ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1052-1065

 ตอนที่ 1052 สั่งสอนเจ้าโง่ที่ไม่เคารพพี่สะใภ้อย่างนาย


เหยียนหมิงต๋าไม่กล้าฝืนคำสั่งพี่ชายเลยหยุดอยู่กับที่อย่างเชื่อฟัง อู่เยวี่ยหันกลับมามองเขาแวบหนึ่งกัดฟันแล้วเดินจากไป


เหยียนหมิงซุ่นเดินมาใต้ซุ้มองุ่นก่อนถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นกับอู่เยวี่ย?”


เหยียนหมิงต๋าเล่าเรื่องอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นเขาไม่กล้าโกหกแม้แต่คำเดียวแต่เพราะใจที่เอนเอียงไปทางอู่เยวี่ยเลยใส่สีตีไข่ไปบ้าง


“พี่ใหญ่ จ้าวเหมยทำเกินไปแล้ว เธอ…”


‘เพี้ยะ…’


เหยียนหมิงซุ่นตวัดฝ่ามือใส่จนเหยียนหมิงต๋าล้มไปกองกับพื้น ครึ่งหนึ่งของใบหน้าเริ่มปูดบวมและมีเลือดที่มุมปาก


คุณยายหยางลุกขึ้นหมายจะห้ามเหยียนหมิงต๋าแต่ถูกคุณตาเหยียนห้ามไว้โดยการใช้สายตาตักเตือน คุณยายหยางเลยจำเป็นต้องกลับมานั่งที่เดิมและยิ่งไม่พอใจต่ออู่เยวี่ยกว่าเก่า


ทุกอย่างเป็นเพราะเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงทำให้หมิงต๋าเดือดร้อน เฮ้อ ทำไมหมิงต๋าต้องแขวนคอตายอยู่บนต้นไม้อย่างอู่เยวี่ยต้นเดียวด้วยนะ !


“พี่ใหญ่…”


เหยียนหมิงต๋าขานเรียกชื่อออกมา  ใบหน้าเริ่มแสบร้อนและเจ็บจนน้ำตาไหลพราก


เมื่อก่อนพี่ใหญ่เคยให้เขานั่งจักรยานของอู่เจิ้งซือเพราะจ้าวเหมยถึงขนาดก้นสะท้านจนปวดไปหมด ตอนนี้ยิ่งลงไม้ลงมือกับเขาเพราะจ้าวเหมย ฮือ…พี่ใหญ่ยังไม่ทันแต่งงานก็ทอดทิ้งน้องชายแล้ว!


“รู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงตีนาย?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงนิ่ง


“รู้…ซู้ด…ฉันไม่ควรนินทาจ้าวเหมย…” เหยียนหมิงต๋าตอบเสียงเบาแต่ก็โดนตบหน้าอีกฟากหนึ่ง ดีล่ะสิทีนี้ บวมเป่งทั้งสองข้างเหมือนหมูเลย


เหยียนหมิงซุ่นมองน้องชายตัวเองอย่างนึกขุ่นใจว่าเจ้าหมอนี่ได้สมองมาจากใคร?


หมูยังฉลาดกว่าเขาเลย!


เขาเป็นคนที่จะลงไม้ลงมือกับพี่น้องตัวเองเพราะผู้หญิงคนเดียวหรือ?


แน่นอนว่าใจเขาเองก็มีความไม่พอใจ เจ้าน้องชายโง่คนนี้ไม่รู้จักเคารพว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตสักนิด แต่คำพูดแบบนี้จะพูดต่อหน้าคุณปู่คุณย่าได้หรือ?


“ฉันเคยเตือนนายไว้แล้วว่าห้ามไปมาหาสู่กับอู่เยวี่ย นายทำเป็นหูทวนลมกับคำพูดฉันเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงเย็น


คุณยายหยางที่ทนไม่ไหวแต่แรกรีบด่าแทรกเข้ามา “หมิงต๋าทำไมหลานไม่ฟังเลย เป็นเด็กดีเชื่อฟังที่พี่พูดนะ อยู่ให้ห่างจากอู่เยวี่ยหน่อย ดูสิว่าหลานซ้ำชั้นเพราะอู่เยวี่ยไปแล้ว!”


“ซ้ำชั้นเพราะผมสมยอมเอง ไม่เกี่ยวกับเยวี่ยเยวี่ย!”


เหยียนหมิงต๋าเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ยอมแพ้


ตุบตับตุบตับ…


รอบนี้คนลงไม้ลงมือคือคุณตาเหยียน เขาโกรธจนตัวสั่นระริกเลยเตะเหยียนหมิงต๋าไปหลายที แต่เพราะอายุที่มากแล้วสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย หมัดเท้าที่โดนตัวเหยียนหมิงต๋าเลยไม่ค่อยสะทกสะท้านเท่าไร


เหยียนหมิงซุ่นพยุงให้คุณปู่นั่งลงแล้วจ้องน้องชายที่ไม่รู้จักสำนึกผิดอยู่ครู่ใหญ่ มองจนเหยียนหมิงต๋าหวาดเสียวในใจ ขนลุกขนพองไปหมด


“ตั้งแต่พรุ่งนี้มากินข้าวเที่ยงที่บ้าน ยกเลิกเงินค่าขนม!”


เหยียนหมิงต๋าอยากจะแย้ง เวลาอาหารกลางวันเป็นเพียงเวลาเดียวที่เขาจะได้เข้าใกล้เยวี่ยเยวี่ยในระยะประชิด หากเงินค่าขนมถูกยกเลิกไปเขาจะซื้อของขวัญให้เยวี่ยเยวี่ยอย่างไร?


แต่ยามเขาสบสายตาเย็นยะเยือกของพี่ชายของตนความกล้าเท่าลูกหมาก็มลายหายไปทันทีไม่กล้าแม้แต่ปริเสียงออกมา รับขานไปอย่างเชื่อฟังก่อนจะแบกหน้าที่ปูดบวมเหมือนหัวหมูไปเรียนหนังสือ


รอเหยียนหมิงต๋าเดินไปไกลแล้วเหยียนหมิงซุ่นก็บอกคนแก่อีกสองคนว่า “ปีหน้าให้หมิงต๋าไปเกณฑ์ทหาร”


คุณตาเหยียนเงียบส่วนคุณยายหยางดูท่าทางไม่ยินยอมเท่าไรนัก หลานคนโตไม่ได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไปเป็นทหารเสียก่อน ตอนนี้หลานคนเล็กก็จะไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อไปเป็นทหารเหมือนกัน หรือว่าตระกูลเหลียนจะเข้าสู่สายอาชีพทหารกันแล้วหรือ?


เหยียนหมิงซุ่นรู้ทันความคิดของคนแก่ทั้งสองเลยถาม “จากคะแนนของหมิงต๋าคุณปู่คุณย่าคิดว่าเขาเหมาะกับเดินสายไปทางการเรียนเหรอ?”


คนแก่ทั้งสองถอนหายใจ หลานชายตัวเล็กคะแนนแย่ไปหน่อยหากไม่ได้โควตานักกีฬาเกรงว่าสอบมหาวิทยาลัยก็ไม่ติดด้วยซ้ำ คนแก่สองคนมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นอย่างขุ่นเคือง คนสอบได้กลับไม่สอบ เฮ้อ!


เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจพลางกล่าวเตือน “ถ้าหมิงต๋าอยู่เมืองจินต่อไปกลัวว่าจะต้องพัวพันกับอู่เยวี่ยไปตลอดชีวิต หรือว่าพวกท่านอยากได้อู่เยวี่ยมาเป็นหลานสะใภ้?”


ทั้งคู่ตัวสะท้านเฮือกแล้วส่ายหน้าปฏิเสธอย่างขันแข็งทั้งพูดขึ้นพร้อมกัน “ตกลงตามนี้ ปีหน้าให้หมิงต๋าไปเกณฑ์ทหาร!”


…………………………..


ตอนที่ 1053 แผนของอู่เยวี่ย


เหมยเหมยที่กลับถึงห้องเรียนรู้สึกได้ถึงสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมของเหล่าเพื่อนร่วมห้องเลยยิ้มส่ายศีรษะ สุดท้ายก็เกิดกำแพงขึ้นจนได้!


แต่เธอไม่สนใจเท่าไรในเมื่อเธอไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนร่วมห้องมากนัก ไม่แม้แต่จะสนทนากันด้วยซ้ำ ส่วนจะเกิดกำแพงกั้นหรือเปล่าไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเธอ


ไม่นานเหยียนหมิงต๋าก็กลับเข้าห้องเรียนในสภาพหน้าบวมเป่ง เห็นเหมยเหมยแล้วรีบหลบสายตาเอาแต่ก้มหน้างุด


เหมยเหมยหัวเราะเงียบๆ แค่ดูก็รู้ว่าถูกเหยียนหมิงซุ่นสั่งสอนมา คุณปู่เหยียนไม่ได้แรงเยอะขนาดนั้น ความรู้สึกที่มีโล่แข็งแกร่งคอยหนุนหลังแถมยังเป็นที่รักใคร่อย่างไร้ขีดจำกัดแบบนี้เรียกให้เหมยเหมยรู้สึกหวานชื่นไปถึงใจ


กลางคืนให้รางวัลหน่อยแล้วกัน อือฮึ!


คนที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงยังมีโอหยางซานซาน เหล่าแฟนคลับตัวยงที่เคยรักเธออย่างไร้สตินั้นจู่ๆ ก็น้อยลงไปมากทีเดียว ถึงขั้นมีคนแอบนินทาเธอลับหลังไหนจะสายตาที่คอยหลบหลีกอยู่ตลอด


“มิน่าโอหยางซานซานที่เขียนหนังสือตีพิมพ์ได้ ที่แท้พ่อของเขาก็ดูแลสำนักพิมพ์อยู่สินะ ชิ…ฉันนึกว่าเธอจะมีความสามารถมากขนาดไหนเชียว!”


“นั่นสิ ถ้าพ่อฉันมีตำแหน่งใหญ่โตแบบนั้นก็ต้องได้ตีพิมพ์หนังสือด้วยกันแน่!”


“แต่บทความของรุ่นพี่โอหยางเขียนได้ดีจริงๆ นี่นา!” แฟนคลับตัวจริงต่างออกเสียงท้วงแทนไอดอลของพวกเขา


“ทั้งประเทศมีคนตั้งมาก คนเขียนดีมีถมเถไป ถึงคราวที่โอหยางซานซานตีพิมพ์หนังสือแล้ว? นั่นก็เพราะเธอมีพ่อที่ดีไง!”


“ใช่ มีพ่อที่ดีก็ไม่ต้องสู้ไปอีกสามสิบปี เฮ้อ…อิจฉาจัง!”


……


โอหยางซานซานเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่ถมึงทึง


ยายจ้าวเหมย!


ช่วงหัวค่ำกลับถึงบ้านโอหยางซานซานก็รีบฟ้องสิ่งที่ตัวเองเจอมาเมื่อกลางวันให้หวงอวี้เหลียนฟัง หวงอวี้เหลียนย่อมเจ็บใจอยู่แล้ว แววตาแปรเปลี่ยนเป็นความดุดัน


“ซานซานอย่าเสียใจไป แม่จะต้องแก้แค้นแทนลูกแน่ๆ ลูกอดทนไว้ก่อน ไม่นานตระกูลจ้าวก็จะเจอดีแล้ว!”


“ต้องอีกนานแค่ไหน ตอนนี้หนูเห็นจ้าวเหมยก็อารมณ์เสียแล้ว แม่คะ แม่รีบไล่เธอไปจากอีจงสิ หนูไม่อยากเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอ…” โอหยางซานซานทั้งร้องทั้งโวยวาย


หวงอวี้เหลียนได้แต่ใช้คำพูดดี ๆ ปลอบประโลม  เธอมีความสามารถขับไล่จ้าวเหมยเสียที่ไหน ตอนนี้จ้าวอิงหัวยังเป็นคนคุมเมืองจินอยู่จะแข็งชนแข็งไม่ได้ เธอยังไม่โง่ถึงขั้นนั้น


“ซานซานเป็นเด็กดีนะ สองวันถัดจากนี้แม่ได้โทรนัดสัมภาษณ์ช่องหนึ่งให้ลูก ลูกรีบตั้งสติ ขอแค่ลูกฟังแม่ อนาคตลูกต้องสบายกว่าจ้าวเหมยร้อยเท่า!”


หวงอวี้เหลียนปลอบไปอีกสักพักโอหยางซานซานถึงยิ้มออก รอคอยวันที่จ้าวเหมยตกอับ


ถึงตอนนั้นเธอจะต้องเอาคืนจ้าวเหมยให้สาสม!


อู่เยวี่ยไปหาอู่เจิ้งซือหลังเลิกเรียนอีกวันถัดจากนั้น เมื่อวานสภาพเธอย่ำแย่ขนาดนั้นหากไปแล้วต้องโดนอู่เจิ้งซือรังเกียจแน่


บริษัทของอู่เจิ้งซือเป็นบริษัทสื่อและความบันเทิงแห่งหนึ่งที่มีนักแสดงชื่อดังมากมายสังกัดอยู่โดยมีเจ้านายเป็นเหมยซูหาน แต่ปกติล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของเขา อีกอย่างเหมยซูหานดีกับเขามาก แบ่งหุ้นส่วนให้เขาถึงร้อยละสิบ แค่โบนัสก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ


ในต้นยุคเก้าศูนย์บริษัทคล้ายๆ สื่อและบันเทิงแบบนี้ยังมีน้อยนัก เหมยซูหานก่อตั้งบริษัทสื่อและบันเทิงนี้ได้เพราะอาศัยความทรงจำเศษเสี้ยวในฝันทั้งนั้นซึ่งความจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาตัดสินใจไม่ผิด อาศัยดารานักแสดงชื่อดังเหล่านั้นก็กอบโกยผลประโยชน์ให้บริษัทได้เต็มๆ


อู่เยวี่ยแต่งกายสบายๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์และปล่อยผมสยาย เพราะใส่เครื่องช่วยฟังอยู่ไม่ว่าอากาศร้อนแค่ไหนก็ต้องปล่อยผมสยาย


“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ?”


อู่เยวี่ยที่กำลังจะผลักประตูห้องผู้จัดการใหญ่ก็ถูกหญิงสาวในชุดทำงานตัวอ้อนแอ้นหน้าตาสะสวยคนหนึ่งขวางไว้และยิ้มอย่างมีมารยาททว่าห่างเหิน


ตอนที่ 1054 นักธุรกิจผู้มีการศึกษา


อู่เยวี่ยแค่ดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเลขาของอู่เจิ้งซือ เพียงแต่เมื่อครึ่งปีก่อนยังไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้สวยเท่านี้ เธอแอบเบะปากน้อยๆ ผู้ชายนิสัยเหมือนกันทั้งโลก


อดีตต่อให้อู่เจิ้งซือเป็นคนดีแค่ไหนตอนนี้ก็แอบคบเลขาเชิงสู้สาวอยู่ดี!


แม้ลอบบ่นในใจแต่ใบหน้ากลับยิ้มเคอะเขินแล้วตอบเสียงเบา “พี่สาวคะ ฉันมาหาคุณพ่อ พ่อของฉันคืออู่เจิ้งซือ เขาอยู่ข้างในหรือเปล่า?”


หญิงสาวหน้าตาเย้ายวนชะงักน้อยๆ ผู้จัดการอู่มีลูกสาวที่โตขนาดนี้เชียว ทำไมใส่เสื้อได้น่าสงสารขนาดนี้?


แค่แวบเดียวเธอก็รู้ว่าแล้วเสื้อบนตัวอู่เยวี่ยล้วนมีแต่ของราคาถูก ไม่มีแบรนด์ดี ๆ สักตัว ต่างไปจากรสนิยมของผู้จัดการอู่อย่างสิ้นเชิง


ต้องรู้ไว้ด้วยว่าเสื้อผ้าเครื่องประดับของผู้จัดการอู่ดูแลโดยคุณหร่วนทั้งนั้นโดยไล่ตั้งแต่ชิ้นใหญ่ยันชิ้นเล็ก ตั้งแต่กระดุมเนกไทไม่มีชิ้นไหนไม่ใช่แบรนด์เนม


เลขาสาวเริ่มสงสัยอู่เยวี่ยเพราะเธอไม่ค่อยเชื่อว่าลูกสาวของผู้จัดการอู่จะมีสภาพดูน่าสงสารแบบนี้ อีกทั้งเมื่อก่อนไม่เคยได้ยินผู้จัดการอู่เอ่ยถึงลูกสาวมาก่อน แต่เธอก็รู้สึกว่าอู่เยวี่ยไม่น่าโกหกได้  จะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จนั้นแค่ได้เจอผู้จัดการอู่ครั้งเดียวก็ถูกเปิดโปงแล้ว!


“เธอรอก่อนนะ ฉันไปรายงานผู้จัดการอู่ก่อน”


เลขาสาวตอบอย่างเกรงใจพลางให้อู่เยวี่ยรอที่ห้องรับแขก ส่วนตัวเองก็เดินส่ายบั้นท้ายจากไป


อู่เจิ้งซือกำลังนั่งอยู่บน ‘เก้าอี้เจ้านาย’ หนังแท้อย่างสบาย หมุนเก้าอี้เป็นระยะๆ ยิ้มสนทนากับหญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ดูท่าทางทั้งคู่จะสนิทชิดเชื้อกันมาก


วันเวลาผ่านไปห้าปีอู่เจิ้งซือเองก็เปลี่ยนไปมากโข คุณครูอู่ในอดีตที่เคยแต่งตัวล้าสมัยหัวโบราณคนนั้นตอนนี้กลายเป็นผู้จัดการอู่ที่มากด้วยประสบการณ์ชีวิตไปแล้ว


ชีวิตสุขสบายนี้ทำให้อู่เจิ้งซืออ้วนขึ้นเล็กน้อยกลับดูอ่อนเยาว์ลงไม่เบา บวกกับการแต่งกายที่ขับให้บุคลิกดูสง่าทำให้อู่เจิ้งซือดูแล้วมีอายุเพียงสามสิบปีต้นๆ หล่อเหลาร่ำรวยและมีกลิ่นอายของคนมีความรู้ คนนอกเรียกเขาว่านักธุรกิจผู้มีการศึกษา


ผู้หญิงที่เอียงตัวพิงโต๊ะทำงานโดยหันหลังให้ประตูกำลังอยู่ในชุดสูทสีเนื้อกับกระโปรงทรงเอสีเดียวกัน ผมถูกเกล้าขึ้นกลางศีรษะ ดูจากแผ่นหลังเหมือนเป็นหญิงสาวที่อายุไม่น้อยคนหนึ่งแต่รูปร่างดีไม่หยอก ไหล่แคบเอวคอด ลำคอระหงส์ขาวเนียน น่าจะเป็นคนสวยคนหนึ่ง


“ผู้จัดการอู่ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าเป็นลูกสาวของท่านมาหา” เลขาผลักประตูเข้ามารายงานด้วยสายตาฉายแววอิจฉาชั่ววูบ


อู่เจิ้งซือขมวดคิ้ว อู่เยวี่ยมาทำอะไร?


“ให้เธอเข้ามาเถอะ!” อู่เจิ้งซือตอบกลับ


เลขาสาวปิดประตูแล้วมองผู้หญิงที่โต๊ะทำงานอีกแวบหนึ่งก่อนจะเบะปากใส่


เหอะ ถ้าไม่ได้มีพ่อดี ๆ คนหนึ่ง ผู้จัดการอู่จะชอบผู้หญิงแก่แบบนี้ได้ไง!


“เจิ้งซือ ต้องการให้ฉันหลบไหม ?”


เสียงของหญิงสาวไพเราะและอ่อนโยนมากแต่กลับใสกังวานจนทำให้คนฟังได้ยินอย่างชัดเจน เธอหันข้างมาน้อยๆ เป็นใบหน้ารูปไข่ หางตามีริ้วรอยจางๆ บ่งบอกว่าอายุไม่น้อยแล้วจริงๆ แต่กลับดูมีรสนิยมต่างไปอีกแบบ บุคลิกก็ดูดีไม่แพ้กัน


“ไม่ต้องหรอก ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องให้พวกคุณทำความรู้จักกันอยู่แล้ว” อู่เจิ้งซือโบกมือปัด


หญิงสาวอมยิ้มให้เขาทีหนึ่ง ใบหน้าจริงจังกลับเผยความเย้ายวนออกมาน้อยๆ ทำเอาอู่เจิ้งซือมองจนตาค้าง อดยื่นมือไปบีบมือหญิงสาวไม่ได้


แม้อายุจะมากไปหน่อยแต่ความเย้ายวนนี้ไม่ใช่หญิงอายุน้อยจะมีได้เลย!


ประตูถูกผลักเข้ามาตามด้วยตัวอู่เยวี่ยที่เดินมา เมื่อเห็นหญิงสาวข้างอู่เจิ้งซือก็อดชะงักไม่ได้ แอบคิดในใจว่าช่างมาผิดเวลาเสียจริง ทำไมถึงได้ปะทะกับหร่วนเป่าฮุ่ยนี่ได้


มีผู้หญิงคนนี้อยู่อู่เจิ้งซือต้องไม่ตกลงจะรับเธอกลับไปแน่ๆ แต่ในเมื่อมาแล้วเธอย่อมกลับไปมือเปล่าไม่ได้ ต้องลองดูสักครั้งสิ ถ้าไม่เข้าท่าจริงๆ ได้ค่าอยู่ค่ากินมากกว่านี้ก็ยังดี


“ค่าอยู่ค่ากินฉันโอนเข้าบัญชีเธอทุกเดือน เธอมาทำอะไร?” อู่เจิ้งซือมุ่นคิ้วแน่น ไม่ได้ชอบใจนักที่เจออู่เยวี่ย


……………………….


 ตอนที่ 1055 อยากกลับมาไหม?


อู่เยวี่ยในอดีตคะแนนสอบดีเยี่ยม มีความสามารถเหนือกว่าใครและสามารถสร้างหน้าสร้างตาให้อู่เจิ้งซือได้ เขาย่อมต้องชื่นชมอู่เยวี่ยมากกว่านี้ แต่ตอนนี้อู่เยวี่ยคะแนนสอบแย่ บอกไปมีแต่อับอายขายหน้า เขาไม่ชอบใจลูกสาวคนนี้จริงๆ


อู่เจิ้งซือเองก็คิดได้แล้วว่าสุดท้ายลูกสาวก็ไม่สู้ลูกชายไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจจะมีลูกชายคนเก่งอีกสักคนกับหร่วนเป่าฮุ่ย หากถูกเลี้ยงดูปลูกฝังอย่างดีอนาคตต้องสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลไม่แพ้หลานชายอู่เชาแน่นอน


นึกถึงครอบครัวพี่ชายคนโตของเขาอู่เจิ้งซือก็อดส่ายศีรษะไม่ได้ พี่ชายคนโตคนเก่งคนนั้นของเขาถือว่าล้มเหลวอย่างแท้จริง วันๆ เอาแต่พึ่งเหล้าแก้เครียด ไม่เอาการเอางาน ล้มแล้วก็ไม่ลุกขึ้นสู้อีก ครอบครัวที่ดีก็ต้องแตกแยกกันไป


น่าเสียดาย!


อู่เยวี่ยแอบนึกแค้นในใจ แค้นความใจร้ายเลือดเย็นของอู่เจิ้งซือ ต่อให้เกลียดเหอปี้อวิ๋นขนาดไหนในตัวเธอก็มีสายเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ต้องเย็นชาขนาดนี้เชียวหรือ?


“พ่อคะ หนูคิดถึงพ่อเลยมาหา” อู่เยวี่ยตอบเสียงสั่นเทา สายตามีแต่ความชื่นชมและคิดถึงต่อผู้เป็นพ่อ


อู่เจิ้งซือใจอ่อนยวบอย่างห้ามไม่ได้ อย่างไรเสียก็พ่อลูกกันแท้ๆ ที่เมื่อก่อนเคยประคบประหงมเป็นลูกรัก ไม่เจอก็ช่างถือว่าไม่มีลูกสาวคนนี้ แต่ตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าตัวเป็นๆ จะทำใจแข็งดั่งผาหินได้อย่างไรไหว


หร่วนเป่าฮุ่ยตาวาววับพลางยิ้มกล่าว “เธอคือเยวี่ยเยวี่ยสินะ? ฉันได้ยินเรื่องเธอมานานแล้ว เป็นเด็กหน้าตาสวยจริงๆ ดูท่าทางฉลาดไม่เบา ต้องเรียนดีมากแน่ๆ ใช่ไหม?”


อู่เจิ้งซือหน้าขรึมลงและใจแข็งขึ้นมาทันที


“หน้าตาสวยมีอะไรดี ถ้ามีเวลาว่างก็ไปตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ดีกว่า อย่าสอบได้คะแนนที่น่าขายหน้าแบบนั้นอีก”


อู่เจิ้งซือตำหนิเสียงดุดันอย่างไม่คิดจะปิดบังความรังเกียจ


ในแววตาของหร่วยเป่าฮุ่ยมีความได้ใจพาดผ่านชั่ววูบ จะให้อู่เยวี่ยกลับมาอย่างราบรื่นมากไม่ได้ เรื่องที่หวงอวี้เหลียนสั่งไว้ยังไม่ได้ลงมือเลย!


แน่นอนว่าต่อให้อู่เยวี่ยกลับมา หล่อนอย่าคิดจะได้ทรัพย์สมบัติของอู่เจิ้งซือไปแม้แต่แดงเดียว ต้องเป็นของเธอกับลูกชายทั้งหมด!


อู่เยวี่ยรู้สึกขมขื่น เธอรู้อยู่แล้วหากมีหร่วนเป่าฮุ่ยอยู่ต้องจ้องจะทำลายอย่างไม่ออมแรงแน่ๆ นางปีศาจจิ้งจอกบ้านี่ เธอจงใจชัด ๆ!


“พ่อคะ ลุงซ่งไม่ให้หนูเรียนหนังสือแล้วยังจะให้หนูแต่งงาน เขาตีหนูด้วย…ฮือ…พ่อรับหนูกลับมาได้ไหม?”


นึกถึงการถูกหยามเหยียดในค่ำคืนนั้นอู่เยวี่ยก็น้ำตาไหลพราก สุดท้ายกลายเป็นเสียงร้องไห้โฮ


ความเจ็บปวดนั่นเธอทำได้แค่กล้ำกลืนคนเดียวไม่กล้าบอกใคร แต่เธอแค้นใจอย่างถึงที่สุด!


อู่เจิ้งซือขมวดคิ้วแน่นเป็นปม พ่อค้าขายปลานั่นใจกล้ามาจากไหน เงินค่าเรียนและค่าอยู่ค่ากินของอู่เยวี่ยล้วนมาจากเขา พ่อค้าขายปลานั่นมีสิทธิ์อะไร


“ร้องไห้เป็นอย่างเดียวหรือไง ร้องไห้มีประโยชน์อะไร!” อู่เจิ้งซือตวาดใส่พลางแสดงสีหน้ารังเกียจ


เสียเงินไปตั้งมากมายแต่กลับได้นักเรียนคะแนนยอดแย่มา ช่างเป็นการค้าขายที่ขาดทุนเสียจริง แต่เขาจำต้องทุ่มเงินต่อไปแล้วจะอารมณ์ดีได้อย่างไร!


หร่วยเป่าฮุ่ยรีบพูดขึ้น “เจิ้งซืออย่าโกรธไป เรื่องนี้โทษเยวี่ยเยวี่ยไม่ได้ พ่อเลี้ยงเธอต่างหากที่ผิด คุณงานยุ่งก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก พรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับพ่อเลี้ยงเยวี่ยเยวี่ยดู ไม่ให้เยวี่ยเยวี่ยลาออกแน่นอน”


อู่เจิ้งซือยิ้มอย่างพอใจ เขาชอบความเข้าอกเข้าใจของหร่วยเป่าฮุ่ย หลายเรื่องไม่ต้องให้เขาเอ่ยปากพูดหร่วนเป่าฮุ่ยก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง สมแล้วที่เป็นหญิงงามที่แสนชาญฉลาดของเขา


ใครจะไปเหมือนเหอปี้อวิ๋นรากไม้แก่ดักดานในอดีตนั่น แถมยังเป็นหญิงสติไม่ดี มิน่าถึงได้คลอดลูกสาวน่าอับอายขายหน้าอย่างอู่เยวี่ยออกมาได้!


พอถูกหร่วยเป่าฮุ่ยก้าวก่ายแบบนี้  เรื่องที่อู่เยวี่ยอยากให้อู่เจิ้งซือรับไปอยู่ด้วยก็ถูกปัดตกไป  อู่เจิ้งซือไม่เอ่ยถึงอีก  แค่ให้อู่เยวี่ยรีบกลับบ้าน


“เจิ้งซือทำงานเถอะ เดี๋ยวฉันส่งเยวี่ยเยวี่ยกลับบ้านเอง ในเมื่อวันหน้า…”


หร่วยเป่าฮุ่ยส่งสายตาเย้ายวนจนทำให้อีกฝ่ายเรียกให้อู่เจิ้งซือต้องกลืนน้ำลายดังเอือก ปฏิเสธได้ลงที่ไหนกัน แค่หลงคิดว่าหร่วนเป่าฮุ่ยรู้หน้าที่ สมแล้วที่มาจากตระกูลใหญ่


อู่เยวี่ยไม่รู้ว่าหร่วนเป่าฮุ่ยมีแผนอะไรเลยก้าวขึ้นรถเธออย่างระแวงและปิดปากเงียบ


“อยากกลับมาไหม?” จู่ๆ หร่วนเป่าฮุ่ยก็ถามขึ้นมา


ตอนที่ 1056 ปลาคาบเหยื่อ


อู่เยวี่ยเงยหน้ามองหญิงที่ยังสวยไม่สร่างตรงหน้า ความจริงอายุไม่ได้น้อยไปกว่าเหอปี้อวิ๋นเท่าไร ได้ยินมาว่าก็ใกล้สี่สิบแล้วแต่ดูเหมือนแค่สามสิบปลาย ๆ เท่านั้นเอง


อีกอย่างเธอได้ยินมาว่าหร่วนเป่าฮุ่ยเคยหย่ามาแล้วสองครั้ง เป็นถึงของมือสามแต่ใครให้อีกฝ่ายมีงานที่ดูดีและมีพ่อที่ดีอีกคนกันล่ะ!


เจ้าตัวหร่วนเป่าฮุ่ยเป็นพิธีกรชื่อดังประจำช่องโทรทัศน์เมืองจินซึ่งรับผิดชอบรายการสัมภาษณ์รายการหนึ่งที่ยอดคนชมไม่น้อย อีกอย่างเธอยังเป็นนักวาดภาพที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งเลยได้ดิบได้ดีในแวดวงศิลปะเช่นกัน และเป็นถึงลูกสาวของเลขาธิการสมาคมอักษรศิลป์ของประเทศเชียว!


ใช่แล้ว หร่วนเป่าฮุ่ยเป็นลูกสาวคนเล็กของหร่วนหวาไฉ่ และเป็นเพื่อนสนิทลับๆ ของหวงอวี้เหลียน


อู่เยวี่ยไม่เข้าใจความหมายที่หร่วนเป่าฮุ่ยถามขึ้นมา  ผู้หญิงคนนี้ไม่อยากให้เธอกลับไปมาไม่ใช่หรือ?


เธอมองหร่วนเป่าฮุ่ยอย่างระแวงโดยไม่ตอบคำถามอะไร


หร่วนเป่าฮุ่ยใช้มือปิดปากหัวเราะน้อยๆ แล้วตอบ “เธอคิดว่าฉันเจตนาไม่ดีใช่มั้ย? ฮ่าฮ่า เธอคิดมากไปแล้วจริงๆ ฉันบอกเธอตรงๆ แล้วกัน เธอจะกลับหรือไม่กลับมาฉันไม่สน ฉันยังไม่ถึงกับต้องกลัวเด็กตัวเล็กๆ อย่างเธอหรอกนะ!”


อู่เยวี่ยไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่เธอพูดเลยเงียบต่อไปเพื่อรอฟังว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดอะไรบ้าง


หร่วนเป่าฮุ่ยเองก็ไม่รอให้เธอตอบเลยพูดต่อ “ความจริงคนที่ไม่อยากให้เธอกลับมาคือพ่อของเธอ ไม่ใช่ฉัน”


เธอหยุดชะงักกึกไปแล้วหัวเราะเสียงเบา “เธอไม่เชื่อ? ฉันโกหกเธอแล้วฉันได้อะไร ฉันไม่อยากเป็นแพะรับบาปอีกแล้ว ขอแค่พ่อเธอยอม ฉันก็จะอ้าแขนต้อนรับเธอกลับมาเลย!”


“คำที่คุณพูดต้องเป็นความจริงเสมอไปเหรอ? พ่อของฉันจะไม่ยอมรับฉันได้ยังไง ต้องเป็นคุณที่คอยปลุกปั่นอยู่เบื้องหลังแน่!”


อู่เยวี่ยไม่อยากทนต่อไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาโอ้อวดต่อหน้าเธอ มีสิทธิ์บอกว่าเธอเป็นคนที่ถูกคุณพ่อรังเกียจ!


หร่วนเป่าฮุ่ยยักไหล่แล้วกล่าวออกไปว่า “เพราะเธอคือลูกสาวของเหอปี้อวิ๋นไง หรือว่าเธอไม่รู้ว่าคนที่พ่อเธอเกลียดที่สุดคือเหอปี้อวิ๋นกับเหยียนซินหย่า ขอแค่เหอปี้อวิ๋นยังเป็นแม่ของเธอ ยังเป็นผู้ปกครองของเธอ พ่อเธอไม่มีทางรับเธอกลับไปแน่ อีกอย่างในใจเขาเหยียนซินหย่าเป็น…อั้ยหยา ฉันพูดไปเรื่อยเปื่อยนะ เธออย่าคิดจริงจังไปแล้วกัน…”


เธอแสร้งเอามือปิดปากอย่างตกใจและแก้ตัวว่าตัวเองพูดเหลวไหลเพื่อไม่ให้อู่เยวี่ยเก็บไปคิดมาก


“ฉันแค่พูดไปอย่างนั้นแหละ…เยวี่ยเยวี่ยเธอฟังไว้ก็พอ เธอสบายใจได้ ไว้ฉันจะเกลี้ยกล่อมพ่อเธออีกทีนะ!”


หลังจากนั้นหร่วนเป่าฮุ่ยก็ไม่พูดอะไรอีกแค่ตั้งใจขับรถ เธอแอบชำเลืองมองไปทางอู่เยวี่ยที่ทำหน้าซึมเศร้าก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก


เหอปี้อวิ๋นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเธอไม่สนใจสักนิด เธอสนใจเหยียนซินหย่าต่างหาก!


ความแค้นระหว่างคุณพ่อกับตระกูลเหลียนเธอรู้ดี เหยียนซินหย่าเปรียบเสมือนหนามที่ยอกอกของเธอกับคุณพ่อ ต้องถอนออกไปถึงจะสบาย


เลยเป็นเหตุผลที่หร่วนเป่าฮุ่ยยอมรับปากตกลงขณะหวงอวี้เหลียนมาปรึกษาแผนนี้กับเธอ อย่างไรเสียแค่เปลืองน้ำลายนิดหน่อย สำเร็จก็ดีไป ล้มเหลวก็ไม่มีอะไรเสียหาย


อู่เยวี่ยลงจากรถด้วยสภาพใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลืมแม้กระทั่งกล่าวลาหร่วนเป่าฮุ่ยพลางเดินเข้าบ้านด้วยใจที่หนักอึ้ง


หร่วนเป่าฮุ่ยยิ้มอย่างได้ใจ หยิบเพจเจอร์มาส่งข้อความให้หวงอวี้เหลียนว่า ‘ตกปลาได้แล้ว’


ไม่นานหวงอวี้เหลียนก็ตอบกลับมาว่า ‘รอข่าวดี’


หร่วนเป่าฮุ่ยหัวเราะอย่างสะใจ ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน แม้เธอไม่ชอบใจหวงอวี้เหลียนเท่าไรแต่พวกเธอมีศัตรูคนเดียวกัน ทั้งยังเป็นภรรยาของเจ้านายเธออีก ย่อมต้องผูกมิตรให้ดีอยู่แล้ว


คืนวันหยุดสุดสัปดาห์เหมยเหมยนั่งดูโทรทัศน์กับเหยียนซินหย่า จ้าวอิงหัวยังติดประชุมอยู่ไม่รู้ต้องงานยุ่งอีกนานแค่ไหนถึงจะกลับบ้านได้ ในบ้านมีเพียงสองแม่ลูกโดยเธอนอนบนโซฟารองศีรษะไว้บนหน้าขานุ่มของแม่ตัวเอง ไม่รู้สบายขนาดไหนเลยทำให้จ้าวอิงหัวนึกอิจฉาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้


“…เอ๊ะ…แม่กดช่องกลับไปที่ช่องเมืองจิน!” เหมยเหมยบอกเหยียนซินหย่าที่กำลังกดเปลี่ยนช่องอยู่


………………………..


ตอนที่ 1057 เดตวันหยุดสุดสัปดาห์


เหยียนซินหย่ากดเปลี่ยนกลับไปที่ช่องโทรทัศน์เมืองจินอย่างรวดเร็วซึ่งกำลังถ่ายทอดรายการสัมภาษณ์ที่พิธีกรและแขกรับเชิญล้วนเป็นคนที่คุ้นเคย


พิธีกรคือหร่วนเป่าฮุ่ย แขกรับเชิญคือโอหยางซานซาน สัตว์ชั้นต่ำรวมตัวอยู่กองเดียวกันแล้ว


“คนน่าสะอิดสะเอียนทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันมันเหม็นยิ่งกว่าขี้อีก ไม่ดูแล้ว เปลี่ยนช่อง!”


เหมยเหมยแค่ดูไปครู่เดียวก็แทบทนไม่ไหว มีแต่คำชมเต็มไปหมด แทบจะชมจนโอหยางซานซานตัวลอยขึ้นฟ้าแล้ว


หวงอวี้เหลียนลงทุนขนาดนี้ดูเหมือนว่าคิดจะปั้นโอหยางซานซานให้เป็นอันดับหนึ่งในจักรวาลล่ะ แต่เธอไม่ลองคิดบ้างว่าลูกสาวตัวเองเป็นอย่างไร มีบุญได้เสพสุขเหล่านี้หรือเปล่า!


เหอะ ปั้นไปสิ ยกให้สูงกว่านี้ วันหน้าเธอตกลงมาจะได้ตายทีเดียว!


เหยียนซินหย่ามองลูกสาวที่ขุ่นเคืองไม่หายเลยตบศีรษะเธอเบาๆ อย่างรักใคร่พลางจิ้มแตงโมจากจานป้อนใส่ปากเหมยเหมย


“กินแตงโมดับความร้อนหน่อย!”


แตงโมจากบ้านลูกพี่ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นซึ่งคัดสรรลูกที่ดีที่สุดมา ทั้งหวานทั้งฉ่ำรสชาติดีเยี่ยมเป็นที่หนึ่งเลย


เหมยเหมยเคี้ยวแตงโมต่อตุ้ยๆ ก่อนจะอ้าปากกว้างรอชิ้นใหม่ นอนทานแบบนี้สบายที่สุดเลย


เมื่อแตงโมชิ้นใหม่เข้าปากเหมยเหมยก็เคี้ยวไปพูดเสียงแค้นไป “แม่รอดูเถอะ คนพวกนี้จบไม่สวยแน่!”


“เหมยเหมยพูดถูก ต้องจบไม่สวยแน่!” เหยียนซินหย่าเห็นด้วยอย่างมาก


คงไม่ต้องเอ่ยถึงโอหยางซานซานแล้ว อายุแค่นี้ก็รู้จักแย่งความสำเร็จจากความเหน็ดเหนื่อยของคนอื่นมาครองเป็นของตัวเอง  ทั้งยังดื่มด่ำกับชื่อเสียงจากผลงานที่แอบขโมยมาอย่างสบายใจ เหอะ โลกนี้ไม่มีกำแพงลับ อนาคตโอหยางซานซานต้องลำบากแน่!


เหยียนซินหย่ายังไม่รู้ว่าลูกสาวตนกำลังวางแผนในใจเตรียมเล่นงานโอหยางซานซานอยู่!


แล้วก็หร่วนเป่าฮุ่ย ผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อายเหมือนพ่อของเธอ ไม่อย่างนั้นผู้หญิงที่ไม่เคยได้รับการศึกษาตรงสายอาชีพและไม่ค่อยมีการศึกษาเท่าไรแบบนี้จะกลายเป็นพิธีกรอันดับหนึ่งของช่องโทรทัศน์ได้อย่างไร?


นั่นก็เพราะอาศัยเรือนร่างของเธอไต่เต้าขึ้นไปไงล่ะ!


อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ยังเป็นแม่เล้าชื่อดังในวงการบันเทิงที่เพื่อเอาใจคนมีตำแหน่งใหญ่โต ทั้งโกหกหลอกลวงใช้ทุกวิถีทางทำร้ายหญิงสาวบริสุทธิ์ไปมากมาย


จ้าวอิงหัวให้คนตามสืบหร่วนเป่าฮุ่ยแล้ว ขอแค่ได้หลักฐานกระทำผิดกฎหมายของเธอได้ก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่


เหมยเหมยกดเปลี่ยนช่องทันทีเพราะคร้านจะดูนางแพศยาสองคนเสแสร้งจอมปลอม สะอิดสะเอียนจนแตงโมยังทานไม่ลง


การสัมภาษณ์จากช่องสถานีโทรทัศน์ของโอหยางซานซานถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก นักเรียนที่ก่อนหน้ายังสงสัยในตัวเธอก็เริ่มบ้าคลั่งอีกครั้ง ถึงขนาดได้ออกรายการเชียวนะ ภายในใจของคนทั่วไปการได้ออกโทรทัศน์นั้นสำหรับพวกเขาแล้วช่างเป็นเรื่องห่างไกลเหลือเกิน ราวกับแท่นบูชาเทพเจ้าเสียอย่างนั้น


ตอนนี้โอหยางซานซานได้เวลาตั้งเกือบหนึ่งชั่วโมงในการออกรายการโทรทัศน์ ในใจเหล่านักเรียนกลุ่มนั้นโอหยางซานซานก็ไม่ต่างจากดาราทั่วไปแล้ว


โอหยางซานซานรู้สึกถึงสายตาหลงใหลจากเพื่อนรอบข้างก็เดินตัวลอย รู้สึกผ่อนคลายไปทุกอณูร่างกาย


ฤดูใบไม้ผลิกลับมาสักที มีเพียงการใช้ชีวิตที่ถูกทุกคนให้ความสนใจเช่นนี้เธอถึงจะรู้สึกดี มีความสุขในชีวิตได้ เธอขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ราวกับปลาที่ขาดน้ำไม่ได้


เหมยเหมยทำท่ารังเกียจโอหยางซานซานอย่างมาก ให้เจ้าหัวขโมยนี่ได้ใจไปก่อน อีกไม่นานจะให้เธอตกลงจากฟ้าเอง


วันหยุดสุดสัปดาห์เหยียนหมิงซุ่นพาเหมยเหมยไปเที่ยวเล่นที่ภูเขาเฟิ่งหวงซาน ภูเขาเฟิ่งหวงซานในห้าปีหลังจากนี้ถึงจะถูกเปลี่ยนให้เป็นสุสานสาธารณะ ตอนนี้ยังเป็นแหล่งที่เที่ยวสำหรับคู่รักหรือนักท่องเที่ยวชั้นดี


ขณะนี้เข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นปลายฤดูใบไม้ร่วงอากาศเย็นสบาย คนบนเขามีไม่น้อยซึ่งส่วนมากมากันเป็นคู่ๆ บรรยากาศสีชมพูตลบอบอวลไปทั่วทั้งภูเขา


เหยียนหมิงซุ่นจูงมือเหมยเหมยเดินขึ้นเขาช้าๆ ไม่นานก็มาถึงสถานที่ที่พบฉิวฉิว ทั้งคู่มองหน้าแล้วยิ้มพร้อมกันอย่างอดไม่ได้และขยับเข้าใกล้กว่าเดิมเล็กน้อย


ด้านหน้ามีคู่รักหลายคนกำลังค่อยๆ เดินทางและหัวร่อต่อกระซิกกัน เหมยเหมยเหลือบเห็นแผ่นหลังคุ้นตาสองคนที่ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าพวกเขา ท่าทางสนิทสนมนั่นจึงทำเอาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้


ตอนที่ 1058 จะดื่มน้ำไหม


หานป๋อหย่วนกับอู่เยวี่ย?


สองคนนี้สนิทสนมกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?


คู่รักที่เดินตัวแนบชิดติดกันข้างหน้าคือหานป๋อหย่วนกับอู่เยวี่ย ทั้งสองเดินจูงมือกันอย่างแนบแน่น ไม่กลัวกลิ้งลงเขาเสียจริง


เหมยเหมยเบะปากและยิ่งนึกดูถูกดูแคลนคนอย่างหานป๋อหย่วนมากกว่าเดิม หลายวันก่อนยังสารภาพรักเธออย่างลึกซึ้งอยู่เลย ไม่นานก็ไปคั่วอยู่กับอู่เยวี่ยเสียแล้ว ดูท่าทางของสองคนนี้หากบอกปัดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันผียังไม่เชื่อเลย


“พี่หมิงซุ่น เราตามไปดูเรื่องสนุกๆ กัน” เหมยเหมยพูดเสียงเบาด้วยความตื่นเต้น


เหยียนหมิงซุ่นปฏิเสธไม่ลงพลางหยิกแก้มเด็กสาวอย่างเอาใจ อดเสียดายไม่ได้ที่แก้มไม่ได้อวบอิ่มเท่าก่อนหน้านี้แล้ว


เหมยเหมยที่โตขึ้นยังคงเป็นหญิงงามอย่างหาที่เทียบไม่ได้ ส่วนที่ควรมีก็มี ส่วนที่ควรเล็กก็เล็ก รูปร่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ต่อให้เป็นคนเรื่องมากก็เฟ้นหาจุดบกพร่องไม่ได้


แต่สิ่งที่เขานึกเสียดายคือแก้มที่อวบอิ่มของเจ้าหญิงน้อยของเขาหายไปอย่างไม่มีวันกลับมาตามวันเวลา!


แก้มอูมแม้ขับให้ดูอ่อนเยาว์และไม่ดูดีเท่าตอนนี้ที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่ แต่สัมผัสดีจริงๆ หยิกเป็นครั้งคราว ความรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างนั้น…ไม่อาจใช้คำไหนมาอธิบายได้เลย


เหยียนหมิงซุ่นมองใบหน้าอันงดงามของเด็กสาวแวบหนึ่งแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก ไม่เป็นไร หยิกไม่ได้แต่กัดได้ก็พอ!


รสชาติตอนกัดนับว่าใช้ได้ เพียงแค่เขาต้องควบคุมตัวเองให้ได้ เฮ้อ มีความสุขและเจ็บปวดในคราวเดียวกัน!


เหมยเหมยรู้สึกได้ถึงแววตาร้อนแรงของเหยียนหมิงซุ่นเลยหลงคิดว่าเขาคิดจะทำบางอย่างที่น่าอายเลยอดหน้าแดงไม่ได้ เมื่อวานกวนเธอทั้งคืน ตอนนี้กลับ…ช่างเป็นหมาป่าที่ไม่รู้จักอิ่มเอาเสียเลย!


มิน่าถึงบอกกันว่าผู้ชายคือหมาป่าหื่นกาม ไม่ผิดเลยจริงๆ!


เหยียนหมิงซุ่นเห็นท่าทางของเธอก็รู้ทันทีว่ายายเด็กคนนี้คิดไปไกลจึงโน้มหน้าไปพูดหยอกเย้าข้างหูเธอ “เหมยเหมย…พี่…”


เหมยเหมยตัวสะท้านเฮือกเหมือนโดนต่อต่อยเข้าจนกระเด้งตัวถอยห่างไปหลายก้าว มองเหยียนหมิงซุ่นอย่างระแวงพร้อมส่ายหน้าแดงก่ำไปมา “ไม่ได้นะ…ที่นี่คนเยอะ…กลางคืนค่อย…”


ประโยคท้ายแทบไม่ได้ยิน หากไม่ใช่เพราะเหยียนหมิงซุ่นเคยได้รับน้ำยาวิเศษพัฒนาระบบการฟังเกรงว่าจะไม่ได้ยินแม้แต่คำเดียว


เห็นคนตรงหน้าเขินถึงขีดสุดแต่ยังคงเป็นเด็กสาวน่ารักแสนเชื่อง เหยียนหมิงซุ่นใจอ่อนยวบละลายเป็นสายน้ำ ช่างโง่เสียจริงที่ไม่เคยรู้จักปฏิเสธเขา ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจอยู่ได้


หากไม่ใช่เพราะเขาควบคุมตัวเองได้ดีกลัวก็แต่จะจับยายเด็กนี่กลืนลงท้องไปแล้ว โชคดีที่เขายังมีสติแน่วแน่ หลายครั้งที่เผชิญกับเรือนร่างแสนงามอย่างบ้าคลั่งของเด็กสาวเขาแทบควบคุมตัวเองไม่ให้ทำร้ายเหมยเหมยไม่ได้


มักเบรกทันในช่วงสำคัญสุดท้ายเสมอ อันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรียกให้เขาผวาตัวเองทีหลังอยู่เรื่อย!


มีครั้งแรกย่อมมีครั้งที่สอง มีครั้งที่สองก็มีครั้งที่สามตามมา หากเคยให้เขาได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวาน เขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะควบคุมตัวเองไหวอีกหรือไม่ เขาไม่ต่อต้านการร่วมรักก่อนแต่งงานแต่ก็ไม่เห็นด้วย


อย่างน้อยระหว่างเขากับเหมยเหมยเขาไม่อยากเอารัดเอาเปรียบเด็กสาวคนหนึ่งก่อนแต่งงาน เขาอยากมอบสิ่งสมบูรณ์แบบให้เหมยเหมย และอยากมอบครั้งแรกที่เธอจะไม่มีวันเสียใจไปตลอดชีวิต!


เพียงแต่เด็กสาวของเขางดงามเกินไปแล้ว เขาควบคุมตัวเองยากขึ้นทุกวี่ทุกวัน!


“ยายโง่ เธอนี่มันโง่จริงๆ…”


เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจยาวพลางพยิกแก้มเหมยเหมยสองที ตอนนี้ก็มีเพียงพฤติกรรมไม่เสี่ยงอันตรายแบบนี้ถึงจะช่วยดับไฟราคะของเขาได้…ไม่อย่างนั้นเขาคงได้กลายร่างเป็นหมาป่าผู้หิวโหยจริงๆ!


เหมยเหมยกลอกตาใส่เขาแวบหนึ่งก่อนแค่นเสียงเบาๆ ใส่ทีหนึ่ง เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะน้อยๆ แล้วกระซิบข้างหูเธอเสียงเบา “ความจริงเมื่อกี้ฉันอยากถามว่าเธอจะดื่มน้ำมั้ย?”


เหมยเหมยเท้าชะงักกึก เห็นรอยยิ้มหยอกล้อบนใบหน้าของเหยียนหมิงซุ่นพลันเลือดจากฝ่าเท้าก็พุ่งขึ้นศีรษะ


คนนิสัยไม่ดี!


เหมยเหมยที่ทั้งเขินทั้งโกรธกระทืบเท้าดังปึงปังและมองค้อนใส่ ตัดสินใจว่าต่อจากนี้จะต้องทำตัวให้เย็นชาสัหน่อยแล้ว


…………………………


 ตอนที่ 1059 ใจคิดไม่ซื่อ


เพียงแต่ว่า–


หญิงบางคนเย็นชาได้เพียงสามนาที…อีกเพียงนิดเท่านั้นก็หลุดมาดหลังเห็นเหยียนหมิงซุ่นยื่นแก้วน้ำมาตรงหน้า


เหมยเหมยคว้าแก้วน้ำมากรอกใส่ปากอย่างนึกแค้นใจ แอบก่นด่าตัวเองว่าใช้ไม่ได้ ทำไมไม่ทำใจแข็งให้นานกว่านี้?


สาวน้อย ความอดทนที่เธอพูดถึงยังจับเวลาได้เพียงหน่วยนาทีเท่านั้น จะทนได้ขนาดไหนเชียว!


เหยียนหมิงซุ่นมองเด็กสาวที่ดื่มน้ำไปครึ่งแก้วในรวดเดียวอย่างขบขัน แม้ท่าทางตอนดื่มน้ำของเจ้าหญิงตัวน้อยจะดูดีมากแต่เขาต้องแย่งแก้วน้ำกลับมาก่อน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวขาลงจากภูเขาจะไม่มีน้ำดื่ม


“พอแล้ว สองคนนั้นเดินไปไกลแล้ว”


โลกนี้คนที่เข้าใจเหมยเหมยมากที่สุดมีเพียงเหยียนหมิงซุ่น รู้จักลูกสาวพวกเขาดีกว่าสองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวเสียด้วยซ้ำ สร้างความประทับใจแก่เหมยเหมยได้เสมอ


ตามคาดเหมยเหมยรีบคืนแก้วน้ำให้เหยียนหมิงซุ่นไปและลืมเรื่องเมื่อสักครู่ไปเสียสนิท แถมยังเป็นฝ่ายจับมือเหยียนหมิงซุ่นก่อนพลางพูดเร่งเร้า “เร็วสิ อย่าให้คลาดสายตาไป”


เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างได้ใจก่อนเก็บแก้วน้ำให้ดีถึงค่อยๆ เดินตามไปอย่างไม่เร่งรีบ


“สบายใจเถอะ ไม่คลาดสายตาหรอก!”


ภูเขาลูกใหญ่พื้นที่หมื่นตารางเมตรเขายังต้องตามหาร่องรอยศัตรูให้ได้ ตอนนี้เป็นแค่ภูเขาลูกเล็กๆ แถมยังเป็นคนกระจอกโง่เขลาสองคน หากเขาคลาดสายตาไปได้ถ้าอย่างนั้นเขาก็เอาหัวชนเต้าหู้ให้ตายๆ ไปเถอะ


ไม่ต้องแต่งงานแล้ว!


หานป๋อหย่วนจูงมืออู่เยวี่ยโดยที่ร่างเขาอยู่เบื้องหน้าเล็กน้อยบ่งบอกว่าเขาเป็นคนนำทาง ส่วนอู่เยวี่ยซบอิงเขาเหมือนลูกนกตัวน้อยๆ ทั้งคู่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกหยอกเย้ากันไปมาเหมือนโลกนี้มีกันสองคน สวีทกว่าคู่รักอื่นเป็นไหนๆ


เมื่อปีนเขาไปได้ครึ่งทางก็เจอสามแยก สองทางถนนค่อนข้างเรียบดูเหมือนมีคนเดินอย่างไม่ขาดสาย ส่วนอีกทางค่อนข้างขรุขระและมีต้นหญ้าขึ้นเต็ม แค่ดูก็รู้ว่ามีคนใช้เส้นทางนี้น้อย


คู่รักอื่นล้วนเลือกสองเส้นทางที่ราบเรียบ หานป๋อหย่วนก้มมองอู่เยวี่ยที่ดวงตาเคลิบเคลิ้มก็เปลี่ยนใจ นิ้วชี้ไปยังถนนเส้นขรุขระแล้วว่า “เราไปทางนั้นกัน วันนี้คนมาปีนเขากันเยอะมาก เสียงดังเหลือเกิน เราไปหาที่สงบๆ กันดีกว่า ฉันชอบคุยกับเยวี่ยเยวี่ยนะ…!”


ประโยคสุดท้ายหานป๋อหย่วนกดเสียงพูดและเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้หูซ้ายของอู่เยวี่ยซึ่งเป็นหูข้างที่ไม่ได้สวมใส่เครื่องช่วยฟัง ลมหายใจร้อนผ่าวรดใบหูขาวละเอียดของเธอให้ขึ้นสีระเรื่อรวมถึงลำคอระหงส์ขาวเนียน


อู่เยวี่ยคิดจะปฏิเสธตามิสัญชาตญาณของคนเป็นผู้หญิง ต่อให้เป็นคนโง่ยังเดาได้ว่าการไปในที่ลับตาคนกับชายหนุ่มสองต่อสอง จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น…


แต่เมื่อได้ยินประโยคท้ายของหานป๋อหย่วนอู่เยวี่ยก็เปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว เธอก้มหน้าต่ำกว่าเดิม พวงแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อยิ่งกว่าดอกท้อที่บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ


ผู้หญิงอายุสิบแปดเปรียบดั่งดอกไม้ เป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของผู้หญิง ต่อให้เป็นเด็กผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดามากแค่ไหนก็ล้วนมีโฉมงามเช่นกันในวัยสิบแปดปี ยิ่งไปกว่านั้นอู่เยวี่ยยังเป็นเด็กหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง วัยแรกแย้มขับให้เธอดูสวยสดงดงาม เย้ายวนใจมากกว่าปกติหลายเท่าตัว


หานป๋อหย่วนเห็นแล้วก็ชะงัก คันยุบยิบในใจหนักกว่าเดิม บางจุดในร่างกายเริ่มตื่นตัว…


เดิมทีเขาแค่คาดหวังเท่านั้น ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรในเมื่อเป็นเพียงสาวงาม หากไม่เห็นแก่ว่าอีกฝ่ายยังเป็นสาวพรหมจรรย์ เขาไม่มีทางลงมือกับเด็กเรียนแย่แถมยังพิการอย่างอู่เยวี่ยแน่ๆ


อย่างน้อยคุณชายใหญ่หานอย่างเขาก็มีชื่อเสียงพอสมควร หาผู้หญิงทั้งทีก็ต้องหาที่มีระดับหน่อยสิ!


แต่ตอนนี้เขาถูกอู่เยวี่ยดึงดูด หน้าตานับว่าไม่เลว รสชาติก็ต้องไม่แย่เกินตัว!


หานป๋อหย่วนดวงตาเป็นประกายพลางจูงมืออู่เยวี่ยเดินเข้าไปในป่า ยิ่งเดินก็ยิ่งลับตาคน ต้นหญ้าสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่คนหนึ่งใจคิดไม่ซื่ออีกคนจิตใจฟุ้งซ่าน กลับไม่ทันสังเกตว่ามีพวกเหมยเหมยเดินตามอยู่ด้านหลัง


ตอนที่ 1060 ทุ่มหินใส่เท้าตัวเอง


เหมยเหมยเห็นว่าหานป๋อหย่วนฉุดมืออู่เยวี่ยวิ่งเข้าไปในป่าลึกก็รู้ทันทีว่าเจ้าหมอนี่คิดอะไรอยู่ แน่นอนว่าเธอไม่เป็นห่วงความบริสุทธิ์ของอู่เยวี่ย ต่อให้อู่เยวี่ยถูกรุมโทรมต่อหน้าเธอ เธอก็จะไม่แม้แต่จะกะพริบตาเลย


“เราไปดูเรื่องสนุกๆ กัน!”


เหมยเหมยกดเสียงลงด้วยความตื่นเต้น อีกไม่นานก็จะมีหนังสดให้ดูแล้ว ดีใจจัง!


เธอให้เหยียนหมิงซุ่นเอากล้องถ่ายรูปออกจากกระเป๋า โอกาสที่ดีขนาดนี้ยังไงก็ต้องถ่ายรูป ‘ทิวทัศน์’ กลับไปหลายๆ ใบสิ มีจุดอ่อนของศัตรูในมือยิ่งมากยิ่งดีนี่นา!


โชคดีที่วันนี้เธอเอากล้องโพลารอยด์มา โชคดีจริงๆ นะ!


เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างเหนื่อยหน่าย  ทำไมเขาดูไม่ออกเลยว่าเจ้าหญิงตัวน้อยของตนเป็นสาวหื่นด้วย ดูความตื่นเต้นนี้สิ น้ำลายจะไหลแล้วนั่น!


“เดี๋ยวถ้ามีฉากที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เธอห้ามดูนะ ต้องหลับตา” เหยียนหมิงซุ่นเตือนแฟนสาวตัวเล็กไว้ล่วงหน้า


เพียงแต่–


แฟนสาวตัวเล็กไม่ยอมทำตาม  แล้วสองมือเท้าสะเอวแล้วกลอกตาใส่ก่อนจะพูดเหมือนมีเหตุผล “ฉันไม่ใช่เด็ก ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้ว!”


“แต่เธอเพิ่งอายุสิบเจ็ดปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็คือเด็ก ห้ามดู!” เหยียนหมิงซุ่นเข้มงวดอย่างมาก ฉากสกปรกแบบนั้นจะให้เจ้าหญิงน้อยของเขาดูได้อย่างไร แปดเปื้อนสายตา


เหมยเหมยทำปากอมลมอย่างนึกโกรธมองค้อนใครบางคนเป็นเชิงคัดค้าน เพียงแต่ใครบางคนใจแข็งไม่คิดจะใจอ่อนสักนิด ไม่มีท่าทีจะยอมอ่อนข้อให้แต่อย่างใด


เชอะ!


เห็นหน้าถมึงทึงของเหยียนหมิงซุ่น จู่ ๆ เหมยเหมยก็กลอกตา พอคิดบางอย่างได้ก็ชักมือกลับอย่างรวดเร็วพร้อมจงใจกล่าวว่า “ไม่ดูก็ไม่ดู งั้นวันหลังพี่อย่าจูบฉันแล้วกัน กลางคืนก็อย่ามาหาฉันที่บ้าน ตอนนี้ฉันเป็นเด็ก ทำเรื่องผู้ใหญ่ไม่ได้…”


เหยียนหมิงซุ่นชะงักตาค้างไปชั่วขณะ…


ที่พูดมาไม่มีข้อบกพร่องตรงไหนเลย ถูกต้องกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ปัญหาคือ…เขาไม่มีทางยอมน่ะสิ!


เหมยเหมยส่งเสียงฮึมฮัมอย่างได้ใจ อย่าคิดว่าเธอไม่เคยอ่านตำรายุทธพิชัยสงครามมาก่อนเลยคิดว่าไม่รู้ความหมายของประโยคที่ว่าเอาหอกฝ่ายตรงข้ามแทงโล่ย้อนทำร้ายอีกฝ่าย อย่างน้อยเธอเป็นถึงนักเขียนเชียวนะ!


“พี่อยู่ห่างฉันหน่อยนะ รักษาะระยะห่างสามเมตร…ผู้ชายผู้หญิงแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้ เราต้องทำตามขนบธรรมเนียม…”


เหมยเหมยได้คืบจะเอาศอก เดินนำหน้าไปหลายก้าวเพื่ออยู่ให้ห่างเหยียนหมิงซุ่นขณะที่ยังเชิดหน้าอยู่ ทำท่าเหมือนห้ามแตะเนื้อต้องตัวทำเอาเหยียนหมิงซุ่นทั้งโมโหทั้งขำ


ก็ได้ เขาประเมินความฉลาดของเจ้าหญิงน้อยต่ำไปเอง สำหรับความรู้ความฉลาดของแฟนสาวในความทรงจำเขายังหยุดอยู่ขั้นที่ช่วงน้ำเข้าน้ำออกในปีนั้นเสมอมา ไม่คิดว่าผ่านไปห้าปียายคนนี้จะเอาคืนเขาได้!


ไม่ใช่ยายหนูที่ร้องไห้โฮเพราะสอบได้แปดคะแนนคนนั้นอีกต่อไป!


เหยียนหมิงซุ่นแสดงท่าทางว่าปลื้มใจยิ่งนัก!


แต่ความรู้สึกที่เอาหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง  มันไม่ค่อยดีเท่าไร!


เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างปวดใจ เดินไปจูงมือเล็กๆ ของเด็กสาวไว้แน่น เหมยเหมยสะบัดหลายครั้งก็ไม่อาจหลุดพ้นเลยได้แต่ถลึงตาใส่แรงๆ ก่อนจะเอานิ้วโขกหลังศีรษะเขาไปหนึ่งที


บ่งบอกว่าตอนนี้เธอยังโกรธอยู่…


“ให้เธอดู โอเคหรือยัง?” เหยียนหมิงซุ่นจำต้องเป็นฝ่ายยอมก่อน พูดด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจ


ช่วยไม่ได้ ถ้ายังไม่ยอมโบนัสช่วงกลางคืนของเขาก็จะหายไปด้วยน่ะสิ!


ปากเล็กที่เม้มแน่นของเหมยเหมยขยับน้อยๆ เกือบจะหลุดมาดแต่เธอยังทำท่าขรึมไว้ จะใจอ่อนเร็วขนาดนั้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอนาคตจะวางมาดภรรยาได้อย่างไร?


เพียงแต่–


เหยียนหมิงซุ่นแค่ถามขึ้นมาเสียงเบาว่า “หรือว่าเธอไม่อยากดูแล้ว?”


เหมยเหมยจะทนไหวได้อย่างไร ใบหน้านิ่งขรึมหลุดเก๊กทันทีแล้วยู่ปาก รีบดึงแขนเสื้อเหยียนหมิงซุ่น ใช้ดวงตาใสจ้องเขา “พี่เป็นคนบอกให้ฉันดูเองนะ ไม่ใช่ฉันเป็นคนขอดูนะ”


เธอเป็นสาวเรียบร้อย จะเป็นฝ่ายขอดูหนังสดได้อย่างไร!


เหยียนหมิงซุ่นกลั้นหัวเราะพยักหน้า “ใช่ ฉันขอให้เธอเป็นคนดูเอง ทีนี้พอใจหรือยัง?”


เหมยเหมยยิ้มร่าทันที รีบฉุดให้เหยียนหมิงซุ่นเดินไปข้างหน้าขณะที่ยังบ่นอุบอิบไปด้วย “เพราะพี่นั่นแหละ ดูสิคลาดสายตาเลย!”


เหยียนหมิงซุ่นกลอกตาอย่างระอา เป็นไปอย่างที่คิดเลยว่าอย่าใช้เหตุผลกับผู้หญิง


……………………….


 ตอนที่ 1061 ผู้ชำนาญในการยั่วยวน


มีเหยียนหมิงซุ่นอยู่ แน่นอนว่าไม่มีทางคลาดกับพวกหานป๋อหย่วนไปได้หรอก หาทั้งสองคนเจออย่างรวดเร็ว กำลังหาที่มุมลับตาคนเพื่อพูดคุยกัน!


เพียงแต่สองคนกลับอยู่ใกล้ชิดกันมาก  อู่เยวี่ยนั่งในอ้อมแขนของหานป๋อหยวนเรียบร้อยแล้ว และมือไม้ของหานป๋อหยวนก็วางไว้ตรงที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิแต่บรรยากาศก็เหมือนฤดูนั้น


เหยียนหมิงซุ่นใช้ประสบการณ์ที่เปี่ยมล้นในการต่อสู้จากป่า สอดส่องหามุมสังเกตการณ์ที่ดีได้ ทั้งลับตาคนแถมยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เขาและเหมยเหมยซ่อนอยู่ในพุ่มไม้รับชมคนอื่นพลอดรักกันอย่างเพลิดเพลิน


เขาก้มหัวต่ำเหลือบไปมอง ดวงตาลุกวาวและไม่กระพริบตาของเหมยเหมยจ้องไปเบื้องหน้า จดจ่อตั้งใจยิ่งกว่าเข้าเรียนเสียอีก เห็นเช่นนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้


ร่างกายของเจ้าหญิงน้อยของเขาซื่อสัตย์กว่าปากน้อย ๆ ของเธอตลอด ถ้าหากไม่มีเขามองอยู่ สาวน้อยซื่อบื้อคนนี้ก็ไม่รู้ว่าต้องเสี่ยงมากมายขนาดไหนเลย!


“พวกเขากำลังพูดอะไรกันอ่ะ ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว”


เหมยเหมยทำหูผึ่งฟังอยู่ตั้งนาน เห็นแค่เพียงปากของหานป๋อหย่วนและอู่เยวี่ยขมุบขมิบ แต่กลับไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดอะไรอยู่ ก็เลยเงยหน้าขึ้นถามเหยียนหมิงซุ่น


แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นได้ยินอย่างชัดเจน เพียงแต่ว่าคำพูดพวกนั้นไหนเลยจะบอกต่อให้เหมยเหมยฟังได้กันล่ะ?


“ฉันก็ได้ยินไม่ชัด”


เหมยเหมยเคืองใจอยู่ไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะกระซิบ “ไม่ใช่พูดกันว่าทหารหน่วยรบพิเศษสามารถยิงอย่างแม่นยำได้ในระยะไกล สามารถเห็นได้ในตอนกลางคืน แถมยังสามารถได้ยินเสียงยุงได้แม้จะเลยระยะร้อยเมตรแล้ว? พี่ทำไมถึงไม่เคยฝึกแบบนี้ล่ะ!”


เหยียนหมิงซุ่นอดหัวเราะไม่ได้ เหมยเหมยไปได้ยินมาจากไหน คิดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเสียอีก


แน่นอนว่าสิ่งพวกเนี่ยเขาทำได้หมด แต่นั่นเป็นเพราะเคยได้รับยาน้ำมาก่อน แถมยังฝึกฝนกำลังภายในอีก ทหารหน่วยรบพิเศษคนอื่น ๆ ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นหวาเซี่ยคงเป็นที่หนึ่งของโลกนานแล้วสิ!


ในช่วงที่ใจของเหมยเหมยคันยุบยิบจนจะทนไม่ไหวนั้น คุณชายฉิวพุ่งออกมาจากกระเป๋าเป้อย่างว่องไว กระโจนไปมา แล้วก็หายไปในป่าเขา


ภูเขาเฟิ่งหวงซานเป็นถิ่นฐานของมันตั้งแต่ยังเด็ก สถานที่คุ้นเคยมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว มันต้องหาเพื่อนเก่าเพื่อรำลึกอดีตหน่อย แต่ก่อนหน้านั้นต้องตอบสนองเติมเต็มความอยากรู้ของผู้เป็นนายก่อน!


ฉิวฉิวแฝงตัวอยู่บนต้นสนเหนือหัวของพวกเขาฟังอยู่ครู่หนึ่ง ฟังจนหัวใจหนูขอมันเต้นตึกตัก โธ่เอ้ย…การหยอกเย้าของคนแซ่หานนี่ช่างคล่องแคล่วมากจริงๆ ยอดเยี่ยมกว่านายผู้ชายเยอะเลย!


“……ตรงไหนของเธอที่ลื่นที่สุดรู้ไหม……รู้ไหมตรงไหนของเธอที่หวานที่สุด……ผลเชอรี่ของเธอยังไงล่ะ……ยังมีสวนดอกไม้ของเธออีก……”


อยู่ดี ๆ ฉิวฉิวก็วิ่งกลับมา พูดพึมพำไม่ได้ความอยู่ที่ข้างหูของเหมยเหมย เหมยเหมยได้ฟังก็รู้สึกแปลกๆ “อะไรคือสวนดอกไม้อะไรคือผลเชอรี่ ฉิวฉิวนายเสียสติไปแล้วหรือยังไง?”


มืออ้วนๆของมันตีลงมา ฉิวฉิวมองเจ้านายของตัวเองอย่างรังเกียจ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คำพูดนี้เป็นคำพูดที่ไอคนแซ่หานคนนี้พูด ดูสิคนอื่นยังรู้ว่าจะยั่วยวนผู้หญิงยังไง ให้ผู้ชายของเจ้านายเรียนรู้ไว้หน่อยเถอะ วัน ๆ รู้จักแต่จับมือกันใส ๆ ไม่มีอะไรใหม่ๆมาให้ตื่นเต้นเลย……”


ใบหน้าของเหมยเหมยแดงก่ำขึ้นมา ดึงหางของฉิวฉิวขึ้นมาด้วยทั้งอายปนโมโห ออกแรงโยนมันออกไป ฉิวฉิวหมุนกลางอากาศอย่างคล่องแคล่วยืนอยู่บนต้นไม้อย่างสบาย ๆ


“บลาๆๆ บาย!”


ไม่นานนัก คุณชายฉิวก็หายไปไม่เห็นเงา แถมยังพาน้องชายตัวน้อยอย่างฉาฉาไปด้วย


“กลับมาก่อนเถอะค่อยสั่งสอนกระรอกที่ทะลึ่งตึงตังอย่างนาย!”


เหมยเหมยโมโหพูดพึมพำเสียงเบา ใบหน้าร้อนฉ่า ฉิวฉิวสมควรตาย บอกให้มันอย่าแอบดูเธอกับเหยียนหมิงซุ่นแสดงความรักกัน เจ้าหมอนี่ก็ไม่ฟัง ทำเอาเธอโมโหจะตายแล้ว!


“ฉิวฉิวเป็นอะไรไป?” เหยียนหมิงซุ่นมองอย่างฉงน


“ไม่มีอะไร มันไปหาคนรักแล้ว”


เหมยเหมยตอบกลับไปมั่วๆ  ในเวลานี้หานป๋อหย่วนและอู่เยวี่ยกลิ้งจนรวมกันเป็นก้อนกลมๆ แล้ว เสื้อผ้าบนร่างกายแทบจะขาดออกจากกัน เหมยเหมยอารมณ์ดีคึกครื้น รีบโบกมือให้เหยียนหมิงซุ่นหยุดส่งเสียงดัง รบกวนการดูหนังโป๊ของเธอ


ตอนที่ 1062 ถ่ายให้เหยียนหมิงต๋าดู


ก่อนหน้านี้อู่เยวี่ยยังคิดจะเล่นตัวเอาไว้ก่อน แต่พอเจอหานป๋อหย่วนคนที่เชี่ยวชาญในการยั่วยวน แค่ครู่เดียวก็โดนยั่วเย้าจนอารมณ์พลุ่งพล่าน บวกกับเธอก็ไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาอีกต่อไป ถึงแม้ว่าครั้งแรกของเธอจะเสียตัวให้คนน่ารังเกียจอย่างซ่งเป่าเลี่ยงไป แต่พอเคยได้ลิ้มรสกามารมณ์แล้ว แถมยังโดนหานป๋อหย่วนยั่วเย้าเร้าอารมณ์แล้ว ไหนเลยยังจะเล่นตัวไหว!


ประสบการณ์ของหานป๋อหย่วนนั้นมากมาย แค่เห็นใบหน้าแดงก่ำเหมือนลูกพีช ขาสองข้างเหยียดเกร็ง ในดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์ ก็รู้เลยว่าปลาติดเบ็ดแล้ว


เขาสามารถลงมืออย่างวางใจได้แล้ว!


ด้วยเหตุนี้……


ภายใต้การร้องแสดงออกมาว่า’ไม่เอา’ของอู่เยวี่ย หานป๋อหย่วนก็ถอดเสื้อผ้าเธอออกอย่างรู้ขั้นตอน รวมถึงของเขาด้วย กอดกันแน่น


……


“เหมยเหมยอย่ามอง!”


เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่ร่างกายที่มีรูปร่างเหมือนไก่ซีดขาวของหานป๋อหย่วนอย่างเหยียดหยาม แม้กระทั่งกล้ามเนื้อสักนิดก็ยังไม่มี แถมเจ้าโลกที่เหมือนของเล่นนั่นทำให้คนอิ่มเอมใจไม่ได้หรอก


เหมยเหมยยื่นมือมาปิดตาของเหยียนหมิงซุ่นไว้ ส่งเสียงอย่างน่ารักว่า “พี่ก็ห้ามมองผู้หญิงคนนั้น”


ถึงอย่างไรเมื่อกี้เธอก็เห็นของหานป๋อหย่วนแล้ว โอ้โห้ ดีกว่าไส้กรอกไม่เท่าไรด้วยซ้ำ สภาพช่าง**จริงๆ


จุ๊ๆ ของที่มีมาแต่เกิดแบบนี้ อู่เยวี่ยจะสามารถอิ่มเอมได้ยังไง?


อย่ามองแค่เปลือกนอกของอู่เยวี่ยว่าสวยงามเพรียบพร้อม ในความเป็นจริงกลับเป็นผู้หญิงที่มีความต้องการสูง ไม่อย่างนั้นทำไมชาติที่แล้วเธอถึงได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายถึงสองคน นอกจากเรื่องการคบชู้ที่พูดได้ไม่ชัดเจนหาเหตุผลไม่ได้นั้น กลัวว่าคงเป็นความต้องการทางด้านกายภาพก็เป็นเหตุผลสำคัญเช่นกันล่ะมั้ง!


หลังจากที่เจ้าโลกของหานป๋อหย่วนเสียบเข้าไป ใจของอู่เยวี่ยก็ผิดหวัง


แมร่ง…สู้ไม่ได้แม้กระทั่งซ่งเปาเหลี่ยง เข้าไปแล้วกับยังไม่เข้าไปต่างกันตรงไหน?


แต่เพื่อการแสดงความกระดากอายว่าเป็นครั้งแรกของเธอ อู่เยวี่ยก็ยังเสแสร้งทำเป็นเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ ร้องขอด้วยความเจ็บปวดว่า “พี่ป๋อหย่วน……เบาๆ หน่อย……ฉันเจ็บ……”


ถึงอย่างไรสิ่งที่เข้าตาเธอก็คือภูมิหลังครอบครัวของหานป๋อหย่วน เรื่องอื่นเธอไม่คิดพิจารณาอะไรทั้งนั้น แต่งเข้าตระกูลหานก่อนค่อยว่ากัน!


อู่เยวี่ยก็แอบดีใจอยู่ในใจที่พระเจ้าช่วยเธอ สองวันนี้ประจำเดือนของเธอใกล้จะมาแล้ว เมื่อครู่ตอนปีนเขาเธอก็รู้สึกว่าท้องน้อยรู้สึกไม่ค่อยสบาย ตามประสบการณ์เมื่อก่อนน่าจะเป็นประจำเดือนแล้ว


อีกทั้งวันแรกของเธอจะมาน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย  นี่ก็คือพระเจ้าช่วยเธอไม่ใช่เหรอ?


หลังจากที่หานป๋อหย่วนสวมสอดเข้าไป สีหน้าก็เรียบเฉยอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าขนาดของเขาจะไม่ได้ดีไปกว่าไส้กรอกมากกว่ากันเท่าไรแต่ก็ยังมีความรู้สึกอยู่ เมื่อก่อนเคยนอนกับหญิงสาวพรหมจรรย์มามากมาย แต่ทุกครั้งก็มีความรู้สึกว่ามีเส้นบางกั้นอยู่อย่างชัดเจน แต่ว่าอู่เยวี่ยไม่มีอย่างเห็นได้ชัด


พอคิดว่าอู่เยวี่ยแค่ไปดูหนังกับเขาหนึ่งเรื่อง กินข้าวหนึ่งมื้อ ก็สามารถทำเรื่องแบบนี้กับเขาได้แล้ว เดิมทีเขายังภาคภูมิใจในตัวเอง คิดไปเองว่าเป็นเพราะเสน่ห์อันแพรวพราวของเขา แต่ตอนนี้ดูแล้วเขาน่าจะไม่ใช่สาวพรหมจรรย์นานแล้ว!


นอนกับผู้ชายคนสองคนสำหรับผู้หญิงอย่างอู่เยวี่ยแล้ว กลัวว่าคงจะง่ายกว่ากินข้าวเสียอีกล่ะมั้ง!


หานป๋อหย่วนมองไปที่อู่เยวี่ยที่ปิดตาสนิทอย่างเย้ยหยัน ปากยังคงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ร้องไห้ ขอร้องเขาอย่างน่าสงสาร……


แสดงละครได้แนบเนียนมาก!


เขาก็ไม่ได้ขัดคำพูดโกหกของอู่เยวี่ย ขยับตัวขึ้นลงอย่างไม่ปราณี แต่กลับทำให้อู่เยวี่ยรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอยู่บ้าง ร้องเสียงยิ่งดังขึ้น


……


ตาสามารถปิดได้ แต่หูกลับอุดไว้ไม่ได้ เหมยเหมยอายจนหน้าแดงก่ำไปหมด บอกให้เหยียนหมิงซุ่นรีบถ่ายรูปเอาไว้ แล้วก็หลบออกมา


มองนานเข้ากลัวว่าจะเป็นตากุ้งยิงเอาน่ะสิ!


“พี่หมิงซุ่น พี่เอารูปภาพพวกนี้ไปให้เหยียนหมิงต๋าคนโง่นั่นดูสิ ให้ดูว่าอู่เยวี่ยเป็นคนยังไง แบบนี้วันหลังเขาจะได้เลิกตอแยเอาใจอู่เยวี่ยสักที!”


เหมยเหมยออกความเห็น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบเหยียนหมิงต๋า แต่เธอรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นนั้นใส่ใจน้องชายคนเดียวคนนี้อยู่บ้าง ก็เลยคิดอยากจะช่วยให้คนโง่คนนี้ตาสว่างสักครั้ง


…………………………………………..


ตอนที่ 1063 โกหกซึ่งกันและกัน


เพราะเหตุนี้เหมยเหมยอยากช่วยชักจูงให้เหยียนหมิงต๋ากลับเนื้อกลับตัว ยังมีเหตุผลที่สำคัญอีกข้อก็คือหากอู่เยวี่ยแต่งงานกับเหยียนหมิงต๋าจริง ๆ เหมือนชาติที่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าต้องแต่งเป็นลูกสะใภ้ครอบครัวเดียวกันกับเธอเหรอ!


แค่เพียงคิดถึงความเป็นไปได้อันนี้ ตัวของเธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ชิงลงมือตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเลยดีกว่า!


เหยียนหมิงซุ่นแววตาเป็นประกาย ลูบหัวชมเชยเหมยเหมย เจ้าหญิงน้อยของเขาแสดงความเห็นออกมาโง่ๆแบบนี้ แต่อันที่จริงนับว่าฉลาดมาก ๆ!


“ดี กลับไปก็จะเอาให้หมิงต๋าดู เหมยเหมยฉลาดจริงๆเลย!”


เหมยเหมยหัวเราะอย่างลำพองใจ “ฉันฉลาดมาตลอดแหละ เมื่อก่อนที่สอบได้ไม่ดีเหตุผลก็เป็นเพราะยังไม่ได้เปิดหูเปิดตา ความคิดยังไม่เปิดโล่งต่างหากล่ะ”


เหยียนหมิงซุ่นอดกระตุกยิ้มที่มุมปากไม่ได้ คะแนนในปีนั้นช่าง……แปดคะแนน สิบแปดคะแนน……จุ๊ๆ!


“ใช่ เจ้าหญิงน้อยของพี่ตอนนี้มีความคิดความอ่านมีสติปัญญาแล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราจะไปทางไหน?” เหยียนหมิงซุ่นพูดยิ้มๆ


“ซื่อบื้อ แน่นอนว่าต้องกลับไปทางเดิม ฉันยังต้องขึ้นภูเขาไปเก็บผลเบอร์รี่เดือนเก้าอยู่นะ!”


เหมยเหมยเชิดคางอย่างเย่อหยิ่ง กลั้นขำเอาไว้สุดแรง ลากเหยียนหมิงซุ่นกลับที่เดิม เมื่อครู่ตอนขึ้นเขาค้นพบว่าข้างทางมีต้นเบอร์รี่เดือนเก้าแดง ๆ อยู่หลายต้น แต่โดนนกกับหนอนจิกกินไปหมดแล้ว บนยอดภูเขาคนน้อย น่าจะมีเยอะหน่อย เบอร์รี่เดือนเก้าเวลานี้สุกงอมแล้ว เป็นเวลาที่หวานที่สุดพอดี อีกครู่เธอจะเก็บมาให้เยอะๆหน่อย เอากลับไปให้พ่อแม่กิน


เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะ มือหยาบหนาใหญ่กุมมือเล็กนุ่มๆขาวๆเอาไว้ ดึงสาวน้อยขึ้นไปทางยอดเขา ไม่ไปสนใจคู่รักด้านหลังคู่นั้นอีก


หานป๋อหย่วนไม่พอใจต่อการโกหกหลอกลวงของอู่เยวี่ยมาก ไม่สงสารเลยแม้แต่น้อย ขยับตัวไปมาอบู่บนตัวเธอไม่หยุด ในดวงตาไม่มีความรักเลยแม้แต่นิดเดียว เหลือไว้แค่เพียงความดูถูกดูแคลนเอาไว้


ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง หานป๋อหย่วนก็เหนื่อยจนหายใจหอบ เจ้าโลกของเขาทำงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไร เรี่ยวแรงก็ยิ่งไม่ดี ครึ่งชั่วโมงถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว ตัวเขาเองก็ถือว่าภูมิใจอยู่มาก


อู่เยวี่ยกลับไม่พอใจเลยแม้แต่นิดเดียว เพิ่งจะรู้สึกสบายขึ้นมาหน่อย เหอะ…กลับเสร็จซะงั้น ทำครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทำเอาเธออารมณ์ค้างจนอยากด่าคน!


แต่เธอไม่สามารถด่าได้ ทำได้แค่เพียงออดอ้อนเอา!


อู่เยวี่ยเหลือบไปมองรอยสีแดงบนกางเกงในอย่างไม่ให้เป็นที่สังเกต มุมปากกระตุกยิ้มเบาๆ แอบทำแลบลิ้นปลิ้นตา สายตาพร่าเบลอ หันไปมองหานป๋อหย่วนที่นอนพักผ่อนอยู่บนหญ้า


“พี่ป๋อหย่วน ฉัน……ให้ครั้งแรกกับพี่ไปแล้ว พี่ต้องรับผิดชอบฉันนะ!”


อู่เยวี่ยพูดอย่างเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำหลังการต่อสู้อันดุเดือด แต่กลับทำให้มีเสน่ห์มากกว่าปกติ หลังจากพูดเสร็จเธอก็รีบก้มหน้า แสดงความขวยเขินว่านี่คือครั้งแรกของเธอ


จนไม่ได้สังเกตเห็นสายตาดูถูกของหานป๋อหย่วน ในใจยังคิดไปว่าได้กุมหัวใจของหานป๋อหย่วนจนอยู่หมัดแล้ว


เธอมอบร่างกายให้หานป๋อหย่วนแล้ว อย่างนั้นเขาจำเป็นต้องแต่งกับเธอสิ!


ตำแหน่งลูกสะใภ้ตระกูลหานเธอจองไว้แล้ว!


มุมปากของอู่เยวี่ยเหยียดยกขึ้น ลำพองใจเป็นอย่างมาก


หานป๋อหย่วนถือว่ารู้สึกพอใจในร่างกายของอู่เยวี่ยอยู่มาก ยกเว้นเรื่องที่เธอไม่ใช่สาวพรหมจรรย์แค่นั้น แน่นอนว่าอันนี้ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก็ไม่ได้จะแต่งเป็นภรรยา จะพรหมจรรย์อยู่หรือไม่ก็ช่างมัน


ได้เที่ยวผู้หญิงแบบไม่ต้องเสียเงิน เขาก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะปฏิเสธนะ!


ตอนนี้ก็ดึงรั้งไว้ก่อน รอวันหลังเบื่อแล้วค่อยทิ้งก็ยังไม่สาย!


“วางใจเถอะ……พี่จะต้องรับผิดชอบแน่นอน……เยวี่ยเยวี่ยเธอดีขนาดนี้……พี่จะตัดใจลงได้ยังไง……”


หานป๋อหย่วนพูดหยอกไปส่งๆ อู่เยวี่ยไม่เห็นดวงตาของเขา ยังคิดว่าเขาพูดออกมาด้วยความจริงใจ ดีใจจนเกือบจะเป็นลม เธอเก็บอาการไม่แสดงท่าทางดีใจเกินไปจนออกนอกหน้า จะต้องทำท่าสำรวมต่อไป ไม่สามารถให้หานป๋อหย่วนดูถูกเธอได้


“พี่ป๋อหย่วน ผ่านไปสักสองสามวันพี่ไปหาพ่อกับฉันได้ไหม?” อู่เยวี่ยถามอย่างระมัดระวัง เห็นหานป๋อหย่วนขมวดคิ้ว ก็รีบพูดเสริมไปอีกว่า “พ่อของฉันเขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของฮวาหยู่มีเดีย”


หานป๋อหย่วนแสดงสีหน้างุนงงไปชั่วครู่ ก่อนนึกขึ้นมาได้ว่าพ่อในตอนนี้คือพ่อเลี้ยง นึกไม่ถึงว่าภูมิหลังของพ่อแท้ๆก็ไม่เบาเลย!


ฮวาหยู่มีเดียนั้นเป็นบริษัทใหญ่ เป็นถึงผู้จัดการใหญ่เงินคงไม่น้อยเลย!


“ได้สิ อันที่จริงพี่ควรไปเยี่ยมเยียนคุณลุงเสียหน่อย” หานป๋อหย่วนเปลี่ยนความคิดภายในชั่วพริบตา


ตอนที่ 1064 เก็บเบอร์รี่


ถึงแม้ว่าภูเขาเฟิ่งหวงซานจะไม่สูง แต่ถ้าปีนไปถึงจุดสูงสุดก็ต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง เหมยเหมยหายใจถี่เล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นสีหน้ากลับไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่นิดเดียว คนบนยอดภูเขาก็ไม่เยอะ คนมากมายกำลังถ่ายรูปอยู่ ยังมีคนส่งเสียงร้องตะโกนลงไปที่ภูเขาด้านล่าง เหมือนจะระบายความอัดอั้นในใจ


“ที่นี่มีผลเบอร์รี่เดือนเก้าเยอะแยะเลยที่ยังไม่โดนแทะกิน!”


เหมยเหมยมองดูบนเนินใหญ่ๆที่มีผลเบอร์รี่เดือนเก้า แดงเหมือนกับหินโมราก็ไม่ปาน ฝังอยู่ท่ามกลางเถาวัลย์ ด้านข้างมีดอกถูหมีเบ่งบานสะพรั่ง ดอกไม้สีขาวกระจัดกระจายพันไปตามลำต้นไม้ใหญ่ บานเต็มไปหมด ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลเย้ายวนคน ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อนับไม่ถ้วน


อีกด้านหนึ่งบนเนินเขากลับมีทิวทัศน์ที่สวยงามไปอีกแบบ พุ่มดอกเก๊กฮวยป่าเตี้ยๆโตเต็มไปหมด ดอกไม้สีเหลืองทองเต้นพลิ้วไหวไปตามสายลม ตั้งตรงอย่างทะนงองอาจ เต็มไปด้วยพลังชีวิต


เหมยเหมยมองอย่างใจเต้น หยิบพู่กันออกมาจากกระเป๋า ยืนอยู่แบบนี้และร่างภาพอย่างรวดเร็ว ช่างเป็นทัศนียภาพที่สวยงามอะไรขนาดนี้ เธอจะต้องวาดมันขึ้นมา สามารถใช้ในหนังสือเล่มใหม่ของเธอได้


ให้นางเอกและพระเอกของเธออยู่ในทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้และเริ่มจูบแรกของพวกเขา มันจะต้องหวานหยดย้อยแน่นอน!


เธอวาดเร็วมากใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว แล้วก็หยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภาพสวยๆไว้หลายใบ ถึงได้เริ่มเก็บผลเบอร์รี่เดือนเก้า


เหยียนหมิงซุ่นเด็ดหญ้าขนสีเขียวมากหลายอัน เด็ดเอาใบไม้และเมล็ดหญ้าออก เหลือเพียงลำต้นที่สะอาด เอาเบอร์รี่ที่เก็บมาใส่ไว้บนลำต้นนั้น ต้นหญ้าหนึ่งต้นสามารถร้อยเบอร์รี่ได้สิบกว่าลูก หลังจากนั้นก็ผูกปม สีของมันแดงและสดใส สวยกว่าสร้อยคอหินโมราเสียด้วยซ้ำ


เหมยเหมยเด็ดไปกินไป บางทีก็ป้อนเหยียนหมิงซุ่น ทั้งสองกินอย่างมีความสุข เหมือนกับว่าได้กลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขในหมู่บ้านตระกูลโม่ ตอนนั้นเหยียนหมิงซุ่นก็พาเธอไปที่ภูเขาเพื่อหาผลเบอร์รี่ป่า


วัยรุ่นคนอื่นๆก็มาร่วมสนุกด้วย ช่วยกันเก็บขึ้นมา เหมยเหมยเห็นว่าเก็บได้ไม่น้อยแล้ว ก็แบ่งปันที่ให้คนอื่นบ้าง ไปเก็บดอกเก๊กฮวยป่ากับเหยียนหมิงซุ่นต่อ


ดอกเก๊กฮวยป่าพวกนี้เต็มไปด้วยพลังชีวิตจริงๆ อีกทั้งยังสะอาดมากด้วย เก็บกลับไปตากแห้งแล้วต้มเป็นชาดื่มก็ดี เหยียนซินหย่าชอบดื่มชาดอกไม้


เก็บมาหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เก็บเกี่ยวมาได้มากอยู่พอสมควร เหมยเหมยลุกขึ้นเอาถุงใบใหญ่ที่ใส่ดอกเก๊กฮวยป่ายัดใส่ลงไปในกระเป๋า แล้วก็เอาพวงเบอร์รี่ใส่ลงไปในถุง ใช้เพียงมือหิ้วไว้ ไม่อย่างนั้นถ้ากระเป๋าบีบทับก็จะเละกลายเป็นน้ำไป


“พี่หมิงซุ่น พี่เอากลับไปให้คุณยายหยางและคุณตาเหยียนกินสักสามสี่พวงเถอะ ยังมีดอกเก๊กฮวยป่าอีก ฉันจำได้ว่าคุณยายหยางชอบดื่มชาดอกไม้”


พวกเขาลงเขามาอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นส่งเหมยเหมยกลับบ้าน เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ไปหมู่บ้านตระกูลโม่เพื่อไปเยี่ยมเยียนคุณยายแล้วก็พวกลุงๆทั้งหลาย สามปีมานี้เขาให้ยาน้ำเพื่อบำรุงรักษาร่างกายกับคนแก่ไปบ้างสามสี่คน ไม่กล้าให้ใช้เยอะ แต่ผลลัพธ์ก็เห็นได้ชัดอยู่ ร่างกายของคนแก่ทั้งสี่คนก็แข็งแรงมาโดยตลอด


เหยียนหมิงซุ่นคิดแล้วก็รับไว้ แถมยังหัวเราะพูดอีกว่า “น่ารักอะไรขนาดนี้ ถึงตอนนั้นพี่จะให้คุณตาคุณยายให้อั่งเปาเธอซองใหญ่เลย”


เหมยเหมยกรอกตามองบน แต่ไม่นาน ตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา


เรื่องของเธอและเหยียนหมิงซุ่นผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลเหยียนน่าจะรู้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้เธออายุยังน้อย มีบางเรื่องที่ไม่สามารถทำให้ชัดเจนได้ ดังนั้นจึงไม่มีแสดงตัวประเจิดประเจ้อนัก


แต่เหยียนหมิงซุ่นพูดไว้นานแล้วว่า รอแค่เพียงเธอเรียนจบมัธยมปลาย ก็จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขา แถมยังจะไปเยี่ยมผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการด้วย ไม่สามารถทำอะไรปิดบังได้อีกต่อไป


เหยียนหมิงซุ่นส่งเหมยเหมยกลับบ้าน พูดคุยกับเหยียนซินหย่าสองสามประโยคก็ขับรถออกมา


ผู้เฒ่าตระกูลเหยียนทั้งสองต่างก็อยู่บ้าน เหยียนหมิงต๋าก็อยู่ ทำตัวเป็นเด็กดีนั่งทำการบ้านอยู่ที่ลานบ้าน คุณตาเหยียนจับไม้เรียวจ้องมองถมึงทึงอยู่ด้านหลัง ระยะนี้คุณตาเบื่อมากๆ รู้สึกว่าถึงเวลาต้องกระตุ้นหลานชายคนเล็กแล้ว ด้วยเหตุนี้วันที่น่าเศร้าของเหยียนหมิงต๋าก็มาถึง


“คุณตาคุณยาย นี่คือผลเบอร์รี่ป่าและดอกเก๊กฮวยป่าที่เหมยเหมยเก็บมาเพื่อนำมามอบให้คุณตาคุณยายครับ”


เหยียนหมิงซุ่นเอาผลเบอร์รี่ป่าและดอกเก๊กฮวยป่าวางไว้บนโต๊ะ ผลเบอร์รี่สีแดงและดอกไม้สีเหลืองอยู่ด้วยกันทำให้สวยงามเป็นพิเศษ


คุณยายหยางดีใจจนตายิ้มตาหยี คุณตาเหยียนกลับตอบรับเสียงต่ำ มองดูแล้วเหมือนกับไม่ค่อยชอบใจเท่าไร


……………………………………..


 ตอนที่ 1065 ชีวิตในอนาคตของฉัน ฉันตัดสินเอง


คุณยายหยางอารมณ์เสียแล้วหันไปจ้องเขม็งใส่คุณตา “คุณทำเสียงประหลาดแบบนี้หมายความว่ายังไง? เหมยเหมยออกไปเที่ยวยังนึกถึงพวกเรา เป็นเด็กดีขนาดไหน คุณฮึ่มๆอะไร?”


คุณตาเหยียนอับอายจนโมโห ตระหนักถึงคนรุ่นหลังที่อยู่ตรงหน้า ก็พลันพูดใส่อย่างหงุดหงิดว่า “ฉันทำเสียงฮึดฮัดอะไร หูข้างไหนของคุณได้เสียงฮึดฮัดของฉันฮะ!”


“หูทั้งสองข้างของฉันได้ยินหมดนั้นแหละ เชอะ คุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันบอกเอาไว้เลยนะ หลานสะใภ้เหมยเหมยคนนี้ฉันพึงพอใจเป็นอย่างมาก วันหลังถ้าคุณกล้าชักสีหน้าต่อหน้าของเหมยเหมย ทำให้หลานสะใภ้ของฉันตกใจหนีเตลิดเปิดเปิงไป วันหลังฉันก็จะไม่ทำกับข้าวให้ตาแก่เลอะเลือนอย่างคุณอดจนหิวตายไปเลย!”


คุณยายหยางใช้สองมือเท้าสะเอว ไม่ให้ความยำเกรงคุณตาเหยียนเลยแม้แต่นิดเดียว


ตั้งแต่รู้ถึงความสัมพันธ์อันคลุมเครือระหว่างหลานชายคนโตและจ้าวเหมย ตาแก่สมควรตายนี่ก็มีท่าทางเหมือนจะเป็นจะตาย พอเห็นเข้าตาของเธอร้อนเป็นไฟ


เด็กน้อยเหมยเหมยคนนั้นหน้าตาสะสวย นิสัยก็ดีน่ารัก แถมยังเป็นถึงลูกสาวของผู้ว่าการตำแหน่งใหญ่โต ส่องโคมไฟหายังหาหญิงสาวไม่ได้ดีเท่านี้ ตาแก่สมควรตายสมองคงมีปัญหาแล้วล่ะ!


คุณตาเหยียนโกรธจนหนวดกระตุก ฝีปากของเขาคมคายสู้ภรรยาของเขาไม่ได้ อายุก็เยอะแล้ว ลิ้นก็แข็ง ยิ่งโมโหยิ่งพูดไม่ออก ตัวเองยังโมโหแทบตาย


ผ่านไปอยู่นานคุณตาเหยียนถึงพ่นออกมาได้ประโยคหนึ่ง “……ถึงยังไงฉันก็ไม่ชอบเด็กน้อยจ้าวเหมยคนนั้นอยู่ดี!”


“คุณมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ชอบ? คุณพูดเหตุผลออกมาให้ฉันฟังเลยนะ!” คุณยายหยางซักถามด้วยน้ำเสียงโมโห


เหยียนหมิงต๋าผ่อนลมหายใจ คุณตาไม่เพ่งเล็งมาที่เขาแล้ว เขาดึงผลเบอร์รี่ป่าที่อยู่บนโต๊ะหินมากิน กินอย่างออกรสออกชาติ


“พี่ใหญ่ คุณตาคัดค้านที่พี่กับจ้าวเหมยคบกันนะ!” เหยียนหมิงต๋าพูดเสียงเบา อยู่ดีๆก็เกิดความดีอกดีใจไปกับความโชคร้ายของคนอื่น


ใครให้เขาคัดค้านเรื่องของเขากับอู่เยวี่ย ตอนนี้กรรมตามสนองแล้วล่ะสิ?


เข้าใจถึงความรู้สึกปวดใจที่ไม่ได้อยู่กับคนที่รักแล้วใช่ไหม?


เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่ดวงตาของน้องชายตัวเองที่มีความดีใจอยู่อย่างแปลกใจ ตบไปที่หัวของเขาทีหนึ่งอย่างทนไม่ไหว นับวันก็ยิ่งโง่ลงทุกที ถานซูฟางทำถึงได้คลอดคนที่โง่ขนาดนี้ออกมาได้นะ!


“เรื่องของฉันคุณตาเข้ามาจุ้นจ้านได้เหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดเบาๆ


ชีวิตในอนาคตของเขา เขาตัดสินด้วยตนเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับใครทั้งนั้น!


เหยียนหมิงต๋าตกตะลึง หลังจากนั้นสีหน้าท่าทางของเขาก็มีความโมโหอยู่เล็กน้อย ถามออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นพี่ทำไมต้องยุ่งเรื่องของผมกับอู่เยวี่ยด้วย?”


“รอจนนายไม่ใช้เงินของที่บ้านแล้ว ฉันก็จะไม่ยุ่งเรื่องของนาย!”


คำพูดประโยคเดียวของเหยียนหมิงซุ่นทำให้เหยียนหมิงต๋าที่เพิ่งจะยกไหล่ขึ้นมาลู่ลงไป ถอนหายใจอย่างยอมรับในชะตาชีวิต แม้จะผายลมออกมายังไม่กล้า


ใครให้เขามีความสามารถสู้พี่ชายของเขาไม่ได้กันล่ะ!


ทางด้านคุณตาเหยียนพอโดนภรรยาพ่นน้ำลายใส่หน้ายกใหญ่ ก็โมโหจนไม่ไหว พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เด็กน้อยคนนั้นมีจิตใจที่ฉลาดขี้ระแวงเกินไป แถมยังเอาแต่ใจหยิ่งยโสโอหัง ผู้หญิงแบบนี้จะสามารถทำหน้าที่สำคัญเป็นหลานสะใภ้คนโตของตระกูลเหยียนของฉันได้ยังไงกัน!”


คุณยายหยางส่งเสียงร้องเกินจริงออกมาว่า “ตระกูลเหยียนของคุณมีราชบัลลังก์ให้สืบทอดเหรอ หรือว่าคุณจะให้ทรัพย์สมบัติมหาศาลกับหลานชายคนโต? ยังมีภารกิจสำคัญงั้นด้วยสิ? โอ้โห้เฮ้ย หน้าเหี่ยวย่นของแกโดนสุนัขกัดกินไปแล้วมั้ง!”


ใบหน้าแก่ๆของคุณตาเหยียนเดี๋ยวม่วงเดี๋ยวแดงด้วยอารมณ์โกรธ ร่างกายสั่นเทา ชี้นิ้วไปที่คุณยายหยางพูดคำว่า ‘คุณ……’ อยู่นาน แต่ก็ยังไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้


คุณยายหยางก็ไม่ต้องให้เขาพูด เธอยังพูดไม่จบเลย คุณยายมีกำลังวังชายอดเยี่ยมจะตาย ฝีปากดีกว่านกขุนทองเสียอีก หลังเกษียณอยู่ว่างๆก็เบื่อ ก็เลยเหลือแค่เพียงความสุขจากการด่าให้ตาแก่โมโหเนี่ยแหละ


“ตาแก่เลอะเลือนอย่างคุณก็มีสติหน่อยเถอะ เหมยเหมยเป็นถึงลูกสาวของเลขาธิการพรรคเทศบาล เขาไม่ดูถูกตระกูลครูจน ๆ ของคุณก็บุญแล้ว!”


คุณตาเหยียนโมโหจนมือสั่น ครั้งนี้กลับพูดสวนได้อย่างว่องไว “ฉันก็ไม่ให้ค่าพวกเขาเหมือนกัน เชอะ!”


”คุณไม่ให้ค่าแต่ฉันให้!”


คุณยายหยางตวาดใส่คุณตาเสร็จก็หันไปยิ้มให้เหยียนหมิงซุ่นอย่างเอ็นดูพร้อมพูดว่า “หมิงซุ่นขอให้วางใจ ไม่มีใครกล้าคัดค้าน ไม่อย่างนั้นยายจะทำให้เขาหิวตายไปเลย!”


คุณตาเหยียนพ่นลมหายใจอันหนักหน่วงออกมาอย่างไม่พอใจ เหยียนหมิงซุ่นกลับหัวเราะเบาๆพูดว่า “คุณยายอย่ากังวลไปเลย คนที่ผมชอบพอด้วย สิ่งที่อยากทำ ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้อยู่แล้ว”


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)