใดขึ้น?” หัวใจของหงอี้แทบกระโดดออกมาจากหน้าอก


 


บางคนอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง


 


“ข้าได้ยินมาว่ามีวิญญาณปราณดาบระดับสี่”


 


“ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนมากมายพยายามไล่ล่ามัน”


 


“บางทีอาจเป็นพวกเราที่พบวิญญาณปราณดาบระดับสี่”


 


“นานเท่าใดตั้งแต่หุบเขาดาบหักแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น? มีวิญญาณปราณดาบระดับสี่อยู่เพียงดวงเดียว อย่าหวังสูงเกินไป”


 


“วิญญาณปราณดาบ…ระดับสี่?” หงอี้ตกใจ


 


เขาวิ่งไปในหุบเขาอย่างรวดเร็ว


 


เขาเคยสำรวจหุบเขาแห่งนี้มาก่อนแต่ก่อนหน้ามันไม่เหมือนตอนนี้


 


เมื่อโป้ชิงตื่นขึ้น หนึ่งในดาบแสงของเขาตกลงมาที่นี่และตัดภูเขาออกเป็นสองลูก


 


นี่คือต้นกำเนิดของหุบเขาดาบหัก


 


เดิมทีผู้คนไม่ได้สนใจมันแต่ในไม่ช้าผู้ใช้วิญญาณภาคกลางก็ตระหนักว่าหุบเขาแห่งนี้ให้กำเนิดวิญญาณบนเส้นทางแห่งดาบขึ้นมาโดยไม่คาดคิด


 


ดาบแสงของโป้ชิงเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันไม่แปลกที่หุบเขาแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่พิเศษและสามารถให้กำเนิดวิญญาณบนเส้นทางแห่งดาบ


 


ความจริงเรื่องนี้ไม่สามารถปกปิด ดังนั้นผู้ใช้วิญญาณจึงเดินทางมาที่เพื่อค้นหาสมบัติมากขึ้นเรื่อยๆ


 


ก่อนหน้านี้บางคนพบวิญญาณปราณดาบระดับสี่ มันสร้างความปั่นป่วนขึ้นทันที


 


‘วิญญาณปราณดาบระดับสี่หายากมาก แม้ข้าจะเจอมันแต่ข้าก็ไม่สามารถจับมัน มันอันตรายเกินไป’ หงอี้คิดขณะสำรวจพื้นที่รอบๆ


 


เขาเดินเข้าไปในสถานที่ที่ดูธรมดามากแต่เขากลับเห็นบางสิ่งที่น่าตกใจ


 


มันเป็นวิญญาณแรกกำเนิด


 


หงอี้ตกตะลึงก่อนจะเปลี่ยนเป็นดีใจ “ข้าช่างโชคดีนักที่พบวิญญาณที่พึ่งถือกำเนิด กลิ่นอายของมัน…แข็งแกร่งมาก! มันคือวิญญาณระดับสี่หรืออาจจะระดับห้า?”


 


หงอี้ไม่าสามารถอดทนรอและรีบคว้ามันมาไว้ในมือ


 


เขาเร่งไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยมากขึ้นและเริ่มปรับแต่งมันทันที


 


ครู่ต่อมา เขาประสบความสำเร็จในการปรับแต่งและกลายเป็นเจ้าของวิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งดาบ! มันมีรูปร่างเหมือนฝักดาบที่ทำจากเหล็กขนาดเล็ก


 


วิญญาณฝักดาบระดับห้า!


 


“วิญญาณดวงนี้ใช้งานอย่างไร? มันเป็นวิญญาณระดับห้า พลังวิญญาณของข้าไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นใช้งานมัน” หงอี้ถอนหายใจแต่ในจังหวะนี้วิญญาณบนเส้นทางแห่งดาบที่ซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้ๆกลับบินมาหาเขาและเข้าไปในฝักดาบที่อยู่บนมือของหงอี้โดยไม่คาดคิด


 


หงอี้ตกใจและรู้สึกพูดไม่ออก


 


…..


 


ภาคใต้ ภูเขาไร้นามแห่งหนึ่ง


 


มันเป็นเวลาเที่ยงคืนที่พายุฝนกำลังโหมกระหน่ำ


 


“เฉิงซินซื่อ ชีวิตของเจ้าจะจบลงวันนี้” ชายมัดกล้ามเดินไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาด้วยมือไพล่หลัง


 


มีผู้ใช้วิญญาณสามคนอยู่ที่นี่


 


หนึ่งชาย สองหญิง


 


ผู้ใช้วิญญาณหญิงผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส นางคือสาวใช้ของเฉิงซินซื่อ เสี่ยวหลาน


 


ผู้ใช้วิญญาณหญิงอีกคนมีเส้นผมสีดำที่ทิ้งตัวลงมาราวกับน้ำตก นางมีผิวขาวราวหิมะและมีรูปโฉมที่งดงามมาก นางก็คือเฉิงซินซื่อ


 


เห็นคนที่กำลังเดินเข้ามา เฉิงซินซื่อเผยรอยยิ้มขมขื่น “เฉิงไป่ซื่อ เป็นเจ้าจริงๆ เหตุใดเจ้าต้องสังหารข้า?”


 


เฉิงไป่ซื่อหัวเราะเสียงดัง “ท่านพ่อตาย พี่ใหญ่ตาย จ้าวเฟิงก็ตาย ตราบเท่าที่ข้าฆ่าเจ้า พี่แปดจะได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูล ดังนั้นวันนี้เจ้าต้องตาย!”


 


ร่างของเฉิงซินซื่อสั่นสะท้านและแทบจะล้มลงบนพื้นราวกับมีพลังงานที่มองไม่เห็นผลักนาง


 


นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่โศกเศร้า “เพื่อตำแหน่งผู้นำตระกูล เฉิงปู้เหลาช่างโหดเหี้ยมนัก”


 


เฉิงไป่ซื่อหัวเราะเสียงเย็น “ถูกต้อง เจ้าช่วยชีวิตพี่แปดเอาไว้ แต่แล้วอย่างไร? เจ้าต้องการให้เขาตอบแทนความเมตตาและมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้เจ้างั้นหรือ? ฮืม ผู้นำตระกูลเฉิงคือเจ้าเหนือหัวของเมือง เจ้าเป็นคนใจอ่อน เจ้าจะแข่งขันกับพี่แปดได้อย่างไร?”


 


เฉิงซินซื่อส่ายศีรษะ “เมื่อข้าช่วยเขา ข้าไม่เคยคิดที่จะแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลกับเขา”


 


“แน่นอน นั่นคือเหตุผลที่เจ้ามาอยู่ในสภาพนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า” เฉิงไป่ซื่อกล่าว


 


“ท่านหญิงซินซื่อ ยังมีสิ่งใดต้องพูดคุยกับคนเลวผู้นี้!” เย่ฟานขมวดคิ้วกล่าวด้วยความรังเกียจที่มีต่อเฉิงไป่ซื่อ


 


“คุณชายเย่ ท่านควรจากไป เขาไม่ต้องการชีวิตของท่าน ท่านไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าเข้ามายุ่ง รีบไป!” เฉิงซินซื่อกระตุ้นให้เย่ฟานจากไป


 


“ข้าไม่ไป!” เย่ฟานตะโกน “ท่านหญิงซินซื่อ ท่านช่วยข้าไว้ ข้าต้องตอบแทนความเมตตา แล้วข้าจะทอดทิ้งท่านได้อย่างไร?”


 


“ฮืม ไร้สาระ แม้เจ้าจะต้องการจากไป เจ้าก็ไม่สามารถจากไป วันนี้พวกเจ้าทั้งสามต้องตายที่นี่!” เฉิงไป่ซื่อกล่าว


 


เย่ฟานกัดฟันแน่น แม้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เขาก็ยังยืนอยู่ด้านหน้าเฉิงซินซื่อ


 


“หือ วีรบุรุษปกป้องหญิงงามงั้นหรือ?” เฉิงไป่ซื่อหัวเราะก่อนจะผลักเย่ฟานให้ล้มลง


 


“หากเจ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ข้าอาจต้องระวังเจ้า แต่ตอนนี้พลังวิญญาณของเจ้าหมดแล้ว เจ้าไม่ใช่ภัยคุกคามของข้าอีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า” เฉิงไป่ซื่อหัวเราะและเดินตรงเข้าไปหาเฉิงซินซื่อ


 


เฉิงซินซื่อปิดเปลือกตาลงและไม่ต่อต้าน


 


แต่ก่อนที่นางจะถูกสังหาร ภาพของชายผู้หนึ่งกลับปรากฏขึ้นในใจของนาง


 


นางคิด ‘หากข้าได้พบเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายก็คงดี’


 


อย่างไรก็ตามหลังจากชั่วครู่นางกลับไม่รู้สึกถึงการโจมตีของเฉิงไป่ซื่อ


 


เฉิงซินซื่อเปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความสับสน นางเห็นเพียงเฉิงไป่ซื่อที่ไม่ขยับเขยื้อน


 


ร่างกายของเขาแข็งค้างราวกับรูปปั้น


 


“ฮืม เพื่ออำนาจ เจ้าไม่สนใจเครือญาติ เจ้าคือความอัปยศของตระกูลเฉิงอย่างแท้จริง!” ผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งปรากฎตัวขึ้น


 


“ท่านคือ?” เฉิงซินซื่อตกใจ


 


ผู้อมตะหญิงมองเฉิงซินซื่อและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “อย่ากังวล ข้าคือบรรพชนของตระกูลเฉิง เฉิงซินซื่อ ข้าตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นผู้นำตระกูลเฉิง”


บทที่ 1060 ตรวจสอบโชค


แปลโดย iPAT 


 


แม่น้ำหม้อหลอมรวมเหมือนเข็มขัดสีเขียวที่ทอดตัวยาวอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคกลาง


 


อิงอู๋เซี่ยยืนอยู่ริมแม่น้ำ เขากำลังรอฟงฉานซื่อ


 


ในขณะเดียวกันไห่ลั่วหลัน ซื่อหนิว และไท่เป่ยหยุนเฉิงก็ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับอิงอู๋เซี่ย


 


น้ำไหลอย่างเอื่อยเฉื่อย แมลงปอสองตัวบินลงมายังกอหญ้าที่อยู่ใกล้ๆ


 


มันเป็นกอหญ้าที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำเรียกว่าหญ้าหม้อหลอมรวม


 


ปลายก้านใบของมันมีผลสีน้ำตาล


 


ผลไม้ชนิดนี้มีขนาดเท่ากำปั้น มันมีช่องว่างเปิดออกเล็กน้อยขณะที่ด้านในว่างเปล่า


 


เมื่อแมลงปอบินตามกลิ่นผลไม้เข้าไปภายใน พวกมันจะไม่สามารถกลับออกมา


 


อิงอู๋เซี่ยเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ


 


เขารู้ว่าอีกไม่กี่เดือนผลไม้จะเติบโตขึ้นและจะดึงดูดแมลงรวมถึงปลาและกุ้งได้มากขึ้น เมื่อมันเติบโตเต็มที่ ผลของมันจะปิดตัวลงทำให้มันดูเหมือนหม้อสีน้ำตาล


 


เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ผลไม้เหล่านี้จะถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำ


 


ผู้ใช้วิญญาณจะเก็บเกี่ยวผลไม้ทั้งหมด


 


หลังจากทุบทำลายหม้อใบนี้ พวกเขาอาจได้รับวิญญาณบางดวงที่ถือกำเนิดขึ้นภายใน


 


วิญญาณเหล่านี้สามารถปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย


 


นิกายเมฆาวายุเป็นหนึ่งในสิบนิกายโบราณที่รับผิดชอบแม่น้ำสายนี้ ในช่วงเวลานี้ของทุกปีพวกเขาจะจัดงานเทศกาลรอบแม่น้ำหม้อหลอมรวม ผู้ใช้วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนจะเดินทางมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมเทศกาลนี้


 


ขณะที่อิงอู๋เซี่ยมองหญ้าหม้อหลอมรวม จิตใจของเขาล่องลอยไปอื่น


 


เพื่อให้ได้รับแสงแรกกำเนิด เขารออยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว


 


ภายนอกเขาดูสงบนิ่งแต่ภายในกลับปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อยๆ


 


‘ข้ามีวิญญาณกาลเวลา แต่ตอนนี้มันถูกปิดผนึกและไม่สามารถใช้งาน ก่อนที่ข้าจะปรับแต่งมัน ข้าจะถูกจับตามองโดยเจตจำนงสวรรค์ นอกจากนั้นเจตจำนงสวรรค์ยังส่งอิทธิพลต่ออารมณ์ของข้าอย่างลับๆ มันสามารถวางแผนให้ผู้อื่นโจมตีข้า ข้าไม่ควรปล่อยให้เจตจำนงสวรรค์มีเวลาเตรียมตัว ข้าไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้เป็นเวลานาน หากฟงฉานซื่อไม่ปรากฏตัวอีก ข้าต้องยอมแพ้เรื่องนี้’ อิงอู๋เซี่ยตัดสินใจ


 


เป็นเพียงเวลานี้ที่ร่างสีเขียวบินเข้ามาหาอิงอู๋เซี่ย


 


“มันคือหุ่นเชิดพฤกษา!”


 


“ระวังตัว อาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด!”


 


สมาชิกนิกายเงาลอบถ่ายทอดเสียงถึงกันอย่างลับๆ


 


หุ่นเชิดพฤกษาแสดงออกด้วยความเย่อหยิ่ง “แสงแรกกำเนิดมีอยู่ที่นี่ แต่นายท่านบอกว่าราคาก่อนหน้านี้ยังไม่เพียงพอ เจ้าต้องจ่ายเพิ่มอีกสามสิบส่วน”


 


“อันใด? สามสิบส่วน?”


 


“นี่เป็นการกรรโชกทรัพย์ชัดๆ ฟงฉานซื่อช่างกล้าหาญนัก!”


 


“ราคาสูงมาก เพิ่มอีกสามสิบส่วน มันแพงเกินไป!”


 


ซื่อหนิวและไท่เป่ยหยุนเฉิงแสดงความคิดเห็น


 


อิงอู๋เซี่ยโกรธมากเช่นกันแต่เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องการแสงแรกกำเนิดเพื่อหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ แสงแรกกำเนิดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด


 


หลังจากเงียบอยู่ชั่วขณะ อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า “ข้าตกลง”


 


อิงอู๋เซี่ยเตรียมตัวมาแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงสามารถทำธุรกรรมกันอย่างรวดเร็ว


 


หุ่นเชิดพฤกษานับเงินก่อนจะแสดงออกด้วยท่าทางพึงพอใจ


 


อิงอู๋เซี่ยประสบความสูญเสียครั้งใหญ่แต่ในที่สุดเขาก็ได้รับแสงแรกกำเนิด โดยรวมแล้วเขาค่อนข้างพอใจกับเรื่องนี้


 


เขาเผยรอยยิ้ม “มันเป็นธุรกรรมที่น่าพอใจ เราควรแลกเปลี่ยนกันอีกในอนาคต”


 


หุ่นเชิดพฤกษาตอบ “หือ อีกงั้นหรือ? นั่นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนายท่านของข้า แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้นายท่านไม่ต้องการแลกเปลี่ยน แต่ท่านแพ้พนันให้กับหลางจื้อชิวและต้องการชดเชยความสูญเสีย หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้นายท่านย่อมไม่ขายแสงแรกกำเนิดให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”


 


“ข้าเข้าใจ ที่นี่มีสมบัติมากมาย แสงแรกกำเนิดไม่ถือเป็นสิ่งใด แม้มันจะหายไปก็ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น” อิงอู๋เซี่ยกล่าวอย่างสุภาพ


 


“เอาล่ะ เสร็จธุระแล้วก็รีบไป อย่าอยู่ที่นี่นานนัก” หุ่นเชิดพฤกษาตัดบทและจากไป


 


แม้จะไม่มีการแจ้งเตือน อิงอู๋เซี่ยก็ต้องการจากไปอย่างรวดเร็วที่สุดอยู่แล้ว


 


หลังจากบินมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยลงไปในป่าไร้นามเพื่อพักผ่อน


 


“ตอนนี้แม้เราจะได้รับแสงแรกกำเนิด แต่ราคาของมันก็สูงเกินไป เรายังต้องหาทรัพยากรอื่นอีก”


 


“โชคดีที่ได้แสงแรกกำเนิดมากล้ว เรื่องอื่นสามารถแก้ไข” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าว


 


“สิ่งสำคัญก็คือแสงแรกกำเนิดที่มีสามารถหลอมรวมวิญญาณได้กี่ครั้ง?” ไห่ลั่วหลันถามเข้าประเด็นสำคัญ


 


เมื่อผู้อมตะต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะ ทรัพยากรเพียงชุดเดียวยังไม่เพียงพอ


 


ปราศจากวิธีการหลอมรวมของมนุษย์ขน วิธีการหลอมรวมของมนุษย์มีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยกว่าหนึ่งส่วนร้อย


 


ในทางทฤษฎี อิงอู๋เซี่ยควรเตรียมทรัพยากรหนึ่งร้อยชุด


 


แต่ในทางปฏิบัติ มันยิ่งโหดร้ายมากกว่า


 


โอกาสประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณทรัพยากรเท่านั้น แม้จะมีทรัพยากรมากกว่าร้อยชุด พวกเขาก็อาจไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว


 


“แสงแรกกำเนิดที่มีสามารถหลอมรวมได้เก้าครั้ง” อิงอู๋เซี่ยตอบ


 


เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะอย่างลับๆ


 


มันคือวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคระดับหก


 


เดิมทีวิญญาณอมตะดวงนี้เป็นของฉินไป่เฉิง แต่ซื่อหนิวได้รับมันมาก่อนหน้านี้


 


หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน นิกายเงาล่มสลาย สุดท้ายวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคจึงย้ายมาอยู่กับอิงอู๋เซี่ย


 


นี่คือวิญญาณที่สามารถตรวจสอบโชคของผู้คน


 


ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายขึ้นขณะที่เขามองขึ้นไปด้านบน


 


เขาเห็นเสาแสงขนาดใหญ่


 


อิงอู๋เซี่ยตกใจ ‘หือ เหตุใดโชคของข้าจึงดีนัก?”


 


เขาตรวจสอบโชคของตนเองมาก่อนหน้านี้แต่มันแย่มาก อย่างไรก็ตามตอนนี้มันกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง


 


‘อย่าบอกข้าว่า…’ ความคิดหนึ่งพุ่งผ่านจิตใจของอิงอู๋เซี่ย


 


เขานึกถึงฟางหยวน


 


‘นิกายเงาบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและได้รับส่วนหนึ่งของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวม พวกเรากระทั่งทำลายวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขไปโดยบังเอิญ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเตรียมหลอมรวมมันขึ้นมาอีกครั้งและพึ่งประสบความสำเร็จเมื่อเร็วๆนี้ บางทีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขอาจถูกยืมไปโดยฟางหยวน’


 


อิงอู๋เซี่ยรู้สึกว่าสิ่งนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก


 


ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้รับแจ้งจากสายลับที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาว่าภัยพิบัติของฟางหยวนมาถึงแล้ว


 


‘ต้องเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน!’


 


‘เดิมทีฟางหยวนเชื่อมโยงโชคของเขากับหลายคน โชคของพวกเขาจะถูกแบ่งปันอย่างเท่าเทียม หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ร่างกายของข้าเป็นของฟางหยวน ขณะที่เขายังใช้ดวงวิญญาณเดิม’


 


‘เมื่อเขาใช้วิญญาณอมตะโชคอึสุนัขเพื่อปรับปรุงโชคของตนเอง โชคดีของเขาจึงไหลไปหาเย่ฟาน ฮันหลี่ หงอี้ ไห่ลั่วหลัน รวมถึงร่างกายของข้าก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน’


 


‘ไม่แปลกใจเลยที่ข้าประสบความสำเร็จในการแลกเปลี่ยนแสงแรกกำเนิด’


 


หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ อิงอู๋เซี่ยจึงตระหนักถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของฟางหยวน


 


‘มิติช่องว่างของเขาต้องผ่านภัยพิบัติทุกสองเดือน เขาต้องใช้วิญญาณอมตะโชคอึสุนัขอย่างต่อเนื่องเพื่อลดพลังอำนาจของภัยพิบัติ ด้วยวิธีนี้ข้าจะได้รับประโยชน์จากมัน! ข้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปที่ภาคเหนือเพื่อยืมโชคจากถ้ำสวรรค์นิรันดร!’


 


‘แม้เขาจะรู้ตัวว่าสิ่งนี้จะทำให้ศัตรูแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาไม่มีทางเลือกเพราะภัยพิบัติจากมิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องทำทุกสิ่งเพื่อความอยู่รอด อย่างไรก็ตามเขาเลือกรับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งของภาคเหนือ มันเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เจตจำนงสวรรค์จะทำให้ภัยพิบัติรุนแรงขึ้นแต่ที่แดนน้ำแข็ง เขาจะได้รับความหมายที่แท้จริงส่วนหนึ่งจากเทพปีศาจคลั่ง ฮืม ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิตจากสิ่งนี้ แล้วข้าจะนำร่างกายของเจ้ากลับมาในวันหนึ่ง!’


 


หลังจากพักผ่อนอยู่ในป่าไร้นามระยะหนึ่ง อิงอู๋เซี่ยกับคนอื่นๆก็ออกเดินทางอีกครั้ง


 


อิงอู๋เซี่ยเคลื่อนไหวเร็วมากเพราะเขาถูกกดดันโดยกรอบเวลา


 


ไม่เพียงร่างหลักของเขาจะติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน เขายังต้องอาศัยโชคดีในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ


 


ภาคเหนือ แดนน้ำแข็ง


 


“ท่านอาจารย์ เราต้องอยู่ที่นี่นานเท่าใด?” ผู้อมตะใหม่บนเส้นทางความแข็งแกร่งถาม


 


ชูตู๋มองแดนน้ำแข็งตรงหน้าและถอนหายใจ


 


เขาไม่ตอบศิษย์แต่ลอบเสียใจอยู่ภายใน


 


‘ก่อนหน้านี้ข้ารีบร้อนเกินไป เหตุใดข้าจึงโจมตีเขาโดยไม่คิดให้รอบคอบ?’


 


‘เมื่อเขารู้วิธีดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งออกมา มันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่ข้าจะได้รับวิธีการนี้ไม่ว่ามันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ตาม’


 


‘แม้ข้าจะฆ่าเขา แต่ข้าก็ต้องป้องกันไม่ให้เขาระเบิดวิญญาณของตนเอง มิฉะนั้นทุกอย่างจะกลายเป็นความว่างเปล่าและทำให้ข้าสูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่’


 


‘ข้าต้องรอบคอบกว่านี้ อย่างน้อยข้าก็ควรสุภาพก่อนจะใช้กำลัง!’


 


‘ตอนนี้เขาซ่อมแซมมิติช่องว่างเรียบร้อยแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ข้าจะเจาะทะลวงเข้าไป’


 


‘มันยังไม่สายเกินไปที่จะกอบกู้สถานการณ์ บางทีข้าอาจสามารถพูดคุยกับเขา สิ่งสำคัญก็คือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบของเขาอยู่กับข้า ข้าสามารถใช้มันในการต่อรอง!’

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)